ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

TCEBดันไมซ์ชุมชน4ภาคเข้าตลาดโลก เชียงใหม่-เชียงรายเมืองกาแฟนานาชาติ


นางสาวปาริฉัตร เศวตเศรนี 
ผู้อำนวยการฝ่ายภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร 

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB


TCEB”ผนึกเครือข่ายปั้นโมเดล“ไมซ์ชุมชน”4ภาคโกอินเตอร์”

ทำสำเร็จภาคเหนือ“เชียงใหม่-เชียงราย”มหานครชากาแฟโลก

รุกต่อยอดอีเวนต์เหนือสู่ใต้-เร่งเปิดตลาดพรีเมียมไมซ์โปรดักซ์

คิงเพาเวอร์มหานครนำเชฟจัดสุดยอดดินเนอร์12hands22ก.ค.

ช้อปมีสไตล์บูทีคSIRIVANNAVARIคิงเพาเวอร์รางน้ำลด90%

ททท.ย้ำปี’66จีนรวยเปลี่ยน4เรื่องเฮทัวร์ไทยเข้าเป้า3แสนล้าน

BCPGปิดบิ๊กดีลโรงไฟฟ้าก๊าซในสหรัฐฯรับรู้รายได้เพิ่ม4เท่า

TCEB นำไทยลีด2มาตรฐานไมซ์ในThe 58th ASEAN NTOs

อาหารต้านโรคซึมเศร้า' ช่วยคลายกังวลทำให้อารมณ์ดีขึ้น

เปิดแล้ว!!มัจฉานุแลนด์เที่ยวกินเรียนเล่นพักมีโปรดีก.ค.นี้

IATA-AIAเคมบริดจ์ปลุกแอร์ไลน์ฮือฮาฝูงบินไฟฟ้า5ปีหน้า

 

วันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคม  2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก #TCEB  #ไมซ์ชุมชน4ภาค #เมืองชากาแฟโลก #เที่ยวภาคใต้

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/lPcoCiMJ3P/

ช่วงที่ 1 เจาะไมซ์มิติใหม่กับ “ปาริฉัตร เศวตเศรนี” ผู้อำนวยการฝ่ายภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” ปี’66 ปูพรมดัน 4 ภาค ดึงอัตลักาณ์จุดขาย “เมืองไมซ์” 4 ด้าน ท่องเที่ยวเชิงไมซ์ เกษตรอุตสาหกรรม ศิลปะหัตถกรรม และเฮลท์เวลเนส นำร่อง “ภาคเหนือ” เชียงใหม่ เชียงราย โชว์ความสำเร็จเมืองจัดงานชา กาแฟ โลก ใช้โมเดลต่อยอดข้ามภาค “เหนือลงใต้” จับคู่จัดประชุมเครือข่ายชากาแฟ “เชียงราย-สงขลา” 7-10 ก.ย.66 ปั้นผลิตภัณฑ์ “พรีเมี่ยม ไมซ์” สินค้าชุมชนสู่ตลาดโลก ผนวกโปรแกรมทัวร์ครึ่งวัน/เต็มวัน 7 ไมซ์ บรรจุในโปรแกรมงานอินเตอร์ปี 66-67

 

นางสาวปาริฉัตร เศวตเศรนี ผู้อำนวยการฝ่ายภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” ขณะนี้ทีเส็บมีความมุ่งมั่นตั้งใจปักหมุดผลักดันภาคเหนือตอนบน นำร่อง 2 จังหวัด “เชียงใหม่กับเชียงราย” เป็นเมืองไมซ์ชากาแฟนานาชาติ ทำต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2560 โดยเข้าไปสนับสนุนการจัดงาน ASEAN Coffe and Tea Festival ให้เป็นแฟล็กชิพ งานประชุมสัมมนาเครือข่ายชากาแฟ เพิ่มในส่วนคอนเว็นชั่น และขยายผลสู่ World Tea & Coffee Expo 2021 รวมถึงต่อยอดงานดังกล่าวมาจนถึงปี 2566 ภายใต้อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และชุมชน

 

ทีเส็บทำงานร่วมกับหลายเครือข่าย ทั้งสถาบันชากาแฟของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรนานาชาติ คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เพื่อจับมือกันพัฒนาอย่างเป็นระบบ พร้อมกับจัดทริปนำสื่อมวลชนลงพื้นที่และเข้าร่วมงานการประชุมเครือข่ายชากาแฟปี 2566 โดยได้เชิญผู้ประกอบการด้านชา กาแฟ เข้าร่วม กับเพิ่มพื้นที่จัดการแสดงสินค้าหรือเอ็กซิบิชั่นด้วย

ไฮไลต์ในส่วนคอนเว็นชั่นก็เปิดเจรจาจับคู่ธุรกิจ ได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมจำนวนมากกว่า 350 คน สร้างรายได้ในงานเบื้องต้นกว่า 1.5 ล้านบาท

ตามแผนจะต่อยอดการจัดงานผลักดันร่วมกับสถาบันการศึกษาผนวกกับความพร้อมของเชียงรายใน 2 ด้านหลัก ได้แก่ ด้านที่ 1 เป็นพื้นที่ศูนย์กลางสภาชา กาแฟ ใหญ่ที่สุด ด้านที่ 2 มีความเข้มแข็งทางด้านวิชาการ เพราะชุมชนต้องการมหาวิทยาลัยนำข้อมูลเข้าไปสนับสนุนท้องถิ่น เพื่อยกระดับมาตรฐานรองรับตลาดไมซ์และการท่องเที่ยวได้

หลังจากประชุมร่วมกับเครือข่ายชา กาแฟ ภาคเหนือตอนบนที่เชียงรายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะนำโมเดลไปขยายผลในเดือนสิงหาคม 2566 ซึ่งทีเส็บจะประชุมเรื่องเครือข่ายทางธุรกิจสนับสนุน “ผู้ประกอบการหาช่องทางลงทุน” หลัก ๆ คืองาน The 4th Tea and Coffee International Symposium จัดขึ้นปลายเดือนสิงหาคม ณ จังหวัดเชียงราย  จากนั้นสนับสนุนงาน การสร้างเครือข่ายระหว่างเกษตรกรชากาแฟผู้ผลิตภายในประเทศ (เมืองแห่งกาแฟเหนือใต้) ระหว่างวันที่ 7-10 กันยายน นี้ ที่จังหวัดสงขลาเป็นการจับคู่จังหวัดหลัก ระหว่าง “ภาคใต้” จังหวัดสงขลา กับ “ภาคเหนือ” จังหวัดเชียงราย เดินหน้าสร้างเครือข่ายพัฒนาเส้นทางเชื่อมโยงชา กาแฟ เต็มรูปแบบ 

 


ปี 2566 ทีเส็บยังคงแผนสนับสนุนงาน World Tea & Coffee Expo 2024 ได้วางรูปแบบเริ่มงานเอ็กซโป ชา กาแฟ ในเชียงรายขยับเป็น BtoB : business to Business ได้แล้วสามาผู้ประกอบการมาจับคู่ซื้อขาย ปัจจุบันตลาดชากาแฟระดับโลกไทยทำสถิติอันดับ 7 ในตลาดการค้าชาขนาดใหญ่สุดของโลก มูลค่ารวมปีละกว่า 196,000 ล้านบาท รวมทั้งชาไทยยังได้รับการโหวตเป็นตลาดชาพร้อมดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์มูลค่าเกินปีละกว่า 10,000 ล้านบาท เติบโตเพิ่มถึง 20 % ยังสามารถเติบโตได้ต่ออีกสูงมาก

สำหรับเทรนด์ชาระดับโลกจะเน้นเป็นออร์แกนิก เช่นเดียวกับจังหวัดเชียงรายเป็นออร์แกนิกมากตั้งแต่การปลูกและภูมิอากาศ มีพื้นที่ปลูกสมบูรณ์ มีโรงงานผลิตขนาดใหญ่ หรือขนาดกลาง มีสถานที่และกระบวนการผลิตพร้อม แต่ยังต้องปิดจุดอ่อน 2 เรื่อง คือ เรื่องที่ 1 จะต้องดูเพิ่มเกี่ยวกับ “ต้นทุนการผลิต” ยังคงสูงอยู่ เรื่องที่ 2 เกษตรกรรายย่อยยังขาดความรู้การพัฒนาผลิตภัณฑ์


ทีเส็บมีแผนทำการตลาดเพิ่มเข้าไปด้วย เพื่อยกระดับเป็นเส้นทางไมซ์ชา กาแฟ เริ่มต้นจากการจัดทริปเป็นแพเกจ ครึ่งวัน และ  1 วัน  เพื่อไปดูงานในพื้นที่ปลูกชา กาแฟ ชุมชนอาข่าบ้านแสนสุข ตำบลศรีค้ำ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย จะจัดทำกิจกรรม “ชิมชา สัมผัสชุมชนอาข่า” เป็นต้นแบบในภาคเหนือตอนบน แล้วผู้ประกอบการจะสามารถนำคนเข้าไปเยี่ยมชมได้ ไม่เฉพาะการชิมชา ดูกรรมวิธีการปลูก แต่จะเพิ่มประสบการณ์ร่วมในวิถีชุมชนด้านอาหารชนเผ่า เช่น ร่วมขันโตกอาหารกลางวัน ทำกิจกรรม D.I.Y.เป็นของที่ระลึกอย่าง ทำพวงกุญแจ ไม้กวาด แล้วนำกลับมาใช้ที่บ้านได้

สำหรับการดีไซน์เส้นทางร้อยเรียงให้สอดคล้องไว้ในแผน 7 ธีมไมซ์ เพื่อให้กลุ่มองค์กรที่จะไปจัดสัมมนา จัดกิจกรรม outing ต่าง  ๆ เลือกนำไปใช้ทั้งแบบครึ่งวันและเต็มวัน ผนวกกับการพ่วงขาย “พรีเมี่ยม ไมซ์ โปรดักซ์” ผลิตภัณฑ์ชุมชนที่ได้รับการดึงอัตลักษณ์ที่โดดเด่นจากแต่ละพื้นที่พัฒนาเป็นสินค้าศักยภาพขายได้ปริมาณมากเพื่อหารายได้เข้าสู่ชุมชน เช่น 1. ชากุหลาบอินทรีย์ สวนบัวชมพู อ. เชียงดาว จ. เชียงใหม่ 2. ที่ใส่น้ำหอม อโรม่า ชุมชนนันทาราม อ. สันกำแพง จ. เชียงใหม่ 3. กระเป๋าเสื่อกก ชุมชนบ้านผารังหมี อ. เนินมะปราง จ. พิษณุโลก

 


จากนั้นปี 2567 จะได้นำโมเดลการสนับสนุน ไมซ์ ซิตี้ ครบทั้ง 4 ภาค โดยจะเข้าไปศึกษาและสร้างอัตลักษณ์เมืองก่อน เพื่อดูความเป็นไปได้ทั้งหมด ล่าสุดที่จังหวัดเชียงใหม่ได้รับเกียรติจากผู้ว่าราชการจังหวัดมาเปิดงาน พร้อมผู้ประกอบการ  70 รายเข้ามาระดมความเห็นสะท้อนอัตลักษณ์ของภาคควรจะไปในทิศทางใดได้บ้าง เบื้องต้นทีเส็บได้ศึกษา 4 เรื่อง ได้แก่ 1.การท่องเที่ยวและไมซ์ 2.เกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร ได้ดึงจุดเด่นเมือง ชา กาแฟ มาต่อยอดจัดงาน 3.เมืองสร้างสรรค์ด้านศิลปะหัตถกรรม ซึ่งยูเนสโกยกย่องให้เชียงใหม่เป็นเมืองสร้างสรรค์นานาชาติ 4.ศูนย์กลางเมืองสุขภาพองค์รวม Health and Wellness จากนั้นก็นำมาวิเคราะห์เพื่อให้เกิดจุดขายของแต่ละภาคอย่างชัดเจน

 

ปี 2566 ทีเส็บทำเสร็จเรียบร้อยแล้วในภาคอีสาน เดือนกรกฎาคมนี้ทำต่อยังภาคเหนือ ช่วงครึ่งปีหลังจะทำต่อในภาคใต้ และภาคกลาง ด้วยวิธีศึกษา บูรณาการอัตลักษณ์ สร้างธีมจุดขาย กำหนดเส้นทาง เพื่อพัฒนายกระดับสู่ไมซ์ที่จะชูธงอุตสาหกรรมแต่ละชุมชน เพื่อดึงผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นเด่น ๆ เพื่อวางตลาดสร้างรายได้ ไม่ว่าจะเป็น พรีเมี่ยม ไมซ์ โปรดักซ์ หรือสินค้าแฟชั่น และอื่น ๆ แล้วนำไปโปรโมตทั้งในและต่างประเทศ ตามงานอีเวนต์นานาชาติ ล่าสุดทีเส็บนำผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยมร่วมโปรโมตในงานเทรดโชว์ แฟรงเฟิร์ต เยอรมัน

 

ขณะนี้ทีเส็บนำร่องทำผลิตภัณฑ์ชุมชน พรีเมี่ยม ไมซ์ ภาคเหนือในหลายจังหวัด ทั้ง เชียงใหม่ เชียงราย พิษณุโลก สุโขทัย โดยใช้เวทีเทรดโชว์ต่างประเทศ ผนวกเข้ากับพื้นที่แห่งความยั่งยืนและการได้สัมผัสกับความรู้สึก Love Local ความรักในท้องถิ่น ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์มาแรงอยู่ขณะนี้

 

สำหรับ “ตลาดไมซ์ต่างประเทศ” นักเดินทางไมซ์จากทั่วโลกให้ความสำคัญกับชุมชนที่เดินทางเข้ามาจัดงาน แล้วก็จะบรรจุไว้เป็นหนึ่งในทริปก่อนและหลังงาน (Pre-Post Tour) ส่วน “ตลาดในประเทศ” จัดทำเป็น pop up ตามงานต่าง ๆ ที่ทีเส็บเข้าไปสนับสนุนทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งพ่วง พรีเมี่ยม ไมซ์ เข้าไปด้วย โดยได้ใช้ทุกช่องทางกระตุ้นให้เกิดค่านิยมการเลือกใช้

 

นางสาวปาริฉัตร กล่าวว่า ทีเส็บเพิ่มความเข้มข้นร่วมมือกับมหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษาชื่อดังทุกภาค โดยมีฝ่ายศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์ของทีเส็บที่ดูแลทางด้านความยั่งยืนโดยเฉพาะ เพื่อการวางรูปแบบการคำนวณลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากการจัดงานไมซ์แต่ละประเภท พร้อมกับเปรียบเทียบปริมาตรเทียบเท่าการปลูกต้นไม้กี่ต้น มีแพลตฟอร์มสำเร็จรูปเพื่อให้ผู้จัดไมซ์แต่ละงานนำไปใช้ประโยชน์อย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

อนาคตยังจะเดินหน้ากระตุ้นและปลุกจิตสำนึก 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ผู้ประกอบการ ผู้เข้าร่วมงานไมซ์ ให้หันมาร่วมมือกันวัดค่าการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์อย่างชัดเจน หากองค์กรหรือหน่วยงานที่ประสบความสำเร็จทำได้ตามโจทย์ก็จะได้รับอินเซ็นทีฟจากทีเส็บเข้าไปสนับสนุนเพิ่มมากขึ้น กลุ่มที่ 2 ชุมชน/ท้องถิ่น พื้นที่รองรับไมซ์ ก็จะแนะนำให้เลือกใช้เครื่องมือวัดคาร์บอนและเลือกจัดงานโดยคำนึงถึงหลักยุทธศาสตร์ BCG-Bio Circular Green สังคมชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน สิ่งแวดล้อม ทำทั้ง 3 เรื่อง ควบคู่กันไป เพื่อผนึกกำลังกันทำให้อุตสาหกรรมไมซ์เติบโตอย่างมีคุณค่าและมูลค่าทั้งปัจจุบันและอนาคตต่อไป

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์มหานครนำเชฟปรุงสุดยอดดินเนอร์12hands 22ก.ค.นี้

 

คิง เพาเวอร์มหานคร ชวนนักกินได้มาสัมผัสประสบการณ์ “สุดยอดดินเนอร์ 12 hands” นำโดย “เชฟปาโก้” จากห้องอาหาร Ojo พร้อมจับมือกับ 5 เชฟ ร้านดังทั่วกรุงเทพฯ  อย่าง เชฟชาลี กาเดอร์ แห่งร้าน 100 Mahaseth  เชฟทิม บัตเลอร์ ร้านอาหาร Eat Me  เชฟปริญญ์ ผลสุข ร้านสำรับสำหรับไทย  เชฟ Álvaro El Palanca Ramos ร้านอาหารสเปน Vaso และเชฟเปเป้ (Pepe Dasi Jimenez) จากร้าน Jim Thomson

 

มารวมพลังความ เป็น ไป ได้ จัด “ดินเนอร์ 12 hands” ขึ้นในวันที่ 22 กรกฎาคม 2566 ที่ห้องอาหาร Ojo Bangkok  คิง เพาเวอร์ มหานคร เท่านั้น ตั้งแต่ 18.00 -23.00 น. ราคาเพียงคนละ 3,400++ บาท นำเสนอเป็นเซตเมนู 12 คอร์ส สำรองที่นั่งได้โทร 02 0858888  หรือแอดไลน์ OA ที่ @OjoBangkok

 

ขณะเดียวกัน “คิง เพาเวอร์ มหานคร” ยังมีอีกหลายเรื่องราวให้มาสัมผัสความฟิน บนจุดสูงสุด เป็น ไป ได้ จะเป็นดินเนอร์หรู หรือบาร์สุดชิล จิบม็อกเทล ชมวิว 360 องศา  ทั่วกรุงเทพฯ ที่ Sky Beach หรือจะเต็มอิ่มกับเมนูอาหารเม็กซิกันสุดหรูที่ Ojo Bangkok เป็นไปได้ทุกแนว เป็นไปได้ทุกวัน

 

ห้ามพลาดพบกับ 4 ประสบการณ์ท่องเที่ยว  Eat. Play. Stay. Shop. ตอบทุกไลฟ์สไตล์ เป็น ไป ได้ ที่ คิง เพาเวอร์ มหานคร ดังนี้

 

Eat เอนจอยเมนูนานาชาติ ที่ Mahanakhon Eatery

 

Play เต็มอิ่มกับวิวแบบ 360 องศา  บน Mahanakhon SkyWalk

 

Stay พักสบาย ได้ Inspiration  ที่ The Standard, Bangkok Mahanakhon

 

Shop ค้นหาแบรนด์ดัง Exclusive Items  ที่ FIRSTER BY KING POWER

 

ข่าวที่ 2 ช้อปมีสไตล์บูทีคSIRIVANNAVARIคิงเพาเวอร์รางน้ำลด90%

 

 ชวนกันมาช้อปอย่างมีสไตล์ มหกรรม “SIRIVANNAVARI Friends & Family SALE 2023” ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ วันนี้-31 กรกฎาคม 2566 เซอร์ไพรส์เซลครั้งใหญ่ประจำปีพบกับสินค้าแฟชั่นลักซ์ชัวรี่ลดสูงสุด 90% เช่น กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ  เดนิม ผ้าพันคอดีไซน์เก๋ ชุดว่ายน้ำเหมาะกับทั้งสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ มาได้ทุกวันตั้งแต่ เวลา 10.00 – 20.00 น.  บูทีค SIRIVANNAVARI ชั้น 1 คิง เพาเวอร์ รางน้ำ 

 

พิเศษ! รับส่วนลดเพิ่มเติมสูงสุด 700 บาท เมื่อเลือกช้อปในสไตล์ที่ชอบ คือ

 

1.ช้อปตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป รับส่วนลดเพิ่ม 250 บาท จำกัด 60 สิทธิ์

 

2.ช้อปตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป รับส่วนลดเพิ่ม 700 บาท จำกัด 40 สิทธิ์

 

ตลอดรายการเปิดให้คนละ 1 สิทธิ์/Tier รับสิทธิ์ได้ตามลำดับมาก่อนได้ก่อนมาทีละครังต้องรอตามคิว

ขณะที่ส่วนลดดังกล่าวไม่สามารถแลก เปลี่ยน หรือทอนเป็นเงินสดได้ ยังมีเวลาอีกถึง 2 สัปดาห์ แวะมาช้อปกันด่วน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

 

ข่าวที่ 3 ททท.ยันปี’66จีนรวยเปลี่ยน4เรื่องเฮเที่ยวไทยเข้าเป้า3แสนล้าน

 

นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.วางแผนปี 2566 ฟื้นรายได้จากนักท่องเที่ยวสาธารณรัฐประชาชนจีน ให้ได้ถึง 5 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศไม่น้อยกว่า 300,000 ล้านบาท ซึ่งช่วงหลังสถานการณ์โควิด-19 พฤติกรรมตลาดจีนเดินทางเที่ยวเมืองไทยเปลี่ยนไปจากเดิมโดยสิ้นเชิงเห็นภาพชัดเจน เป็นสัญญาณต่อเนื่องถึงปี 2567 ซึ่ง ททท.กำลังประชุมจัดทำแผนตลาดการท่องเที่ยวประจำปี 2567 หรือ TATAP 2024 จึงขอให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งปรับตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของจีนหลัก ๆ มี 4 เรื่อง ประกอบด้วย

 

เรื่องที่ 1 เดินทางอิสระโดยลำพัง (F.I.T.) มาด้วยกันครั้งละ 2-3 คน มาจากเมืองต้นทางที่มีเศรษฐกิจค่อนข้างมั่นคง มีเสถียรภาพ พอสมควร

 

เรื่องที่ 2 พร้อมใช้จ่ายเงินเฉลี่ยสูงประมาณ 50,000 บาท/คน/ทริป แตกต่างจากก่อนหน้านี้เมื่อปี 2562 จีนนิยมเดินทางมาเป็นหมู่คณะขนาดใหญ่ครั้งละ 100 คนขึ้นไป/กลุ่ม ใช้จ่ายเงินเฉลี่ยประมาณ 35,000 บาท/คน/ทริป

 

เรื่องที่ 3 นักท่องเที่ยวจีนเดินทางอิสระโดยลำพังหันมาใช้การทำ E-VOA (VISA On Arrival)  ลงทะเบียนผ่านออนไลน์เมื่อมาถึงสนามบินนานาชาติของไทย ก็สามารถใช้แสดงกับทางเคาน์เตอร์ตรวจลงตราประทับของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ได้อย่างรวดเร็ว ไม่จำเป็นจะต้องยืนต่อแถวเข้าคิวรอกรอกเอกสาร VOA

 

เรื่องที่ 4 ปัจจุบันกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวเมืองไทยส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ คนวัยทำงาน หรือทายาทธุรกิจ ซึ่งนิยมใช้เงินเพื่อหาประสบการณ์ท่องเที่ยวใหม่ ๆ ในไทย เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเวลเนส สปา อาหาร แฟชั่น แตกต่างจากอดีตจะเป็นนักท่องเที่ยวสูงวัยมาเป็นหมู่คณะตามแพกเกจหรือโปรแกรมท่องเที่ยวที่ซื้อจากบริษัทตัวแทนนำเที่ยว

 

นายธเนศวร์ กล่าวว่า ถึงแม้ปัจจุบันจีนกำลังเผชิญปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศเติบโตไม่ได้ตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ อาจจะกระทบกับบางมณฑลและกลุ่มชาวจีนระดับกลางถึงล่าง ส่วนระดับบนยังคงมีกำลังซื้อสามารถเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยได้ ตามที่ปรากฎอยู่จนขณะนี้ยังคงมีจีนเดินทางมาไทยวันละ 15,000 คนขึ้นไป

               

                นายชูวิทย์ ศิริเวชกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก ททท.กล่าวว่า สถานการณ์นักท่องเที่ยวเที่ยวเมืองไทยปี 2566 ตอนนี้เห็นตัวเลขทำได้เกิน 4.3 ล้านคนขึ้นไป จนถึง 5 ล้านคน จากสถานการณ์ครึ่งปีแรกทำได้แล้วเกินกว่า 1.9 ล้านคน ครึ่งปีหลังเป็นช่วงฤดูเดินทางจะนำเข้ามาได้อีกไม่น้อยกว่า 2.4 ล้านคน โดยเฉพาะช่วงหยุดต่อเนื่องวันชาติจีนเดือนตุลาคมนี้ประมาณ 8-10 วัน มีแนวโน้มจีนเลือกมาเที่ยวในไทยวันละประมาณ 30,000 คน (สูงกว่าปัจจุบันตามปกติเข้ามาวันละ 15,000 คน) หรือสูงสุดถึงวันละ 100,000 คน

 

                รวมทั้งจีนส่วนใหญ่ได้เปลี่ยนวิธียื่นขอวีซ่าจากเดิมต้องผ่านทางกงศุลหรือสถานฑูตไทยประจำแต่ละมณฑล มาเป็นการลงทะเบียนขอผ่านทางออนไลน์ที่ไทยเปิดให้ยื่นแบบ E-VOA ได้ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายครั้งละ 500 หยวน/คน (แตกต่างจากการยื่นขอวีซ่าปกติจีนมาไทยจะประมาณครั้งละ 250 หยวน/คน) นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยินดีจ่ายเพื่อความสะดวกคล่องตัวในการเดินทางมาเที่ยวเมืองไทย แล้วก็เลือกจองใช้โรงแรมที่พักราคาสูง ตรงกับเป้าหมายของ ททท.กำลังมุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดคุณภาพ

 

ข่าวที่ 4 BCPGปิดบิ๊กดีลโรงไฟฟ้าก๊าซในสหรัฐฯรับรู้รายได้เพิ่ม4เท่า

 

นายนิวัติ อดิเรก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้บรรลุเงื่อนไขตามสัญญาซื้อขายหุ้น และได้รับโอนหุ้นโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติเรียบร้อยแล้วมูลค่าด้วยการลงทุนกว่า 9,000 ล้านบาท 2 โครงการ ในรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา จาก บริษัท แฟรงคลิน พาวเวอร์ โฮลดิ้ง ทำให้ขณะนี้มีกำลังการผลิตในสหรัฐอเมริกาตามสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 426 เมกะวัตต์   คิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 1,744 เมกะวัตต์ เติบโตกว่า 30 % สามารถเพิ่มการรับรู้รายได้ทันทีกว่า 4 เท่า

 

โรงไฟฟ้าทั้ง 2 โครงการดังกล่าว ประกอบด้วย โครงการแรก โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ ฮามิลตั้น ลิเบอร์ตี้ (ลิเบอร์ตี้) มีกำลังการผลิตติดตั้ง 848     เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทฯ ได้สิทธิ์ถือหุ้นทางอ้อมได้ด้วยอีก 25 % คิดเป็นกำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนเทียบเท่ากับ 212 เมกะวัตต์  โครงการที่ 2 โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ ฮามิลตั้น เพทรีออต (เพทรีออต) มีกำลังการผลิตติดตั้ง 857เมกะวัตต์ ซึ่งจะทำให้บริษัทถือหุ้นทางอ้อม 25 % คิดเป็นกำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนเทียบเท่ากับ 214 เมกะวัตต์

 

นายนิวัติ กล่าวว่าเมื่อเดือนเมษายน 2566 ทางบีซีพีจีได้เข้าไปลงนามสัญญาขื้อขายหุ้นโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติทั้ง 2 โครงการ ด้วยเงินลงทุน 260 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 9,000 ล้านบาท โดยเข้าซื้อหุ้น 25 % ของบริษัท ฮามิลตั้น โฮลดิ้ง จากบริษัท แฟรงคลิน พาวเวอร์ โฮลดิ้ง จากนั้นในวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 ได้บรรลุเงื่อนไขตามสัญญาซื้อขายหุ้น และได้รับโอนหุ้นของบริษัท ฮามิลตั้น โฮลดิ้ง เรียบร้อยแล้ว รับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าทั้งสองแห่งทันที

 

สำหรับ บริษัท แฟรงคลิน พาวเวอร์ โฮลดิ้ง เป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าฮามิลตั้น ลิเบอร์ตี้ (Hamilton Liberty) และ ฮามิลตั้น  เพทรีออต (Hamilton Patriot) ตั้งอยู่ในรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา กำลังการผลิตรวม 1,705 เมกะวัตต์ ทำให้บีซีพีจีมีกำลังการผลิตในสหรัฐอเมริกาตามสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นอีก 426 เมกะวัตต์ ส่งผลทำให้ปัจจุบัน บริษัทฯ ลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริการวมทั้งสิ้น 4 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนรวมทั้งสิ้น 577 เมกะวัตต์

 

ข่าวที่ 5 TCEB นำไทยลีด2มาตรฐานไมซ์ในThe 58th ASEAN NTOs

 

นางอรชร ว่องพรรณงาม ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า เป็นตัวแทนทีเส็บเข้าร่วมการประชุม The 58th ASEAN NTOs Meeting and Related Meeting ที่เมืองปูตราจายา มาเลเซีย ซึ่งทีเส็บเป็นตัวแทนประเทศไทยรายงานผลการดำเนินงานตามแผน ASEAN Tourism Strategy Plan ตามที่ได้รับมอบหมายให้เป็น Lead Country Coordinator เป็นผู้นำการจัดทำไมซ์ 2 มาตรฐานสากล ได้แก่

 

มาตรฐานที่ 1 สถานที่จัดงานอาเซียน มาตรฐานที่ 2 มาตรฐานสมรรถนะบุคลากรอาเซียน สาขา MICE และ Event Professionals ควบคู่กับการผลักดันพัฒนามาตรฐานระดับชาติด้านการจัดบริหารจัดงานอีเวนต์อย่างยั่งยืน หรือ Thailand Sustainable Event Management Standard (TSEMS) ผนวกกับการต่อยอดสู่ระดับอาเซียน ภายใต้มาตรฐานอาเซียนด้านบริหารจัดการจัดงานอีเวนต์อย่างยั่งยืน หรือ ASEMS : ASEAN Sustainable Event Management Standard (ASEMS) ตามข้อตกลงทีเส็บมีกำหนดจะต้องทำแล้วเสร็จอีก 2 ปีหน้า ภายใในปี 2568 (ค.ศ.2025) เป็นต้นไป

 

            ช่วงที่ 2 สำรวจเที่ยวไทยเสน่ห์แดนใต้ 3 จังหวัด 3 พิกัด เข้ารอบ Unseen New Chapters วัดเขาเจดีย์ จ.ชุมพร “เขาจมป่า ผืนพรมใหญ่” จ.ตรัง “สะพานบานา” อ่าวปัตตานี และเรียนรู้การเลือกกินอาหาร “ต้านโรคซึมเศร้า” ของดีของใกล้ตัว และข่าวสุดปัง ข่าวแรก “มัจฉาแลนด์” แหล่งเที่ยวกินเรียนพักเมืองนครปฐม โฉมใหม่เปิดบริการแล้ว พร้อมโปรดีต้อนรับ ก.ค.66 ข่าวที่สอง 2 ยักษ์การบิน “IATA-AIA” ปลุกแอร์ไลน์สทั่วโลกตื่นลดCO2ด้วยข้อมูล รอรับฝูงบินไฟฟ้า 5 ปีข้างหน้า

 

ท่องเที่ยว –เที่ยวใต้3พิกัด3จังหวัด“วัดเขาเจดีย์-เขาจมป่า-สะพานบานาปัตตานี”

 

ล่องใต้ไปสำรวจพื้นที่ที่ผ่านการเสนอชื่อเป็น Unseen New Chapters สวยมุมใหม่ที่มีความแตกต่าง นำมาเสนอให้ลองเลือกกันได้  3 จังหวัด 3 พิกัด“วัดเขาเจดีย์วิสัยไตรรัตนาราม” ปลุกพลังศรัทธา ต่อเนื่องไป “เมืองตรัง” ชมธรรมชาติพรมผืนป่าโกงกางขนาดยักษ์ เขาจมป่า อ.กันตัง ปิดท้ายสุดแดนสยาม “ปัตตานี” สัมผัสความยิ่งใหญ่ของสะพานไม้บานา จุดพักสายตามที่อ่าวปัตตานี

 

พิกัดที่ 1   วัดเขาเจดีย์วิสัยไตรรัตนาราม อ.เมือง จ.ชุมพร ภาคใต้ จากพลังศรัทธาที่หลับใหล...สู่…ศูนย์รวมจิตใจของชุมชน

 

กว่า 50 ปี ที่ถูกปกคลุมด้วยเถาวัลย์และพงหญ้า ในวันนี้…จากวัดร้างที่ซ่อนตัวอยู่กลางป่า ได้สร้างความฮือฮาบนโลกโซเชียล เมื่อมีนักท่องเที่ยวเข้าไปขอโชคจนถูกรางวัลที่หนึ่ง จนเกิดกระแสปากต่อปากถึงความศักดิ์สิทธิ์ของวัดร้าง และเมื่อเศรษฐีใหม่กลับมาแก้บนด้วยการบูรณะวัด วัดร้างกลางป่าก็กลับมีชีวิตชีวา กู้คืนศรัทธาที่เคยหลับใหล กลายมาเป็นศูนย์รวมจิตใจ เป็นปลายทางแห่งใหม่ ที่นักเดินทางสายบุญต้องลองมาสัมผัสด้วยจิตของตัวเองดูสักครั้ง สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

 

สอบถามเพิ่มได้ที่ ททท.สำนักงานชุมพร โทร.0 7750 2775-6 หรือ 0 7750 1831

 

พิกัดที่ 2 เขาจมป่า อ.กันตัง จ.ตรัง ท่องอาณาจักรป่าโกงกาง…ดูพรมยักษ์สีเขียวแห่งเมืองตรัง

 

เมื่อปี 2540 ระบบนิเวศชายฝั่งเมืองตรัง ตกอยู่ในภาวะเฝ้าระวังขั้นวิกฤต จนถึงจุดที่คนในชุมชนต้องลุกขึ้นมาช่วยกันเติมพื้นที่สีเขียวลงในช่องว่าง ถึงวันนี้ ผลลัพธ์ของความพยายาม ถือว่าเป็นรูปเป็นร่าง กับภาพของอาณาจักรป่าโกงกางขนาด 3,200 ไร่ ซึ่งถ้ามองจากมุมสูง จะดูคล้ายกับพรมสีเขียวผืนยักษ์ ทอดตัวยาวไกลสุดสายตา และถ้าไม่สังเกตดีๆ ก็แทบจะดูไม่ออกเลยว่า มีภูเขาซ่อนตัวอยู่ในบริเวณพื้นที่แห่งนี้

 

เพราะแทบทุกตารางเมตรก็ถูกปกคลุมด้วยสีเขียวจนเหมือนจะเป็นป่าไปเสียหมด จึงกลายเป็นที่มาของชื่อ “เขาจมป่า” และทำให้เกิดกิจกิจกรรมท่องเที่ยวดีๆ ให้กับชุมชนมากมาย ทั้งการนั่งเรือหางยาวลอดอุโมงค์โกงกาง ล่องแพชมทะเลแหวก รวมถึงไฮไลท์ที่จุดชมวิวเขาจมป่าบนยอดเขาสูง สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

 

สอบถามเพิ่มได้ที่ ททท.สำนักงานตรัง โทร. 0 7521 5867, 0 7521 1058 หรือ 0 7521 1085

 

พิกัดที่ สะพานไม้บานา อ่าวปัตตานี อ.เมืองปัตตานี จ.ปัตตานี  ท่องสะพานไม้บานา…จุดพักสายตาเมืองปัตตานี

 

"บ้านนานา" เป็นชุมชนที่มีทรัพยากรทางธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ มีวัฒนธรรมวิถีชีวิตท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ แถมยังมี “สะพานไม้บานา” จุดเช็คอินยอดนิยมของชาวปัตตานี นี่คือประตูบานแรกที่คอยต้อนรับนักเดินทางที่มาลงเรือเที่ยว “อ่าวปัตตานี” ซึ่งเราสามารถเลือกกิจกรรมได้ตามชอบใจ ทั้งล่องเรือเที่ยวชมวิถีประมงของชาวมุสลิม สัมผัสความสวยงามของอุโมงค์โกงกางที่บางปู

 

ไฮไลท์ห้ามพลาด คือ การชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกจากบริเวณกลางอ่าว และนี่คือเส้นทางท่องเที่ยว ซึ่งน่าจะเพียงพอแก่การทำให้คุณตกหลุมรักปัตตานีได้ ภายในหนึ่งวัน ช่วงเวลาที่สามารถเดินท่องเที่ยวได้ คือ เดือนเมษายน - เดือนมิถุนายน

 

ติดต่อสอบถามเพิ่มได้ที่ ททท.สำนักงานนราธิวาส โทร.0 7354 2345-6

 

สุขภาพ –อาหารต้านโรคซึมเศร้า' ช่วยคลายกังวลทำให้อารมณ์ดีขึ้น

 

            “โรคซึมเศร้า” มีวิธีรักษาคือพบแพทย์และนักจิตบำบัด หรือสามารถบรรเทาได้ด้วย ‘อาหารต้านโรคซึมเศร้า’ เลือกที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น วิตามินซี, อี, ดี, ไขมันโอเมก้า-3, โปรตีน และสมาร์ทคาร์บ

เมื่อเกิดความเครียด หดหู่ วิตกกังวล ซึมเศร้า ไบโพลาร์ หรืออาการทางใจที่จะนำไปสู่โรคซึมเศร้า (Depression) ควรพบแพทย์และปรึกษานักจิตวิทยา เพื่อเข้ารับการรักษาหลัก คือพูดคุยให้คำปรึกษา ใช้ยาในกลุ่มแก้ซึมเศร้า

 

โรคซึมเศร้ารักษาได้ แม้การแพทย์ไม่ได้ระบุชี้ชัดว่ามี อาหารต้านโรคซึมเศร้า ที่รักษาหายขาดโดยไม่ต้องใช้ยา ทว่าช่วยบรรเทาอาการได้ เลือกกินอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงช่วยปกป้องความเสียหายของเซลล์สมอง อาหารบำรุงประสาท และอาหารช่วยสังเคราะห์เซโรโทนิน 'อาหารต้านโรคซึมเศร้า' ช่วยคลายความวิตกกังวล ทำให้อารมณ์ดีขึ้น    ผลไม้สดสักถ้วยช่วยแก้ความวิตกกังวลได้ (Cr.wallpaperflare.com)

 

ชนิดที่ 1 อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ได้แก่ เบต้าแคโรทีน เช่น บร็อกโคลี แครอท ฟักทอง ปวยเล้ง มันเทศ แอพริคอท แคนตาลูป ลูกพีช วิตามินซี เช่น บลูเบอร์รี่ เกรพฟรุต กีวี ส้ม สตรอว์เบอร์รี่ พริกไทย มะเขือเทศ        วิตามินอี ถั่วเปลือกแข็งและเมล็ดพืช น้ำมันจากผัก จมูกข้าว (Wheat Germ)

 

ชนิดที่ 2  สารช่วยให้อารมณ์ดีจากสมาร์ทคาร์บ (Smart Carbs) หรือคาร์โบไฮเดรตชนิดดี ช่วยการทำงานของสมองและเซโรโทนิน (Serotonin สารกล่อมประสาทตามธรรมชาติ) จึงมีคำกล่าวว่า กินแป้งแล้วอารมณ์ดี

 

เซโรโทนิน มีหน้าที่หลักในการควบคุมอารมณ์ บางครั้งเรียกว่าสารอารมณ์ดี แต่เราควรมีในปริมาณที่สมดุล ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป งานวิจัยยุคใหม่พบว่า แบคทีเรียในลำไส้ช่วยสร้างเซโรโทนิน และพบในเยื่อบุกระเพาะอาหารและลำไส้กว่า 90% การรับประทานผักผลไม้ที่มีเส้นใยสูงจะช่วยให้แบคทีเรียในลำไส้แข็งแรง และรักษาสมดุลของระดับเซโรโทนินในร่างกาย

 

ชนิดที่ 3 โปรตีนและทริปโตเฟน (Tryptophan) ทริปโตเฟนคือกรดอะมิโนชนิดหนึ่ง ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ จำเป็นต้องได้รับจากอาหาร เพื่อทำงานร่วมกับวิตามินบี 3, บี 6 และแมกนีเซียม ในการสร้างเซโรโทนิน ซึ่งทริปโตเฟนยังทำงานร่วมกับกรดโฟลิกและธาตุเหล็ก ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง

 

มีมากในไข่แดง นม เนย เนื้อสัตว์ ทูน่า ไก่งวง อัลมอนด์ กล้วย ผักใบเขียวเข้ม ถั่วฝัก ชีสโลว์แฟท นม โยเกิร์ต และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง และอาหารที่มีโปรตีนสูงทุกชนิด

 

ชนิดที่ 4 วิตามินดี ควรได้รับอย่างเพียงพอ คนเมืองหนาวมีงานวิจัยที่ระบุว่า สภาพอากาศมีผลต่อสภาพจิตใจ วิตามินดีมีในแสงแดด คนที่อยู่กับความหนาวเย็น อากาศปิด แสงแดดน้อย มีแนวโน้มทำให้เกิดความรู้สึกหดหู่ เศร้า เหงา มากกว่าคนในเขตร้อน เรารู้กันว่าวิตามินดีช่วยดูดซึมแคลเซียม ทำให้กระดูกแข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน การค้นพบใหม่บอกอีกว่า วิตามินดีช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน และเป็นยาเสริมรักษาโรคมะเร็งบางชนิด และแนะนำให้ออกจากบ้านมารับแสงแดดและอากาศปลอดโปร่ง

 

ชนิดที่ 5  ซีลีเนียมแก้อารมณ์เสีย นักวิจัยพบความเชื่อมโยงของแร่ธาตุซีลีเนียม (Selenium) กับภาวะของอารมณ์ แต่ยังไม่ชี้ชัดนัก แต่ละวันเราต้องการซีลีเนียมเพียงเล็กน้อย ประมาณ 55 ไมโครกรัม เป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอความชรา โดยทำงานร่วมกับวิตามินอี ประโยชน์คือ ช่วยคงความยืดหยุ่นของเซลล์เนื้อเยื่อต่าง ๆ ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและเส้นเลือดในสมองตีบ บรรเทาอาการวัยทองและอื่น ๆ

 

พบมากในถั่วฝักและพืชตระกูลถั่ว เนื้อสัตว์ไขมันน้อย นมโลว์แฟท หอยนางรม หอยกาบ ซาร์ดีน ปู-ปลาทะเล ปลาน้ำจืด เมล็ดพืชโฮลเกรน ข้าวโอ๊ต ข้าวกล้อง

 

ชนิดที่ 6   โอเมก้า-3 ได้ชื่อว่าเป็นอาหารบำรุงสมอง และเป็นอาหารต้านโรคซึมเศร้า มีการศึกษาพบว่า ผู้ที่กินปลาน้อยมีความเสี่ยงเกิดภาวะซึมเศร้า ปัจจุบันโอเมก้า-3 ช่วยดูแลสุขภาพโดยรวม เช่น ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด ลดคอเลสเตอรอล ป้องกันเบาหวาน

 

พบมากในปลาทะเล เช่น ทูน่า แซลมอน แอนโชวี่ แมคเคอเรล ซาร์ดีน เมล็ดแฟล็กซ์ น้ำมันคาโนลา น้ำมันถั่วเหลือง วอลนัท ฮาเซลนัท บราซิลนัท เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผักใบเขียว โดยเฉพาะวอลนัท พบว่าช่วยลดอัตราการเกิดโรคซึมเศร้า

 

ชนิดที่ 7  โปรไบโอติก คือจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยดูแลลำไส้ เมื่อกระเพาะอาหารดี ลำไส้ดี ก่อเกิดสุขภาพที่ดี ซึ่งแทบจะบรรจุเป็นหลักโภชนาการที่ดีไปแล้ว โปรไบโอติก (Probiotics) ส่งผลต่อการทำงานในแทบทุกอวัยวะในร่างกาย โดยเฉพาะการทำงานของสมอง และลำไส้ดีเกี่ยวกับสมองได้อย่างไร Vagus Nerve (เส้นประสาทสมองคู่ที่ 10) ในระบบประสาทส่วนกลาง รับความรู้สึกจากหูและระบบทางเดินอาหาร และส่งคำสั่งไปยังหัวใจและระบบย่อยอาหาร ควบคุมความรู้สึกวิตกกังวล การผลิตฮอร์โมนและเสริมภูมิคุ้มกันให้เซลล์แข็งแรง

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –เปิดแล้ว!!มัจฉานุแลนด์เที่ยวกินเรียนเล่นพักมีโปรดีก.ค.นี้

 

นางกนกกร แทนไกรศร กรรมการผู้จัดการเดอะศาลายา เลเชอร์ ปาร์ค และผู้ก่อตั้งมัจฉานุแลนด์ ณ เดอะศาลายา  เลเซอร์  ปาร์ค   เปิดเผยว่า เปิดบริการ “มัจฉานุแลนด์ : Matchanuland การลงทุนพัฒนาพื้นที่ 18 ไร่ ที่ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เนรมิตเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ด้านกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ ประสบการณ์ใหม่ในการใช้ชีวิตและการเรียนรู้ Live & Learn ตามคอนเซปต์ “กิน เที่ยว เรียน เล่น พัก” ครบในที่เดียว ซึ่งเคยได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวดีเด่น (กินรี) ประจำปี 2564 เหมาะกับตลาดครอบครัว นักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ทุกเพศทุกวัย วัยตั้งแต่ 3-99 ปี ภายในพื้นที่มีไฮไลต์เด่น ๆ เป็นดินแดนมหัศจรรย์ 4 ธีมโซน รวมกิจกรรมการใช้ชีวิตและเรียนรู้ได้ทุกช่วงอายุ ทุกโซนเต็มไปด้วยเรื่องราวและกิจกรรม “กิน เที่ยว เรียน เล่น พัก” แต่ละโซนมีเป้าหมายการเรียนรู้ และสร้างประสบการณ์พิเศษที่แตกต่างกันตามไลฟ์สไตล์ ได้แก่

 

โซนที่ 1  THAIZONE ดินแดนกำเนิดมัจฉานุ : ภารกิจเรียนรู้งานศิลปะและเรื่องราวจากวรรณคดีรามเกียรติ์

 

โซนที่ 2  ADVENTURE ISLAND ดินแดนเกาะมหาสมบัติ: ภารกิจเดินทางไปช่วยมัจฉานุค้นหาสมบัติตามลายแทงด้วยซิปไลน์

 

โซนที่ 3  BLUE OCEAN ดินแดนแฟนตาซีใต้ท้องทะเล: ภารกิจเดินทางไปช่วยมัจฉานุพิทักษ์โลกใต้มหาสมุทรและกำจัดขยะโลก

 

โซนที่ 4  CAFÉ FOREST ดินแดนป่าแห่งเวทมนต์: ภารกิจเนรมิตสิ่งประดิษฐ์จากธรรมชาติ การส่องสัตว์แนวตั้ง และการแปรรูปผักตบ

 

แล้วยังมีกิจกรรมไฮไลต์ห้ามพลาด 7 สิ่ง ได้แก่  1. Sport Tour กีฬาพาเที่ยวชุมชน พายเรือคายัค & ปั่นจักรยาน 2. Art City ศิลปะนคร Art & Craft และ Mascot Land ดินแดนแห่งโลกนิทาน “คามิชิไบ” 3. Art Shows การแสดงละครเวที 4. Playgrounds สวนสนุกสุดสร้างสรรค์ 5. Kid Land ตลาดนัดเด็ก เกมส์และแฟชั่น 6. Café’ Land 7 คาเฟ่นานาชาติ พร้อมเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่ม 7. Spa City สปาสมุนไพร นวดไทย-นวดสปา

 

ตลอดเดือนกรกฎาคม 2566 จัดทำโปรโมชั่นพิเศษช่วงเปิดตัวมัจฉานุแลนด์ 2 แพกเกจ คือ  แพคเกจแรก ALL  ZONES “Day Pass” เที่ยวเต็มวันเที่ยวครบทั้ง 4 โซน ราคาบัตร Buddy “ALL ZONES” ซื้อ 1  แถม 1  โดยได้กำหนดราคาทุกโซน  2 คน  จ่าย 5,500 บาท รวมกิจกรรมและอาหารทุกมื้อ แพคเกจสอง ANY ZONE  เลือกโซนเที่ยวจาก 4 โซน ราคาบัตร Buddy “ANY  ZONE” ซื้อ 1 แถม 1  ราคาเลือกโซน 2 คน เริ่มต้น 800 บาท

 

สำหรับ มัจฉานุแลนด์ ตั้งอยู่ ณ เดอะศาลายา เลเชอร์ ปาร์ค มีสิ่งอำนวยความสะดวกทางการท่องเที่ยว ด้วยพื้นที่จอดรถได้ 300 คัน เจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัย บริการรองรับกลุ่มลูกค้าวีลแชร์ บริการเรียกรถบริการสาธารณะ แทกซี่ และมีมาตรการจัดการความปลอดภัยด้านสุขอนามัย และบริการอื่น ๆ อีกมากมาย

 

ข่าวที่สอง -IATA-AIAเคมบริดจ์ปลุกแอร์ไลน์ฮือฮามีฝูงบินไฟฟ้า5ปีหน้า

 

สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA/ไออาต้า - International Aviation Transport Association )  รายงานว่า ไออาต้า กับ AIA - Aviation Impact Accelerator ได้ผนึกความร่วมมือเข้าด้วยกันระหว่างอุตสาหกรรมและสถาบันการศึกษาคือมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประกาศความร่วมมือเร่งการเปลี่ยนภาคการบินที่จะลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) สุทธิเป็นศูนย์ให้ได้ภายในปี 2593 ทั้งสององค์กรจะเดินหน้าวางรากฐานอย่างมั่นคงเพื่อพัฒนาความร่วมมือระยะยาวที่กว้างขึ้น

 

พร้อมทั้งจะประเมินเรื่องหลักคือ “ผลกระทบทางการเงิน” เพื่อจะทำให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ในปี 2593 ต่อยอดจากงานที่มีอยู่ปัจจุบัน พุ่งเป้าเดินหน้าสนับสนุนการพัฒนาเครื่องมือตามสถานการณ์เพื่อช่วยสายการบินวิเคราะห์และประเมินเส้นทางการลดคาร์บอนที่มีความแตกต่างกันไป

 

ความร่วมมือครั้งนี้มี “วัตถุประสงค์” เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจด้วยข้อมูลที่จัดทำเป็นอย่างดีให้กับทางสายการบินและผู้กำหนดนโยบายด้านการเปลี่ยนไปสู่ “ค่าคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์”  

 

ทาง AIA เป็นสถาบันการศึกษาที่มีกลุ่มผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติทำหน้าที่รวบรวมประสบการณ์ความหลากหลายจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ นำพาสู่จุดมุ่งหมายเรื่อง “เร่งการเดินทางสู่การบินที่ยั่งยืน” ด้วยวิธีพัฒนาใช้เครื่องมืออย่างมีประสิทธิภาพช่วยให้ผู้คนเข้าใจถึงการ ทำแผนที่ และจุดเริ่มต้นบนเส้นทางสู่การบินที่ยั่งยืน เพราะเมื่อช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ทางเคมบริดจ์ได้รวบรวมเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ควบคู่กับการพัฒนาความสามารถ “สร้างแบบจำลองระบบพื้นฐาน”จนกระทั่งนำมาใช้ในทางปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรมตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

 

ศ.ร็อบ มิลเลอร์ ผู้อำนวยการ Whittle Laboratory มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ และหัวหน้า AIA  กล่าวว่ารู้สึกตื่นเต้นที่จะเปิดตัวความร่วมมือครั้งใหม่ระหว่าง AIA กับ IATA เพื่อค้นหา “เส้นทางที่เป็นจริง” ในการเปลี่ยนผ่านการบินก้าวสู่ลดการปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ให้สำเร็จภายในปี 2593 เนื่องจากไออาต้ามีประวัติการทำงานอย่างแข็งแกร่งทางด้านการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสายการบินกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ แล้วผลักดันการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการบิน จนเชื่อได้ว่าการนำองค์ความรู้นี้มารวมเข้ากับความสามารถในการสร้างแบบจำลองที่ไม่เหมือนใครของ AIA จะมีโอกาสช่วยปลดล็อกการเปลี่ยนแปลงโลกร้อนได้ในอนาคตอันใกล้ได้

 

Marie Owens Thomsen รองประธานอาวุโสฝ่ายความยั่งยืนและหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ไออาต้า กล่าวเสริมว่า ยินดีที่ได้ร่วมมือกับ AIA เดินหน้ายกระดับความเข้าใจเกี่ยวกับเส้นทางที่มีศักยภาพมาก เพื่อทำให้บรรลุอนาคตความยั่งยืนด้านการขนส่งทางอากาศ การพัฒนาเส้นทางเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน จะมีอิทธิพลต่อแนวโน้มระยะยาวของอุตสาหกรรมการบิน และการทำงานร่วมกันจะเพิ่มอัตราเร่งทำให้เกิดความสำเร็จได้โดยเร็ว

 

ดังนั้นไออาต้าในฐานะส่วนหนึ่งของความร่วมมือในอนาคตกับ AIA พร้อมผลักดันโดยมีเป้าหมายจะร่วมมือกันพัฒนาแนวทางปฏิบัติเรื่องการให้ข้อมูลแนะนำวิธีการคำนวณคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ต่อจำนวนผู้โดยสาร ซึ่งเป็นภารกิจของไออาต้าจะทำอย่างดีที่สุดไปพร้อมกับงานอื่นรอบด้าน นำมาใช้ร่วมกับข้อมูลการดำเนินงานของสายการบินที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว สามารถปรับเข้าสู่ระบบเป็นอย่างดี

 

วิธีการทำงานอย่างรัดดังกล่าวจะทำให้ได้ “ผลการคำนวณที่แม่นยำที่สุด” และ “ความโปร่งใส” แก่ทุกคนที่สนใจจะทำความเข้าใจเกี่ยวกับกิจกรรมการบินสามารถก้าวสู่การลดคาร์บอนไดออกไซด์ในทุกเส้นทางเป็นเรื่องจริงที่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้แน่นอน

 

ก่อนที่ไออาต้าประกาศร่วมมือครั้งนี้ ทาง AIA เปิดเวทีจัดการประชุม Sustainable Skies World Summit 2023

ซึ่งจัดโดย Farnborough International เพื่อแสดงจุดยืนเรื่องสนับสนุนอุตสาหกรรมการบินให้มีความพยายามร่วมมือกันทำพันธกรณีลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ โดยมีศาสตราจารย์ Rob Miller เป็นผู้นำขับเคลื่อนนโยบายระดับโลก โดยมีตัวแทนของสหภาพยุโรป การบินพลเรือนของสิงคโปร์ สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติในสหรัฐอเมริกา และรัฐมนตรีกระทรวงเงาของสหราชอาณาจักร  เข้าร่วมด้วย

 

บนเวทีการประชุมดังกล่าวทางคณะผู้อภิปรายได้หารือเกี่ยวกับบทบาทสำคัญของผู้กำหนดนโยบายทั่วโลกควรมุ่งมั่นลงทุนเชื้อเพลิงการบินทางเลือก และกระตุ้นความสนใจให้หันมาสร้างความสมดุลอื่น ๆ ควบคู่กันไปด้วย เช่น ความมั่นคงด้านพลังงาน และอื่น ๆ เพราะอนาคตจะไม่ทำแค่เรื่องการผลิตและใช้เชื้อเพลิงการบินแบบยั่งยืน หรือ  SAFs-Sustainable Aviation Fuels เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเทคโนโลยีซึ่งเพิ่งจะพัฒนาพัฒนาขึ้นมาได้ไม่นานอย่าง ไฮโดรเจนและแบตเตอรี่ไฟฟ้า

 

แนวโน้มอีก 5 ปีข้างหน้า อาจจะมี “เครื่องบินไฟฟ้าพิสัยใกล้รุ่นใหม่” จำนวนมากออกสู่ตลาด ดังนั้นคณะผู้อภิปรายจึงได้หารือถึงนัยยะเชิงนโยบายที่ซับซ้อนถึงการวางแผนพัฒนารูปแบบใหม่ที่จะก้าวให้ทันโลกการบินยุคใหม่ รวมถึงความท้าทายด้านการรับรอง กฎระเบียบ การควบคุมการจราจรทางอากาศ และอื่น ๆ ด้วย

ขณะที่สมาชิก AIA มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ได้เปิดบูธจัดแสดงเครื่องมือที่มีความสำคัญที่อุตสาหกรรมการบินทั่วโลกสามารถจะนำมาใช้ในการลดคาร์บอนไดออกไซด์ระหว่างประเทศสุทธิให้เป็นศูนย์ ซึ่งประเด็นนี้จะต้องสร้างความร่วมมืออย่างแข็งแกร่งปลุกความพยายามขึ้นใอุตสาหกรรมเพื่อให้การบินสุทธิเป็นศูนย์กลายเป็นความจริงได้ เพื่อประโยชน์ของคนทั่วโลก

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

  รุ่งทิพย์ บุกขุนทด  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่  2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ

TCEBนำไมซ์ปี67โร้ดโชว์เทรดโชว์ทั่วโลก-จัดยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" บิ๊ก TCEB ปี 67 ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้   3-7 มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี !! ไทยเจ้าภาพ Korat Expo2029 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO” ช้อป 3 อย่างลด 25% ททท.นำร่องจัด AIR-MAZING ไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม & บางจากมอบ2โปรดี สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด AWC ปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ Trip.com- ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล. วันอาทิตย์ที่   3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ FM97  # เพ็ญรุ่งใยสามเสน # เท

เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก

  เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก คิงเพาเวอร์ชวนช้อปออนไลน์แบรนด์เนมลด 70%26-31 ต.ค.นี้ สนุกกับ SUPER SURPRISE ดีลพิเศษราคาดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ ก.ท่องเที่ยวตีปีกรับทัวร์ต่างชาติ 3 เฟส-ไฟเขียวแล้ว 10 แอร์ไลน์ ไทยจ่อดึงลองสเตย์ต่างชาติซื้ออสังหาฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด “ TCEB” ชูไทยแลนด์ไมซ์สตาร์ตอัพปั้นนวัตกรรมใหม่5โปรเจ็กต์ หนาวนี้เที่ยว“นครพนม”ปลอดภัยมั่นใจเส้นทางสาย SHA ริมโขง วิธีเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนควบคู่การลดโรคมากมาย ไทยสมายล์ขายตั๋วชุดเที่ยวไทยเหมาจ่าย4ใบเริ่มที่3.8พันบาท ไทยเวียตเจ็ทขายตั๋ว5บาท/เที่ยวโปร2เส้นทางใหม่ในประเทศ กรมเจ้าท่าฟุ้งแผนทำ10ท่าเรือรองรับวันสต็อปเที่ยวเจ้าพระยา   นายพศิน ลาทูรัส ซีอีโอฝ่ายพัฒนาธุรกิจ  บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง