ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.พังงาชวนเที่ยวไฮซีซันปี2566


อุทิศ ลิ่มสกุล
ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพังงา


ททท.บูมเที่ยวไฮซีซันพังงาปลายปี66-67สุขทันที4เทรนด์

จัดเต็ม3โครงการเพิ่มรายได้“หรอยแรง365วัน-วันธรรมดา”

ปี67บูม4บิ๊กอีเวนต์“ตรุษจีน/ปล่อยเต่า/วิ่งเทรล/เทศกาลเจ

คิงเพาเวอร์ชวนลุ้นรับบัตรคอนเสิร์ตเจฟซาเตอร์22ธ.ค.นี้

ช้อปดีลดีคิงเพาเวอร์12.12กับDouble Day Double Deals

คิงเพาเวอร์จัดคริสต์มาส/ปีใหม่ช้อปGIFTSETแบรนด์ดัง

ททท.บูมสุขทันทีที่เมืองรอง-บิ๊กซี525สาขาแจกทั่วไทย

บางจาก-คอสโมออยล์รุกตลาดน้ำมันSAFชูการบินยั่งยืน

BCPGขาย9โซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่นนำหมื่นล้านต่อยอดธุรกิจ

หนาวนี้สุขทันทีที่ได้เที่ยวภูกระดึงสัมผัสธรรมชาติ 7พิกัด

7วิธีรับมือกับโรคที่มากับหน้าหนาวดูแลสุขภาพแข็งแรง

มิชลินปี’67เพิ่มร้านอาหารบิบกูร์มองด์196ร้านชูเที่ยวไทย

ททท.ต่อยอดสงกรานต์ไทยมรดกโลกรับ3นโยบายใหม่

 

วันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม  2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก #สงกรานต์ไทยมรดกโลก  #ทททพังงา

 

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... ps://fb.watch/oPESjwdZKa/?mibextid=Nif5oz

 

ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ “อุทิศ ลิ่มสกุล” ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพังงา กระตุ้นไฮซีซันข้ามปี  4 จุดขาย “เที่ยวทะเล-ตามรอยหนัง-อาหารถิ่นบวกมิชลิน-ถนนสายวัฒนธรรม” เพิ่มรายได้ปี67 จาก 3 โครงการเด่น 1.หรอยให้สุดหยุดที่พังงา เที่ยว 365 วัน หรอยต้องพังงา 2. Phang-nga Amazing Even More 3.เที่ยวพังงา วันธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา ธ.ค.นี้จัดมหกรรมกาแฟ เลิฟเวอร์ ทุกสัปดาห์ ปีหน้าผนึกเอกชนลุย 4 บิ๊กอีเวนต์ ตรุษจีน ปล่อยเต่า วิ่งเทรล กินเจ

 

นายอุทิศ ลิ่มสกุล ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพังงา เปิดเผยว่า วางกลยุทธ์ทำตลาดการท่องเที่ยวไตรมาสที่ 4 ปี 2566 ฤดูท่องเที่ยวไฮซีซัน ยอดนิยมของคนไทยและนานาชาติ โดยมี  “แหล่งท่องเที่ยวกระแสหลัก” 4-5 พื้นที่ ได้แก่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน หมู่เกาะสุรินทร์ เกาะผ้าเป็น Unseen New Chapters เปิดมาตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม 2566-15 พฤษภาคม 2567 และเกาะพระทองเดินทางได้ตลอดทั้งปี “แหล่งท่องเที่ยวเทรนด์ใหม่” แคมปิ้ง ริมทะเล ภูเขา กับ “พื้นที่ชมดาว” ตอนนี้เป็นกระแสทั่วพังงามีรวมทั้งหมด 15 แห่ง ได้แก่ อ่าวพังงา ตามสถานที่ภูเขาต่าง ๆ และได้ขึ้นทะเบียนปีนี้มีจังหวัดเดียวในภาคใต้เป็น DARK SKY เรียบร้อยแล้ว ไฮไลต์อยู่ตรง “เสม็ดนางชี” สวยงามมากที่สุด สามารถดวงดาวทางช้างเผือก ฝนดาวตก พระอาทิตย์ขึ้นและตกวิวตรงอ่าวพะงันมีช่างภาพมืออาชีพจำนวนมากมาเก็บภาพสวย ๆ ไว้ตลอด

 

กิจกรรมท่องเที่ยวพังงาที่จะสร้างสรรค์ขึ้นมากระตุ้นการเดินทาง ได้แก่

1.หมู่เกาะสิมิลัน  มีปะการัง หิน เป็นแหล่งดำน้ำใต้ทะเลสวยงามมาก ได้ยกระดับเป็นแพกเกจการท่องเที่ยวดำน้ำลึก Scuba Dive มีบริษัทดำน้ำในพังงาหลายแห่งผลิตแพกเกจขาย

2.ถนนคนเดินและถนนสายวัฒนธรรม ทำโปรแกรมรายการนำเที่ยวไว้ให้เลือก ทั้ง ถนนสายวัฒนธรรมตะกั่วป่า เปิดแล้วทุกวันอาทิตย์ เริ่มแล้วเมื่อว 3 ธันวาคม 2566 จะเปิดต่อเนื่องทุกวันอาทิตย์ตั้งแต่ 15.00-20.00 น. และตลาดลองแล ททท.สำนักงานพังงานำเสนอเป็นกรีน มาร์เก็ต ครบรอบ 6 ปี โดดเด่นเรื่องวิถีชีวิตอาหารชุมชน

 

สำหรับ “ราคาห้องพักโรงแรมในพังงา” ขณะนี้พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่ผู้ประกอบการให้ข้อมูลนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เปลี่ยนวิธีจองช่วงกระชั้นชิดหรือจองล่วงหน้าสั้นลง เดือนธันวาคมนี้มียอดจองไหลเข้ามาต่อเนื่อง แนวโน้มจะหนาแน่นตอนวันหยุดคริสต์มาส ต่อเนื่องถึงกุมภาพันธ์ 2567 มีห้องพักพร้อมรองรับให้เลือกได้รวมทั้งสิ้นประมาณ 15,000 ห้อง กระจุกตัวอยู่บริเวณเขาหลัก กับชายทะเลนาใต้ ไม่ไกลจากสนามบินภูเก็ต และเกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่

 

ปี 2567 ททท.พังงาวางแผนเพิ่มเป้าหมาย “รายได้” ตามกลยุทธ์ตลาดในประเทศเน้นภาพรวม 1 ล้านล้านบาท จำนวน 200 ล้านคน-ครั้ง ใช้จ่ายเฉลี่ย 4,000 บาท/คน/ทริป ภายใต้จุดขายในคอนเซปต์ “365 วัน เมืองไทยเที่ยวได้ทุกวัน” ตลอดทั้งปี จึงร่วมกับทางสมาคมท่องเที่ยวในพื้นที่ ภาครัฐ เอกชน จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวก และคัดเลือกกิจรรมประเภทสินค้าเสนอขาย ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว

แผนส่งเสริมตลาดการขายการท่องเที่ยวพังงา แบ่งเป็น “ไฮซีซัน” ระหว่างเดือนธันวาคม-มีนาคม จะเน้นการนำเสนอ 4 จุดขายเด่น ๆ ได้แก่

จุดขายที่ 1 การท่องเที่ยวทางทะเล” เป็นหลัก ซึ่งท่องเที่ยวได้ต่อเนื่อง 6 เดือน/ปี แล้วจากนั้นจะปิดเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ “ฤดูร้อน” จัดมหกรรมท่องเที่ยวสวนผลไม้ มีชื่อเสียงทุเรียนสาริกา กับมังคุดผลไม้ GI สามารถสร้างกระแสดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มทุเรียน เลิฟเวอร์ “ฤดูฝน” การท่องเที่ยวธรรมชาติ วางจุดขายเป็นเมือง Surf Town มีนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติเข้ามาทำกิจกรรมจำนวนมาก บริเวณเขาหลัก กับหาด Memory ช่วงมิถุนายน-พฤศจิกายน ของทุกปี พร้อมกับจัดการแข่งขันในประเทศ และปี 2566 ยกระดับการแข่งขันเป็นนานาชาติในชื่อ “เขาหลัก อินเตอร์เนชั่นแนล เซิร์ฟ” ซึ่งมีนักเล่นเซิร์ฟตอบรับเป็นอย่างดีจากตลาดต่างประเทศทั้งระยะใกล้และไกล

 

จุดขายที่ 2 อาหาร/Food เป็นหนึ่งในซอฟท์ เพาเวอร์ โดยมีร้านอาหารที่ได้รับรางวัลมิชลิน ทุกปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันรวมแล้ว 24 ร้าน กระจายอยู่ในอำเภอเมือง ตะกั่วป่า และเขาหลัก นักท่องเที่ยวสามารถเลือกมาชิมได้

 

จุดขายที่ 3 ตามรอยภาพยนตร์มีชื่อเสียงแหล่งท่องเที่ยวเขาพิงกัน อ่าวพังงา เกาะตาปู ซึ่งใช้เป็นฉากถ่ายทำ The Man with The Gun เมื่อปี 1974

 

จุดขายที่ 4 ถนนสายวัฒนธรรม ถ่ายทอดเรื่องราววิถีชีวิตผ่านตลาดทั้งหมดของพังงา เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ครอบคลุมทุกพื้นที่ ผนวกกับแหล่งท่องเที่ยวชุมชนทั่วพังงาก็มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นท่องเที่ยวชุมชนทะเลชายฝั่ง บนเกาะ รวมถึงบนแผ่นดินใหญ่ มีความโดดเด่นแตกต่างกันไป โดยเฉพาะ บ้านท่าดินแดงเขาใหญ่ ชุมชนเกาะยาวใหญ่ ชุมชนท่องเที่ยวโคกไคลซึ่งมีสปาโคลนมีขีดความสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้วันละ 45 คน มาพักยาว 15 วัน

 

ททท.พังงาได้เพิ่มกิจกรรมให้มีความหลากหลายเพื่อจะเป็นพลังกระตุ้น “รายได้” เข้าสู่พื้นที่ สถิติปี 2562 ผู้เยี่ยมเยือนพังงาใช้จ่ายเงินเฉลี่ย 5,327 บาท/คน/วัน แบ่งเป็น ต่างชาติใช้จ่ายเฉลี่ย 5,824 บาท/คน/วัน คนไทย ใช้จ่ายเฉลี่ย 3,334 บาท/คน/วัน และสถิติระหว่างมกราคม-ตุลาคม 2566  พบผู้เยี่ยมเยือนคนไทย 37.56 % ต่างชาติ 62.44 % ทำอัตราพักเฉลี่ยได้ 60.73 % นักท่องเที่ยวโดยรวมใช้จ่ายเงินเฉลี่ย 4,600 บาท/คน/วัน คนไทย 3,500 บาท/คน/วัน ต่างชาติ 6,300 บาท/คน/วัน

ปี 2567 ททท.พังงาตั้งเป้าจะกระตุ้นค่าใช้จ่ายเพิ่มรายได้ภาพรวมตลอดทั้งปีผ่าน 3โครงการ ได้แก่

โครงการที่ 1 หรอยให้สุดหยุดที่พังงา เที่ยว 365 วัน หรอยต้องพังงา เจาะกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มแรก นักท่องเที่ยวที่หลงรักกีฬา Sport Lover กลุ่มสอง ผู้สูงวัยใจเกินร้อย Active Senior

 

โครงการที่ 2 Phang-nga Amazing Event More กลุ่มเป้าหมายเป็นต่างชาติที่เดินทางเข้าออกผ่านช่องทางระหว่างประเทศ รวมถึงต่างชาติที่พำนักอยู่ในไทย (expat) เป็นการกระจายสร้างสมดุลในพื้นที่ นอกจากกิจกรรมทางการท่องเที่ยวแล้วยังมีการเสนอความพิเศษต่าง ๆ เพื่อให้พังงาเป็นจุดหมายปลายทางเข้าถึงการท่องเที่ยวได้ง่ายมากขึ้น

 

โครงการที่ 3 เที่ยวพังงา วันธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา จะกระตุ้นคนไทยเที่ยวพังงาช่วงวันจันทร์-ศุกร์ เน้นเจาะกลุ่มท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (incentive) จัด Outing จะนำเสนอโรงแรมที่พัก สถานที่แคมปิ้ง ร้านอาหารต่าง ๆ ทั้งร้านอาหารถิ่น มิชลิน คาเฟ่เก๋ ๆ

 

ผอ.อุทิศ กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐบาลให้แต่ละพื้นที่เน้นจุดขายงานเทศกาล โดยมีภาครัฐ เอกชน จัดขึ้น เพื่อสร้างบรรยากาศกระตุ้นนักท่องเที่ยวออกมาใช้จ่ายเงินจับจ่ายใช้สอย สัมผัสวิถีชีวิต วัฒนธรรม ของชาวพังงา ตลอดปี 2567 จะจัดกิจกรรมตลอดทุกเดือน เริ่มจากไตรมาสที่ 4 ปีนี้ เช่น เทศกาลแรก พังงา อินเตอร์เนชั่นแนล เทรล เพิ่งจัดไปเมื่อต้นเดือนธันวาคม เทศกาล 2 พังงา บอลลูน อินเตอร์เนชั่นแนล เฟสต้า จัดวันที่ 21-23 ธันวาคม นี้ ที่เขาหลัก เทศกาล 3 มิวสิค ออน เดอะ บีช พังงา จัดที่หนองบูรตะกั่ว เขาหลัก

 

นอกจากนี้ยังได้ขยายกลุ่มคนไทยใหม่ ๆ เข้าพื้นที่ กลุ่มกาแฟ เลิฟเวอร์ กับกลุ่มไลฟ์สไตล์ จัดทำอีเวนต์เดือนธันวาคมของทุกปี ปีละ 4 ครั้ง ครั้งแรกจัดไปแล้วเมื่อ 2 ธันวาคม ที่อุทยานแห่งชาติเขาตาปี ครั้งที่สอง วันที่ 9 ธันวาคม ที่หาดนางทอง เขาหลัก ครั้งที่สาม วันที่ 16 ธันวาคม จัดที่สวนสมเด็จในอำเภอเมือง ครั้งที่สี่ วันที่ 23 ธันวาคม นี้ จัดย่านเมืองเก่าตะกั่วป่า

 

ปี 2567 ได้หารือกับภาคเอกชนกระตุ้นด้วยกิจกรรมไฮไลต์เป็นอีเวนต์ใหญ่ ได้แก่ งานตรุษจีนย่านเมืองเก่าตะกั่วป่า งานประเพณีปล่อยเต่าหาดท้ายเหมืองช่วงเดือนเมษายน งานเซิร์ฟระหว่าง มิถุนายน-สิงหาคม งานวิ่งเทรล 5 เส้นทาง 5 เดือน ระหว่างพฤษภาคม-พฤศจิกายน   งานประเพณีถือศีลกินผักพังงาเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นงานที่นักท่องเที่ยวและช่างภาพต่างชาติเข้าร่วมจำนวนมาก และงานอินเตอร์เนชั่นแนล มาราธอน เดือนธันวาคม

 

ผอ.อุทิศย้ำว่า พังงาเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงทางการท่องเที่ยวมีความหลากหลายสวยงาม เป็นเมืองแห่งความสุขติดอันดับ 2 ของประเทศ รองจากแม่ฮ่องสอน และเว็บไซต์ชั้นนำ booking.com เปิดโหวตจนพังงาได้รับเสียงสนับสนุนให้เป็นเมืองที่ดีที่สุดของประเทศไทย และเมืองชายหาดสวยงามอันดับ 21 ของโลก จึงอยากเชิญชวนคนไทยที่กำลังมองหาจุดหมายปลายทางความสุขช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ รับแสงอาทิตย์แรกแห่งปีด้วยกัน

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์ชวนลุ้นรับบัตรคอนเสิร์ตเจฟซาเตอร์22ธ.ค.

 

คิง เพาเวอร์ ชวนแฟนคลับ “เจฟ ซาเตอร์” ห้ามพลาดลุ้นเป็นผู้โชคดี รับบัตรคอนเสิร์ต A NIGHT OF ENDLESS POSSIBILITIES WITH JEFF SATUR มากถึง 20 รางวัล โดยเปิดให้แฟนคลับได้ร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันนี้ – 14 ธันวาคม 2566 รอฟังรายชื่อผู้โชคดีได้เลยวันที่ 15 ธันวาคม 2566 เวลา 14.00 น.  ผ่านทาง TikTok kingpower_official  

 

แล้วนำมาสนุกสนานกับคอนเสิร์ต “เจฟ ซาเตอร์” ได้ในวันที่ 22 ธันวาคม 2566 เตรียมจัดเต็มคาราเบลเวลา 19:00 น. ที่ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ (รางน้ำ)

 

วิธีการร่วมสนุกง่าย ๆ ได้ความบันเทิงครบเพียงแค่ 2 ขั้นตอน

 

1. แชร์ทริปท่องเที่ยวสุดประทับใจ ผ่านฟีเจอร์ Add yours และ ใช้เพลง “อยากรู้จักไม่รู้จบ” เป็นเพลงประกอบคลิป ในช่องทาง TikTok  

 

2. ตั้งค่าโพสต์ให้เป็นสาธารณะ พร้อมติด Hashtag ให้ครบ #KingPowerMiniConcertxJeff #เป็นไปได้ไม่รู้จบ #KingPower  

 

ข่าวที่ 2 ช้อปดีลดีคิงเพาเวอร์12.12กับ Double Day Double Deals

 

เตรียมตัวช้อป คิง เพาเวอร์  12.12 วันที่ 12 ธันวาคม 2566 วันเดียวสุดคุ้มสุด ๆ มาแล้ว กับแคมเปญ Double Day Double Deals ยิ่งช้อปยิ่งคุ้มมีอยู่จริง ดีลดี วันนี้ - 12 ธันวาคม 2566 เลือกได้จบครบทางคิง เพาเวอร์ ออนไลน์ที่เดียว

 

ตอนนี้ได้รวบรวมไอเทมขายดีมีทั้ง สกินแคร์ น้ำหอม เครื่องสำอาง แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ และอื่น ๆ จะสิ้นปีแล้วต้องช้อปแบบสบายกระเป๋าอย่างคุ้มค่าเงินทุกบาททุกสตางค์ ลดขนาดนี้ กดช้อปด่วน ๆ ได้ทุกวัน

           

สำหรับสินค้าดิวตี้ฟรีสุดฮอต มีไฟลต์บินแล้วรีบเลย!  พร้อมรับสินค้าที่สนามบิน ช้อปได้ทั้งขาเข้าและขาออก แล้วก็แนะนำใช้สิทธิให้ครบ 5 อย่าง คือ 1.แบ่งชำระ 0%  นานสูงสุดถึง 10 เดือน 2. รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 11,000 บาท 3.ฟรี! ของสมนาคุณสุดพิเศษ จากแบรนด์ดัง (ของแถมมีจำนวนจำกัดและอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า) 4.รับเลย! ส่วนลด 200 บาท เมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์ 5.รับสิทธิ์การสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท (สุทธิ)

 

ข่าวที่ 3 คิงเพาเวอร์จัดคริสต์มาส/ปีใหม่ช้อป GIFTSETแบรนด์ดัง

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดเต็มให้มาร่วมฉลองเทศกาลสำคัญคริสต์มาส-ปีใหม่ “CHRISTMAS & NEW YEAR'S GIFT” ในช่วงเวลาแห่งความสุขก่อนหยุดยาว จึงได้จัดสินค้า GIFTSET ไว้ต้อนรับคริสต์มาสและปีใหม่ เริ่มตั้งแต่วันนี้- 2 มกราคม 2567  คลิกเข้ามาเลือกซื้อฝากเป็นของขวัญให้คนพิเศษที่ คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ www.kingpower.com

 

สินค้า GIFTSET  แบรนด์ดัง คัดมาแล้วทั้งน้ำหอมเครื่องสำอาง  รวมถึงสินค้าแฟชั่นอย่าง แว่นตา นาฬิกา กระเป๋า  ที่ทุกคนต้องร้องว้าวอย่างแน่นอน

 

จะซื้อใช้เองหรือซื้อให้เป็นของขวัญก็แฮปปี้สุดๆ รีบไปจัดด่วน แล้วรอรับของที่สนามบินได้ทั้งขาเข้าและขาออก กับสินค้า Duty Free สุดฮอต มีไฟลต์บินแล้วรีบเลย!

 

ข่าวที่ 4 ททท.บูมสุขทันทีที่เมืองรองบิ๊กซี525สาขาแจกทั่วไทย

 

นางสาวสมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. โครงการ “สุขทันที ที่เมืองรอง” ร่วมกับ 3 พันธมิตรหลัก บริษัท อมรินทร์ เทเลวิชั่น จำกัด บริษัท บิ๊กซี  ซูเปอร์เซนเตอร์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ทีวีแอลเค เซอร์วิสเซส จำกัด (Traveloka) เดินหน้าส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวเมืองท่องเที่ยวตามจังหวัดรองทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิด “เปิดประสบการณ์ใหม่...เที่ยวเมืองรองมิรู้ลืม” เน้นนำเสนอขายการท่องเที่ยวอาหารถิ่นจานอร่อย 5 ภาค พร้อมช้อปปิ้ง ใช้กลยุทธ์แลกพอยต์รับสิทธิพิเศษทั่วประเทศใน 55 เมืองรอง สร้างกระแสการเดินทางท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) จูงใจชีวิตนี้ต้องกินสักครั้งพร้อมกับลิ้มรสและรับรู้อัตลักษณ์วัฒนธรรมอาหารแต่ละพื้นที่ด้วยตนเอง

  

ตั้งเป้าใช้โครงการ “สุขทันที ที่เมืองรอง” รุกเจาะนักท่องเที่ยวคุณภาพกลุ่ม คนรุ่นใหม่ วัยทำงาน ครอบครัว หันมาเลือกเที่ยวพื้นที่เมืองรอง โดย สร้างแรงจูงใจด้วย 2 กลยุทธ์ คือ

 

กลยุทธ์ที่ 1 ททท. กับ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ให้สิทธิพิเศษส่วนลดการจองที่พักและใช้จ่ายซื้อสินค้าในบิ๊กซี สนับสนุนและกระจายรายได้ไปยังผู้ประกอบการร้านอาหารรายย่อยตามเมืองรอง โดยสแกนผ่านแอปพลิเคชั่น Big C Plus ด้วยการแลกรับสิทธิประโยชน์ระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวในเมืองรอง 55 จังหวัด เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีตอบสนองพฤติกรรมคนยุคใหม่ และกระจายนักท่องเที่ยวให้มากที่สุด รวมทั้งกระตุ้นนักท่องเที่ยวเพิ่มทั้งการใช้จ่ายเงินและเพิ่มวันพักค้างคืน ทำให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นมีรายได้เข้าไปขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศอย่างยั่งยืน

 

กลยุทธ์ที่ 2 ททท.จับมือกับ บริษัท อมรินทร์ เทเลวิชั่น จำกัด ร่วมประชาสัมพันธ์โครงการโดยนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวเมืองรอง ด้านความงดงามและมีเอกลักษณ์หลากหลายมิติ กระตุ้นการเดินทางผ่านสื่อโทรทัศน์และสื่อออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ

 

นางสาวสมฤดี กล่าวว่า กิจกรรมการซื้อสินค้าในห้างสรรพสินค้า Big C นักท่องเที่ยวสามารถแลก Point ผ่านแอปพลิเคชั่น Big C plus / Line Big C TH / USSD (โปรโตคอล) เพื่อรับส่วนลดและสิทธิประโยชน์นำไปใช้ในการท่องเที่ยวและรับประทานอาหารได้อย่างสุดคุ้ม ผู้ที่เข้าร่วมโครงการ “สุขทันที ที่เมืองรอง” จะใช้สิทธิ์ได้ต้องเป็นสมาชิกของ Big C และทำการแลกพอยท์ เพื่อรับ โค้ด ส่วนลดผ่านช่องทางที่กำหนดเท่านั้น ระยะเวลาร่วมกิจกรรม ตั้งแต่วันนี้ - 30 เมษายน 2567 ตามเงื่อนไขการรับสิทธิ์ได้ 2 วิธี ได้แก่

 

วิธีที่ 1 แลก 9 พอยท์ เพื่อรับโค้ดส่วนลดมูลค่า 100 บาท นำไปจองโรงแรมที่พักในเมืองรองที่เข้าโครงการ ผ่านเว็บไซต์ https://www.traveloka.com/en-th/promotion/secondcitymusttry และแอปพลิเคชัน Traveloka โดยกรอกโค้ดส่วนลดที่หน้าชำระเงิน ตลอดแคมเปญให้ 2,000 สิทธิ์  วิธีที่ 2 แลก 9 พอยท์ เพื่อรับคูปองส่วนลดมูลค่า 30 บาท ไปใช้ซื้ออาหารและเครื่องดื่มที่ร้านอาหารร่วมโครงการฯ ในเมืองรอง 55 จังหวัด จำนวน 16,000 สิทธิ์

 

ทางบิ๊กซียังมอบส่วนลดอีก 100 บาท เมื่อซื้อสินค้าขั้นต่ำ 1,200 บาท และร่วมสนุกเล่นเกมตอบคำถามทายชื่ออาหารถิ่น รับคูปองส่วนลดมูลค่า 100 บาท นำไปใช้เป็นส่วนลดได้ที่เคาน์เตอร์ชำระเงินของBig C ทั่วประเทศ 55 เมืองรองกว่า 525 สาขา ได้อีก 10,000 สิทธิ์  

 

สำหรับงานเปิดตัวโครงการ “สุขทันที ที่เมืองรอง” วันที่ 7 ธันวาคม 2566 มีผู้บริหารตัวแทนพันธมิตรเข้าร่วม ได้แก่ นางสาวสมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ ททท. นางบุษยา ยินดีสุข รองประธานเจ้าหน้าที่สายธุรกิจบริหารคุณค่าลูกค้า บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) นางสาวกวินทรา บุญเทพ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขายโฆษณา บริษัท อมรินทร์ เทเลวิชั่น จำกัด  

 

ข่าวที่ 5 บางจาก-คอสโมออยล์รุกตลาดน้ำมันSAFชูการบินยั่งยืน

 

 

นายปฏิวัติ ทิวะศะศิธร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ-โรงกลั่น กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในนามของบริษัท บีซีพี เทรดดิ้ง จำกัด ในกลุ่มบริษัทบางจาก นำ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับ มิสเตอร์ ยาซูฮิโร ซูซูกิ ประธาน บริษัท คอสโม ออยล์ จำกัด ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ประกาศเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ครอบคลุมการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) ซึ่งผลิตโดยบางจากฯ ให้คอสโมออยล์นำเข้าสู่ตลาดญี่ปุ่นนับเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมพลังงานไทย

 

ความร่วมมือครั้งนี้สืบเนื่องจากการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างบางจากฯ และคอสโม ออยล์เมื่อ 27 มีนาคม 2566 ร่วมกันศึกษาแนวทางการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน  ครอบคลุมการนำเข้าและใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่คอสโม ออยล์ รับจากบางจากฯ ได้แก่ SAF ไบโอแนฟทา และไบโอเอทานอล ขณะเดียวกันทั้ง 2 บริษัท มีแผนร่วมศึกษาการใช้ประโยชน์และการขนส่งไฮโดรเจนคาร์บอนต่ำ กับเทคโนโลยีการดักจับ การกักเก็บและใช้ประโยชน์จากคาร์บอน (Carbon Capture, Utilization, and Storage - CCUS) และน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานด้วย

 

ด้วยศักยภาพของ บางจากฯ คือบริษัทบุกเบิกธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืนในประเทศไทย ได้ประกาศแผนดำเนินการผลิต SAF ตั้งแต่กันยายน 2565 ก่อสร้างหน่วยผลิต SAF จากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วที่โรงกลั่นบางจาก พระโขนง กรุงเทพฯ ด้วยกำลังการผลิตวันละ 1,000,000 ลิตร คาดจะเริ่มเปิดดำเนินการได้ช่วงปลายปี 2567 เป็นต้นไป โดยจะมี SAF ผลิตได้ในสัดส่วนสำคัญจำนวนหนึ่งจะส่งออกให้คอสโม ออยล์ ญี่ปุ่น ตามข้อตกลงการลงนามร่วมกันเป็นเวลา 10 ปี

 

ทางด้าน คอสโม ออยล์ มีเป้าหมายจัดหา SAF ภายในปี 2573 ให้ได้ปีละ 300,000 กิโลลิตร ดังนั้นความร่วมมือเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับบางจากฯ ครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มอุปทานการจัดหา SAF ให้หลากหลายมากขึ้น สอดคล้องกับเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ทั้งผลิตด้วยตนเองและร่วมมือกับแหล่งผลิตในต่างประเทศ

 

รวมถึงทั้ง 2 บริษัทต่างแสดงความมุ่งมั่นจะเดินหน้าศึกษาวิจัยเรื่องที่สนใจร่วมกันอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งนำองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่ได้มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ ภายใต้วิสัยทัศน์ร่วมกันผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างยั่งยืน และการศึกษาที่หลากหลายเพื่อเร่งกระบวนการสำคัญลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศควบคู่กันไปด้วย  

 

นายปฏิวัติ กล่าวว่าการลงนามกรอบความตกลงการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน ถือเป็นก้าวสำคัญในการเป็นพันธมิตรระหว่างบางจากฯ กับคอสโมออยล์ ในการต่อยอดความร่วมมือใกล้ชิดกันยาวนานกว่าทศวรรษ จนเกิดเป็นรูปธรรมจากความทุ่มเทของสององค์กรมุ่งสู่อนาคตผลิตพลังงานสะอาดยิ่งขึ้น ทางบางจากฯ ได้บุกเบิกเชิงกลยุทธ์ผลิตและจำหน่าย SAF จากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว มุ่งมั่นสร้างนวัตกรรมพลังงานสีเขียวผลิต SAF ให้ได้ปริมาณวันละ 1,000,000 ลิตร จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ประมาณปีละ 80,000 ตัน เป็นไปตามเป้าหมายของกลุ่มบางจากที่จะทำให้ภายในปี 25673 จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน และภายในปี 2593 และภาปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้

 

มิสเตอร์ซูซูกิ กล่าวว่า ขณะนี้อุตสาหกรรมพลังงานทั่วโลกกำลังเข้าสู่ช่วงการเปลี่ยนผ่านพลังงานและการเร่งลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ ทั้งคอสโม ออยล์ และบางจาก ตระหนักถึงวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจึงได้ประกาศเป้าหมายร่วมลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในปี 2050 จึงเกิดความร่วมมือในระดับโลกด้วยการทำข้อตกลงร่วมดังกล่าว เป็นขั้นตอนสำคัญการสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ ซึ่งจะไม่จำกัดเพียงเรื่อง SAF เท่านั้น หวังจะร่วมมือเพิ่มเติมด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และจะผสานพลังสร้างสรรค์สังคมให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นต่อไป

 

สำหรับพิธีลงนามดังกล่าว มีทั้งผู้บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และบริษัทคอสโม ออยล์ และได้รับเกียรติจาก นายฉันทพัทธ์ ปัญจมานนท์ อัครราชทูต (ฝ่ายการพาณิชย์) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เข้าร่วมและกล่าวแสดงความยินดี พร้อมกับกล่าวถึงความร่วมมือเป็นพันธมิตรของทั้ง 2 บริษัทจะเป็นตัวอย่างชัดเจนของความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งทางสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญส่งเสริมปูทางสู่อนาคตความยั่งยืนโดยให้ความสำคัญกับนวัตกรรมควบคู่กันไป

 

ข่าวที่ 6 BCPGขาย9โซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่นนำหมื่นล้านต่อยอดธุรกิจ

 

นายนิวัติ อดิเรก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้แจ้งข่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ทราบถึงสารสนเทศที่ทาง บมจ.บีซีพีจีขายโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่นทั้ง 9 โครงการ มูลค่าซื้อขายรวม 10,377 ล้านบาท เพื่อรีไซเคิลเงินลงทุน แล้วนำเงินสดที่ได้ไปต่อยอดพัฒนาโครงการอื่น ๆ ในอนาคต

 

เงินลงทุนทั้งหมดในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ญี่ปุ่น ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 9 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 117  เมกะวัตต์ รวมบริษัทย่อยในญี่ปุ่นซึ่งทำธุรกิจให้บริการบริหารจัดการสินทรัพย์ (Asset Management) และให้บริการเดินเครื่องและบำรุงรักษา (Operation & Maintenance)

 

สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของกลุ่มบริษัทฯ ขายไปเป็นหุ้นสามัญในบริษัทย่อยและเงินลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นทั้งหมด  รวมมูลค่าซื้อขาย 42,970 ล้านเยนหรือ 10,377 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน 24.15 บาท ต่อ 100 เยน) ประกอบด้วย 1.ส่วนของมูลค่าหุ้น 6,935 ล้านบาท 2.ส่วนของหนี้สินเงินกู้โครงการสุทธิ 3,442 ล้านบาท ตามที่บริษัทฯ ได้ลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นกับกลุ่ม Obton เป็นบริษัทไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนรายใหญ่จากยุโรป เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2566 และมั่นใจธุรกรรมการซื้อขายหุ้นดังกล่าวจะสำเร็จลุล่วงภายในไตรมาสแรกปี 2567

 

ทั้งนี้การจำหน่ายสินทรัพย์ในญี่ปุ่น เป็นไปตามแผนดำเนินธุรกิจระยะยาวของ บมจ.บีซีพีจี เรื่องการเข้าพัฒนาโรงไฟฟ้าตั้งแต่ก่อนการก่อสร้างกระทั่งเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ แล้วจำหน่ายให้นักลงทุนที่ต้องการกระแสเงินสดมั่นคง เพื่อสร้างโอกาสทำกำไรสูงสุด บริษัทฯ ได้เริ่มลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2559 ขณะนั้นมีโครงการฯ ที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วเพียง 13 เมกะวัตต์  ต่อมาได้พัฒนาและก่อสร้างเพิ่มเติมอีก 132 เมกะวัตต์ เมื่อปี 2561 ได้ขาย 2 โครงการ รวม 28 เมกะวัตต์

 

ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นรวมทั้งสิ้น 117 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 104 เมกะวัตต์ และโครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้าง 13 เมกะวัตต์  ทั้งหมดเป็นโครงการโรงไฟฟ้าที่มีคุณภาพ สร้างรายได้สม่ำเสมอ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จึงได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลกหลายราย

 

 

ส่วนการขายโครงการฯ ทั้งหมดในญี่ปุ่น รวมถึงบริษัทบริหารจัดการสินทรัพย์ครั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบราคาขายกับต้นทุนทางบัญชี คาดจะทำให้มีส่วนต่างกว่า 2,300 [WU1] ล้านบาท สร้างผลตอบที่ดีแก่บริษัทฯ​ และผู้ถือหุ้น  อีกทั้งบริษัทยังมีแผนจะนำกระแสเงินสดกลับมาใช้รองรับโครงการลงทุนใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพการเติบโตอย่างรวดเร็ว

 

นายนิวัติยืนยันว่า โครงการของบีซีพีจีและแพลตฟอร์มบริหารจัดการโครงการในญี่ปุ่น ได้รับความสนใจจากนักลงทุนระดับโลกหลายรายเสนอซื้อสินทรัพย์ ช่วยตอกย้ำโครงการต่าง ๆ ของบริษัทฯ ได้รับการพัฒนาและบริหารจัดการในมาตรฐานเวิลด์คลาส สามารถสรรหาและพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพ มีระบบบริหารจัดการที่ได้การยอมรับในระดับสากลนั่นเอง

 

            ช่วงที่ 2 ปลายปีนี้จัดเวลาไปหาประสบการณ์ดี ๆ แนะนำเส้นทางเที่ยวหน้าหนาวสุขทันที่ “ภูกระดึง” อ้อมกอดธรรมชาติกำลังรอต้อนรับนักเดินทางไปเยี่ยมชม 7 พิกัด ยอดนิยม ส่วนเรื่องสุขภาพมี “7วิธีรับมือโรคที่มากับหน้าหนาว” และข่าวดี ๆ ข่าวแรก มิชลินปี’67เพิ่มร้านบิบกูร์มองด์ในไทย 196 ร้าน ข่าวที่สอง ททท.เดินหน้าต่อยอดสงกรานต์มรดกโลก3นโยบาย

 

ท่องเที่ยว –หนาวนี้สุขทันทีที่เที่ยวภูกระดึงสัมผัสธรรมชาติ 7พิกัด

 

หนาวนี้เข็มไมล์การเดินทางเที่ยวเมืองไทยเติมความสุขได้ทันทีที่ “อุทยานแห่งชาติภูกระดึง” อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย เป็นแหล่งท่องเที่ยวมีชื่อเสียงมากอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ด้วยความสวยงามทางธรรมชาติ แต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยี่ยมชมจำนวนหลายหมื่นคน ยิ่งช่วงวันหยุดยาวยิ่งหนาแน่นมากกว่าปกติ โดยมีสภาพภูมิอากาศอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีประมาณ 26 °C เดือนมกราคมของทุกปีอุณหภูมิต่ำสุด ส่วนเดือนเมษายนของทุกปีอุณหภูมิสูงสุด ปริมาณหยาดน้ำฟ้า 1,242 มิลลิเมตรต่อปี ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยทั้งปีเฉลี่ยประมาณ 72% รองรับนักท่องเที่ยวไม่ได้จองหรือวอล์คอินได้วันละ 600 คน

 

“ภูกระดึง” เป็นผืนป่าธรรมชาติมีลักษณะเป็นพื้นราบรอบเชิงเขาเหมือนกับบริเวณอื่น ๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ฤดูฝนเริ่มเมษายน-ตุลาคม ซึ่งจะมีฝนตกชุกสุดสิงหาคม-กันยายน  ของทุกปี

 

จุดเช็คอินภูกระดึงไฮไลต์ 7 พิกัด

           

พิกัด 1 ผาหล่มสัก สัมผัสเสน่ห์กับบรรยากาศพระอาทิตย์ตกสวยเกินบรรยาย

 

พิกัดที่ 2 ผาหมากดูก จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกสวยรองจากผาหล่มสัก  มองเห็นทิวเขาในเพชรบูรณ์ รวมถึงทัศนียภาพของอุทยานแห่งชาติน้ำหนาวอยู่ห่างออกไปได้ ฤดูฝนสามารถแวะชมทุ่งดอกกระเจียวบริเวณทางขึ้นผาได้ด้วย

 

พิกัดที่ 3 บนยอดดอย ตื่นตากับเมเปิลแดงสะพรั่งรอรับนักท่องเที่ยว

         

พิกัดที่ 4 ผานกแอ่น ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่นตอนเช้าจะปกคลุมไปด้วยทะเลหมอกที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ตัดกับแสงของดวงอาทิตย์ที่ค่อยๆโผล่

 

พิกัดที่ 5 สระอโนดาต สระธรรมชาติขนาดใหญ่ มีน้ำเต็มตลอดทั้งปี โอบล้อมไปด้วยต้นสนสีเขียวขจีที่เรียงรายเป็นทิวแถว เงาทอดยาวสะท้อนอยู่ในน้ำที่ใสแจ๋วราวกับกระจก ซึ่งนอกจากจะที่นี่เป็นแหล่งน้ำสำคัญสำหรับสัตว์ป่าแล้ว ก็ยังเป็นอีกหนึ่งจุดไฮไลท์ที่ใครมาถึงก็อดที่จะถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก

 

พิกัดที่ 6 น้ำตกวังกวาง  เป็นน้ำตกขนาดเล็กสูง 7 เมตร  บรรยากาศดี เหมาะนั่งพักผ่อนฟังเสียงน้ำตกเพลิน ๆ หรือลงไปเล่นน้ำก็ได้

 

พิกัดที่ 7 น้ำตกโผนพบและน้ำตกเพ็ญพบ ป็นน้ำตกขนาดใหญ่ สูง 30 เมตร มีทั้งหมด 8 ชั้น เหมาะเที่ยวหน้าฝน น้ำจะไหลผ่านลงมาเป็นชั้น ๆ คล้ายกับขั้นบันได ด้านล่างเป็นแอ่งน้ำที่สามารถลงไปเล่นได้ 

 

วิธีท่องเที่ยวภูกระดึง 5 ขั้นตอนง่าย ๆ 1.จองออนไลน์ทั้งบ้านพักและเต็นท์ในอุทยานแห่งชาติ ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 60 วัน ได้ที่ https://nps.dnp.go.th/reservation.php หรือโทร.042810834

เปิดบริการ “วันธรรมดา” อนุญาตให้ขึ้น-ลงเขา เวลา 06.00-13.00 น. “วันหยุดเสาร์-อาทิตย์” หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ ขึ้น-ลงเขา เวลา 05.30-13.00 น. สอบถาม โทร.042-810-833 หรือ 042-810-834

 

เที่ยวเมืองไทย ได้ตลอด 365 วัน หนาวนี้สุขทันทีที่ “ภูกระดึง” จังหวัดเลย

 

สุขภาพ –7วิธีดูแลสุขภาพรับมือกับโรคที่มากับหน้าหนาว

 

     ศ.นพ.วีรศักดิ์ เมืองไพศาล ให้ข้อแนะนำช่วงฤดูหนาวคนไทยหลายคนชื่นชอบ เพราะประเทศไทยเป็นเมืองร้อนไม่ค่อยได้พบเจอกับอากาศหนาวมากนัก ถึงแม้จะไม่ได้มีหน้าหนาวยาวนานเท่าหลายๆ ประเทศ แต่ในบางครั้งก็ทำให้เกิดโรคที่มากับหน้าหนาว ซึ่งนำพาความเจ็บป่วยมาให้หากไม่ดูแลสุขภาพให้ดี

 

โรคที่พบบ่อยในหน้าหนาว  1. โรคไข้หวัด 2. โรคไข้หวัดใหญ่   3. โรคหอบหืดและโรคปอดเรื้อรัง 4. โรคภูมิแพ้

 

ดังนั้นจึงแนะนำให้ดูแลสุขภาพในช่วงหน้าหนาวด้วย 7 วิธีดังนี้

 

1. ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง โดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำมากๆ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอนหลับให้เพียงพอ ไม่ทำงานหนักตรากตรำจนเกินไป

 

2. อยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเท ไม่เข้าไปในที่แออัด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีโรคระบาด

 

3. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา และยาเสพติด เนื่องจากจะทำให้ร่างกายเสื่อมโทรม เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย

 

4. หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัด และไม่ควรใช้ของร่วมกัน เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ จาน ชาม ช้อน ส้อม

 

5.ล้างมือบ่อยๆ เนื่องจากอาจสัมผัสกับเชื้อโรคที่ติดอยู่ตามสิ่งของ เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได แก้วน้ำ โทรศัพท์ เป็นต้น แล้วเผลอไปสัมผัสบริเวณใบหน้า โดยล้างมือด้วยน้ำและสบู่ 15-20 วินาที

 

6. ดูแลร่างกายให้อบอุ่น ในช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะหน้าหนาว สวมเสื้อกันหนาว หมวก ผ้าพันคอ ถุงมือ หากอยู่ในพื้นที่ที่หนาวมาก

 

7.หากเป็นไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ควรสวมหน้ากากอนามัย ปิดปากและจมูกเวลาไอจาม ไม่คลุกคลีกับผู้อื่นและล้างมือบ่อย ๆ

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –มิชลินปี’67เพิ่มร้านอาหารบิบกูร์มองด์กระตุ้นเที่ยวไทย196ร้าน

 

มิชลิน เตรียมการประกาศผลรางวัลดาวมิชลินจะจัดขึ้นวันที่ 13 ธันวาคม 2566    เปิดรายชื่อร้านอาหารและสตรีตฟู้ดคุณภาพดีราคาย่อมเยาที่ผ่านการคัดเลือกให้ได้รับสัญลักษณ์ บิบ กูร์มองด์ : Bib Gourmandประจำปี 2567 รวมทั้งสิ้น 196 ร้าน ประกอบด้วย

 

1.ร้านที่ได้รับสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ ครั้งแรก 32 ร้าน

 

2.ร้านติดอันดับในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย ครั้งแรก 28 ร้าน

 

3.ร้านที่ปี 2566 อยู่ในประเภท MICHELIN Selected 4 ร้าน

 

4.จำนวนร้านที่ติดอันดับครั้งแรก 12 ร้าน ตั้งอยู่ เกาะสมุยและสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็น 2 จุดหมายปลายทางใหม่ของ คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย ฉบับประจำปี 2567 (The MICHELIN Guide Thailand 2024) เป็นปีแรกในการขยายขอบเขตเข้าดำเนินการสำรวจและจัดอันดับ

 

ทาง มิชลิน ไกด์ ได้มอบสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์ซึ่งแสดงภาพ ‘บิเบนดัม’ หรือ ‘มิชลินแมน’ ให้แก่ร้านอาหารและร้านอาหารริมทาง หรือ “สตรีตฟู้ด” ซึ่งผู้ตรวจสอบของมิชลิน ไกด์ พิจารณาแล้วว่านำเสนออาหารคุณภาพดีในราคาที่ย่อมเยาคุ้มค่า

 

เกว็นดัล ปูลเล็นเนค   ผู้อำนวยการฝ่ายจัดทำคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ทั่วโลก เปิดเผยว่าไทยเป็นประเทศที่สามารถหาอาหารคุณภาพดีรับประทานได้ในราคาประหยัด ผู้ตรวจสอบของมิชลิน ไกด์ ตื่นตาตื่นใจที่ได้ค้นพบอาหารคุณภาพเยี่ยมหลายรูปแบบในราคาสบายกระเป๋าทั่วทุกภูมิภาคของไทย รวมถึงเกาะสมุยและสุราษฎร์ธานี

 

จึงหวังให้รายชื่อร้านอาหารที่ได้รับสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ จะจุดประกายให้นักชิมและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเกิดแรงบันดาลใจจะออกเดินทางไปค้นพบและเพลิดเพลินกับอาหารคุณภาพดีราคาย่อมเยาคุ้มค่าตามเมืองใหญ่ในภูมิภาคต่าง ๆ ของไทย


ร้านอาหารที่ผ่านการคัดเลือกให้ได้รับสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ ประจำปี 2567 ประกอบด้วย

 

1.ร้านที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 68 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 7 ร้าน), ในพระนครศรีอยุธยา 15 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 2 ร้าน) ในเชียงใหม่ 27 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 3 ร้าน)

 

2.เมืองตัวแทนภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือ “ภาคอีสาน” 4 จังหวัด รวม 38 ร้าน มี 13 ร้าน ในขอนแก่น (ติดอันดับครั้งแรก 2 ร้าน) ในนครราชสีมา 10 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 1 ร้าน)   ในอุบลราชธานี 6 ร้าน (ทุกร้านเป็นร้านที่รักษาสถานะ ‘บิบ กูร์มองด์’ เอาไว้ได้) และ   ในอุดรธานี 9 ร้าน (ขยับมาจากประเภท MICHELIN Selected 2 ร้าน)

 

3.ภาคใต้ ในพังงา 11 ร้าน (ทุกร้านเป็นร้านที่รักษาสถานะ ‘บิบ กูร์มองด์’ เอาไว้ได้) ภูเก็ต 25 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 1 ร้าน และขยับมาจากประเภท MICHELIN Selected 2 ร้าน)  ในเกาะสมุยและสุราษฎร์ธานี รวมทั้งอีก 12 ร้าน (ทุกร้านเป็นร้านติดอันดับครั้งแรก เนื่องจากจุดหมายใหม่ 2 แห่ง ทางคู่มือ มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย เพิ่งขยายขอบเขตสำรวจและจัดอันดับเป็นปีแรก อยู่เกาะสมุย 4 ร้านอยู่ในเกาะสมุย และแผ่นดินใหญ่ของสุราษฎร์ธานี 8 ร้าน

 

สำหรับร้านอาหารที่ผ่านการคัดเลือกได้รับสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ ครั้งนี้ ครอบคลุมประเภทอาหารหลากหลายถึง 13 ประเภท ได้แก่ อาหารจีน อาหารยุโรปร่วมสมัย อาหารอีสาน อาหารญี่ปุ่นก๋วยเตี๋ยว อาหารเหนือ อาหารทะเล อาหารใต้ อาหารริมทาง อาหารไทย อาหารไทยร่วมสมัย อาหารไทย-จีน และอาหารเวียดนาม ความหลากหลายดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงบรรยากาศที่คึกคักและมีชีวิตชีวาในแวดวงอาหารของไทย ซึ่งนักชิมสามารถท่องไปในโลกของความอิ่มอร่อยกับอาหารคุณภาพดีหลากประเภทในราคาที่เป็นมิตรได้อย่างสะดวก

 

ข่าวที่สอง -ททท.ต่อยอดสงกรานต์ไทยมรดกโลกขานรับ3นโยบายใหม่

 

นางสาวสมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เป็นผู้แทนททท. เข้าร่วมฉลองยูเนสโกขึ้นทะเบียน “สงกรานต์ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ : Songkran in Thailand, Traditinal Thai New Year Festival ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร   โดยมี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งทางกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรมจัดงานฉลองอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมต้อนรับคณะรัฐมนตรี ทั้ง นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซูฮย็อน คิม ผู้อำนวยการสำนักงานยูเนสโก ประจำประเทศไทย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะทูตานุทูต ประกอบด้วย มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลี ลาว กัมพูชา ญี่ปุ่น และจีน ร่วมเป็นสักขีพยาน นางยุพา ทวีวัฒนกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ผู้ว่า-ผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ วัฒนธรรมจังหวัด ประธานสภาวัฒนธรรมกรุงเทพมหานครและจังหวัด 76 จังหวัด

 

ภายหลังการเปิดงาน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีพิธี นำคณะรัฐมนตรี คณะผู้บริหาร หน่วยงานภาคี จัดพิธีสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์จำลอง สรงน้ำพระสงฆ์และรดน้ำขอพรอาวุโส พร้อมรับชมขบวนแห่ฉลองสงกรานต์ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ (Songkran in Thailand, Traditional Thai New Year Festival) 8 ขบวน ประกอบด้วย ขบวนมหาสงกรานต์จตุรทิศ แผ่นดินไทย ขบวนอันเชิญพระพุทธสิหิงค์ (จำลอง) ขบวนตำนานนางสงกรานต์ ทั้ง 7 วัน นำโดย แอนโทเนีย โพซิ้ว รองอับดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2023 มาในชุด “นางมโหธรเทวี” (นางสงกรานต์ประจำปี 2567) ทัดดอกสามหาว เครื่องประดับนิลรัตน์ ภักษาหารเนื้อทราย มือขวาถือจักรเป็นอาวุธ ซ้ายตรีศูล พาหนะนกยูง ต่อด้วยขบวนเริงรื่นชื่นสงกรานต์ 4 ภาค ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และภาคกลางและปิดท้ายด้วยขบวนธงตราสัญลักษณ์

 

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประธานพิธี ได้กล่าวแสดงความยินดี ในงานฉลองประกาศขึ้นทะเบียนสงกรานต์เป็นมรดกโลก จากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ในนามของรัฐบาลและประชาชนไทย ประเทศภาคีสมาชิกอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ขอประกาศเจตนารมณ์ในการรักษาและสืบทอดประเพณีสงกรานต์ให้ทั่วโลกรู้จักอย่างแพร่หลาย 3 เรื่องสำคัญ ประกอบด้วย

 

เรื่องที่ 1  ประเทศไทย จะร่วมกันธำรงรักษา ถ่ายทอดและสร้างสรรค์ ประเพณีสงกรานต์ โดยให้ปฏิบัติและสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ด้วยมาตรการส่งเสริมและรักษาที่เหมาะสม พร้อมให้ความเคารพและยอมรับต่อวิถีปฏิบัติของทุกชุมชน

 

เรื่องที่ 2. ประเทศไทย จะส่งเสริมให้เกิดความตระหนักรู้ถึงคุณค่าและความสำคัญของประเพณีสงกรานต์ในฐานะตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม ความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ และบ่อเกิดของการพัฒนาที่ยั่งยืน

 

เรื่องที่ 3 ประเทศไทย จะเปิดโอกาสอย่างทั่วถึงแก่คนทุกเชื้อชาติ ทุกเพศ ทุกภาษา และทุกศาสนา ให้สามารถเข้าถึงประเพณีสงกรานต์ทุกพื้นที่ของไทย โดยเคารพต่อธรรมเนียมปฏิบัติของชุมชน และจะร่วมกับชุมชนนานาชาติรักษาและสืบทอดประเพณีสงกรานต์ทุกที่ ด้วยจิตใจความร่วมมือและการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.


 [WU1]Note: กำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายที่ปรึกษา และ transaction cost อื่นๆ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai