4กระทรวง12หน่วยงานสร้างเชื่อมั่นเที่ยวปีใหม่
ใช้นวัตกรรมปลอดภัยสนามบิน/ทางบก/ทางน้ำ
ท่องเที่ยวแท็กทีม 4 กระทรวงหลัก
12 หน่วยงาน เปิดมาตรการสร้างความเชื่อมั่นความปลอดภัยตลอดเทศกาลเที่ยวปีใหม่
“คมนาคม” ตบเท้าครบทั้งทางอากาศ ทางบก ทางน้ำ “ตม.”ใช้ทุกเครื่องมือ “ททท.”อัดฉีดแคมเปญกระตุ้นต่างชาติ
“สธ.”เข้มด้านสุขภาพ ด้าน “มท.”ตรวจแถวเปิดผับตี 4
· - ก.ท่องเที่ยวระดม4กระทรวง 12 หน่วยงาน สร้างเชื่อมั่นด้านปลอดภัยเที่ยวไทยตลอดปีใหม่
· - AOT ตม.ติดตั้งพรึบอุปกรณ์บริการอัตโนมัติ Automatic
Channel รับคลื่นวีซ่าฟรีต่างชาติ
· - มหาดไทยคุมผับเปิดตี 4 สาธารณสุขบริการเจ็บป่วยอุบัติเหตุฉุกเฉิน
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TheJournalistclub #ปีใหม่เที่ยวไทยปลอดภัย #TAT #สุดาวรรณหวังศุภกิจโกศล #TAT
อ่านใน website TheJournalistclub…https://thejournalistclub.com/economics-news-20122023-5/
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวร่วมกับ 12 หน่วยประกาศสร้างความเชื่อมั่นการเดินทางท่องเที่ยวไทยตลอดเทศกาลปีใหม่ 2567 ตามข้อสั่งการของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีนโยบายให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะต่างชาติ โดยเปิดโอกาสให้แต่ละหน่วยงานได้กล่าวถึงภารกิจด้านการบริการ การดูแลอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยวตลอดช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ซึ่งจะมีคนเดินทางท่องเที่ยวจำนวนมาก
โดยมี 4 กระทรวงหลัก กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข นำทั้ง 12 หน่วยงาน ร่วมโครงการอย่างเต็มที่ ได้แก่ 1.สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 2.กรมการท่องเที่ยว 3.กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว 4.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 5.บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) 6.สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 7.กรมการขนส่งทางบก 8.กรมเจ้าท่า 9.ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล 10.กรมการปกครอง 11. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ 12. กระทรวงสาธารณสุข จะนำภารกิจที่เกี่ยวข้องกับการดูแลอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวมาบูรณาการทำงานร่วมกัน หน่วยงานไฮไลต์หลัก ๆ ประกอบด้วย
หน่วยงานแรก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT/ทอท.” นำเอาเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้ดำเนินงาน เช่น ระบบเช็คอินด้วยตนเอง ระบบรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ โดยจะพยายามอำนวยความสะดวกระบายผู้โดยสารตามคาดการณ์จะมีผู้ใช้บริการท่าอากาศยานหลักสุวรรณภูมิ วันละมากถึง 150,000 คน จากปัจจุบันวันละ 120,000 คน
หน่วยงานที่ 2 สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเปิดใช้มาตรการวีซ่าฟรีแก่นักท่องเที่ยว
พร้อมกับอำนวยความสะดวกด้านพิธีการเข้าเมืองให้นักเดินทางต่างชาติ ด้วยการเปิดใช้ระบบช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ
(Automatic Channel)
หน่วยงานที่
3 กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว วางระบบการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย
(แบบตรวจมาตรฐานด้านความปลอดภัย โครงการชุมชนท่องเที่ยวเข้มแข็ง S.T.C. พร้อมกับจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมรักษาความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวโดยประสานการปฏิบัติกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีความพร้อมทั้งเครื่องมือและอัตรากำลังทุกพื้นที่
เพื่อสร้างความอบอุ่นใจในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว และทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการประสานงานของหน่วยงานต่างประเทศและสถานเอกอัครราชทูตที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย
เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่พร้อมเป็นผู้ประสานงานกรณีเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติ
อุบัติเหตุอุบัติภัยหรือการก่อการร้าย
หน่วยงานที่ 4 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) วางแผนด้านสื่อสารผ่านแคมเปญ “Thais Always Care หรือคนไทยใส่ใจเสมอ”
จัดทำคอนเทนต์นำเสนอเนื้อหาข้อมูลข่าวสารที่ดีของประเทศไทยผ่านสื่อสังคมออนไลน์
กระจายช่องทางสื่อสารและเผยแพร่ข้อมูลความปลอดภัย ความพร้อมเรื่องการให้บริการของเจ้าหน้าที่
การยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและมาตรฐานของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ส่วนด้านการประชาสัมพันธ์จะทำเชิงรุกนำเสนอความสวยงามของประเทศไทย
สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวโดยจัดทำในรูปแบบคอนเทนต์โดย KOLs
ต่างชาติ เผยแพร่ในแพลตฟอร์มชั้นนำ เจาะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายต่างชาติ
โดยเฉพาะตลาดหลักกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน
หน่วยที่ 5 กรมการขนส่งทางบก
จัดทำมาตรการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ถูกรถโดยสารสาธารณะหรือแท็กซี่เอารัดเอาเปรียบ จะต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
หน่วยงานที่
6 กรมเจ้าท่าได้ปรับปรุงท่าเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา
เข้มงวดให้เรือทุกลำต้องมีทะเบียนเรือและผ่านการตรวจสภาพความปลอดภัยจากกรมเจ้าท่า รวมถึงท่าเรือทุกแห่งจะต้องได้มาตรฐานความปลอดภัยพร้อมรับผู้โดยสาร
จัดชุดเฉพาะกิจออกตรวจความปลอดภัยโดยบูรณาการร่วมกับหน่วยต่าง ๆ
ติดตั้งระบบควบคุมสถานีเรือ smart pier ตลอดจนพัฒนาเส้นทางเดินเรือในคลองเชื่อมต่อ
การเดินทางจากแม่น้ำเจ้าพระยาสู่ลำคลองต่าง ๆ ทำหน้าที่เป็นศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล
โดยจับมือกับสำนักงานคณะกรรมการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานและเรือที่ประสบภัย
(สกชย.) และหน่วยงานต่าง ๆ ทำแผนความร่วมมือ (Plan For Cooperation) พร้อมให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทางทะเล
ตามมาตรฐานที่องค์การระหว่างประเทศ (IMO) กําหนด
หน่วยงานที่
7 กรมการปกครองกำชับเจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยด้านกฎระเบียบต่างๆ
ที่เกี่ยวข้อง เช่น มาตรการขยายระยะเวลาเปิดสถานบริการ ผับ บาร์
สถานบริการความบันเทิงในพื้นที่โซนนิ่งตามกฎหมายและนโยบายรัฐบาลได้จนถึงตี 4 ทั้งในกรุงเทพฯ
และจังหวัดท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มรายได้จากต่างชาติเป็นหลัก
หน่วยงานที่ 8 กรมการท่องเที่ยว
ตรวจตราเรื่องการดำเนินธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์
โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรออกตรวจติดตามการประกอบธุรกิจนำเที่ยว
ที่ไม่ได้รับอนุญาต หาวิธีป้องกันธุรกิจนอมินี (ตัวแทนอำพราง)
ดำเนินการตรวจปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย
กำชับให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวมัคคุเทศก์และผู้นำเที่ยวที่มีใบอนุญาตถูกต้องให้บริการนักท่องเที่ยวโดยคำนึงถึงความปลอดภัยและให้บริการอย่างมีมาตรฐาน
หน่วยงานที่
9 สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดทีมเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว
(Tourist Assistance Center :TAC) ประจำศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทั่วประเทศทั้งหมด
17 แห่ง ศูนย์ประสานงาน 61 แห่ง รวมเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทั้งสิ้น 246
คน ควบคู่ช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ประสบเหตุบาดเจ็บและเสียชีวิต
หน่วยงานที่
10 กระทรวงสาธารณสุขจะร่วมดูแลกรณีเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุฉุกเฉินต่าง
ๆ โดยเฉพาะการรักษาพยาบาลและการส่งต่อให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว
รมว.สุดาวรรณ กล่าวว่า
การประกาศความร่วมมือกันทำงานอย่างเข้มแข็งของ 12 หน่วยงาน จะเพิ่มความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาไทยเชื่อมั่นในศักยภาพการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย
พร้อมทั้งขอเชิญชวนประชาชนคนไทยทุกคนร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดีต้อนรับดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางอย่างมีความสุข
เกิดความประทับใจ เพื่อจะได้นำเงินกลับมาใช้จ่ายและท่องเที่ยวซ้ำ ๆ เพิ่มขึ้นต่อไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น