ททท.โหมขาย12เมืองห้ามพลาดพลัส3หมวด4เป้า
ปี’61หวังทุบสถิติรายได้8เดือนปีนี้ทะลุ5.2หมื่นล้าน
เรื่องโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน : บล็อกเกอร์ #gurutourza #Amazingthailand
นายนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. เปิดเผยว่าในปี 2561 ใส่เกียร์หน้าชูตลาดการขายแหล่งท่องเที่ยวโครงการ 12 เมืองต้องห้าม...พลาด Plus เน้นเพิ่มการเติบโตในเชิงคุณภาพภายใต้แนวคิด Plus Less Volume More Value” โดยจะใช้กลยุทธ์ร่วมมือพันธมิตรสร้างกิจกรรมตอกย้ำจุดเด่นของแต่ละจังหวัด ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทุกช่วงวัย ควบคู่กับท่องเที่ยวใน 3 หมวดหลัก คือ การท่องเที่ยวชุมชน การท่องเที่ยวอาหารถิ่น และท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ขานรับนโยบายรัฐบาลในปีท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋สไตล์ยั่งยืน
ช่วงเดือนมกราคม-สิงหาคม 2560 สถิติมีคนไทยเดินทางท่องเที่ยวเมืองต้องห้ามพลาด พลัส 13.6 ล้านคน สร้างรายได้รวม 52,400 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 ททท.ได้เปิดตัวกิจกรรมโครงการ 12 เมืองต้องห้าม...พลาด Plus ปี 2561 ประกอบด้วย นิทรรศการแสดงสินค้าที่มีการผสานนวัตกรรมสร้างสรรค์จากทั้ง 5 ภูมิภาค (ผลิตภัณฑ์เซรามิคจาก จังหวัดลำปาง เครื่องแต่งกายผลิตจากสีย้อมธรรมชาติ จังหวัดน่าน ผลิตภัณฑ์ทอเสื่อ จากจังหวัดจันทบุรี ผลิตภัณฑ์จากหน้ากากผีตาโขน จังหวัดเลย ผลิตภัณฑ์เครื่องประดับจากลูกปัดโนรา จังหวัดพัทลุง และผลิตภัณฑ์เสื้อสกรีนลายหนังใหญ่ จังหวัดราชบุรี) รวมทั้งสินค้า OTOP และอาหารถิ่นในจังหวัดหลักภายใต้โครงการ 12 เมืองต้องห้าม...พลาด Plus จำนวน 24 บูธ อาทิ เครื่องเงิน จังหวัดน่าน ผลิตภัณฑ์จากไร่กำนันจุล จังหวัดเพชรบูรณ์ พลอย อัญมณีต่างๆ จังหวัดจันทบุรี เครื่องประดับจากลูกปัดโนรา จังหวัดพัทลุง ปลาทูซาเตี๊ยะ จังหวัดสมุทรสงคราม กุ้งจ่อมแม่เนย จังหวัดบุรีรัมย์ และผลิตภัณฑ์แมคคาเดเมียแปรรูป จังหวัดเลย
ททท.วางแนวทางให้การท่องเที่ยว 12 เมืองต้องห้ามพลัส ไว้เบื้องต้น 4 เป้าหมาย
1.ตอกย้ำภาพลักษณ์ที่โดดเด่นของแต่ละเมืองให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นผ่านสื่อต่างๆ โดยเฉพาะเว็บไซต์และ Fanpage 12 เมืองต้องห้าม...พลาด (www.citieshiddengemsthailand.com)
2. กระตุ้นรายได้จากการเดินทางท่องเที่ยวผ่านการจัดงาน “เทศกาลเที่ยว 12 เมืองต้องห้าม...พลาด Plus” ระหว่างวันที่ 14-17 ธันวาคม 2560 ณ โซน C ชั้น 1 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ มีแพ็คเกจท่องเที่ยวขายราคาพิเศษ พร้อม OTOP อาหารท้องถิ่น กิจกรรมสาธิตต่าง ๆ จะมีผู้ประกอบการร่วมออกบูธกว่า 200 ราย
3.จัดกิจกรรม Highlight ต้องห้ามพลาด ตลอดทั้งปีจะมีการจัดกิจกรรมที่โดดเด่นและสอดคล้องกับภาพลักษณ์ในแต่ละเมืองที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด อาทิ งานเทศกาลคริสต์มาสภูเรือ จังหวัดเลย งานมหานครผลไม้ จันทบุรี และงานสตรอเบอร์รี่แลนด์ แอนด์ กรีนมาเก็ต เขาค้อ เพชรบูรณ์ ร่วมกับพันธมิตรท่องเที่ยวทำโปรโมชั่นและข้อเสนอพิเศษตลอดทุกฤดู
โดยร่วมกับพันธมิตรสายการบินไทย แอร์เอเชีย นกแอร์ Thai Ticket Major ทำโปรโมชั่น ส่วนการจัดกิจกรรมต่างๆ ก็มี คาราวานรถยนต์ ร่วมกับ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กิจกรรมปั่น SLOW LIFE เมืองต้องห้าม...พลาด ร่วมกับบริษัทมิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด และเนชั่นทีวี 22 อีกทั้งการจัดกิจกรรมค้นหาสุดยอด แฟนเมืองต้องห้าม...พลาด ร่วมกับแอพพลิเคชั่น One Map ส่งเสริมการขยายตัวของจำนวนและรายได้ท่องเที่ยว
4.จัด Event Marketing โดยนำการท่องเที่ยวเพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Tourism) สอดแทรกไปในขั้นตอนต่างๆ ทั้งเรื่องคัดแยกขยะ ไม่ใช้ถุงพลาสติก เลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ปี’61หวังทุบสถิติรายได้8เดือนปีนี้ทะลุ5.2หมื่นล้าน
เรื่องโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน : บล็อกเกอร์ #gurutourza #Amazingthailand
นายนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. เปิดเผยว่าในปี 2561 ใส่เกียร์หน้าชูตลาดการขายแหล่งท่องเที่ยวโครงการ 12 เมืองต้องห้าม...พลาด Plus เน้นเพิ่มการเติบโตในเชิงคุณภาพภายใต้แนวคิด Plus Less Volume More Value” โดยจะใช้กลยุทธ์ร่วมมือพันธมิตรสร้างกิจกรรมตอกย้ำจุดเด่นของแต่ละจังหวัด ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทุกช่วงวัย ควบคู่กับท่องเที่ยวใน 3 หมวดหลัก คือ การท่องเที่ยวชุมชน การท่องเที่ยวอาหารถิ่น และท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ขานรับนโยบายรัฐบาลในปีท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋สไตล์ยั่งยืน
ช่วงเดือนมกราคม-สิงหาคม 2560 สถิติมีคนไทยเดินทางท่องเที่ยวเมืองต้องห้ามพลาด พลัส 13.6 ล้านคน สร้างรายได้รวม 52,400 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 ททท.ได้เปิดตัวกิจกรรมโครงการ 12 เมืองต้องห้าม...พลาด Plus ปี 2561 ประกอบด้วย นิทรรศการแสดงสินค้าที่มีการผสานนวัตกรรมสร้างสรรค์จากทั้ง 5 ภูมิภาค (ผลิตภัณฑ์เซรามิคจาก จังหวัดลำปาง เครื่องแต่งกายผลิตจากสีย้อมธรรมชาติ จังหวัดน่าน ผลิตภัณฑ์ทอเสื่อ จากจังหวัดจันทบุรี ผลิตภัณฑ์จากหน้ากากผีตาโขน จังหวัดเลย ผลิตภัณฑ์เครื่องประดับจากลูกปัดโนรา จังหวัดพัทลุง และผลิตภัณฑ์เสื้อสกรีนลายหนังใหญ่ จังหวัดราชบุรี) รวมทั้งสินค้า OTOP และอาหารถิ่นในจังหวัดหลักภายใต้โครงการ 12 เมืองต้องห้าม...พลาด Plus จำนวน 24 บูธ อาทิ เครื่องเงิน จังหวัดน่าน ผลิตภัณฑ์จากไร่กำนันจุล จังหวัดเพชรบูรณ์ พลอย อัญมณีต่างๆ จังหวัดจันทบุรี เครื่องประดับจากลูกปัดโนรา จังหวัดพัทลุง ปลาทูซาเตี๊ยะ จังหวัดสมุทรสงคราม กุ้งจ่อมแม่เนย จังหวัดบุรีรัมย์ และผลิตภัณฑ์แมคคาเดเมียแปรรูป จังหวัดเลย
ททท.วางแนวทางให้การท่องเที่ยว 12 เมืองต้องห้ามพลัส ไว้เบื้องต้น 4 เป้าหมาย
1.ตอกย้ำภาพลักษณ์ที่โดดเด่นของแต่ละเมืองให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นผ่านสื่อต่างๆ โดยเฉพาะเว็บไซต์และ Fanpage 12 เมืองต้องห้าม...พลาด (www.citieshiddengemsthailand.com)
2. กระตุ้นรายได้จากการเดินทางท่องเที่ยวผ่านการจัดงาน “เทศกาลเที่ยว 12 เมืองต้องห้าม...พลาด Plus” ระหว่างวันที่ 14-17 ธันวาคม 2560 ณ โซน C ชั้น 1 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ มีแพ็คเกจท่องเที่ยวขายราคาพิเศษ พร้อม OTOP อาหารท้องถิ่น กิจกรรมสาธิตต่าง ๆ จะมีผู้ประกอบการร่วมออกบูธกว่า 200 ราย
3.จัดกิจกรรม Highlight ต้องห้ามพลาด ตลอดทั้งปีจะมีการจัดกิจกรรมที่โดดเด่นและสอดคล้องกับภาพลักษณ์ในแต่ละเมืองที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด อาทิ งานเทศกาลคริสต์มาสภูเรือ จังหวัดเลย งานมหานครผลไม้ จันทบุรี และงานสตรอเบอร์รี่แลนด์ แอนด์ กรีนมาเก็ต เขาค้อ เพชรบูรณ์ ร่วมกับพันธมิตรท่องเที่ยวทำโปรโมชั่นและข้อเสนอพิเศษตลอดทุกฤดู
โดยร่วมกับพันธมิตรสายการบินไทย แอร์เอเชีย นกแอร์ Thai Ticket Major ทำโปรโมชั่น ส่วนการจัดกิจกรรมต่างๆ ก็มี คาราวานรถยนต์ ร่วมกับ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กิจกรรมปั่น SLOW LIFE เมืองต้องห้าม...พลาด ร่วมกับบริษัทมิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด และเนชั่นทีวี 22 อีกทั้งการจัดกิจกรรมค้นหาสุดยอด แฟนเมืองต้องห้าม...พลาด ร่วมกับแอพพลิเคชั่น One Map ส่งเสริมการขยายตัวของจำนวนและรายได้ท่องเที่ยว
4.จัด Event Marketing โดยนำการท่องเที่ยวเพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Tourism) สอดแทรกไปในขั้นตอนต่างๆ ทั้งเรื่องคัดแยกขยะ ไม่ใช้ถุงพลาสติก เลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น