อย่า!!หน้ามืดทำธุรกิจแบบเดิมแก้ด่วนแรงงาน/หัวหน้า/บริหารขาดหนัก
นำโมเดลห้องพักรางวัลกินรีสร้างคัมภีร์ยกเครื่องSHAบริการปลอดภัย
คิงเพาเวอร์ชวนลุ้นบัตรฟรี“เลสเตอร์ซี้-TOTTENHAM”23ก.ค.ที่ราชมังฯ
พูลแมนคิงเพาเวอร์นัดทุกคืนวันศุกร์กับอิซากายะไนท์ลิ้มรส5จานโปรด
ททท.บูมเที่ยวไทยไฮเทคAmazing NFTs Season#3ใน40แหล่ง5ภาค
บางจากจัดทีมช่วยผู้ประกอบการทั่วไทยลุยพัฒนาเครือข่ายปั๊มน้ำมัน
เที่ยวภาคตะวันออกUnseen New Chapters “เกาะ-วัด-ถ้ำ”สงบ5พิกัด
5 เคล็ดลับสุขภาพช่วงหน้าฝนเตรียมความพร้อมปลอดภัยไร้โรคชัวร์
สิงคโปร์แอร์อัดโปรตั๋วTime
To Fly Travel Saleเริ่มต้นแค่7,890 บาท
IATAหนุนฮ่องกงเพิ่มแรงงานฟื้นการบินเร็วรุกจัดAviation
Dayส.ค.นี้
วันอาทิตย์ที่ 9 กรกฎาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ
“เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen
บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน
#เที่ยวกับกู๋ #KingPower
#TAT #TCEB #บางจาก #หลังโควิดอย่าหน้ามืดทำธุรกิจแบบเดิม #เที่ยวภาคตะวันออก #UnseenNewChapters
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/lFZVaVbfx1/
ช่วงที่ 1 ถอดรหัสโรงแรมหลังโควิด!! กับ “นางสุกัญญา จันทร์ชู”
ที่ปรึกษาธุรกิจโรงแรมไทย แนะเจ้าของกิจการและนักลงทุนเตรียมพร้อมหลังโควิด-19 อย่าหน้ามืดทำธุรกิจแบบเดิม ๆ
ต้องเร่งปลดสลักใหญ่
4 เรื่อง
“ปรับระบบจองที่พักดิจิทัล-รับมือตลาดเปลี่ยนเป็น F.I.T.-พลิกกลยุทธ์ทำตลาดแบบ New Normal ของจริง-ปลดล็อกวิกฤตขาดหัวหน้างาน/แรงงาน/ผู้บริหาร”
พร้อมเปิดประสบการณ์ตรวจโรงแรมต่างจังหวัดสมัคร “รางวัลกินรี” ปี’66 ชี้ให้ประโยชน์จาก 3 เรื่อง “มาตรฐานสินค้า บริการ
สิ่งอำนวยความสะดวก-ปัจจัยหนุนธุรกิจการตลาด-SHA ความรับผิดชอบต่อมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย
นางสุกัญญา
จันทร์ชู ที่ปรึกษาธุรกิจโรงแรมไทย เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมโรงแรมหลังสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนโรงแรมต่างต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนต่าง
ๆ สิ่งสำคัญสุดจะต้องวางแผนให้ทันการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมากเพราะมีเครื่องมือใหม่คือ
“ดิจิทัลออนไลน์” ทำให้ “พฤติกรรมของตลาดหรือนักเดินทาง” ทั้งในประเทศและทั่วโลกไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
เรื่องที่ 1 “การจองที่พัก/booking”
ปัจจุบันจองเข้าพักกระชั้นในเวลาสั้นมาก เพียง 1-2
วันเท่านั้น ถือเป็นความท้าทายอย่างมากในการบริหารที่พักของโรงแรมในเมืองไทย
แตกต่างจากอดีตจองล่วงหน้าก่อนเดินทางเข้ามาไทยหรือ on hand มีเวลาค่อนข้างประมาณ 60-90 วัน และช้าที่สุด 5-10 วัน
เปรียบเทียบก่อนสถานการณ์โควิด-19
เคยบริหารกันอย่างไรก็จะนำรูปแบบเดิมกลับมาใช้ทำธุรกิจ
ไม่ว่าจะเป็นการโอเปเรชั่นที่พัก การฝึกทักษะคนทำงาน
โดยเฉพาะการกำหนดสัดส่วนคนบริการกับห้องพัก
เช่น ตั้งเป้าอัตราเข้าพักไว้ 80 % ก็จัดสรรคนไว้รองรับเท่ากันที่
80 %
แต่ในความเป็นจริงแล้วอัตราการเข้าพักไม่สามารถทำได้ 80 % ทุกวัน เพราะบางวันอาจจะมีเพียง 30-40-50 % เท่านั้น เพราะประเด็นนี้มีผลกระทบต่อ
“ต้นทุนค่าใช้จ่าย” กับ “รายได้” ที่จะเข้ามาในแต่ละเดือนด้วย
เรื่องที่ 2 แต่ละกลุ่มตลาดเป้าหมาย/Segment จะเดินทางมาแบบเดี่ยว ๆ โดยลำพัง (F.I.T.) ต่างจากเดิมจะมาเป็นกลุ่มคณะ (G.I.T.)
ซึ่งผู้บริหารโรงแรมจะต้องทำความเข้าใจกับปรากฏการณ์ใหม่ของตลาดภาพรวม
ถึงแม้ขณะนี้จะมีสัญญาณที่ดีจากปริมาณนักท่องเที่ยวออกเดินทางเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
หลังอั้นอัดไม่ได้เที่ยวช่วงโควิดมานานกว่า 3 ปี
จึงส่งผลทำให้โรงแรมในเมืองไทยซึ่งเคยตระหนักถึงการปรับตัวตาม “New Normal หรือวิถีใหม่” เริ่มจะหายไป
เพราะตอนนี้พอมีอัตราการเข้าพัก (OR
-Occupacy rate)
เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็จะทำให้เกิด “ความเข้าใจผิด ๆ”
ว่าธุรกิจท่องเที่ยวจะเติบโตดีเหมือนอดีต แล้วก็หันมา “ทำการตลาดแบบเดิม ๆ” จึงเป็นจุดอ่อนที่จะทำให้โรงแรมกลับมาบาดเจ็บใหม่ได้อีกครั้ง
(pain point)
เพราะธุรกิจอาจจะไม่ได้เป็นช่วงขาขึ้นได้ตลอดอีกต่อไป
ทุกวันนี้จะสื่อสารแนวโน้มดีออกมาเฉพาะบางพื้นที่บางจังหวัดเท่านั้นไม่ได้ประมวลผลภาพรวมออกมาทั้งประเทศ
เพราะหลายจังหวัดการท่องเที่ยวไม่ดีก็ไม่ค่อยจะได้พูดถึงกันมากนัก
เรื่องที่ 3 การทำตลาดการขายที่พักโรงแรมในยุคดิจิทัล
ขณะนี้ยังไม่มีสูตรตายตัว ขึ้นอยู่กับสถานการณ์โดยระหว่างผู้ขายกับผู้ต้องการซื้อ
จะเห็น “ตลาดจะผันผวนตามสถานการณ์”
อยู่ตลอดตอนนี้เป็นยุคดิจิทัลการจองที่พักคาดการณ์ค่อนข้างยาก
ดังนั้นผู้บริหารจึงต้องเข้าไปดูเรื่อง 1.แผนปฏิบัติการทำงาน
2.ต้นทุนค่าจ้างแรงงาน 3.ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในโรงแรม เช่น วัตถุดิบอาหาร
ปี 2566 นักการตลาดควรจะไปนำตัวเลขสถานการณ์จริงปี 2562 ก่อนสถานการณ์โควิด-19 มาเปรียบเทียบให้ชัดเจนทั้งเรื่อง
อัตราการเข้าพักโรงแรมของตนเอง กับค่าใช้จ่ายเฉลี่ยขั้นพื้นฐาน
ซึ่งจะมีทั้งดีขึ้นและต่ำลงได้
เรื่องที่ 4 บุคลากรบริการในโรงแรมขาดแคลนทุกระดับ
ตั้งแต่แม่บ้าน ไปจนถึงผู้บริหาร ซึ่งตามปกติในเมืองไทย
“อายุเฉลี่ยคนที่เข้ามาทำอาชีพบริการ” จะประมาณ 35-45 ปี
เพราะส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการใช้ “แรงงาน” ค่อนข้างมาก ซึ่งช่วงเกิดโควิด-19 คนวัยเหล่านี้ได้ออกจากระบบงานไปเกือบ 100 % พากันกลับไปทำอาชีพใหม่ผ่านไป 3 ปี
พอสถานการณ์กลับสู่ปกติแรงงานเหล่านี้อาจจะยังมีไฟอยู่แต่เมื่อออกไปแล้วทั้งกลุ่มใช้แรงงานและบริหาร
จึงจะต้องรอเวลาอีกไม่น้อยกว่า 2 ปี
หากจะดึงคนที่มีทักษะบริการกลับเข้าสู่ตลาดอาชีพเดิม
ปี 2566 โรงแรมขาดแคลนมากที่สุดคือ “หัวหน้างาน”
ซึ่งต้องสั่งสมประสบการณ์ทำงาน
ผ่านการฝึกอบรมมาจากหลายแผนกกว่าจะมีความรู้ความเข้าใจระบบการทำงานของโรงแรมแต่ละแห่ง
ดังนั้นเจ้าของกิจการกับผู้บริหารยุคนี้จะต้องหาวิธีทำอย่างไรเพื่อผลักดันพนักงานปัจจุบันในองค์กรให้มีทักษะพร้อมขึ้นมาเป็นหัวหน้างานต่อไป
ส่วนระดับ
“แรงงานทั่วไป” ทางโรงแรมพอจะมีทางออกด้วยวิธี “จับมือกับสถาบันการศึกษา”
ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องทำ เพื่อดึงนักเรียน นักศึกษา
เข้ามาทำงานสร้างสมประสบการณ์
สร้างความมั่นใจให้เยาวชนที่ตั้งใจทำงานโรงแรมแล้วจะเกิดความปลอดภัย
มั่นใจทั้งสองฝ่ายด้วย ปัจจุบันยังมีกำแพงความคิดอยู่ตรงโรงแรมจะมองเด็กเหล่านี้ไม่สู้งาน
ดังนั้นจะต้องเปิดโอกาสให้เด็กได้ทดลองเข้ามาพิสูจน์ความสามารถบ้าง
นางสุกัญญา
กล่าวว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และการผลักดันของนายประกิจ ชินอมรพงษ์
ผู้บริหารโรงแรมหลายแห่งและเคยเป็นกรรมการสมาคมโรงแรมมาหลายสมัย
ให้เข้าไปเป็นหนึ่งในกรรมการลงพื้นที่ตรวจสถานประกอบการโรงแรมตามต่างจังหวัดที่เสนอชื่อเข้าชิง
“รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย :Thailand
Tourism Awards” หรือรางวัล “กินรี” ประจำปี 2566 จัดเป็นครั้งที่ 14 ซึ่งนับเป็นรางวัลตุ๊กตาทองของวงการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย
จะประกาศผลตรงกับวันท่องเที่ยวโลก วันที่ 27
กันยายน
นี้
รางวัลกินรีมีกฎเกณฑ์ที่กรรมการจะต้องพิจารณาให้คะแนน
3 เกณฑ์หลัก ได้แก่ เกณฑ์ที่ 1 Hotel
Exellence /จุดแข็งของโรงแรมที่ได้มาตรฐานสินค้าและบริการ
เกณฑ์ที่ 2 Supporting & Business Marketing Factor/ปัจจัยสนับสนุนธุรกิจทำตลาดการขาย
เกณฑ์ที่ 3 Responsibility SHA :Safety and Health Administration/ความรับผิดชอบที่มีต่อมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย
สำหรับรางวัลดังกล่าวนื้ถือว่ามีค่าเป็นประโยชน์กับธุรกิจโรงแรมแต่ละแห่งอย่างมาก
นอกจาก ททท.จะทำการตรวจให้เอกชนฟรีแล้ว
ยังมีผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ให้คำแนะนำการปรับปรุงแก้ไขโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายด้วย
เริ่มตั้งแต่ ส่วนที่
1 Hotel Exellence จะดูทั้งหมดถึงสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง
แม้กระทั่งการจดทะเบียน ป้ายชื่อ โรงแรม เพื่อตรวจซ้ำถึงความถูกต้องทั้งหมด
ถือเป็นมาตรฐานระดับประเทศ National
Standard
ส่วนที่ 2 Support & Business Marketing Factor จะช่วยแนะเรื่องโรงแรมกับการดึงชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมรับผิดชอบด้านการท่องเที่ยว
เป้าหมาย วิสัยทัศน์ พันธกิจ
สอดคล้องตรงตามความเป็นจริงหรือไม่ มีวิธีทำวิเคราะห์สภาพแวดล้อมและศักยภาพของธุรกิจ
(Swot Analysis)
ส่วนเรื่องการทำตลาดก็จะบอกแนวทางต่าง ๆ ลูกค้าเป้าหมายหลัก นักท่องเที่ยว การขาย
กำหนดราคาค่าที่พัก รวมทั้งการนำดีลลูกค้ามาสร้างให้เกิดประโยชน์กับโรงแรมหย่างไร
เรื่อยไปจนถึงมาตรฐานการสื่อสารและบริการ
เรื่องสำคัญที่สุดของโรงแรมต่างจังหวัดในไทยคือ
“ความรับผิดชอบด้านความปลอดภัยทางด้านสุขอนามัย /Responsibilty & Safety Health Administration จะเข้าไปช่วยดูเรื่องการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม
การจัดการพลังงาน น้ำ ภายในโรงแรม
เพราะหลายโรงแรมขาดความรู้ความเข้าใจใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
เพราะเรื่องเหล่านี้พูดอย่างเดียวไม่ได้
ทางโรงแรมจะต้องจัดเก็บข้อมูลการบำบัดดูแลน้ำเสีย การจัดการขยะ โดยมีผู้ที่มีความรู้และเชี่ยชาญเข้าไปแนะนำอย่างถูกต้อง
ทุกวันนี้ผู้ประกอบการบางส่วนอาจจะทำธุรกิจแบบหน้ามืดอยากมีรายได้
แล้วโรงแรมหลายแห่งในต่างจังหวัดก็ยังเห็นภาพการพัฒนามาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย
หรือ SHA แบบเบลอ ๆ
เพราะบางครั้งบางโรงแรมไม่ได้จดบันทึกจัดเก็บข้อมูล หรือหวังพึ่งแต่ตลาดเดิม ๆ
ซึ่งเข้าใจได้เพราะแต่ละโรงแรมก็ต้องการรับเงินจากการจองจนถึงยอดสุดท้ายในแต่ละวัน
สถานการณ์ตอนนี้ด้วยปัจจัยของธุรกิจที่เกิดขึ้น
จึงถือเป็น “ความท้าทาย” ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแก้ไขแล้วร่วมด้วยช่วยกันใช้ประโยชน์จาก
“รางวัลกินรี” ของ
ททท.ทำให้ห่วงโซ่อุปทานกับผู้ประกอบการโรงแรมไทยลุกขึ้นยืนหยัดความแข็งแกร่งทั้งปัจจุบันและในอนาคตได้
และหากต้องการพลิกโฉมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวก็ควรจะร่วมมือกันทำมาตรฐานใหม่อย่างจริงใจ
เป็นประโยชน์โดยรวมกับประเทศที่จะเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ต่อไป
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่
1 คิงเพาเวอร์ชวนลุ้นบัตรฟรี“เลสเตอร์ซี้- TOTTENHAM”23ก.ค.ที่ราชมังฯ
กลุ่มบริษัท
คิง เพาเวอร์ ชวนแฟนจิ้งจอกสยามร่วมส่งเสียงเชียร์ทีม “เลสเตอร์ซิตี้” สโมสรระดับอินเตอร์ของคนไทย
เพื่อลุ้นรับฟรี! บัตรชมการแข่งขันในเมืองไทย ระหว่าง “TOTTENHAM HOTSPUR vs LEICESTER CITY” วันที่ 23 กรกฎาคม 2566 mujราชมังคลากีฬาสถาน
กรุงเทพฯ เปิดให้ลุ้นบัตรดูฟุตบอลฟรี 10 รางวัล รางวัลละ 2 ใบ ร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันนี้ - 16 กรกฎาคม 2566 แล้วรอฟังประกาศผลผู้โชคดี
วันที่ 17 กรกฎาคม 2566 ผ่านทาง Facebook
King Power
สามารถเข้าร่วมสนุกกับกติกาง่าย
3 วิธี คือ
1.กดติดตาม Line / Facebook / IG / TikTok และ Twitter
ของ King Power Official
2.แคปหน้าจอการติดตาม พร้อมแสดง “หลักฐานที่บ่งบอกความเป็น The Foxes
ของคุณ” คอมเมนต์ใต้โพสต์นี้เลย
3. LIKE &
SHARE โพสต์นี้ ตั้งค่าเป็นสาธารณะ
สำหรับ
สิทธิ์ในการรับรางวัลจากกิจกรรมนี้ “ไม่สามารถโอนให้ผู้อื่นได้” ในทุกกรณี
หากคณะกรรมการพบว่าผู้ใดมีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต
คณะกรรมการจะตัดสิทธิ์ในการรับรางวัลทันที และไม่อนุญาตให้พนักงานของบริษัท คิง
เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัทในเครือไม่มีสิทธิ์รับรางวัลดังกล่าว
เมื่อตกลงปฏิบัติตามกติกาหรือเงื่อนไขที่กำหนดเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว
แล้วถือว่าแต่ละคนได้ตกลงยินยอมให้กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ (“บริษัทฯ”)
เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของทุกคนเพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการที่จำเป็นเพื่อทำกิจกรรมดังกล่าว
ทั้งนี้บริษัทฯ
ให้ความสำคัญและถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)
ข่าวที่ 2 พูลแมนคิงเพาเวอร์นัดทุกคืนวันศุกร์กับอิซากายะไนท์ลิ้มรส5จานโปรด
โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ ทำให้ทุกคืนวันศุกร์มีนัดกับ “อิซากายะ ไนท์” ที่
“ห้องอาหารเท็นชิโนะ” ซึ่งเปิดทุกวันพุธ - วันอาทิตย์ ตั้งแต่ 18.00
- 23.00 น. พร้อมมอบความอิ่มอร่อยกับอาหารเลิศรสสไตล์ อิซากายะ และเครื่องดื่มเย็น
ๆ ชื่นใจในฉบับญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม พร้อมโยกตัวเบา ๆ ไปกับการแสดงดนตรีสด ตั้งแต่ 19:30
-21.00 น.
มีเมนูอาหารจานโปรดสั่งแบบ a la carte
หรือจานเดี่ยว ๆ ด้วยรสชาติระดับพรีเมียมด้วยไฮไลต์ จองออนไลน์ลดทันที 20 %
เริ่มด้วย จานแรก “ซี่โครงแกะหมักชิโอะโคจิย่าง” ลิ้มรสชาติเนื้อนุ่ม
ๆ สุดแสนจะอร่อย
จานที่ 2 กุ้งล็อบสเตอร์อบเสิร์ฟพร้อมโชริโซ ซอสบัลซามิค ดื่มด่ำกับรสชาติอันยอดเยี่ยเนื้อล็อบสเตอร์แน่นสดใหม่
จานที่ 3 “ไก่ม้วนฝรั่งเศสเสิร์ฟพร้อมตับเป็ด”
ให้ทุกค่ำดำดิ่งสู่ความอร่อยได้อย่างมีความสุข
จานที่ 4 “ปลาซาร์ดีนย่างเสิร์ฟพร้อมพาร์สลีย์ออยและฮัมมูสบีทรูท”
ลิ้มลองประสบการณ์การผสมผสานที่เย้ายวนของปลาเนื้อนุ่ม ๆ ได้ตลอดทุกจาน
จานที่ 5 “เมนูทีรามิสุรสส้มยูซุ” เติมความหวานซ่อนเปรี้ยว
เพิ่มความสดชื่นหลังมื้อค่ำ
สอบถามเพิ่มโทร 02 680 9999 หรือ H6323-FB5@ACCOR.COM
ข่าวที่
3 ททท.บูมเที่ยวไทยไฮเทค Amazing NFTs Season3ใน40แหล่ง5ภาค
นางรุจิรัศมิ์ ฉัตรเฉลิมกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายบริการการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้จัดทำ Amazing Thailand NFTs Season 3 โครงการต่อเนื่องการต่อยอดนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาดส่งเสริมการท่องเที่ยวและเพิ่มมูลค่าการเดินทางตามสถานที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศ 40 แหล่ง 5 ภูมิภาค สนามบิน 32 แห่ง สถานีขนส่งรถโดยสาร 8
แห่ง ร้านค้าและสถานประกอบการ 30 แห่ง โดยมีทีม Riety Studio สร้างสรรค์ผลงานศิลปะ NFT สะท้อนความเป็นไทยผ่านรูปแหล่งท่องเที่ยวแตกต่างกันทั้ง
5 ภูมิภาค จำนวนรวม 55,000 ชิ้นงาน
แบ่งออกเป็น NFT ที่สะสมได้ตามจุดแหล่งท่องเที่ยว 40 แหล่ง รวม
50,000 ชิ้นงาน และ NFT
สินค้าและบริการของพันธมิตรท้องถิ่น 5 รูปแบบ รวม 5,000 ชิ้นงาน ซึ่งแต่ละพื้นที่พร้อมแจก NFT ระดับ Rare
ที่มีความโดดเด่นเรื่องการสร้างสรรค์และโดดเด่นน่าจดจำชิ้นงาน
NFT ด้วย
โครงการ Amazing
Thailand NFTs Season 3 นำเสนอด้วยแนวคิด From NFT to Trip เล็งเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคนรุ่นใหม่และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่นิยมสะสม
NFT เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง
ๆ เชื่อมโยงศิลปะกับแหล่งท่องเที่ยวเข้าด้วยกัน
ควบคู่การผสานความเป็นไทยผ่าน Digital Art ด้วยวิธีเก็บสะสม Generative-Art-NFT เป็นที่ระลึก ในโอกาสปีท่องเที่ยวไทย
2566 ซึ่ง ททท.ร่วมมือกับพันธมิตรผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยมอบสิทธิประโยชน์ระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว
ส่งมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวมิติใหม่ สร้างคุณค่าให้ทุกการเดินทางมีความหมายมากขึ้น
ช่วยส่งเสริมเครือข่ายผู้ถือครอง Digital Asset ในไทยได้ด้วย
ดังนั้น ททท.จึงเชิญชวนออกเดินทางท่องเที่ยวทั่วไทยเพื่อร่วมสะสม NFT จากแหล่งท่องเที่ยว เพื่อรับสิทธิประโยชน์เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีชิ้นเดียวในโลกซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนได้ แล้วยังได้รับส่วนลดพิเศษที่จะนำไปใช้บริการสถานประกอบการ
รวมกว่า 40 ราย โดยมีทั้งศูนย์การค้า
ผู้ให้บริการ E-Commerce ระบบขนส่งมวลชน โรงแรม/ที่พัก ระบบการจองบริการด้านการท่องเที่ยว
ร้านอาหาร รวมถึงบริการด้านไลฟ์สไตล์
ขณะที่ “ผูะสม NFT” จะสามารถเลือกสินค้าและบริการของพันธมิตรท้องถิ่นเพื่อใช้สิทธิประโยชน์ในพื้นที่ได้ทันที
จากผู้ประกอบการพันธมิตรท้องถิ่น 5 ประเภท ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม (Food
& Beverage) เวลเนส สถานที่พัก ( Accommodation) กีฬาและกิจกรรมกลางแจ้ง
(Sports & Outdoor) ช้อปปิ้งและไลฟ์สไตล์ (Shopping
& Lifestyle)
นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมกิจกรรม แล้วเก็บสะสม NFT ผ่านทางแอปพลิเคชัน
YAKS ดาวน์โหลดใช้งานได้ทั้งระบบ iOS และ Android ได้ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม - 31 สิงหาคม 2566 แล้วนำไปใช้ภายใน 31
ธันวาคม 2566 สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับจำนวนและเงื่อนไขของแต่ละพันธมิตรที่เข้าร่วมโครงการ
ขณะเดียวกัน
ททท.ยังจะจัดกิจกรรม On
Ground Event ทำประชาสัมพันธ์เชิงรุกเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรม
5 พื้นที่ 5 ภูมิภาค ประกอบด้วย
พื้นที่แรก
ภาคใต้ ระหว่าง 7-9 กรกฎาคม 2566 ที่ สงขลา บีช ไลฟ์ จ.สงขลา
พื้นที่
2 ภาคอีสาน วันที่ 22 กรกฎาคม 2566 ในงาน YAMS Nation
Tour จ.ขอนแก่น
พื้นที่ 3 ภาคตะวันออก วันที่ 28-30 กรกฎาคม 2566 ที่ โรบินสันฟู้ด จ.ฉะเชิงเทรา
พื้นที่ 4 ภาคกลาง วันที่ 2-6 สิงหาคม 2566 ในเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
กรุงเทพมหานคร
พื้นที่ 5 ภาคเหนือ วันที่ 11 สิงหาคม 2566 ในงาน YAMS Nation Tour จ.เชียงใหม่
ข่าวที่
4 บางจากจัดทีมช่วยผู้ประกอบการทั่วไทยพัฒนาเครือข่ายปั๊มน้ำมัน
นายเสรี อนุพันธนันท์
รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น
จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงโครงการของบางจาก ว่า นำ DNA สำคัญที่ได้รับการหล่อหลอมภายในองค์กร และนับเป็นจุดแข็งช่วยส่งเสริมความแน่นแฟ้นและสัมพันธ์ที่ดีระหว่างทีมงานบางจากฯ
และผู้ประกอบการสถานีบริการได้ตกลงร่วมเป็นพันธมิตรธุรกิจ ด้วยทีมพัฒนาเครือข่าย ทีมสถาปนิก
และทีมวิศวกรรมที่ดูแลตั้งแต่การก่อสร้างสถานีบริการ การจัดทีมงานเข้าไปเป็น “พี่เลี้ยง”
ผู้ประกอบการแต่ละแห่งก่อนเปิดให้บริการ
จนกระทั่งสามารถบริหารงานได้อย่างไม่ติดขัด
พร้อมกับมี
“ทีมเข้าไปตรวจเยี่ยมและให้คำปรึกษา” เป็นประจำทุกเดือน ให้ดูแลอย่างครอบคลุม
ตั้งแต่การสนับสนุนรายการส่งเสริมการขาย การอบรมคุณภาพงานบริการและตรวจสอบคุณภาพน้ำมัน
การให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ การพัฒนาธุรกิจเสริม
ไปจนถึงการจัดประชุมทั้งกลุ่มย่อยและการจัดสัมมนาประจำปี เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการโดยนำความเห็นต่าง
ๆ มาปรับปรุงและพัฒนางานให้ดียิ่งขึ้น
เนื่องจากผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันเป็นพันธมิตรหลักและเป็นตัวแทนส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการ
สู่ผู้บริโภค บางจากจึงเข้าไปช่วยดูแลโดยใช้หลัก 4Es ดังนี้
E1 -Equality ดูแลอย่างเหมาะสมด้วยความเท่าเทียมกัน
เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถบริหารปั๊มได้อย่างมีประสิทธิภาพ
E2 -Equity ดูแลอย่างทั่วถึง เพื่อเสริมศักยภาพให้ผู้ประกอบการ เช่น
ฝึกอบรมผู้ประกอบการและพนักงาน จัดอบรมผู้ประกอบการรุ่นใหม่
E3 -Empathy คือ รู้จักและเข้าใจ พร้อมให้ความช่วยเหลือและรับฟัง
แก้ไขปัญหาในทุกโอกาสและสถานการณ์
E4 -Easy สะดวกรวดเร็วในการทำงาน การเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด
พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะและคำแนะนำต่างๆ เพื่อนำไปปรับปรุงการทำงานอย่างต่อเนื่อง
เพราะในช่วงเวลาที่ท้าทายหรือสถานการณ์อันยากลำบาก
แล้วบางจากฯ
ก็อยู่เคียงข้างในฐานะพันธมิตรที่พร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการสถานีบริการอย่างต่อเนื่อง
เช่น เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
ก็พร้อมช่วยเหลือเพื่อบรรเทาภาระของผู้ประกอบการให้ผ่านพ้นวิกฤตไปด้วยกัน เช่น
จัดหาและสนับสนุนค่าฉีดวัคซีนทางเลือกให้กับผู้ปฏิบัติงานในปั๊ม
จัดส่งรถโมบายเคลื่อนที่เร็วเพื่อตรวจคัดกรองโควิด-19 ให้พนักงาน จัดส่งชุดตรวจ ATK และ Survival Kits
ส่วนในสถานการณ์ภัยพิบัติอย่างน้ำท่วมหรือเหตุการณ์ความไม่สงบอันไม่พึงประสงค์
บางจากฯ ก็ให้ความช่วยเหลือมอบเครื่องอุปโภคบริโภคอย่างเร่งด่วน รวมถึงเข้าไปสนับสนุนปรับปรุงสถานีบริการภายหลังจากประสบภัยพิบัติทันที
ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า
30 ปี ในเส้นทางธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน บางจากทำงานเคียงข้างผู้ประกอบการ
เรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
หล่อหลอมจนกลายเป็นความเชี่ยวชาญอย่างมืออาชีพ
เพื่อเติบโตอย่างเคียงบ่าเคียงไหล่ไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
ช่วงที่ 2 เที่ยวไทยไปทะเลใกล้กรุงตลุยเที่ยว “ภาคตะวันออก” กับแหล่งท่องเที่ยวใหม่
“Unseen New Chapters” เกาะ วัด ถ้ำ สวยทุกที่
มีความสุขได้ทุกเวลา แล้วห้ามพลาด “5เคล็ดลับสุขภาพช่วงหน้าฝน”
รับมือได้ด้วยเทคนิคง่าย ๆ ปลอดภัยไร้โรค และข่าวเจาะลึก ข่าวแรก
“สิงคโปร์แอร์ไลน์จัดโปรตั๋วบิน Time To Fly Sale เริ่มแค่ 7,890
บาท ข่าวที่สอง “IATAหนุนฮ่องกงจ้างงานการบินเพิ่ม”
ทำอุตสาหกรรมการบินเอเชียสดใสฟื้นตัวเร็วเกินคาด เตรียมจัด Aviation Day ส.ค.2566
ท่องเที่ยว
– เที่ยวภาคตะวันออก Unseen New Chapters เกาะ-วัด-ถ้ำ สงบ5พิกัด
พิกัดที่ 1 เกาะสีชัง อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี “อันซีนเกาะแห่งรัก(ษ์)...ที่สีชัง”
ถ้าคุณเป็นคู่รักที่มีหัวใจอนุรักษ์
เกาะสีชังถือเป็นจุดหมายที่ลงตัว
ด้วยความอันซีนของจุดชมวิวที่มีให้เลือกสร้างซีนโรแมนติกได้ถึง 5 จุด ทั้งปลายแหลมถ้ำพัง เสาธงอัษฎางค์ สะพานอัษฎางค์
ช่องอิสริยาภรณ์ ไปจนถึงทะเลแหวกท้ายเกาะ ไม่ว่าจะอยากชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก ก็มีให้เลือกฟินกันได้แบบเหลือๆ
และนอกจากนี้ ตัวเกาะยังมีคอนเซ็ปต์น่ารักๆ ในการจัดการกับสิ่งแวดล้อม
ทั้งการนำขยะบนเกาะไปทำปุ๋ย การปลูกปะการังอ่อน การเปิดธนาคารปูและสัตว์น้ำหายาก
เพื่อเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลรอบๆ เกาะให้มีความยั่งยืน ใครรู้ตัวว่าเป็นสาย
ECO กดจองที่พักบนเกาะได้เลย โดยท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
พิกัดที่ตั้ง
: https://goo.gl/maps/Lh2iHfX2h9ScVo9f6
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ททท.สำนักงานพัทยา เบอร์โทรศัพท์ 0 3842 7667, 0
3842 8750 หรือ 0 3842 3990
พิกัดที่ 2 วัดมณีวงศ์ อ.เมือง จ.นครนายก
“เส้นทางท่องวังพญานาควัดมณีวงศ์”
สำหรับผู้ที่ฝากตัวเป็นลูกหลานพญานาค
นี่คือสถานที่ซึ่งคุณต้องห้ามพลาด เพราะวัดแห่งนี้ เกิดขึ้นจากพญานาคที่มาเข้าฝัน
‘หลวงพี่ต่อ’ เจ้าอาวาสวัดมณีวงศ์ และได้พาหลวงพี่ไปชมคลังมหาสมบัติที่เมืองบาดาล
เพื่อให้เกิดภาพจำและนำกลับไปสร้างที่วัด
จนเกิดเป็นความอลังการของงานประติมากรรมพญานาคกว่า 1000 ตน ที่อาศัยเวียนวนอยู่ในถ้ำขนาดใหญ่
โดยจำลองบรรยากาศความยิ่งใหญ่มาจากเมืองบาดาล
สู่ความงดงามที่ถูกถ่ายทอดผ่านงานปั้นชั้นครู
รับรองว่าถูกใจลูกหลานพญานาคสายมูอย่างแน่นอน โดยเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00
- 17.00 น.
พิกัดที่ตั้ง
: https://goo.gl/maps/tM4YPxbGXDXyPoND8
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ททท.สำนักงานนครนายก เบอร์โทรศัพท์ 0 3731 2282 หรือ 0 3731 2284
พิกัดที่ 3 วัดหงษ์ทอง อ.บางปะกง
จ.ฉะเชิงเทรา จุดชมพระอาทิตย์ตกเมืองแปดริ้ว” “เก็บแสงสุดท้ายที่ปลายสะพานแก้ว
นี่คือวัดที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะจนพื้นที่ใช้สอยภายในวัดหายไปเกินครึ่ง
ด้วยเหตุนี้ ทำให้สิ่งก่อสร้างที่เคยตั้งอยู่ริมทะเล
ปัจจุบันกลายเป็นสิ่งก่อสร้างในทะเลไปโดยปริยาย
เราจึงมีโอกาสได้เห็นทั้งโบสถ์กลางน้ำ อาคารในทะเล รวมไปถึงพระเอกใหม่ของวัดอย่าง
“ซีวอล์ค” หรือ สะพานกระจกใส สะพานแก้วที่ทอดตัวออกไปในท้องทะเล
ที่กลายเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกของเมืองแปดริ้ว และจะดูตื่นตาตื่นใจมากๆ
ในช่วงเวลาน้ำขึ้น เพราะถ้ามองผิวเผินจะดูคล้ายกับผู้คนกำลังเดินอยู่บนผิวน้ำ
ปัจจุบันพูดได้เต็มปากเลยว่านี่ คือจุดชมพระอาทิตย์ตกทะเลแห่งใหม่
ที่เต็มไปด้วยความน่าประทับใจของเมืองแปดริ้ว วัดหงษ์ทอง เปิดทุกวัน เวลา 06.00 - 18.00 น.
พิกัดที่ตั้ง
: https://goo.gl/maps/YYmnEowe9LBqJW776
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ททท.สำนักงานฉะเชิงเทรา เบอร์โทรศัพท์ 0 3851 4009
พิกัดที่ 4 วัดถ้ำเขาประทุน อ.เขาชะเมา จ.ระยอง “Unseen ถ้ำในถ้ำ…สำรวจความลึกลับแห่งหุบเขาพญานาค”
“วัดถ้ำเขาประทุน”
เป็นวัดที่มีภูมิประเทศเป็น หุบ ผา และยอดเขาสูง
มีถ้ำเล็กถ้ำน้อยที่เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยอยู่ภายใน ด้านหน้าของวัดมี
‘ถ้ำพญานาคราช’ เป็นถ้ำรับแขก
และมีลำแสงจากช่องเขารูปทรงพญานาคที่มองแล้วชวนให้รู้สึกอัศจรรย์ใจ
แต่ไฮไลท์ของจริงคือการนั่งเรือลอดถ้ำเข้าไปยัง ‘หุบผาสวรรค์’
ที่พอหลุดออกมาจากความมืดของถ้ำ จะเหมือนทะลุออกมายังอีกมิติหนึ่ง
ประกอบไปด้วยถ้ำอีกหลายถ้ำ ทั้งถ้ำนาคี ถ้ำรอยพระพุทธบาท และถ้ำหินงอกหินย้อย
แถมยังมี
‘โพรงพญานาค’ ซึ่งเป็นจุดที่คนเฒ่าคนแก่เล่าว่า เคยพบเห็นพญานาคเลื้อยผ่านเข้าออก
โดยรวมถือเป็นวัดที่เต็มไปด้วยพลังศรัทธาแห่งพญานาค
เป็นรสชาติใหม่เมืองระยองที่อยากให้ผู้คนมาลิ้มลองด้วยตัวเอง นักท่องเที่ยวสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
กิจกรรมพิเศษ อย่างนั่งเรือลอดถ้ำ จะจัดขึ้นในช่วงฤดูฝน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม -
พฤศจิกายน
พิกัดที่ตั้ง
: https://goo.gl/maps/ErzVfzwa5Xxm1cA86
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ททท.สำนักงานระยอง เบอร์โทรศัพท์ 0 3865 5420-1
พิกัดที่ 5 ถ้ำน้ำเขาศิวะ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว “ผจญภัยเมืองบาดาล…พิสูจน์ตำนานพญานาคแห่งถ้ำน้ำเขาศิวะ”
มีบางคนบอกที่นี่เป็นบ้านของเทวดา
บ้างก็ว่าเป็นวังพญานาค แต่ที่แน่นอนที่สุด คือ
นี่เป็นถ้ำที่เกิดมาเพื่อนักท่องเที่ยวสายแอดเวนเจอร์อย่างแท้จริง
ด้วยเป็นถ้ำที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี บริเวณด้านในของถ้ำจึงมีสภาพเหมือนสระว่ายน้ำ
ต้องอาศัยการสวมชูชีพแล้วเกาะห่วงยางลอยคอเข้าไป
ซึ่งถ้ำแห่งนี้จะมีเจ้าหน้าที่คอยนำทางและบรรยายเรื่องราวของแต่ละจุดให้ฟังตลอดทริป
ส่วนบรรยากาศด้านในเต็มไปด้วยความสวยงามของหินงอกหินย้อยรูปทรงหลากหลายตามแต่จะจินตนาการ
และยังมีตำนานพ่อปูพญานาคองค์สีแดง ที่ชาวบ้านเคยพบเห็นแหวกว่ายอยู่ภายในถ้ำ ซึ่งเป็นที่มาของศาลพ่อปู่นาคาที่ตั้งอยู่บริเวณปากถ้ำ
ลูกหลานพญานาคทราบแล้ว เตรียมชุดเปียกด่วน
นักท่องเที่ยวสามารถเข้าผจญภัยเมืองบาดาลได้ตลอดทั้งปี ตั้งแต่เวลา 10.00 - 16.00 น.
พิกัดที่ตั้ง
: https://goo.gl/maps/3Sfp4eDNQX4wYqfh8
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ททท.สำนักงานนครนายก เบอร์โทรศัพท์ 0 3731 2282 หรือ 0 3731 2284
สุขภาพ
– 5 เคล็ดลับสุขภาพช่วงหน้าฝนเตรียมความพร้อมปลอดภัยไร้โรคชัวร์
เข้าฤดูฝนแล้วเป็นช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยทำให้ร่างกายหลายคนอาจปรับตัวไม่ทัน
สิ่งที่ตามมาคือหนีไม่พ้น อาการเจ็บป่วยและโรคภัยต่าง ๆ ดังนั้นจึง “ต้องมีวิธี” เพื่อให้ทุกคนได้
“เตรียมความพร้อมกับฤดูฝนและดูแลสุขภาพ” เพื่อป้องกันอาการเจ็บป่วยที่อาจจะเกิดขึ้นได้
5 เคล็ดลับดังนี้
เคล็ดลับที่ 1 ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 1.5 ลิตร หรือ 8-10 แก้ว ควรดื่มทีละนิด ค่อยๆจิบ ไม่ควรดื่มทีละมาก ๆ ในคราเดียว
เพื่อเติมน้ำเข้าสู่ร่างกาย
การดื่มน้ำนั้นช่วยรักษาสมดุลของร่างกายให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี
และยังลดโอกาสในการติดเชื้อโรคต่างๆที่จะเข้าสู่ร่างกาย
ทำให้ร่างกายไม่ป่วยและเป็นหวัดง่ายอีกด้วย
เคล็ดลับที่ 2 นอนหลับพักผ่อนวันละ 6-8 ชั่วโมง ถือเป็นอีกอย่างหนึ่งวิธีสำคัญในการดูแลร่างกายให้มีสุขภาพที่ดี
การนอนหลับอย่างเพียงพอจะช่วยให้ฮอร์โมนในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ซ่อมแซมและฟื้นฟูร่างกายจากโรคภัยต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เคล็ดลับที่ 3 พกร่มและเสื้อกันฝนไปด้วยเสมอ ช่วงฝนตกทำให้อุณหภูมิในตัวเราจะลดลง การที่ศีรษะเปียกฝน หรือ
เสื้อผ้าและรองเท้าเปียกอับชื้นจึงส่งผลทำให้เราเป็นหวัดได้
การที่เราพกร่มและเสื้อกันฝนติดตัวไปด้วยเสมอ
เพื่อไม่ให้ร่างกายเปียกฝนเวลาฝนตกก็จะช่วยป้องกันอาการเจ็บป่วยได้
เคล็ดลับที่ 4 รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ สะอาด และถูกหลักอนามัย
เพื่อป้องกันการเกิดโรคระบบทางเดินอาหารที่มาพร้อมกับฤดูฝน อย่างเช่น โรคท้องเสีย
โรคอาหารเป็นพิษ ไม่เพียงแต่รับประทานอาหารที่ปรุงสุกเพียงอย่างเดียว
แต่ควรที่จะรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกายอีกด้วย
เคล็ดลับที่ 5 ดื่มชาสมุนไพรอุ่นๆเป็นประจำ ช่วงฝนตกอากาศภายนอกมีทั้งความชื้นและความเย็น
ทำให้อุณหภูมิในร่างกายของเราปรับเปลี่ยน
ถ้าหากร่างกายปรับอุณหภูมิไม่ทันก็จะก่อให้เกิดอาการหวัดได้ ดั้งนั้นควรเลือกดื่มชาสมุนไพรอุ่นๆ
เพื่อช่วยปรับอุณหภูมิในร่างกายและมีสรรพคุณช่วยร่างกายของเราอีกด้วย เช่น ชาขิง
ที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับและป้องกันร่างกายไม่ให้เป็นหวัด ชาเขียวร้อน
หรือสมุนไพรอื่นที่มีฤทธิ์ร้อนช่วยปรับอุณหภูมิร่างกายให้สูงขึ้น
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
–สิงคโปร์แอร์อัดโปรแรงTime To Fly Travel Saleเริ่มต้นแค่7,890บาท
สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส รายงานว่า ได้จัดทำโปรโมชั่น “Time To Fly Travel Sale” ตั๋วโดยสารเครื่องบินราคาพิเศษและสิทธิประโยชน์
ตั้งแต่วันนี้-19 กรกฎาคม 2566 เพื่อรุกเจาะตลาดนักเดินทางในเมืองไทยได้ซื้อตั๋วไปกลับราคาพิเศษสุทธิเริ่มต้นเพียง
7,890 บาท ไปยังจุดหมายปลายทางยอดนิยม สู่ มหานครลอสแอนเจลิส นาโกย่า โซล สิงคโปร์
ซิดนีย์ ซูริก และจุดหมายปลายทางอื่นๆ ในเครือข่ายการบินทั่วโลกของกลุ่มสิงคโปร์
แอร์ไลน์ส
โดยมีโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินให้เลือกจอง
3 ชั้นที่นั่ง ได้แก่ ชั้นธุรกิจ
ชั้นประหยัดพิเศษ และชั้นประหยัด สามารถดูเพิ่มเติมเมืองต่าง ๆ ได้ พร้อมรับสิทธิประโยชน์สุดพิเศษ
ทั้งการช็อปปิ้ง รับประทานอาหาร การเข้าพักในโรงแรม ไลฟ์สไตล์
ประสบการณ์การเดินทาง
ไฮไลต์สิทพิเศษจาก
“บัตรเครดิต” เมื่อซื้อตั๋วเครื่องบินในช่วงโปรโมชั่น Time
To Fly Travel Sale ถึง 8 ทางเลือก ดังต่อไปนี้
1.รับฟรี SGD 15 เมื่อลงทะเบียนใหม่บน Kris+
2. เพลิดเพลินไปกับส่วนลด 20%
สำหรับจองกิจกรรมท่องเที่ยวบนเว็บ Pelago
3.รับส่วนลด
30% เมื่อจองห้องพักกับโรงแรม Cross
River Kwai, Cross Chiang Mai Riverside, Cross Pattaya Oceanphere และ
Cross Pattaya Pratamnak
4.รับส่วนลด 10% ที่ Drop By Dough ร้านโดนัททำสดใหม่ในกรุงเทพฯ
5.รับส่วนลดมูลค่า 1,000 บาท
จากร้านอาหารรางวัลดาวมิชลิน IGNIV Bangkok ที่ The
St.Regis Bangkok
6.รับส่วนลด 10% สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม
เมื่อใช้จ่ายขั้นตํ่า 500 บาท ในหนึ่งบิลที่ Nana
Coffee Roasters
7.รับฟรี E-Coupon มูลค่าสูงสุดถึง
300 บาทสำหรับช็อปปิ้งที่ Emporium EmQuartier
Paragon Department Store และอื่นๆ
8.รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 17,000 บาท
เมื่อจองบัตรโดยสารที่ singaporeair.com หรือแอปพลิเคชั่นมือถือ SingaporeAir และชำระด้วยบัตรเครดิต
UOB และ Citi
นักเดินทางสามารถวางแผนจองตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษทางเว็ฐไซต์ www.singaporeair.com แอปพลิเคชั่นมือถือ
SingaporeAir หรือผ่านตัวแทนการท่องเที่ยวที่ได้รับการแต่งตั้งภายในวันที่
19 กรกฎาคม 2566
ข่าวที่สอง –IATAหนุนฮ่องกงเพิ่มแรงงานฟื้นการบินเร็วรุกจัดAviation Dayส.ค.นี้
Willie Walsh ผู้อำนวยการทั่วไป สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ
(IATA-International Aviation Transportation Association)
เปิดเผยว่า ได้แสดงความยินดีกับความพยายามของรัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกง
(SAR) ในการจัดการบรรเทาปัญหาการขาดแคลนแรงงานภาคการบินเป็นผลสำเร็จ ขณะนี้รัฐบาลฮ่องกงได้จัดทำโครงการนำเข้าแรงงานเพื่อเพิ่มจำนวนพนักงานสนามบินโดยเปิดรับชาวจีนแผ่นดินใหญ่เข้ามาทำงานการบินอีกไม่น้อยกว่า
6,300 คน เนื่องจากความต้องการเดินทางทางอากาศกำลังเพิ่มมากอย่างขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้
ขณะเดียวกันในช่วงที่ผ่านมาสายการบินในฮ่องกงเองประสบปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทานและการขาดแคลนแรงงาน
ซึ่งทาง IATA ได้เข้าไปช่วยปรับปรุงประมาณการณ์ปริมาณผู้โดยสารเข้า-ออก เกาะฮ่องกง ภายในสิ้นปี
2567 มีแนวโน้มการฟื้นตัวสู่ระดับปกติเทียบเท่าปี 2562
ก่อนเกิดวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สถานการณ์การบินในฮ่องกงดีขึ้นมากอย่างรวดเร็วจึงถือเป็นสัญญาณที่ดีของการบินและปริมาณผู้โดยสารในภูมิภาคเอเชีย
แปซิฟิก จะฟื้นตัวเร็วขึ้นตามไปด้วย ทำให้เศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักอีกครั้งภายในเร็ววันนี้
ตามแผนงาน
IATA และหน่วยงานท่าอากาศยานฮ่องกง (AAHK)
เตรียมร่วมมือกันจัดงาน Hong Kong
Aviation Day ระหว่างวันที่ 2-3 สิงหาคม 2566
เนื่องจากตลอดช่วง
3 ปีที่ผ่านมาโควิด-19 ได้สร้างความเสียหายให้กับภาคการบินอย่างหนัก โดยIATA
พยามมองไปข้างหน้าถึงเรื่องการฟื้นตัวและเตรียมพร้อมผลักดันให้อุตสาหกรรมการบินเติบโตในอนาคตได้
โดยมีปัจจัยหนุนสำคัญคือชุมชนการบินของฮ่องกงทั้งหมด รวมถึงสายการบิน สนามบิน
หน่วยงานกำกับดูแล และรัฐบาล ต้องทำงานร่วมกันเพื่อจัดการกับความท้าทายและเตรียมพร้อมอย่างดีที่จะใช้ประโยชน์จากโอกาสในอนาคตอันใกล้นี้ ตามที่ตั้งตารอจะได้เดินทางไปฮ่องกงในเดือนสิงหาคม 2566 เพื่อพบปะกับผู้เกี่ยวข้องซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับอุตสาหกรรมการบินต่าง
ๆ
สอดรับกับสถานการณ์การบินในฮ่องกงขณะนี้สดใสกลับมาเปิดใหม่เร็วกว่าที่คาดไว้
ดังนั้นในปี 2567
มีความหวังมากที่จะกลับสู่ภาวะปกติเหมือนก่อนวิกฤตการเดินทางจากโควิด-19 อย่างแน่นอน โดยมีนักเดินทางหรือผู้โดยสารจากตลาดสาธารณรัฐประชาชนจีนช่วยเร่งการฟื้นตัวได้เป็นอย่างดี
ขณะนี้รัฐบาลฮ่องกงเตรียมมาตรการนำเข้าแรงงานการบินเพื่อให้ผู้ใช้บริการทุกภาคส่วนเกิดความมั่นใจและเชื่อมั่นจะมีพนักงานที่จำเป็นสนับสนุนการทำงานมากเพียงพอรองรับการฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาดไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สร้างความสดใสในระบบเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น