ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.นิวเดลี อินเดีย เปิดแผนตลาดปี'67 ตั้งเป้า 1.8ล้านคน



ททท.ผ่าตลาด“อินเดีย”ประชากรเบอร์1โลกดาวรุ่งเที่ยวไทยปี’67

เปิด6ปัจจัยบวกหนุนกลุ่มครอบครัว/คนรุ่นใหม่มาไทย1.8ล้านคน

แนะผู้ประกอบไทยปรับบริการด่วน5เรื่องปีหน้าทำรายได้โตฉลุย

ด่วน!!ช้อปคิงเพาเวอร์4สนามบิน3,500บาทรับคูปองลด500บาท

Final Call ช้อปคิงเพาเวอร์ออนไลน์เบาๆ 6,000บาทลดเลย15%

สมาชิกคิงเพาเวอร์รับเป็นไปได้ไม่สิ้นสุด4สิทธิ์ใหญ่รับฟรี300บาท

ททท.นำ5ภาคขาย“นวัฒนธรรม”เทศกาลเที่ยวเมืองไทย2-6ส.ค.นี้

บิ๊กบางจากชูESGเป็นDNAธุรกิจยั่งยืนโชว์ความสำเร็จ6โครงการ

TCEBรุกไมซ์ตะวันออก2โปรเจกต์บูมขาย1Market3Destination

เที่ยวฟินทะเล“ตะวันออก-ภาคใต้”ในเทศกาลเที่ยวเมืองไทย2566

ศิริราชพยาบาลแนะทำสมาธิ8ขั้นตอนบำบัดสุขภาพดีขึ้นทันตา

เรือด่วนเจ้าพระยาขายทัวร์วันหยุด“รับทรัพย์เข้าพรรษา-วันแม่”

NH Collectionเปิดรีสอร์ตหรูนอกเมืองครั้งแรกในเกาะมัลดีฟส์

 

วันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก #ทททนิวเดลี  #เทศกาลเที่ยวเมืองไทย2566

 ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...https://fb.watch/m4jdmpCgXs/

 


สิริเกศอนงค์ ไตรรัตนทรงพล 


ช่วงที่ 1 แกะรอยดาวรุ่งอินเดียกับ “สิริเกศอนงค์ ไตรรัตนทรงพล” ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนิวเดลี ททท.เปิดแรงหนุน 6 ปัจจัยบวก “ประชากรมากสุดในโลก-เศรษฐกิจโตยาว5ปี-มหาเศรษฐีพุ่ง-2แอร์ไลน์ลงทุนฝูงบินล็อตใหญ่สุดของโลก-เอาบาวนด์ฟื้น90%-มีพาสปอร์ตพร้อมเดินทาง 100 ล้านคน” ลุยใช้กลยุทธ์ 5 More ติดอาวุธปั๊มตลาดภารตะเที่ยวไทย 1.7-1.8 ล้านคน แนะเอกชนไทยปรับตัวรับตลาด 5 เรื่อง “รักคนกับวัฒนธรรม-จ้างสต๊าฟอินเดีย-ใส่กิมมิกพิเศษ-ส่งคำอวยพรเทศกาลต่าง ๆ-สื่อสารและเซลคอล” ขานรับที่นั่งเที่ยวบินเพิ่มเร็วตอนนี้เฉียด 4หมื่นที่/สัปดาห์

                นางสิริเกศอนงค์ ไตรรัตนทรงพล ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนิวเดลี ประเทศอินเดีย เปิดเผยว่า การจัดทำแผนท่องเที่ยวปี 2567 นำตลาดอินเดียท่องเที่ยวเมืองไทย ซึ่งเป็นประเทศที่มีปัจจัยบวกกระตุ้นคนออกเดินทาง 6 ปัจจัย เริ่มจาก ปัจจัยที่ 1 “จำนวนประชากร” ตามผลสำรวจขององค์การสหประชาชาติปี 2566 มีมากที่สุดในโลกแล้วถึง 1,426 ล้านคน ปัจจัยที่ 2 เศรษฐกิจอินเดีย ทางธนาคารโลก (World Bank) พยากรณ์ตลอดปีนี้จะเติบโต 7.2 % ปี 2567 จะเติบโต 6.4 % ปี 2568 จะเติบโต 6.4 %

 


ปัจจัยที่ 3 ชาวอินเดียมีหนังสือเดินทางต่างประเทศกว่า 100 ล้านคน  สถิติ 9 เดือนแรกปี 2566 ใช้เงินเที่ยวต่างประเทศไปแล้วเกิน 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แนวโน้มปี 2568 จะเที่ยวต่างประเทศเกิน 29 ล้านคน

ปัจจัยที่ 4 ประชากรกลุ่มมหาเศรษฐี ตามรายงานจาก Knight Frank India ระบุคนมีเงินมากกว่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นราว 58.1 % อีก 5 ปีข้างหน้า จะมีไม่ต่ำกว่า 19,119 ราย และกลุ่มคนมีเงินเกินกว่า1 เหรียญสหรัฐ มีอยู่ราว 1.65 ล้านคน อีก 5 ปีข้างหน้าจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า

ปัจจัยที่ 5 การท่องเที่ยวฟื้นตัวแนวโน้มปี 2566 คนอินเดียจะกลับมาเดินทางเที่ยวต่างประเทศ 80-90 % โดยไทยน่าจะครองตลาดได้ในอันดับ 4 สร้างรายได้ราว 80 % ของปี 2562 จากวันพักเฉลี่ยเกินกว่า 8 วัน/คน/ทริป (เดิมทำไว้ 7.4 วัน/คน/ทริป) เปรียบเทียบกับปี 2562 อินเดียไปเที่ยวทั่วโลก 26.9 ล้านคน เลือกมาไทย 1.9 ล้านคน

 


ปัจจัยที่ 6 การลงทุนของสายการบินอินเดีย อนาคตจะมีขนาดฝูงบินใหญ่สุดของโลก เพราะขณะนี้เฉพาะ 2 แอร์ไลน์สประกาศสั่งซื้อฝูงบินล็อตใหญ่รวมกันกว่า 970 ลำ ได้แก่ “แอร์อินเดีย” สายการบินแห่งชาติ สั่งซื้อ 470 ลำ และ “อินดิโก้แอร์ไลน์ส” โลว์คอสต์ยอดนิยมของคนอินเดียเป็นจำนวนมาก สั่งซื้อมากถึง 500 ลำ ตอนนี้เปิดบินเข้าไทย 2 เมือง คือ กรุงเทพฯ กับภูเก็ต ส่วนการลงทุนขยายฝูงบินดังกล่าวสะท้อนถึงตลาดการเดินทางเที่ยวต่างประเทศอนาคตในตลาดอินเดียจะเติบโตเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ผอ.สิริเกศอนงค์กล่าวว่า ปี 2567 แนวโน้มตามแผนการตลาด ททท.อินเดียจะฟื้นตัวเข้าสู่แดนบวกอาจจะทำได้เกิน 90 % หรือประมาณ 1.7-1.8 ล้านคน โดยวางแนวทางดำเนินกลยุทธ์กระตุ้นตลาดให้สอดคล้องกับด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท.(สำนักงานใหญ่) ได้กำหนดกลยุทธ์ขับเคลื่อนตลาดระยะใกล้ด้วย 5 Mores ได้แก่

 

1.More Alliances มุ่งจับมือทำตลาดร่วมกับสายการบินนานาชาติ หลังเดือนพฤษภาคม 2566 เป็นต้นมามีเที่ยวบินไป-กลับ ระหว่างไทยกับอินเดีย  9 แอร์ไลน์ส จาก 10 เมือง รวม 180 เที่ยวบิน/สัปดาห์ จำนวนกว่า 39,000 ที่นั่ง/สัปดาห์ จากเมืองหลัก นิวเดลี กัลกัตตา ลักเนา  ล่าสุด “อินดิโก้ แอร์ไลน์ส” กลับมาบินอีกครั้งเมื่อ 3 กรกฎาคม 2566 พร้อมกับทำโปรดักซ์อัพเดทเสนอขายท่องเที่ยวภูเก็ต และเชียงใหม่ ภายในสิ้นปีนี้ทาง Akasa Air สายการบินใหม่เตรียมเข้าไทยด้วยเช่นกัน

2.More Area เปิดพื้นที่ใหม่ และเมืองรอง นำเสนอขายเป็นรูปธรรมเมืองรองไม่เป็นสองรองใคร ทาง ททท.นิวเดลีจับมือกับบริษัทนำเที่ยวหลายรูปแบบทั้งออฟและออนไลน์

3.More Nationwide ร่วมมือกับตลาดที่มีหลายสำนักงาน   โดยได้ผนึกกับ ททท.สำนักงานมุมไบ รวมทั้งแพลตฟอร์มออนไลน์ใหม่ ๆ มากขึ้น ขยายไปยัง Is my trip

4.More Agile ทำงานเชิงการขายตามรูปแบบการแลกเปลี่ยนกันกับ ททท.ส่วนกลาง และพันธมิตรอื่น ๆ ขับเคลื่อนเชิงขายนำเสนอสินค้าตามโจทย์มูลค่าสูงและยั่งยืน หรือ high Value &Sustainbility วางแผนดึงออกมาเป็นแฟลกชิพโปรเจกต์ จะเน้นตลาดอินเดีย กลุ่มแต่งงาน กลุ่มจัดเฉลิมฉลองช่วงเวลาสำคัญ นักท่องเที่ยวดังกล่าวนิยมจัดกิจกรรมซึ่งมีผลเรื่องการสร้างขยะอาหารแต่ละครั้งปริมาณสูง ททท.จึงจะนำร่องคัดเลือกโดยเน้นเฉพาะโรงแรมหรือสถานที่จัดงานที่มีระบบบริหารจัดกงานอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีโปรแกรมลดความสูญเสีย นำของเหลือไปแปรรูป หรือเลือกใช้วัตถุดิบชุมชนท้องถิ่น และอื่น ๆ เข้ามาเป็นหนึ่งในทางเลือกให้ลูกค้าอินเดีย

5.More Meaningful ส่งมอบประสบการณ์ให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่มีความหมายและมีคุณค่า


 

ผอ.สิริเกศอนงค์ กล่าวว่า ตลาดที่มีมูลค่าสูงจากอินเดียเที่ยวเมืองไทย ได้แก่ กลุ่มครอบครัว ซึ่งเดินทางหลายเจนเนอเรชั่น ขนาดใหญ่เดินทางพร้อมกัน 10 คนขึ้นไป/กรุ๊ป เลือกใช้ห้องพักหรูแบบพูล วิลล่า หรือมีหลายห้องรวมกัน มีวันพักเฉลี่ย 4-7 วัน/คน/ทริป รวมทั้งนิยมทำกิจกรรมท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน การท่องเที่ยวเชิงผจญภัย ใช้จ่ายเงินเฉลี่ยจากฐานตัวเลขปี 2562 ประมาณ 5,493 บาท/คน/ทริป รวม 40,841 บาท/คน/ทริป ส่วนปี 2566 แนวโน้มน่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีก 5-10 %

การนำเสนอขายแหล่งท่องเที่ยวตามความนิยมของชาวอินเดียปีปกติ 2562 พื้นที่หลัก 10 อันดับแรก ได้แก่ 1.กรุงเทพฯ 2.พัทยา 3.ภูเก็ต 4.กระบี่ 5.สมุย 6.เชียงใหม่ 7.หัวหิน 8.ชะอำ 9.สมุทรปราการ 10.เกาะพะงัน ปี 2563 ช่วงทำภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ส่งผลให้อินเดียแห่มาเที่ยวภูเก็ตมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งพื้นที่ตลาดอินเดียตอนเหนือซึ่งมีลักษณะเป็นภูเขาจึงนิยมมาเที่ยวทะเลค่อนข้างมาก

 

ปี 2566 พยายามส่งเสริมการขายเมืองรองอื่น ๆ เช่น กาญจนบุรี ททท.นิวเดลีหารือกับบริษัทจัดทำโครงการ “ภารตะช้อยซ์” เพื่อให้การรับรองร้านค้า ร้านอาหาร ซึ่งอินเดียค่อนข้างจะให้ความสำคัญกับอาหารเนื่องจากรับประทานมังสะวิรัตซึ่งมีรายละเอียดย่อย ๆ หลากหลายอย่าง หรือเจนไม่รับประทานพืชจากใต้ดิน จึงจำเป็นจะต้องคัดเลือกร้านต่าง ๆ มาไว้ในลิสต์รายการด้วย

 

ผอ.สิริเกศอนงค์กล่าวว่า ผู้ประกอบการไทยที่ต้องการตลาดอินเดียจะต้องทำ 5 เรื่อง ประกอบด้วย

 

เรื่องแรก จะต้องรักคนและวัฒนธรรมพร้อมกับศึกษาพฤติกรรมชาวอินเดีย

 

เรื่องที่ 2 แนะนำให้ลงทุนจ้างพนักงานสัมพันธ์ guest relation ไว้คอยให้บริการในสถานประกอบการนั้น ๆ เพราะอินเดียต้องการที่สื่อสารกับคนที่พูดภาษาของตนเองเพื่อความสะดวกสบาย สร้างความเชื่อมั่นถึงความมุ่งมั่นจะต้อนรับนักท่องเที่ยวอินเดียอย่างจริงใจ

 

เรื่องที่ 3 ใส่ใจทำกิมมิกต่างๆ บรรจุไว้ในบริการ เช่น อาหารอินเดีย สถานีโทรทัศน์อินเดีย เครื่องดื่มต้อนรับอย่างชาหรือน้ำผลไม้ผสมมาซาล่า เรื่องที่ 4 จะต้องสร้างปฏิสัมพันธ์กับคู่ค้าอินเดียอย่างสม่ำเสมอ สื่อสาร ทำ Sale call ตอบอีเมลอย่างรวดเร็ว พยายามอัพเดทสิ่งใหม่ ๆ ของโรงแรมหรือโปรโมชั่นต่าง ๆ โดยสามารถส่งมายัง ททท.นิวเดลีได้ทาง tatdel@tat.or.th จะช่วยเผยแพร่และส่งต่อไปยังเครือข่ายคู่ค้าท่องเที่ยวในอินเดียเป็นวงกว้างได้

 

เรื่องที่ 5 ต้องศึกษางานฉลองเทศกาลสำคัญต่าง ๆ ของคนอินเดีย แล้วจัดส่งคำอวยพรไปยังผู้ประกอบการอินเดีย เพื่อส่งความประทับใจให้พันธมิตร รวมทั้งการบริหารจัดการบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ ตอนนี้ กลุ่มที่ 1 ตลาดกลุ่มครอบครัวอินเดีย นิยมเลือกใช้สถานที่พักแบบ All inclusive เมื่อจ่ายเงินค่าที่พักสามารถใช้บริการทุกอย่างได้ฟรีทั้งหมด กลุ่มที่ 2 ตลาดคนรุ่นใหม่ ชอบทำกิจกรรมที่เป็นมิตรกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย

 

ต่อเนื่องถึงการเข้าร่วมงาน เทรดโชว์ โร้ดโชว์ หลักในตลาดอินเดีย ได้แก่ งาน OTM จัดมุมไบ 8-10 กุมภาพันธ์ 2567 และงาน SATE จัด 22-24 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้ประกอบการไทยสามารถติดต่อขอเข้าร่วมการขายทั้ง 2 งานกับทาง ททท.เอเชียตะวันออก สำนักงานใหญ่กรุงเทพฯ ขณะเดียวกันแนะนำ “ช่องทางการสื่อสาร” ตลาดอินเดียนิยมใช้ What App เป็นหลัก หากการทำประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการตลาดจะใช้ facebook กับ Instargram แล้วแชร์ข้อมูลมายัง ททท.นิวเดลี เพื่อส่งต่อไปยังเครือข่ายผู้ประกอบการอินเดียที่มีอยู่ทั้งหมดได้

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 ด่วน!!ช้อปคิงเพาเวอร์4สนามบิน3,500บาทรับคูปองลด500บาท

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ชวนนักเดินทางชาวไทยทุกคน ที่ถือพาสปอร์ตไทย เดินตรงไปช้อปเครื่องสำอาง น้ำหอม ให้ครบ 3,500 บาท/ใบเสร็จ ลดทันที 500 บาท ตั้งแต่วันนี้27 กรกฎาคม – 30 กันยายน 2566 ที่ คิง เพาเวอร์ 4 สนามบินหลัก สุวรรณภูมิ  ดอนเมือง เชียงใหม่ และภูเก็ต

 

รับส่วนลด 500 บาท เมื่อซื้อสินค้า 3,500 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ แผนกสำอางและน้ำหอมได้นำสินค้าที่ร่วมรายการเพียบ สามารถตรวจสอบสินค้าร่วมรายการเพิ่มเติมได้ที่จุดขายทุกแห่ง

 

แต่จะบอกไว้ก่อน คูปองโปรโมชั่นส่วนลด 500 บาท นักช้อป จะ “ไม่สามารถ” ใช้ร่วมกับส่วนลดบัตรสมาชิก คิง เพาเวอร์ และส่วนลดอื่นๆ ทุกประเภท รวมถึง Cash Card และ Gift Card แลกโดยหักคะแนนกะรัตส่วนต่างยอดซื้อ และผ่อนชำระ 0%

 

ตรวจสอบเงื่อนไขที่เปลี่ยนแปลงได้ตรงจุดขาย หรือ Contact Centre โทร. 1631

 

ข่าวที่ 2 Final Call ช้อปคิงเพาเวอร์ออนไลน์เบาๆ 6,000บาทลดเลย15%

 

ชวนกันคลิกช้อป “คิง เพาเวอร์” กับโปรดี “FINAL CALL- ลดส่งท้ายเดือน” วันนี้ 29-31 กรกฎาคม 2566 ช้อปให้จุใจกับโปรสุดคุ้มจากคิง เพาเวอร์ ออนไลน์ kingpower.com และ kingpower Application พาเหรดสินค้าดีลฮอต แบรนด์ดัง ลดแรงท้าฝน จะชอบช้อปสไตล์ไหนก็จัดได้เลย! ลดสูงสุด 15%  เมื่อช้อปครบ 6,000 บาท รหัสส่วนลด WEB715

 

พร้อมสิทธิประโยชน์ครบ 1.สินค้า Duty Free สุดฮอต มีไฟลต์บินแล้วรีบเลย!  รับสินค้าที่สนามบิน ช้อปได้ทั้งขาเข้าและขาออก 2.แบ่งชำระ 0% นานสูงสุดถึง 10 เดือน 3.รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 8,000 บาท 4.รับฟรี! ของสมนาคุณสุดพิเศษ จากแบรนด์ดัง ซึ่งมีจำนวนจำกัดและอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ 5.รับเลย! ส่วนลด 200 บาท เมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์ 6.รับสิทธิ์การสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท (สุทธิ)

 

ข่าวที่ 3 สมาชิกคิงเพาเวอร์รับเป็นไปได้ไม่สิ้นสุด4สิทธิ์ใหญ่รับฟรี300บาท

 

สมาชิก คิง เพาเวอร์ รับส่วนลดและสิทธิประโยชน์ที่ “เป็น ไป ได้ ไม่สิ้นสุด” บัตรใบเดียวทั้ง สะดวก ใช้จ่ายประหยัดลงได้ด้วย ขั้นต่ำรับไปเลย 4 สิทธิ์ และสมาชิกใหม่ให้ความพิเศษแถมบัตรรับประทานอาหารฟรีอีก 300 บาท ดังนี้

 

สิทธิ์ที่ 1 วันเกิด รับ Cash Back 25% x 2 สิทธิ์

สิทธิ์ที่ 2 ส่วนลดทุกการช้อป ตามสถานะสมาชิก สูงสุด 10%

สิทธิที่ 3 รับกะรัตรีวอร์ด เพื่อใช้แทนเงินสดทุกการช้อป

สิทธิที่ 4 แลกรับเป็นสิทธิประโยชน์มากมายจาก คิง เพาเวอร์ และพันธมิตรชั้นนำ

 

พิเศษ! สำหรับสมาชิกใหม่ คิง เพาเวอร์ SCARLET  รับฟรี! บัตรรับประทานอาหาร 300 บาท  ที่ร้านอาหาร นารา คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ชั้น 3

 

สมัครง่ายๆ ผ่าน LINE Official Account @kingpower หรือที่จุดบริการ Member Service คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา

 

 ข่าวที่ 4 ททท.นำ5ภาคขายนวัฒนธรรมเทศกาลเที่ยวเมืองไทย2-6ส.ค.66

 

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.จัด “เทศากาลเที่ยวเมืองไทย” ประจำปี 2566 จัดต่อเนื่องครั้งที่ 41  ระหว่างวันที่ 2-6 สิงหาคม 2566 ตลอด 5 วัน ตั้งแต่ 10.00-21.00 น.ที่บริเวณชั้น LG Hall เต็มพื้นที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จัดภายใต้ธีม “นวัฒนธรรม -Inno Cultural Sustainable Tourism ” นำนวัตกรรมความคิดสร้างสรรค์ผสมผสานเข้ากับซอฟท์ เพาเวอร์ผ่านวัฒนธรรมการท่องเที่ยวทั่วไทย 5 ภูมิภาค ปลุกจิตวิญญาณให้คนออกเดินทางท่องเที่ยวตลอดตั้งแต่สิงหาคม-ธันวาคม 2566 โดยจะมีทั้ง Unseen-การท่องเที่ยวมุมมองใหม่-Untold-เรื่องราวที่ไม่เคยรู้มาก่อน Unbox-แกะกล่องประสบการณ์ใหม่ ทั้ง 3 ส่วน จะก่อให้เกิด Unlimited -ไร้ขีดจำกัด นำไปสู่ Uppredictable -เหนือความคาดหมาย Unstopable-หยุดเที่ยวไม่ได้ และ Unforgetable-ประทับใจไม่รู้ลืม

 

ปี 2566 มุ่งสู่ Net Zero Tourism ลดโลกเลอะ Zero Landfills ในงานจะบริการแยกขยะชัดเจน 14 จุด  ใช้วัสดุสิ้นเปลืองหันมาใช้เทคโนโลยีมาแทนที่ ทำได้ 2 อย่าง คือ 1.ต้องไม่เกิดขยะ 2.ขยะที่เกิดต้องนำไปบริหารจัดการอย่างถูกต้อง หากมีขยะก็จะนำไปรีไซเคิลขยะต่าง  ๆ ทั้ง   “ขยะอินทรีย์” ททท.ร่วมกับกรุงเทพมหานคร “ไม่เทรวม” เศษอาหารและอื่น ๆ นำไปทำปุ๋ยรดน้ำต้นไม้ และกล่องวัสดุ อาหาร พลาสติก นำไปทำลายเป็นพลังงานในเตาเผาที่ไม่สร้างก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศโลก เช่น สลิปใบเสร็จ หลอด ถุงพลาสติก โดยมี บริษัท N15 เทคโนโลยี จำกัด เป็นผู้รับผิดชอบ เพื่อทำให้งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยกลายเป็นสีเขียว ทำให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ และการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดท่องเที่ยวในประเทศ ททท.กล่าวว่า ภายในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย Inno Cultural Tourism ตั้งเป้าให้นักท่องเที่ยวใช้จ่าย 395 บาท/คน/วัน เพิ่มค่าใช้จ่ายกับวันพักค้างคืนด้วยกิจกรรมต่าง ๆรวม 9 โซน ที่จะสร้างความตื่นตา ประทับใจ กับประสบการณ์การท่องเที่ยวมุมใหม่ที่จะกระตุกต่อมการเดินทางต่อเนื่องตลอดครึ่งหลังปี 2566 โดยได้ยกทั้ง 5 ภูมิภาคมาไว้ในงาน เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2566 รวมทั้งหมด 9 โซน ได้แก่

 

โซนที่ 1  AMAZING THAILAND  เริ่มต้นการเดินทางท่องเที่ยวกับ Amazing Thailand รูปแบบใหม่โดยได้เนรมิตพื้นที่ Theme Area ร่วมกับ Rakdok ยกกองทัพดอกไม้มาออกแบบเป็นจุดเช็กอินสุดอาร์ตจากฝีมือ “โจ เรนฟอร์เรสต์”นักจัดดอกไม้ชื่อดัง วางกรอบรูปเมืองไทยถ่ายทอดอัตลักษณ์ 5 ภูมิภาค  ต่อด้วย LED Box พาเข้าไปท่องเที่ยวเสมือนจริงด้วยมุมมองภาพแหล่งท่องเที่ยวแบบรอบตัว และผจญภัยสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวและวัฒนธรรมผ่านเกมออนไลน์ ‘Home Sweet Home’ นั่งแวะจิบกาแฟ Showcase  ต้นแบบกาแฟรักษ์โลก Cozy Camping  พร้อมโซน TAT Souvenir of Thailand ขายสินค้าและของที่ระลึกภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand  

 

โซนที่ 2 : ภาคตะวันออก นำเสนอ "สบ๊ายสบาย    ภาคตะวันออก" ด้วยแนวคิด “Love Ea(s)t All Around” ผ่าน 4 Story ได้แก่ ยืนหนึ่งเรื่องกิน-สุดฟินเรื่องสบาย-จิตผ่อนคลายสายมูเรียนรู้เรื่องรักษ์ นำ

 

โซนที่ 3 : ภาคกลาง ซึมซับประสบการณ์การท่องเที่ยวสไตล์ “Trendy  C2 ภาคกลาง” ด้วยแนวคิด “ความสุขง่าย ๆ หาได้ที่ภาคกลาง” นำแลนด์มาร์ก    "หอมนสิการ" ธรรมะแกลลอรี จ.สระบุรี ได้รับเสียงโหวตอันดับ 1 ในโครงการ Unseen New Chapters ปี 2566 จัดแสดงแบบ Interactive ครั้งแรกในไทย กับศิลปะร่วมสมัย ทั้งภาพ แสง เสียงบรรยาย และวิดีโอสื่อผสมระดับภาพยนตร์ เพิ่มความฮิปสเตอร์ สไตล์แคมปิ้งด้วยรถคาราวาน Airstream และ Camper Van  และตื่นตากับโซนสาธิตของศิลป์แผ่นดิน นำเสนองานหัตถศิลป์หาชมได้ยากโดยช่างฝีมือจากสถาบันสิริกิติ์      

 

โซนที่ 4 : ภาคเหนือ นำเสนอ "เสน่ห์วันวานเมืองเหนือ" (North Nostalgia) รณรงค์แต่งชุดพื้นเมืองภาคเหนือ พรีเซนต์แลนด์มาร์กและจุดถ่ายภาพจำลอง 4 แห่ง ได้แก่ แมงสี่หูห้าตา จ.เชียงราย บ้านอาจารย์โกมล จ.แพร่ ประเพณีสลากย้อม จ.ลำพูน บ้านเหมืองกุง จ.เชียงใหม่ พร้อมมีมุมร้าน ชา กาแฟ โกโก้ คราฟท์โซดา หรือเครื่องดื่มผลิตจากภาคเหนือ ตกแต่งสไตล์บรรยากาศ Glamping  12 บูธ และจัดเต็มลำแต้แต้ได้ที่กาดหมั้ว กับอาหารเหนือ อาหารฟิวชั่น มิชลินเชียงใหม่

 

โซนที่ 5 : ภาคใต้  ชู หรอยแรงด้วยแนวคิด “เที่ยวใต้ : สะดวกสบายทันสมัย ปลอดภัยได้มาตรฐาน และสัมผัสกับประสบการณ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสู่ความยั่งยืน” ผ่านธีม  "14 x 24 x 365 หรอยแรง"  ห้ามพลาดโซนอาหาร หรอยแรง 36 ร้านอาหาร เช่น โรตี 3 ร้าน และ ชาชัก 2 ร้าน ร่วมทำ DIY มากมาย

 

โซนที่ 6 : ภาคอีสาน ชวน “หลงรักแผ่นดินถิ่นอีสาน” ปลดล็อกประสบการณ์ท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิด “อีสาน...ไปไสกะแซ่บ” มากกว่าความแซ่บคือ ประสบการณ์ โดยนำเสนอประสบการณ์ เพิ่มดีกรี 7 แซ่บ ประกอบด้วย แซ่บแรก เชิญเดินเข้า “ไห...เทค” ไหปลาร้าเรืองแสง แซ่บที่ 2 เชิญชิม 20 ร้านดัง      จาก 20 จังหวัดภาคอีสาน  แซ่บที่ 3 เชิญลอง 20 จานแซ่บ ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย แซ่บที่ 4 เชิญชม 10 นวัตกรรมอาหารอีสาน Go Inter แซ่บที่ 5 เชิญชอป สินค้า ISAN Arts & Crafts แซ่บที่ 6 เชิญม่วนกับการแสดงม่วนซื่นโฮแซว แซ่บที่ 7 พาแลงแฮงเอาท์ พื้นที่ล้อมวงรับประทานสำรับ

 

โซนที่ 7 : พันธมิตรท่องเที่ยวไทย จับมือพันธมิตรท่องเที่ยวสร้างการรับรู้ท่องเที่ยวในแง่มุมต่างๆ ภายใต้แนวคิด TAT and the Gangs ได้แก่ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) (อพท.) สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ธนาคารกรุงเทพ ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและความมั่นคง การกีฬาแห่งประเทศไทย  กรุงเทพมหานคร  สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)  บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ตำรวจท่องเที่ยว สมาคมสายการบินประเทศไทย สมาพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย (FETTA)

 

โซนที่ 8 : เวทีกลาง  จัดเต็มบรรยากาศแห่งความสนุกสนาน ส่งมอบความสุขแบบ Non-stop ตลอด 5 วัน  สะท้อนอัตลักษณ์ของท้องถิ่นทั้ง 5 ภูมิภาค เช่น การแสดงนาฎมวยไทย และ คีตะมวยไทย การแสดงจากวิทยาลัยนาฎศิลป์กาฬสินธุ์ รำวงเพชรบุรี ทิฟฟานี่ คาบาเร่ต์โชว์ โขนและโนรา    ฟีโน่ เดอะ ระนาด ชมการแสดงจากศิลปินดัง เช่น เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์  เป๊ก ผลิตโชค  Paper Planes  เจ เจตริน PARADOX PALMY  4MIX  New Country  Sarah Salola ลิเกฮีโร่ คณะสองเทพบุตรสุดที่รัก การแสดงหมอลำใจเกินร้อย (แอน อรดี บอย ศิริชัย) เอกชัย ศรีวิชัย เพลงลูกกรุงสุนทราภรณ์ และอีกมากมาย

 

โซนที่ 9 : TAT Net Zero ตอกย้ำการขับเคลื่อนท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืน(Sustainable Tourism)ด้วยความพร้อมของสินค้า บริการ และกิจกรรม ชวนประสบการณ์เดินทางท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบตามแนวคิด TAT Net Zero ภายใต้ยุทธศาสตร์ Sustainable Tourism Goals: STGs ไปกับ Sustainable Tourism Goals Games & Activities บันไดแห่งความยั่งยืน และ Mapping Exhibition นำเสนอเรื่องราว The Nature Tourism, Amazing Thailand เที่ยวได้ให้ด้วย

 

ข่าวที่ 5 บิ๊กบางจากชูESGเป็นDNAธุรกิจยั่งยืนโชว์ความสำเร็จ6โครงการ

 

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้รับเชิญให้ขึ้นเวทีนำเสนอเรื่อง “The Great  Remake: Always Ahead of the Curve” ในงานสัมมนา "ESG Game Changer #เปลี่ยนให้ทันโลก"  

ในฐานะผู้นำขององค์กรที่ดำเนินธุรกิจ โดยคำนึงถึงความยั่งยืนทั้งในมิติสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาลหรือ ESG ของบางจากมาตลอดเกือบ 40 ปี โดยให้ความสำคัญกับการนำ ESG มาอยู่ในธุรกิจ หรือทำให้กลายเป็นธุรกิจเพื่อสร้างความยั่งยืน  

 

บางจากได้นำ ESG มาเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินธุรกิจเปรียบเสมือนเป็น DNA ของบางจากฯ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เกิดความยั่งยืน พร้อมกับยกตัวอย่างการดำเนินการต่าง ๆ โดยเป็น รายแรกในเมืองไทย ต่อเนื่องตั้งแต่ยุคบุกเบิกในอดีตจนถึงอนาคตด้วยไฮไลต์ 6 โครงการ ประกอบด้วย

 

โครงการแรก น้ำมันแลกข้าว” เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผ่านสหกรณ์การเกษตรช่วงราคาข้าวตกต่ำและน้ำมันแพง จึงได้พัฒนาเป็นปั๊มสหกรณ์หรือปั๊มชุมชนแห่งแรกเมื่อปี 2533 จนถึงปัจจุบันมีปั๊มชุมชนทั่วประเทศกว่า 600 แห่ง กลายเป็น Social Enterprise ที่สามารถยืนได้อย่างเข้มแข็งด้วยตัวเอง

 

โครงการที่ 2  “นำผลิตภัณฑ์ชุมชน” มาเป็น “ของสมนาคุณลูกค้า” ตามสถานีบริการเพื่อช่วยสร้างความยั่งยืนให้เศรษฐกิจชุมชน นำร่องมาตั้งแต่ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540

 

โครงการที่ 3 เป็นผู้นำพลังงานทดแทน ผลิตไบโอดีเซล เอทานอลจำหน่ายในสถานีบริการตั้งแต่ปี 2548 กระทั่งทุกวันนี้เมื่อโลกเข้าสู่เทรนด์ลดโลกร้อน โครงการดังกล่าวสามารถช่วยโลกได้เป็นอย่างดี

 

นายชัยวัฒน์กล่าวว่า เมื่อเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน บางจากฯ ก็เป็นบริษัทไทยรายแรกที่มีโอกาสเดินหน้าพัฒนาต่อเนื่องอีก 3 โครงการ ได้แก่

 

โครงการที่ 4 เข้าไปลงทุนเหมืองแร่ลิเทียมในทวีปอเมริกาใต้ผ่านบริษัทในสหรัฐอเมริกา แล้วขยายธุรกิจพลังงานสะอาดผ่าน บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) รวมถึงตั้งสถานีบริการน้ำมัน GEMS ต้นแบบด้านนวัตกรรมและสิ่งแวดล้อม มีระบบกักเก็บพลังงานและซื้อขายไฟฟ้าผ่านบล็อคเชน อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในบริษัทแรก ๆ ของประเทศที่ประกาศเป้าหมายทำ Net Zero GHG Emissions ให้ได้ภายในปี 2593 (ค.. 2050) ผ่านแผน BCP316 NET

 

โครงการที่ 5 ร่วมสร้างระบบนิเวศต่าง ๆ ผลักดันสังคมคาร์บอนต่ำ เช่น บุกเบิกแพลตฟอร์มให้เช่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าพร้อมเครือข่ายสถานีบริการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ Winnonie จัดตั้ง Carbon Markets Club เพื่อส่งเสริมการซื้อขายคาร์บอนเครดิต ส่งเสริมองค์ความรู้เรื่อง Synthetic Biology และอื่น ๆ

 

โครงการที่ 6 ก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) จากการเปิดสถานีน้ำมันบางจากรับซื้อน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วรายแรกในไทยพร้อมเปิดรองรับอนาคตข้างหน้าอีก 1-2 ปี

 

นายชัยวัฒน์ ยืนยันว่าโครงการผลิตน้ำมัน SAF เป็นคำตอบสำคัญทั้งเรื่องโอกาสทางธุรกิจและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพราะแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันในภาคขนส่งทางถนนทั่วโลกกำลังลดลง ขณะที่ภาคการขนส่งทางน้ำและทางอากาศยังคงเติบโตต่อเนื่อง คาดการณ์การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากอุตสาหกรรมการบินจะเพิ่มสูงขึ้นมาก ดังนั้น SAF จึงเป็นแนวทางสำคัญในการช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากภาคธุรกิจการบิน

 

อีกทั้งบางจากฯ  ยังพัฒนาระบบลงทะเบียน Book and Claim หรือ ระบบจองและรับสิทธิ์โดยใช้บล็อคเชนผ่าน Carbon Markets Club เพื่อให้ผู้โดยสารสายการบินสามารถร่วมมือกันช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการเดินทางทางอากาศผ่านการใช้ SAF ได้ด้วย

 

ข่าวที่ 6 TCEBรุกไมซ์ตะวันออก2โปรเจกต์ขาย1Market3Destination

 

นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า  เดินหน้าขับเคลื่อนไมซ์ครึ่งหลังปี 2566 ในพื้นที่ภาคตะวันออกของไทย โดยได้นำผู้บริหารลงพื้นที่ร่วมผลักดันงานส่งเสริมการขายนานาชาติและกิจกรรมที่จะยกระดับสถานที่รองรับไมซ์ เพิ่มจุดขายและสร้างโอกาสใหม่ทางการตลาดให้ผู้ประกอบการด้วยการนำคู่ค้าจากเพื่อนบ้านประเทศใกล้เคียง ร่วมสำรวจสถานที่พร้อมกับนำเสนอมุมใหม่ ล่าสุดทีเส็บไฮไลต์ทำ 2 โครงการ ดังนี้

 

โครงการที่ 1 จัด CVTEC MICE BUSINESS ROADSHOW 2023  นำผู้ประกอบการไมซ์เพื่อนบ้านจาก กัมพูชา เวียดนาม 25 ราย เดินทางมาสำรวจสถานที่จัดงานไมซ์ พร้อมทั้งเข้าร่วมจับคู่เจรจาธุรกิจกับตัวแทนผู้ประกอบการไทยในงาน PTM : PATTAYA TRAVEL MART 2023  โดยมีกระแสตอบรับที่ดีระหว่างตัวแทนผู้ซื้อและผู้ขายไมซ์ในภาคตะวันออกกลางกับตลาดเพื่อนบ้าน

 

ไฮไลต์ของ CVTEC Cambodia, Vietnam,Thailand Economic Corridorเป็นการเปิดเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจ เทียบชั้นได้กับริเวียร่าเลียบชายฝั่งทะเลตะวันออกของไทยในพื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัด พัทยา/ชลบุรี จันทบุรี ตราด เชื่อมโยงเข้ากับ เกาะฟูกว๊วก เวียดนาม และกวงยาง ต่อเข้ามายัง เกาะกง สีหนุสิลล์ และกำปอด กัมพูชา ซึ่งทางสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวพัทยาได้สนับสนุนจัดแฟมทริปต้อนรับตัวแทนผู้ซื้อจากกัมพูชาและเวียดนามทั้ง 25 ราย ได้เพิ่มประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพหรือ Wellness Famtrip เมืองพัทยา แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลก

 

โดยได้ใช้โรงแรม เดอะ ไซน์ พัทยา นำเสนอโครงการ “CVTEC Cambodia, Vietnam,Thailand Economic Corridor” รวมพลคนวงการท่องเที่ยวและไมซ์ครั้งใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเข้ามาพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูล  พร้อมกับสร้างเครือข่ายทำตลาดการขายผลักดันการท่องเที่ยวและไมซ์เส้นชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกร่วมกัน 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย กัมพูชา เวียดนาม ด้วยกลยุทธ์การดีไซน์เส้นทาง CVTEC ภายใต้รูปแบบ 1 Market 3 Destination” หรือ 1 ตลาด 3 เส้นทาง

 

ขณะเดียวกันก็ได้นำคณะทั้งหมดเข้าร่วมประชุมหารือกับผู้ประกอบการเมืองพัทยา วางกลยุทธ์สร้างเครือข่ายความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสนับสนุนให้พัทยาเป็นอีกจุดหมายปลายทางสร้างความประทับใจให้แก่นักเดินทางจากตลาดกัมพูชา และเวียดนาม ผนวกการจัดแฟมทริปสร้างประสบการณ์และความประทับใจสินค้าคุณภาพสูง MICE Wellness Destination ในเมืองพัทยา เปิดเส้นทางไมซ์ต้อนรับนักเดินทางสายสุขภาพซึ่งขณะนี้กำลังเป็นเทรนด์การจัดงานของโลกและสามารถสร้างรายได้สูงกว่าสินค้าทั่วไป

 

โครงการที่ 2 ทีเส็บนำเอกชนไมซ์ กัมพูชา และเวียดนาม เข้าร่วมงาน Pattaya Travel Mart 2023 เปิดการเจรจาจับคู่ธุรกิจ โดยมีสมาคมแหล่งท่องเที่ยวชลบุรี ผู้บุกเบิกการจัดงาน รวมพลังกับสมาคมสมาพันธ์ท่องเที่ยวไทยแถวหน้าของประเทศ 7 สมาคม นำโดย สมาคมโรงแรมไทย (THA) สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) สมาคมไทยบริการการท่องเที่ยว (TTAA)สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศ (สทน.)  สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.)  สมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย (สปข.) สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย   ผลักดันงานเทรดโชว์รายการสำคัญที่จะมีบทบาทต่อตลาดไมซ์ในอนาคตด้วย

 

ขณะนี้ภาคตะวันออกมีเส้นทาง Experience the magic of Eastern MICE Wellness ชูขายคอนเซ็ปต์ "มหัศจรรย์ไมซ์ตะวันออก สนุกสุขภาพดีมีได้ทุกวัน - Mind Body & Soul, Nature therapy สอดคล้องกับปัจจุบันเทรนด์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพกำลังได้รับความนิยมจากนักเดินทางทั่วโลก ตามที่ “ข้อมูลศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี” ระบุระบบดูแลสุขภาพไทยติดอันดับ 5 ของโลก และได้รับความนิยมติดอันดับ 1 ของเอเชีย โดยมีต่างชาติเลือกไทยเป็นจุดหมายการเดินทางเข้ามาเพื่อรักษาโรคควบคู่ไปกับการท่องเที่ยว โดยเฉพาะ “ภาคตะวันออก” เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ ทั้งทางด้านศูนย์การดูแลสุขภาพมาตรฐานระดับโลก รวมทั้งยังเป็นศูนย์รวมแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่น่าสนใจ พร้อมรองรับนักนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจากตลาดทั่วโลกได้เป็นอย่างดี

 

ขณะนี้ผู้ประกอบการในภาคตะวันออก ได้ออกแบบ “เส้นทางเชิงสุขภาพ” โดยดึงอัตลักษณ์ ผสมผสานเข้ากับวัฒนธรรรมของแต่ละพื้นที่ นำร่อง 4 จังหวัด ได้แก่ สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง บุกเบิกโปรแกรมสร้างสมดุลให้ร่างกายทั้งภายในและภายนอก ตอบโจทย์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพกลุ่ม MICE นานาชาติทั่วโลกเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมาก ที่ชื่นชอบธีมขาย Mind Body & Soul, Nature therapy การฟื้นฟูร่าง กาย จิตใจซึ่งอ่อนล้าสั่งสมจากการทำงานหนักต่อเนื่องมายาวนาน ได้ปลดล็อกด้วยธรรมชาติบำบัดเสริมสร้างสุขภาพกายและใจให้สมดุลได้จริง

 

ขณะที่ทีเส็บภาคตะวันออก ยังได้เปิดประสบการณ์ “ระยอง” แหล่งที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรมและบริษัทขนาดใหญ่ที่มีเครือข่ายระดับนานาชาติ รอบพื้นที่มีชุมชนพร้อมจะรองรับการจัดกิจกรรมคืนประโยชน์สู่สังคมในรูปแบบ “CSR  theme Health & wellness” ปัจจุบันมี “โรงแรม โนโวเทล สตาร์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์” จังหวัดระยองทุ่มลงทุนปรับโฉมใหม่หลักพันล้านบาท ให้กลายเป็นศูนย์บริการไมซ์โดยมีห้องประชุมขนาดต่าง ๆ เกือบ10 ห้องด้วยกัน

 

อีกทั้งยังมีกิจกรรมร่วมอนุรักษ์ธรรมชาติ ไปชมผืนป่าโกงกางกลางเมืองระยองแห่งเดียวในไทย หรือป่าชายเลนยาวที่สุดในพื้นที่ 500 ไร่ มีทางให้เดินชมได้ถึง 7 กิโลเมตร   บางช่วงหากน้ำขึ้นทางชุมชนมีบริการนั่งเรือไปปล่อยปู คืนทรัพยากรให้ผืนน้ำแห่งนี้ด้วยกัน

 

รวมทั้งยังมีสวนผลไม้ขึ้นชื่อขนาดใหญ่เกือบพันไร่ “สุภัทรา แลนด์ ระยอง” นักท่องเที่ยวและไมซ์ทั้งคนไทยและต่างชาติ นิยมมาแวะชิมมีครบทั้งทุเรียน สละ เงาะ มังคุด ลองกอง และอื่น ๆ รวมทั้งยังได้เพิ่มสีสันบริการเวลเนส คลินิกนวดแผนไทยด้วย

 

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทางทีเส็บได้จับมือกับพันธมิตรเปิดตัวแอพลิเคชั่น ZERO CARBON” มุ่งยกระดับการเดินทางท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ “ต่อยอดอุตสาหกรรมไมซ์” จะเริ่มใช้งานแอพได้ตั้งแต่กันยายน 2566 เป็นต้นไป เพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนการท่องเที่ยวและการจัดอีเวนต์ไมซ์แบบไร้คาร์บอน (Carbon Neutral Tourism Destination & Carbon Neutral Event) เพิ่มมากขึ้น ควบคู่กับวางแผนสร้างเส้นทางท่องเที่ยวและจัดอีเวนต์ที่ไม่สร้างมลพิษแพร่กระจายสู่โลกอีกต่อไป (Net Zero Emission Route และ Event)

 

 ทีเส็บตั้งเป้าหมายเป็นหนึ่งในภาคีเครือข่ายหลักด้านการขับเคลื่อนและยกระดับธุรกิจไมซ์ สู้วิกฤตโลกร้อน เปิดตัวแอพลิเคชั่น “ZERO CARBON” ร่วมกับอีก 7 องค์กรหลัก คือ กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทุน ววน.) โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) แผนงานการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) จับมือกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (TGO) องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) (อพท.) และสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (TEATA)

 

            ช่วงที่ 2 ยกเมืองทะเลไทยมาไว้ในกรุง เที่ยวกระจายงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย” 2-6 สิงหาคม 2566 เที่ยวด่วน “ภาคตะวันออก-ภาคใต้” 2 พิกัดทะเลสวยสุดฟิน แล้วลองฟัง “ศิริราชพยาบาลแนะทำสมาธิ8ขั้น” สุขภาพดีห่างไกลหมอ เกาะติดข่าวดี ๆ ข่าวแรก “เรือด่วนเจ้าพระยา” จัดทริปเที่ยววันหยุดพิเศษ “เข้าพรรษา” แค่ 180 บาท “วันแม่” 499 บาท ข่าวที่สอง “NH Collection” ลุยเปิดรีสอร์ตครั้งแรกในมัลดีฟส์ ชวนคนไทยไปลองใช้บริการ

 

ท่องเที่ยว –ทัวร์ทะเล“ตะวันออก-ภาคใต้”ในเทศกาลเที่ยวเมืองไทย2566

 

เมืองไทย พร้อมแล้ว ที่จะยกทะเลดัง 2 ภูมิภาค “ภาคตะวันออกกับภาคใต้” ในงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย” ระหว่างวันที่ 2-6 สิงหาคม 2566 ยึดพื้นที่ LG Hall ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ให้เที่ยวกันสุดประทับใจในบรรยากาศทะเลสบาย ๆ

 

พิกัดแรก “ภาคตะวันออก” ชวนมาเพิ่มสีสันเที่ยวเมืองไทยสุดเอ็กซ์สตรีมไปกับ "สบ๊ายสบาย    ภาคตะวันออก" ชูแนวคิด “Love Ea(s)t All Around” ผ่าน 4 Story ได้แก่ ยืนหนึ่งเรื่องกิน สุดฟินเรื่องสบาย     จิตผ่อนคลายสายมู เรียนรู้เรื่องรักษ์ ชู Soft Power ด้านอาหาร (Food) เป็นจุดเด่น ผนวกกับกิจกรรมท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน อาทิ กิจกรรม Eco printing สร้างสรรค์งานศิลปะจากธรรมชาติ โดยชุมชนพนัสนิคม จ. ชลบุรี กิจกรรมสาธิตการทำมัดย้อมสีจากเปลือกมังคุด จาก วิสาหกิจชุมชนแตนบาติก จ.ระยอง กิจกรรมสาธิต โมบายจากขยะ DIY ฝาขวดพลาสติกนำมาร้อยเรียงเป็นชิ้นงานโมบาย จากวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านธรรมชาติล่าง จ.ตราด

 

ภายในโซน ผู้เข้าชมงานจะได้พบกับไฮไลท์จุดแลนด์มาร์คถ่ายภาพ 360 องศา อาทิ เกาะขายหัวเราะ     .ตราด สะพานอัษฎางค์ เกาะสีชัง จ.ชลบุรี หนึ่งใน Unseen New Chapters  ทุ่งโปรงทอง จ.ระยอง เป็นต้น และโซนอาหารถิ่น ผลไม้ อาหารทะเลดังของภาคตะวันออกมาไว้ในงาน อาทิ ก๋วยเตี๋ยวกั้ง ข้าวคลุกพริกเกลือ โรตีสายไหมทุเรียน ทอดมันกระวาน หมูชะมวง เส้นจันท์ผัดปู น้ำมะปี้ด ไอติมมะยงชิด และจำลองพื้นที่กิจกรรม             Soft Adventure เอาใจสายลุย เที่ยวภาคตะวันออก เช่น กิจกรรมปีนผา ทดลองเล่น Surf และพัตกอล์ฟแบบสบ๊ายสบายสไตล์ ภาคตะวันออก

 

พิกัดที่ 2 “ภาคใต้”  ล่องปักษ์ใต้ หรอยแรง ต่อเนื่อง ชูแนวคิด เที่ยวใต้ : สะดวกสบายทันสมัย ปลอดภัยได้มาตรฐาน และสัมผัสกับประสบการณ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสู่ความยั่งยืน” ผ่านธีม  "14 x 24 x 365 หรอยแรง"  เที่ยวสนุกสุด ๆ ที่ปักษ์ใต้ นักท่องเที่ยวจะได้หรอยแรงไปกับจอ LED ขนาด22 เมตร x 6 เมตร ออกแบบสไตล์ Modern Southern นำเสนอบรรยากาศภาคใต้ทุกจังหวัดทุกช่วงเวลา พร้อมถ่ายรูปกับแหล่งท่องเที่ยว Popular Southern เช่น ซุ้มประตูอุทยานธรรมธรรมเขานาในหลวง , เขาพับผ้า หนึ่งใน Unseen New Chapters

 

เพลิดเพลินกับโซนอาหาร ชวนลิ้มลอง 36 ร้านอาหารหรอยแรง โรตี จำนวน 3 ร้าน และ ชาชัก จำนวน 2 ร้าน กิจกรรม DIY มากมาย อาทิ ผลิตภัณฑ์ลูกปัดโนรา ผลิตภัณฑ์จากกระจูด ให้ผู้เข้าชมงานได้ร่วมทดลองทำของที่ระลึกกลับบ้านที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก การนำเสนอการแสดงทางวัฒนธรรมท้องถิ่น และการแสดงวัฒนธรรมแบบประยุกต์ ประกอบฉากสุดอลังการบนจอ LED ขนาดยักษ์ อาทิ การแสดงโนรา, มวยไชยา และลิเกฮูลู

 

พร้อมมอบความสะดวกสบายให้แก่นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการซื้อสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์ ด้วยเว็บไซต์ www.tourismdepartmentstore.com หรือ “ห้างททท. ที่รวบรวมดีลสุดพิเศษจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากทั่วประเทศไทยกว่า 300 ร้านค้าออนไลน์

 

 

สุขภาพ – ศิริราชพยาบาลแนะทำสมาธิ8ขั้นตอนสุขภาพดีห่างไกลโรงพยาบาล

 

“ศิริราชพยาบาล” ได้แนะนำการดูแลรักษาสุขภาพได้ด้วยตัวเอง โดย “วิธีทำสมาธิ” ที่มีคุณค่ามาก ในระยะเวลาอันสั้น ทำให้เกิดผลดีต่อตัวเราในหลายมิติด้วยกัน ทั้งทาง “อารมณ์” จะดีขึ้น  “ความจำ” จะดีแจ่มชัดมากขึ้น ห่างไกลจาก“โรคอัลไซเมอร์”  ความคิดเชิงบวก จะตามมาแบบอัตโนมัติ และ “สุขภาพ”จะดีมากขึ้นเรื่อย ๆ  กับ 8 ขั้นตอนดังนี้

 

1. หายใจช้าๆ ให้ลึกๆ ยาวๆ ให้เลือดกับออกซิ เจนไปเลี้ยงสมอง จะนอน หรือนั่ง ก็ได้ นอนดีที่สุด

 

2. กลั้นลมหายใจ และไว้เลี้ยงสมอง 3-4  วินาที เพื่อให้เลือดและออกซิเจน ทำปฏิกิริยากัน

 

3. จากนั้น ปล่อยลมหายใจออกมาทางปาก ช้าๆ ยาวๆ  จนสุด

 

ทำตามข้อแนะนำทั้ง 3 ขั้นตอนแรกต่อเนื่องกันให้ครบชุดละ 20 ครั้ง

 

4. จากนั้น การผ่อนคลายจิต หยุดคิดเรื่องในอดีต ในอนาคตโดยอัตโนมัติ จะเกิดอาการ ปีติ ตามมา

 

5. อาการปิติ เช่น ตัวเบา น้ำตาไหล น้ำมูกไหล ขนลุก เห็นแสงสว่าง เป็นต้น

 

6. ระหว่างที่มีอาการเหล่านี้ แสดงว่า ร่างกายเรากำลังผลิตสเตมเซลล์ เพื่อซ่อมแซมส่วนสึกหรอของร่างกาย ซึ่ง ปกติโดยธรรมชาติ จะได้จากการหลับลึกเท่านั้น

 

7. การหยุดคิด 1 นาที จะได้ผล เท่ากับหลับลึกถึง 1 ชั่วโง

 

8. เชิญชวนให้ทำทุกครั้งที่คิดได้ หรือเมื่อมีเวลาจำกัด ให้เลิกใช้เวลาเล่นไลน์ เล่นเฟสบุ๊ค เล่นอินสตราแกรม แล้วหันมาฝึกหายใจแบบนี้ ทำให้ได้อย่างน้อยวันละ 10 ครั้ง จะเป็นผลดีต่อสุขภาพ ห่างไกลโรงพยาบาลอย่างแน่นอน

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –เรือด่วนเจ้าพระยาขายทัวร์วันหยุด“รับทรัพย์เข้าพรรษา-วันแม่”

 

 

บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด รายงานว่า ในฐานะผู้ให้บริการเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยา ได้จัดโปรแกรมท่องเที่ยวพิเศษต้อนรับวันหยุดยาวทริปล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยาในราคาสบายกระเป๋า 2 รายการ ได้แก่ รายการที่ 1 ทริปรับทรัพย์ : Rup Sup” พาล่องเรือไหว้พระรอบกรุง 5 วัด วันอาทิตย์ที่ 30 กรกฎาคม 2566 ช่วงวันหยุดอาสาฬบูชา-เข้าพรรษา รายการที่ 2 ล่องเรือเกาะเกร็ดเที่ยวเอง วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ช่วงวันแม่ โดยมีรายละเอียดดังนี้

 

รายการแรก ทริปรับทรัพย์ ราคาคนละ 499 บาท จากปกติคนละ 699 บาท โดยจะชวนออกมาเดินทางผ่อนคลายในโอกาสวันหยุดอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ทุกคนจะได้ไหว้พระทำบุญตามศาสนสถานริมแม่น้ำเจ้าพระยา 5 วัด ได้แก่ วัดประยุรวงศาวาส-วัดอรุณราชวราราม-วัดระฆังโฆสิตาราม-วัดแก้วฟ้าจุฬามณี-วัดเทวราชกุญชร  ซึ่งสามารถที่จะแวะกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พร้อมขอพรเสริมสิริมงคลให้ชีวิตรุ่งโรจน์ตลอดครึ่งปีหลัง 2566 ได้อย่างเต็มที่

 

จุดบริการเรือ จะใช้เรือปรับอากาศ 2 ชั้น Riva Express ไว้รอรับนักท่องเที่ยวไป-กลับ ตลอดทริป ตรงบริเวณท่าเรือ “สาทร” ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว สถานีสะพานตากสิน   ขาไปเริ่มเวลา 10.00 น.และขากลับถึงท่าสาทร เวลา 17.00 น.  

 

รายการที่ 2 เกาะเกร็ดเที่ยวเอง วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566  ราคาตั๋วโดยสารเรือ ไป–กลับ พิเศษ!! เมื่อซื้อล่วงหน้าจ่ายเพียงคนละ 180 บาท จากปกติ 230 บาท หรือจะซื้อตั๋วเที่ยวเดียวก็ได้จ่ายคนละ 100 บาท โดยจะเชิญชวนแต่ละครอบครัวพาคุณแม่ออกมาเปลี่ยนบรรยากาศเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ แทนการขับรถนาน ๆ ด้วยการนั่งเรือเที่ยวเกาะเกร็ดราคาประหยัดแบบไปเช้าเย็นกลับ แล้วสามารถเลือกเที่ยวและทำกิจกรรมบนเกาะได้อย่างอิสระ รวมทั้งวางแผนจัดโปรแกรมเที่ยวตามจุดพิเศษที่ต้องการได้ด้วยตนเอง

 

จุดบริการเรือ ตรงท่าเรือสาทร ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว สถานีสะพานตากสิน เรือจะออกเวลา 10.30 น. ไปยังเกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วน “ขากลับ” เรือจะออกจากท่าวัดปรมัยยิกาวาส เวลา 15.00 น.

 

บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา เปิดให้นักท่องเที่ยวที่สนใจล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยา สำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ทาง LINE: @cpxboattour หรือโทร. 086-331-4215

 

ข่าวที่สอง -NH Collectionเปิดรีสอร์ตนอกเมืองครั้งแรกในมัลดีฟส์

 

มร. ดิลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)  และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไมเนอร์ โฮเทลส์ (MH : Minor Hotels) เปิดเผยว่า ในฐานะที่ไมเนอร์ โฮเทลส์ เป็นทั้งเจ้าของโรงแรม ผู้ประกอบการ และนักลงทุน ได้ประกาศเปิด เอ็นเอช คอลเลคชั่น มัลดีฟส์ ฮาวอดด้า รีสอร์ท (NH Collection Maldives Havodda Resort) ภายใต้แบรนด์ “เอ็นเอช คอลเลคชั่น มัลดีฟส์” จะเริ่มบริการเดือนสิงหาคม 2566 โดยได้ขยายธุรกิจสู่มัลดีฟส์เป็นครั้งแรก และเป็นแห่งแรกที่ตั้งอยู่นอกเขตเมือง รวมทั้งจะเป็นอีกหนึ่งรีสอร์ตในพอร์ตโฟลิโอ นำไปสู่ยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวในเอเชียและตะวันออกกลางซึ่งจะกลายเป็นผู้ให้บริการสำคัญระดับโลก

 

ซึ่ง เอ็นเอช คอลเลคชั่น มัลดีฟส์ ฮาวอดด้า รีสอร์ท ตั้งอยู่ใน กาฟู ดาลู อะทอลล์ เกาะที่มีความสวยงามเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาสถานที่พักผ่อนสไตล์ทรอปิคอล รวมถึงประสบการณ์สุดประทับใจต้องมาสักครั้งในชีวิต ในการขยายแบรนด์เอ็นเอช คอลเลคชั่น ไปยังมัลดีฟส์ ครั้งนี้จะทำให้แบรนดแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

 

ส่วน เอ็นเอช คอลเลคชั่น มัลดีฟส์ มีห้องพัก 120 ห้อง แบ่งเป็น 2 สไตล์ ได้แก่ สไตล์ที่ 1 วิลล่าหรูริมหาด 60 หลัง สไตล์ที่ 2 วิลล่ากลางน้ำอีก 60 หลัง ที่มารายล้อมด้วยทิวทัศน์สวยงามของมหาสมุทรอินเดีย พร้อมจะบริการด้วยห้องอาหารนานาชาติตลอดวัน All day Dining ห้องอาหารสไตล์ปิ้งย่างริมชายหาด  ร้านพิซซ่าริมสระว่ายน้ำ และบาร์ค็อกเทลที่เสิร์ฟเครื่องดื่มและเมนูรับประทานเล่น

 

พร้อมบริการ “สปา” สไตล์เอเชีย ฟิตเนสที่มีอุปกรณ์ครบครัน สระว่ายน้ำพร้อมบาร์ริมสระ คิดส์คลับไว้ต้อนรับคุณหนู ๆ ได้เล่นสนุก ศูนย์ดำน้ำและกีฬาทางน้ำพร้อมผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลให้คำแนะนำเกี่ยวกับกิจกรรมที่มีให้เลือกมากมาย อีกทั้งมัลดีฟส์ที่ตั้งรีสอร์ทแห่งนี้ ยังเป็นเกาะรายล้อมไปด้วยแนวปะการังอันอุดมสมบูรณ์ทำให้สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลสีสันสวยงามหลากหลายสายพันธุ์ได้อยู่อาศัยด้วย

 

สำหรับแบรนด์ “เอ็นเอช คอลเลคชั่น” วางแผนเปิดรีสอร์ทในมัลดีฟส์เป็นแห่งที่ 7 บริหารโดยไมเนอร์ โฮเทลส์ ที่มีกลยุทธ์มุ่งขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคใหม่ ๆ พื้นที่หลักในแถบเอเชียแปซิฟิกและตะวันออกกลาง อนาคตอันใกล้นี้เตรียมจะเปิดตัว เอ็นเอช คอลเลคชั่น อีก 2 แห่ง ที่เชียงใหม่ของไทย และหลวงพระบาง ในชื่อ NH Collection Luang Prabang สปป.ลาว ส่วนในสาธารณรัฐประชาชนจีน ทยอยเปิดอีกหลายแห่งด้วยกัน รวมทั้งเมื่อต้นปี 2566 เปิด เอ็นเอช คอลเลคชั่น ดูไบ เดอะ ปาล์ม  ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และปัจจุบันยังอยู่ระหว่างพัฒนาโรงแรมในกาตาร์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อีก 2 แห่ง

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

  รุ่งทิพย์ บุกขุนทด  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่  2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ

TCEBนำไมซ์ปี67โร้ดโชว์เทรดโชว์ทั่วโลก-จัดยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" บิ๊ก TCEB ปี 67 ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้   3-7 มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี !! ไทยเจ้าภาพ Korat Expo2029 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO” ช้อป 3 อย่างลด 25% ททท.นำร่องจัด AIR-MAZING ไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม & บางจากมอบ2โปรดี สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด AWC ปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ Trip.com- ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล. วันอาทิตย์ที่   3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ FM97  # เพ็ญรุ่งใยสามเสน # เท

เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก

  เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก คิงเพาเวอร์ชวนช้อปออนไลน์แบรนด์เนมลด 70%26-31 ต.ค.นี้ สนุกกับ SUPER SURPRISE ดีลพิเศษราคาดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ ก.ท่องเที่ยวตีปีกรับทัวร์ต่างชาติ 3 เฟส-ไฟเขียวแล้ว 10 แอร์ไลน์ ไทยจ่อดึงลองสเตย์ต่างชาติซื้ออสังหาฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด “ TCEB” ชูไทยแลนด์ไมซ์สตาร์ตอัพปั้นนวัตกรรมใหม่5โปรเจ็กต์ หนาวนี้เที่ยว“นครพนม”ปลอดภัยมั่นใจเส้นทางสาย SHA ริมโขง วิธีเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนควบคู่การลดโรคมากมาย ไทยสมายล์ขายตั๋วชุดเที่ยวไทยเหมาจ่าย4ใบเริ่มที่3.8พันบาท ไทยเวียตเจ็ทขายตั๋ว5บาท/เที่ยวโปร2เส้นทางใหม่ในประเทศ กรมเจ้าท่าฟุ้งแผนทำ10ท่าเรือรองรับวันสต็อปเที่ยวเจ้าพระยา   นายพศิน ลาทูรัส ซีอีโอฝ่ายพัฒนาธุรกิจ  บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง