วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2567

ดร.ศุภวรรณ ตีระรัตน์ นำสถาบันอาหารพลิกโฉมปี68 -เชิญนายกฯอิ๊งครม.เปิดใหญ่ซอฟท์พาวเวอร์อาหาร19ธ.ค.67


ดร.ศุภวรรณ ตีระรัตน์

ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร Ufi

ดร.ศุภวรรณ ตีระรัตน์ นำสถาบันอาหารพลิกโฉมตลาดโลกปี68

นายกฯอิ๊งพร้อมครม.เปิดใหญ่ซอฟท์พาวเวอร์อาหาร19ธ.ค.67

ปั้น “1หมู่บ้าน1เชฟไทย-ร้านอาหารชุมชน”ผนวกไมซ์&ท่องเที่ยว

คิงเพาเวอร์เปิดวาร์ปช้อปที่สนามบินลด10%แจกโปรลับคนไทย

คิงเพาเวอร์รางน้ำเปิดแล้วบูทีก DAMIANIช้อปอัญมณี 100 ปี

ททท.รับ“แอร์คาลิน”ปี67นำฝรั่งเศสได้ตามเป้า 4.19 หมื่นล้าน

บางจากปลุกพลังเยาวชนลุยเปิดสถานีทอดไม่ทิ้งทำน้ำมัน SAF

บางจากร่วมทุน“ไทยคาลิ”ลดนำเข้าปุ๋ยหมื่นล้านหนุน ศก.ยั่งยืน

สุขที่ได้เที่ยวหัวหินเทศกาลแจ๊สโลก-ชมคริสต์มาส-ชิมสตรีทฟู้ด

6 กลุ่มอาหารควรกินช่วงหน้าหนาวช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย

ดุสิตพัทยารุกขายดินเนอร์2เทศกาลคริสต์มาส-ปีใหม่2-4พันบาท

รร.เดอะริทซ์-คาร์ตันในOneBangkokปีใหม่ยอดจองเกือบ100%

วันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #บางจาก #TCEB  #ศุภวรรณตีระรัตน์ #สถาบันอาหารUfi

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/1BCd8oFcSB/

ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ ดร.ศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการ สถาบันอาหาร (Ufi) เปิดโครงการใหญ่ “ซอฟท์ พาวเวอร์ อาหาร” 19 ธ.ค.นี้ ที่ทำเนียบ “นายกฯ อิ๊งค์” พร้อมรมว.กระทรวงอุตสาหกรรม ประธาน THACCA ร่วมส่งเสริมเต็มที่ ปี’68 ใช้งบ 500 ล้านบาท ขับเคลื่อน 4 โครงการ “1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย-ยกระดับร้านอาหารชุมชน-จัดซื้อเครื่องจักร-พัฒนาผลิตภัณฑ์” ตั้งเป้าเพิ่มผลลัพธ์เกิน 200 % เปิดหลักสูตรสอนเชฟทั่วไทย 18,300 คน อบรม 240 ชั่วโมง รับใบประกาศก้าวสู่อาชีพได้ทั้งในและต่างประเทศ

ดร.ศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการ สถาบันอาหาร (Ufi) เปิดเผยว่า ทางสถาบันอาหารมีโครงการใหญ่ ตามนโยบายกระทรวงอุตสาหกรรมปี 2568 มุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่าอาหารด้วยการแปรรูปส่งออก โดยเฉพาะอาหารเทรนด์ 4 กลุ่ม Future Food, Functional Food, Plant Base และ Alternative Food เตรียมเปิดตัวโครงการ “ซอฟท์ พาวเวอร์ อาหาร” วันที่ 19 ธันวาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล สอดคล้องตามนโยบายรัฐบาลไทยที่ได้ดึงความน่าสนใจทุนทางวัฒนธรรมด้านภูมิปัญญามาขยายผลสื่อเป็น ซอฟท์ พาเวอร์ โดยมี “อุตสาหกรรมอาหาร” เป็น 1 ใน 11 อุตสาหกรรม ซึ่งอาหารเป็นคลัสเตอร์ดึงดูด นักท่องเที่ยว การส่งออก วิถีชีวิต ทำให้เกิดการซื้อขายสร้างรายได้ในตลาดส่งออกทั่วโลก

           

การเปิดตัวโครงการวันที่ 19 ธันวาคม นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ : THACCA-Thailand Creative Culture Agency เชฟชุมพล แจ้งไพร ประธานอนุกรรมการคณะกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอาหาร THACCA รวมทั้งสมาคมเชฟ เชฟที่มีชื่อเสียง และอาจารย์ผู้สอน

 

รวมทั้งการลงนามข้อตกความร่วมมือกับหน่วยงานเกี่ยวข้องการให้ประกาศนียบัตรหลักสูตรเชฟ เช่น กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมอนามัย รับรองอาชีพ และมหาวิทยาลัย สถาบันอาชีวะศึกษา ซึ่งมี “Kichen Station” สถานที่สอนและเรียน ภายในงานนี้จะมีผู้เข้าร่วม 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ ผู้ประกอบการ สถาบันการศึกษา ผู้สนใจอาชีพเชฟ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง

 

โดยจะสาธิตโครงการที่ต้องขับเคลื่อนตลอดปี 2568 ประกอบด้วย 4 โครงการได้แก่ 1.หนึ่งหมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย 2.ร้านอาหารชุมชน 3.จัดซื้อเครื่องจักร เครื่องมือผลิตมาไว้ที่ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมในแต่ละภูมิภาค ทั่วประเทศมี 11 แห่ง 4.พัฒนาผลิตภัณฑ์ เข้าไปช่วยผู้ประกอบการพัฒนาสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มสมุนไพร สุราพื้นบ้าน ต้องหาวิธีทำให้ได้มาตรฐาน ยกระดับสินค้าพื้นบ้าน ปลอดภัย รสชาติดี

           

เบื้องต้นทางกระทรวงอุตสาหกรรม ต้นสังกัด “สถาบันอาหาร” มอบนโยบายให้เร่งดูแลต่อเนื่องไฮไลต์ 2 โครงการใหญ่ ปี 2568 ได้แก่

 

โครงการที่  1 ยกระดับร้านอาหารชุมชน จะต้องได้รับการยกระดับมาตรฐานให้มี “เมนู” น่าสนใจดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยจะต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ในร้านอาหารยืดอายุวงจรชีวิตอาหารแต่ละชนิดได้ (Shelf life) เพื่อให้ขายได้ แทนการอยู่ได้แค่7 วัน เป็น 1 เดือน หรือ 1 ปี

 

โครงการที่ 2 หนึ่งหมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย จะต้องผลิตเชฟเปิดรับสมัครผู้สนใจอายุ 18-60 ปี รวมทั้งสิ้นกว่า 18,300 คน แบ่งเป็น 2 เฟส เฟสแรก รับจำนวน 1,300 คน เมื่อกุมภาพันธ์ 2567 จาก 2 ภูมิภาค คือ ภาคกลางกับภาคอีสาน เฟส 2 รับจำนวน 17,000 คน ภายในกุมภาพันธ์ 2568 จากทั่วประเทศ

 

สร้างสรรค์เชฟให้เป็นฑูตวัฒนธรรมทางอาหารสื่อไปทั่วโลก โดยเน้นอาหารไทยแท้ ด้วยการทำทั้งหมด 50 หลักสูตร ความสำคัญคือเป็นโครงการเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้ามาเรียนรู้ผ่านทางออนไลน์ได้ด้วย นอกเหนือการผลิตเชฟที่ได้มาตรฐานและความรู้ไปประกอบอาชีพ ตลอดการอบรมจัดให้มีเมนูจากเชฟชื่อดัง และอินฟลูเอนเซอร์ยินดีมอบให้ผู้สนใจรวม 15 เมนู ไม่ว่าจะเป็น เมนูไข่พะโล้ ของเอ-ศุภชัย เมนูใหม่ของคุณพ่อลิซ่า ไข่เจียวปู-เจ๊ไฝ เมนูของดร.สุเมธ มูลนิธิชัยพัฒนา เป็นเมนูอาหารถิ่นเพชรบุรี

 

ปลายเดือนธันวาคม 2567 เปิดอบรมวิทยากรมืออาชีพ (Train the Trainer)” รวม 325 คน ซึ่งทางสถาบันอาหารได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับกระทรวงและสถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้อง ได้แก่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สถาบันอาชีวะศึกษา อาจารย์ผู้สอนที่สนใจสามารถลงสมัครร่วมถ่ายทอดความรู้ให้เชฟต่าง ๆ เน้นสอนการทำอาหารไทยคัดสรรเมนูที่มีชื่อเสียงมาสอนทั้งหมด

 

ระบบการเรียนการสอนผ่านออนไลน์ นโยบาย 1 ครอบครัว 1 Soft Power หรือ OFOS/โอฟ้อส โดยมีหน่วยงานดิจิวัล

 

เบื้องต้นสถาบันอาหารได้รับงบประมาณเพื่อนำไปช่วยสนับสนุนหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วยในวงงินรวม 500 ล้านบาท ทั้งการกระจายทำโครงการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ค่าอบรมเชฟทั่วประเทศ และสร้างการรับรู้พัฒนาอาหาร การทำตลาดให้หมวดอาหารที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดเพิ่มมูลค่าอย่างมีนัยสำคัญ

 

ดร.ศุภวรรณ กล่าวว่า ทุกโครงการที่ลงทุนใช้งบประมาณไป 4 โครงการ จะต้องได้ผลตอบแทนเฉลี่ยแล้วเกิน 200 % ตัวอย่าง “โครงการยกระดับร้านอาหารชุมชน” ขณะนี้เริ่มดำเนินการแล้วโดยคัดเลือกร้านอาหารในภาคกลาง กับอีสาน ช่วง  3 เดือนนี้ จะเปิดตัว 40 ร้าน มีผู้สมัครเข้าร่วมเกือบ 100 ร้าน ซึ่งมีตัวชี้วัด (KPI) ชัดเจนเมื่อเข้าอบรมครั้งนี้แล้วจะเกิดการพัฒนา เมนู การพัฒนาสถานที่ การเรียนออนไลน์ ทำตลาดออนไลน์ ดึงดูดลูกค้า เพิ่มรายได้รวมแล้วไม่น้อยกว่า 15 % แล้วยังสามารถขยายผลให้เครือข่ายร้านของฝากในชุมชนได้ด้วย

 

หรือโครงการ “ผลิต 1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย” ปี 2568 ทั่วประเทศรวมแล้วเกือบ 18,300 ราย ต้องผ่านการเรียนการสอน 240 ชั่วโมง แบ่งเป็น การเรียนออนไลน์ 90 ชั่วโมง แล้วจะต้องลงมือปฏิบัติจริงลงมือทำอาหารเมนูต่าง ๆ อีก 150 ชั่วโมง จากนั้นต้องผ่านการรับรองจากสถาบันวิชาชีพด้วยการตรวจของสถาบันฝีมือแรงงานหรือกรมอนามัย

 

ทางสถาบันอาหารได้ร่วมกับกลุ่มธุรกิจโรงแรมไทย ร้านอาหารรายใหญ่ สถานฑูตไทยในต่างประเทศ เพื่อส่งเชฟที่ผ่านการอบรมเข้าไปทำงานยังร้านอาหารต่างๆ โดยคาดหวังจะมีคนเรียนจบหลักสูตรเชฟไม่ต่ำกว่า 80 % แล้วก็ยังต้องเข้ามาผ่านกองทุนหมู่บ้านด้วย ส่วนระบบ OFOS จะเปิดใช้งานเรียนและสอนผ่านออนไลน์

 

ส่วน “อาหารกับการท่องเที่ยว” มีจุดเชื่อมโยงเพิ่มรายได้โดยเริ่มจาก “ชุมชน” ซึ่งเป็นสถานที่ดึงดูดท่องเที่ยวเข้าไปใช้บริการ ปัจจุบันยังขาดการบูรณาการความร่วมมือ ทางสถาบันอาหารจึงร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” นำร่องทำโครงการกับทีเส็บภาคอีสาน เปิดตัว MICE Coffee Break ทำเมนูให้ถูกใจกลุ่มตลาดประชุมสัมมนา พร้อมกับดึงอัตลักษณ์ชุมชนให้โดนใจผู้ใช้บริการ

 

ซึ่งจะมีลักษณะใกล้เคียงกับ โครงการ ซอฟท์ พาวเวอร์ อาหาร ด้วยเช่นกัน เพราะเรื่องแรกที่ต้องทำคือ 1.“อาหารปลอดภัย :Food Safty” มาก่อนรสชาติ เพื่อให้นักเดินทางสบายใจเมื่อเลือกรับประทานอาหารในพื้นที่ชุมชน 2.สร้างเมนูประจำถิ่น 3.สอนเทคนิคการทำตลาดขายอาหารผ่านออนไลน์ นอกเหนือจากนักเดินทางที่เสาะแสวงหามาหาร้านตามซอกมุมต่าง ๆ

 

ปัจจุบันเทรนด์โลกจะมุ่งสู่ “อาหารอนาคต-Future Food” มากเป็นอันดับต้น ๆ มีทั้ง อาหารเพื่อสุขภาพ ชะลอวัย อาหารเฉพาะโรค เช่น ความดัน เบาหวาน สำคัญที่สุดตอนนี้ “ผู้ประกอบอาหาร” จะต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะที่อยู่ไลน์โปรดักซ์ Food lost-Food Waste-Food Ugly บางครั้งผู้ประกอบการทิ้ง หรือเกษตรกรทิ้งโดยไม่สนใจส่วนประกอบของวัตถุดิบ ตอนนี้สามารถมีการอาหารเหล่านี้นำมาแปรรูปแล้วทำยอดขายได้ดีมาก จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการมาใช้สถาบันอาหารยินดีจะให้คำแนะนำและใช้อุปกรณ์เครื่องจักรต่าง ๆ พัฒนาอุตสาหกรรมอาหารก้าวสู่ความยั่งยืนได้อย่างเข้มแข็งในอนาคต

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1-คิงเพาเวอร์เปิดวาร์ปช้อปที่สนามบินลด10%แจกโปรลับคนไทย

คิงเพาเวอร์ เปิดวาร์ปความคุ้มที่สนามบิน ช้อปฟินได้ไม่สิ้นสุดส่งท้ายปี มีบินทั้งทีต้องช้อปแบบจัดหนักจัดเต็มก่อนออกทริปสำหรับนักเดินทางชาวไทย ช้อปสินค้าน้ำหอมและเครื่องสำอาง

1.รับส่วนลดสุดปัง 10% เมื่อช้อปครบ 10,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ วันนี้ 5 ม.ค. 2568 ที่ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ และภูเก็ต

พิเศษ! สำหรับสมาชิก คิง เพาเวอร์ ลดสุดคุ้ม 10%

+ ได้ลดเพิ่ม 5% เมื่อช้อปครบ 10,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ

+ ได้ลดเพิ่ม 10% เมื่อช้อปครบ 20,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ

2.โปรลับพิเศษเฉพาะนักเดินทางชาวไทย เท่านั้น!

ช้อปครบ 5,000 บาท (สุทธิ) ขึ้นไป / ใบเสร็จ รับเลยทันทีคูปองส่วนลด 500 บาท เพื่อนำไปใช้ช้อป 1,000 บาท (สุทธิ) กับสินค้าที่ร่วมรายการ วันนี้– 5 มกราคม 2568 ที่ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ และภูเก็ต

 

ข่าวที่ 2 -คิงเพาเวอร์รางน้ำเปิดแล้วบูทีก DAMIANIช้อปอัญมณี100ปี

 

เปิดแล้ว! บูทีก DAMIANI คิง เพาเวอร์ รางน้ำ สัมผัสความหรูหราระดับตำนานกับ DAMIANI แบรนด์จิวเวลรีชั้นสูงจากอิตาลีที่สืบสานศิลปะแห่งความงามและงานฝีมือมานานกว่า 100 ปี

 

พบกับผลงานระดับมาสเตอร์พีซอันทรงคุณค่า รังสรรค์ด้วยความประณีตใส่ใจในทุกขั้นตอน

- Belle Époque และ Belle Époque Reel: ความงามที่เป็นนิรันดร์

- Margherita: แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ

- Eden: งานดีไซน์ที่เปี่ยมด้วยความพลิ้วไหว

 

แวะมาเยี่ยมชม DAMIANI ชั้น 2 คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พร้อมให้คุณได้เป็นเจ้าของผลงานชิ้นเอกแห่งอัญมณีอันทรงคุณค่าที่สะท้อนความเป็นคุณอย่างแท้จริง

 

ข่าวที่ 3-ททท.รับ“แอร์คาลิน”ปี67นำฝรั่งเศสได้ตามเป้า4.19หมื่นล้าน

 

นางสาวสุลัดดา ศรุติลาวัณย์ ผู้อำนวยการภูมิภาคยุโรป การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ร่วมต้อนรับสายการบินแอร์คาลิน (Aircalin) นำเที่ยวบินปฐมฤกษ์ รหัส SB500 มายังสุวรรณภูมิ เส้นทางบิน ไป-กลับ “นูมีอา ประเทศนิวแคลิโดเนีย-กรุงเทพฯ /ไทย-ปารีส/ฝรั่งเศส” ช่วยตอกย้ำถึงศักยภาพของไทยคือศูนย์กลางการบินเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาค แปซิฟิก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยุโรป สอดคล้องตามนโยบาย Aviation Hub  ของรัฐบาลผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินโลก และช่วยขยายโอกาสทางการบินระหว่างภูมิภาคและเพิ่มทางเลือกให้นักเดินทางเข้าถึงจุดหมายปลายทางต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียนง่ายมากยิ่งขึ้น    เป็นโอกาสดีของไทยที่จะนำเสนอ “เสน่ห์ไทย” หรือซอฟท์ พาวเวอร์ ให้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในตลาดนานาชาติ

 

@แอร์คาลินนำฝรั่งเศสคุณภาพเที่ยวไทยปี67เข้าเป้า 4.29หมื่นล้าน

การเปิดบินของสายการบินใหม่แอร์คาลินครั้งนี้ จะช่วยนำนักท่องเที่ยวคุณภาพในตลาดยุโรป โดยเฉพาะ “ฝรั่งเศส” ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องเข้ามาเพิ่มมากขึ้น  ปี 2567 จะส่งเสริมให้ทำได้ตามเป้าหมายด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวรวม 632,000 คน  สร้างรายได้ 42,900 ล้านบาท โดยได้แรงสนับสนุนเพิ่มจาก 2 ปัจจัย คือ 1.จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย 2.สายการบินนานาชาติเพิ่มเที่ยวบินต่อเนื่อง

แล้ว ททท.ได้ใช้โอกาสนี้ขยายฐานตลาดฝรั่งเศสเที่ยวเมืองไทยเพิ่มอีก 2  กลุ่มใหม่ คือ  คนรุ่นใหม่ (Young Professional) กับกลุ่มคนวัยทำงานได้ทุกสถานที่ (Remote Worker) ต่อจากปัจจุบันมีอยู่แล้ว 2 กลุ่ม คือ กลุ่มครอบครัว และกลุ่มผู้สูงวัย (Active Senior)

สถิติตั้งแต่ 1 มกราคม- 30 พฤศจิกายน 2567 ฝรั่งเศสเดินทางมาเที่ยวไทยสะสม 640,996 คน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเดินทางมาเป็นครั้งแรก 57 %และกลุ่มท่องเที่ยวซ้ำ 43%  มีวันพักเฉลี่ย 18 คืน  ใช้จ่ายเฉลี่ย 67,376 บาท/คน/ทริป เลือกแห่งท่องเที่ยวปลายทางยอดนิยมตามลำดับ ได้แก่ กรุงเทพฯ กระบี่ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่

 

@แอร์คาลินบินไป-กลับ ไทย-ปารีส-นูมีอา 2เที่ยว/สัปดาห์

 

สำหรับ “แอร์คาลิน” เป็นสายการบินแห่งชาตินิวแคลิโดเนีย เริ่มบินจากสนามบินนานาชาติ ลา ตอนดูตา (NOU) ประเทศนิวแคลิโดเนีย โดยเที่ยวบินปฐมฤกษ์นำผู้โดยสารมาถึงสุวรรณภูมิ 291 คน เริ่มตั้งแต่ 11 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป ด้วยเที่ยวบิน SB500 เวลา 07.55 น. กำหนดบิน “ขาเข้า” จากนูมีอา สนามบินลาตอนดูลา มายังสุวรรณภูมิ 2 เที่ยว/สัปดาห์ ทุกวันพุธและวันเสาร์ แล้วบินเชื่อมต่อจาก ปารีส/ฝรั่งเศสมายังกรุงเทพฯ (CDG-BKK) “ขาออก” จากกรุงเทพฯ สุวรรณภูมิ-นูมีอนา ลา ตูดูตา (BKK-NOU) ด้วยเที่ยวบิน SB501 รวม 2 เที่ยว/สัปดาห์ ทุกวันพฤหัสและวันอาทิตย์

 

@13ธ.ค.เปิดรูฟท็อปบันยันทรีนำโรงแรม/เอเย่นต์ไทยเจรจาธุรกิจ

ล่าสุด ททท. สำนักงานปารีส ได้จัดพิธีเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ดังกล่าวที่ท่าอากาศยานชาล์ส เดอ โกลล์ ฝรั่งเศส นำผู้โดยสารมากับแอร์คาลินเดินทางมาไทยในวันเดียวกัน และจัดกิจกรรม TAT x Aircalin Networking Dinner ที่ร้านอาหาร เวอร์ทิโก้ รูฟท้อป  โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพฯ พร้อมทั้งเชิญผู้ประกอบการไทย ได้แก่ โรงแรม บริษัทตัวแทนจัดนำเที่ยว (DMC) สื่อมวลชน 20 ราย หารือกับผู้แทนสายการบินแอร์คาลิน วันที่ 13 ธันวาคม 2567 เพื่อประชาสัมพันธ์เที่ยวบินใหม่ และสร้างเครือข่ายพันธมิตรให้กับธุรกิจการท่องเที่ยวไทยควบคู่กันไป

 

ข่าวที่ 4-บางจากปลุกพลังเยาวชนลุยเปิดสถานีทอดไม่ทิ้งทำน้ำมัน SAF

 

นางกลอยตา ณ ถลาง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และกรรมการมูลนิธิใบไม้ปันสุข เปิดเผยว่า ได้เปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการ และเปิด “สถานีทอดไม่ทิ้ง” เป็นจุดรับซื้อและรวบรวมน้ำมันใช้แล้วของบางจากฯ ที่โรงเรียนวัดบางนาใน (รื่น ศยามานนท์) เขตบางนา กรุงเทพมหานคร

 

โดยมี ดร.วีรภัทร ไม้ไหว ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ร่วมเปิดโครงการ และวิทยากรจากบริษัท บางจากฯ และมูลนิธิใบไม้ปันสุข ร่วมให้ความรู้ในการบริหารจัดการขั้นตอนรับซื้อน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วผ่านสถานีทอดไม่ทิ้งในโรงเรียน ให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 เพื่อกระตุ้นพลังเยาวชนใส่ใจและร่วมดูแลโลก เรียนรู้ความสำคัญเกี่ยวกับภาวะโลกร้อน หลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)  และการผลิตน้ำมันอากาศยานยั่งยืน Sustainable Aviation Fuel (SAF) จากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วจากครัวเรือน

 

ทำผ่านกิจกรรมนันทนาการต่าง ๆ ด้วยวิธีชวนนักเรียนรวบรวมน้ำมันจากบ้านเรือนและชุมชนรอบข้าง มายัง “สถานีทอดไม่ทิ้ง”  นำส่งให้บริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด นำเข้าสู่กระบวนการผลิต SAF ต่อไป เป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อม สร้างรายได้เสริมให้ผู้เข้าร่วมโครงการด้วย

 

ปี 2567 บางจากฯ และมูลนิธิฯ ได้เปิด “สถานีทอดไม่ทิ้ง” ในโรงเรียน ไปแล้ว 4 แห่ง กระจายตามพื้นที่กทม. คือ โรงเรียนวัดลาดกระบัง (ศีลาภิรัตอุปถัมภ์) โรงเรียนพูนสิน (เพชรศุขอุปถัมภ์) โรงเรียนผ่องพลอยอนุสรณ์ และโรงเรียนวัดบางนาใน (รื่น ศยามานนท์) และมีแผนขยายต่อเนื่องในอนาคตต่อไป

 

ข่าวที่ 5-บางจากร่วมทุน“ไทยคาลิ”ลดนำเข้าปุ๋ยหมื่นล้านดันเศรษฐกิจยั่งยืน

 

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ล่าสุดได้ลงทุนธุรกิจต้นน้ำในเมืองไทยผ่านบริษัทย่อยทำโครงการลดการนำเข้าปุ๋ย โดยใช้ บริษัท บีซีวี เอ็นเนอร์ยี จำกัด (บีซีวีอี) เข้าร่วมทุนใน บริษัท ไทยคาลิ จำกัด ผู้ดำเนินโครงการเหมืองแร่ในพื้นที่ตำบลหนองไทร อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา บนพื้นที่สัมปทาน 9,005 ไร่  เพื่อให้ไทยคาลิซึ่งมีความเชี่ยวชาญนำเทคโนโลยีเหมืองที่ได้มาตรฐานสากลเข้ามาพัฒนาการผลิต ภายใต้มาตรการ Zero Discharge เพื่อดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวด สถานการณ์ภาพรวมปัจจุบันไทยนำเข้าปุ๋ยโปแทชเฉลี่ยปีละประมาณ 800,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าปีละกว่า 10,000 ล้านบาท

 

ความร่วมมือของบางจากฯ ครั้งนี้ มุ่งเน้นผนึกกับชุมชนและหน่วยงานท้องถิ่น เดินหน้าพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านเศรษฐกิจ การศึกษา และสาธารณสุข สร้างผลลัพธ์เชิงบวกด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนทำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้รับประโยชน์ร่วมกันในระยะยาว

 

โดยนางสาววรรณสิริ ตรงตระกูลวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) “BCP” ได้จัดทำรายงานล่าสุดแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแจ้งการลงทุน บริษัท บีซีวี เอ็นเนอร์ยี จำกัด (บีซีวีอี) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นอยู่ 99.99% ล่าสุดเมื่อ 11 ธันวาคม 2567 บีซีวีอีเข้าลงทุนในรูปแบบกิจการร่วมค้าออกหุ้นเพิ่มทุนภายใต้ บริษัท ไทยคาลิ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจแหล่งแร่ในเมืองไทย

 

หลังซื้อหุ้นเพิ่มทุนบีซีวีอีแล้วก็จะถือหุ้นในบริษัทดังกล่าว 65% ร่วมกับนายวุฒิชัย สงวนวงศ์ชัย ถือหุ้น18.2% และ กลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อยเดิมอื่น ถือหุ้นอีก 16.8%

 

ส่งผลให้มีทุนจดทะเบียน (หลังจดทะเบียนเพิ่มทุน) รวม 5,077,931,820 บาท แบ่งเป็น 1,015,586,364 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท โดยกรรมการผู้แทนจากบริษัท 2 คน จากกรรมการทั้งหมด 3 คน

 

สำหรับ บริษัท ไทยคาลิ จำกัด มีมูลค่าการลงทุน 3,000 ล้านบาท ด้วยกำลังการผลิตปีละ 134,000 ตัน ได้รับประทานบัตรเหมืองแร่โปแตชในพื้นที่อำเภอด่านขุนทด ครอบคลุม 9,005 ไร่ ประทานบัตรอายุ 25 ปี ระหว่าง 7 กรกฎาคม 2558-6 กรกฎาคม 2583

 

ช่วงที่ 2 ได้เวลาฉลองความสุขแห่งปีที่ “บลูพอร์ท หัวหิน” 2 เทศกาล ชม “คริสต์มาส” ยักษ์สูง 18 เมตร ประดับไฟสวยงาม ชิมอาหาร “สตรีทฟู้ด” ให้ใจฟู วันนี้-31 ธ.ค.นี้ แล้วห้ามพลาดดื่มด่ำเทศกาลดนตรี “หัวหินแจ๊ส” เพลิดเพลินกับศิลปินระดับโลกเพียบ แล้วฟัง “6 กลุ่มอาหาร” กินป้องกันโรคช่วงฤดูหนาว แล้วรับข้อมูลข่าวฮ็อต ๆ ข่าวแรก “ดุสิตพัทยา” จัดดินเนอร์หรูรับคริสต์มาส และเคาท์ดาวน์ 2,000-4,000 บาท ข่าวที่ 2 “เดอะริทซ์-คาร์ตัน” โรงแรมหรูใน ONE BANGKOK ทั่วโลกแห่จองปีใหม่เกือบเต็ม 100 %

 

ท่องเที่ยว –สุขที่ได้เที่ยวหัวหินเทศกาลแจ๊สโลกชมคริสต์มาสชิมสตรีทฟู้ด

 

เตรียมตัวทเที่ยวชมความมหัศจรรย์เมือง “หัวหิน” กำลังเนรมิตค่ำคืนสุดพิเศษให้มาสัมผัสเทศกาลต่อเนื่องที่ “บลูพอร์ทหัวหิน” ชวนมาฉลองความสุขรับลมหนาวริมทะเล

 

เทศกาลแรก ตื่นตากับ “ไฟคริสต์มาส” ต้นยักษ์ขนาด 18 เมตร สูงที่สุดในประจวบคีรีขันธ์อิ่มอร่อยกับสตรีท ฟู้ดหลากเมนู ได้ตั้งแต่วันนี้- 31 ธันวาคม 2567 ได้เปลี่ยนทุกมุมให้สว่างไสวและเต็มไปด้วยความอบอุ่นหัวใจ ร่วมฉลอง The New Chapter of Journey 9th Anniversary กับบรรยากาศ “ดิสโก้” สุดพิเศษและศิลปินชื่อดังมากมาย  ทั้ง NO ONE ELSE และLIPTA - 26 ธันวาคม Earth Patravee 27 ธันวาคม และ J Jetrin , Jjaokhun, Jaonaay - 31 ธันวาคม นี้

 

เทศกาลที่ 2 Hua Hin Jazzical Festival ” มหกรรมดนตรีแจ๊สหัวหิน 21 ธันวาคมนี้ รวมพลศิลปินดังระดับโลก พบกันที่ หัวหิน คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ชั้น 1 บลูพอร์ต หัวหิน

ทางบลูพอร์ต หัวหิน ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสถานเอกอัคราชทูต ณ กรุงมอสโก ยกขบวนศิลปินแจ๊สระดับโลกชาวรัสเซียอย่าง “อิกอร์ บุตแมน” ศิลปิน “ดีว่าสาว” เสียงทรงพลังระดับชาติ ประชันกับ “แก้ม วิชญาณี เปียกลิ่น” พร้อมศิลปินแจ๊สดังคนไทยตบเท้าขึ้นเวทีคับคั่งตลอดเทศกาลดนตรี   Hua Hin Jazzical Festival ” พร้อมกิจกรรมสนุกๆ ให้ได้แจ๊สกันเต็มที่

 

รีบซื้อด่วน บัตรเติมความสุข งาน “Hua Hin Jazzical Festival” มีราคาให้เลือก 4 ระดับ คือ  4,500 / 2,500 /1,800 และ 800 บาท เปิดขายบัตรวันนี้ทางเว็บไซต์ https://bluporthuahin.gosalepage.co/lfa-dlgr-mxw

งานนี้มีนักดนตรีมารวมตัวกันเพียบทั้ง “Benny Golsonถือเป็นตำนานแจ๊สที่ยังมีชีวิตอยู่ The Yellowjacketsวงดนตรีแจ๊สชั้นนำระดับโลกเล่นมา 40 ปี “เคนเนธ บรูซ กอลีลิกซ์” หรือ “Kenny G” ผู้สร้างปรากฏการณ์แจ๊สโลก เจ้าของผลงานทำยอดขายสูงสุดในโลก เจ้าของรางวัล American Music Awards และ Grammy Awards 

เที่ยวเทศกาลดนตรีแจ๊สหัวหินปีนี้ มีโชว์ Thai Cultural Performance กับการแสดงมากมายด้วยเอกลักษณ์ไทย เช่น โขน รำไทย ประกอบดนตรีไทยประยุกต์ พร้อมโชว์อัตลักษณ์ไทยที่หาชมได้ยาก เป็นชุดการแสดงพิเศษโดยเฉพาะ

ร่วมสร้างประสบการณ์ใหม่โดยใช้ดนตรีและวัฒนธรรมเชื่อมโยงช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมอันแน่นแฟ้นระหว่าง 2 ประเทศ เนื่องในโอกาสครบรอ[ 126 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต ระหว่างไทยและรัสเซีย

 

สุขภาพ –6 กลุ่มอาหารควรกินช่วงหน้าหนาวสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย

 

ลมหนาวเริ่มมาแล้ว ช่วงนี้หลายคนคงจะเริ่มคลั่นเนื้อคลั่นตัว เหมือนจะไม่สบาย แต่ก็ไม่อยากรับประทานยา วันนี้จึงขอแนะนำ “กลุ่มอาหาร” กินช่วยเสริมภูมิต้านทานช่วงอากาศเปลี่ยน ไม่ว่าจะหนาวไปร้อน ร้อนไปฝน ฝนไปหนาว ก็ช่วยได้ ด้วยการกิน  6 กลุ่มอาหารดังนี้

 

1. อาหารกลุ่มไขมัน   -จะช่วยสร้างความอบอุ่นให้แกับร่างกาย และเป็นสารตั้งต้นสร้างฮอร์โมนเพศ และฮอร์โมนต้านเครียด การบริโภคไขมันดี ย่อมส่งผลให้ภูมิต้านทานร่างกายแข็งแรง

 

            มีอยู่ในอาหาร ปลาแซลมอน  เมล็ดถั่ว อโวคาโด น้ำมันมะกอก รำข้าว และธัญพืชต่างๆ

 

2. เห็ดชนิดต่าง ๆ -เพราะมีสารสำคัญมากมาย เช่น โพลิแซคาไรด์ ช่วยกระตุ้นการทำงานเม็ดเลือดขาวได้ดี หรือสารเบต้ากลูแคน มีคุณสมบัติในการต้านมะเร็งและรักษาแผลติดเชื้อ

 

3. วิตามินซี จะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของเราแข็งแรง และยังช่วยให้ดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น

            มีอาหารที่ควรเลือกรับประทาน  ได้แก่ ผักและผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้ม แอปเปิ้ล

 

4. โปรไบโอติกส์ (Probiotics) หรือจุลินทรีย์ชนิดที่ดี เช่น ตระกูล แลคโตบาซิลลัส และ Bifidobacterium ในผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ต ช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาวที่เยื่อบุผนังลำไส้เล็กส่วนปลายให้ตอบสนองต่อภูมิคุ้มกันและการอักเสบได้

 

5. วิตามินดี - ช่วยสร้างสารแคทเธลิซิดินจากเซลล์ระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้เม็ดเลือดขาวขยันทำงานออกมาต่อสู้โรคได้มากขึ้น เราสามารถรับวิตามินดีจากแสงแดดอ่อน ๆ ตอนเช้าและเย็น เห็ดต่างๆ ปลาต่างๆ อย่างปลาแซลม่อน) นม ชีส น้ำส้ม โยเกิร์ต

 

6. วิตามินเอ -สำคัญกับภูมิคุ้มกันในร่างกาย ช่วยป้องกันโรคติดต่อที่เกิดจากแบคทีเรีย ไวรัส  ช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาว และเพิ่มความแข็งแรงของเม็ดเลือดขาว

            มีอยู่ในออาหารประเภท ตับปลา แครอท ผักโขม ฟักข้าว มะเขือเทศ เสาวรส บรอคโคลี่

นอกจากการรับประทานอาหารกลุ่มดังกล่าวแล้ว ก็ควรหาเสื้อกันหนาวมาใส่ให้ร่างกายอบอุ่นด้วยจะดีที่สุด

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก –ดุสิตพัทยารุกขายดินเนอร์2เทศกาลคริสต์มาส-ปีใหม่2-4พันบาท

 

                โรงแรมดุสิตธานี พัทยา รายงานว่า จัดกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวร่วมฉลองเทศกาลแห่งความสุขปลายปี 2567 มากมาย ด้วยมื้อ “อาหารสุดพิเศษ” ที่ได้คัดสรรวัตถุดิบพร้อมดีไซน์เมนูธีมงานเลี้ยงในบรรยากาศริมชายหาด ต้อนรับ 2 เทศกาลคือ เทศกาลแรก คริสต์มาส 24-25 ธันวาคม และเทศกาลที่ 2 เคาน์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ คืนวันที่ 31 ธันวาคม 2567-1 มกราคม 2568 โดยได้รังสรรค์ประสบการณ์แห่งความทรงจำแสนประทับใจด้วยเมนูอาหารเลิศรสละลานตา มองเห็นวิวอ่าวพัทยาเต็มอิ่มที่ 2 ห้องอาหาร ได้แก่  เดอะเบย์ และเดอะพอยต์

 

@ฉลองคริสต์มาส 24 ธ.ค.ดินเนอร์มื้อพิเศษ 2,000++บาท

เทศกาลแรก “คริสต์มาส” ต้อนรับด้วยบุฟเฟ่ต์อาหารค่ำ “From Tales to Tableวันที่ 24 ธันวาคม 2567 ตั้งแต่18:00- 22:00 น.ราคา ผู้ใหญ่  คนละเพียง 2,000++ บาท  เด็กอายุ 5-11 ปี คนละ 1,000++ บาท พิเศษเมื่อจองภายในวันที่ 20 ธันวาคม 2567 รับส่วนลดพิเศษสูงสุด 15%

ทางเชฟประจำห้องอาหารของโรงแรมเตรียมรังสรรค์บุฟเฟ่ต์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก “เรื่องเล่าคริสต์มาส” อันน่าหลงใหล มาแปลงโฉมเป็นเมนูรสเลิศ เช่น  อาหารทะเลสด ไก่งวงคริสต์มาสเนื้อแน่น ขาหมูเยอรมัน ซึ่งเป็นอาหารจานโปรด  เคล้าด้วยเสียงดนตรีสด จากนั้นจะได้พบกับซานต้ามาช่วยเพิ่มความสนุกสนานให้ทุกคนในครอบครัว

 

@กาลาดินเนอร์เคาท์ดาวน์พร้อมชมพลุสวยงาม4,000++บาท

 

เทศกาลที่ 2 จัดกาลาส่งท้ายปี “Once Upon a New Year กาลครั้งหนึ่ง..วันปีใหม่ “ ค่ำคืนวันที่ 31 ธันวาคม2567 ต่อเนื่องตั้งแต่ 18:00 น.ข้ามคืนไปจนถึง 01:00 น. เข้าสู่วันใหม่ปี 2568 ผู้ใหญ่ ราคาเพียงคนละ 4,000++ บาท เด็กอายุ 5-11 ปี คนละ 2,000++ บาท จองล่วงหน้าภายใน 20 ธันวาคม 2567 รับส่วนลดพิเศษสูงสุด 15%

 

ทางโรงแรมจะนำนักท่องเที่ยวเข้าสู่โลกแห่งความมหัศจรรย์ในธีม “เทพนิยาย” กับงานเคาท์ดาวน์ ไปพร้อมกับ “บุฟเฟ่ต์สุดอลังการ” และฟังดนตรีสด ร่วมสร้างความทรงจำดี ๆ  ด้วยรสชาติอาหารนานาชาติและอาหารทะเล ไฮไลต์เด่น ๆ เช่น  ทูน่าครีบเหลือง ปูอลาสก้าคิงแครบ ฟัวกราส์ วากิวโรสสินี่ ซี่โครงแกะ หอยนางรมสด และอีกหลากหลายเมนู ปิดท้ายชมพลุไฟสวยวามตระการตา

 

เปิดจองล่วงหน้าเพื่อการพักผ่อนพร้อมรับประทานอาหารมื้อค่ำสุดพิเศษทั้ง 2 เทศกาล ที่โรงแรมดุสิตธานี พัทยา ได้ทางออนไลน์ dusit.com/dusitthani-pattaya/festive-celebration อีเมล dtpafb@dusit.com หรือแชท LINE Official @dusitthanipattaya

 

ข่าวที่สอง –รร.เดอะริทซ์-คาร์ตันในOneBangkokปีใหม่ยอดจองเกือบ100%

 

ทีน่า ลิว ผู้จัดการทั่วไป โรงแรม เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ เปิดเผยว่า โรงแรม เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน ที่พักรวม 260 ห้อง หนึ่งในกลุ่มโรงแรมหรูเครือ แมริออต อินเตอร์เนชั่นแนลเปิดบริการแล้วในโครงการ วัน แบงค็อก ศูนย์กลางธุรกิจและไลฟ์สไตล์ระดับโลก เจาะกลุ่มนักช้อปและนักเดินทางยุคใหม่ด้วยจุดขายของบ้านไทยหลังใหญ่บนถนนวิทยุ เหมาะกับพักผ่อนคลายทิวทัศน์เขียวขจีของสวนลุมพินี รายล้อมด้วยวัฒนธรรมใจกลางเมือง  พร้อมจะบุกตลาดโรงแรมหรูผสมผสานศิลปะระหว่างศิลปะไทยดั้งเดิมออกแบบบร่วมสมัย

@ยอดจองห้องพักปีใหม่ธ.ค.67-ม.ค.68เกือบเต็ม100%

 

เตรียมเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวช่วงปีใหม่เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม2567 ถึงต้นเดือนมกราคม 2568 โรงแรมคาดว่าจะมีผู้ใช้บริการเข้าพักทุกห้องเกือบเต็ม 100 % แบ่งเป็น”ตลาดต่างชาติ” หลัก ๆ คือ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ และตะวันออกกลาง ตั้งใจมาท่องเที่ยวและช้อปปิ้งในวัน แบงค็อก จึงได้เตรียมห้องพัก 4 แบบ ได้แก่ แบบที่ 1 ดีลักซ์ ขนาด 50 ตรม. ห้องแบบที่ 2 การ์เดเนีย สวีท ตกแต่งประณีต 102 ตรม. แบบที่ 3 แมริโกลด์ สวีท และAmaranth Suite ขนาด127 ตรม. แบบที่ 4 เดอะ ริทซ์-คาร์ตัล สวีท เป็นเพนท์เฮาส์ขนาดใหญ่ที่สุด 389 ตรม.รองรับและสร้างประสบการณ์ความหรูหราตลอดทุกวันหยุดพักผ่อน

 

ส่วนบริการไฮไลต์ ประกอบด้วย ส่วนที่ 1 เดอะ คลับ เลาจน์ ชั้น 23 เป็นพื้นที่สุดพิเศษอบอุ่นประดับด้วยผลงานศิลปะล้ำค่าซึ่งคัดสรรมาจากท้องถิ่น ในบรรยากาศส่วนตัวและประณีต เสิร์ฟอาหารวันละ 5 เวลา โดยมี Club Concierge ให้เช็คอิน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกออกแบบเฉพาะเพื่อบริการเป็นส่วนตัว ให้รับประทานอาหารยอดเยี่ยม แตกต่างกัน 3 สไตล์

 

@เปิดจุดขายเชฟ/ห้องอาหาร-สปา-แกรนด์บอลรูมสุดอลังการ

โดย “Duet by David Toutain เชฟมิชลินสตาร์ชื่อดังร่วมกับหัวหน้าเชฟประจำห้องอาหาร พร้อมเชฟ Valentin Fouache ให้บริการอาหารโมเดิร์นครุยซีนแบบฝรั่งเศสภายในเรือนกระจกงดงาม ชูคอนเซ็ปต์ล้ำสมัยนี้กลมกลืนระหว่างอาหารกับธรรมชาติ เน้นใช้วัตถุดิบคัดสรรพิถีพิถันผสานกับศิลปะการทำอาหาร เพื่อมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ร้าน Lily’s ได้นำเสนอเมนูคลาสสิกรูปแบบใหม่เพิ่มสไตล์ร่วมสมัย ด้วย “จานอาหารปรับแต่งได้ตามใจชอบ” แชร์ร่วมกัน และจัดแบบอินเตอร์แอคทีให้ผู้รับประทานมีส่วนร่วมสร้างความทรงจำแปลกใหม่และน่าจดจำ

 

ส่วนที่ 1 เลานจ์สุดนี้ ก็มี Caleō มาจากภาษาละตินที่หมายถึง ‘การตกหลุมรัก’ แสดงถึงแก่นแท้การดื่มด่ำและความโรแมนติก กลางวันหรือกลางคืน ให้เพลิดเพลินกับชุดน้ำชายามบ่าย หรือจิลเครื่องดื่มยามค่ำที่โดดเด่นเต็มไปด้วยเสน่ห์ของศิลปะ พร้อมมอบความสุขได้หลากมิติ

 

ส่วนที่ 2 เดอะ ริทซ์ คาร์ตัน สปา สถานที่ความสงบสุขให้แขกฟื้นฟูจิตใจ ร่างกาย จิตวิญญาณ ด้วยทรีตเมนต์หรู 5 ห้อง ห้องสปาสวีทสำหรับคู่รัก และRelaxing Pod พร้อมศูนย์ออกกำลังกายทันสมัย มี 2 สระว่ายน้ำ และสระเด็ก รวมทั้ง Ritz Kids Club ของเด็ก ๆ

ส่วนที่ 3 เดอะ ริทซ์ คาร์ตัน แกรนด์ บอลรูม ขนาดใหญ่ที่สุดในเมือง รองรับผู้ร่วมงานได้สูงสุดถึง 1,200 คน ประกอบไปด้วย ห้องจัดเลี้ยงอเนกประสงค์ปรับเปลี่ยนได้ตามธีมงาน 9  ห้อง เหมาะจัดงานโอกาสพิเศษ เช่น แต่งงาน อีเวนท์องค์กร กาล่าดินเนอร์ โดยมีพื้นที่พรี-ฟังก์ชั่น และระเบียงกลางแจ้ง ห้องหลักมีLED ถึง 3 จอ

 

@จัดพิเศษวัฒนธรรมท้องถิ่นประจำวัน-กิจกรรมดี ๆ

พร้อมทั้งได้นำวัฒนธรรมท้องถิ่นนำเสนอกิจกรรมพิเศษประจำวันให้ผู้เข้าพักได้ชื่นชม หนึ่งในนั้นคือ Defining Moment บริเวณระเบียงร่วมสัมผัสพิธี “กลองยาว” ประจำวัน พร้อมกิจกรรมต่าง ๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดทั้งวัน เช่น การออกกำลังกายไทเก็กยามเช้า “Terrace Chi” ท่ามกลางวิวสวนสาธารณะใจกลางเมือง ทัวร์เชิงสร้างสรรค์ “New Generation” ของ One Bangkok Art Loop ทำดอกไม้แห้ง “Lasting Impression” ส่วนเด็ก ๆ ก็มีช่วง สนุกกับ Golden Hour

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ททท.เปิดAmazing Thailand Roman Monthปี68ปลุกตลาดไกล10.6ล้านคน

  ททท.นำร่องเปิด Amazing Thailand Roman Month ปี68ตั้งเป้าปลุกตลาดไกล 10.6 ล้านคน ททท.เปิด Roman Month ปลุกตลาดไกลเข้าเป้า 10.6 ล้านคน งัด...