ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานคุนหมิง สาธารณัฐประชาชนจีน
ททท.คุนหมิงต่อยอดโอเวอร์แลนด์“จีนเที่ยวไทย”ปี67
เปิดโมเดลขายแพกเกจอีสาน-เหนือ-ตะวันออกรับจีน
ชูสินค้าท่องเที่ยว6สไตล์เพิ่มซอฟท์เพาเวอร์Food/Fest
คิงเพาเวอร์แจกฟรีของขวัญส่งท้ายถึง31ธ.ค.4กิจกรรม
ฉลองปีใหม่!!ช้อปคิงเพาเวอร์ช็อกโกแลต8แบรนด์ดัง
ททท.ดึงNeosAirบินภูเก็ตโกยอิตาลี/เช็กโต2.3แสนคน
บางจาก-เอราวัณกรุ๊ปบูมปีใหม่ที่พักลดคาร์บอน4รร.
พิกัดเที่ยวทั่วไทยAmazing Thailand
Countdown 2024
เช็กสุขภาพสมองด้วยตัวคุณเองได้ง่ายๆกับcogmate
ด่วน!!นายกฯเศรษฐา/สุดาวรรณสั่งททท.3ส่วน4เรื่อง
AOTขานรับรมว.สุริยะบริการปีใหม่สะดวก6สนามบิน
วันอาทิตย์ที่
24 ธันวาคม 2566
ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง
ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน
#เที่ยวกับกู๋ #KingPower
#TAT #TCEB #บางจาก #AmazingThailandCountdown2024 #ทททคุนหมิง
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/p7qQlxAM3h/?mibextid=Nif5oz
ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ “รุ่งทิพย์ บุกขุนทด” ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ถอดโมเดลความสำเร็จตลาดจีน ผ่านช่องทางใหม่โอเวอร์แลนด์ “คาราวานขับรถเที่ยวไทย” ปี67 ต่อยอดขายซอฟท์ เพาเวอร์ Food/อาหารถิ่น Festival/เทศกาลวัฒนธรรมประเพณี เพิ่มสินค้า 6 สไตล์ รุกเจาะ 4 กลุ่มใหญ่ “ครอบครัว-บิ๊กไบค์-มิลเลนเนียล-Gen Y-Zมาแรง” จีนยุคใหม่นิยมทัวร์ประสบการณ์คุ้มค่าเงิน แนะเอกชนเพิ่ม 3 เรื่อง “ไกด์ภาษาจีน-ข้อมูล/พีอาร์-กิจกรรม D.I.Y./ระบบชำระเงินผ่าน We Chat” ปี’67 นำจีนเที่ยวอีสาน เหนือ คึกคัก
นางรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน เปิดเผยว่า วางแผนขับเคลื่อนตลาดท่องเที่ยวจีนปี 2567 โดยจะต่อยอดความสำเร็จปี 2566 ขานรับนโยบายรัฐบาลไทยกระตุ้นตลาดจีนเที่ยวเมืองไทย 3 ช่องทาง 1.ทางอากาศโดยสายการบินต่าง ๆ 2.ทางบก Overland จัดคาราวานรถยนต์ กับทางรถไฟความเร็วสูงตามที่รัฐบาลจีนได้เปิดบริการจากจีนผ่าน สปป.ลาว มายังหนองคายของไทย 3.ทางน้ำ กำลังอยู่ในช่วงการฟื้นฟูการเดินทาง
ความสำเร็จการทำตลาดจีนหลั่งไหลเข้าสู่เมืองไทยด้วยโมเดลทางบกจัด “คาราวานรถยนต์ท่องเที่ยว” เริ่มจากท่องเที่ยววัฒนธรรมประเพณีเทศกาลสงกรานต์เมษายน 2566 นำร่องด้วยนักท่องเที่ยวขับรถมาไทย 354 คัน เกือบ 1,000 คน ต้นทางจากคุนหมิง เริ่มตรง บ่อหาน เมืองสิบสองปันนา ผ่าน บ่อเต็น สปป.ลาว เข้าไทยได้ 4 ด่าน ได้แก่ ด่านแรก เชียงของ จ.เชียงราย ด่านที่สอง ห้วยโก๋น จ.น่าน ด่านที่สาม ท่าลี่ จ.เลย ด่านที่สี่ สะพานมิตรภาพไทย-ลาว จ.หนองคาย คาราวานทัวร์จีนใช้เส้นทางครบทั้ง 4 ด่าน เริ่มตั้งแต่ 8 เมษายน ลัดเลาะมารวมตัวกันที่จังหวัดเชียงใหม่เมื่อ 12 เมษายน โดยใช้เวลาท่องเที่ยวอยู่ในไทย 8-20 วัน/คน/ทริป มีค่าใช้จ่ายแพกเกจละ 50,000 บาท/คน/ทริป นำรายได้กระจายหลายจังหวัดภาคอีสานและภาคเหนือ
เข้าทางด่านภาคเหนือ
2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นที่ 1 เข้าทางด่านภาคเหนือจากด่านเชียงของ
เข้าเชียงราย เชียงใหม่มายังสุโขทัยเข้ากรุงเทพฯ ต่อไปถึงพัทยา ภาคตะวันออก หรือบางกลุ่มลงใต้
แล้วย้อนเส้นทางเดิมกลับจีน เส้นทางที่ 2 เข้าทางด่านห้วยโก๋น
จ.น่าน ลงไปยังสุโขทัย กรุงเทพฯ เลาะเข้านครราชสีมา หนองคาย ไป เวียงจันทน์
สปป.ลาว กลับจีน
เข้าทางด่านภาคอีสาน จากสะพานมิตรภาพไทย-ลาว จ.หนองคาย อุดรธานี เลย เพชรบูรณ์ สุโขทัย ร่วมสงกรานต์เชียงใหม่ เชียงราย แล้วเดินทางกลับจีน
“รายได้” จะถึงมือธุรกิจท้องถิ่นระหว่างการเดินทางในแต่ละจังหวัด ยอดขายดีสุดคือ “อาหารท้องถิ่น” กับ “ของฝาก” คือ ข้าวหอมมะลิ ข้อดีของคาราวานรถยนต์ของนักท่องเที่ยวจีนซึ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ ครอบครัว กับผู้ชอบขับรถเที่ยว ทำให้เกิดโมเดลกระจายรายได้แบบครบวงจรสู่ผู้ประกอบการ ที่พักโรงแรม ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยววิถีวัฒนธรรม ชุมชนขายสินค้าที่ระลึกต่าง ๆ
หลังจากรัฐบาลไทยมีนโยบายเปิดมาตรการยกเว้นวีซ่านักท่องเที่ยวจีนใช้ Visa Exemption ได้ เริ่มตั้งแต่ 25 กันยายน 2566 - กุมภาพันธ์ 2567 ทาง ททท.ขานรับโดยเปิดทุกช่องทางกระตุ้นจีนเดินทางมาท่องเที่ยวนำเสนอสินค้าท่องเที่ยวซอฟท์ เพาเวอร์ 5F : Food/อาหาร-Festival/เทศกาล-Fashion/เสื้อผ้าแฟชั่นพื้นเมือง-Film/สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์-Fight/ศิลปะการต่อสู้ ทาง ททท.คุนหมิงเลือกเสนอขาย Food อาหารไทย กับ Festival เทศกาลงานวัฒนธรรมประเพณี ผลิตแพกเกจท่องเที่ยวเจาะตลาดในคุนหมิงและเมืองอื่น ๆ ที่อยู่ในความดูแล
เมื่อช่วงเทศกาลลอยกระทง
ได้ทำ Amazing New Chapter to Isan Wonderful Loykratong 2023 for AEC โดย
ททท.คุนหมิงร่วมกับบริษัทท่องเที่ยวจีนชั้นนำขายแพกเกจและคาราวานรถยนต์
ชูความโดดเด่น นั่งรถไฟเที่ยว 3 ประเทศ
“สาธารณรัฐประชาชนจีน-สปป.ลาว-ไทย” ผ่านทางภาคอีสาน จัดระหว่าง 26 พฤศจิกายน 2566 มีจีนร่วมเดินทาง 204 คน ราคาแพกเกจคนละ 6,000-8,000 หยวน/คน/ทริป
พักในไทย 6-10 วัน มากับรถไฟและรถยนต์ พร้อมทั้งมีผู้บริหาร
ททท.ภูมิภาคเอเชียตะวันออก มาร่วมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนด้วย
รวมถึงได้จัดการแสดงศิลปะพื้นบ้านดนตรีโปงลาง กับคัดสรรอาหารถิ่นเมนูดีที่สุดของอุดรธานี
โดยมีผู้ประกอบการท่องเที่ยวใน
2 จังหวัด คือ หนองคาย กับอุดรธานี ได้รับรายได้แบบเต็ม
ๆ ทั้งที่พัก โรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวในชุมชน
จากนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มครอบครัวนิยมเลือกใช้จ่ายเงินรับประทานอาหารถิ่นมากสุด
คือเมนูปลาเผาเกลือ กับข้าวเหนียวรสนุ่มแดนอีสาน
รวมทั้งชื่นชอบการแสดงโปงลางที่จีนกับไทยมีโอกาสแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน
เป็นการสื่อถึงการทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ด้วยกัน
ปี 2567 ททท.คุนหมิง วางกลยุทธ์ต่อยอดนำเสนอขายการท่องเที่ยวเพิ่มคุณค่าและมูลค่าด้วยประสบการณ์แปลกใหม่ตามคอนเซปต์ Meaningful Travel สัมผัสแหล่งท่องเที่ยววิถีชีวิต ศิลปะวัฒนธรรม งานประเพณี และสิ่งอำนวยความสะดวกเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวได้ง่าย ด้วยสินค้า 6 สไตล์ ประกอบด้วย
สไตล์ที่ 1 แหล่งท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ของอีสาน เช่น ท่องเที่ยวชุมชนทะเลบัวแดง จ.อุดรธานี กำลังสวยงาม สามารถดึงดูดใจนักท่องเที่ยวจีนที่ชอบเที่ยวดอกไม้
สไตล์ที่ 2 ร่วมทำกิจกรรม D.I.Y.กับชุมชนบ้านโนนกรอก ซึ่งเลือกใช้สีธรรมชาติจากรากบัว หรือคูน มาย้อมผ้าพื้นเมืองหรือแฟชั่นหนึ่งใน ซอฟท์ เพาเวอร์
สไตล์ที่ 3 เดินสายรับประทานอาหารเมนูอีสานขึ้นชื่ออย่าง ปลาเผา ไก่ย่าง ต้มแซ่บ ทางจีนรับประทานได้
สไตล์ที่ 4 พาท่องเที่ยววัดยอดนิยมที่มีความสวยงามชื่อเสียงโด่งดัง เช่น วัดป่าภูก้อน อุดรธานี และวัดต่าง ๆ ในหนองคาย
สไตล์ที่ 5 จัดคารวานรถยนต์จีนมาเที่ยวงานประเพณีสงกรานต์ ภาคอีสานซึ่งมีเสน่ห์เป็นประสบการณ์แปลกใหม่ จัดเส้นทางขับรถท่องเที่ยวต่อเนื่อง จากหนองคายเข้าสู่นครราชสีมา มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายทั้ง พาชมปราสาทหินพิมาย ชุมชนเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน พักในอำเภอเมือง แล้วไปเดินสตรีทฟู้ด ตลาด เซฟ วัน ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนชอบโปรแกรมดังกล่าว
สไตล์ที่ 6 กระจายการท่องเที่ยวเชื่อมโยงสู่ทะเล ภาคตะวันออก ในพัทยา หรือ ชลบุรี ระยอง แล้วเข้ากรุงเทพฯ วนสู่ภาคเหนือ กลับจีน ได้
ผอ.รุ่งทิพย์ กล่าวว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางมากับโมเดล “คาราวานจีนขับรถท่องเที่ยวเมืองไทย” ปี 2567 วางแผนจะต่อยอดขยายฐานไปยังตลาดเป้าหมาย 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มแรก ครอบครัว ที่มาพร้อมกัน พ่อแม่ลูก หรือครอบครัวอายุประมาณ 35-40 ปี มาพร้อมกับพ่อแม่อายุ 60 ปีขึ้นไป เลือกเส้นทางท่องเที่ยวใหม่เชื่อมโยงภาคเหนือกับภาคอีสาน กลุ่มที่ 2 บิ๊กไบค์ ขับรถมอเตอร์ไซค์คันขนาดใหญ่ลัดเลาะไปตามแหล่งต่าง ๆ กลุ่มที่ 3 คนรุ่นใหม่ Millenial กับ Gen Y ชื่นชอบสร้างประสบการณ์เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
กลุ่มที่ 4 Gen Z บางส่วนจะต้องเดินทางโดยเครื่องบิน เพราะชอบเดินทางโดยลำพัง F.I.T. ขนาดกลุ่มละ 4-5 คนเลือกที่พักสะดวกสบาย มีคอฟฟี่ คาเฟ่ อาหารอร่อย และมีคอนเทนท์ ดึงดูดใจ พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มนี้ จะจองตั๋วเครื่องบิน ห้องพัก และแหล่งท่องเที่ยวผ่านทางออนไลน์
สำหรับสถานการณ์ภาพรวมตลาดจีนกำลังอยู่ในช่วงการฟื้นฟูกลับมาเป็นกลุ่มกำลังซื้อมีศักยภาพสูง พร้อมใช้จ่ายเงินเดินทางไปตามทั่วทุกภาคทั้งอีสาน เหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ ภาคตะวันออก มองเรื่อง “ความคุ้มค่าเงิน” โดยจะตัดสินใจเลือกจุดหมายปลายการท่องเที่ยว เพราะ 1.ต้องตั้งใจจะเดินทางท่องเที่ยวจริง 2.ต้องมีความพร้อม 3.ต้องเป็นสถานที่ที่รักอย่างจริงใจ โดยเฉพาะเมืองไทยยังครองใจชาวจีนให้ความรักและสนใจประเทศไทยอย่างมั่นคง
ผอ.รุ่งทิพย์ กล่าวว่า ต้องการแนะนำผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยเตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวปี 2567 หลังจากเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนปีนี้มีธุรกิจท่องเที่ยวไทยเข้าร่วมขายในงานใหญ่ท่องเที่ยว CITM 2023 ที่คุนหมิง ก็มีประสบการณ์ตลาดเชิงลึกมากขึ้น โดยได้รับรู้ถึงพฤติกรรมความต้องการของนักท่องเที่ยวจีนยุคใหม่ 1.ต้องการเลือกท่องเที่ยวอย่างมีประสบการณ์และร่วมลงมือทำกิจกรรมได้ด้วย 2.ภาษาจีนที่จะสื่อสารกับนักท่องเที่ยวเพราะหลังโควิดจำนวนมัคคุเทศก์จีนมีน้อยลง จึงต้องการให้เพิ่มจำนวนไกด์ภาษาจีนตามจังหวัดต่าง ๆ มากขึ้น
3.ข้อมูลท่องเที่ยวภาษาจีนส่งทางออนไลน์หรืออัพโหลดขึ้นเว็บไซต์เพื่อให้นักท่องเที่ยวจีนค้นหาได้อย่างสะดวกสบาย ทาง ททท.พร้อมให้ผู้ประกอบการไทยนำมาฝากขึ้นเว็บไซต์ของ ททท.ในจีนทั้ง 5 สำนักงาน เพื่อประชาสัมพันธ์
4.เปิดช่องทางบริการชำระเงินผ่าน We Chat Pay เพื่อให้นักท่องเที่ยวจีนได้ใช้จ่ายเงินสะดวกคล่องตัวแล้วกระจายรายได้เพิ่มมากขึ้นได้จำนวนมาก
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์แจกฟรีของขวัญส่งท้ายวันนี้-31ธ.ค.4กิจกรรม
กลุ่มบริษัท
คิง เพาเวอร์ จัด “ของขวัญพิเศษ” ส่งท้ายปี 2566 ต้อนรับปี 2567 ชวนช้อปเฉลิมฉลองเทศกาลอย่างคุ้มค่า
ตั้งแต่วันนี้ถึง 1 มกราคม 2567 จัดมหกรรมมอบส่วนลดต่อเนื่องสูงสุด 30 % ที่ร้านดิวตี้ฟรีในเมือง 4
สาขาหลัก ทั้งกรุงเทพฯ ที่รางน้ำ ศรีวารี และเมืองท่องเที่ยวระดับโลกอย่าง
พัทยา และภูเก็ต
โดยเฉพาะสาขาเรือธง “คิง เพาเวอร์ รางน้ำ” จัดต่อเนื่องยาวเริ่มตั้งแต่วันที่ 22 – 31 ธันวาคม 2566 ชวนช้อป เป็น ไป ได้ วนไปไม่สิ้นสุด อย่างมีความสุขกับ 4 กิจกรรม ดังนี้
กิจกรรมที่ 1 แลกรับฟรี! วันนี้ – 31 ธันวาคม 2566
ช้อป Tornado potato spring และ chocolate
maRshmallows แล้วแสดงใบเสร็จได้ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ คนละ 1
ใบเสร็จ / สิทธิ์/วัน
กิจกรรมที่ 2 ฟรีคอนเสิร์ต! วันนี้ – 25 และ 29 – 31 ธันวาคม 2566
เชิญศิลปินคนโปรดของทุกคนขึ้นเวทีแสดง 17.00 – 18.00 น. ที่บริเวณคราวน์ เอเทรียม คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
แต่ละวันแฟนคลับรอพบกับศิลปินในดวงใจได้เลย วันที่ 23 ธันวาคม
Sarah Salora วันที่ 24 ธันวาคม Chamook
วันที่ 25 ธันวาคม TOR+ วันที่
29 ธันวาคม HYBS
วันที่ 30 ธันวาคม ROOFTOP ส่งท้าย31 ธันวาคม
พบกับ THE TOYS
กิจกรรมที่ 3 เซอร์ไพรส์! กับขบวนความสุขส่งท้ายปีใหม่จาก FENNI แล้วคุณลุงซานต้าเตรียมของขวัญมามอบให้ทุกคนอย่างจุใจที่
คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ระหว่าง 23 – 25 ธันวาคม 2566 แบ่งเป็น 4 รอบ คือเวลา 10.00 /14.00 น. / 16.00 น. / 18.00 น.
กิจกรรมที่ 4 จอยฟรี! สุขกับดนตรีสด วันที่ 29 – 31 ธันวาคม 2566 เวลา 12.30 – 13.30 น.บริเวณ คราวน์ เอเทรียม คิง เพาเวอร์ รางน้ำ วันที่ 29 ธันวาคม พบกับ Pookie Sararin วันที่ 30 ธันวาคม พบกับ Kongtoon Quartet วันที่ 31 ธันวาคม พบกับ The Penny Time
ข่าวที่ 2 -ฉลองปีใหม่!!ช้อปคิงเพาเวอร์ช็อกโกแลต8แบรนด์ดัง
“คิง เพาเวอร์” จัดเต็มเทศกาลฉลองความส่งท้ายส่งท้ายปีเก่า 2566 ต้อนรับปีใหม่ 2567 พาเหรดคอลเลกชันช็อกโกแลต 8
แบรนด์ดัง ชวนช้อปทุกช่องทาง เริ่มตั้งแต่วันนี้
ไปจนกว่าสินค้าจะหมด พร้อมโปรโมชั่นลด 50%
ร่วมมหกรรม
“ช็อกโกแลตแบรนด์ดัง” ที่คิง เพาเวอร์ นำให้มาฉลองส่งต่อความสุขเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
โดยได้รวบรวมผลิตภัณฑ์ยอดนิยมมาชวนเหล่าช็อกโกแลตเลิฟเวอร์ เลือกซื้ออย่างจุใจ
ไฮไลต์ 8 แบรนด์ดัง ได้แก่ Godiva, Neuhaus, Lindt,
Toblerone, Ferrero Rocher, Ritter Sport, Kinder, Guylian และแบรนด์อื่น
ๆ ข้อเสนอสุดพิเศษมอบส่วนลดสูงสุดถึง 50% เริ่มแล้ววันนี้
ที่ คิง เพาเวอร์ หน้าร้านสาขาต่าง ๆ และทุกช่องทางออนไลน์ โซเชียลมีเดีย
ครบจบที่เดียว
แบรนด์แรก
“Godiva” ช็อกโกแลตพรีเมียมส่งตรงจากเบลเยียม
นำเสนอคอลเลกชันสุดเอ็กซ์คลูซีฟส่งความสุขผ่าน Godiva X’mas
Limited Collection รวมรสชาติสุดคลาสสิก หรือเพลิดเพลินกับ Godiva
X’mas Truffles Limited Collection จัดเต็มความอร่อยด้วยทรัฟเฟิลหลากรสชาติ
พิเศษยิ่งไปกว่านั้นเพียงเลือกช้อป Godiva ครบ 2,600 บาท รับทันทีเซต Godiva Chocolate Domes Tin ในกล่องเรียบหรูน่าสะสมอย่างยิ่ง
แบรนด์ที่
“Neuhaus” ดื่มด่ำความสุขต้อนรับเทศกาลปีใหม่ให้เป็นไปได้ไม่รู้จบกับแบรนด์ที่ริเริ่มตำนานช็อกโกแลตของเบลเยียม
นำเสนอ Neuhaus Special Winter Box ลิมิเต็ดคอลเลกชัน
มาพร้อมกล่อง
สีแดงทองอันเรียบหรูช่วงเทศกาลคริสต์มาสเท่านั้น คัดสรรช็อกโกแลตพราลีน (Praline) โด่งดังมาให้ลิ้มลอง 16 รสชาติ เช่น Art
Deco 70% Cocoa เป็นอัลมอนด์แคลิฟอร์เนียผสม Nougat เคลือบด้วยดาร์กช็อกโกแลตเบลเยียม และ Suzanne 71% ราสเบอร์รี่กานาซเคลือบด้วยดาร์กช็อกโกแลตจากเอกวาดอร์
แบรนด์ที่
3 “Lindt” ช็อกโกแลตชื่อดังจากสวิตเซอร์แลนด์
ถือกำเนิดมาแล้วกว่า 178 ปี รังสรรค์รสชาติสุดประทับใจต้อนรับฤดูแห่งความสุข
มาพร้อมคอลเลกชันพิเศษ Lindor Milk
Gift Box เซตช็อกโกแลตบอลรสนม หนึ่งในรสชาติที่ได้รับความนิยมที่สุด
ด้วยรสชาติที่เข้มข้นผสานความนุ่มนวลของ Lindor ทรัฟเฟิลหวานละมุน
หรือ Lindor Assorted Gift Box เซตช็อกโกแลตบอล 3 รสชาติครบในกล่องเดียว
แบรนด์ที่
4 “Toblerone” ทำให้เทศกาลแห่งความสุขมีความหมายมากกว่าเคยกับช็อกโกแลตคุณภาพจากสวิตเซอร์แลนด์ โดดเด่นด้วยรูปทรงสามเหลี่ยมเป็นตัวแทนของภูเขา
Matterhorn ในเทือกเขาแอลป์ พาเหรดสินค้าพิเศษต้อนรับปีใหม่ด้วย
Toblerone Thailand Sleeve สเปเชียลอิดิชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟ
เพื่อขายเฉพาะในเมืองไทยเท่านั้น และ Toblerone Pralines ช็อกโกแลตนมรูปทรงเพชรน่าหลงใหลผสานกับ
Nougat กรุบกรอบ หอมกลิ่นน้ำผึ้ง รสชาติโดนใจอย่างแน่นอน
แบรนด์ที่
5 “Ferrero Rocher”มาแบ่งปันเวลาพิเศษด้วยช็อกโกแลตสัญชาติอิตาลี
หนึ่งในแบรนด์ครองใจคนทั่วโลก ปีนี้มาในสไตล์ช็อกโกแลตนมผสมเกล็ดเฮเซลนัทสอดไส้ครีมเฮเซลนัท
ห่อด้วยกระดาษฟอยล์สีทองอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ออกแบบมาเพื่อเทศกาลเฉลิมฉลองปีนี้โดยเฉพาะ
พร้อมโปรโมชั่นราคาพิเศษ เมื่อซื้อ 2 กล่อง จ่ายเพียง 900 บาท และซื้อ 3 กล่อง จ่ายเพียง 1,250 บาท
แบรนด์ที่
6 Ritter Sport เลือกเติมเต็มความสดชื่นด้วยช็อกโกแลต
พรีเมียมนำเข้าจากเยอรมนี เจ้าของตำนานกว่า 100 ปี มาพร้อมสีสันแพ็กเกจสดใสสะดุดตา
ทั้ง Ritter Sport Choco Cubes Colorful Mix รวมช็อกโกแลต 4 รสชาติ สอดไส้ช็อกโกแลต ถั่ว คาราเมล และ Ritter Sport Choco
Cubes Yogurt Love ช็อกโกแลตสอดไส้โยเกิร์ตหอมหวานเบอร์รี่ 3 รสชาติในกล่องเดียว อร่อยทุกรส
แบรนด์ที่
7 “Kinder” อีกหนึ่งความอร่อยจากจัดมาร่วมแบ่งปันความอร่อยให้ทุกคนลิ้มลอง
Kinder Bueno Mini ช็อกโกแลตรสชาติชวนหลงใหลผสานถั่วเฮเซลนัทและขนมปัง
หรือเลือกหวานกรุบกรอบกับKinder Schoko Bons ช็อกโกแลตบอลสอดไส้ช็อกโกแลตนมและถั่วเฮเซลนัทชิ้นพอดีคำให้ดื่มด่ำความสุขอย่างแท้จริง
แบรนด์ที่
8 “Guylian” ช็อกโกแลตสัญชาติเบลเยี่ยม
รูปทรงเปลือกหอยซิกเนเจอร์ คัดสรรจากเมล็ดโกโก้แอฟริกันตะวันตกดีที่สุด สอดไส้เฮเซลนัทสูตรเฉพาะ
มาในแพ็กเกจหรูหรา พร้อมเนรมิตรช่วงเวลาความสุข ส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ไปถึงคนที่รักตลอดปีใหม่นี้
ช้อปเลย Guylian Seashells Original Praline ช็อกโกแลตลายหินอ่อนอันเป็นเอกลักษณ์
ด้วยส่วนผสมลงตัวของช็อกโกแลตนม ดาร์กช็อกโกแลต และไวท์ช็อกโกแลต
หรือเอาใจคนรักดาร์กช็อกโกแลตด้วย Guylian Seashells Dark Praline
ช้อปง่ายมากเพียง
Add LINE Official Account: @KINGPOWER หรือช้อปผ่านช่องทาง
CALL TO SHOP โทร. 02-338-7870 และ CHAT
TO SHOP เพียง Add LINE @KP_ChatToShop
ทุกความสุขเป็นไปได้เมื่อช้อป คิง เพาเวอร์ ทุกช่องทาง
ข่าวที่ 3 ททท.ดึงNeosAirบินภูเก็ตโกยอิตาลี/เช็กโต 2.3แสนคน
ททท.ร่วมพันธมิตรต้อนรับแอร์ไลน์ใหม่ Neos Air เปิดบินตรงมิลาน-ภูเก็ต
ไฟลต์ปฐมฤกษ์ NO216 นำนักท่องเที่ยวยุโรปเข้าไทย ธ.ค.66-เม.ย.67 คาดสิ้นปีนี้ทำยอดรวมเกิน 230,000 คน ใช้เงิน 70,000 บาท/คน/ทริป
นางจิระวดี คุณทรัพย์ ผู้อำนวยการภูมิภาคยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ร่วมกับพันธมิตรในภูเก็ตร่วมมือกันต้อนรับนักท่องเที่ยวของสายการบินใหม่
Neos Air เปิดตรง
ไป-กลับ จาก 2 ประเทศ เมืองมิลาน อิตาลี กับ เบอร์โน สาธารณรัฐเช็ก เดินทางเข้ามายังภูเก็ต
ด้วยเที่ยวปฐมฤกษ์ รหัสเที่ยวบิน NO216
ปลายทางท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต มีผู้โดยสาร 355 ที่นั่ง โดยเริ่มให้บริการครั้งแรกตั้งแต่ธันวาคม
2566 – เมษายน 2567 สัปดาห์ละ 1 เที่ยว รวม 15 เที่ยว
ทันทีที่ Neos Air เปิดบินตรงต่อเนื่อง 4
เดือนเข้าภูเก็ตของไทย ททท.คาดการณ์จะช่วยเพิ่มนักท่องเที่ยวยุโรปจาก
2 เมืองนี้เลือกมาไทยรวมไม่น้อยกว่า 5,829 คน
จากมิลาน 3,750 คน และเบอร์โนกว่า
2,079
ราย คาดสิ้นปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวเข้าไทยจาก 2 ประเทศ รวมทั้งหมดไม่น้อยกว่า 230,000 คน แบ่งเป็น
อิตาลี 180,000 คน และสาธารณรัฐเชค 50,000 คน ทำสถิติพำนักในไทย 17-20 วัน/คน/ทริป
ใช้จ่ายเงินเฉลี่ยสูงมากถึง 67,000-70,000 บาท/คน/ทริป
สำหรับพิธีต้อนรับเที่ยวบินแรกนั้น ททท. ภาครัฐ เอกชนท่องเที่ยวในพื้นที่ภูเก็ต
ร่วมกันส่งมอบบรรยากาศความประทับใจทันทีที่นักท่องเที่ยวเดินทางถึงไทย โดยจัดการแสดงศิลปวัฒนธรรมให้ชม
และมอบของที่ระลึก ตอกย้ำถึงความเป็นมิตควบคู่การสร้างความเชื่อมั่นภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand ทำให้ไทยเป็นประเทศจุดหมายปลายทางยอดนิยมครอใจนักท่องเที่ยวตลอดไป
เนื่องจาก ททท. มุ่งส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวระยะไกลข้ามทวีปหรือ
Longhaul ด้วยกลยุทธ์กระตุ้นกลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางซ้ำ
(Revisit) เลือกมาเมืองไทยตลอดทั้งปี โดยได้นำเสนอต้นทุนทางวัฒนธรรมซอฟท์
เพาเวอร์ 5F เพิ่มมูลค่าแก่สินค้าและบริการการท่องเที่ยวยกระดับห่วงโซ่อุปทานสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพและเพิ่มมูลค่าสูงให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยได้อย่างแท้จริง
ผอ.จิระวดี
กล่าวว่านักท่องเที่ยวอิตาลีเป็นตลาดระยะไกลที่มีศักยภาพ
สร้างการเติบโตทั้งรายได้และจำนวนเข้าสู่ไทยต่อเนื่องตลอด โดยมีนักท่องเที่ยวสะสม 11 เดือนแรกปีนี้ ระหว่างมกราคม –
15 ธันวาคม 2566 จำนวน169,160 คน และ ททท. คาดสิ้นปีนี้จะทำได้ถึง
180,000 คน มีวันพักเฉลี่ย 17.20 วัน/คน/ทริป ใช้จ่ายเงินในไทยเฉลี่ย
70,000 บาท/คน/ทริป
ล่าสุด ททท. สำนักงานกรุงโรม อิตาลี จัดกิจกรรมต่อยอดส่งเสริมการขายร่วมกับพันธมิตร
Alpi Tour ซึ่งเป็นบริษัท Tour Operator อันดับ 1 ของอิตาลี นำเสนอขายแพ็กเกจท่องเที่ยวมากับเที่ยวบิน
Neos Air เส้นทาง มิลาน-ภูเก็ต เจาะนักท่องเที่ยว 3
กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.กลุ่มคู่รักฮันนีมูน 2.กลุ่มนิยมความหรูหราลักชัวรี่ 3.กลุ่มครอบครัว เดินทางมากับสายการบินดังกล่าวต่อเนื่องไปจนถึงเมษายน
2567
ส่วนสาธารณรัฐเช็ก เป็นอีกตลาดศักยภาพในยุโรปตะวันออก มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยสะสม
ระหว่าง 1 มกราคม 2566 – 15 ธันวาคม 2566 แล้วทั้งสิ้น 44,579 คน คาดจนสิ้นปี 2566 จะทำได้ถึง
50,000 คน มีวันพักเฉลี่ย 20 วัน/คน/ทริป ใช้จ่ายเงินเที่ยวเมืองไทยเฉลี่ย
63,786 บาท/คน/ทริป
โดยมี
ททท.สำนักงานกรุงปราก สาธารณรัฐเชค จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเส้นทางดังกล่าวด้วยกลยุทธ์ตร่วมมือด้านตลาดและโฆษณาหรือ
Joint Marketing and Advertising กับบริษัทนำเที่ยว Cedok บริษัทผู้นำเที่ยวรายใหญ่ในสาธารณรัฐเช็ก ให้บริการเที่ยวบินและรายการนำเที่ยวเมืองไทยช่วงฤดูหนาว เส้นทางเมืองเบอร์โน สาธารณรัฐเช็กมายังภูเก็ต
ระหว่างธันวาคม 2566 - เมษายน 2567 รวม 15 เที่ยว คาดตลอดโครงการจะมีนักท่องเที่ยวเช็กเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นอีกกว่า
2,079 ราย
ข่าวที่
4 บางจาก-เอราวัณกรุ๊ปบูมปีใหม่ที่พักลดคาร์บอนปีใหม่4รร.
Carbon
Markets Club กลุ่มบางจาก จับมือดิ เอราวัณ กรุ๊ป นำ 4 โรงแรมดังย่านราชประสงค์ สุขุมวิท นำร่องทำ Stay for Santa โมเดลกระตุ้นนักท่องเที่ยวเข้าพักช่วงปีใหม่ร่วมชดเชยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ส่วนบุคคล
“ลด ละ เริ่ม” ส่งความสุขให้โลกยั่งยืน
นางกลอยตา
ณ ถลาง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่
สายงานสื่อสารองค์กรและกิจการเพื่อความยั่งยืน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด
(มหาชน) เปิดเผยว่า ในฐานะประธาน Carbon
Markets Club นำบางจาก
พร้อมด้วย บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) จับมือกับผู้บริหารและผู้จัดการโรงแรมในเครือดิ
เอราวัณ กรุ๊ป ทำโครงการ “Stay for Santa” นำร่องชดเชยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผู้เข้าพักโรงแรมในเครือ
ดิ เอราวัณ กรุ๊ป ช่วงเทศกาลปีใหม่ 10 คืน ระหว่าง 23 ธันวาคม 2566 ถึง 2 มกราคม 2567 เพื่อส่งมอบความสุขเป็นของขวัญให้โลก
โดยนำร่องกับผู้เข้าพักโรงแรม 4 แห่ง ได้แก่ โรงแรมแกรนด์
ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพ โรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ โรงแรมคอร์ทยาร์ด โดย
แมริออท กรุงเทพ และโรงแรมเมอร์เคียว สุขุมวิท 24
วางกลยุทธ์สื่อสาร
Stay for Santa สร้างการตระหนักรู้ให้ผู้เข้าพักและผู้ใช้บริการโรงแรมพักผ่อนและท่องเที่ยวอย่างรู้คุณค่า
คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและมีส่วนร่วมลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตลอดการเข้าพักและท่องเที่ยว
ร่วมปรับเปลี่ยนพฤติกรรม “ลด ละ เริ่ม” ลด
รอยเท้าคาร์บอน ละ การสร้างภาระต่อสิ่งแวดล้อม เริ่มขับเคลื่อนผ่านสื่อภายในของทั้งโรงแรมและ
Carbon Markets Club ช่วยกันลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ให้ได้มากที่สุด
โครงกานี้มี
นายฉัตรชัย ลอยบัณดิษฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการลงทุน บริษัท
บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) และผู้บริหารของ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
นำโดย นายเซบาสเตียน เฟรเดริก ซาลมอน รองประธานอาวุโส สายปฏิบัติการโรงแรม
นางสาวรุ่งทิพย์ เพ็ญพันธุ์ รองประธานสายพัฒนาความยั่งยืนและสื่อสารองค์กรเครือ ดิ
เอราวัณ กรุ๊ป
สำหรับปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ยังเหลืออาจจะยังลดได้ยาก
ดังนั้นทาง บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) วางแผนจะชดเชยการปล่อยคาร์บอนของผู้เข้าพักในโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการนี้
ด้วยคาร์บอนเครดิต TVER ของบริษัทบีซีพีจี จำกัด (มหาชน)
ผ่าน Carbon Markets Club เพื่อช่วยชดเชยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ส่วนบุคคลตลอดเทศกาลความสุขนี้
ทำโมเดลการเข้าพักด้วยรักษ์โลก รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
ร่วมสร้างความยั่งยืนให้โลก
ส่งต่อโลกที่สวยงามให้คนรุ่นต่อไปใช้ชีวิตประจำวันและเดินทางได้อย่างมีความสุข
ช่วงที่ 2 เที่ยวไทยในวันหยุดยาว รีบเลยเล็งหา “พิกัด Amazing Thailand
Countdown 2024” ได้ทั่วประเทศ กรุงเทพฯ โคราช สุดฟิน ส่วน 5 ภาค จัดเต็ม แสง สี พลุ สว่างไสว
แล้วลองดูวิธี “เช็กสุขภาพสมองด้วยตัวเอง” กับ cogmate ต่อด้วยข่าวฮ็อต
ข่าวแรก “นายกฯเศรษฐา” รมว.สุดาวรรณ สั่งการด่วน ททท.เร่ง 3 ส่วน
4 เรื่อง ข่าวที่สอง “AOT” เคลียร์ 6
สนามบินรับปีใหม่ตามนโยบาย รมว.สุริยะ เน้นสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย
ท่องเที่ยว –พิกัดเที่ยวทั่วไทยAmazing
Thailand Countdown 2024
ชวนกันเดินทางท่องเที่ยว “เคาท์ดาวน์”
ทั่วเมืองไทย สัมผัสประสบการณ์ยิ่งใหญ่แห่งปี “Amazing Thailand Countdown 2024” ภายใต้โครงการหลักของรัฐบาล Thailand Winter Festivals ใน 2 แลนด์มาร์กหลัก “กรุงเทพฯ” จะยกระดับเป็น
Global
Countdown Destination จุดเคาท์ดาวน์ระดับโลกที่นักท่องเที่ยวต้องนึกถึงและมาเยือนอย่างต่อเนื่อง กับ “นครราชสีมา” รวมทั้งสนับสนุนจัดตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ
พิกัดที่
1 “Amazing Thailand Countdown 2024 วิจิตร อรุณ” เปิด สวนนาคราภิรมย์ กรุงเทพฯ เป็นแลนด์มาร์กชวนมานับถอยหลังด้วยกันวันที่ 31
ธันวาคม 2566 - 1 มกราคม 2567 สวยงามตระการตาต่อเนื่องจากงาน
VIJIT CHAO PHRAYA 2023 ททท.ได้เนรมิตสวนแห่งนี้ด้วยแนวคิด
“วิจิตร อรุณ” ตระการตากับแสงแรกแห่งอรุณรุ่งกรุงสยาม ส่งมอบความสุขวันขึ้นปีใหม่ 2567
สร้างสีสันยามค่ำคืนสถานที่สำคัญสวยงามริมแม่น้ำเจ้าพระยา
โดยมีแลนด์มาร์กสำคัญอย่าง พระปรางค์วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร โดดเด่นด้วยนวัตกรรมแสง
สี เสียง และสื่อประสมทันสมัย ผสมผสานวัฒนธรรม
ชมการแสดงทางวัฒนธรรมไทยและการแสดงร่วมสมัยประยุกต์ ได้แก่ การแสดงโขน การแสดงของคณะโจหลุยส์
การบรรเลงเพลงออเครสตร้า จากวง Chao
Phraya Symphony Orchestra พร้อมขับกล่อมบรรยากาศด้วยบทเพลงจากศิลปิน การแสดงจากศิลปินชื่อดัง ได้แก่ น้อย - กฤษดา สุโกศล แคลปป์, นัท มีเรีย, เก่ง ธชย, ติวเตอร์ - กรภัทร์ ลำน้อย, เข้ม - หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล
ห้ามพลาด!! กิจกรรมไฮไลต์ร่วมนับถอยหลังก้าวเข้าสู่ปีใหม่พร้อมการแสดงพลุสวยงามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยายาวต่อเนื่องกว่า
7 นาที แบ่งเป็น 9 องก์ ประกอบด้วย 1.อรุณรุ่ง 2.อรุณแห่งศรัทธา 3.รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย
4.ดินแดนแห่งความสุข 5.สยามเมืองยิ้ม
6.รุ่งอรุณแห่งการท่องเที่ยว
7.แสงอรุณแห่งอิสระเสรี 8.เจริญ รุ่งโรจน์ และ 9.แสงอรุณแห่งความเชื่อ ศรัทธา ก้าวหน้า รอยยิ้มสะท้อนสัญญาณแห่งการเริ่มต้นปีศักราชและส่งมอบความสุขต้อนรับปีใหม่
2567
พิกัดที่
2 Korat Winter Festival & Countdown 2024 เริ่มแล้วตั้งแต่วันนี้-
2 มกราคม 2567 บริเวณสนามหน้าศาลากลาง จังหวัดนครราชสีมา ชวนนักท่องเที่ยวร่วมเฉลิมฉลองเมืองนครราชสีมา
ครบรอบ 555 ปี ในรูปแบบ “งานมหกรรมสวนสนุกนานาชาติ” ภายในงานยกสวนสนุกขนาดใหญ่มาเสิร์ฟความสุขตั้งแต่
22 ธันวาคม 2566 - 14 มกราคม 2567 แวะเช็กอินจุดแลนด์มาร์กต้นคริสมาสต์ประดับไฟสวยงาม
สวนดอกไม้ โดยฟลอร่าพาร์คตั้งอยู่ตรงด้านหน้าอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 และชิมช้อปผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP ครบจบที่เดียว
ระหว่างวันที่
29-31 ธันวาคม 2566 ททท. ยังร่วมจัดกิจกรรมภายในงาน เปิดให้ศิลปินดังขึ้นแสดงบนเวที
ตกแต่งประดับไฟสวยงามบริเวณหอนาฬิกาและในคูเมืองบริเวณที่จัดงาน ไฮไลต์เป็นกิจกรรมร่วมจุดพลุเฉลิมฉลองนับถอยหลังส่งท้ายปีเก่า
ต้อนรับปีใหม่ 2567 ค่ำคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2566
พิกัดที่ 3 ICONSIAM ร่วมจัดส่งท้ายปี “Amazing
Thailand Countdown 2024” โชว์ปรากฏการณ์เคานต์ดาวน์ระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างยิ่งใหญ่
ฉลองเข้าสู่ศักราชใหม่ต่อเนื่อง
3 วัน 3 คืน ตั้งแต่ 29 -31 ธันวาคม 2566 ภายใต้แนวคิด “The Unrivaled Phenomenon of SIAM” ชมเวทีศูฯย์รวมสุดยอดศิลปินบนเวที 360 องศา สุดอลังการริมแม่น้ำ
เซอร์ไพร์สด้วยศิลปิน KPOP วง GOT7
นำโดย แบมแบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล, มาร์ค ต้วน และคิม ยูคยอม
และ 13 ศิลปินท็อปลิสต์ของเมืองไทย อย่าง BameeKT, PERSES, Jeff
Satur, Proxie, 4EVE, ATLAS, Three Man Down, ซี-นุนิว, พีพี-กฤษฏ์, บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ และ DJ HANKY
ห้ามพลาด
!! ไฮไลต์สะกดทุกสายตาโลกด้วยการแสดงพลุรักษ์โลก 50,000
ดอก ภายใต้แนวคิด “The Unrivaled
Phenomenon of SIAM” ความยาว 9 นาที รวมระยะทาง 1,400 เมตร ตลอดคุ้งแม่น้ำเจ้าพระยา และการแสดงโดรน 3D Drone
Celebration Show กว่า 2,000 ลำ ประกอบบทเพลง
ภายใต้แนวคิด “The Revolutionary Phenomenon of SIAM” มหาปรากฏการณ์ความรุ่งโรจน์จากผืนน้ำสู่ฟากฟ้า
บอกเล่ามหัศจรรย์เรื่องราวความรุ่งโรจน์ของ ICONSIAM
พิกัดที่ 4 เซ็นทรัล เวิลด์
กรุงเทพฯ เตรียมสร้างปรากฎการณ์ความสุขอย่างยิ่งใหญ่จัด “Centralworld Bangkok
Countdown 2024” วันที่ 31
ธันวาคม 2566 ตรงหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ถนนราชดำริ เป็นส่วนหนึ่งในโครงการ
Amazing Thailand Countdown 2024
และ Thailand Winter Festivals ปีนี้เพิ่มความมันส์ด้วยโปรดักชั่นระดับโลก
ทั้งเวที แสง เสียง คมชัดทุกองศา และกิจกรรมไฮไลท์การแสดงจากศิลปินที่มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศกว่า 65 ชีวิต นำโดย บิวกิ้น พีพี กฤษณ์
อิงค์ วรันธร นนท์ ธนนท์ โบกี้ไลอ้อน และ Finale Show ของศิลปินระดับโลกอย่าง YOUNGJAE GOT7 และ PATRICK
ห้ามพลาด
!! ชมการแสดงพลุสุดล้ำ Digital Firework 180 องศา ผสมผสานกับพลุจริง
ส่งเสริมศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์เป็น
Time Square of Asia แลนด์มาร์กงานเอนเตอร์เทนเมนท์ เคาท์ดาวน์ดีที่สุดในระดับโลก
ททท. สนับสนุนจัดเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
2567 ไปพร้อมกัน แนะนำ 5 พิกัด 5
ภูมิภาค ดังนี้
“ภาคเหนือ” จัด Amazing Chiang Mai Countdown
2024 วันที่ 31 ธันวาคม 2566 บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติ
82 พรรษา จังหวัดเชียงใหม่
“ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” จัด 1.งาน
AWAKEN KHONKAEN COUNTDOWN 2024 วันที่ 31 ธันวาคม 2566-1
มกราคม 2567 ที่สวนประตูเมืองและบริเวณถนนศรีจันทร์ จ.ขอนแก่น 2.งาน “นครพนม Winter Festival ตอน หนาวลม ชมโขง” 25
ธันวาคม 2566-1 มกราคม 2567 บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง จ.นครพนม 3.งาน “หอโหวด๑๐๑ ROI ET TOWER” 29 ธันวาคม 2566-1
มกราคม 2567 ตรงหอโหวด 101 จ.ร้อยเอ็ด
“ภาคกลาง” จัด 1.Countdown Suphanburi 2024 Happy Love Happy Luck 29-31 ธันวาคม 2566 ที่สวนเฉลิมภัทรราชินีหอคอยบรรหารแจ่มใส
จ.สุพรรณบุรี 2.Hua Hin Countdown 2024 วันที่ 31 ธันวาคม 3.Ratchaprasong
New Year Lighting 2024 วันที่ 5 ธันวาคม 2566-5 มกราคม 2567
บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ถนนราชดำริและถนนเพลินจิต 4.Light Up Christmas
Tree 2024 วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566-2 มกราคม
2567 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ 5.Amazing Thailand Countdown 2024 วันที่ 29-31 ธันวาคม 2566 ที่ศูนย์การค้าไอคอนสยาม
6.Centralworld Bangkok Countdown 2024 วันที่ 31 ธันวาคม 2566 mujศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
“ภาคใต้” จัด 1.Discover Phuket Countdown 2024 วันที่ 31 ธันวาคม 2566-1
มกราคม 2567 ที่ย่านเมืองเก่าภูเก็ต 2.HATYAI COUNTDOWN 2024 วันที่ 31 ธันวาคม 2566-1 มกราคม
2567 ที่ถนนศุภสารรังสรรค์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
สุขภาพ
–เช็กสุขภาพสมองด้วยตัวคุณเองได้ง่ายๆกับcogmate
ปัจจุบันนี้ผู้คนส่วนใหญ่หันกลับมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพกายกันมากขึ้น
สังเกตได้จากการออกแพ็กเกจตรวจสุขภาพประจำปีของโรงพยาบาลต่างๆ
มูลค่าการจำหน่ายอาหารเพื่อสุขภาพและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มียอดจำหน่ายสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
รวมถึงสถานที่ออกกำลังกายที่ขยายสาขากันมากขึ้น
ข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสนใจของผู้คนที่ใส่ใจสุขภาพกายของตนเองที่มากขึ้น
อย่างไรก็ดีหลายคนๆ
ก็มีคำถามเกี่ยวกับสุขภาพของสมองว่าเราจะดูแลและตรวจสุขภาพสมองกันได้อย่างไร
และมีวิธีการดูแลแบบไหนถึงจะดี
ทำความรู้จัก ‘สุขภาพสมอง’ ที่ดีเกี่ยวข้องกับปัจจัยต่างๆ
ทั้งทางร่างกาย จิตใจ การดำเนินชีวิตอีกด้วย ดังนั้นคำว่า ‘สุขภาพสมอง’ จึงหมายถึง
สภาวะของการทำงานของสมองในด้านการรับรู้ ประสาทสัมผัส สังคม อารมณ์ พฤติกรรม
และการเคลื่อนไหว ช่วยให้บุคคลตระหนักถึงศักยภาพสูงสุดของตนเองตลอดช่วงชีวิต จะส่งผลให้เราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แก้ปัญหาชีวิตประจำวัน ช่วยตัดสินใจ ทำให้เกิดการเรียนรู้ได้ง่าย
รักษาความจำให้คงอยู่ ควบคุมอารมณ์ และมีคุณภาพชีวิตโดยรวมที่ดีนั่นเอง
มีทางเลือกใหม่เช็ก
‘สุขภาพสมอง’ ด้วยตนเอง
โดยใช้เว็บไซต์ https://hhcthailand.com/cogmate/
แนะนำ กรณีเกิดสงสัยหรืออยากรู้ว่าประสิทธิภาพการทำงานของสมองของเราเป็นอย่างไร
อาการลืมบ่อย ๆ อาการเบลอ ๆ คิดช้าของคุณ
ส่งผลต่อการทำงานของสมองหรือไม่มากน้อยแค่ไหน
ปัจจุบันนี้สามารถเช็กสุขภาพสมองของเราได้ง่าย
ๆ ด้วยตัวคุณเองเหมือนกับที่คุณใช้ ATK
ตรวจหาโควิด เช่นเดียวกันวิธีการตรวจวัดระดับสุขภาพสมองผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ชื่อว่า
CogMateTM ผ่านทาง www.CogMateThailand.com ก็เป็นอีกเครื่องมือเปรียบเสมือนเป็น
CTK (CogMate Brain Health Test Kit) ของทุกคนที่จะทำผู้กำลังสงสัยระดับสุขภาพสมองของตนว่า
อยู่ในระดับปกติหรือไม่ สิ่งสำคัญการทดสอบนี้มีราคาไม่แพง ทุกคนสามารถเข้าถึงได้
การตรวจวัดระดับประสิทธิภาพสมอง
(สุขภาพสมอง) ของ CogMateTM นั้นเราจะได้รับการการทดสอบผ่านการทดสอบ
4 ด้าน อันได้แก่
1.ทดสอบโดยใช้ไพ่ประเมิน Platform
online CogMateTM สามารถทำการทดสอบได้ทั้งบนพีซี แท็บเล็ต
หรือสมาร์ทโฟนก็ได้ ใช้เวลาทดสอบเพียง 15 นาที
ซึ่งการทดสอบนี้จะนำเอาผลของคุณไปคำนวณหาค่าตัวชี้วัดระดับสุขภาพสมอง
หรือที่เรียกว่า Brain Performance Index (BPI) เพื่อบอกสุขภาพสมองของคุณเทียบกับค่าเฉลี่ยในวัยเดียวกันจากทั่วโลก
และหากคุณตรวจสอบเป็นประจำก็สามารถเปรียบเทียบกับประสิทธิภาพการทำงานของสมองของคุณเองกับผลการทดสอบครั้งที่ผ่านมาได้!
แต่…การทดสอบนี้ไม่สามารถป้องกันหรือวินิจฉัยความเจ็บป่วยของคุณได้
แต่คุณสามารถทดสอบเพื่อสร้างความตระหนักด้านสุขภาพสมองของคุณเท่านั้น
หากคุณสนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.CogMateThailand.com
สุขภาพสมองที่ดีจะช่วยทำให้เราสามารถจดจ่อกับทุกกิจกรรมที่เราทำในชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น
ทั้งด้านการทำงาน การใช้ความคิด รวมทั้งการเล่นกีฬาต่างๆ ที่ต้องใช้สมาธิ
ดังนั้นแล้วอย่าลืมดูแลสุขภาพสมองด้วยการออกกำลังกายรวมถึงกระตุ้นการทำงานของสมองด้วยการ
การอ่านหนัง การไขปริศนา และการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ เป็นประจำ
รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอจะดีต่อสมองนั่นเอง
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
–ด่วน!!นายกฯเศรษฐา/สุดาวรรณสั่งการททท.3ส่วน4เรื่อง
นายกฯ เศรษฐา สั่งการด่วน!
เทศกาลปีใหม่ ขอให้ทุกหน่วยดูแลท่องเที่ยวฝั่งทะเลอ่าวไทย เตรียมพร้อมรับสถานการณ์คลื่นลมแรง
เน้นทำ 3 ส่วน ป้องกันภาพลักษณ์เสียหาย ด้าน รมว.สุดาวรรณ
กำชับ ททท.ปี’67 เร่งทำ 4 เรื่อง
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
สั่งการด่วนวันนี้ 22 ธันวาคม 2566 ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รีบดำเนินการแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่รอบฝั่งทะเลอ่าวไทย
ให้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์สภาพอากาศ เพราะขณะนี้เป็นช่วงทะเลอ่าวไทยมีคลื่นลมแรง
อาจส่งผลกระทบต่อการเดินทางท่องเที่ยว ดังนั้นจึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางระบบดูแล
ป้องกัน ครบตามเกณฑ์มาตรฐานสากล
ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่ 1.ระบบสัญญาณเตือนภัย 2.เข้มงวดด้านการกำกับดูแลจำนวนผู้โดยสารทางเรือท่องเที่ยวไม่ให้บรรทุกคนเกินอัตราที่กำหนด 3.เตรียมชูชีพบนเรือและสภาพเรือให้พร้อมบริการ
เนื่องจากสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญอย่างมากกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว
ดังนั้นภาครัฐและหน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องต้องกำกับดูแลอย่างเข้มงวด
อย่าให้กลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวมาทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว
ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะสร้างรายได้เข้าประเทศทั้งตลอดการเดินทางเทศกาลปีใหม่
และตลอด 365 วัน ปี 2567
รมว.สุดาวรรณ
กล่าวว่า ล่าสุดยังได้ประชุมติดตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี พร้อมกับรับฟังทิศทางการดำเนินงานของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) โดยได้กำชับพร้อมสั่งการ ททท.เร่งดำเนินการอย่างชัดเจนตามภารกิจสำคัญเร่งด่วนที่จะต้องติดตามการทำงานอย่างใกล้ชิดต่อเนื่องครบทั้ง
4 เรื่อง
ได้แก่
เรื่องที่
1 กำหนดทิศทางดำเนินการด้านตลาดท่องเที่ยวปีงบประมาณ
2567 ทั้งด้านตลาดต่างประเทศ และตลาดในประเทศ ต้องเห็นผลงานตามเป้าหมายของรัฐบาลนำรายได้เข้าประเทศให้ได้ไม่ต่ำกว่า
3 ล้านล้านบาทขึ้นไป
เรื่องที่
2 เดินหน้าส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ 55
เมืองรอง ตลอดปี 2567 ซึ่งเป็นแผนงานเร่งด่วนที่จะต้องบูรณาการทำงานร่วมกับทุกฝ่ายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
เรื่องที่
3 วางยุทธ์ศาสตร์เดินหน้าแผนขับเคลื่อนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
(Sustainable Tourism) สนอดคล้องตามหลักการพัฒนาสิ่งแวดล้อมของโลกให้ยั่งยืนหรือ
SDG :Sustainable Development Goals
ขององค์การสหประชาชาติ
เรื่องที่
4 มอบหมายผู้บริหาร ททท. เตรียมการรองรับการลงพื้นที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
(ครม.) สัญจร ที่จังหวัดระนอง ต้อนรับศักราชใหม่วันที่ 23
มกราคม 2567
ข่าวที่สอง
-AOTขานรับรมว.สุริยะบริการปีใหม่สะดวก6สนามบิน
รมว.สุริยะ
ย้ำ ทอท.จัดทัพ 6 สนามบินหลักดูแลนักท่องเที่ยวเดินทางปีใหม่ทะลัก
2.65 ล้านคน ได้รับความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ส่วน เชียงราย
หาดใหญ่ ลดทั้งผู้โดยสารและเที่ยวบิน
นายสุริยะ
จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า มอบนโยบายให้ บริษัท
ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT/ทอท.” เตรียมความพร้อมทุกสนามบินรองรับนักเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่
2567
คาดจะมีผู้โดยสารมาใช้บริการท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท. กว่า 2.65
ล้านคน หรือเฉลี่ยวันละ 379,830 คน เพิ่มขึ้น 35.5 % จึงได้กำชับให้บริการช่วงวันหยุดยาว
ทั้งด้านการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร เร่งแก้ปัญหาผู้โดยสารหนาแน่นด้วยการใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ให้เต็มประสิทธิภาพ
และบูรณาการด้านความปลอดภัยร่วมกับส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยกันกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่
ทอท. กล่าวว่า ทอท. ขานรับนโยบาย รมว.สุริยะ ทาง ทอท.ได้มอบของขวัญปีใหม่ 2567
ยกเว้นอัตราค่าบริการจอดรถยนต์ที่สุวรรณภูมิ
ดอนเมือง และภูเก็ตดังนี้
1. สุวรรณภูมิใช้บริเวณลานจอดรถยนต์ระยะยาวโซน
C จอดได้ตั้งแต่ 00.01 น. วันที่ 29 ธันวาคม 2566 ถึง 24.00 น. ของ 1 มกราคม 2567 จำนวน 718 คัน พร้อมจัดชัตเติลบัสรถรับ - ส่ง
ผู้โดยสารภายใน ทสภ. เพื่อไปยังอาคารต่าง ๆ ตลอด 24 ชั่วโมง
2.ดอนเมือง จัดพื้นที่บริเวณระหว่างอาคารคลังสินค้า
2 และอาคารจอดรถยนต์ 5 ชั้น ตั้งแต่ 00.01 น.วันที่ 29 ธันวาคม 2566 ถึง 23.59 น.1
มกราคม 2567 จอดได้ 250 คัน มีรถชัตเติ้ลบัสให้รับ - ส่งทุก 15 นาที ตลอด 24 ชั่วโมง
3.ภูเก็ตเตรียมพื้นที่บริเวณหน้าอาคารสำนักงาน
ทภก.เริ่ม 01.00 น. วันที่ 29 ธันวาคม 2566
ถึง24.00 น. ของ 1 มกราคม 2567
ส่วนทอท.การเตรียมความพร้อมรองรับปริมาณผู้โดยสารเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ทั้ง
6 สนามบิน ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ แม่ฟ้าหลวงเชียงราย ภูเก็ต
หาดใหญ่ ข้อมูล ณ วันที่ 8 ธันวาคม 2566จะมี
1.จำนวนผู้โดยสารประมาณ
2,658,809 คน เฉลี่ยวันละ 379,830 คน เพิ่มขึ้น 35.5 % และ 2.เที่ยวบิน 15,152 เที่ยว หรือเฉลี่ยวันละ 2,165 เที่ยว เพิ่มขึ้น 27.4 %
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน
สุวรรณภูมิ คาดจะมีผู้โดยสารมากที่สุด 1,344,383
คน หรือเฉลี่ย 192,055 คนต่อวัน เพิ่มขึ้น
38.8 %และมีเที่ยวบิน 6,955 เที่ยว เฉลี่ยวันละ 994 เที่ยว เพิ่มขึ้น24.9 %
ดอนเมือง คาดจะมีผู้โดยสาร 625,309 คน หรือเฉลี่ยวันละ
89,330 คน เพิ่มขึ้น 27.6 %
และมีเที่ยวบิน 3,998 เที่ยว เฉลี่ยวันละ 571 เที่ยว เพิ่มขึ้น 27 %
เชียงใหม่ คาดจะมีผู้โดยสาร 240,249 คน เฉลี่ยวันละ
34,321 คน เพิ่มขึ้น 44.1 % และมีเที่ยวบิน 1,379
เที่ยว เฉลี่ยวันละ 197 เที่ยว เพิ่มขึ้น 29.6 %
แม่ฟ้าหลวงเชียงราย คาดจะมีผู้โดยสาร 40,558 คน
เฉลี่ยวันละ 5,794 คน ลดลง 2.2 % และมีเที่ยวบิน 280 เที่ยว เฉลี่ยวันละ 40 เที่ยว ลดลง 3.4 %
ภูเก็ต คาดจะมีผู้โดยสาร 347,650 เฉลี่ยวันละ
49,664 คน เพิ่มขึ้น 48.5 % และมีเที่ยวบิน 2,144
เที่ยว เฉลี่ยวันละ 306 เที่ยว เพิ่มขึ้น 53.3
%
หาดใหญ่ คาดจะมีผู้โดยสาร
60,660 คน เฉลี่ยวันละ 8,666 คน ลดลง 1.7 % และมีเที่ยวบิน 396 เที่ยว เฉลี่ยวันละ 57 เที่ยว ลดลง 6.6 %
นายกีรติ กล่าวว่า ทอท.
ได้นําเทคโนโลยีและนวัตกรรมบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง (Common Use Passenger Processing System: CUPPS) 5 ระบบ มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพบริการ 6
สนามบิน ให้ได้รับความสะดวกรวดเร็ว
และลดระยะเวลาการรอคอยเพื่อบรรเทาความหนาแน่นของผู้โดยสารในช่วงวันหยุดยาว ได้แก่
1.ระบบตรวจบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง
(Common Use
Terminal Equipment: CUTE) เป็นระบบอำนวยความสะดวกและจัดการด้านการเข้าถึงระบบเช็กอินผู้โดยสารผ่าน
Airlines Application
2.ระบบเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (Common Use Self Service: CUSS) เป็นระบบอำนวยความสะดวก
และจัดการด้านการเข้าถึงระบบเช็กอินผู้โดยสาร เน้นบริการแบบ Self-Service ซึ่งผู้โดยสารไม่ต้องรอแถวเช็กอิน
นอกจากนี้ ยังสามารถเช็กอินล่วงหน้าก่อนเวลาได้ (ตามเงื่อนไขของแต่ละสายการบิน)
3.ระบบรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (Common Use Bag Drop: CUBD)
เป็นระบบอำนวยความสะดวกและจัดการด้านกระเป๋าสัมภาระ โดยผู้โดยสารสามารถโหลดกระเป๋าสัมภาระสู่สายพานลำเลียงได้ด้วยตนเองอัตโนมัติ
4.ระบบตรวจสอบยืนยันตัวตนผู้โดยสาร
(Passenger Validation System: PVS) ตรวจสอบข้อมูลการเดินทางของผู้โดยสาร
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยาน
รวมถึงการอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานของสายการบินเพื่อตรวจสอบข้อมูลผู้โดยสารและคัดกรองผู้โดยสารในการเข้าแต่ละพื้นที่ตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้ในระบบ
5.ระบบประตูทางออกขึ้นเครื่องอัตโนมัติ (Self-Boarding Gate: SBG) ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในกระบวนการขึ้นเครื่องของผู้โดยสารบริเวณประตูทางออกขึ้นเครื่องให้มีความสะดวก
รวดเร็ว นอกจากนี้ มี Application: SAWASDEE by AOT ที่ผู้โดยสารสามารถเช็กข้อมูลและสถานะเที่ยวบินแบบ
Real-time พร้อมระบบแจ้งเตือนแบบอัจฉริยะ
เช็กสถานะกระเป๋าเดินทาง จองที่จอดรถ และระบบนำทางภายในอาคารผู้โดยสาร
สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Passport) ทุกสัญชาติสามารถใช้ช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ
(Auto Channel) เดินทางออกนอกราชอาณาจักร ณ
จุดตรวจหนังสือเดินทางผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศด่านตรวจคนเข้าเมืองสุวรรณภูมิ จะเพิ่มขีดความสามารถตรวจหนังสือเดินทางจากเดิมเป็น 12,000 จากปกติ 5,000 คน/ชั่วโมง
ทอท. ได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานและอำนวยความสะดวก
(Passenger Facilitation Center) และบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยงานราชการ
สายการบิน ผู้ประกอบการ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการให้บริการ เช่น ตรวจสภาพรถรับจ้างสาธารณะ
ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่รถรับจ้างสาธารณะ จัดเตรียมรถแท็กซี่สาธารณะ
เพิ่มความถี่รถโดยสารสาธารณะและการดูแลการจราจรทางอากาศ
รวมทั้งจัดอัตรากำลังพลให้เพียงพอเพื่อดูแลผู้โดยสารตลอด 24 ชั่วโมง
เพิ่มความถี่ในการจัดรถเข็นกระเป๋า ทำความสะอาดห้องน้ำ
โดยเพิ่มเคาน์เตอร์เช็กอินและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง
ๆ บริหารจัดการจราจรทั้งภาคพื้นและพื้นที่การบิน (Landside & Airside) ในช่วงชั่วโมงคับคั่ง (Peak
Hour) บริหารจัดการสายพานกระเป๋า จัดเจ้าหน้าที่ Airport
Help ช่วยดูแลเรื่องการจัดแถวของผู้โดยสารในพื้นที่ต่าง ๆ
รวมทั้งประสานงานร่วมกับส่วนงานราชการด้านการข่าว
และขอความร่วมมือจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ สายการบิน
และผู้ประกอบการในท่าอากาศยานเฝ้าสังเกตพื้นที่ด้วย
ภายในอาคารผู้โดยสารสนามบินของ
ทอท. ทุกแห่งได้ตกแต่งบรรยากาศคริสต์มาสต์และปีใหม่เพื่อสร้างความประทับใจแก่ผู้โดยสาร
สนามบินสุวรรณภูมิทำต้นคริสต์มาสสูง
12 เมตร บริเวณเคาน์เตอร์เช็คอิน Row H/J ห้องโถงผู้โดยสารขาออกชั้น
4 และจัดพื้นที่จำลองบ้านซานตาคลอส ณ บริเวณทางออก Exit A โถงผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ
ชั้น 2 ประตู 1 ตั้งแต่วันนี้ - 5 มกราคม 2567
สนามบินดอนเมือง จัดกิจกรรมมอบของที่ระลึกให้กับผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ
วันที่ 25 ธันวาคม 2566 ตรงเคาน์เตอร์ออกบัตรโดยสารหมายเลข 11 - 12
อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ อาคาร 2
สนามบินเชียงใหม่
จัดกิจกรรมแจกของขวัญวันคริสต์มาส วันที่ 25 ธันวาคม 2566
สนามบินเชียงราย จัดการแสดงดนตรีพิเศษพร้อมมอบของที่ระลึกระหว่างวันที่
24 – 25 ธันวาคม 2566 และ 1 มกราคม 2567
สนามบินภูเก็ต จัดกิจกรรมมอบของที่ระลึกวันที่ 25
ธันวาคม 2566
สนามบินหาดใหญ่ จัดแสดงวงออร์เคสตรา (Orchestra) บรรเลงเพลงสร้างบรรยากาศเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่
พร้อมแจกของที่ระลึกแก่ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ วันที่ 25 ธันวาคม 2566
ตลอดเทศกาลปีใหม่คาดจะมีผู้มาใช้บริการจำนวนมาก
ทอท. จึงขอความร่วมมือเผื่อเวลาเดินทางล่วงหน้า 2 – 3 ชั่วโมง
เพื่อป้องกันการพลาดเที่ยวบิน สอบถามข้อมูลเพิ่มที่ AOT Contact Center โทร. 1722
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น