TCEBเฮปี’66รายได้ไมซ์ต่างชาติสัญญาณดีลุ้นแตะแสนล้าน
ปั้นEEC-พัทยาดันS Curveลุยจัดเมกะอีเวนต์EECExpo2025
ต.ค.นี้งัดMICE for Site2028พลิกโฉมตลาดไมซ์ไทยในเวทีโลก
แถลงการณ์!!“ฮ.คุณวิชัย”ตกที่เลสเตอร์
AAIBชี้เลโอนาร์โดผิด
ช้อป9.9MegaDayDealsคิงเพาเวอร์แบรนด์ดังดีลดีลดแรง15%
สมัครสมาชิกคิงเพาเวอร์6สนามบินลดไม่ยั้ง-แลกบัตรดูหนังSF
ผู้ว่าฯททท.ถกสภาทัวร์+15สมาคมชงรัฐบาลใช้แผนQuickWin
บางจากชู“A New
Era Unfolds”นำธุรกิจโรงกลั่นผงาดในเอเชีย
“TCEB-สกพอ”ดัน“EECFair”ต่อยอดจัดEEC Expo 2025 ปี’68
Unseen“เกาะลัดอีแท่น/พระทรงเครื่องวัดแหลม/ลุ่มน้ำป่าสัก”
5 อาหารและเครื่องดื่มบำรุงสมองเพิ่มศักยภาพการทำงาน
บางกอกแอร์เด้งรับฟรีวีซ่าขอสิทธิ์บินเพิ่มจีน-บุกใหญ่อินเดีย
ไทยเวียตเจ็ทแจกโปร“9.9 Flash Deals”ตั๋วบินเริ่ม699บาท
วันเสาร์ที่ 9 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #TCEB #บางจาก #UnseenNewChapters #เที่ยวภาคกลาง
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...
ช่วงที่ 1 เกมรุกไมซ์กับ “จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา” ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB” ตีปีกรับปี’66
รายได้ดีกว่าคาดอาจถึง 1 แสนล้าน ปี67 โตต่ออีก 10 % ปั้น EEC
ดันอุตฯ S Curve ปูทางจัด Expo 2025 ปลุก“พัทยา”มหานครไมซ์เร่งยกเครื่อง
2 เรื่องใหญ่ “ระบบจัดการโลจิสติกส์-มาตรฐานVenue” ปลาย ต.ค.นี้งัดผลวิจัยใหม่ “MICE for Site 2028”
พลิกโฉมมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจขานรับทุกห่วงโซ่ไมซ์เปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ทั้งหมดหลังโควิด
และขานรับรัฐบาลใหม่ 4 เรื่อง ยกเว้นวีซ่า-ทำแผนกระตุ้นเศรษฐกิจทำโร้ดโชว์-ดึงเทศกาลโลก-ผนึกผู้ว่าซีอีโอรายจังหวัด
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ทีเส็บสนับสนุนพัทยาเป็น ไมซ์ ซิตี้ และ MICETROPOLIS ผนวกเชื่อมเข้ากับพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก
(EEC :Eastern Economic Corridor) โดยเข้าไปสนับสนุนงานจัดแสดงสินค้า
(Exhibition) รายการใหญ่แห่งปี EEC Cluster Fair 2023
จัด Mira and Subcon 2023 โดยมี บริษัท
อินฟอร์มา มาร์เก็ต ประเทศไทย จำกัด เป็นผู้รับผิดชอบการจัดงาน
ซึ่งได้กระจายจัดนอกกรุงเทพฯ ขยายครั้งแรกสู่ภาคตะวันออก
เป็นงานศูนย์รวมผู้ประกอบธุรกิจ S-Curve ซึ่งเป็นการจับคู่เจรจาธุรกิจระหว่างกลุ่มผู้ประกอบชั้นนำด้านการแสดงหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ
ชิ้นส่วนอุตสาหกรรม และเกี่ยวเนื่อง ผลักดันให้ EEC และไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและจัดซื้อชิ้นส่วนในภูมิภาคแห่งอาเซียน
ซึ่งจะส่งผลดีต่อเป้าหมายรายได้ไมซ์ในปีงบประมาณ 2566 จะทำได้ดีกว่าเป้าหมาย 96,000 ล้านบาท อาจจะขยับขึ้นแตะเฉียด 100,000 ล้านบาท มาจาก “ตลาดต่างประเทศ” จะทำได้ดีกว่าเป้าเล็กน้อย “ตลาดในประเทศ” อาจจะได้น้อยกว่าบ้าง จากปี 2567 รายได้ไมซ์อาจจะทำให้เติบโตเพิ่มจากปัจจุบันได้สองหลัก 10 % ขึ้นไป
ตาม
“เป้าหมาย” การดำเนินงานของทีเส็บในปีงบประมาณ 2566
(ตุลาคม 2565 – 30 กันยายน 2566) คาดจะมีนักเดินทางรวมทั้งสิ้น 18.55
ล้านคน สร้างรายได้ 96,000 ล้านบาท
หรือดีที่สุด 109,000 ล้านบาท จาก ไมซ์ตลาดต่างประเทศ 760,000
คน สร้างรายได้ 50,000 ล้านบาท
ไมซ์ตลาดในประเทศ 17.79 ล้านคน สร้างรายได้ 59,000 ล้านบาท
ส่วนแนวทางการพัฒนาตลาดไมซ์ ในพื้นที่ EEC และพัทยาทีเส็บได้หารือกับทางสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ./EEC) เร่งเดินหน้านำไมซ์โดยเฉพาะการจัดแสดงสินค้านานาชาติ (Exhibition) ขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับ S-Curve เข้ามาจัดเพิ่ม 2 อุตสาหกรรม ได้แก่ การแสดงรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และงานเกี่ยวกับอากาศยานโดรนซึ่งทั่วโลกกำลังตื่นตัวกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในระหว่างรอการจัดเตรียมความพร้อมนำงาน Air Show
แล้วยังจะร่วมกันขยายตลาดดึงงานไมซ์นานาชาติมาแรงในรูปแบบ
เมกะอีเวนต์ เอ็กซิบิชั่น เพราะสามารถเพิ่มทั้งเงินลงทุนของต่างชาติ
และการพัฒนาผู้ประกอบการในพื้นที่เติบโตเพิ่มขึ้นได้ด้วย
เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยเสริมทัพปัจจุบันมีไมซ์ตลาดจัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล
(MI :Meeting &Incentive)
ต่างประเทศเลือกพัทยาเป็นจุดหมายปลายทางหลักเพิ่มสูงขึ้นทุกเดือน
เบื้องต้นทีเส็บกับ EEC ตกลงกันที่จะนำร่องจัดงาน EEC Fair จัดงานในรูปแบบพาวิลเลี่ยนจัดแสดงสินค้าเป็นรายประเทศ ช่วงแรกนำร่องทำระดับพื้นที่ในประเทศจัด EEC Cluster Fair งาน Mira & Subcon 2023 ขึ้นเมื่อ 6-8 กันยายน 2566 ที่ศูนย์ประชุม NICE สวนนงนุช พัทยา ระยะนำร่องเริ่มต้นขับเคลื่อนจะผนึกกันเหนียวแน่น 5 พันธมิตร ได้แก่ สภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย EEC สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และทีเส็บได้ลงทุนเปิดบูธเพื่อแนะนำข้อมูลความรู้ปูพื้นฐานไมซ์กับการวางรูปแบบเปิดตลาดเอ็กซิบิชั่นนานาชาติเต็มรูปแบบ
ด้วยศักยภาพของพัทยากับพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกมีสถานที่พร้อมรองรับตลาดไมซ์จากทั่วโลก
เช่น ศูนย์ประชุม PEACH รอยัลคลิฟฟ์
พัทยา กับ NICE สวนนงนุช พัทยา
ต่อไปจะต้องพิจารณาความพร้อมสถานที่อื่น ๆ ที่จะจัดงานไมซ์ขนาดใหญ่ได้ด้วย
ขณะที่สถานการณ์ตลาดไมซ์ช่วงไตรมาส 1-3 ปี 2566 (ตุลาคม 2565-มิถุนายน 2566) เฉพาะในพื้นที่พัทยา ทำรายได้รวมทั้งสิ้น 6,670.52 ล้านบาท จาก “ตลาดต่างประเทศ” มีนักเดินทางรวมทั้งหมด 35,600 คน สร้างรายได้รวม 6,192.87 ล้านบาท ประชุม (M : Meeting) 32,790 คน รายได้ 2,039 ล้านบาท นักเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (I : Incentive) 2,232 คน รายได้ 115.87 ล้านบาท การประชุมนานาชาติ (Convention) 578 คน รายได้ 32 ล้านบาท การจัดงานแสดงสินค้า (E :Exhibition) ยังไม่มีข้อมูล
“ตลาดในประเทศ”
มีนักเดินทางรวมทั้งหมด 154,840 คน สร้างรายได้
477.65 ล้านบาท แบ่งเป็น จัดประชุม (M)
102 ล้านบาท อินเซ็นทีฟ (I) 11,954
คน รายได้ 51.55 ล้านบาท การประชุมขนาดใหญ่ (C) 61,166 คน รายได้ 175.37 ล้านบาท
การจัดแสดงสินค้า (E) 55,900 คน รายได้
148.68 ล้านบาท
นายจิรุตถ์กล่าวว่าขณะนี้ตลาดไมซ์ต่างประเทศที่หลั่งไหลเข้าพัทยาปี
2566 หลัก ๆ ยังคงเป็นอินเซ็นทีฟ
ล่าสุดนำบริษัทขายตรงจากสาธารณรัฐประชาชนจีนนำกรุ๊ปอินเซนทีฟมาจัดงานที่ NICE
สวนนงนุช ขนาด 5,000 คน
ส่วนการเดินหน้าผลักดันการเปิดเมืองเพื่อจัด EEC Expo 2025 ตามที่วางไว้จะริเริ่มได้ตั้งแต่ปี
2568 เป็นต้นไป แต่จะต้องเตรียมความพร้อมให้ได้ตามมาตรฐานไมซ์ก่อนอย่างน้อย
2 เรื่อง ได้แก่
เรื่องที่ 1 ระบบริหารจัดการโลจิสติกส์ การคมนาคม ขนส่ง เพื่อรองรับนักเดินทางที่เข้ามาพร้อมกันจำนวนมาก
ตอนนี้รอการขยายสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา
กับการเชื่อมระบบขนส่งทางรางด้วยรถไฟความเร็วสูง
เรื่องที่ 2 สถานที่จัดประชุมนานาชาติหรือ Venue ซึ่งไทยเคยมีตัวอย่างจัดงาน BOI Fair 2000 ล่าสุดจัดที่อิมแพค เมืองทองธานี จัดส่งเสริมการโชว์นวัตกรรมของทั่วโลก
ขณะที่ทีเส็บเตรียมขับเคลื่อนแผนตลาดไมซ์ขานรับนโยบายรัฐบาลใหม่นายเศรษฐา
ทวีสิน พุ่งเป้าเรื่องโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ โดยจะนำเสนอ 4 เรื่องหลัก ประกอบด้วย เรื่องที่ 1 การยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า
หรือฟรีวีซ่า ให้นักเดินทางไมซ์ต่างประเทศ
ซึ่งจะช่วยเสริมให้กลุ่มไมซ์โดยเฉพาะตลาดจีนเข้ามาได้ง่ายขึ้น
เรื่องที่ 2 Festival Economy ส่งเสริมการดึงงานเทศกาลระดับโลกเข้ามาจัดในเมืองไทย
ทีเส็บจะเร่งทำแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเสนอจัดอีเวนต์งานเทศกาลอินเตอร์โดยขอใช้งบพิเศษนอกเหนือจากงบประมาณปกติประจำปี
2567
ซึ่งเคยมีประสบการณ์ทำร่วมกับกรุงเทพมหานครอย่างต่อเนื่อง
แล้วมีแผนจะชิงประมูลงานดนตรีและไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ เข้ามาจัดในไทยต่อไป
ตอนนี้ทยอยดึงเข้ามาจัดก็มี งานพืชสวนโลก งานเอ็กซโป นครคราชสีมา กับอุดรธานี งาน WonderFruit
พัทยา รวมไปถึง Money 2020 จะเข้ามาจัดปี 2567
เป็นการทำงานร่วมกับกับทาง DEPA กระทรวงดิจิทัล
ดึงงานเทคและคนเข้ามาจากทั่วโลก หรือแม้แต่เทศกาลภาพยนตร์ที่จะร่วมกับทางกระทรวงการวัฒนธรรมด้วย
เรื่องที่ 3 นำเอกชนในอุตสาหกรรมไมซ์ไทยเดินหน้าทำเทรดโชว์ โร้ดโชว์ เรื่องที่ 4
การบริหารจัดการบูรณาการทำงานกับผู้ว่าซีอีโอในแต่ละจังหวัด
โดยใช้สำนักงานทีเส็บประจำภูมิภาคทั่วประเทศ 4 ภาค คือ
ภาคกลางกับตะวันออก ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้
ซึ่งปัจจุบันเข้าเป็นที่ปรึกษาแต่ละจังหวัดอยู่แล้วเป็นหน่วยขับเคลื่อนการขยายเครือข่ายไมซ์
เช่นการเข้ามาสนับสนุนการจัดงาน EEC Cluster Fair 2023 ทีเส็บก็ทำงานร่วมกับผู้ว่าราชจังหวัดชลบุรีซึ่งเป็นผู้ว่าซีอีโอด้วย
ส่งผลให้งานทำได้อย่างรวดเร็ว
เรื่องที่ 4 การพัฒนาไมซ์อย่างยั่งยืน ภายใต้โครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ การบริหารจัดการคาร์บอนเครดิต ฟุตปริ๊นท์ เข้ามาใช้กับอุตสาหกรรมไมซ์ของไทยอย่างเป็นระบบตามมาตรฐานสากล ทีเส็บทำต่อเนื่องมาแล้ว 3 ปี เกิดผลลัพธ์ที่ดี หากรัฐบาลใหม่ให้การสนับสนุนก็จะยิ่งทำให้แผนดังกล่าวนี้เดินหน้าได้เร็วมากขึ้น
นายจิรุตถ์กล่าวว่า ภายในตุลาคม 2566 กำลังเร่งนำข้อมูลผลวิจัย MICE for Site 2028 มาใช้ปฏิบัติในอุตสาหกรรมไมซ์จะเป็นเรื่องวางมองอนาคตหลังผ่านพ้นสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 แล้ว “พฤติกรรม” ของผู้จัดงานไมซ์ ผู้ร่วมและเข้าชมงาน เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเกือบทั้งหมด ตอนนี้ธุรกิจหันมาควบรวมกันระหว่างในประเทศกับต่างประเทศ กลายเป็นเทคพันธุ์ใหม่ แล้วรูปแบบการจัดงานก็หันมาใช้ “นวัตกรรมสูง” ฉนั้นทีเส็บจะมุ่งสู่ High Value Addes Destination เพราะผู้จัดงานล้วนต้องการมางานไมซ์ที่จะต้องมีมากกว่ามาตรฐานสถานที่จัด แต่จะต้องได้สัมผัสประสบการณ์เชิงคุณค่า ความมั่นใจ และที่สำคัญคือ “การต่อยอดธุรกิจ” ตอนนี้หันมาเพิ่มการทำ “โซเชียล อิมแพค” ทำให้เกิดการจับคู่ทางธุรกิจได้มากน้อยขนาดไหน ต่อเนื่องถึงการพัฒนาสังคม สิ่งแวดล้อม
โครงการนำงานวิจัยพฤติกรรมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมไมซ์ โดยใช้ข้อมูลจาก MICE for Site 2028 นั้น ทีเส็บจะเริ่มนำมาใช้อย่างจริงจังตั้งแต่ปีงบประมาณ 2567 เป็นต้นไป เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 เป็นต้นไป เพราะบางงานมี “คุณค่าสูงมาก” จึงสามารถแปลงเป็น “มูลค่าทางเศรษฐกิจ” ได้ และสามารถบอกได้มากกว่าด้วยภาพความประทับใจหลากหลายด้าน
เมื่อนำงานวิจัยมาใช้แล้วจะเกิดมิติแตกต่างจากอดีตอย่างแน่นอน โดยเฉพาะ ผู้จัดงานจะเกิดความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น ตัวอย่างเช่นการจัดงาน Art Show คำนวณแล้วมีคนนับจำนวนได้ 1 ล้านคน แต่ต่อไปจะเกิดภาพใหม่ขึ้น นั่นคือ “ความประทับใจ” การไม่ต้องเดินทางไปถึงต่างประเทศ ซึ่งสามารถนำมาคำนวณเรื่อง “ลดคาร์บอนไดออกไซด์” ได้ แล้วเกิดผลต่อเนื่องเรื่องการช่วยเหลือสังคมลดมลพิษได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะปรากฎเป็นวงจรโซเชียล อิมแพ็ค ทั้งหมด
ต่อไปนักลงทุนจะสามารถใช้
“มาตรวัดใหม่” ในการจัดงานไมซ์จากโซเชียล อิมแพค ออกมาเป็น “มูลค่าทางเศรษฐกิจ”
มากกว่าความรู้สึกประทับใจ
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่
1 แถลงการณ์!!“ฮ.คุณวิชัย”ตกที่เลสเตอร์ AAIBชี้เลโอนาร์โดผิด
สำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศของประเทศอังกฤษ
(Air Accident Investigation Branch – AAIB) ตีพิมพ์รายงานอุบัติเหตุทางอากาศเกี่ยวกับอุบัติเหตุ
“เฮลิคอปเตอร์ตกที่สนามฟุตบอลของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้” เมื่อเดือนตุลาคม 2561
ซึ่งได้คร่าชีวิตผู้โดยสาร 5 ราย ได้แก่ เจ้าของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ นายวิชัย
ศรีวัฒนประภา กัปตันเอริก สวอฟเฟอร์ กัปตันอิสซาเบลลา โรซา เลโควิช นายกวีพร
พันธุ์แพ และนางสาวนุสรา สุขหน้าไม้
รายงานอุบัติเหตุทางอากาศซึ่งมีความยาวและรายละเอียด
209 หน้า
ได้แสดงถึงความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับระบบความปลอดภัยของเฮลิคอปเตอร์ลำนี้
และความเคลือบแคลงในการผลิตเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ของ เลโอนาร์โด เอส.พี.เอ. (Leonardo S.p.A.) บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์
สัญชาติอิตาลี
สำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศของประเทศอังกฤษตรวจพบสาเหตุของอุบัติเหตุว่า
เกิดจากตลับลูกปืนที่ใบพัดหางแตก อันเนื่องมาจากการแตกร้าว การเสียดสี
การเสื่อมสภาพของจาระบีก่อนกำหนด และความร้อนที่สูงเกินไปในตลับลูกปืน
ทำให้ตลับลูกปืนแตก
รายงานยังระบุอีกว่า
เลโอนาร์โด
มีความบกพร่องในการออกแบบและผลิตเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์จนทำให้เกิดเหตุโศกนาฏกรรมในครั้งนี้
กล่าวคือ
–
ไม่ส่งผลการทดสอบการบินที่สำคัญให้แก่บริษัทผู้ผลิตตลับลูกปืน เพื่อให้ยืนยันว่าตลับลูกปืนที่เลือกใช้เหมาะสมกับเฮลิคอปเตอร์รุ่นนี้
ทั้งนี้ หากเลโอนาร์โดได้ส่งข้อมูลการทดสอบดังกล่าวให้แก่บริษัทผู้ผลิตตลับลูกปืน
ก็อาจจะมีความเป็นไปได้ที่จะไม่เลือกใช้ตลับลูกปืนดังกล่าวกับเครื่องรุ่นนี้
–
ไม่มีข้อกำหนดของผู้ผลิตให้ตรวจสอบสภาพและความสมบูรณ์ของตลับลูกปืนเป็นประจำตามกำหนดเวลาและชั่วโมงบิน
ทั้งๆ ที่ทราบว่า
ตลับลูกปืนเป็นชิ้นส่วนที่มีความสำคัญต่อการทำการบินของเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์
-ไม่มีแผนหรือมาตรการรองรับในกรณีที่เกิดความเสียหายต่อตลับลูกปืน
เพื่อลดทอนหรือบรรเทาความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อผู้โดยสาร ทั้งๆ
ที่เลโอนาร์โดเองระบุว่า ตลับลูกปืนเป็นชิ้นส่วนที่สำคัญมาก
และหากตลับลูกปืนเสียหายอาจทำให้ผู้โดยสารเสียชีวิตจากอุบัติเหตุได้
นายวิชัย
ศรีวัฒนประภา เจ้าของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้
ได้ซื้อเฮลิคอปเตอร์รุ่นนี้มาเพราะเชื่อว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่มีความปลอดภัยและล้ำสมัยที่สุดในเวลานั้น
รายงานอุบัติเหตุทางอากาศยังได้ชี้อีกว่า
เลโอนาร์โดไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยที่สำคัญหลายประการ ทำให้ต้องตั้งคำถามอย่างจริงจังเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยของเครื่องบินที่ผลิตโดยบริษัทแห่งนี้
อุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกและรายงานอุบัติเหตุทางอากาศที่ตีพิมพ์ออกมานี้
ได้สร้างความเศร้าโศกอย่างยิ่งแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตทุกราย
ซึ่งทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้ขอบคุณสำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศของประเทศอังกฤษที่ได้ทำการสอบสวนและจัดทำรายงานสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้โดยละเอียด
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา บุตรชายของวิชัย ศรีวัฒนประภา กล่าวว่า “ผมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเวลาเกือบ 5 ปีแล้วที่ผมสูญเสียคุณพ่อไป รายงานฉบับนี้ เป็นหลักฐานที่ชัดเจนถึงความกังวลเกี่ยวกับเลโอนาร์โด คุณพ่อของผมเชื่อว่าได้ซื้อเฮลิคอปเตอร์ที่ปลอดภัยมาจากหนึ่งในผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก หากคุณพ่อของผมได้รับทราบสิ่งที่ระบุไว้ในรายงานฉบับนี้ก่อน ท่านคงไม่เอาชีวิตของท่านไปเสี่ยงกับเครื่องบินแบบนี้แน่นอน ความเศร้าโศกที่ผมและครอบครัวได้รับเป็นสิ่งที่เกินกว่าจะบรรยายได้ จนถึงทุกวันนี้ ครอบครัวของผมยังคงใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความเศร้าโศกนับตั้งแต่วันที่คุณพ่อจากไป คุณพ่อเป็นแรงบันดาลใจให้ผมและสมาชิกในครอบครัวทุกคนมาตลอด พวกเราคิดถึงท่านมาก”
ครอบครัวของนายวิชัย ศรีวัฒนประภา กัปตันเอริก สวอฟเฟอร์ และอิสซาเบลลา เลโควิช ได้ว่าจ้างสำนักงานกฎหมายชั้นนำที่ประเทศอังกฤษอย่าง Stewarts ในการดำเนินการทางกฎหมายต่อบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ โดยครอบครัวของกัปตันเอริก สวอฟเฟอร์ และอิสซาเบลลา เลโควิช ได้ยื่นฟ้องคดีที่ศาลในประเทศอิตาลีแล้ว
ข่าวที่ 2 ช้อป 9.9 MegaDayDealsคิงเพาเวอร์แบรนด์ดังดีลดีลแรง15%
ช้อปด่วน
!! 9.9 “MEGA DAY DEALS” วันนี้ -9 กันยายน 2566 คลิกช้อป “คิง เพาเวอร์ ออนไลน์”สะดวกสบายหายห่วง แล้วรอรับสินค้าที่สนามบินบริเวณขาเข้าหรือขาออกนอกได้ทุกทริป
สัปดาห์นี้ชวนมาส่องไอเทมเด็ด ๆ พร้อมสินค้าแบรนด์ดัง ราคา Duty
Free รีบหยิบใส่ตะกร้าช้อปได้เลย
ไม่ว่าจะเป็น Complete Look กระเป๋าสุดคลู ไอเทมตัวท็อปเพิ่มเสริมความปังความเริดที่ควรจะต้องมีไว้
ได้แก่ MCM, COACH,
COCCINELLE, FURLA , FERRAGAMO, TUMI และแบรนด์อื่น ๆ
โดยมีลดแบบจัดเต็ม ลดสูงสุด 10% เมื่อช้อปครบ 6,000
บาท เข้าไปรับรหัสส่วนลด 99MD10 และลดสูงสุด 15% เมื่อช้อปครบ 8,000 บาท พิเศษ! ลดเพิ่มทันที 5% เมื่อช้อปครบ 9,090 บาท เพียงแค่กดรับรหัสส่วนลด 99MD15 เพียงเท่านี้ก็ได้ของถูกใจคุ้มค่าเงินแล้ว
ช้อปเสร็จเรียบร้อยแล้ว
รับสินค้าได้ที่สนามบินทั้งขาเข้าหรือขาออก
ด้วยการแสดงบัตรที่นั่งตั๋วโดยสารเที่ยวบินระหว่างประเทศตรงจุดรับสินค้าของคิง
เพาเวอร์
ห้ามพลาด!!.ใช้สิทธิตามเงื่อนไขที่กำหนดได้ด้วยคือ แบ่งชำระ 0% นานสูงสุดถึง 10 เดือน รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 11,000 บาท รับส่วนลด 200 บาท เมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์ พร้อมสิทธิ์สมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์
เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท(สุทธิ)
ข่าวที่
3 สมัครสมาชิกคิงเพาเวอร์6สนามบินลดไม่ยั้ง-แลกบัตรดูหนังฟรีSF
สมัครสมาชิกง่าย ๆ ที่ คิง เพาเวอร์ 6 สนามบิน ตั้งแต่วันนี้ -30 กันยายน
2566 รับพลังแจกส่วนลดแบบไม่ยั้ง
เพียงสมัครสมาชิก #KINGPOWER ง่าย ๆ ได้ทั้ง 6 สนามบินนานาชาติ
คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ หาดใหญ่ ภูเก็ต
และอู่ตะเภา รับทันทีที่เป็นสมาชิก 1.บัตร SCARLET
สมัครแล้วเติมเงินไว้ช้อป
20,000 บาท
รับคูปองแจกส่วนลด 15%
พิเศษ x 2 ใบ และแจกฟรี 50
กะรัต นำไปแลกไว้ใช้แทนเงินสด 2.บัตร NAVY สมัครแล้วเติมเงินไว้ช้อป
1,000 บาท
รับคูปองแจกส่วนลด 10% x1 ใบ และแจกฟรี 50
กะรัต แลกไว้ใช้แทนเงินสด
รวมทั้งแจกเพิ่ม! เมื่อสมาชิกชวนเพื่อนมาสมัคร SCARLETรับทันที
คนละ 300 กะรัต
พิเศษเฉพาะสมาชิก
คิง เพาเวอร์ เท่านั้น ที่ถือบัตรสมาชิก NAVY,
SCARLET, ONYX, CROWN และ VEGA ตั้งแต่วันนี้
– 14 กรกฎาคม 2567 สามารถใช้คะแนนสะสมแลกเพียง
200 กะรัต รับฟรีไปเลย “บัตรชมภาพยนตร์” ในโรงภาพยนตร์ในเครือ
SF มูลค่า
260 บาท จำนวน 1
ที่นั่ง รับบัตรฟรีผ่าน 2
ช่องทาง LINE Official Account :
@KINGPOWER และ member.kingpower.com
ข่าวที่ 4 ผู้ว่าฯททท.ถกสภาทัวร์+15สมาคมชงรัฐบาลใช้แผนQuickWin
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
ทันทีที่เข้ารับตำแหน่งได้เพียง 4 วัน ก็ได้เปิดห้องประชุมสุพรรณหงส์ สำนักงานใหญ่ ททท.ถนนเพชรบุรีตัดใหม่
กรุงเทพฯ พบปะร่วมรับประทานอาหารเพื่อระดมความเห็นกับทางประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
กับผู้บริหารและตัวแทนท่องเที่ยว 15 สมาคม พร้อมทั้งเปิดรับฟังข้อเสนอแนะแนวทางรวมถึงความต้องการของเอกชนที่จะเดินหน้าส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย
ก่อนสรุปรายละเอียดนำเสนอรัฐบาลต่อไป
ททท.
จะได้กำหนดมาตรการส่งเสริมระยะเร่งด่วนหรือ Quick win 3 เดือนแรก ตั้งแต่กันยายน 2566เป็นต้นไป จะเน้นกระตุ้น
4 เรื่อง ประกอบด้วย เรื่องที่ 1
ทำตลาดเชิงรุกเร่งส่งเสริมการขายท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ เรื่องที่ 2 มาตรการปลดล็อคอุปสรรคการเดินทาง เรื่องที่ 3 เสริมสร้างภาพลักษณ์
เรื่องที่ 4 มาตรการส่งเสริมระยะยาวเพื่อช่วยเหลือและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ
เร่งเตรียมความพร้อมตอบโจทย์นักท่องเที่ยวตลาดกลุ่มคุณภาพ ผนวกกับเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำธุรกิจขานรับกระแสความยั่งยืน
ผนึกความร่วมมือกับ ททท.ทำรายได้ปี 2567 เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของไทยให้ได้สูงสุด
3 ล้านล้านบาท จากตลาดต่างประเทศ 2 ล้านล้านบาท และในประเทศอีก
1 ล้านล้านบาท
สำหรับเอกชนที่เข้าร่วมแลกเปลี่ยนแสดงความเห็นกับนางสาวฐาปนีย์
เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท.นำโดยสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
และตัวแทนท่องเที่ยว 15 สมาคม ประกอบด้วย 1.สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว 2.สมาคมบริการท่องเที่ยว 3.สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ 4.สมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย
5.สมาคมโรงแรมไทย 6.สมาคมภัตตาคารไทย 7.สมาคมสายการบินประเทศไทย 8.สมาคมสวนสนุกและสวนพักผ่อนหย่อนใจ
9.สมาคมรถโดยสารไม่ประจำทาง 10.สมาคมมัคคุเทศก์แห่งประเทศไทย
11.สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย-ญี่ปุ่น 12.สมาคมคีตะมวยไทย 13.สมาคมนักบินว่าวแห่งประเทศไทย 14.สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย และ 15.สมาคมสปาไทย
ข่าวที่ 5 บางจากชู“A New Era Unfolds”นำธุรกิจโรงกลั่นผงาดในเอเชีย
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบางจาก
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน
บมจ.บางจากฯ ได้จัดงาน “A New Era
Unfolds” เดินหน้าต่อยอดธุรกิจและสร้างสัมพันธ์กับลูกค้า
คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจและนักลงทุนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 250 คน ที่โรงแรมสวิสโซเทล เดอะ สแตมฟอร์ด ประเทศสิงคโปร์ ได้กล่าวต้อนรับและบรรยายพิเศษแนะนำธุรกิจของกลุ่มบริษัทบางจาก
เกี่ยวกับการขยายธุรกิจให้หลากหลาย สร้างความสมดุล
ปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ จน ซึ่งปัจจุบันมี 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและค้าน้ำมัน กลุ่มธุรกิจการตลาด
กลุ่มธุรกิจพลังงานไฟฟ้า กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ
และกลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ ควบคู่กับการขับเคลื่อนกลุ่มธุรกิจใหม่ ๆ
และสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ (BiiC)
เฉพาะกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมันดำเนินธุรกิจครอบคลุมทั้ง supply chain ด้วยโรงกลั่นระดับ world class 2 แห่ง คือ
โรงกลั่นบางจาก พระโขนง และโรงกลั่นบางจาก ศรีราชา กำลังการผลิตรวมเกือบ 300,000 บาร์เรลต่อวัน
รวมทั้งมีบริษัท บีซีพี เทรดดิ้ง (BCPT) ในสิงคโปร์
ซึ่งมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญในตลาดโลก ดำเนินธุรกิจการค้าน้ำมันระหว่างประเทศในกว่า 20 ประเทศ กับคู่สัญญาทั่วโลกกว่า 100 ราย พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้พัฒนาธุรกิจสู่ความยั่งยืน (sustainable supplier) โดยการรับรองของ ISCC
(International Sustainability and Carbon Certification) แล้วยังได้จัดตั้งบริษัทกรุงเทพขนส่งเชื้อเพลิงทางท่อและโลจิสติกส์
(BFPL) ทำธุรกิจบริหารการขนส่งเชื้อเพลิงทางรถและเรือทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ
ต่อยอดการขยายคลังน้ำมันให้ครอบคลุมทั่วประเทศผ่านธุรกิจขนส่งเชื้อเพลิงทางท่อและโลจิสติกส์
กับลงทุนในธุรกิจผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืนหรือ SAF ผ่านบริษัทบีเอสจีเอฟ (BSGF) โดยผลิตจากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว
ธุรกิจสามารถตอบโจทย์สังคมโลกตามตั้งเป้าหมาย Net Zero ได้ในอนาคตอันใกล้นี้
สำหรับงาน A New Era Unfolds จัดขึ้นระหว่างการประชุมประจำปีของอุตสาหกรรมน้ำมันและพลังงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
(Asia Pacific Petroleum Conference APPEC 2023) ที่สิงคโปร์
เป็นงานสำคัญแห่งปีในการรวมตัวและร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของผู้บริหารบริษัทต่าง
ๆ ในอุตสาหกรรมน้ำมันและพลังงานและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง กับเครือข่ายธุรกิจระดับภูมิภาคและระดับโลก
ที่จะผนึกพลังกันขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพลังงานทางเลือกอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
ข่าวที่ 6 “TCEB-สกพอ”ดัน“EECFair”ต่อยอดจัดEEC
Expo 2025 ปี’68
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา
ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ทีเส็บได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
(สกพอ.) หรือ EEC :Eastern Economic Corridor และพันธมิตรเอกชน
จัดงาน EEC Cluster Fair 2023 ภายใต้แนวคิด
“Sustainable Destination Robotics, Automation and Beyond” ระหว่าง
6-8 กันยายน 2566 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินงนุช
พัทยา (NICE) ริเริ่มทำโมเดลจัดงานแสดงนิทรรศการและงานแสดงสินค้า
(Exhibition) ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve)
ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ปูพรมเตรียมความพร้อมรองรับจัดงานใหญ่
EEC Expo 2025 ปี 2568
ทีเส็บกับทางสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกร่วมมือกันต่อเนื่องด้านการผลักดันอุตสาหกรรมไมซ์ให้เป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจและกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นในพื้นที่อีอีซีซึ่งมีศักยภาพสูงมาก
โดยมีการเติบโตเพิ่มขึ้นทั้งนักเดินทางท่องเที่ยว นักธุรกิจ นักลงทุน และคนโยกย้ายเข้ามาอยู่อาศัยมากขึ้น
ผนวกกับพัทยาเป็นเมืองไมซ์ที่มีศักยภาพและพื้นที่มีความพร้อมด้วย ทีเส็บตั้งเป้าอนาคตจะยกระดับพัทยาซึ่เงป็ฯเมือง
ไมซ์ ซิตี้ ให้มีบทบาทดูแลพื้นที่ตลาดครอบคลุมอีอีซีทั้งหมดสนับสนุนแผนพัฒนาขระเบียงเศรษฐกิจตะวันออกได้อย่างแท้จริง
ในการนำร่องจัดงาน EEC Cluster Fair 2023 ทางทีเส็บกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
ยังได้ร่วมกับอีก 2 พันธมิตรระดับแถวหน้าของประเทศ ได้แก่ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ทำให้เป็นส่วนหนึ่งของงานทางเทคโนโลยีครอบคลุมทั้งทางด้านการซ่อมบำรุง
(Maintenance) อุตสาหกรรมโรโบติกส์ (Industrial
Robotics) and Automation (MiRA) รวมถึงงาน Subcon
EEC 2023
นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก “EEC” กล่าวว่า เป็นโอกาสดีที่ได้จัดงาน EEC
Cluster Fair 2023 และกิจกรรม EEC MICE Fam Trip เพื่อความรู้ความเข้าใจแก่สื่อมวลชน นักลงทุน และประชาชนทั่วไป
โดยเฉพาะด้านการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมคำนึงถึงการดูแลชุมชนและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่อีอีซี
เขตเศรษฐกิจที่ได้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้บริหารจัดการและการผลิต ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของหน่วยงานเกี่ยวข้องมุ่งพัฒนาทักษะบุคลากรเพื่อรองรับและดึงดูดการลงทุนกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายเข้าสู่อีอีซี
ทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศ ยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนอย่างยั่งยืน
ปัจจุบันอีอีซีถือเป็นหัวใจสำคัญทางยุทธศาสตร์ประเทศไทยของทุกรัฐบาล
ในการเดินหน้าปรับโครงสร้างและฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ เพื่อให้หลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางซึ่งไทยติดอยู่กับปัญหานี้มานานกว่าทศวรรษแล้ว
ส่วนการจัดกิจกรรม EEC MICE FAM TRIP : เปิดประสบการณ์ไมซ์ เปิดมิติใหม่ในพื้นที่อีอีซี ทางทีเส็บมุ่งสร้างประสบการณ์ไมซ์
เพื่อเชื่อมโยงแหล่งเรียนรู้ศึกษาดูงานทางด้านอุตสาหกรรมเป้าหมายของ EEC โดยมีไฮไลต์การเข้าเยี่ยมชม 2 พื้นที่ ได้แก่
พื้นที่แรก EEC Automation Park ศูนย์การเรียนรู้และพัฒนากำลังคนด้านออโตเมชั่นและหุ่นยนต์ภายในมหาวิทยาลัยบูรพา
โดยทางทีเส็บผลักดันและยกระดับเป็น “MICETROPOLIS :
มหานครแห่งไมซ์”
ด้วยความพร้อมของสถาบันการศึกษาที่สามารถพัฒนาหลักสูตรสมัยใหม่ทางเทคโนโลยีการผลิตร่วมกับเครือข่ายบริษัทชั้นนำจากต่างประเทศและในพื้นที่
EEC รวมทั้งยังสามารถจัดกิจกรรมฝึกอบรมทักษะวิชาชีพสร้างบุคลากรเข้าสู่อุตสาหกรรม
S-CURVE ได้อย่างต่อเนื่อง
พื้นที่ 2 เยี่ยมชมกิจการของ
บริษัท เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SNC ซึ่งมียอดส่งออกต่างประเทศทั่วโลกสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ไทยได้ปีละกว่า
20,000 ล้านบาท ปัจจุบันเป็นศูนย์รวมผลิตภัณฑ์และบริการแบบครบวงจรในพื้นที่กว่า
400 ไร่ โดยรับจ้างผลิต (OEM)
สินค้าเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมรถยนต์ เครื่องทำความเย็น เครื่องใช้ไฟฟ้า
และอิเล็กทรอนิคส์ต่าง ๆ
นอกจากนี้ทีเส็บยังได้เปิดประสบการณ์พิเศษนำเสนอเส้นทางสายไมซ์ตามโครงการ
Thailand 7 MICE Magnificent Themes ซึ่งเป็นกลไกสำคัญของอุตสาหกรรมไมซ์เชิงสร้างสรรค์ด้วยเช่นกันอีก
2 แห่ง ได้แก่
แห่งที่ 1 ชุมชนหนองปลาไหลพื้นที่ซึมซับวิถีชุมชนโดยยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีชาวนาภาคตะวันออกไว้ได้เป็นอย่างดี
แห่งที่ 2 หอศิลป์
ปิยะศิลปาคาร พัทยา สถานที่จัดแสดงภาพจิตรกรรมพระบรมสาทิสลักษณ์รัชกาลที่ 5
ซึ่งปัจจุบันปรับรูปแบบการใช้งานให้หลากหลายมากขึ้น ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวและนักเดินทางไมซ์ได้สัมผัสประสบการณ์ห้องจัดแสดงนิทรรศการภายในอาคาร
คาเฟ่ โรงเรียนสอนศิลปะ และเวทีจัดกิจกรรมกลางแจ้ง พร้อมเรื่องเล่าวิถีชาวประมงเรือเล็ก
บ้านนาจอมเทียน ของ Chef’s table Exclusive Dinner by TCEB X Pladids (ปลาดิษฐ์) ผ่านจานอาหารและวัฒนธรรมพื้นถิ่นตามฤดูกาล ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคุณค่าที่จะทำให้พัทยา
เป็นเมือง ไมซ์ ซิตี้ ที่ทรงพลังและยั่งยืน
ช่วงที่ 2 จัดเวลาออกเดินทางเที่ยวเมืองไทยใกล้ ๆ 3 พิกัด
“เกาะลัดอีแท่น” อ.สามพราน จ.นครปฐม “สมเด็จองค์พระปฐม” วัดแหลมสุวรรณาราม
จ.สมุทรสงคราม และ “พิพิธภัณฑ์ลุ่มน้ำป่าสัก” อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี แล้วฟัง “5อาหารบำรุงสมอง” ตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และข่าวฮ็อต ข่าวแรก
“บางกอกแอร์เวย์ส” เด้งรับฟรีวีซ่าขอสิทธิบินเพิ่มจีน2เมือง
ลุยร่วมขายอินเตอร์ไลน์โกยทัวร์อินเดีย ข่าวสอง “ไทยเวียตเจ็ท”แจกโปร 9.9 ขายตั๋วบินเริ่ม 699 บาท
ท่องเที่ยว
–Unseen“เกาะลัดอีแท่น/พระทรงเครื่องวัดแหลม/ลุ่มน้ำป่าสัก”
เที่ยวเมืองไทย วางแผนไปเช็คอิน Unseen New Chapters ภาคกลาง
เริ่มจากไปกระทบไหล่ทาร์ซานได้ที่ “เกาะลัดอีแท่น” สามพราน
จ.นครปฐม “สมเด็จองค์พระปฐม” พระพุทธสิขีจักรพรรดิมุนีสัมพุทธชยันตีศรีสาคร
วัดแหลมสุวรรณาราม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และ “พิพิธภัณฑ์ลุ่มน้ำป่าสัก”
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ย้อนไทม์ไลน์ลุ่มน้ำป่าสัก…อาณาจักรแห่งชีวิต อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี
ตามรายละเอียดดังนี้
พิกัดที่
1 ชุมชนเกาะลัดอีแท่น
อ.สามพราน จ.นครปฐม ภาคกลาง
“เกาะลัดอีแท่น”
เป็นแหล่งท่องเที่ยวเกษตรผสมผสานวัฒนธรรม
ต้นกำเนิดของส้มโอนครชัยศรี พันธุ์ขาวน้ำผึ้ง พันธุ์ทองดี และขนุนเหลืองบางเตย
มีกิจกรรมนั่งรถราง ปั่นจักรยาน ชมแหล่งท่องเที่ยวภายในชุมชน อาทิ ชม ชิม ช้อป
ที่สวนส้มโอ ไหว้พระที่วัดทรงคนอง ชมวัดเต๋าที่อารามไท่เสวียนก้วน
และที่หาดูได้ยากขึ้นทุกวัน
ไฮไลท์บนเกาะแห่งนี้ คือ
การปีนต้นหมากที่เรียกว่า “ตีต้น” เป็นวิธีการเก็บหมากแบบโบราณ
ซึ่งเราจะได้เห็นชาวบ้านปีนต้นหมากที่สูงราวต้นมะพร้าวด้วยมือเปล่าราวกับทาร์ซาน
แถมยังโชว์เทคนิคสุดเร้าใจ ด้วยการโผจากต้นหนึ่งข้ามไปยังอีกต้นหนึ่ง
สำหรับทาร์ซานเกาะลัดอีแท่น
จัดเป็นหนึ่งในของดีแห่งเกาะลัดอีแท่นที่ควรหาโอกาสมาชมดูสักครั้ง
สอบถามเพิ่มได้ที่ ททท.สำนักงานราชบุรี
โทร 0 3291 9176-8
พิกัดที่ 2
ตระการตาพระทรงเครื่อง…ความรุ่งเรืองแห่งท่าฉลอม สมเด็จองค์พระปฐม
พระพุทธสิขีจักรพรรดิมุนีสัมพุทธชยันตีศรีสาคร วัดแหลมสุวรรณาราม อ.เมือง
จ.สมุทรสาคร
สมเด็จองค์พระปฐมฯ วัดแหลมสุวรรณาราม
เป็น 1 ใน 9 พระพุทธรูปที่สร้างขึ้นทั่วประเทศ ณ
พื้นที่ซึ่งรัชกาลที่ 5 เคยเสด็จประพาส องค์พระมีลักษณะสูงสง่า
มาพร้อมความตระการตาของเครื่องทรง
ที่ตั้งใจตกแต่งให้ดูงดงามดุจมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่
ตามแบบฉบับของพระพุทธรูปปางทรมานพระยามหาชมพู (หรือปางโปรดพญาชมพูบดี) แถมยังสะท้อนความมั่งคั่งรุ่งเรืองของชุมชนจีนริมน้ำ
และด้วยความโดดเด่นนี้เอง ทำให้ ‘พระทรงเครื่อง’
กลายเป็นมุมซิกเนเจอร์ใหม่ของชุมชนท่าฉลอมแห่งแม่น้ำท่าจีน
สอบถามเพิ่มได้ที่ ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม
โทร 0 3475 2847-8
พิกัดที่ 3 ย้อนไทม์ไลน์ลุ่มน้ำป่าสัก…อาณาจักรแห่งชีวิต “พิพิธภัณฑ์ลุ่มน้ำป่าสัก”
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี
“พิพิธภัณฑ์ลุ่มน้ำป่าสัก”
เป็นส่วนหนึ่งในโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางด้านโบราณคดีและประวัติศาสตร์ของจังหวัดลพบุรี
จัดแสดงประวัติความเป็นมาของโครงการพัฒนาลุ่มน้ำป่าสัก รวมถึงมรดกทางวัฒนธรรมในพื้นที่เขื่อน
ซึ่งได้ขุดพบโบราณวัตถุอายุเกินกว่า 2,000 ปี อาทิ ถ้วยชามรามไห
ไปจนถึงโครงกระดูกมนุษย์รุ่นบุกเบิก
ซึ่งถือเป็นหลักฐานสำคัญในด้านโบราณคดีประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม การดำรงชีวิต
ตลอดจนสะท้อนให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของชุมชนในบริเวณนี้
และที่สำคัญสถานที่แห่งนี้เปิดให้เข้าชมฟรี แถมยังมีสินค้า OTOP ของดีของเด็ดจากชาวบ้านมาวางจำหน่ายด้านในอีกด้วย
สอบถามเพิ่มได้ที่ ททท.สำนักงานลพบุรี
โทร 0 3677 0096-7
สุขภาพ
–5 อาหารและเครื่องดื่มบำรุงสมองเพิ่มศักยภาพการทำงาน
อาหารและเครื่องดื่มบำรุงสมองเป็นหนึ่งในวิธีดูแลและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองที่หลาย
ๆ คนมองหา
เนื่องจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตในปัจจุบันของหลายคนอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของสมองได้โดยไม่รู้ตัว
ไม่ว่าจะเป็นความเหนื่อยล้าและความเครียดจากการเรียนหรือการทำงาน ไปจนถึงการนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ
ขอแนะนำวิธีการดูแลสมองอย่างง่าย
ๆ อย่างการเลือกอาหารและเครื่องดื่มบำรุงสมอง ที่คนทั่วไปสามารถทำได้ ด้วย “5 อาหารและเครื่องดื่มบำรุงสมอง”
ตัวช่วยดูแลสมองที่หาได้ใกล้ตัว จากตัวอย่างดังต่อไปนี้
1. ซุปไก่สกัด ประกอบไปด้วยอะมิโนไดเปปไทด์ (Amino dipeptide) อย่างแอนเซอรีน
(Anserine) และคาร์โนซีน (Carnosine) ซึ่งช่วยสร้างและซ่อมแซมส่วนต่าง
ๆ ของร่างกาย รวมถึงอาจมีส่วนช่วยชะลอการเสื่อมของร่างกายตามอายุได้อีกด้วย
รวมถึงมีแอนเซอรีนและคาร์โนซีนยังเป็นโมเลกุลขนาดเล็กที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่าย
โดยงานวิจัยบางชิ้นพบว่า การที่ร่างกายได้รับอะมิโน 2 ชนิดนี้อาจมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสื่อมสภาพของกระบวนการคิดและการรับรู้ของสมองได้
มีงานวิจัยพบว่าการดื่มซุปไก่สกัดเป็นประจำอาจมีส่วนช่วยให้เลือดในร่างกายไหลเวียนนำออกซิเจน
(Oxygen)
ไปเลี้ยงสมองส่วนหน้าได้ดีขึ้น
โดยเฉพาะสมองส่วนที่มีหน้าที่เกี่ยวกับระบบความจำและการควบคุมสมาธิ
ซึ่งเมื่อออกซิเจนไปเลี้ยงอย่างเพียงพอ การทำงานของสมองและระบบประสาทในด้านความจำและการคุมสมาธิก็อาจดีขึ้นได้
2. ขิง -เป็นพืชที่อุดมไปด้วยสารอาหารหลายชนิด
โดยในด้านประโยชน์ต่อสมอง มีงานวิจัยที่พบว่า
ขิงอาจมีส่วนช่วยป้องกันหรือลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่เกิดจากการเสื่อมของเซลล์ประสาท
(Neurodegenerative
Diseases) ได้ โดยตัวอย่างโรคในกลุ่มนี้ก็เช่น โรคพาร์กินสัน (Parkinson’s
Disease) หรือโรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer's Disease)
3. ธัญพืชเต็มเมล็ด -หรือธัญพืชไม่ขัดสี (Whole Grains) เช่น
ข้าวโอ๊ต ข้าวโพด หรือควินัว เป็นกลุ่มอาหารที่ให้สารอาหารดี ๆ มากมาย
โดยเฉพาะกลุ่มวิตามินบี ซึ่งเป็นกลุ่มวิตามินที่มีความสำคัญต่อระบบการทำงานของประสาทและสมอง
โดยวิตามินบีแต่ละชนิดก็จะให้ประโยชน์ต่อสมองที่แตกต่างกันไป เช่น
- วิตามินบี 3 เป็นวิตามินที่สำคัญต่อการทำงานของสมองในด้านความจำ
อีกทั้งยังมีงานวิจัยที่พบว่า วิตามินชนิดนี้อาจมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอัลไซเมอร์
รวมถึงอาจช่วยให้กระบวนการทำงานของสมองในด้านความคิด ความจำ
และการรับรู้ดีขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้นได้
- วิตามินบี 6 วิตามินบี 9
และวิตามินบี 12 อาจมีส่วนช่วยควบคุมระดับโฮโมซิสเทอีน
(Homocysteine) หรือโปรตีนชนิดหนึ่งที่หากมีการสะสมในร่างกายมากเกินไป
อาจส่งผลให้สมองและเซลล์ประสาทมีเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอจนเพิ่มความเสี่ยงให้ร่างกายเกิดภาวะสมองเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์ได้
4.น้ำมันมะพร้าว - เป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่อาจมีส่วนช่วยบำรุงสมองซึ่งทุกคนสามารถลองหามารับประทานได้
เนื่องจากในน้ำมันมะพร้าวจะมีสารอาหารหลัก ๆ
อย่างไขมันอิ่มตัวที่เป็นไตรกลีเซอไรด์สายยาวปานกลาง (Medium Chain Triglyceride: MCT) และสารที่ช่วยต้านการอักเสบอยู่มาก ซึ่งอาจมีส่วนช่วยบำรุงสมองในด้านกระบวนการคิด
ความจำ การรับรู้ และการตัดสินใจ
ปัจจุบันมีงานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์ต่อสมองของน้ำมันมะพร้าวค่อนข้างน้อย
และยังคงต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมถึงผลลัพธ์ที่แน่ชัด
5. โสม -เป็นพืชที่มักพบสารจินเซนโนไซด์ (Ginsenosides) และสารจินโทนิน
(Gintonin) อยู่มาก
โดยสารเหล่านี้ถือเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายในหลาย ๆ ด้าน
ซึ่งรวมถึงอวัยวะสำคัญอย่างสมองด้วยเช่นกัน
มีงานวิจัยบางชิ้นพบว่าการบริโภคโสมเป็นประจำติดต่อกันเป็นระยะเวลานานหลายปีอาจมีส่วนช่วยให้กระบวนการคิด
ความจำ หรือการตัดสินใจของสมองในช่วงที่เริ่มมีอายุมากขึ้นทำงานดีขึ้นได้
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
–บางกอกแอร์เด้งรับฟรีวีซ่าขอสิทธิ์บินเพิ่มจีน-บุกใหญ่อินเดีย
นายพุฒพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่
บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เปิดเผยว่า พร้อมขานรับนโยบายเปิดฟรีวีซ่าจีนของรัฐบาลใหม่ของนายเศรษฐา
ทวีสิน โดยกำลังขออนุมัติจากรัฐบาลจีนเปิดบิน ไป-กลับ เส้นทาง สมุย –ฉงชิ่ง
และสมุย – เฉิงตู หากการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าหรือฟรีวีซ่าเริ่มใช้ตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้จะส่งผลดีกับการท่องเที่ยวด้วย
ส่วนสถานการณ์ของบางกอกแอร์เวย์สปี
2566 เป็นไปตามแนวโน้มอุตสาหกรรมการบินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเติบโตมากสุดเฉลี่ย
125.6 % เพราะจีนเปิดประเทศ ส่งผลให้ไตรมาสที่ 1 และ 2 มีเที่ยวบิน 21,946 เที่ยว
เพิ่ม103% เมื่อเทียบกับปี 2565
แนวโน้มปี 2566 จะมีผู้โดยสารใช้บริการดีกว่าเป้าหมายเดิมตั้งไว้
4.4 ล้านคน แต่ครึ่งปีแรก 66 ทำได้แล้วกว่า 2 ล้านคน ด้วยอัตราบรรทุกผู้โดยสาร (Load
Factor) 81%
สูงกว่าเดิมคาดไว้เพียง 76%
รวมทั้งทำค่าบัตรโดยสาร “ครึ่งปีแรก” เติบโตเพิ่ม
3,642 บาท/ที่นั่ง ตลอดทั้งปีนี้จึงปรับเป้าหมายเฉลี่ยขยับขึ้นเป็น 3,700 บาท/ที่นั่ง
จากเดิม 3,400 บาท/ที่นั่ง
เตรียมปรับเป้ารายได้ใหม่เป็น 16,000 ล้านบาท จากเดิมตั้งไว้เพียง 15,000 ล้านบาท
ปรับขึ้นเพราะขณะนี้ทำรายได้ไปแล้วกว่า 7,389 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการมีแนวโน้มเป็นบวก
จึงคาดบริษัทจะลดขาดทุนสะสมที่มีกว่า 13,000 ล้านบาทได้ลงเร็วขึ้น
นายจุลิน
กอเจริญ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่
ฝ่ายบริหารเครือข่ายเส้นทางบินและพัฒนาผลิตภัณฑ์ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส บริษัท การบินกรุงเทพ
จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ได้นำสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ประกาศข้อตกลงร่วม (Interline
Partnership) กับสายการแอร์อินเดีย 2 เรื่องหลัก คือ
เรื่องที่ 1 การขนส่งผู้โดยสาร กระเป๋าสัมภาระ และตั๋วโดยสาร
ช่วยอำนวยความสะดวกการเดินทางผู้โดยสารแอร์อินเดียได้ใช้บริการบิน มากรุงเทพฯ
ฮ่องกง สิงคโปร์ ใช้บางกอกแอร์เวย์สบินเชื่อมต่อไปยังตามเส้นทางยอดนิยมอีก 10
จุดหมาย ในไทย สปป.ลาว กัมพูชา โดยผู้โดยสารของทั้ง 2 สายการบินสามารถรับตั๋วโดยสารจากสถานีต้นทางแบบใบเดียว (single
ticket) แล้วผ่านเกระเป๋าสัมภาระผ่านตรงไปยังปลายทางได้ (baggage
checked-through)
เรื่องที่
2 ลงนามข้อตกลงการกำหนดราคาตั๋วโดยสารสัดส่วนพิเศษ (Special
Prorate) อนุญาตให้ใช้ "through fares"
ในเส้นทางที่ครอบคลุมเครือข่ายของกันและกันได้ด้วย
นายจุลินกล่าวว่า แอร์อินเดีย คือสายการบินนานาชาติชั้นนำของอินเดียและมีชื่อเสียงระดับโลก
การลงนามขยายความร่วมมือในข้อตกลงเที่ยวบินร่วมครั้งนี้ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งด้านเครือข่ายเส้นทางบิน
และช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้กลุ่มตลาดนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวของทั้งแอร์อินเดียได้ใช้บริการบินเชื่อมต่อไปยังจุดหมายปลายทางใหม่
ๆ โดยได้รับการบริการเหนือระดับจากบางกอกแอร์เวย์ส ทั้งสิทธิพิเศษเข้าใช้บริการห้องรับรองผู้โดยสารที่สนามบินต่าง
ๆ การบริการอาหารบนเที่ยวบิน และอื่น ๆ
นายนิพัน อัครวาล ประธานบริหารสายงานพาณิชย์และการปฏิรูป
สายการบินแอร์อินเดีย กล่าวว่า
การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญที่ได้เสนอทางเลือกการเดินทางให้ผู้โดยสารได้บินสู่จุดหมายปลายทางต่างๆ
มากขึ้น ทั้งเที่ยวบินผ่านเครือข่ายแอร์อินเดียเองหรือพันธมิตรสายการบินที่มีอยู่ทั่วโลก
มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วบางกอกแอร์เวย์ส่งเสริมการบินเชื่อมต่อสู่ปลายทางในไทย
และเมืองอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในเมืองไทยผู้โดยสารของแอร์อินเดีย สามารถเดินทางเชื่อมต่อจากรุงเทพฯ ด้วยเที่ยวบินบางกอกแอร์เวย์ส
ได้ทั่วประเทศไปยัง เชียงใหม่ ลำปาง สุโขทัย ตราด เกาะสมุย และกระบี่ ส่วนระหว่างประเทศ
ผู้โดยสารของแอร์อินเดีย สามารถเชื่อมต่อจากรุงเทพฯ ด้วยบางกอกแอร์เวย์ส ไปยัง
หลวงพระบาง (ลาว) พนมเปญ และเสียมเรียบ (กัมพูชา) ยังสามารถเลือกเชื่อมต่อไปเกาะสมุย ผ่านสิงคโปร์
และฮ่องกง ได้ด้วย
ปัจจุบันแอร์อินเดียให้บริการเที่ยวบินตรงระหว่าง
1.กรุงเทพฯ – เดลี และมุมไบ
ทุกวัน หรือวันละ 1 เที่ยว 2.สิงคโปร์ – เดลี บินทุกวัน 3.สิงคโปร์ – มุมไบ
และเชนไน วันละ 2 เที่ยว 4.ฮ่องกง –
เดลี วันละ 3 เที่ยว
ข่าวที่สอง
-ไทยเวียตเจ็ทแจกโปร“9.9 Flash Deals”ตั๋วบินเริ่ม699บาท
สายการบินไทยเวียตเจ็ท รายงานว่า
จัดโปรโมชั่น “9.9 Flash Deals” ฉลองวันดับเบิลเดย์ประจำเดือนกันยายน 2566 เสนอขายตั๋วโดยสารราคาพิเศษ
“เส้นทางบินในประเทศ” เริ่มต้นเพียง 699 บาท (ราคารวมภาษีและค่าธรรมเนียม)
เริ่มวันนี้ – 9 กันยายน 2566 แล้วนำไปใช้เดินทางได้ตั้งแต่
16 กันยายน 2566 – 30
เมษายน 2567 และ “ตั๋วโดยสารเส้นทางบินระหว่างประเทศ”
เริ่มต้นเพียง 1,699 บาท สามารถจองซื้อได้ตั้งแต่ – 11
กันยายน 2566 แล้วนำไปใช้เดินทางได้ตั้งแต่ 1
ตุลาคม 2566 – 30 เมษายน 2567 (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
ที่ www.vietjetair.com
ไทยเวียตเจ็ทเปิดให้นำตั๋วโปรโมชั่นดังกล่าว
ใช้เครือข่ายบินภายในไทย ไป-กลับ กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) บินตรงสู่จังหวัดปลายทาง 10 แห่ง
คือ เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต กระบี่ หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี อุดรธานี ขอนแก่น และอุบลราชธานี และบินในประเทศข้ามภูมิภาคจาก ภูเก็ต สู่ เชียงใหม่ และเชียงราย
รวมทั้งเส้นทางบินระหว่างประเทศ
ได้แก่ ไป-กลับ กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่ประเทศปลายทางอย่างน้อย 5 ประเทศ คือ เวียดนาม พนมเปญ (กัมพูชา)
สิงคโปร์ ฟูกุโอกะ(ญี่ปุ่น) และไทเป (ไต้หวัน)
รวมทั้งเที่ยวบินตรงจาก
เชียงใหม่ สู่ โอซาก้า (ญี่ปุ่น) ผู้โดยสารจองซื้อตั๋วโดยสารราคาพิเศษนี้ได้ที่เว็บไซต์ www.vietjetair.com แอปพลิเคชัน
“Vietjet Air” หรือ www.facebook.com/VietJetThailand (คลิกที่แถบ
“จองเลย”) รวมทั้งตัวแทนหรือสำนักงานจำหน่ายบัตรโดยสาร พร้อมเปิดให้ผู้โดยสารชำระเงินด้วย
“ทรูมันนี่ วอลเล็ท” และบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต ได้ด้วย
ปัจจุบันไทยเวียตเจ็ทให้บริการในประเทศครอบคลุมปลายทางยอดนิยม
10 เส้นทาง จากกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่
เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต กระบี่
อุดรธานี หาดใหญ่ ขอนแก่น อุบลราชธานี และสุราษฎร์ธานี และเส้นทางบินข้ามภูมิภาค
จาก ภูเก็ต สู่ เชียงใหม่ ส่วน “เส้นทางบินระหว่างประเทศ” มีให้เลือกหลากหลายในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
เป็นเครือข่ายเที่ยวบินเชื่อมระหว่าง
ระหว่างไทยกับเวียดนาม สิงคโปร์ กัมพูชา ญี่ปุ่น ไทเป และอีกหลายจุดหมายปลายทาง
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น