ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.อีสานไปไสกะแซ่บปี67ท่องเที่ยวอาหาร20จังหวัด


นายอรรถพล วรรณกิจ

ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยววแห่งประเทศไทย


ททท.เปิดโมเดลอีสานไปกะแซ่บอาหารนำทาง20จว.

บูมอาหารอีสานสู่ครัวโลก-ปี67ปลุกเที่ยว30ล้านคน

5เส้นทางไฮไลต์สุขทันทีที่ได้เที่ยวอีสานปังมูสุขสนุก

คิงเพาเวอร์ออนไลน์ลดทั้งWebโปรปังถึง12ธ.ค.66

ช้อปคิงเพาเวอร์ฉลอง4สุขสนุกได้ข้ามปีถึง1ม.ค.67

นายกฯเปิดทวิภาคีไทย-มาเลซ์ท่องเที่ยวปีใหม่พุ่ง

บางจากนำธุรกิจครองใจผู้บริโภคคว้า3รางวัลเด่น

บางจากศรีราชาเริ่มผลิตน้ำมันยูโร5ลดฝุ่นPM2.5

สุขทันทีเที่ยวเทศกาลวังน้ำเขียวเฟสติวัล9-11ธ.ค.

ทำ6เรื่องพัฒนาเมืองสุขภาวะลดปัญหาคนเหงา

ททท.ชี้ทัวร์จีนปี’66เปลี่ยนใหญ่5เรื่องดีกว่าปี62

บางกอกแอร์จัดโปรตั๋วบินไทย/เทศเริ่ม1,360บาท

 

วันอาทิตย์ที่  3 ธันวาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLive QFM97สถานีข่าวคุณภาพ และอ่านใน www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #QFM97สถานีข่าวคุณภาพ #TCEB  #บางจาก #อีสานไปไสกะแซ่บ  #วังน้ำเขียวเฟสติวัล

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...https://fb.watch/oHKum-ZFF1/?mibextid=Nif5oz

ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ “อรรถพล วรรณกิจ” ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พาเหรด 20 จังหวัด โหมกระหน่ำขาย “อีสานไปไสกะแซ่บ” อาหารนำทาง “เมนูถิ่นผนึกมิชลินสตาร์” สร้างเม็ดเงินสู่เศรษฐกิจ ฝันไกล “อาหารอีสานสู่ครัวโลก” ต่อยอดผลิตวัตถุดิบส่งออกต่างประเทศ  ตั้งเป้าปี 67 หลั่งไหลเข้าอีสานกว่า 30 ล้านคน-ครั้งขึ้นไป พุ่งเป้า 2 ตลาด “First Jobber-Senior Active8 สำนักงาน งัดแผนเด็ดชูจุดขายเด่นสารพัดอาหารแซ่บเวอร์ พร้อมเส้นทางตัวอย่างสุขทันทีที่เที่ยวอีสาน 5 ไฮไลต์  เคาท์ดาวน์ “โคราช-ขอนแก่น-ร้อยเอ็ด” เด็ดกว่า “มูให้ปัง” อุดรธานี  “ศรัทธาแห่งดวงดาว” มหาสารคาม “3กลุ่มสนุก 3 วัน นครพนม-มุกดาหาร-สกลนครเที่ยวชุมชนอีสานตอนล่าง ที่มูลนิธินักรบไทยในโคราช


 

นายอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า วางกลยุทธ์ทำตลาดการท่องเที่ยวอีสาน 20 จังหวัด ปีงบประมาณ 2567 ขณะนี้เป็นภาคที่มีสปอตไลท์ส่องอยู่เพื่อทำให้โด่งดังด้วย “อีสานไปไสกะแซ่บ” ชูอาหารมาเป็นสินค้านำทางนักท่องเที่ยวกระแสหลัก เพื่อกระตุ้นค่าใช้จ่ายเพิ่มจากนักท่องเที่ยว “อาหารบวกประสบการณ์” โดยใช้ “มิชลิน” บิ๊บกูมองร์ มีร้านอาหารที่ได้มิชลินสตาร์ 4 จังหวัด 33 ร้านอาหาร ควบคู่กับการเพิ่มคุณค่าด้วยการพัฒนา “วัตถุดิบท้องถิ่น” ทั้งการปลูก การปรุง สามารถเป็นสินค้าส่งออกต่างประเทศได้ด้วย เช่น ปลาร้า เครื่องปรุงอาหารเพื่อยกระดับ “อาหารอีสานสู่ครัวโลก”

เมื่อดูรายละเอียดเป้าหมายปี 2567 เป้าหมายตลาดภาพใหญ่ในประเทศจะต้องสร้างรายได้ประมาณ 1.08 ล้านล้านบาท เพิ่ม 35 % จำนวนนักท่องเที่ยว 200 ล้านคน-ครั้ง ในส่วนของ “ภูมิภาคภาคอีสาน” ต้องทำตามเป้าให้ได้กว่า 38 ล้านคน ตอนนี้เล็ง 2  กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มแรก คนวัยทำงาน first jobber เมื่อแบ่งเงินส่วนหนึ่งให้พ่อแม่แล้วก็จะนำอีกส่วนหนึ่งใช้เดินทางท่องเที่ยว กลุ่มนี้มีส่วนแบ่งตลาดเกือบ 20 ล้านคน กลุ่มที่ 2 ผู้สูงวัย Active Senior เกษียณแล้วออกเดินทางท่องเที่ยวเลือกีมาอีสานกว่า 70 % ทั้งจากกรุงเทพฯ ภาคกลาง และจังหวัดที่มีเที่ยวบินข้ามภาคอย่าง ภูเก็ต เชียงใหม่

 

ปัจจุบันภาคอีสาน มีสำนักงานดูแลพื้นที่ 8 แห่ง จะต้องขับเคลื่อนโครงการท่องเที่ยวตามจุดแข็งของพื้นที่ ได้แก่

 1.“ททท.สำนักงานนครราชสีมา” รับผิดชอบ นครราชสีมา ชัยภูมิ ทำโครงการ “ท่องถิ่น กินเที่ยวโคราช” ส่วนที่ 1 จะต่อยอดมิชลิน 9 ร้าน ส่วนที่ 2 นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวอันซีน  ขณะนี้โคราชเป็นจังหวัดเดียวในเมืองไทยที่มี 3 เมืองมรดกโลก เชื่อมโยงเรื่องราวเรื่องเล่าร้อยเรียงให้รู้จักมากขึ้น จากบ้านโคราช วัดเก่าแก่วัดนารายณ์อายุกว่า 200 ปี อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย เปิดเทศกาลท่องเที่ยวได้ปีละหลายครั้งผ่านงานมินิ ไลท์แอนด์ซาวนด์

ไฮไลต์ วันที่ 27 มกราคม 2567 เชิญชวนมาชมได้พิเศษ  “จัดนั่งโตกชมมิลิไลท์แอนด์ซาวด์ เสิร์ฟอาหารมิชลิน” คัดเลือกมานำเสนอในงาน 2-3 ร้านในจำนวนทั้งหมด 9 ร้าน มาจัดวางให้ชิมกัน

 

2.ททท.สำนักงานบุรีรัมย์ กินอาหารให้เป็นยาสร้างสมดุลให้ชีวิต จะนำผักกับวัตถุดิบท้องถิ่น ทำให้เข้าถึงอาหารอีสานนำมาทำให้ดีต่อสุขภาพได้โดยใช้การสื่อง่าย ๆ What Zab อาหารแซบนัว มากินแล้วจะฟินแบบเซาะกราว

 

3.ททท.สำนักงานสุรินทร์ เป็นเมืองช้าง ก็ต้องกินอย่างช้าง เช่น อาหาร GI หรืออาหารไก่ย่างมีชื่อเสียง หรือศรีสะเกษมีทุเรียนภูเขาไฟ

4.ททท.สำนักงานอุบลราชธานี ใช้คอนเซ็ปต์ “เที่ยวให้โดน ตะโกนว่าแซ่บ” อุบลแซ่บโคตรแปลว่า “อร่อยมาก ๆ” หลายคนอาจนึกถึงหมูยอ แหนมเนือง ตอนนี้จะเพิ่มอาหารชาติพันธุ์ผสมผสานเรื่องอาหารนำทาง เตรียมจัด “เทศกาลอาหารแม่น้ำมูล” ช่วงปลายเดือนธันวาคม 2566 สร้างสีสันให้อุบลน่ายลมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากกิจกรรม ดูตะวันก่อนใครในสยาม

 

5.ททท.สำนักงานขอนแก่น ดูแลพื้นที่ตลาดท่องเที่ยวขนาดใหญ่ 4 จังหวัด ขอนแก่น กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม มีความน่าสนใจแตกต่างกันไป เช่น เทศกาลลอยกระทงนักท่องเที่ยวแห่มาเที่ยวตรงบริเวณแลนด์มาร์กหอโหวต 101 นับหมื่นคน พร้อมกับใช้อาหารนำทาง เปิดเส้นทาง เลี้ยงวัวเนื้อวากิวด้วยกรรมวิธีได้คุณภาพส่งต่อ จะเป็นต้นทางป้อนตามร้านอาหารอย่างมีคุณภาพ เพิ่มมูลค่า เพิ่มราคา แล้วผู้บริโภคพร้อมจ่ายอย่างแน่นอน ในภาพรวมแล้วจะเป็นราคาที่จับต้องได้

 

6.ททท.สำนักงานอุดรธานี มีจุดขายท่องเที่ยวธีม “กินแล้วได้ ไหว้แล้วปัง 3 นคราธานี” จะเป็นอีกส่วนที่ได้รับประทานอาหารกับพลังที่ดี เช่น ไหว้ศาลปู่ย่า ชมทะเลบัวแดง

 

7.ททท.สำนักงานนครพนม ดูแล สกลนคร กับมุกดาหาร จะนำวิถีอาหารอัตลักษณ์ชนเผ่าแถบภูพาน สนุกปาก(อาหารการกิน) สนุกชนเผ่า มานำเสนอเพื่อกระตุ้นคนไปเที่ยวสกลนคร นอกเหนืองานแห่ดาว ชมพญานาค

 

8.ททท.สำนักงาน เลย ชูธีม Tasty ที่ เลย มีอาหารถิ่นจานเด่น ตำสั้วด๊องแด๊ง ด้วยสโลแกน ”ไปเลย ต้องรีบไปเลย...เดี๋ยวนี้เลย” นอกจากไหว้พระสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังมีอาหารนำทางอร่อย ๆ อีกมากมาย

 

ผอ.อรรถพล กล่าวว่า อีสานเข้าสู่เทศกาลเที่ยวหน้าหนาวหลายพื้นที่อากาศดีงามมาก เพียง 20 องศาเซียลเซส ทุกคนจะสุขทันทีที่ได้เที่ยวปีใหม่กับคนที่เรารัก วางแผนท่องเที่ยวแล้วประหยัดค่าใช้จ่าย และสุขทันทีที่ได้เที่ยวอีสาน ช่วงเทศกาลเคาน์ดาวน์ ส่งท้ายปีเก่า 2566 ต้อนรับปีใหม่ 2567 โดยมีเส้นทางมานำเสนอ ดังนี้

 

จุดที่ 1 เมืองท่องเที่ยวหลัก มี 2 จังหวัดนครราชสีมา กับขอนแก่น ซึ่งเป็นพื้นที่มีโรงแรมขนาดใหญ่รองรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี เตรียมจัดเคาน์ดาวน์ทั้งสองเมืองอย่างยิ่งใหญ่หน้าศาลากลางจังหวัด จุดที่ 2 เทศกาลแห่ดาวคริสต์มาส ชุมชนท่าแร่ จ.สกลนคร ชาวชุมชนมีความพร้อมใจกันประดับไฟให้เป็นดวงดาวสายงาม จุดที่ 3 “ร้อยเอ็ด” จะจุดพลุหลังหอโหวตนับพันดวง จุดที่ 3 อุบลราชธานี ชวนไปรับตะวันก่อนใครในสยาม

 

พร้อมทั้งจะแนะนำทริปท่องเที่ยวอีสาน เช่น เส้นทางที่ 1 อุดรธานี-บึงกาฬ 3 วัน 2 คืน มูให้เฮง เที่ยวให้ปัง รับพลังแบบรักษ์โลก สามารถบินตรงลงที่อุดรธานี หรือขับรถเที่ยวติดแม่น้ำ แล้วนำไปเที่ยวดินแดนสายมูแห่งใหม่ พ่อปู่เกศแก้วนาคาธิบดี และแม่ย่าละอองดาว ในบริเวณที่มีพญานาคปกปักรักษาบริเวณวัดป่าดงหนองตาล ต.นาข่า มีร้านมิชลิน VT แหนมเนือง หรือ ร้านอาหารมัจฉาพาสุขตำนานความอร่อยกว่า 40 ปี ลองไปชมพิพิธภัณฑ์เมืองอุดร ความเป็นไปและเป็นมาภายใต้อาคารโคโลเนียลที่มีความคลาสสิกอย่างยิ่ง พร้อมกับอัตลักษณ์เมืองอุดรด้วยการไปสักการะองค์ศรีสุขเนตร ได้นำพระพิฆเนศมาผสมผสานกับหลวงปู่ศรีสุทโธ โดยมีทะเลบัวแดง กับเที่ยวบ้านเชียง มาผสมผสานอย่างลงตัว

 

รวมถึงจะนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวใหม่ “พุทธอุทยานวัดป่าดงไร่วัดสันติวนาราม” มีสระน้ำขนาดใหญ่ พร้อมอุโบสถตั้งอยู่อย่างสวยงามกลางน้ำ ต่อเนื่องถึงป่าคำชะโนด

 

เส้นทางที่ 2   นำเสนอร้านมิชลิน “บ้านเฮงมหาสารคาม” ตื่นตาตื่นใจกับวัดป่าวังน้ำเย็น 1 ใน 25 Unseen New Chapters ของไทย ส่วน “ขอนแก่น” มีคาเฟ่ในตัวเมืองตกแต่งสวยงามนับ 100 แห่ง กับเดินทางไปเรียนรู้อุทยานแห่งชาติภูเวียง มีไฮไลต์ท้าทายคือ “ตลุยโซนหูซ้ายมิกกี้เมาส์”

 

เส้นทางที่ 3 สำรวจแหล่งเลี้ยงเนื้อวากิว พาไปร้าน “ประสิทธิ์โภชนา” ดูการย่างเนื้อร้านสุพรรณิกา ชมโคขุนเมืองพลเลี้ยงด้วยข้าวหอมมะลิทำให้เนื้อนุ่มละมุนอย่างยิ่ง ชมฟาร์มอรุณสุภา

 

เส้นทางที่  4 กลุ่มสนุก 3 วัน 2 คืน “นครพนม-มุกดาหาร-สกลนคร” ต้องห้ามพลาดไหว้พระธาตุเชิงชุมวรวิหาร สกลนคร มีร้านเด็ดสะบันงา ต้นตำรับ “แกงหวาย” หนึ่งในอาหารถิ่นที่ได้รับการเชิดชูจากกระทรวงวัฒนธรรมเป็นเมนูที่หลายไปแล้วนำกลับมาใหม่ ต่อด้วย “วัดผาแด่น” สักการะองค์ปูนปั้นพญานาคขนาดใหญ่บนภาพแกะสลักหน้าผาหินตระการตา พร้อมกับชมครามสกล สามารถทำกิจกรรม D.I.Y.เป็นของตนเองนำกลับบ้านได้

 

เส้นทางที่ 5 เที่ยวชุมชนกับคนภาคอีสานตอนล่าง ที่มูลนิธินักรบไทย ไทรทองเทพนิมิตร จ.นครราชสีมา ททท.ได้นำกลุ่มตัวอย่างสูงวัยเดินทางไปแล้ว ชมการก่อสร้างอนุสรณ์วีรกษัตริย์ 3 พระองค์ ได้แก่ พระนเรศวรมหาราช พระเอกาทศรถ พระนางสุพรรณกัลยา ทางผู้สร้างสถานที่แห่งนี้มีความตั้งใจพร้อมกับของสะสมหามูลค่าไม่ได้มีให้ชมมากมาย  เดินทางต่อไปชม “สนามช้างอารีน่า” จ.บุรีรัมย์  สนามใหญ่โตโอ่อ่าสามารถดึงอีเวนต์ขนาดใหญ่มาจัดในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก จากนั้นก็ไป “หมู่บ้านตาลอง” จ.สุรินทร์ ดูการทอผ้าไหมวิถีดั้งเดิม แล้วกลับมาโคราช แนะนำไปสร้างประสบการณ์แหล่งท่องเที่ยวใหม่ “ชุมชนวัดเขาจันทร์งาม” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแหล่งหินตัดที่นำมาสร้างปราสาทต่าง ๆ รวมทั้งมีภาพเขียนโบราณอายุกว่า 4,000 ปี บ่งบอกความเป็นไปของมนุษย์ปัจจุบัน

เรื่องราวทั้งหมดนี้ต้องการบอกกับทุกคนถึง “อีสาน” เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวมุมใหม่ให้ทุกคนได้ลองแล้วจะหลงรัก วันนี้ภาคอีสานมีอาหารเด็ด อยากให้มาแซ่บด้วยกัน

ฟังข่าวต้นชั่วโมง



ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์ออนไลน์ลดทั้งWebโปรปังถึง12ธ.ค.66

คิง เพาเวอร์ จัดเต็ม เป็น ไป ได้ ช้อปต่อกับแคมเปญ “KING POWER Celebration 2024” ต้อนรับปลายปีด้วยโปรสุดคุ้ม ราคาโดนจากหลากหลายแบรนด์ชั้นนำ ที่ คิง เพาเวอร์ ออนไลน์  ลดเพิ่มทั้งเว็บไซต์ เปย์ไม่ยั้ง โปรปัง ๆ หลังวันเงินเดือนออกธันวาคม 2566 รีบส่อง รีบช้อป มีทั้ง เครื่องสำอาง น้ำหอม กระเป๋า นาฬิกา แว่นตา และอื่น ๆ อีกมาก ต้องจัดเลย! แล้วรอรับสินค้าง่ายสะดวกสบายที่สนามบินได้ทั้งขาเข้าและขาออก

ช้อปคิง เพาเวอร์ ออนไลน์ ทันทีตั้งแต่วันนี้ - 12 ธันวาคม 2566 คลิก www.kingpower.com     กดรับรหัสลดทันที 2 คุ้ม เริ่มที่ 8,000 บาท/ใบเสร็จ

คุ้มที่ 1 ลดสูงสุด 10% เมื่อช้อปครบ 8,000 บาท รับรหัสส่วนลด 12CB10

คุ้มที่ 2 ลดสูงสุด 15% เมื่อช้อปครบ 12,000 บาท รับรหัสส่วนลด 12CB15 

สินค้า Duty Free สุดฮอต มีไฟลต์บินแล้วรีบเลย! รับสินค้าที่สนามบิน ช้อปได้ทั้งขาเข้า-ขาออก

2.แบ่งชำระ 0%* นานสูงสุดถึง 10 เดือน 3.รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 11,000 บาท 3.รับเลย! ส่วนลด 200.- เมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์ 4.รับสิทธิ์การสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท(สุทธิ)

 


ข่าวที่ 2 ช้อปคิงเพาเวอร์ฉลอง4สุขสนุกได้ข้ามปีถึง1ม.ค.67

 

คิง เพาเวอร์ ตอบแทนคนที่เหนื่อยมาทั้งปี! โดยทำให้ธันวาคม 2566 เป็นเดือนแห่งความสนุก มีไฟลต์เที่ยวฉลองกัน ช้อปมันกว่าเดิม ฉลองเวลาแห่งความสุขร่วมกัน รับส่วนลดสูงสุด 30% เริ่มตั้งแต่ธันวาคม 2566 – 1 มกราคม 2567 ได้ทั้ง 4 สาขา ได้แก่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต

 

กิจกรรมที่ 1 ช้อปของขวัญ สิ้นปีแล้วเลือกของดี ๆ มอบให้ตัวเองและคนรู้ใจ ด้วยวิธีลุ้นสนุก! ลงทะเบียนลุ้นรับคูปองส่วนลด เอนจอยส่วนลดจุใจถึง 30% กับ คูปอง 3 แบบ ได้คนละ 1 สิทธิ์/วัน ได้แก่ 1.คูปองส่วนลด 3,000 บาท สำหรับช้อป 10,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ 2.คูปองส่วนลด 2,500 บาท สำหรับช้อป 10,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ  3.คูปองส่วนลด 2,000 บาท สำหรับช้อป 10,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ

 

กิจกรรมที่ 2 เที่ยวสนุก! ออกทริปกับคนรู้ใจเป็นไปได้ รับฟรี ทริปท่องเที่ยวฮ่องกง  ได้ 1 สิทธิ์ ใช้เดินทาง 2 คน เมื่อซื้อ Cash Card 500,000 บาท ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ด่วนสิทธิ์มีจำนวนจำกัด

 

กิจกรรมที่ 3 รับคืนสนุก! คุ้มไม่รู้จบเป็นไปได้กับ “บัตรเครดิต” ที่ร่วมรายการ รับ Cash Back สูงสุด 18% แบ่งชำระ 0% สูงสุด 10 เดือน

 

กิจกรรมที่ 4 สมาชิกใหม่รับเพิ่มสนุก!* พลัสเอนจอยสิทธิประโยชน์พิเศษเฉพาะสมาชิกอีกมากมาย 1.สมาชิกใหม่ NAVY และเติมเงิน 1,000 บาท รับคูปองส่วนลด 10% นำไปซื้อสินค้าที่เข้าร่วมรายการได้ 1 ชิ้น 2.สมาชิกใหม่ SCARLET และเติมเงิน 20,000 บาท  รับคูปองส่วนลด 500 บาท นำไปใช้ช้อปได้แบบไม่มีขั้นต่ำ หรือใช้ร่วมกับคูปองส่วนลดลุ้นก่อนช้อป 3.ช้อปให้ครบ 35,000 บาทสุทธิขึ้นไป รับตั๋วเครื่องบินไปกลับฮ่องกงได้ทันที

 

ข่าวที่ 3 นายกฯเปิดทวิภาคีไทย-มาเลซ์ท่องเที่ยวปีใหม่67พุ่ง

 

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้นำรัฐมนตรีและหน่วยงานเกี่ยวข้องลงพื้นที่ด่านสะเดา แห่งใหม่ ในจังหวัดสงขลา เพื่อร่วมหารือทวิภาคีกับ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยมีนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมอยู่ด้วย ทางรัฐบาลไทยประกาศเร่งเดินหน้าแผนพัฒนาการค้าและการท่องเที่ยวบริเวณชายแดนไทย-มาเลเซีย ควบคู่กับการสำรวจจุดเชื่อมถนนเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิตกายูฮิตัมของมาเลเซีย ซึ่งจะสามารถขยายการเติบโตของทั้งสองประเทศทั้งปัจจุบันและอนาคตได้

 

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเพิ่มมาตรการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวมาเลเซียเดินทางมาท่องเที่ยวเข้าไทย (Ease of Travelling) โดยได้ยกเว้นการยื่นแบบรายการของคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร (แบบ ตม.6) ชั่วคราว บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา จังหวัดสงขลา ต่อเนื่อง 5 เดือน เริ่มเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2566 – 30 เมษายน 2567 เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเลเซียใช้ด่านดังกล่าวเข้าออกประเทศมากที่สุด ประมาณเดือนละ 100,000 คน จากเดิมต้องใช้ระยะเวลาผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง

 

ทันทีที่ไทยประกาศยกเว้น ตม.6 ให้นักท่องเที่ยวมาเลเซียเดินทางผ่านด่านสะเดาสามารถเพิ่มจำนวนนักเดินทางได้ทันทีเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 4-5% ส่งผลดีกับการกระจายไปใช้จ่ายเงินตามพื้นที่จังหวัดสงขลาให้มีแนวโน้มที่ดีขึ้นด้วย

 

ส่วนการประชุมร่วมกับ 2 นายกรัฐมนตรี ไทยและมาเลเซีย ครั้งนี้ ผู้นำของทั้ง 2 ประเทศสามารถตกลงนโยบายแลกเปลี่ยนเดินทางของประชาชนระหว่างกันอย่างสะดวกสบายเพิ่มขึ้น อันช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจากทั้งการท่องเที่ยว การค้าชายแดน และกระชับความสัมพันธ์ พัฒนาขยายผลสิ่งที่ดีร่วมกันอย่างเข้มแข็งมั่นคงต่อไป

 

นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า มาตรการยกเว้นยื่นแบบ ตม.6 ให้นักท่องเที่ยวมาเลเซีย ช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องการผ่านแดน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลและวันหยุดต่อเนื่อง สถิติระหว่าง 1 -15 พฤศจิกายน 2566 ส่งผลดีกับอัตราเข้าพักโรงแรม (OR :Occupacy Rate) ในสงขลาขยับสูงถึง 70 %  ทาง ททท. และเทศบาลนครหาดใหญ่ต่างก็ร่วมมือกันส่งเสริมการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวตลอดเดือนธันวาคม 2566 กระตุ้นจำนวนท่องเที่ยวและสร้างรายได้ทำให้เกิดใช้จ่ายเงินในพื้นที่เพิ่มขึ้นด้วย

 

ททท.คาดมาตรการดังกล่าวจะส่งผลดีอย่างยิ่งช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 นักท่องเที่ยวมาเลเซียจะเลือกเดินทางข้ามแดนมาร่วมเฉลิมฉลองในไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันก็มาเที่ยวเมืองไทยมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ตามสถิติของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 26 พฤศจิกายน 2566 มีนักท่องเที่ยวมาเลเซียเข้าไทยแล้ว 3.98 ล้านคน เกินเป้าหมายตลอดทั้งปี 2566 ททท. ตั้งไว้เพียง 3 ล้านคน มีแนวโน้มภายในสิ้นปีนี้จะเติบโตสูงกว่าปี 2562 ก่อนสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งตอนนั้นทำสถิติเที่ยวไทย 4.2 ล้านคน 

 

สำหรับชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาเที่ยวเมืองไทยได้ทั้งทางบก ทางน้ำและทางอากาศ ใช้จ่ายเฉลี่ประมาณ 25,000 -26,000 บาท/คน/ทริป แบ่งเป็น 1.นักท่องเที่ยวเดินทางอิสระด้วยตนเอง หรือแบบ FIT ประมาณ 65 % และ 2 เดินทางเป็นหมู่คณะหรือกรุ๊ปทัวร์อีก 35 % ในจำนวนทั้งหมดนี้เป็นการเดินทางท่องเที่ยวเมืองไทยซ้ำ ๆ ถึง 69 % เน้นเข้ามาพักผ่อนวันหยุดกับเพื่อนฝูง และครอบครัว เลือกแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม 5 จังหวัด คือ สงขลา กรุงเทพฯ ภูเก็ต กระบี่ และเชียงใหม่ ชื่นชอบทำกิจกรรม รับประทานอาหารไทย นวดและสปา ชมแสงสียามค่ำคืน และสถานที่ทางประวัติศาสตร์  กิจกรรมชายหาด

 

ข่าวที่ 4 บางจากฯนำธุรกิจครองใจผู้บริโภคคว้า3รางวัลเด่น

 

 นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ ตนพร้อมผู้บริหารเป็นตัวแทนบางจากรับมอบรางวัล ความสำเร็จการรังสรรค์พัฒนาสินค้าและบริการที่ดีเยี่ยม โดยได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับจากองค์กรต่าง ๆ  รับพลังอันทรงเกียรติแห่งความภาคภูมิใจในด้านธุรกิจการตลาด ถึง 3 รางวัลจากการประกาศผลรางวัลพระราชทาน Thailand Corporate Excellence Awards 2023 รางวัลสินค้าและบริการยอดเยี่ยมแห่งปี และรางวัล Superbrands Thailand 2023

สำหรับบางจากฯ ได้รับรางวัลในด้านผลิตภัณฑ์ บริการและแบรนด์ ดังนี้

 

1.รางวัลดีเด่นระดับ Distinguished Awards สาขาความเป็นเลิศด้านสินค้า/บริการ (Product/Service Excellence) จากงานประกาศผลรางวัล Thailand Corporate Excellence Awards 2023 จัดโดยสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) ร่วมกับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยผลการพิจารณารางวัลมาจากการสำรวจความคิดเห็นผู้บริหารระดับสูงขององค์กรภาคธุรกิจในประเทศ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ

 

2.รางวัลสินค้าและบริการยอดเยี่ยมแห่งปี จัดโดยนิตยสาร Business+ ร่วมกับวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล จากการวิจัยกับผู้บริโภคเพื่อค้นหาสุดยอดสินค้าหรือบริการที่เป็นที่ชื่นชอบอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภค โดยผลิตภัณฑ์น้ำมันพรีเมียมแก๊สโซฮอล์ Bangchak Hi Premium 97 ได้รับรางวัลจากการเป็นผลิตภัณฑ์พรีเมียมแก๊สโซฮอล์คุณภาพสูง ช่วยดูแลรักษาเครื่องยนต์ และช่วยคืนกำลังให้เครื่องยนต์ทำงานเต็มสมรรถนะ จนเป็นที่ยอมรับในกลุ่มผู้ใช้รถสมรรถนะสูง (Hi Performance Cars) รถกลุ่มซุปเปอร์คาร์ รถพรีเมียม และรถยุโรป  (Supercars / Premium Cars/ European cars) รวมถึงกลุ่มผู้ใช้รถเครื่องยนต์เบนซินทั่วไปที่ต้องการดูแลรักษาเครื่องยนต์เป็นพิเศษ

 

3.รางวัล Superbrands Thailand 2023 จากแบรนด์บางจาก และกาแฟอินทนิล โดยแบรนด์บางจากได้รับรางวัล Superbrands Thailand ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ในขณะที่แบรนด์กาแฟอินทนิลได้รับรางวัล Superbrands Thailand ต่อเนื่อง 3 ปี สะท้อนความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ที่สามารถครองใจผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง

 

นายสมชัย   กล่าวว่า รางวัลต่าง ๆ ที่บางจากฯ ได้รับเป็นบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาและยกระดับสินค้าและบริการเพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่แตกต่าง สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ด้วยเป้าหมายเป็น “จุดหมายปลายทางของคนทุกช่วงวัย” พร้อมส่งมอบผลิตภัณฑ์น้ำมันคุณภาพสูง สะอาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมกับยกระดับให้บริการเพื่อเติมเต็มความต้องการของลูกค้า โดยจะไม่หยุดแสวงหาและพัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างมูลค่าให้สินค้าและบริการต่อลูกค้า

 

ข่าวที่ 5 บางจากศรีราชาเริ่มผลิตน้ำมันยูโร5ลดฝุ่นPM2.5

 

บริษัท บางจาก คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ทางโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชา ได้เริ่มผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงกำมะถันต่ำตามมาตรฐานยูโร 5 คลิกออฟตั้งแต่  1 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป เพื่อร่วมบรรเทาปัญหามลภาวะ จากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5  และลดมลพิษสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ประกอบด้วย

 

 ชนิดที่ 1 น้ำมันเบนซินจะปรับลดปริมาณกำมะถันต่ำกว่า 10 ส่วนในล้านส่วน (10 ppm) ส่งผลให้ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศลดลงอย่างมาก ชนิดที่ 2 น้ำมันดีเซลจะปรับลดปริมาณกำมะถันต่ำกว่า 10 ส่วนในล้านส่วน (10 ppm) และปรับปรุงคุณภาพ ช่วยลดการระบายก๊าซไฮโดรคาร์บอนและออกไซด์ของไนโตรเจน ลดเขม่าจากการเผาไหม้ที่เกิดจากเครื่องยนต์สันดาป ลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศได้ด้วย

ด้วยศักยภาพของ “โรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชา” เป็นโรงกลั่นแบบ Complex Refinery เมื่อเดือนกันยายน 2566 ได้ดำเนินการติดตั้งและเชื่อมต่ออุปกรณ์ใหม่ เดินหน้าปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเพื่อให้ได้ตามมาตรฐานยูโร 5 พร้อมทั้งได้นำเทคโนโลยีกระบวนการผลิตใหม่ Polyshift™ ในการจัดการปริมาณ PAH ให้ต่ำลง และสร้างประโยชน์อีกอย่างน้อย 4 เรื่อง คือ 1.จะช่วยลดเขม่าไฮโดรคาร์บอนจากการเผาไหม้ที่เกิดจากเครื่องยนต์สันดาป 2.ลดก๊าซออกไซด์ของซัลเฟอร์ 3.ลดไนโตรเจนที่ปล่อยสู่บรรยากาศ 4.ช่วยลดสารกำมะถัน ส่งผลกับการลดค่าฝุ่น PM 2.5 เป็นอีกช่องทางที่ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมได้ด้วย

 

ล่าสุด บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน)  (BSRC) รับรางวัล “องค์กรที่มีผลงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมยอดเยี่ยม ประจำปี 2566” (AMCHAM Corporate Social Impact Recognition 2023) ระดับ Platinum ต่อเนื่องเป็นปีที่ 14 จากหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย (The American Chamber of Commerce in Thailand : AMCHAM) 

 

            ช่วงที่ 2 ฉลองความสุขปลายปีออกเดินทางเที่ยวเมืองไทย ไปเดินงาน “เทศกาลวังน้ำเขียว เฟสติวัล” 9-11 ธ.ค.66 ที่บ้านสุขสมบูรณ์ บ้านคลองไทร.ตำบลสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ตื่นตากับ 2 โซนต้องไปเช็คอิน แล้วฟัง “6มาตรการพัฒนาเมืองช่วยลดคนเหงา” และข่าวฮ็อต ๆ ข่าวแรก “ททท.แนะธุรกิจรับมือ” ปี66 จีนเปลี่ยนใหญ่5 เรื่อง ดีกว่าปี62 ข่าวสอง “บางกอกแอร์” ใจป้ำทำโปรตั๋วบินหน้าหนาวเริ่ม 1,360 บาท

 

ท่องเที่ยว –สุขทันทีเที่ยวเทศกาลวังน้ำเขียวเฟสติวัล9-11ธ.ค.66

 

ทริปดีเที่ยวเมืองไทยไปแล้วสุขทันที  งาน “เทศกาลชุมชน วังน้ำเขียวเฟสติวัล ตอน ของขวัญจากป่า”  ภาคีเครือข่ายชุมชนอำเภอวังน้ำเขียว ร่วมแรงร่วมใจร่วมพลังกันจัดต้อนรับนักท่องเที่ยวไปรับลมหนาวได้ 9-11 ธันวาคม 2566 ที่บ้านคลองไทร และบ้านสุขสมบูรณ์ ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา

 

หนาวนี้ต้องมาสัมผัสกับบรรยากาศสวย อากาศสดชื่น สถานที่งดงาม แหล่งท่องเที่ยวสุดปังแห่งวังน้ำเขียว โดยเฉพาะการเดินชิลชมงานเทศกาลชุมชน วังน้ำเขียวเฟสติวัล พร้อมร่วมกิจกรรมน่าสนใจมากมายน่ารอต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคนด้วยเลือกเดินได้ทันที 2 โซน

 

โซนที่ 1 เป็นป่าชุมชนบ้านคลองไทร จะมีงานบุญรักษาป่าบูชาต้นน้ำ นั่นก็คือพิธีบวชป่า ซึ่งพิธีบวชป่านี้ เป็นการสร้างกุศโลบายในการรักษาป่าของชาวบ้านไม่ให้ใครมารุกล้ำทำลายป่าไม้ด้วยการนำจีวรมาห่มให้กับต้นไม้ เช่นเดียวกับการบวชพระ ซึ่งวิธีนี้จะส่งผลต่อจิตใจของคน และกิจกรรม CSR ปลูกป่ากาแฟ เพิ่มพื้นที่สีเขียว และสร้างอาชีพเก็บกาแฟให้กับคนในป่าชุมชน

 

อีกทั้งยังมีกิจกรรมอาบป่า เข้าป่าไปอาบธรรมชาติ รับรู้บรรยากาศป่าผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 มาร่วมทดลองใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ ปล่อยจิตใจให้สงบ แล้วมาฟังเสียงป่า สัมผัสเปลือกไม้ ดมกลิ่นหญ้า ให้ธรรมชาติช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด ความเหนื่อยล้าจากสิ่งภายนอกต่างๆ เติมพลังชีวิตด้วยธรรมชาติ ที่จะทำให้ทุกคนที่ได้มาสัมผัสรู้สึกไปพร้อมกัน

 

โซนที่ 2 จะเป็นตลาดชุมชนบ้านสุขสมบูรณ์ ริมอ่างเก็บน้ำห้วยขมิ้น บริเวณนี้จัดพิเศษให้คนรักตลาดสีเขียวหรือ Green Market นำผลิตภัณฑ์มาชวนนักช้อปสินค้าเกษตรปลอดภัย ลิ้มรสอาหารและเครื่องดื่มจากผลผลิตสด ๆ จากสวน

 

อิ่มหนำสำราญแล้วก็ร่วมสนุกสนานกับกิจกรรมเวิร์คช็อป สุขทันทีที่ได้ลอง ดริปกาแฟ ลองลงมือเรียนทำอาหาร หรือ Cooking Class แบบง่าย ๆ และรวดเร็วมีทั้ง สลัดโรล แหนมเห็ด หรือชอบงานศิลปะก็สามารถเพ้นท์กระเป๋า Eco Print หากชอบใช้พลังงานก็ลงไปปลูกผักรีไซเคิล ปั้นลูกยิงเพื่อคืนต้นไม้สู่ธรรมชาติ เรื่อยไปจนถึงกิจกรรมให้ทำมากมาย

 

สุขภาพ –ทำ6เรื่องพัฒนาเมืองสุขภาวะลดปัญหาคนเหงา

 

สมัยนี้วิถีชีวิตคนเปลี่ยนไป โดยเฉพาะคนเมือง ชอบที่จะอยู่คนเดียว จนกลายเป็นความเหงา เกิดโรคซึมเศร้าตามมา ในเมืองไทยเองตอนนี้เยาวชนส่วนหนึ่งรู้สึกโดดเดี่ยว นำไปสู่ความเสี่ยงทางสุขภาพและเสียชีวิตก่อนวัยอันควร จากการพึ่งพายาเสพติด สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครียด และการฆ่าตัวตาย

 

ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แนะนำให้หันมาช่วยกันทำเรื่อง “การดูแลสุขภาพ”  หลังจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้ “ความเหงาหรือLoneliness” เป็นภัยคุกคามทางสาธารณสุข แล้วปัจจุบันความเหงาได้ยกระดับเป็นภัยสุขภาพระดับโลกเร่งด่วน  

 

ล่าสุด นพ.วิเวก เมอร์ฟี แพทย์ประจำรัฐบาล : Surgeon General of the United States สหรัฐอเมริกา เสนอการแก้ปัญหาร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมได้ 6 มาตรการ ดังนี้

 

1.สร้างโครงสร้างพื้นฐาน สนับสนุนการมีปฏิสัมพันธ์ในสังคม เช่น สวนสาธารณะ จุดพบปะสังสรรค์ พื้นที่สร้างสรรค์ในชุมชน

 

2.มาตรการด้านกฎหมายสนับสนุนการลาหยุดพักผ่อนระดับครอบครัว เพื่อให้มีปฏิสัมพันธ์

 

3.จัดระบบสุขภาพ คัดกรองผู้ที่ภาวะความเหงาและปัญหาสุขภาพจิต สำหรับไทยได้สร้างกลไกนี้อย่างเป็นรูปธรรม

 

4.ส่งเสริมศักยภาพให้ประชาชนรู้เท่าทันดิจิทัล เป็นเครื่องมือส่งเสริมการสื่อสารออนไลน์ ทำให้ไม่โดดเดี่ยว

 

5.ศึกษาองค์ความรู้เกี่ยวกับความเหงาเพิ่มมากขึ้น

 

6.สร้างวัฒนธรรมการพบปะพูดคุย ลดการแยกตัวจากสังคม

 

ทั้ง 6 ข้อเสนอ สามารถนำมาปรับประยุกต์ให้เข้ากับไทยบนฐานสภาพสังคมและวัฒนธรรมไทย

 

ขณะนี้นานาประเทศได้จัดตั้ง “คณะกรรมาธิการระหว่างประเทศเพื่อการเชื่อมต่อทางสังคม”  ตามผลการศึกษาวิจัยในต่างประเทศ พบว่า ความเหงา ความโดดเดี่ยว การแยกตัวจากสังคม การอยู่คนเดียว ขาดปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ก่อให้เกิดโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมองมากกว่าคนปกติ ที่สำคัญข้อมูลทั่วโลกมีคน 1 ใน 4 คน ต้องเผชิญภาวะความเหงาด้วย คนไทยพบผู้สูงอายุที่มีภาวะเหงาเพิ่มขึ้น ผลจากครอบครัวขยายน้อยลง ผู้สูงวัยใช้ชีวิตโดยลำพัง หากไม่รีบแก้ไขจะกลายเป็นปัญหาเรื้อรังในสังคม

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –ททท.ชี้ทัวร์จีนเปลี่ยนใหญ่5เรื่องปี66ดีกว่าปี62

  

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ตั้งเป้าหมายปี 2567 จะนำเข้านักท่องเที่ยวจีนมาให้ได้มากที่สุด 8.2 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นจากปี 2566 เกินกว่า 100 % รวมทั้งล่าสุดปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ได้จัดทำข้อมูลวิเคราะห์นักท่องเที่ยวตลาดจีนเปรียบเทียบระหว่างปัจจุบันปี  2566 เมื่อสถานการณ์หลังโควิดฟื้นตัวทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการเดินทางของทั่วโลก กับปี 2562 ช่วงก่อนเกิดโควิด-19 โดยได้ฉายภาพให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว และแต่ละภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเห็นข้อมูลจริงหันมาทำความเข้าใจให้ตรงกันถึง “โครงสร้างตลาดและการใช้จ่ายเงิน” ตามพฤติกรรมใหม่ของจีนเกี่ยวกับการเดินทางเข้ามาเที่ยวเมืองไทย ขณะนี้มีปรากฎการณ์เปลี่ยนแปลงชัดเจน 5 เรื่อง

 

ททท.กำลังเร่งทำตลาดเชิงรุกกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวจีนมาตั้งแต่ไตรมาส 2-ไตรมาส 1 ปี 2566 ด้วย 2 กลยุทธ์ คือ กลยุทธ์แรก Quick Win ฟื้นคืนตลาดกลุ่มกระแสหลัก เร่งปลุกกำลังซื้อนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มเดินทางท่องเที่ยวซ้ำ (re visit) กับขยายฐานกลุ่มเดินทางใหม่ครั้งแรก (first visit) ควบคู่กับส่งเสริมการท่องเที่ยวนอกฤดูเดินทาง (low season) กลยุทธ์สอง Quality เพิ่มจำนวนพร้อมกับกระตุ้นการใช้จ่ายเงินรุกเจาะกลุ่มกำลังซื้อที่สนใจท่องเที่ยวกิจกรรมพิเศษ เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จัดแต่งงานและฮันนีมูน การท่องเที่ยวหรูหรา การท่องเที่ยวเชิงกีฬา และการท่องเที่ยววัฒนธรรมย่อยหรือ sub-culture

 

            ขับเคลื่อนผ่านการทำอย่างเป็น 4 Newห ประกอบด้วย 1.New Segment เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนรายเซกเมนท์ 2.New Area ขยายการตลาดเข้าไปยังพื้นที่ใหม่ ๆ มากขึ้น 3.New Alliance (Airline) หาพันธมิตรใหม่ทางการบินเปิดจุดบินเพิ่มจากจีนมาไทยให้ได้มากที่สุด 4.New Mode เพิ่มเครื่องมือใหม่ ๆ ที่จะกระตุ้นตลาดเป้าหมายได้อย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพ

 

สำหรับโครงสร้างทางการตลาดของนักท่องเที่ยวจีน ททท.พบการเปลี่ยนแปลงต่างจากเดิมชัดเจน 5 เรื่อง ตามรายละเอียดดังนี้

 

ปี 2566 ชาวจีนเดินทางเที่ยวต่างประเทศ 40.3 ล้านคน โดยเลือกมาท่องเที่ยวไทย มีรายละเอียด 5 เรื่อง ได้แก่ เรื่องที่ 1 มาเที่ยวเมืองไทยอันดับ 1 ระหว่าง 1 ม.ค.-26 พ.ย.2566 รวมทั้งสิ้น 3,046,893 ล้านคน ตั้งเป้าหมายไว้ 4.2 ล้านคน เรื่องที่ 2 มีจำนวนที่นั่งเที่ยวบินเข้าเมืองไทย 4.49 ล้านที่นั่ง  เรื่องที่ 3 มีวันท่องเที่ยวในเมืองไทยพักเฉลี่ย 7.9 วัน/คน/ทริป เรื่องที่ 4 ใช้เงินเพื่อการท่องเที่ยวในเมืองไทยเฉลี่ย 20,000 บาท/คน/ทริป (ไม่รวมค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินกับค่าที่พัก) ปัจจุบันใช้จ่ายเฉลี่ย  10,000 บาท/วัน เรื่องที่ 5 นักท่องเที่ยวเป็นผู้เดินทางอิสระด้วยตนเองโดยลำพังแบบเดี่ยว ๆ (F.I.T.) สูงถึง 86 % เดินทางเป็นหมู่คณะจำนวนคนครั้งละมาก ๆ /กรุ๊ปทัวร์ (G.I.T. ) ประมาณ 14 %

 

ปี 2562 ชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศตลอดทั้งปีสูงถึง 155 ล้านคน โดยเลือกมาท่องเที่ยวเมืองไทยด้วยรายละเอียด 5 เรื่อง ได้แก่ เรื่องที่ 1 มาเที่ยวเมืองไทย อันดับ จำนวนรวมทั้งสิ้น 11,138,658 ล้านคน  เรื่องที่ 2 มีจำนวนที่นั่งเที่ยวบินเข้าเมืองไทย 13 ล้านที่นั่ง เรื่องที่ 3 มีวันท่องเที่ยวในเมืองไทยพักเฉลี่ย 7.5 วัน/คน/ทริป เรื่องที่ 4 ใช้เงินเพื่อการท่องเที่ยวในเมืองไทยเฉลี่ย  11,000 บาท/คน/ทริป ใช้จ่ายเฉลี่ย 6,100 บาท/วัน เรื่องที่ 5 เป็นนักท่องเที่ยวเดินทางอิสระด้วยตนเองโดยลำพังแบบเดี่ยว ๆ  (F.I.T.) เพียง 61 % เดินทางเป็นหมู่คณะครั้งละจำนวนคนมากๆหรือกรุ๊ปทัวร์ (G.I.T.) ประมาณ 39 %

 

ทั้งนี้สถิตินักท่องเที่ยวจีนสะสมในไทยระหว่าง 1 มกราคม – 26 พฤศจิกายน 2566 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 3,046,893 ล้านคน ตามเป้าหมายปี 2566 ททท.พยายามเร่งเต็มที่จะทำให้ได้ 3.5 -4 ล้านคน

 

ข่าวที่สอง -บางกอกแอร์จัดโปรตั๋วบินไทย/เทศเริ่ม1,360บาท

 

บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) รายงานว่าในฐานะผู้ให้บริการสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ได้จัดทำส่งดีลเด็ดตั๋วโดยสารต้อนรับฤดูหนาวด้วยโปรโมชั่น "Winter Special Offer" ราคาพิเศษ เที่ยวบินภายในประเทศ ราคาเริ่มต้น 1,360 บาท/เที่ยว และระหว่างประเทศ ได้แก่ หลวงพระบาง สปป.ลาว เริ่มต้น 3,345 บาท/เที่ยว (ราคารวมภาษีสนามบิน ค่าธรรมเนียมออกบัตรโดยสาร ค่าธรรมเนียมเชื้อเพลิงในเส้นทางบินต่างประเทศ) ภายใต้เงื่อนไขที่บริษัทฯกำหนด

 

จะเปิดจองตั๋วโดยสารราคาพิเศษพร้อมกันเริ่ม 30 พฤศจิกายน – 3 ธันวาคม 2566 ทางเว็บไซต์ www.bangkokair.com/thaitiewthai พิเศษ! เฉพาะสมาชิกฟลายเออร์โบนัสสำรองที่นั่งบัตรโดยสารได้ก่อนใคร ซื้อแล้วสามารถนำไปใช้เดินทางได้ช่วงระหว่าง 15 มกราคม - 31 พฤษภาคม 2567

 

            บางกอกแอร์เวย์ส พร้อมจะให้บริการบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟกับสมาชิก เช่น บริการฟรีโหลดกระเป๋าสัมภาระน้ำหนักคนละ 20 กิโลกรัม ใช้ห้องรับรองผู้โดยสาร บูทีคเลาจน์ตามสนามบินที่ให้บริการ และบริการเสิร์ฟอาหาร-เครื่องดื่มบนเที่ยวบิน สอบถามข้อมูลเพิ่มได้ โทร 1771 หรือ 02-270-6699 ทุกวัน เวลา08.00 น.
– 20.00 น.

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai