ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

TOCAไทยพลิกเทรนด์ใหม่หลังโควิด“เกษตร-อาหาร-ท่องเที่ยว”ผนึก“ททท.-หอการค้าไทย”ดันEarthPointสร้างเศรษฐกิจยั่งยืน

TOCAไทยพลิกเทรนด์ใหม่หลังโควิด“เกษตร-อาหาร-ท่องเที่ยว”

ผนึก“ททท.-หอการค้าไทย”ดันEarthPointสร้างเศรษฐกิจยั่งยืน

ช้อปคิงเพาเวอร์2แบรนด์”หลงใหล-LCFC”ลด30%ถึง30ก.ย.นี้

พูลแมนคิงเพาเวอร์”โปร”ห้องพัก-บุฟเฟต์ซีฟู้ด”ลด30-50%

“ททท.”ใช้3เกณฑ์เปิดประเทศ43จว.3ช่วง1ต.ค.64-15ม.ค.64

ททท.ปั้นแชมป์นวัตกรรมต่อยอดตลาดเที่ยวรับผิดชอบปี’65

TCEB”ผนึก8พันธมิตรบูมไมซ์ไร้คาร์บอนเพิ่มเส้นทาง+ศก.

“นครปฐม”วันเดียวเที่ยวอิ่มบุญอิ่มท้องของอร่อยเที่ยว5แห่ง

กรมสุขภาพจิตแนะ4วิธีดึงพลังกายใจฮึดสู้อยู่กับโควิดให้ได้

“ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์”ชงศบค.เพิ่ม2ยุทธศาสตร์ใหม่ก.ย./ต.ค.นี้

นักวิชาการชี้ไมซ์/ท่องเเที่ยวเลิกรอ“ตลาดจีน”ลุ้นใหม่ต้นปี65

 

อรุษ นวราช

ผู้ก่อตั้งสามพรานโมเดลและนายกสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย :TOCA

 วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน 2564 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #PhuketSandbox  #TOCA #สมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย #ไมซ์ท่องเที่ยวเลิกรอตลาดจีนลุ้นหลังจบโอลิมปิกฤดูหนาว2022

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1715716668622384&id=100005522016696

ช่วงที่ 1 เปิดเทรนด์ใหม่ธุรกิจหลังโควิดกับ “อรุษ นวราช” ผู้ก่อตั้งสามพรานโมเดลและนายกสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย :TOCA จับมือ “ททท.-หอการค้าไทย-TEATA” สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่พลิกโฉม 3 อุตสาหกรรม “เกษตร-อาหาร-ท่องเที่ยว” ด้วยแพลตฟอร์ม “TOCA” และ “Earth Point” โมเดลสกุลเงินท่องเที่ยวไร้คาร์บอน สร้างผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวเทรนด์พันธุ์ใหม่ “เที่ยวอย่างรับผิดชอบ” ปลุกห่วงโซ่ธุรกิจตื่นตัว ทั้ง โรงแรม ร้านอาหาร ร้านค้า คาเฟ่ ภาคบริการ เกษตรกรอินทรีย์ทั่วไทยแห่ร่วมโครงการ เทใจลดขยะอาหาร ปูพรมทำคาร์บอนเครดิตอย่างจริงจัง นำร่องทดลองใช้ที่ “ภูเก็ต” ต.ค.นี้ ก่อนขายทั่วประเทศ พ.ย.64 เป็นต้นไป

นายอรุษ นวราช ผู้ก่อตั้งสามพรานโมเดลและนายกสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย :TOCA -Thai Organic Consumer Association ได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้มาพัฒนาโครงการแพลตฟอร์ม “TOCA PLATFROM” เป็นเครื่องมือสำคัญของโลกยุคใหม่ เฟสแรกสมาคมได้รับเงินสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA : National Innovation Agency มา 2 ปีแล้ว นำไปใช้กับเกษตรกรในโครงการ “สามพราน โมเดล” ทั้งในเขตภาคกลาง นครปฐม ราชบุรี กาญจบุรี และภาคเหนือ จ.เชียงราย ภาคอีสาน จ.อำนาจเจริญ และอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศ

โดยเกษตรกรได้บันทึกข้อมูลการสั่งซื้อวัตถุดิบอินทรีย์จากกลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว หลัก ๆ คือ โรงแรม ร้านอาหาร ผ่านแพลตฟอร์ม TOCA ไฮไลต์คือจะมีข้อมูล “การตรวจสอบย้อนกลับแหล่งผลิตวัตถุดิบอาหาร” ได้ทั้งหมด ขณะนี้มีไฮไลต์เข้ามาเพิ่มคือ Earth Point เปรียบเทียบคล้ายสกุลเงินที่ไปแลกเป็นของได้ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน 3 อุตสาหกรรมหลัก คือ “เกษตร-อาหาร-ท่องเที่ยว”


ช่วงกันยายน 2564 ได้ต่อยอดเพิ่มแม่เหล็กดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคเข้ามาร่วมโดยจัดทำเป็น “Earth Point” การสะสมแต้ม เมื่อผู้บริโภคเข้ามาอุดหนุนสั่งซื้อสินค้าจากเกษตรกรอินทรีย์ จากฟาร์ม ร้านอาหาร โรงแรม

TOCA แพลตฟอร์ม กับ Earth Point จะเปิดใช้เป็นทางการ เริ่มที่ “ภูเก็ต” ขณะนี้มีผู้ประกอบการเข้ามาร่วมแล้ว เช่น โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว ป่าตอง โรงแรมตรีศลา จะมีเข้ามาเพิ่มอีกจากเครืออนันตรา และอื่น ๆ รวมทั้งมีเครือข่ายเกษตรกรอินทรีย์ภูเก็ตรวบรวมได้ 50 ราย ทางสมาคม TOCA ไม่ได้จำกัดสิทธิผู้สนใจก็เข้ามาได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพราะต้องการสร้างเครือข่ายช่วยกันทดสอบระบบ ภูเก็ตเริ่มได้ตุลาคมนี้ จังหวัดอื่นจะเริ่มพฤศจิกายน 2564

ระหว่างนี้ ททท.มอบหมายให้ทีมงานของสมาคม ลงพื้นที่ทดลองโครงการใน “ภูเก็ต” ซึ่งเป็นจังหวัดแรกเปิดรับนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติได้แล้ว ทางทีมงาน TOCA จะทำให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ จากนั้นจะเผยแพร่ให้ผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร จังหวัดอื่น ๆ และผู้บริโภคใช้งานได้ด้วย


“แพลตฟอร์ม TOCA” จะเป็นเครื่องมือเชื่อมโยง ตั้งแต่ “ต้นน้ำ” คือกลุ่มผู้ผลิตเกษตรอินทรีย์ กับ “กลางน้ำ” คือ ผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร “ปลายน้ำ” คือ ผู้บริโภค โดยมีข้อมูลโปร่งใสตลอดห่วงโซ่

ในการพัฒนาแพลตฟอร์มทางสมาคมจะทำแบบค่อยเป็นค่อยไปไม่เน้นเปิดตัวแบบตูมตามทีเดียว โดยจะเชิญชวน โรงแรม ร้านอาหาร เข้ามาร่วมสร้าง “ผู้บริโภค” เทรนด์ใหม่เข้าสู่ตลาดเป็นกลุ่มบริโภคโดยคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสถานที่ท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (sustainable tourism) ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของ ททท. ส่วนสมาคมเองตั้งเป้าหมายการสร้าง “ผู้บริโภคที่ดีมีคุณภาพ” หรือ Active Consumer มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมสังคม

ซึ่ง ททท.กับสมาคมมีเป้าหมายเดียวกัน ในการสร้าง “สังคมผู้บริโภคอินทรีย์” ซึ่งทางผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร ก็อยากใช้วัตถุดิบไร้สารเคมี แต่ไม่รู้จะไปหาของจริงได้จากไหนบ้าง พอมีแพลตฟอร์ม TOCA ทำข้อมูลโปร่งใสตลอดห่วงโซ่ จากผู้ผลิต-ผู้ขาย-ผู้บริโภค แล้วตรวจย้อนกลับแหล่งผลิตได้ครบวงจร ก็จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่าได้บริโภคผลิตภัณฑ์อินทรีย์ อย่างแท้จริง

TOCA แพลตฟอร์ม กับ Earth Point ถือเป็นโครงการที่เกิดขึ้นในจังหวะสอดคล้องกับสถานการณ์พอดี เพราะเมื่อโควิด-19 ระบาด คนในประเทศและทั่วโลกต่างก็หันมาเลือกใช้ “เทรนด์สุขภาพ” ที่ผ่านมาอาจมีคนแอบอ้างเรื่องอินทรีย์ แต่แพลตฟอร์ม TOCA จะเป็นเครื่องมือสร้างความเชื่อมั่นอย่างแม่นยำให้ทุกฝ่ายได้

นายอรุษกล่าวว่า แผนกระตุ้นให้แต่ละภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมเครือข่ายอินทรีย์ จะเน้นที่ “กลุ่มเกษตรกร” ทางสมาคมจะนำแพลตฟอร์มไปให้เกษตรกรทั่วประเทศในเครือข่ายปัจจุบันและอนาคตบันทึกข้อมูลขั้นตอนการผลิตอย่างปลอดภัยมีทั้ง สามพรานโมเดล เชียงราย ภูเก็ต นครศรีธรรมราช และอีกหลายจังหวัด จะค่อย ๆ ขยายวงไปเรื่อย ๆ

ส่วนกลุ่มเกษตรกรที่ยังไม่ได้ทำอินทรีย์ร้อยเปอร์เซนต์ทางสมาคมก็พร้อมจะช่วย โดยขอให้เข้ามาสมัครแล้วให้ทางเกษตรกรอินทรีย์ในกลุ่มถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อนำไปใช้เปลี่ยนแปลงสู่เกษตรอินทรีย์ต่อไป ภารกิจตรงนี้ค่อนใช้เวลามากสุด

ตอนนี้สมาคม TOCA มีสมาชิกทั่วประเทศกว่า 10 เครือข่าย หลังจากทดลองทำในภูเก็ตแล้วก็จะขยายไปยังพื้นที่อื่น ๆ โดยจะทำต่อเนื่องตั้งแต่ตุลาคม 2564 ไปจนถึง พฤศจิกายน 2565 ต่อไปกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร สามารถทำได้ง่ายขึ้นเพราะเห็นรูปแบบการเข้าใช้แพลตฟอร์มแล้ว เพื่อจะได้ วิน วิน สร้างความยั่งยืนในห่วงโซ่ไปด้วยกัน

“ประโยชน์ที่เครือข่ายสมาชิกที่เลือกใช้ TOCA แอพลิเคชั่น จะได้รับ คือ

กลุ่มแรก “ผู้บริโภค” ทุกที่ที่เดินทางโดยมีแอพนี้ติดตัว นักท่องเที่ยวและคนทั่วไปล้วนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในบุคคลที่ช่วยดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม อุดหนุนเกษตรกรอินทรีย์

กลุ่มที่ 2 “ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร” สามารถบันทึกกิจกรรมการลดขยะอาหาร ยิ่งทำก็จะยิ่งได้ Earth Point เพิ่มเพื่อนำไปแลกเป็นการลดคาร์บอนฟุตปริ๊นท์ ซึ่งสามารถคำนวณกลับมาเป็น “ตัวเงิน” ได้

เช่น คนทั่วไปหรือนักท่องเที่ยว ไปรับประทานอาหารจากร้านทั่วไปหรือร้านในโรงแรมที่สมัครเข้าร่วมโครงการ TOCA แพลตฟอร์ม โดยเลือกใช้วัตถุดิบอินทรีย์ทำเมนูอาหารขายผู้บริโภค ร้านอาหารนั้น ๆ ก็จะได้รับ Earth Point เพิ่มจากการขายและการช่วยลดขยะอาหารควบคู่กันไป ถือเป็นอีกช่องทางที่สามารถช่วยกระตุ้นการลดขยะอาหารและขยะรีไซเคิลได้เป็นอย่างดี

สมาคมฯ พร้อมทำงานกับแนวร่วมหลายองค์กรเครือข่ายที่จะหันมาใช้ระบบ Earth Point เป็นแพลตฟอร์มเดียวกัน เร็ว ๆ นี้ ร่วมมือกับ 2 องค์กร คือ 1.สมาคมหอการค้าไทย และ 2. สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (TEATA/ตีต้า) ผู้บุกเบิกทำโครงการ Low Carbon Tourism ปี 2564

สมาคมTOCA กับเครือข่ายพันธมิตร ตั้งเป้าหมายหลัก ทำร่วมกัน ประกอบด้วย 1.อุดหนุนเกษตรกรอินทรีย์ 2.ทุกการเดินทางได้มีส่วนร่วมรักษาสิ่งแวดล้อม คล้ายสกุลเงินรักษาความยั่งยืนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 3. สร้าง Earth Point เพิ่มประโยชน์ทั้งผู้บริโภค ผู้ประกอบการร้านอาหาร ตัวอย่าง เมื่อสั่งซื้อวัตถุดิบจากเกษตรก็จะได้รับคะแนนตามสัดส่วนที่กำหนด จากนั้นนำไปทำคำนวณตามสต็อกที่จัดซื้อมาผลิตเมนูอาหารในปริมาณจานที่สอดคล้องตามจริงกับวัตถุดิบ แต่จะไม่สามารถทำจำนวนจานเมนูอาหารขายเกินจริงได้

ตอนนี้มีแผนงานจะเชิญชวนพันธมิตรกลุ่มต่าง ๆ เข้ามาร่วม”เพิ่มสิทธิประโยชน์” ให้แก่ผู้บริโภค เริ่มจาก ททท.จัดเตรียมของรางวัลให้ผู้ลงทะเบียนใช้ Earth Point หรืออาจจะไปไกลถึงใช้เป็นข้อมูลประกอบการยื่นสมัครเข้าร่วมรับรางวัลกินรี-อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ส่วน “หอการค้าไทย” มีบริษัทพร้อมเข้าโครงการเช่นกัน ตัวอย่าง ในเครือ ปตท.อาจเปิดให้นำคะแนนแลกเป็นบัตรเติมน้ำมันรถยนต์ได้ หรือสายการบินให้แลกเป็นตั๋วโดยสารได้ หรือบริษัทต่าง ๆ จะนำข้อมูลไปจัดทำเป็นรายงานเสนอตลาดหลักทรัพย์ เครื่องมือดังกล่าวนี้สามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างหลากหลายต่อไป

แม้แต่ โรงแรม ร้านอาหาร ก็สามารถใช้ประโยชน์ทำกิจกรรมแลกโปรโมชั่นกันได้ ด้วยการนำ Earth Point ซึ่งเทียบเป็น “มูลค่าทางการเงิน” ไปแลกกาแฟที่ร้านอื่น ๆ   หรือแลกเมนูอาหารต่าง ๆ

อนาคตอาจจะโยงไปถึง “การทำคาร์บอน เครดิต” ได้ด้วย เนื่องจากเกษตรอินทรีย์เป็นส่วนหลักของการทำคาร์บอน ฟุตปริ๊นท์ ซึ่งมีงานวิจัยทำไว้อยู่แล้ว เป็นการผลิตที่ไม่ได้นำเข้าสารเคมีจากต่างประเทศ และการลดขยะอาหาร ก็อยู่ห่วงโซ่ลดคาร์บอน เป็นเรื่องที่จะคุยกันได้อนาคต

นายอรุษกล่าวว่า ความร่วมมือที่จะทำกับหอการค้าไทย เนื่องจากนั่งอยู่ในคณะกรรมการเศรษฐกิจหมุนเวียน Bio Circular Green Economy และกรรมการเศรษฐกิจพอเพียง กรรมการทั้งสองชุดมีเป้าหมายขับเคลื่อนให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ BCG อยู่แล้ว เน้น 2 เรื่อง คือ การลดขยะอาหารกับลดขยะพลาสติก ดังนั้นทางสมาคม TOCA จึงสามารถนำเรื่อง Earth point เข้าไปปลั๊กอินเข้าร่วมได้ทันที

โดยมีต้นแบบที่ทำร่วมกับหอการค้าไทยพร้อมเดินหน้าทำต่อจากภูเก็ตในเดือนตุลาคมนี้ที่จังหวัดกระบี่ และอีกแห่งที่ อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ทางชุมชนจับมือกับสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย ทำแพกเกจท่องเที่ยวโลว์ คาร์บอน จัดให้นักท่องเที่ยวพักโรงแรมที่ลดขยะอาหาร สั่งวัตถุดิบจากเกษตรอินทรีย์ ซึ่งทุกฝ่ายจะได้รับ Earth Point อย่างสมดุล คือ สมาคมไทยท่องเที่ยวฯผู้จัดแพกเกจทัวร์ นักท่องเที่ยวผู้อุดหนุนแพกเกจ และโรงแรม/ร้านอาหาร”ผู้สั่งซื้อสินค้าอินทรีย์

 

อีกทั้งจะขอฝากทุกคนในฐานะ “ผู้บริโภค” นั้น สามารถบริโภคควบคู่การรักษาสิ่งแวดล้อมได้ ด้วยการลุกขึ้นมาทำหน้าที่เป็นผู้บริโภคที่มีความตื่นตัว ผ่าน TOCA แพลตฟอร์ม ที่จะช่วยให้เข้าถึงเครือข่ายอินทรีย์ได้อย่างสะดวกสบาย แถมยังได้ Earth Point เป็นสกุลเงินสร้างความสนุก แล้วยังนำไปแลกของรางวัลและสิ่งที่เป็นประโยชน์อย่างยั่งยืน

 

สำหรับ สมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย :TOCA -Thai Organic Consumer Associationก่อตั้งมา 2 ปีแล้ว โดยมีสมาชิกเป็นกลุ่มผู้บริโภคอินทรีย์เชื่อมโยงเข้ากับผู้ผลิตเกษตรอินทรีย์ โดยไม่ต้องพึ่งพาพ่อค้าคนกลาง ซึ่งเปิดโอกาสให้สมาชิกได้เข้ามาเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ไปด้วยกัน

ฟังข่าวต้นชั่วโมง



ข่าวที่ 1 ช้อปคิงเพาเวอร์2แบรนด์”หลงใหล-LCFC”ลด30%ถึง30ก.ย.นี้

คิง เพาเวอร์ ชวนช้อป 2 แบรนด์ยอดนิยม มีแคมเปญเอาใจแฟนคลับ ให้เลือกช้อปพร้อมส่วนลดกว่า 30 % ตลอดทั้งเดือนตั้งแต่วันนี้ – 30 กันยายน 2564 ที่คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา และทางออนไลน์ แอพลิเคชั่น KingPower

แบรนด์แรก “หลงใหล” ผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง จัดแคมเปญ “Super Hot Deal” พบกับโปรโมชั่นกระเป๋าหนังคุณภาพดี เมื่อซื้อสินค้าตั้งแต่ 2 ชิ้นขึ้นไป ลดทันที 30% ช้อปให้ครบ 3,500.- (สุทธิ) พร้อมกับใส่Promotion code: MYSLL30 ให้สิทธิ์ 1 ชิ้น/ใบเสร็จ รับฟรี Longlai Eva Mini bag – Red color มูลค่า 3,200 บาท หรือคลิก https://bit.ly/3iZZaDw

แบรนด์ที่สอง “LCFC” จัดแคมเปญ “HELLO SEPTEMBERโปรต้อนรับความสุขกับคอกีฬา ตลอดเดือนกันยายน นี้ เพียงใช้ Promotion code: MYSLL30 เลือกช้อปแบรนด์ LCFC 2 ชิ้นขึ้นไป ลดทันที 30%   

พิเศษต่อที่ 2 เมื่อซื้อสินค้าแบรนด์ LCFC ครบ 3,000 บาท (หลังหักส่วนลด) รับฟรี LCFC Basic Line Camouflage Bag Pack อีก 1 ชิ้น มูลค่า 1,200 บาท ทั้งนี้มีสินค้า LCFC ที่ไม่เข้าร่วมโปรโมชั่นนี้ *2021/2022 Replica Kit  สามารถช้อปทางทาง Online ได้ด้วยที่ https://rb.gy/s2tgcy 

 

ข่าวที่ 2“ลแมนคิงเพาเวอร์”โหมโปร”ห้องพัก-บุฟเฟต์ซีฟู้ด”ลด30-50%

โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ (รางน้ำ) โหมทำโปรโมชั่น “ห้องพักและห้องอาหาร” ลด 30-50 % เริ่มจาก “ห้องพัก” พร้อมอาหารเช้าฟรี 1,899 บาทสุทธิ/ห้อง/คืน ตั้งแต่วันนี้ -31 ตุลาคม 2564  รวมสิทธิประโยชน์ 1. ห้องซูพีเรีย 2. ฟรีอาหารเช้าทุกวัน ที่ห้องอาหารควิซีน อันปลั๊ก 3. ฟรี อินเทอร์เน็ตทั่วทั้งโรงแรม 4. การันตีเช็คเอ้าท์ได้ถึง 16.00 น.

5. รับส่วนลด 50% สำหรับอัพเกรดห้องพักไปดีลักซ์ เอ็กเซคคิวทีฟ หรือสวีท6. รับส่วนลด 20% สำหรับเมนูรูมเซอร์วิส 7. รับส่วนลดสูงสุด 40% กับร้านอาหารและบาร์ภายในโรงแรม

“ห้องอาหาร” อยากกิน ต้องได้กิน บุฟเฟต์ซีฟู้ดและบาร์บีคิวมื้อค่ำ เวลา 17.00 - 19.00 น. ที่ห้อง “ควิซีน อันปลั๊ก” ทุกวันศุกร์-วันเสาร์  พิเศษจองออนไลน์ ลด 30% จ่ายเพียง 1,050 บาทสุทธิ (ปกติ 1,499 บาทสุทธิ) อิ่มอร่อยกับไลน์อาหารละลานตาทั้ง ปูอลาสก้า กั้งทะเล หอยนางรม หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ปูทะเลสีน้ำตาล และมุมบาร์บีคิว กุ้งแม่น้ำเผา เนื้อวากิวย่าง ไก่ย่างออร์แกนิค  จองได้เลย คลิก https://bit.ly/36u2TTz

ราคาข้างต้นรวมน้ำดื่ม 1 ขวด ส่วนเด็กอายุไม่เกิน 5 ปี รับประทานอาหารฟรี และเด็ก 6-11 ปี ลด 50% จากราคาเต็ม โทร.จองหรือสอบถามทางห้องอาหาร 02 680 9999

 

ข่าวที่ 3 “ททท.”งัด3เกณฑ์เปิดประเทศ43จังหวัด3ช่วง1ต.ค.64-15ม.ค.64

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.พร้อมเดินหน้าเปิดประเทศตามนโยบายรัฐบาลทยอยนำเข้านักท่อเที่ยวต่างชาติตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป กระจายไปเดินทาง 43 จังหวัด โดยได้เลือกโดยใช้ 3 เกณฑ์หลัก  ประกอบด้วย

1.เมืองหลักหรือจังหวัดซึ่งเคยทำรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ต่ำกว่า 15% ของทั้งหมด มีประมาณ จังหวัด แบ่งตามภูมิภาคของ ททท. ได้แก่ “ภาคใต้” มากที่สุดใน 8 จังหวัด คือ ภูเก็ต กระบี่ พังงา สุราษฏร์ธานี  สงขลา ตรัง ยะลา นราธิวาส “ภาคกลาง” 5 จังหวัด คือกรุงเทพฯ ปทุมธานี อยุธยา ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี “ภาคเหนือ” 4 จังหวัด คือ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน สุโขทัย “ภาคตะวันออก” 4 จังหวัด คือ ชลบุรี ตราด ระยอง สมุทรปราการ และ “ภาคอีสาน” 3 จังหวัด  คือ นครราชสีมา ขอนแก่น หนองคาย

2.จังหวัดที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน รวม 14 จังหวัด ประกอบด้วย “ภาคอีสาน” มากที่สุดใน 7 จังหวัด คือ สุรินทร์ นครพนม มุกดาหาร อุดรธานี บึงกาฬ เลย อุบลราชธานี ส่วนภาคอื่นมีภาคละ 2 จังหวัด ได้แก่ “ภาคตะวันออก” สระแก้ว จันทบุรี “ภาคเหนือ” ตาก น่าน “ภาคกลาง” (ตะวันตก) กาญจนบุรี ราชบุรี และ“ภาคใต้” ระนอง สตูล

                3.พื้นที่นำร่องที่มีสินค้าการท่องเที่ยวโดดเด่นทางด้านศิลปะวัฒนธรรม เบื้องต้นมี 4 จังหวัด คือ ลำพูน แพร่ นครศรีธรรมราช พัทลุง

ผู้ว่าฯ ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า วางแผนปลายปีนี้จะเปิดตามนโยบายรัฐบาลด้วยการเดินทาง 3 ช่องทางหลัก คือ ทางที่  โดยเครื่องบินบินตรงเข้าสู่จังหวัดไกลข้ามภาค ช่องที่ 2 โดยรถยนต์ เข้าสู่พื้นที่ที่รัฐกำหนดเปิดท่องเที่ยว หรือ Sealed routes เช่น จากสนามบินสุวรรณภูมิ นั่งรถที่ได้มาตรฐาน SHA ไปยัง หัวหิน ชะอำ จังหวัดใกล้เคียง ทางที่ 3 โดยเครื่องบิน รถหรือเรือ เพื่อไปยังจังหวัดท่องเที่ยว 7+7 พร้อมทั้งแบ่งการเปิดจังหวัดท่องเที่ยวต่อเนื่องอีก 3 ช่วง ดังนี้

ช่วงที่ 1 เริ่ม 1 ตค. 2564 ใน 5 จังหวัด

1.โครงการ ชาร์มมิ่ง เชียงใหม่ :Charming Chaingmai 3  อำเภอ คือ อำเภอเมือง/แม่แตง/ดอยเต่า

2.โครงการ พัทยา มูฟ ออน :Pattaya Move On 3 อำเภอ คือ พัทยา/บางละมุง/สัตหีบ

3.หัวหิน รีชาร์จ  :Huahin Recharge 2 อำเภอ 2 จังหวัด อ.หัวหิน/ประจวบคคีรีขัน กับอำเภอชะอำ/เพชรบุรี

5.กรุงเทพฯ กำลังเตรียมพื้นที่ที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตามปกติ

ช่วงที่ 2 เริ่ม 15 ตุลาคม 2564 เพิ่มอีก 16 จังหวัด คือ “ภาคเหนือ” มากสุด 5 จังหวัด คือ เชียงราย แม่ฮ่องสอน  ลำพูน แพร่   สุโขทัย  “ภาคตะวันออก” 3 จังหวัด คือ สมุทรปราการ ตราด  ระยอง “ภาคอีสาน” 3 จังหวัด คือ หนองคาย ขอนแก่น นครราชสีมา  “ภาคใต้” 3 จังหวัด คือ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง และ “ภาคกลาง” 2 จังหวัด ปทุมธานี อยุธยา

ช่วงที่ 3 เริ่มต้นปีหน้า1-15 มกราคม 2565 จับคู่ท่องเที่ยวระหว่างประเทศกับเพื่อนบ้านตามเขตติดต่อเมืองชายแดน หรือ Bubble Travel Countries เช่น 1.กัมพูชา พื้นที่ อ.ช่องจอม/จ.สุรินทร์ อ.อรัญประเทศ/จ.สระแก้ว อ.คลองลึก/จ.ตราด (กับเกาะกง)  2.เมียนมา พื้นที่ อ.แม่สาย/จ.เชียงรายกับท่าขี้เหล็ก อ.แม่สอด/ตากกับเมวดี จ.ระนองกับเกาะสอง  3.สปป.ลาว  พื้นที่รอยต่อทางอีสาน นครพนม หนองคาย  มุกดาหาร  4.มาเลเซีย พื้นที่รอยต่อภาคใต้ มี อ.เบตง/จ.ยะลา สุไหวโกลก/จ.นราธิวาส  ปาดังเบซาร์(ด่านนอก)/จ.สงขลา และ วังประจัน/จ.สตูล

 


ข่าวที่ 4 ททท.ปั้นแชมป์นวัตกรรมต่อยอดตลาดเที่ยวรับผิดชอบปี’65

นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้มอบรางวัลสุดยอดนวัตกรรมสื่อการเรียนรู้การตลาดท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ ที่มุ่งเผยแพร่เป็นเครื่องมือเสริมความยั่งยืนให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยหลังวิกฤตโควิด-19  พร้อมกับสร้างหลักสูตรการตลาดท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Responsible Tourism) ต่อยอดให้น่าสนใจทันสมัยด้วยสื่อการเรียนรู้แบบใหม่ปีงบประมาณ 2565 กำลังมุ่งยกระดับเพิ่มขีดความสามารถของบุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย มุ่งพัฒนาสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism) โดยมีทีมที่โชว์ผลงานเด็ด ๆ รวม 10 ทีม โดยมีทีมที่คว้ารางวัลชนะเลิศ และรองชนะเลิศ 3 อันดับ ที่ได้รับเงินพร้อมโล่รางวัล

ทีมชนะเลิศ คือ Hygienic Tourism นำเสนอเว็บไซต์และชุดเครื่องมือ (Toolkit) โดยออกแบบมาเพื่อช่วยระดมความคิดในการแก้ปัญหา และกระตุ้นให้เกิดแนวคิดเรื่องความยั่งยืน รับเงินรางวัล 100,000 บาท

ทีมรองชนะเลิศ 2 ทีม อันดับ 1 ทีม WORK นำเสนอวิดีโอการเล่าเรื่องผ่านบทเพลง โดยมีภาพวาดประกอบ เป็นอีกหนึ่งสื่อการเรียนรู้ที่สร้างแรงบันดาลใจ และกระตุ้นให้เกิดความน่าติดตามได้อย่างดีเยี่ยม ได้รับเงินรางวัล 70,000 บาท

อันดับ 2 ทีม FMSQUARE นำเสนอแพลตฟอร์มสื่อการเรียนรู้ในรูปแบบคลิปวิดีโอสั้น 3 ตอน หลากหลายอารมณ์ ที่จะพาทุกท่านไปรู้จักกับการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ ด้วยประโยคที่คุ้นหูในยามที่มีปัญหาเกิดขึ้นว่า “ใครจะรับผิดชอบ?” ได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท

การแข่งขันครั้งนี้ ใช้เวลา 2 เดือน มีทีมผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 70 ทีม ผ่านกระบวนการคัดเลือก 3 รอบ จนได้ 10 ทีมสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ร่วมพัฒนานวัตกรรมสื่อการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นจริง แต่ละทีมที่ผ่านเข้ารอบได้ร่วมกระบวนการพัฒนาศักยภาพและยกระดับขีดความสามารถอย่างเข้มข้น จากการเพิ่มทักษะและองค์ความรู้ ผ่านการอบรมออนไลน์กับวิทยากรผู้เชี่ยวชาญตามหลักสูตรของโครงการ

ประกอบด้วย 1.การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบที่ยั่งยืน 2.ร่วมคิดร่วมสร้างนวัตกรรมการท่องเที่ยวที่มีส่วนร่วมสร้างความยั่งยืน และ 3.เทคนิคการสื่อสารเพื่อความยั่งยืน ผลจากความทุ่มเทและความตั้งใจของทุกทีม ทำให้ได้ผลงานนวัตกรรมสื่อการเรียนรู้ที่เป็นรูปธรรม โดยผลงานสื่อการเรียนรู้ในโครงการนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยยกระดับขีดความสามารถของการท่องเที่ยวไทยบนพื้นฐานของการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนต่อไป


นางอรชร ว่องพรรณงาม 

ผอ.ฝ่ายพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์ 

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” 

ข่าวที่ 5 TCEB”ผนึก8พันธมิตรบูมไมซ์ไร้คาร์บอนเพิ่มเส้นทาง+ศก.

นางอรชร ว่องพรรณงาม ผอ.ฝ่ายพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” นำทีเส็บเข้าร่วมกับ 8 พันธมิตร ทำร่วมกันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์โครงการ “Carbon Neutral Tourism : คาร์บอนบาลานซ์มุ่งสู่การท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์” โดยตั้งเป้าหมายเตรียมต่อยอดการเส้นทางไมซ์อย่างสมดุล ในฐานะของผู้สร้างดีมานต์ทำการตลาดกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนจัดงานไมซ์กระจายเม็ดเงินทั่วประเทศ ปีงบประมาณ 2565 จะเป็นโอกาสดีที่จะขับเคลื่อนอย่างเต็มที่ต่อไป

โดยทีเส็บได้วางกลยุทธ์ทำการตลาดไมซ์ในประเทศและต่างประเทศ ดึงนักธุรกิจเข้ามาประชุม จัดแสดงสินค้า หากทำให้เส้นทางไร้คาร์บอนได้มากที่สุด ก็จะยิ่งเป็นแรงกระตุ้นเพิ่มทั้ง 1.เส้นทางไมซ์ที่มีคุณภาพหลากหลาย 2.เพิ่มเศรษฐกิจได้จำนวนมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาต้องยอมรับการจัดงานไมซ์เองก็มีส่วนในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกค่อนข้างมาก จากนี้ไปต้องทำเพิ่มกิจกรรมสร้างความรู้ ความเข้าใจ รณรงค์ให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมไมซ์เข้าใจการตั้งเป้ามุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือ MICE Sustainsibity Guideline เมื่อมี Carbon Neutral มาด้วยจะยิ่งช่วยตอกย้ำความสำเร็จในอนาคตได้อย่างมีนัยสำคัญ

เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทย อุตสาหกรรมไมซ์ได้รับการจัดอันดับด้านการสร้างความยั่งยืนติด 1 ใน 5 ของโลก ดังนั้นทีเส็บจึงพร้อมวางกลยุทธ์ให้ทุกฝ่ายทั้งผู้ประกอบการ ผู้จัดงานไมซ์ในโลกอนาคตอย่างรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ เดินเคียงข้างไปพร้อมกับอีก 7 พันธมิตรที่จับมือกับทำโครงการ Carbon Neutral ขึ้นเป็นครั้งแรกในเมืองไทย

สำหรับทีเส็บ วางกลยุทธ์สู่ความสำเร็จต่อเนื่องโดยเดินหน้าภายใต้ 3 ภารกิจหลัก ประกอบด้วย

1.WIN การดึงงานต่างประเทศ และส่งเสริมให้เกิดการจัดงานในประเทศ

2.Promote ทำประชาสัมพันธ์ประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการจัดงานะดับโลก

3.Develop พัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมผ่านองค์ความรู้ มาตรฐาน และนวัตกรรม

 

ตั้งแต่ปี 2563 ทีเส็บได้ริเริ่มทำเส้นทางสายไมซ์หรือ “7 MICE Magnificent Themes 2020” ปูพรม 10 เมืองไมซ์ซิตี้ ที่มีความพร้อมจัดงานต่าง ๆ  แต่ละเมืองจะมีจุดเด่นต่างกัน ทีเส็บเร่งใส่ดีเอนเอเข้าไปในแต่ละเมือง คือองค์ความรู้เชิงสร้างสรรด้านสิ่งแวดล้อมให้เกิดความโดดเด่นทางเศรษฐกิจ และกระตุ้นชุมชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในรายได้ โดยมีทั้ง ธีมผจญภัย การจัดการอาหาร การทำซีเอสอาร์ การอนุรักษ์ธรรมชาติ ประวัติศาสตร์วัฒนธรรม ทีมบิลดิ้ง จัดแบบหรูหรา/ลักชัวรี่ โดยยึดหลักการทำไมซ์เชิงท่องเที่ยวอย่างสมดุลและยั่งยืน ด้วยการปล่อยคาร์บอนให้ได้เป็น 0 มากที่สุดนั่นเอง

ก่อนโควิด 2562 มีนักธุรกิจต่างชาติเข้ามา 1 ล้านคน คนไทย 29 ล้านคน สร้างมูลค่าไมซ์ได้ถึง แสนล้านบาท หากสามารถช่วยลดปล่อยคาร์บอน สร้างจุดขายให้ไทยเป็นประเทศจุดหมายปลายทางจัดงานระดับโลกโดยลดคาร์บอนได้มากที่สุด

                ช่วงที่ 2 เที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย เริ่มออกเที่ยวได้บ้างแล้ว ปักหมุดหมายเช็คอินวันเดียวเที่ยวทั่ว “นครปฐม” อิ่มบุญ อิ่มท้อง 5 พิกัดสบาย ๆ แล้วใครที่ยังวิตกจริตกับโควิด “กรมสุขภาพจิตแนะฮึดสู้ด้วย 4 วิธี” ส่งท้ายกับข่าวเจาะลึก “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ไปต่อขอ ศบค.เพิ่ม 2 ยุทธศาสตร์ ฉีดวัคซีนเข็ม 3ทั่วเกาะ และข่าว “นักวิชาการชำแหละตลาดจีน” ไมซ์ไทยกับท่องเที่ยวเลิกรอ แล้วคอยลุ้น ม.ค.65 หลังจัดโอลิมปิกฤดูหนาวจบ


“นครปฐม”วันเดียวเที่ยวอิ่มบุญอิ่มท้องของอร่อยเที่ยว5แห่ง

กินเที่ยวเสริมสิริมงคลให้หนำใจ ไม่ต้องมีเวลามากก็สามารถชิลได้ 5 แห่งใน 1 วัน เที่ยวใกล้กรุงที่นครปฐม ตามรูทแมพของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่สนับสนุนให้นักท่องเที่ยววางแผนเที่ยวล่วงหน้า สร้างแรงบันดาลใจในการเดินทาง ภายใต้แนวคิด 'เที่ยววิถีใหม่สุขใจแบบ New Normal' พร้อมย้ำอดใจอีกนิด รอสถานการณ์คลี่คลายแล้วออกเดินทางได้เลย

นครปฐม เป็นจังหวัดที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางไม่นาน มีแหล่งท่องเที่ยวครบครัน ทั้งธรรมชาติ วัดวาอาราม ร้านอาหาร และคาเฟ่ชิคๆ จึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตของนักท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้ สำหรับรูทแมพ 5 แห่งเที่ยวได้ใน 1 วัน

เริ่มต้นเส้นทางกินเที่ยวเสริมสิริมงคล กันด้วยเรื่องของอาหารการกิน


พิกัดที่ 1 ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา นครชัยศรี นั่งห้อยขากินเตี๋ยวชามยักษ์ พร้อมเครื่องดื่ม ตบท้ายด้วยหมูสะเต๊ะสุดฟิน นอกจากอาหารอร่อยถูกปากแล้ว มุมถ่ายรูปยังมีให้เลือกเยอะ ทั้งมุมต้นไม้ มุมริมน้ำ มุมซุ้ม

พิกัดที่ 2 วัดกลางบางแก้ว วัดโบราณริมแม่น้ำท่าจีน ชมความสวยงามด้านสถาปัตยกรรมพร้อมกราบไหว้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล

พิกัดที่ 3 วัดใหม่สุปดิษฐาราม ชมสถาปัตยกรรมสไตล์ล้านนาสวยสะดุดตา กราบไหว้พระสิวลีองค์ใหญ่ เพื่อขอโชค ขอลาภ แล้วไปลอดท้องช้าง 3 เศียร ขอพรไอ้ไข่วัดเจดีย์ ไหว้ราหูสะเดาะเคราะห์

พิกัดที่ 4 องค์พระปฐมเจดีย์ เป็นองค์ปฐมเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แวะกราบสักการะพระร่วงโรจนฤทธิ์ เดินรอบพระอารามชั้นนอก หรือชั้นในก็ได้ให้ครบ 3 รอบ เพื่ออธิษฐานจิตขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้สมปรารถนา

พิกัดที่ 5 ตลาดโต้รุ่ง แวะหาอาหารกินยามเย็น มีให้เลือกแบบละลานตา ทั้งของคาว ของหวาน ของทานเล่น

เที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย ไปเที่ยว “นครปฐม” อิ่มบุญ อิ่มท้อง ช่วยชาติกระจายรายได้ฟื้นท่องเที่ยวไทยไปด้วยกัน


กรมสุขภาพจิตแนะ4วิธีดึงพลังกายพลังใจฮึดสู้อยู่กับโควิดให้ได้

กรมสุขภาพจิต แนะนำในสถานการณ์ที่คนไทยต้องอยู่กับโรคโควิด-19 ต้องหันมาสร้งพลังกาย พลังใจ “อึด ฮึด สู้” “พญ.วิมลรัตน์ วันเพ็ญ”ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพจิตที่ 13

1.ดูแลจิตใจด้วย “สติ” : ต้องอาศัยการฝึกสติหรือการมี Mindfulness เพื่อให้เรารู้เท่าทันจิตใจที่กำลังคิดฟุ้งซ่าน แล้วดึงกลับมาอยู่เป็นหนึ่งเดียวกับปัจจุบันให้ได้

2.หาเวลาพักผ่อนนอนหลับให้เต็มที่ : ชาร์จพลังด้วยการนอนหลับให้เต็มที่ หากนอนไม่หลับใช้เคล็ดลับคือให้ลุกขึ้นมาเปลี่ยนอิริยาบถ ทำกิจกรรมเบา ๆ ดูทีวี หรือดื่มนมอุ่น ๆ ให้ร่างกายรีเซ็ตตัวเอง และกลับเข้าสู่วงจรความง่วงใหม่อีกครั้ง

3.เขียนระบายออกมา เพื่อมองเห็นปัญหาของตัวเอง : ลองเขียนสิ่งที่สับสนวนเวียนอยู่ในหัวออกมา เพื่อให้เห็นว่าปัญหามีกี่อย่าง มีอะไรบ้าง แล้วไล่แก้ไขทีละเรื่อง ซึ่งเป็นอีกวิธีที่ดีเช่นกัน

4.หาเวลาผ่อนคลายให้ตัวเอง : สุดท้ายเป็นเรื่องการแบ่งเวลา เพื่อให้ตัวเอกงได้ผ่านคลายร่างกายและจิตใจ ได้ทำสิ่งที่ชอบบ้าง อาจจะนั่งฟังเพลง ดูซีรีส์  ออกกำลังกาย จะช่วยให้ร่างกายสดชื่นขึ้น และได้ลุกออกจากความคิดที่ดำดิ่งลงไปเรื่อย ๆ ให้ดีขึ้นนั่นเอง

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์”ชงศบค.เพิ่ม2ยุทธศาสตร์ใหม่ก.ย.นี้

 

นายภูมิกิติ์ รักแต่งาม -นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า หลังจากการนำอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นพื้นที่นำร่องทำโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” เข้าเดือนที่สามแล้วตั้งแต่ 1 กรกฎาคม-12 กันยายน นี้ การมองความสำเร็จในอนาคตจะต้องเพิ่มเติมโดยได้เสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.) และรัฐบาลอนุมัติเพิ่มอีก 2 ยุทธศาสตร์ใหม่ คือ

 

          ยุทธศาสตร์แรก“ภูเก็ต One to Oneเสนอ ศบค.ไปวันที่ 10 กันยายน 2564 ให้หันมาทำอย่างจริงจังรอบใหม่ต้องพึ่งพา “วัคซีนเกม” เพราะไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อีกต่อไปแล้ว และถึงเวลาที่จะต้องกระจายฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้ชาวภูเก็ต เริ่มตั้งแต่กันยายนหรือตุลาคม 2564 เป็นต้นไป ขณะนี้ภูเก็ตมีผลการทำวิจัยโดยโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตพร้อมนำเสนออย่างเป็นรูปธรรม

         

ยุทธศาสตร์ที่ 2 ทำแผน Clear and Challenge หาวิธีสร้างความรู้ ความเข้าใจให้คนใช้ชีวิตอยู่กับโควิด-19 ให้ได้ เมื่อประเมินผลการติดเชื้อในภูเก็ตช่วงกันยายนนี้มีสถิติกลับมาเป็นวันละ 200 คน ดังนั้นจึงต้องใช้ทฤษฎีใหม่การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับโควิด-19 โดยใช้สูตรที่จัดเตรียมไว้ 4 วิธี ได้แก่ 

 

1.แยกคนติดเชื้อใหม่ ตามสีแดง-ส้ม-เหลือง กี่เปอร์เซนต์ เพื่อฉายภาพตัวเลขอย่างชัดเจน

2.การขยายตรวจหาเชื้อเพ Kiss Case and Simple ตัวอย่าง สิงคโปร์ เปิดบับเบิ้ลกับเยอรมัน วันแรก 8 กันยายน 2564 มีนักท่องเที่ยวเข้าสิงคโปร์ถึงวันละ 800 คน แล้วภูเก็ตจะทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวเข้ามาได้แบบเดียวกับสิงคโปร์ได้บ้าง

           

3.กลับสู่ธรรมชาติให้ใกล้เคียงแบบดั้งเดิมที่สุด Back to the Future เพื่อให้ธุรกิจทำกิจกรรมได้ ด้วยการกลับไปสู่แบบเดิม เริ่มจากลงทุนติดตั้ง Air Exchange  นำระบบแอร์ปรับอากาศบนเครื่องบินมาใช้ เพื่อให้ผับ บาร์ ต่าง ๆ ที่ต้องการเปิดบริการ

            4.วิเคราะห์เปรียบเทียบผลเชิงเศรษฐกิจของประเทศว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพื่อให้ “ภูเก็ต” เป็นโมเดลสามารถเปิดทางให้จังหวัดอื่น ๆ อย่าง สุราษฎร์ธานี พังงา กระบี่ นำไปประยุกต์ใช้ได้ด้วยเช่นกัน

          นายภูมิกิตติ์กล่าวว่าท้ายที่สุดแล้ว เราทุกฝ่ายยังมีความหวัง ทุกวิกฤตมีโอกาสเสมอ เหมือนกับโมเดลภูเก็ตที่สู้มาตลอด เพียงแต่ทุกฝ่ายอย่าหยุดคิด อย่าหยุดเดิน เพราะโควิดเปลี่ยนหลายเรื่อง ดังนั้นเราต้องมีวินัยจริง ๆ เพื่อควบคุมไม่ให้โรคกลับมาเพิ่มขึ้นได้อีกต่อไป

 

นักวิชาการชี้ไมซ์/ท่องเที่ยวเลิกรอ“ตลาดจีน”ลุ้นใหม่ต้นปี65

ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร -ผู้อำนวยการศูนย์จีนศึกษามหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เปิดเผยว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและไมซ์ของประเทศไทยพึ่งพาตลาดและรายได้จากลูกค้าสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นหลัก แต่ปี 2564 คงไม่มีโอกาสที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวจีนอย่างแน่นอน เพราะรัฐบาลจีนมีนโยบายชัดเจนที่จะปิดประเทศต่อไป ส่วนปี 2565 เมื่อฉีดวัคซีนเกิน 75-80 % จึงต้องมาประเมินสถานการณ์กันอีกครั้ง

            โดยยังคงพอจะมีความหวังอยู่บ้างเนื่องจาก ปี 2565 “วัคซีน” จะเป็น “คำตอบ” ฉีดวัคซีนให้ได้เพื่อทำให้คนตายน้อย คนป่วยน้อย เพิ่มความมั่นใจให้คนกลับมาใช้ชีวิตปกติ รวมทั้ง “จีน” กำลังเตรียมจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ที่ปักกิ่ง (จัดเดือนมกราคมของทุกปี) จีนมี 2 แนวทาง 1.เพิ่มความเข้มข้นมากกว่าโอลิมปิกที่ญี่ปุ่น 2.จีนจะเปิดประเทศมากขึ้น กับนำดิจิทัลเข้ามาใช้ในการจัดการ เพื่อให้การจัดกิจกรรมที่มีผู้คนรวมกันเป็นจำนวนมากสามารถทำได้อย่างประสิทธิภาพ ปลอดภัยมากที่สุด

สำหรับทิศทางของนักท่องเที่ยวจีนปีนี้ เห็นชัดจากการจะเดินทางเข้าภูเก็ตที่มีความไม่แน่นอนสูง ขณะนี้มีคำถามถึงนโยบายการทำให้ไร้โควิด-19 หรือ Zero Covid ของรัฐบาลจีนจะทำไปได้นานขนาดไหน และมีความเป็นไปได้หรือไม่ โดยวิเคราะห์จาก 3 ปัจจัย คือ

1.วัคซีนวงการแพทย์ในจีนยืนยันต้องฉีดให้ได้เกิน 75 % ขึ้นไป จึงค่อยมาพูดกันถึงเรื่องเปิดประเทศ ตอนนี้แม้จีนเข้าฉีดวัคซีนให้ประชาชนใกล้เป้าหมายมากขึ้นแล้วก็ตาม แต่ก็ยังจะต้องมาถกเถียงกันเรื่องเปิดประเทศว่าจะทำหรือไม่อย่างไร

2.วัคซีน mRNA ตอนนี้คนจีนฉีดเชื้อตาย แล้วตอนนี้มีเยอรมันผลิต mRNA อยู่ในจีน แต่รัฐบาลจีนยังไม่ได้อนุมัติ มีการถกเถียงกันว่าควรสร้างความมั่นใจในซิโนแวคกับซิโนฟาร์มก่อนหรือไม่แล้วนำมาบู๊ทครั้งที่สามให้ประชาชนจีนฉีคต่อไป

3.เชื้อกลายพันธุ์ของเดลต้า ทางหมอจีนย้ำว่าต้องเพิ่มความเข้มข้นการ “กักตัว” เช่นในมณฑลกวางโจวทำมากกว่าเดิม บางแห่งใช้ทั้งตึกเป็นสถานที่กักตัวคนต่อคน แทนของเดิมอาจจะกักรวมห้องละ 2-3 คน

แต่สุดท้ายทั่วโลกก็คงจะต้องเดินหน้าไปในลักษณะคล้ายกันคือหาคำตอบจาก “วัคซีน” ตามความจริง “อัตราติดเชื้อสูง” แต่ “การตายต่ำ” เช่นเดียวกับ สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ตอนนี้จึงเป็นไปได้ยากที่ทำให้เกิด Zero Covid ดังนั้นจึงไม่สามารถเรียนรู้จากจีนได้ หรือจีนเองอาจจะเรียนรู้จากเราก็ได้

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai