ศอ.บต.ร่วมบพท.เปิด“โรงเพาะฟักสัตว์น้ำ”ปัตตานีผงาดเมืองปูทะเลโลก “บิ๊กป้อม”ปลื้มดันเศรษฐกิจใต้พุ่ง5ปีหน้า
เปิด“โรงเพาะฟักสัตว์น้ำ”ปัตตานีผงาดเมืองปูทะเลโลก
“บิ๊กป้อม”ปลื้มศอ.บต./บพท.ดันเศรษฐกิจใต้พุ่ง5ปีหน้า
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TheJournalistclub #บพท #โรงเพาะฟักสัตว์น้ำชายแดนใต้ #ปัตตานีเมืองปูทะเลโลก
อ่านใน website TheJournalistclub จากลิงค์นี้ https://thejournalistclub.com/
“บิ๊กป้อม-พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกฯ ปลื้ม โปรเจกต์ “ วิจัยเพาะฟักปูทะเล” ได้ ศบ.บต./บพท./มอ.ปัตตานี รวมพลังกันยกระดับอาชีพชาวประมงชายแดนใต้ “เพาะเลี้ยงและผลิตปูทะเล” ส่งขายดันปัตตานีผงาด “เมืองปูทะเลโลก” ภายใน 5 ปีหน้าทำรายได้โตก้าวกระโดดปีละกว่า 5,000 ล้านบาท
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโรงเพาะฟักสัตว์น้ำ ที่มหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2565 กล่าวแสดงความชื่นชมความร่วมมือร่วมใจกันการศึกษาค้นคว้า “วิจัยพัฒนาชุดความรู้” จนเกิด “โครงการเพาะเลี้ยงปูทะเล โรงเพาะฟักสัตว์น้ำ” ซึ่งทุกภาคส่วนหลายหน่วยงานร่วมมือกันทำจนสำเร็จ ทั้งศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กรมประมง และหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) รวมพลังกันนำงานวิจัยของมาหวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี มาเติมเต็มห่วงโซ่อุปทานของการเลี้ยงปูทะเลให้ครบวงจร
เพราะงานวิจัยเป็นพื้นฐานสำคัญการทำโรงเพาะฟักปูทะเล เป็นแรงขับเคลื่อนให้จังหวัดปัตตานี เป็นเมืองปูทะเลโลก ซึ่งจะสามารถช่วยขับเคลื่อนสร้างความอยู่ดีกินดีมีความสุขแก่ประชาชนในจังหวัดชายแดนใต้ประกอบอาชีพอย่างมั่นคงยั่งยืน
รศ.ดร.ซุกรี หะยีสาแม ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม จังหวัดปัตตานี อธิบายว่าเพิ่มถึงข้อมูลการทำโรงเพาะฟักสัตว์น้ำแห่งนี้ เกิดผลเป็นรูปธรรมได้เพราะงานค้นคว้าวิจัยพัฒนาการเพาะฟักปูทะเล นอกจากจะแก้ปัญหาคอขวดการเพาะฟักลูกปูได้เบ็ดเสร็จแล้ว ยังใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ของนิสิตนักศึกษา ได้ค้นคว้าวิจัยการผลิตลูกปูทะเล และแหล่งผลิตให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงปูด้วย
ดร.กิตติ สัจจาวัฒนา ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) กล่าวว่า โรงเพาะฟักสัตว์น้ำแห่งนี้ เปรียบเหมือนรางวัลความสำเร็จจากการทุ่มเทศึกษาค้นคว้าวิจัยการเพาะฟักปูทะเล ที่ บพท.มีส่วนสนับสนุนอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา 3 ปี โดยร่วมกับมหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ศอ.บต. จังหวัดปัตตานี กรมประมง และภาคีที่เกี่ยวข้องอีกหลายภาคส่วน มั่นใจจะต่อยอดใช้ประโยชน์ทำเป็นทั้งแหล่งเรียนรู้ต่อยอดงานวิจัยเรื่องปูทะเลให้ดียิ่งขึ้น ควบคู่การยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตให้แก่เศรษฐกิจฐานรากทั้งระดับครัวเรือนและชุมชนดำรงอยู่อย่างเข้มแข็งได้
อีกทั้งยังจะมีส่วน “ขยายมูลค่าการค้าปูทะเลของไทย” เพิ่มสูงขึ้น เป็นรากฐานสำคัญทำให้ปัตตานีเป็นเมืองปูทะเลโลกอย่างสมบูรณ์แบบ
โดย “โรงเพาะฟักสัตว์น้ำ” จะเกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ
สร้างมูลค่าผลผลิตปูทะเลไทยขยายตัวแบบก้าวกระโดดภายในอีก 5 ปีข้างหน้า
ชาวประมงกลุ่มนี้จะรายได้เป็นปีละ 5,000 ล้านบาท จากปัจจุบันทำได้900
ล้านบาท
เนื่องจากโรงเพาะฟังสัตว์น้ำดังกล่าวเป็นต้นทางการเพาะฟักลูกปู และอนุบาลลูกปู ก่อนส่งต่อให้เกษตรกรนำไปเลี้ยงในระบบปิดควบคุมอุณหภูมิและระดับความเค็มของน้ำ หรือนำไปเลี้ยงในระบบเปิดในนากุ้งร้าง และป่าชายเลนเสื่อมโทรม ช่วยฟื้นฟูป่าชายเลนเสื่อมโทรม หรือนากุ้งร้างที่เสื่อมค่า ให้กลับมามีคุณค่า
พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ
ศอ.บต.กล่าวว่าศอ.บต.เชื่อมั่นว่าโรงเพาะฟักสัตว์น้ำแห่งนี้จะทำให้กระบวนการเพาะเลี้ยงปูทะเลมีความครบวงจร
เกิดประโยชน์แก่ประชาชนในหลายภาคส่วนทั้งผู้เลี้ยง ผู้ประกอบการ ร้านอาหาร
ภาคการท่องเที่ยว ตอนนี้ ศอ.บต.ได้ประสานงานกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
วิทยาเขตปัตตานี
นำชุดความรู้การเลี้ยงปูทะเลไปส่งเสริมให้ประชาชนประกอบอาชีพเลี้ยงปูทะเลแล้วกว่า
30 ชุมชน
นายมูฮำหมัดสุกรี มะแซ ประธานกลุ่มเลี้ยงปูในบ่อกุ้งร้าง ต.บางปู อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี กล่าวว่า ได้นำชุดความรู้เรื่องการเลี้ยงปูทะเลไปใช้ประกอบอาชีพแล้วได้ผลผลิตดีมาก จึงตัดสินใจเลิกอาชีพประมงเรือเล็กที่ต้องออกทะเลให้หาสัตว์น้ำในทะเล มาเลี้ยงปูอย่างจริงจัง ซึ่งก่อนมาเลี้ยงปู ต้องหาเช้ากินค่ำไม่มีเงินเหลือเก็บ แต่เมื่อเปลี่ยนมาเลี้ยงปู ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นมาก มีเงินเหลือเก็บ เหมือนมีตู้เอทีเอ็มส่วนตัว อยากใช้เงินก็จับปูไปขาย โดยปูเนื้ออายุ 4 เดือน ขนาด 2-3 ตัว/กิโลกรัม ขายได้กิโลกรัมละ 400-500 บาท ส่วนปูไข่ กิโลกรัมละ 500-600 บาท
ความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมจาก
“วิจัยพัฒนาชุดความรู้” ของ มอ.ปัตตานี
ที่ได้รับการผลักดันจาก ศอ.บต. และ บพท.จนเกิด “โครงการเพาะเลี้ยงปูทะเล
โรงเพาะฟักสัตว์น้ำ” นั้นถือเป็นอีกหนึ่งโมเดลการฟื้นเศรษฐกิจด้วยการทำให้ปัตตานีเป็นเมืองปูทะเลโลกสร้างขวัญกำลังใจประชาชนจังหวัดชายแดนใต้ให้กลับมาเข้มแข็งได้อีกครั้ง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น