ททท.รุกท่องเที่ยวมิติใหม่“อีสานไปไสกะแซ่บ”รายได้พุ่ง
ชูมิชลินต่อยอดขายอาหารชุมชน-สุขภาพ-เส้นทางอันซีน
ปี’67จัดทัพธุรกิจร่วมขบวนSDGs+STGsขึ้นชั้นTAT STAR
คิงเพาเวอร์จัดฟินแอนด์ฟันมันส์ทุกวีกเสาร์ที่9/16ก.ย.นี้
รร.พูลแมนคิงเพาเวอร์ชูอาหารเม็กซิกัน16-24ก.ย.3สไตล์
ททท.กระบี่นำธุรกิจโร้ดโชว์สิงคโปร์ปั๊มตลาดปี’66โตแรง
บางจากปลื้ม!ทริสคงเครดิตAรับความสำเร็จซื้อหุ้นเอสโซ่
TCEBแนะนำ“บางกะจะจันทบุรี”จัดกิจกรรมดีไมซ์ชุมชน
ทัวร์Unseen“หอคอยเปลี่ยนสี/พิพิธภัณฑ์ทองคำ/วังโหรา
กินดี!!4วิตามินธรรมชาติตัวช่วยเสริมสุขภาพอายุยืนยาว
ส.แอตต้าอ้อนนายกฯเศรษฐาฟื้นทัวร์จีนเจอหนัก3เรื่อง
ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ลุยฟื้นฟูฯเพิ่มฝูงบิน/เส้นทาง/คืนหนี้
วันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #TCEB #บางจาก #สรัสวดีอาสาสรรพกิจ #UnseenNewChapterภาคกลาง
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/mPMmujEd6G/
ช่วงที่ 1 เที่ยวแซ่บเศรษฐกิจปังกับ “นางสาวสรัสวดี อาสาสรรพกิจ” ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โหมกระแส “อีสานไปไสกะแซ่บ” ใช้ศักยภาพภูมิภาคร่ำรวยด้วยร้านมิชลิน 4 จังหวัด ผนึกสร้างจุดขายซอฟท์ เพาเวอร์ Food/อาหาร “นครราชสีมา” ชูผนวกอาหารกับเส้นทางอันซีน “ขอนแก่น” อาหารผนึกย้อนเส้นทางวัตถุดิบอาหาร “อุดรธานี” กินแล้วได้ไหว้แล้วปัง “อุบลราชธานี” ตะโกนว่าแซ่บ พร้อมต่อยอดขายแบบครบวงจร 3 เรื่อง “มิชลิน-ชุมชน-สุขภาพ” เดินหน้าขับเคลื่อน 5 Unseen New Chapters รุกตลาดเที่ยวไทย 5 กลุ่ม สายแคมป์-สายธรรมชาติ-สายมู-สายผจญภัย-สายวิถีถิ่น” ปี’67 ลุยยกระดับห่วงโซ่อุปทานนำผู้ประกอบการเข้าขบวน SDGs+STGs ร่วมทัพใหญ่ TAT STAR
นางสาวสรัสวดี อาสาสรรพกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนกันยายน 2566
จะเดินหน้าปูทางการท่องเที่ยวอีสานต่อเนื่องจากงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยที่จะสร้างแรงกระตุ้นตลาดในประเทศด้วยโครงการ
“อีสานไปไสกะแซ่บ” จะนำเสนอาหารซึ่งเป็นมากยิ่งกว่าประสบการณ์
ความแซ่บผนวกเข้ากับท่องเที่ยวโดยมีจุดเน้น 3 เรื่อง ได้แก่
เรื่องที่
1 อาหารกับมิชลิน
ซึ่งทางมิชลินประกาศให้ในอีสาน 4 จังหวัด
33 ร้านอาหาร
เป็นร้านมิชลิน บิ๊บ กูมองด์ ที่ นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี อุดรธานี จึงสามารถนำเสนอจุดเด่นอาหารท้องถิ่นติดดาวระดับนานาชาติ
ซึ่ง ททท.ที่รับผิดชอบแต่ละสำนักงานได้นำเรื่องราวตามเส้นทางท่องเที่ยว ได้แก่
1.ททท.ขอนแก่น” จัดทำอาหารมิชลิน+การเดินทางตามหาแหล่งวัตถุดิบที่นำมาทำเมนูอาหาร
2.ททท.นครราชสีมา นำร้านมิชลิน+แหล่งท่องเที่ยว Unseen New Chapters เชื่อมโยงไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่ยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั้งนครราชสีมาและชัยภูมิ
3.ททท.อุดรธานี นำร้านอาหารมิชลิน+แหล่งท่องเที่ยวตามความเชื่อและศรัทธา ทำโครงการ “กินแล้วได้ ไหว้แล้วปัง” ในเมืองนคราธานี 3 จังหวัด คือ อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ รับประทานอาหารเรียบร้อยแล้ว ก็ไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์
4.ททท.อุบลราชธานี
จัดทำโครงการ “เที่ยวอุบล ตะโกนว่าแซ่บ” ถือเป็นเมืองใหญ่ที่มีวัฒนธรรม
เทศกาลงานประเพณี เทศกาล และการท่องเที่ยวชายแดน นำมาผนวกรวมเข้ากับอาหารมิชลิน
เรื่องที่
2 อาหารกับชุมชน
ตามปีงบประมาณ 2567 จะเริ่มเดือนตุลาคมนี้
นำร่องที่ “จังหวัดเลย” นำเสนออาหารชุมชนในท้องถิ่นมาร้อยเรียงชวนไปเที่ยว
“จังหวัดนครพนม” จะเล่นเรื่องอาหารชนเผ่า ในพื้นที่มากกว่า 10 ชนเผ่า
เรื่องที่
3
อาหารกับสุขภาพ นำร่องโดย “จังหวัดบุรีรัมย์”
รณรงค์เป็นเมืองสะอาดปลูกสมุนไพรเพื่อสุขภาพ และอาหารปลอดภัย “จังหวัดสุรินทร์”
โหมจุดขายการกินอย่างช้าง ตามปกติอ้อยกับกล้วยเป็นแค่อาหารหวานเท่านั้น
ยังมีอาหารหลากหลายโดยเฉพาะเมนูวัฒนธรรมอาหารของไทย เวียดนาม และกัมพูชา
ผสมได้อย่างลงตัว
ส่วนการออกแบบเส้นทางจัดทำเป็นปฏิทินแนะนำขณะนี้ ททท.ภูมิภาคภาคอีสาน กำลังพัฒนาจุดเชื่อมการท่องเที่ยวเชิงอาหารทั่วอีสานตามธีมหลักที่ได้วางไว้ ซึ่งจะสามารถใช้บริการได้ช่วงฤดูเดินทาง (high season) ปลายปี 2566 ขณะนี้มีทีมโปรดักซ์ชั่นลงพื้นที่สุรินทร์จัดทำเส้นทางสายเนื้อ และชุมชนภูผาม่าน ขอนแก่น เพื่อเฟ้นเส้นทางเชิงสรรค์การท่องเที่ยวมาบอกต่อกับนักท่องเที่ยว ผ่านช่องทางสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ได้บ้างตั้งแต่ตุลาคมนี้เป็นต้นไป
ผอ.สรัสวดี
กล่าวว่า โครงการที่ 2 Unseen New Chapters จุดขายที่จะเร่งนำเสนอขายเด่น ๆ ทางการท่องเที่ยว
ในอีสานแต่ละจังหวัดมี 20 แห่ง 20
จังหวัด ตัวอย่าง Unseen ที่ได้รับการโหวตติด 5 แห่ง
เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ภาคอีสานต้องการโปรโมตเพื่อเชิญชวนไปท่องเที่ยวให้ครบทั้ง 5
แห่ง
รองรับตลาดที่น่าสนใจได้ครบทั้ง 5 กลุ่ม ได้แก่
กลุ่มที่ 1 สายแคมป์ ต้องไปนอนดูดาวที่ “อุทยานมอหินขาว” จังหวัดชัยภูมิ สามารถนอนดูดาว ใต้ท้องฟ้ามืดเงียบสงบ
กลุ่มที่ 2 สายธรรมชาติ ผู้ที่ชื่นชอบทะเลหมอกต้องไป “วนอุทยานภูบ่อบิด” จังหวัดเลย สัมผัสประสบการณ์ธรรมชาติไอหมอกบนภูยามเช้าช่วงปลายฝนต้นหนาวสวยงามสุดจะบรรยาย ไปแล้วนักท่องเที่ยวจะประทับใจอย่างแน่นอน
กลุ่มที่ 3 ชื่นชอบการผจญภัย มีเส้นทางแนะนำ “ผาพญากูปรี” อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ไปถึงแล้วจะได้ชมประติมากรรมกูปรี ยามเช้าจนถึงช่วงสาย ๆ จะมีทะเลหมอกให้ชมความสวยงามเช่นกัน
กลุ่มที่ 4 สายวิถีชีวิต ต้องไป “ชุมชนบ้านปรางค์นคร” อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา เป็นพื้นที่วัฒนธรรมเก่าแก่โบราณและบ้านเรือนไทยโคราชอายุกว่า 100 ปี ชาวบ้านตั้งใจต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งสถานที่ท่องเที่ยว และอาหารชุมชน
กลุ่มที่ 5 สายศรัทธาและสายมู แนะนำเดินทางมาเที่ยว “วัดป่าวังน้ำเย็น หรือวัดพุทธวนาราม” อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม มีพระพุทธรูปทองคำ กับศาลาปฏิบัติธรรมขนาดใหญ่มากก่อสร้างด้วยไม้สักสวยงาม
นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยว Unseen New Chapters ในพื้นที่ท่องเที่ยวเมืองรองและเมืองย่อยกระจายอยู่ทั่วอีสานอีก 15 จังหวัด เช่น การทอผ้าไหม ผาหมอกมิวาย จ.ร้อยเอ็ด วัดป่าเมืองเหือง จ.บึงกาฬ และอื่น ๆ
โครงการที่ 3 การยกระดับผู้ประกอบการท่องเที่ยวอีสานเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทาน หรือ Shape Supply นำร่องด้วย “ผู้ประกอบการร้านอาหาร” โดยได้เชิญชวนผู้ประกอบการเข้าสู่มาตรฐานการท่องเที่ยว TAT STAR :Sustainable Tourism Accelation Rating ซึ่งมีร้านอาหารในอีสานได้รับดาว 3-4-5 ไปแล้ว เบื้องต้นได้ STAR ระดับ 5 ดาว ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 8 แห่ง เช่น ในขอนแก่นมีถึง 2 แห่ง คือ อุทยานแห่งชาติภูเวียง เป็นแหล่งท่องเที่ยวนันทนาการในขอนแก่น และศูนย์ศึกษาวิจัยไดโนเสาร์ภูเวียง ส่วนร้านอาหารก็มี ร้านอาหารเป็นลาว นครราชสีมา ร้านมีกินฟาร์มขอนแก่น บ้าน 100 ปีคาเฟ่าแอนด์ฟาร์มจังหวัดเลย เดอะกราวนด์เสต็กเฮาส์ชัยภูมิ โรงแรมเรนโช่ ที่พักในนครราชสีมา
ปี 2567 ททท.ภูมิภาคภาคอีสาน
จะขับเคลื่อนโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนซึ่งอยู่ในช่วงการเบล็นด์รายละเอียดอยู่ในขั้นตอนการทำงานผ่าน
SDGs+STGs คือการพัฒนาที่ยั่งยืน
และการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ซึ่งจะต้องพัฒนาต่อยอดพัฒนาการจากการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
สังคม ก่อนจะมาถึง SDGs STGs ททท.ได้ทำโครงการเกี่ยวข้องกับชุมชนท้องถิ่นผสมผสานอยู่ใน
DNA ที่จะต้องทำทุกพื้นที่
ผอ.สรัสวดีกล่าวว่า เชิญชวนคนในประเทศเตรียมตัวท่องเที่ยวอีสานช่วงตั้งแต่ตุลาคมนี้เป็นต้นไป จะมีงานเทศกาลเด่น ๆ ให้เลือกเป็นจำนวนมาก เช่น เทศกาลไหลเรือไฟแม่น้ำโขง บั้งไฟพญานาค และอีกหลากหลายงาน สามารถจองล่วงหน้าที่เว็บไซต์ อีสาน.com หากชอบเดินทางท่องเที่ยววันธรรมดาก็จะได้อีกบรรยากาศเพื่อจะได้ไม่แออัด ก็สามารถท่องเที่ยวอุทยานต่าง ๆ ทั่วอีสาน และ Unseen New Chapters แต่ละจังหวัด ท่องเที่ยวได้ทุกวัน หรือสอบถามก่อนเดินทางได้กับเบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย 1672
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์จัดฟินแอนด์ฟันมันส์ทุกวีกเสาร์ที่9/16ก.ย.นี้
คิงเพาเวอร์ จัดเต็ม “Weekend Possibilities ฟินแอนด์ฟันมันส์ทุกวีก” นำเสนอเร็วแรงให้สมาชิก “คิงเพาเวอร์” นักช้อปมือดีได้พบกิจกรรมทุกวันเสาร์ตลอดเดือนกันยายน 2566
นำร่องวีกแรก “วันเสาร์ที่ 9 กันยายน 2566” เวลา 15.00 - 17.00 น. เริ่มด้วยธีม “วีกสุดฟัน มันส์ไม่เหงา” กับ “ฟรีน สโรชา” ได้ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เปิดให้สมาชิกได้มาร่วมกันแบบสนานวันละ340 สิทธิ์
เปิดให้รับสิทธิ์เล่นกิจกรรมเพียงเป็นสมาชิกและช้อปครบ
1,000
บาท ขึ้นไป (สุทธิ)/ใบเสร็จ บริเวณบูธกิจกรรม ที่ คิง เพาเวอร์
รางน้ำ จำกัด 340 สิทธิ์ สามารถสนุกฟรี !!
เล่นเกมกับศิลปินแบบใกล้ชิด ผู้ชนะรับรูปถ่ายพร้อมลายเซ็นจากศิลปิน 34 ใบ
ต่อด้วยวีค 2 วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 เวลา 15.00 - 17.00 น. กับธีม “แจกมันส์ ไม่ต้องลุ้น กับ มิกซ์ สหภาพ” 2 กิจกรรมเด่น
กิจกรรมแรก เมื่อสมัครสมาชิกใหม่ NAVY หรือ SCARLET
กับมิกซ์ สหภาพ แล้วเติมเงินเข้าบัญชีสมาชิก 20,000 บาท ผู้โชคดีจะได้ถ่ายรูปคู่กับศิลปิน พร้อมลายเซ็น ให้สิทธิ์ทั้งหมด 20
ใบ ทันทีที่สมาชิก คิง เพาเวอร์ รับคูปองส่วนลด 1,500 บาท เพื่อช้อป 3,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ ให้สูงสุดวันละ
3,400 คนแรก ได้รับคนละ1 สิทธิ์ / วัน
กิจกรรมที่ 2 สมัครสมาชิกใหม่ NAVY เติมเงินเข้าบัญชีสมาชิก 1,000 บาท ผู้โชคดีรับรูปถ่ายพร้อมลายเซ็น ด้วยเหมือนกัน 20 ใบ
ข่าวที่ 2 รร.พูลแมนคิงเพาเวอร์ชูอาหารเม็กซิกัน16-24ก.ย.3สไตล์
โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์
ต้อนรับนักเดินทางสายอาหารมาลองได้เลยกับเทศกาล “A MEXICO
CELEBRATION: A TASTE OF MEXICO Viva Mexico Celebration: A
Taste of Mexico” ดื่มด่ำกับรสชาติอันมีชีวิตชีวาของเม็กซิโก ได้ที่
“ห้องอาหารควิซีน อันปลั๊ก” พร้อมนำรสชาติสไตล์เม็กซิกัน มาให้แฟน ๆ บุฟเฟต์ได้มาลิ้มลอง!
กับโปรโมชั่น Viva Mexico ระหว่างวันที่ 16-24 กันยายน 2023 ชวนกันมาสัมผัสประสบการณ์การเดินทางของอาหารเม็กซิกันที่ทุกคนจะไม่มีวันลืม
ดื่มด่ำไปกับรสชาติที่เข้มข้นและหลากหลายที่เชฟของเราคัดสรรอาหารเม็กซิกันแท้
ๆ ตั้งแต่ นาโชส์ไปจนถึงเบอร์ริโตและทาโก้ ที่ไม่ควรพลาดแต่ละจานมีกลิ่นอายของ “รสชาติและเนื้อสัมผัส”
อันกลมกล่อม แล้วอร่อยกับ ซุปตอร์ติญา รสกลมกล่อมจากข้าวเม็กซิกัน
และเพลิดเพลินกับพิซซ่า Tex Mex โดยมีให้เลือก 3 ราคา
ดังนี้
1.บุฟเฟ่ต์มื้อค่ำ ราคาคนละ 2,250 บาทสุทธิ รวมน้ำอัดลมไม่อั้นและเครื่องดื่มอินโดนีเซีย
2 แก้ว และส่วนลด 40%
เมื่อสมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์ และ แอคคอร์ พลัส จองออนไลน์
2.บุฟเฟ่ต์มื้อสายวันอาทิตย์ ราคาคนละ 2,590 บาทสุทธิ รวมน้ำอัดลมไม่อั้นและเครื่องดื่มอินโดนีเซีย
2 แก้ว ส่วนลด 40% เมื่อสมาชิกบัตรคิง
เพาเวอร์ และ แอคคอร์ พลัส จองออนไลน์
3.แพ็คเกจพิเศษ จะไม่มีส่วนลด ราคาคนละ 950 บาทสุทธิ รวมสปาร์คกลิ้งไวน์ฟรี เฮาส์ไวน์ และเบียร์ท้องถิ่น
เทศกาลนี้คนรักซีฟู้ดห้ามพลาด นอกจากมุมอาหารสไตล์เม็กซิกันแล้ว
ห้องอาหารควิซีน อันปลั๊ก ยังคงจัดเต็มมุมอาหารทะเลสดใหม่มากมายควบคู่ไปกับมุมอาหารเม็กซิกัน
อิ่มอร่อยคุ้มค่าเงินอย่างแน่นอน
ข่าวที่ 3 ททท.กระบี่นำธุรกิจโร้ดโชว์สิงคโปร์ปั๊มท่องเที่ยวปี’66โตแรง
นายอะหมาน หมัดอะดัม ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) สำนักงานกระบี่ เปิดเผยว่า ททท.ร่วมกับ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่
องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ จัดมหกรรมโร้ดโชว์ต่างประเทศAmazing Thailand Krabi Road Show to Singapore 2023 เดินสายส่งเสริมการขายเปิดเจรจาธุรกิจกับคู่ค้าตลาดท่องเที่ยวระยะใกล้
(Short-haul) ในสิงคโปร์
ตั้งเป้ากระตุ้นให้เกิดการเดินทางมายังกระบี่เพิ่มขึ้นและต่อเนื่องตลอดทั้งปี จัดไปแล้วเมื่อ 31 สิงหาคม 2566 โดยมีตัวแทนผู้ขาย
(Sellers) กระบี่
20 ราย ไปพบกับตัวแทนผู้ซื้อ (Buyers)
ในสิงคโปร์ 40
ราย
โดยมีสิงคโปร์เดินทางมาเที่ยวกระบี่
ตามสถิติอย่างไม่เป็นทางการช่วง 7 เดือนแรก ปี 2566 ตั้งแต่เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 สิงคโปร์มาท่องเที่ยวมากเป็นอันดับสองรวม
24,996 คน และแนวโน้มจะเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่สิงหาคม
2566 เป็นต้นไปด้วยเช่นกัน เนื่องจากทางสายการบิน Scoot Airlines ได้เปิดบินตรง ไป-กลับ สิงคโปร์-กระบี่ รวม 31
เที่ยวบิน คาดจะมีนักท่องเที่ยวตลาดใกล้จากสิงคโปร์เดินทางกระบี่เดินทางต่อเนื่องตลอดทั้งปีเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
ส่วนการจัดส่งเสริมการขาย Amazing Thailand Krabi Road Show to Singapore 2023 เป็นเวทีพบปะเจรจาธุรกิจ แลกเปลี่ยนข้อมูล
สร้างการรับรู้ อัพเดทสินค้า พร้อมทั้งได้บรรจุในรายการนำเที่ยวของสิงคโปร์เพื่อเสนอขายต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยวปลายปี
2566 ซึ่งก่อนจะนำเอกชนไปทำโร้ดโชว์ ทาง ททท.กระบี่ ได้ให้
ททท. สำนักงานสิงคโปร์ จัดกิจกรรม Singapore
Market Insight ผ่านระบบ Zoom แนะนำข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวในการเจาะตลาดสิงคโปร์
และเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการกระบี่คัดสรรสินค้าไปเจรจาขายได้ตรงตามเป้าหมาย
ในวันจัดงานที่สิงคโปร์ยังได้รับเกียรติจากนายชุตินทร
คงศักดิ์ เอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ พบปะ ต้อนรับผู้ประกอบการจากกระบี่ครั้งนี้ด้วย
ข่าวที่ 4 บางจากปลื้ม!ทริสคงอันดับเครดิตAรับความสำเร็จซื้อหุ้นเอสโซ่
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด
(มหาชน) รายงานว่า ได้รับการคงอันดับเครดิตองค์กรและตราสารหนี้ของบริษัท ที่ระดับ “A” และแนวโน้มอันดับเครดิต
“คงที่” หรือ “Stable” จากทริสเรทติ้ง
ภายหลังประสบความสำเร็จเข้าซื้อหุ้นของบริษัท
เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จาก ExxonMobil
Asia Holdings Pte. Ltd. สัดส่วน 65.99 %
ซึ่งทาง ทริส เรทติ้งได้ ประกาศยืนยันอันดับเครดิตองค์กรของบางจากฯ
ที่ระดับ “A” และอันดับเครดิตตราสารหนี้ประเภทหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ
ไม่มีหลักประกันที่ระดับ “A” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนของบริษัทที่ระดับ
“BBB+”
นอกจากนั้น ทริสเรทติ้งได้ยกเลิก
“เครดิตพินิจ” แนวโน้ม “ลบ”
สำหรับเครดิตองค์กรและตราสารหนี้ของบางจากฯที่ประกาศเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2566 จากความสำเร็จในการซื้อหุ้นในสัดส่วน 65.99% ของ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ของบางจากฯ เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2566
นางสาวภัทร์ภูรี ชินกุลกิจนิวัฒน์
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบัญชีและการเงิน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น
จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การที่ทริสเรทติ้งประกาศยืนยันอันดับเครดิตของบางจากฯ
สะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อความสำเร็จในการเข้าซื้อหุ้นของเอสโซ่ (ประเทศไทย)
ซึ่งบางจากฯ จะสามารถรับรู้รายได้ในทันทีจากสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องจากธุรกรรม คือ
โรงกลั่นน้ำมันกำลังการกลั่น 174,000 บาร์เรลต่อวัน
เครือข่ายคลังน้ำมันและสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศกว่า 800 แห่ง นอกจากนี้
ทริสเรทติ้งยังเชื่อมั่นในศักยภาพทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้นของบางจากฯ
ในธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันและธุรกิจการตลาด และการผสานประโยชน์ สร้าง synergy ทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้บางจากมี EBITDA และกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นนั่นเอง
ข่าวที่
5 TCEBแนะนำ“บางกะจะจันทบุรี”จัดกิจกรรมดีไมซ์ชุมชน
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB” ชวนไปเปิดประสบการณ์กับ
“ไมซ์ชุมชนบางกะจะ” เจ้าของผลิตภัณฑ์ดัง “เสื่อดีบางกะจะ” จังหวัดจันทบุรี
ซึ่งสะท้อนภูมิปัญญาที่มีมานานและแหล่งเยี่ยมชมธรรมชาติกลิ่นอายทะเลภาคตะวันออก
ย้อนเหตุการณ์ไปกว่าสองร้อยปีที่ผ่านมา
เมื่อ พ.ศ. 2300
ชาวจีนแต้จิ๋วอพยพมาสู่ “ตำบลบางกะจะ”ร่วมกับชาวไทยในภาคอื่น ๆ จึงเกิดวัฒนธรรมความผสมผสานทั้งไทยและจีน
รวมทั้งยังเป็นดินแดนแห่งประวัติศาสตร์ที่น่าศึกษา เพราะชุมชนบางกะ
เคยเป็นสถานที่พักของ “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” ก่อนจะเดินทางไปทุบหม้อข้าวเข้าตีเมืองจันทบุรีเพื่อกอบกู้กรุงศรีอยุธยา
ปัจจุบันชาวบ้านชุมชนบางกะจะจึงรักษาวัฒนธรรมและประเพณีไว้
เป็นอนุสรณ์ทางประวัติศาสตร์ไว้ให้ชนรุ่นหลังได้ภูมิใจแล้วบอกต่อกับผู้คนที่เข้าไปเยี่ยมเยือน
ภายในชุมชนพร้อมต้อนรับ “นักเดินทางกลุ่มไมซ์”
โดยได้รับเตรียมกิจกรรมที่น่าสนใจให้ลงมือทำร่วมกัน เช่น
เรียนรู้การทอเสื่อกกจันทรบูร มรดกภูมิปัญญาขึ้นชื่อของจันทบุรี
เรียนรู้อาชีพดั้งเดิมของคนในพื้นที่ผ่านการทำหอยพวง
และทดลองเจียระไนพลอยกับผู้เชี่ยวชาญในชุมชน สนุกทุกกิจกรรม
หากสนใจเยือนถิ่นประวัติศาสตร์
สัมผัสวิถี “ชุมชนบางกะจะ” จันทบุรี หนึ่งในชุมชนทำกิจกรรมไมซ์ในประเทศ
สามารถเข้าไปชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง https://www.facebook.com/BangkajaVillage
ช่วงที่ 2 มีของดีมาบอกออกไปเที่ยว Unseen New Chapters ให้ครบกันทุกภาค
ทริปสบาย ๆ ต้องอันซีนใกล้กรุง 3 แห่ง “หอคอยเปลี่ยนสี”
สมุทรปราการ “พิพิธภัณฑ์ทองคำ” อยุธยา และ “วังโหรา” สุพรรณบุรี แล้วก็รู้ไว้ซะ “4วิตามินธรรมชาติเสริมสุขภาพ” เกาะติดข่าวฮ็อต ข่าวแรก
“สมาคมแอตต้าวอนนายกฯเศรษฐา” แก้ทัวร์จีนเจอ3เรื่องใหญ่
ข่าวที่สอง “ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์” เบาตัวเดินหน้าแผนฟื้นฟูเร่งเพิ่มฝูงบิน
เพิ่มเส้นทาง หาเงินทยอยใช้หนี้
ท่องเที่ยว
– ทัวร์Unseen“หอคอยเปลี่ยนสี/พิพิธภัณฑ์ทองคำ/วังโหรา
ในวันสบาย ๆ
สามารถเลือกไปพักผ่อนตามแหล่งท่องเที่ยว Unseen New Chapters รอบ ๆ กรุงเทพฯ กันได้ วันนี้ จะมาแนะนำ 3
จังหวัด 3
พิกัด ฟิน ๆ
ที่ “หอคอยเปลี่ยนสีเมืองของดีปากน้ำ” จ.สมุทรปราการ หรือจะไป “พิพิธภัณฑ์ทองคำ…มหาขุมทรัพย์แห่งอโยธยา”
จ.พระนครศรีอยุธยา และ “คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน เที่ยวบ้านวังโหรา” อ.ด่านช้าง
จ.สุพรรณบุรี
พิกัดที่ 1 มหัศจรรย์หอคอยเปลี่ยนสี…สัมผัสของดีเมืองปากน้ำ “อุทยานการเรียนรู้และหอชมเมืองสมุทรปราการ
อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ”
ไปเที่ยว
“หอชมเมืองสมุทรปราการ”
สถานที่ซึ่งเปรียบเสมือนป้อมปราการของปากน้ำ
ด้านบนสุดเป็นจุดชมวิวปากแม่น้ำเจ้าพระยาแบบพาโนราม่า 360
องศา สามารถมองเห็นทัศนียภาพเมืองสมุทรปราการได้ชัดเจน
ซึ่งนอกจากจะได้ชิวลมชมวิวแล้ว นักท่องเที่ยวยังจะได้รับรู้ความเป็นมาของเมืองแห่งนี้
ผ่านนิทรรศการชุด “ร้อยเป็นเรื่องเมืองปากน้ำ”
ที่บอกเล่าความเป็นมาของสมุทรปราการครบทุกมิติ
แถมยังมีไฮไลท์ช่วงพลบค่ำ
ซึ่งหอชมเมืองจะเปลี่ยนไปทำหน้าที่เป็นประภาคารเรืองแสง คอยแสดงสีสันต่างๆ
สลับกันไปเรื่อยๆ สวยงามยามค่ำคืน สมกับเป็นสถานที่ซึ่งถือเป็นหน้าเป็นตาของชาวปากน้ำได้อย่างแท้จริง
นักท่องเที่ยวสามารถมาชมความมหัศจรรย์ของหอคอยเปลี่ยนได้ ทุกวันอังคาร -
วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00 - 17.00 น.
(ปิดให้บริการวันจันทร์)
สอบถาม ททท.สำนักงานฉะเชิงเทรา โทร. 0
3851 4009
พิกัดที่ 2 พิพิธภัณฑ์ทองคำ…มหาขุมทรัพย์แห่งอโยธยา อาคารเครื่องทองอยุธยา
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
ถ้ายังนึกภาพไม่ออกว่า
กรุงศรีอยุธยาเคยรุ่งเรืองมากแค่ไหน ลองมาเที่ยวได้ที่อาคารเครื่องทองอยุธยาของเมืองไทย
สถานที่จัดแสดงมรดกสุดล้ำค่าของประเทศ ประกอบด้วย เครื่องทองโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยามากถึง
2,244 รายการ ที่ขุดพบจากกรุวัดราชบูรณะ วัดมหาธาตุ
กรุวัดพระราม วัดพระศรีสรรเพชญ์ และเจดีย์ศรีสุริโยทัย
สำหรับชิ้นงานที่โดดเด่นและห้ามพลาดเลย
คือ จุลมงกุฎ พระแสงขรรค์ชัยศรี และพระพุทธรูปปางมารวิชัยทองคำ ซึ่งทั้งหมดนี้
เป็นหลักฐานที่แสดงถึงความเรืองรองและร่ำรวยทางศิลปวัฒนธรรมของชาวอยุธยา
สอบถาม ททท.สำนักงานพระนครศรีอยุธยา
โทร 0 3524 6076-7
พิกัดที่
3 คนรักษ์ป่า
ป่ารักชุมชน เที่ยวบ้านวังโหรา ชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านวังโหรา
อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี
ชุมชนตัวอย่างระดับประเทศ ประจำปี 2564
ภายใต้โครงการ “คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน” พื้นที่ที่จะให้นักท่องเที่ยวได้มาฟอกปอด
รับอากาศบริสุทธิ์ โดยชุมชนท่องเที่ยวแห่งนี้เกิดจากความร่วมมือของกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่
มีกิจกรรมมากมายที่นักท่องเที่ยวสามารถมาทำกิจกรรมได้
ไม่ว่าจะเป็นการกางเต็นท์พักแรม เดินป่า ชุมชน
และล่องแพเปียกในอ่างเก็บน้ำลำตะเพิน
ปัจจุบันได้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชน
อาทิ เดินป่าศึกษาธรรมชาติ ลานดูดาว ชมผาชะโงก ผามออีฟ้า ผาผึ้ง ตะลุยเทือกเขานางนอน
เป็นต้น
สอบถาม ททท.สำนักงานสุพรรณบุรี โทร 0 3552 5867 หรือ
0 3552 5880
สุขภาพ
– กินดี !!4 วิตามินธรรมชาติช่วยบำรุงสมองและเสริมความจำ
วิตามิตบำรุงสมองมีประโยชน์ต่อการเสริมประสิทธิภาพการทำงานของระบบประสาท
ประกอบไปด้วยความสามารถในคิดและการเรียนรู้ การมีสมาธิ และความทรงจำ ซึ่ง “วิตามินบำรุงสมอง”
นั้นสามารถได้รับจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างหลากหลายในปริมาณที่เหมาะสม
รับประทานอาหารที่มีวิตามินและสารอาหารที่ช่วยบำรุงสมอง เช่น โอเมก้า 3 และโคลีน
จึงสำคัญต่อการทำงานของสมองให้มีประสิทธิภาพ
1.
วิตามินเอ -มีส่วนช่วยในการทำงานของสมองด้วย สารกลุ่มแคโรทีนอยด์ (Carotenoids) จัดเป็นโปรวิตามินเอ (Provitamin
A) ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายสามารถแปลงไปเป็นวิตามินเอได้
โดยสารที่เป็นที่รู้จักอย่างเบต้าแคโรทีน
เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยเสริมการทำงานของการรับรู้และความจำ
รวมทั้งช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์ประสาทในสมองที่อาจนำไปสู่โรคพาร์กินสัน
และอัลไซเมอร์
“เบต้าแคโรทีน”
จะพบมากในผักผลไม้ที่มีสีเหลือง ส้ม และแดง เช่น แครอท ฟักทอง มะเขือเทศ
พริกหวานสีเหลืองและแดง แคนตาลูป และมันหวาน รวมทั้งผักใบเขียว เช่น ปวยเล้ง เคล
และตำลึง
2.
วิตามินบี 6 วิตามินบี 9 และวิตามินบี 12
เป็นวิตามินบำรุงสมองที่มีส่วนช่วยในการเผาผลาญโฮโมซิสเทอีน (Homocysteine) ซึ่งสารที่เกิดจากการย่อยสลายของอาหารประเภทโปรตีน
หากมีสารนี้สะสมในร่างกายปริมาณมาก อาจทำให้เกิดหลอดเลือดสมองได้รับความเสียหาย
และทำให้ความคิดและความจำเสื่อมถอยลง ซึ่งอาจนำไปสู่โรคสมองเสื่อม
หรือโรคหลอดเลือดสมองได้
แหล่งวิตามินบี
เช่น ธัญพืชไม่ขัดสี เนื้อไก่ เนื้อหมู เครื่องในสัตว์ ปลาและอาหารทะเล ผักใบเขียว
ถั่ว และธัญพืช ซึ่งคนทั่วไปมักได้รับวิตามินบีอย่างเพียงพอจากการรับประทานอาหาร
คุณสมบัติของวิตามินบี
6 มีส่วนช่วยปรับสมดุลของอารมณ์ เพราะเป็นสารที่จำเป็นต่อการสร้างสารสื่อประสาท
เช่น เซโรโทนิน (Serotonin) โดปามีน (Dopamine)
และกรดแกมมาอะมิโนบิวทีริก (Gamma-Aminobutyric acid หรือ GABA) ที่ทำหน้าที่ควบคุมอารมณ์ นอกจากนี้
งานวิจัยยังพบว่าผู้สูงอายุที่ขาดวิตามินบีอาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคซึมเศร้าได้
3.
วิตามินซี บำรุงสมองมีบทบาทสำคัญในการสังเคราะห์สารสื่อประสาทในสมองหลายชนิด
และปรับสมดุลการปล่อยสารสื่อประสาทในเซลล์ประสาท แล้วยังช่วยต้านอนุมูลอิสระ
ซึ่งอนุมูลอิสระอาจทำให้ระบบประสาทและสมองเกิดความเสียหายของ
และเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคสมองเสื่อม
วิตามินซีจึงช่วยชะลอความเสื่อมถอยของทักษะทางความคิดและความจำ
วิตามินซีพบมากในผักผลไม้ เช่น
มะเขือเทศ กะหล่ำดาว บร็อคโคลี คะน้า ส้ม แคนตาลูป และสตรอว์เบอร์รี่
จากงานวิจัยพบว่า
วิตามินซีอาจมีส่วนช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน
โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis) และโรคทางจิต
เช่น โรคจิตเภท (Schizophrenia) โรคซึมเศร้า และโรควิตกกังวล
4.
วิตามินอี
บำรุงสมองที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์จากการทำลายของอนุมูลอิสระ
ซึ่งอาจช่วยป้องกันหรือชะลอความเสื่อมของความคิดและความเข้าใจ
โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ
และงานวิจัยบางชิ้นพบว่าการรับประทานวิตามินอีในปริมาณมากอาจชะลอการลุกลามของโรคอัลไซเมอร์ในผู้ที่เป็นโรคอัลไซเมอร์ระดับต้นถึงปานกลาง
พบมากในอาหารจำพวกถั่วเมล็ดแห้ง
ธัญพืช ผักใบเขียว เช่น บร็อคโคลี และหน่อไม้ฝรั่ง รวมทั้งน้ำมันพืช เช่น
น้ำมันปาล์ม น้ำมันรำข้าว น้ำมันข้าวโพด และน้ำมันดอกทานตะวัน
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
–ส.แอตต้าอ้อนนายกฯเศรษฐาฟื้นทัวร์จีนเจอหนัก3เรื่อง
นายศิษฎิวัชร
ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า ในฐานะสมาคมที่มีสมาชิกเป็นบริษัทนำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าเมืองไทย
ประเมินสถานการณ์นักท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศเที่ยวเมืองไทยตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม
2566 ในช่วงมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารนำโดยนายเศรษฐา
ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะต้องเร่งนโยบายมุ่งผนึกความร่วมมือกันทั้งทุกฝ่ายในหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
ควรจะต้องออกแรงเพิ่มมากขึ้นกว่านี้
เนื่องจากตลาดต่างประเทศเที่ยวไทยช่วง
8 เดือนแรก ระหว่างมกราคม-สิงหาคม 2566 ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตั้งเป้าหมายจะนำนักท่องเที่ยวตลาดหลักจากสาธารณรับประชาชนจีนมาไทย
5 ล้านคน อาจจะทำได้ยากลำบากมาก เพราะเกิดผลกระทบจากหลายอย่าง
ซึ่งปัจจุบันจำเป็นจะต้องรอให้ทางนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาต่าง
ๆ สาเหตุสำคัญ 3 ปัจจัยเร่งด่วน
คือ
ปัจจัยที่
1 ไทยต้องเตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวจีนซึ่งทางสมาคมแอตต้าได้รับการร้องเรียนมาตลอดเรื่องไทยให้วีซ่าจีนช้ามาก
จากการประสานงานกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องของไทยระบุได้เปลี่ยนเป็นมาใช้ระบบ E-VISA
กับนักเดินทางจากจีนแล้ว แต่ทางสมาคมแอตต้าเปรียบเทียบกับช่วงสถานการณ์ปกติปี
2562 แล้ว ช่วงนั้นไทยสามารถออกวีซ่าได้เร็วกว่าปัจจุบันซึ่งต้องใช้เวลา
10-20 วัน ทำให้บริษัทนำเที่ยวของไทยเสียโอกาสอย่างมาก
ปัจจัยที่
2 เศรษฐกิจภายในสาธารณรัฐประชาชนจีนเองกำลังอ่อนแรง
ทำให้รัฐบาลจีนต้องทำนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศมากกว่าสนับสนุนให้ประชาชนไปเที่ยวต่างประเทศ
ส่วนไทยเองช่วงหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายเริ่มตอนเปิดประเทศปลายปี 2565 จีนให้โอกาสเป็น 1 ในประเทศกลุ่มแรก ๆ ที่ได้รับการส่งเสริมให้ชาวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวได้
แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
ปัจจัยที่
3 กระแสข่าวเชิงลบเมื่อจีนเดินทางมาเที่ยวเมืองไทย
โดยเฉพาะเรื่องความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์ ทั้งจากกรณีนักเรียนจีนถูกเรียกค่าไถ่
รวมถึงการถูกหลอกลวงซึ่งปรากฎในโซเชียลมีเดียของจีน จึงทำให้ชาวจีนชะลอการเดินทางมาไทย
นายศิษฎิวัชร
กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ทางสมาคมแอตต้ายังไม่แน่ใจรวมทั้งยังขาดข้อมูลความชัดเจนตามที่นายเศรษฐา
ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ประกาศเดินหน้านโยบายเปิด ฟรี วีซ่า
ให้นักท่องเที่ยวจีน เพราะจากประสบการณ์ทำธุรกิจตลาดจีนในช่วงก่อนหน้าเกิดสถานการณ์โควิด-19 ไทยใช้นโยบายเปิดกว้างไม่ได้เก็บค่าธรรมเนียมวีซ่านักท่องเที่ยว
แต่ตอนนี้จัดเก็บปกติ ดังนั้นจึงต้องขอให้สถานฑูตหรือสำนักงานกงศุลไทยในแต่ละมณฑลของสาธารณรัฐประชาชนจีนสื่อสารถึงชาวจีนอย่างต่อเนื่องและชัดเจนถึงการนำระบบ
E-VISA เข้ามาใช้งาน
ส่วนภารกิจสำคัญของไทยหลังสถานการณ์โควิด-19 จะต้องช่วยกันฟื้นฟูตลาดจีนกลับมา
สิ่งแรกที่ต้องเร่งร่วมกันทำคือผู้ประกอบการท่องเที่ยวกับคนไทยจะต้องเตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นมิตร
รวมถึงเป็นเรื่องที่รัฐบาลใหม่กับสมาคมท่องเที่ยวจะต้องหารือกันอย่างเป็นรูปธรรมอีกครั้ง
เนื่องจากขณะนี้ไทยเปลี่ยนมาใช้ระบบ E-VISA กับชาวจีนซึ่งในขั้นตอนปฏิบัติต้องใช้เอกสารแสดงเป็นจำนวนมาก
สร้างความอึดอัดและลำบากใจกับคนจีนที่ต้องการจะเดินทางมาไทย
นายศิษฎิวัชร
กล่าวว่า มีตัวอย่างการใช้นโยบายของรัฐบาลไทยกระตุ้นตลาดจีนหลังเกิดสถานการณ์เรือล่มที่จังหวัดภูเก็ตแล้วมีผู้เสียชีวิต
ครั้งนั้นทุกฝ่ายร่วมมือกันทำอย่างเต็มที่โดยใช้เวลาฟื้นฟูตลาดจีนกลับมาเที่ยวเมืองไทยได้ภายในเวลา
3-4 เดือน หรือเมื่อปี 2562 ในช่วงสถานการณ์ปกติช่วงปลายปีจะมีจีนมาเที่ยวเมืองไทยเกินกว่าเดือนละ
1 ล้านคน ระหว่างมกราคม-สิงหาคม
ของปีดังกล่าวก็มีเข้ามาแล้วกว่า 8 ล้านคน
ดังนั้นในนามนายกสมาคมแอตต้าจึงมีข้อเสนอแนะให้รัฐบาลไทยชุดใหม่
มีนโยบายส่งเสริมเอกชนเดินทางไปทำโร้ดโชว์จีน
ควบคู่กับการโปรโมตเชิงบวกถึงความพร้อมของไทย ทั้งทางด้านการเป็นเจ้าบ้านที่ดี
แหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ หรือแม้แต่กรณีแท็กซี่บริการสาธารณะไม่ยอมกดมิเตอร์แต่เรียกเก็บค่าโดยสารหรือไล่ผู้โดยสารลงจากรถ
ภาพลักษณ์เหล่านี้รัฐบาลใหม่ควรจะต้องเข้ามาจัดระเบียบใหม่อีกครั้ง
เพื่อให้นักท่องเที่ยวจีนซึ่งเป็นตลาดสำคัญในอดีตเมื่อปี 2562 เคยเดินทางมาไทยมากเป็นอันดับ 1 ปีละ 10 ล้านคน ส่วนปี 2566
เอกชนยังพอมีความหวังและพยายามจะร่วมกับ ททท.ทำให้ถึงเป้าหมาย 5 ล้านคน
ข่าวที่สอง -ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ลุยฟื้นฟูฯเพิ่มฝูงบิน/เส้นทาง/คืนหนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเห็นชอบเมื่อวันที่
31 สิงหาคม
2566 กับแผนฟื้นฟูกิจการของ
“สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์” ซึ่งได้แก้ไขตามมติที่ประชุมเจ้าหนี้เรียบร้อยเเล้วตั้งแต่
14 กรกฎาคม 2566 ซึ่งทางสายการบินพร้อมจะสร้างการเติบโตต่อเนื่อง
โดยใช้แผนเตรียมนำเครื่องเข้าฝูงบิน ขยายเส้นทางใหม่ เพิ่มกระเเสเงินสดและรายได้ ภายใต้การบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
และไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ยืนยันจะสามารถเริ่มทยอยจ่ายหนี้เเละคืนเงินตามคิวให้ผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากความจำเป็นที่ต้องยกเลิกเที่ยวบินช่วงโควิดได้ตามแผนที่วางไว้
นายธรรศพลฐ์ เเบเลเว็ลด์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ กล่าวว่าตอนนี้ไทยแอร์เอเชีย
เอ็กซ์ ได้รับความเห็นชอบด้วยแผนการฟื้นฟูกิจการ จึงขอขอบคุณที่ได้รับการสนับสนุนจากเจ้าหนี้ทุกราย
และคำสั่งของศาลล้มละลายกลาง ถือเป็นความสำเร็จที่สำคัญอีกก้าวของ ไทยแอร์เอเชีย
เอ็กซ์ เดินมาถูกต้อง และมีแผนกลยุทธ์การบริหารจัดการที่ดี
เป็นประโยชน์ทั้งต่อเจ้าหนี้และผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย โดยเฉพาะการสร้างความมั่นใจในบริการ
การแข่งขันและการเติบโตอย่างเเข็งเเกร่ง
ตามแผนหลังสถานการณ์โควิด ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ได้กลับบริการต่อเนื่อง รักษาจุดเเข็งความเป็นผู้นำสายการบินราคาประหยัดมุ่งบริการบินตลาดหลัก ญี่ปุ่นเเละเกาหลีใต้ ภายในปี 2567 ตั้งเป้าหมายเพิ่มปริมาณที่นั่ง (Capacity) ให้ใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด แลจะเร่งการเติบโตตลาดออสเตรเลียกับสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมแสดงตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เช่น อินเดีย เตะวันออกกลาง
ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ได้วางแผนกลยุทธ์สร้างการเติบโตต่อเนื่อง หลังจากเเผนฟื้นฟูกิจการได้รับความเห็นชอบจากศาลแล้ว ประกอบด้วย
เรื่องที่ 1 เพิ่มฝูงบินสร้างรายได้ จากปัจจุบันมี 6 ลำ ภายในปี 2567 จะเดินหน้าเพิ่มจำนวนเครื่องบินตามเเผนฟื้นฟูกิจการ อย่างน้อย 3-5 ลำ และภายในปี 2571 จะมีฝูงบินรวม17 ลำ ซึ่งจะทำให้มีฝูงบินขนาดใหญ่พร้อมขยายเส้นทางและสร้างเครือข่ายการบินแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นได้ทั้งทางด้านผู้โดยสาร และจะต่อยอดขยายธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศ (cargo) ที่สนามบินหลักสุวรรณภูมิด้วย
เรื่องที่ 2 ลดต้นทุนการดำเนินงาน โดยวิธีเจรจาปรับโครงสร้างสัญญาเช่าเครื่องบิน เเละสัญญาบำรุงรักษาเครื่องยนต์ให้เหมาะสม
เรื่องที่ 3 วางระบบบริหารจัดการหนี้อย่างมีประสิทธิภาพ ทางไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ จะทยอยชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ทั้งหลาย และคืนเงินให้ผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกเที่ยวบินช่วงโควิด-19 โดยจะทยอยคืนเงินให้ตามคิวสอดคล้องตามเเผนธุรกิจที่วางไว้
ส่วนผู้โดยสารที่ประสงค์จะเปลี่ยนข้อเสนอจากรับเงินคืน (Refund) ไปเป็นรับมูลค่าบัตรโดยสารสะสม (Travel Voucher) สามารถทำได้ทันที โดยใช้วงเงินเดินทางกับไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ (รหัสเที่ยวบิน XJ) ที่มีเที่ยวสู่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย เเละจีน ยืนความจำนงผ่านช่องทางอีเมล์เพื่อรับตั๋วโดยสารสะสมที่ taxrestructuring@airasia.com
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น