ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.โรมเปิดแผนตลาดยุโรปใต้7ประเทศเที่ยวไทยปี67


 นันทศิริ รณศิริ 

ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานโรม อิตาลี

ททท.โรมเปิดแผนนำยุโรปใต้7ประเทศเที่ยวไทยปี’67

โหมAirlinesFocus/ขายทัวร์วัฒนธรรม/ซอฟท์เพาเวอร์

เพิ่มโปรแกรมกระตุ้นยุโรปเมืองรอง“เหนือ-อีสาน-ใต้”

ช้อปคิงเพาเวอร์ฉลองส่งท้ายCelebration2024ลด20%

ส่งท้ายปี!สมัครSCARLETคิงเพาเวอร์ช้อปสนั่นรับ2คุ้ม

ก.ท่องเที่ยวชูเชื่อมั่นต่างชาติทัวร์ปีใหม่รับเยียวยา1ล้าน

บางจากรับข่าวดีคว้าTop2ของโลกผู้นำธุรกิจยั่งยืนESG

เที่ยวไทยงานสมโภช“วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์”338ปี

6 อาการเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต รักษา 72 ชม.แรกฟรี!

บินไทยรับโอนผู้โดยสารตั๋วบินไทยสมายล์เริ่มม.ค.67

ปี66คาดต่างชาติเที่ยวไทยแตะ28ล้านคน-ลุ้น8ตัวชี้วัด

 

วันเสาร์ที่ 30 ธันวาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TATRome   #บางจาก #เที่ยวงานสมโภชวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์338ปี  #Countdown2023

 ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...https://fb.watch/pfkFsDAOH6/?mibextid=Nif5oz

ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ !! นางสาวนันทศิริ รณศิริ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานโรม อิตาลี ลั่นปี’67 เพิ่มรายได้ตลาดยุโรปใต้เที่ยวไทย 7 ประเทศ ชู “อิตาลี” เป็นฮับ เน้นกลยุทธ์ Airlines Focus ผนึกพันธมิตรสายการบินเปิดเส้นทางบินตรง พร้อมชวนทัวร์โอเปอเรเตอร์ใหญ่ผลิตแพกเกจวางขาย ขยายสินค้า “ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม” ควบทะเล ธรรมชาติ ขานรับเป้าหมาย 5 ตลาด และดันเที่ยวเมืองรอง 3 ภาค จัดโปรแกรมเชื่อมโยงเมืองหลัก+เมืองรอง “ภาคใต้” ปักหมุด ภูเก็ต สมุย สู่ นครศรีธรรมราช พัทลุง “ภาคเหนือ” เชียงใหม่ สู่ เชียงราย สุโขทัย แพร่ น่าน “ภาคอีสาน” กรุงเทพฯ สู่โคราช

นางสาวนันทศิริ รณศิริ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานโรม อิตาลี เปิดเผยว่า เตรียมแผนกระตุ้นนักท่องเที่ยวที่ดูแลพื้นที่ทั้งหมดในแถบตลาดยุโรปใต้กับเมอร์ดิเตอเรเนียนทั้งหมด 7 ประเทศ ได้แก่ อิตาลี สเปน โปรตุเกส อิสราเอล ตุรกี ไซปรัส โดยมีอิตาลีเป็นตลาดศูนย์กลางของไทยปี 2566 ต่อเนื่องปี 2567 พร้อมจะเพิ่มรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวด้วยกลยุทธ์ “Airlines Focus” ร่วมมือกับสายการบินต่าง ๆ นำนักท่องเที่ยวทุกประเทศเดินทางมาไทย ตามแผนส่งเสริมการขายทำโปรโมชั่นร่วมกับพันธมิตรบริษัทตัวแทนจัดนำเที่ยว เลือกใช้สายการบินนานาชาติ

 


ขณะนี้เป็นช่วงฤดูเดินทางยาวไปจนถึงเมษายน 2567 จึงมีนักท่องเที่ยวต้องการเดินทางเป็นจำนวนมาก ททท.จึงจับมือทำการตลาดร่วมกันกับบริษัท Alpi Tour ทัวร์โอเปอเรเตอร์รายใหญ่ในอิตาลี และ บริษัท Cedok ผู้นำตลาดในสาธารณรัฐเช็ก แล้วไปขอให้  Neos Air สายการบินนานาชาติที่ให้บริการประจำอยู่ในแถบยุโรป และเอเชียบางพื้นที่ ทดลองบินตรงแบบประจำเข้ามายังเมืองไทย เปิดเที่ยวบินแรก มิลาน (อิตาลี) สู่ ภูเก็ต (ประเทศไทย) ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2566 ใช้เครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ นำนักท่องเที่ยวเต็มลำมีอัตราบรรทุก 100 % มาเมืองไทย 355 คน/เที่ยว แล้วจะบินเพื่อนำนักท่องเที่ยวเข้ามาต่อเนื่องไปจนถึงเมษายน 2567 สัปดาห์ละ 1 เที่ยว

 

ททท.ตั้งเป้าหมายจะนำนักท่องเที่ยวตลาดอิตาลี เดินทางมากับสายการบิน Neos Air ตลอด 4 เดือนนี้ ไม่น้อยกว่า 4,000 คน พฤติกรรมของชาวอิตาลีจะนิยมใช้เมืองมิลานเป็นศูนย์กลางบินเดินทางเที่ยวต่างประเทศ ส่วน “กรุงโรม” ก็เหมือนกันอากาศเริ่มหนาวแล้วก็จะเดินทางโดยเลือกใช้สายการบินนานาชาติจากยุโรปแล้วไปเปลี่ยนเครื่องที่ตุรกีเดินทางเข้ามาพักผ่อนในไทย

ตลอดปี 2566 ททท.สำนักงานโรม ตั้งเป้านำอิตาลีมาเที่ยวเมืองไทยให้ได้เกินกว่า 180,000 คน ล่าสุดภายในธันวาคมนี้ทำได้แล้วประมาณ 1.97 แสนคน แนวโน้มปีนี้น่าจะทำได้เกินเป้าเล็กน้อย เป็นสัญญาณที่ดีกับเศรษฐกิจของประเทศต่อเนื่องปี 2567 ตามสถานการณ์ตอนนี้ทำตัวเลขได้เท่าปี 2562 แต่ตลาดอิตาลีเที่ยวเมืองไทยในภาพรวมปี 2566 จะเป็นกลุ่มคุณภาพมีรายได้ค่อนข้างสูง พร้อมใช้จ่ายเงินท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากเดิม เนื่องจากราคาตั๋วโดยสารเครื่องบินแพง แล้ว ปัจจุบันก็มีวันพักเฉลี่ยในไทย 18-20 วัน/คน/ทริป ส่งผลดีให้รายได้เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ททท.โรม พยายามนำเสนอสินค้าท่องเที่ยวไทยใหม่ ๆ เพื่อให้อิตาลีได้เลือกใช้บริการมากขึ้น

 


ปี 2567 ตลาดยุโรปใต้และอิตาลีจะมีแรงกระตุ้นเลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทางหลักด้วยปัจจัยบวก ประกอบด้วย ปัจจัยที่ 1 ไทยยังคงเป็นประเทศอันดับต้น ๆ ที่สามารถครองใจและความนิยมชาวอิตาลี หรือ Top of Mind เพราะจุดแข็งเรื่อง Thainess อัธยาศรัยไมตรีแบบไทย ปัจจัยที่ 2 สายการบินใหม่  ๆ สนใจบินตรงเข้าประเทศ เช่น Neos Air ไม่เคยมีเส้นทางมาไทยก็ได้เปิดบินเข้ามาแล้ว ได้สัมผัสประสบการณ์โดยได้เห็นการทำงาน การต้อนรับอย่างอบอุ่น จึงมีแนวโน้มจะขยายตารางบินต่อเนื่องปี 2567 รวมถึงมีอีกหลายสายการบินก็สนใจเปิดเส้นทางเข้ามายังไทยด้วย

ผอ.นันทศิริ กล่าวว่า การนำเสนอขายสินค้าท่องเที่ยวในตลาดยุโรปใต้ นิยม “แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม” ผสมผสานพื้นที่เที่ยวทางทะเล และการบริการแบบไทยด้วยไมตรีจิต เช่น กรุงเทพฯ ภาคกลาง ภาคเหนือ ปี 2567 จะเพิ่มวัฒนธรรมภาคอีสาน และภาคใต้ ผสมผสานเข้าไปกระตุ้นการเดินทางมากขึ้น โดยจะพยายามนำเสนอผนวกเส้นทางใหม่ ๆ เพื่อการท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้สร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ อย่าง เข้าไปทำกิจกรรมร่วมกับชุมชน โดยเฉพาะการท่องเที่ยวสินค้า ซอฟท์ เพาเวอร์ 5F ยอดนิยมมาแรง ได้แก่

 

ประเภทแรก Fight/ศิลปะการต่อสู้มวยไทย ชาวอิตาลีและตลาดในประเทศใกล้เคียง ยังนิยมเลือกโปรแกรมมาฝึกอบรมมวยไทยครั้งละ 3 เดือน ประเภทที่ 2 Food/อาหาร ที่มีความหลากหลายในแต่ละภาคของไทย ประเภทที่ 3 Festival/เทศกาลท่องเที่ยวต่าง ๆ ช่วงธันวาคม-มกราคม นี้ จะมีงานเคาท์ดาวน์ให้เลือก ไฮไลต์งานเทศกาล “วิจิตรเจ้าพระยา” ล่องเรือชมวิถีชีวิตลุ่มน้ำเจ้าพระยา พร้อมแสง สี เสียง ตระการตา โดนใจนักท่องเที่ยวอิตาลีและยุโรปมาก เรื่อยไปจนถึงการเชิญ Blogger กับ Influencer เข้ามาสร้างการรับรู้แหล่งท่องเที่ยวใหม่ในเมืองไทยก่อนจะประชาสัมพันธ์ พร้อมจับมือกับพันธมิตรผลิตโปรแกรมหรือแพกเกจท่องเที่ยวเสนอขายกับนักท่องเที่ยวในตลาดต่อไป

 


ส่วนการโปรโมตขาย “จังหวัดท่องเที่ยว 55เมืองรองของไทย” ในตลาดยุโรปใต้และอิตาลี ททท.สำนักงานโรม วางแผนจะนำสื่อมวลชน และผู้มีชื่อเสียง/Celebrity แถวหน้าของตลาดนั้น ๆ เดินทางเข้ามาสำรวจโดยเชื่อมโยง เมืองท่องเที่ยวหลักกับเมืองรองเข้าด้วยกัน ตัวอย่าง จะขยายการท่องเที่ยว ส่วนที่ 1 ภาคใต้จาก ภูเก็ต สมุย ไปยัง ตัวเมืองสุราษฎร์ธานี พัทลุง นครศรีธรรมราช ส่วนที่ 2 ภาคกลางเชื่อมโยงสู่อีสาน เน้นตลาดสนใจเฉพาะกลุ่มนักกอล์ฟ จากกรุงเทพฯ ไปยังสนามกอล์ฟบริเวณเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ส่วนที่ 3 ภาคเหนือ จากเชียงใหม่ กระจายไปยัง เชียงราย สุโขทัย แพร่ น่าน

สินค้าท่องเที่ยวเมืองรอง ตอนนี้ ททท.สำนักงานโรม กรุงเทพฯ-กาญจนบุรี-หัวหิน/เพชรบุรี โดยนำทัวร์โอเปอเรเตอร์รายใหญ่จากอิตาลีเข้ามาแล้ว ซึ่งเป็นเส้นทางที่มีความชัดเจนเพราะเอกชนในไทยร่วมมือสนับสนุนเป็นอย่างดี พร้อมจะขายได้ตั้งแต่ปี 2567

ปัจจุบัน “กลุ่มตลาดท่องเที่ยว” จากอิตาลีเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทยปัจจุบันและอนาคตมีหลากหลายตลาด ไม่น้อยกว่า 5 ตลาดหลัก ได้แก่ 1.กลุ่มครอบครัวขนาดใหญ่/กลาง/เล็ก 2.กลุ่มเดินทางเป็นคู่ 3.กลุ่มฮันนีมูน 4.กลุ่มเพื่อนฝูง 5.กลุ่มผู้หญิง/Lady Traveller  กำลังเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจ เพราะผู้หญิงจะรวมตัวกันมาเที่ยวเมืองไทย พักผ่อนชายทะเล ช้อปปิ้ง ใช้จ่ายเงินสูงพอสมควร ตอนนี้ ททท.กำลังหากิจกรรมเพิ่มรายได้รองรับเทรนด์ดังกล่าว



 

ผอ.นันทศิริ กล่าวว่า จากการสอบถามนักท่องเที่ยวและพันธมิตรในตลาดอิตาลี และยุโรปใต้ ต้องการให้ทั่วเมืองไทยรักษาความสวยงามทางธรรมชาติ และจุดแข็งเรื่องไทยเนสอัธยาศรัยไมตรีจิตที่เป็นมิตรกับผู้คน ผนวกกับการใส่รายละเอียดเรื่องการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน Sustainable Tourism Goals :STGs รวมถึงการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม Responsible Tourism ซึ่งจะใช้วิธีผสมผสานกิจกรรมบางส่วนเข้าไปเพื่อเป็นกิมมิก แต่จะไม่ได้เน้นทำกิจกรรมหนักชัดเจนจนเกินไป เพื่อปลุกจิตสำนึกนักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมตามเทรนด์การเดินทางของโลก และขอให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั่วประเทศให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยบริการจากใจเป็นมิตร Service Mind ซึ่งเป็นซอฟท์ เพาเวอร์ อย่างหนึ่งของไทยที่ทั่วโลกชื่นชอบมากด้วย

 ฟังข่าวต้นชั่วโมง 



ข่าวที่ 1 ช้อปคิงเพาเวอร์ฉลองส่งท้ายCelebration2024ลด20%

 

คิง เพาเวอร์ ชวนฉลองส่งท้ายปี SEASONAL GREETING กับ  KING POWER Celebration 2024 ระหว่างวันนี้- 2 มกราคม 2567 เลือกสินค้า Duty Free สุดฮอต มีไฟลต์บินแล้วรีบเลย! รับสินค้าที่สนามบิน ช้อปได้ทั้งขาเข้าและขาออก

 

พบกับดีลฉ่ำว้าว ลดทั้งเดือนแบบจัดเต็ม เฉพาะ “คิง เพาเวอร์ ออนไลน์” จะเป็นทีมช้อปก่อนเที่ยวหรือเที่ยวก่อนช้อปก็คุ้มสุดๆ มาช้อปส่งท้ายให้ของขวัญตัวเอง หรือคนพิเศษแบบราคาดีที่สุด

คิง เพาเวอร์ยกขบวนสินค้าแบรนด์ดังมาลดแบบเยอะมาก  จะพลาดได้ไง มีไฟลต์บินแล้วรีบช้อปด่วน!!

1.New Items - New Year - New Me จะเปลี่ยนปีใหม่แล้ว ต้องอินเทรนด์กับเหล่าไอเทมใหม่ล่าสุด

ปรับลุคให้สดใสพร้อมรับวันใหม่ เช่นแบรนด์ JEAN PAUL GAULTIER, MCM, MARC JACOBS, GUCCI, DIOR, GIVENCHY, L'OCCITANE

2.กดส่องไอเทมใหม่ ก่อนใคร พร้อมช้อปและรับของที่สนามบิน ช้อปรัว ๆ รับทันที 3 ส่วนลด และ 1 พิเศษ ดังนี้

                2.1 ลดสูงสุด 10% เมื่อช้อปครบ 4,000 บาท รับรหัสส่วนลด 10DEC

2.2 ลดสูงสุด 15% เมื่อช้อปครบ 7,000 บาท รับรหัสส่วนลด 15DEC

2.3 ลดสูงสุด 20% เมื่อช้อปครบ 10,000 บาท รับ รหัสส่วนลด 20DEC

2.4 พิเศษ! ลดเพิ่ม 5% เมื่อช้อปสินค้าที่ร่วมรายการ จะเที่ยวก่อนช้อป หรือช้อปก่อนเที่ยว ก็ เป็น ไป ได้ ช้อปวนไปที่คิง เพาเวอร์


ข่าวที่ 2 ส่งท้ายปี!สมัครSCARLETคิงเพาเวอร์ช้อปสนั่นรับ2คุ้ม

สมัครสมาชิก SCARLET คิง เพาเวอร์ แล้วเติมเงินไว้ใช้ช้อป 20,000 บาท  สมัครได้ที่จุดบริการสมาชิก สาขา รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต  ตั้งแต่วันนี้ 1 กราคม 2567  รับเลย !! เป็น ไป ได้ ทั้ง 2 สิทธิ์ ดังนี้

 

สิทธิที่ 1 รับฟรี! คูปองส่วนลด 500 บาทใช้ช้อปได้ ไม่มีขั้นต่ำ หรือใช้ร่วมคูปองส่วนลดจากรายการส่งเสริมการขาย แล้วยังได้ลุ้นก่อนช้อป 2,000 บาท, 2,500 บาท และ 3,000 บาท ไว้ใช้ช้อป 10,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ

 

สิทธิที่ 2 รับทันที! ตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ กรุงเทพฯ-ฮ่องกง เมื่อมียอดช้อป 35,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) แล้วยังได้เพิ่มฟรี! คนละ 300 กะรัต เมื่อชวนเพื่อนมาสมัครสมาชิกใหม่รับแบบ เป็น ไป ได้ แน่นอน

 

ข่าวที่ 3 ก.ท่องเที่ยวชูเชื่อมั่นต่างชาติทัวร์ปีใหม่รับเยียวยา1ล้าน

 

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมประกาศใช้มาตรการเยียวยานักท่องเที่ยวหากระหว่างการเดินทางเกิดอุบัติเหตุต้องเสียชีวิต จะได้รับเงินเยียวยาไม่เกิน 1 ล้านบาท กรณีบาดเจ็บ เยียวยาตามจริงแต่จะจ่ายไม่เกินกรณีละ 5 แสนบาท ซึ่งทางโรงพยาบาลต่าง ๆ สามารถเบิกค่าใช้จ่ายโดยตรงจากหน่วยงานรัฐบาลได้ ซึ่งเป็นการต่อยอดจากนโยบายบูรณาการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของ 12 หน่วยงาน มุ่งเน้นสร้างความเชื่อมั่นความปลอดภัย พร้อมอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวทุกคนมีความสุขตลอดการพักผ่อนตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป

 

รมว.สุดาวรรณ กล่าวว่าตามที่รัฐบาลไทยมีนโยบายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของบกลาง จากสำนักงบประมาณ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการทำความตกลงกับกรมบัญชีกลางเกี่ยวกับวิธีเบิก-จ่าย และเป็นผู้พิจารณาอัตราที่เหมาะสมตามรายละเอียดค่าใช้จ่ายที่จะให้ความช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ส่วนนโยบายการเบิก-จ่ายจะรวดเร็วกว่าการบริหารงานของกองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวต่างชาติ (ฉบับเดิม) ตามเงื่อนไขนักท่องเที่ยวแต่ละกรณีจะต้องเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จก่อนจะเดินทางกลับประเทศต้นทาง

 

เบื้องต้นรัฐบาลไทยพร้อมให้ความคุ้มครองช่วยเหลือและเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหลัก ๆ โดยจะนำเงินที่มีอยู่จากกองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวต่างชาติฉบับเดิม ซึ่งมีเกณฑ์มาตรฐานพิจารณาอนุมัติตามระเบียบ ประกอบด้วย 2 กรณีหลัก ดังนี้

 

กรณีที่ 1  นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต จะได้รับค่าชดเชยไม่เกิน 1 ล้านบาท

 

กรณี 2  เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลรัฐ/เอกชน นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะได้รับค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน 5 แสนบาท

 

สำหรับงบประมาณกลางครั้งใหม่ที่นำมาใช้ดูแลรับผิดชอบนักท่องเที่ยวต่างชาติตามมาตรการดังกล่าว คาดจะพร้อมใช้ได้ในทางปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลไทย เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหากเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ ขึ้นในเมืองไทย สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ ทั้งในโรงพยาบาลของรัฐ/เอกชน แล้วทางโรงพยาบาลแต่ละแห่งจะสามารถเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลได้โดยตรงจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาตามระเบียบขั้นตอนปฏิบัติต่อไป

 

ข่าวที่ 4 บางจากรับข่าวดีคว้าTop2ของโลก ผู้นำธุรกิจยั่งยืนESG

 

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บมจ.บางจาก ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนในระดับโลกจาก S&P Global Corporate Sustainability Assessment (S&P Global CSA) ผู้จัดทำการประเมินความยั่งยืนดัชนี Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI  โดยได้คะแนนการประเมิน S&P Global Sustainability 2023 ติดอันดับ Top 2 ของโลกในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil & Gas Refinery and Marketing นับเป็นการตอกย้ำถึงการเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืนในระดับสากล

 

ปี 2566 บางจากถือเป็นปีแห่งความสำเร็จทั้งเรื่องการขยายการดำเนินธุรกิจเพื่อรักษาสมดุลจากความท้าทายด้านพลังงาน 3 ประการ (Energy Trilemma) แล้วยังเป็นปีที่สามารถสะท้อนความมุ่งมั่นในการรักษาสมดุลการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม การกำกับดูแลธุรกิจที่ดีได้อย่างเป็นรูปธรรมจากการได้รับการจัดอันดับ S&P Global Sustainability ครั้งนี้ด้วย

ในฐานะบริษัทชั้นนำทั่วโลกในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil & Gas Refinery and Marketing  จากการประกาศผลคะแนนการประเมินด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการและเศรษฐกิจ หรือ ESG (Environmental, Social, Governance & Economic) เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2566 ทาง S&P Global องค์กรผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนเกี่ยวกับความยั่งยืน เป็นผู้จัดทำการประเมินความยั่งยืนดัชนี Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI

 

แล้วบางจากฯ ได้เข้าร่วมรับการประเมิน S&P Global พิจารณาจากการดำเนินธุรกิจและการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 9 ปี ในปี 2566  ได้รับการจัดอันดับสูงสุดตั้งแต่ร่วมประเมินมา
เป็นอีกบทพิสูจน์ในแนวทางการดำเนินธุรกิจและพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน โดยบริษัทให้ความสำคัญทั้งการร่วมรักษาสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมสนับสนุนคุณภาพชีวิตที่ดีต่อสังคม และดำเนินงานภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดีเป็น DNA ของธุรกิจมาตลอกว่า 40 ปี

 

นายชัยวัฒน์กล่าวว่า ความมุ่งมั่นขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ส่งผลให้บางจากได้การยอมรับการันตีด้วยรางวัลต่าง ๆ ตลอดปีที่ผ่านมา ทั้งระดับสากลและระดับประเทศ ซึ่งไม่เพียงเป็นความภาคภูมิใจของบริษัทฯ  เท่านั้น แต่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนให้ทุกคนในองค์กรเดินหน้าสร้างการเติบโตของธุรกิจควบคู่กับดำเนินงานด้านความยั่งยืน ส่งมอบคุณค่าระยะยาวให้กับผู้มีส่วนได้เสีย สร้างความแข็งแกร่งให้บางจากฯ และสังคมโดยรวมได้รับประโยชน์ร่วมกัน เป็นผู้นำพลังงานทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างมั่นคงยั่งยืน

 

            ช่วงที่ 2 เที่ยวเมืองไทยส่งท้ายปีรับพรดี ๆ ในงานสมโภช “วัดมหาธาตุยุราชรังสฤษฎิ์” ฉลอง 338 ปี พร้อมร่วมสวดมนต์ข้ามคืน 31 ธ.ค.นี้ หรือร่วมบูรณะปฏิสังขรณ์ได้ตามศรัทธา แล้วในช่วงเทศกาลฟังด่วน “6อาการป่วยฉุกเฉินวิกฤติ” ใน 72 ชั่วโมง ใช้สิทธิ์รักษาฟรีได้ เกาะติดเรื่องฮ็อต ข่าวแรก “การบินไทยรับโอนผู้โดยสารไทยสมายล์” ทั้งตั๋วและอื่น ๆ เริ่ม ม.ค.67 ข่าวที่สอง “ไทยชูเชื่อมั่นทัวร์ต่างชาติ” แจกเงินเยียวยา 1 ล้านบาท

 

ท่องเที่ยว –เที่ยวไทยงานสมโภช“วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์”338ปี

 

ชวนเที่ยวไทยในกรุงเทพฯ ส่งท้ายปี 2566 ในงานสมโภชใหญ่ “วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ” พระอารามหลวง 338 ปี

เทิดพระเกียรติสมเด็จพระบูรพกษัตริยาธิราชเจ้า และสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในฐานะทรงเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภก ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 6 รอบ 72 พรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 และสร้างการรับรู้ด้านประวัติศาสตร์ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร ให้ประชาชนไทยทั่วไป และต่างประเทศเลือกเดินทางท่องเที่ยวเยี่ยมชมความงดงามวัดที่มีความเก่าแก่ยาวนาน แล้วมาร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2566 รับสิริมงคลปีใหม่ 1 มกราคม 2567

 

งานสมโภชเริ่มแล้ว สามารถมาชมได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 2 มกราคม 2567 แต่ละวันมาได้เลยตั้งแต่  07.00 – 22.00 น.  จะมีกิจกรรม เจริญพระพุทธมนต์ ถวายภัตตาหารเพล ทำวัตรเย็น คอร์สปฏิบัติธรรม จัดเสวนาเรื่องงานของพระธรรมทูต นิทรรศการทางการศึกษาของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และการจัดแสดงนิทรรศการ 338 ปี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์

 

ไฮไลต์ 31 ธันวาคม 2566 เปิดให้นักท่องเที่ยวร่วมเจริญจิตตภาวนา สวดมนต์ข้ามปี เข้าสู่พุทธศักราชใหม่ ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวมีกิจกรรมต่าง ๆ ได้ดังนี้

 

กิจกรรมแรก จัดการแสดงประดับไฟ ILLUMINATE LIGHTING SHOW ใช้แสง สี ดึงดูดผู้เข้าชมงานตามคอนเซ็ปต์การเดินทางด้วยแสงแห่งปัญญา : JOURNEYING THROUGH LIGHT OF WISDOM

 

กิจกรรมที่ 2 ชมการแสดงดนตรีพลังซอฟท์ เพาเวอร์ ของไทย เริ่มด้วย ILLUMINATE WITH THAI JAZZ CONCERT ของวง THE SOUND OF SIAM , อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ศิลปินแห่งชาติ ปี 2559 สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล) ฉายา “ จอมยุทธขลุ่ย” , คุณปุ้ย ดวงพร พงศ์ผาสุก ( ปุ้ย The Voice Thailand ) ผู้ขับร้องเพลงวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ , วง BRASS BAND & PERCUSSION โดย รองศาสตราจารย์ ดร.สุกรี เจริญสุข , วง FEROCI PHILHARMONIC LIGHT ORCHESTRA โดย อาจารย์ดำริห์ บรรณวิทยกิจ หัวหน้ากลุ่มโอโบแห่งวงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพ , ขุนอิน เดี่ยวระนาด (จากภาพยนต์ไทย โหมโรง) , วงกอไผ่ วงดนตรี แนวร่วมสมัย และวงเสียงไทยคอรัส วงประสานเสียงที่มีเอกลักษณ์ไทย

 

กิจกรรมที่ 3 การแสดงวัฒนธรรม  โขนเด็ก โดยครูชูชีพ ขุนอาจ, ไหว้ครูมวยไทย, การแสดงดนตรีไทย โดย ดิน ดนตรีไทย, ลิเกคณะคุณนายบานเย็น และ โนราห์เยาวชน  

 

ตลอดงานสมโภชนักท่องเที่ยวสามารถเดินสัมผัส “เสน่ห์ตลาดวันวาน” ย่านวังหน้าตลาดวัฒนธรรม ย่านวังหน้า ร.ศ.241 ได้นำเสนอไฮไลต์ที่จะถ่ายทอดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสความเป็นไทยได้ครบทั้ง 7 ประสบการณ์ ประกอบด้วย

 

1. คิดถึงวันวาน ย่านวังหน้า : ลิ้มรสอาหารอร่อยแบบไทยโบราณ ของอร่อยประจำย่าน  อุดหนุนงานหัตถศิลป์ เครื่องหอม เครื่องประดับ งานปั้น งานจักสาน  และสินค้าเด่น  

 

2. เสน่ห์ย่านท่าพระจันทร์ : พบแพทย์แผนไทย นวดบำบัด ตำรับยาโบราณ พยากรณ์ดวงชะตา เลือกซื้อของเก่าของสะสม

 

3. ร่วมทำ Workshop & DIY : จัดดอกไม้ถวายพระ จัดพานพุ่ม จัดโต๊ะหมู่บูชา ร้อยมาลัย

 

4. สอยกัลปพฤกษ์ : อธิษฐานจิตรับรางวัลจากต้นกัลปพฤกษ์ สัญลักษณ์แห่งความสมบูรณ์

 

5.ประวัติศาสตร์นอกห้องเรียน : ย้อนไปวันวาน เรื่องเล่าย่านวังหน้า ภาพเก่าเล่าเรื่อง   

 

6.เสริมศิริมงคล : จำหน่ายชุดสังฆทาน ไทยทาน ถวายพระ ของฝาก สำหรับญาติผู้ใหญ่ หรือบุคคลที่เคารพรัก เลือกของขวัญปีใหม่  

 

7.กิจกรรมเสบียงบุญ : ถวายสังฆทานพระสงฆ์, บริจาคร่วมบุญบูรณปฎิสังขรณ์วัด 339 บาท รับพระสมเด็จอรหัง เป็นที่ระลึกเพื่อการบูชา  

 

ชวนกันมาร่วมเสบียงบุญเกื้อหนุนพระศาสนา ร่วมเฉลิมฉลองสมโภช 338 ปี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร พระอารามหลวงแห่งแรกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ร่วมบูรณปฏิสังขรณ์ ปรับภูมิทัศน์วัดให้งามสง่าสืบไป ร่วมบุญตามกำลังศรัทธาได้ที่ : ธนาคารกรุงเทพ บัญชี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ สมโภชพระอาราม เลขที่บัญชี 905-0-22750-4 บริจาคทรัพย์ 339 บาท รับพระสมเด็จอรหัง 1 องค์ เป็นที่ระลึกเพื่อการบูชา (ไปรษณีย์ไทยจัดส่งถึงบ้าน) สอบถามเพิ่ม : โทร. 063-213-5083, 063-213-3960 สามารถส่งหลักฐานการโอนเงินและที่อยู่จัดส่งพระโดยเพิ่มเพื่อนใน : Line ID : @watmahathatu338

 

สุขภาพ –6 อาการเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต รักษา 72 ชม.แรกฟรี!

           

การเดินทางหยุดยาวส่งท้ายปีมาทำความเข้าใจกับ “6 อาการ” เข้าข่ายภาวะฉุกเฉินวิกฤต เข้ารับรักษาได้ทุกโรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชนใกล้ที่สุดฟรี ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย เพียงใช้บัตรประชาชนใบเดียวและแจ้งใช้สิทธิ UCEP ตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่ (UCEP)

 

สิทธิทุกที UCEP คือ Universal Coverage for Emergency Patients) คือ สิทธิการรักษาตามนโยบายรัฐ เพื่อคุ้มครองผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตให้สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทุกแห่งที่ใกล้ที่สุดได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจนพ้นวิกฤตและสามารถคลื่อนย้ายได้อย่างปลอดภัย แต่ไม่เกิน 72 ชั่วโมง

 

            6 อาการที่เข้าข่ายภาวะฉุกเฉินวิกฤต มีดังนี้

 

1.หมดสติ ไม่รู้สึกตัว ไม่หายใจ 2.หายใจเร็ว หอบเหนื่อยรุนแรง หายใจติดขัดมีเสียงดัง 3.เจ็บหน้าอกเฉียบพลันรุนแรง 4.ซึมลง เหงื่อแตก ตัวเย็น หรือมีอาการชักร่วม 5.แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก พูดไม่ชัดแบบปัจจุบันทันด่วน หรือชักต่อเนื่องไม่หยุด 6.มีอาการอื่นร่วมที่มีผลต่อการหายใจ ระบบการไหลเวียนโลหิต และระบบสมอง ที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

 

            “ขั้นตอนการใช้สิทธิ UCEP” ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตเข้าโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ทางโรงพยาบาลประเมินอาการและคัดแยกระดับความฉุกเฉิน ทางศูนย์ประสานคุ้มครองสิทธิ ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนของข้อมูล

 

-กรณีเข้าเกณฑ์ฉุกเฉินวิกฤต จะได้รับความคุ้มครองตามสิทธิ UCEP ทันทีแต่ไม่เกิน 72 ชั่วโมง

 

-กรณีไม่เข้าเกณฑ์ฉุกเฉินวิกฤตให้รีบประสานโรงพยาบาลตามสิทธิหากประสงค์รักษาต่อต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง เมื่อพ้นวิกฤต 72 ชั่วโมงแล้ว จะส่งรักษาต่อที่หน่วยบริการประจำ

 

หมายเหตุ : ในกรณีที่ผู้ป่วยมีสิทธิได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถหรือตามกฎหมายว่าด้วยประกันชีวิตให้ใช้สิทธิดังกล่าวก่อน

 

ผู้ใช้ที่มีสิทธิคือ -ประชาชนไทยทุกคน ไม่ว่าจะมีสิทธิการรักษาใด ทั้งสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สิทธิบัตรทอง บัตร 30 บาท) ประกันสังคม สวัสดิการข้าราชการ พนักงานส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ ฯลฯ  โดยใช้บัตรประชาชนเพียงแค่ใบเดียวในการรับสิทธิ

 

            สอบถามเพิ่มเติมที่ 1.สายด่วน สปสช. 1330 (ตลอด 24 ชม.)  2.ช่องทางออนไลน์ ของ ไลน์ สปสช. ทางไลน์ พิมพ์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6  กับทาง Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –บินไทยรับโอนผู้โดยสารตั๋วบินไทยสมายล์เริ่มม.ค.67

 

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รายงานว่า  ภายหลังปรับโครงสร้างธุรกิจฯ ตามแผนฟื้นฟูกิจการ และโอนย้ายการปฏิบัติการบินและบริการต่าง ๆ ทั้งหมดจากไทยสมายล์ไปยังการบินไทย ตั้งแต่มกราคม 2567 เป็นต้นไป พร้อมอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกอย่างต่อเนื่อง โดยจะดูแลลูกค้าไทยสมายล์ทุกเรื่อง

 

ส่วนเว็บไซต์ thaismileair.com หลังปิดให้บริการไปแล้วตั้งแต่ 16 ธันวาคม 2566 ขณะนี้ทางศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ หรือ Smile Contact Center จะให้บริการเพื่อเคลียร์รายละเอียดต่าง ๆ กับผู้โดยสารไปจนถึง 31 ธันวาคม 2566 เท่านั้น

 

โดยจะอำนวยความสะดวกให้ผู้ถือตั๋วโดยสารไทยสมายล์ ที่ยังต้องการเดินทางตามกำหนดเดิม ทางการบินไทยจะเข้ามารับช่วงจัดการตั๋วและสำรองที่นั่งต่อไป ลูกค้าจะไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ส่วนผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงการเดินทาง หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไทยสมายล์ ติดต่อการบินไทยได้ตั้งแต่มกราคมปีหน้าได้ 3 ช่องทาง ดังนี้

1.เว็บไซต์ thaiairways.com

2.สำนักงานขายการบินไทยและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

3.THAI Contact Center 0-2356-1111 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือcontact@thaiairways.com

 

            ทั้งการบินไทยฯ และไทยสมายล์ ขอบคุณผู้โดยสารที่สนับสนุนและให้ความไว้วางใจใช้บริการตลอดหลายปีที่ผ่านมา และหวังให้ลูกค้าทุกคนจะได้รับความสะดวกสบายจากการบินไทยต่อไป

 

ข่าวที่สอง -ปี66คาดต่างชาติเที่ยวไทยแตะ28ล้านคน-ลุ้น8ตัวชี้วัด

 

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า แนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวเมืองไทยปี 2566 มีโอกาสถึง 28 ล้านคน ซึ่งทางกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา ได้สรุปยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย ระหว่าง 1 มกราคม -24 ธันวาคม 2566 รวมทั้งสิ้น 27,252,488 คน เฉพาะระหว่าง 1-24 ธันวาคม 2566 เดินทางมากสุดเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 16.60 % เพราะมีวันหยุดต่อเนื่องเทศกาลวันคริสต์มาสจาก 2 ตลาดหลัก ได้แก่ ตลาดแรก เพื่อนบ้านมาเลเซียมาเพิ่มขึ้นสูงสุด 149,409 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 39,011 คน ตลาดที่สอง ภูมิภาคยุโรป ช่วงสิ้นปีมีวันหยุดเทศกาลฤดูหนาวมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 796,808 คน

 

สำหรับรายละเอียดประจำสัปดาห์ระหว่างวันที่  18-24 ธันวาคม 2566 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 796,808 คน เฉลี่ยวันละ 113,830 คน เพิ่มขึ้น 16.60 % โดยภาพรวมเปรียบเทียบกันช่วงสัปดาห์นี้เพิ่มจากสัปดาห์ก่อน 120,303 คน เรียงตามลำดับ 5 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย เพิ่ม 35.34 % สาธารณรัฐประชาชนจีน 12.03 % รัสเซีย 7.50  % เกาหลีใต้ 7.16 % และอินเดีย 6.22 %

 

อันดับ 1 มาเลเซีย เดินทางมากที่สุด 149,409 คน อันดับ 2 สาธารณรัฐประชาชนจีน 96,662 คน อันดับ 3 รัสเซีย 47,071 คน อันดับ 4 เกาหลีใต้ 46,060 คน อันดับ 5 อินเดีย 41,679 คน ส่วนภูมิภาคยุโรปมีทั้งสิ้น 197,987 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 32,825 คน

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2566 ได้พิจารณาเห็นชอบและประกาศใช้แผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2566-2570) หรือเรียกว่าแผนพัฒนาการท่องเที่ยว ฉบับที่ 3 ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นแนวทางจัดทำแผนงานขับเคลื่อนการท่องเที่ยวทุกระดับตั้งแต่ระดับชาติ ระดับพื้นที่ และท้องถิ่นให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมทั้งมีตัวชี้วัดสำคัญระยะ 5 ปี ระหว่าง 2566-2570 ที่จะต้องนำมาใช้เป็นเกณฑ์การประเมินผลงานของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ควบคู่กันไปด้วย ประกอบด้วย 8 ส่วนหลัก ดังนี้

 

ส่วนที่ 1 ต้องมีสัดส่วนจีดีพีด้านการท่องเที่ยวต่อจีดีพีประเทศไม่ต่ำกว่า 25 %

 

ส่วนที่ 2 มีจำนวนธุรกิจบริการท่องเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยวได้รับการรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย และอาเซียนเพิ่มขึ้นปีละไม่ต่ำกว่า 3,000 ราย

 

ส่วนที่ 3 มีระยะเวลาพำนักของนักท่องเที่ยวต่างชาติในไทยไม่ต่ำกว่า 10 วัน/คน/ทริป

 

ส่วนที่ 4 กระตุ้นค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะเพิ่มขึ้นปีละ 5 %

 

ส่วนที่ 5  ระยะเวลาการพำนักของนักท่องเที่ยวคนไทยจะต้องทำไม่ต่ำกว่า 3 วัน/คน/ทริป

 

ส่วนที่ 6 ทำให้นักท่องเที่ยวเกิดการใช้จ่ายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นปีละ 7 %

 

ส่วนที่ 7 มีสัดส่วนนักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางครั้งแรก (First Visit) และกลุ่มเดินทางซ้ำ (Revisit) สัดส่วน 40:60 

 

ส่วนที่ 8 อันดับการดำเนินงานภาพรวมตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ของประเทศไทยจะต้องอยู่ 1 ใน 35 อันดับแรกของโลก

 

การกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวต่างประเทศเข้าไทยช่วงโค้งสุดท้ายที่เหลือเพียงอีก 1 สัปดาห์เท่านั้น ระหว่างวันที่ 25-31 ธันวาคม 2566 ใกล้เคียงกับเป้าหมายตามที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งไว้ประมาณ 80 % ของปีปกติ 2562 หรือประมาณ 28-29 ล้านคน ส่วนรายได้ภาพรวม ผู้ว่าการ ททท.ยอมรับตั้งไว้ 2.4 ล้านล้านบาท อาจจะทำได้เพียง 2 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าเป้าประมาณ 4 แสนล้านบาท 

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai