ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.จัดรวด3งานใหญ่"เคาน์ดาว-เทศกาลเที่ยวเมืองไทย-ATF2018"ดันNew Shades ปั๊มรายได้3ล้านล้าน-Countdownภูเก็ต-ตรัง-นคร-หาดใหญ่

ททท.เปิดแผนเดือนมกรา61จัดรวดเดียว3งานใหญ่
นำNew Shadesปั๊มเงินกระจายทั่วไทย3ล้านล้าน
สมัครบัตรคิงเพาเวอร์ได้คืนคุ้ม-ใช้เลาจน์700แห่ง
“รมว.วีระศักดิ์”มอบททท.เร่งเคลื่อนทัพ5นโยบาย
บางจากแจกจักรยานชุมชน-เปิดแบงก์ในร้านSPA
ล่องใต้เคาน์ดาวน์4จว.ภูเก็ต-ตรัง-หาดใหญ่-นคร
แพทย์แนะเทคนิคป้องกันผิวแห้งตลอดฤดูหนาว
"สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง"ให้จอดรถฟรีตลอดปีใหม่
ชิงเปิดบิน“ไทยแอร์เร่งข้ามภาค-นกแอร์ยึดอีสาน”
นิวเจนแอร์ทุ่มสร้างบินโคราชขายตั๋วแค่499บาท

สวัสดีวันเสาร์ที่ 2560 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen  #gurutourza

ช่วงที่ 1 คุณธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  จะมาเล่าให้ฟังครบทุกประเด็นที่ ททท.ปูพรม 3 มหกรรมใหญ่จัดรวดเดียวเดือนมกราคม 2561 “เคาน์ดาวน์-เทศกาลเที่ยวเมืองไทย-ATF2018” พร้อมทั้งเปิดทุกช่องทางโกยรายได้ท่องเที่ยวต่างชาติ คนไทยเข้าสู่ชุมชนและเมืองรอง พุ่งเป้าโหม Open to the New Shade “อาหารถิ่น-ช้อปปิ้งผ้าไทย” เป็นหัวหอกเพิ่มรายได้เข้าเป้าปีท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋อย่างยั่งยืน 3.1 ล้านล้านบาท

ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ
รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) 


คุณธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ตั้งเป้าจะกระตุ้นรายได้ชุมชนและขยายแนวรุกมุมใหม่การท่องเที่ยวเมืองรองให้เติบโตอย่างมีเป้าหมายเริ่มออกตัวแรงตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมปี 2561 ด้วย 3 งานใหญ่ ได้แก่ เคาน์ดาวน์-เทศกาลเที่ยวเมืองไทย- ASEAN TOURISM FORUM 2018

เริ่มจากในช่วงการเดินทางท่องเที่ยวเคาน์ดาวน์เดือนธันวาคมนี้ เพื่อเพิ่มการใช้จ่ายเงินกระจายสู่ชุมชนตามเมืองท่องเที่ยวจังหวัดรองเป็นพื้นที่ใหม่ ๆ ได้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาทขึ้นไป ในจังหวัดไฮไลต์การจัดงาน 4 เมืองรอง สกลนคร ลำปาง กาญจนบุรี ระยอง และ 1 เมืองหลัก คือ ภูเก็ต และจังหวัดอื่น ๆ ก็จะจัดกิจกรรมฉลองปีใหม่ทำให้การท่องเที่ยวคึกคักเช่นเดียวกันจะสร้างเงินสะพัดทั่วประเทศมากกว่า 1,000 ล้านบาท

ภาคเหนือ เลือกเคาน์ดาวจังหวัด “ลำปาง” ได้ชื่อว่าไม่หมุนตามกาลเวลา ทั้งเมืองได้เตรียมออกแบบกลิ่นอายวิลเทจ รถฟ้าให้บริการ ตกแต่งประดับไฟ ลานน้ำพุ ดอกไม้ตามสะพานต่าง ๆ และมีผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นมาจำหน่าย “อีสาน” จะยกระดับ “สกลนคร” เมืองขึ้นชื่อการจัดเทศกาลแห่ดาวที่สร้างอุโมงค์แห่งแสงสวยงามในคอนเซ็ปต์ The Light City Star แนวคิดผสมผสานยุโรปกับไทยเข้าด้วยกัน มีขบวนพาเหรด อาหารและอื่น ๆ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ประชารัฐ โอท็อป ดึงดูดเงินจากการซื้อสินค้าท้องถิ่น “ภาคตะวันออก” เลือกจังหวัดระยอง กำลังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น “เกาะเสม็ด” เป็นเป้าหมายปลายทางยอดนิยม จะใช้บริเวณ “ท่าเรือบ้านเพ” อากาศเย็นสบายนำเรือประมงมาตกแต่งด้วยไฟสวยงามลอยอยู่กลางทะเล มีดนตรี อาหาร ช้อปปิ้ง จะนำเสนอเชฟชุมชนมาปรุงให้ชิมสด ๆ เมนูจานเด่นอาหารทะเลหลากสีสัน

“ภาคกลาง” เลือก “กาญจนบุรี” จัดเคาน์ดาวน์บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแคว แลนด์มาร์กที่ทั่วโลกรู้จักเป็นอย่างดี โดยจะจัดไลติ้ง นำขบวนรถไฟโบราณวิ่งข้ามสะพาน คล้ายสะพานข้ามแม่น้ำแคว ระหว่างงานก็จะนำสินค้าภาคการเกษตรขึ้นชื่อมานำเสนอ

“ภาคใต้” เลือกเมืองหลักที่ “ภูเก็ต” จะใช้สถานที่มุมใหม่ไม่ใช่ชายหาด แต่จะจัดบริเวณเมืองเก่าจัดเคาน์ดาวน์ในแบบ “ชิโนโปรตุกีส” ย่านเมืองเก่า ถนนถลาง ติดกับหอนาฬิกา อาคารสแตนดาร์ด ชาเตอร์ สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ทั้งเมืองจะตกแต่งประดับประดาไฟ ทำให้ตึกทรงเก่าสร้างภาพลักษณ์งดงามปรากฏสู่สายตานักท่องเที่ยวได้ กิจกรรมวันเคาน์ดาวน์ก็มี คาร์นิวัล แต่งกายบะบ๋า-ยะหยา อาหารการกิน สร้างมุมมองใหม่อันเป็นเสน่ห์ของมุกอันดามันของไทย

เป็น 5 เมืองต้อนรับปีใหม่ที่จะสร้างเงินกระจายสู่เมืองรองสะพัดไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท

ส่วนการยกระดับ “สินค้าชุมชน-ประชารัฐ” ที่จะใช้โอกาสฉลองปีใหม่ช้อปปิ้งของฝาก ขณะนี้ ททท.สำนักงานในประเทศมี 40 แห่ง ที่พร้อมให้ข้อมูลอย่างเต็มที่ และยังมีคอล เซนเตอร์ 1672 เป็นเพื่อนร่วมเดินทางช่วงเทศกาล เพราะนักท่องเที่ยวชอบโทรสอบถาม เส้นทางไปยังแหล่งท่องเที่ยว ที่ตั้งร้านอาหาร ของฝาก ของที่ระลึก

ประการสำคัญ ททท.ต้องทำโจทก์การขายท่องเที่ยวเมืองรองและชุมชนให้ประสบความสำเร็จโดยเร็ว โดยจะใช้ “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2561” ระหว่างวันที่ 24-27 มกราคม 2561 ณ สวนลุมพินี เปรียบเทียบเมื่อปีที่ผ่านมามีผู้เข้าชมงานหลายแสนคน ปีหน้าก็เช่นกัน จะคัดกิจกรรมเด่น ๆ มาให้ใช้จ่ายเพิ่มทั้ง การช้อปแพกเกจท่องเที่ยว อาหารถิ่น สินค้าชุมชน เป็นการสร้างรายได้ตรงโดยไม่ผ่านบริษัทผู้ค้าคนกลาง เป็นการเปิดปีท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋อย่างยั่งยืน อย่างเต็มที่

โดยจะได้เปิดโฉม Open to the New Shades ไฮไลต์คือ “อาหารไทย” ในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ซึ่งมีความหลากหลายจากเมนูเดียวกันสามารถแตกแยกย่อยได้อีกมากมาย เช่น ผัดไทย จากกุ้งก็เพิ่มเป็นล็อบสเตอร์ ส้มตำ ก็มีเทรนด์ใหม่ ๆ เข้ามาเติมเต็ม ล่าสุดได้เดินทางไปแนะนำ New Shades พบปะสื่อมวลชนแถวหน้าของยุโรป ในลอนดอน ฝรั่งเศส ปรากฏว่ากระแสตื่นตาตื่นใจตอบรับได้ดีมาก

รวมทั้งอาหารยังเป็นสินค้าปลุกกระแสการเพิ่มค่าใช้จ่าย จึงยกให้อาหารเป็นหัวหอกการขยายฐานจุดขายทางการตลาดในแคมเปญ Amazing Thailand : Open to the New Shade

ผนวกกับการเพิ่มรายได้ด้านช้อปปิ้งจากสินค้าท้องถิ่นโดยเฉพาะ “ผ้าแต่ละภาค” มีความโดดเด่นเป็นจุดแข็ง คือ ผ้าไหม ผ้าย้อมคราม ผ้าทอมือ ผ้าบาติก อันเป็นอัตลักษณ์เฉพาะของภูมิภาค

เดือนมกราคม 2561 ททท.จะเป็นตัวแทนประเทศเจ้าภาพจัดงาน ASEAN TOURISM FORUM 2018 ระหว่างวันที่ 22-26 มกราคม 2561 เลือกหอประชุมนานาชาติเชียงใหม่ 700 ปี เป็นสถานที่จัดงาน ATF 2018 อีกครั้งในรอบ 10 ปี และได้ปูพรมเป็นพิเศษการเข้าสู่ความร่วมมือเต็มรูปแบบของ AEC ล่าสุดลงพื้นที่สำรวจความพร้อมพบว่าทางจังหวัดเชียงใหม่และศูนย์ประชุมมีความพร้อมมาก ดูรายชื่อผู้ประกอบการจากทั่วโลกตัวแทนกลุ่มผู้ซื้อ (buyers) 400 ราย และผู้ขาย (sallers) ก็เกือบ 400 รายเช่นกัน จะเป็นความยิ่งใหญ่ในการจัดมหกรรมผู้ซื้อพบผู้ขายระดับนานาชาติ และเอื้อเฟื้อถึงการเชื่อมโยงขายท่องเที่ยวแก่เพื่อนบ้านกลุ่ม CLMV ด้วย ทั้ง สปป.ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ เวียดนาม

ASEAN TOURISM FORUM 2018 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัด ผนวกกับชื่อชั้นของจังหวัดเชียงใหม่ จะต้องสร้างความประทับใจให้ผู้เข้าร่วมงานจากทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 1,200 ราย จดจำและขยายผลช่วยขายท่องเที่ยวของไทยได้รับรายได้จากตลาดนานาชาติตลอดปี 2561 เข้าเป้าหมายกว่า 2.1 ล้านล้านบาท เติบโต 8 %

ททท.ได้วางแผนจัดเตรียมสร้างความยิ่งใหญ่โดยจะใช้ทั้ง 3 งาน “เคาน์ดาวน์-เทศกาลเที่ยวเมืองไทย- ASEAN TOURISM FORUM 2018” ทำให้เศรษฐกิจชุมชนแจ้งเกิดอย่างแข็งแกร่ง สอดคล้องกับปีท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋อย่างยั่งยืนในปี 2561-2562

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “สมัครบัตรคิงเพาเวอร์ก่อนสิ้นปีสิทธิ์เพียบเลาจน์700แห่ง”



กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เชิญชวนร่วม “แพกเกจสุดคุ้ม” ระหว่างวันนี้-31 ธันวาคม 2560 ด้วยการสมัครสมาชิกบัตร รับเงินคืน 1,000 บาท ฟรีบริการเลาจน์ทุกการเดินทาง และรับส่วนลดสูงสุด20 %

เริ่มต้นเติมเงินเพียง 1,000 บาทในการร่วมแพกเกจ 1.บัตร NAVY จะได้ส่วนลด 5 % พร้อมคูปองส่วนลด 20 % จำนวน  1ใบ 2.บัตร SCARLET เติมเงิน 6,000 บาท จะได้ส่วนลด 10 % พร้อมคูปองส่วนลด 20 % จำนวน 3ใบ 3.บัตร ONYX  เติมเงิน 56,000 บาท จะได้ส่วนลด 15 % พร้อมคูปองส่วนลด 20 % จำนวน  5 ใบ 4.บัตร CROWN เติมเงิน 556,000 บาท จะได้ส่วนลด 20 % พร้อมคูปองส่วนลด 20 % จำนวน  5 ใบ

รวมทั้งยังให้ได้ลุ้นรับสิทธิจากแอร์ เอเชีย ด้วยถึง 2 รายการด้วยกัน คือ 1.รับคะแนนสะสม แอร์เอเชีย บิ๊ก พอยต์ สูงถึง 100,000 พอยต์  2.พิเศษ สมัครแล้วช้อปครบ 10,000 บาทภายในแต่ละวัน รับทันที แอร์ เอเชีย บิ๊ก พอยต์ อีก 13,000 พอยต์

สำหรับสิทธิประโยชน์ในการสมัครบัตรสมาชิก คิง เพาเวอร์ คือ บริการห้องรับรองในสนามบิน (Airport louge)ทั่วโลกกว่า 700 แห่ง สำรองกิจกรรมพิเศษระดับโลก บริการรับฝากรถที่สนามบินดอนเมือง ผู้ช่วยช้อปส่วนตัวและผู้อำนวยความสะดวกภายในสนามบิน เครดิตเงินคืนเพื่อใช้บริการอูเบอร์ ของขวัญพิเศษในวันสำคัญ จองตั๋วโดยสาร แพกเกจท่องเที่ยว สำรองห้องพัก รถเช่า ร้านอาหารได้ทั่วโลก บริการรถลีมูซีน และพักฟรี 1 คืนที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ

สอบถามได้ที่ คอล เซ็นเตอร์ 1631 หรือติดตามได้ทาง King Power official ทั้งไลน์ เฟซบุ๊ค ยูทูบ และ www.kingpower.com

ข่าวที่ 2 ““รมว.วีระศักดิ์มอบททท.รุกทำ5นโยบาย”



“วีระศักดิ์ โควสุรัตน์” รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลุยมอบภารกิจ ททท.ทำเชิงรุก 5 นโยบาย “คุมปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มรายได้-ตั้งคณะกรรมการร่วมครั้งแรกโลจิสติกส์เดินทางท่องเที่ยว-ผุด Clinic Tourism-หนุนคลัสเตอร์รัฐ 6 ภาค-เปิดหลักสูตรช็อตคอร์สผลิตคนทำงานได้จริง”

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าได้เดินทางไปมอบนโยบายการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2560 โดยขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในเชิงคุณภาพซึ่งสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศตลอดปีนี้กว่า 2.78 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนต่อผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) สูงถึง 20 % จึงต้องหันมาให้ความสำคัญการทำงานร่วมกับทุกองค์กรเชิงบูรณาการเพื่อดูแลทรัพยากรธรรมชาติทางการท่องเที่ยวอยู่อย่างยั่งยืนให้ได้มากที่สุด

ดังนั้นจึงได้ให้ร่วมกันเดินหน้า 5 นโยบายหลัก ประกอบด้วย

นโยบายที่ 1 ขอให้ควบคุมดูแลปริมาณนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าพื้นที่แต่ละแห่ง (Carrying Capicity) โดยได้ขอให้คณะกรรมการ (บอร์ด) ททท.กำหนดการถ่วงดุลดัชนีชี้วัดเรื่องการเพิ่มรายได้กับปริมาณนักท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับลักษณะการเติบโต ควรจะเร่งสร้างการรับรู้และดึงความสนใจคนเข้าสู่พื้นที่ท่องเที่ยวเมืองรองและชุมชนท่องเที่ยว โดยมียุทธศาสตร์แบบค่อยเป็นค่อยไปเพื่อให้พื้นที่จัดเตรียมความพร้อมรองรับ ควรเน้นเรื่องความสุขของชุมชนด้วย
นโยบายที่ 2 ขอให้ทำงานเชิงบูรณาการด้านซัพพลาย ไซซ์ ขานรับกับรัฐบาลซึ่งล่าสุดรัฐมนตรีว่าการทั้ง 2  กระทรวง คือกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากับกระทรวงคมนาคมได้หารือกันแล้วตกลงจะตั้ง “คณะกรรมการโลจิสติกส์ด้านคมนาคมและการท่องเที่ยว” เพื่อรับรู้ข้อจำกัดของโลจิสติกส์การเดินทางบก น้ำ อากาศ แล้วหาวิธีแก้ไขให้ทันต่อสถานการณ์อนาคต

นโยบายที่ 3 ขอให้สนับสนุนการเปิด Clinic Tourism หรือหน่วยฉุกเฉินเพื่อการแก้ไขปัญหาท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ กระชับการทำงานร่วมกันของสำนักงานททท.ภายในประเทศทั้งหมด 40 แห่ง กับสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดซึ่งมีอยู่เกือบครบทุกจังหวัด ที่ผ่านมาต่างฝ่ายต่างทำงาน จากนี้ไปจะต้องร่วมมือกันให้มากขึ้น

นโยบายที่ 4 ขอให้เตรียมสนองนโยบายรัฐบาลส่งเสริมการพัฒนาประเทศใน 6 ภาค โดยใช้คลัสเตอร์เป็นหลักซึ่งแต่ละภาคจะมี 4-8 คลัสเตอร์ ในส่วนของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะให้นำเสนอผ่านช่องทางคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีมอบหมายรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ตัวอย่างเช่น คลัสเตอร์ในพื้นที่ที่มีการขนส่งทาอากาศเชื่อมโยงเข้าหากันได้ในลักษณะข้ามภาคหรือข้ามจังหวัด และพื้นที่ทางทะเลอ่าวไทย หิวหินเชื่อมกับจังหวัดภาคตะวันออก เป็นต้น

นโยบายที่ 5 ขอให้สนับสนุนการผลิตบุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในรูปแบบ Short Couse ล่าสุดนำทีมกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาหารือกับรัฐมนตรีช่วยกระทรวงศึกษาธิการเรียบร้อยแล้ว เพิ่มทางเลือกที่สามขึ้นมาให้ทุกคนสามารถเลือกได้โดยให้ใช้ความต้องการของผู้ใช้บริการเป็นตัวตั้งในการผลิตคนเข้าสู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยว แตกต่างระบบจากเดิมสถาบันการศึกษาส่วนใหญ่จะเปิดการเรียนการสอนอยู่ในกรอบ 2 ทางเท่านั้น คือ เรียนเพื่อรับปริญญาและเรียนประกาศนียบัตรวิชาชีพ ต่อไปจะเรียนเพื่อให้ได้รับรองทำงานได้จริงและทำให้มีบุคลากรเข้าสู่อาชีพอย่างสมดุลลดความเหลื่อมล้ำลงจากทุกวันนี้

ข่าวที่ 3 “บางจากทำมอบจักรยานชุมชน-เปิดแบงก์ในร้านSPAR”



นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นำทีมบริหารและพนักงานทำกิจกรรมเพื่อสังคม โดยเข้าร่วมคาราวานนักปั่นที่มีสมัครเข้าร่วมประมาณ 900 คน พร้อมทั้งร่วมมอบจักรยานแก่ชุมชนรวมมูลค่าทั้งสิ้น 185,000 บาท ในงาน BCP CHARITY BIKE RIDE #2 @ BANGPHRA ณ สนามกีฬาอเนกประสงค์ชลประทานที่ 9 บางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี

โดยนายชัยวัฒน์ได้มอบจักรยานให้นายสมศักดิ์ เกตุวัตถา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางพระ จำนวน 50 คัน เพื่อนำไปมอบให้ 10 โรงเรียนในพื้นที่ตำบลบางพระ มอบจักรยานเสือภูเขารวม 5 คัน พร้อมชุดอุปกรณ์ซ่อมจักรยานให้กับนายวินัย บัวป้อง ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดตโปทาราม เพื่อนำไปใช้ในศูนย์เรียนรู้และให้บริการจักรยานของโรงเรียนวัดตโปทาราม

ส่วนร้านค้าปลีก SPAR ซึ่งเป็นผู้ให้บริการซูเปอร์มาร์เก็ตในสถานีบริการน้ำมันบางจาก ร่วมมือกับทางธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) (CIMBT) เปิดทำการสาขาใหม่ สาขาย่อยราชพฤกษ์ โดยสาขาในซูเปอร์มาร์เก็ต SPAR แห่งนี้ เปิดทุกวัน เวลา 10:00 น.-19:00 น. โดยจะให้บริการเปิดบัญชี ฝากเงิน สมัครสินเชื่อ และโอนเงินระหว่างประเทศ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า ที่เดินทางมาใช้บริการปั๊มน้ำมัน และจับจ่ายซื้อของในร้านซูเปอร์มาร์เก็ต

 ช่วงที่ 2 เตรียมตัวให้พร้อมที่จะเลือกเดินทางสู่เมืองชายทะเลฝั่งอันดามัน “ล่องใต้ไปเคาน์ดาวน์มุมใหม่ใน 4 จังหวัด” ภูเก็ต-หาดใหญ่-นครศรีธรรมราช-ตรัง และช่วงฤดูหนาวแรง ๆ ตอนนี้มีคำแนะนำจากแพทย์ให้ระวังเรื่องผิวแห้งพร้อมวิธีป้องกันดูแล ส่วนข่าวฮ็อต ๆ ของวงการบินแข่งกันโชว์กลยุทธ์เปิดจุดใหม่ ๆ เพียบ “ไทยแอร์ เอเชีย” โหมเส้นทางบินข้ามภาค ส่วน “นกแอร์” หันไปยึดหัวหาดในอีสานบินเชื่อมจังหวัดขนาดใหญ่เข้าด้วยกัน และ “นิวเจนแอร์เวย์ส” น้องใหม่แรงไม่หยุดบินแล้ว ไป-กลับ “นครราชสีมา-ดอนเมือง” ขายตั๋วแค่ 499 บาทเท่านั้น

@ ล่องใต้ไปเคาน์ดาวน์ “ภูเก็ต-หาดใหญ่-นคร-ตรัง”

การวางแผนพักผ่อนในช่วงวันหยุดยาว ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปเคาน์ดาวน์กลิ่นอายทะเลอันดามันกันบ้างที่ภาคใต้ ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2560 – 2561 ใน 4 จังหวัดยอดนิยม


“ภูเก็ต” ชาวชุมชนสะพานหิน ชวนไปร่วมนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ งานของดีและกาชาดจังหวัดภูเก็ต โดยเปิดพื้นที่สะพานหิน อำเภอเมือง นำทัพศิลปินดัง ๆ มาเติมเต็มความสุขให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและทั่วโลก ไปพร้อม ๆ กับคัดสรรอาหารถิ่นมาให้ชิมช้อปอาหารพื้นเมือง สินค้าโอทอป กันอย่างคึกคักข้ามคืนแห่งความสุข 31 ธันวาคม 2560 – 1 มกราคม 2561

ส่วนวัดตามหาดต่าง ๆ ทั้ง วัดหลังศาล  วัดท่าเรือ  วัดพระใหญ่  วัดม่าหนิก วัดวิชิตสังฆาราม  วัดเก็ตโฮ่   สวนสาธารณะลานกีฬาอำเภอกะทู้ ชวนร่วม “สวดมนต์ข้ามปี” วันที่ 31 ธันวาคม 2560 – 1 มกราคม 2561


 
  ล่องใต้สู่จังหวัดสงขลา ตระการตากับการท่องเที่ยว “ไนท์พาราไดส์หาดใหญ่เคาท์ดาวน์  Night Paradise Hatyai Countdown” ก็เป็นอีกทางเลือกของนักท่องเที่ยว ทุกปีจะเปิดพื้นที่กลางเมืองหาดใหญ่ ให้นักท่องเที่ยวร่วมเคาน์ดาวน์ปีนี้พิเศษตรงที่อากาศเย็นสบายกว่าหลายปีที่ผ่านมา จึงได้เนรมิตค่ำคืนแห่งไนต์พาราไดซ์หาดใหญ่ไว้ต้อนรับ 31 ธันวาคม 2560 – 1 มกราคม 2561



ฝั่ง “เมืองคอน-นครศรีธรรมราช” มีมุมใหม่ให้นักท่องเที่ยวสัมผัสความลึกซึ้งกับการร่วม “สวดมนต์ข้ามปีบูชาพระบรมธาตุบุญให้ทานไฟเมืองนคร” เปิดสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านเมือง วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร  อำเภอเมือง วันที่ 31  ธันวาคม 2560 - 1  มกราคม  2561 จุดเทียนเดินสมาธิรอบองค์พระบรมธาตุ สวดมนต์ข้ามปีรับพรปีใหม่  วิ่งข้ามปี  การทำบุญให้ทานไฟ ถวายความอบอุ่นแด่พระภิกษุสงฆ์การทำขนมถวายพระเป็นขนมพื้นบ้าน เช่น ขนมเบื้อง ขนมครก ฯลฯ ตักบาตรปีใหม่




ขณะที่ “จังหวัดตรัง” เมืองทะเลสงบร่มเย็น นำการแสดงทางวัฒนธรรม และ กิจกรรม Countdown ร่วมนับถอยหลังประชันจัดอลังการตรงหน้าสำนักงานเทศบาลนครตรัง (สี่แยกหอนาฬิกา) 31  ธันวาคม 2560 - 1  มกราคม  2561

 เที่ยวเมืองไทย อุ่นใจ ได้ความสุขครบทุกรสชาติ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวมุมใหม่ ๆ ในภาคใต้ ช่วงส่งท้ายปีมีเรื่องราวมากมายให้ค้นหาเสน่ห์วิถีไทย

@เทคนิควิธีป้องกันผิวพรรณช่วงหน้าหนาว

เมื่ออากาศเปลี่ยนแปลง  อุณหภูมิของอากาศเริ่มต่ำลง อากาศที่เย็นและแห้ง  อาจทำให้ผิวหนังสูญเสียน้ำได้มากกว่าปกติ ส่งผลให้ผิวแห้ง ลอก หยาบกร้าน  พบมากในผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป แนะควรเลี่ยงการ ถูแกะเกา การใช้ผลิตภัณฑ์ที่กระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองของผิวหนัง อาจทำให้ลุกลาม  เรื้อรัง ติดเชื้อได้

              นายแพทย์สมศักดิ์  อรรฆศิลป์  อธิบดีกรมการแพทย์  กล่าวว่า ภาวะผิวแห้งเกิดได้จากหลายสาเหตุ  เช่น   สภาพอากาศแห้ง   การอาบน้ำร้อน  ฟอกสบู่บ่อยเกินไป  ภาวะขาดแคลนสารอาหาร  ผู้ป่วยโรคไตวายที่ต้องฟอกไต  ผู้ป่วยโรคมะเร็ง  ผู้ป่วยโรคเอดส์  ผู้ป่วยโรคผิวหนังเกล็ดปลา  ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ผิวหนัง ที่พบบ่อย คือผิวแห้งในสูงอายุ  โดยเฉพาะในกลุ่มที่อายุมากกว่า 60 ปี   เกิดจากการผลิตไขมันที่ผิวหนังน้อยลง  การเก็บกักน้ำและไขมันที่ผิวหนังไม่ปกติ  ส่งผลให้เกิดอาการคัน ระคายเคืองที่ผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณหน้าแข้ง ต้นขา แขน และลำตัว อาการมักจะค่อยเป็นค่อยไป ถ้ามีการถูแกะเกา  ร่วมกับการใช้ผลิตภัณฑ์ที่กระตุ้นให้เกิดการระคายเคือง   อาจทำให้เกิดเป็นผื่นผิวหนังอักเสบ ซึ่งมีลักษณะเป็นผื่นสีแดง ไม่เรียบ มีสะเก็ด  แห้ง  แตก ลอก  จนถึงมีน้ำเหลืองไหล ติดเชื้อลุกลามมากขึ้นได้  ถ้าไม่ป้องกัน และดูแลรักษาให้ถูกวิธี

                แพทย์หญิงมิ่งขวัญ  วิชัยดิษฐ  ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า วิธีการป้องกันและรักษาคือ ไม่ควรอาบน้ำอุ่นจนเกินไป  ควรใช้สบู่ที่อ่อนโยน ไม่จำเป็นต้องใช้สบู่ที่มีฤทธิ์ยับยั้งแบคทีเรีย เพราะอาจทำให้มีการระคายเคือง หรือคันเพิ่มขึ้น  ควรทาครีมบำรุงผิวให้ความชุ่มชื้นสม่ำเสมอ ถ้าผิวแห้งมากควรทาออย หรือน้ำมันร่วมด้วย  และดื่มน้ำ พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  และทายากันแดด  ทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน ที่สำคัญต้องสังเกตการเปลี่ยนแปลงทางผิวหนัง หากมีอาการแสบ แดง คัน ลอก มากผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “สุวรรณภูมิ-ดอนเมืองจอดรถฟรีปีใหม่คนทะลัก2.9ล้านคน”

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” กล่าวว่า สถานการณ์ผู้โดยสารที่จะใช้บริการสนามบินปลายเดือนธันวาคมเป็นช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2560 – 3 มกราคม 2561  ทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ รวมทั้งหมดราว 2.94 ล้านคน หรือเฉลี่ย 420,000 คนต่อวัน เพิ่มขึ้น 6.6 % มีเที่ยวบิน 7,570 เที่ยว หรือเฉลี่ย 2,510 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้น 5.8 % โดยจะยกเว้นค่าจอดรถให้ผู้โดยสาร ระหว่าง 30 ธันวาคม 2560 – 2 มกราคม 2561



ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะมีผู้โดยสารมากสุด 1.32 ล้านคน หรือเฉลี่ย 188,500 คนต่อวัน เพิ่ม 2.7 % เที่ยวบิน 7,200 เที่ยว เฉลี่ย 1,030 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่ม 5.0 % จะทำพิธีเปิดต้อนรับการเดินทางในวันที่ 25 ธันวาคม 2560 เวลา 16.00 น. ยังได้จัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวก ระหว่าง 1 ธันวาคม 2560 - 5 มกราคม 2561 บริเวณห้อง CIP 5 ชั้น 3 อาคารผู้โดยสาร พร้อมทั้งให้ผู้โดยสารที่นำรถมาจอดฟรีระหว่าง 30 ธันวาคม 2560 – 2 มกราคม 2561 ได้ในลานจอดรถระยะยาวโซน C ซึ่งสามารถรองรับได้ 700 คัน มีรถ Shuttle Bus สายพิเศษสำหรับคอยให้บริการรับ – ส่งผู้โดยสารฟรี ระหว่างบริเวณลานจอดรถระยะยาว โซน C กับอาคารผู้โดยสารทุก ๆ 15 นาที

ท่าอากายานดอนเมือง มีผู้โดยสาร 781,400 คน เฉลี่ย 111,630 คนต่อวัน เพิ่ม 4.9 % เที่ยวบิน 5,200 เที่ยว เฉลี่ย 740 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่ม 3.4% จะจัดพิธีต้อนรับนักท่องเที่ยววันที่ 29 ธันวาคม 2560 เวลา 09.00 น.  และตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกระหว่าง 28 ธันวาคม 2560 - 4 มกราคม 2561 ณ ห้องศูนย์ประชาสัมพันธ์ ชั้น 3 อาคาร 2 เพื่อประสานความร่วมมือกับส่วนงานราชการ สายการบินและผู้ประกอบการอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออก พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯ ตลอด 24 ชั่วโมง

และบริการจอดรถฟรีระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2560 - 4 มกราคม 2561 จะยกเว้นค่าบริการจอดรถยนต์ให้แก่ผู้โดยสารใน 6 พื้นที่ ได้แก่ 1.อาคารจอดรถยนต์คลังสินค้า 5 ชั้น 2. ลานจอดรถยนต์หน้าอาคารจอดรถยนต์คลังสินค้า 5 ชั้น 3. ลานจอดรถยนต์ระหว่างอาคารจอดรถยนต์คลังสินค้า 5 ชั้น และคลังสินค้า 3 (4) ลานจอดรถยนต์คลังสินค้า 4  5. ลานจอดรถยนต์หน้าคลังสินค้า 1 และ 6. ลานจอดรถยนต์ฝ่ายสนามบินและอาคาร ซึ่งสามารถรองรับรถยนต์ได้ประมาณ 1,000 คัน โดยมีรถ Shuttle Bus สำหรับวิ่งให้บริการรับ - ส่ง ผู้โดยสารระหว่างที่จอดรถ กับอาคารผู้โดยสารทุกๆ 15-20 นาที

ท่าอากาศยานภูเก็ต มีผู้โดยสารประมาณ 425,300 คน เฉลี่ย 60,760 คนต่อวัน เพิ่ม 16.0 % และเที่ยวบิน 2,500 เที่ยว เฉลี่ย 360 เที่ยว เพิ่ม  12.0

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ มีผู้โดยสาร 243,900 คน เฉลี่ย 34,840 คน เพิ่ม 11.1 % และเที่ยวบิน1,630 เที่ยว เฉลี่ย 230 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่ม 5.4 %

ท่าอากาศยานหาดใหญ่ มีผู้โดยสาร 89,100 คน เฉลี่ย 12,730 คนต่อวัน เพิ่ม 4.0 % และเที่ยวบิน  620 เที่ยว เฉลี่ย 90 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่ม 4.7

 ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย มีผู้โดยสาร 78,200 คน เฉลี่ย 11,170 คนต่อวัน เพิ่ม 42.6 % และเที่ยวบิน 420 เที่ยว หรือเฉลี่ยประมาณ 60 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่ม 19.4 %

สำหรับท่าอากาศยานภูมิภาคทุกแห่งของ ทอท.ได้จัดให้มีศูนย์รักษาความปลอดภัย เชียงใหม่ เชียงราย หาดใหญ่ โดย ทอท.ได้จัดทำความร่วมมือกับหน่วยงานทางอากาศ เพื่อประสานงานข่าว การอำนวยความสะดวก การรักษาความปลอดภัย และการติดต่อประสานงานเร่งด่วนอื่น ๆ ตลอดเทศกาล

ขณะนี้มีการปิดสะพานเข้าท่าอากาศยานดอนเมือง บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต (ขาออก) เพื่อเพิ่ม
ช่องจราจรทางตรงเป็น 3 ช่องจราจร จะดำเนินการแล้วเสร็จกันยายน 2561 รวมทั้งที่สนามบินสุวรรณภูมิ ได้เปิดให้บริการอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ (ด้านทิศใต้) ควบคู่กับการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ (ด้านทิศเหนือ) ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถเปิดให้บริการได้ในเดือนมิถุนายน 2561 ระหว่างการปรับปรุงอาจส่งผลให้เกิดความไม่สะดวกต่อผู้โดยสารและผู้ใช้บริการบ้าง ทอท.จึงขออภัยมา  ณ โอกาสนี้ และ ทอท.จึงขอความร่วมมือให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางล่วงหน้า 2 – 3 ชั่วโมง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ AOT Contact Center  1722 ตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวที่สอง “ไทยแอร์บุกเปิดบินข้ามภาค-นกแอร์ยึดหัวหาดอีสาน”


นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ปี 2561 เตรียมทยอยเปิดเส้นทางบินประจำตามเส้นทางจังหวัดท่องเที่ยวเมือง โดยจะเริ่มเปิดอีกครั้ง กรุงเทพฯ-ระนอง ตั้งแต่16 กุมภาพันธ์ 2561 โดยฝูงบินแอร์บัส A320  ตั้งเป้าจะทำอัตราขนส่งผู้โดยสาร6 เดือนแรก เฉลี่ยให้ได้ถึง 83% ด้วยปัจจัยหนุนจากตลาดการเดินทางเข้าสู่ระนองการท่องเที่ยวเติบโตอย่างเข้มแข็ง มีกิจกรรมดำน้ำเป็นแม่เหล็กดึงดูดสำคัญ อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงนั่งเรือข้ามไปดำน้ำในทะเลฝั่งเมียนมาได้  มีทั้งผู้ประกอบการเรือโดยสาร ร้านดำน้ำ เกิดขึ้นจำนวนมาก เป็นเมืองบ่อน้ำแร่สไตล์ออนเซ็นอยู่ใน 2 โรงแรม

 รวมทั้งจะพุ่งเป้าเปิดเส้นทางบินข้ามภูมิภาคเพิ่ม เริ่มจาก เส้นทาง ขอนแก่น-ภูเก็ต เริ่ม 22 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป จากปัจจุบันเปิดให้บริการ 15 เส้นทาง มีส่วนแบ่งตลาดข้ามภูมิภาคกว่า 75-80% โดยมีกระแสตอบรับจากนักท่องเที่ยวอีสานไปเที่ยวทะเลทางใต้ในวันหยุดสุดสัปดาห์ได้สะดวกมากขึ้น


ทางด้านนกแอร์ วางแผนเปิดบินเชื่อมโยงจังหวัดขนาดใหญ่ในอีสานด้วยกัน ได้แก่ อุดรธานี-อุบลราชธานี จะเริ่มบิน 17 มกราคม 2561สัปดาห์ละ 3 เที่ยว ใช้ฝูงบินแบบ Q400 เปิดให้จองตั๋วโดยสารตั้งแต่ 19 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไปขณะนี้นกแอร์ให้บริการบินสู่ 2 จังหวัด ได้แก่ ดอนเมือง (กรุงเทพฯ) ไป-กลับ อุดรธานี วันละ 6 เที่ยว และ อุบลราชธานี วันละ 7 เที่ยว

ข่าวที่สาม “นิวเจนแอร์ชิมลางบินโคราช-ภูเก็ตขายตั๋วแค่499บาท”



นายเจริญพงษ์ ศรประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นิวเจน แอร์เวย์ส จำกัด กล่าวว่า เริ่มนำร่องเปิดจุดบินใหม่ในประเทศแบบประจำ ไป-กลับ ดอนเมือง-นครราชสีมา เรียบร้อยแล้ว สัปดาห์ละ 2 เที่ยว ทุกวันศุกร์และจันทร์  เริ่มตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. 2560 เป็นต้นไป ช่วงเริ่มต้นโปรโมตขายตั๋วโดยสารเที่ยวละ 499 บาท

สำหรับตารางบิน วันศุกร์ออกจากดอนเมือง 05.30 น. ถึงปลายทาง 06.25 น. วันจันทร์ออกจากนครราชสีมา 19.00 น. ถึงดอนเมือง 19.50 น. สอบถามเพิ่มเติมที่ Call Center 0-2838-8338

อีกทั้ง นิวเจน แอร์เวย์ส ยังเพิ่มเที่ยวบินต้อนรับการเดินทางช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ จัดเที่ยวบินเสริมเฉพาะกิจออกจาก ไป-กลับ ดอนเมืองในวันพฤหัสบดีที่ 28 ธันวาคม 2560 และวันอังคารที่ 2 มกราคม 2561 รวมถึงมีเที่ยวบินจาก นครราชสีมา-ดอนเมือง วันศุกร์ที่ 29 ธันวาคม 2560 และ ดอนเมือง-นครราชสี วันเสาร์ที่ 30 ธันวาคม 2560

ติดตามฟังรายการเป็นประจำได้ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ 11.00-12.00 น. ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai