“TCEB”ชงครม.16ส.ค.65ชิงเจ้าภาพExpo2028รอบสองพ.ย.65
รองนายกฯอนุทินตั้งทีมหาเสียง170ชาติ-ไมซ์ไทยผงาดปี’66
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TheJournalistclub #TCEB
อ่านในมติชนออนไลน์จากลิงค์นี้... https://www.matichon.co.th/publicize/news_3507927
“TCEB” เปิดเกมใหม่ 16 ส.ค.65
“รองนายกฯ อนุทิน” ชง ครม.เคลื่อนทัพชิงเจ้าภาพ Special Expo
2028 Phuket Thailand รอบ 2 ตั้งกรรมการ Thailand Candidature Committee 23 ส.ค.65 เปิดตัวฑูตเดินสายขอเสียงโหวตสมาชิกทั่วโลก170ประเทศ ก่อนตัดสินมิ.ย.66 ด้านตลาดไมซ์ปี’65-66 “ในประเทศ” รอแจกงบประชุมเมืองไทย “ต่างประเทศ”
อินเดียกับตะวันออกกลางหอบเงินจัดประชุมและอินเซ็นทีฟ
ทีเส็บดันไทยผู้นำเอ็กซิบิชั่นฮับหลังบริษัทจัดงานอินเตอร์ย้ายฐานมาไทยเพียบ
นายจิรุตถ์
อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า
การเตรียมความพร้อมนำเสนอการประมูลรอบที่ 2เดือนพฤศจิกายน 2565
เพื่อชิงงาน Special Expo
2028 Phuket Thailand
เข้ามาจัดในจังหวัดภูเก็ต นายอนุทิน
ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เตรียมรายงานที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
(ครม.) วันที่ 16 สิงหาคม
2565 ถึงผลสรุปความสำเร็จ
และแผนงานต่าง ๆ หลังจากคณะกรรมการองค์การนิทรรศการนานาชาติ BIE BIE
: Bureau International des Expositions เดินทางมาสำรวจพื้นที่จริงในจังหวัดภูเก็ตเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม
2565 โดยมีกระทรวง
ทบวง กรม เกี่ยวข้องเข้ามาทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะ ฯพณฯ
นายกรัฐมนตรีให้การสนับสนุนการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพอย่างเต็มที่
ในวันที่ 23 สิงหาคม 2565 รองนายกฯ อนุทิน ชาญวีรกุล มีภารกิจสำคัญจะเป็นประธานการประชุมจัดตั้งคณะกรรมการ Thailand Candidature Committee โดยมีกระทรวงหลัก ๆ เข้าร่วม ได้แก่ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ในฐานะสมาชิก BIE กระทรวงสาธารณสุข พร้อมกับแต่งตั้งผู้แทนพิเศษ (Special Envoy) ของประเทศไทย เดินสายไปตามประเทศต่าง ๆ เพื่อช่วยกันหาเสียงให้สมาชิก BIE 170 ประเทศโหวตให้ไทยเป็นเจ้าภาพ หลัก ๆ ได้แก่ ทวีปแอฟริกา ตะวันออกกลาง และสาธารณรัฐประชาชนจีน
ตามขั้นตอนทีเส็บจะต้องส่งเอกสารรอบที่ 2 การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ Special Expo 2028 Phuket Thailand เพื่อขอเสียงสนับสนุนจากสมาชิกก่อนมิถุนายน 2566 ซึ่งเป็นรอบตัดสิน ซึ่งขณะนี้ “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” (ททท.) ได้รับมอบหมายให้ดูแลงบประมาณด้านประชาสัมพันธ์ภาพรวม โดยร่วมกับทางสถานเอกอัครราชฑูต สถานกงศุลไทยทั่วโลก
ดังนั้นตั้งแต่สิงหาคม
2565
เป็นต้นไป ประเทศไทยต้องวางแผนดำเนินงานควบคู่กันไป
ทางทีเส็บได้จัดเตรียมงบประมาณต่อเนื่องปี 2565-2566 จัดกิจกรรมสำคัญปีละ
2 ครั้ง
เพื่อยืนยันความมั่นใจการพร้อมเป็นเจ้าภาพต้องทำ 2 กิจกรรมหลัก
ได้แก่
กิจกรรมที่
1 จัดประชุมสัมมนา
“Future of Life Series”
เพื่อสร้างการตระหนักรู้
พร้อมทั้งบรรยายเนื้อหาและธีมงานที่แต่ละประเทศจะเข้ามาร่วมจัดในภูเก็ต ประเทศไทย
ปี 2571
กิจกรรมที่
2 เชิญคณะฑูต
ภาคเอกชน และผู้นำทางความคิดต่างชาติที่ประจำอยู่ในประเทศไทยเข้าร่วมแสดงความคิด
ส่วนทางจังหวัดภูเก็ตก็เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
ระบบคมนาคมโลจิสติกส์ แผนการเดินทาง ขณะนี้เตรียมสร้างรถไฟฟ้ารางเบา กระเช้าตามสถานที่หลัก
สนามบินนานาชาติ เพื่อสนับสนุนการเดินทางได้ง่ายขึ้นในการเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดงาน Special Expo 2028
นายจิรุตถ์กล่าวว่าช่วงเสนอตัวรอบ 2 ก่อนเดือนพฤศจิกายน 2565 เตรียมเชิญคณะฑูตจากประเทศที่มีเสียงเข้ามาพูดคุยกันเพื่อจะได้ช่วยโหวตให้ประเทศไทย ส่วนทางกระทรวงสาธารณสุขก็ดูแลโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตอย่างเต็มพื้นที่เรื่องเดินหน้าโครงการสร้างเมดิคัล ฮับ โดยมีรัฐบาลจัดงบประมาณสนับสนุนไว้เรียบร้อยแล้วปี 2566-2567 ทำให้แล้วเสร็จเพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพจัดงานเอ็กซโป หลังจบงานก็จะได้วางแผนบริหารจัดการให้เป็นระบบอย่างยั่งยืนต่อไปด้วย
ส่วนแผนงากระตุ้นตลาดไมซ์ของทีเส็บก่อนสิ้นปีงบประมาณ
2565 “ตลาดในประเทศ”
ได้ผลิตคลิปโฆษณาประชาสัมพันธ์ “ประชุมเมืองไทย มนต์เสน่ห์แห่งความสำเร็จ” ออกสู่สาธารณะระหว่างสิงหาคม-กันยายน-ต้นตุลาคม
นี้ เชิญชวนหน่วยงานราชการจะจัดประชุมช่วงสิงหาคม-กันยายน นี้ จำนวนมากขึ้น
เนื่องจากจะต้องเตรียมแผนปีงบประมาณใหม่ 2566
และเอกชนเองก็เตรียมแผนการตลาดปีหน้าเช่นกัน
ทีเส็บจึงใช้จังหวะนี้นำเสนอ “สถานที่จัดประชุมนอกห้อง” มีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติแบบเอาท์ดอร์กระจายอยู่ทั่วประเทศ ตอนนี้ตลาดประชุมสัมมนาค่อนข้างคึกคักมาก มีทั้งหน่วยราชการ บริษัท ห้างร้าน องค์กร ออกเดินทางจัดประชุมเพื่อพัฒนางาน จิตใจบุคลากร และอื่น ๆ
พอเข้าสู่ปีงบประมาณ
2566 เริ่ม 1 ตุลาคม
2565
เป็นต้นไป ทีเส็บจะเริ่มเดินหน้าแคมเปญต่อเนื่อง “ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า”
ซีรีย์ต่อเนื่องอีก 2 แคมเปญ
เดินหน้าส่งเสริมบริษัทบริหารจัดการงานประชุมสัมมนาหรือการจัดการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล
DMC : Destination
Management Company
สำหรับ “ตลาดไมซ์ต่างประเทศ”
ทีเส็บเพิ่งจัดงานประชุมแบบไฮบริด Meeting & Incentive มีผู้สนใจเข้าร่วมเพื่อส่งเสริมแลกเปลี่ยนแนวคิด
สินค้าใหม่ อัพเดทตลาด
ผลจากการพูดคุยกับผู้ประกอบการได้รับการยืนยันสถานการณ์ตลาดไมซ์ดีขึ้นมาก
บางส่วนมาจากทวีปไกล ยุโรป สหรัฐอเมริกา แต่ลักษณะกรุ๊ปจะเปลี่ยนแปลงไป คือ
1.ขนาดของกรุ๊ปจัดงานจะเล็กลงมีประมาณ 30-50 และไม่เกิน 100 คน/กรุ๊ป/ครั้ง
2.การเลือกใช้เงินสูงกว่าปกติมากจองพักวิลลาหรูแทนการจองห้องพักโรงแรมทั่วไป
3.การเดินทางเลือกซื้อตั๋วโดยสารชั้นธุรกิจ
(business class)
เป็นหลัก 4.การจองกับทาง
DMC จะเน้นเดินทางมาเป็นซีรีย์
มาด้วยความถี่บ่อยมีจำนวนครั้งการเดินทางเข้ามาเมืองไทยมากขึ้น
เพียงแต่จำนวนคนแต่ละครั้งจะน้อยลง จากเดิมก่อนโควิด-19 แต่ละบริษัทเคยมาพร้อมกันครั้งละ
300-400 คน หลั’โควิดเปลี่ยนเป็นกลุ่มผู้บริหารหรือเอ็กเซ็กคลูทีฟมาแทนครั้งละ
30,50, 100 คน/ครั้ง
นายจิรุตถ์กล่าวว่า
ทางทีเส็บกับผู้ประกอบการจึงต้องปรับกลยุทธ์ใหม่เรื่องบริการรองรับไมซ์ต่างประเทศที่เปลี่ยนพฤติกรรมไป
4 เรื่อง
คือ
เรื่องที่
1 ปรับวิธีอำนวยความสะดวกต้อนรับการเดินทางเข้าประเทศ
เช่น เปิด MICE LANE ในสนามบินนานาชาติหลักอย่าง
สุวรรณภูมิ ภูเก็ต
เรื่องที่
2 เพิ่มเรื่องการนำเข้าสิ่งของนำเข้ามาจัดแสดงในงานต่าง
ๆ
เรื่องที่
3 การจัดรถนำขบวนเพื่อความรวดเร็ว
เป็นทริปเอ็กซ์คลูซีฟมากขึ้น
เรื่องที่
4 ส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมไมซ์อย่างยั่งยืน
เพราะหลังโควิดบริษัทส่วนใหญ่ต้องการนำเสนอการลดหรือชดเชยการปล่อยคาร์บอนออกไซด์ (carbon offset)
ดังนั้นจัดแต่ละอีเวนต์ตามสถานที่ต่าง ๆ จะเน้นลดเลิกทำลายธรรมชาติ
ทีเส็บจึงใช้โอกาสที่ดีนำเสนอ 7 Theme MICE ทั้งเส้นทางและอื่น ๆ ในพื้นที่
โชว์ศักยภาพให้เห็นถึงการจัดงานไมซ์สามารถช่วยอุดหนุนสินค้าชุมชน
กระจายรายได้ด้วยการใช้วัตถุดิบท้องถิ่น ช่วยลดหรือชดเชยการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์
ช่วยโลกสร้างความยั่งยืนอย่างชัดเจน
จากการศึกษาทีเส็บพบว่าขณะนี้บริษัทองค์กรขนาดใหญ่
(corporate)
เกินกว่า 70 % ที่เดินทางเข้ามาจัดไมซ์ในเมืองไทยเรียกร้องต้องการให้มีสูตรคำนวณการลดหรือชดเชยคาร์บอนแต่ละงาน
ถือเป็นสินค้าสำคัญในอนาคตการดูแลลูกค้าแบบเอ็กซ์คลูซีฟควบคู่กับการทำงานอินคลูซีฟใกล้ชิดกับธรรมชาติสิ่งแวดล้อม
ต้องเน้นส่งเสริมอย่างยั่งยืนต่อไป
ขณะที่สถานการณ์
“ตลาดไมซ์ต่างประเทศ” ปี 2565
ต่อเนื่องปี 2566 เทรนด์มาแรงคืออินเดียและตะวันออกกลางนิยมเข้ามาจัดประชุม
M :Meeting กับการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล I : Incentive
ส่วนการจัดนิทรรศการแสดง
หรือ E : Exhibition เมื่อ 2 ปีก่อนฮ่องกงเปิดปัญหาการเมืองภายใน
ส่งผลให้บริษัทผู้จัดงานแสดงสินค้าและออร์กาไนเซอร์ระดับนานาชาติ
พากันย้ายฐานเข้าไทยจำนวนมากแล้วก็ดึงงานเอ็กซิบิชั่นพร้อมกับสร้างงานใหม่เกี่ยวข้องกับอาหาร
พลังงาน และอุตสาหกรรมต่าง ๆ มาจัดในไทย
ล่าสุดทีเส็บกับสมาคมการแสดงสินค้า
(ไทย) หรือ TEA :Trade of
Exhibition Association จัดโครงการ EO Pro LEAGUE :Journey to Business
Success มีออร์กาไนเซอร์ 20 ราย
จากเมืองใหญ่ กรุงเทพฯ ขอนแก่น ภูเก็ต และจังหวัดในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
เข้าร่วมอบรมถึงเทคนิควิธีการทำอย่างไรรู้ทันต่างชาติ ทั้งทางด้านระเบียบกฎหมาย
การทำตลาด
มีโอกาสขยายผลสู่ความสำเร็จทั้งทางด้านธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในเวทีระดับชาติอย่างมืออาชีพครอบคลุมทุกด้านยกระดับประเทศไทยผงาดในตลาดโลกต่อไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น