ททท.ชี้เป้าทางออกอุตฯท่องเที่ยวขาดแรงงานบริการปี’66
เปิดโมเดลรับมือต่างชาติ20ล้านคนเที่ยวไทย200ล้านคน-ครั้ง
ทุ่มโปรเจกต์ใหญ่“ซอฟท์เพาเวอร์คน”จุดแข็งไทยในเวทีโลก
คิงเพาเวอร์ชวนจอยร้านเด็ดที่คริสต์มาสวิลเลจ23-25ธ.ค.65
คิงเพาเวอร์ช้อปล้างสต็อกแสนรายการและลุ้นกล่องคริสต์มาส
ททท.ปักหมุดเคาน์ดาวน์กทม.+4จว.ภาคกลางปังสุด
ๆ 11แห่ง
บางจากคว้าAsian Excellence Awardsปี’65มากสุด5รางวัล
เที่ยวNight at the Museumชมไฟสวยกฟผ.&พิพิธภัณฑ์ทั่วไทย
airasia foodเพิ่มเดลิเวอรี่เครื่องบินร้านโกเบนซ์ภูเก็ต4เซ็ตปัง
การบินไทยเปิดใหม่3Web “Sawasdee/ROH/Thai e-Lirbrary
วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม 2565 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #TCEB #บางจาก #ศูนย์เรียนรู้กฟผพระราม7นนทบุรี #NightAtMuseum2022 #AmazingCountdownBangkok2023
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/hukfwBAr0S/
ช่วงที่ 1 ชี้ทางออกคนท่องเที่ยวกับ “สมฤดี จิตรจง”
รองผู้ว่าการด้านบริหาร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แนะ ปี’66 เอกชนทำโมเดลใหม่ด่วน “คนทำงานภาคบริการ”
รับมือนักท่องเที่ยวเพิ่ม 1-2 เท่า
ต่างชาติ 20 ล้านคน คนไทย 200
ล้านคน-ครั้ง
ยันตอนนี้ทั้งประเทศเจอปัญหาใหญ่ขาดแคลนแรงงานท่องเที่ยว 3 สาเหตุหลัก “ผู้ประกอบการขาดเงินจ้าง-คนเก่งไม่กลับมา-คนรุ่นใหม่ชอบอาชีพอิสระ”
ททท.ต้องลงมือทดลองเปิด “ทำงานแบบไฮบริด” ส่วนเอกชนเร่งปรับ “Mindset” ทุ่มให้ความสำคัญพัฒนาคนซึ่งเป็นซอฟท์ เพาเวอร์
พร้อมชี้เป็นชี้ตายอนาคตอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งประเทศ
หลังโควิดทั่วโลกแข่งกันสูงใช้ท่องเที่ยวเป็นหัวหอกฟื้นเศรษฐกิจ
ไทยต้องเร่งชูคนรักษาจุดแข็งบริการทั้งระบบไว้เป็นอาวุธดึงคนกลับมาเที่ยวซ้ำ
เพิ่มรายได้อย่างยั่งยืน
นางสาวสมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการด้านบริหาร
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
ขณะนี้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภาพใหญ่ของประเทศกำลังฟื้นตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว
โดยกำลังเผชิญ ปัญหาใหญ่ “ขาดแคลนบุคลากรกลับเข้าสู่ภาคบริการและการท่องเที่ยว”
โดยเฉพาะปี 2566 ได้สร้างความกังวลให้กับ
ททท.และผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เนื่องจากตามเป้าจะมี
“จำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นสูงมาก” ทั้ง “นักท่องเที่ยวต่างชาติ”
เพิ่มขึ้นเกินกว่า 20 ล้านคน และ
“คนไทยเที่ยวในประเทศ” อีกกว่า 200 ล้านคน-ครั้ง
การขาดแคลนบุคลากรหรือแรงงานท่องเที่ยวตอนนี้มีสาเหตุหลัก
3 เรื่อง ได้แก่
เรื่องที่
1 ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเลิกจ้างพนักงานตอนเกิดวิกฤตโควิด-19
ผนวกกับเมื่อเริ่มกลับมาเปิดบริการใหม่ก็ยังไม่มีเงินทุนเพียงพอจะจ้างได้เต็มรูปแบบ
เรื่องที่
2 แรงงานฝีมือที่มีความสามารถไม่กลับเข้าสู่อุตสาหกรรมอีกต่อไป
เพราะหันไปเลือกทำอาชีพอื่นที่มีความมั่นคงมากกว่าท่องเที่ยวซึ่งพอเจอวิกฤตแล้วต้องตกงาน
จากความไม่แน่นอนทั้งจากสถานการณ์สงครามยืดเยื้อ โรคระบาดใหม่
เรื่องที่
3 แรงงานกลุ่มคนรุ่นใหม่
ไม่นิยมทำงานในระบบต้องกำหนดเวลาเข้าออกชัดเจน ส่วนใหญ่จึงเลือกงานอิสระ
หรือฟรีแลนซ์
ปัจจุบัน ภายใน
ททท.เองก็เผชิญความท้าทายเช่นเดียวกัน ในรอบ 60 ปี
ส่วนใหญ่จะมีแต่คนต้องการสมัครเข้าทำงานในองค์กรที่มีความมั่นคง
ต่างจากปัจจุบันเริ่มมี “พนักงานอายุน้อย” ลาออก ด้วยเหตุผลต้องการ “ทำอาชีพอิสระ”
มากกว่า เพื่อจะได้มีเวลาเป็นของตัวเองมากขึ้น
โมเดล “ทางออก”
ที่จะรักษาบุคลากรไว้เบื้องต้น ททท.วิธีที่ 1 ได้ทดลองทำโครงการ “hybrid” คือ มาทำงานตามเวลาในสำนักงาน 4 วัน
และทุกวันพุธสามารถเลือกสถานที่ทำงานที่ไหนก็ได้โดยไม่ต้องเข้าสำนักงาน
ภายใต้เงื่อนไขการทำงานตามปกติในระบบราชการและงานจะต้องเดินหน้าได้ตามปกติเหมือนการทำงานอยู่ในสำนักงาน
ด้วยการใช้ระบบที่เคยนำมาใช้ตอนวิกฤตโควิด-19 แล้วพนักงานต้องทำงานอยู่บ้าน (work from
home)
วิธีที่ 2 องค์กรจะต้องปรับกระบวนทางความคิด (mindset)
ใหม่ที่จะรักษาบุคลากรไว้แทนการปล่อยให้คนลาออกหรือเปิดรับสมัครใหม่มากเกินไป
จัดทำกิจกรรม ฝึกอบรมทักษะ เพิ่มองค์ความรู้
สอนเทคนิคการบริการรอบด้านอย่างต่อเนื่อง
สร้างแรงจูงใจให้คนตื่นตัวกับการทำงานใหม่ ๆ อยู่เสมอ โดยเฉพาะ
“ผู้ประกอบการท่องเที่ยว” สามารถเพิ่มคือ มุ่งเติมความรู้เชิงลึก รู้เนื้อหาจริง
สินค้าของบริษัทให้มากที่สุด
หันมาปรับแนวทางควบคู่กันไปทั้งเรื่องการพัฒนาโปรดักซ์ การตลาด
และเพิ่มการพัฒนาบุคลากรบริการอย่างจริงจังเต็มรูปแบบ
นางสาวสมฤดี กล่าวว่า
ปัจจัยเรื่องบุคลากรกับผลกระทบทางตลาดมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับ
“ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวมาก” เพราะ “บุคลากรภาคบริการ” ถือเป็นอีก 1
ซอฟท์ เพาเวอร์
ผนวกกับแนวโน้มหลังสถานการณ์โควิด-19
ตลาดท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้าเมืองไทยทยอยกลับมาเดินทางเพิ่มขึ้นทุกเดือน
ท่ามกลางสถานการณ์แวดล้อมค่าใช้จ่าย “ราคาตั๋วเครื่องบินสูงมาก”
แม้สินค้าทางการท่องเที่ยวของไทยอยู่ในสภาพสมบูรณ์ก็จริงอยู่
แต่ก็ยังต้องแข่งขันกับทุกประเทศที่ต่างลุกขึ้นมาชิงนักท่องเที่ยวด้วยจุดขายเด่น ๆ
มากมาย แล้วไทยก็ไม่ได้มี 77 สิ่งมหัศจรรย์ที่จะดึงคนทั่วโลกเข้ามาเที่ยวอยู่ตลอดทั้งปีได้
ในปัจจุบันและอนาคต “คน/แรงงาน”
คือ “ซอฟท์ เพาเวอร์” ที่สำคัญมากและเป็นจุดแข็งของไทย
ซึ่งถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายจะต้องหันมาใส่ใจหลังโควิดคือ “บุคลากรบริการ”
ซึ่งสร้างความประทับใจกับนักท่องเที่ยวคนไทยและทั่วโลกมาจนถึงทุกวันนี้
แล้วทำให้ไทยติดอันดับ 1 ใน 5
ของโลกที่คนอยากจะกลับมาเที่ยวเมืองไทยอีกครั้ง
ดังนั้นจึงต้องการให้ภาครัฐและธุรกิจเอกชนต้องเพิ่มน้ำหนักให้ความสำคัญกับการจ้างพนักงานมากขึ้น
ก่อนที่คนจะไม่สนใจกลับมาเป็นแรงงานในอาชีพนี้อีกต่อไป
“เทรนด์ใหม่”
ที่ผู้ประกอบการควรหันมายกเครื่อง ตัวอย่าง จากประสบการณ์ล่าสุดมีโอกาสไปเกาะสมุย
จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อฉลองนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยครบ 10 ล้านคน
แล้วได้เห็นสมุยมีนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่เต็มเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์
แต่สิ่งที่พบคือ “ปัญหาบุคลากร” คนเก่าไม่กลับมาคนใหม่ยังทำงานไม่คล่อง
ทว่าได้เห็น “ร้านกะปิสะตอ สมุย” เป็นคนรุ่นใหม่เข้ามาลงทุนเป็นตัวอย่างการสร้างเทรนด์บริการที่น่าชื่นชม
“พนักงานเสิร์ฟ” ทุกคนในร้านสามารถนำเสนอเรื่องราว “เมนูอาหาร”
และคำแนะนำการจับคู่อาหารสามารถกินกับเมนูใดจึงจะได้รสชาติอร่อย
รวมถึงบอกแหล่งวัตถุดิบ เช่น กะปิ หรือแม้แต่ชุดฟอร์มพนักงานก็ถ่ายทอดออกมาถึงความเป็นมาทางวัฒนธรรมภาคใต้อันงดงามได้
สะท้อนถึงศักยภาพของ “บุคลากร”
ในฟันเฟืองเล็ก ๆ
ตามร้านอาหารในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมก็เป็นพลังยิ่งใหญ่ที่จะสร้างแรงจูงใจกับนักท่องเที่ยวที่เข้าไปใช้บริการ
ด้วยการขยายผลทำการตลาดเชื่อมโยงขายสินค้าได้หลากหลายมากกว่าอาหารเพียงจานเดียว
ดังนั้นจึงแนะนำให้
“ผู้ประกอบการท่องเที่ยว” ทุกสาขา ปี 2566 ควรเตรียมรับมือกับกระแสไหลบ่าของนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นอีก
1-2 เท่า เพื่อ
“เพิ่มมูลค่า” เงินรายได้จากนักท่องเที่ยว
จากการใช้พนักงานบริการที่มีคุณภาพและศักยภาพ ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยอยากใช้เงินมากขึ้นด้วยความประทับใจถึงสิ่งที่ได้รับอย่างคุ้มค่าจริง
ๆ
ส่วนกลยุทธ์ที่ ททท.ภาครัฐ
หรือกระทรวงแรงงาน พยายามนำเปิดอบรมฟรีให้ผู้ประกอบการส่งคนเข้ามาร่วมพัฒนาทักษะ Up-Re
Skill แต่ในทางปฏิบัติแล้วเมื่อธุรกิจเปิดดำเนินการใหม่อีกครั้งก็ไม่สามารถจัดเวลาส่งคนเข้ามาร่วมอบรมได้มากนัก
ดังนั้น “ต้องปรับกลยุทธ์” ททท.มีโมเดลนำมาขึ้นเว็บไซต์องค์กรเป็น “ผังชาร์ต”
เพื่อให้คนในองค์กรสามารถเข้าไปศึกษา ดูต้นแบบ นำไปประยุกต์ใช้งานได้ โดยไม่กระทบเวลาการทำงาน
รวมทั้งโมเดลพัฒนา “ผู้บริหาร
ททท.” ที่จะส่งไปเป็น “ผู้อำนวยการ” สำนักงานต่างประเทศทั่วโลก หรือภายในประเทศ
จัดทำเป็น “ถัง KM :Khowledge Management”
รองรับกับโปรแกรมสำเร็จรูป DMS เชิญแต่ละภาคส่วนที่เกี่ยวข้องนำความรู้และประสบการณ์ทำงานดี
ๆ มา แชร์ไว้ในถัง KM ให้คนอื่น ๆ
ได้เรียนรู้ด้วย และมี “เอกสาร” แนวทางการทำงาน เพราะ
ททท.สำนักงานต่างประเทศทั่วโลกคือ “หน้าด่าน” และ “ผู้แทน”
ประเทศไทยด้านการท่องเที่ยว จึงต้องฝึกอบรมให้ความสำคัญกับ “คน” มากขึ้น ด้วยการ
“บริหารคนให้เป็น” กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็น
ลูกน้อง หัวหน้างาน พันธมิตรทางธุรกิจท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยว
ปี 2566
ททท.ได้ปรับลดสัดส่วนความสำคํญ
“การตลาด” ลงเล็กน้อย แล้วหันไปทุ่มทำแผน “พัฒนาบุคลากร” เพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันมี
สำนักงานต่างประเทศทั่วโลก 29 แห่ง
และในประเทศอีก 45 แห่ง
ขณะนี้กำลังเดินตามนโยบายรัฐบาล และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ศึกษาการเปิดสำนักงานใหม่ในซาอุดิอาระเบีย แต่จะต้องคำนึง 2 ส่วน คือ 1.งบประมาณสำนักงาน 2.บุคลากร
เพื่อรองรับการเปิดตลาดที่มีศักยภาพและการสร้างแรงจูงใจด้านการลงทุนในไทยและไทยในซาอุดิอาระเบียควบคู่กันไป
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์ชวนจอยร้านเด็ดคริสต์มาสวิลเลจ23-25ธ.ค.65
คิง เพาเวอร์ ชวนมาจอยกัน สุขสันต์เทศกาลช้อปสนุก! จอย! ร้านเด็ด
ช้อปร้านดัง ที่ CHRISTMAS
VILLAGE คิง
เพาเวอร์ รางน้ำ บริเวณ Fountain
Square (ลานน้ำพุ) ความสุขส่งท้ายปี 2 สัปดาห์
วันศุกร์ 16 - วันอาทิตย์ 18 ธันวาคม
ศุกร์ 23 - อาทิตย์ 25 ธันวาคม 2565
แต่ละวันจะเริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 น.
เป็นต้นไป
จอย! ความสนุก กับศิลปินคนโปรด พบกับ วันที่ 24 ธันวาคม 65 เวลา 18.30
น. เป็นต้นไป “ไอซ์ พาริส” วันที่ 25 ธันวาคม 65
เวลา 18.30 น. เป็นต้นไป
ข่าวที่
2 คิงเพาเวอร์ช้อปล้างสต็อกแสนรายการและลุ้นกล่องคริสต์มาส
คิง
เพาเวอร์ ปลุกกระแสช้อปแคมเปญ “Year End Clearance Sale” สินค้าแบรนด์ดังลดสูงสุด
70% พบกับพาเหรดสินค้าแฟชั่น นาฬิกา แว่นตา
อิเล็กทรอนิกส์ กว่า 100,000 รายการ ตั้งแต่วันนี้ – 31
มกราคม 2566 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด ที่
คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา ภูเก็ต และ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ดอนเมือง และภูเก็ต
รวมทั้ง
SHOP LIKE NO OTHER ดีลแรงเกินต้าน ช้อปคุ้มลุ้นเป็น TOP SPENDERS ที่ FIRSTER KING POWER
MAHANAKHON และ
FIRSTER SIAM SQUARE SOI 7 ช้อประหว่างวันนี้ - 1 มกราคม 2566
คุ้มที่ 1 ลุ้น TOP SPENDERS ลุ้นรับแพ็กเกจห้องพักสุดหรูจาก
The Standard, Bangkok Mahanakhon และ Gift Voucher มูลค่ารวมกว่า
50,000 บาท
คุ้มที่ 2 HOLIDAY DISCOUNT ทุกวันศุกร์
เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ช้อปครบตามเงื่อนไขที่กำหนดรับส่วนลดอีกเพียบ
ช้อปครบ 1,500 บาท ลดทันที 300 บาท ช้อปครบ 3,500 บาท ลดทันที 800 บาท ช้อปครบ 6,000 บาท ลดทันที 1,500 บาท
พิเศษ! ห่อของขวัญฟรีเมื่อช้อปครบ 500
บาทที่ FIRSTER ทุกสาขาและรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15%
จากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ “Christmas
Lucky Box” เซตสินค้าต้อนรับ festive season!
1.Lucky Box 900
บาท (มูลค่ารวมกว่า 1,600 บาท) 2.Lucky Box 2,500
บาท (มูลค่ารวมกว่า 3,600 บาท)
3.Lucky Box 4,000 บาท (มูลค่ารวมกว่า 6,200 บาท)
ช้อปครบ 1,500 บาท เฉพาะสาขาสยามแสควร์ รับฟรี! คูปองเครื่องดื่ม Fire Tiger มูลค่า
150 บาท (1 แก้ว) ด่วน! จำนวนจำกัด
ข่าวที่
3 ททท.ปักหมุดเคาน์ดาวน์กทม.+4จว.ภาคกลางปังสุด11แห่ง
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานว่า สนับสนุนการท่องเที่ยวเทศกาลเคาน์ดาวน์ “Amazing Thailand Countdown 2023” ส่งท้ายปีเก่า 2565 ต้อนรับปีใหม่ 2566 ที่จะเปิดพิกัดให้นักท่องเที่ยววางแผนปักหมุดในกรุงเทพมหานครและภาคกลาง
แต่ละสถานที่พร้อมใจกันมอบความสุขอย่างยิ่งใหญ่ 11 งาน 11
พื้นที่ แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ มีให้เลือก 6 งาน 6 พื้นที่ และในจังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยมรอบปริมณฑล 4
จังหวัด ได้แก่ ราชบุรี สมุทรสงคราม หัวหิน/ประจวบคีรีขันธ์ มีอีก 5
งาน 5 พื้นที่ ได้แก่
งานที่ 1 “Amazing Thailand Countdown 2023 @ Nakarapirom Park-รุ่งอรุณ ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2566" จัดยิ่งใหญ่คืน
31 ธันวาคม 2565 -1 มกราคม 2566 ที่ณ สวนนาคราภิรมย์ กรุงเทพมหานคร สร้างความสุข
ความหวัง กำลังใจ ตื่นตากับไฮไลต์การแสดงพลุสวยงาม 9 องก์
งานที่ 2 “Amazing Thailand
Countdown 2023 @ ICONSIAM” วันที่ 31 ธันวาคม
2565 ที่ศูนย์การค้าไอคอนสยาม กรุงเทพมหานคร ร่วมเคาน์ดาวน์
ชมพลุและดอกไม้ไฟตลอดคุ้งแม่น้ำเจ้าพระยา ความยาว 1,400 เมตร
ภายใต้แนวคิด “Win the World Foe Thailand : อัตลักษณ์ไทย
ชนะใจคนทั้งโลก” พร้อมการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินที่มีชื่อเสียง การออกร้านขายอาหาร
และสินค้าต่าง ๆ
งานที่ 3 “Thailand &
Bangkok Countdown 2023” วันที่ 31
ธันวาคม 2565 มุ่งหน้าสู่ลานด้านหน้า
ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และถนนราชดำริ กรุงเทพฯ ได้ตั้งแต่ 18.00 –
00.30 น. เพื่อชมคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง ทั้งไทยและต่างประเทศ ตื่นตากับพลุสุดพิเศษ
Special performance ในธีม People of the century
งานที่ 4 “Light
Up Christmas Tree 2023” วันนี้- 1 มกราคม 2566 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ได้แปลงโฉมพื้นที่ด้านหน้าห้างกว่า 1,500
ตารางเมตร เป็น พื้นที่ถ่ายภาพขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองไทยภายใต้แนวคิด
“Space of Happiness” ให้เป็นดินแดนของเหล่า Line
Friend กับต้นคริสต์มาสยักษ์ความสูงกว่า 30 เมตรสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ประดับไฟและตกแต่งสถานที่ให้มีความสวยงามตระการตาตลอดงาน
งานที่ 5 “The Ratchaprasong Light of Fortune 2022” จัดต่อเนื่องตั้งแต่วันนี้ - 8 มกราคม 2566 บริเวณสี่แยกราชประสงค์
ถนนราชดำริและถนนเพลินจิต เริ่มด้วยมหกรรมลดราคาสินค้าทั่วราชประสงค์
ชมประดับไฟระยิบระยังตระการตา ร่วมถ่ายภาพลุ้นรับรางวัลผ่านแพลตฟอร์ม Facebook
“We Love Ratchaprasong”
งานที่ 6 “Asiatique Thailand Countdown 2023” วันที่ 24
- 31 ธันวาคม 2565 ที่เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ กรุงเทพฯ กิจกรรมมากมาย การแสดงพลุชุด หลากสีสัน
หลายรูปแบบ พร้อมเสียงเพลง และไฮไลต์คืนวันที่ 31 ธันวาคม 2565 สนุกกับเคาน์ดาวน์ "Suanphueng Highland Countdown Festival
2023"
ส่วนไฮไลต์ท่องเที่ยวเทศกาลเคาน์ดาวน์ ปี 2565 รับศักราชใหม่ปี
2566 รอบปริมณฑลในเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมรับลมหนาวอีก 4 จังหวัด รวม 5 งาน มีดังนี้
“ราชบุรี” ชวนนักท่องเที่ยวร่วมเคาน์ดาวน์ 2 งาน ได้แก่
งานแรก "Suanphueng Highland Countdown” ที่สวนผึ้งไฮแลนด์ อ.สวนผึ้ง เคาน์ดาวน์ในบรรยากาศสุดชิ ฟังเพลงสบาย ๆ
ท่ามกลางอากาศเย็น ๆ กลางขุนเขา
งานที่ 2 “Amazing Thailand Countdown 2023
@Ratchaburi” วันที่ 29-31 ธันวาคม 2565 เปิดสันเขื่อนรัฐประชาพัฒนา (ริมน้ำตลาคสนามหญ้า) อ.เมือง จัดมินิคอนเสิร์ตรวมเหล่าปินที่มีชื่อเสียง
เคาท์ดาวน์นับถอยหลังเริ่มศักราชใหม่ท่ามกลางการแสดงพลุสุดตระการตา
“สุพรรณบุรี”
มอบความพิเศษในงาน “Suphanburi
Festival 2023” วันที่ 30 - 31 ธันวาคม 2565 ที่สวนเฉลิมภัทรราชินี
หอคอยบรรหารแจ่มใส อ.เมือง ชมอย่างจุใจกับเอฟเฟ็กต์ไพโรเทคนิคเหนือหอคอยหนึ่งเดียวในเมืองไทยและชมการแสดงพลุอย่างจุใจ
“สมุทรสงคราม” ชวนร่วมงาน “COUNTDOWN อัมพวารื่นเริง”
วันที่
31
ธันวาคม 2565 – 1 มกราคม 2566 ที่ริมเขื่อนหน้าที่ว่าการ อ.อัมพวา หวนบรรยากาศเก่า ๆ ร่วมฟังเพลง
รำวงและลีลาศ พร้อมชมการแสดงดนตรีจากวงสุนทราภรณ์ และนับถอยหลังร้องเพลง
สวัสดีปีใหม่ แบบต้นฉบับพร้อมชมการแสดงพลุ และดอกไม้ไฟ
“ประจวบคีรีขันธ์” มอบความสุขในงาน “HUA HIN BEACH COUNTDOWN 2023” วันที่ 31
ธันวาคม 2565 ที่โรงแรมอินเตอร์คอนทิเนนตัล
หัวหิน รีสอร์ท ฟังฟรีดนตรี เพื่อสนับสนุนศิลปินไทย ร่วมเคาน์ดาวน์ด้วยพลุริมชายหาดที่ยาวที่สุดส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
ข่าวที่ 4 บางจากคว้าAsian
Excellence Awards แห่งปี65มากสุด5รางวัล
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ได้รับรางวัลความเป็นเลิศระดับภูมิภาคเอเชีย ในการประกาศรางวัล Asian Excellence Awards ครั้งที่ 12 ประจำปี 2022 สะท้อนถึงการบริหารจัดการ
และการดำเนินกิจการเป็นเลิศ ตามหลักธรรมาภิบาลที่ดี
ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคม
และสิ่งแวดล้อมและการเปิดเผยข้อมูลรวมถึงการดำเนินความสัมพันธ์ที่ดีกับนักลงทุน
บางจากฯ
ได้รับ 5 รางวัลความเป็นเลิศในระดับเอเชีย ดังนี้
1.รางวัล Asia’s Best CEO (Investor Relations) นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
กลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบางจาก
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้รับ
รางวัลนี้ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 ในฐานะผู้นำองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการบริหารและขับเคลื่อนองค์กรด้วยวิสัยทัศน์
รวมถึงส่งมอบผลการดำเนินงานที่โดดเด่น
2.รางวัล Asia’s Best CFO (Investor Relations) นายสุรชัย โฆษิตเสรีวงค์ ที่ปรึกษาอาวุโส ได้รับรางวัลนี้ต่อเนื่องเป็นปีที่
4 ในฐานะผู้มีบทบาทในการบริหารด้านการเงินและการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสและเท่าเทียมกับนักลงทุนและผู้มีเกี่ยวข้องทุกฝ่าย
3.Asia’s Best CSR บางจากฯ ได้รับรางวัลนี้ต่อเนื่องเป็นปีที่
2 ในฐานะองค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม
ยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย
4.Best Environmental Responsibility บางจากฯ ได้รับรางวัลนี้ต่อเนื่องเป็นปีที่
6 ในฐานะองค์กรที่มี
ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย
5.Best Investor Relations Company บางจากฯ ได้รับรางวัลต่อเนื่องเป็นปีที่
8 ในฐานะนักลงทุนสัมพันธ์
ยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย (Best Investor Relations Company)
สำหรับ รางวัล Asian Excellence Awards จัดขึ้นโดย
นิตยสาร Corporate Governance Asia ในปี 2554 เพื่อยกย่องความสำเร็จและความเป็นเลิศในการบริหารจัดการทั้งด้านการเงิน
ความรับผิดชอบต่อสังคม แนวปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อม งานนักลงทุนสัมพันธ์
ช่วงที่
2 เที่ยวในกรุงกันบ้างชมไฟสวยงาม
“ศูนย์เรียนรู้ กฟผ.พระราม 7 ” นนทบุรี และตามพิพิธภัณฑ์ทั่วประเทศ
ตื่นตากับNight at The Museum 2022 ได้ตั้งแต่วันนี้-8 มกราคม 2565 แล้วผู้ที่มีอาการฟันคุดฟังด่วน “4วิธีรักษาอาการได้ด้วยตนเอง” ฟังข่าวท้ายชั่วโมง ข่าวแรก “airasia food เพิ่มเดลิเวอรี่เครื่องบินร้านโกเบนซ์สุดปัง4เซตเมนู ข่าวที่สอง-การบินไทยเปิดบริการใหม่3Web “Sawasdee/ROH/ThaieLibrary
ท่องเที่ยว
- Night at the Museumชมไฟสวยกฟผ.&พิพิธภัณฑ์ทั่วไทย
เริ่มออกเช็กอิน “มหกรรมไฟเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่”สุดอลังการ
ในโครงการ Night
at the Museum 2022 ที่ “ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ.
สำนักงานกลาง” บริเวณใกล้พระราม 7 นนทบุรี โดยร่วมกับ
“มิวเซียมสยามและพิพิธภัณฑ์” ทั่วประเทศ ประดับไฟดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าชมนิทรรศการยามค่ำคืน
ตั้งแต่วันที่16 ธันวาคม
2565 – 8 มกราคม 2566 ชมได้ทุกวัน
ตั้งแต่เวลา 18.00 – 22.00 น.
เชิญชวนนักท่องเที่ยวแวะเข้าไปชมความงดงามได้ที่ศูนย์การเรียนรู้
กฟผ. จัดธีม “The
Invisible Energy Illumination” สีสันแห่งพลังงาน
ที่นำมาสร้างสรรค์ตกแต่งให้มองเห็นและจับต้องได้
เข้าชมฟรี!!! อย่ารอช้า..จูงมือคนรู้ใจ
หรือจะพาครอบครัวมาเก็บภาพสวยการประดับไฟระยิบระยับ สว่างไสว
ไฮไลต์พิเศษสุด วันที่ 23 – 25 ธันวาคม 2565 เวลา 16.00
– 21.00 น. เปิดให้เข้าชมนิทรรศการพลังงานไฟฟ้ายามค่ำคืน และชมการแสดงไฟประกอบดนตรี “Night Illumination Show” ณ บริเวณสวนริมน้ำ
มาท่องเที่ยวไฟสวยงามได้ไม่ต้องรอ แวะมาที่ ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ.
สำนักงานกลาง ตั้งอยู่ที่บริเวณเชิงสะพานพระราม 7 จังหวัดนนทบุรี https://maps.app.goo.gl/xvF1y4PiiTitnFLa7?g_st=ic
สามารถเดินทาง โดยใช้ “เรือด่วนเจ้าพระยา”
ขึ้นที่ท่าเรือสะพานพระราม7 “นั่งรถเมล์สาย 50” ลงที่อู่รถสาย 50 ฝั่งตรงข้ามศูนย์เรียนรู้ กฟผ.
“รถส่วนตัว” จอดรถได้ที่ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลาง
ยกเว้นวันที่ 23-25
ธ.ค. 2565 วันที่ 23 ธ.ค. จอดได้ที่ฝ่ายปฏิบัติการนครหลวง ติดกับศูนย์การเรียนรู้ฯ ส่วน วันที่
24-25 ธ.ค. จอดได้ที่ กฟผ. สำนักงานใหญ่ มีรถ EV Bus บริการรับ-ส่ง
สอบถาม ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ.ในเวลาราชการ โทร. 0-2436-8952-3
สุขภาพ -4 วิธีบรรเทาอาการปวดฟันคุดทำได้ง่ายด้วยตัวเอง
อาการ “ปวดฟันคุด” เป็นปัญหาทางทันตกรรมที่อาจทำให้ผู้ที่เป็นเกิดความเจ็บปวด
อีกทั้งยังเป็นอุปสรรคอย่างมากต่อการเคี้ยวหรือการพูดคุย
ซึ่งนอกจากจะรักษาหรือบรรเทาอาการด้วยการถอนฟันโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้ว
เรายังสามารถบรรเทาอาการปวดฟันคุดในเบื้องต้นด้วยตัวเองได้
เพราะฟันคุดอาจส่งผลให้สุขอนามัยในช่องปากไม่ดี
และเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพในช่องปาก เช่น ปวดฟัน มีกลิ่นปาก การติดเชื้อในช่องปาก
ฟันผุ โรคเหงือกจากการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือถุงน้ำบริเวณกระดูกขากรรไกร
ปวดฟันคุดบรรเทาได้ด้วยวิธีใดบ้าง โดยทั่วไป ทันตแพทย์มักแนะนำให้ผู้ที่ปวดฟันคุดเข้ารับการถอนฟันตั้งแต่เนิ่น
ๆ เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพในช่องปากที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
โดยในระหว่างที่เฝ้าติดตามการเปลี่ยนแปลงของฟันหรือยังไม่ถึงกำหนดถอนฟัน
หากอาการปวดฟันคุดส่งผลต่อกิจวัตรประจำวันหรือทำให้รำคาญใจ
ผู้ป่วยอาจเลือกบรรเทาอาการในเบื้องต้นด้วยวิธีต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
วิธีที่
1 กลั้วปากด้วยน้ำเกลือ -ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียชนิดไม่ดีในช่องปาก
ช่วยให้แผลในช่องปากทุเลาลง รวมถึงบรรเทาอาการปวดฟัน กลั้วปากด้วยน้ำเกลือได้ทั้งก่อนและหลังการแปรงฟัน
ให้ทั่วปากแล้วอมทิ้งไว้ 15–20 วินาที จึงค่อยบ้วนทิ้ง
วิธีที่
2 ประคบเย็น ประคบร้อน -
ช่วยลดอาการปวดและบวมด้วยการนำเจลเย็นหรือถุงน้ำแข็งห่อผ้าขนหนูมาประคบบริเวณแก้มหรือขากรรไกรข้างที่ปวดฟันคุด
จะส่งผลให้หลอดเลือดหดตัวและอาจรู้สึกชาที่ผิวหนัง ในขณะที่ “ประคบร้อน”
ด้วยผ้าชุบน้ำอุ่น ถุงน้ำร้อน หรือแผ่นแปะให้ความร้อนจะส่งผลให้หลอดเลือดขยายตัว การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น
ทำให้บรรเทาอาการปวดได้เช่นกัน
วิธีที่ 3 รับประทานยาแก้ปวด – หาซื้อได้เองตามร้านขายยาทั่วไปเพื่อบรรเทาอาการปวดฟันคุดนั้นมีหลายชนิดด้วยกัน
เช่น พาราเซตามอล ไอบูโพรเฟน ผู้ป่วยจึงควรอ่านฉลากยาอย่างละเอียดหรือขอคำแนะนำจากเภสัชกรก่อนรับประทาน
โดยเฉพาะหากมีประวัติทางสุขภาพหรือกำลังใช้ยาชนิดอื่น ๆ อยู่ด้วย
สำหรับยาแก้ปวดทุกชนิดมีข้อจำกัดและอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากผู้ป่วยรับประทานยาแล้วพบผลข้างเคียงหรืออาการไม่พึงประสงค์ ควรหยุดใช้ยาแล้วไปปรึกษาแพทย์
วิธีที่
4 ใช้สมุนไพรบรรเทาอาการปวด -ขมิ้นกับ น้ำมันกานพลู จัดเป็นสมุนไพรที่ช่วยบรรเทาอาการปวดฟันได้
เนื่องจากสารเคอร์คูมิน (Curcumin)
ในขมิ้น และสารยูจีนอล (Eugenol) ในน้ำมันกานพลูมีฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบ
จึงอาจช่วยลดอาการบวมและอาการปวดฟันคุดที่เกิดขึ้นได้
การใช้ขมิ้นและน้ำมันกานพลูในปริมาณมากเกินไปอาจส่งผลข้างเคียงต่อร่างกาย
ผู้ที่สนใจใช้ผลิตภัณฑ์ใด ๆ ที่มีส่วนผสมของขมิ้นและน้ำมันกานพลู เช่น ยาสีฟัน
หรือน้ำยาบ้วนปาก ควรอ่านฉลากบรรจุภัณฑ์และใช้ด้วยความระมัดระวังเสมอ
โดยเฉพาะสตรีมีครรภ์ เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีอาการแพ้สมุนไพรหรือมีโรคประจำตัว
หากลองใช้วิธีดังข้างต้นแล้วอาการปวดฟันคุดไม่ทุเลาลง
อาการปวดยิ่งทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น บริเวณที่เกิดฟันคุดทำความสะอาดได้ยากจนอาจทำให้มีสุขอนามัยในช่องปากที่ไม่ดี
หรือพบความผิดปกติภายในช่องปาก ฟัน และเหงือก ผู้ป่วยควรรีบไปพบทันตแพทย์
เพื่อตรวจวินิจฉัยฟันคุดเพิ่มเติมและรับการรักษาที่เหมาะสมอย่างรวดเร็ว
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
-airasia foodเพิ่มเดลิเวอรี่เครื่องบินร้านโกเบนซ์4เซ็ตเด็ด
นางสาวณัฏฐิณี
ตะวันชุลี ผู้อำนวยการใหญ่ airasia
Super App ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า
ได้นำ “airasia food” ผู้นำบริการเดลิเวอรี่เจ้าแรกและเจ้าเดียวที่จัดส่งอาหารด้วยเครื่องบินแอร์เอเชียผ่านบริการ “บินตรงส่งความอร่อย” (Food
-Inter city) ช่วงเดือนธันวาคม
2565 ได้เพิ่มกลยุทธ์การตลาดสนับสนุนผู้ประกอบการร้านอาหาร SMEs ในจังหวัดภูเก็ต 5 ร้านดัง ได้แก่ ร้านตู้กับข้าว ร้านวันจันทร์ ร้านกันเอง
ร้านกินดี และร้านหมี่ต้นโพธิ์ เหมือนยกร้านอร่อยมาเสิร์ฟให้ลูกค้าถึงที่ในกรุงเทพฯและนนทบุรี
ได้ลิ้มรสเมนูระดับมิชลินสตาร์ ขณะนี้ได้ต่อยอดความสำเร็จเพิ่มใหม่อีก 1 ร้าน 'โกเบนซ์' เจ้าของสูตรเด็ดข้าวต้มแห้งชื่อดังระดับตำนานที่ครองใจนักชิมทั้งชาวภูเก็ตและนักท่องเที่ยว
นำเมนูข้าวต้มแห้งอัดแน่นด้วยเครื่อง หมูสับปั้น หมูกรอบ และเครื่องในหมูหลากชนิด
โรยหน้าด้วยต้นหอมและกระเทียมเจียวกรอบ ลัดฟ้าจากภูเก็ตส่งตรงถึงบ้าน
ทาง
airasia
food เปิดให้ลูกค้าจอง “บริการบินตรงส่งความอร่อย” สามารถสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชั่น
airasia Super App ได้ทุกวันก่อนวันศุกร์เวลา
20.00 น. แล้วรอรับอาหารช่วงเย็นวันเสาร์
18.00 - 19.00 น.ซึ่งให้บริการส่งจากภูเก็ตผ่านเที่ยวบินแอร์เอเชียในแต่ละรอบการสั่งซื้อ
พร้อมบริการจัดส่งรวดเร็วแบบควบคุมอุณหภูมิ ทำให้ลูกค้าสามารถมั่นใจในคุณภาพความอร่อยเหมือนยกครัวจากภูเก็ตมายังกรุงเทพและนนทบุรี
โดยยังคงรสชาติต้นตำรับโดยไม่ต้องเสียสตางค์บินไปกินด้วยตัวเองถึงภูเก็ต
โดยมีเซ็ตสุดคุ้มประจำของร้านโกเบนซ์บน
airasia
Super App ให้เลือกทั้งหมด 4 เซ็ต คือ 1.เซ็ต โกเบนซ์ A ข้าวต้มแห้ง 5 กล่อง ราคา 575
บาท 2.เซ็ต B ข้าวต้มแห้ง 3 กล่อง หมูกรอบ 1 กล่อง ซุปกระดูกหมู 1 กล่อง (รับประทานได้
2-3 คน) ราคา 585 บาท 3.เซ็ต C ข้าวต้มแห้ง 5 กล่อง หมูกรอบ 1 กล่อง ซุปกระดูกหมู 1 กล่อง (รับประทานได้
4-5 คน) ราคา 815 บาท 4.เซ็ต D ข้าวต้มแห้ง 8 กล่อง หมูกรอบ 2 กล่อง ซุปกระดูกหมู 2 กล่อง (ปาร์ตี้เซ็ต) ราคา 815 บาท
ปัจจุบัน airasia
Super App เปิดโอเพ่นให้ผู้สนใจร่วมเป็นพันธมิตรและขายอาหารได้ด้วยผ่านช่องทาง aacompartners@airasia.com. เพื่อร่วมสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยทั่วเมืองไทยซึ่งมุ่งมั่นจะพัฒนาเมนูอาหารอย่างมีประสิทธิภาพมีรายได้และช่องทางการขายในจังหวัดมีเครือข่ายเที่ยวบินแอร์เอเชียให้บริการ
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00
น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ข่าวที่สอง -การบินไทยเปิดใหม่3Web “Sawasdee/ROH/Thai e-Lirbrary
บริษัท
การบินไทย จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ได้เปิดตัวบริการลูกค้าใหม่ทางออนไลน์
3 รายการ ได้แก่ SAWASDEE WEBSITE, ROYAL ORCHID HOLIDAYS WEBSITE และแพลตฟอร์มบริการสื่อสิ่งพิมพ์ดิจิทัล
THAI e-Library
1.Sawasdee Website เปิดมิติใหม่ในการกลับมาของ
Sawasdee Magazine ที่ผู้โดยสารคุ้นเคยในรูปแบบเล่มนิตยสารให้บริการบนเครื่องบิน
เปลี่ยนให้เหมาะสมกับยุคสมัยดิจิทัลผ่านช่องทางออนไลน์
2.Royal Orchid Holidays Website ปรับรูปแบบใหม่ของ
Royal Orchid Holidays Online เป็นเว็บไซต์ที่แยกออกมาเพื่อขาย ห้องพักโรงแรม
แพ็กเกจทัวร์ กิจกรรมต่าง ๆ และบริการรถเช่าผ่านเว็บไซต์
royalorchidholidays.com ให้ลูกค้าสร้างสรรค์แพ็กเกจการท่องเที่ยวได้ด้วยตัวเองทุกขั้นตอน
เพื่อตอบโจทย์ความชอบของแต่ละบุคคลให้ได้มากที่สุด
โดยเฉพาะผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางแบบเดินทางคนเดียว
3.THAI e-Library” เป็นบริการสื่อสิ่งพิมพ์ดิจิทัล
มีทั้งหนังสือพิมพ์และนิตยสารจากไทยและต่างประเทศ มากกว่า 50 ฉบับ ผู้โดยสารและลูกค้าห้องรับรองพิเศษของการบินไทยและไทยสมายล์
มีบริการหลายภาษา ทั้งภาษาอังกฤษ จีน ฝรั่งเศส หรือเยอรมัน
เมื่อผู้โดยสารของการบินไทย
และไทยสมายล์ออกตั๋วโดยสารแล้ว จะได้รับลิงก์เข้าระบบ THAI e-Library และดาวน์โหลดเก็บไว้อ่านได้ในโอกาสอื่นขณะอยู่บนเครื่องหรือขณะอยู่ภาคพื้นดิน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น