ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
“วัจนันท์ ศิลปวรณ์วิวัฒน์”อัพเดทเที่ยวใต้หลังอุทกภัย4จว.
อันดามัน6จังหวัดปลุกไทยเที่ยว“เกาะ-ทะเล”ติดอันดับโลก
อ่าวไทยไหว้พระ-แลนด์มาร์กทุกย่านเมืองเก่าจัดCountdown
คิงเพาเวอร์รางน้ำเปิดตัวPAÑPURIช้อปรับสุข 3 กลิ่นใหม่
ช้อปFIRSTERบายคิงเพาเวอทุกช่องออนไลน์ลดเลย85%
คิงเพาเวอร์มหานครช้อปส่งท้ายปีลด 30%-ชมคลาวดิวัล
ททท.รับบาติกแอร์เพิ่มทัวร์มาเลเซียปี67โกย1.53แสนล้าน
ซาอุเดียแอร์บินตรงไทยปี’68ปั๊มทัวร์เศรษฐีตะวันออกลาง
บางจากปันน้ำใจช่วยน้ำท่วมใต้มอบบัตรเติมน้ำมัน-น้ำดื่ม
รับลมหนาวแม่ฮ่องสอนพายซับบอร์ด-แช่ออนเซ็น3สไตล์
5 ประโยชน์ของการนอนตะแคงที่คุณอาจยังไม่รู้รีบทำด่วน
DUSITปริ๊นเซสมะละกาเปิดแห่งแรก7ธ.ค.รับตลาดมาเลย์
AOTถกABG CEOนำตัวชี้วัดใหม่ดันสุวรรณภูมิฮับการบิน
วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #TCEB
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...https://www.facebook.com/share/v/12FDENMUh2r/
ช่วงที่
1 สัมภาษณ์ !!
นางสาววัจนันท์
ศิลปวรณ์วิวัฒน์ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) อัพเดทการท่องเที่ยวหลังน้ำท่วม
4 จังหวัด “หาดใหญ่/สงขลา-นราธิวาส-ยะลา-ปัตตานี”
เคลียร์พื้นที่ต้อนรับเทศกาลความสุขปลายปี 67 ชวนคนรักทะเลมุ่งสู่ “อันดามัน” 6 จังหวัดคัดไฮไลต์แหล่งเที่ยวติดอันดับโลก กระบี่
พังงา ภูเก็ต ตรัง สตูล ระนอง สายศรัทธา ห้ามพลาด “จังหวัดริมฝั่งอ่าวไทย” ไหว้พระ
เสริมมงคล นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และ “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” หาดใหญ่/สงขลา
ย่านเมืองเก่าภูเก็ต ชม “ส่งตะวันแสงสุดท้าย” หาดนางทองเขาหลัก พังงา
“ดูดาวส่งท้ายปี” 3
ทะเลสงขลา สวดมนต์ข้ามปี วัดมหาธาตุ นครศรีธรรมราช ปี’68 จัดเต็มเส้นทางเที่ยวใต้ยั่งยืน
นางสาววัจนันท์ ศิลปวรณ์วิวัฒน์ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ล่าสุดสำนักงานที่รับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วมบางพื้นที่เริ่มจาก ททท.สำนักงานนราธิวาส ดูแล 3 จังหวัด นราธิวาส ปัตตานี ยะลา ฝนทิ้งช่วงไปทำให้ระดับน้ำลดลงคลี่คลายในทิศทางที่ดี เช่นเดียวกับ ททท.หาดใหญ่ จ.สงขลา เข้าสู่ปกติแล้ว คงมีในเขตตัวเมืองปัตตานีซึ่งต้องรองรับการปล่อยน้ำเขื่อนบางลาง ส่งผลให้บริเวณศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว กับเขตเมืองเก่ากือดาจินอ ยังต้องติดตามน้ำท่วมขังระหว่างเส้นทางเข้าสู่พื้นที่ โดยภาพรวมกำลังอยู่ระหว่างทำสะอาด ปรับปรุงภูมิทัศน์ เพื่อกลับมาให้บริการนักท่องเที่ยวช่วงปลายปี 2567 เป็นต้นไป
ขณะนี้ “ภาคใต้” โดยรวมแล้วสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตามปกติ สนามบินทุกจังหวัด รถทัวร์ รถตู้ รถไฟ บริการเดินทางได้ทุกช่องทาง เช่นเดียวกับด่านสะเดา (สงขลา) สุไหงโกลก (นราธิวาส) เบตง (ยะลา)
ททท.ได้เกาะติดสถานการณ์อยู่ตลอดทุกเวลา อัพเดทผ่านช่องทาง Page facebook สำนักงาน ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานหลัก ทั้งสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดแต่ละพื้นที่ หน่วยบรรเทาสาธารณภัยต่าง ๆ ประชาสัมพันธ์จังหวัด เพื่อดูแลนักท่องเที่ยวตกค้างช่วงน้ำท่วม แผนดำเนินงานหลังเข้าสู่ภาวะปกติ ททท.จะได้หารือกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวในจังหวัดที่ได้รับผลประทบ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเอกชน และหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อวางแนวทางฟื้นฟูส่งเสริมการท่องเที่ยวไปในทิศทางเดียวกัน
ส่วน ททท.ภูมิภาคภาคใต้ ทั้งผู้ว่าการ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ แสดงความเป็นห่วง พร้อมจะนำอินฟลูเอนเซอร์ลงพื้นที่สื่อสารประชาสัมพันธ์สภาพความเป็นจริงในแต่ละจังหวัดมีความพร้อมสามารถเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวได้ตามปกติ ช่วยกันกระจายรายได้สร้างเศรษฐกิจให้คึกคักต่อไป
ผอ.วัจนันท์
กล่าวว่า ททท.ภูมิภาคภาคใต้ เดินหน้าเปิดตัว “ฤดูท่องเที่ยวทะเลอันดามัน”
เริ่มตั้งแต่ตุลาคม 2567 จนถึงปัจจุบัน
ทั้งภูเก็ต กระบี่ พังงา ตรัง สตูล ระนอง นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวเกาะ ดำน้ำลึก
น้ำตื้น ดูปะการัง ล่องเรือชมพระอาทิตย์ตก พายคายัค และพักผ่อนตามหมู่เกาะต่างๆ
สามารถทำได้ในสภาพอากาศที่ดี และหลายแหล่งท่องเที่ยวมีชื่อเสียงติดอันดับโลก
ได้แก่
“จังหวัดตรัง” มี “เกาะกระดาน” ได้รับการจัดอันดับเป็นชายหาดท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในโลก จาก Well Being Guide 2024 “เกาะเหลาเหลียง” เป็นอีก 1 Unseen Thailand เป็นจุดดำน้ำที่สวยงามได้รับความนิยมจากคนไทยและต่างชาติ
“จังหวัดกระบี่”
มี หาดไร่เลย์ อ่าวมาหยา ได้รับรางวัลชายหาดที่ดีที่สุด ติดอันดับ 3 จาก Loanly Planet และติดอันดับ 9 จาก
100 ชายหาดดีที่สุดในโลกปี 2566
จาก World Beach Guide สหราชอาณาจักร
“จังหวัดสตูล” มีแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับโลกหลายแห่ง เช่น “ถ้ำเลสเตโกดอน” ยูเนสโกขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งอุทยานธรณีโลก (Global Geopark) ในฐานะแหล่งค้นพบฟอสซิลเก่าแก่ที่สุดและหนึ่งเดียวในเมืองไทยเป็นแหล่งค้นพบซากดึกดำบรรพ์แห่งมหายุคพาลีโอโซอิกครบทั้ง 6 ยุค
“หาดซันไรซ์ เกาะหลีเป๊ะ” ติดอันดับ 6 ชายหาดสวยที่สุดในโลกปี 2566 “เกาะตะรุเตา” อุทยานแห่งชาติขึ้นทะเบียนเป็นมรดกแห่งอาเซียนปี 2525 “ปราสาทหินพันยอด” ตรงบริเวณบ้านบ่อเจ็ดลูก ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ขึ้นทะเบียนขึ้นเป็นอุทยานธรณีโลกแห่งแรกของไทย ปี 2561ลักษณะเป็นภูเขาหินปูนถูกน้ำกัดเซาะจนเป็นลักษณะเหมือนปราสาทในเทพนิยาย “เกาะอาดังราวี” คว้ารางวัล Best Stand Awards ในงานท่องเที่ยวระดับโลก World Travel Market (WTM) 2024
หาดทรายชายทะเลในภาคใต้ที่กล่าวไปข้างต้นทั้งหมดมีความสวยงาม หาดทรายขาวสะอาด น้ำทะเลใสเขียวเหมือนมรกต จึงเหมาะกับการท่องเที่ยวและทำกิจกรรมตามความชอบได้อย่างเต็มที่
ขณะที่ “ชายฝั่งทะเลอ่าวไทย” นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวอื่น ๆ ทำกิจกรรมไหว้พระ ทำบุญ กราบศักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เสริมสิริมงคล ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 โดยมี พระบรมธาตุ จ.นครศรีธรรมราช พระธาตุไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พระบรมธาตุสวี จ.ชุมพร พระบรมธาตุเขียนบางแก้ว จ.พัทลุง รวมถึงการตามรอยต้นกำเนิดหลวงปู่ทวดที่ “วัดต้นเรียบ” ที่ฝังรกของหลวงปู่ทวด รวมถึง วัดพระโคะ วัดปีหลวง วัดช้างไห้ ปัตตานี
ไฮไลต์เที่ยวเทศกาล “เคาท์ดาวน์ ปีใหม่ 2568” ภาคใต้ แห่งที่ 1 เคาท์ดาวน์เมืองหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เริ่มวันที่ 29-31 ธันวาคม 2567 บริเวณถนนศุภสารรังสรรค์ ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเพื่อนบ้านมาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ เดินทางมาเที่ยว ภายในงานมีอาหารอร่อย เทศกาลดนตรีจากศิลปินดัง และการแสดงพลุแสง สี เสียง
แห่งที่ 2 จังหวัดภูเก็ต ตกแต่งย่านเมืองเก่าให้เป็น “จุดเช็คอิน” ของนักท่องเที่ยว ตั้งแต่หน้าธนาคารสแตนดาร์ด ชาเตอร์ ต่อเนื่องไปตามถนนเชื่อมโยงกันทั่วเมืองเก่า ปี 2567 ให้รอดูจะมีมาสคอตไฮไลต์มาตั้งเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพ มีคอนเสิร์ตศิลปินดังมากมาย แล้วพื้นที่ต่าง ๆ ก็จัดเคาท์ดาวน์ด้วยเช่นกัน
แห่งที่ 3 จังหวัดพังงา ททท.สำนักงานพังงา ร่วมมือกับพันธมิตรนำเสนอการท่องเที่ยว “ส่งตะวันแสงสุดท้ายที่พังงา” เย็นวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ตรงบริเวณหาดนางทอง อุทยานแห่งชาติเขาหลัก ชวนนักท่องเที่ยวไปชมช่วงทไวไลต์ที่จะเห็นพระอาทิตย์แสงสวยลับขอบฟ้าในบรรยากาศแสนงดงาม
แห่งที่ 4 จังหวัดนครศรีธรรมราช จัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ที่วัดมหาธาตุวรมหาวิหาร พร้อมเสริมสิริมงคลต้อนรับศักราชใหม่
แห่งที่ 5 จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ดูดาวข้ามปีที่หอเฉลิมพระเกียรติ” เป็นจุดชมพลุมุมสูงระดับสูงสุดของสงขลา พร้อมกับชมวิวพาโนรามา 3 ทะเล ได้แก่ ทะเลสาบสงขลา ทะเลอ่าวไทย และทะเลดาว
แห่งที่ 6 จังหวัดระนอง เปิด “สกาย วอล์ค ระนอง” ชมวิวพาโนรามาแบบ 360 องศา ชมทะเลฝั่งเมียนมาสวยงามอีกแห่ง และสามารถไปแช่บ่อน้ำร้อน รักษะวาริน เพื่อรักษาสุขภาพรับปีใหม่
ผอ.วัจนันท์ กล่าวว่า ปี 2568 จะเดินหน้ารณรงค์การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน โดยจะประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวโลว์คาร์บอน ในพื้นที่ชุมชน ไฮไลต์ 1.คลองสังเน่ห์ ตำบลบางนายสี อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ได้ชื่อว่าเป็น ลิตเติ้ล อเมซอน เมืองไทย มีบริการนำนักท่องเที่ยวพายเรือเข้าไปชมป่าชายเลน 2.การเดินชมสถาปัตยกรรมชิโน-ยูโรเปี้ยน ย่านเมืองเก่าภูเก็ต เมืองเก่าตะกั่วป่า ชุมชนทับเที่ยง จังหวัดตรัง จะเร่งประชาสัมพันธ์ส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวรู้จักมากขึ้นเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน
“จังหวัดกระบี่” ปี 2568 ททท.จะยกระดับให้เป็นพื้นที่
“ต้นแบบการท่องเที่ยวยั่งยืน :
sustainable prototype”
สอดคล้องกับทิศทางการท่องเที่ยวกระบี่ได้ส่งเสริมตามแนว Krabi Go Green
ททท.ภูมิภาคภาคใต้ จะเดินหน้านำเสนอจุดขายเส้นทางการท่องเที่ยวภาคใต้มุ่งสู่ความยั่งยืน ทำกิจกรรมรักษาสิ่งแวดล้อม การคัดแยกขยะอย่างถูกต้อง และจะร่วมมือกับฝ่ายลงทุน และด้านสินค้าท่องเที่ยว ไปตามพื้นที่ต่าง ๆ ให้ความรู้กับผู้ประกอบการแต่ละพื้นที่ให้รับรู้และเข้าร่วมมาตรฐาน STGs :Star Tourism Goals รวมทั้ง CF-Hotels :Carbon Free Hotels เพื่อให้ฝั่งซัพพลายไซด์ได้ปรับตัวพัฒนาธุรกิจเข้าสู่มาตรฐานที่ยั่งยืน
การท่องเที่ยวภาคใต้
ต้อนรับเทศกาลความสุขปลายปี 2567 เชิญชวน
“คนรักทะเล” เลือกไปสัมผัสความงามเมืองชายหาดระดับโลกในฝั่งอันดามัน
“การท่องเที่ยวเชิงศรัทธา” มุ่งหน้าสู่จังหวัดริมฝั่งอ่าวไทย
ซึ่งมีความพร้อมและนักท่องเที่ยวนานาชาติยังปักหมุดมาเที่ยวเพิ่มขึ้นทุกปี
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1-คิงเพาเวอร์รางน้ำเปิดตัวPAÑPURIช้อปรับสุข 3 กลิ่นใหม่
คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเทศกาลความสุขชวนช้อปของขวัญสุดพิเศษ แบรนด์ “PAÑPURI :ปัญญ์ปุริ” มาพร้อมคอลเลกชั่นล่าสุด JOUURNAEY TO THE PEAK 3 กลิ่นหอมใหม่ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากการเดินทางสู่ดินแดนเทือกเขาแห่งเอเชียอบอวนไปด้วยกลิ่นอายผืนป่าเขียวชอุ่ม ลมหนาว และหิมะโปรยปราย จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ในช้อป คิงเพาเวอร์ 3 กลิ่น ได้แก่ 1.CEDRUS ASCENT กลิ่นหอมลุ่มลึก 2.CLOUDWALKER กลิ่นสดชื่นโปร่งสบาย และ AMBARA NECTAR กลิ่นอบอุ่นนุ่มละมุน
ทั้ง 3 กลิ่นหอมนี้มีวางขายหลากหลาย “ผลิตภัณฑ์น้ำหอม” ในรูปแบบออยล์ EXTRACT PERFUME OIL มีให้เลือก 2 ขนาด คือ 50 ml. และ 10 ml. ตามมาด้วย “ผลิตภัณฑ์เครื่องหอม” กลุ่มเทียน DIFFUSER ถุงหอม ผลิตภัณฑ์บำรุงมือ และ “กลุ่มเซ็ตของขวัญ” ให้เลือกอย่างหลากหลาย เหมาะช้อปไว้เป็นของขวัญให้ตัวเอง และคนที่คุณรักได้ตลอดเทศกาลความสุขปลายปี 2567
รวมทั้งมีกิจกรรมสุดเอกซ์คลูซิฟ SCENTED JOURNEY - POSTCARDS TO THE PEAK เมื่อช้อปครบ 1,000 บาท รับทันที “โปสการ์ด” ร่วมส่งมอบความสุขส่งท้ายปี หรือช้อปครบ 5,000 บาท รับ HOLIDAY GIFT SET มูลค่า 1,280 บาท และของขวัญสุดพิเศษ เฉพาะที่ JOURNEY TO THE PEAK POP-UP บริเวณลิฟต์เเก้ว ชั้น 1 คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ช้อปเครื่องหอมสุดล้ำแบรนด์ “PAÑPURI : ปัญญ์ปุริ” ได้ตั้งแต่วันนี้-18 ธันวาคม 2567 ได้ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ มหานคร ศรีวารี และภูเก็ต
ขณะนี้ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ยังได้มอบสิทธิพิเศษให้นักช้อปที่เป็นผู้ถือบัตรเครดิตกสิกรไทย เมื่อช้อปสินค้าที่เข้าร่วมรายการครบตามเงื่อนไข รับฟรี! CASH VOUCHER มูลค่า 1,000 บาท เริ่มแล้วตั้งแต่วันนี้ -5 มกราคม 2567 ช้อปครบ 10,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) / ใบเสร็จ แลกรับคนละ 1 สิทธิ์ /วัน คุ้มสุดคุ้มตลอดส่งท้ายปี 2567 และต้อนรับปีใหม่ 2568
ข่าวที่ 2-ช้อปFIRSTERบายคิงเพาเวอทุกช่องออนไลน์ลดเลย85%
คิง
เพาเวอร์ ชวนช้อป “FIRSTER BY KING POWER : เฟิร์สเตอร์ บาย คิง เพาเวอร์” เดือนแห่งความสุขส่งท้ายปีด้วยแคมเปญ “FIRSTER
CELEBRATE YOUR WAY ดีลไหนก็ใช่ จัดพิเศษเฉพาะคุณ” ลดสูงสุดถึง 85
% วันนี้-3 มกราคม 2568
จัด
“โปรโมชั่นพิเศษ” เอาใจทุกไลฟ์สไตล์ลดสูงสุด 85% แล้วยังลดเพิ่มให้อีก 20% เมื่อช้อปครบ 3,500 บาท ทางออนไลน์ เว็บไซต์ และ
แอปพลิเคชั่น FIRSTER BY KING POWER
ห้ามพลาด
! รับ SPECIAL COUPON ที่นำมาเสนอ 2 ช่วง
ได้แก่ ช่วงแรก วันที่ 1 - 12 ธันวาคม 2567 ช่วงที่สอง วันที่ 21 - 25 ธันวาคม 2567 ลดเพิ่มสูงสุด 25% โดยไม่ต้องมียอดซื้อขั้นต่ำ
แฟนตัวยงของ
FIRSTER ที่มาพร้อมกับแบรนด์เครื่องสำอาง แฟชั่นต่าง ๆ
ระดับนานาชาติกว่า 400 แบรนด์ เกาะติดทุกโปรโมชั่นทาง Facebook:
FIRSTEROFFICIAL,
Instagram@FIRSTER.OFFICIAL
ข่าวที่
3-คิงเพาเวอร์มหานครช้อปส่งท้ายปีลด30%-ชมคลาวดิวัล
คิง เพาเวอร์ มหานคร
รายงานว่า จัดกิจกรรมมอบความสุขทุกรูปแบบส่งท้ายปี 2567 ในอาณาจักร ดิวตี้ ฟรี ใจกลางเมือง บริเวณย่านธุรกิจดังสาทร สีลม
ชวนกันมาเพิ่มประสบการณ์สุดประทับใจ ช้อป ชิม ชม
3 กิจกรรม ประกอบด้วย
กิจกรรมที่ 1 ช้อปได้ทุกวัน
กับสินค้าที่เข้าร่วมรายการมอบส่วนลดสูงสุด 30%
เลือกช้อปได้ทุกรูปแบบ “ป้ายขาว” สินค้าดิวตี้ฟรี
ต้องมีเที่ยวบินเดินทางต่างประเทศ ช้อป “ป้ายฟ้า” สินค้าซื้อแล้วรับกลับทันที
มีเซอร์ไพรส์ทุกสัปดาห์
“ทุกวันอังคารและวันพุธ” ของสัปดาห์
ช้อปแบรนด์ดัง “แผนกน้ำหอมและเครื่องสำอาง” ลดเพิ่มจากปกติหรือ ON-TOP
อีก 5 %
“ทุกวันเสาร์-วันอาทิตย์” ของสัปดาห์
คัดสินค้า “แผนกแว่นตา”
ให้ช้อปตามเงื่อนไขรับเพิ่มทันทีบัตรของขวัญ GIFT
VOUCHER มูลค่า 500 บาท
สมัคร “สมาชิกใหม่ คิง เพาเวอร์”
ได้คุ้มทุกแพ็กเกจกับสมาชิก “SCARLET” สมัครพร้อมเติมเงิน
20,000 บาทฟรี! คูปองส่วนลด 3,000 บาท
กับสมาชิก “NAVY สมัครฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
หรือสมัครแล้วเติมเงิน 5,000 บาท สมัครบัตรทั้ง 2 ประเภท รับสิทธิ์เข้าฟรีที่มหานคร สกายวอล์ก นำไปใช้ได้ตั้งแต่วันนี้-
5 มกราคม 2568
กิจกรรมที่ 2 จัดงาน “MAHANAKHON CLOUNDIVAL-The Magic Clound of Happiness” หรือ”มหานคร คราวดิวัล” วันพุธที่ 18 ธันวาคม 2567
- วันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม 2568 ทุกวัน 14.00 – 22.00 น. บริเวณลาน “มหานคร สแควร์”
คิง เพาเวอร์ มหานครชวนมาท่องโลกแห่งความสุขกับดินแดนแห่งเวทมนตร์อันน่าหลงใหล
ชมความมหัศจรรย์และความสนุกสนานมาบรรจบกัน
สร้างความเพลิดเพลินด้วยความบันเทิงสุดตระการตา พร้อมอาหาร เครื่องดื่ม
และกิจกรรมสนุก ๆ
กิจกรรมที่ 3 โรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร ในเครือ คิง เพาเวอร์ ในคิงเพาเวอร์
มหานคร เพิ่มความอร่อยกับชุดน้ำชายามบ่ายสุดพิเศษที่ร้าน Tease เสิร์ฟความสุขทุกวันตลอดเดือนวันนี้ -31 ธันวาคม 2567 ตั้งแต่ 13.00 – 18.00 น.
นำเสนอราคาดึงดูดใจเพียงคนละ 980++ บาท
เครื่องดื่มชาชื่อดังรวมขนมหวาน 4 อย่าง
เมนูอาหารคาวแสนอร่อย 2 อย่าง เช่น พิสตาชิโอ พราลีน
ขนมเค้กทรงต้นคริสต์มาส สโคนแครนเบอร์รีส้ม และอื่น ๆ
ที่มีให้เลือกตามชอบอีกมากมาย
คิง เพาเวอร์
มหานคร หนึ่งในธุรกิจของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ พร้อมมอบความสุขส่งท้ายปี 2567
ให้นักท่องเที่ยว และทุกคนแวะมาช้อปสินค้า
ดื่มด่ำบรรยากาศสกายวอล์คชมวิวพาโนรามากรุงเทพฯ 360 องศา
จิบชารสชาติดีกับเมนูคาวหวานแสนประทับใจได้ทุกวัน
ข่าวที่
4-ททท.รับบาติกแอร์เพิ่มทัวร์มาเลเซียปี67โกย1.53แสนล้าน
นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้ต้อนรับสายการบินใหม่ “บาติกแอร์” ของมาเลเซีย เปิดบินปฐมฤกษ์มายังกรุงเทพฯ
บินตรงจากท่าอากาศยานนานาชาติยะโฮร์บาห์รู เซไน ถึงสนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ เส้นทางไป-กลับ
ยะโฮร์บาห์รู-กรุงเทพฯ เริ่ม 1 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป 7 เที่ยว/สัปดาห์ จ
โดยเฉพาะไฮไลต์ปลายปีนี้เตรียมจัดงาน
หาดใหญ่ เคาท์ดาวน์ 2568 ที่สงขลา ทำให้ ททท. มั่นใจถึงความสำเร็จปี 2567 จะสามารถนำมาเลเซียเข้ามาเที่ยวเมืองไทยเข้าเป้า
5,088,000 คน สร้างรายได้รวม 153,140 ล้านบาท
ส่วน “บาติก แอร์” เป็นสายการบินเอกชนในเครือไลออน
กรุ๊ป สามารถกระตุ้นและส่งเสริมแผนตลาดของ ททท.นำนักท่องเที่ยวมาเลเซีย
จากเมืองรองในมาเลเซียเพิ่มความต้องการหรือดีมานด์การเดินทางทางอากาศเติบโตเพิ่มขึ้น
เสริมจากฐานการเดินทางปกตินิยมใช้ช่องทาง “ผ่านด่านชายแดนทางบก”
มาเที่ยวเมืองไทยทางจังหวัด สงขลา เบตง/ยะลา และสตูล สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลมุ่งผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
(Hub of ASEAN)
ขณะนี้บาติกแอร์ นำผู้โดยสารจากเมืองยะโฮร์บาห์รูมากับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ถึงดอนเมืองเรียบร้อยแล้ว
ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป ใช้เครื่องบินที่มีความจุโดยสาร (Seat
Capacity) 180 ที่นั่ง/เที่ยวบิน ปี 2568จะช่วยเพิ่มจำนวนที่นั่งการบินระหว่างไทย-มาเลเซีย อีก
65,520 ที่นั่ง
สถิตินักท่องเที่ยวมาเลเซีย
เที่ยวเมืองไทย 11 เดือนแรก ตั้งแต่ 1 มกราคม – 24 พฤศจิกายน 2567 มีจำนวน 4,443,173 คน สูงเป็นอันดับ 2 ของต่างชาติเที่ยวไทย ชาวมาเลเซียส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง
(FIT) 80 % กลุ่มเดินทางซ้ำ (Revisit)
69 % นิยมมาไทยตลอดทั้งปีเฉลี่ย 380,000 คน/เดือน
ไทยเป็นจุดหมายปลายทางเที่ยววันหยุดหรือ Weekend Destination เพราะเดินทางเข้าออกสะดวกทั้งทางบก น้ำ และอากาศ เข้ามายังจังหวัดยอดนิยม ได้แก่ สงขลา กรุงเทพฯ ภูเก็ต
กระบี่ ชลบุรี เชียงใหม่ และสุราษฎร์ธานี
ข่าวที่
5-ซาอุเดียแอร์บินตรงไทยปี’68ปั๊มทัวร์เศรษฐีตะวันออกลาง
นายศิริปกรณ์
เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลางและแอฟริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ต้อนรับสายการบินซาอุเดีย ( SAUDIA)
เปิดปฐมฤกษ์มายังไทย 2 เที่ยวบิน จากกรุงริยาด และเจดดาห์ ซาอุดีอาระเบีย สู่ภูเก็ต เริ่มตั้งแต่
2 และ 4 ธันวาคม
2567 ขณะนี้ ททท.วางแผนร่วมกับสายการบินและพันธมิตรทำการตลาดเชิงรุกในซาอุดีอาระเบียปี
2568 ทั้งการร่วมโปรโมชั่นการขายและโร้ดโชว์
สถานการณ์ปี
2567 คาดจะมีนักท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียเดินทางเข้าไทยกว่า 220,000 คน สูงกว่าปี 2562 ทำไว้ประมาณ 36,000 คน เป็นสัญญาณดีจากการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตในรอบ 32 ปี เมื่อ 2565 ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย
นักท่องเที่ยวจึงเติบโตแบบก้าวกระโดดต่อเนื่องมาจนถึงปีนี้และอนาคตปี
2568
@สายการบินซาอุเดียบินเพิ่มภูเก็ต2เมืองริยาด/เจดดาห์เริ่มธ.ค.67
เดือนธันวาคมนี้สายการบินซาอุเดียเปิดบินตรงใหม่เข้าภูเก็ต
2 เส้นทาง ได้แก่
กรุงริยาด – ภูเก็ต และ เจดดาห์ - ภูเก็ต
สามารถช่วยเพิ่มทางเลือกให้นักท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียและตะวันออกกลางซึ่งเป็นกลุ่มคุณภาพมีกำลังซื้อสูงหันมาเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยเพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะภูเก็ตเป็นจุดหมายปลายยอดนิยมการท่องเที่ยวทางทะเลติดอันดับโลก
ก่อนหน้านี้สายการบินซาอุเดียยังได้จัดทำตารางการบินฤดูหนาวระหว่างวันที่
27 ตุลาคม 2567 – 29 มีนาคม 2568 เพิ่มความถี่เที่ยวบิน ไป-กลับ 2 เส้นทาง รวม 16 เที่ยว/สัปดาห์ ได้แก่ กรุงริยาด -
กรุงเทพฯ เป็น 7 เที่ยวจากเดิม 3 เที่ยว/สัปดาห์ เจดดาห์ - กรุงเทพฯ เป็น 9 เที่ยว จากเดิม 3 เที่ยว/สัปดาห์ สะท้อนความต้องการเดินทางจากซาอุดิอาระเบียและตะวันออกกลางเลือกเที่ยวเมืองไทยเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
@ททท.ปี’68โชว์แผนเชิงรุกตลาดท่องเที่ยวซาอุฯ 3กิจกรรมใหญ่
นายศิริปกรณ์
กล่าวว่าปี 2568 ททท. วางแผนต่อยอดรุกตลาดโดยร่วมมือกับสายการบินซาอุเดีย และ
ซาอุเดีย ฮอลิเดย์ส ร่วมมือกันกระตุ้นตลาดเชิงรุกด้วย 3 กิจกรรม
คือ กิจกรรมที่ 1 โปรโมชั่นการขายแล้วประชาสัมพันธ์ผ่าน
อินฟลูเอนเซอร์ บล็อกเกอร์ ผ่านทางออนไลน์ กิจกรรมที่ 2 ทำการตลาดโดยจับคู่เจรจาธุรกิจหรือ B2B : Business to Business เดินหน้าเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภากำลังซื้อสูง มีทั้ง กลุ่มครอบครัว
และมิลเลนเนียล ช่วงไตรมาส 1 ระหว่างมกราคม – มีนาคม 2568 กิจกรรมที่
3 จัดโร้ดโชว์นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยจับคู่เจรจาธุรกิจกับตัวแทนบริษัทนำเที่ยวที่กรุงริยาด ต่อจากเสร็จสิ้นการเข้าร่วมงาน
อาระเบียนแทรเวล มาร์ต 2568 หรือ ATM : Arabian Travel Market 2025 ช่วงเดือนพฤษภาคม
2568 ที่กรุงดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ตั้งเป้าหมายกระตุ้นซาอุดิอาระเบียเที่ยวเมืองไทย 330,000 คน สร้างรายได้กว่า
30,000 ล้านบาท
“พฤติกรรมนักท่องเที่ยวตลาดซาอุดีอาระเบีย” ททท.จัดอยู่ในกลุ่มตลาดระยะไกลที่มีศักยภาพสูง
ใช้จ่ายเงินท่องเที่ยวสูงเฉลี่ย 80,000
บาท/คน/ทริป เปรียบเทียบกับค่าใช้จ่ายกับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยรวมเฉลี่ยเพียง
4-50,000 บาท/คน/ทริป
ปี 2567 ตลอด 10
เดือนแรก ตั้งแต่ 1 มกราคม - 31 ตุลาคม 2567 ซาอุดีอาระเบียเดินทางท่องเที่ยวไทย188,276 คน เพิ่มขึ้น 30 % ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มครอบครัว
3-5 คน มีวันพักเฉลี่ย 11.4 คืน นิยมแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล อาหาร สปา สถานบันเทิง
และชอปปิ้ง เลือดเส้นทางหลัก ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา กระบี่ สมุย
(สุราษฎร์ธานี) รวมทั้งสนใจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งเป็นโอกาสของไทยในระยะยาวที่จะขยายฐานลูกค้าซาอุดีอาระเบียและตะวันออกกลางควบคู่ไปด้วยกัน
@ไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวซาอุฯเข้าภูเก็ตอบอุ่นประทับใจ
ปัจจุบันสายการบินซาอุเดียเปิดบินตรง
ไป-กลับ ซาอุดิอาระเบีย-ไทย จากกรุงริยาด ด้วยเที่ยวบิน
SV 852 มาถึงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต เริ่ม 2 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป
บริการ 3 เที่ยว/สัปดาห์ ทุกวันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์
และจากเจดดาห์ ด้วยเที่ยวบิน SV 850 ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต เริ่ม 4 ธันวาคม
2567 เป็นต้นไป บริการ 3 เที่ยว/สัปดาห์
ทุกวันวันพุธ วันศุกร์ และวันอาทิตย์
ข่าวที่
6-บางจากปันน้ำใจช่วยน้ำท่วมใต้มอบบัตรเติมน้ำมัน-น้ำดื่ม
นางกลอยตา ณ ถลาง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่
งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
บางจากฯ ทำโครงการช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ โดยได้มอบ “บัตรเติมน้ำมันบางจาก”
ให้พลเรือโทธันยกร เสนาลักษณ์ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ กองทัพเรือ
นำไปใช้ในภารกิจการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมพื้นที่ภาคใต้ เมื่อประชาชนสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือจากศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ
ซึ่งเป็นศูนย์กลางเปิดสายด่วนสาธารณภัยกองทัพเรือ หมายเลข 1696 ทุกวันตลอด
24 ชั่วโมง
เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและสำรวจพื้นที่และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
พร้อมกับเชิญชวนลูกค้าที่เติมน้ำมันบางจากทั่วประเทศที่เข้าร่วมรายการแล้วได้รับแจกน้ำดื่ม
1.5 ลิตร ก็สามารถนำน้ำดังกล่าวร่วมบริจาคให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ที่ยังอยู่ในภาวะวิกฤต จัดทำผ่านแคมเปญ "บางจากฯ ชนปันน้ำใจ
ช่วยผู้ประสบภัย มอบน้ำดื่มหนึ่งล้านขวด” ต่อเนื่อง ตั้งแต่วันนี้- 31 ธันวาคม
2567 หรือจนกว่าจะครบ 1 ล้านขวด
ช่วงที่ผ่านมาบางจากได้ส่งมอบน้ำดื่มในพื้นที่ประสบอุทกภัยภาคใต้กับทางหน่วยงานต่าง
ๆ เช่น สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดยะลา เทศบาลนครยะลา
สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดปัตตานี องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปัตตานี
สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา โรงพยาบาลเทพา จังหวัดสงขลา
รวมถึงมอบบัตรเติมน้ำมันให้กับหน่วยงานราชการ องค์กร มูลนิธิ ทีมอาสาสมัคร ฯลฯ
เช่น ทีมใจถึงใจคนไทยไม่ทิ้งกัน
นางกลอยตา ย้ำว่า ทุกภาคส่วนในบางจากฯ พร้อมร่วมส่งกำลังใจให้พี่น้องประชาชนภาคใต้ที่กำลังประสบภัยน้ำท่วม
และทีมช่วยเหลือจากหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ กับอาสาสมัครจากทุกหน่วยงาน
ขอให้ทุกคนปลอดภัยและสถานการณ์คลี่คลาย เพื่อกลับมาใช้ดำเนินชีวิตตามปกติโดยเร็ว
ช่วงที่ 2 หนาวแล้วไปแอ่วเหนือด้วยกัน สุขทันทีที่ “แม่ฮ่องสอน” สัมผัสความเย็น
ทำกิจกรรมกลางธรรมชาติ พายซับบอร์ดรับลม แช่ออนเซ็นดับไอหนาว 3 สไตล์ แล้วฟัง “5ประโยชน์การนอนตะแคง”
เกาะติดข่าวฮ็อต ๆ ข่าวแรก “DUSIT ปริ๊นเซสมะละกาเปิดแห่งแรก” 7 ธ.ค.67 ขานรับอินบาวนด์ในมาเลเซียโต ข่าวที่สอง “AOTร่วมABG
ถกสนามบินโลกนำสุวรรณภูมิฮับการบิน
ท่องเที่ยว –รับลมหนาวแม่ฮ่องสอนพายซับบอร์ด-แช่ออนเซ็น3สไตล์
ชวนขึ้นเหนือไปสัมผัสไอหนาวที่
“แม่ฮ่องสอน” ตอนนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
กับสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวสุขภาพจังหวัดแม่ฮ่องสอน และ SSJ
ATV ชวนรับลมหนาวทำกิจกรรมซิกเนเจอร์ พายซับบอร์ด แช่ออนเซน
แอดเวนเจอร์ กลางธรรมชาติ ที่ “บ้านเมืองแพง” วันนี้ -31 มกราคม
2568
พายซับบอร์ด
มีราคาพิเศษ ครึ่งวัน 999 บาท จากปกติ 1,500 บาท
ลัดเลาไปตามแม่น้ําปาย : บ้านเมืองแปง ไปจนถึง ท่าน้ําดี ธีฆอ ระยะทาง: 4 กิโลเมตร
ใช้เวลา ราว 1-2 ชั่วโมง ถ้าต้องการกระดานยืน ก็เพิ่มอีก 1,500 บาท/คน/กระดาน
รวม“แช่ออนเซน” บ่อน้ําพุร้อนเมืองแพง ราคารวมไกด์ น้ำดื่ม ประกันภัย
รถรับส่งไป-กลับ ภายในอําเภอปาย
สอบถามSSJ
ATV ปาย โทร. /Line ID/WhatsApp
ได้ที่เบอร์เดียวกัน 083-066-8683
แพกเกจไฮไลต์
“แช่ออนเซ็น” ท่ามกลางธรรมชาติ 3 สไตล์
ที่สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดแม่ฮ่องสอน
วิสาหกิจชุมชนน้ำพุร้อนปาย จัดโปรโมชั่นพิเศษ ระหว่างวันนี้ -28 กุมภาพันธ์ 2568
ซื้อบัตรออนเซ็นได้ที่
วิสาหกิจชุมชนน้ําพุร้อนปาย โทรศัพท์: 057-065-096 WhatsApp: +66855463665 Facebook: Pai Water Therapy / www.paionsen.com
สไตล์ที่
1 กลางทุ่งข้าว หรือ Rice Field
ลดเหลือ 350 บาท/คน และแช่บ่อส่วนตัวจ่าย 1,500 บาท/คน ได้นาน 3 ชั่วโมง ในบ่อน้ําพุร้อนออกแบบและตกแต่งเป็นออนเซ็นส่วนตัว
รายล้อมด้วยทิวทัศน์ทุ่งนาและสวนเกษตรผสมผสาน
พร้อมศูนย์เรียนรู้การเกษตรเพื่อการเกษตรและปศุสัตว์
มีบริการนวดไทยและทําสมาธิด้วยการบําบัดด้วยน้ํา
สามารถลงแช่ในบ่อน้ำพุร้อนอุณหภูมิ
30-40 องศาเซลเซียส มีขนาดใหญ่ 2 บ่อ แช่ได้ครั้งละ 4
คน / บ่อ และน้ำพุเย็นแช่ได้บ่อละ 2 คน
เปิดทุกวัน 08:00 - 06:00 น.
ภายในน้ำพุร้อนแห่งนี้ยังมีบริการนวดไทย วารีบําบัด จอดรถ
นำสัตว์เลี้ยงเข้ามาได้ และฟรี
Wi-Fi
สไตล์ที่
2 Zen Garden ราคาพิเศษ 350 บาท
และจองใช้บริการส่วนตัว 1,500 บาท/3ชั่วโมง ในบรรยากาศสวนสไตล์ญี่ปุ่นส่วนตัว
กับบ่อน้ำพุร้อนออกแบบและตกแต่งออนเซ็นส่วนตัว โดดเด่นด้วย “สวนหลังบ้านของชุมชน”
เหมือนสวนญี่ปุ่น อยู่ตรงข้ามค่ายช้าง Thom's Pai Elephant เหมาะกับคู่รัก
เพื่อน ครอบครัว มีบริการนวดไทยและทําสมาธิด้วยวารีบําบัด
เปิดบริการน้ำพุร้อนอุณหภูมิประมาณ
30-40 องศาเซลเซียส ด้วย 2 น้ำ คือ “บ่อน้ำพุร้อน” สี่เหลี่ยมขนาดใหญ่สําหรับ 6
คน กับ
“บ่อน้ำพุเย็น” สําหรับ 2 คน ให้บริการทุกวัน
08:00 - 06:00 น.
สิ่งอํานวยความสะดวก:
บริการนวดไทย, บําบัดน้ํา, ที่จอดรถ, สัตว์เลี้ยงได้, Wi-Fi
สไตล์ที่
3 วิวภูเขา (วิวกองลาน) ราคา 250 บาท/คน/3
ชั่วโมง เป็นบ่อน้ําพุร้อนออกแบบและตกแต่งออนเซ็นส่วนตัว
มีไฮไลท์คือทิวทัศน์พระอาทิตย์ตกดินเหนือโขงลานแลนด์มาร์กสําคัญในปาย
มีบริการนวดไทยและทําสมาธิผ่านน้ําบําบัด
บริการ
น้ำพุร้อน 8 บ่อ มีบ่อร้อนขนาดใหญ่ลงพร้อมกันได้ถึง 12 คน / บ่อ กับน้ำพุเย็นลงได้
4 คน เวลาทําการ: 08:00 - 06:00 น.มีบริการนวดไทย, บําบัดน้ํา, ที่จอดรถ, สัตว์เลี้ยงได้,
Wi-Fi
การท่องเที่ยวของ
ประเทศไทย (ททท.) สํานักงานแม่ฮ่องสอน โทร.0 5361 2982-3 (เวลาทําการ:
จันทร์-ศุกร์ 08:30 น. – 04:30 น.)อีเมล: tatmhs@tat.or . th Facebook
Fanpage : ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน TAT. Maehongson
สุขภาพ
–5 ประโยชน์ของการนอนตะแคงที่คุณอาจยังไม่รู้รีบทำด่วน
หากพูดถึง
“ท่าทางในการนอน ใคร” ผู้เชี่ยวชาญต่างแนะนำ “ท่านอนตะแคง” จะส่งผลดีต่อร่างกายได้มากกว่าที่หลายคนคิด
ช่วยลดนอนกรน ป้องกันภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ช่วยเรื่องย่อยอาหาร ลดอาการกรดไหลย้อน บรรเทาอาการปวดหลังปวดคอ
เหมาะกับผู้หญิงตั้งครรภ์ และส่งเสริมการทำงานของสมอง
5 ประโยชน์ดี ๆ จากการนอนตะแคง ได้แก่
1. ลดการนอนกรน ป้องกันภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เพราะท่านอนหงาย บริเวณขากรรไกร
ลิ้น และเนื้อเยื่ออ่อนภายในลำคอจะหย่อนคล้อยลง ทำให้ช่องทางเดินหายใจโดยรวมตีบแคบ
หายใจลำบาก และมีผลให้เกิดเสียงกรนออกมา ส่วน “ท่านอนตะแคง” แล้ว
อาการกรนจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะช่องทางเดินหายใจโล่งโปร่งขึ้นนั่นเอง
ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้อีกด้วย
2. ช่วยย่อยอาหาร ลดอาการกรดไหลย้อน -กระเพาะอาหารคนเรามีรูปทรงคล้ายตัวซี และอยู่เยื้องไปทางซ้าย
เมื่อนอนคว่ำหรือนอนหงาย มักมีโอกาสที่น้ำย่อยจะไหลย้อนขึ้นมาตรงคอได้ “ท่านอนตะแคงซ้าย”
” จึงช่วยให้น้ำย่อยทำงานได้ดีกว่า เพราะกระเพาะอาหารจะอยู่ต่ำกว่าหลอดอาหาร
ประกอบกับมีแรงโน้มถ่วงโลก ลดโอกาสเกิดกรดไหลย้อน ไม่แสบร้อนกลางอก
และเพิ่มประสิทธิภาพการย่อยอาหารได้มากกว่า
3. ลดอาการปวดหลัง ปวดคอ -การนอนตะแคง
ทำให้กระดูกสันหลังเรียงตัวเป็นธรรมชาติ ช่วยลดแรงกดทับที่กระดูกสันหลัง
ช่วยป้องกันไม่ต้องเสี่ยงเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเพิ่ม ใครที่เริ่มมีอาการปวดหลัง
แนะนำให้ลองท่านอนตะแคงแบบงอเข่าเล็กน้อย
ใช้หมอนข้างสอดไว้ระหว่างขาทั้งสองข้างจะช่วยให้สะโพกอยู่ในแนวเดียวกับกระดูกสันหลังมากขึ้น
และยังได้ประโยชน์จากการนอนกอดหมอนข้างไปในตัว
4. ดีต่อคุณแม่ตั้งครรภ์ -วิธีนี้จะช่วยลดอาการปวดหลังทั้งคืนได้มากขึ้น
และแนะนำควรนอนตะแคงซ้าย
เพราะจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดได้ทั้งต่อคุณแม่และลูกในท้อง
ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายมากขึ้น คุณแม่ก็จะได้นอนหลับอย่างสบายมากขึ้น
5. เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของสมอง -งานวิจัยของมหาวิทยาลัยสโตนีบรูค สหรัฐอเมริกา
ปี 2015 พบว่าสมองของเรามีระบบกำจัดของเสียที่เรียกว่า Glymphatic
System ทำงานคล้ายกับระบบต่อมน้ำเหลืองในร่างกาย
ถ้าหากระบบนี้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอัลไซเมอร์
สมองเสื่อม หรือโรคทางระบบประสาทอื่น ๆ ก็จะยิ่งลดน้อยลง เพราะทำให้สารพิษในสมอง
เช่น อัลมีลอยด์ บีตา (Amyloid Beta) หรือโปรตีนเทา (Tau
Proteins) ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคดังกล่าวถูกกำจัดไป
เห็นได้จากการทดลองในหนูพบว่า
สมองของหนูที่นอนตะแคงสามารถกำจัดอัลมีลอยด์ บีตาได้ดีกว่าหนูที่นอนคว่ำมากถึง 25 % นักวิทยาศาสตร์จึงได้ข้อสรุปว่าระบบ Glymphatic
System จะทำงานได้ดีตอนที่เรานอนหลับลึก
โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในท่านอนตะแคง
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
–DUSITปริ๊นเซสมะละกา”เปิดแห่งแรก7ธ.ค.นี้รับตลาดมาเลย์โต
มร.จิลส์
เครทัลลาซ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ
ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า
โรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล เตรียมประกาศเปิดตัวโรงแรมแห่งแรก
“ดุสิต ปริ๊นเซส มะละกา” ในมาเลเซีย เริ่มวันที่ 7 ธันวาคม
2567 เป็นต้นไป นำทำเลยอดเยี่ยมตั้งอยู่ใจกลางเมืองมะละกามรดกโลกของยูเนสโกที่มีชื่อเสียงด้านวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันมีชีวิตชีวา
เป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวระดับโลกเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยจุดขายผสมผสานระหว่างมรดกทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่างลงตัว
ล่าสุดรัฐมะละกา
มาเลเซีย ประกาศเมื่อเดือนกันยายน 2567 ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้วถึง 10 ล้านคน
ซึ่งเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้เพียง 8.7 ล้านคน มีตลาดสำคัญอย่าง
จีน สิงคโปร์ ทำให้โรงแรมดุสิต ปริ๊นเซส มะละกา พร้อมจะตอบสนองความต้องการนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
โรงแรมดุสิต
ปริ๊นเซส มะละกา เน้นบริการต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างอบอุ่นตามเอกลักษณ์แบบไทย
กับการออกแบบร่วมสมัยตอบโจทย์นักเดินทางทั้งกลุ่มธุรกิจและการพักผ่อน โดยตั้งอยู่ในอาคารเดิมของโรงแรมรามาดา
พลาซ่า มะละกา ซึ่งได้ปรับปรุงและเปลี่ยนชื่อใหม่ทั้งหมด
เพื่อสะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบรนด์ดุสิต ปริ๊นเซส มาตรฐานบริการระดับกลางบนขึ้นไป
@ชูดจุดขายเด่น4เรื่องโดนใจนักธุรกิจ-ท่องเที่ยว
โรงแรมดุสิต
ปริ๊นเซส มะละกา ย้ำจุดเด่น 4 เรื่อง คือ เรื่องที่ 1 ทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโดดเด่นเหนือใคร
เรื่องที่ 2 ใกล้แหล่งท่องเที่ยวสามารถไปชมมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าและสถานที่ทางประวัติศาสตร์เมืองมะละกา
เรื่องที่ 3 อยู่ในย่านธุรกิจคึกคักและสถานที่สำคัญยอดนิยม
เช่น จัตุรัสดัตช์ เนินเขาและโบสถ์เซนต์พอล ป้อมอาฟาโมซา ตลาดถนนยองเกอร์
ล้วนอยู่ไม่ไกล เรื่องที่ 4 อยู่ไม่ไกลจาก 2 สนามบินนานาชาติ คือ สนามบินมะละกาเดินทางโดยรถยนต์ใช้เวลาเพียง 17
นาที และสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที
ตั้งแต่
7 ธันวาคม 2567 จึงได้จัดเฉลิมฉลองการเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการ
ด้วยแพ็คเกจแนะนำสุดพิเศษทั้งการเข้าพักและรับประทานอาหาร ผ่านช่องทาง dusit.com/dusitprincess-melakaหรือทางโซเชียลมีเดีย Facebook ,Instagram ที่ @dusitprincessmelaka
@จัดเต็มบริการ
“ห้องพัก/อาหาร/ออกกำลัง/ประชุม”
ดุสิต
ปริ๊นเซส มะละกา มาเลเซีย มี “ห้องพัก” รวมทั้งหมด 296 ห้อง เลือกได้ตั้งแต่ “ห้องดีลักซ์” ขนาดพื้นที่กว้างขวางและตกแต่งอย่างหรูหราพร้อมวิวเมืองไปจนถึง
“ห้องเพรสซิเดนเชียลสวีท” โอ่อ่าออกแบบพิถีพิถัน ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทันสมัยและรายละเอียดที่ใส่ใจ
เพื่อให้แน่ใจถึงการรองรับตลาดหลัก ได้แก่ กลุ่มครอบครัว นักเดินทางคนเดียว
และผู้บริหารหรือนักธุรกิจ เลือกเข้าพักเพื่อผ่อนคลายและสนุกสนานกับทุกกิจกรรม
“ห้องออกกำลังกาย”
พร้อมอุปกรณ์ครบครัน สระว่ายน้ำขนาดใหญ่เพื่อการผ่อนคลายและฟื้นฟูร่างกาย ต้อนรับตลาดกลุ่มดูแลสุขภาพได้เป็นอย่างดี
“ห้องอาหาร”
เปิดให้ผู้เข้าพักได้เพลิดเพลินกับประสบการณ์รับประทานอาหารอย่างหลากหลาย เช่น “Zest” ร้านอาหารเปิดบริการตลอดทั้งวันพร้อมบุฟเฟต์กับเมนูเลิศรส ห้อง “Long Feng” ร้านอาหารเมนูท้องถิ่นยอดนิยมขึ้นชื่อด้านอาหารจีนต้นตำรับและติ่มซำอันเป็นเอกลักษณ์ของห้องนี้
“ห้องประชุม”
และการสังสรรค์ทางสังคม มีสิ่งอำนวยความสะดวกอันทันสมัย ด้วยห้องบอลรูมขนาดใหญ่รองรับแขกได้ครั้งละถึง
1,000 คน บรรยากาศร่มรื่นทันสมัยเหมาะจัดงานกิจกรรมทุกรูปแบบ
จิลส์
เครทัลลาซ กล่าวว่า ยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เปิดตัวโรงแรมดุสิต
ปริ๊นเซส
มะละกาถือเป็นโรงแรมแห่งแรกในมาเลเซียที่นำเสนอบริการอันอบอุ่นและเป็นกันเองแบบไทย
การเปิดตัวครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่ในการขยายธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทเครือดุสิต
ความสะดวกสบายสบาย บริการที่จริงใจจึงมั่นใจจะเป็นโรงแรมจุดหมายปลายทางของนักเดินทางชื่นชอบ
แล้วยังเป็นประตูสู่ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันมีชีวิตชีวาของมะละกาด้วย
ข่าวที่สอง
-AOTถกABG CEOนำตัวชี้วัดใหม่ดันสุวรรณภูมิฮับการบิน
ดร.กีรติ
กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท
ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT” เปิดเผยว่า นำผู้บริหารมีนางศรัญญา บุณยวัทน์
ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานยุทธศาสตร์ เข้าร่วมการประชุม Airport
Benchmarking Group (ABG): CEO Meeting & Steering Group ที่กรุงมิวนิก
เยอรมนี ระหว่าง 4 – 6 ธันวาคม 2567
ที่หน่วยงาน Transport Strategy Centre (TSC) แห่งอิมพีเรียล
คอลเลจ ลอนดอน
เปิดเวทีให้สมาชิกท่าอากาศยานชั้นนำของโลกได้มาแลกเปลี่ยนความรู้และเปรียบเทียบผลการดำเนินงานตามตัวชี้วัดสำคัญ
หรือ KPI นำไปพัฒนาและกำหนดกลยุทธ์ยกระดับการดำเนินงานให้เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติที่ดีร่วมกันอย่างต่อเนื่อง
และสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายในการเป็นท่าอากาศยานที่ดีระดับโลก
ดร.กีรติ
กล่าวว่า AOT นำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
เข้าร่วมอยู่ในสมาชิกกลุ่ม ABG มีความมุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนาขีดความสามารถและการบริหารจัดการท่าอากาศยานอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยจะนำผลการหารือในเวทีการประชุม Airport Benchmarking Group (ABG): CEO
Meeting & Steering Group ปี 2567 ไปปรับใช้พัฒนาท่าอากาศยานของ
AOT ทั้ง 6 แห่ง
ควบคู่กับขับเคลื่อนสุวรรณภูมิสู่การเป็นท่าอากาศยานศูนย์กลางการบินในภูมิภาค หรือ
Regional Aviation Hub ตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป
สำหรับกลุ่ม
ABG : Airport Benchmarking Group ก่อตั้งขึ้นโดยความร่วมมือกันระหว่าง
Transport Strategy Centre (TSC) อิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน
ท่าอากาศยานลอนดอนฮีทโธรว์ ท่าอากาศยานฮ่องกง ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งสิ้นรวม 10 ท่าอากาศยาน ได้แก่ ลอนดอนฮีทโธรว์ มิวนิก อัมสเตอร์ดัมสคิปโฮล ฮ่องกง
โทรอนโตเพียร์สัน ซิดนีย์ คิงส์ฟอร์ด สมิท ปารีส-ชาร์ล เดอ โกล อินทิรา คานธี
ลอสแอนเจลิส และสุวรรณภูมิ
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น