ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.ภาคเหนือเปิดแผนท่องเที่ยวปี67 กับ ผอ.ภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่



ททท.เปิดแผนปี’67“ภาคเหนือ”บูมขายเที่ยวไทย“โมเดิร์นนอร์ธ”

ปั้นตลาดใหม่บิ๊กเทรนด์“อาหาร/กาแฟ-แฟชั่นผ้า-สปาสุขภาพ”

ลุยเปิดหมู่บ้านภาคเหนือในเทศกาลเที่ยวเมืองไทย2-6ส.ค.66

คิงเพาเวอร์ชูหนังโฆษณาใหม่10THE POSSIBILITIES MAKERS

มาด่วน!!BANGKOK–SEOUL Food Fest ที่คิงเพาเวอร์มหานคร

คิงเพาเวอร์เปิดคัมภีร์คนมีไฟลต์ช้อป4สาขารับโปรดี6รายการ

ททท.ชูขายเที่ยวไทยไป55เมืองรองจองที่พักผ่านAgodaลด20%

มูลนิธิใบไม้ปันสุขบางจากคว้ารางวัลAREA2023หนุน55จังหวัด

TCEBหนุนเทศกาลCreative Nakhon+อบรมฟรีแบบWinWinWin

เที่ยวอีสานUnseen New Chapters 5 พื้นที่ 5 พิกัดฟินชีลฮีลปัง

7วิธีสร้างสมดุลร่างกาย-จิตใจปลุกพลังให้สุขภาพดีมีความสุข

AWCเปิดใหม่INNSiDEbyMeliá Bangkokดันพอร์ตโตก้าวกระโดด

ดุสิตฯรุกChina Roadshowเปิดพอร์ตโรงแรมทั่วโลกเพิ่มรายได้

 

วันเสาร์ที่  8 กรกฎาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก #GoNorthThailand  #ทททภาคเหนือ #อีสานUnseenNewChapters

 

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/lEDauSJcgQ/

 

ช่วงที่ 1 เปิดแผนปี’67 กับ “นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่” ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เดินหน้า”โมเดิร์นนอร์ธ” ต่อยอดเสน่ห์วันวาน ปูพรมตั้งแต่กลางปีนี้ 3 จุดขาย 1.คัดเลือกสินค้าท่องเที่ยว 3 กลุ่มหลัก “อาหารและกาแฟ-แฟชั่นผ้าพื้นเมืองโฉมใหม่-สปาฟ้อนเล็บ” 2.เปลี่ยนภาคเหนือเป็นเมืองเที่ยวหน้าฝน” ชูขาย 3 อย่าง กรีนท้องนาป่าเขา-งานเทศกาล พื้นที่ Unseen New Chapters 3.กระหน่ำจัด 5 กิจกรรม ไฮไลต์จะจำลองทุกกิจกรรมมาไว้ในงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย” ในหมู่บ้านภาคเหนือ 2-6 ส.ค.66 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และลุยใช้เครื่องมือใหม่ติดอาวุธดิจิทัลออนไลน์ขายเต็มรูปแบบ

 

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า แนวทางการเดินหน้าท่องเที่ยวภาคเหนือปี 2567 จะเน้นความโมเดิร์น นอร์ธ ชูความทันสมัยเปลี่ยนผ่านจาก “เสน่ห์วันวาน” ในปี 2566 ด้วยวิธีส่งมอบประสบการณ์ผสมผสานเก่าและใหม่เข้าด้วยกัน นำเสนอ 3 สินค้าท่องเที่ยวหลัก ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่มกาแฟ สปา และผ้าพื้นเมืองเหนือ  โดยได้จัดทำแผนการตลาดนำเสนอความโดดเด่นการท่องเที่ยวภาคเหนือต่อเนื่องตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงปีหน้าด้วย 3 จุดขาย คือ

 

จุดขายที่ 1 การคัดเลือกสินค้าท่องเที่ยว 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มแรก “อาหารและเครื่องดื่ม” จะเน้นเรื่องผลิตภัณฑ์กาแฟ ขณะนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งผู้ปลูกในท้องถิ่น เส้นทางท่องเที่ยวร่วมกิจกรรมเก็บกาแฟในไร่ ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจช่วยสร้างความเขียวขจีให้ป่าโดยทำให้พื้นที่ปลูกมีความชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา

 

กลุ่มสอง “แฟชั่น” งานคราฟท์/หัตถกรรม งานอาร์ต/ศิลปะ เช่น ม่อฮ่อม  จังหวัดแพร่ กับตีนจกแม่แจ่มเชียงใหม่ ผ้าไทยที่ดีไซน์ไปนำเสนอในเวทีแฟชั่นระดับนานาชาติ แล้วยังสามารถประยุกต์ทำเป็นผลิตภัณฑ์งานหัตถกรรมได้หลากหลาย สร้าง “มูลค่าเพิ่ม” กับชุมชนท้องถิ่น รวมทั้งยังสามารถถ่ายทอดวัฒนธรรมแฟชั่นให้เด็กรุ่นใหม่นำมาแต่งกับเสื้อยืด สนีกเกอร์ เพิ่มคุณค่าที่ดี

 

กลุ่มสาม “สุขภาพองค์กรทั้งร่างกายและจิตใจ” (Body & Mind Health Wellness) โดยเฉพาะมีนวัตกรรมนวดที่ได้ออกแบบ “สปาฟ้อนเล็บ” ศาสตร์การนวดด้วยนวัตกรรมการแสดงพื้นเมืองเหนือเข้าเรื่องการดูแลสุขภาพแนวใหม่

 

จุดขายที่ 2 เปลี่ยนเหนือให้เป็นภาคแห่งการท่องเที่ยวหน้าฝน นำเสนอสินค้าดึงดูดนักท่องเที่ยว 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มแรก เสน่ห์ความเขียวของผืนป่า และท้องนา กลุ่มสอง งานเทศกาลงานวัฒนธรรมประเพณีตามความเชื่อและศรัทธา งานเวียนเทียนในสุโขทัย และจังหวัดอื่น ๆ ผนวกเข้ากับแหล่งท่องเที่ยว Unseen New Chapters ทุกจังหวัด กลุ่มสาม การท่องเที่ยวเมืองรอง สนับสนุนการขับรถท่องเที่ยวหรือ Roadtrip ต่อยอดเสน่ห์วันวานเพิ่มความคลาสสิกเข้าไป และผลิตภัณฑ์สินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ที่มีจุดเด่นนำมาทำอาหารถิ่น โฟกัสไปยังพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน เช่น จังหวัดน่าน อุทัยธานี

 

การจัดการสินค้าดังกล่าวได้เดินหน้าปูพรมตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อเชื่อมโยงการขายต่อเนื่องไปถึงปีงบประมาณ 2567 เปลี่ยนผ่าน “เสน่ห์วันวาน” สู่ “โมเดิร์น”

 

จุดขายที่ 3 กระหน่ำจัดกิจกรรม ในช่วงระหว่างรอยต่อการถ่ายโอนสู่ยุคใหม่ช่วงปลายปี 2566 ททท.ภาคเหนือเตรียมจัดมากมาย ไฮไลต์ 5 กิจกรรม ได้แก่

 

กิจกรรมที่ 1 พื้นที่นำร่องจังหวัดน่าน จัดโครงการ Nan Go Low Carbon จับมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยซึ่งมีผลงานวิจัยเมืองน่านเป็นเมืองท่องเที่ยวลดคาร์บอนไดออกไซด์ และการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวสายรักษ์โลก

 

กิจกรรมที่ 2 จะจัดงาน “มหกรรมเที่ยวข้ามภาค” ที่เชียงใหม่ กลางเดือนกรกฎาคม 2566 เพื่อให้ผู้ประกอบการแต่ละภาคนำสินค้ามาขายแล้วเชิญชวนคนเชียงใหม่เดินทางไปเที่ยว และกระตุ้นนักท่องเที่ยวทั้ง 5 ภาค  แลกเปลี่ยนบรรยากาศท่องเที่ยวระหว่างกัน

 

กิจกรรมที่ 3 จัดงาน VIJITR +Night Run น้ำพุร้อนสันกำแพง โครงการพระราชดำริ จังหวัดเชียงใหม่ 24-30 กรกฎาคม นี้ เที่ยวหน้าฝนช่วงกลางคืนโดยได้ทำพื้นที่เส้นแสงประดับไฟสวยงามบรรยากาศดีมาก ใน 10 จุดหลัก แล้วได้ผลิตสบู่รูปไข่ซึ่งตามปกตินักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เมื่อมาเที่ยวน้ำพุร้อนนิยมนำไข่มาแช่ด้วย จึงทำสบู่รูปไข่แจกฟรีเป็นสัญลักษณ์การท่องเที่ยวพื้นที่ดังกล่าว

 

ในวันที่ 23 กรกฎาคม นี้ จะจัด Night Run อ.แม่ออน ก่อนเข้าสู่การท่องเที่ยวงาน VIJITR น้ำพุร้อนสันกำแพง วันเดียวกันนี้ทางบางกอกแอร์เวย์สจัดวิ่งมรดกโลกอีกรายการที่จังหวัดสุโขทัย แล้วเดือนธันวาคมจัดที่ลำปาง

 

กิจกรรมที่ 4 จัดแฟชั่นโชว์ ผ้าม่อฮ่อม จังหวัดแพร่ วันที่ 28 กรกฎาคม นี้ ส่งเสริมซอฟท์ เพาเวอร์ ทางด้านแฟชั่น นำเสนอสิ่งที่ความแปลกใหม่ด้วยการใส่ศิลปะหัตกรรมเข้าไปช่วยเพิ่มราคาขายได้มากขึ้น จากนั้นจะจัด “Fashion to the World” ที่อำเภอแม่สาย เชียงราย ระหว่าง 1-2 กันยายน เนื่องจากเป็นพื้นที่มีชาติพันธุ์จำนวนมาก มาเสนอด้วยดีไซน์สวย ๆ แล้วเปิดให้ผู้ที่ชื่นชอบมาเดินช้อป

 

กิจกรรมที่ 5 ร่วมเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ระหว่างวันที่ 2-6 สิงหาคม นี้ โดยจะนำกิจกรรมทั้งหมดมาจำลองไว้ใน “หมู่บ้านภาคเหนือ” สร้างเทรนด์ใหม่ในอินดอร์อาคารศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยจะขายความเป็น “โมเดิร์น/ทันสมัย” สร้างเป็นแล็บแบบญี่ปุ่น เมื่อนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมจะสามารถสนุกกับกิจกรรมเสมือนจริงได้ เป็น Ilumination มีลานกาแฟ ลานงานหัตถกรรม พร้อมกับเปิดงานกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งหมด

 

ผอ.ภัทรอนงค์ กล่าวว่า ททท.ภาคเหนือ เตรียมล็อกเป้าหมายเจาะนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงมีเงินใช้จ่ายได้ตลอดทั้งปี 3 ตลาดหลัก ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ผู้สูงวัยที่มีความตื่นตัว/Senior Active สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้ง พร้อมใช้จ่ายเงินซื้อผ้าโบราณราคาสูง กลุ่มที่ 2 เจน Y ชื่นชอบเครื่องดื่ม ชา กาแฟ Café Hopping ชอบตะเวนไปชิมเครื่องดื่มตามร้านเก๋ ๆ และชอบท่องเที่ยว sub-culture เช่น แคมปิ้ง

 

กลุ่มที่ 3 ผู้หญิง/Lady  ปี 2567 ทางเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน จะพุ่งเป้าเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวผู้หญิงเป็นหลัก ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทำงานหนัก เครียด อยากปลดปล่อยและพักผ่อน ทาง “เชียงใหม่” มีบริการสปาหลากหลายรูปแบบไว้คอยต้อนรับ ทั้งสปาหรู สปาชุมชน หรือนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสงบไปนั่งทำสมาธิ หรือ Meditation ก็เข้าไปตามวัดต่าง ๆ ได้พักกายพักใจถ่ายรูปได้ด้วย ส่วน “แม่ฮ่องสอน” นำเสนอการท่องเที่ยวแบบฮีลใจกับธรรมชาติสวยงาม เข้าไปชุมชนชาติพันธุ์นั่งดื่มชากาแฟในท้องถิ่น

 

สำหรับ “เครื่องมือทางการตลาด” ที่ ททท.ภาคเหนือ เตรียมนำมาใช้ “เพิ่มรายได้ท่องเที่ยว” ปี 2566 และปี 2567 ขณะนี้ใช้ช่องทาง “ดิจิทัลออนไลน์” กว่า 70 % เช่น การจัดงาน VIJITR เชียงราย ประดับไฟ Illumination ใช้ออนไลน์ขายสำเร็จมาแล้ว รวมทั้งทั้ง 3 กลุ่มเป้าหมายต่างก็ใช้โซเชียล มีเดีย อย่างเป็นรูปธรรม ปีหน้าจะเพิ่มเครื่องมือใหม่ จากปัจจุบันมี facebook แต่ละสำนักงานจะใช้ภาษาไทยว่า ททท.ตามด้วยชื่อสำนักงานในพื้นที่

 

ส่วนภาคเหนือก็ใช้ facebook ชื่อ GoNorthThailand ตอนนี้ได้รวมข้อมูลทั้งหมดแล้วใส่มาสคอตเป็นสัญลักษณ์ เพื่อนำไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ปี 2567 จะเพิ่มความเป็นโมเดิร์นเพื่อใช้ “สื่อสาร” กับนักท่องเที่ยวได้ เพื่อช่วยส่งเสริมการตลาดได้มากขึ้น ลดการผลิตแผ่นพับ โบว์ชัวร์ ลงเป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่าใช้ดิจิทัล ออนไลน์ ครบทุกช่องทาง

 

ผอ.ภัทรอนงค์ อยากเชิญชวนไปเที่ยวภาคเหนือเริ่มตั้งแต่หน้าฝนปีนี้เป็นต้นไป แนะนำให้ “ขับรถท่องเที่ยว” สัมผัสความเขียวขจีท้องนาป่าเขา กับทะเลหมอกจากฝนบนภูเขา หลัก ๆ “สายธรรมชาติ” ต้องไปตามเส้นทาง แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ อ.บ่อเกลือ จ.น่าน บ้านนาต้นจั่น จ.สุโขทัย “สายปีนเดินเขา” ภูสอยดาว   ดอยเสมอดาว ไปนอนแคมป์ดูดาวช่วงท้องฟ้ามืด และ “สายชอบท่องเที่ยวแบบนิ่งอยู่กับที่สบาย ๆ” ต้องที่นครสวรรค์ อุทัยธานี บางเวลาก็สามารถทำกิจกรรมแบบง่าย ๆ ใช้ชีวิตช้า ๆ สโลว์ไลฟ์ เหมาะกับคนกรุงเทพฯ หรือภาคอื่น ๆ ที่ทำงานหนักเครียดแล้วอยากพักผ่อน ภาคเหนือหน้าฝนเหมาะกับทุกวัยอย่างแน่นอน

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์ชูหนังโฆษณาใหม่10THE POSSIBILITIES MAKERS

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ รายงานว่า ได้เปิดตัวหนังโฆษณาใหม่ล่าสุดบอกเล่าเรื่องราวการใช้ชีวิตที่เป็นไปได้ทุกแนว เป็นไปได้ทุกวัน ผ่าน THE POSSIBILITIES MAKERS เพื่อตอกย้ำแนวคิด THE POWER OF POSSIBILITIES มอบทุกประสบการณ์เหนือระดับให้กับทุกคนครบจบทุกความต้องการ โดยมีศิลปินชั้นนำร่วมสร้างสีสันทั้ง เจเจ กฤษณภูมิ , ต้าเหนิง     กัญญาวีร์ , 4EVE และ เจฟ      ซาเตอร์ นำเสนอธุรกิจหลักในกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ที่รอให้ทุกคนมาเปิดประสบการณ์สุดพิเศษได้ทุกวัน ทุกเวลา

 

หนังโฆษณาโฉมใหม่ล่าสุดต้อนรับเดือนกรกฎาคม 2566 เน้นการผลิตผ่าน  “10 THE POSSIBILITIES MAKERSเดินหน้าสร้างการรับรู้ถึงกลุ่มธุรกิจในเครือที่มีอยู่ทั้งหมด ต่อยอดจากเมื่อปี 2565 ได้เน้นเรื่อง “การสื่อสารภาพลักษณ์ของแบรนด์” มอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ลูกค้าครบทุกมิติทุกวัย โดยเฉพาะเป้าหมายหลัก 2 กลุ่ม คือ  Gen Y และ Gen Z เพิ่มเติมจากฐานลูกค้าเดิมซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

 

เมื่อก้าวสู่ปี 2566 บริษัทฯ ได้วาง “กลยุทธ์ดึงคนรุ่นใหม่” ที่มีคาแรกเตอร์โดดเด่น สดใส เข้าถึงได้ และชื่นชอบการเดินทาง มาร่วมส่งต่อความหลากหลายของไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตที่ไม่หยุดค้นหาความเป็นไปได้ในแบบฉบับของตัวเอง ด้วยกลยุทธการนำหนังโฆษณาเข้ามาเสริมทัพความแข็งแกร่งให้แบรนด์ควบคู่กับการตอกย้ำภาพลักษณ์ธุรกิจในเครือ คิง เพาเวอร์ ทั้งหมด เติบโตอย่างมีพลัง และ มีความ เป็น ไป ได้ ทุกอย่าง

 

ประกอบด้วย 8 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มที่ 1 สินค้าปลอดอากร (Travel Retail) เป็นแฟลกชิพสำคัญ กลุ่มที่ 2 ธุรกิจค้าปลีก (Retail) กลุ่มที่ 3 ธุรกิจอาหาร (Dining) กลุ่มที่ 4 ธุรกิจโรงแรม (Hospitality) กลุ่มที่ 5 ธุรกิจสินค้าอุปโภคและบริโภค (Consumer Products) กลุ่มที่ 6 ธุรกิจสร้างสรรค์ประสบการณ์ (Travel Experiences) กลุ่มที่ 7 ธุรกิจกีฬา (Sports) และกลุ่มที่ 8 กิจกรรมเพื่อสังคม (CSR)

 

เนื้อหาหลักในหนังโฆษณาใหม่ล่าสุดที่ได้นำเสนอสู่สาธารณะครั้งนี้ ได้บอกเล่าเรื่องราวการใช้ชีวิตที่เป็นไปได้ทุกแนว เป็นไปได้ทุกวันผ่าน THE POSSIBILITIES MAKERS ทั้ง 10 คน  ภายใต้แนวคิด “คนละเรื่องเดียวกัน” สะท้อนไลฟ์สไตล์และความต้องการที่แตกต่างกันของแต่ละคน โดยสามารถดื่มด่ำ และรับประสบการณ์สุดพิเศษได้เหมือนกันจากธุรกิจ และบริการในเครือของคิง เพาเวอร์ 

 

ประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลัก ได้แก่ ส่วนที่ 1  หนังโฆษณาหลักความยาว 45 วินาที  ส่วนที่ 2  หนังโฆษณาย่อย 5 เรื่อง ความยาวเรื่องละ 15 วินาที พร้อมปรากฎสู่สายตาทุกคนผ่านสื่อช่องทางต่าง ๆ ของ คิง เพาเวอร์ เพื่อสร้างการรับรู้ และภาพจำเชิงบวก รวมถึงสร้างการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น กระตุ้นให้ลูกค้าต้องการจะเข้ามาเลือกช้อปผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าและความหมาย

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มั่นใจในกลยุทธ์การใช้ THE POSSIBILITIES MAKERS ทั้ง 10 คน เป็นตัวแทนนำเสนอภาพลักษณ์ และประสบการณ์ใหม่ ๆ จะช่วยสร้างการจดจำเชิงบวกทำให้ “แบรนด์ คิง เพาเวอร์” ขยายฐานกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ต่อเนื่องถึงสร้างการรับรู้และความเข้าใจในธุรกิจของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ควบคู่กับการโน้มน้าวให้ผู้บริโภคอยากมีส่วนร่วม เพื่อทำความรู้จักกับแบรนด์มากขึ้น และต่อยอดสู่การสร้างความผูกพันกับแบรนด์ในที่สุด กลายเป็นผู้ที่มีความรักภักดีต่อแบรนด์ได้อย่างยั่งยืนในอนาคตด้วยเช่นกัน

           

ขณะนี้กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้เปิดทุกช่องทาง เพื่อเชิญชวนผู้บริโภคทุกไลฟ์สไตล์เข้ามาติดตามชมหนังโฆษณาทั้งหมดได้แล้ว ครอบคลุมทุกช่องทางในโซเชียล มีเดีย และทุกแพลตฟอร์ม ทั้ง Youtube , Facebook ,Tiktok และ Instagram เพื่อมีส่วนร่วมเป็นหนึ่งกับพลังคนไทย พลังที่มั่นคง แข็งแรง และยั่งยืน

 

 

ข่าวที่ 2 มาด่วน!!BANGKOK–SEOUL Food Fest ที่คิงเพาเวอร์มหานคร

 

คิง เพาเวอร์ เนรมิตให้เป็นสัปดาห์มหัศจรรย์การกินสตรีทฟู้ดชั้นเลิศ เสาร์ที่ 8 อาทิตย์ที่ 9 กรกฎาคม 2566 สายกินต้องมางานนี้ให้ได้ มหกรรมงาน BANGKOK–SEOUL STREET BATTLE FOOD FESTIVAL ที่ “คิง เพาเวอร์ สแควร์ “ หน้าตึก คิง เพาเวอร์ มหานคร  มาได้ทุกวันตั้งแต่ 11.00 – 22.00 น.

 

พบกับสตรีทฟู้ดอิมพอร์ตมาจากเกาหลี 10 ร้านดัง  #StreetFood ประชันกับ 12 ร้านเด็ดของไทย โชว์ฝีมือให้ชิมกันแบบจุด ๆ ใจกลางกรุงเทพมหานคร

พิกัด มหานคร สแควร์ คิง เพาเวอร์ มหานคร BTS ช่องนนทรี ทางออก 3

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02 677 8721 คิง เพาเวอร์ มหานคร พร้อมส่งมอบ 4 ประสบการณ์ท่องเที่ยว Eat. Play. Stay. Shop. ตอบทุกไลฟ์สไตล์ เป็น ไป ได้

 

ข่าวที่ 3 คิงเพาเวอร์เปิดคัมภีร์คนมีไฟลต์ช้อป4สาขารับโปรดี6รายการ

 

คิง เพาเวอร์ เปิดคัมภีร์ของคนมีไฟลต์อย่าพลาดทุกความคุ้มค่า นักเดินทางทุกคนสามารถช้อปสินค้าดิวตี้ ฟรีก่อนวันเดินทางได้ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต แล้วรับของวันออกเดินเดินทางได้เลยที่สนามบิน

 

ที่สำคัญ! มีโปรโมชั่นสุดพิเศษให้เลือก อยากช้อปแบบไหนเลือกเลย ช้อปได้ไม่ต้องยั้ง ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต วันนี้ -31 กรกฎาคม 2566 แล้วรับโปรโมชั่นพิเศษได้ทันที 6 รายการ ดังนี้

 

1.แฟชั่นแบรนด์ดัง ลดสูงสุด 50% (เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ)

 

2.ลุ้นรับ Gift Card 5,000 บาท เมื่อช้อปครบทุก 5,000 บาท(100 รางวัล/รวมมูลค่า 500,000 บาท)

 

3. รับ Gift Voucher ไปช้อปต่อ สูงสุด 2,500 บาท*เมื่อช้อปครบตามเงื่อนไข (จำกัด 1 สิทธิ์/ท่าน/วัน)

 

4.รับฟรี! กระเป๋าเดินทาง เมื่อช้อปครบ 50,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2566

รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก : https://bit.ly/3NStBLo

 

5.แลกกะรัตเป็นส่วนลดทุกการช้อป จะช้อป Weekday หรือ Weekend ก็เป็นไปได้ ทุกวันจันทร์ – วันพฤหัสบดี : แลก 20 กะรัต

 

6.รับคูปองส่วนลด 2,000 บาท สำหรับช้อป 10,000 บาทขึ้นไป  วันศุกร์ - วันเสาร์ – วันอาทิตย์ : แลก 30 กะรัต รับคูปองส่วนลด 3,000 บาท* สำหรับช้อป 12,000 บาทขึ้นไป วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2566

รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก : https://bit.ly/3Pyu4mK

 

ข่าวที่ 4 ททท.ชูขายเที่ยวไทยไป55เมืองรองจองที่พักผ่านAgodaลด20%

 

นายนิธี  สีแพร รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัยและพัฒนา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ร่วมกับพันธมิตร อโกด้า (Agoda) แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการท่องเที่ยว และบริษัท แทรกซ์เอเชีย จำกัด ประกาศร่วมมือเชิงกลยุทธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวยั่งยืนผ่านแคมเปญ “เที่ยวทั่วไทย ไปเมืองรอง -Grand Discovery Thailand” ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด ลดปัญหาเรื่องนักท่องเที่ยวกระจุกตัวนักอยู่แต่ในพื้นที่เมืองหลัก กิจกรรมนี้ยังสามารถกระตุ้นการเดินทางเชื่อมโยงไปยังจังหวัดต่าง ๆ ก่อให้เกิดการกระจายรายได้สู่ฐานรากอย่างทั่วถึงและยั่งยืนได้ด้วย

 

หลัก ๆ จะใช้กลยุทธ์มอบสิทธิประโยชน์แก่นักท่องเที่ยวจองที่พักผ่านอโกด้าจะได้รับส่วนลด 20% มูลค่าสูงสุด 1,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ -15 สิงหาคม 2566 ควบคู่กับการจัดอบรมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism) ให้ผู้ประกอบการโรงแรมเพื่อเป็นส่วนหนึ่งร่วมยกระดับห่วงโซ่อุปทานก้าวสู่อนาคตการท่องเที่ยวมูลค่าสูงและยั่งยืน (High Value & Sustainable Tourism)

 

เพราะสถานการณ์ปัจจุบันนักท่องเที่ยวใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีมากพอสมควร เป็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมิติใหม่ ททท.เตรียมตัวสู่ Smart Tourism ท่ามกลางความท้าทายใหม่ที่จะนำท่องเที่ยวมาพลิกฟื้นเศรษฐกิจ โดยให้ความสำคัญกับการระดับห่วงโซ่อุปทาน และสร้างมาตรฐานการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน นำเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มมูลค่าและกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ

 

นายเดเมียน เฟิร์ช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ อโกด้า กล่าวว่ายินดีที่ได้ริเริ่มร่วมทำโครงการต่าง ๆ กับ ททท.สนับสนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่ง อโกด้าประเทศไทยเป็นตลาดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด รวมทั้งเป็นตั้งของศูนย์ปฏิบัติงานหลักด้วย จึงภูมิใจที่นักท่องเที่ยวมีโอกาสได้มาสัมผัสความงดงดงามอันหลากหลายของเมืองไทย ไม่ว่าเป็นเมืองหลักหรือเมืองรองทั่วประเทศ

 

ททท. กับอโกด้า จะร่วมกันมอบสิทธิประโยชน์ส่วนลดค่าที่พัก 20% สูงสุด 1,000 บาท ผ่านแพลตฟอร์มของอโกด้า https://www.agoda.com/granddiscoverythailand ให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางและพักค้างคืนแต่ละวันเส้นทางท่องเที่ยวเมืองรอง และเส้นทางท่องเที่ยวเมืองหลักในวันธรรมดา วันจันทร์-วันศุกร์) ตั้งแต่วันนี้ - 15 สิงหาคม 2566 ช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการที่พักช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว และส่งเสริมการกระจายรายได้ ด้วยการนำเสนอโรงแรมขนาดกลาง และขนาดย่อมในเมืองรองทั่วประเทศ

 

ขณะเดียวกันก็จะร่วมมือกันส่งเสริมกิจกรรมการตลาด โดยใช้ความเชี่ยวชาญทั้งด้านท่องเที่ยวและเทคโนโลยี เพื่อสร้างการรับรู้นำสู่แรงบันดาลใจในการเดินทางท่องเที่ยวจริง เช่น โครงการ “Amazing Thailand Grand Sales

 

ทั้ง ททท.และอโกด้า ยังร่วมกันยกระดับและพัฒนาห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จัดอบรมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนแก่ผู้ประกอบการโรงแรม ภายใต้สภาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (Global Sustainable Tourism Council หรือ GSTC) เสร็จเรียบร้อยแล้วเมื่อ 3-4 กรกฎาคม 2566 ให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการโรงแรมทั่วเมืองไทย ได้นำแนวปฏิบัติด้านความยั่งยืนไปปรับใช้มากขึ้น โดยมีเป้าหมายใหญ่เร่งส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับความต้องการของคนไทยและนักเดินทางทั่วโลก

 

ข่าวที่ 5 มูลนิธิใบไม้ปันสุขบางจากคว้ารางวัลAREA2023หนุน55จังหวัด

 

นางกลอยตา ณ ถลาง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานสื่อสารองค์กรและกิจการเพื่อความยั่งยืน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และกรรมการ มูลนิธิใบไม้ปันสุข เปิดเผยว่า เป็นตัวแทนมูลนิธิใบไม้ปันสุข เข้ารับรางวัล Asia Responsible Enterprise Awards (AREA) 2023 สาขา Social Empowerment จากการดำเนินงานเพื่อการพัฒนาเยาวชนในด้านการศึกษาและสิ่งแวดล้อม ในงาน Asia Responsible Enterprise Awards 2023 ครั้งที่ 14 ที่กรุงพนมเปญ กัมพูชา จาก Enterprise Asia องค์กรไม่แสวงผลกำไร โดยเน้นสนับสนุน ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในภูมิภาคเอเชีย

 

ทางมูลนิธิใบไม้ปันสุขได้รับ รางวัล AREA 2023 สาขา Social Empowerment ครั้งนี้สะท้อนถึงการทำภารกิจอย่างโดดเด่นด้านการสร้างความเข้มแข็งและถ่ายทอดองค์ความรู้ให้สังคม เพื่อส่งเสริมการพัฒนาด้านการศึกษาและสิ่งแวดล้อมมายาวนานกว่า 6 ปี ให้กับผู้บริหารสถานศึกษา ครูและนักเรียนกว่า 17,000 คน ทั่วประเทศใน 55 จังหวัด ผ่าน 3 โครงการ ประกอบด้วย

 

โครงการที่  1 อ่านเขียน เรียนสนุก (ส่งเสริมการอ่านออก เขียนได้)  

โครงการที่ 2  รักษ์ ปัน สุข จูเนียร์ (สร้างจิตสำนึกสิ่งแวดล้อมผ่านหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน)

โครงการที่ 3  โซลาร์ปันสุข (ยกระดับคุณภาพชีวิตและลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานด้วยพลังงานสะอาด)

 

ทั้งนี้ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ก่อตั้ง มูลนิธิใบไม้ปันสุข ขึ้นเมื่อปี 2560 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมโครงการเกี่ยวข้องกับทางด้านการศึกษาให้แก่เยาวชน ส่งเสริมโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของสังคมไทย ซึ่งสามารถตอบสนองเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ ร่วมกันรวม 4 เป้าหมายสำคัญ ได้แก่

 

เป้าหมายที่ 4 Quality Education อันเป็นเป้าหมายหลัก ร่วมกับ เป้าหมายที่ 7 Affordable and Clean Energy เป้าหมายที่ 12 Responsible Consumption and Production และเป้าหมายที่ 13 Climate Action

 

ซึ่งทาง มูลนิธิใบไม้ปันสุข พร้อมเปิดโอกาสให้พนักงาน ลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจมีส่วนร่วมกับการจัดทำโครงการต่าง ๆ ผ่านการอบรมและส่งต่อองค์ความรู้ให้กับผู้บริหารสถานศึกษา ครู รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปลงมือปฏิบัติให้เกิดผลลัพธ์ สร้างความยั่งยืนในสังคม

 

            ส่วน AREA เป็นงานประกวดรางวัลระดับภูมิภาคเอเชีย จัดโดย Enterprise Asia องค์กรไม่แสวงผลกำไรชั้นนำที่ส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการที่มีความรับผิดชอบในเอเชีย มีวัตถุประสงค์เพื่อเชิดชูและให้เกียรติธุรกิจและผู้นำในเอเชียที่มีความโดดเด่นทางด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน

           

ดังนั้นรางวัลที่มูลนิธิใบไม้ปันสุข ที่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้รับในปี 2566 จึงการันตีความมุ่งมั่นที่เปิดกว้างให้ทุกภาคส่วนมาร่วมมือกันทำที่ดีทางด้านการศึกษาเพื่อประโยชน์โดยรวมต่อสังคมอันหลากหลายจะสามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขได้ต่อไป

 

ข่าวที่ 6 TCEBหนุนเทศกาลCreative Nakhon+อบรมฟรีแบบWinWinWin

 

ดร. ศุภวรรณ ตีระรัตน์  รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) TCEB” เปิดเผยว่า ทีเส็บร่วมสนับสนุนงาน Creative Nakhon ครั้งที่ 5 ยกระดับขึ้นเป็นเทศกาลของประเทศ ปีนี้จัดระหว่างวันที่ 6-9 กรกฎาคม เวลา 10:00-21:00 น. ณ บวรนคร ที่ผู้ประกอบการงานคราฟท์ ศิลปะ หัตถกรรม ท้องถิ่นไปสู่สากล โดยร่วมมือกันพัฒนา ต่อยอด สร้างมูลค่าเพิ่ม จนเกิดอัตลักษณ์ที่ไร้ขีดจำกัด ก้าวสู่เทศกาลสากลในตลาดนานาชาติ ซึ่งบรรยากาศในงานได้ดีไซน์เสมือนได้เดินชมศิลปะในต่างประเทศแบบ Craftaholic กันเลย

 

การจัดงานครั้งนี้  TCEB ร่วมกับ 5 พันธมิตร ได้แก่ 1.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สํานักงานนครศรีธรรมราช 2.สํานักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) CEA 3.บวรนคร  4.สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดนครศรีธรรมราช 5.กลุ่มครีเอทีฟนคร Creative Nakhon

 

ภายใต้ Concept คลั่งคราฟท์ (CRAFTAHOLIC)  ความคลั่งไคล้ใหลหลงหรือคลั่ง (รัก) ในเสน่ห์ของทักษะฝีมือที่เรียกว่า  "คราฟท์" (Craft) อย่างถอนตัวไม่ขึ้น จนต้องพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

 

เพื่อกระตุ้นให้ผู้ที่หลงไหลและชื่นชอบงานคราฟท์ มารวมตัวกันในงานที่จะได้พบกับดีกรีความแรง ของศิลปิน และร่วมกิจกรรมมากมาย

ส่วนอีกโครงการที่ทีเส็บ เชิญชวนผู้ที่สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมงานฟรีทาง Zoom กับทีเส็บได้จัด Online Conference “จัดประชุมอย่างไรให้...WIN WIN WIN” วันที่ 10 กรกฎาคม 2566 เวลา 10.00 - 11.45 น. เพื่อแชร์มุมมองกูรูการจัดประชุมยุคใหม่ พร้อมมอบประสบการณ์ที่มีคุณค่าไปด้วยกันกับ คุณประชุม ตันติประเสริฐสุข จากดุสิตธานี รวมทั้งจัดให้มีเสวนาหัว 3 ข้อหลัก ได้แก่

 

หัวข้อที่ 1 “ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย” โดยศุภวรรณ ตีระรัตน์ หัวข้อที่ 2 โครงการประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย…ขอรับสนับสนุนอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ หัวข้อที่  3แพลตฟอร์ม Thai MICE Connect ..... Platform ใหม่ที่ชาวไมซ์ต้องรู้

 

            ช่วงที่ 2 เที่ยวไทยไปชม “Unseen New Chapters” แดนอีสาน 5 พื้นที่ 5 พิกัด เริ่มที่ 1.มอหินขาว จ.ชัยภูมิ 2.วนอุทยานภูบ่อบิด อ.เมือง จ.เลย 3.ผาพญากูปรี อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ 4.ชุมชนบ้านปรางค์นคร อ.คง จ.นครราชสีมา 5.วัดพุทธวนาราม (วัดป่าวังน้ำเย็น) อ.เมือง จ.มหาสารคาม ต่อด้วย “7วิธีสร้างสมดุลกายใจ” และข่าวฮ็อตท้ายชั่วโมง ข่าวแรก “AWC” จับมือ Melia Hotel เปิดโรงแรมใหม่ INNSiDE by Melia Bangkok สุขุมวิท ดันพอร์ตธุรกิจโตก้าวกระโดด ข่าวที่สอง “ดุสิตอินเตอร์จัด China Roadshow” ดึงจีนเข้าพักโรงแรมในเครือทั่วโลก

 

ท่องเที่ยว –เที่ยวอีสานUnseen New Chapters 5 พื้นที่ 5 พิกัดฟินชีลฮีลปัง

 

อีสานเขียวเที่ยวหน้าฝนก่อนใคร ในแหล่งท่องเที่ยวใหม่ถอดด้าม “Unseen New Chapters” ในภาคอีสาน 5 พื้นที่  5 พิกัด เช็คอินด่วน ๆ ได้ดังนี้

 

พิกัดที่ 1   มอหินขาว อ.เมือง จ.ชัยภูมิ “ท่องอาณาจักรสวนหินล้านปี มอหินขาว”

 

“มอหินขาว” เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคา มีจุดเด่นอยู่ที่เสาหินยักษ์ 5 ก้อน ที่หลายคนบอกว่า คล้ายกับ “สโตนเฮนจ์” บนเกาะอังกฤษ และจะยิ่งสวยงามขึ้นแบบทวีคูณในช่วงฤดูฝน เพราะนอกจากนักเดินทางจะได้ชมประติมากรรมธรรมชาติของเสาหินแล้ว ยังจะได้ชื่นชมดอกไม้ป่าที่กำลังบานสะพรั่งทั่วมอหินขาว

 

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มหินที่น่าสนใจอื่นๆ  ได้แก่ หินเจดีย์โขลงช้าง ลานหินต้นไทร และจุดชมวิวผาหัวนาค ส่วนสายแคมป์ปิ้งที่ชอบดูดาว

 

  บริเวณมอหินขาวก็ถือว่าเป็นจุดชมดวงดาวและทางช้างเผือกระดับท็อปที่ควรค่าแก่การมาเยี่ยมเยือน

 

พิกัดที่ตั้ง : https://goo.gl/maps/bmeCeNd7iGMfSYZ36

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สำนักงานนครราชสีมา เบอร์โทรศัพท์ 0 4421 3030 หรือ 0 4421 3666

 

พิกัดที่ 2 วนอุทยานภูบ่อบิด อ.เมืองเลย จ.เลย“พิสูจน์ความฟิต…พิชิตทะเลหมอก ณ วนอุทยานภูบ่อบิด”

 

 วนอุทยานภูบ่อบิด “ภูบักบิด”หรือ ภูบ่บิด เป็นภูเขาเล็กๆ อยู่ห่างจากตัวจังหวัดเลยราว 1 กิโลเมตร และด้วยระยะทางที่ใกล้จากตัวเมืองแค่เอื้อม จึงนับเป็น ‘หอชมทะเลหมอกใจกลางเมือง’ หนึ่งเดียวในประเทศไทย แถมยังเป็นขวัญใจเหล่านักวิ่งเมืองเลยที่ชอบแวะเวียนมาฝึกซ้อมยามเช้ากันอยู่บ่อยๆ ด้วยระยะทางเดินสู่จุดยอดที่พอเรียกเหงื่อได้กำลังดี เพื่อแลกกับการชมวิวสวย ๆ ที่ปลายทางแล้ว

 

ในการพิชิตยอดภูบ่อบิดขึ้นมาสูดอากาศบริสุทธิ์พร้อมชมดวงอาทิตย์ท่ามกลางทะเลหมอกยามเช้า จัดว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่าแก่การเดินทางมาสัมผัสหมอกกลางเมือง ณ ที่แห่งนี้ดูสักครั้ง

 

พิกัดที่ตั้ง : https://goo.gl/maps/8jGWdfksQ7yeAaR89

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สำนักงานเลย เบอร์โทรศัพท์ 0 4281 2812 หรือ 0 4281 1405


 

 

พิกัดที่ 3 ผาพญากูปรี อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ “ชมวิวบนยอดผา ณ ผืนป่าบ้านพญากูปรี”

 

จุดชมวิวที่มีทิวทัศน์สวยตระการตา แถมยังมีความเป็นมาน่าสนใจ ตั้งอยู่ในบริเวณที่เคยมีการค้นพบ “กูปรี” สัตว์ป่าที่สูญพันธุ์ไปแล้วจากสารบบประเทศไทย "ผาพญากูปรี" ถือเป็นจุดชมวิวที่มีอากาศเย็นบริสุทธิ์จากแนวเทือกเขาพนมดงรัก ทั้งยังเป็นจุดชมธรรมชาติที่สวยงามของลำห้วยสำราญ แหล่งต้นน้ำสำคัญที่หล่อเลี้ยงชาวศรีสะเกษ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินลงไปชมภาพวาดพญากูปรี รวมถึงเที่ยวชมน้ำตกพญากูปรีในบริเวณเดียวกันได้อีกด้วย

           

พิกัดที่ตั้ง : https://maps.app.goo.gl/mRPJ3YWrvHaKPy2q7

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สำนักงานสุรินทร์ เบอร์โทรศัพท์ 0 4451 4447-8


 

พิกัดที่ 4 ชุมชนบ้านปรางค์นคร อ.คง จ.นครราชสีมา “สัมผัสเสน่ห์เหนือกาลเวลา ณ ชุมชนบ้านปรางค์นคร อาณาจักรย่าโม”

 

สัมผัสมนต์เสน่ห์วิถีของชุมชนเชิงวัฒนธรรมเก่าแก่ กับบรรดาชาวบ้านที่พร้อมหยิบยื่นมิตรภาพอันแสนอบอุ่น โดยหมู่บ้านแห่งนี้เป็นชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ถือว่ามีของดีน่าสนใจอยู่หลายอย่าง อาทิ “บ้านเรือนไทยโคราช” อายุกว่า 100 ปี ที่ปัจจุบันยังมีคนพักอาศัยอยู่จริง นอกจากนี้ยังมี “สะพานข้ามบารายสวรรค์” สะพานไม้ไผ่ที่เกิดจากความสามัคคีของชาวบ้าน แต่ที่เป็นไฮไลท์ห้ามพลาด คือ กิจกรรมรับพลังจักรวาลที่ “ปราสาทบ้านปรางค์” โบราณสถานศักดิ์สิทธิ์ ศูนย์รวมใจประจำหมู่บ้าน

 

ส่วนกิจกรรมพายเรืออีโปงกับชิมอาหารพื้นถิ่นก็ถือว่าน่าสนใจ จัดเป็นของดีสุดคลาสสิกแดนอีสานที่ไม่จำเป็นต้องจัดฉากหรือปรุงแต่งใดๆ

 

พิกัดที่ตั้ง : https://goo.gl/maps/48e2g3avFBcK59EJA

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สำนักงานนครราชสีมา เบอร์โทรศัพท์ 0 4421 3030 หรือ 0 4421 3666

 

พิกัดที่ 5 วัดพุทธวนาราม (วัดป่าวังน้ำเย็น) อ.เมือง จ.มหาสารคาม “มหาศรัทธา…มหาอุโบสถตะเคียนทอง”  

 

นี่คือพระอุโบสถที่สร้างจากไม้ตะเคียนที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างจากเสาไม้ตะเคียนทองขนาดใหญ่ โดยใช้เสาไม้ตะเคียนทองมากถึง 32 ต้น ขนาด 4 คนโอบ พระอุโบสถหลังนี้มีความสูงกว่า 20 เมตร  ภายในมีองค์พระประธานปางนาคปรกแกะสลักจากไม้สักทองทั้งองค์

 

ปัจจุบันวัดแห่งนี้นอกจากเป็นที่ศรัทธาของพุทธศาสนิกชน ยังมีชื่อเสียงมากขึ้นด้านการท่องเที่ยว กลายเป็นจุดหมายห้ามพลาดของจังหวัดที่นักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถแวะเวียนเยี่ยมชมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้

 

พิกัดที่ตั้ง : https://goo.gl/maps/Awvcf6Mq3JAM62cL6

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สำนักงานขอนแก่น เบอร์โทรศัพท์ 0 4322 7714-5

 

สุขภาพ – 7วิธีสร้างสมดุลร่างกาย-จิตใจทำให้สุขภาพดีมีความสุข

 

1. กินอาหารที่มีประโยชน์ -การที่จะมีสุขภาพดีนั้น ทั้งหมดจะต้องเริ่มต้นจากการมีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรงควรเลือกกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ มีสารอาหารหลักครบ 5 หมู่ รู้จักหลีกเลี่ยงอาหารที่มากไปด้วย แป้ง น้ำตาล ไขมัน อาหารฟาสฟู้ดส์ อาหารรสจัดต่างๆ โดยให้เน้นทานผัก และ ผลไม้ ควรดื่มน้ำเปล่าให้มากพอ อย่างน้อยวันละ 8 – 10 แก้ว แทนการดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง หรือ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และต้องกินอาหารมื้อหลักให้เป็นเวลา ครบทุกมื้อ โดยเฉพาะมื้อเช้าสำคัญที่สุด

 

2. ทำงานอย่างมีความสุข -เมื่อทุกคนเมื่อผ่านพ้นจากวัยเด็กมา ก็ต้องทำงานเลี้ยงชีพตนเอง ต้องมีความรักในงานที่ตนเองทำ ทำด้วยความตั้งใจและไม่เครียดกับงานมากไป จนชีวิตไม่มีความสุข และต้องมีความภาคภูมิใจในงานที่ตนเองทำ

 

3. การทำสมาธิ - การจะทำการสิ่งใดก็แล้วแต่ หากขาดสมาธิก็อาจจะส่งผลให้สิ่งที่ทำออกมา อาจไม่ดีเหมือนดังที่ตั้งใจไว้ การทำสมาธิ หรือ การฝึกจิตจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่ง เป็นวิธีที่ช่วยบริหารจิตใจให้ผ่องใส คลายความฟุ้งซ่าน ความวิตกกังวลต่างๆที่เกิดขึ้นในแต่ละวันได้ โดยการกำหนดลมหายใจเข้าออกลึกๆ ให้มี “สติ” อยู่กับลมหายใจ จิตใจจะค่อยๆ สงบ ผ่อนคลายทำให้เกิดสติและมีสมาธิ  

 

4. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ -เป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด ซ่อมแซมเซลล์ อวัยวะที่สึกหรอ ฮอร์โมนต่างๆในร่างกายให้สมดุลทำให้สุขภาพกลับมาแข็งแรง และพร้อมที่จะทำงานทุกวัน การนอนหลับที่ดีและถูกวิธีให้ได้วันละ 7-8 ชั่วโมง และเข้านอนก่อน 4 ทุ่ม การนอนหลับสนิทตลอดคืน  

 

5. การทำความดี -คือ การทำให้เกิดผลดีต่อผู้อื่น ต่อส่วนรวมและตนเองด้วย ซึ่งต้องเกิดจากเจตนาที่ดีด้วย สามารถทำได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการให้ การแบ่งปัน การเสียสละ การทดแทนบุญคุณ การช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือแม้แต่พูดให้กำลังใจผู้อื่น ล้วนเป็นเรื่องที่ดีทั้งสิ้น  

 

6. คบหาเพื่อนที่ดี -สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม คือการบริหารความสมดุลในชีวิตของคุณและคนรอบข้าง หากการเลือกคบเพื่อนควรมีทัศนคติดีที่จะใช้ชีวิต เป็นคนคิดบวก จริงใจต่อกัน เคารพซึ่งกันและกัน เนื่องจากคนที่อยู่รอบๆตัวเรานั้นจะมีอิทธิพลต่อต่อสุขภาพทางอารมณ์ของเรา

 

7. ค้นหาแรงบันดาลใจ -หากพูดถึงแรงบันดาลใจแล้ว ก็คงเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตเราในแต่ละวันมีความหมายที่จะก้าวไปให้ถึงจุดหมายเส้นชัยที่ตั้งไว้ ทำให้กระตือรือร้น กระปรี้กระเปร่า อยากตื่นเช้ามาทุกๆวันเพื่อทำสิ่งนั้น  

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก – AWCเปิดใหม่'INNSiDEbyMeliá Bangkok'ดันพอร์ตโตก้าวกระโดด

 

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) “AWC เปิดเผยว่า ร่วมกับผู้บริหารทำพิธีเปิดโรงแรม 'INNSiDE by Meliá Bangkok Sukhumvit' แห่งแรกในไทย เพื่อขยายพอร์ตโฟลิโอโรงแรมในทําเลยุทธศาสตร์ถนนสุขุมวิท ย่านอ่อนนุช สามารถตอบโจทย์กลยุทธ์การลงทุน สร้างกระแสเงินสดเติบโตแบบก้าวกระโดด ร่วมสร้างโครงการคุณภาพเสริมประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางยั่งยืนระดับโลก พร้อมทั้งสานต่อความร่วมมือระดับโลกระยะยาวกับทาง Meliá Hotels International หนึ่งในแบรนด์โรงแรมใหญ่ที่สุดในยุโรป เพื่อช่วยกันเสริมความแข็งแกร่งทำพอร์ตโฟลิโอโรงแรมของ AWC ให้หลากหลายสามารถเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยใช้แบรนด์ INNSiDE by Meliá โรงแรมและรีสอร์ทในเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เน้นความเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความโดดเด่น ศิลปะ และเสน่ห์ที่ลงตัว พร้อมสิ่งอํานวยความสะดวกสบายครบครันที่จะสร้างประสบการณ์การเข้าพักที่สนุกสนานให้แก่นักเดินทางรุ่นใหม่

 

ทาง AWC วางแผนกลยุทธ์เติบโตโรงแรมน้องใหม่ 'INNSiDE by Meliá Bangkok Sukhumvit' มีจุดแข็งเรื่องตั้งอยู่ในสุขุมวิทเป็นทำเลคุณภาพ พร้อมมอบประสบการณ์ที่มีชีวิตชีวา เพิ่มศักยภาพการเป็นจุดหมายปลายทางยั่งยืนให้การท่องเที่ยวของเมืองไทย

มร.กาเบรียล เอสการ์เร ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Meliá Hotels International กล่าวว่า ยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกับ AWC นําแบรนด์ INNSiDE by Meliá มาเปิดในไทยครั้งแรก โดยเชื่อมั่นจะช่วยส่งเสริมให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืนที่มีเอกลักษณ์ ตามวิสัยทัศน์ของ AWC มุ่งผลักดันธุรกิจโรงแรมและบริการอย่างมีคุณภาพสอดคล้องกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน โรงแรมนี้เป็นแห่งที่ 3 ต่อจาก Meliá Koh Samui และ Meliá Chiang Mai จึงมั่นใจจะมีกระแสตอบรับที่ดีต่อไป

 

สำหรับโรงแรม INNSiDE by Meliá Bangkok Sukhumvit มีห้องพักทั้งหมด 208 ห้อง ตอบโจทย์ตลาดเป้าหมาย 2 กลุ่มคนรุ่นใหม่ ทั้งนักเดินทางและนักธุรกิจรุ่นใหม่ ที่มองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ (Stay Curious) มีสิ่งอํานวยความสะดวกสบายครบครัน เน้นความยั่งยืน ศิลปะ เสน่ห์ ทันสมัย ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสถานที่สําคัญในกรุงเทพฯ ออกแบบสไตล์ทันสมัย พร้อมมอบประสบการณ์การเข้าพักที่เพลิดเพลินและมีชีวิตชีวา หลงใหลไปกับเสน่ห์เมืองหลวงของไทย

 

จุดเด่นการออกแบบโรงแรมให้เชื่อมโยงอย่างลงตัวระหว่างชั้น Sky Lobby กับบาร์ชั้นบน สะท้อนเรื่องการจัดวางพื้นที่วางแผนมาเป็นอย่างดี แต่ละชั้นจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น The Open Living Lobby ตกแต่งด้วยลวดลายที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัดพระแก้วและวัดอรุณ อัญมณีทางสถาปัตยกรรมที่มียาวนาน ไฮไลต์ “ห้องประชุม Big Idea Space ได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบมาจากยักษ์ผู้พิทักษ์ประตูวัดโพธิ์ บ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่และงดงามเหนือกาลเวลา ดึงดูดผู้เข้าพักได้เพลิดเพลิกับวิวพาโนรามาของกรุงเทพฯ ด้วย

 

“ห้องอาหาร” สร้างอย่างมีสไตล์ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ไฮไลต์ 3 ห้อง ได้แก่ ห้องแรก “The Kites Eatery ห้องอาหารนานาชาติมีทั้งอาหารเอเชีย และสเปนต้นตํารับให้บริการตลอดทั้งวัน พื้นที่ภายในกว้างใหญ่ของท้องสนามหลวงที่เต็มไปด้วยว่าวมากมายลอยอยู่บนท้องฟ้าเหนือตัวเมือง ห้องที่ 2 The LUZ Bangkok Tapas Bar ให้บริการอาหารสไตล์ทาปาสจากภูมิภาคต่าง ๆ ของสเปน ดีไซน์โดยนำเอกลักษณ์ของสะพานพระราม 8 และเงาสะท้อนที่ส่องแสงระยิบระยับของแม่น้ำเจ้าพระยาในเวลาพลบค่ำ นำเสนอภาพทิวทัศน์ทั่วกรุงเทพฯ แ

 

ห้องที่ 3 The Giant Swing Pool Bar ตั้งอยู่บนรูฟท็อป บริเวณริมสระว่ายน้ำของโรงแรม ออกแบบทันสมัยสะดุดตาด้วยไฮไลท์พิเศษ คือ สระว่ายน้ำพื้นกระจกใส ส่วนรูฟท็อปยังจัดสรรพื้นที่ให้ความรู้สึกเหมือนพักผ่อนอยู่ริมชายหาด สามารถเล่นโยคะท่ามกลางฉากหลังเส้นขอบฟ้าของตัวเมืองกรุงเทพฯ

 

ข่าวที่สอง -ดุสิตฯรุกChina Roadshowเปิดพอร์ตโรงแรมทั่วโลกเพิ่มรายได้

 

ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล บุก 2 เมือง 'ไชน่า โรดโชว์' เพื่อแสดงผลงานการขยายอสังหาริมทรัพย์ที่โดดเด่นในประเทศจีนและประเทศอื่นๆตัวแทนจากโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตที่ได้รับการคัดเลือกในจีน มัลดีฟส์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเวียดนาม ได้เน้นย้ำข้อเสนอของตนในกิจกรรมพิเศษที่จัดขึ้นในกรุงปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน

ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล หนึ่งในบริษัทพัฒนาโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย รายงานว่า ทีมบริหารและฝ่ายตลาดและขายเดินสายจัด two-city ‘China Roadshow’ ประกาศการขยายโรงแรมและรีสอร์ทเครือดุสิตในสาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศอื่น ๆ กับพันธมิตรทางการค้าและสื่อชั้นนำในจีน 2 เมืองใหญ่ คือกรุงปักกิ่งเมื่อ 27 มิถุนายน 2566 และเมืองเซี่ยงไฮ้ เมื่อ 30 มิถุนายน 2566 โดยได้เปิดพอร์ตโฟลิโอเครือดุสิตทั่วโลกซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วรวม 62 แห่ง มีห้องพักทั้งหมด 13,700 ห้อง กระจายอยู่ทั่วโลก 17 ประเทศ แล้วยังมีอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ระหว่างดำเนินการพร้อมจะเปิดบริการได้อีก 3-4 ปีข้างหน้า มากกว่า 60 โรงแรม

 

ขณะเดียวกันทีมงานดุสิตยังได้นำเสนอโรงแรมที่เน้นบริการสุขภาพในจีนกำลังเปิดตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2566 เป็นต้นไป อีก 2 แห่ง ได้แก่ Dusit Devarana Hangzhou กับ Dusit Princess Suites Hotel Ganzhou

 

Nichlas Maratos รองประธานฝ่ายการพาณิชย์ ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า เป็นผู้นำคณะของดุสิต ซึ่งมีผู้บริหารฝ่ายขายจากโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตทั้งใน จีน มัลดีฟส์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเวียดนาม กับหัวหน้าสำนักงานขายทั่วโลก เป็นตัวแทนดุสิตร่วมในงาน China Roadshow ปัจจุบันเครือดุสิตเปิดโรงแรมและรีสอร์ทในสาธารณรัฐประชาชนจีนแล้ว 10 แห่ง เพื่อรองรับตลาดหนึ่งในตลาดต้นทางซึ่งให้ความนิยมที่พักของดุสิตทั่วโลกด้วย แล้วจีนก็มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อธุรกิจของเครือดุสิต ซึ่งมีความมุ่งมั่นจะขยายธุรกิจในแต่ละประเทศอย่างยั่งยืนและปรับปรุงบริการมีมาตรฐานสากล

 

จึงได้ทำ China Roadshow ครั้งนี้ขึ้น ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ถึงความทุ่มเทของทีมงานทั้งหมดในการรักษาความสัมพันธ์อย่างยั่งยืนกับพันธมิตรและลูกค้าของแบรนด์ดุสิต รวมถึงรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่มีโอกาสสร้างพันธมิตรใหม่ เฉลิมฉลองความสำเร็จ และกำหนดทิศทางการเติบโตและความสำเร็จต่อไปภายในเมืองที่มีชีวิตชีวาและพลวัตของจีน

 

ส่วน China Roadshow ของดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อผนึกกำลังขับเคลื่อนสร้างความตื่นตัวให้ผู้ใช้บริการได้รับรู้ 3 เรื่องหลัก  ได้แก่

 

เรื่องที่ 1 สร้างการรัฐรู้เพิ่มเติมถึงแบรนด์ไทยที่มีเอกลักษณ์การต้อนรับแบบไทยของเครือดุสิต ซึ่งพร้อมมอบประสบการณ์พิเศษให้นักท่องเที่ยวทั่วสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามเลือกองห้องพักแต่ละแห่ง

 

เรื่องที่ 2 ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเครือดุสิตมุ่งให้บริการด้วย 4 เสาหลัก ได้แก่ เสาที่ 1 Dusit Graciousness – บริการ เฉพาะบุคคลอย่างสง่างาม เสาที่ 2 Locality : เชื่อมโยงแขกกับชุมชนท้องถิ่นอย่างมีเอกลักษณ์) เสาที่ 3 Well-being : มอบประสบการณ์สุขภาพที่เหนือกว่าสปา เสาที่ 4 ความยั่งยืน ทั้งทางสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม

 

เรื่องที่ 3 แนะนำวิธีเลือกจองที่พักแต่ละแห่ง โดยได้รวบรวมแพกเกจทั้งหมด พร้อมกับนำข้อเสนอพิเศษที่ได้รับแรงบันดาลใจจากไทยดึงดูดนักท่องเที่ยวตลาดจีน โดยมี “เทวารัณย์ เวลเนส” บริการสุขภาพที่ได้ออกแบบโปรแกรมเพื่อจัดการคลายเครียด ล้างสารพิษ ฟื้นฟูการนอนอย่างมีประสิทธิภาพหลับสนิท รวมทั้งนำเสนอ “ประสบการณ์รับประทานอาหาร” ตามห้องอาหารในโรงแรมเครือดุสิตแต่ละแห่งที่โดดเด่นด้วยอาหารต้นตำรับและวัตถุดิบท้องถิ่นที่ดีที่สุด

 

ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ประกาศจะทยอยเปิดอย่างไม่เป็นทางการอีกไม่น้อยกว่า 7 โรงแรม ได้แก่ 1.Dusit Thani Mogan Mountain เน้นเรื่องสุขภาพกำลั

งจะมีขึ้นใน Huzhou ใน “เนปาล” เปิดเพิ่มแห่งแรกอีก  2 โรงแรม คือ 3.Dusit Thani Himalayan Resort Dhulikhel กับ 4.Dusit Princess Kathmandu “ญี่ปุ่น” 4.ดุสิตธานี เกียวโต โรงแรมแห่งที่สองใน คาดจะเปิดในเดือนกันยายนนี้ “อินเดีย” จะเปิดช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ 2 โรงแรม 5.Dusit Princess Serviced Suites Kolkata กับ 6.Dusit D2 Fagu, Shimla และ “ตลาดในประเทศ” กำลังขยายธุรกิจการลงทุนในภาคใต้อีก 1 โรงแรม คือ 7.โรงแรมดุสิต ปริ๊นเซส พัทลุง เตรียมเปิดไตรมาส 4 ปีนี้เช่นกัน

 

สำหรับ “โรงแรม ดุสิตธานี กรุงเทพฯ” ซึ่งเป็นเรือธงใหม่ล่าสุดกำหนดจะเปิดให้บริการกลางปี ​​2567 ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของ ดุสิต เซ็นทรัล ปาร์ค แลนด์มาร์ค การพัฒนาแบบผสมผสานหรือ Mix Use มูลค่า 1,370ล้านเหรียญสหรัฐ  จะประกอบด้วย อาคารสำนักงานที่ทันสมัย ​​ห้างสรรพสินค้าระดับไฮเอนด์ สวนบนดาดฟ้าขนาดใหญ่ ที่พักอาศัยสุดหรูซึ่งจะใช้แบรนด์ ดุสิต เรสซิเดนซ์และดุสิต ปาร์คไซด์  ซึ่งได้เปิดตัวกับตลาดนักลงทุนจีน สามารถใช้เงินอย่างคุ้มค่าในฐานะผู้นำตลาดที่พักระยะยาวใจกลางกรุงอย่างแท้จริง

 

ทั้งนี้ ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล มุ่งลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยให้บริการเกี่ยวข้องกับการต้อนรับ อาหาร เป็นกลยุทธ์ระยะยาวเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน เน้น 3 จุดแข็งหลัก ความสมดุล การขยายตัว กระจายความเสี่ยง ปัจจุบันให้บริการทั้งหมด 8 แบรนด์ ได้แก่ 1.ดุสิตเดวาราณา 2.ดุสิตธานี 3.ดุสิตสวีท 4.ดุสิตคอลเลคชั่น 5.ดุสิตดีทู 6.ดุสิตปริ๊นเซส 7. ASAI Hotels และ 8. Elite Havens แล้วยังมีกิจการอื่น ๆ ได้แก่ โรงเรียนสอนทำอาหารและวิทยาลัยการบริการในเมืองไทย บริษัทจัดเลี้ยงอาหารในสถาบันการศึกษาในไทย กัมพูชา เวียดนาม

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

  รุ่งทิพย์ บุกขุนทด  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่  2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ

TCEBนำไมซ์ปี67โร้ดโชว์เทรดโชว์ทั่วโลก-จัดยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" บิ๊ก TCEB ปี 67 ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้   3-7 มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี !! ไทยเจ้าภาพ Korat Expo2029 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO” ช้อป 3 อย่างลด 25% ททท.นำร่องจัด AIR-MAZING ไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม & บางจากมอบ2โปรดี สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด AWC ปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ Trip.com- ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล. วันอาทิตย์ที่   3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ FM97  # เพ็ญรุ่งใยสามเสน # เท

เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก

  เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก คิงเพาเวอร์ชวนช้อปออนไลน์แบรนด์เนมลด 70%26-31 ต.ค.นี้ สนุกกับ SUPER SURPRISE ดีลพิเศษราคาดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ ก.ท่องเที่ยวตีปีกรับทัวร์ต่างชาติ 3 เฟส-ไฟเขียวแล้ว 10 แอร์ไลน์ ไทยจ่อดึงลองสเตย์ต่างชาติซื้ออสังหาฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด “ TCEB” ชูไทยแลนด์ไมซ์สตาร์ตอัพปั้นนวัตกรรมใหม่5โปรเจ็กต์ หนาวนี้เที่ยว“นครพนม”ปลอดภัยมั่นใจเส้นทางสาย SHA ริมโขง วิธีเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนควบคู่การลดโรคมากมาย ไทยสมายล์ขายตั๋วชุดเที่ยวไทยเหมาจ่าย4ใบเริ่มที่3.8พันบาท ไทยเวียตเจ็ทขายตั๋ว5บาท/เที่ยวโปร2เส้นทางใหม่ในประเทศ กรมเจ้าท่าฟุ้งแผนทำ10ท่าเรือรองรับวันสต็อปเที่ยวเจ้าพระยา   นายพศิน ลาทูรัส ซีอีโอฝ่ายพัฒนาธุรกิจ  บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง