วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2567

ขจรเดช อภิชาติตรากุล ผอ.ททท.โตเกียวดันตลาดญี่ปุ่นปี67-68เกินเป้า 1 ล้านคน แอร์ไลน์บินเพิ่ม70-80%

 


ขจรเดช อภิชาติตรากุล

ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานโตเกียว ญี่ปุ่น

“ขจรเดช อภิชาติตรากุล”ททท.โตเกียวฟื้นตลาดญี่ปุ่นโตแรง

ปี’67ทะลุล้านคน-ปี’68เจาะเทรนด์เที่ยววัย 12-35 ปี GenY-Z

แอร์ไลน์ฟูลเซอร์วิส/โลว์คอสต์เพิ่มที่นั่งบินเข้าไทย 70-80%

2เซอร์ไพรส์ที่คิงเพาเวอร์ซิตี้บูทีกน้ำหอม/เครื่องสำอาง/แว่น

พูลแมนคิงเพาเวอร์จัด PayDay Sale-บุฟเฟต์มื้อค่ำลด40%

ศรณ์”อาหารไทยตำรับใต้ร้านแรกของโลกคว้า3ดาวมิชลิน

บางจากชูGreenovative Forumชี้AIกับอนาคตสมดุลพลังงาน

สุขทันทีเที่ยวปทุมธานีเทศกาลแข่งเรือริมเจ้าพระยา3-5ธ.ค.

6อาหารช่วยลดคอเลสเตอรอลได้จริงหามากินด่วนได้ทุกวัน

DUSITมัลดีฟส์เปิดSALAรุกทัวร์เศรษฐีรักสุขภาพ-ครอบครัว

รร.อินเตอร์คอนกรุงเทพฯเปิดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมหรู2,250บาท

วันอาทิตย์ที่  1 ธันวาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #บางจาก  #ขจรเดชอภิชาติตรากุล

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... .https://www.facebook.com/share/v/17xHpmhzUt/

 สัมภาษณ์ !! ขจรเดช อภิชาติตรากุล ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ปี’68 พลิกโฉมนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นมาไทยหันเจาะคนรุ่นใหม่ “3 กลุ่ม 3 วัย” นักเรียน 12ปีขึ้นไป นักศึกษามหาลัย กลุ่มจบใหม่เพิ่งเริ่มทำงาน คาดทำได้เกินปีละ 1 ล้านคน แถมได้แอร์ไลน์สบินเพิ่มปลายปี67-ไตรมาส 1 ปี 68 ขยับขึ้นไปถึง 70-80 % เตรียมสินค้าท่องเที่ยวคุณภาพ ซอฟท์ พาวเวอร์ ซับคัลเจอร์ เพาเวอร์สปอต ขานรับพฤติกรรมเที่ยวแบบ “คุ้มค่าเงิน” แนะภาคธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว เพิ่มความพร้อม 3 เรื่อง ให้เข้ากับวัฒนธรรมชาวญี่ปุ่น

นายขจรเดช อภิชาติตรากุล ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ปี 2567 ตลาดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางมาไทยฟื้นตัวกลับมามีแนวโน้มที่ดีชัดเจน ททท.ในญี่ปุ่น 3 สำนักงาน คือ โตเกียว โอซากา ฟูกูโอกะ ร่วมมือกันทำแผนส่งเสริมตลาดการขายไปในทิศทางเพื่อให้มีนักท่องเที่ยวเข้าไทยใกล้เคียงกับสถานการณ์ปกติปี 2562 ขณะนี้ช่วง 11 เดือนแรก มกราคม-พฤศจิกายน 2567 มีจำนวนเกินเป้าตลอดปีไปแล้ว 937,000 คน จากที่ตั้งไว้ตลอดปีนี้ประมาณ 850,000 คนเท่านั้น แนวโน้มที่เหลือ 1 เดือนช่วงธันวาคม จะทะลุเพดานอย่างแน่นอนรวมกว่า 1 ล้านคน

                โดยมีปัจจัยหนุนจาก “จำนวนที่นั่งที่เที่ยวบิน” หรือ Seat Capicity ของสายการบินต่าง ๆ ไป-กลับ ระหว่างญี่ปุ่นมายังไทยในตารางบินฤดูหนาว 2567/2568 ส่งผลดีกับบรรยากาศการเพิ่มเส้นทาง ความถี่ และจำนวนที่นั่งเที่ยวบิน ระหว่างญี่ปุ่นมาไทยจะขยับเพิ่มขึ้นเป็น 70-80 % จากปัจจุบันมีประมาณ 50-60 % โดยมีความหนาแน่นมากเพราะเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยว 3 เดือนสุดท้ายปี 2567 ตัวอย่าง “การบินไทย” บินตรง ฮอกไกโด-กรุงเทพฯ  ออลนิปปอน แอร์เวย์ส (ANA) และพื้นที่นาโงย่าจะเพิ่มเป็น 2 เที่ยว/วัน จากปัจจุบัน 1 เที่ยว/วัน แล้วยังมี “อีวีเอ แอร์” (EVA Air) ของไต้หวัน บินจากญี่ปุ่นแวะพักที่ไทเปแล้วเข้าสู่กรุงเทพฯ เริ่ม 15 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป

                ผลจากสายการบินนานาชาติที่ให้บริการแบบฟูล เซอร์วิส และโลว์คอส แอร์ไลน์ ตื่นตัวเพิ่มจำนวนที่นั่งโดยสารเข้าออกญี่ปุ่นสู่ไทยจะเป็นแรงผลักดันปี 2568 ให้มี “นักท่องเที่ยวญี่ปุ่น” เดินทางมาไทยเพิ่มขึ้นได้ตามเป้าหมายอีก 5-10 %



                ททท.โตเกียว เดินหน้าทำตลาดเชิงรุกต่อเนื่องจากปี 2567 กับปี 2568 เล็งไปยัง “กลุ่มคนอายุน้อยลง” เนื่องจากฐานนักท่องเที่ยวเดิมของไทยเป็น “กลุ่มผู้สูงอายุ” เป็นตลาดเก่าแก่ปัจจุบนมีแนวโน้มเดินทางน้อยลง จึงต้องเบนเข็มไปหาเป้าหมายใหม่กลุ่ม Gen Y-Z คนรุ่นใหม่ มิลเลนเนียล นักเรียน วัยเริ่มทำงาน ซึ่งมีแรงจูงใจให้เดินทางท่องเที่ยว แบ่งเป็น

กลุ่มที่ 1 นักเรียนวัย 12 ปีขึ้นไป ได้รับการสนับสนุนจากโรงเรียนต่าง  ๆ มีนโยบายให้ออกเดินทางทัศนศึกษาต่างประเทศ ปีละ 1-2 ครั้ง ททท.จะทำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายของตลาดนี้ให้ได้มากที่สุด

                 กลุ่มที่ 2 นักเรียนมัธยมถึงมหาวิทยาลัย 15-22 ปี ซึ่งมีช่วงวันหยุดมีกลุ่มเพื่อนชวนกันเดินทางเที่ยวต่างประเทศ ปัจจุบันไปยังเพื่อนบ้านใกล้ๆ อย่าง เกาหลี ทาง ททท.จะเพิ่มทางเลือกมาไทยที่มีความคุ้มค่ามากสุด

                กลุ่มที่ 3 วัยรุ่นอายุ 23-35 ปี มีศักยภาพสูงกลุ่มนี้เรียกว่า First Jobber เพิ่งเรียนจบหมายเข้าสู่วัยทำงาน ก่อนจะทำงานญี่ปุ่นจะมีวัฒนธรรมเดินทางท่องเที่ยวเพราะเมื่อทำงานแล้วจะทุ่มเทอย่างหนักใช้พลังมาก ททท.จะเร่งสร้างความเชื่อมั่นหันมาเที่ยวเมืองไทย เพราะบางส่วนเมื่อทำงานแล้วก็จะมีวันหยุดสามารถมาเที่ยวได้ช่วงวันหยุดพักผ่อน Holiday Vacation

                “กิจกรรมการท่องเที่ยว” ปี 2568 จะขยายผลต่อเนื่องนำเสนอสินค้าท่องเที่ยวในตลาดญี่ปุ่น ทั้ง 3 กลุ่ม มีความต้องการท่องเที่ยวแตกต่างกันไป มีพฤติกรรมนิยมสินค้าท่องเที่ยว หลัก ๆ ซอฟท์ พาวเวอร์ ประกอบด้วย 1.ซับ คัลเจอร์ สนใจวัฒนธรรมย่อย เที่ยวตามกระแสวายซีรีย์ กับ BL Lover ตามรอยหนังซีรีย์วายเลือกสถานที่เที่ยวของภาพยนตร์แต่ละเรื่อง ศิลปินไทยหลายค่ายพากันไปจัดทำคอนเสิร์ตและแฟนมีทติ้งในญี่ปุ่น เพื่อเชิญชวนแฟนคลับบินไปพบปะศิลปินไทยที่ชื่นชอบ 2.Must See &Seek ต้องไปเที่ยวหรือไปสัมผัสประสบการณ์พลัง Power Spot Tourism ตามเส้นทางสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น ไปกราบสมเด็จหลวงพ่อโต หรือวัดปากน้ำ เพื่อให้ได้ตามสิ่งที่เป็นความหวัง ททท.จะนำเสนอเพิ่มเติมเข้าไป รวมถึงกลุ่มเยาวชนที่สนใจท่องเที่ยวเชิงกีฬา เช่น มาราธอน ญี่ปุ่นมีสถิติเข้ามาร่วมกิจกรรมกีฬานานาชาติมากเป็นอันดับต้น ๆ รวมทั้งฟุตบอล วอลเลย์บอล ไทยที่ไปเป็นสมาชิกในสโมสรต่างชาติ ก็เป็นแรงกระตุ้นให้เยาวชนญี่ปุ่นเลือกมาไทยมากขึ้น ดังนั้นต้องเตรียมความพร้อมนำเสนอความคุ้มค่าอย่างชัดเจน


 

ควบคู่กับการรักษาฐานกลุ่มตลาดดั้งเดิม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 นักธุรกิจมาทำงานพร้อมกับพักผ่อน กลุ่มที่ 2 ท่องเที่ยวเชิงกีฬากอล์ฟ เดินทางบ่อย ๆ กลุ่มที่ 3 เที่ยวชายหาดทรายชายทะเล หรือมาเที่ยวเป็นคู่ (Couple)

ผอ.ขจรเดช กล่าวว่าด้วยพฤติกรรมนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเปลี่ยนเจนมาสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น ดังนั้น ททท.จึงอยากเสนอแนะให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเตรียมพร้อมให้บริการตลาดคุณภาพใช้จ่ายเงินสูง และจงรักภักดีกับการท่องเที่ยวเมืองไทย (Loyalty)

เรื่องที่ 1 ทางด้านธุรกิจกับธุรกิจ หรือ (B to B Business to Business) โรงแรม ร้านอาหาร ควรมีตัวแทนการตลาด (Marketing Representative) ทางภูเก็ต พัทยา เริ่มมีตัวแทนสื่อสารภาษา เข้าใจวัฒนธรรมญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น สามารถปรับเข้าหากันได้ง่ายขึ้น

เรื่องที่ 2 ทางด้านธุรกิจกับผู้บริโภค/นักท่องเที่ยว (B to C :business to consumer) ตลาดญี่ปุ่นหลายส่วนอยู่ในคอมฟอร์ดโซน เพราะในบ้านเมืองตนเองมีความสะดวกสบายปลอดภัย จึงไม่อยากไปเที่ยวต่างประเทศ เพราะอาจเจออุปสรรคการเดินทางหรือการสื่อสาร ดังนั้นสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร ควรจัดทำป้าย หรือมีพนักงานพูดภาษาญี่ปุ่นได้เล็กน้อย เพื่อสะดวกในการทำงาน 

เรื่องที่ 3 การตอบอีเมล ก็ควรรวดเร็ว เพราะนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นจะให้ความสำคัญกับเวลาอย่างมาก จึงต้องตระหนักรู้เพื่อปรับกลยุทธ์รับกับตลาดที่กำลังกลับมาอย่างมีนัยสำคัญ


 

ปี 2568 ตลาดญี่ปุ่น ยังใช้จ่ายเงินท่องเที่ยว ด้วยค่าเงินเยนเปรียบเทียบกับเงินบาทจะอ่อนค่าลง จึงทำให้คนใช้เงินอย่างระมัดระวัง ซึ่งไทยเป็นประเทศที่สามารถตอบโจทย์ด้วยแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพ กับความคุ้มค่าเงินสูง โดยเฉพาะ ซอฟท์ พาวเวอร์ เพาเวอร์สปอต และศิลปินไทยที่มีแฟนคลับ จะเป็นแรงดึงดูดให้ญี่ปุ่นใช้เงินเที่ยวเมืองไทยใกล้เคียงปกติ ภายใต้ความคุ้มค่านั่นเอง

ฟังข่าวต้นชั่วโมง



ข่าวที่ 1-2เซอร์ไพรส์ที่คิงเพาเวอร์ซิตี้บูทีกน้ำหอมเครื่องสำอางแว่นตา

 

แวะมาช้อป “คิง เพาเวอร์ ซิตี้ บูทีก” โซนพาเหรด ชั้น 1-2 ตึก ONE Bangkok ตั้งแต่พฤศจิกายน 2567 -5 มกราคม 2568 รับรัวๆ 2 เซอร์ไพรส์

 

Surprises ที่ 1 !! ช้อป คิง เพาเวอร์ ได้เสมอ ทั้งวันธรรมดา และเสาร์-อาทิตย์ 10.00 - 22.00 น. เฉพาะลูกค้าคนไทยเท่านั้น 2 รายการดังนี้

 

1.Weekday Surprises ได้ทุกวันอังคาร-พุธ รับส่วนลดเพิ่ม 5%เมื่อช้อปน้ำหอมหรือเครื่องสำอาง ที่โซน บิวตั้ บูลาวาร์ด  เลือกได้เลยกับสินค้าที่ร่วมรายการ

 

2.Weekend Surprises! ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ รับเพิ่ม Gift Voucher 500 บาท เมื่อช้อปครบ 20,000 บ. ขึ้นไป (สุทธิ) ที่โซน Sunglasses Street

            Surprise ที่ 2 !! ชวนกันมาช้อปอลังการกับการอวดโฉมใหม่ของ “น้ำหอม” ระดับตำนาน ทั้ง JEAN PAUL GAULTIER Classique และ Le Male ต้อนรับเทศกาลเฉลิมฉลองคริสต์มาส คอลเลคชั่น 2024 ได้แก่

 

1.Classique Collector Edition 2024 น้ำหอมหอมละมุนของสาวมั่น ด้วยกลิ่น Floral Fruity ดีไซน์สุดคลาสสิก ได้แรงบันดาลใจจาก The Birth of Venus Limited Edition ผสานความงามของศิลปะเข้ากับความหอมได้อย่างลงตัว

 

2.Le Male Collection Edition 2024 น้ำหอมเท่สะกดใจของหนุ่มมีสไตล์ ในแนวอโรมาจุดเด่นอยู่ตรงงานดีไซน์บนขวดที่ตีความใหม่จากศิลปะเรเนซองซ์เอกลักษณ์เฉพาะที่ผสมผสานความคลาสสิกและร่วมสมัย

 

พิเศษ! วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ “คิง เพาเวอร์ ซิตี้ บูทีก” ใน ONE BANGKOK มาสัมผัสกลิ่นหอมสุดพิเศษที่จะทำให้เทศกาลแห่งความสุขของทุกคนพิเศษยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน

  

ข่าวที่ 2-พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดPayDay Sale-บุฟเฟต์มื้อค่ำลด40%

 

โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ จัด Pay Day Sale มอบของขวัญส่งท้ายด้วยโวเชอร์ราคาสุดพิเศษ  ตั้งแต่วันนี้ - 5 ธ.ค. เท่านั้น! คลิก bit.ly/PayDay_Pullman

 

เลือกของขวัญที่ดีที่สุดให้ตัวเอง หรือมอบประสบการณ์สุดหรูให้คนที่คุณรัก ที่พูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ กับส่วนลดพิเศษแห่งปีที่คุณห้ามพลาด! เลือกสัมผัสความหรูหราในราคาสุดคุ้ม

 

อิ่มอร่อยกับบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดและนานาชาติสุดพรีเมียม ราคาเริ่มต้นเพียง 1,050 บาทสุทธิ

โอมากาเสะสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ด้วยวัตถุดิบนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น 12 คอร์สเพียง 3,500 บาทสุทธิ

แพ็คเกจสปา 60 นาทีท่ามกลางบรรยากาศแสนสงบใจกลางเมือง ราคาเพียง 999 บาทสุทธิ

 

ส่วนที่ “ห้องอาหาร ควิซีน อันปลั๊ก” โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ ชวนให้พาครอบครัวมารับประทาน “บุฟเฟต์ซีฟู้ด” มื้อค่ำสุดคุ้มลด 40 % ทุกวันจันทร์ - พุธ เวลา 18.00 - 22.30 น. เมื่อจองตรงกับทางโรงแรม ลด 40 % จากราคาเต็ม 1,990 บาท/คน/ครั้ง คลิก bit.ly/WeekdayDoublevJourney

 

 สุดคุ้มในบรรยากาศสุดหรูไม่เหมือนใครในแบบ 5 ดาว สัมผัสความอร่อยแบบจัดเต็มทั้ง เป็ดปักกิ่ง, ซูชิ, เนื้อคุณภาพ, อาหารไทย, อิตาเลียน และขนมหวานมากมาย

  

ข่าวที่ 3-“ศรณ์”อาหารไทยตำรับใต้ร้านแรกของโลกคว้า3ดาวมิชลิน

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เป็นประธานงานประกาศผลรางวัลดาวมิชลิน ประเทศไทย ประจำปี 2568 โดยมีนายมานูเอล ฟาเฟียง ประธานกลุ่มมิชลินประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกและโอเชียเนีย เป็นผู้มอบรางวัลดาวมิชลิน วันที่ 28 พฤศจิกายน นี้ เป็นคู่มือแนะนำร้านอาหาร The MICHELIN Guide Thailand ประจำปี 2568 ทางประเทศไทยมีร้านอาหารที่ได้รับรางวัล 3 ดาวมิชลินเป็นครั้งแรกเป็นร้านอาหารไทยร้านแรกของโลกด้วย ได้แก่ “ร้านศรณ์”  แล้วก็มีร้าน 2 ดาว  7 ร้าน  และ ร้าน 1 ดาว อีก 28 ร้าน 

 

ในคู่มือ เดอะมิชลิน ไกด์ ไทยแลนด์ ปี 2568 รวมแล้วจะมีร้านรวมอยู่ทั้งสิ้น 462 ร้าน ในจำนวนนี้มีมากสุดคือร้านบิ๊บกูร์มองด์ 156 ร้าน กับร้านอาหาร MICHELIN Selected จำนวน 270 ร้าน

 

ทาง ททท.ยังได้มอบพิเศษอีก 4 รางวัล คือ “MICHELIN THAILAND Service Award ให้แก่

 

คนที่ 1  เชฟยุพา สุขเกษม จากร้านบ้านเทพา และคนที่ 2 “เชฟสิทธิกร จันทป” จากร้าน AKKEE ได้รับรางวัล MICHELIN Guide Thailand Young Chef Award Presented by BLANCPAIN

 

คนที่ 3 เชฟ Dimitrios Moudiosจากร้าน Ōre ได้รับรางวัล MICHELIN Guide Thailand Opening of the Year Award by UOB

 

คนที่ 4  คุณฐานสิทธิ์ วาสินนท์ ร้าน Côte by Mauro Colagreco ได้รับรางวัล Sommelier Award by MICHELIN Guide Thailand

 

โดยมีร้านรักษ์โลก ใส่ใจเรื่องความยั่งยืนที่ได้รับรางวัล MICHELIN Green Star ได้แก่ ร้านพรุ ร้านจำปา ร้าน Haoma ส่วน “ร้านบ้านเทพา” ได้รับรางวัลเป็นปีแรกในการประกาศรางวัลครั้งนี้

 

ผู้ว่าฯ ฐาปนีย์ กล่าวว่า ททท. เชื่อมั่นการมอบรางวัลและจัดทำคู่มือ  The MICHELIN Guide Thailand ประจำปี 2568 จะเป็นเครื่องมือสำคัญด้านการส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยให้เป็น World’s Leading Culinary Destination เป็นแม่เหล็กดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกตัดสินใจเดินทางมาสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงอาหารหรือ Gastronomy Tourism อันโดดเด่นของประเทศไทยที่พร้อมจะเดินหน้าสร้างยั่งยืน และทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2568 เป็นต้นไป

  

ข่าวที่ 4-บางจากชูGreenovative Forumชี้AIกับอนาคตสมดุลพลังงาน

 

 

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บางจากฯ จัดอย่างยิ่งใหญ่งาน Greenovative Forum ครั้งที่ 14 "Crafting Tomorrow's Future with Sustainable Energy and AI" ในวาระบางจากครบ 40 ปี ก้าวสู่ทศวรรษที่ 5 โดยมีผู้เชี่ยวชาญหลากหลายวงการทั้งในและต่างประเทศร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและความรู้เกี่ยวกับบทบาทสำคัญของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่จะสร้างอนาคตอย่างเป็นมิตรกับการจัดการด้านพลังงาน สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลและยั่งยืน ได้การตอบรับจากผู้เข้าร่วมงานมากถึง 600 คน และได้รับเกียรติกล่าวเปิดงานโดยนายประสงค์ พูนธเนศ รักษาการประธานกรรมการ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

 

@ซีอีโอบางจากถอดรหัส2เรื่องใช้AIจัดการสมดุลพลังงาน

นายชัยวัฒน์กล่าวว่า ตนเองได้บรรยายพิเศษ หัวข้อ “AI, Energy and Environment” นำเสนอ เรื่องแรก การนำประโยชน์ของ AI มาใช้ ภายใต้ความท้าทายการรักษาสมดุล 3 เรื่อง คือ เทคโนโลยีล้ำสมัย พลังงาน และสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งชี้ให้เห็นแม้ AI จะสร้างประโยชน์มากช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและร่นเวลาปฏิบัติงานต่าง ๆ แต่กระบวนการพัฒนาและใช้งาน AI ต้องการพลังงานมหาศาลเช่นกัน ส่งผลต่อทรัพยากรโลก เช่น น้ำและพลังงาน ทำให้ต้องพึ่งพาแหล่งพลังงานก๊าซธรรมชาติมากขึ้น หรือ พลังงานนิวเคลียร์จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือก 

 

เรื่องที่ 2 แนะนำแนวคิดเรื่อง DNA Data Storage ซึ่งเป็นการปฏิวัติระบบการจัดเก็บข้อมูลที่ไม่เพียงแต่กะทัดรัดและทนทานสูง แต่ยังช่วยลดการใช้พลังงานและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับศูนย์ข้อมูลแบบดั้งเดิม

 

จากนั้นนายนครินทร์ วนกิจไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และบรรณาธิการบริหาร สำนักข่าว The Standard เปิดเวทีช่วงสนทนาพิเศษ :Fireside Chat ในหัวข้อ "Living Sustainably with AI " สะท้อนมุมมองวิธีรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและการอยู่ร่วมกันกับ AI อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีพัฒนาอย่างรวดเร็ว

 

@กูรูแนะวางระบบกำกับดูแลAIอย่างเหมาะสมสู่ยั่งยืน

 

ทางด้านนางสาวชญานิศ โควาวิสารัช Senior Consultant, Net Zero, ERM (สหราชอาณาจักร) ร่วมแบ่งปันประสบการณ์จากการทำงานให้คำปรึกษาด้านความยั่งยืนโดย AI มีศักยภาพยกระดับคุณภาพชีวิตของมนุษย์ และสามารถช่วยแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ตั้งแต่ความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงความเหลื่อมล้ำทางสังคมและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการกำกับดูแลเป็นระบบและการวางแผนกลยุทธ์เร่งด่วนเพื่อพัฒนา AI เป็นไปอย่างยั่งยืนและเหมาะสม

 

Mr. Carlos Aggio Senior Enterprise AI Value Strategy Executive จาก Accenture (สิงคโปร์) นำเสนอแนวทางพัฒนานวัตกรรม AI สู่การพลิกโฉมโลกพลังงาน กับเป้าหมายลดคาร์บอนอย่างยั่งยืน

ในหัวข้อ “Tomorrow's Innovations Today” 

 

@นักวิชการแบ่งปันAIกับนวัตกรรมการแพทย์/สาธารณสุข

 

ส่วนการเสวนาอีก 2 เวที โดย เคน-นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ ก็ได้แลกเปลี่ยนมุมมองกับผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายวงการ หัวข้อแรก “Smart Solutions for Everyday Wellness”ศ.ดร. สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภามหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล กับนายกร วรรณไพโรจน์ ศิลปินวง PROXIE และนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข วิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ร่วมแบ่งปันเทรนด์การใช้ AI ในนวัตกรรมการแพทย์และสาธารณสุข 

           

หัวข้อที่สอง “Forward-Looking Organizations: Efficiency Meets Intelligence” นางสาวอรนุช เลิศสุวรรณกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทคซอส มีเดีย จำกัด ดร.วิโรจน์ จิรพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท สคูลดิโอ จำกัด และนายรณพงศ์ คำนวณทิพย์ กรรมการผู้จัดการส่วนภูมิภาค บริษัท มายด์ เอไอ เซาท์อีสเอเซีย จำกัด ร่วมกันแลกเปลี่ยนทัศนคตินำ AI มาปรับใช้ในโลกธุรกิจมีนัยสำคัญกับการเปลี่ยนวิธีทำงาน โดยเฉพาะด้านการพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้เกิดความสมดุลระหว่างเทคโนโลยีอัจฉริยะกับทักษะและความสามารถของมนุษย์

           

ปิดท้ายด้วย ดร.พัทน์ ภัทรนุธาพร Postdoctoral Researcher at MIT Media Lab และ Co-director of Advancing Human-AI Interaction (AHA) Initiative ในหัวข้อ "The Next Frontier AI and Future Generation"  ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญการพัฒนาและยกระดับความสามารถของมนุษย์ควบคู่กับเทคโนโลยี จำเป็นต้องหาจุดร่วมทำให้ทั้งสองฝ่ายอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืนและเสริมสร้างประโยชน์ซึ่งกันและกัน

  

            ช่วงที่ 2  เที่ยวไทยใกล้กรุง ชวนสุขทันทีที่ “ปทุมธานี”  พบความสนุกสนาน ชมความสนุก ชิมของอร่อย ช้อปของดี เทศกาล “แข่งขันเรือยาวประเพณีลำน้ำเจ้าพระยา” 3-5 ธันวาคม 2567 ที่หน้าสวนเทพปทุม แล้วฟังชัด ๆ “6อาหารลดคอเรสเตอรอล” กินทุกวันปลอดโรคอายุยืน และข่าวฮ็อต ข่าวแรก “DUSIT มัลดีฟส์เปิด SALA” เชฟจานรังสรรค์เมนูออร์แกนิกมังสะวิรัตเอาใจเศรษฐีโลก ข่าวที่สอง “รร.อินเตอร์คอนกรุงเทพฯ” เสิร์ฟบุฟเฟต์พรีเมี่ยม 2,250 บาท/คน

 

ท่องเที่ยว –สุขทันทีเที่ยวปทุมธานีเทศกาลแข่งเรือริมเจ้าพระยา3-5ธ.ค.นี้

 

เที่ยวใกล้กรุงส่งท้ายปี กับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกรุงเทพมหานคร ชวนเที่ยวเทศกาล “แข่งขันเรือยาวประเพณี” วันที่ 3-5 ธันวาคม 2567  สนุกสนานกับการส่งเสียงเชียร์ให้กระหึ่มสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหน้าวสวนเทพปทุม พบกับ เรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ปีที่ 3

 

ตื่นตากับ “เรือดังดีกรีแชมป์ถ้วยพระราชทาน” ทั่วประเทศ จะนำเรือลวดลายสวย ๆ มาดวลฝีพายกัน 4-5 ธันวาคมนี้ หน้าสวนเทพปทุม แม่เจ้าพระยา  ทั้งประเภท 30-40-55 ฝีพาย

 

ไฮไลต์คือ “เรือพื้นบ้านหรือเรือพายม้า” 10 ฝีพาย ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 2.45 ล้านบาท ถ่ายทอดสด รอบชิงชนะเลิศ ทางสถานีโทรทัศน์ ททบ. 5 เอชดี เวลา 15.00-17.00 น.

 

การแข่งเรือพื้นบ้าน-เรือพายม้า” ของชุมชนริมฝั่งแม่น้ำลำคลองจัดสืบทอดกันมายาวนานบนพื้นฐานความสามัคคี พร้อมเพรียง เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน แล้วยังรณรงค์ให้พี่น้องชาวปทุมธานี คนไทยได้ร่วมกันอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี  ที่ดีงามของไทยสืบไป

 

เที่ยวปทุมธานีระหว่าง 3-5 ธันวาคม 2567 ยังมี มหกรรม “ตลาดนัดบัวหลวง” ครั้งที่ 3 บริเวณลานจอดรถสวนเทพปทุม มีสินค้าโอท็อปชุมชนมานำเสนอของดีกว่า 140 ร้านค้า และความสนุกสนาน   เพลิดเพลินกับกิจกรรม ช้อปสินค้าดี อาหารอร่อย ฟังดนตรีสนุก ๆ ได้  สร้างช่องทางการตลาดให้ผู้ประกอบการเพิ่มมูลค่าและตลาด ต้อนรับนักท่องเที่ยวมาจับจ่ายใช้สอย ชมฟรีมินิคอนเสิร์ตของศิลปินดัง วันที่ 3 ธันวาคม พบกับ แซ็ค ชุมแพ วันที่ 4 ธันวาคม พบกับ เอ มหาหิงค์ วันที่ 5 ธันวาคม พบกับ พี สะเดิด  ห้ามพลาดชมการแสดงพลุดนตรีกลางแม่น้ำเจ้าพระยา  ตั้งแต่ 16.30 น. เป็นต้นไป

 

“ปทุมธานี” เปิดวิถีชีวิตสองฝั่งเจ้าพระยาหนึ่งให้เป็นหนึ่งในการท่องเที่ยวยอดนิยม เป็นฐานรากสำคัญของแต่ละท้องถิ่น การจัดแข่งขันเรือยาวประเพณีเป็นอีกกิจกรรมของเมืองพื้นราบลุ่มมีแม่น้ำเจ้าพระยาเส้นเลือดใหญ่ของคนภาคกลางไหลผ่านกลางเมือง จุดกำเนิด “วัฒนธรรรม ประเพณีทางสายน้ำ” เช่น การเล่นเพลงเรือเกี้ยวพาราสีกันของชาวบ้านริมน้ำ การแข่งเรือชนิดต่างๆ

 

ปี 2567 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานถ้วยรางวัลสำหรับเรือที่ชนะการแข่งขันด้วย

 

โปรแกรมชมจัดงานแข่งขันเรือยาวประเพณีวันที่ 3-5 ธันวาคม หน้าสวนเทพปทุม ริมน้ำเจ้าพระยา มี 4 ประเภท คือ เรือ 30 ฝีพาย เรือ 40 ฝีพาย เรือ 50 ฝีพาย และเรือพายม้า ซึ่งเรือพายม้านั้นเป็นเรือพื้นบ้านที่หายากแล้วในปัจจุบัน

เรือที่เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ คณะกรรมการฯ คัดเรือดีเรือดังมีชื่อเสียงทั่วประเทศ อดีตดีกรีแชมป์ถ้วยพระราชทานหลายลำ ได้แก่

 

กลุ่มที่ 1 เรือประเภท 55 ฝีพาย มี 8 ลำ เช่น เรือเจ้าแม่ประดู่ทอง จากชลบุรี เรือเจ้าแม่เพชรดารา, เรือฉัตรชัย จากนครสวรรค์ เรือศรีสตึก จากบุรีรัมย์ เรือเพชรดำ-หัสดินนาวาจากกาฬสินธุ์ เรือรุ่งสุริยา จากหนองคาย เรือเทพขุนอินทร์ จากสิงห์บุรี

 

กลุ่มที่ 2 เรือประเภท 40 ฝีพาย มี 9 ลำ เช่น เรือเจ้าแม่ประดู่เงิน จากชลบุรี เรือสาวบัวแก้วกาบคำ จากอุบลราชธานี เรือแม่เหลืองทอง จากสระบุรี เรือไพรวัลย์ จากพระนครศรีอยุธยา เรืออะพินยาวังเวียง จาก สปป.ลาว เรือสิงห์ปทุม เรือสิงห์รังสิต ปทุมธานี

 

กลุ่มที่ 3 เรือประเภท 30 ฝีพาย มี 12 ลำ เช่น เรือเทพธิดาไข่มุก จากเชียงราย เรือเรืองแสง จากสุโขทัย เรือสาวสวยพัฒนียา จากพิจิตร เรือเพชรดารา จากนครสวรรค์ เรือว.วังหิน จากนครราชสีมา เรือหนุ่มโพธิ์หัก จากราชบุรี เรือสาวคลองจินดา  จากนครปฐม

เที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย ต้องได้เที่ยวงานแข่งขันเรือประเพณีปทุมธานี  เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี      

  

สุขภาพ –6อาหารช่วยลดคอเลสเตอรอลได้จริงหามากินด่วนได้ทุกวัน 

 

“อาหาร” 1 ในปัจจัย 4 ที่ควรกินอย่างมีความรู้ จะเกิดประโยชน์อย่างมากกับร่างกายคนแต่ละวัย ยิ่งยุคปัจจุบัน มีความหลากหลายและสารพัดโรคเกิดขึ้น โดยเฉพาะโรคยอดฮิตทุกเพศวัยคือ “คอเลสเตอรอลสูง” จึงขอแนะนำให้เลือกกินช่วยลดคอเลสเตอรอลด้วย 6 อาหาร  ดังนี้

 

ชนิดที่ 1 ถั่ว และธัญพืช ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วเหลือง ถั่วดำ หรือธัญพืชอย่างข้าวโอ๊ต ลูกเดือย และอื่นๆ ล้วนแล้วแต่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีในร่างกายได้เหมือนกัน 

 

ชนิดที่ 2 ขนมปัง และข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี ข้าวกล้อง ข้าวแดง ข้าวซ้อมมือ รวมไปถึงขนมปังโฮลวีต นอกจากจะช่วยลดคอเลสเตอรอลแล้ว ยังมีกากใยอาหารที่ช่วยชะลอการดูดซึมของน้ำตาล เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน และยังช่วยให้การทำงานของระบบย่อยอาหารดีขึ้นอีกด้วย พูดง่ายๆ ว่ากินแล้วช่วยให้ถ่ายคล่องนั่นเอง

 

ชนิดที่ 3 ผลไม้รสหวานน้อย ที่ทานได้ทั้งเปลือก โดยปกติแล้วผลไม้มีใยอาหารที่ดีต่อการช่วยลดคอเลสเตอรอลอยู่แล้ว แต่หากผลไม้ชนิดนั้นมีน้ำตาลสูงเกินไป ก็ให้โทษแก่ร่างกายด้วยเช่นกัน เช่น ทุเรียน ลำไย เงาะ ดังนั้นควรเลือกทานผลไม้ที่มีรสหวานน้อย ถ้าเลือกทานได้ทั้งเปลือกได้ก็จะยิ่งดี เพราะเป็นการเพิ่มกากใยอาหารให้กับระบบย่อยอาหาร และบางผลไม้ วิตามินอยู่ที่เปลือกบางๆ ข้างนอกมากกว่าเนื้อในผลเสียอีก เช่น แอปเปิ้ล มะเขือเทศ ฝรั่ง สาลี่ ชมพู่

 

ชนิดที่ 4 ผักใบเขียว ผักอะไรก็ได้ที่เขียวเข้ม เช่น คะน้า ผักโขม บล็อกโคลี่ ช่วยลเคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีในเลือดได้มากเช่นกัน แถมยังมาพร้อมใยอาหารที่ดีต่อร่างกายอีกด้วย

ชนิดที่ 5 หอม กระเทียมช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูง ลดระดับไขมัน และคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีในเลือด c]tช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย

 

ชนิดที่ 6 มะเขือ ทั้งมะเขือเทศ มะเขือเปราะ หรือมะเขือพวง ก็มีวิตามินซีที่ช่วงป้องกันโรคหวัด บำรุงผิวพรรณ และยังช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดได้อีกด้วย

อาหารทั้ง 6 กลุ่ม เลือกทานได้ตามความชอบ ถ้าจะให้ดีรับประทานทั้งหมดสลับเปลี่ยนกันไป โดยอย่าลืมเลี่ยงอาหารทอด อาหารมัน ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอกันด้วยนะคะ สุขภาพดีหาได้ไม่ยากนะทุกคน


ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –DUSITมัลดีฟส์เปิดSALAรุกทัวร์เศรษฐีรักสุขภาพ-ครอบครัว

 

โรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟส์ รายงานว่า เปิดตัวร้านอาหารใหม่ “SALA:ศาลา” ในดุสิต มัลดีฟส์ นำเสนอร้านอาหารมังสวิรัติที่มีชื่อเสียงอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการรังสรรค์จากวัตถุดิบในท้องถิ่นที่ดีที่สุดและผลผลิตที่ปลูกในบ้านจากสวนเกษตรอินทรีย์ของรีสอร์ทเอง โดยมีเชฟใหญ่ “Jan(จาน) Van de Voorde”ผู้มีประสบการณ์โด่งดังจากห้องครัวระดับมิชลินสตาร์ในเบลเยียมและเนเธอร์แลนด์ ของรีสอร์ทเพื่อสุขภาพในอิบิซา

 

“ห้องอาหารศาลา” ดุสิตธานี (DUSIT) มัลดีฟส์ แห่งใหม่พร้อมจะมอบประสบการณ์รับประทานอาหาร "โดยใช้พืช" คุณภาพดีซึ่งเซฟจานได้แรงบันดาลใจจากความหลงใหลอันลึกซึ้งที่มีต่ออาหารออร์แกนิกเพื่อสุขภาพ รสชาติแบบยุโรปและเอเชีย รวมไปถึงการดูแลสุขภาพองค์รวมเข้ามาไว้ด้วยกัน

 

เชฟจานกล่าวว่า ศาลาได้แรงบันดาลใจมาจากช่วงเวลาที่ตนเองอยู่ที่เกาะอีบิซาตั้งแต่ปี 2563 -2565 โดยได้เริ่มรับประทานอาหารมังสวิรัติและได้สัมผัสกับประโยชน์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิต จึงได้หันมาปรุงและรับประทานอาหารด้วยวิธีนี้ทำให้ทุกอย่างดีขึ้นทั้งจิตใจและร่างกายสดชื่น แข็งแรง สุขภาพดี มีพลังมากขึ้นตอนนี้ตื่นเต้นที่จะนำแนวคิดนี้มานำเสนอบริการในดุสิตธานี มัลดีฟส์ ให้แขกดื่มด่ำกับอาหารจานอร่อยที่บำรุงจิตวิญญาณได้

 

สอดคล้องกับโครงการความยั่งยืนของเครือดุสิตคือ Tree of Life ที่มุ่งเน้นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชน ห้องอาหารศาลายึดถือปรัชญา “จากเมล็ดพันธุ์สู่จาน” เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของรีสอร์ทในการรักษาสมดุลอย่างกลมกลืนระหว่างความหรูหราและความยั่งยืน

 

แขกสามารถลิ้มลองอาหารเด่น ๆ เช่น “เห็ดนางรมย่าง” เสิร์ฟพร้อมถั่วบดอุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ หรือ “ซุปเห็ดครีมมี่” ทั้งอร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เสริมด้วยน้ำมันทรัฟเฟิลสีขาว เพื่อความสดชื่นซอร์เบต์มะพร้าว ซึ่งทำจากมะพร้าวจากแหล่งท้องถิ่นและผลเบอร์รี่ตามฤดูกาล เป็นของหวานที่ทั้งหวานและดีต่อสุขภาพ

 

ไฮไลต์ด้วยเครื่องดื่มนวัตกรรมใหม่ เช่น Kombucha Mojito อุดมด้วยโปรไบโอติก และPineapple & Ginger Kefir รสเปรี้ยวจี๊ด ช่วยยกระดับประสบการณ์การดื่มให้เหนือระดับยิ่งขึ้น พร้อมคุณประโยชน์ต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น

 

Jean-Louis Ripoche ผู้จัดการทั่วไปดุสิตธานี มัลดีฟส์ กล่าวว่า ร้านอาหารออร์แกนิกใหม่แห่งนี้แสดงถึงความมุ่งมั่นส่งเสริมการใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดีและยั่งยืน พร้อมทั้งมอบประสบการณ์รับประทานอาหารที่ยอดเยี่ยม ด้วยเมนูอาหารพิถีพิถันในบรรยากาศสวยงาม จึงมั่นใจห้องอาหารศาลาจะดึงดูดตลาดนักเดินทางที่ใส่ใจสุขภาพซึ่งกำลังมองหาประสบการณ์กินอาหารที่เปลี่ยนแปลงชีวิตได้

 

สำหรับห้องอาหารศาลา ตั้งอยู่ชั้น 2 ในศาลาทรงไทยมองเห็นทัศนียภาพของน้ำทะเลสีฟ้าใสเกาะBaa Atoll ต้อนรับอย่างอบอุ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของดุสิตเข้ากับบรรยากาศสวยตระการตาเป็นฉากหลังสมบูรณ์แบบในการรับประทานอาหาร ตลอดช่วงบ่ายแสนสบายหรือค่ำคืนอันน่าหลงใหล

 

โรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟส์ ฉลองเปิดตัวห้องอาหารศาลาครั้งยิ่งใหญ่ ได้จัดแพกเกจ Plant & Pamper Retreat เป็นประสบการณ์ดูแลสุขภาพผสมผสานระหว่างการทำอาหาร การผ่อนคลาย และการใช้ชีวิตอย่างมีสติ เปิดให้จอง ตั้งแต่วันนี้- 31 มีนาคม 2568 แล้วนำไปใช้เข้าพักได้ถึง 31 ตุลาคม 2568 แพ็คเกจนี้รวมบุฟเฟต์อาหารเช้าห้อง เดอะ มาร์เก็ต บริการอาหารกลางวันและอาหารค่ำที่ห้องศาลา พร้อมเซสชั่นโยคะส่วนตัวนวด 60 นาที ได้ 2 คน พร้อมสิทธิประโยชน์พิเศษอื่น ๆ

 

@สมัครฟรีสมาชิกดุสิต โกลด์รับส่วนลด15-30%

สำหรับสมาชิกโปรแกรมสะสมคะแนน ดุสิต โกลด์ จะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย เช่น ส่วนลดค่าที่พักสูงสุด 15% ส่วนลดค่าอาหารสูงสุด 30% รางวัล Instant Delight สมัครเป็นสมาชิกฟรีทางออนไลน์ที่dusit.com/signup

 

ดุสิตธานี มัลดีฟส์ อยู่ห่างจากเมืองหลวงมาเล เดินทางโดยเครื่องบินทะเลใช้เวลาเพียง 35 นาที ห่างจากสนามบินในประเทศ Dharavandhoo ใน Baa Atoll ใช้เรือเร็วก็เพียง 10 นาที 

 

บริการที่พักวิลล่าและเรสซิเดนซ์ 94 หลัง พร้อมร้านอาหาร 3 แห่ง บาร์ 2 แห่ง และเทวารัณย์ เวลเนส สปาเอกลักษณ์ของดุสิต รีสอร์ทแห่งนี้รายล้อมด้วยทะเลสาบสีฟ้าครามและแนวปะการังอุดมสมบูรณ์ เหมาะจะดำน้ำตื้น แล้วยังมีคลับสำหรับเด็กพร้อมอุปกรณ์ครบครันเพิ่มความน่าดึงดูดใจกลุ่มตลาดครอบครัว

 

ข่าวที่สอง -รร.อินเตอร์คอนกรุงเทพฯเปิดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมหรู2,250บาท

 

โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ รายงานว่า เดือนพฤศจิกายน 2567 ทางโรงแรมแนะนำบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลและอาหารนานาชาติมื้อค่ำระดับพรีเมียม คุณภาพเยี่ยมสดใหม่บริการทุกค่ำคืนวันศุกร์และวันเสาร์ ในบรรยากาศหรูหราที่ห้องอาหาร เอสเพรสโซ่ เพลิดเพลินกับการแสดงดนตรีแจ๊สขับกล่อมเสียงเพลงไพเราะระหว่างมื้ออาหารตั้งแต่ 18.30-21.15 น. ราคาคนละ 2,250++ บาท เด็กอายุ 6 -12 ปี คนละ 1,200++ บาท เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีรับประทานฟรีเมื่อมาพร้อมผู้ใหญ่ที่จ่ายค่าบริการตามปกติ 

 

บุฟเฟ่ต์อาหารทะเลและอาหารนานาชาติมื้อค่ำระดับพรีเมียมให้เลือกหลากหลายด้วยไลน์อาหารแบบละลานตาดังนี้

 

“อาหารทะเล” นำเข้าสดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นหอยนางรมสดไอริส หอยนางรม ฟิน เดอ แคลร์ ไข่ปลาคุณภาพนานาชนิด เช่น คาเวียร์ อาวูรูกา ไข่ปลาแซลมอน ไข่ปลาลัมพิชสีดำ และไข่ปลาลัมพิชสีแดง พร้อม “อาหารทะเลลวกสุก” กำลังพอดีแช่เย็นฉ่ำบนน้ำแข็ง ได้แก่ ขาปูยักษ์สีทอง แคนาเดียนล็อบสเตอร์ กุ้งแม่น้ำและกุ้งขาวลวก หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ และปูม้านึ่ง

 

มุมบาร์บีคิว” ได้แก่ สเต็กปลาทูน่าปรุงรส ปลาเก๋าย่างเสิร์ฟกับซอสครีมผสมผักชีลาว  ห้ามพลาดคือ กั้งสด ๆ ย่างเสิร์ฟกับน้ำจิ้มซีฟู๊ด ผู้ที่ชื่นชอบเนื้อ ก็มีซี่โครงแกะหมักสมุนไพร สเต็กเนื้อวากิวออสเตรเลีย สามารถสั่งย่างให้สุกตามชอบแบบจานต่อจาน

 

มุมอาหารพิเศษ” ยังมีเนื้อสันนอกออสเตรเลียอบสมุนไพรสด ปลาแซลมอนทั้งตัวอบเกลือและสมุนไพรไทยให้บริการไม่จำกัด

 

“มุมอาหารจีน” มีเป็ดปักกิ่ง หมูกรอบ และหมูแดงย่าง แสนอร่อยโดนใจทุกกลุ่มวัยได้ชิมล้วนติดใจ มุมนี้ก็ให้บริการอย่างไม่จำกัด

 

สำหรับ “กุ้งแม่น้ำอบ” กับกระเทียมตะไคร้เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มแจ่วเป็นอาหารพิเศษปรุงจากกุ้งแม่น้ำขนาดใหญ่ผ่ากลางแล้วอบกับซอสสูตรเฉพาะที่มีส่วนผสมสมุนไพรไทย ได้แก่ กระเทียม ข่า และ ขมิ้น รับประทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่วรสเด็ด

 

“มุมขนมหวาน” มีมากมายทั้งขนมไทย ขนมเค้ก และขนมหวาน และพิเศษคนชื่นชอบอย่างเครปซูเซ็ตต์ รับประทานคู่กับ นูเทลล่า สตอร์วเบอร์รี่ หรือช็อคโกแล็ต ข้าวเหนียวมะม่วง ช็อคโกแลตฟาวเทน หรือช็อคโกแลตฟองดูที่ใช้จุ่มผลไม้สดตามฤดู

 

ห้องอาหารเอสเพรสโซ่ ตั้งอยู่ที่ชั้น Mezzanine  โรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ สำรองที่นั่งล่วงหน้า หรือ สอบถามเพิ่มโทร. +66 (0) 2 656 0444 อีเมล dining.bkkhb@ihg.com  

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ททท.เปิดAmazing Thailand Roman Monthปี68ปลุกตลาดไกล10.6ล้านคน

  ททท.นำร่องเปิด Amazing Thailand Roman Month ปี68ตั้งเป้าปลุกตลาดไกล 10.6 ล้านคน ททท.เปิด Roman Month ปลุกตลาดไกลเข้าเป้า 10.6 ล้านคน งัด...