TTAAชี้"ไทยเที่ยวนอก”หยุดปีใหม่จองตั๋วบินเต็ม “สปป.ลาว/ญี่ปุ่น”4วัน3คืนขายดี2-4หมื่นบาท/คน ทุกประเทศเจอคิวตม.ยาว-ขนกระเป๋าล่าช้า

นายกTTAA“ไทยเที่ยวนอก”หยุดปีใหม่ตั๋วบินเต็มฮ็อต5ประเทศ

“สปป.ลาว/ญี่ปุ่น”ฮ็อตสุดทัวร์4วัน3คืนขายดี2-4หมื่นบาท/คน

ชี้ทุกประเทศเจอปัญหาเดียวกันคิวตม.ยาว-ขนกระเป๋าล่าช้า

คิงเพาเวอร์จัดเต็มชมไฟคริสต์มาสช้อปของฟรี23-25ธ.ค.นี้

ใหม่!!ที่คิงเพาเวอร์น้ำหอม5แบรนด์รับเฟสทีฟGetRomance

ททท.โรดโชว์ตุรกีถก6บิ๊กแอร์ไลน์ตั๋วยุโรปเข้าไทยโต1,000%

บางจากให้บัตรเติมน้ำมันแก่งปิงอารักษ์กันไฟป่าลดคาร์บอน

เที่ยวแคมป์ที่โรสพาร์ควังน้ำเขียว/ห้วยกลุ่ม&ญาดาฟาร์มสเตย์

4วิธีรับมือหน้าหนาวกินเมนูเผ็ดร้อนดื่มน้ำพักผ่อนนอนให้พอ

2ยักษ์ใหญ่AWCผนึกACCORปั้นบิ๊กแบรนด์โรงแรมพันห้อง

แอร์ไลน์ยุโรปแห่บินกระบี่”ไฮซีซันคึกคักปี’66TUI/LOTโปแลนด์

 

วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม 2565 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก #TTAA #ปักหมุดแคมปิ้งโรสพาร์ควังน้ำเขียว #ห้วยกุ่มชัยภูมิ

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... tps://fb.watch/hl5iVlwlYJ/

 

ช่วงที่ 1 รีบอนด์เอาท์บาวนด์ไทยกับ “เจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการการท่องเที่ยว (TTAA-Thai Travel Agents Association) คนไทยเที่ยวนอกส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ แพกเกจทัวร์ขายคึกคัก 5 ประเทศ “ญี่ปุ่น-เวียดนาม-เกาหลี-สิงคโปร์-สสป.ลาว” แพกเกจ 4 วัน 3 คืน ญี่ปุ่น เฉียด 40,000 บาท/คน/ทริป สปป.ลาว เฉียด 20,000 บาท/คน/ทริป ส่วนภาพใหญ่ “ราคาตั๋วบิน” พุ่งแรงต่อเนื่อง ปี’66 ภาพรวมฟื้น 80 % จับตา “ปัญหาคอขวดทุกสนามบิน”เจอตอใหญ่แก้ยาก 2 เรื่อง 1.กระเป๋าสัมภาระล่าช้า 2.คิวตรวจหนังสือเดินทางนานเกินชั่วโมง และปีหน้า “ไทยเที่ยวไทย” ยังเป็นดาวเด่นทำเงินให้บริษัททัวร์ได้

นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการการท่องเที่ยว (TTAA-Thai Travel Agents Association) เปิดเผยว่า ตอนนี้เข้าฤดูท่องเที่ยวหน้าเริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 เป็นต้นไป หลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการเปิดให้เข้าไปเที่ยวได้มากขึ้น คนไทยนิยมไปเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่วนใหญ่จะเลือกจุดหมายปลายทางในเอเชียเรียงตามลำดับ 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น เวียดนาม เกาหลี สิงคโปร์ และ สสป.ลาว เพื่อนบ้านซึ่งเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวก่อนใคร  

 

ปี 2566 สถานการณ์ธุรกิจนำคนท่องเที่ยวไปต่างประเทศจะฟื้นกลับมาได้ประมาณ 80 % เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนจากคู่ค้าทุกประเทศในอาเซียน เอเชีย ยุโรป ติดต่อเข้ามาพูดคุยกับทางบริษัทนำเที่ยวในกลุ่มสมาชิกสมาคมทีทีเอเชียเป็นจำนวนมาก ถือเป็นสัญญาณที่ดีพอสมควรในการธุรกิจกลับมาอีกครั้ง

 

“ญี่ปุ่น” ระยะแรกได้กำหนดให้นักท่องเที่ยวซื้อรายการทัวร์ผ่านบริษัทนำเที่ยวเป็นหลัก เพื่อให้มีลีดเดอร์ในการให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเนื่องจากมีเงื่อนไขการเข้าประเทศเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ส่วน “ราคาทัวร์” จะเน้นสมเหตุผล ตอนนี้ต้องยอมรับต้นทุนค่าตั๋วเครื่องบินราคาสูงแพกเกจท่องเที่ยวก็จะขยับตามขึ้นไปด้วย

 

ปัจจุบันคนไทยนิยมซื้อแพกเกจเที่ยวญี่ปุ่น 4 วัน 3 คืน ราคาประมาณเกือบ 40,000 บาท/คน/ทริป และ 5 วัน 4 คืน จะประมาณกว่า 42,000 บาทขึ้นไป/คน/ทริป

 

สถานการณ์ช่วงวันหยุดยาวส่งท้ายปีเก่า 2565 ต้อนรับปีใหม่  2566 1.“ตั๋วเครื่องบินหรือที่นั่งเดินทาง” ไป-กลับ ไทย-ญี่ปุ่น จะมีเฉพาะวันธรรมดาที่ไม่ค่อยมีคนเดินทาง ช่วงก่อนปีใหม่ 5 วัน และหลังปีใหม่ 5 วัน ส่วนวันสวย ๆ เช่นหยุดต่อเนื่อง 30 ธันวาคม 2565– 5 มกราคม 2566 ที่นั่งสายการบินเกือบทุกสายจองซื้อเต็มเกือบหมดแล้ว 2.บริษัทนำเที่ยวจะจองที่นั่งไว้เฉพาะตามจำนวนการขายจะไม่ตุนไว้มาก ๆ อีกแล้ว

 

โดยภาพรวมคนไทยเดินทางเที่ยวต่างประเทศหรือ Outbound ช่วงธันวาคม 2565-มกราคม 2566 ยังเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากมีตัวแปรเรื่อง “ดีมานต์กับซัพพลาย” จากอุปสรรคเรื่องผู้ประกอบการทั้งในเมืองไทยและอีกหลายประเทศต่างก็เจอปัญหาใหญ่เรื่องเดียวกันคือ “คนทำงานยังไม่กลับเข้าระบบ” ประเด็นนี้จึงส่งผลต่อ “ราคาท่องเที่ยวสูงพอสมควร”

 

ขณะที่ “สสป.ลาว” ตอนนี้เข้าหน้าหนาวคนไทยจองแน่นมากช่วงวันหยุดยาวการเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูง ไทย-สสป.ลาว หรือเที่ยวบินเต็มเกือบหมดแล้ว แพกเกจที่ได้รับความนิยม 5 วัน 4 คืน ราคา 18,00019,000 บาท/คน/ทริป แหล่งท่องเที่ยวหลัก หลวงพระบาง วังเวียง เวียงจันทน์ ส่วนเมืองบริเวณอื่น ๆ มีบ้างแต่จำนวนไม่มาก เช่น เมืองที่อยู่รอยต่อกับหลวงพระบาง มีวัฒนธรรมเก่า ผู้คนไม่แออัดมากนัก

 

แนวโน้มปี 2566 “ตลาดคนไทย” ที่จะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศหรือ Domestic ยังคงเป็นดาวเด่น ส่วนการเที่ยวต่างประเทศหรือ Outbound ขึ้นอยู่กับตัวแปรหลักคือประเทศจุดหมายปลายทางได้ผ่อนปรนการเข้าเมืองมากขึ้น สิ้นปี 2565 เอาท์บาวนด์กลับมาประมาณ 30 % รวมทั้งบริษัทนำเที่ยวจะต้องคัดเลือกสินค้าตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวได้ ส่วน “ราคาตั๋วโดยสาร” จะลดความร้อนแรงลงบ้างจากปัจจัย

 

1.มีสายการบินนานาชาติกลับมาเปิดบินเพิ่มขึ้นทำให้มีจำนวนที่นั่งเที่ยวบินเพิ่มมากขึ้น

 

2.องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวทั่วโลก (NTOs -National Tourism Organization) ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 จนถึงขณะนี้บริษัทนำเที่ยวไทยต้อนรับทุกชาติ ทั้งจากยุโรป สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส สเปน หรือญี่ปุ่นมากันทั้งเกาะเหนือ เกาะใต้ เช่นเดียวกับ เกาหลี ไต้หวัน แต่ละประเทศบุกมาเจาะในไทยหนักมากเพราะต้องการส่วนแบ่งตลาดเข้าไปใช้จ่ายเงินได้ในเวลาอันรวดเร็ว

 

3.ขณะนี้ทุกสถานฑูตต่างประเทศในไทยให้ความร่วมมือดีมาก เพราะทุกประเทศต่างก็ต้องการใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือฟื้นฟูเศรษฐกิจ

 

ส่วน “อุปสรรค” การเดินทางเข้าแต่ละประเทศของคนไทย คือ แต่ละประเทศมี “เงื่อนไข” แตกต่างกันไป ดังนั้นทางสมาคมไทยบริการการท่องเที่ยว จึงได้คำแพลตฟอร์มเปิด “ห้องข่าว” สมาชิกให้ความร่วมมือนำข้อมูลมาแชร์แลกเปลี่ยนวิธีการแก้ปัญหาไปด้วยกัน

 

ขณะที่ “สนามบินของไทย” ที่จะเป็นประตูเข้าออกประเทศของทั้งคนไทยและต่างชาติ ตามปกติผู้บริหารสนามบินค่อนข้างมีความชำนาญมากเพียงพอ แต่จะต้องสร้างมาตรฐานที่ดีเป็นแม่เหล็กดึงดูดสร้างความประทับใจกับนักท่องเที่ยว ไม่ควรจะใช้เวลาให้บริการเฉลี่ยไม่ควรเกิน 45 นาที/คน/ครั้ง

 

โดยเฉพาะปัญหาหลักที่ผู้โดยสารคนไทยและทั่วโลกเผชิญเหมือนกันทุกสนามบิน 2 เรื่อง คือ เรื่องที่  1“สัมภาระกระเป๋าผู้โดยสารล่าช้า” ไม่ได้รับความสะดวก  เรื่องที่ 2 ยืนเข้าคิวรอตรวจหนังสือเดินทางบริเวณเคาน์เตอร์สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) บริษัทนำเที่ยวได้อธิบายกับลูกค้าของตนเองมาตลอดว่าหลังสถานการณ์โควิดทั้งสองปัญหานี้เกิดขึ้นกับเกือบทุกประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ผมเพิ่งกลับมาตรงเคาน์เตอร์ตรวจคนเข้าเมืองใช้เวลา 2.30 ชั่วโมง ส่วนสุวรรณภูมิใช้เวลา 1 ชั่วโมง ฉนั้นผู้บริหารจะต้องลงไปตรวจหาข้อมูลถึงสิ่งที่ทำให้เกิดปัญหาคอขวดในสนามบิน เพื่อจะได้สร้างความสบายใจแก่นักท่องเที่ยวทั้งหมด

 

นายเจริญกล่าวว่า เมื่อคนไทยมีโอกาสกลับมาเดินทางอีกครั้ง หลังจาก 2-3 ปีที่ผ่านมาต้องหยุดกันไปชั่วคราว จึงขอให้ทุกคนดูแลเรื่องความปลอดภัยด้านสุขอนามัย การศึกษาข้อมูลของแต่ละประเทศก่อนเดินทางทุกครั้ง และขอให้มีความสุขกับการเดินทางไปหาประสบการณ์ใหม่ เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเศรษฐกิจและช่วยฟื้นธุรกิจให้กลับมาคึกคักต่อไป

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 คิง เพาเวอร์จัดเต็มชมไฟคริสต์มาสช้อปของฟรี23-25ธ.ค.65

 

คิง เพาเวอร์ ชวนทุกคนมาชมความยิ่งใหญ่ตระการตากับ “ไฟคริสต์มาส” ระหว่าง 23-25 ธันวาคม 2565 จุใจกับทัพศิลปิน และช้อป คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา แคมเปญ KING POWER CELEBRATION 2023..HAVE A NEW BESTINATION ต้อนรับฤดูท่องเที่ยว แวะได้ทุกสาขาทั้ง คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พัทยา ภูเก็ต และศรีวารี (เปิดทุกวันเสาร์ – อาทิตย์) มารับประสบการณ์ความสุขในบรรยากาศงานกิจกรรมควบคู่กับโปรโมชั่นพิเศษตอบสนองความต้องการนักเดินทางทั้งคนไทยและต่างชาติอย่างเต็มที่

 

รีบ! มาร่วมเติมสีสันเพิ่มกับเทรนด์ใหม่เฟสทีฟช้อปของ “คิง เพาเวอร์” ได้นำกลยุทธ์ “ของฟรีไม่ได้มีวันเดียว” ด้วยการระดมพันธมิตรแบรนด์ดังระดับโลกคัดสินค้ายอดนิยมให้มาเช็กลิสต์ด่วนความสุข ช้อปสนุก เพื่อรับโปรโมชั่นลดแรงผลิตภัณฑ์ แฟชั่น น้ำหอม สกินแคร์ ที่รางน้ำ พัทยา ภูเก็ต ศรีวารี ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่ธันวาคม 2565-มกราคม 2566 กับดีลดี 2 โปรโมชั่นเด่น คือ

 

โปรโมชั่นที่ 1 ช้อปสนุกทุกช่องทาง ระหว่างวันนี้ - 15 ธันวาคม 2565 ครบ 10,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ ลดทันที 2,000 บาท ได้คนละ 2 สิทธิ์/วัน  

 

โปรโมชั่น 2 ช้อปเพิ่มความสุข ระหว่างวันนี้ – 2 มกราคม 2566 รับฟรี! กระเป๋าเดินทางสุดพิเศษ เมื่อช้อปครบ 40,000 บาทขึ้นไป(สุทธิ) ได้คนละ 1 สิทธิ์ /วัน

 

ข่าวที่ 2 ใหม่!!ที่คิงเพาเวอร์น้ำหอม5แบรนด์รับเฟสทีฟ GET ROMANCE

 

คิง เพาเวอร์ รวบรวมความหอมที่มาพร้อมกลิ่นอายเฟสทีฟ ผสานความโรแมนติก เติมบรรยากาศให้เทศกาลแห่งความสุขพิเศษกว่าที่เคย ช้อปได้ทุกช่องทางออนกราวนด์ทุกสาขา ออนไลน์ และแอพลิเคชั่น น้ำหอม 5 แบรนด์ดังระดับโลก

 

1.CHLOÉ CHLOE SIGNATURE EAU DE PARFUM เซ็กซี่ เย้ายวน ชวนดึงดูดใจด้วยความหอมละมุนจากมวลดอกไม้ อำพันและซีดาร์วู้ด เพิ่มความมั่นใจทุกช่วงเวลาแห่งความสุข

 

2.BURBERRY HER LONDON DREAM FRAGRANCE ความหอมโรแมนติกสุดหรูหราจากกุหลาบและพิโอนีที่พร้อมจะพาให้คุณ เพลิดเพลินไปกับทุกเทศกาลด้วยความสดใสเสมือนอยู่ใจกลางกรุงลอนดอน

 

3.BVLGARI -ROSE GOLDEA BLOSSOM DELIGHT EDP น้ำหอมกลิ่นซิกเนเจอร์ จากการผสมผสานของมัสก์และดอกกุหลาบ ให้เสน่ห์ของหญิงสาวรุ่นใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา เปล่งประกาย มั่นใจในทุกการเดินทาง

 

4.LANCÔME IDÔLE EAU DE PARFUM น้ำหอมสีชมพูแชมเปญ สะท้อนความสุขระยิบระยับท่ามกลางบรรยากาศแห่งเทศกาล ด้วยกลิ่นหอมหวานสดชื่น เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร จากการผสานกลิ่นอันลงตัวของกุหลาบ จัสมิน และไวต์มัสก์

 

5.DIOR J’ADORE EAU DE PARFUM น้ำหอมกลิ่นดอกไม้งานสร้างสรรค์สุดประณีต ที่ช่วยเสริมเสน่ห์ให้หญิงสาว ดูโดดเด่นท่ามกลางผู้คนที่รายล้อม รับวันแห่งการเฉลิมฉลองช่วงเฟสทีฟ

 

ข่าวที่ 3 ททท.โรดโชว์ตุรกีถก6บิ๊กแอร์ไลน์ตั๋วยุโรปเข้าไทยโต1,000%

 

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ภูมิภาคยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง ได้จัดงาน Amazing Thailand Roadshow to Turkiye and Hungary 2022 เมืองอัสตันบูล ประเทศตุรกี ตั้งเป้าจะเพิ่มโอกาสสร้างพันธมิตรใหม่และขยายฐานตลาดตุรกีเที่ยวไทย โดยมีผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทย  14 หน่วยงาน ร่วมเจรจาธุรกิจกับทางคู่ค้าบริษัทนำเที่ยวตุรกี 16 บริษัท  25 ราย รวมถึงตัวแทนจาก 6 สายการบิน ซึ่งจะช่วยเชื่อมต่อนำนักท่องเที่ยวยุโรปและตะวันออกกลางเดินทางเข้ามาไทย ได้แก่ เตอร์กิสแอร์ไลน์ เอมิเรตส์ กาตาร์แอร์เวย์ส สิงคโปร์แอร์ไลน์ส ซาอุเดียแอร์เวย์ส และการบินไทย

 

โดยได้จัด Networking Lunch เชิญผู้บริหารสายการบินเตอร์กิสแอร์ไลน์ เข้าประชุมหารือกันมีทั้งผู้บริหาร ททท. ภูมิภาคยุโรปฯ และสายการบิน Turkish Airline ถึงแผนส่งเสริมตลาดการขยายเส้นทางบินเพิ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ ในภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลางมายังจุดหมายปลายทางจังหวัดต่าง ๆ ในเมืองไทย

 

ตามข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ระบุ ช่วง 10 เดือนแรก ระหว่างเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 มีนักท่องเที่ยวตุรกีเดินทางมาไทยยอดสะสมรวม 16,784 คน นับจากนี้เป็นต้นไปในแต่ละเดือนแนวโน้มเพิ่มขึ้นไปในทิศทางเดียวกันกับยอดการจองซื้อตั๋วโดยสารเครื่องบินเข้าประเทศไทยผ่านระบบ Forwardkeys ช่วงตารางบินฤดูหนาวระหว่างเดือนตุลาคม - ธันวาคม 2565 ยอดจองเพิ่มขึ้นสูงกว่า 1,000 % เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 ส่วนใหญ่เลือกเข้ามาทางสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ และภูเก็ต เป็นหลัก

 

สำหรับ “ตุรกี” เป็นตลาด ททท.ประเมินว่ามีศักยภาพและท้าทาย เนื่องจากสนามบินตุรกีเป็นศูนย์กลางทางการบิน (Aviation Airport Hub) เชื่อมผู้โดยสารระหว่าง 3 ทวีป ได้แก่ ยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชีย

 

ปัจจุบันมีเที่ยวบิน ไป-กลับ กรุงอิสตันบูลมาไทยวันละ 3 เที่ยว ฤดูเดินทางท่องเที่ยวไฮซีซันปี 2565 มีแผนจะขยายเที่ยวบินเพิ่มขึ้นอีก ขณะนี้เป็นสนามบินที่ได้รับความนิยมมีผู้โดยสารยุโรปใช้บริการหนาแน่นที่สุด เป็นประเทศที่มีโครงสร้างประชากรเป็นระดับชั้นกลางวัยทำงาน และคนวัยหนุ่มสาวกำลังเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะนักเดินทางที่มีอัตราการเติบโตเชิงบวกต่อเนื่องซึ่งเป็นเป้าหมายของไทย 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มที่  1 ฮันนีมูน กลุ่มที่ 2 ผู้หญิง และกลุ่มที่ 3 MICE   

 

ททท. มีความมั่นใจการจัดกิจกรรมส่งเสริมท่องเที่ยวระหว่างผู้ประกอบการครั้งนี้ในพื้นที่เป้าหมายทำให้ไทยมีโอกาสสร้างพันธมิตรใหม่ ควบคู่การขยายฐานตลาด การประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการท่องเที่ยวเข้าถึงผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวตุรกี เพิ่มแรงจูงใจในอนาคตอันใกล้นี้จะเลือกเดินทางมาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน

ข่าวที่ 4 บางจากแจกบัตรเติมน้ำมันแก่งปิงอารักษ์กันไฟป่าลดคาร์บอน

 

นางกลอยตา ณ ถลาง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานสื่อสารองค์กรและกิจการเพื่อความยั่งยืน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้  มอบบัตรเติมน้ำมันบางจาก สนับสนุนโครงการ “แก่งปิงอารักษ์” ป้องกันไฟในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่ปิง เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ ให้แก่ ดร. เจน ชาญณรงค์ ประธานชมรมผู้รับพระราชทานทุนมูลนิธิอานันทมหิดล นำส่งมอบต่อให้ทางนายมัญญา นาคพน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่ปิง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน  

 

บัตรเติมน้ำมันบางจากที่นำมามอบให้โครงการแก่งปิงอารักษ์ครั้งนี้ เพื่อให้ใช้สนับสนุนค่าจัดซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับภารกิจต่าง ๆ เช่น สำหรับเครื่องเป่าลมเพื่อนำไปใช้ในการตัดเชื้อเพลิงที่ลุกไหม้ที่ใช้กับรถจักรยานยนต์ รถกระบะและรถยนต์เพื่อการลาดตระเวน รวมทั้งเฝ้าระวังและติดตามไฟ และใช้เติมน้ำมันเรือลาดตระเวนตามลำน้ำด้วย

 

เป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจลดไฟป่าในอุทยานแห่งชาติแม่ปิง 2 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ตื่น จังหวัดตาก ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวถือเป็นพื้นที่มีไฟไหม้ป่าซ้ำซากมากที่สุดจุดหนึ่งของประเทศเฉลี่ยปีละกว่า 580,000 ไร่

 

ตลอดหลายปีที่ผ่านบางจากมาจากการทำงานร่วมกับทางชมรมฯ ในโครงการ “แก่งปิงอารักษ์” ได้ริเริ่มขึ้นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่ปิง ลาดตระเวนทางน้ำ เพื่อป้องกันไฟป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่ปิงโดยมีมาตรการและปฏิบัติงานอย่างเข้มข้นจริงจัง เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนในพื้นที่ ทำให้ในปี 2565 สามารถลดพื้นที่เกิดไฟเหลือเพียงไม่เกิน 1,000 ไร่ แต่ยังต้องเพิ่มการป้องกันตลอดลำแม่น้ำปิงเพื่อลดการล่าสัตว์ป่า และกิจกรรมผิดกฎหมายอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างยาวนานในพื้นที่อันเป็นสาเหตุของไฟป่าและฝุ่น PM 2.5 ต่อไป

 

ทั้งนี้ การลดไฟป่า ไม่เพียงช่วยแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 แต่ยังช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ นอกเหนือจากการดูดซับคาร์บอนโดยธรรมชาติของป่าไม้อีกด้วย

 

ช่วงที่ 2 หนาวแล้ว!! สาวกแคมปิ้งเตรียมแบกเป้ออกเดินทางสัมผัสธรรมชาติแบบกับชิดตามลานกางเต็นต์สุดชิล ที่ “โรสพาร์ค วังน้ำเขียว” นครราชสีมา “ห้วยกุ่มและญาดาภูวิวฟาร์มสเตย์” มอหินขาว ชัยภูมิ และต้องรับมือหน้าหนาว “4วิธีกินอาหารรสเผ็ดร้อนดื่มน้ำนอนให้พอ” เกาะติดข่าวท้ายชั่วโมง ข่าวแรก “AWC ผนึก Accor” ปั้นโรงแรมบิ๊กแบรนด์ผุดทั่วไทยพันห้อง ข่าวที่สอง “แอร์ไลน์สแห่บินกระบี่” เริ่มไฮซีซันนี้ TUI นอร์กิด LOT โปแลนด์ และ Fly Dubai

 

 

ท่องเที่ยว -เที่ยวแคมป์ที่โรสพาร์ควังน้ำเขียว/ห้วยกลุ่ม&ญาดาฟาร์มสเตย์

 

ลมหนาวพัดเรียกเหล่าสาวกที่ชื่นชอบแคมป์ปิ้งท่ามกลางอากาศเย็นสบาย ชวนกันไปปักหมุดกลางอ้อมกอดธรรมชาติที่นครราชสีมา และชัยภูมิ  กันอย่างมีความสุข

 

ปักหมุดแรก ที่ “โรสพาร์ค วังน้ำเขียว” หลบความวุ่นวายหอบเต็นท์คู่ใจมาสูดโอโซนแบบชิล ๆ ใกล้ชิดธรรมชาติ ดูวิวพาโนรามา “สวนกุหลาบ” อันยิ่งใหญ่ตระการตาแบบ 360 องศา แล้วตั้งแคมป์กลางลานกางเต็นท์ในดินแดนได้ชื่อว่าอากาศดีที่สุด ไปพร้อม ๆ กับ ชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า และลับขอบฟ้ายามเย็น

ภายในโรสพาร์ค วังน้ำเขียว มีร้าน “คาเฟ่”  เสิร์ฟกาแฟและอาหารคุณภาพดี สวนดอกไม้งามหลากสายพันธุ์ พร้อมสนามเด็กเล่นกลางธรรมชาติ ภายในบริเวณเน้นมาตรฐานความสะอาดปลอดภัย มีถังคัดแยกขยะ และการจัดการอย่างเป็นระบบ

 

นักท่องเที่ยวจ่ายค่าเข้าชมสวน ผู้ใหญ่ 250 บาท/คน  เด็กและผู้สูงอายุ 150 คน/คน ฟรี!!เด็กสูงไม่เกิน 90 ซม.เข้าฟรี เดือนธันวาคมนี้มีโปรโมชันพิเศษ!​ ซื้อบัตร 1 ใบ รับทันทีคูปองมูลค่า 100 บาท

 

เปิดบริการทุกวัน  ระหว่างจันทร์-พฤหัสบดี  8.00-17.00 น. วันศุกร์-อาทิตย์ เข้าได้ตั้งแต่8.00-19.00 น. มีพื้นที่จอดรถรองรับได้ 100 คัน พร้อมทั้งมีบริการรถรับส่งระหว่างโซนภายในด้วย Location : https://bit.ly/3dvYyVM

 

ปักหมุดที่ 2 “ห้วยกุ่ม” ลุยแคมปิ้งยังจุดกางเต็นท์ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าห้วยกุ่ม  เขื่อนห้วยกุ่ม อ.เกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ เป็นสถานที่แห่งสุดอะเมซิ่ง มีบริการลานกว้างให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อนในบรรยากาศริมน้ำ ท่ามกลางธรรมชาติและป่าไม้ รองรับนักท่องเที่ยวได้ครั้งลไม่เกิน 100 คน แนะนำให้จองล่วงหน้าผ่านเฟซบุ๊ค ฟรีทั้งการเข้าพื้นที่และกางเต็นท์  

 

            ปักหมุดที่ 3 ที่ “ญาดาภูวิวฟาร์มสเตย์” @ลานกางเต็นท์ ดาวล้านดวง มอหินขาว จังหวัดชัยภูมิ อยู่ห่างจากอุทยานแห่งชาติมอหินขาว เพียง 4 กม.เท่านั้น ยามค่ำคืนคืนอันมืดสนิท ชาวแคมป์จะได้สัมผัสโลกทั้งใบเหนือท้องฟ้ากับ​วิวสวยสุดปัง ยิ่งได้ไปถ่ายรูปสักครั้งก็แสนจะมีความสุขมาก ชิลไปกัน 

 

ภายใน “ญาดาภูวิวฟาร์มสเตย์” มีบริการแบบวันสต็อป คือ 1.เต็นท์กระโจมเล็ก พักได้ 2 คน  2.เต็นท์กระโจมใหญ่ พักได้ 3 คน 3.บ้านต้นไม้ พักได้​ 2 คน 4.นักท่องเที่ยวนำเต็นไปกางเอง คิดค่าบริการ 200 บาท/หลัง สอบถามได้ที่โทร.  099-632-7154 พิกัด https://goo.gl/maps/dX7pTYw5KDiAuuLm9

 

สุขภาพ -4วิธีรับมือหน้าหนาวกินเมนูเผ็ดร้อนดื่มน้ำพักผ่อนนอนให้พอ

 

กรมอนามัย แนะนำหน้าหนาวเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายเสี่ยงป่วยเป็นหวัดได้ง่าย แต่เราสามารถเลือกรับประทานอาหารที่มีเครื่องเทศ รสเผ็ดร้อน เพื่อกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด ในร่างกาย ทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นได้

 

ส่วนใหญ่ช่วงฤดูหนาวคนไทยมักเจอปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย คือ ผิวหนังแห้ง คัน ริมฝีปากแตก ลอกเป็นขุย เป็นไข้หวัด น้ำมูกไหล ไอ เจ็บคอ และคอแห้ง ประชาชนจึงควรเอาใจใส่ดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ทำร่างกายให้อบอุ่น กินอาหารครบ 5 หมู่ เน้นอาหารที่ร้อนและปรุงสุกใหม่ ๆ

 

พร้อมทั้งแนะ “วิธีดูแลสุขภาพ” เมื่อลมหนาวมาเยือน ทำได้ทันทีด้วย 4 วิธี

 

1.กินเมนูผักพื้นบ้าน ‘ขี้เหล็ก – ยอดมะขาม’ เป็นเมนูต้านหนาว โดยเลือกปรุงประกอบอาหารจากผักพื้นบ้านตามฤดูกาลและหาได้ง่ายในช่วงหน้าหนาว เช่น กระเจี๊ยบ ดอกขี้เหล็ก ยอดมะขาม ซึ่งอุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุ

 

รวมทั้งควรเน้นเมนูอาหารที่มีเครื่องเทศ รสเผ็ดร้อน เพื่อกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด ในร่างกาย ทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น เช่น แกงเลียง แกงป่า แกงส้ม แกงเผ็ด เป็นต้น

 

2.เน้นอาหารที่ปรุงด้วยสมุนไพร เช่น กระเทียม กระชาย ขิง ข่า ขมิ้น ตะไคร้ กินผลไม้สดที่มีวิตามินซี เช่น ส้ม ฝรั่ง มะละกอ มะขามป้อม มะขามเทศ เกรปฟรุต สตรอเบอร์รี่ ลูกพลับ จะช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย และป้องกันโรคหวัด

 

3.ควรดื่มน้ำอุ่นเป็นประจำเพื่อช่วยสร้างความอบอุ่นกับร่างกาย เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยให้ระบบย่อยทำงานได้ดีขึ้น และช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย โดยใน 1 วันควรดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว และต้องมั่นใจในเรื่องความสะอาดปลอดภัยของน้ำดื่มด้วย

 

4.ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างน้อยวันละ 30 นาที เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงพร้อมรับกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง

 

ส่วน “ผู้สูงอายุทุกคน” โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรหมั่นดูแลสุขภาพของตนเอง ให้ดีตลอดเวลา ส่วนเด็กทารกแรกเกิดถึง 6 เดือน ให้กินนมแม่เป็นประจำเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันกับลูกอย่างปลอดภัย

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก 2ยักษ์ใหญ่AWCผนึกACCORปั้นบิ๊กแบรนด์โรงแรมพันห้อง

 

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยว่า ได้ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งแรกกับทาง แอคคอร์ (Accor) เครือโรงแรมชั้นนำระดับโลก เพื่อขยายพอร์ตโฟลิโอกลุ่มธุรกิจโรงแรมของ AWC บนทำเลศักยภาพตามจุดหมายสำคัญด้านการท่องเที่ยวในเมืองไทยรวมกว่า 1,000 ห้อง ภายใต้แบรนด์ชั้นนำจากกลุ่มแอคคอร์อย่าง แฟร์มอนท์/Fairmon) แฟร์มอนท์ เรสซิเดนซ์/Fairmont Residences และเอ็มแกลเลอรี/Mgallery   สอดคล้องกับกลยุทธ์ของ AWC มุ่งทำพันธมิตรกับแบรนด์โรงแรมชั้นนำระดับโลก เดินหน้าพัฒนาสินทรัพย์คุณภาพและขยายกลุ่มลูกค้าให้กว้างขึ้น

 

โดยมีแผนจะนำแบรนด์ชั้นนำของกลุ่มแอคคอร์มาช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมการโรงแรมและบริการของไทย ด้วยการนำความเชี่ยวชาญของ AWC ซึ่งเป็นผู้นำพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจรของไทย ผนวกเข้ากับกลุ่มแอคคอร์ซึ่งมีฐานลูกค้าอย่างแข็งแกร่งกระจายอยู่ทั่วโลก ทั้งสองแบรนด์จะร่วมกันยกระดับไทยให้เป็นประเทศจุดหมายปลายทางโรงแรมแบรนด์ชั้นนำระดับโลกมากมายเป็นทางเลือกอย่างหลากหลายแก่ผู้ใช้บริการ ประการสำคัญอนาคตยังจะเพิ่มกระแสเงินสดทำให้ AWCเติบโตอย่างแข็งแกร่งด้วย

            AWC วางแผนจะพัฒนาการลงทุนโรงแรมส่วนหนึ่งของพอร์ตโฟลิโอแบรนด์โรงแรมในระดับลักซ์ชัวรี่ และแนวไลฟ์สไตล์แอคคอร์เพื่อมอบประสบการณ์อันเหนือระดับ กระตุ้นอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และการท่องเที่ยวของประเทศกลับมาเติบโตอย่างมีคุณภาพ รวมทั้งจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวยั่งยืนควบคู่กันไปด้วย

 

มร. การ์ท ซิมมอนส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แอคคอร์ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ กล่าวว่า Accor มุ่งมั่นจะขยายการเติบโตด้วยการทำงานร่วมกับพันธมิตรที่เป็นเจ้าของธุรกิจ ที่เข้าใจถึงวิสัยทัศน์และธุรกิจโรงแรมของแอคคอร์ ความร่วมมือกับ AWC ครั้งนี้รู้สึกความยินดีเป็นอย่างมาก ซึ่งพร้อมจะนำความเชี่ยวชาญและจุดแข็งในกลุ่มธุรกิจโรงแรมและบริการเข้ามาจะช่วยส่งเสริมให้ AWC คงความเป็นผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์ของประเทศไทยได้อย่างแน่นอน

 

 

ข่าวที่สอง -แอร์ไลน์ยุโรปแห่บิน“กระบี่”คึกคักปี’66TUI/LOTโปแลนด์

 

 

นายอะหมาน หมัดอะดัม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกระบี่ เปิดเผยว่า สายการบิน TUI fly เริ่มเปิดบินบริการแบบเช่าเหมาลำ (charter flight) นำนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศนอร์ดิก เริ่มต้นเดือนธันวาคม 2565 มาจากกรุงโคเปนเฮเก้น ประเทศเดนมาร์ก บินตรงเข้ากระบี่ เเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวจุดหมายปลายทางยอดนิยมของตลาดยุโรป ซึ่งกำลังมีสายการบินจากหลายประเทศเตรียมทยอยบินแบบ ไป-กลับ เข้ามายังกระบี่ช่วงตารางบินฤดูหนาวระหว่างเดือนธันวาคม 2565-เมษายน 2566 ขั้นต่ำ 5 สายการบิน ประกอบด้วย

 

“ยุโรป” บินข้ามทวีปมี 2 สายการบิน ได้แก่ 1.สายการบิน TUI Fly จัดเที่ยวบินเช่าเหมาลำ  4 เที่ยว/สัปดาห์ จากเมืองหลัก เฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ออสโล ประเทศเบลเยี่ยม  สตอกโฮล์ม-อาร์ลันดา ประเทศสวีเดน กอเทนเบิร์กประเทศอังกฤษ 2. LOT Polish Airlines สายการบินแห่งชาติโปแลนด์เตรียมบินตรงแบบเช่าเหมาลำจากเมืองใหญ่ในยุโรปมายังกระบี่ 2 เส้นทาง คือ เส้นทางที่ 1 กรุงวอร์ซอ โปแลนด์ เริ่มวันที่ 21 ธันวาคม 2565 เส้นทางที่ 2 กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก เริ่มวันที่ 7 มกราคม 2566  

 

สำหรับนักท่องเที่ยวจากตลาดนอร์ดิก สถิติปี 2562 ก่อนสถานการณ์โควิด-19 ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวเดนมาร์กเดินทางพักผ่อนในกระบี่ 57,214  คน สร้างรายได้ประมาณ 332.78 ล้านบาท ชื่นชอบเที่ยวหาดทรายชายทะเล และเน้นทำกิจกรรมการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับพฤติกรรมของชาวยุโรปเกือบทั้งหมด

 

“ตะวันออกกลาง” มี 1 สายการบิน ได้แก่ flydubai เตรียมบินแบบเช่าเหมาลำเช่นกัน ไป-กลับ ดูไบ(สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) -กระบี่ เริ่มวันที่ 20 มกราคม 2566 เป็นต้นไป

 

“อาเซียน” มีสายการบินบริการแบบประจำ ไป-กลับ 2 สายการบิน ได้แก่ 1.Scoot Tiger Air  ไป-กลับ สิงคโปร์-กระบี่ วันละ 1 เที่ยว 2.แอร์เอเชีย กัวลาลัมเปอร์-กระบี่ วันจันทร์ 1 เที่ยว ส่วนวันอังคาร พฤหัสบดี วันเสาร์ วันละ 2 เที่ยว

 

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2565 นางสาวศศิธร กิตติธรกุล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ได้ต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ TUI fly เที่ยวบิน BLX 375 นำนักท่องเที่ยวจากโคเปนเฮเกน เดนมาร์ก มาเที่ยวกระบี่304 คน  โดยมีผู้ร่วมต้อนรับอย่างคับคั่ง คือ นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายณรงค์ อรุณภาคมงคล ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านความปลอดภัยภาคพื้น รักษาราชการแทนผู้อำนวยการท่าอากาศยานกระบี่  นางสาววิชุพรรณ ภูเก้าล้วน ศรีสัญญา นายกสมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ นายนัทที อดิศราลักษณ์ ประธานกรรมการบริหารหอการค้าจังหวัดกระบี่ สาวธนิตา เรืองสงค์ ประธานนักธุรกิจรุ่นใหม่ YEC หอการค้าจังหวัดกระบี่ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน สื่อมวลชนจังหวัดกระบี่  

นายอะหมานได้กล่าวว่ากระบี่เป็นจังหวัดที่มีความพร้อมรับนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติทั่วโลก โดยมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติสมบูรณ์สวยงาม พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกได้มาตรฐานสากล เช่น ที่พัก ร้านอาหาร  กิจกรรมการท่องเที่ยวหลายรูปแบบ การเดินทางที่สะดวกทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ ชาวกระบี่พร้อมเป็นเจ้าบ้านที่ดี มีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไปในทิศทางเดียวกัน 

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.