ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.ขอนแก่นเปิด3แผนเพิ่มรายได้ท่องเที่ยวปี 2567


นายเสกสรร ศรีไพรวรรณ

ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานขอนแก่น


ททท.ขอนแก่นเปิดแผนปี67เพิ่มรายได้ขยาย3เมืองรอง

ปี’66โกยแล้ว2.8หมื่นล้าน-บูมเคาท์ดาวน์/4เส้นทางใหม่

ชูกระแสเที่ยวอาหารมิชลิน+ท้องถิ่นดันเศรษกิจโตแรง

ช้อปคิงเพาเวอร์ออนไลน์Celebration2024ลดแรง20%

คิงเพาเวอร์ช้อปรับบัตรคอนเสิร์ตเจฟซาเตอร์22ธ.ค.นี้

แลกด่วน!!กะรัตคิงเพาเวอร์บิวตี้FIRSTER/เที่ยว/สปา

ททท.ตีปีกแอร์อินเดียบินตรงภูเก็ตเพิ่มทัวร์1.5ล้านคน

บางจากเปิดแจกของขวัญเดินทางปีใหม่4โปรแกรมดี

โรงกลั่นบางจากใช้เรือใหญ่สุดSuezmaxเพิ่มน้ำมันดิบ

สุขทันทีที่จิมทอมป์สันฟาร์มชมดอกไม้/นิทรรศการอีสาน

ธนาคารเวลานวัตกรรมใหม่สุขภาพแนวใหม่ของผู้สูงวัย

AWCดึง2เชฟมิชลินชูจุดขายเมืองไทยEARooftopโลก

นายกฯเศรษฐาเร่งททท.3นโยบายปลุก55เมืองรองปี67

 

วันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก #ทททขอนแก่น  #จิมทอมป์สันฟาร์ม

 

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...

ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ “เสกสรร ศรีไพรวรรณ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานขอนแก่น ขานรับนโยบายเพิ่มรายได้ท่องเที่ยวลุยทำ 4 แผนงาน ชูมหกรรมเที่ยว “เคาท์ดาวน์” 3 ทำเลทอง ศูนย์ประชุม KICE ตลาดต้นตาล ประตูเมือง เติมสถิติ 11 เดือนแรกปี’66 ตุนรายได้ไว้แล้ว 28,000 ล้านบาท โต 16 % มีนักท่องเที่ยวสะสม  8.8 ล้านคน เดินหน้าขานรับนโยบายเพิ่มรายได้ยกระดับ “ท่องเที่ยวอาหารและเครื่องดื่ม” ชูโรงด้วยร้านมิชลิน พร้อมเร่งปูพรม “เที่ยวเมืองรอง” ร้อยเอ็ด-มหาสารคาม-กาฬสินธุ์ เสนอขายโปรแกรมดีเมืองหลักสู่เมืองรอง 4 เส้นทาง “ข้าวหอมมะลิ/บรรพชีวิน-ร้านมิชลิน-เนื้อวากิว-พลังศรัทธาไหว้พระสิ่งศักดิ์สิทธิ์”

 

นายเสกสรร ศรีไพรวรรณ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานขอนแก่น เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ตลาดการท่องเที่ยวมีผู้เยี่ยมเยือนเข้าสู่ขอนแก่นมีจำนวนสะสมตั้งแต่มกราคม-พฤศจิกายน 2566 ประมาณ 8.8 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 15 % สร้างรายได้กระจายทั่วพื้นที่ราว 28,000 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 16 % ระหว่างเดือนธันวาคม 2566 จนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2567 วางกลยุทธ์ขับเคลื่อนตลาดแต่ละส่วนปีงบประมาณ 2567 มุ่งเพิ่มรายได้ท่องเที่ยวตามแผน ททท.ในประเทศ และนโยบายรัฐบาลไทย ประกอบด้วย 4 แผนงาน ได้แก่

 

แผนงานที่ 1 ส่งเสริมการท่องเที่ยวเทศกาลโดยจัดกิจกรรมต่อเนื่องยาวข้ามปี เริ่มจากงานท่องเที่ยว “เคาท์ดาวน์” ขอนแก่นจัดใน 3 พื้นที่หลัก คือ ศูนย์ประชุมนานาชาติ KICE ตลาดต้นตาล ประตูเมือง  รวมทั้งจะกระจายจัดตามพื้นที่อื่นอีกหลายแห่ง คาดจะมีนักท่องเที่ยวเข้าร่วมเพิ่มจากปีก่อนหลักหมื่นคนปีนี้จะขยับเป็นหลักแสนคน ส่วนใหญ่เป็นชาวขอนแก่นเดินทางกลับภูมิลำเนา กับนักท่องเที่ยวพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง เช่น อุดรธานี นครราชสีมา และนักท่องเที่ยวอื่น ๆ เข้ามาร่วมนับถอยหลังเข้าสู่ปี 2567 จากนั้นทางจังหวัดขอนแก่นเชิญชวนร่วมทำบุญตักบาตร ตามวัดต่าง ๆ และเมืองโบราณ ต้อนรับปีใหม่วันที่ 1 มกราคม 2567

 

ส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ศูนย์กลางจัดงานเคาท์ดาวน์อยู่บริเวณ “หอโหวต 101” จะมีพลุ ดนตรี แลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาร่วมเคาท์ดาวน์ส่งท้ายและต้อนรับปีใหม่ในอีก 2 จังหวัด ได้แก่ มหาสารคาม กับ กาฬสินธุ์ ก็จัดกิจกรรมด้วยเช่นกัน

 

ขณะนี้หน่วยงานรับผิดชอบร่วมมือกันประเมินสถานการณ์เพื่อเตรียมความพร้อม การจราจร ศูนย์อำนวยความสะดวกการขับขี่ปลอดภัย ซึ่งทุกจังหวัดน่าจะได้จัดศูนย์ไว้บริการตามจุดต่าง ๆ และรณรงค์ดื่มไม่ขับ ส่วนตามสถานบันเทิงก็มีจุดตรวจคัดกับรับส่งคนเมาแล้วไม่สามารถขับรถได้ เพื่อลดอุบัติเหตุด้วย

 

แผนงานที่ 2 กระตุ้นตลาดท่องเที่ยวเข้าสู่เมืองรองใน ททท.ขอนแก่นรับผิดชอบ ก็มี มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ เบื้องต้นเสนอขายโปรแกรมทัวร์พิเศษกว่าปกติ “ท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์” ผสมผสานเส้นทางเมืองรองบวกเมืองหลัก คัดเลือกสินค้าที่มีความโดดเด่น เช่น เส้นทางท่องเที่ยวข้าวหอมมะลิ+แหล่งธรณีวิทยา

 

โปรแกรมที่ 1 ร้อยแก่นกาฬสินธุ์ ชูเรื่อง “อาหาร” คือเส้นทางข้าวหอมมะลิ ร้อยเอ็ด ผนวกกับเส้นทางบรรพชีวินซึ่งแหล่งขุดค้นพบฟอสซิลไดโนเสาร์ใหม่ ๆ กระจายทั่วกาฬสินธุ์ ซึ่งโดดเด่นมากในเอเชีย ด้วยความหลากหลายและครอบคลุมบริเวณกว้าง ระยะสั้น ได้จัดทำเส้นทางรองรับกลุ่มนักเดินทางด้วยตนเอง (FIT) กลุ่มนักเรียนนักศึกษา ปัจจุบันมีโรงเรียนหลายทั้งนานาชาติและทั่วไปสามารถจัดทริปนำนักเรียนมาเปิดประสบการณ์ในพื้นที่ใหม่บรรพชีวิน จังหวัดกาฬสินธุ์  โดยไม่ต้องเดินทางไปต่างประเทศได้ ส่วนระยะยาว ททท.ขอเสนอให้รัฐหรือองค์กรที่มีศักยภาพไปเจรจาเชิญชวนให้มีผู้สนใจเข้ามาลงทุนขนาดใหญ่สร้างสวนสนุกแบบแมนเมด Themepark ออกแบบให้เมืองรองเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ สามารถพลิกภาคอีสานโดยเนรมิตให้คล้ายยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ หรือดิสนีย์

 

โปรแกรมที่ 2 เส้นทางแห่งดวงดาว มหาสารคาม-ขอนแก่น บวกเส้นทางโลว์คาร์บอน นำเส้นทางซึ่งเป็นแหล่งเลี้ยงและผลิตโคขุนหลายฟาร์มในอีสานที่สารคาม  ผลิตเนื้อโคส่งตามร้านอาหารดัง ในขอนแก่น นครราชสีมา ซึ่งสามารถนำมาออกแบบเมนูรสชาติดีได้อย่างหลากหลาย

 

โปรแกรมที่ 3 เส้นทางแห่งศรัทธา นำวัดต่าง ๆ มาร้อยเรียงเรื่องราวการท่องเที่ยว ไฮไลต์คือ “วัดป่าวังน้ำเย็น” เพิ่งได้รับการประกาศเป็น Unseen New Chapters สร้างพระอุโบสถ์ด้วยไม้ตะเคียนขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ผู้คนนิยมมากราบไหว้บูชาและเช็คอินเป็นจำนวนมาก

 

แผนงานที่ 3 การเพิ่มรายได้กระจายสู่เมืองท่องเที่ยวรอง จาก 2 ส่วนหลัก ได้แก่ ส่วนที่ 1  รายได้ “อาหารและเครื่องดื่ม” ซึ่งภาคอีสานสามารถเพิ่มมูลค่าเชิงคุณภาพเพราะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาใช้จ่ายเฉลี่ย 25 % ส่วนห้องพักมีส่วนแบ่งรายได้เพียง 20-21 % อีกทั้งราคาห้องพักเฉลี่ยจะประมาณหลักพันบาท/ห้อง/คืน แตกต่างจากภาคใต้ราคาที่พักทำได้ถึงหลักหมื่นบาท/ห้อง/คืน ดังนั้นอีสานจึงต้องใช้กลยุทธ์ประชาสัมพันธ์ร้านอาหารที่ได้มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย ปี 2567 ปัจจุบันในขอนแก่นมีทั้งหมด 13 ร้าน สร้างแรงจูงใจให้ผู้คนพากันแสวงหาร้านดังกล่าว มีตัวชี้วัดนักท่องเที่ยวเติบโตขึ้นมาก โดยดูทะเบียนรถมาจากต่างถิ่นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อรับประทานอาหารเรียบร้อยแล้วก็กระจายการเดินทางไปตามแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ด้วย

 

ส่วนที่ 2 สร้างพื้นที่พักค้างคืน โดยได้เปิดจุดขายเส้นทางดาราศาสตร์ โดยสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NARIT ชวนนักท่องเที่ยวมาดูดาวช่วงท้องฟ้ามืดหรือ Dark Sky  ตามพื้นที่เปิดใหม่บริเวณเขื่อนอุบลรัตน์ เป็นกิจกรรมใหม่ของนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวและนักศึกษา มาดูดาวช่วงกลางคืนแล้วพักค้างคืนด้วย ภายในพื้นที่จะมีบริการหอดาราศาสตร์ ศูนย์การเรียนรู้ ปฏิทินดูดาวรายปี พร้อมกิจกรรมเกี่ยวข้อง ซึ่งจะกระตุ้นการพักค้างแรมต่อเนื่องได้ เพราะแต่ละปีดวงดาวจะโคจรที่น่าสนใจทั้ง ดาวฤกษ์ ดาวหาง ดาวเคราะห์ มองเห็นได้ทั้งตาเปล่า และกล้องจุลทัศน์ขนาดไกล พร้อมทั้งมีผู้เชี่ยวชาญบรรยาย กับเครื่องมือดูดาว ขณะนี้กลุ่มนักท่องเที่ยวหนุ่มสาวนิยมมานอนดูดาวเพิ่มขึ้นเช่นกัน

 

การสร้างไฮไลต์สร้างแรงดึงดูดความสนใจผนวกกับการออกแบบกิจกรรมสร้างความสนุกสนานจะช่วยลดจุดอ่อนการเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดในอีสาน ซึ่งมีระยะทางห่างไกลกันพอสมควรได้

 

แผนงานที่ 4 กระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศได้ตลอดทั้งปี 365 มหัศจรรย์ เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน กระจายตัวนักท่องเที่ยวจากเมืองหลักที่มีสนามบิน ไปยังเมืองท่องเที่ยวรองในจังหวัดใกล้เคียง โดยจะชูจุดขายจัดทำเป็นป็อบอัพอีเวนต์ในแต่ละฤดู เช่น ตลอดเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จังหวัดขอนแก่นมีปฏิทินจัดเทศกาลดนตรี เริ่มตั้งแต่ต้นเดือนงานดนตรีมีป็อบคัลเจอร์ขนาดใหญ่ของดนตรีตะวันออกอย่าง อินเตอร์เนชั่นแนลแจ๊ซ  จนถึงปลายเดือนจัดเทศกาลดนตรีหมอลำ งานต่าง ๆ เหล่านี้สามารถกระตุ้นคนวางแผนเดินทางได้ใน 365 วัน บริหารการท่องเที่ยวได้ตามปฏิทินกิจกรรมท่องเที่ยว 12 เดือน

 

ปัจจุบันขอนแก่นเป็นเมือง ไมซ์/MICE ซึ่งสามารถใช้ E :Exhibition จัดนิทรรศการแสดงสินค้า ขยายผลเป็นจัด Entertainment/เอนเตอร์เมนท์สนุกสนาน ออกแบบกิจกรรมที่มนุษย์สร้างขึ้น อย่างงานดนตรีหมอลำ ต่อเนื่องด้วยเทศกาลดนตรี เพราะอุตสาหกรรมบันเทิงลักษณะนี้ได้รับความนิยมมากขึ้น แล้วยังเลือกใช้สถานที่มีเสน่ห์ได้หลายรูปแบบ ทั้งในฮอลล์ศูนย์ประชุม ท้องทุ่งนาเปิดโล่ง หรือสถานที่เหมาะสมอื่น ๆ

 

ผอ.เสกสรร กล่าวว่า ททท.ขอนแก่น มุ่งนำเสนอการท่องเที่ยวต้อนรับปี 2567 ในขอนแก่นและแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงเมืองรอง เน้นย้ำ เส้นทางแรก ข้าวหอมมะลิ  กับบรรพชีวิน ขอนแก่น-ร้อยเอ็ด-กาฬสินธุ์ เส้นทาง 2 ตามรอยร้านอาหารมิชลิน เส้นทาง 3 เนื้อวากิวอีสาน อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีเรื่องราวการทำฟาร์มเนื้อโคขุนน่าสนใจ นำพันธุ์จากญี่ปุ่นขุนด้วยปลายข้าวหอมมะลิ เลี้ยงจนได้ขนาดผลิตเป็นเนื้อวัวคุณภาพส่งกระจายไปตามร้านอาหารดี ๆ ทั่วขอนแก่น และกรุงเทพฯ ต่อเนื่องถึงจังหวัดมหาสารคามผ่านการบ่มซึ่งทำให้สายรับประทานเนื้ออยากรู้เชิงลึกถึงเบื้องการทำวัวที่รับประทานเมนู ย่าง แจ่วฮ้อน เพราะบางฟาร์มเปิดให้เข้าไปเยี่ยมชมได้ เป็นประสบการณ์เดินทางใหม่ ๆ จากวัตถุดิบอินทรีย์ที่นำมาใช้ปรุงอาหารพร้อมเรื่องราวดี ๆ ควบคู่กันไป

 

เส้นทางที่ 4 ท่องเที่ยวเชิงศรัทธา กราบไหว้พระศักดิ์สิทธิ์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม เช่น วัดป่าวังน้ำเย็น มีพุทธศาสนิกชนหลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก หลังได้รับประกาศเป็น Unseen New Chapters ผนวกร้านอาหารและคาเฟ่เกิดใหม่ สร้างจุดขายด้วยการนำวัตถุดิบมาร้อยเรียงเล่าเรื่องราวได้อย่างน่าสนใจมากกว่าแหล่งท่องเที่ยวทั่วไป 

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1ช้อปคิงเพาเวอร์ออนไลน์Celebration2024ลดแรง20%

 

คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ พร้อมให้ช้อปเต็มเหนี่ยว SEASONAL GREETING กับ KING POWER Celebration 2024 ฉลองส่งท้ายปีกับดีลฉ่ำว้าว ลดทั้งเดือนแบบจัดเต็ม วันนี้ - 2 มกราคม 2567 จะทีมช้อปก่อนเที่ยวหรือเที่ยวก่อนช้อปก็คุ้มสุด ๆ

 

คิง เพาเวอร์ ยกขบวนสินค้าแบรนด์ดังมาลดเยอะมาก มาช้อปส่งท้ายให้ของขวัญตัวเอง หรือคนพิเศษแบบราคาดีที่สุด มีไฟลต์บินแล้วรีบช้อปด่วน!!

Top Picks Favorites Styles คัดมาแล้วกับไอเทมแฟชั่นเด็ดแบรนด์ดัง ไม่ว่าจะกระเป๋า นาฬิกา หมวก เข็มขัดจากแบรนด์ดังมากมาย  อย่างแบรนด์ MCM, COACH, GUCCI, FURLA, PRADA, FERRAGAMO, MONTBLANC และอื่นๆอีกมากมาย รีบช้อปแล้วรับของได้ที่สนามบิน

 

รายการแรก ลดสูงสุด 10% เมื่อช้อปครบ 4,000 บาท ด้วยรหัสส่วนลด 10DEC

 

รายการที่ 2 ลดสูงสุด 15% เมื่อช้อปครบ 7,000 บาท ด้วยรหัสส่วนลด 15DEC

รายการที่ 3 ลดสูงสุด 20% เมื่อช้อปครบ 10,000 บาท ด้วยรหัสส่วนลด 20DEC

พิเศษ! ลดเพิ่ม 5% เมื่อช้อปสินค้าที่ร่วมรายการ

 

ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์ช้อปรับบัตรคอนเสิร์ตเจฟซาเตอร์22ธ.ค.นี้

 

รีบช้อปก่อนบัตรจะหมด! ที่ “คิง เพาเวอร์” ยังมีเวลาอีก 48 ชั่วโมง ระหว่าง 16-17 ธันวาคม 2566 สมาชิก คิง เพาเวอร์ ช้อปรับบัตรชมฟรีมินิคอนเสิร์ต “เจฟ ซาเตอร์” วันที่ 22 ธันวาคม นี้ ที่โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เลือกช้อปเพื่อรับบัตรได้ดังนี้

 

1.รับบัตรฟรี! โซน A จำนวน 1 ที่นั่ง พร้อมรับของขวัญสุดพิเศษเพียงช้อปครบ 35,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ ช้อปเรียบร้อยแล้วนำใบเสร็จจากการซื้อสินค้าไปแสดงที่ จุดบริการสมาชิก รับฟรี! บัตรชมมินิคอนเสิร์ต เจฟ ซาเตอร์ และรับฟรีของขวัญสุดพิเศษ บัตรเข้าชมมีจำนวนจำกัด ให้คนละ 1 สิทธิ์/ วัน /สาขา

 

2.สมาชิกใหม่ SCARLETรับบัตรฟรี! โซน B จำนวน 1 ที่นั่ง พร้อมรับ Exclusive Gift Set เมื่อสมัครและเติมเงิน 20,000 บาท

  

สามารถสำรองที่นั่งทาง www.zipeventapp.comได้ตั้งแต่วันที่ 1 – 21 ธ.ค. 2566

 

แล้วพบกัน 22 ธ.ค. 2566 เวลา 19.00 น.ที่โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ รางน้ำ

 

หรือจะลุ้นเป็นผู้โชคดี รับบัตรคอนเสิร์ต A NIGHT OF ENDLESS POSSIBILITIES WITH JEFF SATUR จำนวน 20 รางวัล สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรหัสสินค้า (SKU) ที่เข้าร่วมรายการได้บริเวณจุดขายคิง เพาเวอร์ ทุกสาขา

 

ข่าวที่ 3 แลกด่วน!!กะรัตคิงเพาเวอร์บิวตี้FIRSTER/เที่ยว/สปา

 

แลกกะรัตด่วน! ก่อนสินปีนี้ พิเศษสำหรับสมาชิก คิง เพาเวอร์ เท่านั้น   รับสิทธิประโยชน์มากมายรีบมาแลกได้ภายใน 31 ธันวาคม 2566 มีให้เลือกถึง 4 รายการ คือ

 

1.แลกกะรัตเพื่อรับคูปองส่วนลด 300 บาท ที่ FIRSTER ศูนย์รวมแบรนด์บิวตี้และไลฟ์สไตล์ ตอนนี้ใช้ 30 กะรัต เมื่อมียอดช้อปครบ 2,000 บาทขึ้นไป ก็รับสิทธิ์ได้ทันที

 

2.แลกกะรัตใช้เป็นส่วนลด ได้สูงสุด 600 บาท ที่ travelaka เริ่มแลกและรับได้ตั้งแต่ 200 กะรัต ลด 200 บาท 400 กะรัต ลด 400 บาท และ 600 กะรัต แลก 600 บาท

  

3.แลกกะรัตเพื่อรับบริการฟรี! ได้สูงสุด 1,000 กะรัต ที่ Let’s Relax เพื่อรับบริการแพกเกจนวดน้ำมัน ได้ที่สาขามหานครคิวบ์ เอ็มบีเค พญาไท

  

4.แลกกะรัตเพื่อรับบริการฟรี! ได้สูงสุด 1,000 กะรัต ที่ เลอ สปา โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ รับบริการแพกเกจนวดอโรมา หรือนวดเท้า

 

กดรับสิทธิ์ง่ายๆ ผ่าน LINE Official Account ของคิง เพาเวอร์

 

ข่าวที่ 4 ททท.ตีปีกแอร์อินเดียบินตรงภูเก็ตเพิ่มทัวร์1.5ล้านคน

 

นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า จังหวัดร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมผู้บริหารภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ร่วมกันต้อนรับนักท่องเที่ยวของสายการบินแอร์ อินเดีย ได้เปิดปฐมฤกษ์เที่ยวบินตรงจากกรุงนิวเดลีมายังสนามบินภูเก็ต เริ่มตั้งแต่ 15 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป ด้วยเที่ยวบิน AI378  นับเป็นโอกาสดีของจังหวัดภูเก็ตที่จะได้แสดงศักยภาพความพร้อมเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมรับตลาดสำคัญอย่างอินเดียเพิ่มมากขึ้น โดยมีมาตรการอำนวยความสะดวกของรัฐบาลไทยอนุญาตให้ใช้ Visa Exemption ทำให้อินเดียเดินทางเข้าเมืองไทยสะดวกขึ้น ผนวกกับเป็นฤดูท่องเที่ยวไฮซีซันในภูเก็ต เมืองหาดทรายชายทะเลสวยงาม มีสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวใหม่ ๆ มากมาย

 

คาดอินเดียที่หลั่งไหลเข้าภูเก็ตจะชื่นชอบแหล่งท่องเที่ยวไฮไลต์อย่าง สวนสนุกหรือธีมปาร์ค Carnival Magic สวนน้ำ Andamanda พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Aquaria และอื่น ๆ ทั้งทางจังหวัดและผู้ประกอบการเอกชนจึงยินดีให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวอินเดียอย่างอบอุ่นเป็นมิตรแบบไทย พร้อมจะสร้างความประทับใจเพิ่มประสบการณ์ที่มีคุณค่าและความหมายให้เลือกกลับมาท่องเที่ยวภูเก็ตซ้ำ ๆ ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้เพิ่มขึ้นทั้งปัจจุบันและอนาคตต่อไป

 

นางพัฒน์สี เพิ่มวงศ์เสนีย์ ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท. กล่าวว่า แอร์อินเดีย ลงทุนเปิดบริการบินตรงจากกรุงนิวเดลี มายังสนามบินภูเก็ตของไทย ทำให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางแบบไร้รอยต่อและแรงหนุนสำคัญเสริมมาตรการยกเว้นการตรวจลงตราให้แก่นักท่องเที่ยวอินเดียของรัฐบาล อนุญาตให้ใช้ได้ตั้งแต่ 10 พฤศจิกายน 2566 – 10 พฤษภาคม 2567 พบสถิติอินเดียมาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นวันละ 5,000 – 5,500 คน จากเดิมประมาณวันละ 4,000 คน ผนวกกับรัฐบาลอินเดียมีนโยบาย Connect India to the World ส่งเสริมพลเมืองอินเดียเดินทางมากขึ้นทำให้เศรษฐกิจภายในมีแนวโน้มฟื้นตัวดี

 

ทันทีที่ แอร์ อินเดีย เปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์เริ่มตั้งแต่ 15 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป ส่งผลทำให้มีจำนวนที่นั่งสายการบินระหว่างอินเดียกับไทยเพิ่มขึ้นเป็น 2,438,043 ที่นั่ง เปรียบเทียบสามารถฟื้นตัวจากปี 2562 ได้แล้วถึง 77 % โดยจะบริการเที่ยวบินตรงกรุงนิวเดลี-ภูเก็ต สัปดาห์ละ 4 เที่ยว ใช้เครื่องบินแอร์บัส A320 Neo รองรับผู้โดยสารเที่ยวละ 162 คน ออกจากกรุงนิวเดลี ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ และอาทิตย์ และภายในมกราคม 2567 เป็นต้นไป จะเพิ่มเป็นบินทุกวัน หรือ สัปดาห์ละ 7 เที่ยว   

 

ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 10 ธันวาคม 2566 มีนักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางเข้าไทยสะสมแล้วจำนวน 1,506,287 คน สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยใช้จ่ายเงินเฉลี่ยประมาณ 39,500 บาท/คน/ทริป ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวเดินทางด้วยตนเอง (FIT) มากสุด 75 % นิยมไปยังพื้นที่ท่องเที่ยวในไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี ภูเก็ต กระบี่ และพังงา นิยมทำกิจกรรมหลัก คือ 1.รับประทานอาหารไทย 2.ชมแสงสียามค่ำคืน 3.กิจกรรมชายหาด 4.นวดและสปา

 

ททท. คาดการณ์สิ้นปี 2566 นักท่องเที่ยวอินเดียจะสร้างรายได้ให้ได้กว่า 65,600 ล้านบาท จึงเร่งส่งเสริมนักท่องเที่ยวอินเดียที่มีศักยภาพสูง 7 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่ม 1 ครอบครัว/Family กลุ่ม 2 คนรุ่นใหม่/Millennials กลุ่ม 3 ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและองค์รวม/Health & Wellness กลุ่ม 4 คู่แต่งงานและฮันนีมูน/Wedding & Honeymoon กลุ่ม 5 คนเล่นกอล์ฟ/Golfer  6.บริษัทขนาดใหญ่ (corporate) 7.ได้รางวัลเดินทางท่องเที่ยวฟรี (incentive)

 

โดยมี ททท. สำนักงานนิวเดลี และมุมไบ เร่งจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาดร่วมกับพันธมิตรกระตุ้นนักท่องเที่ยวศักยภาพสูงเลือกมาไทยเสริมเพิ่มด้วยหลัก ๆ ได้แก่ 1.บริษัทขนาดใหญ่ (corporate) 2.ได้รางวัลการเดินทางท่องเที่ยวฟรี (Incentive) 3.กลุ่มเล่นกอล์ฟ 4.กลุ่มคู่แต่งงานและฮันนีมูน โดยได้สร้างการรับรู้ผลักดันให้ไทยเป็นประเทศจุดหมายปลายทางการจัดแต่งงานของอินเดียด้วย

 

ข่าวที่ 5 บางจากเปิดแจกของขวัญเดินทางปีใหม่4โปรแกรม

 

นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บางจากฯ จัดกิจกรรมมอบความสุขลดค่าครองชีพผู้บริโภคช่วงเทศกาลปีใหม่ มอบความสุขส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 4 โปรแกรมหลัก ได้แก่

 

โปรแกรมแรก เติมความสุขให้เต็มถัง เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2566  –  2 มกราคม 2567   ทางบางจากฯ ประกาศจะตรึงราคาน้ำมันโดยไม่ปรับขึ้นแม้น้ำมันตลาดโลกจะขึ้นก็ตาม และหากตลาดโลกปรับราคาลง บางจากฯก็จะลดราคาลงให้ด้วย เพื่อร่วมแบ่งเบาค่าใช้จ่ายให้กับผู้ที่ต้องการเดินทางกลับภูมิลำเนาและฉลองเทศกาลแห่งความสุขกับครอบครัวอย่างมีความสุข

 

โปรแกรมที่ 2 เติมแรงให้ทั้งรถทั้งคน มอบสิทธิพิเศษให้สมาชิกบางจากกรีนไมลส์ เติมน้ำมันดีเซลทุกชนิดครบทุก 1,200 บาท รับฟรีทันทีเครื่องดื่ม M-150 ครั้งละ 1 ขวด มูลค่า 12 บาท เริ่มตั้งแต่วันนี้– 29 กุมภาพันธ์ 2567 พร้อมน้ำดื่มขนาด 1.5 ลิตร อีก 1 ขวด เมื่อเติมน้ำมันทุกชนิดครบทุก  900 บาท ตามสถานีบริการน้ำมันบางจากและเอสโซ่เดิมทั่วประเทศที่เข้าร่วมรายการ

 

โปรแกรมที่ 3 เติมความมั่นใจก่อนการเดินทาง เชิญชวนเข้าโครงการ “ตรวจรถฟรี ขับขี่ ปลอดภัยกับ FURiO Care” ให้กับผู้ใช้รถได้ตรวจสอบความพร้อมรถ โครงการนี้บางจากฯ ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก บริการตรวจเช็ครถฟรี 11 รายการ ที่ศูนย์ FURiO Care และ WASH PRO สถานีบริการน้ำมันบางจากที่ร่วมโครงการ เริ่มวันนี้– 31 มกราคม 2567 และมอบส่วนลดพิเศษสูงสุดเมื่อซื้น้ำมันหล่อลื่น FURiO ตรวจสอบสาขาร่วมรายการได้ที่ https://www.bcpcarcare.com/th/Promotion/detail/HNY2024

 

โปรแกรมที่ 4 เติมความอุ่นใจและสดชื่นสมาชิกบางจากกรีนไมลส์ โดยใช้แต้มสะสมเพียง 9 คะแนน แลกรับความคุ้มครองกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มปีใหม่เที่ยวได้อุ่นใจ (ไมโครอินชัวรันส์) หรือใช้อีก 9 คะแนน รับแผนความคุ้มครองกรมธรรม์ประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัย ปีใหม่สุขใจ ฝากบ้านไว้กับประกันภัย (ไมโครอินชัวรันส์) แล้วออกเดินทางอย่างสบายใจ สมัครได้ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2566 – 15 กุมภาพันธ์ 2567 ทุกกรมธรรม์มีระยะเวลาคุ้มครอง 30 วัน 

 

ส่วนสมาชิกบางจากกรีนไมลส์ซื้อเครื่องดื่มอินทนิลแก้วที่ 2 ลด 50% ได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 มกราคม 2567 ดูรายละเอียดเพิ่มทางเว็บไซต์ www.bcpgreenmiles.com

 

นายสมชัย กล่าวว่าเชิญชวนทุกคนแวะเติมความสุขรับเทศกาลปีใหม่ เติมพลังงานสะอาดให้รถ เติมพลังดี ๆ ให้ตัวเอง ได้ทั่วประเทศที่สถานีบริการน้ำมันบางจากและสถานีบริการน้ำมันเอสโซ่เดิม เพื่อรับผลิตภัณฑ์และบริการคุณภาพสูงแล้วยังทำให้การเดินทางของทุกคนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพดีของบางจากซึ่ง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงร้านกาแฟอินทนิลก็เลือกใช้ภาชนะย่อยสลายได้ 100% ตามแนวคิด Greenovative Destination ทำให้บางจากเป็นจุดหมายปลายทางแห่งนวัตกรรมสีเขียว ทำให้โลกน่าอยู่มากขึ้นต่อไป

 

ข่าวที่ 6 โรงกลั่นบางจากฯใช้เรือใหญ่สุดSuezmaxเพิ่มน้ำมันดิบ

 

                 บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ทางโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชา ได้รับเรือบรรทุกน้ำมันดิบ Nordic Pollux ประเภท Suezmax ขนาด 180,000 ตัน เป็นครั้งแรกในการจัดส่งน้ำมันดิบ Qua Iboe (ปริมาณ 950,000  บาร์เรล) ที่ทางบริษัท บีซีพี เทรดดิ้ง จำกัด ภายในกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน จัดหาให้บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) โดยเรือได้เข้าที่ท่าเรือกลางทะเล ของบริษัท ฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ปรับปรุงอุปกรณ์และทดสอบการเทียบเรือด้วยการใช้แบบจำลอง หรือ ARIANE™ Mooring Simulation and Analysis เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานและความปลอดภัย มุ่งเน้นให้สามารถรับเรือขนาดใหญ่ประเภท Suezmax ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  

 

                สำหรับ Suezmax เป็นเรือขนส่งน้ำมันดิบระยะไกลหรือข้ามทวีปสามารถบรรทุกน้ำหนักได้ 120,000 – 200,000 DWT (Deadweight Tonnage) น้ำหนักรวมของน้ำมันดิบและเชื้อเพลิงของเรือสามารถบรรทุกได้ นับเป็นเรือขนาดใหญ่ที่สุด ที่สามารถผ่านคลองสุเอซ ประเทศอียิปต์ได้ ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถรับเรือบรรทุกน้ำมันดิบที่มีขนาดใหญ่ดังกล่าวนี้ แสดงถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาและเพิ่มศักยภาพให้รองรับการเพิ่มกำลังการผลิตของโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชา รวมถึงสะท้อนประสิทธิภาพและมาตรฐานในการจัดหาและขนส่งน้ำมันดิบจากการผนึกกำลังทางธุรกิจร่วมกันกับกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมันนั่นเอง

 

            ช่วงที่ 2 หนาวแล้วมาเช็คอินที่ “จิม ทอม สัน ฟาร์ม” สัมผัสธรรมชาติ ดอกไม้สวย ๆ นิทรรศการความรู้ ร่วมกิจกรรมการถ่ายทอดเรื่องราวเชิงลึกของอีสาน “ไอเขียนเลตเตอร์ถึงเธอฟาร์มจิม” แล้วลองฟัง “ธนาคารเวลา” นวัตกรรมสุขภาพผู้สูงวัย และข่าวดี ๆ ข่าวแรก “AWC ดึง2มิชลิน” ใช้ EA Rooftop สูงสุดในเอเชียโชว์อาหารไทยและจีน ข่าวสอง “นายกฯเศรษฐา” เร่ง ททท.ทำ3นโยบาย55เมืองรองปี’67

 

ท่องเที่ยว –สุขทันทีที่จิมทอมป์สันฟาร์มชมดอกไม้/นิทรรศการ

 

หนาวนี้การเดินทางข้ามปีตั้งแต่ธันวาคม 2566 -2 มกราคม 2567 ชวนกลับมาเมือบ้านม่วนซื่น คืนถิ่นอีสานดอกไม้บานสัมผัสอากาศสบาย ๆ พิกัดเช็คอิน “จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม 2566” กับเรื่องราวใน “ไอเขียนเลตเตอร์ถึงเธอฟาร์มจิม”

 

จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม คือสถานที่ท่องเที่ยวในอำเภอปักธงชัย จ.นครราชสีมา ทุกปีช่วงธันวาคม - ต้นเดือนมกราคม จะเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ซึ่งสร้างรายได้ให้เกษตรกรสม่ำเสมอ เป็นการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและวัฒนธรรม สร้างความสุขและประสบการณ์อันแปลกใหม่ให้ผู้ชม และเกษตรกรผ่านกิจกรรมและนิทรรศการศิลปะอีกหลากหลาย เพิ่มรสชาติการท่องเที่ยวให้สนุกสนานมากขึ้น 

 

 

กลิ่นอายลมหนาวเริ่มพัดพามาเยือนประเทศไทย “จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม” เชิญชวนทุกคนมาร่วมม่วนซื่นไปกับการท่องเที่ยวฟาร์มจิมประจำปี ในงาน จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม 2566 ‘ไอเขียนเลตเตอร์ถึงเธอฟาร์มจิมกิจกรรมฟาร์มทัวร์พิเศษจัดขึ้นเป็นประจำในช่วงหน้าหนาวของทุกปีมานานเกือบ 2 ทศวรรษ ด้วยการเปิดเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ ๆ ให้คนทั้งใกล้และไกล ได้เข้ามาสัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติและซึมซับวิถีชีวิตแบบอีสานท้องถิ่นกันอย่างลึกซึ้งถึงแก่นรากวัฒนธรรม พร้อมรับภาพบรรยากาศความสนุกสนานและเรื่องราวดี ๆ อย่างยั่งยืน ที่พวกเราชาว จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ทุกคนนำมาส่งต่อให้ได้สัมผัสจนหายคิดถึงกันตลอดทั้งงาน

 

ปี 2566 จัดในธีมไอเขียนเลตเตอร์ถึงเธอฟาร์มจิมที่ได้แรงบันดาลใจมาจากบทเพลงสะท้อนประวัติศาสตร์อีสานในช่วงยุค พ.ศ. 2510 ที่มัก (ถูกทำให้) หลงลืมไปอย่างจดหมายรักจากเมียเช่าที่แต่งโดย ครูอาจินต์ ปัญจพรรค์ และขับร้องโดย มาณี มณีวรรณ ภายใต้เนื้อเพลงอันสละสลวยของครูอาจินต์ ปัญจพรรค์จดหมายรักจากเมียเช่าคือภาพสะท้อนประวัติศาสตร์โดยเฉพาะในยุคสงครามเย็น และช่วงเวลาสำคัญของวัฒนธรรมอีสาน ที่แฝงด้วยความยากลำบาก ตามแบบฉบับของคนบนแผ่นดินที่ราบสูงที่ใช้ความกันดาร คือ สินทรัพย์อีสานและการบริหารความกลัว ความเชื่อ และความทุกข์ยากลำบากใจและกาย ด้วยอารมณ์ขันของบทเพลง ตามสไตล์ชาวอีสานที่มักใช้ความสนุกสนานเข้าสู้กับความยากลำบากมาโดยตลอด

 

อีกทั้งยังสะท้อนภาพห้วงอารมณ์ความคิดถึงจากคนใกล้ถึงคนไกล ซึ่งองค์ประกอบทั้งหมดนี้สอดคล้องกับเป้าหมายของชาวจิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ที่ต้องการให้ทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมฟาร์มจิมได้รับประสบการณ์การท่องเที่ยวในแบบของพื้นถิ่นอีสานที่จริงแท้

 

แม้จะพบเจอกับความลำบากหรือเจ็บปวด แต่ก็เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวร้อยหมู่เฮาชาวอีสานไว้ด้วยกัน จนกอปรเป็นอัตลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครของคนอีสาน และพร้อมที่จะถ่ายทอดให้ผู้คนจากภูมิภาคอื่น และผู้คนต่างวัฒนธรรม ได้เข้ามาสำรวจด้วยความภาคภูมิใจ

 

ตลอดงานนักท่องเที่ยวทุกคนจะได้มาพักผ่อนหย่อนใจรับลมหนาวในบรรยากาศจิม ทอมป์สัน ฟาร์ม พร้อมเก็บภาพทุ่งดอกไม้ ทุ่งนา หมู่บ้านอีสาน และแลนด์มาร์กสวย ๆ ในพื้นที่กันอย่างจุใจแล้ว ก็ยังจะได้พบกิจกรรมและนิทรรศการที่นำเสนออัตลักษณ์อีสานอันหลากหลาย ครอบคลุมทั้งเรื่องประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต สื่อบันเทิง และวัฒนธรรมความเชื่อของชาวอีสานอีกด้วย

 

รายละเอียดกิจกรรมทั้งหมดของจิม ทอมป์สัน ฟาร์ม 2566 ‘ไอเขียนเลตเตอร์ถึงเธอฟาร์มจิมประกอบด้วย:

 

โซนที่ 1 นิทรรศการ Lam Loke, The World of Molam (Lam Loke, The World of Molam Exhibition): มาเยือนถิ่นอีสานทั้งที หากใครเป็นสายม่วนจอยตัวจริง จะต้องชื่นชอบและพุ่งตรงมาที่นิทรรศการนี้ก่อนใครเพื่อนแน่นอน เพราะจะได้พบกับเรื่องราวของหมอลำที่ทำให้คุณสนุกกับการฟังหมอลำมากขึ้น 

 

1.นิทรรศการแรก -อเมริกัน-อีสาน : American-Isan Exhibition): จากจดหมายเมียเช่าถึงภาพจริงในประวัติศาสตร์อีสาน นิทรรศการนี้เลยอยากชวนให้ผู้เยี่ยมชมทุกคนได้ลองมาทำความเข้าใจถึงแก่นรากของวิถีชีวิต ระหว่างอีสานและฝรั่งว่ามีจุดเริ่มต้นอย่างไร และผสมผสานออกมาเป็นอย่างไรในปัจจุบัน

 

2.นิทรรศการ 2 -หม่อนไหม (Monmhai Mulberry Silk Exhibition): พบกับวงจรชีวิตหม่อนไหม การสาธิตการทอผ้าไหมแบบวิถีถิ่น และจะพาทุกคนไปเวิร์กช็อปทำผ้าไหมจากภูมิปัญญาชาวบ้าน เหมาะกับสายคราฟต์ที่อยากลองลงมือทำ

 

3.นิทรรศการข้าว (Rice is Life Exhibition) ทุกคนจะได้ลองชิมข้าวไทยหลากสายพันธุ์ พร้อมสัมผัสกับกระบวนการผลิตจากคนทำสู่คนกินกันแบบใจถึงใจ และสำรวจความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ในการแปรรูปข้าวให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่น่าสนใจและเปี่ยมด้วยความคิดสร้างสรรค์ เพราะข้าวไม่ได้เป็นเพียงแค่อาหารหลักของคนอีสาน แต่หากเป็นวิถีชีวิตที่ส่งต่อกันมาตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน 

 

พร้อมอีก 2 กิจกรรม ชวนมาร่วมสนุก รับอาวุธทางปัญญากับเรื่องราวลงลึกแผ่นดินอีสาน ดังนี้

 

1.เวิร์กชอป : ซึมซับวัฒนธรรมอีสานกับหลากหลายกิจกรรมการเรียนรู้ที่จิม ทอมป์สัน ฟาร์มเปิดให้ทุกคนเข้าร่วมได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากค่าบัตร ไม่ว่าจะเป็น เวิร์กช็อปการสาวเส้นไหม การอิ้วฝ้ายและการเข็นฝ้าย, เวิร์กช็อปการทอผ้าไหม, เวิร์กช็อปทำขนมงานบุญในประเพณีอีสาน, เวิร์กช็อปปั้นเซรามิก การทำสาโท การทำเทียนพรรษา การร่วมสร้างปราสาทข้าว เวิร์คชอป พื้นฐานหมอลำ การเล่น การร้อง การฟ้อน งานศิลปะภายในฟาร์ม อีกหลายอย่าง 

 

2.กิจกรรมทอล์ก: นอกเหนือจากนิทรรศการต่าง ๆ แล้ว จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ก็ยังมีการจัดเวทีทอล์ก ล้อมวงฟังเรื่องเล่าจากเหล่าวิทยากรคนสำคัญ ที่จะแวะเวียนมาแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนอีสานแบบลงลึก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของข้าวที่คนอีสานปลูก ความทรงจำเกี่ยวกับอเมริกัน-อีสาน พิธีกรรม และอื่น ๆ พบกันเป็นประจำทุกวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุด (ยกเว้นช่วงสุดสัปดาห์สุดท้าย) และยังมีกิจกรรมทอล์ก เสริมพิเศษตลอดงานที่บริเวณศาลากลางหมู่บ้านอีสาน 

 

เวทีดนตรี: ปิดท้ายวันเที่ยวแบบชิลล์ๆ ด้วยการฟังเพลงเพราะๆ จากเหล่าศิลปินท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติของจิม ทอมป์สัน ฟาร์ม มีให้คุณเลือกสนุกถึง 2 เวที ได้แก่ ‘American Isan Stage’ เวทีคอนเสิร์ตจากวงดนตรีโฟล์กและดนตรีคันทรี ที่พร้อมหมุนเวียนมามอบความสุขให้กับทุกคนตลอดวัน ประกอบไปด้วยวง The Hopper, SUNDER, Hang Over และ  วง อ๊อด บ้านช้าง อีกเวทีหนึ่งที่จะเปิดให้เป็นกิจกรรมใหม่ของฟาร์มปีนี้ที่สามารถอยู่ร่วมสนุก เต็มอิ่มกับหมอลำในช่วงค่่ำ (20.00-22.00 น.) คือ  ‘Molam Music’ เวทีคอนเสิร์ตจากศิลปินหมอลำร่วมสมัยที่มีฝีไม้ลายมือน่าจับตามอง ไม่ว่าจะเป็น อีสาน ฟิวชั่น ( E-San Fusion), ต้นตระกูล แก้วหย่อง x นริศรา ศักดิ์ปัญจโชติ (Tontrakul Kaewyong x Narisara Sakpunjachot), รัสมี อีสานโซล (Russmee I-San soul) และ ออทิดสา หมอลำแบรนด์ x อ๊อฟ สุรพล (All-Thidsa Molam Band x Aof surapol)

 

ร้านอาหารและของที่ระลึก: มาเที่ยวจิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ไม่ต้องกลัวหิว เพราะเราคัดสรรร้านอาหารมาเสิร์ฟเมนูอร่อย ๆ ให้กับทุกคนด้วย มาครบทั้งอาหารอีสานและอาหารคอมฟอร์ตฟู้ด และสำหรับสายช้อปของที่ระลึก ร้านค้าของเรามีทั้งสินค้าจากฟาร์ม สินค้าราคาพิเศษจากจิม ทอมป์สัน และสินค้าที่ระลึกที่ซื้อได้เฉพาะที่ฟาร์มจิม ให้คุณเลือกช้อปส่งท้ายปีอีกเช่นเคย

 

จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม 2566 ‘ไอเขียนเลตเตอร์ถึงเธอฟาร์มจิมจะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2566 - อังคารที่ 2 มกราคม 2567 ณ จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม

 

ราคาบัตรเริ่มต้นต่อคน เด็กและผู้สูงอายุ จ.-อา. 90 บาท ผู้ใหญ่ จ.-ศ. 150 บาท และ ส.-อา. 200 บาท

 

ซื้อบัตรผ่านช่องทางออนไลน์คลิก https://www.ticketmelon.com/jimthompsonfarm/farmtour2023

และติดตามรายละเอียดกิจกรรมต่าง ๆ เพิ่มทางเพจ @JimThompsonFarmTour

 

 

สุขภาพ –ธนาคารเวลานวัตกรรมใหม่สุขภาพแนวใหม่ของผู้สูงวัย

 

กระแสดูแลสุขภาพให้สอดคล้องกับโลกยุคใหม่ ตอนนี้ทาง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้สนับสนุนเปิด “ธนาคารเวลา หรือ Time Bank เป็นแนวคิด “รับฝากเวลาแทนเงิน” และ เวลาที่ว่านี้ หมายถึง ช่วงระหว่างที่เราทำงานช่วยเหลือผู้อื่น แทนที่ควรจะได้ค่าตอบแทนเป็นตัวเงิน แต่เปลี่ยนเป็นเวลานำไปออมในบัญชีธนาคารเวลาของเราแทน ว่าไปแล้ว  “ธนาคารเวลา”  เป็นนวัตกรรมในการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน สร้างความสัมพันธ์ ที่จะช่วยคนทุกเพศ ทุกวัย และทุกฐานะ ภายใต้บริบทสังคมผู้สูงอายุกว่า 13 ล้านคนของประเทศ ให้มีสุขภาวะดีรอบด้านทั้งกาย จิต ปัญญา และสังคม โดยสมบูรณ์

 

                    บอม ชัยฤทธิ์  อิ่มเจริญ โปรเจกต์เมเนเจอร์ ได้ช่วยจัดการประสานงานโครงการธนาคารเวลาของไทยที่ สสส. ให้การสนับสนุน เล่าถึงพื้นที่สื่อกลางการแลกเปลี่ยนความช่วยเหลือระหว่างสมาชิก ตลอดการลงพื้นที่ดูแล ช่วยเหลือผู้สูงอายุ จะมีการบันทึกจัดเก็บเวลาทำแบบจิตอาสาอย่างเป็นระบบ  แล้วสมาชิกสามารถเบิกเวลามาใช้ โดยมีจิตอาสารุ่นใหม่ ๆ จะมาดูแลต่อไปเมื่อเรามีอายุมากขึ้น จึงเป็นที่มาของชื่อ “ธนาคารเวลา”

 

                    ตั้งแต่ปี 2561 – ปัจจุบัน มีเครือข่ายธนาคารเวลา ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สนับสนุนให้ชุมชนท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร และเครือข่ายต่าง ๆ ทั่วประเทศมากกว่า 80 แห่ง ทำหน้าที่สานพลังภาคีเครือข่าย ฟื้นฟูชุมชน สร้างความเข้าใจ พัฒนาเครือข่ายที่เข้าร่วมช่วยดูแลซึ่งกันและกันภายใต้แนวคิดการเป็นผู้ให้และผู้รับอย่างเท่าเทียม อีกทั้งเล็งผลที่จะให้คนรุ่นใหม่ เห็นความสำคัญของการออมเวลาเพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลกัน สามารถเบิกถอนเวลาที่สะสมไปใช้ในยามจำเป็นได้ โดยไม่ต้องรอให้อายุมากขึ้นหรือเข้าสู่วัยเกษียณ

 

                    เช่น ช่วยขับรถพาไปโรงพยาบาล ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ตัดต้นไม้ ดูแลบ้าน ขับรถพาผู้สูงอายุไปโรงพยาบาล พาไปหาหมอ พาไปซื้อของ พาไปทำบุญตักบาตร์ ซักผ้า ล้างจาน  ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ประปา ตัดต้นไม้ ดูแลสัตว์เลี้ยง กวาดถูบ้าน ช่วยตัดเล็บ ตัดผม  ช่วยป้อนข้าวผู้ป่วยติดเตียง เฝ้าไข้ การเยี่ยมบ้าน ซ่อมแซมบ้าน การรับส่ง แลกเปลี่ยนความรู้ ดูแลผู้สูงวัย หรือดูแลเด็ก แล้วสะสมแต้มเป็นเวลากับนายธนาคารเวลา เมื่อยามที่คนเองต้องการความช่วยเหลือ สามารถเบิกถอนไปใช้ขอความช่วยเหลือได้ โดยไม่ต้องเกรงใจ เป็นต้น

 

                    ส่วน “การทำงานของสมาชิกธนาคารเวลา” ไม่ว่ากิจกรรมแบบไหนก็ตาม จะมีค่าเท่ากัน คือ การช่วยเหลือของกิจกรรม 1 ชั่วโมง จะได้รับ 1 คะแนน (เครดิตเวลา)   ดังนั้นทุกชั่วโมงในการดูแลจะเป็นคะแนนสะสมเวลาในรูปแบบบัญชีส่วนบุคคล สามารถเบิกถอนเวลาได้เมื่อยามต้องการความช่วยเหลือ

 

                    “สมาชิกโครงการธนาคารเวลา สามารถสมัครเข้าร่วมได้ตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป โดยจะเก็บสะสมในรูปแบบของเวลา และเมื่อเรากลายเป็นผู้สูงอายุ ก็จะผู้ผลัดเปลี่ยนมีคนมาคอยดูแลเราแทน เป็นเหมือนการเบิกเวลามาใช้นั้นเอง โครงการนี้จึงมีประโยชน์มาก โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ไม่มีลูกหลานคอยดูแล และยังเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์อันดีระหว่างชุมชน

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –AWCดึง2เชฟมิชลินชูจุดขายเมืองไทยEARooftop

 

  นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) “AWC  เปิดเผยว่า AWC ร่วมกับ 2 เชฟระดับมิชลินสตาร์ชื่อดังแห่งเอเชีย ได้แก่ เชฟต้น ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร และเชฟวิคกี้ เชง จัด “เอ-ย่า เชฟ เทเบิล : EA CHEF'S TABLE ชั้น 56  บนชั้นดาดฟ้า เอ-ย่า รูฟทอป แอท ดิ เอ็มไพร์ ซึ่งเป็นอีกจุดหมายปลายทางใหญ่สุดของโลกด้านอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อสร้างสรรค์ห้องอาหารไทยและห้องอาหารจีนสูงที่สุดในไทยและเป็นแห่งแรกบนรูฟทอปโดยเชฟมิชลินสตาร์ โดยเชื่อมั่นโครงการ EA จะสร้างมาตรฐานใหม่ในการรับประทานอาหารเหนือระดับผสมผสานด้วยสถาปัตยกรรมและทิวทัศน์เส้นขอบฟ้ากรุงเทพฯอันงดงาม

 

ตามแผนจะเปิดบริการ EA CHEF’S TABLE” และ “Nobu Bangkok” ต้อนรับทุกคนช่วงไตรมาส 3 ปี 256และ “EA Gallery” วันนี้เริ่มเปิดบริการร้าน %ΔRΔBICΔ แล้ว โดยจะทยอยเปิดเต็มรูปแบบในไตรมาส 1 ปี 256เพื่อส่งมอบประสบการณ์รับประทานอาหารครบทุกมิติแห่งเดียวที่ EA Rooftop at The Empire ทาง AWC ยังมีแผนขยายความร่วมมือกับพันธมิตรด้านอาหารชั้นนำต่อไปเพื่อขับเคลื่อน EA Rooftop at The Empire เป็นจุดหมายปลายทางด้านอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำของไทยที่มีชื่อเสียงติดระดับโลก

 

โดยมี เชฟต้น” เชฟเจ้าของร้านระดับมิชลินสตาร์ “Le Du” และ “Nusara” ที่ได้รับเลือกเป็นอันดับ 1 และอันดับ 3 ใน Asia’s 50 Best Restaurants 2023 นำเสนอคอนเซ็ปต์ “The Pinnacle of Thai Cuisine” เลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่นดีที่สุดของไทย ผสานกับศาสตร์การปรุงอาหารชั้นเลิศ เชิญชวนนักท่องเที่ยวและนักชิมทุกคนต้องมาเยือน เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงอาหารและเครื่องดื่มระดับโลก

 

รวมทั้งมี เชฟวิคกี้” เจ้าของห้องอาหารมิชลินสตาร์ “VEA” และ “Wing” จากฮ่องกง อยู่ใน Asia’s 50 Best Restaurants 2023 ได้นำคอนเซ็ปต์ “Chinese Tradition Redefined” มาไว้ที่ห้องอาหารจีน พร้อมปรุงอาหารที่ผสมผสานกลิ่นอายวัฒนธรรมอาหารจีนเข้ากับเทคนิคสมัยใหม่ ด้วยทักษะไม่มีใครเหมือน เติมเต็มความต้องการของนักเดินทางรุ่นใหม่ที่เลือกสรรหาอาหารและเครื่องดื่มสุดประทับใจระหว่างการท่องเที่ยว

 

เชฟต้น ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร กล่าวว่า รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกันระหว่าง Le Du , AWC และ EA Rooftop at the Empire ตั้งใจนํานวัตกรรมและวิธีปรุงอาหารอันประณีตมาประยุกต์ใช้กับอาหารไทย จึงหวังใช้ความเชี่ยวชาญสร้างสรรค์ร่วมกับโครงการ EA สร้างจุดหมายปลายทางอาหารและเครื่องดื่มระดับโลกในไทย

 

เชฟวิคกี้ เชง กล่าวว่า มีความผูกพันกับไทยอย่างลึกซึ้งตั้งแต่วัยเด็ก ไม่เพียงแค่วัฒนธรรม แต่รวมถึงอาหารของไทยด้วย ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับโอกาสร่วมเปิดห้องอาหารในต่างประเทศนอกฮ่องกงแห่งแรกในกรุงเทพฯ และรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้นำเสนอให้คนไทยและคนทั่วโลกได้สัมผัสความเชี่ยวชาญการทำอาหารครั้งสำคัญนี้

           

ส่วน EA Rooftop at the Empire รูฟทอปอาหารและเครื่องดื่มใจกลางกรุงเทพฯ มีพื้นที่รวมกว่า 8,200 ตร.รวมดาดฟ้ากลางแจ้งขนาดกว่า 2,500 ตร.ม. โดยมีบริการร้านอาหารและคาเฟ่ชื่อดังระดับโลกตั้งอยู่ตั้งแต่ชั้น 55 ถึงชั้น 58 ซึ่งมีความโดดเด่นรองรับตลาดไลฟ์สไตล์ ประกอบด้วย

 

·       ชั้น 55  EA Gallery แหล่งรวมไลฟ์สไตล์คอนเซ็ปต์ 'Eat, Meet, Experience' กับทัศนียภาพที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯ รวบรวมร้านอาหารนานาชาติชั้นนำมากมาย อาทิ %ΔRΔBICΔ สาขาที่สูงที่สุดในโลก  qraft (คราฟท์) ร้านอาหารมื้อสายและเบเกอรี่แบบตะวันออก และร้านเกาหลี Onggi รวมทั้งบาร์มีเอกลักษณ์

·      ชั้น 56   EA CHEF'S TABLE แหล่งรวมร้านอาหารเชฟระดับมิชลินสตาร์ มีร้านอาหารไทยบนรูฟทอปแห่งแรก และร้านอาหารจีนอยู่สูงสุดในไทย

·      ชั้น 57 – 58  Nobu Bangkok ทาง AWC ร่วมกับ Nobu Hospitality นำเสนอร้านอาหารสูงและใหญ่สุดในโลก เป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในไทย  

 

ข่าวที่สอง -นายกฯเศรษฐาเร่งททท.3นโยบายปลุก55เมืองรองปี67

 

                นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เรียกประชุมผู้บริหารและผู้อำนวยการในประเทศการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมประชุมเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2566 เพื่อมอบนโยบายโดยใช้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวซึ่งเป็นกลไกสำคัญสร้างรายได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น Quick Win ซึ่งสามารถสร้างงานและกระจายเม็ดเงินหมุนเวียนเข้าถึงประชาชนเป็นจำนวนมาก ขับเคลื่อน 3 เรื่องหลัก ประกอบด้วย เรื่องที่ 1 ส่งเสริมการเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด ช่วยกันส่งเสริมให้ประเทศไทยไม่มีนอกฤดูการท่องเที่ยวหรือ Low Season อีกต่อไป เรื่องที่ 2 ร่วมพัฒนาการเชื่อมต่อกับนักท่องเที่ยว เรื่องที่ 3 สร้างกลยุทธให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายเงินระหว่างการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นต่อคนต่อทริป

 

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในประชุมมอบนโยบาย ททท. ว่า การประชุมกับ ททท.ทุกสำนักงานวันนี้ นับเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ร่วมกันกำหนดทิศทางส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองไทยทั้งระยะสั้นและระยะยาว มุ่งสู่เป้าหมายรายได้ทางการท่องเที่ยวในประเทศปี 2567 ตามเป้าหมาย 1 ล้านล้านบาท ตามนโยบายหลัก ๆ ที่จะนำไปดำเนินการต่อไปอย่างเข้มแข็ง ประกอบด้วย

 

เรื่องที่ 1 แนวทางส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวไม่จำกัดเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยวหลักซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจอย่าง เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ ชลบุรี เท่านั้น แต่จะต้องเร่งต่อยอดและกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวให้ครอบครัวพื้นที่หลายจังหวัดเมืองรองทั่วประเทศควบคู่กันไปด้วย มุ่งกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวตลอดทั้งปีลงสู่เมืองท่องเที่ยวรองมากขึ้น โดยเน้นนำจุดเด่นของแต่ละพื้นที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยว อาจจะเป็นสถานที่ที่สวยงาม หรือผลิตภัณฑ์ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจพร้อมใช้จ่ายเงินอุดหนุนผู้ประกอบการ

 

เรื่องที่ 2 ขอให้ ททท.ทุกสำนักงานช่วยกันหาจุดแข็ง จุดเด่น ในพื้นที่รับผิดชอบทั่วประเทศ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวเมืองรองอย่างเป็นรูปธรรม ร่วมมือกันส่งเสริมให้เมืองไทยเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นช่วงฤดูร้อนเต็มไปด้วยเทศกาลเช่น สงกรานต์ ถือเป็นไฮซีซันของนักท่องเที่ยวตลาดตะวันออกกลางซึ่งชื่นชอบความชุ่มฉ่ำเขียวขจีอย่างมาก ส่วนฤดุหนาวอากาศเย็นสบายพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศ รวมทั้งมีเทศกาลต่าง ๆ เริ่มจัดกิจกรรมช่วงอากาศเย็นด้วยเช่นกัน

 

เรื่องที่ 3  ต้องการให้ ททท. ในฐานะองค์กรซึ่งเป็นด่านหน้าของการท่องเที่ยวพัฒนาการให้บริการข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวดียิ่งขึ้นต่อเนื่องต่อไป ซึ่งจะเป็นตัวช่วยทำให้นักท่องเที่ยววางแผนท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดาย เพิ่มข้อมูลให้มีหลายภาษา พร้อมช่องทางพูดคุยติดต่อหลายรูปแบบ ครอบคลุมทุกไทม์โซนเพื่อให้คนทั่วโลกเลือกมาเที่ยวประเทศไทยได้ทุกเวลา

 

นายกฯ เศรษฐา กล่าวว่า ททท.มีข้อมูลเหล่านี้อยู่แล้วจึงขอให้วิเคราะห์พฤติกรรมนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมาย ทำให้แหล่งข้อมูลเป็น Customer-centric มากขึ้น ทั้งเว็บไซต์และแหล่งข้อมูลที่ดีควรเรียบเรียงข้อมูลสร้างความเข้าใจง่าย  ๆ ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์อย่างหลากหลาย เพื่อสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวที่กำลังวางแผนเลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทาง ทำให้ประเทศกลายเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะตัดสินใจมาท่องเที่ยวอย่างแน่นอน

 

ส่วนโจทย์สำคัญที่จะกระตุ้นการท่องเที่ยวอีกประการคือ จะต้องให้นักท่องเที่ยวเพิ่มการใช้จ่ายต่อคนต่อทริป เพราะไทยมีอัตลักษณ์ วัฒนธรรม หรือสถานที่ท่องเที่ยวมากมายเป็นจุดดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยว จึงเชื่อว่าคนไทยเองก็สามารถท่องเที่ยวต่อเนื่องได้เป็นเดือนเช่นกัน วันนี้ทุกฝ่ายจะต้องทำให้โลกรู้ถึงอัตลักษณ์ไทยมีดี เป็นจุดแข็งดึงให้นักท่องเที่ยวอยู่ให้นานวัน โดยอาจจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเพื่อให้นักท่องเที่ยวเพิ่มวันพักค้างคืน เพราะเมื่ออยู่นานขึ้น ก็จะใช้จ่ายจะมากขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

  รุ่งทิพย์ บุกขุนทด  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่  2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ

TCEBนำไมซ์ปี67โร้ดโชว์เทรดโชว์ทั่วโลก-จัดยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" บิ๊ก TCEB ปี 67 ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้   3-7 มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี !! ไทยเจ้าภาพ Korat Expo2029 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO” ช้อป 3 อย่างลด 25% ททท.นำร่องจัด AIR-MAZING ไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม & บางจากมอบ2โปรดี สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด AWC ปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ Trip.com- ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล. วันอาทิตย์ที่   3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ FM97  # เพ็ญรุ่งใยสามเสน # เท

เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก

  เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก คิงเพาเวอร์ชวนช้อปออนไลน์แบรนด์เนมลด 70%26-31 ต.ค.นี้ สนุกกับ SUPER SURPRISE ดีลพิเศษราคาดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ ก.ท่องเที่ยวตีปีกรับทัวร์ต่างชาติ 3 เฟส-ไฟเขียวแล้ว 10 แอร์ไลน์ ไทยจ่อดึงลองสเตย์ต่างชาติซื้ออสังหาฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด “ TCEB” ชูไทยแลนด์ไมซ์สตาร์ตอัพปั้นนวัตกรรมใหม่5โปรเจ็กต์ หนาวนี้เที่ยว“นครพนม”ปลอดภัยมั่นใจเส้นทางสาย SHA ริมโขง วิธีเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนควบคู่การลดโรคมากมาย ไทยสมายล์ขายตั๋วชุดเที่ยวไทยเหมาจ่าย4ใบเริ่มที่3.8พันบาท ไทยเวียตเจ็ทขายตั๋ว5บาท/เที่ยวโปร2เส้นทางใหม่ในประเทศ กรมเจ้าท่าฟุ้งแผนทำ10ท่าเรือรองรับวันสต็อปเที่ยวเจ้าพระยา   นายพศิน ลาทูรัส ซีอีโอฝ่ายพัฒนาธุรกิจ  บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง