ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

สำเร็จ!!ททท.ประจวบคีรีขันธ์7เดือนแรกปี66โกยรายได้2.4 หมื่นล้านบาท



ททท.นำท่องเที่ยวประจวบรุกไวฟื้นเร็ว7เดือนแรกโกย2.4หมื่นล้าน

ครึ่งปีหลังผนึกเอกชนบุกตลาดคุณภาพ5งานไฮไลต์WineExpo2023

ดัน2FFood+Fashion”ชูขายเส้นทางอาหาร/ผ้า/ทัวร์ยั่งยืนเป็นธรรม

คิงเพาเวอร์ร่วมฉลองเปิดBurberry Pop-Up Storeแจกน้ำหอมฟรี

คิงเพาเวอร์มหานครจัดมหกรรมฮีลใจ“SOUND BATH”22-24ก.ย.นี้

ททท.จัดEnhancingTourism"ท่องเที่ยวดึงSMEปล่อยกู้หมื่นล้าน

บางจากฯ ยืนหนึ่งร่วมแสดง“พลังต่อต้านคอร์รัปชัน”ที่สุดแห่งปี66

TCEBหนุนBeyond Food Expo 2023ผนึกGMSดันไทยสู่ครัวโลก

Unseen“ถ้ำปะการังปางมะผ้า-ผาสิงห์แพร่-ไม้กลายเป็นหินตาก”

3วิธีฮีลใจด่วนช่วยลดความเสี่ยงก่อนกลายเป็น“ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า”

AWC-2C2Pชูบริการดิจิทัลเพย์เมนท์โซลูชั่นบูมเอมไพร์Co-Living

บพท./ราชภัฎดัน4,000นวัตกรรมพร้อมใช้ปี’70ฝันไกล1ตำบล5คน

 

วันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก #ทททประจวบคีรีขันธ์  #อาชวันต์กงกะนันทน์

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/mY_ZhqhHJv/

ช่วงที่ 1 ฟื้นเร็วลุกไวกับ “อาชวันต์ กงกะนันทน์” ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ นำท่องเที่ยว 7 เดือนแรก พุ่ง 6.6  ล้านคน ทำรายได้ทะยาน 23,885 ล้านบาท คนไทยเฮเที่ยว ต่างชาติขยายตัว ทำอัตราพักเฉลี่ยพุ่ง 74 % “ครึ่งปีหลัง” ใส่เกียร์เร่งช่วยเศรษฐกิจหนุนกระจายรายได้ทั่วถึงทั้ง 8 อำเภอ อัดฉีดขาย 5 กิจกรรมทำเงิน ไฮไลต์งาน Wine Expo  2023 ต้น พ.ย.นี้ โกยตลาดคุณภาพ 11 ประเทศ ดันจุดแข็งซอฟท์เพาเวอร์ 2F Food&Fashion” อาหารและผ้าดันรายได้โต เชื่อมโยงสู่ The Link นำ “ผ้าโขมพัสตร์” หัวหินจับคู่ “ผ้าตีนจกล้านนาแพร่” ดีไซน์ลายผ้าเกิดใหม่ครั้งแรกเปิดเส้นทางทัวร์ผ้า และลุยทำ 4 เรื่อง สร้างการท่องเที่ยวเป็นธรรมและยั่งยืน

 

นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวในประจวบคีรีขันธ์ 7 เดือนแรก มกราคม-กรกฎาคม 2566 มีนักท่องเที่ยวทั้งหมด 6,598,820 คน แบ่งเป็น คนไทย 6,302,919 คน ต่างชาติ 295,901 คน เพิ่มขึ้น 27.92 % สร้างรายได้รวม 23,885.23 ล้านบาท  จากคนไทย 20,911.44 ล้านบาท และต่างชาติ 2,973.79 ล้านบาท โดยสามารถทำอัตราการเข้าพักได้สูงถึง 73.99 % 

ปี 2565 มีจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 9.7 ล้านคน และหากใช้ฐานปี 2566 ตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 มีนักท่องเที่ยวเฉลี่ยเดือนละกว่า 900,000 คน สิ้นปีนี้คาดจะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนประจวบคีรีขันธ์ 11.3-11.6 ล้านคน เพราะช่วงปลายปีเป็นฤดูท่องเที่ยวคนต้องการเดินทางมาพักผ่อนสูง

ดังนั้นปี 2566 ประจวบคีรีขันธ์จะเติบโต 20 % จาก 3 ปัจจัยหลัก คือ ปัจจัยแรก การรักษาจำนวนนักท่องเที่ยวเฉลี่ยไว้ให้เดือนละเกือบ 1 ล้านคน นับจากกรกฎาคมไปจนถึงธันวาคมนี้ อีก 5 เดือน ก็จะทำได้อีก 5 ล้านคน รวมเป็นประมาณกว่า 11 ล้านคน ตามที่ได้นำเสนอไว้ ปัจจัยที่ 2 การฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 ปัจจัยที่ 3 แผนกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในประเทศพร้อมจะใช้การจัดกิจกรรม การสื่อสารประชาสัมพันธ์ ศักยภาพของพื้นที่ แต่ก็ยังคงมีปัจจัยต้องเฝ้าระวังจากเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงจึงต้องทำแผนบริหารความเสี่ยงควบคู่กันไปด้วย

ขณะที่ “การใช้จ่ายเงินต่อคนต่อทริป” ขณะนี้ค่อนข้างดี แต่ยังมีสิ่งที่น่าเป็นห่วงอยู่บ้างเรื่อง “การกระจายตัวของนักท่องเที่ยว” ไปยังพื้นที่ตอนล่าง เนื่องจากในประจวบคีรีขันธ์มีทั้งหมด 8 อำเภอ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะเลือกพักผ่อนอยู่บริเวณหัวหินหนาแน่นมาก จะต้องส่งเสริมขยายไปยังพื้นที่ต่อเนื่องใน ทับสะแก บางสะพานน้อย โดยใช้วิธีสื่อสารประชาสัมพันธ์เพื่อกระจายรายได้ไปยังท้องถิ่นใกล้เคียงด้วย


รวมทั้งได้กำหนดทิศทางเป้าหมายการพัฒนาประจวบคีรีขันธ์ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศทั่วโลกตั้งแต่ปลายปี 2566 ต่อเนื่องถึงปี 2567 จะเน้น การท่องเที่ยวอย่างยิ่งยืนซึ่งเป็นเป้าหมายของทุกกระทรวง และทุกหน่วยงาน พร้อมกับมุ่งเน้นกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม โดยส่งมอบประสบการณ์คุณค่าและความหมายทางการท่องเที่ยวให้ทุกคน

นายอาชวันต์กล่าวว่า ช่วงตั้งแต่กันยายน-ธันวาคม นี้ จะนำเสนอสินค้าในท้องถิ่นที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติเข้ามาใช้จ่ายเงินไฮไลต์ 5 กิจกรรม กิจกรรมที่ 1 งาน Wine Expo  2023 ของกลุ่มผู้ประกอบการไวน์จำนวน 50 ราย 128 แบรนด์ จาก 11 ประเทศ งาน Hua Hin Wine Expo ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2566 งานไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในหัวหิน มีผู้ผลิตไวน์อย่างน้อย 50 ราย จัดการแสดงมากกว่า 120 แบรนด์ มากกว่า 11 ประเทศ นำโดยแบรนด์ยอดนิยม เช่น IWS (International Wines & Spirits) , Siam Winery , Noble Marketing , McQuillan Wines มาร่วมแลกเปลี่ยนเจรจาธุรกิจร่วมกัน ดึงดูดตลาดคุณภาพใช้จ่ายเงินสูงเข้าสู่หัวหิน

กิจกรรมที่ 2 วิ่งและดูเหยี่ยว “เหยี่ยวเขาโพธิ์รัน@ไชยราช 2023” วันที่ 22 ตุลาคม 2566 อำเภอบางสะพานน้อย ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มเฉพาะที่ชอบดูนกเป็นอย่างมากเพราะมีเพียงปีละครั้งจึงจะมีโอกาสได้ดูนกเหยี่ยวอพยพหนีหนาวช่วงปลายปี ซึ่งสามารถเชื่อมโยงการท่องเที่ยวจากบางสะพานน้อย ไปยังแหล่งท่องเที่ยวเนินทรายงาม ทำให้เที่ยวได้ 2 จังหวัด ทั้งประจวบคีรีขันธ์และชุมพร


กิจกรรมที่ 3  “อลิอันซ์ อยุธยา เวิลด์ รัน ไทยแลนด์ ซีรีส์ 2023” ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่ปราณบุรี คาดจะมีนักวิ่งร่วมจำนวนหลายหลายพันคน

กิจกรรมที่ 4  Hua Hin YOGA Festival ช่วงปลายปี 2566 เปิดคลาสโยคะให้นักท่องเที่ยวและผู้สนใจ โดยครูโยคะที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ ไฮไลท์จัดคลาสโยคะบริเวณชายหาดหัวหิน

กิจกรรมที่ 5 การท่องเที่ยวรับปีใหม่ 2567 โดยภาคเอกชนต่าง ๆ ในประจวบคีรีขันธ์ จะส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงปลายปี และสร้างสีสันการท่องเที่ยวต้อนรับปีใหม่ 2567

            ส่วนการนำเสนอขาย “สินค้าการท่องเที่ยว 5 Fของประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีทรัพยากรท่องเที่ยวหลากหลาย รวมถึงมีสินค้าและบริการท่องเที่ยวที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยว

โดยจะนำซอฟท์ เพาเวอร์ ความเป็นไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ที่มีศักยภาพ 5 F มุ่ง 2 F แรกเป็นไกหลักทำรายได้ คือ  F1 :Food/อาหาร กับ F2 : Fashion/ผ้าพื้นเมือง  เนื่องจากในมิติของอาหาร ประจวบคีรีขันธ์มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจอันแข็งแกร่งมาจากภาคเกษตรกรรม พืชสวน พืชไร่ ภาคประมง ภาคอุตสาหกรรมเกษตร มีทุนวัฒนธรรมซึ่งมีอัตลักษณ์สูง เป็นรากฐานสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้จังหวัด จึงต้องนำเอาความแข็งแกร่งของภาคเกษตรและอาหาร มาพัฒนาและต่อยอดให้เป็นสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง ใช้กลไกภาคการท่องเที่ยวเข้ามาผนึกกำลังขับเคลื่อน


ยกตัวอย่าง การสร้างสรรค์เส้นทางการท่องเที่ยวสายอาหาร  การนำเอาผลผลิตทางเกษตร ประมง เช่น ทุเรียนป่าละอู ปลานวลจันทร์ทะเล มะพร้าวทับสะแก สัปปะรดของประจวบคีรีขันธ์ มาสร้างสรรค์เป็นเมนูอาหารที่ตอบสนองต่อพฤติกรรมการบริโภคของคนภาคอื่นหรือนักท่องเที่ยว เพื่อสื่อสารสร้างการรับรู้ นำไปสู่การสร้างกระแสประสบการณ์การท่องเที่ยวในเชิงอาหาร

เพราะบางช่วงเวลาราคาผลผลิตตกต่ำการท่องเที่ยวก็ยังช่วยพี่น้องเกษตรกรมีเครื่องยนต์ด้านการท่องเที่ยวเข้ามาช่วยพยุงไว้ได้ หรือถ้าผลผลิตดีภาคการท่องเที่ยวก็เป็นกลไกหนึ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตกรให้ดียิ่งขึ้น

ส่วน F2 : Fashion ทางประจวบคีรีขันธ์มีผ้าโขมพัสตร์ หรือ ผ้าเขาเต่า มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศ สามารถทำให้เกิดการต่อยอด การพัฒนา การสื่อสารแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ นำไปสู่การรังสรรค์นวัตกรรมความเป็นผ้า ให้งอกงามขึ้นอีก ไปสู่สายตานักท่องเที่ยว

นอกจากนี้ยังมี F อื่น ๆ เช่น F3 :Fight การต่อสู้มวยไทย ผนวกเข้ากับเส้นทางท่องเที่ยวอีกหลายแห่งในประจวบ F4 :Film มีเช่นเดียวกันมีกองถ่ายภาพยนต์หลายแห่งเข้ามาเลือกทำเลสวย ๆ ด้วย


โดยเฉพาะ โครงการ The Link Local to Global ของททท.ทางประจวบคีรีขันธเลือกนำ “ผ้าโขมพัสตร์”ของหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นแบรนด์เก่าแก่กว่า 75 ปี มาผสานกับผ้าตีนจกของล้านนาจังหวัดแพร่ สร้างจุดขายเส้นทางและสินค้าการท่องเที่ยวแพร่-ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีไฮไลท์รังสรรผ้าจังหวัดแพร่กับประจวบคีรีขันธ์สืบทอบรากวัฒนธรรมผ่านภูมิปัญญาท้องถิ่นรังสรรค์ “นวัตกรรมผ้าลายใหม่” ของเมืองไทย ใช้เป็นแนวคิดส่งเสริมสินค้าและบริการท่องเที่ยวเส้นทางสายผ้าของทั้งสองจังหวัด ให้เกิดจุดเด่นการท่องเที่ยวเส้นทางสายผ้าอย่างแท้จริง พร้อมจะขยายผลต่อเนื่องในระยะต่อไป ให้เกิดความสำเร็จอีก 3 แนวทาง ประกอบด้วย

แนวทางที่ 1 มุ่งสร้างการรับรู้ความแตกต่างที่มีเสน่ห์ของทั้ง 2 เมืองให้กับนักท่องเที่ยว การเชื่อมกันระหว่างประจวบคีรีขันธ์และแพร่ ในเรื่อง เส้นทางการท่องเที่ยวสายผ้า/คราฟท์ และ สินค้าการท่องเที่ยว 

แนวทางที่ 2 ต่อยอด ขยายผล เรื่อง “ผ้า” ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ของ 5 F อาทิ การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เรื่องผ้าในเชิงลึก การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของบุคลากรด้านผ้า

แนวทางที่ 3 ทั้ง 2 จังหวัดด วางอนาคตจับมือกันทำกิจกรรมทางการตลาด การสื่อสารประชาสัมพันธ์ร่วมกัน เป็นอีกทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ

ขณะเดียวกันก็ได้วางทิศทางทำกิจกรรมเด่น ๆ ที่จะนำเสนอขาย การท่องเที่ยวประจวบคีรีขันธ์ เดินหน้าทำเพิ่มอีก 4 เรื่อง ดังนี้

เรื่องที่ 1 ททท.ประจวบคีรีขันธ์ จะพยายามผลักดันสร้างนิเวศวิทยาทางการท่องเที่ยวใหม่ของประจวบคีรีขันธ์ เท่าที่จะทำได้ มุ่งในเรื่อง ประสบการณ์การท่องเที่ยว และ ความยั่งยืน

เรื่องที่ 2 มุ่งตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพ ลดการพึ่งพานักท่องเที่ยวจำนวนมาก ตามนโยบาย ททท. และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่จะนำไปสู่การกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวในพื้นที่อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม

เรื่องที่ 3 กระจายการท่องเที่ยวลงไปให้ครบทั้ง 8 อำเภอ ของประจวบคีรีขันธ์

เรื่องที่ 4 ร่วมมือกับพันธมิตรหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในการผนึกกำลังส่งเสริมการท่องเที่ยวไปในทิศทางเดียวกัน

ฟังข่าวต้นชั่วโมง



ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์ร่วมฉลองBurberry Pop-Up Storeแจกน้ำหอมฟรี

 

คิง เพาเวอร์ สนับสนุนแบรนด์ เปิด Burberry จัดกิจกรรมชวนมาเช็คอิน ตั้งแต่วันนี้-28 กันยายน 2566 เบริเวณ Burburry Goddess Pop-Up Store ชั้น 1 เอเทรียม คิง เพาเวอร์ รางน้ำ รับฟรีไปได้ทันที Burberry Goddess Eau de Parfum ขนาด 1.5 ml มูลค่า 450 บาท   หรือจนกว่าสินค้าจะหมด

 

วิธีร่วมสนุกทำได้ง่าย ๆ ตามกติกาและเงื่อนไข 

1.เพียงแวะมาสัมผัสประสบการณ์และเยี่ยมชมที่ Burburry Goddess Pop-Up Store บริเวณหน้าลิฟต์ ชั้น 1 คิง เพาเวอร์ รางน้ำ รับฟรี Burberry Goddess Eau de Parfum ขนาด 1.5 ml มูลค่า 450 บาท

2.แสดงภาพหน้าจอโพสดังกล่าวกับพนักงาน ที่เคาน์เตอร์ Pop-Up Burberry Goddess สินค้าสมนาคุณให้คนละ 1 สิทธิ์  

3.สิทธิ์ในการรับรางวัลจากกิจกรรมนี้ไม่สามารถโอนให้ผู้อื่นได้ในทุกกรณี

 


ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์มหานครจัดมหกรรมฮีลใจ“SOUND BATH22-24ก.ย.

 

คิง เพาเวอร์ มีประสบการณ์ใหม่เอาใจสายชีลกับกิจกรรม SOUND BATH ระหว่าง 22-24 กันยายน 2566 เปิดพื้นที่ชั้น 74 คิง เพาเวอร์ มหานคร เปิดต้อนรับทุกคนตั้งแต่เวลา 17.30-21.00 น. นำพื้นที่จุดชมวิวภายในอาคารสูงสุดในเมืองไทย ที่ได้รับความนิยมจากนักเดินทางในประเทศและทั่วโลก เชิญชวนมาฟินได้ในระดับความสูงเหนือกรุงเทพฯ 292 เมตร 

 

งานนี้ ครูปีเตอร์ จาก Ratha Healing & Urban Healing Space BKK  ชวนมาฮีลใจกับกิจกรรม “SOUND BATH” เปิดขายบัตรราคาคนละ 1,600 บาท เพื่อให้ทุกคนได้ดื่มด่ำกับการปล่อยกายใจไปกับเสียงของบาตรไทยสุดพิเศษซึ่งมีแหล่งที่มาโดยฝีมือชาวชุมชนบ้านบาตร วิถีคนทำบาตรด้วยมือที่คงเหลืออยู่ในกรุงเทพฯ และเป็นหนึ่งเดียวในประเทศด้วย ฟังเสียงไปพร้อม ๆการชมศิลปะแสงสีในห้วงเวลา Time Out Bangkok  ประสบการณ์ห้ามพลาด !! ที่จะได้สัมผัสโมเมนต์พระอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้าลับลงสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา  คลิกจองบัตรได้ทาง https://bit.ly/Book-Ticket-SoundBath

 

สำหรับ คิง เพาเวอร์ มหานคร เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 10:00 - 00:00 น. เดินทางสะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอสช่องนนทรี ทางออกหมายเลข 3 ซึ่งเชื่อมต่อเข้าถึงอาคาร ประหยัดเวลาการเข้าถึงแหล่งไลฟ์สไตล์ใจกลางกรุงที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทุกวัย

 

ข่าวที่ 3 “ททท.จัดEnhancingTourism"ท่องเที่ยวดึงSMEปล่อยกู้หมื่นล้าน

 

นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. ร่วมกับบริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA เปิดตัว“โครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการท่องเที่ยว เพื่อพัฒนาการบริการและสินค้าท่องเที่ยวในยุคดิจิทัล : Enhancing Thailand Tourism 2023 ในงานใหญ่สุดของเมืองไทย Travel Tech Conference เดินหน้าส่งเสริมผู้ประกอบการท่องเที่ยวหันมาใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน ภายใต้แนวคิด Enabling Tomorrow’s Destination ยกระดับธุรกิจท่องเที่ยวไทย สู่จุดหมายใหม่แห่งอนาคต จัดทำ Hybrid Event ระหว่าง 15-24 กันยายน 2566 พร้อมเปิดให้ผู้สนใจรับชมคอนเทนต์ได้ทาง Virtual Platform www.enhancingthailandtourism.com และเข้าร่วมงานจริง (Onsite Event) วันที่ 23-24 กันยายน 2566 ณ ห้อง Grand Hall ชั้น 3 อาคาร True Digital Park สุขุมวิท 101

 

โดย ททท. จัดทำโครงการ Enhancing Thailand Tourism 2023 เพราะเล็งเห็นความสำคัญการสนับสนุนส่งเสริมผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวปรับตัวเปิดรับแนวทางใหม่ ๆ ขยายโอกาสให้กลุ่มวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) ด้านเทคโนโลยีการท่องเที่ยว (Travel Tech) เพิ่มขีดความสามารถในการทำธุรกิจและการตลาด หันมาปรับกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพด้วยการใช้เทคโนโลยี หรือนวัตกรรมใหม่ ๆ มากขึ้น โดยจะใช้เป็นเวทีขับเคลื่อนเทคโนโลยีเพื่อผู้ประกอบการท่องเที่ยวเร่งปรับปรุงและพัฒนาสินค้าและบริการของตนตรงกับความต้องการของนักท่องเที่ยวในปัจจุบัน และแนวโน้มในอนาคต  เน้นสร้างความมั่นคงทางการท่องเที่ยว ก้าวสู่ High Value and Sustainable Tourism ทำให้ปี 2567 ททท.สามารถนำรายได้ท่องเที่ยวกลับสู่ภาวะปกติตามเป้า 3 ล้านล้านบาท

 

นายพิชิต  มิทราวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank กล่าวว่า พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวกลับมาเดินหน้าธุรกิจได้เต็มศักยภาพ  เริ่มตั้งแต่ช่วงสุดท้ายปี 2566 เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต้องการเงินไปเสริมสภาพคล่อง ลงทุน ขยาย ปรับปรุงกิจการหรือปรับเปลี่ยนธุรกิจ จึงเตรียมเงินไว้บริการสินเชื่อพิเศษกว่า 10,000 ล้านบาท เช่น  สินเชื่อ “SME D พร้อม”จุดเด่นกู้ได้สูงสุดถึง 120 % ของราคาประเมินหลักประกัน ธุรกิจเอสเอ็มอีทุกกลุ่มกู้ได้ทั้งหมด และสินเชื่อ “SME Speed Up” วงเงิน 4,000 ล้านบาท แม้ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันก็กู้ได้ โดยใช้ บสย. ค้ำประกันเต็มวงเงิน

 

รวมทั้งจัดโปรแกรมพัฒนาฟรีแก่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่สนใจ ผ่านโครงการ “SME D Coach” บริการคำปรึกษาและแนะนำธุรกิจโดยทีมโค้ชมืออาชีพ ทั้งภาครัฐและเอกชน ควบคู่พาเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาต่าง ๆ เช่น อบรม สัมมนา จับคู่ธุรกิจ ส่วนผู้ประกอบการที่ยังไม่เคยใช้สินเชื่อจาก SME D Bank มาก่อน หากยื่นกู้และเบิกใช้วงเงิน ตั้งแต่ 1-50 ล้านบาท ภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2566 จะได้รับโปรโมชั่นพิเศษ “Cash Back” มูลค่าสูงสุด 60,000 บาท

 

ดร.ตฤณ ทวิธารานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) กล่าวว่า  ETDA มีแผนดำเนินงานตอบโจทย์เป้าหมายประเทศระยะ 5 ปี (พ.ศ.2566-2570) ด้วยสูตร 30:30 เพิ่มสัดส่วนมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจดิจิทัลต่อ GDP ให้ได้ 30 % ควบคู่กับขยับอันดับขีดความสามารถการแข่งขันทางดิจิทัลไทยให้ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 30 โดยใช้กลไกหลักคือส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิด Digital Transformation & Adoption ในกระบวนการดำเนินงาน โดยเฉพาะกลุ่มหลักผู้ประกอบการ SMEs ได้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเปลี่ยนผ่านการทำธุรกิจสร้างโอกาสและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ปี 2566 ทาง ETDA จัดทำผลสำรวจ SMEs Digital Maturity พบข้อมูลความพร้อม SMEs ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เดินหน้าเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ตามผลจากการศึกษาพบกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวยังมีความพร้อมอยู่มาก

 

ดังนั้น ETDA จึงร่วมกับพันธมิตรผลักดันให้เกิดกระบวนการส่งเสริมทั้งด้านความรู้ การหานวัตกรรม โซลูชัน หรือแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ความต้องการในอุตสาหกรรม เช่น การจัดหลักสูตร 2TX หรือ Tech Transformation Expedition ให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวด้วย Digital Tourism พร้อมกับส่งเสริมกลุ่มผู้ให้บริการเทคโนโลยีดิจิทัลผ่านกิจกรรม Hack for GROWTH เฟ้นหาโซลูชัน นวัตกรรม เพื่อช่วยธุรกิจท่องเที่ยวมีรายได้เติบโตและพัฒนาบุคลากรในองค์กรได้ด้วย เพื่อเปิดโอกาสต่อยอดธุรกิจให้กลุ่มผู้ให้บริการเทคโนโลยีดิจิทัลด้วย และมีบริการรับรองระบบสารสนเทศของผู้ให้บริการ e-Tax Invoice และ e-Receipt จะช่วยการทำงาน และลดค่าใช้จ่าย เป็นแผนงานต่อเนื่องจะต้องทำในระยะต่อไป ควบคู่การประเมินมูลค่าทางเศรษฐกิจ

 

นายกฤติเดช ทองเพิ่ม ผู้ช่วยประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หลังผ่านพ้นวิกฤตโควิดไปแล้ว ทางผู้ประกอบการท่องเที่ยวต้องการฟื้นธุรกิจให้กลับมาแข็งแรง แต่ยังมีปัญหา 3 เรื่อง ได้แก่ เรื่องที่ 1 เงินที่จะนำมาเป็นทุนหมุนเวียนและปรับปรุงธุรกิจ เรื่องที่ 2 ความรู้ในการพัฒนาธุรกิจและทำการตลาดยุคดิจิทัล เรื่องที่ 3 เทคโนโลยี ต้องยอมรับผู้ประกอบการมีโอกาสเข้าถึงและรู้จักนวัตกรรมต่าง ๆ ค่อนข้างน้อย เมื่อมีโครงการ Enhancing Thailand Tourism จะช่วยเติมนวัตกรรมให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้เข้าถึงเครื่องมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มและสร้างโอกาสทางธุรกิจ พร้อมรองรับเทรนด์อนาคต 10-20 ปีข้างหน้า สร้างธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนได้ต่อไป

 

นายบุญเลิศ นราไท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า งาน Enhancing Thailand Tourism 2023 จะเป็นงาน TravelTech Conference สำคัญของการท่องเที่ยวจัดในรูปแบบ Hybrid Event เข้าถึงได้ทางออนไลน์และไปร่วมงานจริงระหว่าง 15-24 กันยายน 2566 เปิดเข้าฟรีกับผู้ที่สนใจโดยมีรายละเอียดดังนี้

 

งานแรก Online Event ทาง Virtual Platform (www.enhancingthailandtourism.com ) วันที่ 15-24 กันยายน 2566 จัดสัมมนาออนไลน์ 10 วัน นำเสนอหัวข้อครอบคลุมกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว ได้แก่ โรงแรม นำเที่ยว ร้านอาหาร บันเทิงและสันทนาการ รวมทั้งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพองค์รวม (Health and Wellness) โดยมีหัวข้อที่น่าสนใจคือ creative & inspiration : การทำธุรกิจอย่างสร้างสรรค์ พร้อมแนะนำนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องโดยผู้พัฒนานวัตกรรมตัวจริง

 

งานที่สอง Onsite Event วันที่ 23-24 กันยายน 2566 ที่ห้องแกรนด์ ฮอลล์ ชั้น 3 อาคาร True Digital Park ภายในงานจะจัดสัมมนาและเสวนาวิชาการรวมสุดยอดกูรู ยูทูบเบอร์ อินฟลูเอนเซอร์ มากประสบการณ์ด้านธุรกิจท่องเที่ยวและการตลาดดิจิทัล เสริมสร้างความรู้ให้ผู้ประกอบการการท่องเที่ยวและผู้สนใจ และงานออกบูธจากพันธมิตรในโครงการนี้ คือ ททท. ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย เครือข่ายพันธมิตร และสินค้านวัตกรรมจากผู้พัฒนาเทคทั้งหลายได้คัดสรรเทคโนโลยีดิจิทัลมาให้เหมาะกับธุรกิจท่องเที่ยว

 

รวมทั้งมีกิจกรรม Workshop พิเศษให้ผู้ประกอบการการท่องเที่ยวปกติจะมีค่าจ่าย 15,000 บาท แต่ครั้งนี้จัดให้ฟรีเพื่อให้ได้เรียนรู้ วิเคราะห์ และต่อยอดธุรกิจ ใช้เครื่องมือสมัยใหม่เพื่อให้พร้อมทำดำเนินธุรกิจในยุคดิจิทัล และกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจ ในโซน Business Matching แหล่งรวมคอนเน็กชั่นทางธุรกิจ รวมกิจกรรมที่น่าสนใจมากมายที่ผู้ประกอบการการท่องเที่ยวมากมาย

 

สามารถลงทะเบียนล่วงหน้า เพื่อลุ้นรับของรางวัลมากมายได้ทาง www.enhancingthailandtoursim.com

ติดตามรายละเอียดโครงการโซเชียลมีเดียได้ทุกแพลตฟอร์ ในชื่อ Enhancing Thailand Tourism ทั้งทาง facebook Youtube LINE Instagram และ TikTok

 

ข่าวที่ 4 บางจากฯ ยืนหนึ่งร่วมแสดงพลังต่อต้านคอร์รัปชันแห่งปี2566

 

นางสาวภควดี จรรยาเพศ ที่ปรึกษา บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมผู้บริหารและพนักงานกลุ่มบริษัทบางจาก ร่วมงานวันต่อต้านคอร์รัปชัน 2566 ภายใต้แนวคิด WHAT THE FACT? “แค่สงสัยก็เสิร์ช ACTAi เลย” จัดโดยองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เพื่อสร้างการรับรู้ กระตุ้นให้คนในสังคมเล็งเห็นถึงปัญหาคอร์รัปชันที่เกิดขึ้นในประเทศไทย และสนับสนุนประชาชนให้มีส่วนร่วมในการตรวจสอบการทุจริต การเปิดเผยข้อมูลของภาครัฐและเอกชนให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยมี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดงานและร่วมแสดงวิสัยทัศน์และประกาศนโยบายต่อต้านคอร์รัปชัน ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

 

โดยบางจากฯ เป็นองค์กรที่แสดงเจตนารมย์ในการร่วมกิจกรรมต่อต้านคอร์รัปชันในทุกรูปแบบมาอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ ปีมาตั้งแต่ปี 2556 และเป็น 1 ใน 22 บริษัทแรกที่ผ่านการรับรองเป็นสมาชิกในโครงการแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (CAC) โดยในปี 2565 บางจากฯ ได้รับการต่ออายุสมาชิก CAC ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 หลังจากการต่ออายุครั้งแรกในปี 2559 และครั้งที่ 2 ในปี 2562 จากการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใสและมีกระบวนการทำงานเพื่อป้องกันการทุจริตและคอร์รัปชันในทุกขั้นตอน

 

ข่าวที่ 5 TCEBหนุนBeyond Food Expo 2023ผนึกGMSดันไทยสู่ครัวโลก

 

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” ได้สนับสนุนการจัดมหกรรม Beyond Food Expo 2023 งานแสดงสินค้าในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของไทยและประเทศพันธมิตรในแถบแม่น้ำโขง  (GMS :Greated Mekhong Sub-Region) ร่วมกัน 6 ประเทศ คือ ไทย สปป.ลาว กัมพูชา เวียดนาม เมียนมา จีนตอนใต้ (ยูนนาน) โดยตั้งเป้าหมายยกระดับอาหารประจำถิ่นของแต่ละประเทศสู่ระดับนานาชาติ ด้วยกลยุทธ์จับคู่ทางธุรกิจ เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการมาค้นหาพันธมิตร เพื่อแลกเปลี่ยนเจรจาขยายเครือข่ายทางการค้า ตอบสนองนโยบาย ‘ครัวไทยสู่ครัวโลก’

 

งานนี้เพิ่งจัดเสร็จสิ้นเมื่อสัปดาห์นี้ระหว่าง 7-9 กันยายน 2566 ที่ฮอลล์ 2 - 3 ศูนย์ประชุมไคซ์ (KICE) จังหวัดขอนแก่น โดยมีผู้ประกอบการแถวหน้าของแต่ละประเทศนำผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มเข้าร่วมซื้อขายไฮไลต์ 2 กลุ่ม ได้แก่

 

กลุ่มที่ 1 สินค้า Food Fair เข้าร่วม 8 กลุ่ม เช่น อาหารแปรรูปและแช่แข็ง โปรตีนทางเลือก รวมทั้งผลิตภัณฑ์พื้นถิ่นน่าสนใจอีกหลากลายเป็นจำนวนมาก

 

กลุ่มที่ 2 สินค้า Food Supplies 6 กลุ่ม เช่น เครื่องจักรแปรรูปอาหาร บรรจุภัณฑ์และฉลาก ฯลฯ ซึ่งงานนี้เป็นความร่วมมือกันของ 6 ประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง หรือ GMS ได้แก่ ไทย เมียนมา สปป.ลาว กัมพูชา เวียดนาม และจีน (ยูนนาน)

 

ไฮไลต์การจัดงานภายใต้แนวคิดFood, Feature to Fight” ที่นำเสนอความหลากหลายของอาหาร (Food) เพื่อผลักดันศักยภาพอันโดดเด่นของผู้ประกอบการอาหารในกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Feature) ให้สามารถต่อสู้ (Fight) กับปัจจุบันกำลังเผชิญกับเศรษฐกิจที่ท้าทายสูง

 

ตลอดงานได้จัดแสดงนวัตกรรมทางด้านอาหารที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เช่น การผลิต แปรรูป ไปจนถึงการขนส่ง และการจัดวางสินค้าถึงหน้าร้าน เสริมสร้างทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ก้าวสู่ความสำเร็จในอนาคตไปด้วยกัน

 

            ช่วงที่ 2 เที่ยวด่วน ๆ Unseen New Chapters ภาคเหนือ เปิดปฏิทินบุ๊ควันไว้ จะไปชม “ถ้ำปะการัง” ถ้ำศิลปะ อ.ปางมะผ้า จ.แพร่ หรือจะไปออกกำลังปีน “ผาสิงห์” ภูเขาหินปูนแสนงามในชุมชนป่านาคูหา อ.เมือง จ.แพร่ และ “อุทยานแห่งชาติไม้กลายเป็นหิน” ไปแล้วจะต้องตะลึงกับหุบเขาต้นไม้ยักษ์ อ.บ้านตาก จ.ตาก แล้วฟัง “3วิธีฮีลใจก่อนเป็นโรคซึมเศร้า” เกาะติดข่าวดีในรอบสัปดาห์ ข่าวแรก “AWC-2C2P”ยึดตึกเอมไพร์เปิดบริการดิจิทัลเพย์เมนท์ Co Living ข่าวที่สอง “บพท.ผนึกราชภัฎ”ทั้งประเทศสานฝันปี70 ผุด 4,000นวัตกรรมพร้อมใช้ 1 ตำบล 5 คน

 

ท่องเที่ยว – Unseen“ถ้ำปะการังปางมะผ้า-ผาสิงห์แพร่-ไม้กลายเป็นหินตาก”

 

เที่ยวไทยไม่ตกเทรนด์ ออกไปฟิน กับ “Unseen New Chapters” ภาคเหนือ ทริปนี้จะมาไปหาประสบการณ์ชม “ถ้ำปะการัง” ตื่นตากับศิลปะในถ้ำสุดตระการตา ในอำเภอปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน หรือจะไปพิชิต “ผาสิงห์” ในอาณาจักชุมชนป่านาคูหา อำเภอเมือง จ.แพร่ และ “อุทยานแห่งชาติไม้กลายเป็นหิน” อ.บ้านตาก จ.ตาก สนุกกับการค้นหามหัศจรรย์หุบเขาต้นไม้ยักษ์ ออกเที่ยวกันได้เลยทั้ง 3 พิกัด ดังนี้

 

พิกัดที่ 1 ศิลปะในถ้ำ…ประติมากรรมธรรมชาติถ้ำปะการัง” อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน

 

หนึ่งในถ้ำสวยแห่งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย ภายในเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยที่ยังมีชีวิต ด้วยลักษณะของกลุ่มหินที่ดูคล้ายปะการัง จึงเป็นที่มาของชื่อ "ถ้ำปะการัง" ซึ่งการเที่ยวชมทำได้ค่อนข้างสะดวกสบาย มีจุดถ่ายรูปสวยงามที่ชวนให้จินตนาการได้หลากหลาย เช่น หินรูปพระอุคุต เงาหินรูปพญานาค หินรูปสิงโต หินโพรงกรอบรูป และตลอดทาง ไป-กลับ ยังเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อย หินกากเพชรสวยๆ อีกมากมาย สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

 

สอบถามเพิ่มที่ ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน โทร 0 5361 2982-3

 

พิกัดที่ 2 พิชิตป่านาคูหา…ตระการตา ณ ผาสิงห์ อ.เมือง จ.แพร่

ผาสิงห์ เป็น วิวพอยท์ใหม่ของนักผจญภัยสายลุย กับภูเขาหินปูนหน้าตาคล้ายหัวสิงห์ เป็นจุดชมที่สามารถมองเห็นความงามของ “บ้านนาคูหา” หมู่บ้านขนาดกำลังน่ารักที่ซ่อนตัวอยู่กลางหุบเขา ตลอดเส้นทางสู่ยอดเขามีพันธุ์ไม้แปลกและหายาก เช่น ฤาษีคืนชีพ ขนุนดิน มะพร้าวเต่า ปรงโบราณ ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง ในการต่อสู้กับชั้นหินและความชัน

 

และยังต้องอาศัยความพยายามในการลอดผ่านซอกหินเล็กๆ ขนาดหนึ่งคนผ่าน ก่อนจะขึ้นไปรับรางวัลเป็นวิวสวยๆ พร้อมกับลมเย็นๆ บนยอดผาสิงห์ ช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การท่องเที่ยว คือ ปลายฝนต้นหนาว

 

สอบถามเพิ่มได้ที่ ททท.สำนักงานแพร่ โทร 0 5452 1127

 

พิกัดที่ 3 ไม้กลายเป็นหิน มหัศจรรย์หุบเขาต้นไม้ยักษ์ อุทยานแห่งชาติไม้กลายเป็นหิน อ.บ้านตาก จ.ตาก

 

ชมความอลังการของ “ต้นทองบึ้ง” ซากไม้ขนาดยักษ์จากยุคดึกดำบรรพ์ ที่เพิ่งจะได้รับการการันตีสดๆ ร้อนๆ จาก กินเนสส์ เวิร์ล เรคคอร์ด ในฐานะแชมป์เปี้ยน “ไม้กลายเป็นหินที่ยาวที่สุดในโลก” โดยมีความยาวถึง 69.70 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 1.80 เมตร เทียบเท่ากับความสูงของตึก 20 ชั้น ซึ่งคาดว่าจะมีอายุไม่ต่ำกว่า 120,000 ปี

 

เส้นทางเชื่อมโยงในบริเวณใกล้เคียงยังมีการขุดค้นพบซากไม้กลายเป็นหินอีกหลายจุด จนผู้เชี่ยวชาญและชาวบ้าน ต่างพากันขนานนามพื้นที่บริเวณนี้ว่าเป็น “หุบเขาต้นไม้ยักษ์” สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

 

สอบถามเพิ่มที่ ททท.สำนักงานตาก โทร 0 5551 4341-3

 

มาร่วมประสบการณ์ “หลงรักเมืองเหนือ” ตะลอนทัวร์แหล่งท่องเที่ยว Unseen New Chapters ทั้ง 3 จังหวัด เสน่ห์ธรรมชาติหนึ่งในพลังกระจายรายได้สู่ชุมชน ออกมาเที่ยวช่วยกันทำให้เศรษฐกิจชาติเติบโตไปด้วยกันเถอะพี่น้องชาวไทย

 

สุขภาพ –3วิธีฮีลใจลดความเสี่ยงก่อนกลายเป็น“ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า”

 

ปัจจุบันผู้ป่วยโรคซึมเศร้ามีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นโดยสาเหตุอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในสมอง และมีเหตุการณ์ หรือมีปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต จึงได้บทความของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยมาแนะนำ 3 วิธีลดความเสี่ยง ได้ดังนี้

 

วิธีที่ 1 สังเกต หมั่นสำรวจอารมณ์ของตนเอง เพื่อเป็นการสังเกตว่าสิ่งใดช่วยทำให้อารมณ์เศร้าหมอง หรือ สดชื่น แจ่มใส และพยายามรักษาจิตใจให้สดชื่นแจ่มใสอยู่เสมอ

 

วิธีที่ 2 ไม่กระตุ้น ไม่นำตนเองไปอยู่ในสถานการณ์ที่กระตุ้นให้เกิดความซึมเศร้า รวมถึงการใช้สารเสพติด

 

วิธีที่  3 ทำกิจกรรม เลือกกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพจิต เช่น การออกกำลังกาย กิจกรรมสันทนาการ พบปะเพื่อนฝูง เข้าสังคม

 

หากพบว่าตนเองมีอาการซึมเศร้า เบื่อหน่าย ไม่อยากทำอะไร ไร้เรี่ยวแรง ขาดสมาธิ กินไม่ได้นอนไม่หลับ หรือนอนมาก และมีความคิดอยากตาย รู้สึกตัวไร้คุณค่าเป็นภาระ โดยมีอาการติดต่อกันมากกว่า 2 สัปดาห์ขึ้นไป ควรปรึกษาแเพทย์ เพื่อวินิจฉัยและให้การดูแลรักษาต่อไป

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก – AWC-2C2Pชูบริการดิจิทัลเพย์เมนท์โซลูชั่นบูมเอมไพร์CoLiving
 

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) “AWC” เปิดเผยว่า AWC จับมือกับ บริษัท ทูซีทูพี (ประเทศไทย) จำกัด (2C2P) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการชำระเงินระดับโลก เปิดสำนักงานแห่งใหม่ที่อาคารเอ็มไพร์อาคารสำนักงานไลฟ์สไตล์สเปซ รองรับเทรนด์อนาคตเรื่องการทำงานและการใช้ชีวิตอย่างไร้รอยต่อ เสริมความแข็งแกร่งด้านดิจิทัลอีโคซิสเต็ม ตอบโจทย์บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก โดยได้สร้างพื้นที่สนับสนุนเชื่อมต่อองค์กร ผู้คน และชุมชน ผ่านคอนเซ็ปต์ Co-Living Collective: Empower Futureอันเป็นเอกลักษณ์ของอาคารเอ็มไพร์ และได้นำเสนอ AWC Infinite Lifestyle (AWI) โปรแกรมสิทธิประโยชน์ของผู้เช่าได้ใช้พื้นที่ Co-Living ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์อันหลากหลาย และส่งเสริมแบ่งปันความรู้ผ่านการจัดกิจกรรม เวิร์คช็อป สัมมนา เดินหน้าสร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน

 

สำหรับสำนักงานแห่งใหม่ของ 2C2P จะเปิดเป็นทางตั้งแต่มกราคม 2567 พื้นที่รวมกว่า 3,000 ตารางเมตร รองรับพนักงานได้กว่า 300 คน ซึ่งมีอาคารเอ็มไพร์เป็นสำนักงานระดับเกรดเอ ตั้งอยู่ใจกลาง CBD ย่านสาทร ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและเทคโนโลยีใน Co-Living และ Collaborative Spaces ขนาดใหญ่ที่สุด พร้อมออกแบบตกแต่งผสานพื้นที่ทำงานและไลฟ์สไตล์อย่างลงตัว เชื่อมต่อผู้เช่าและพนักงานของบริษัทชั้นนำเข้าในอีโคซิสเต็ม

 

 

แล้ว AWC ยังมุ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์การทำงานของผู้เช่าอาคารเอ็มไพร์ ด้วยไลฟ์สไตล์สุดพิเศษ ผ่าน AWC Infinite Lifestyle ลอยัลตี้โปรแกรมพร้อมมอบสิทธิประโยชน์ สินค้าและบริการ ในโครงการคุณภาพของ AWC ทั้งโรงแรม อาคารสำนักงานและคอมมูนิตี้ชอปปิ้งมอลล์ เพื่อส่งเสริมดิจิทัลอีโคซิสเต็มในอาคารเอ็มไพร์แบบครบวงจร

 

ซึ่งทั้ง AWC และ 2C2P มีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการมุ่งสร้างสถานที่ทำงานให้พนักงานทุกคนมีความสุข เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับ 2C2P สู่อาคารเอ็มไพร์ ด้วยนวัตกรรมการชำระเงินดิจิทัลของ 2C2P ผสานกับคอนเซ็ปต์ Co-Living Collective: Empower Future’ ของอาคารเอ็มไพร์ ตอบสนองกลุ่มคนทำงานและองค์กรรุ่นใหม่ได้อย่างดี และเป็นพื้นที่เสริมความแข็งแกร่งและการเติบโตให้ดิจิทัลอีโคซิสเต็มอย่างไร้ขีดจำกัด

 

ทางด้านแนวคิด Co-Living พร้อมมอบสิ่งที่ดีให้กลุ่มคนที่มีไลฟ์สไตล์และความคิดสร้างสรรค์เหมือนกัน มารวมตัวเพื่อสร้างคุณค่าและเติบโตไปด้วยกัน โดยผู้เช่าและพนักงานมีโอกาสทำความรู้จักและเชื่อมต่อเพื่อสร้างการเติบโตและพัฒนาโอกาสทางธุรกิจร่วมกันกับองค์กรอื่นภายในอาคาร ผ่านแพลตฟอร์มทั้งออฟไลน์-ออนไลน์ โดยแบ่งปันทักษะ ความรู้ร่วมกัน  ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่ AWC จัดขึ้น เช่น เวิร์คช็อป การสัมมนา

 

ขณะเดียวกันทั้งสองบริษัทยังได้พัฒนาแอพลิเคชั่นอสังหาริมทรัพย์ Pikul ไลฟ์สไตล์ใหม่ โดยได้บูรณาการในรูปแบบ Omnichannel จะรวมประสบการณ์ออนไลน์และออฟไลน์สุดพิเศษต่าง ๆ ดีที่สุดเข้าด้วยกัน ทั้งการขาย (Sales) การส่งของขวัญ (Gifting) เกมมิฟิเคชั่นเพื่อแลกรางวัล (Gamification)  โดยจะใช้ Pikul ทำงานร่วมกับ 2C2P พัฒนาช่องทางการชำระเงิน e-wallet และ prepaid-card แพลตฟอร์มการชำระเงินซึ่งออกแบบเป็นพิเศษโดยเฉพาะ เพื่อเสริมศักยภาพและประสบการณ์ใช้ AWC Infinite Lifestyle

 

นายปิยชาติ รัตน์ประสาทพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทูซีทูพี (ประเทศไทย) จำกัด (2C2P) กล่าวว่า 2c2p มีวิสัยทัศน์มุ่งพัฒนาและให้บริการระบบชำระเงินแบบครบวงจร ด้วยโครงสร้างพื้นฐานของการชำระเงินผ่านเครือข่ายการชำระเงินเป็นพันธมิตรกับบริษัท ทำให้ผู้ใช้มีทางเลือกชำระเงินได้หลากหลายสนับสนุนระบบนิเวศแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดย 2C2P เชื่อว่าบุคลากรคือรากฐานของความสำเร็จ จึงพร้อมดูแลพนักงานและพยายามหาวิธีทำให้เกิดความสมดุลที่ดีระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว

 

ดังนั้น 2c2p จึงเลือกอาคารเอ็มไพร์เป็นที่ตั้งสำนักงานแห่งใหม่ เพื่อขับเคลื่อนบริษัทเติบโต การตัดสินใจครั้งนี้มีรากฐานมาจากความเชื่อมั่นที่มีต่ออาคารเอ็มไพร์ที่มีจัดสรรพื้นที่ส่วนกลางเพื่อให้ผู้เช่าได้ใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น พื้นที่ทำงานแบบไม่เป็นทางการ สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของบริษัทในการผสมผสานงานและชีวิตของพนักงานเข้าด้วยกัน และให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคน

 

            ในอาคารเอ็มไพร์มีพื้นที่ส่วนกลางสามารถใช้ทำงานร่วมกันแบบเอ็กซ์คลูซีฟ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกทันสมัย บวกกับอยู่บนทำเลที่ตั้งใจกลางเมือง เพียบพร้อมด้วยสิทธิพิเศษมากมายตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และการทำงานของพนักงาน 2C2P ด้วยข้อเสนอสิทธิพิเศษของ AWI (AWC Infinite Lifestyle) นอกจากสามารถใช้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกในเอ็มไพร์ร่วมกัน อันเป็นอภิสิทธิเฉพาะผู้เช่าเท่านั้น ทางผุ้บริหาร พนักงานของ 2C2P ยังได้สิทธิรับบริการพิเศษจากเครือข่ายแบรนด์และพันธมิตรของ AWC ทั้งโรงแรม ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน จึงลงตัวที่จทางทีม 2C2P เลือกที่จะขยับขยายมาใช้อาคารแห่งนี้

 

ข่าวที่สอง -บพท./ราชภัฎดัน4,000นวัตกรรมพร้อมใช้ปี’70ฝัน1ตำบล5คน

 

ผศ.ดร.ลินดา เกณฑ์มา อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ (ทปอ.มรภ.) เปิดเผยว่า ร่วมกับหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เปิดเวทีการประชุมเชิงปฏิบัติการและเสวนาภาคีเครือข่ายราชภัฏ ถึงแนวทาง “การพัฒนานวัตกรรมพร้อมใช้” ซึ่งปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยราชภัฏมีเครือข่ายทั่วประเทศ 38 แห่ง มีบุคลากรทางวิชาการกว่า 1 หมื่นคน ร่วมกันภารกิจเน้นทำงานเชิงพื้นที่เพื่อพัฒนาชุมชน ท้องถิ่น จำเป็นต้องใช้วิธีบูรณาการองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม จึงได้พัฒนาแอพพลิเคชั่นต้นแบบที่ ชื่อว่า App Tech Rajabhat  ซึ่งทางสำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ และสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ริเริ่มทำร่วมกับเครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ 24 แห่ง นำเข้าข้อมูลนวัตกรรมพร้อมใช้แล้วกว่า 500 นวัตกรรม

 

ได้นำแอพพลิเคชั่น App Tech Rajabhat มาใช้เป็นเครื่องมือสนับสนุนการทำงานพัฒนาชุมชนท้องถิ่นให้ คล่องตัวมากขึ้น ด้วยวิธีรวบรวมเอาฐานข้อมูลนวัตกรรมพร้อมใช้เข้าไว้ด้วยในเครือข่ายราชภัฏ เพื่อการเรียนรู้ ถ่ายทอดขยายผล และนำไปประยุกต์ใช้พื้นที่ต่างๆ พร้อมกับสร้างกลไกความร่วมมือระหว่างสถาบันด้านการจัดการพัฒนาท้องถิ่นข้ามหน่วยงาน จังหวัด ภูมิภาค ได้ด้วย

 

ดร.กิตติ สัจจาวัฒนา ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) กล่าวว่า บพท.มีหน้าที่นำงานวิจัย และนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมไปใช้พัฒนาในพื้นที่ และมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วประเทศ ช่วยขยายให้เกิดการพัฒนาระดับพื้นที่ในการเป็นคานงัดและจุดเปลี่ยนอย่างแท้จริงที่จะพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

 

ขั้นต่อไปเมื่อรวบรวมเทคโนโลยีและนวัตกรรมพร้อมใช้เก็บไว้ในฐานข้อมูลกลางแล้ว ทางชุมชนสามารถเข้ามาใช้ค้นหาข้อมูลแล้วนำไปประยุกต์ใช้ได้โดยไม่ต้องทำวิจัยใหม่ทุกครั้ง เพื่อแลกเปลี่ยนกับชุมชนเมื่อเจอปัญหาจากก็สะท้อนปัญหามายังมหาวิทยาลัยในพื้นที่ได้ทันทีกับทางสถาบันการศึกษาในพื้นที่จะเข้าไปให้คำแนะนำและช่วยเหลือได้ ทำให้เกิดการทำงานในลักษณะเครือข่ายความร่วมมือ หรือในบางครั้งอาจให้การสนับสนุนเรื่องเงินทุน (seed money) เดินหน้าพัฒนาชุมชนก็จะรวดเร็วขึ้นและขยายผลได้มากขึ้น

 

ซึ่งการขยายผล “ฐานข้อมูลเทคโนโลยีและนวัตกรรมพร้อมใช้” จะสามารถทำได้รวดเร็วมากขึ้น เพราะเป็นฐานข้อมูลเปิดปัจจุบันใน App Tech Rajabhat  มีนวัตกรรมพร้อมใช้อยู่แล้วกว่า500 นวัตกรรม ภายในปี 2568 จะเพิ่มเป็น 3,200  นวัตกรรม ปี 2570 จะทำให้ครบอย่างน้อย 4,000 นวัตกรรม ส่วนเป้าหมายการเพิ่มนวัตกรรมชุมชนปี 2570 ตั้งเป้าจะมี 35,000 คน หรือเฉลี่ยจะมีนวัตกรชุมชนอยู่ในชุมชนตำบลละกว่า 5 คน

 

จากนั้นในระยะต่อไป เมื่อระบบข้อมูลมีความพร้อมด้านชุดความรู้ บพท.มีแผนจะขับเคลื่อนความร่วมมือกับภาคประชาสังคม เช่น สสส. พอช. เดินหน้าตอบโจทย์ใหญ่ของประเทศ โดยจับคู่ให้ระบบไปเจอกับผู้ใช้ระดับภูมิภาคอย่างน้อย 4 ภูมิภาค ใช้  App Tech เป็นเครื่องมือสนับสนุนนการทำงานนวัตกรชุมชน ที่มีความพร้อมประยุกต์ใช้เทคโนโลยีพัฒนาพื้นที่ให้เกิด Quick Win

 

สำหรับระบบ “App Tech Rajabhat”  ได้พัฒนาให้ชุมชนพื้นที่มีตัวเลือกใช้บริการ 4 ฟีเจอร์หลัก ประกอบด้วย

 

ฟีเจอร์ 1นวัตกรรมพร้อมใช้ เพื่อให้ทางชุมชนพิจารณาเลือกนวัตกรรมที่ตนเองสนใจและตรงกับความต้องการหรือตรงกับสภาพปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ โดยชุมชนสามารถกดปุ่มแชทสื่อสารกับทางเจ้าของนวัตกรรมโดยตรงได้ทันที

 

ฟีเจอร์ 2 โจทย์ปัญหา เป็นพื้นที่เปิดกว้างให้ชุมชน/ท้องถิ่น นำเสนอประเด็นโจทย์ปัญหาหรือระบุนวัตกรรมที่กำลังมองหา โดยมีนักวิจัยพัฒนาจากทางมหาวิทยาลัย เป็นผู้เข้าไปค้นประเด็นโจทย์ปัญหานวัตกรรมพร้อมใช้ของตนเองนำมาจัดการให้ได้ เพื่อนำผลงานไปใช้ประโยชน์ในวงกว้างต่อไป

 

ฟีเจอร์ 3 ช่องทางพูดคุย เป็นกลไกจัดการการพูดคุย ทางแต่ละมหาวิทยาลัยจะมีเจ้าภาพรับมอบหมายคอย ควบคุมดูแล การสื่อสารระหว่างเจ้าของนวัตกรรมและชุมชนให้เป็นไปตามขั้นตอน ระเบียบในการนำไปใช้ประโยชน์

 

ฟีเจอร์ 4  รายงานระบบสารสนเทศ เป็นการสรุปข้อมูลแบบเอ็กซ์คลูซีฟมุมมองต่าง ๆ เพื่อให้เข้าใจได้ง่าย ครบถ้วน สะดวกและรวดเร็ว แบ่งย่อยออกเป็น 1.ระบบสารสนเทศเพื่อคนทั่วไป จะแสดงข้อมูลจำนวน/รายละเอียดทั่วไปของนวัตกรรมพร้อมใช้ และโจทย์ปัญหา จำแนกบนแผนที่แยกตามรายจังหวัด 2. ระบบสารสนเทศสำหรับสถาบัน เป็นฟังก์ชั่นพิเศษของ App Tech Rajabhat พัฒนาขึ้นเพื่อใช้บริหารจัดการเชิงพื้นที่ในแต่ละมหาวิทยาลัย และใช้เป็นข้อมูลวางแผนให้ผู้บริหารตัดสินใจในระดับนโยบาย โดยจะแสดงข้อมูลเชิงลึกถึงระดับตำบล ใช้วิเคราะห์การกระจายตัวของงบประมาณในพื้นที่ตลอดจนนวัตกรรมพร้อมใช้ และโจทย์ ที่จะใช้วางแผนเพื่อพัฒนาโครงการและการจัดสรรงบประมาณอย่างเหมาะสมต่อไป

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

  รุ่งทิพย์ บุกขุนทด  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่  2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ

TCEBนำไมซ์ปี67โร้ดโชว์เทรดโชว์ทั่วโลก-จัดยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" บิ๊ก TCEB ปี 67 ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้   3-7 มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี !! ไทยเจ้าภาพ Korat Expo2029 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO” ช้อป 3 อย่างลด 25% ททท.นำร่องจัด AIR-MAZING ไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม & บางจากมอบ2โปรดี สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด AWC ปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ Trip.com- ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล. วันอาทิตย์ที่   3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ FM97  # เพ็ญรุ่งใยสามเสน # เท

เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก

  เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก คิงเพาเวอร์ชวนช้อปออนไลน์แบรนด์เนมลด 70%26-31 ต.ค.นี้ สนุกกับ SUPER SURPRISE ดีลพิเศษราคาดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ ก.ท่องเที่ยวตีปีกรับทัวร์ต่างชาติ 3 เฟส-ไฟเขียวแล้ว 10 แอร์ไลน์ ไทยจ่อดึงลองสเตย์ต่างชาติซื้ออสังหาฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด “ TCEB” ชูไทยแลนด์ไมซ์สตาร์ตอัพปั้นนวัตกรรมใหม่5โปรเจ็กต์ หนาวนี้เที่ยว“นครพนม”ปลอดภัยมั่นใจเส้นทางสาย SHA ริมโขง วิธีเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนควบคู่การลดโรคมากมาย ไทยสมายล์ขายตั๋วชุดเที่ยวไทยเหมาจ่าย4ใบเริ่มที่3.8พันบาท ไทยเวียตเจ็ทขายตั๋ว5บาท/เที่ยวโปร2เส้นทางใหม่ในประเทศ กรมเจ้าท่าฟุ้งแผนทำ10ท่าเรือรองรับวันสต็อปเที่ยวเจ้าพระยา   นายพศิน ลาทูรัส ซีอีโอฝ่ายพัฒนาธุรกิจ  บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง