ททท.ชู“นคราธานี”วาระแห่งชาติ“BCG+HAPPY”โมเดลปี’65 อุดร/หนองคาย/บึงกาฬเคลื่อนทัพขายทัวร์กัญชาสุขภาพทั่วอีสาน

ททท.ชู“นคราธานี”วาระแห่งชาติ“BCG+HAPPY”โมเดลปี’65

อุดร/หนองคาย/บึงกาฬเคลื่อนทัพขายทัวร์กัญชาสุขภาพทั่วอีสาน

“คิง เพาเวอร์”ลุยเปิดรร.“เดอะสแตนดาร์ดแบ็งคอกมหานคร”ปี’65

คิงเพาเวอร์อัดฉีดเพิ่ม5โปรโมชั่นช้อปสุดคุ้มดีลดีวันนี้-30ก.ย.64

มาแล้ว!นาฬิกานวัตกรรมไฮเทคหรูดีที่สุดแห่งปี2021ที่คิงเพาเวอร์

ททท.แจง4พื้นที่เปิด1ต.ค.-เที่ยวด้วยกัน/ทัวร์เที่ยวไทยเริ่ม24ก.ย.

ททท.งัดเพลงสนุก“Food Fruit For Fun”ปลุกเที่ยว9จังหวัด

“TCEB”เปิดแล้ว!!นิทรรศการออนไลน์ไมซ์สร้างชาติ3โซนเด็ด

เที่ยวได้เลย!!จันทบุรีชุมชน-คาเฟ่-ทะเล-ภูเขา-น้ำตกสุดอะเมซิ่ง

กินอาหารแช่แข็งให้ได้ประโยชน์ช่วงโควิดต้องอุ่นปรุงร้อนเสมอ

แอร์เอเชียลดเพิ่ม100บาทตั๋วราชการ/วิสาหกิจ/หอค้า”ถึง31ต.ค.

“ศักดิ์สยาม”สั่งทอท.รับโอน3สนามบินอุดร/กระบี่/บุรีรัมย์1ม.ค.65

“ครม.”ปลดล็อกวีซ่าต่างชาติ4กลุ่มดึงนักลงทุน1ล้านล้านปี66-70

 

นางธนพร พูลเพิ่ม 

ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานอุดรธานี

 วันเสาร์ที่ 18 กันยายน 2564 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #PhuketSandbox  #นคราธานี #ทททอุดรธานี

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1720049424855775&id=100005522016696

ช่วงที่ 1 ท่องเที่ยวอีสานเล่นใหญ่ฟังได้จาก “นางธนพร พูลเพิ่ม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานอุดรธานี” นำทีมจับมือ 4 สมาคมท่องเที่ยว สายการบิน ดันจุดขายเทรนด์อินเตอร์ปั้นคลัสเตอร์ท่องเที่ยวภายใต้ชื่อ “นคราธานี” 3 จังหวัด “อุดรธานี-หนองคาย-บึงกาฬ” เป็นภาคแรกของประเทศโชว์วาระแห่งชาติ 2 บิ๊กโปรเจ็กต์ “BCG+Happy Model” ต้อนรับเปิดประเทศ 120 วัน โหมโรงด้วยแคมเปญ “ปักหมุดบิน เยือนถิ่นนคราธานี” 3 วัน7,900 บาท ฮือฮา!! “อุดรธานี” บุกเบิกท่องเที่ยวกัญชาเชิงสุขภาพ 4 เส้นทาง หวังปี’65 เศรษฐกิจฉลุย

 

นางธนพร พูลเพิ่ม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานอุดรธานี เปิดเผยว่า การวางแผนเดินหน้าตลาดท่องเที่ยวปีงบประมาณ 2565 จะเริ่มตั้งแต่ 1ตุลาคม 2564 โดยได้ตั้งเป็นกลุ่มท่องเที่ยวชื่อ “นคราธานี” เชื่อมโยงการท่องเที่ยว 3 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี-หนองคาย-บึงกาฬ วางกลยุทธ์การขายภายใต้ 1.โมเดลตามยุทธศาสตร์ชาติ “BCG :Bio-Circular-Green”ร่วมสร้าง3วงใหญ่ในระบบเศรษฐกิจ “ชีวภาพ-หมุนเวียน-สีเขียว” 2.ภายใต้แนวคิด Happy Model โดยได้ออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวมาใช้เป็นสินค้าพร้อมทั้งนำเสนอมุมมองใหม่ ๆ ตอบโจทย์ “มูลค่าการตลาดสูง”

ดังนั้นการคัดเลือกเส้นทางท่องเที่ยว  ดีไซน์แพกเกจนำเที่ยว การเลือกสินค้า จะต้องทำคู่ขนานกับ BCG+Happy Model

ททท.อุดรธานีกลุ่มนคราธานี เตรียมเดินหน้าท่องเที่ยวที่จะขยายฐานตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงและต้องเป็นกลุ่มสร้างความสมดุลทั้ง 3 จังหวัด อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ ด้วย 4 โครงการ คือ 1.โครงการอะเมซิ่ง วิถีใหม่ เที่ยวไทยไม่ตกเทรนด์ 2.โครงการเมืองรองต้องไป 3.เที่ยวอีสานวันธรรมดา 4.ประสานความร่วมมือทางการตลาด จับมือกับผู้ประกอบการและเติมเต็มมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA :Amazing Thailand Safety and Health Administration

 

ขณะนี้ออกแบบเส้นทาง BCG Model นำร่องวางขายในตลาดโดยสนับสนุนสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (TEATA/ตีต้า :Thai Eco Adventure Tourism Association) จัดทำเส้นทาง “นคราธานี” ซึ่งได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 5 เส้นทางท่องเที่ยวหลักของประเทศตั้งแต่ปลายปี 2564 เป็นต้นไป

เมื่อวันที่ 9 เดือน 9 หรือ 9 กันยายน 2564 ททท.อุดรธานี ร่วมกับ 4 สมาคมท่องเที่ยว และสายการบินไทยสมายล์ ขายแพกเกจ “ปักหมุดบิน เยือนถิ่นนคราธานี” ราคาพิเศษ 3 วัน 2 คืน เพียง 7,900 บาท/คน/ทริป เชิญชวนนักท่องเที่ยวใช้บริการท่องเที่ยวตามเส้นทางที่ได้ออกแบบไว้ภายใต้บีซีจีโมเดล ซื้อได้ตั้งแต่วันนี้ -30 กันยายน นี้ แล้วเก็บไว้ใช้เดินทางได้ ตั้งแต่วันที่ซื้อแพกเกจไปจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564

ช่องทางการซื้อแพกเกจเข้าไปยังเพจเฟซบุ๊ค ททท.อุดรธานี จะปักหมุดด้านล่างเข้าไปเลือกซื้อพร้อมราคาขาย มีโปรแกรมท่องเที่ยว เช่น โปรแกรมแรก เสริมมงคล 3เมือง โปรแกรมที่สอง เที่ยว 3ภูดู 3 หมอก ซื้อแพกเกจได้จาก จาก 4 สมาคม คือ

1.สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานี โทร.081-871-8548

2.สมาคมส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดหนองคาย โทร.089-569-5171, 091-596-9964

3.สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหนองคาย โทร.083-689-6510, 094-297-0707

4.สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดบึงกาฬ โทร.095-169-0156

เป็นกิจกรรมปูพรมตลาดโดยใช้ปลายงบประมาณ 2564 ส่งต่อปีงบประมาณ 2565 และขานรับนโยบาย “เปิดประเทศ 120 วัน” หลังจากนั้นจะมีแพกเกจใหม่ออกวางตลาดอีกครั้งสอดคล้องกับการท่องเที่ยวช่วงเปิดเมือง ตามที่รัฐบาลประกาศจะให้เปิดตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป ประกอบด้วย 1.อุดรธานีพลัส 2.หนองคายสบายดี 3.บึงกาฬ กำลังรอตั้งชื่อเป็นทางการ ททท.อุดรธานี มีส่วนสนับสนุนการทำกิจกรรมคู่มือท่องเที่ยวตามขั้นตอน หรือ SOP : Standard Operation Procedure

ผอ.ธนพร กล่าวว่า การท่องเที่ยวอีสานฤดูเดินทางช่วงปลายปี “กลุ่มนคราธานี” มีจุดขายท่องเที่ยวเข้มแข็งทั้งด้าน “ธรรมะ-ธรรมชาติ” สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เดือนกันยายนเป็น “หน้าฝน”เหมาะเที่ยวธรรมชาติอีสานสีเขียว “หน้าร้อน” เที่ยวเกาะแก่งแม่น้ำ น้ำตกอุทยานแห่งชาติ “หน้าหนาว” เที่ยวทะเลหมอก โดยเฉพาะ “หินสามวาฬ” บึงกาฬ หรือจะเป็นภูผาดาบ สกายวอล์คหนองคาย แต่ละแห่งมีความโดดเด่นต่างกัน แต่ทุกครั้งก่อนเดินทางขอให้นักท่องเที่ยวตรวจสอบเงื่อนไขการเดินทางเข้าพื้นที่ท่องเที่ยวแต่ละจังหวัด

 

“ขั้นตอนการเดินทางเข้าพื้นที่แต่ละจังหวัด” โดยไม่ต้องกักตัว มีดังนี้ 1.ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดครบแล้ว 2 เข้ม 2.โหลดแอพลิเคชั่นติดตามตัว หากเป็นนักท่องเที่ยวที่ผ่านช่องทางสนามบินจะมีแอพลิเคชั่นพร้อมเดินทางทุกที่ หากเป็นการขับรถเข้ามาจะต้องแจ้งทางอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.)

 

ปัจจุบันการท่องเที่ยวชุมชนหลัก ๆ ต้องปรับวิถีใหม่หรือ New Normal เช่น ชุมชนบ้านเดื่อ ชุมชนน้ำมอก กำหนดให้นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม กับต้องจองล่วงหน้าก่อนเดินทางเข้าพื้นที่ 3 วัน เพื่อให้ชุมชนได้เตรียมตัว ส่วน “ถ้ำนาคา” ต้องจองผ่านระบบ QueQ (คิวคิว) ล่วงหน้าก่อน 15 วัน และเที่ยวเป็นหมู่คณะได้ไม่เกินกรุ๊ปละ 18 คน การขึ้นไปบนถ้ำจะต้องมีเจ้าหน้าที่ประจำถิ่นนำทางขึ้นไป

ขณะนี้สถานที่ท่องเที่ยวใน “นคราธานี” ทยอยเปิดเป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ตัวอย่าง “ถ้ำนาคา” บึงกาฬ แต่สถานที่ยอดนิยมรอเปิดคือ “คำชะโนด” อุดรธานี อาจจะเริ่มเปิดได้ในวันเปิดประเทศ 120 วัน 15 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป

ผอ.ธนพร กล่าวว่า ในส่วนของผู้ประกอบการท่องเที่ยว 3 จังหวัด อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ ได้รับการสนับสนุนจากสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) จัดคิวฉีดวัคซีนให้พนักงานผู้ประกอบการท่องเที่ยวเป็นกลุ่มแรก เริ่มผ่อนคลายขึ้นมาก อย่างการเดินทางในอำเภอสังคม หนองคาย บึงกาฬ แต่ละแห่งคึกคักมาก ส่วนใหญ่จะเป็นคนภายในจังหวัดกับคนในภาคอีสานด้วยกันเอง ซึ่งพฤติกรรมนักท่องเที่ยวเปลี่ยนไปในทางที่ดีด้วยคือเดินทางอย่างระมัดระวัง สะท้อนถึงแม้จะกลัวการแพร่ระบาด แต่ก็อยากเที่ยวเหมือนปกติ

ส่วนนักท่องเที่ยวจาก “กรุงเทพฯ” ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดงเข้มสูงสุด แต่ละพื้นที่ก็เฝ้าระวัง จึงมีนักท่องเที่ยวน้อยอยู่ คงจะต้องรอดูปลายปีนี้อีกครั้ง

ททท.วางแผนทำตลาดเชิงรุกเจาะตลาด “นักท่องเที่ยวกลุ่มพิเศษ” เข้าพื้นที่นคราธานี 3 กลุ่มหลัก 1.นักท่องเที่ยวคุณภาพกลุ่มสูงวัย 2.วัยทำงาน มีทั้งเงิน ทั้งเวลา และสุขภาพดีมาก 3.นักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ตอนนี้เตรียมเปิดเส้นทางท่องเที่ยวสุขภาพสมุนไพร “เมืองกัญชา” 4 เส้นทาง ได้แก่

 

ท่องเที่ยวอุดรธานี 4 เส้นทางสมุนไพร ปักหมุด 4 จุด1.สปาต้มยำเท้า ปรางค์กู่แก้ว กับ บ้านเชียง อ.หนองหาน แช่เท้าด้วยสมุนไพรบ้านเชียง 2.นวดเท้าดอกเกลือนาคราช อ.บ้านดุง กับสวนฎงชัย ศูนย์เรียนรู้สมุนไพร อ.เพ็ญ 3.นวดเท้าแช่เท้าไทพวน ที่ พิพิธภัณฑ์ อ.บ้านผือ 4.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือ “รพ.สต.หนองแซง แหล่งปลูกกัญชา

ในอุดรธานีมี “ตลาดกัญชาชุมชน อุดรธานี” กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ ประกอบด้วย “อำเภอเมือง” มี 4 แห่ง คือ 1.โรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานี 2.วิสาหกิจชุมชนเจริญศรีเกษตรอินทรีย์ครบวงจร 3.วิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรพื้นบ้านและพืชกินผลตะวันออก 4.วิสาหกิจชุมชนเชียงพิณเพื่อนอินทรีย์ “อำเภอกุมภวาปี” 1 แห่ง ที่ โรงพยาบาลห้วยเกิ้ง “อำเภอบ้านดุง” 1 แห่ง ที่วิสาหกิจชุมชนสมุนไพรนาคาร และ “อำเภอหนองวัวซอ” 1 แห่ง ที่วิสาหกิจชุมชนบ้านโพธิ์วารี

 ผอ.ธนพร กล่าวว่า ขณะนี้กระแสตอบรับการท่องเที่ยวสุขภาพเส้นทางกัญชา ได้รับความนิยม ด้วยจุดเด่นคือกัญชาเป็นของแปลกใหม่และวัตถุดิบที่ถูกต้องตามกฎหมาย ผู้ประกอบการ “ร้านอาหาร” นำมาเป็นส่วนผสมปรุงเมนูต่าง ๆ มากมาย ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม เช่น แจ๊วฮ้อน จิ้มจุ่ม อาหารถิ่นแทบทุกเมนู น้ำผลไม้ปั่น จะมีใบกัญชาปรุงรสและตกแต่งมาในจานหรือแก้วเครื่องดื่ม เรื่อยไปจนถึง การทำพริกไทยกัญชา สบู่ เจลแอลกอฮอล์กัญชา ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่รอคอยชิมรสชาติใหม่ ๆ

 

นับจากนี้เป็นต้นไป ททท.อุดรธานี ยินดีต้อนรับทุกคนเข้าสู่บรรยากาศผ่อนคลาย หลังจากต้องต่อสู้ป้องกันโควิดกันมาอย่างยาวนาน ทางกลุ่มเมืองนคราธานีมีสินค้าท่องเที่ยวเตรียมไว้ให้นักท่องเที่ยวตั้งแต่ตุลาคม 2564 ภายใต้การท่องเที่ยววิถีใหม่ภายใต้ BCG และ Happy Model เน้นความยั่งยืน รับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม เพื่อให้ทุกคนได้รับสิ่งที่ดี ๆ ทั้งการแบ่งปัน การกินอาหาร สุขภาพ ทำกิจกรรม กับการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรที่จะเป็นประโยชน์ระยะยาวด้วยต่อเศรษฐกิจในพื้นที่ต่อไป

 

ข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “คิง เพาเวอร์”ลุยเปิดรร.“เดอะสแตนดาร์ดแบ็งคอกมหานคร”ปี’65

มร.อมาร์ ลัลวานี่ (Amar Lalvani) ซีอีโอ Standard International : สแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัทแม่เครือโรงแรม The Standard เปิดเผยว่า ได้นำ “เดอะ สแตนดาร์ด : The Standard” ธุรกิจที่พักซึ่งได้รับความนิยมมีชื่อเสียงระดับนานาชาติเข้ามาเปิดบริการในประเทศไทย 2 แห่ง โดยเลือกแฟล็กชิปหรือเรือธงเปิดโรงแรม “เดอะ สแตนดาร์ด แบ็งคอก มหานคร” ในอาคารมิกซ์ยูส “คิง เพาเวอร์ มหานคร” ของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ต้อนรับปี 2565 ในฐานะแบรนด์ที่มีโรงแรมคอลเลคชั่นบูติกไลฟ์สไตล์ระดับนานาชาติกระจายอยู่ตามเมืองสำคัญของโลก มากด้วยความคิดสร้างสรรค์ เต็มไปด้วยจิตวิญญาณ จะเข้ามาปักหมุดให้บริการในอาคารไอโคนิกใจกลางเมืองกรุงเทพฯ บนย่านธุรกิจระหว่างถนนสาทรกับสีลม

โรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด แบ็งคอก มหานคร จะมีบริการห้องพัก 155 ห้อง พร้อมเพนต์เฮาส์ สระน้ำส่วนตัว ฟิตเนสเซ็นเตอร์ ห้องประชุม ห้องอาหารที่มีความหลากหลายทั้งเมนูอาหารและเครื่องดื่ม จากห้องอาหารยอดนิยม รวมทั้งยังมีห้อง Parlor, Tea Room และ สแตนดาร์ดกริลล์

รวมถึงเตรียมพร้อมจะเติบโตในประเทศไทยกับโรงแรมอีกแห่งบนชายหาดหัวหิน ซึ่งเป็นแม่เหล็กสร้างความรู้สึกเชิญชวนเข้ามาพัฒนาธุรกิจรองรับการท่องเที่ยวพักผ่อน ตามแผนจะนำร่องเปิดช่วงปลายปี 2564 เป็นต้นไป

ดังนั้น เดอะ สแตนดาร์ด จึงได้จัดกิจกรรมต้อนรับการเตรียมเข้ามาเปิดบริการในเมืองไทยให้นักเดินทางได้ทำความรู้จักกับโรงแรมใหม่ล่าสุด ด้วยการเสนอโปรโมชั่นมอบส่วนลด 30 % ทั้งที่ “เดอะ สแตนดาร์ด หัวหิน” และ “เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร”  เพื่อชวนผู้ใช้บริการเข้ามาสัมผัสประสบการณ์ดี ๆ เรียนรู้สิ่งที่มีมากกว่า สามารถจองใช้สิทธิ์ล่วงหน้าผ่านทาง

สำหรับ “เดอะ สแตนดาร์ด” เปิดบริการโรงแรมแห่งแรกที่ เวสต์ ฮอลลีวู้ด เมื่อปี 2542 สามารถเปลี่ยนฮอสพิทาลิตี้ด้วยจิตวิญญาณและการสร้างความท้าทาย ความน่าสนใจ ผสมผสานผ่านศิลปะ แฟชั่น ดนตรี อาหาร ไนท์ไลฟ์ ทำให้ผู้ใช้บริการเกิดความประทับใจมาจนถึงทุกวันนี้

รวมทั้งยังมี โรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด ไฮท์ไลน์ บนถนนแมนฮัตตั้น เดอะ สแตนดาร์ด อีสต์วิลเลจ ดาวน์ทาวน์ในนิวยอร์ค เดอะสแตนดาร์ด สปา ไมอามี่บีช ล่าสุดเมื่อปี 2562 เปิดบริการ เดอะ สแตนดาร์ด มัลดีฟส์ เกาะท่องเที่ยวติดอันดับต้น ๆ ของโลก

ช่วงปลายปี 2564 และปี 2565 “เดอะ สแตนดาร์ด” พร้อมปักเรือธงโรงแรมในเอเชียเปิดบริการ “เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร” และ เดอะ สแตนดาร์ด หัวหิน ร่วมสร้างสรรอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคัก สร้างกระแสความนิยมจากผู้ใช้บริการทั่วโลกตัดสินใจเลือกเดินทางมาพักผ่อน ใช้จ่ายเงินอย่างเต็มประสิทธิภาพในระยะยาว

ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์อัดฉีดเพิ่ม5โปรโมชั่นสุดคุ้มดีลดีวันนี้-30ก.ย.64

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ผู้นำร้านค้าปลีกเพื่อการเดินทางอย่างไม่สิ้นสุดและผู้นำบริการไลฟ์สไตล์แถวหน้าของเมืองไทย เดินหน้าจัดมหกรรมการขายสินค้าดิวตี้ฟรี ช้อปง่าย ช้อปสะดวก อยู่ที่ไหนก็ช้อปได้ โดยไม่ต้องมีไฟลต์บินต่างประเทศ

เช็คด่วน!!โปรโมชั่นช้อปสุดคุ้ม ละลานตากับขบวนสินค้าโดน ๆ กว่า 10,000 รายการ ตลอด 2 สัปดาห์ ส่งท้ายเดือน 9 ระหว่างวันนี้-30 กันยายน 2564 กับ 5 แคมเปญ ดังนี้

แคมเปญที่ 1 “Beauty Wonder Prices” มหัศจรรย์ราคาแห่งความงามขยายเวลาให้เลือกซื้อสินค้าหมวดมหัศจรรย์ความงาม ได้จนถึงถึง 30 ก.ย.2564 เมื่อช้อปสะดวกรวดเร็วผ่าน 2 ช่องทางนี้เท่านั้นคือ  1.King Power Chat to Shop และ 2.King Power Call to Shop

แคมเปญที่ 2 Makes My Day รับฟรีคูปองส่วนลดรวมสูงสุด 6,500 บาท เพลิดเพลินกับการเลือกช้อปสินค้าหลากหลาย โดยเฉพาะสมาชิกคิง เพาเวอร์ รับทันที เมื่อช้อปครบ 8,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ รับฟรี คูปองส่วนลด 2,000 บาท ช้อปครบ 15,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ รับฟรีคูปองส่วนลด 4,500 บาท

แคมเปญที่ 3 Super Deal :Beauty Buffet เลือกที่ใช่ สวยได้สไตล์คุณ ซื้อครบ 18 ชิ้น จ่ายแค่ 30,000 บาท น้ำหอม เครื่องสำอาง คุ้มเกินคาดราคาโดนใจ ที่นี่ที่เดียว

แคมเปญที่ 4  ซื้อบัตรเงินสดหรือแคชการ์ด (Cash Card) 50,000 บาท รับมูลค่าเพิ่มฟรีอีก 8,000 บาท รับดีลช้อปคุ้มโดยสามารถใช้ที่ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา ยกเว้นสนามบิน เพื่อช้อปสินค้าดิวตี้ฟรี ทั้งแผนกน้ำหอม เครื่องสำอาง เหล้า บุหรี่สินค้าป้ายฟ้า และสินค้าโฮมเดลิเวอรี่

แคมเปญที่ 5 ช้อปด้วยบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ รับเงินคืนสูงสุด 18 % มีทั้ง บัตรเครดิต ไทยพาณิชย์ ออมสิน กรุงศรีอยุธยา เคทีซี ทหารไทยธนชาติ (TTB)

นักช้อปสามารถสนุกกับการเลือกซื้อสินค้า “คิง เพาเวอร์”ทั้งทางหน้าร้านทั้ง 4 สาขา คิง เพาเวอร์ รางน้ำ มหานคร พัทยา ภูเก็ต  รวมทั้งเลือกใช้บริการเพิ่มกับผู้ช่วยช้อปส่วนตัวได้อีก 2 ช่องทาง คือ

1. King Power Chat to Shop (คิง เพาเวอร์ แชททูช้อป) เพียง Add LINE@ : @KP_ChatToShop แล้วกด Add Friend หรือคลิก https://lin.ee/JwNzqUu

2. King Power Call to Shop (คิง เพาเวอร์ คอลทูช้อป) เพียงโทร. 02-338-7870 หรือ inbox (อินบอกซ์) มาที่ Facebook King Power ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 - 21.00 น.

สอบถามเพิ่มได้ที่  คิง เพาเวอร์ คอล เซนเตอร์ โทร. 1631

ข่าวที่ 3 มาแล้ว!นาฬิกานวัตกรรมไฮเทคหรูดีที่สุดแห่งปี2021ที่คิงเพาเวอร์

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ชวนนักเดินทางผู้ที่ชื่นชอบเรือนเวลาหรูที่ดีที่สุดแห่งปี 2021 มาประดับประดาให้กับตัวเองได้ วันนี้นาฬิกายอดนิยมของโลกได้จัดทำรุ่นพิเศษเฉพาะมาให้เลือกกันแล้วทั้ง Rolex, Patek Philippe, Hublot, Cartier และอีกไม่กี่รุ่น ได้พัฒนานาฬิกาข้อมือให้สมบูรณ์แบบมานานหลายทศวรรษ จวบจนถึงปัจจุบันจึงเต็มไปด้วยเทคโนโลยีอันซับซ้อนแต่ตอบโจทย์ได้มากขึ้น ซึ่งแบรนด์เหล่านี้ไม่เพียงแต่น่าสนใจในแง่ของการพัฒนาเทคโนโลยีระดับโลกเท่านั้น แต่ยังมีความเฉลียวฉลาดในแบบฉบับของตัวเองอีกด้วย  

พบกับนาฬิกาสุดหรูที่ดีที่สุดสำหรับนักเดินทางที่มาพร้อมการออกแบบใหม่ล่าสุดแต่ละแบรนด์ ปี 2021 ที่เลือกช้อปได้ที่คิง เพาเวอร์ แต่ละสาขาดังนี้

1.Patek Philippe -New for 2021: Aquanaut Luce  คอลเลคชั่นนาฬิกาที่เปล่งประกายนี้เหมาะสำหรับผู้หญิงที่ต้องการผสมผสานความสปอร์ตเข้ากับความสง่างาม จึงบังเกิดเป็นนาฬิกาเพื่อการเดินทางอย่างสมบูรณ์แบบ สามารถติดตามเวลาท้องถิ่นทุกที่ที่เดินทาง ผ่านภาพลักษณ์อันวิจิตรงดงามที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของผู้หญิง 

2.Audemars Piguet / New for 2021: Code 11.59 by Audemars Piguet

แบรนด์นาฬิกาสุดหรูของสวิสนำเสนอนาฬิกาใหม่ล่าสุดของ Audemars Piguet มาพร้อมโครโนกราฟไขลานอัตโนมัติและออกแบบตัวเรือนแบบทูโทนทันสมัย จับคู่พิงค์โกลด์หรือทองคำขาว 18 กะรัตกับตัวเรือนเซรามิกสีดำลุ่มลึก ขับเคลื่อนด้วย Caliber 4401 ซึ่งเป็นโครโนกราฟตัวล่าสุด สามารถรีสตาร์ตโครโนกราฟได้โดยไม่ต้องหยุดหรือรีเซตก่อน ทำให้การเปลี่ยนโซนเวลาระหว่างเดินทางราบรื่นอย่างไม่เคยมีมาก่อน

            3.Rolex  /New for 2021: Oyster Perpetual Explorer กลับมามีขนาดเท่ารุ่น Explorer รุ่นดั้งเดิมปี 1953 ผสมผสาน Oystersteel และทองคำสีเหลือง 18 กะรัต สร้างขึ้นเพื่อรองรับการผจญภัยสุดหฤโหด โดดเด่นด้วยหน้าปัดที่ส่องสว่างจากวัสดุเรืองแสงในสภาพแวดล้อมที่มืด และความคมชัดท่ามกลางแสงจ้าไม่พร่าเลือน เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Rolex ที่เหล่านักเดินทางไม่ควรพลาด

4.Cartier : New for 2021: Tank Must de Cartier โมเดลมีขนาดใหญ่พิเศษเป็นส่วนหนึ่งของนวัตกรรมใหม่คอลเลคชั่น Tank ในตำนาน มีคุณสมบัติสุดคลาสสิกของรุ่นที่มีชื่อเสียง ด้วยหน้าปัดสี่เหลี่ยมผืนผ้าอันเป็นสัญลักษณ์ มาพร้อมตัวเลขโรมันสุดคลาสสิก เข็มนาฬิกา สายสร้อยข้อมือสไตล์ Tank 

ยังมีนาฬิกาหรูสุดแห่งปี 2021 อีกหลายแบรนด์ของแฟนพันธุ์แท้ ดูรายละเอียดได้ที่ www.kingpower.com ,facebook kingpower

 

พัทยา มูฟออน เปิดรับต่างชาติ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป

ข่าวที่ 4 ททท.แจง4พื้นที่ยันเปิด1ต.ค.-เที่ยวด้วยกัน/ทัวร์เที่ยวไทยเริ่ม24ก.ย.

            ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า การเปิดประเทศ ตามนโยบายรัฐบาล เริ่มวันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทำไปพร้อม ๆ กัน การนำนักท่องเที่ยวกลับมาต้องมีความพร้อมในหลายส่วน ตัวอย่าง กรุงเทพฯ พลตำรวจอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่ากทม. ขอเวลาอีกสักระยะเพื่อกระจายการฉีดวัคซีนให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน ต้องได้รับฉันทานุมัติเป็นเสียงเดียวกันจากคนในพื้นที่ ถึงความมั่นใจความปลอดภัย ความเชื่อใจ จะต้องทำคู่มือปฏิบัติด้านกิจกรรม SOP :Standard Operation Procedure

                ส่วนอีก 4 พื้นที่ยืนยันจะเริ่มเปิดตามกำหนดปกติ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2564 ได้แก่ 1.PATTAYA MOVE ON จ.ชลบุรี ใน 3 อำเภอ คือ พัทยา/สัตหีบ/บางละมุง(เกาะล้าน) 2.Charming Chaingmai ในเชียงใหม่ 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง/แม่ริม/ดอยเต่า 3.Hauhin Recharge อำเภอหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 4.อำเภอชะอำ จ.เพชรบุรี ส่วน 5.กรุงเทพฯ ต้องรอความพร้อม 

              เป็นการเปิดต่อเนื่องจาก 4 พื้นที่นำร่อง คือ 1.ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ 2.สมุยพลัสโมเดล/สุราษฎร์ธานี 3.กระบี่ 4.พังงา

ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ตัวอย่าง “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ภายในเวลา 3 เดือน 1 ก.ค.-15 ก.ย.2564  จากนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมเดินทางเข้าภูเก็ต 32,380 คน  (ข้อมูล ณ วันที่ 15 กันยายน) สร้างประโยชน์ต่อเศรษฐกิจมุมบวก ได้แก่ 1.สร้างรายได้เข้าภูเก็ตทางตรง 1,634 ล้านบาท 2.นักท่องเที่ยวต่างชาติใช้จ่ายเงินเฉลี่ย 60,000 บาท/คน/ทริป สูงกว่าก่อนโควิดใช้เพียง 50,000 บาท/คน/ทริป 3.ก่อให้เกิดรายได้ทางอ้อม 3,818 ล้านบาท 4.เกิดการจ้างงานกลับเข้าสู่ระบบแล้ว 5,352 คน

ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติตรวจพบเชื้อรวมแล้ว 98 คน ค่าเฉลี่ย 0.28 % เพิ่มความมั่นใจด้วยการใช้คู่มือปฏิบัติมาตรฐาน SOP :Standard Operation Procedure ที่มีความแม่นยำ หากนำไปใช้ในทุกจังหวัดด้วยรูปแบบเดียว8nv One SOP One Business ก็จะช่วยได้มากเมื่อต้องเปิดประเทศรับต่างชาติตามนโยบายรัฐบาล ทุกพื้นที่ต้องบริหารจัดการตามคู่มือ SOP อย่างเคร่งครัดด้วย

                ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าวถึงในประเทศรัฐบาลมีนโยบายให้กลับมาทำต่ออีก 2 โครงการ คือ 1.เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3” ให้นักท่องเที่ยวคนไทยใช้สิทธิ์จองห้องพักโรงแรมทั่วประเทศที่สมัครเข้าโครงการได้ 2 ล้านคืน รัฐจะช่วยจ่ายสมทบให้ 40 % พร้อมเงินใช้จ่ายรายวัน 600 บาท/คน/วัน และ 2.ทัวร์เที่ยวไทย ให้บริษัททัวร์ทำโปรแกรมท่องเที่ยวส่งให้คณะกรรมการ ททท.ตรวจก่อนขายให้นักท่องเที่ยว โดยรัฐจะช่วยจ่ายสมทบ

                ตามไทม์ไลน์เดินหน้าโครงการ เที่ยวด้วยกันเฟส 3 และทัวร์เที่ยวไทย ช่วงที่ 1 เปิดให้ผู้ประกอบการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการใหม่อีกครั้ง 24 ก.ย. 2564 ช่วงที่ 2 เปิดให้นักท่องเที่ยวจองที่พักหรือเลือกซื้อแพกเกจท่องเที่ยวได้ เริ่ม 8 ต.ค. 2564 ช่วงที่ 3 เปิดให้ใช้สิทธิจากการซื้อห้องและแพกเกจออกการเดินทางท่องเที่ยวได้ เริ่ม 15 ต.ค.2564

ข่าวที่ 5 ททท.งัดเพลงสนุก“Food Fruit For Fun”ปลุกเที่ยว9จังหวัด

นายวิบูลย์ นิมิตรวานิช ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เชิญชวนนักท่องเที่ยวทั่วประเทศมาร่วมกิจกรรมสุดฟิน “Food Fruit For Fun ตะวันออก”  (fruit) (ผลไม้) (ผลไม้) นำเพลงจังหวะสนุกสุดฟินชวนคิดถึงแล้วก็เตรียมตัวออกเดินทางท่องเที่ยวภาคตะวันออกที่มีให้เลือกถึง 9 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี จันทบุรี ตราด ระยอง นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา

“เพลง Food Fruit for Fun ตะวันออก” เน้นการนำเสนอเรื่องราวของอาหารและผลไม้ของภาคตะวันออกที่พลาดไม่ได้ ในพื้นที่ 9 จังหวัด ทั้ง ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ 

แนวเพลง เนื้อหาเกิดจากการแต่งรูปแบบนิราศ นำมาประยุกต์เข้ากับดนตรีสมัยใหม่ เพื่อให้ฟังติดหู เรียบเรียงโดยคุณนราธิป ปานแร่ โปรดิวเซอร์ และ นักแต่งเพลงอันดับต้นของประเทศไทย 

นักท่องเที่ยวที่คิดถึงสีสันของการเดินทางท่องเที่ยวไปสัมผัสประสบการณ์ ธรรมชาติ วิถีชีวิต กิจกรรม และเอกลักษณ์ด้านอาหารการกินในแต่ละท้องถิ่น มาลองฟังเพลงนี้ ชวนให้นึกถึงการท่องเที่ยวอันโดดเด่น และเมนูของอร่อย ในแต่ละจังหวัดมีไฮไลต์ต้องลองชิมสักครั้งเมื่อไปถึงถิ่น ได้แก่

1.ปราจีนบุรี-หลากรสอร่อยลิ้น ด้วยเมนู ผัด แกง ผักชะลูดน้ำ

2.ชลบุรี มีจานเด็ด “ปลาคกต้มเค็ม” และ สถานที่ท่องเที่ยวทา งทะเลสวย ๆ

3.สระแก้ว มีอาหารอารมณ์ดี “เส้นหมี่หน้าหมู”

4.ฉะเชิงเทรา หนึ่งเดียวในเมืองไทยไปแล้วต้องชิมเมนู “บุหลันดั้นเมฆ”

5.สมุทรปราการ กินได้ไม่หยุด กับเมนู “น้ำพริกปลาสลิดบางบ่อ”

6.นครนายก เด็ดดวงกับเมนูของหวาน “ขนมข้าวกระยาคู”

7.ตราด ต้องห้ามพลาด “ขนมบันดุก”

8.จันทบุรี สุดยอดซีฟู้ดจานโปรด “ข้าวคลุกพริกเกลือ”

9.ระยอง มี “แกงส้มผักกระชับ“ แสนอร่อย ในแต่ละปีหารับประทานได้เฉพาะบางฤดูเท่านั้น

ติดตามความสนุกและเนื้อหาดี ๆ ของ Food Fruit For Fun ตะวันออก ได้ทางที่ www.facebook.com/traveleastthailand/ 

ข่าวที่ 6 “TCEB”เปิดแล้ว!!นิทรรศการออนไลน์ไมซ์สร้างชาติ3โซนเด็ด

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” สานต่อการจัดกิจกรรมภายใต้แนวคิด “ไมซ์ไทยรวมใจสร้างชาติ” เตรียมเปิดนิทรรศการรูปแบบออนไลน์ (Virtual Exhibition) 15 กันยายนนี้ พร้อมเปิดตัวหนังสืออีบุคและวิดิทัศน์ “ภูมิไทย” เส้นทางทรงคุณค่าของอุตสาหกรรมไมซ์ ที่จัดทำร่วมกับมูลนิธิส่งเสริมการจัดประชุม เพื่อให้ความรู้เรื่องราวจุดกำเนิดและการเดินทางของอุตสาหกรรมไมซ์ไทย สร้างแรงบันดาลใจและความภาคภูมิใจของทุกภาคส่วน ที่ร่วมกันขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ทีเส็บเปิดให้ประชาชนเข้าชมฟรี “นิทรรศการออนไลน์ “ไมซ์ไทยรวมใจสร้างชาติ” ตั้งแต่ 15 กันยายน 2564 เป็นต้นไป และสามารถดาวน์โหลดวิดิทัศน์และหนังสือ “ภูมิไทย” เส้นทางทรงคุณค่าของอุตสาหกรรมไมซ์ อันเป็นเนื้อหาประวัติเรื่องราวสำคัญของอุตสาหกรรมไมซ์แต่ละยุคสมัย ที่ทีเส็บจัดทำร่วมกับกองทุนส่งเสริมการประชุมนานาชาติ ปัจจุบัน คือ “มูลนิธิส่งเสริมการจัดประชุม”

สามารถเข้าชมนิทรรศการและดาวน์โหลดหนังสือโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่เว็บไซต์ https://thailandmiceday.businesseventsthailand.com/

สำหรับรูปแบบ “การจัดแสดงนิทรรศการออนไลน์ ไมซ์ไทยรวมใจสร้างชาติ” แบ่งออกเป็น 3 โซน ดังนี้

โซนที่ 1 แรกก้าว ฟื้นฟูแผ่นดินก้าวย่างสู่สากล นำเสนอบทบาทของไมซ์ในทุกช่วงหน้าประวัติศาสตร์ไทย เริ่มต้นจาก “การประชุม” เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ อันนำมาซึ่งความสำเร็จ และการแก้ไขปัญหาในด้านต่างๆ มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงรูปแบบไมซ์ไปตามยุคสมัย เพื่อสร้างชาติและนำพาไทยให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับสากล โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนไมซ์ไทย

โซนที่ 2 ก้าวแกร่ง นำแรงใจเป็นพลังเพื่อเติบโต นำเสนอบทสัมภาษณ์ที่น่าสนใจของกลุ่มผู้บุกเบิกและผู้นำธุรกิจไมซ์ที่ไม่ยอมแพ้กับสถานการณ์ต่างๆ ในแต่ละยุคสมัย ลุกขึ้นมาปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การทำงานเพื่อเดินหน้าฝ่าวิกฤตส่งเสริมไมซ์ในทุกสถานการณ์จนถึงปัจจุบัน เป็นข้อคิดการทำงานและเสริมสร้างกำลังใจให้ผู้ประกอบการ

โซนที่ 3 ก้าวใหม่ ไมซ์ไทยรวมใจสร้างชาติ นำเสนอเรื่องราวและกิจกรรมของทีเส็บที่ได้เข้าไปมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ร่วมกับพันธมิตรทุกภาคส่วนในธุรกิจไมซ์ครอบคลุมทุกมิติ เพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรมไมซ์ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศ

            ช่วงที่ 2 ออกเที่ยวกันเถอะ ตอนนี้ใน “จันทบุรี” ชาวชุมชนจันทบูร รออยู่ ทั้งร้านค้า อาหาร คาเฟ่เก๋ ๆ น้ำตกสวยสดใส ร้านลุงหมีซีฟู้ด อ่าวคุ้งกระเบน เนินนางพญา-เฉลิมบูรพาชลทิต ทะเลสุดอะเมซิ่ง แล้วใครที่ยังต้องอยู่บ้าน ต้องรู้ว่า “กินอาหารแช่แข็งให้ได้ประโยชน์” ต้องอุ่นหรือปรุงร้อนก่อนกินเสมอ ส่วนข่าวฮ็อต “ไทยแอร์เอเชีย” เทโปรลดเพิ่ม 100 บาท ตั๋วราชการ วิสาหกิจ หอการค้า สมาชิกสภาอุตสาหกรรม “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคม ทุบโต๊ะให้ ทอท.บริหารเพิ่ม 3 สนามบิน “อุดร-บุรีรัมย์-กระบี่” และ “ครม.” เคาะแล้วปลดล็อกวีซ่าต่างชาติ4กลุ่มดึงนักลงทุนใช้เงิน 1 ล้านล้าน 5 ปีหน้า 2566-70

 

เที่ยวได้เลย!!จันทบุรีชุมชน-คาเฟ่-ทะเล-ภูเขา-น้ำตกสุดอะเมซิ่ง

 กระแสเปิดประเทศให้คนออกเดินทางไปในที่ชอบได้ “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)” สำนักงานจันทบุรี ไม่รอช้า รีบเปิดแผนที่แนะนำแหล่ง กิน เที่ยว ครบจบภายใน 2 วัน 1 คืน เตรียมข้อมูลไว้วันไหนมีเวลาก็แวะมาได้เลย

จากกรุงเทพฯ ไปจันทบุรีใช้เวลาขับรถสบาย ๆ แค่ 3 ชม.ก็มาดื่มด่ำได้ครบทั้งแหล่งท่องเที่ยว ธรรมชาติ ทะเล ภูเขา น้ำตก สวย สดชื่น สดใส อาหารการกิน มีร้านในชุมชนรสชาติอร่อย ๆ ให้เลือกมากมาย เช่นเดียวกับ คาเฟ่ ร้านกาแฟ ชอบมุมไหนแวะไปเช็คอินได้เช่นกัน

“วันแรก”  ย้อนไปฟื้นความทรงจำกันในย่าน “ชุมชนริมน้ำจันทบูร” มีร้าน Conceptchan ขาวมินิมวล เปิดทุกวัน 11 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม สิ่งที่ดึงดูดสายตาคือทางร้านนำลังผลไม้มาประยุกต์ทำเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายในร้านดูสวยเก๋ ส่วน “เมนูอาหารและเครื่องดื่ม” ก็นำวัตถุเมืองจันท์ มารังสรรค์เสิร์ฟนักท่องเที่ยว เลือกนั่งชีลด้านนอกโปร่งโล่งก็จะได้ชีลกับวิวแม่น้ำ โบสถ์คริสต์สวยสุดในภาคตะวันออก โทร.09 0993 559

จากนั้นก็ไปเดินเล่นพร้อมกับชมความยิ่งใหญ่งดงามของ “อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล” อย่าลืมเซลฟี่รูปบรรยากาศรอบอาสนวิหารแล้วแชร์ให้เพื่อน ๆ ได้ชมไปด้วยกัน ช่วงนี้ยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมภายใน ก่อนจะไปโทร.สอบถามได้ที่ 0 3931 1578

จุดที่ 2 “อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว” ชวนนักท่องเที่ยวไปสูดโอโซนป่าเขียวขจีได้ตั้งแต่ 6 โมงเช้า ปิดบริการตอน 16.30 น. หากจะเข้าไปนักท่องเที่ยวต้องจ่ายค่าบัตร คนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาทชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท

 

สำหรับกิจกรรมสนุก แนะนำ “พาย SUP Board”  ที่ไร่ตามฟาร์มสุข กลางป่าเสม็ด รอเวลายามเย็นเพื่อไปชมอาทิตย์แสงสีส้มทองลับขอบฟ้า แล้วกินมื้อเย็นได้ที่ไร่แห่งนี้ มีเมนูถิ่นจานเด็ด แนะนำให้สั่ง ก๋วยเตี๋ยวผัดน้ำกุ้ง แกงหมูชะมวง ก๋วยเตี๋ยวเส้นจันท์ผัดปู ไก่ต้มกระวาน และอีกหลากหลายความอร่อย

 

วันที่สอง ช่วงเช้า ห้ามพลาด!! แวะไปชมอาณาจักรโลมาแสนน่ารักที่ “โอเอซีสซีเวิลด์ : Oasis Sea World” พร้อมกับให้อาหาร หรือลงว่ายน้ำกับโลมาเป็นอีกความท้าทาย

 

ได้เวลามื้อเที่ยงตรงไปท่าเรือปักหมุดที่ “ร้านลุงหมีซีฟู้ด”  เปิดตั้งแต่เช้า 9 โมง ถึง 3 ทุ่ม มีเมนูทะเลสดให้กินอย่างจุใจ ทั้ง กุ้ง หอย ปู ปลา หมึก และผักพื้นถิ่น โทร.089-541-4841 (ลุงหมี) FB : ท่าเรือลุงหมีซีฟู้ด

จากนั้นก็ลุยต่อไปยัง “วัดปากน้ำแขมหนู หรือวัดโบสถ์สีน้ำเงิน” ดื่มด่ำสถาปัตยกรรมอัตลักษณ์ไทยแนวใหม่ และ “ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน”  เดินชมธรรมชาติป่าโกงกางตามสะพานไม้ลัดเลาะไปจนถึงทะเลระยะทางราว 1.7 กิโลเมตร ที่เปิด  8 โมงเช้า ปิด 5 โมงเย็น โทร. 039-433-216 ถึง 8

 

แหล่งท่องเที่ยวห้ามพลาด !! หากจะไปให้ถึงจันทบุรี ต้องขึ้นไปยัง “จุดชมวิวเนินนางพญา” แลนด์มาร์คสำคัญบน “ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต” ถนนรูปตัว S คล้ายผาสูงโค้งเลียบชายทะเล เป็นจุดชมตะวันตกดินที่สวยอีกแห่ง

จะรออะไรอีก เมื่อรัฐบาลประกาศเปิดเมือง เดือนตุลาคม นี้ “จันทบุรี” เที่ยวได้เลย อะเมซิ่งทุกที่ สวยทุกเวลา

           

กินอาหารแช่แข็งให้ได้ประโยชน์ช่วงโควิดต้องอุ่นปรุงร้อนเสมอ

เมื่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้หลายคนเลือกซื้ออาหารแช่แข็งมารับประทานมากขึ้น เพราะสะดวก เก็บรักษาได้นาน และมีให้เลือกหลากหลาย ดังนั้นการเลือกอาหารต่างๆ ควรให้ได้คุณค่าครบ 5 หมู่

รศ.ดร.ชาลีดา บรมพิชัยชาติกุล ภาควิชาเทคโนโลยีทางอาหาร คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลว่า อาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง คือ “กลุ่มอาหาร” ที่มีเมนู รสชาติ ความหลากหลาย ลักษณะเนื้อสัมผัสใกล้เคียงกับของสดหรือของปรุงสุกใหม่ ที่ผ่านกรรมวิธีการปรุงสุก ใช้ความร้อนฆ่าเชื้อ แล้วนำมาแช่เยือกแข็งเพื่อรักษาความสด รสชาติ และเก็บไว้ได้นานถึง 6 เดือน ตอบโจทย์ได้ดีทั้งความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ได้สารอาหารครบถ้วน

เพื่อให้รับประทานอาหารได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย ควรจะปรุงอาหารให้สุก หรืออุ่นร้อน หลีกเลี่ยงบริโภคอาหารที่สัมผัสจากคนขายที่ไม่ได้สวมถุงมือ หรือ ไม่หน้ากากอนามัย และอาหารนั้นไม่ได้มาผ่านความร้อนอีกครั้ง เช่น อาหารที่ปรุงสุกไว้นานแล้ว ยำหรือสลัด ชูชิ หรือ ปลาดิบ

“วิธีที่ดีที่สุด” คือ ต้องอุ่นให้ร้อนก่อนรับประทาน หรือ ทำอาหารกินเองที่บ้าน หากไม่มีเวลาก็เลือกรับประทานอาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง ก็เป็นทางเลือกที่สะดวกและมั่นใจได้ ซึ่งผู้บริโภคควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และเน้นวัตถุดิบ หรืออาหารที่เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน หรือมีฤทธิ์ต้านไวรัส เช่น

1.อาหารที่มีวิตามินซีสูง ในผลไม้ตระกูลส้ม ฝรั่ง มะขามป้อม

2.เห็ด มีสารเบต้ากลูแคนที่ช่วยในกระตุ้นการทำงานของภูมิคุ้มกันและต้านไวรัส

3. ปลา และถั่วเมล็ดแห้ง แหล่งโปรตีนที่ดี

4.โยเกิร์ต” มีจุลินทรีย์โพรไบโอติกที่ช่วยสร้างภูมิต้านทานของลำไส้และภูมิคุ้มกันของร่างกาย

5.เครื่องเทศและสมุนไพร เช่น กระเทียม หัวหอม ขิง ข่า หรือ พืชตระกูลขมิ้น ซึ่งมีสารพฤกษเคมีที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ

6.หมั่นออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ต้องเครียดมากเกินไป และไม่ต้องกังวลเรื่องโควิด-19 ที่อาจจะปนเปื้อนในอาหาร เพราะยังไม่มีรายงานทางวิทยาศาสตร์ยืนยันพิสูจน์ว่าอาหารเป็นสื่อการแพร่เชื้อแต่อย่างใด

ขอย้ำ!! ให้ทุกคนต้องรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา โดยเฉพาะเมื่อต้องเข้าไปในที่ชุมชน อย่าลืมรักษาระยะห่าง 2 เมตร ระหว่างบุคคล หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกัน ใช้ช้อนกลางส่วนบุคคล ไม่จับใบหน้า ตา จมูกและปาก ล้างมือด้วยสบู่ หรือ เจลแอลกอฮอล์ ทุกครั้ง

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

“แอร์เอเชีย”ลดเพิ่ม100บาทตั๋วราชการ/วิสาหกิจ/หอค้า”วันนี้-31ต.ค.

นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า แอร์เอเชียเปิดโปรโมชั่นเชิงรุก เจาะกลุ่มหลักตลาดในประเทศ ได้แก่ ผู้ถือบัตรข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ สมาชิกสภาอุตสาหกรรม สมาชิกหอการค้าไทย พร้อมผู้ติดตาม 1 คน ซื้อตั๋ววันนี้ – 30 ต.ค.2564 ลดเพิ่มทันที 100 บาท/เที่ยว/คน นำไปใช้เดินทางจริงช่วง 31 ต.ค.นี้ รวมทั้งรับสิทธิประโยชน์ครบ 1.โหลดกระเป๋าฟรี 40 กิโลกรัม 2.โหลดอุปกรณ์กีฬาได้ 20 กิโลกรัม 2.aiuอาหารและเครื่องดื่มจาก AirAsia Santan 5.เลือกที่นั่ง Hot Seat  5.เปลี่ยนวันและเวลาก่อนเดินทางล่วงหน้า 24 ชั่วโมง 6.รับแต้ม Big Point สะสมไว้แลกตั๋วฟรี และของรางวัลอื่น ๆ จากแอร์เอเชีย

ไทย แอร์เอเชีย ได้กลับมาให้บินในประเทศตั้งแต่ 1 ก.ย.2564 แล้ว 11 เส้นทาง ปลายปีนี้เตรียมเพิ่มความถี่และเปิดเส้นทางใหม่ เพราะผู้โดยสารตอบรับเป็นที่น่าพอใจพอสมควร

“ศักดิ์สยาม”สั่งทอท.บริหารเพิ่ม3สนามบิน“อุดร/กระบี่/บุรีรัมย์”1ม.ค.65

สนามบินบุรีรัมย์โอนให้ ทอท.บริหารเริ่ม 1 มกราคม 2565

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ให้กรมท่าอากาศยาน(ทย.) โอนย้ายความความรับผิดชอบสนามบินภูมิภาคส่งมอบให้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) “ทอท.” 3 สนามบิน คือ อุดรธานี กระบี่ บุรีรัมย์ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2565 เป็นต้นไป หลังจากกระทรวงคมนาคมหาแนวทางร่วมกันเรียบร้อยแล้ว กับ กรมท่าอากาศยาน กรมธนารักษ์ และ ทอท.

โดยให้แนวทางโอนย้าย 3 สนามบินดังกล่าวทางกรมธนารักษ์ ยินดีเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทน ค่าเช่าที่ดินตามอัตราปัจจุบันของ ทอท.จ่ายใน 6 สนามบินหลัก ส่วนขั้นตอนสัญญาโอนให้ ทอท.เข้าบริหารสนามบินจะทำระยะยาว 30 ปี จากเดิมต้องต่อสัญญาทุก 3 ปี  ระยะแรกจะโอนก่อน 2 สนามบิน คือ อุดรธานี และบุรีรัมย์ ระยะต่อไปจึงจะโอนสนามบินกระบี่

ทอท.ได้กำหนดวิธีบริหารสนามบินใหม่ไว้ 2 แนวทาง คือ 1.ทำประมาณการผู้โดยสารตลอดอายุสัญญาและจ่ายผลตอบแทนให้ ทย.ก้อนเดียว 2.กำหนดจ่ายผลตอบแทนตามจริงต่อรายผู้โดยสาร ให้ ทย.จะต้องศึกษาระเบียบกฏหมายกองทุนฯ ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมากำหนดรูปแบบการจ่ายอย่างเหมาะสม นำเงินไปเป็นทุนหมุนเวียนกรมท่าอากาศยานต่อไป 

                               สนามบินกระบี่โอนให้ ทอท.บริหารเริ่ม 1 มกราคม 2565

ทั้งนี้มีรายงานว่า สนามบินที่ ทย.ในต่างจังหวัดที่ผ่านมา 29 แห่ง สามารถดำเนินการมีกำไรเพียง 6 สนามบิน ได้แก่ 1.กระบี่ 2.นครศรีธรรมราช 3.อุดรธานี 4.อุบลราชธานี 5.ขอนแก่น 6.สุราษฎร์ธานี มีรายได้หลักจาก 1.เก็บค่าบริการผู้โดยสารขาออก (Passenger Service Charge : PSC) เข้าสู่กองทุนหมุนเวียน ทย. มูลค่ารวมปีละ 600-700 ล้านบาท เพื่อนำค่าธรรมเนียมไปเลี้ยงดูสนามบินอื่น ๆ ทั้งหมดได้ด้วย

 

ข่าวที่สาม“ครม.”ปลดล็อกวีซ่าต่างชาติ4กลุ่มดึงนักลงทุน1ล้านล้าน5ปี’66-70

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย มติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันอังคารที่ 14 กันยายน 2564 เห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการลงทุน ตั้งเป้าดึงกลุ่มคุณภาพสูงทั้งนักลงทุนและผู้พำนักระยะยาวเข้าประเทศไทย เน้นชาวต่างชาติจำนวน  1 ล้าน เข้ามาใช้จ่ายเงินในระบบเศรษฐกิจ 5 ปีหน้า ระหว่างปี 2566-2570 ให้ได้ 1 ล้านล้านบาท ด้วย 2 มาตรการ

 

1.ออกวีซ่าประเภทผู้พำนักระยะยาว เป้าหมาย 4 กลุ่มคือ 1.ประชากรที่มีความมั่งคั่งสูง 2.กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ 3.กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย 4.กลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ

 

  การออกวีซ่าประเภทผู้พำนักระยะยาว (Long-term resident visa) กำหนดวีซ่าประเภทใหม่ให้กลุ่มชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูง ตามข้อยกเว้นและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ยกเว้นให้ผู้ถือวีซ่าประเภท ผู้พำนักอาศัยระยะยาวและวีซ่าประเภท Smart visa ทั้งหมดไม่ต้องมีหนังสือแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบหากอยู่ในประเทศเกิน 90 วัน

 

  2.มาตรการแก้ไขกฎหมายหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการถือครองที่ดิน การบริหารจัดการการทำงานและอนุญาตให้คนต่างด้าวสามารถทำงานให้นายจ้างทั้งที่อยูในและนอกราชอาณาจักรได้ พร้อมยกเว้น 1.หลักเกณฑ์การกำหนดจ้างคนต่างด้าว 1 คน ต้องจ้างงานพนักงานคนไทยทำงานประจำ 4 คน 2.ยกเว้นภาษีประเภทต่าง ๆ และระเบียบวิธีปฏิบัติด้านการศุลกากร

 

  ทั้งนี้ ครม.มอบหมายให้ สศช. ไปหารือกับทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.