ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

สัมภาษณ์ กิตติพงศ์ กิตติขจร-ผอ.สุวรรณภูมิ ผอ.สุวรรณภูมิเปิดSAT-1


กิตติพงศ์ กิตติขจร ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

 เจาะลึก!สุวรรณภูมิเปิดSAT-1หนุนเศรษฐกิจไทยโตQuickWin

ดึงดูดแอร์ไลน์สใหม่ทั่วโลก-ปลดล็อกSlotบิน-ผงาดฮับเอเชีย

เพิ่มออโตเช็คพาสปอร์ต+ตม.-ไฮซีซันอินเตอร์บิน900เที่ยว/วัน

คิงเพาเวอร์แจกไม่รู้จบวีกอิ่มฟรีมันส์อิ่มท้องเสาร์นี้30ก.ย.66

ช้อปด่วน!!KingPowerOnlineสายแฟชั่น/บิวตี้ลดปังสุดๆ 20%

คิงเพาเวอร์ฉลอง34ปีจัดใหญ่Delights&Surprisesเริ่ม1ต.ค.นี้

ททท.-ONE 31ชูละครพนมนาคาทัวร์อีสาน11เมืองพญานาค

บางจากปลื้ม2รางวัลความเป็นเลิศHR Asia Bestแห่งเอเชีย

TCEBใช้MICE LANEรับวีซ่าฟรีปี’67เร่งเปิดครบ5สนามบิน

ลุยเที่ยวบ้านทิยาเพอลานกางเต็นท์ใหม่สบเมยแม่ฮ่องสอน

3วิธีป้องกันโรคน็อคทูเรียสูงวัยปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน

นายกฯเศรษฐาเปิดSAT-1ดันไทยฮับบิน/คลัสเตอร์อันดามัน

นายกฯนำ2รมว.ดูที่พังงา7พันไร่สร้างสนามบินอันดามันใหม่

ก.ท่องเที่ยวตีปีกต่างชาติทัวร์ไทย9เดือนโตโกย8.15แสนล้าน

วันเสาร์ที่ 30 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก #บ้านทิยาเพอสบเมย  #เศรษฐาทวีสิน

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...https://fb.watch/nnmKQVKsVB/


ช่วงที่ 1 ผ่าสนามบินยุคใหม่กับ “นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT/ทอท.” เปิด SAT-1 สุวรรณภูมิ สร้างเกมเปลี่ยนประเทศไทยด้วยการบินนำท่องเที่ยวฟื้นเศรษฐกิจไทยแบบ Quick Win ปูพรมผนึกบิ๊กแอร์ไลน์ส “ตะวันออกกลาง” ดันไทยฮับบินรองรับเครื่องซูเปอร์จัมโบ้ สร้างแม่เหล็กใหม่ 3 อย่าง “สะดวกหรูหรา-ปลดล็อกSlotตารางบิน-จูงใจแอร์ไลน์สใหม่เข้าไทยเพิ่ม” ไฮซีซันปลายปี66 เที่ยวบินอินเตอร์พุ่ง 900 เที่ยว/วัน ลุยขจัดปัญหาดรามา 2 บริการ “สัมภาระกระเป๋า” กับ “เคาน์เตอร์ ตม.” เพิ่มกำลังคน 400 นาย 186 เคาน์เตอร์ ทุ่มลงทุนใหม่ Auto Channel กว่า 80 เครื่องกระจายบริการ 3 โซนหลัก

 

นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT/ทอท.” เปิดเผยว่า ขณะนี้สุวรรณภูมิได้ทดลองเปิดบริการอย่างไม่เป็นทางการ (Soft Opening) อาคารผู้โดยสารหลังใหม่ SAT-1 : Satlellite Building Terminal  ในพื้นที่ขนาด 251,400 ตารางเมตร โดยมีบริการในช่วงระยะเริ่มทดลองเปิดใช้ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2566 เป็นต้นไป แนะนำให้เผื่อเวลาการเดินทางเพิ่มอีกประมาณ 30 นาที และการจัดเตรียมเวลาเพื่อการเดินทางระหว่างประเทศรวมทั้งหมดทุกขั้นตอนแล้วตามปกติจะเผื่อเวลาไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง ส่วนขั้นตอนการใช้บริการ SAT-1 ด้วยรถไฟฟ้าอัตโนมัติไร้คนขับหรือ APM แต่ละเที่ยวใช้เวลาประมาณ 1.39 นาทีเท่านั้น ส่วนผู้โดยสารจะต้องผ่านขั้นตอน 4 จุดหลักดังนี้

 

จุดที่ 1 เช็คอิน ยังคงใช้อาคารหลังหลักตามปกติ ที่เคาน์เตอร์สายการบินการเดินทางของผู้โดยสารแต่ละคน เพื่อออกบัตรโดยสารขึ้นเครื่องบิน (broadingpass) ในบัตรนี้จะระบุรหัสตัว S ไว้บนบัตรโดยสารเพื่อยืนยันให้ผู้โดยสารไปขึ้นเครื่องตรงประตูทางออกใหม่ที่อาคาร SAT 1

จุดที่ 2 ผ่านเคาน์เตอร์ตรวจหนังสือเดินทางของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) โดยดูตามเส้นสัญลักษณ์แสดงเป็นสีม่วงไว้ในอาคารให้ผู้โดยสารเดินไปตามทางดังกล่าว

จุดที่ 3 จุดเชื่อมต่อนำทางจากอาคารผู้โดยสารหลักสุวรรณภูมิ ไปยังอาคารหลังใหม่ SAT 1 จะอยู่หลังพื้นที่ผ่านเคาน์เตอร์ตรวจคนเข้าเมืองเสร็จเรียบร้อยแล้ว มุ่งหน้าไปยังบริเวณประติมากรรมกวนเกษียนสมุทร จะมีบันไดเลื่อนอยู่ด้านหลังแล้วลงไปสู่ชั้นล่างที่จะมีประตูเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าอัตโนมัติไร้คนขับ APM มีบริการวิ่งไป-กลับ ตลอด 24 ชั่วโมง จำนวน 6 ขบวน รองรับผู้โดยสารได้ขบวนละ 210 คน ระยะเวลาการรอไม่เกินไม่เกิน 3 นาที/สถานี

จุดที่ 4 พื้นที่ทางขึ้นเครื่องในอาคาร SAT-1 ภายในวางผังมีบริการเลาจน์ผู้โดยสาร ของ AOT เรียกว่า Common use Lough อยู่บริเวณใกล้ประตูทางออกขึ้นเครื่องบินแบบเปิด (Open Gate) บริหารโดยมิราเคิล กรุ๊ป กระจายอยู่ 2 แห่ง คือเลาจน์ผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาส กับเลาจน์ผู้โดยสารชั้นธุรกิจ แล้วยังมีเลาจน์ของสายการบินอินเตอร์กำลังก่อสร้างในพื้นที่ 2,000 ตารางเมตร/เลาจน์ ของ 2 รายใหญ่ เอมิเรตส์ สายการบินจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ผู้นำตลาดอันดับต้น ๆ ของโลก และสายการบินเอทิฮัด กับสายการบินอื่น ๆ กำลังทยอยขอลงทุนด้วยเช่นกัน

 


“ร้านอาหาร” เบื้องต้นช่วงเปิดอย่างไม่เป็นทางการเดือนกันยายน 2566 จะเปิดเพียง 1 ร้านคือ แมคโดนัลด์ เพราะผู้โดยสารรู้จักและเป็นแบรนด์อินเตอร์ซึ่งจะไม่ต้องตกแต่งยุ่งยากมากนัก ตั้งแต่พฤศจิกายน นี้เป็นต้นไป เมื่อเปิดอย่างเป็นทางการแล้วก็จะมีร้านค้าแบรนด์ต่าง ๆ ให้บริการอย่างเต็มที่

 

“ร้านค้าดิวตี้ฟรี” ในอาคาร SAT-1 จะเป็นสินค้าประเภทปลอดอากรเป็นหลัก เช่น น้ำหอม เครื่องสำอางค์ เหล้า บุหรี่ เนื่องจากทั้งอาคารจะให้บริการเฉพาะเที่ยวบินต่างประเทศเข้าออกเท่านั้น ส่วนสินค้าแบรนด์เนม แฟชั่น ยอดนิยมอื่น ๆ ยังคงจำหน่ายอยู่ในอาคารหลังหลักของสุวรรณภูมิ

 

นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า ทางสุวรรณภูมิจะใช้ช่วงเปิดบริการ SAT-1 อย่างไม่เป็นทางการ 1 เดือนแรก นำมาวิเคราะห์ปัญหาการบริหารจัดการที่เกิดขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมเต็มที่ต้อนรับฤดูกาลเดินทาง (high season) ตั้งแต่พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป แล้วจากนั้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปี 2567 ก็จะเปิดอย่างเป็นทางการหรือ Grand Opening ได้ต่อไป

 

ระหว่างนี้มีสายการบินนานาชาติให้ความร่วมมือทดลองใช้บริการ 3 วัน ทำให้เกิดแรงจูงใจให้สายการบินต่าง ๆ ต้องการจะขยายมาใช้บริการ ซึ่งอาคาร SAT-1 จะช่วยเพิ่มศักยภาพสุวรรณภูมิให้สามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นได้ถึงปีละ 60 ล้านคน (อาคารหลังหลัก  45 ล้านคน +อาคาร SAT-1 อีก 15 ล้านคน)

 

ช่วงเปิดบริการอย่างไม่เป็นทางการตั้งแต่ 28 กันยายน 2566 เป็นต้นมา มี 2 สายการบิน ได้แก่ ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ 14 เที่ยว/วัน เวียตเจ็ทอีก 4 เที่ยว/วัน ไป-กลับ เส้นทางระหว่างไทยกับจุดหมายปลายทาง ญี่ปุ่น เกาหลี สาธารณรัฐประชาชนจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ เวียดนาม ในอนาคตจะมีสายการบิน เอมิเรตส์ กับ การ์ต้าแอร์เวย์ส จะใช้เครื่องบินลำตัวกว้างซูเปอร์จัมโบ้ แอร์บัส A380 เข้ามาให้บริการที่ SAT-1 แล้วก็จะเพิ่มเที่ยวบินมากขึ้น คาดการณ์จะมีผู้ใช้บริการเกินกว่า 20 สายการบิน รองรับผู้ให้บริการด้วยเครื่องบินลำตัวกว้างขนาดใหญ่เป็นหลัก ซึ่งมีเที่ยวบินจากไทยไปยังทั่วโลก

 

สำหรับขีดความสามารถในการรองรับเที่ยวบินได้ประมาณ 28 เที่ยว/ชั่วโมง หากดึงลูกค้ามาใช้บริการบินได้ตลอด 24 ชั่วโมง จะรองรับได้มากถึง 672 เที่ยว/วัน ปัจจุบันทางสุวรรณภูมิได้เตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกไว้ให้สายการบินและผู้โดยสารคือ 1.เลาจน์ผู้โดยสาร 2.ร้านอาหาร 3.ร้านค้า 4.โครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ

ไฮไลต์ความแตกต่างระหว่างอาคารผู้โดยสารสุวรรณภูมิ “อาคารหลัก /Main terminal” ที่สร้างมาแล้ว 17 ปี กับ “SAT-1 อาคารผู้โดยสารหลังใหม่” เพิ่งเริ่มเปิดบริการกันยายน 2566 เป็นต้นไป คือ

 

เรื่องที่ 1 ความสะดวกสบาย ด้วยบริการประตูขึ้นเครื่องบินแบบเปิดหรือ Open Gate ไม่ต้องมีห้องเฉพาะ ทั้งสายการบินและผู้โดยสารจะสัมผัสได้ถึงความโอ่โถงและสามารถยืดหยุ่นขยับไปใช้ทางขึ้นเครื่องบินสะดวกมากขึ้นได้

 

เรื่องที่ 2จะช่วยสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินและการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก Aviation Hub เพราะจะสามารถช่วยปลดล็อก Slot การบินที่เคยเป็นปัญหาเพราะมีอาคารผู้โดยสารในพื้นที่จำกัด พอเปิด SAT-1 เต็มรูปแบบก็จะช่วยเพิ่มพื้นที่รองรับนักเดินทางได้อย่างชัดเจนถึงอีกปีละ 15 ล้านคน

 

เรื่องที่ 3 สร้างแรงจูงใจให้สายการบินนานาชาติรายใหม่ ๆ สามารถเปิดเส้นทางบินเข้าไทยเพิ่มขึ้นได้ เพราะมีทั้ง Slot การบิน และพื้นที่อาคารรองรับผู้โดยสารใหม่อันโดดเด่น

 

นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า สนามบินสุวรรณภูมิเป็นประตูด่านแรกที่จะขานรับนักท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาลซึ่งต้องการเพิ่มรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจากนักเดินทางทั่วโลก จึงสามารถตอบโจทย์อนาคตอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นตัวและเเติบโตมากกว่าสถานการณ์ปกติในเร็ววันนี้ ปัจจุบันสถานการณ์โดยภาพรวมของสนามบินสุวรรณภูมิยังอยู่ในช่วงนอกฤดูเดินทาง (Low Season) จึงมีเที่ยวบินใช้บริการประมาณกว่า 800 เที่ยว/วัน เมื่อเข้าสู่ฤดูเดินทาง (High Season) มั่นใจมีเที่ยวบินขยับเพิ่มอย่างแน่นอนเกินกว่า 900 เที่ยว/วัน เนื่องจากเที่ยวบินภายในประเทศ (domestic) ตอนนี้เต็มแล้ว 100 % ส่วนเที่ยวบินระหว่างประเทศ (international) พอมีอาคาร SAT-1 เปิดบริการได้ทันเวลาช่วงไฮซีซันจะเป็นโอกาสทางธุรกิจเพิ่มเที่ยวบินและปริมาณนักเดินทางท่องเที่ยวเข้าประเทศด้วย

 

นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า ได้เร่งคลี่คลายปมปัญหาดรามาให้จบ 2 เรื่องหลัก ได้แก่ เรื่องที่ 1 จัดระเบียบการลำเลียงกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสารให้ได้ตามเวลามาตรฐานสากล จากปัจจุบันมีผู้ได้รับสัมปทาน 2 บริษัท คือ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท บางกอก ไฟลต์ เซอร์วิสเซส จำกัด (BFS) ก่อนหน้านี้ยอมรับเคยเกิดกรณีรอกระเป๋าโดยใช้เวลานาน ตามที่มีผู้โดยสารเคยร้องเรียนใช้เวลาบินมาเพียง 1-2 ชั่วโมง แต่ต้องมารอกระเป๋าถึง 1 ชั่วโมง แต่ปัจจุบันทั้ง 2 บริษัท สามารถจ้างแรงงานเข้ามาปฏิบัติหน้าที่เต็มอัตราแล้วปัญหาดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป ปัญหาเบื้องต้นได้รับการแก้ไขไปทั้งหมดแล้ว และต้นปี 2567 เป็นต้นไป จะมีบริษัทรายที่ 3 เข้าให้บริการได้อีกราย

 

เรื่องที่ 2 เจ้าหน้าที่บริการเคาน์เตอร์ตรวจหนังสือเดินทางของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เมื่อเปิดบริการ SAT-1 แล้ว มีผู้โดยสารและเที่ยวบินระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น แต่ผู้ใช้บริการยังคงต้องผ่านการตรวจจากเคาน์เตอร์ ตม.ที่อาคารสุวรรณภูมิหลังหลัก ดังนั้นจึงได้เตรียมรับมือไว้แล้ว โดยทำคู่ขนานกัน 2 แนวทาง คือ

 

แนวทางที่ 1 เพิ่มกำลัง ตม.มาประจำเคาน์เตอร์ ตามคำสั่งของ ฯพณฯ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายให้ทางสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.2) ที่รับผิดชอบเพิ่มกำลังคนแล้วทั้งขาเข้าและขาออกรวม 400 อัตรา สลับกันเข้ามาประจำเคาน์เตอร์ตรวจหนังสือเดินทางโดยเร็วที่สุด

 

แนวทางที่ 2 เพิ่มเครื่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติหรือ Auto Channel เพิ่มขึ้นอีก 1 เท่า ปัจจจุบันมีอยู่ 32 เครื่อง ตั้งกระจายอยู่ 2 ฝั่ง ฝั่งละ 16 เครื่อง อนาคตต่อไปจะให้บริการกับต่างชาติได้ด้วย ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการหารือกับหน่วยงานเกี่ยวข้องจะพิจารณาให้นักเดินทางจากประเทศใดบ้างใช้เครื่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติผ่านเข้า-ออก สนามบินสุวรรณภูมิ

 

ตามแผนจะเคลียร์พื้นที่ 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 บริเวณ VISA On Arrival เพื่อนำไปใช้ติดตั้งเครื่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติบริเวณ “เขาเข้า” เพิ่มอีก 48 เครื่อง ส่วนที่ 2 บริเวณสวนหย่อมตรงกลางอาคารจะประยุกต์ออกแบบใช้ประโยชน์เป็นพื้นที่ตรวจลงตราหนังสือเดินทาง (VISA) ของ ตม.เพราะฉนั้นจะได้เคาน์เตอร์เพิ่มจากปัจจุบัน 138 เคาน์เตอร์ มากขึ้นไปเป็นกว่า 186 เคาน์เตอร์ ทำให้ในอนาคตพื้นที่เคยเป็นปัญหาคอขวดทั้งหมดก็จะได้รับการแก้ไขด้วยเช่นกัน

 

นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า ขอฝากไว้ว่าตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2566 เป็นต้นไป ผู้โดยสารที่มีเที่ยวบินต่างประเทศ เมื่อได้รับบัตรขึ้นเครื่องบินแล้วมีสัญลักษณ์ตัว S ระบุให้ไปใช้ประตูทางออกเพื่อขึ้นเครื่องที่อาคารหลังใหม่ SAT-1 ก็ขอให้ตั้งใจดูสัญลักษณ์เส้นนำทางให้ดี ๆ จะได้ไม่ตกไฟลต์บิน ซึ่งช่วงเปิดอย่างไม่เป็นทางการ ทาง AOT มีเจ้าหน้าที่คอยให้ความช่วยเหลือตลอดเส้นทาง แต่อย่างไรก็ต้องขอให้เผื่อเวลาเดินทางเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย เนื่องจากเป็นช่วงเดียวกันกับรัฐบาลมีนโยบายวีซ่าฟรีให้นักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถานเข้าเมืองไทย จึงอาจจะมีปริมาณคนเดินทางหนาแน่นเป็นธรรมดานั่นเอง

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์แจกไม่รู้จบวีกอิ่มฟรีมันส์อิ่มท้องเสาร์30ก.ย.นี้

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ชวนร่วมกิจกรรมสัปดาห์ส่งท้ายเดือน 9 ห้ามพลาด !! สัปดาห์แห่ง “วีกสุดมันส์” พบกันในวันเสาร์ที่ 30 กันยายน 2566 เวลา15.00 - 17.00 น. ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ จัดมหกรรมคืนกำไร “วีกอิ่มฟรี มันส์อิ่มท้อง” จัดเต็มให้ได้สนุกกับ “ต้าห์อู๋ พิทยา และ ออฟโรด กันตภณ” ชวนทุกคนมาอิ่มท้อง แล้วรับฟรี!! เพียงแค่เข้าร่วมกิจกรรมสนุก ๆ  ก็รับขนม คิง เพาเวอร์ โรล จากต้าอู๋ พิทยา – ออฟโรด กันตภณ ได้ถึงวันละ 100 สิทธิ์ / วัน แบ่ง ๆ กันไป คนละ 1 สิทธิ์ / วัน   เพียงแค่แสดงใบเสร็จการเลือกซื้อสินค้า ช่วง 10.00-14.00 น.ครบ 1,000 บาท ขึ้นไป (สุทธิ) / ใบเสร็จ  ที่ Thai Taste Hub คิง เพาเวอร์ รางน้ำ

 

ผู้โชคดีที่เข้ากิจกรรม “คิง เพาเวอร์ โรล” รับรูปถ่ายพร้อมลายเซ็นจากศิลปิน 10 ใบ จากเงื่อนไขและช่วงเวลาที่กำหนด ส่วนสมาชิกรับฟรี คูปองส่วนลดบัตรรับประทานอาหาร Thai Taste Hub 100 บาท  นำไปใช้การแลกซื้อบัตรรับประทานอาหาร  200 บาทขึ้นไป แจกวันละ 3,400 คนแรก ที่ Thai Taste Hub คิง เพาเวอร์ รางน้ำ คนละ 1 สิทธิ์/วัน

 

ข่าวที่ 2 ช้อปด่วน!!KingPowerOnlineสายแฟชั่น/บิวตี้ลดเบิ้มๆ20%

 

ช้อปด่วน !! King Power Online ลดสูงสุดภายใน 30 กันยายน 2566 เอาใจสายแฟ สายบิวตี้ รีบช้อปรัว ๆ กับแบรนด์ฮิตลดแรงสินค้ามาตรฐานยืนหนึ่งเรื่องราคาสบายกระเป๋า คุณภาพดี ลดสูงสุด 15% เมื่อช้อปครบ 6,000 บาท กดรับรหัสส่วนลด FCSEP15 แล้วยัง ลดสูงสุด 20% เมื่อช้อปครบ 8,000 บาท กดรหัสส่วนลด FCSEP20 เลือกคลิกได้ตลอด 24 ชั่วโมง อยู่ที่ไหนก็ช้อปได้ไม่จำกัด

 

สินค้าดิวตี้ฟรีสุดฮอต มีไฟลต์บินแล้วรีบเลย! จากนั้นก่อนขึ้นหรือลงเครื่องก็ไปรับสินค้าได้ที่สนามบินโดยช้อปต่อได้อีกทั้งขาเข้าและขาออก รวมถึงใช้สิทธิ์แบ่งชำระ 0% ได้นานสูงสุดถึง 10 เดือน รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 8,000 บาท เมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์ รับส่วนลด 200 บาทและทุกการช้อปครบ 1,000 บาทขึ้นไป รับสิทธิ์การสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ ได้โดยอัตโนมัติเช่นกัน

 

ข่าวที่ 3 คิงเพาเวอร์ฉลอง34ปีจัดใหญ่Delights&Surprisesเริ่ม1ต.ค.

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เตรียมฉลองก้าวสู่ปีที่ 34 : King Power 34th Anniversary Delights & Surprises 2023 ตลอดเดือนตุลาคมนี้ชวนมาฉลองกับศิลปินสาว 4EVE ได้ตั้งแต่วันที่ 1 - 31 ตุลาคม 2566 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต เป็น-ไป-ได้ ทั้ง 3 อย่าง ได้ความสุขสุดฟิน ได้เล่นแจกฟรีได้จอยสนุกวนไปแบบไม่รู้จบ

 

ในวันที่ 1 ตุลาคม 2566  “คิง เพาเวอร์ รางน้ำ” เตรียมเปิดพื้นที่ให้เดินทางมาร่วมฉลองในช่วงเวลาพิเศษกับ “หยิ่น วอร์” สนุกทุกกิจกรรมฉลองความฟินไปพร้อม ๆ กันได้ตั้งแต่ 15.00 นาฬิกา เป็นต้นไป

 

เปิดให้ร่วมกิจกรรม“ ฉลอง Golden Week ไปกับหยิ่น วอร์” ได้หลายช่องทางกับคิง เพาเวอร์

 

1.เพียงลงทะเบียนเข้าร่วมงาน ภายในเวลา 10.00น. – 14.00น.กิจกรรมเริ่มตั้งแต่ 15.00 น. เป็นต้นไป รับสิทธิ์เป็นผู้โชคดีรับของรางวัลสุดเซอร์ไพรส์* และพบกับกิจกรรมรับความฟิน ร่วมเป็นผู้โชคดี ไปกับ คิง เพาเวอร์

 

2.เพียงช้อปครบ 2,000 บาท ภายในวัน  รับสิทธิ์ร่วมเป็นผู้โชคดีร่วมกิจกรรมจำนวนจำกัด 200 คนแรก

ห้ามพลาด!!! ฉลองความฟินไปพร้อมกัน ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ 1 ตุลาคม 2566 เท่านั้น!

 

 

ให้สิทธิ์ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสัญชาติไทยและอื่นๆ 100 คน และสัญชาติจีนอีก 100 คน เพื่อเป็นผู้โชคดี 200 คน ที่จะต้อง

ต้องแสดงใบเสร็จการซื้อสินค้าเพื่อเป็นหลักฐาน พร้อมหนังสือเดินทางหรือบัตรประจำตัวประชาชน

 

ข่าวที่ 4 ททท.-ONE 31ชูละครพนมนาคาเที่ยวอีสาน11เมืองพญานาค

 

นางสาวฐาปนีย์  เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.จับมือกับทางช่อง One 31 ใช้กลยุทธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือมิติใหม่โดยผสมผสานการท่องเที่ยวในเชิงความบันเทิงผนวกต่อยอดเข้ากับละครเรื่อง “พนมนาคา” ภายใต้แนวคิด “ศรัทธานำทาง เส้นทางนำเที่ยว” ปลุกกระแสและสร้างแรงบรรดาลใจให้คนในประเทศออกเดินทางและส่งมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวที่มีความหมาย (Meaningful Travel) โดยใช้จุดขายซอฟท์ เพาเวอร์ 5F เนื่องจากขณะนี้ทางช่อง One 31 ได้ผลิตละคร “พนมนาคา” ถ่ายทอดเรื่องราวความเชื่อทางศาสนาและวัฒนธรรม ซึ่งสามารถนำเสนอการท่องเที่ยวเจาะตลาดสายมูและสายศรัทธาได้

 

เนื้อเรื่องในละครได้สะท้อนอัตลักษณ์ วิถีชีวิตท้องถิ่น ความเชื่อเกี่ยวกับพญานาค รวมถึงที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เคยมีมติเห็นชอบให้ “นาค” เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติประเภทสัตว์ในตำนาน จึงถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์เพิ่มมูลค่าแก่ต้นทุนทางวัฒนธรรม นำมาใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างสร้างสรรค์สร้างรายได้การท่องเที่ยวหมุนเวียนกระจายสู่ฐานรากระดับท้องถิ่นได้อย่างแน่นอน

 

นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า ททท. พร้อมออกแบบกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวภาคอีสาน ภายใต้แนวคิด ศรัทธานำทาง เส้นทางนำเที่ยว ตามรอยพญานาค ความเชื่อ ความศรัทธา และวัฒนธรรมที่อยู่คู่คนไทย ปลุกกระแสกลุ่มแฟนคลับออกเดินทางท่องเที่ยวตามรอยละครตามสถานที่ต่างๆ ทั่วอีสาน เริ่มต้นจากการทำประชาสัมพันธ์จุดหมายปลายทางแหล่งท่องเที่ยว โดยใช้สถานที่ถ่ายทำละครเกี่ยวเนื่องกับความเชื่อเรื่องพญานาครอบพื้นที่ 11 จังหวัด ประกอบด้วย กลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง 5 จังหวัดหลัก ได้แก่ นครพนม มุกดาหาร สกลนคร หนองคาย บึงกาฬ เชื่อมโยงถึงพื้นที่ใกล้เคียงอีก 6 จังหวัด ได้แก่  อุบลราชธานี อํานาจเจริญ หนองบัวลําภู สุรินทร์ บุรีรัมย์ โดยสอดแทรกการเผยแพร่ประเพณีของแต่ละจังหวัด เช่น ประเพณีออกพรรษา ไหลเรือไฟ จ.นครพนม บั้งไฟพญานาค จ.หนองคาย ร้อยเรื่องราวเข้าด้วยกันตามวิถีชีวิตจริง  ให้นักท่องเที่ยวเห็นภาพเข้าใจเรื่องราวก่อนออกเดินทาง

 

ททท.ยังได้จัดทำสกู๊ปท่องเที่ยวนำเสนอผ่านรายการ “คชาภา พาไปมู” 2 ตอน ได้แก่ ตอนที่ 1 พาไปมูที่จังหวัดมุกดาหาร-นครพนม สัมผัสเรื่องราวปาฏิหาริย์ของพญานาค เส้นทางแหล่งท่องเที่ยว องค์พญาศรีมุกดามหามุรีนีลปาลนาคราช สะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 2 วัดธาตุมหาชัย และพระธาตุพนม ตอนที่ 2  ตามรอยพญานาค จ.หนองคาย-บึงกาฬ-อุดรธานี เช่น วัดไทย จ.หนองคาย วัดอาฮง จ.บึงกาฬ พระธาตุหล้าหนอง จ.หนองคาย และ คำชะโนด จ.อุดรธานี

 

พร้อม ๆ กับจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวตามรูปแบบ On Ground ทำประชาสัมพันธ์ละคร “พนมนาคา” โชว์เคสนำเสนอวัฒนธรรมอีสานทุกมิติ เช่น โซนที่ 1 “ม่วนคัก” ไปกับการแสดงศิลปวัฒนธรรม โซนที่ 2  “งามแท้” นำเสนองานหัตถศิลป์ ของดีของเด็ด 7 จังหวัดถิ่นอีสาน และตอกย้ำคอนเซปต์ “อีสาน...ไปไสกะแซ่บ” กับวัฒนธรรมอาหาร จัดเต็มเมนูต้นตำรับ รสชาติแซ่บคักไม่เหมือนใคร สร้างสีสันตลอดการจัดงาน

 

ข่าวที่ 5 บางจากปลื้ม2รางวัลความเป็นเลิศHR Asia Bestแห่งเอเชีย

  

 

นายโชคชัย อัศวรังสฤษฏ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ นายนพชัย นุสติ ที่ปรึกษา กลุ่มงานบริหารและพัฒนาศักยภาพองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เป็นตัวแทน บมจ.บางจากรับ 2 รางวัล แห่งความภาคภูมิใจ ได้แก่ รางวัล“บริษัทที่น่าทำงานด้วยมากที่สุดในเอเชีย” หรือ HR Asia Best Companies to Work for in Asia 2023 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 และ รางวัล HR Asia The Most Caring Company 2023 จาก HR Asia นิตยสารชั้นนำด้านทรัพยากรบุคคลของภูมิภาคเอเชีย

 

คุณค่าของ Best Companies to Work for in Asia 2023 เป็นรางวัลระดับสากลมอบให้แก่บริษัทในไทยที่น่าร่วมงานมากที่สุดในภูมิภาคเอเชีย จึงสะท้อนถึงความสำเร็จครอบคลุมทั้งเรื่องแนวทางการบริหารงานด้านทรัพยากรบุคคลของบางจากฯ การมีส่วนร่วมของพนักงานและวัฒนธรรมองค์กรที่ดี ตามเกณฑ์การพิจารณารางวัลครบ 3 มิติ ประกอบด้วย 1.ความหลากหลาย/Diversity 2.ความเท่าเทียม/Equity และ 3.การยอมรับในความแตกต่าง – Inclusion

 

ขณะที่ รางวัล HR Asia The Most Caring Company ทุ่มเทดูแลพนักงานภายใต้แนวทาง100XHappiness มุ่งสู่เป้าหมายการเป็นองค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน 100 ปี Bangchak100X ในฐานะกลุ่มธุรกิจผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน  โดยมีแนวทางการปฏิบัติให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของพนักงาน สร้างวัฒนธรรมองค์กร และดำเนินโครงการต่าง ๆ อย่างหลากหลายเพื่อดูแลพนักงานครอบคลุมครบทุกมิติ

 

รวมทั้ง บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ยังได้รับรางวัลต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2566 (Human Rights Awards 2023) ระดับดีเด่น (รางวัลระดับสูงสุด) ประเภทองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ จาก พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานมอบรางวัลเมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจัดโดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ โดยนายโชคชัย อัศวรังสฤษฎ์ เป็นผู้รับมอบและร่วมเป็นวิทยากรช่วงนำเสนอต้นแบบที่ดี (Best Practice) เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนมุมมอง ประสบการณ์และประโยชน์จากการนำหลักสิทธิมนุษยชนมาปรับใช้ดำเนินงานของบางจากฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ทั้งนี้ บมจ.บางจาก เป็นองค์กรโดดเด่นด้านการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี เน้นให้ความสำคัญเรื่องการจัดการด้านสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมในการดำเนินธุรกิจต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และยอมรับความแตกต่างด้านความคิด ศาสนา สีผิว เชื้อชาติ รวมถึงประชากรกลุ่มเปราะบาง โดยพร้อมแสดงความรับผิดชอบและสร้างความเชื่อมั่น ดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานการเคารพสิทธิมนุษยชนเป็นข้อผูกพันเชิงนโยบาย เฝ้าระวังเพื่อตรวจสอบอย่างรอบด้าน ประเมินผลกระทบทุกขั้นตอนการดำเนินธุรกิจที่ส่งผลกระทบ และกำหนดกลไกเยียวยาหากเกิดผลกระทบเชิงลบ รวมถึงประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมตลอดห่วงโซ่อุปทานเป็นประจำทุกปี ครอบคลุมความเสี่ยง 8 ด้าน ตามแนวทางของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ต่อเนื่องมาตลอดจนถึงปัจจุบันนี้

 

ข่าวที่ 6 TCEBใช้MICE LANEขานรับวีซ่าฟรีปี’67เปิดครบ5สนามบิน

 

            นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)TCEB” เปิดเผยว่า ทันทีที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบพร้อมมีประกาศกระทรวงมหาดไทยเดินหน้านโยบายเปิดวีซ่าฟรีให้นักเดินทางจากสาธารณรัฐประชาชนจีน และคาซัคสถาน เดินทางเข้ามาเมืองไทยได้โดยไม่ต้องทำวีซ่าแล้วพำนักอยู่ในไทยได้ตามกำหนดไม่เกิน 30 วัน เริ่มวันแรกเมื่อ 25 กันยายน 2566 จนถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567  ต่อเนื่องเป็นเวลา 5 เดือน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศเร่งด่วน กระจายไปยังพื้นที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศ

 

                ล่าสุดทีเส็บร่วมกับพันธมิตรเมื่อ 25 กันยายน 2566 ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านเข้ามาทางสนามบินนานาชาติภูเก็ต มีทั้งจังหวัดภูเก็ต การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นำเสนอบริการ MICE LANE ในสนามบินภูเก็ต อำนวยความสะดวกให้นักเดินทางจากจีนและคาซัคสถานที่เดินทางมากับเที่ยวบินแรกโดยใช้วีซ่าฟรี โดยมีนายภูริพันธ์ บุนนาค รองผู้อำนวยการทีเส็บ นำเจ้าหน้าที่บริการ MICE LANE ต้อนรับตั้งแต่ออกประตูเทียบเครื่อง จัดทำป้ายต้อนรับ แจกของที่ระลึก ร่วมต้อนรับคณะดังกล่าว

 

เน้นเพิ่มประสบการณ์บริการให้นักท่องเที่ยวทั้ง 2 ประเทศมาไทยวันแรกรวมกว่า 1,000 คน ประกอบด้วย “คาซัคสถาน” ซึ่งเดินทางมากับสายการบินแอสตานา เที่ยวบิน KC 563 เวลา 09.25 น. มีผู้โดยสารบินจากอัลมาตี้สู่ภูเก็ตกลุ่มแรก 223 คน และสายการบินแอร์ไชน่านำนักท่องเที่ยวสาธารณรัฐประชาชนจีน มากับเที่ยวบิน CA 821 จากปักกิ่งสู่ภูเก็ต เวลา 17.45 น. มีผู้โดยสาร 237 คน และมีสายการบินของจีนเข้าสู่ภูเก็ตอีก  2 เที่ยวบิน จากเมืองหางโจว 158 คน เซี่ยงไฮ้ 180 คน 

 

            นายจิรุตถ์กล่าวว่าทีเส็บได้จัดให้มีบริการ MICE LANE ซึ่งเป็นบริการเฉพาะทีเส็บอำนวยความสะดวกช่องทางพิเศษการตรวจคนเข้าเมือง โดยได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องเพื่ออำนวยความสะดวกให้กลุ่มผู้เดินทางไมซ์ผ่านเข้าออกสนามบินหลัก 2 แห่ง สุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง ปัจจุบันมีเคาน์เตอร์ประสานงานและประชาสัมพันธ์งานไมซ์ประจำอยู่ในสนามบินทั้ง 2 แห่ง  พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่ต้อนรับตลอด 24 ชั่วโมง

 

ทีเส็บตั้งเป้าหมายเปิดบริการ MICE LANE ขานรับนโยบายรัฐบาลในปีงบประมาณ 2567 ตั้งแต่ตุลาคม 2566 - กันยายน 2567 มีแผนจะพัฒนาเพิ่มบริการดังกล่าวครอบคลุม 5 สนามบินหลัก ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต อุดรธานี พร้อมเพิ่มมูลค่าการบริการ เพื่อสร้างความประทับใจในการเลือกประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมและงานแสดงสินค้านานาชาติ

 

โดยจะให้บริการแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1  คณะผู้เดินทางกลุ่มพิเศษสุด (VVIP) อาทิ เช่น บุคคลสำคัญของประเทศเจ้าภาพ CEO  ผู้นำสูงสุดของงานประชุม หรืองานแสดงสินค้านานาชาติ กลุ่มที่ 2  คณะผู้เดินทางกลุ่มพิเศษ (VIP) เช่น กลุ่มผู้บริหารการจัดงาน หรือผู้บริหารบริษัทสำคัญที่เข้าร่วมงาน และ กลุ่มที่ 3 คณะผู้เดินทางกลุ่มประชุมทั่วไป (Delegate)

 

พร้อมทั้งคาดนโยบายวีซ่าฟรีของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน จะส่งผลให้ไทยมีจำนวนนักเดินทางไมซ์เพิ่มขึ้นด้วยตลอด 5 เดือนนี้ โดยเฉพาะตลาดจีน มีกลุ่มไมซ์เลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทาง ติดอันดับที่ 3 จำนวนรวมกว่า 35,000 คน ซึ่งพร้อมจะใช้บริการ MICE LANE ได้ไม่ต่ำกว่า 3,500 คน ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ไทยสร้างรายได้จากอุตสาหกรรมไมซ์ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสิ้นปี 2566 ต่อเนื่องถึงไตรมาส 1 ปี 2567 เติบโตมากขึ้นด้วย

 

ช่วงที่ 2 ปลายฝนต้นหนาวขึ้นเหนือเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์ที่ “บ้านทิยาเพอ”  #ลานกางเต๊นท์ใกล้ชิดธรรมชาติทะเลหมอกแห่งใหม่ ในอำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน แล้วฟัง “3วิธีป้องกันโรคน็อคทูเรีย” สูงวัยฉี่บ่อยตอนกลางคืน และข่าวคุณภาพ ข่าวแรก “นายกฯ เศรษฐา” นำทีมเปิด SAT-1 สุวรรณภูมิดันไทยฮับบินเอเชียกับเร่งพัฒนาคลัสเตอร์อันดามัน ข่าวที่สอง “นายกฯ นำ 2 รมว.” ดูที่ดินสร้างสนามบิน “อันดามัน อินเตอร์เนชั่แนล แอร์พอร์ต” ที่โคกกลอย จ.พังงา ข่าวที่สาม “รมว.สุดาวรรณ” ยิ้ม9เดือนแรกต่างชาติเข้าไทยทำเงิน 8.15 แสนล้าน

 

ท่องเที่ยว –ลุยเที่ยวบ้านทิยาเพอ#ลานกางเต็นท์ใหม่สบเมยแม่ฮ่องสอน

 

ทริปนี้ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแม่ฮ่องสอน ชวนสายแอดเจนเวอร์ ชอบการเดินทางแบบผจญภัยไปค้นหาประสบการณ์ความสุขต้อนรับปลายฝนต้นหนาวพักกายพักใจกับ แนะนำ #ลานกางเต็นท์เปิดใหม่  “บ้านทิยาเพอ”  อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน  ตั้งอยู่ในหมู่บ้านกะเหรี่ยงกลางหุบเขา ที่ได้ซ่อนความยิ่งใหญ่จุดชมวิวทะเลหมอกสุดปังไว้ มีแคร่ไม้ไผ่ทอดยาวไว้ให้ชมทะเลหมอกขาวโพลนยามเช้าแบบฟู ๆ กับจุดชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นสุดอลังการ

 

พอตกค่ำเลือกลานเล็ก ๆ เป็นพื้นที่ “กางเตนท์” พักผ่อนนอนดูดาวสูดอากาศบริสุทธิ์ ด้วยค่าบริการ 100 บาท/คน/คืน   หรือหากไม่สะดวกพกพาเต็นท์ส่วนตัวไปเอง ในชุมชนมีเต็นท์กับเครื่องนอนให้เช่าราคาก็ไม่ได้แพง มีพี่น้องในชุมชนคนดูแลสถานที่น่ารักและใจดีมาก แต่ละครั้งจะรองรับนักท่องเที่ยวได้ครั้งละไม่มาก แถมเป็นสถานที่ถ่ายรูปสวยอลังการ

 

บอกกันไว้ก่อนล่วงหน้า !! ตรงบริเวณ “จุดชมวิว” ลานกางเตนท์ จะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากนัก รวมถึงไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ หรือถ้ามีก็อ่อน ๆ ทำได้เพียงส่งข้อความได้ พอเดินหาสัญญาณได้ตรงสวนพริกกระเหรี่ยง ใกล้ ๆ จุดกาง กับบริเวณโรงเรียนในพื้นที่ดังกล่าว

 

“นักเดินทางผู้หลงรักธรรมชาติ” แนะนำให้เตรียมพร้อมทุกอย่างติดตัวไปให้พร้อม ซึ่งจะมีน้ำจากภูเขาสะอาดใสใช้ตักอาบเพิ่มความสดชื่นได้มากเลยทีเดียว ในหมู่บ้านถ้าไม่ได้กางเตนท์พักค้างแรม ก็มีบริการอันอบอุ่น “โฮมสเตย์” พร้อมอาหารและเครื่องดื่ม    

 

            วิธีเดินทางไปสู่พิกัดจุดหมายลานกางเต๊นต์แห่งใหม่ “บ้านทิยาเพอ”  อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน  โดนใจสายวิบากอย่างแน่นอน ต้องนั่งหรือขับรถลัดเลาะไปตามถนนลาดยางเส้น 105 ( แม่สอด-แม่สะเรียง) ความชันขึ้นเขาตามปกติ อยู่ใกล้กับบ้านเลโค๊ะ ต.สบเมย จนกระทั่งรถแล่นผ่านโรงเรียนบ้านเลโค๊ะเสร็จเรียบร้อย ให้สังเกตุป้ายบอกทางไป “ทิยาเพอ”  จากนั้นให้ปักหมุด GPS มุ่งหน้าโรงเรียนบ้านทิยาเพอได้เลย พอถึงหมู่บ้านและโรงเรียนต้องขับต่อไปยังจุดชมวิวอีกประมาณ 2 กม.

 

หากนักท่องเที่ยวเกรงจะหลงทาง แนะนำให้พึ่งพาน้อง ๆ ในหมู่บ้านขับนำทางพาไปส่งยังบริเวณลานกางเตนต์จุดชมวิวได้ โดยจะมีป้ายบอกเป็นระยะ รถมอเตอร์ไซค์ทุกประเภทขึ้นมาได้สะดวกสุด ส่วนบิ๊กไบค์ทัวร์สายแบกของยากไม่แนะนำให้ใช้รถประเภทนี้ขับขึ้นไป  เพราะตลอดเส้นทางจะเป็นทางดินแดงแคบ เมื่อเดินทางยิ่งเข้าลึกยิ่งแคบ มีหลุมร่องลึก ดินโคลน สลับไปมา อุโมงค์ต้นไม้แคบมาก ถนนเลนเดียว 2 ข้างทางไม่หุบเขาก็ต้นไม้ รถ 4x4 พอขับได้ แต่อาจจะเหนื่อยสักนิด เพราะมีหนึ่งโค้งหนักหนามากสาหัสพอควร

 

ททท.) สำนักงานแม่ฮ่องสอน แจ้งพิกัด GPS : https://goo.gl/maps/iPrZspQhHoeMZ7ty5 และติดต่อได้ที่ โทร. : 063-718-3626

 

สุขภาพ –3วิธีป้องกันโรคน็อคทูเรียสูงวัยปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน

 

มาดูการแก้ไข "อาการปัสสาวะบ่อยในตอนกลางคืน" ทางการแพทย์เรียกว่า โรคน๊อคทูเรีย (Nocturia) ซึ่งเกิดขึ้นกับวัยกลางคนและผู้สูงอายุ สามารถแก้ไขได้ด้วยการ “ดื่มน้ำอุ่นตอนกลางคืน”  เพราะอาการของโรคมีความสัมพันธ์กับกล้ามเนื้อหัวใจและกล้ามเนื้อสมองอย่างมีนัย​สำคัญ สามารถป้องกันด้วย 3 วิธี

 

วิธีที่ 1 ออกกำลังกายด้วยการเดินหรือวิ่งเยาะ ๆ เพราะร่างกายมนุษย์​ไม่เหมือนเครื่องจักรกลเมื่อใช้บ่อย ๆ หนัก ๆ ก็จะเสื่อม แต่ร่างกายมนุษย์​ต้องใช้บ่อยๆด้วยการออกกำลังกาย​แต่ไม่ใช่หักโหมเกินเลย

 

วิธีที่ 2 งดอาหารปิ้งย่างทอดและแป้ง สำหรับแป้งให้กินพอเหมาะแล้วหันไปเน้นหนักการกินผักผลไม้

 

วิธีที่ 3 ดื่มน้ำอุ่นๆก่อนนอนและตอนเช้าก่อนกินอาหารหรือหลังตื่นนอน

 

โรคปัสสาวะตอนกลางคืนมีผลต่อภาวะ “กล้ามเนื้อหัวใจตาย” สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะ “กล้ามเนื้อหัวใจตาย” เพราะหลังจากปัสสาวะ 2-3 ครั้ง น้ำในเลือดจะลดลงอย่างมาก ร่างกายยังคงสูญเสียน้ำ ผ่านการหายใจ จากนั้นเลือดเริ่มหนาและเหนียว ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจช้าลง เนื่องจากการเผาผลาญของร่างกายต่ำระหว่างการนอนหลับ ด้วยเลือดข้น และการไหลเวียนของเลือดช้า การตีบของหลอดเลือดจึงอุดตันได้ง่าย

 

นี่คือสาเหตุที่คนวัยกลางคนและผู้สูงอายุ มักมีกล้ามเนื้อหัวใจตาย หรือกล้ามเนื้อหัวใจตาย ในเวลา 5 หรือ 6 โมงเช้าสถานการณ์นี้จะนำไปสู่ความตายขณะหลับ ย้ำอีกครั้งว่าควรระวัง 3 สิ่งนี้ด้วยคือ

 

สิ่งที่ 1 ต้องบอกทุกคน คือ Nocturia ไม่ใช่ความผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะ แต่เป็นปัญหาของ 'หัวใจที่ชราภาพ'

 

สิ่งที่ 2 ที่ต้องบอกทุกคน คือ คุณต้องดื่มน้ำอุ่นก่อนเข้านอน และคุณต้องดื่มน้ำอุ่นหลังจากตื่นนอนกลางดึกเพื่อฉี่ อย่ากลัว Nocturia เพราะการไม่ดื่มน้ำ อาจคร่าชีวิตคุณได้

 

สิ่งที่ 3 ต้องออกกำลังกายมากขึ้นในเวลาปกติ เพื่อเสริมสร้างการทำงานของหัวใจ ร่างกายมนุษย์ไม่ใช่เครื่องจักรจะเสื่อมสภาพเมื่อใช้บ่อย ๆ แต่ร่างกายของมนุษย์จะตรงกันข้าม จะแข็งแรงขึ้นเมื่อใช้บ่อย ๆ อย่ากินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอาหารจำพวกแป้งและของทอด

 

อ้างอิงผลวิจัยจากแพทย์ชาวอเมริกันค้นพบว่า "Nocturia" คือปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ และกล้ามเนื้อในสมอง มีความเกี่ยวข้องกัน พบอาการบ่อยที่สุดในวัยกลางคนและผู้สูงอายุ คือ อาการกลางคืน (ตื่นกลางดึกเพื่อปัสสาวะ) เพราะปัสสาวะออกหากินเวลากลางคืน ผู้สูงอายุจึงกลัวการดื่มน้ำก่อนนอน พวกเขาไม่รู้ว่า *การไม่ดื่มน้ำก่อนเข้านอน แล้ว “การตื่นกลางดึก เพื่อฉี่” โดยไม่ดื่มน้ำเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหลอดเลือดสมองตีบช่วงเช้าของวัยกลางคน และผู้สูงอายุ

 

ตามความเป็นจริง 'Nocturia' ไม่ใช่ปัญหาของความผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะ ซึ่ง 'Nocturia' เกิดจากความล้มเหลวของการทำงานของหัวใจในผู้สูงอายุ และการที่หัวใจห้องบนขวา ไม่สามารถดูดเลือดจากร่างกายส่วนล่างได้ ในระหว่างวัน เราทุกคนอยู่ในท่ายืน เลือดจะไหลลงมา ถ้าหัวใจไม่ดี ปริมาณเลือดของหัวใจไม่เพียงพอ ความดันในร่างกายส่วนล่างจะเพิ่มขึ้น

 

ดังนั้น คนวัยกลางคนและผู้สูงอายุ จะมีอาการบวมน้ำตามร่างกายในระหว่างวัน เวลานอนตอนกลางคืน จะคลายแรงกดทับที่ร่างกายส่วนล่าง แล้วมีน้ำสะสมอยู่ในเนื้อเยื่อมาก น้ำจะกลับเข้าสู่กระแสเลือด หากมีน้ำมากเกินไป 'ไต' จะทำงานอย่างหนัก เพื่อแยกน้ำออก และระบายออกไปยังกระเพาะปัสสาวะ ทำให้เกิดอาการปวดปัสสาวะในตอนกลางคืน

 

ดังนั้น หลังจากนอนลง มักจะใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง จึงจะลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำเป็นครั้งแรก หลังจากนั้น น้ำในเลือดยังคงเพิ่มขึ้น ดังนั้นอีก 3 ชั่วโมงต่อมา พวกเขาจะต้องไปเข้าห้องน้ำอีกครั้งนั่นเอง

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –นายกฯเศรษฐาเปิดSAT-1ดันไทยฮับบิน/คลัสเตอร์อันดามัน

  

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า วันที่ 29 กันยายน 2566 เป็นประธานพิธีเปิดให้บริการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1: SAT-1) อาคาร SAT-1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อย่างไม่เป็นทางการ โดยรัฐบาลพร้อมเดินหน้าควบคู่กันไป 4 เรื่องหลัก ประกอบด้วย เรื่องที่ 1 ให้ความสำคัญกับการพัฒนาสนามบินทั่วประเทศให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอาคาร SAT-1 จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถสนามบินสุวรรณภูมิเพิ่มพื้นที่รองรับผู้โดยสารและเที่ยวบินเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่องทุกปี แล้วช่วงกลางปี 2567 ยังเตรียมเปิดรันเวย์ที่ 3 ด้วย

 

การเพิ่มขีดความสามารถสนามบินนานาชาติถือเป็นหนึ่งในนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น (Quick Win) เพิ่มการใช้จ่ายทำให้สนามบินพร้อมรองรับนักท่องเที่ยว ซึ่งสามารถสร้างทั้งโอกาสทางเศรษฐกิจของประเทศ แล้วยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้อยู่ดีกินดีขึ้น เพราะท่องเที่ยวคือแหล่งรายได้ที่สำคัญซึ่งสามารถกระจายรายสู่ทั่วประเทศได้อย่างรวดเร็ว ทั้งการสร้างงาน สร้างอาชีพ  ได้ด้วย

 

เรื่องที่ 2 การวางแผนก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิหลายสิบปีก่อน สมัยอดีตรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร   มีวิสัยทัศน์กว้างไกลจึงได้สร้างอุโมงค์ไว้ทำให้ต่อเติมระบบรถไฟฟ้าอัตโนมัติ APM เชื่อมโยงการเดินทางจากอาคารหลักสุวรรณภูมิไปยัง SAT-1 ได้ง่ายขึ้น และประหยัดการลงทุนลงได้มาก อีกทั้งยังจะเป็นช่วยขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพทั้งปัจจุบันและอนาคตได้

 

เรื่องที่ 3 ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานสนามบิน ช่วยกันดูแลอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยส่งเสริมศักยภาพซึ่งรัฐบาลเร่งผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคเอเชีย เกิดประโยชน์แก่ทุกภาคส่วน ทั้งผู้ใช้บริการอย่างสายการบินและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมการบิน ต่อเนื่องไปถึงจะรองรับการค้าและการลงทุนเพิ่มขึ้นในระยะยาว  

 

เรื่องที่ 4 ได้ขอบคุณ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT” และทุกภาคส่วนต่างร่วมกันทำให้อาคาร SAT-1 หลังนี้เปิดสำเร็จพร้อมเป็นประตูสู่การท่องเที่ยว ให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางทั่วโลก สร้างเศรษฐกิจให้ก้าวหน้าต่ออย่างยั่งยืน สร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวว่าตั้งแต่ก้าวแรกที่มาถึงแล้วเดินทางท่องเที่ยวตลอดทุกทริปอย่างสบายด้วยประสบการณ์ที่ดี ก่อนจะเดินขึ้นเครื่องกลับประเทศแล้วเลือกมาเที่ยวเมืองไทยซ้ำ ๆ เพื่อนำเงินเข้ามาใช้จ่ายกระจายสู่ทั่วทุกภาคของประเทศในระยะยาว

 

จากนั้นนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นำรัฐมนตรีและทีมงานเกี่ยวข้องบินไปลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อติดตามความคืบหน้าการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ส่งเสริมการท่องเที่ยวบริเวณชายฝั่งทะเลอันดามัน ของจังหวัดแถบฝั่งทะเลอันดามัน ภูเก็ต พังงา โดยได้กล่าวขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่เสนอแนวความคิดพัฒนาโครงการต่าง ๆ รัฐบาลพร้อมร่วมกันทำงานด้านท่องเที่ยว พลิกฟื้นเศรษฐกิจให้กลับมาอีกครั้ง ทำให้ภูเก็ตเป็นโมเดลกระตุ้นเศรษฐกิจ สามารถพัฒนาเชื่อมต่อเรื่องการท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดคลัสเตอร์ (ภูเก็ต กระบี่ พังงา) ให้เป็นจุดหมายปลายทางที่ดีของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเลือกมาไทย

 

รวมทั้งได้ฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลนักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางมาภูเก็ตให้พักผ่อนอย่างความสุข ปลอดภัย สร้างความประทับใจ รวมทั้งขอให้ AOT เดินหน้าบริหารจัดการเครื่องบินส่วน (private jet) โดยจะไม่ไปกระทบต่อตารางการบินของนักท่องเที่ยวปกติทั่วไปด้วย

 

ข่าวที่สอง -นายกฯนำ2รมว.ดูที่พังงา7พันไร่สร้างสนามบินอันดามันใหม่

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง บินตรงไปจังหวัดภูเก็ต พร้อมนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2566 โดยได้เข้ารับฟังข้อสรุปความคืบหน้าแผนการลงทุนโครงการก่อสร้าง “ท่าอากาศยานนานาชาติอันดามัน” โดยมีหน่วยงานเกี่ยวข้องในพื้นที่นำเสนอรายละเอียดทั้งหมด จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปสำรวจเหมาะสมที่ได้รับการเสอนความเหมาะสมที่จะใช้สร้างสนามบินแห่งใหม่ประมาณ 7,400 ไร่ บริเวณจุดชมวิว 360 องศา ตำบลโคกกลอย อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา

 

นำโดยนายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พล.ต.ต. ณฐกรญ์ กาญจนสภรณ์  ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา นายธราธิป ทองเจิม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงา หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการทหาร กำนันผู้ใหญ่บ้าน ตำบลโคกกลอย และประชาชนในพื้นที่ต้อนรับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างอบอุ่น

 

               นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ย้ำถึงนโยบายการเดินหน้าก่อสร้างสนามบินอันดามันจะต้องไม่สร้างปัญหาที่จะกระทบต่อประชาชนทั้งที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน ส่วนการจ่ายเงินชดเชยค่าเวนคืนที่ดินจะต้องดำเนินการอย่างเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะเรื่องการกำหนดกรอบระยะเวลาเวนคืนและการจ่ายเงินจะต้องทำเป็นแผนให้โปร่งใสชัดเจน พร้อมกำชับเรื่องแผนเชื่อมต่อระบบคมนาคมอย่างเหมาะสม ผนวกกับการจัดทำระบบสาธารณูปโภคต้องวางแผนเผื่อให้มีความพร้อมรองรับการเติบโตทุกมิติในอนาคตด้วย

 

ข่าวที่สาม -ก.ท่องเที่ยวตีปีกต่างชาติทัวร์ไทย9เดือนโตโกย8.15แสนล้าน

 

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า จากสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ประเมินสถานการณ์นักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้าไทย ในสัปดาห์สิ้นเดือนกันยายน 2566 ส่งสัญญาณปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน อาเซียน เอเชียตะวันออก โดยมีแรงหนุนจาก 2 ปัจจัย ได้แก่ ปัจจัยที่ 1 นโยบายยกเว้นวีซ่าให้นักท่องเที่ยวจีนเข้าไทย ตั้งแต่ 25 กันยายน 2566-29 กุมภาพันธ์ 2567  ปัจจัยที่ 2  มีวันหยุดยาวในตลาดสำคัญ เช่น เทศกาลชูซอก (Chuseok) เกาหลีใต้ วันหยุดพิเศษของรัฐกลันตัน มาเลเซีย ปิดภาคเรียนของออสเตรเลีย

 

จึงจะต้องเฝ้าระวังติดตามปัจจัยซึ่งเป็นอุปสรรคกับการเดินทางของนักท่องเที่ยวระยะใกล้ (shorthaul) และระยะไกล (Longhaul) เนื่องจาก “จำนวนเที่ยวบินและเส้นทางการบิน” ยังไม่ได้กลับสู่ภาวะปกติ เพราะต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงการบินราคาสูง อาหาร เงินเฟ้อ ที่ยังคงส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวแต่ละประเทศในตลาดดังกล่าว

 

ขณะที่สถิตินักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้าไทย สรุป ณ วันที่ 25 กันยายน 2566 ช่วงสัปดาห์หว่าง 18-24 กันยายน มีจำนวนทั้งสิ้น 481,404 คน เฉลี่ยวันละ 68,772 คน ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวสะสมช่วงเกือบ 9 เดือนแรก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 24 กันยายน 2566 รวมทั้งสิ้น 19,499,116 คน สร้างรายได้เข้าประเทศร 815,597 ล้านบาท

 

สำหรับช่วงสัปดาห์ระหว่าง 18-24 กันยายน 2566 นักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้าไทย 5 อันดับแรก ประกอบด้วย อันดับ 1 มาเลเซีย จำนวนมากที่สุด 78,042 คน อันดับ 2 สาธารณรัฐประชาชนจีน 61,728 คน อันดับ 3  อินเดีย 30,679 คน  อันดับ 4 เกาหลีใต้ 29,856 คน  อันดับ 5 สปป.ลาว 24,470 คน

 

ส่วนสัปดาห์ก่อนหน้านี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเปอร์เซนต์การเติบโตเพิ่มขึ้นเปรียบเทียบสัปดาห์ต่อสัปดาห์ (WoW :Week to Week มีดังนี้ อันดับ 1 ตลาด “โอเชียเนีย” ออสเตรเลียมากที่สุด เพิ่มขึ้น 13.48 % อันดับ 2 อเมริกา 4.04 % อันดับ 3 ตะวันออกกลาง 3.06 % อันดับ 4 อาเซียน 2.69 % อันดับ 6 เอเชียตะวันออก 1.68 % อันดับ 7 แอฟริกา 1.09 % vอันดับ 9 ยุโรป 0.70 % ส่วน เอเชียใต้ ปรับตัวลดลงเล็กน้อย 0.55 %

 

ส่งผลทำให้ภาพรวมซึ่งเปรียบเทียบสัปดาห์ต่อสัปดาห์เช่นกัน พบว่าช่วงสัปดาห์ก่อนหน้านี้ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมทั้งสิ้น 481,404 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 10,696 คน เติบโต 2.27  เรียงตามลำดับ 5 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย จีน อินเดีย เกาหลีใต้ และ สปป.ลาว และนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้ามากสุด 15.03 % สปป.ลาว เพิ่ม 12.62 % และสาธารณรัฐประชาชนจีน เพิ่ม 8.68 % ช่วงสัปดาห์ก่อน นักท่องเที่ยวที่ลดลง คือ มาเลเซีย ลด 8.17 % อินเดีย ลดลง 0.56 %  

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

  รุ่งทิพย์ บุกขุนทด  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่  2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ

TCEBนำไมซ์ปี67โร้ดโชว์เทรดโชว์ทั่วโลก-จัดยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" บิ๊ก TCEB ปี 67 ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้   3-7 มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี !! ไทยเจ้าภาพ Korat Expo2029 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO” ช้อป 3 อย่างลด 25% ททท.นำร่องจัด AIR-MAZING ไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม & บางจากมอบ2โปรดี สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด AWC ปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ Trip.com- ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล. วันอาทิตย์ที่   3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ FM97  # เพ็ญรุ่งใยสามเสน # เท

เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก

  เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก คิงเพาเวอร์ชวนช้อปออนไลน์แบรนด์เนมลด 70%26-31 ต.ค.นี้ สนุกกับ SUPER SURPRISE ดีลพิเศษราคาดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ ก.ท่องเที่ยวตีปีกรับทัวร์ต่างชาติ 3 เฟส-ไฟเขียวแล้ว 10 แอร์ไลน์ ไทยจ่อดึงลองสเตย์ต่างชาติซื้ออสังหาฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด “ TCEB” ชูไทยแลนด์ไมซ์สตาร์ตอัพปั้นนวัตกรรมใหม่5โปรเจ็กต์ หนาวนี้เที่ยว“นครพนม”ปลอดภัยมั่นใจเส้นทางสาย SHA ริมโขง วิธีเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนควบคู่การลดโรคมากมาย ไทยสมายล์ขายตั๋วชุดเที่ยวไทยเหมาจ่าย4ใบเริ่มที่3.8พันบาท ไทยเวียตเจ็ทขายตั๋ว5บาท/เที่ยวโปร2เส้นทางใหม่ในประเทศ กรมเจ้าท่าฟุ้งแผนทำ10ท่าเรือรองรับวันสต็อปเที่ยวเจ้าพระยา   นายพศิน ลาทูรัส ซีอีโอฝ่ายพัฒนาธุรกิจ  บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง