ททท.เหนือ10แห่ง17จังหวัดลุยปี’61โกย1.34แสนล้าน
งัดสารพัดโปรดักซ์ขาย “แอ่วเหนือครั้งใหม่ ไม่เหมือนเดิม”
เปิดพูลแมน คิง เพาเวอร์ ต้อนรับตูน บอดี้สแลม3ธ.ค.นี้
อีสาน-เหนือแข่งกันจัดกิจกรรมท่องเที่ยวดูดเงินปลายปี
บางจากยึดเวทีสัมมนาปลุกกระแสอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
เที่ยวชุมชนรักสุขภาพบ้านไร่กองขิงไปย่ำขางเชียงใหม่
3เคล็ด(ไม่ลับ)กับวิธีการเก็บรักษาผักไว้ให้สดยาวนาน
บอร์ดสั่งไทยสไมล์แก้แผนยุทธศาสตร์เสนอใหม่20ธ.ค.
คมนาคมถก 4 องค์กรร่วมจัดแถว29สนามบินภูมิภาค
บินไทยนำวัตถุดิบโครงการหลวงปรุงเมนูเสิร์ฟ 5ธ.ค.นี้
นิวเจนแอร์เวย์สอัดโปรแจกทองไฟลต์ปฐมฤกษ์3ธ.ค.นี้
สวัสดีวันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคม 2560 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen
ช่วงที่ 1 “สมฤดี จิตรจง” ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ ท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้สัมภาษณ์พิเศษในรายการ ถึงแผนการตลาดเชิงรุกการท่องเที่ยวภาคเหนือ 10 แห่ง 17 จังหวัด ที่นำมาเป็นเครื่องมือกระตุ้นรายได้เข้าประเทศให้ได้ถึง 134,800 ล้านบาท ด้วยโครงการ “แอ่วเหนือครั้งใหม่ ไม่เหมือนเดิม -Go North Thailand” โดยได้นำโปรดักซ์ 8 แรงบันดาลใจ เจาะขายนักท่องเที่ยวหลัก 4 กลุ่ม
“สมฤดี จิตรจง” ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ ท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) |
“สมฤดี จิตรจง” ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ ท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้ปฏิรูปการตลาดท่องเที่ยวภาคเหนือเข้าสู่เทรนด์ “แอ่วเหนือครั้งใหม่ ไม่เหมือนเดิม” เพื่อเป็นแรงส่งการท่องเที่ยวปี 2561 ภาคเหนือต้องทำรายได้เพิ่มสูงกว่าทุกภาคเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 8.7 % มูลค่ารวม 134,800 ล้านบาท หลังจากปี 2559 ทำไว้ 114,000 ล้านบาท
การเติบโตจะต้องวางกลยุทธ์การตลาดด้วยการขายเมืองท่องเที่ยวรอง หากลุ่มใหม่เข้ามาเสริมช่วงวันธรรมดา เพิ่มการเดินทางจากกลุ่มศักยภาพใช้จ่ายเงินมากขึ้นกว่าทุกครั้ง รองรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มทั้งผู้สูงวัย คนพิการ ครอบครัว 4.เป็นเมืองนักปราชญ์ ช่างศิลป์ สินค้าโอท็อป โรงแรมต่าง ๆ สร้างสรรค์สินค้าได้ตรงกับลูกค้า เป็นแม่เหล็กดึงดูดคนเข้ามาควบคู่กับการเป็นเจ้าบ้านที่ดี เป็นหัวใจหลักของการเดินทางท่องเที่ยว
การทำรายได้ 134,800 ล้านบาท ตามปกติแหล่งรายได้จะมาจาก ห้องพัก วันพัก 2.7 วัน/คน/ทริป แต่หัวใจหลักคือ รายได้จากอาหาร ซึ่งผลวิจัยสูงขึ้นมาก ททท.จึงจับมือกับมิชลินไกด์บุ๊ค ฝรั่งเศส ต้องการทำให้เห็นศักยภาพประเทศไทยเป็นเมือง gastronomy ในเชียงรายมีเมนูท้องถิ่นมากมายรวมถึงหลายจังหวัดภาคเหนือ มีชา กาแฟ เค้ก อร่อยขึ้นชื่อ และช้อปปิ้ง ซึ่งได้แรงหนุนจากศิลปินมากมายสนับสนุนให้สินค้ามีความแปลกแตกต่างจากภาคอื่น ๆ
ดังนั้นภาคเหนือจึงจะไฮไลต์เรื่องอาหารกับช้อปปิ้ง เล็งไปยัง 4 กลุ่มเป้าหมาย กลุ่มแรก วัยเก๋า 55 ปีขึ้นไป ไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ดังนั้นผู้ประกอบการต้องเร่งปรับตัวหันมาเน้นผลิตสินค้าตามความต้องการของนักท่องเที่ยวทั้งเรื่องความปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวกตามสถานที่ต่าง ๆ เพราะกลุ่มสูงวัยจะตอบโจทก์เรื่องการกระจายไม่ได้กระจุกตัว เนื่องจากมีเงินใช้จ่ายอย่างไม่จำกัด
กลุ่มสอง เจนวาย ไม่จำกัดอยู่แค่วัย 35 ปีเท่านั้น เป็นกลุ่มเครือข่ายสังคมโซเชียลมีเดีย ซึ่งสามารถช่วยประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวทุกแห่ง เพราะเป็นกลุ่มที่ชื่นชอบการเซลฟี่ทุกอย่างแล้วโพสต์เผยแพร่สู่สาธารณะ อาทิ กลุ่มนักปั่นจักรยานถ่ายภาพเผยแพร่ไปทั่วทุกแห่ง
กลุ่มสาม ผู้หญิง มีปริมาณคนจำนวนมาก เป็นโสด มีเงิน และต้องการท่องเที่ยวเพื่อหยุดพักผ่อน ขับรถท่องเที่ยวไปถึงชุมชน
กลุ่มสี่ ครอบครัว ที่มี 3 generation ปู่ย่าตายาย พ่อแม่ ลูก ๆ ที่มีหลาน สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งปรับตัวรองรับกลุ่มต่าง ๆ เหล่านี้
ปี2561 ใช้ธีม “แอ่วเหนือครั้งใหม่ ไม่เหมือนเดิม” จากการวิจัยของ ททท.พบว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่รู้จักและเที่ยวภาคเหนือก่อนภาคใด อย่างจังหวัดเชียงใหม่ เกือบ 60 ปี ดังนั้นจึงต้องหาจุดขายนำเสนอสู่ตลาด เพราะมาแล้วเกิดมุมมองใหม่จาก 8 แรงบันดาลใจ ในการหันมาเที่ยวภาคเหนือ ประกอบด้วย
1.โครงการหลวง โครงการพระราชดำริมากมาย มีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากภาคอื่น ๆ อาทิ เที่ยวดอยตุงในหน้าร้อน มีดอกว่าน พันธุ์พืชเมืองร้อน หรือลองชิมไอศรีมแมคาเดเมีย กาแฟศิลปะสมุนไพรสวรรค์บนดิน
2.ชุมชน ตามนโยบายรัฐบาลมุ่งเน้นกระจายนักท่องเที่ยวเข้าไปชมวิถีชีวิตท้องถิ่นทั้งภาคเหนือตอนบนและตอนล่าง สร้างมิตรภาพและธุรกิจ เช่น ชุมชนนครชุม นักท่องเที่ยวเข้าไปแล้วสั่งซื้อข้าวกับข้าวโพดไปจำหน่าย สามารถต่อยอดสินค้าท้องถิ่นได้
3.ดอกไม้ ที่น่ามหัศจรรย์คือ ดอกกระเจียวยักษ์ จังหวัดตาก
4.ผ้าพื้นเมือง ภาคเหนือมีทั้งผ้าเอกลักษณ์ล้านนาและผ้าไทยเหมาะกับคนรุ่นใหม่ สามารถทำ D.I.Y.
5.อาหาร นอกเหนือจากข้าวซอยที่กินในสถานที่ต่างกันบนดอย หน้าทุ่งหน้า
6.ธรรมะ มีวัดสถานที่ปฏิบัติธรรม อาทิ ไร่เชิงตะวัน และอื่น ๆ ซึ่งมีคนรุ่นใหม่มาปฏิบัติธรรมพร้อมกับท่องเที่ยวที่จ่วยเติมเต็มในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว
7.ท่องเที่ยวเชิงผจญภัย ตอนนี้กำลังนิยมคือ Tree Top Walk ททท.จะจับมือกับสายการบินท้าภาคอื่นมาเดินลอยฟ้า
8.ธรรมชาติ ภาคเหนือมีสถานที่สวยงามตลอดฤดู โดยเฉพาะหน้าฝน อาทิ กว๊านพะเยา ช่วงฝนตกมีไอน้ำส่วยงาม ทะเลหมอก หรือภาพวิถีชีวิตยกยอ โรงนาหรือจะทดลองดำนา
ส่วนความสะดวกทางด้านโลจิสติกส์ การคมนาคมขนส่งส่งเสริมการท่องเที่ยว ภาคเหนือ สามารถเดินทางบกถนน ต้องผลักดันนโยบายเน้นความปลอดภัย ทางอากาศ-เครื่องบิน มี 10 สนามบิน ล่าสุด ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมาตรวจเยี่ยมลำปางที่จะขยายสนามบิน เพื่อให้เกิดการบินตรงเข้าสู่พื้นที่
การท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ตามด่านใหม่ ๆ เป็นความท้าทายเพราะบางเส้นทางเพื่อนบ้านเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็วมาก
สุดท้ายคือความร่วมมือกันทำให้ท่องเที่ยวเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย ไม่ใช่แค่สร้างรายได้ แต่สิ่งที่นักท่องเที่ยวได้เห็นแล้วนำไปขยายผลความสวยงามปากต่อปาก
ทั้งนี้ ททท.ภูมิภาคภาคเหนือยังมีเส้นทาง แหล่งท่องเที่ยว และกิจกรรมไฮไลท์ตลอดปี 2561 ให้แชร์ต่อ ๆ กัน โดยแต่ละสำนักงานได้จัดกิจกรรมท่องเที่ยวเพื่อสร้างความคึกคัก ทั้ง 10 สำนักงาน ประกอบด้วย
ททท. สำนักงานเชียงใหม่ นำเสนอ “เส้นทางแห่งความรัก..ศรัทธา...สายหมอก...ดอกไม้” ได้แก่ เส้นทางที่ 1: ตามรอยศรัทธาแห่งขุนเขา เส้นทางที่ 2: ตามรอยพ่อ วิถีพอเพียง เส้นทางที่ 3: ตามรอยรัก รากนครา เส้นทางที่ 4: เที่ยวอินดี้ วิถีชุมชน เส้นทางที่ 5: หยิบหมอก หยอกลมหนาว
ททท. สำนักงานเชียงราย นำเสนอสินค้าท่องเที่ยว “RAI” ประกอบด้วย R (Relax): แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่จะสร้างความผ่อนคลาย A (Art): แหล่งศิลปวัฒนธรรมที่สวยงาม การแสดงที่มีเป็นเอกลักษณ์ และศิลปินชาวเชียงราย I (Inspiration): แหล่งท่องเที่ยวที่สร้างแรงบันดาลใจ อาทิ โครงการหลวงดอยตุง ฟาร์มสเตย์สวรรค์บนดิน
ททท. สำนักงานแม่ฮ่องสอน นำเสนอแคมเปญ “ดอยสเตอร์” หรือวิถีชาวดอย ที่ประกอบด้วยวัฒนธรรมและประเพณีอันเป็นเอกลักษณ์ เช่น การแต่งกาย การกิน วิถีชีวิต
ททท. สำนักงานแพร่ นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวและเส้นทาง “ค่ำชมดาว เช้าชมหมอก” ณ จุดดูดาว แพร่-น่าน เช่น ดอยเสมอดาว ม่อนเคียงดาว ผาอินหมอก ดอยเล็ง
ททท. สำนักงานลำปาง นำเสนอ “9 มหัศจรรย์ล้านนาที่ลำพูน” ตลอด 12 เดือน และจุดชมทะเลหมอก ที่ลำปาง เช่น ดอยฟ้างาม ดอยผาแดง วัดดอยพระฌาน และวัดเฉลิมพระเกียรติ
ททท. สำนักงานสุโขทัย นำเสนอโปรแกรมท่องเที่ยว “ไหว้พระที่สุโขทัย ขออะไรก็สำเร็จ” และเส้นทาง Chic Show So Fun กำแพงเพชร สุโขทัย อุตรดิตถ์ ททท. สำนักงานตาก นำเสนอแคมเปญ “เที่ยวตาก 12 เดือน” สินค้าท่องเที่ยวไฮไลท์ เช่น จุดชมทะเลหมอก น้ำตกทีลอซู แช่น้ำแร่ออนเซ็น และชุมชนเลี้ยงช้างกะเหรี่ยง บ้านปูเต้อ
ททท. สำนักงานนครสวรรค์ นำเสนอแคมเปญ “เปิดมุมมองใหม่ ท่องเที่ยวนครสวรรค์” สินค้าท่องเที่ยวไฮไลท์ช่วงฤดูหนาว ดูนก ดูบัว บึงบอระเพ็ด ทุ่งปอเทือง และดอกทานตะวัน
ททท. สำนักงานอุทัยธานี นำเสนอสินค้าและกิจกรรมท่องเที่ยว “อุทัยฯ...ในอภิรมย์” ประกอบด้วย แหล่งท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และ วิถีชีวิตชุมชนริมแม่น้ำสะแกกรัง
ททท. สำนักงานพิษณุโลก นำเสนอกิจกรรม “ท้าจับหมอก Misty Challenge in Pitsanulok-Phetchabun” โดยร่วมถ่ายรูปและ Check in ณ 10 จุด จับหมอก เพื่อรับของรางวัลและของที่ระลึกจากสำนักงาน
ออกมาไป “แอ่วเมืองเหนือครั้งใหม่ ไม่เหมือนเดิม” กันให้มาก ๆ เพื่อกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นและชุมชนทั้ง 17 จังหวัด
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1คิง เพาเวอร์เปิดบ้านต้อนรับ “ตูน บอดี้สแลม” 3-5 ธ.ค.นี้
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า วันที่ 3 ธันวาคม 2560 เตรียมเปิดบ้าน ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ ต้อนรับ “ตูน บอดี้สแลม - อาทิวราห์ คงมาลัย” ในโครงการ “ก้าวคนละก้าว” เพื่อซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับ 11 โรงพยาบาลที่ยังขาดแคลนและต้องการความช่วยเหลือและแรงสนับสนุนจากคนไทยทุกคน ทางคิง เพาเวอร์ ได้ร่วมสนับสนุนด้วยโครงการ KING POWER THAI POWER : พลังคนไทย” จัดทำกิจกรรม “ล้านลูก ล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย” เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่ง เพื่อส่งต่อ “ก้าวที่ยิ่งใหญ่” ที่คนไทยทำเพื่อคนไทยในการวิ่ง รวมระยะทางจากเบตง ยะลา สู่แม่สาย เชียงราย 2,191 กิโลเมตร
สำหรับการวิ่งในวันที่ 3 ธันวาคม 2560 ตูน บอดี้สแลม และคณะ จะใช้ระยะทางวิ่ง1.4 กิโลเมตร จากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้ามายังอาคาร คิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ รางน้ำ จากนั้นวันที่ 4 ธันวาคม 2560 จะหยุดพักผ่อน แล้วส่งต่อในวันที่ 5 ธันวาคม 2560 จากคิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ รางน้ำ สู่ The Sense ปิ่นเกล้า ระยะทาง 10.3 กิโลเมตร
ตลอดการก้าวผ่านภาคใต้ 24 วัน 850 กิโลเมตร เมื่อโครงการก้าวคนละก้าว วิ่งเข้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตูนได้นำลูกฟุตบอลของคิง เพาเวอร์ มอบให้แก่เด็กและเยาวชนโรงเรียนบางสะพาน 1,005 ลูก แล้วคิง เพาเวอร์ จะร่วมก้าวไปกับตูนตลอดระยะทางที่เหลือเพื่อมอบลูกฟุตบอลให้ครบ 308 โรงเรียน
“ตลอดระยะทางที่ผมนำลูกฟุตบอลคิง เพาเวอร์ ไปมอบให้เด็ก ๆ ทุกคนกอดลูกฟุตบอลแน่น ผมและน้อง ๆ ต่างก็มีความสุขไปด้วยกัน” ตูนกล่าวด้วยใบหน้า
ข่าวที่ 2 “3 ททท.อีสาน-เหนือแข่งจัดท่องเที่ยวปลายปี60”
ททท.อีสาน-เหนือ “โคราช-นครสวรรค์-สุโขทัย” โหมขายท่องเที่ยว แห่จัดกิจกรรมตลอด ธันวาคมนี้ “เกษตรแฟร์ปากช่อง-ทัวร์มุมใหม่นครสวรรค์/บึงบอระเพ็ด-เที่ยวเมืองเก่าสุโขทัย 800 ปี”
นางรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานนครราชสีมา กล่าวว่า ร่มกับหน่วยงานในนครราชสีมาส่งเสริมการท่องเที่ยวใน “ปากช่องเกษตรแฟร์ 2017” ระหว่างวันที่ 8-11 ธันวาคม นี้ ภายใต้ชื่องาน “นวัตกรรมเกษตร 4.0 นำปากช่องสู่เมืองเกษตรและการท่องเที่ยวชั้นนำ” มีกิจกรรมพิเศษที่ไม่ควรพลาด เริ่มต้นที่พิธีทางศาสนา ตักบาตร การแข่งขันวาดภาพ การฝึกอบรมทางการเกษตร เช่น อบรมการทำพืชอาหารสัตว์ ข้าวโพดหมัก น้ำนมข้าวโพด การแปรรูปข้าวโพดหวาน การปลูกมะเดื่อฝรั่งอย่างยั่งยืน การปลูกเมล่อนในโรงเรือน
รวมทั้งการแสดงผลงานทางวิชาการเกษตรในรูปแบบนิทรรศการ แปลงสาธิตพันธุ์พืช ชมไร่เศรษฐกิจ ไม้ดอก ไม้ประดับ แบบจักรยานและรถนำชมภายในไร่ พร้อมวิทยากรบรรยาย กิจกรรมคลินิกพืชและสัตว์ การแสดงของวงดนตรี ชมความสวยงามของทุ่งปอเทืองเหลืองอร่ามท่ามกลางหุบเขา และกิจกรรมอีกมากมาย
สอบถามรายเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างแห่งชาติ โทรศัพท์ 06 1558 5280-1
นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานนครสวรรค์ กล่าวว่า นครสวรรค์ชวนท่องเที่ยวเมืองสวยงามและน่าเที่ยวเป็นพิเศษเนื่องจากมีดอกไม้นานาพันธุ์ทั้ง ทุ่งปอเทือง ทุ่งทานตะวัน บานสวยงามระหว่างนี้ไปจนถึง มกราคม 2561 และดอกบัวนานาพันธุ์ โดยเฉพาะดอกบัวแดงบานสะพรั่งในเดือนมกราคมปีหน้า พร้อมรับนักท่องเที่ยว ททท.นครสวรรค์ จึงออกแบบการท่องเที่ยวที่ได้สัมผัสนครสวรรค์ ที่เรียกว่า”เปิดมุมมองใหม่นครสวรรค์” โดยแบ่งคอนเซปต์ไว้เป็น 4 แบบได้แก่
1.ท่องบึง ชมบัว ดูนก “นครสวรรค์…สวรรค์ของนักดูนก”
2.ท่องเที่ยวธรรมชาติ “นครสวรรค์…สีสันพรรณไม้เหลืองอร่าม ยามหน้าหนาว”
3.ท่องเที่ยววิถีชุมชน “นครสวรรค์…เมืองอู่ข้าว อู่น้ำ อู่ปลา เมืองท่าปากน้ำโพ”
4.นครสวรรค์ ดินแดนแห่งเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ “นครสวรรค์...ไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้ชีวิตรุ่งเรือง”
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2560 ททท. นครสวรรค์ เปิดโครงการ “เที่ยวมุมมองใหม่บึงบอระเพ็ด” จากนั้นจัดกิจกรรมเที่ยวฟรีที่บึงบอระเพ็ด ได้แก่ การล่องเรือชมบึง ชมการแสดงละครลิง”คุณประกิต” อาคารแสดงพันธ์สัตว์น้ำบึงบอระเพ็ด (Aquarium) ซึ่ง อบจ.นครสวรรค์ ได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมการเข้าชมทุกประเภทให้แก่นักท่องเที่ยวและประชาชนชาวนครสวรรค์
สำหรับนครสวรรค์มีศักยภาพทางการท่องเที่ยวอยู่ในระดับที่สูงเนื่องจากมีความพร้อมได้ต่าง ๆ โดยมีห้องพักประมาณ 140 แห่ง จำนวน 4,000 ห้อง ร้านอาหาร ของที่ระลึก บริษัทนำเที่ยว ให้เลือกใช้บริการ
ปี 2559 มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือน (นักท่องเที่ยวและนักทัศนาจร) 1,706,964 คน มีรายได้ 3,294 ล้านบาท แนวโน้มปี 2560 ช่วง 6 เดือนแรก (มกราคม-มิถุนายน 2560) นักท่องเที่ยวเติบโต 9.67 % แบ่งเป็นผู้เยี่ยมเยือน1,182,805 คน รายได้ 2,100 ล้านบาท 10.08 % ในฤดูกาลท่องเที่ยวปลายปีนี้ ททท. สำนักงานนครสวรรค์ ได้บูรณาการร่วมกับ อบจ. นครสวรรค์ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด หัวหน้าสถานีจิวัยสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด สำนักงานประมงจังหวัดนครสวรรค์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาคราชการและเอกชนกำหนดเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวนครสวรรค์ ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป ชูความโดดเด่นหลัก ๆ ได้แก่ การชมบึงดูบัว ชมนกในบึงบอระเพ็ด สัมผัสสีสันรพรรณไม้ทุ่งดอกปอเทืองและทานตะวัน แหล่งท่องเที่ยวชุมชนวิถีชีวิต และเส้นทางท่องเที่ยวสัการะสิ่งสักสิทธิ์
“พัศลินทร์ เศวตรัตน์ ผู้อำนวยการ ททท.สุโขทัย แนะนำให้ไปท่องเที่ยวบ้านทุ่งหลวง อ.คีรีมาศ 15 กม.เครื่องปั้นดินเผา "วิทยาลัยใต้ถุนบ้าน" แต่ละบ้าน 200 หลัง ทำลายแตกต่างกัน ทำฝาหม้อ หม้อจิ้มจุ่มบางบ้านปั่นพระ มีเตาอยู่ใต้ถุนของแต่ละบ้าน เป็นการปั้นดินเผาเพื่อขายส่งทาง เกาะเกร็ด ด่านเกวียนเอกลักษณ์คือ หม้อกรัน มีโฮมสเตย์ 3 หลัง กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยวโดยมีเทศบาลเป็นพี่เลี้ยง
ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 31 ธันวาคม 2560 -1 มกราคม 2561 ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยเตรียมย้อมทั้งเมืองอายุกว่า 800 ปี พื้นที่บริเวณตัวเมืองเก่า จัดกิจกรรมตักรบาตรที่วัดตระพังทอง นำสิ่งมงคลแก่ชีวิต และเป็นสถานที่ที่มีรอยพระพุทธบาท อยู่ตรงกลางสร้างสมัยพญาลิไท
สำหรับแหล่งท่องเที่ยวหลัก คือ อุทยานรามคำแหง ศรีสัชนาลัย จะเพิ่มเส้นทางให้ชัดเจน ส่วนที่ไร่แม่สิน มีทั้งตำบลแม่สิน รอยต่อวังชิ้น-แพร่ พันธ์สีทอง เป็นส้มปลอดภัยใช้สารเคมีน้อยมาก บริษัท มาลี จำกัด (มหาชน) มีการออกแบบเป็นสกายวอล์ค ดูได้ช่วงหน้าฝน หน้าร้อน
ส่วนในอำเภอสวรรคโลก กำลังทำฟาร์มสเตย์ ปั้นเป็นเมือง Art โดยมีสินค้าท่องเที่ยวติดตลาดแล้วคือตลาดย้อนยุคท่าน้ำรับเสด็จ ซึ่งเป็นตลาดเมืองเก่า มีวิถีชีวิตคนเมืองเก่า ฟันพระ ปั้นดิน พิมพ์พระ น่าสนใจมาก โดยจะทีมงานเป็นผู้คอยแนะนำนักท่องเที่ยวให้ทดลองทำกิจกรรม “พิมพ์พระ” ซึ่งสามารถกลับบ้านได้ มีคุณค่าทางใจ
สำหรับสุโขทัยมีโรงแรม 200 แห่ง 2,000 ห้อง ราคาหลักร้อย-3,000 บาท โฮมสเตย์ บ้านนาต้นจั่น 500 บาท/คน รวมอาหาร 2 มื้อ ไกด์ 250 นำชม 200 บาท ต่อคณะ
ข่าวที่ 3 “บางจากจัดเสวนาปลุกสำนึกร่วมรักสิ่งแวดล้อม”
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้จัดเวทีเสวนาด้านสิ่งแวดล้อม เป็นปีที่ 7 ตอกย้ำในประเด็น “วิกฤติ 2 องศา วิกฤติเศรษฐกิจ วิกฤติสังคม” ภัยใกล้ตัวที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ด้วยบริษัทมีวิสัยทัศน์มุ่งพัฒนาสู่ความยั่งยืนทุกด้าน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ทว่าปัจจุบันสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงจากอุณหภูมิโลกสูงขึ้น ส่งผลกระทบรุนแรงต่อระบบนิเวศน์ สิ่งแวดล้อม เชื่อมโยงถึงการดำรงชีวิตในสังคมของมนุษย์ เช่น การเพาะปลูก ความมั่นคงทางอาหาร พฤติกรรมการบริโภค การเกิดโรคระบาดทั้งในมนุษย์และสัตว์เลี้ยง เป็นต้น
จากปัญหาดังกล่าว เป็นสิ่งที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังและ
หวังผลสัมฤทธิ์ให้เกิดขึ้น เพื่อเยียวยาปัญหาด้วยการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และควบคุมอุณหภูมิโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 2 องศา
ทั้งนี้ได้แบ่งปันประสบการณ์ มุมมองและวิสัยทัศน์ในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยนายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ดังนี้ นายแพทย์ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข นายยุทธนา นรภูมิ-พิภัชน์ รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โดยผู้มีชื่อเสียงที่ช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมเข้าร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลด้วย ได้แก่ นางประเสริฐสุข จามรมาน ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) นายโจน จันใด ผู้ก่อตั้ง ศูนย์พันพรรณ ศูนย์เรียนรู้เพื่อการพึ่งตนเองและศูนย์เก็บเมล็ดพันธุ์พื้นฐาน และเกษตรกรรุ่นใ
ช่วงที่ 2 ชวนกันไปดื่มดำความสุขกับการพักผ่อนใน “ชุมชนรักสุขภาพ “บ้านไร่กองขิง เชียงใหม่” แล้วลอง นวดแผนไทยแบบภูมิปัญญาล้านนาด้วยการ “ย่ำขาง” อิ่มอร่อยกับ น้ำพริกหนุ่มเม็ดมะม่วง ข้าวซอยรสเด็ดไม่เหมือนใคร
@เที่ยวชุมชนรักสุขภาพ “บ้านไร่กองขิง เชียงใหม่”
อากาศหนาวชวนกันไปเที่ยวเชียงใหม่ เลือกไปล้างพิษสูดโอโซนกันที่ “ชุมชนคนรักสุขภาพ “บ้านไร่กองขิง” ไปสัมผัสวิถีความสุขสไตล์ล้านนาที่ปลูกผักปลอดสารพิษ กินอาหารพื้นเมือง ท่ามกลางสวนเกษตร ที่แต่ละบ้านช่วยกันปลูกไว้กินและขาย พร้อมทั้งมีผู้ใหญ่บ้านนำชุมชนนำสมุนไพรพื้นบ้านมาผลิตเป็นดูแลสุขภาพโดยใช้ชื่อแบรนด์ “สุข-สยาม” รวมทั้งมีบริการนวดแผนไทยเรียกว่า “การย่ำขาง”
เมื่อไปถึงชุมชนบ้านไร่กองขิง ตื่นเช้าขึ้นมาก็ชวนกันไปปั่นจักรยานชมความเรียบง่าย แล้วก็แวะไปทำบุญตักบาตรเช้าที่ “วัดอินทราวาสหรือวัดต้นแกว่น” เป็นวัดที่มีความงดงามด้วยสถาปัตยกรรมล้านนา แล้วก็ไปทัวร์ “สวนเกษตรชุมชน” และดูการปลูกผักอินทรีย์กับสมุนไพรพื้นเมือง พร้อมกับลงมือปลูกแล้วเก็บผักที่ได้มาไปทำอาหารร่วมกับในชุมชนรับประทานมื้อเย็น เป็นดินเนอร์ที่สุดแสนจะมีความสุข
สถานที่เที่ยวบริเวณโดยรอบชุมชน จะมี “หมู่บ้านเหมืองกุง” เป็นหมู่บ้านผลิตเครื่องปั้นดินเผาสไตล์ล้านนาโบราณ ผลิตภัณฑ์อันเอกลักษณ์เฉพาะคือ “ต้นน้ำ” หรือ “คนโท” ชาวล้านนาสมัยก่อนปั้นไว้ใช้ใส่น้ำ ตอนนี้ก็ยังสาธิตให้ชมตั้งแต่ขั้นตอนขึ้นรูปด้วยแท่นหมุนมือโบราณและแท่นหมุนด้วยไฟฟ้า การเคลือบผิวด้วยดินแดง การขัดเงาด้วยหิน และการวาดลวดลายอย่างสวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถลองทำไปด้วยได้
จากนั้นก็ไปนวดผ่อนคลายที่ “ศูนย์บริการเพื่อสุขภาพ” มีบริการ นวด อบ ประคบสมุนไพร ที่ปลูกเองในชุมชน แนะนำให้นวดแบบดั้งเดิมคือ “ย่ำขาง” เป็นการนวดตามภูมิปัญญาพื้นบ้านชาวล้านนา
สำหรับ “สวนเกษตรปลอดสารพิษ” เป็นแหล่งกำเนิดของดีชุมชนมีผักเมืองเหนือสารพัดชนิดปลูกไร้สารเคมี ทำแบบเกษตรอินทรีย์ แต่ทุกครั้งก่อนรับประทานต้องล้างให้สะอาดก่อนเสมอ
อีกแห่งคือ “วัดอินทราวาสหรือต้นแกว่น” ยังคงความงดงามแม้จะปรับปรุงมาหลายครั้งแล้วก็ตาม เมื่อปี 2532 ทางสมาคมสถาปนิกสยามยกย่องให้เป็นวัดอนุรักษ์ดีเด่น อีกทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้นำไปออกแบบ “หอคำหลวง” ในอุทยานหลวงราชพฤกษ์ของเชียงใหม่
สถานที่ท่องเที่ยวไม่ไกลออกไปก็มี “อุทยานหลวงราชพฤกษ์” ภายในมีการจัดนิทรรศการแสดงมากมาย และที่ตั้งหอคำหลวง อันวิจิตรตระการตา ใช้จัดแสดงพระอัจฉริยภาพด้านการเกษตร สวนเกษตรทฤษฎีใหม่ และการสาธิตวิถีการใช้ชีวิตตามทฤษฎีเศรษฐกจพอเพียง
อาหารอร่อย ๆ แถวบ้านไร่กองขิง ก็มี “แกงปลาช่อนใส่ต้นคุน” มีความพิเศษตรงใช้เครื่องปรุงที่เป็นสมุนไพรพื้นบ้าน “น้ำพริกหนุ่มเม็ดมะม่วง” หรือน้ำพริกต่อ ทำจากมะม่วงหิมพานต์ปรุงรสชาติออกหวาน ผสมผสานกับพริกสดจากสวนเกษตร “ข้าวซอยรสเด็ด” ปรุงด้วยมือชาวชุมชนรสชาติแตกต่างจากข้าวซอยเหนือถิ่นอื่น
ร้านอาหารแนะนำก็มี “ร้านลาบไก่ป้ามัย” ปรุงเมนู ลาบไก่สุก ยำจิ้นไก่ ทางร้านจะนำผักสดยกมาให้โต๊ะละหนึ่งตะกร้า เพื่อรับประทานคู่กับเมนูอื่น ๆ ได้ด้วย กับ “ร้านลาบไก่สะเมิง” มีสารพัดตำให้เลือก ได้แก่ ตำมะม่วง ตำแตงกวา ตำส้มโอ ตำกระท้อน ลาบไก่เมืองรสเลิศ
ส่วนที่นอนก็มีโฮมสเตย์รองรับ คือ โฮมสเตย์ชุมชนบ้านไร่กองขิง เลือกได้มีทั้งแบบ บ้านพักในสวน บ้านจั๊กไค บ้านเก้ามะม่วง บ้านอัญชัน บ้านริมน้ำ
สนใจท่องเที่ยวชุมชนรักสุขภาพ “บ้านไร่กองขิง” ติดต่อ ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านไร่กองขิง โทร.092-515-5652 , 061-195-9551
@3 กลเม็ดเคล็ด(ไม่)ลับ เก็บผักให้นาน
มีข้อมูลมาแนะนำจาก หนังสือผักเกษตรอินทรีย์ แตกต่างจากผักอื่นอย่างไร ถึงเคล็บลับการเก็บผักและผลไม้เป็นอาหารที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย การกินผักและผลไม้ให้เป็นประจำทุกวันไม่ต่ำกว่า 400 กรัมตามที่องค์การอนามัยโลกได้กำหนดไว้ จะช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่าง ๆ แต่การจะกินผักให้มีประโยชน์นั้นสิ่งสำคัญคือ ผักต้องสด สะอาด พร้อมกินได้ทุกคน แบ่งเป็น
1.กลุ่มผักเน่าเสียง่าย เช่น เห็ด ผักชี ผักกาดหอม ถั่วงอก ถั่วฝักยาว ผักบุ้ง ชะอม ผักเหล่านี้มักเหี่ยวง่ายและเหลืองอย่างรวดเร็ว แม้จะเก็บอยู่ในตู้เย็นก็ไม่ช่วยยืดอายุมากนัก ทางที่ดีที่สุดคือ บรรจุผักในถุงพลาสติกแล้วเก็บไว้ในตู้เย็น โดยถุงพลาสติกจะต้องสะอาดและแห้ง จะช่วยให้เก็บผักได้นานขึ้น 5-7 วัน
2.กลุ่มผักที่เก็บได้ในระยะเวลาจํากัด เช่น ผักกาดขาว ผักคะน้า มะเขือเทศ และผักอื่นๆ ผักกลุ่มนี้ควรเก็บไว้ในห้องเย็นหรือตู้เย็น โดยผักใบ ถั่วลันเตา ถั่วแขก ควรแยกใส่ถุงพลาสติก แล้วเก็บในอุณหภูมิ 7-8 องศาเซลเซียส จะช่วยให้คงความสดได้นานขึ้น
3.กลุ่มผักที่เก็บไว้ได้นานกว่าผักอื่น ส่วนใหญ่มักมีเปลือกหนา เช่น ฟัก เผือก มัน ฟักทอง เป็นต้น หากเก็บรักษาระยะสั้น ไม่จำเป็นต้องนำเข้าตู้เย็นหรือห้องเย็น โดยเฉพาะฟักทอง และถ้าเก็บไว้ในที่มีอากาศเย็น แห้ง มีการถ่ายเทที่ดี จะสามารถเก็บได้นาน2-3 เดือน แต่ถ้าผักถูกใช้ไปบางส่วนแล้วใช้ไม่หมดจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ในตู้เย็น โดยต้องปล่อยให้ผิวรอยตัดแห้งเสียก่อน และเก็บได้นานเพียง1 สัปดาห์เท่านั้น และผักหัวประเภทแครอท หัวผักกาด ควรตัดใบออกให้หมดก่อนเก็บ มิเช่นนั้นจะทำให้ความหวานในหัวผักลดลง
สิ่งที่ควรรู้ก่อนเก็บรักษาผัก ไม่ควรเก็บผักและผลไม้ไว้รวมกัน จะทำให้เกิดการเน่าและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น การเก็บผักด้วยวิธีแช่น้ำ ไม่ควรแช่ผักลงในน้ำทั้งต้น เพราะจะทำให้วิตามินละลายน้ำเสียไป ถ้าต้องการเก็บด้วยวิธีนี้ให้แช่เฉพาะส่วนโคนหรือส่วนรากในภาชนะ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำคลุมไว้ โดยหมั่นชุบผ้าให้ชื้นอยู่เสมอ
การเก็บผักเล็กๆ น้อยๆ ที่ใช้ในครัวและเก็บในตู้เย็นนั้น ควรล้างผักที่เก็บให้สะอาดก่อน เพราะผักที่ซื้อจากตลาดขายปลีกมักไม่สะอาด ถ้ายังไม่ใช้ทันทีให้ล้างทั้งต้นด้วยน้ำสะอาด แล้วผึ่งสะเด็ดน้ำจริงๆ จึงเอาเข้าเก็บในลิ้นชักตู้เย็น และควรแยกผักใส่ถุงพลาสติกเป็นหมวดหมู่ จะช่วยให้เก็บได้นานขึ้น
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “บอร์ดสั่งไทยสไมล์ทบทวนแผนธุรกิจเสนอบอร์ด20ธ.ค.นี้”
พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ รักษาการประธานกรรมการ (บอร์ด) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บอร์ดได้ให้ผู้บริหารสายการบินไทยสไมล์ ซึ่งเป็นบริษัทลูก กลับไปแก้ไขทบทวนแผนยุทธศาสตร์แล้วนำกลับมาเสนอในการประชุมบอร์ดการบินไทยวันที่ 20 ธ.ค. นี้ หลังจากเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ได้เชิญผู้บริหารไทยสมายล์ เข้าหารือถึงแนวทางปรับปรุงการดำเนินงาน ทั้งเรื่องการจัดทำยุทธศาสตร์องค์กร ค่าใช้จ่าย และรายได้ แต่ยังไม่เข้าเป้าหมายที่ควรจะเป็น
ส่วนสถานการณ์ของการบินไทยนั้นคาดไตรมาส 4 จะมีกำไร เนื่องจากเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว ส่วนผลประกอบการทั้งปี 2560 ต้องรอดูว่าจะเป็นบวกหรือลบ ซึ่งที่ผ่านมาการบินไทยได้เร่งปรับปรุงการดำเนินงาน รวมถึงลดค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) การบินไทย ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ
นายณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการเงินและการบัญชี การบินไทย ขณะนี้ยอดขายเริ่มดีขึ้น อัตราการส่วนบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ย อยู่ที่ 70% ส่วยยอดจองที่นั่งล่วงหน้าเดือนธันวาคม 2560-มกราคม 2561 มีแนวโน้มสูงถึง 80% ส่วนรายได้จากผู้โดยสารเฉลี่ยต่อหน่วยปัจจุบันทำได้ประมาณ2 บาทกว่าต่อคน-กิโลเมตร ไม่สูงเท่าที่ควร เพราะธุรกิจแข่งขันที่รุนแรงมาก
ข่าวที่สอง “บินไทยนำวัตถุดิบโครงการหลวงเสิร์ฟวันพ่อ5ธ.ค.”
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รายงานว่า จัดบริการร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในวันพ่อแห่งชาติประจำปี 2560 ด้วยขนมหวานจานพิเศษ ซึ่งรังสรรค์เมนูโดยใช้วัตถุดิบคุณภาพจากโครงการหลวง ได้แก่ กาแฟ และฝักวานิลลา เพื่อให้บริการผู้โดยสารบนเครื่องบินทุกชั้นบริการของการบินไทยในวันที่ 5 ธันวาคม 2560
- เส้นทางภายในประเทศ จะให้บริการทุกเที่ยวบิน โดยมีรายการขนมหวานจานพิเศษที่ให้บริการผู้โดยสารชั้นธุรกิจ (ยกเว้นเที่ยวบินที่บริการอาหารเช้า) ได้แก่ เค้กคอฟฟี่เรซิน เสิร์ฟพร้อม คัสตาร์ดวานิลลา และ คัสตาร์ดมอคค่า และชั้นประหยัดบริการด้วย เค้กคอฟฟี่เรซิน
- เส้นทางระหว่างประเทศ จะให้บริการขนมหวานจานพิเศษ สำหรับมื้อกลางวัน หรือ มื้อเย็นในทุกเที่ยวบินขาออกจากกรุงเทพฯ (ยกเว้นเที่ยวบินไปยังตะวันออกกลาง และ เอเชียใต้บางเส้นทาง) โดยให้บริการผู้โดยสารชั้นหนึ่งด้วยเค้กคอฟฟี่เรซิน เสิร์ฟพร้อมซอสคาราเมล และไอศกรีมวานิลลา ส่วนชั้นธุรกิจบริการด้วยเค้กคอฟฟี่เรซิน เสิร์ฟพร้อมคัสตาร์ดวานิลลา และคัสตาร์ดมอคค่า และชั้นประหยัดบริการด้วยเค้กคอฟฟี่เรซิน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมสำรองที่นั่งและออกบัตรโดยสารได้ที่เว็บไซต์ thaiairways.com หรือ THAI Contact Center โทร. 0-2356-1111 (ตลอด 24 ชั่วโมง)
ข่าวที่สาม “นิวเจนแอร์”แจกทองไฟลต์ปฐมฤกษ์โคราชสู่เชียงใหม่/ภูเก็ต”
สายการบินนิวเจนแอร์เวย์ส รายงานว่า เตรียมโหมโปรโมชั่น “บินคุ้ม แถมลุ้นทอง แจกจริง ทอง 30 เส้นเพื่อต้อนรับการเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ในประเทศ เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป 2 เส้นทาง ได้แก่ จากอีสานสู่ล้านนา นครราชสีมา-เชียงใหม่ และอีสานสู่อันดามัน นครราชสีมา-ภูเก็ต นำร่องกระตุ้นการเดินทางเชื่อมภูมิภาคของผู้โดยสาร และสนับสนับการท่องเที่ยว โดยจะทำการบินปฐมฤกษ์
ข่าวที่สี่ “คมนาคมถ4องค์กรจัดแถว28สนามบินภูมิภาค"
อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่าได้จัดประชุมเพื่อกำหนดแนวทางเพิ่มศักยภาพโครงข่ายการบริหารท่าอากาศยานของประเทศไทย ทั้งหมด 39 แห่ง แบ่งเป็นกรมท่าอากาศยาน 29 แห่ง และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) 6 แห่ง โดยให้หารือร่วมกัน 4 หน่วยงาน คือสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) / กรมท่าอากาศยาน (ทย.) / บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. /และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จะต้องสรุปรายละเอียดให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือนข้างหน้า โดยเฉพาะแผนลงทุนที่ กรมท่าอากาศยานจะเสนอแผนแม่บท 10 ปี ที่จะใช้เงินพัฒนาสนามบินภูมิภาค 30,000 ล้านบาท
พร้อมทั้งมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร เป็นหน่วยงานรวบรวมรายละเอียดปัญหาการให้บริการท่าอากาศยาน ภาพรวมการลงทุน ประสิทธิภาพการบริหารท่าอากาศยาน ระหว่างท่าอากาศยานของ ทย. และท่าอากาศยานทอท. การทำแผนการตลาดเที่ยวบินระหว่างประเทศ การส่งเสริมท่าอากาศยานในภาคภูมิภาค รวมถึงสถานะทางการเงินโดยจะต้องสะท้อนถึงสภาวะการลงทุนในอนาคตด้วย
ปี 2561 จะเริ่มขยาย ท่าอากาศยานกระบี่ ขอนแก่น นราธิวาส ส่วนในปี 2562 ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช และตรัง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการปรับปรุงขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารให้ทันสมัยแล้วเสร็จภายใน 5 ปี โดยจะเสนอแผนพัฒนาดังกล่าวไปยังธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) พิจารณาเพื่อให้เกิดความรวดเร็ว
สำหรับรูปแบบการบริหารจัดการสนามบินภูมิภาค 29 แห่ง กำลังพิจารณาโดยทางเลือกตามความเหมาะสม 3 แนวทาง คือ 1.เปิดให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมการบริหาร เป็นในรูปแบบการทำสัญญาบริหาร โดยกรมท่าอากาศยานเป็นหน่วยงานลงทุน 2.ให้ ทอท.เข้ามาบริหาร หรือ 3.ให้เอกชนเข้ามาลงทุนและบริหารเองในรูปแบบสัมปทาน จะต้องกำหนดหลักเกณฑ์ให้ชัดเจนอีกครั้ง
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM97.0 MHz. และติดตามอ่านข่าวทันเหตุการณ์ได้ทางบล็อกเกอร์ และ www.facebook.com/penroongyaisamsean
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น