ททท.ผ่าตลาดจีนเที่ยวไทย!!งัด5โครงการใหญ่รับทัพใหญ่ปี’66
ผนึกทุกทางขายไทยเฟส1 ม.ค.66F.I.T./เฟส2มี.ค.66โกยกรุ๊ปทัวร์
แนะเอกชนปรับด่วน4เรื่องรอรับจีนดิจิทัลไร้เงินสดเปิดมุมคิดบวก
คิงเพาเวอร์PAYDAY FESTIVAL ลดแรง31 ธ.ค.ซ้อป8พันลด40%
ซานต้าคิงเพาเวอร์มหานครช้อปครบพันบาทรับส่งท้ายปี9รางวัล
คิงเพาเวอร์แจกSPECIAL CODEส่งท้ายปีลดสูงสุด 20%+5%
ททท.ปลุกเคาน์ดาวน์ปิดจ็อบปี’65รายได้เข้าเป้า1.5ล้านล้าน
เที่ยวเคาน์ดาวน์ตะวันออกชมพลุสวยงามทะเลอ่าวไทย4แห่ง
CEOบางจากปลุกInnovation Clubปั้นสตาร์ตอัพรับบริษัทจีน
AWC”ซื้อดุสิตดีทูรวมพ็อตที่พักช้างคลานเชียงใหม่1.29หมื่นล้าน
กทม.ปิ๊งนั่งฟรีเสาร์/อาทิตย์รถบัสไฟฟ้าทัวร์4ตลาดน้ำตลิ่งชัน
วันเสาร์ที่ 31
ธันวาคม 2565
ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง
ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0
MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen
บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน
#เที่ยวกับกู๋
#KingPower #TAT
#TCEB #บางจาก #เที่ยวเคาน์ดาวน์ภาคตะวันออกพลุสวยอ่าวไทย
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/hLuJ1SEkE-/
ช่วงที่ 1 ผ่าความจริง !!ตลาดจีน กับ “ชูวิทย์ ศิริเวชกุล” ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) งัดแผนรับคลื่นทัวร์จีนแบบมีขั้นตอน 5 โปรเจกต์ “ผนึกบริษัทออนไลน์ใหญ่-ดึง KOL ดาราจีน โหมขายเมืองไทย-กอดคอแอร์ไลน์สเพิ่มเที่ยวบิน-แนะการเดินทางช่องทางใหม่ ทางบก ทางน้ำ-เปิดเมืองท่องเที่ยวรองในไทยรุกตลาดมณฑลรองของจีน” คาดเฟส 1 ตลาดใหญ่กลุ่มแรกจีนเดินทางเดี่ยว ๆ F.I.T ประเดิม 8 มกราคม 66 เฟส 2 กรุ๊ปทัวร์มาแน่หลัง มีนาคม 66 รอเคลียร์ต่อวีซ่า ขอ Slot แนะธุรกิจปรับใหญ่ 4 เรื่อง “ระบบการเงินแบบไร้เงินสด-พนักงานสื่อสารภาษาจีน-ทำการตลาดผ่านระบบจีนเท่านั้น-ปรับทัศนคติเชิงบวก
นายชูวิทย์ ศิริเวชกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ทันที่สาธารณรัฐประชาชนจีนประกาศเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2565 เวลาประมาณ 23.00 น. สั่งปลดล็อกเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ ยกเลิกมาตรการโควิด ซีโร่ 0+0 อนุญาตให้ชาวจีนเดินทางต่างประเทศและทั่วโลกเข้าจีนได้ มีผลตั้งแต่ 8 มกราคม 2566 เป็นต้นไป ททท.จัดประชุมกับสำนักงานในจีน 5 สำนักงาน ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโกว คุนหมิง เฉินตู เดินหน้าแผนส่งเสริมการตลาดให้ทันสถานการณ์
เนื่องจากจีนเป็นตลาดที่มีความสำคัญมากที่สุดและเป็นความหวังยิ่งใหญ่ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยด้วย รวมทั้งตลาดท่องเที่ยวต่างประเทศกลับมาเร็วกว่าคาดการณ์เดิม ททท.ประเมินจะมาช่วงกลางปี 2566 แต่ตอนนี้ทุกประเทศกลับมาเที่ยวเมืองไทยใกล้เคียงปกติแล้ว
สำหรับ “ตลาดจีน” ททท.เดินหน้ากระตุ้นเชิงรุกทันที ด้วยกลยุทธ์เปิดการขายท่องเที่ยวเมืองไทยอย่างเป็นขั้นตอน ระยะแรกรุกเจาะกลุ่มตลาดเดินทางท่องเที่ยวอิสระโดยลำพัง (F.I.T.) ระยะต่อไปจึงจะเพิ่มกลุ่มเดินทางเป็นหมู่คณะ/กรุ๊ปทัวร์ (G.I.T.) จะตามมาในระยะต่อไปจะเห็นผลหลังตรุษจีน 2566 แนวโน้ม Slot การบินจะเป็นแรงส่งให้การเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากดีมานต์ตลาดมาแรง ส่วนไทยก็ปรับตัวค่อนข้างเร็ว
ผอ.ชูวิทย์ กล่าวว่าได้ประชุมระหว่างภูมิภาคเอเชียตะวันออก กับ ททท.ในจีน 5 สำนักงาน เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2565 พร้อมขับเคลื่อนกิจกรรมกระตุ้นตลาดการขายในจีนรวม 5 โครงการ ประกอบด้วย
โครงการที่ 1 เปิดตัวแคมเปญการตลาดและการสื่อสาร โดยใช้วลีของผู้นำรัฐบาลจีน “สี เจิ้น ผิง” กล่าวในโอกาสเดินทางมาร่วมประชุมเอเปค 2022 ได้ลงนามกับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำข้อตกลงความร่วมมือร่วมกัน คือ “TWO LAND ONE HEARTH” ททท.จะนำมาแปลงสื่อความหมายทำแคมเปญการตลาดโฆษณาประชาสัมพันธ์สื่อให้เข้าถึงคนในประเทศจีน ททท.ทั้ง 5 สำนักงาน กำลังทำงานอยู่เพื่อเปิดตัวแคมเปญพร้อมกันในสื่อทั่วจีน เพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวมาไทย
โครงการที่
2 ทำกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับตัวแทนแพลตฟอร์มออนไลน์รายใหญ่ในจีน เช่น C-TRIP Fliggy ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ
Alitrip ในเครืออาลีบาบา
(Alibaba)
รวมทั้ง Ali Pay ช่องทางการจ่ายเงินครบวงจร
เรื่อยไปจนถึงแพลตฟอร์มใหญ่รายอื่น
และทำงานร่วมกับบริษัทนำเที่ยวใหญ่ของรัฐบาลจีนซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในปักกิ่ง 3 บริษัท
คือ 1.CTS-China Travel
Service 2.CITS-China International Service 3.CYTS Tour Holding Co
รวมทั้งจับมือกับ KOL (Key Opinion Leaders)
ผู้ที่มีอิทธิพลแห่งยุค เช่น ดารา อินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียง มีจำนวน follower มากกว่า
10
ล้านคนขึ้นไป เดินหน้าไลฟ์ สตรีมมิ่ง ขายสดการท่องเที่ยวเมืองไทย
เนื่องจากปัจจุบันการขายท่องเที่ยวในจีนไม่ได้ขายผ่านบริษัทท่องเที่ยวเป็นหลักอีกต่อไปแล้ว พฤติกรรมคนจีนหันมาซื้อขายผ่านออนไลน์ทั้งแพกเกจท่องเที่ยว โรงแรม จะขายผ่าน KOL ดารา และผู้มีชื่อเสียง เตรียมเปิดตัว 10 มกราคม 2566 จากนั้น ททท.ทำงานร่วมกับซีอีโอของบริษัท CTS ในวันที่ 11 มกราคม 2566 เปิดไลฟ์สตรีมมิ่งขายเที่ยวเมืองไทยต่อเนื่องอีกครั้ง คาดจะมียอดขายหลาย 10 ล้านแพกเกจ
โครงการที่ 3 จับมือกับสายการบินนำเที่ยวบิน ไป-กลับ สาธารณรัฐประชาชนจีน-ประเทศไทย กลับมาให้เร็วที่สุด เนื่องจากตอนนี้ Slot หรือเวลาการบินยังอยู่ในช่วงตารางบินฤดูหนาว Winter Program ผ่านมาครึ่งทางแล้ว ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2565 ยังเหลือมกราคม-ปลายมีนาคม 2566 จากนั้นเวลาการบินจะเข้าสู่ “ตารางบินฤดูร้อน” เริ่มตั้งแต่สัปดาห์ที่ 4 เดือนมีนาคม 2566 เป็นต้นไป ททท.ได้ทำงานร่วมกับของไทยและจีน ทำให้สายการบินเคลื่อนไหวยื่นขอเวลาการบินรอบใหม่จากกรมการบินพลเรือนแห่งชาติจีน (CAAT ) ขณะนี้อยู่ในช่วงรอคำตอบจะได้รับ “อนุมัติเที่ยวบินเพิ่ม” ได้มากขนาดไหน
แต่ประเมินจากหลังจีนประกาศเปิดประเทศมีชาวจีนเข้าไปเสิร์ซหาข้อมูลท่องเที่ยวโดยมี “ประเทศไทย” มาเป็นลำดับต้น ๆ โดยมีคู่แข่งได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลี และอื่น ๆ
โครงการที่
4
นำเสนอ “ช่องทางใหม่ในการเดินทาง” จากจีนมาไทย
เพิ่มอีก 2 ช่องทาง
คือ ช่องทางที่ 1 “ทางบก” ได้แก่ “รถไฟความเร็วสูง”
คุนหมิง มณฑลยูนาน เข้ามายังไทย ผ่าน สสป.ลาว ตามเส้นทาง R3A และ “คาราวาน” รถยนต์ กับบิ๊กไบค์
ช่องทางที่ 2 “ทางน้ำ”
ล่องแม่น้ำโขง จาก สิบสองปันนา มาถึงเชียงแสน เชียงราย
โครงการที่
5 เปิดตลาดเมืองท่องเที่ยวรองทั้งของไทยและจีน
จะเจาะตามมณฑลต่าง ๆ ซึ่งประชากรกว่า 200-300 ล้านคน/มณฑล
ขณะนี้มีสายการบินสุ่นเหยา , Spring Air และ
ไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส (MU) เตรียมบุกตลาดนำเที่ยวบินกลับมายัง เชียงใหม่
และสนามบินอู่ตะเภา
ผอ.ชูวิทย์กล่าวว่า
ได้เปิดการขายพื้นที่ท่องเที่ยวรองรับตลาดจีนระยะแรกในการเปิดประเทศ
จะชูพื้นที่ที่คนจีนชื่นชอบเป็นจุดหมายปลายทางหลัก เช่น ชอบการท่องเที่ยวทางทะเล
การท่องเที่ยวสวนผลไม้ กินทุเรียน ช้อปปิ้ง ดูจากสถิติปี 2562
จีนนิยมเที่ยวเมืองไทยเรียงตามอันดับยอดนิยม 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ พัทยา
ภูเก็ต สมุย(สุราษฎร์ธานี) และเชียงใหม่
ททท.จึงจะวางแผนเป็นพื้นที่นำร่องรับตลาดจีนปี 2566 เป็นต้นไป
ส่วนนโยบายปลดล็อก
“การเพิ่มเที่ยวบินเข้าออกจีนสู่ไทย” เมื่อไม่มีข้อจำกัดใด ๆ แล้ว
ยังได้ยกเลิกนโยบาย Five
One 5 ต่อ 1 นั่นหมายถึงสายการบินสามารถวางแผนจัดการเที่ยวบินเข้าออกได้อย่างเสรี
แต่ตอนนี้ทางกรมการบินพลเรือนแห่งชาติจีนหรือ CACT ยังคงไว้ซึ่งกฎการบินซึ่ง
อนุญาตให้สายการบินไทยจากไทยและจีน บินเข้าและออกได้ ฝ่ายละ 15 เที่ยว
รวมเป็น 30 เที่ยว/สัปดาห์
หรือ 120
เที่ยว/เดือน จะเปิดอิสระได้ต้องรอหลังวันที่ 8 มกราคม 2566 โดยจะต้องดูรายละเอียดย่อยควบคู่กันด้วย
ขณะนี้เห็นสัญญาณสายการบินในจีนขยับตัวเต็มที่ขอสล็อตการบินจาก
CACT
และกรมการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT)
พร้อมเพิ่มเที่ยวบินจากจีนมาไทยจำนวนมากขึ้นหลายเท่า แต่จะชัดเจนต้องรอช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์
หรือ มีนาคม 2565
ดังนั้นปัญหาที่ไทยต้องเร่งแก้ไขให้เร็วที่สุดคือเรื่อง “บุคลากรบริการสนามบิน”
เพราะจีนเคยเข้ามาสัปดาห์ละ 300-400 เที่ยว
ส่วนเรื่องเร่งด่วนที่จะขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการไทยเตรียมพร้อมรับตลาดจีน
คือ เรื่องที่ 1 การวางระบบชำระเงิน
เพราะตอนนี้จีนเลิกใช้เงินสดหันมาจ่ายผ่านดิจิทัลออนไลน์เป็นหลัก ผ่านระบบของ Ali pay Wchatpay เรื่องที่ 2 การสื่อสารทำการตลาดต้องปรับตัวแบบ 360 องศา
เพราะจีนเลือกใช้ระบบของประเทศตนเองเท่านั้น เช่น เหวยโบ๋ Wchat โดยไม่ได้ใช้
facebook Twitter ,
Instagram เหมือนสากลทั่วไป เรื่องที่ 3 การสื่อสารต้องใช้ภาษาจีนเจรจาธุรกิจและทำการค้า
เรื่องที่ 4 ต้องปรับทัศนคติเชิงบวกยอมรับและต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนอย่างเป็นมิตร
และถึงแม้จีนจะประกาศเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ
เริ่ม 8 มกราคม
2566
แต่โดยภาพรวมก็น่าจะเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ใช้ชีวิตในประเทศปรับตัวอยู่ร่วมกับโรคโควิด-19 จะต้องติดตามสถานการณ์
จากอีก 2 ปัจจัย
คือ ปัจจัยที่ 1 รายละเอียดเรื่องอนุญาตให้ชาวจีนทำพาสปอร์ต
กับต่ออายุวีซ่าต่างประเทศ ปัจจัยที่ 2 ซัพพลายเออร์ในไทยยังขาดแคลนบุคลากรทำงานภาคบริการ
เช่น
ขนสัมภาระกระเป๋าผู้โดยสารในสนามบินให้สายการบินนานาชาติจีนที่จะเพิ่มความถี่เที่ยวบินมาไทย
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1
คิงเพาเวอร์PAYDAY FESTIVAL ลดแรง31 ธ.ค.ซ้อป8พันลด40%
คิง
เพาเวอร์ มอบ ATTENTION PLEASE! PAYDAY FESTIVAL 25 – 31 ธ.ค. 65 ลดสูงสุด 40%
ลดเพิ่มทันที 5% เมื่อช้อปครบ 8,000.- เปย์สนุกสุขสิ้นเดือน ลิสต์ชิ้นไหนไว้
ต้องได้ช้อป! เพราะ คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ มีดีลดีๆ ให้คุณได้ช้อปสุดคุ้ม
ก่อนเริ่มปีใหม่
ลดสูงสุด
40% เมื่อช้อปครบ 5,000 บาท ลดเพิ่มทันที
5% เมื่อช้อปครบ 8,000 บาท โดยใส่รหัสส่วนลด FPDEC พร้อมรับสิทธิ์ครบดังนี้
1.สินค้า HOME DELIVERY ไม่มีไฟลต์บินก็ช้อปได้
ส่งฟรี! ทั่วประเทศ เมื่อช้อปครบ 699 บาท(สุทธิ)
2.แบ่งชำระ 0% นานสูงสุดถึง 10 เดือน
3.รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 8,000 บาท
4.รับเลย! ส่วนลด 200 บาท เมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์
5.รับสิทธิ์การสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาทสุทธิ
ข่าวที่ 2
ซานต้าคิงเพาเวอร์มหานครช้อปครบพันบาทรับส่งท้ายปี9รางวัล
คิงเพาเวอร์
โหมจัด “Festive Surprises From Santa” ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุข
ซานต้า มหานคร คิวบ์ ขอแจกรางวัลใหญ่ ให้ลูกค้าร่วมลุ้นรางวัลมากมาย
เพียงคุณมียอดค่าใช้จ่ายทุก 1,000 บาท ที่ร้านค้าและร้านอาหาร ตึก มหานคร คิวบ์ ร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธันวาคม 2565 พบกับของรางวัลทั้งหมด 9
รางวัล ดังนี้
สนุกที่ 1
นำใบเสร็จไปแลกที่เคาท์เตอร์มหานคร อีทเทอรี่ (ชั้นจี) รับสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลรางวัลสุดปังมากมาย
รางวัลที่
1 ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่-กรุงเทพฯ จากสายการบิน airasia Super App สำหรับ 2 คน 1 รางวัล
รางวัลที่
2 ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่-กรุงเทพฯ จากสายการบิน airasia Super App สำหรับ
2 คน 1 รางวัล
รางวัลที่
3 - บัตรกำนัลห้องพักประเภท Standard King Room โรงแรม
The Standard, Bangkok Mahanakhon พร้อมอาหารเช้าสำหรับ 2
ท่าน จำนวน 1 รางวัล
รางวัลที่
4 - บัตรกำนัลห้องพักประเภท Deluxe Room โรงแรม Pullman
Bangkok King Power พร้อมอาหารเช้าสำหรับ 2 คน 1 รางวัล
รางวัลที่
5 - บัตรกำนัลซิกเนเจอร์ทรีตเมนต์ “Solne Timeless
Touch” ที่คลินิก SOLNE 1 รางวัล
รางวัลที่
6 - บัตรกำนัลเงินสด เพื่อใช้จ่ายที่ FIRSTER BEAUTY สาขา
คิง เพาเวอร์ มหานคร มูลค่า 2,000 บาท 1 รางวัล
รางวัลที่ 7
- บัตรกำนัลเงินสด เพื่อใช้จ่ายที่ FIRSTER BEAUTY สาขา
คิง เพาเวอร์ มหานคร มูลค่า 2,000 บาท1 รางวัล
รางวัลที่
8 - บัตรรับประทานอาหารที่มหานคร อีทเทอรี่ จำนวน 1,000 บาท จำนวน 1 รางวัล
รางวัลที่
9 - บัตรรับประทานอาหารที่มหานคร อีทเทอรี่ จำนวน 1,000 บาท จำนวน 1 รางวัล
ข่าวที่ 3 คิงเพาเวอร์แจกSPECIAL
CODEส่งท้ายปีลดสูงสุด 20%+5%
คิง เพาเวอร์ แจกโค้ดช้อปรอบสุดท้าย! WEEKEND SPECIAL
CODE ลดสูงสุด 20% ลดเพิ่ม 5%เมื่อช้อปครบ 12,000 บาท ช้อปสินค้า DUTY
FREE กับ คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ ตั้งเเต่ 31
ธ.ค. 65 - 1 ม.ค. 66 คุ้มเกินห้ามใจกับโค้ดลดเพิ่มสุดพิเศษ
รหัสส่วนลด WSC3
สินค้า DUTY FREE สุดฮอต มีไฟลต์บิน ต้องรีบช้อป!
รับสินค้าที่สนามบิน ช้อปได้ทั้งขาเข้าและขาออก
วันที่ 31 ธ.ค.65 เริ่มช้อปได้เลย!
POWER DEAL ลดสูงสุด 70%
คิง เพาเวอร์ 31 ธ.ค. 65 นี้ เท่านั้น! กับสินค้าโดนใจดีลสุดคุ้มราคาพิเศษ
ลดทันทีไม่มีขั้นต่ำ ไม่ต้องใส่รหัสส่วนลด
ข่าวที่ 4 ททท.ปลุกเคาน์ดาวน์ปิดจ็อบปี’65รายได้เข้าเป้า1.5ล้านล้าน
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) เปิดเผยว่าจะกระตุ้นท่องเที่ยวเพิ่มรายได้ช่วงเทศกาลวันหยุดจัด
Amazing Thailand Countdown 2023 ในธีม “สร้างความสุขและความหวังคืนสู่หัวใจคนไทยอีกครั้ง” โดย
ททท.รับผิดชอบจัดเอง 2 พื้นที่หลัก ได้แก่ ท่าวัดโพธิ์ กรุงเทพมหานคร และ ลานอรรถกระวีสุนทร อำเภอหาดใหญ่
จังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2565 – 2 มกราคม 2566 คาดจะมีคนเที่ยวในประเทศ
3.14 ล้านคน-ครั้ง และเคาน์ดาวน์ประเทศทั้ง 5 ภูมิภาค
รวมแล้วสามารถสร้างเม็ดเงินสะพัดทั่วไทยรวมกว่า 11,200 ล้านบาท
ซึ่งจะเป็นแรงหนุนทำให้รายได้ภาพรวมท่องเที่ยวปี 2565
ทั้งจากตลาดในประเทศและต่างประเทศ เข้าเป้า 1.5 ล้านล้านบาท เนื่องจากไทยเที่ยวไทยเห็นสัญญาณการฟื้นตัวชัดเจนได้อานิสงส์จากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่าง
“เราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 ส่วนขยาย” และ “โครงการคนละครึ่ง” ส่วนต่างประเทศไทยเที่ยวไทยก็ทำได้แน่นอน 11.5 ล้านคน
โดยเฉพาะรายได้ท่องเที่ยวจากเทศกาลส่งท้ายปีเก่า
ต้อนรับปีใหม่ 2566 ใน 2 พื้นที่
2 งาน
งานแรก “Amazing Thailand
Countdown 2023” ท่าวัดโพธิ์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ระหว่าง 31 ธันวาคม 2565-1
มกราคม 2566 ชูแนวคิด
“รุ่งอรุณแห่งศรัทธา ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2566” ชมไฮไลท์สำคัญการแสดงพลุนับถอยหลังส่งท้ายปีเก่า
ต่อเนื่องกับชุดการแสดงพลุ 9 องก์ ระยะเวลา 5 นาที สวยงามอลังการกลางแม่น้ำเจ้าพระยาใจกลางกรุงเทพมหานคร
สื่อถึงวิวัฒนาการการท่องเที่ยวไทยจากอดีตจนถึงปัจจุบัน
เบื้องหน้าแลนด์มาร์กสำคัญของประเทศอย่าง “พระปรางวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร” จะประดับตกแต่งด้วยแสงสี Light up อย่างสวยงาม
รวมทั้งได้นำทัพศิลปินระดับประเทศมาโชว์พลังส่งมอบความสุข
ได้แก่ บอย โกสิยพงศ์ โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ รัดเกล้า อามระดิษ เจนนิเฟอร์ คิ้ม นภ
พรชำนิ พร้อมศิลปินจากเดอะวอยซ์ ควบคู่งานนิทรรศการดิจิทัล (Illumination Art) จากผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
งานที่ 2 Amazing Thailand Countdown 2023 @ Hatyai ลานอรรถกระวีสุนทร
อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เริ่ม 29 ธันวาคม 2565-1 มกราคม 2566 เน้นขอบคุณนักท่องเที่ยวมาเลเซียและตลาดระยะใกล้ที่ยังคงให้ความเชื่อมั่นเลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทางเข้ามาใช้จ่ายเงินอย่างเต็มที่
ภายในงานจะประดับตกแต่งไฟสวยงาม โดยมีแลนด์มาร์ค
“LIGHTING TOWER” ออกแบบโดย KOB KOR BOR VOR ศิลปินไทยรางวัลชนะเลิศ Mapping Design
สวิตเซอร์แลนด์
ตลอดงานนักท่องเที่ยวจะได้ตื่นตากับเสน่ห์
“หรอยแรงแหล่งใต้”มีผู้ประกอบการร่วมออกร้านขายอาหารและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มากกว่า 50
ร้านค้า บนถนนคนเดิน “POWER OF HATYAI”
ถนนนิพัทธ์อุทิศ 3 สนุกกับคอนเสิร์ตของเหล่าศิลปินที่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น
TELEX TELEXS, ส้ม มารี, SERIOUS BACON, PATRICK
ANANDA, ZWEED N’ ROLL และ MODERNDOG และ DJ
ชั้นนำของเมืองไทย ปิดท้ายด้วยพลุเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่สวยงามตระการตากลางเมืองหาดใหญ่ร่วมนับถอยหลังยามค่ำคืนนำความสุขรับศักราชใหม่
2566
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ
รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ ททท. กล่าวว่า จะนำทีมไปร่วมเคาน์ดาวน์ Amazing Thailand Countdown 2023 @ Hatyai ในวันที่ 30 ธันวาคม นี้
เพื่อต้อนรับและขอบคุณนักธุรกิจมาเลเซีย 30 บริษัท
ซึ่งผู้ประกอบการรถบัสท่องเที่ยวนำชาวมาเลเซียผ่านแดนเข้ามาเที่ยวหาดใหญ่
คาดตลอดปี 2565 จะเที่ยวเมืองไทยรวมแล้วไม่น้อยกว่า 2
ล้านคน
โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ โรงแรมที่พักจองเต็มเกือบ 100 % ทำให้เศรษฐกิจกลับมาคึกคักเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
ซึ่งขณะนี้มีนักท่องเที่ยวมาเลเซียผ่านเข้ามาเที่ยวเมืองไทยผ่านชายแดนทางบกวันละกว่า
20,000 คน ยิ่งช่วงเทศกาลวันหยุดจะมีมากที่สุดถึงวันละ 30,000
คน
ข่าวที่ 5 CEOบางจากปลุกInnovation Clubปั้นสตาร์ตอัพรับจีนย้ายฐานมาไทย
CEO บางจากจัด
Innovation Club Thailand Strategic Board Dinner
ปลุกพลังสมาชิก
Innovation Club ระดมสมองใช้ “นวัตกรรมสร้างสมดุลพลังงาน”
ปั้นสตาร์ต อัพ รองรับบริษัทจีนย้ายฐานเข้าไทย ผลักดันไทยผงาด Hub
เอเชีย
นายชัยวัฒน์
โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บางจากจัดงาน Innovation
Club Thailand Strategic Board Dinner ครั้งที่
3 ขึ้น สำนักงานใหญ่จึงได้ใช้เวทีนี้ปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ
“การสร้างสมดุลด้านพลังงานด้วยนวัตกรรม”ต้อนรับผู้นำระดับสูงขององค์กรภาคธุรกิจ
ภาคการศึกษา ที่เข้ามาร่วมพบปะแสดงความคิดเห็นเรื่องนวัตกรรมร่วมกัน
โดยใช้โอกาสนี้นำเสนอนวัตกรรมพลังงานชูความท้าทายและผลที่เกิดจากความต้องการพลังงานของมนุษย์
นับวันจะเพิ่มทวีคูณขึ้น จำเป็นจะมุ่งพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีต่าง ๆ
เพื่อดูแลสมดุลด้านพลังงานสู่ความยั่งยืน เช่น กระบวนการ Synthentic
Biological เพื่อช่วยกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์
เทคโนโลยีการกักเก็บพลังงาน (Supercapacitor (High Power) กับแบตเตอร์รี่ (High Energy)) และเทคโนโลยี Gold Hydrogen
ภายในงาน
นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
(มหาชน) และ xLab Digital ในฐานะเลขานุการ Innovation Club Thailand ได้นำสมาชิก
Innovation Club พูดคุยแลกเปลี่ยนหารือประเด็นต่าง ๆ เรื่องทุกภาคส่วนจะร่วมกันสนับสนุนและส่งเสริมให้สตาร์ทอัพของไทยสามารถแข่งขันและขยายกิจการสู่ระดับสากล
(Scale-up) เติบโตจนสามารถแข่งขันได้ในเวทีโลกรวมทั้งวางแนวทางรองรับการย้ายฐานของบริษัทจีน
(Relocation) มายังประเทศไทย
เรื่อยไปจนถึงการสนับสนุนเรื่องข้อกำหนดและกฎหมายจากภาครัฐอีกหนึ่งปัจจัยช่วยหนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางหรือ
Hub ในภูมิภาคเอเชียได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ช่วงที่ 2 เที่ยวส่งท้ายให้จุใจใกล้กรุงเทพฯ
กับ “เคาน์ดาวน์ ภาคตะวันออก” ชมพลุสวยงามสว่างไสวทั่วท้องทะเลอ่าวไทย
และเกาะติดข่าวแห่งปี ข่าวแรก “AWC ซื้อโรงแรมดุสิตดีทู”
รวมพอร์ต1.2หมื่นล้าน ข่าวที่สอง
“กทม.เปิดฟรีรถบัสไฟฟ้าเที่ยว4ตลาดน้ำตลิ่งชัน”
ทุกเสาร์-อาทิตย์
ท่องเที่ยว -ชวนเคาน์ดาวน์ตะวันออกชมพลุสวยงามทะเลอ่าวไทย4แห่ง
ออกเที่ยวตามคำแนะนำของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) ส่งท้ายความสุข Amazing Thailand Countdown 2023 “ภาคตะวันออก”
ตั้งแต่ 29 ธันวาคม -2 มกราคม 2566
ไฮไลต์ตามสถานที่ท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาตินิยม 4 พื้นที่ 4 งาน ประกอบด้วย
พื้นที่ 1 PATTAYA COUNTDOWN 2023
ระหว่าง 29 - 31 ธันวาคม 2565 จัดยิ่งใหญ่ตระการตา บริเวณ ลานสีฟ้า
ท่าเทียบเรือท่องเที่ยวเมืองพัทยา (แหลมบาลีฮาย) จ.ชลบุรี
ปิดพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวเข้าร่วมกิจกรรมความบันเทิงส่งท้ายปีแบบเต็มคาราเบล
สร้างภาพจำอันงดงาม “พัทยาเคาท์ดาวน์ 2023” เมืองท่องเที่ยวมีชื่อเสียงติดอันดับโลกแห่งท้องทะเลอ่าวไทย
ส่วนไฮไลต์พื้นที่ชม
“พลุปีใหม่” ยิ่งใหญ่ตระการตาด้วยโปรดักชั่น แสง สี เสียง 2 จุดหลัก ได้แก่
จุดที่
1 ท่าเทียบเรือท่องเที่ยวแหลมบาลีฮาย
ในงาน Pattaya Countdown 2023 วันที่
วันที่
31
ธันวาคม 2565
จัดที่
2
เกาะล้าน วันที่ 31
ธันวาคม 2565 ชมพลุสุดอลังการระดับประเทศ
พร้อมชมมหกรรมคอนเสิร์ต
ซึ่งทางเมืองพัทยาประกาศ เตรียม ปิดการจราจร”
พื้นที่เชื่อมโยงจัดงาน Pattaya Countdown 2023 วันที่ 31
ธันวาคม
2565 ได้แก่
1.ถนน
Walking Street Pattaya 2.สะพานต่างระดับมุ่งหน้าไปแหลมบาลีฮาย
3.สวนสาธารณะเขาพระตำหนัก
ตั้งแต่ 15.00-02.00 น. พร้อมกับจัดการจราจรให้เดินรถทางเดียว
(one way) ตั้งแต่
แยกวัดชัยมงคล - ถนนพัทยาสายสอง-ผ่านแยกพระหนัก-ขึ้นเขาพระตำหนัก- ผ่านแยก ส.ทร.5 พัทยา ไปจนถึงแยกศาลพัทยา
พื้นที่ 2 Central
Pattaya Countdown 2023 ระหว่าง 31 ธันวาคม 2566 - 1 มกราคม 2566
ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พัทยา ระดมศิลปิน พร้อมดีเจชื่อดังมากมายร่วมเวทีโชว์พลังคอนเสิร์ต
ตลอดงานพร้อมมอบความสนุกสนานให้นักท่องเที่ยวสัมผัสบรรยากาศความสุข และเปิดให้ชมพลุสุดตระการตา
พื้นที่ 3 งานปีใหม่-กาชาด จังหวัดตราด ระหว่าง 29 ธันวาคม 2565
- 2 มกราคม 2566 ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดตราด
ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ มีการออกร้านขายสินค้าและอาหารละลานตา
พื้นที่ 4 Mega
Countdown 2023 ระหว่างวันนี้- 5 มกราคม 2566 ที่เมกาบางนา
จ.สมุทรปราการ
มาพร้อมกับมหกรรม "Mega
Happiness Season 2022" ตกแต่งอย่างโดดเด่นด้วยต้นคริสมาสต์ขนาดใหญ่สูงถึง
12 เมตร เนรมิตบรรยากาศการเฉลิมฉลองสุดน่ารัก ภายใต้แนวคิด
"The Magic Factory" ส่งมอบความสุขกับทุกวัยได้
ททท.เชิญชวนกันออกมาเติมพลังบวกรับสิ่งดีก้าวข้ามปี
2565 สู่ศักราชใหม่ปี
2566 ร่วมมหกรรมความสุข งาน อะเมซิ่ง เคาน์ดาวน์
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก - AWC”ซื้อดุสิตดีทูฯรวมพ็อตที่พักช้างคลานเชียงใหม่1.29หมื่นล้าน
นางวัลลภา
ไตรโสรัส
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด
(มหาชน) “AWC” เปิดเผยว่า AWC ได้ลงนามสัญญาจะซื้อจะขาย “โรงแรมดุสิต
ดีทู เชียงใหม่” มูลค่าการลงทุน 944 ล้านบาท เร่งยกระดับเชียงใหม่ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยุทธศาสตร์ภาคเหนือ
ให้เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงศิลปะวัฒนธรรมชั้นนำของประเทศ ด้วยการพัฒนาโรงแรมคุณภาพเครือ
AWC บนทำเลศักยภาพสูงย่านถนนช้างคลาน
ที่มีจุดเด่นชัดเจนทั้งทางด้าน ศิลปะวัฒนธรรม ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ความบันเทิง
ประวัติศาสตร์ แหล่งพบปะ การประชุมสัมมนา ที่พัก ถนนคนเดิน
หลังลงนามสัญญาซื้อเรียบร้อยแล้ว
บริษัทมีแผนนำมารวมเข้ากับกลุ่มธุรกิจโรงแรมเครือ AWC ที่ตั้งอยู่ในบริเวณต่อเนื่องกันซึ่งมีมูลค่ารวมกันทั้งหมดกว่า 12,900 ล้านบาท ประกอบด้วย 4
โรงแรม
ได้แก่ 1.โรงแรมเลอ เมอริเดียน เชียงใหม่ 2.โรงแรมมีเลีย เชียงใหม่ 3.โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่
4.โรงแรมดุสิต
ดีทู เชียงใหม่
ตั้งเป้าเดินหน้าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และการท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย
โดยจะร่วมผลักดันเชียงใหม่เป็น “ศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวระดับลักชัวรี่” ของภูมิภาคควบคู่กับยกระดับการท่องเที่ยวของไทย
ประการสำคัญช่วยสร้างความแข็งแกร่งกระแสเงินสดเพื่อเพิ่มเติบโตให้บริษัทในระยะยาว
นางวัลลภา กล่าวว่า AWC รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้ผนึกกำลังกับกลุ่มดุสิตธานี
เครือโรงแรมระดับตำนานของไทย ร่วมมือในเชิงกลยุทธ์ช่วยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และการเดินทางกลุ่มตลาดซึ่งต้องการพักในทำเลย่านใจกลางเมืองอย่างสะดวกสบายเชื่อมต่อไปตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ
และแหล่งธุรกิจต่างๆ ทั่วเชียงใหม่ ไปพร้อมกับยกระดับคุณค่าเมืองท่องเที่ยวของไทย
สำหรับ
การซื้อขาย “ดุสิต ดีทู เชียงใหม่” โรงแรมซึ่งมีที่พัก 130 ห้อง ตั้งอยู่บนถนนช้างคลาน พื้นที่ติดกับ “เชียงใหม่ ไนท์บาซาร์”
แหล่งท่องเที่ยวและช้อปปิ้งชื่อดังใจกลางเมือง ซึ่งทาง AWC
ได้ใช้เงินลงทุนพัฒนาโครงการกว่า
944
ล้านบาท ประกอบด้วย
1.สัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง
ทรัพย์สินประเภทสังหาริมทรัพย์ที่ใช้ประกอบกิจการโรงแรม จากบริษัท
หลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)
ในฐานะทรัสตีของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดุสิตธานี (DREIT)
2.สัญญาจะซื้อจะขายกรรมสิทธิ์ที่ดินข้างเคียง
“โรงแรมดุสิต ดีทู เชียงใหม่” และสิ่งปลูกสร้าง จากบริษัท ดุสิต
ไทยพร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด (มหาชน)
3.สัญญาให้เช่า “โรงแรม ดุสิต ดีทู
เชียงใหม่” แก่ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เป็นระยะเวลา 3 ปี และสิทธิต่อระยะเวลาอีก 3 ปี ซึ่งดำเนินการผ่าน บริษัท
เชียงใหม่ โฮเทลล์ คอลเลกชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ AWC
ปัจจุบัน
AWC มีสินทรัพย์ในเครือในจังหวัดเชียงใหม่
ประกอบไปด้วย ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ เชียงใหม่ โรงแรมเลอ เมอริเดียน เชียงใหม่
โรงแรมมีเลีย เชียงใหม่ และเร็ว ๆ นี้ เตรียมเปิดบริการ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล
เชียงใหม่ แม่ปิง อีกแห่ง
ข่าวที่สอง -กทม.ปิ๊งนั่งฟรีเสาร์/อาทิตย์รถบัสไฟฟ้าทัวร์4ตลาดน้ำตลิ่งชัน
กรุงเทพมหานคร รายงานว่า ได้จับมือกับเครือข่ายตลาดน้ำเขตตลิ่งชัน
ส่งเสริมบริการรถสาธารณะเพื่อการท่องเที่ยวด้วยโครงการ ทดลองเดินรถบัสไฟฟ้าต้อนรับเทศกาลท่องเที่ยวส่งท้ายปี
เริ่มบริการตั้งแต่วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม 2565 เป็นต้นไป
โดยรับส่งผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางเชื่อมต่อ “สถานีรถไฟฟ้าบางขุนนนท์” หรือ MRT สายสีน้ำเงิน กับ “แหล่งท่องเที่ยว 4
ตลาดน้ำเขตตลิ่งชัน” เข้าไว้ด้วยกัน บริการทุกวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ตามเวลาจากสถานีบางขุนนนท์
คือ ระหว่าง 09.00 - 16.45 น.
นักท่องเที่ยวใช้บริการรถบัสไฟฟ้าของ
กทม.ขนาด 20 ที่นั่ง ออกแบบให้มีทางลาดสามารถนำรถเข็นเด็ก หรือรถเข็นคนพิการ ขึ้น-ลง
ได้อย่างสะดวก อีกทั้งบนรถยังมีเข็มขัดนิรภัย พร้อมอินเตอร์เน็ต wifi ฟรี จุดชาร์จโทรศัพท์
และสามารถเช็กตำแหน่งรถในเส้นทางได้ผ่านแอปพลิเคชัน ViaBus
ได้ด้วย
ตามแผนจะมีบริการ “รถบัสไฟฟ้าฟรี
เที่ยว 4 ตลาดน้ำ” กระจายตามบริเวณจุดจอดรับ-ส่ง ทั้งหมด 6 จุด ได้แก่
จุดที่ 1 สถานีรถไฟฟ้าบางขุนนนท์ ระหว่างทางออก 2 และ 3 จุดที่ 2 ตลาดน้ำสองคลองวัดตลิ่งชัน จุดที่ 3 ตลาดน้ำตลิ่งชัน จุดที่ 4 สถานีขนส่งผู้โดยสารสายใต้ตลิ่งชัน จุดที่ 5 ตลาดน้ำคลองลัดมะยม จุดที่ 6 ตลาดน้ำวัดสะพาน
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00
น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น