นำไทยปั้นจุดขายใหม่OrganicTourismชาติแรกของโลก
เอกชน-รัฐต่อยอดสามพรานโมเดลนำชุมชนยั่งยืนของจริง
คิงเพาเวอร์รางน้ำดึงณเดชเคาน์ดาวช้อปปิ้ง29-31ธ.ค.นี้
ททท.โหมชุมชน2งานใหญ่”เที่ยวเก๋ไก๋-อาหารปลอดภัย”
บางจากหนึ่งเดียวคว้ารางวัลยอดเยี่ยมด้านความยั่งยืน
รับลมหนาวดูดาวบนดอยสุโขทัย-อุตรดิตถ์-กำแพงเพชร
สมคิดสั่งเข้มท่องเที่ยวกระจายเงินลงชุมชน-เมืองรอง
แอร์เอเชียใข้กรุงเทพ/ภูเก็ตต่อจุดบินขายตรงไปคุนหมิง
ภูเก็ตจัดเคาน์ดาวน์11วันดันยอดเที่ยวเฟี้ยวยกเกาะ
ช้อปส่งท้ายแบบไม่ยั้งโอท็อปซิตี้ที่อิมแพ็ค2,500ร้าน
สวัสดีวันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม 2560 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen
ช่วงที่ 1 ทายาทธุรกิจคนรุ่นใหม่ “อรุษ นวราช” กรรมการผู้จัดการ สามพราน ริเวอร์ไซด์ และเลขานุการมูลนิธิสังคมสุขใจ ผู้บุกเบิกโครงการ สามพราน โมเดล และริเริ่ม Organic Tourism -อาหารเกษตรอินทรีย์เพื่อการท่องเที่ยว พร้อมให้สัมภาษณ์ในรายการถึงการการผนึกเครือข่ายความร่วมมือทุกภาคส่วนทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะแม่โขง ทัวริสซึ่ม ทำเวิลด์โปรเจ็กต์เป็นประเทศแรกของโลกเรื่อง “อาหารเกษตรอินทรีย์เพื่อการท่องเที่ยว” ก้าวใหม่ที่ยิ่งใหญ่ของไทยในเวทีส่งออกทั่วโลกในอนาคต
อรุษ นวราช กรรมการผู้จัดการ สามพราน ริเวอร์ไซด์ และเลขานุการมูลนิธิสังคมสุขใจ เปิดเผยว่า ในฐานะหนึ่งในทีมผู้บุกเบิก สามพราน โมเดล และกำลังริเริ่มโครงการ Organic Tourism พร้อมจะทำให้ไทยเป็นประเทศแรกของโลกเดินหน้าโครงการนี้ ตามเป้าหมายต้องการกระตุ้นผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งประเทศขับเคลื่อนอาหารอย่างยั่งยืน ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร และผู้ประกอบการ ที่ใช้วัตถุดิบอาหาร มาเชื่อมโยงตรงกับเกษตรกรผู้ผลิต ด้วยการให้ความรู้แลกเปลี่ยนแก่ผู้บริโภคในตลาด การกินอาหารอินทรีย์จะดีต่อสุขภาพ สิ่งแวดล้อมและสังคม ด้วย จึงได้ขอความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐอย่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สมาคมโรงแรมไทย สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย องค์กรระหว่างประเทศ Mekhong Tourism ดูแล 6 ประเทศ ไทย กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม และจีนตอนใต้ เข้ามาร่วมโครงการอย่างเข้มแข็ง
เบื้องต้นผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการทั้งกลุ่มผู้ผลิตฝั่ง Supply และกลุ่มผู้ใช้วัตถุดิบ (demand) โรงแรม ร้านอาหาร ที่สนใจ รวมทั้งกลุ่มผู้ปลูก อย่างน้อยจะต้องทำมาตรฐานตามเกณฑ์เกษตรอินทรีย์คือ PGS ปัจจุบันในประเทศไทยมีการขับเคลื่อนกันอยู่บ้างแล้ว ดังนั้นหากทั้งกลุ่มผู้ผลิตสนใจก็สามารถติดต่อทางมูลนิธิสังคมสุขใจ เข้ามาปรึกษาและขอคำแนะนำได้ทางเว็บไซต์ออนไลน์ www.sampranmodel.com โทร.034-225-203
การขับเคลื่อนโครงการ Organic Tourism ขณะนี้ในนครปฐมเป็นพื้นที่นำร่องต่อเนื่องจาก สามพรานโมเดล และ Farm to Function มีเกษตรกรรวม 12 กลุ่ม กว่า 176 ครัวเรือน พร้อมทั้งขยายไปเชียงใหม่ ขอนแก่น น่าน ดังนั้นผู้ประกอบการและเกษตรกรที่สนใจ สอบถามเข้ามาได้เลยพร้อมจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ เพราะเน้นการช่วยเหลือกันในบริเวณใกล้เคียง
โครงการ Organic Tourism ไทยจะเป็นผู้นำประเทศแรกของโลกที่ทำเรื่องอาหารเกษตรอินทรีย์เพื่อการท่องเที่ยว ต่อเนื่องจากเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ทำเรื่อง Farm to Function ไฮไลต์เรื่องข้าวอินทรีย์ของชุมชนต่าง ๆ นำมาจำหน่ายโดยตรงให้ผู้ประกอบการโรงแรมทั่วประเทศ ส่วน Organic Tourism จะต่อยอดสินค้า ผัก ผลไม้ อินทรีย์ ทำให้อาหารไทยที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว เพิ่มมูลค่าเรื่องคุณค่าของอาหารสุขภาพ
การขายวัตถุดิบอาหารอินทรีย์เพื่อการท่องเที่ยวจะก่อให้เกิด “มูลค่าต่อผลผลิตของชุมชน” ถ้าเป็นวัตถุดิบสดจะได้เพิ่มกว่า 1 เท่า หากแปรรูปจะได้มูลค่าเพิ่มเป็นเงินอีกหลายเท่า ประการสำคัญมากกว่า “เกษตรกรจะลดต้นทุนการใช้สารเคมี” และ “ได้ตลาดใหญ่ระยะยาว” กลุ่มนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยสรุปมูลค่าเพิ่มจะได้มากกว่าปกติและยังช่วยโฆษณาประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในวงกว้างสู่นานาชาติด้วย
การต่อยอดความสำเร็จจาก สานพรานโมเดล สู่ Farm to Function เรื่อยมาจนถึง Organic Tourism กลยุทธ์เชื่อมต่อเครือข่ายแบบครบวงจรอย่างนี้สามารถสร้างชุมชนสู่ความสำเร็จคือ เกษตรกรปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตไม่ต้องพึ่งเคมี ไม่ต้องพึ่งคนกลาง และหันมาร่วมมือกัน ได้รู้จักตลาดกว้างขวางมากขึ้น ทำให้มีชีวิตที่ดีขึ้นในหลายมิติ โดยเฉพาะเกษตรกรสามารถ “ปลดหนี้ได้” รายจ่ายลดลง รายได้ดีขึ้น มีชีวิตที่มั่นคง ที่มากกว่านั้นได้สังคมใหม่ระหว่างเกษตรกรเครือข่ายและลูกค้าในตลาด จึงช่วยลดความเหลื่อมล้ำ มารู้จักและทำธุรกิจร่วมกัน เป็นเส้นทางนำไปสู่ “การพัฒนาอย่างยั่งยืน” แท้จริง
ในฐานะที่เป็นเจ้าของโรงแรมรีสอร์ต ซึ่งเป็นเสมือนกระบวนการอยู่ตรงกลางระหว่างผู้ผลิตกับผู้บริโภค แต่จะได้ “วัตถุดิบคุณภาพดี-ราคาเท่าเดิม” สามารถนำมาเป็นจุดขายโฆษณาไปยังลูกค้าได้ แถมยังเป็นโปรดักซ์ใหม่ให้แก่โรงแรมได้โดยการพานักท่องเที่ยวย้อนไปดูแหล่งเพาะปลูกเกษตรอินทรีย์จัดทำ “ฟาร์มทัวร์” สามารถเพิ่มช่องทางการทำธุรกิจและซีเอสอาร์ไปในตัวด้วย
กลยุทธ์ในเชิงกิจกรรมการค้าขายของเวทีอาหารเกษตรอินทรีย์เพื่อการท่องเที่ยว เตรียมนำร่องจัด Organic Tourism Symphosium 2018 ระหว่างวันที่ 27-29 พฤษภาคม 2561 ที่สามพราน ริเวอร์ไซด์ จะวางช่วงเวลาไว้ใกล้กับการจัดงานใหญ่ “สหประชาชาติเพื่อการท่องเที่ยว- Unite Nation World Torism Organization :UNWTO” ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดงานนี้ด้วยช่วงปลายเดือนพฤษภาคมปีหน้า ทางมูลนิธิสังคมสุขใจได้หารือกับทาง Mekhong Tourism หน่วยงานขับเคลื่อนเรื่องการท่องเที่ยว เห็นพ้องกันที่จะให้ “ประเทศไทย” ขับเคลื่อนการจัดงาน Organic Tourism Symphosium 2018 ซึ่งจะต้องขอการสนับสนุนจาก ททท.และหน่วยงานอีกช่องทางเพื่อร่วมมือกันดึงผู้ประกอบการเข้ามาเพิ่มให้ได้มากที่สุด
เวทีการจัด Organic Tourism Symphosium 2018 ครั้งแรก จะพุ่งเป้าประกาศตัวอย่างเป็นทางการ แล้วนำภาครัฐ มหาวิทยาลัย และการระดมสมองของทุกภาคส่วนวางแผนขับเคลื่อนต่อเนื่อง เพื่อแชร์กันโดยลองผิดลองถูกซึ่งเป็นโปรเจ็กต์ที่ไม่ได้อยู่ในตำรา พร้อมทั้งมีองค์กรในประเทศและต่างประเทศเข้ามาร่วมด้วย ทำให้ภาคการเกษตรผู้ผลิตเป็นแกนหลักของภารกิจทั้งหมด เนื่องจากเป็นต้นทางของวัตถุดิบอาหารอินทรีย์
สำหรับเกษตรอินทรีย์มีหลายภาคส่วนขับเคลื่อน ทว่าโครงการ Organic Tourism สามารถช่วยเพิ่มสินค้า “ส่งออก” และช่วยโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าคุณภาพกลุ่มน้องใหม่เกษตรอินทรีย์เติบโตไปได้อย่างรวดเร็วในระยะยาว
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ดึง ณเดชจัดเต็มช็อปเคาน์ดาวน์29-31 ธ.ค.”
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ รายงานว่า ตลอดสามวัน 29-31 ธันวาคม 2560 ตั้งแต่ 18.00 น. เตรียมจัดกิจกรรมร่วมฉลองปีใหม่สุดสนุกอย่างไม่มีที่สิ้นสุดครั้งแรกที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และร่วมเคาท์ดาวน์ต้อนรับปี 2561มีกิจกรรมช็อป ชิม ชิล เป็นต้นไป ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พบกับกองทัพสินค้าไทยและแบรนด์เนม อาหารสตรีทฟู้ด และร้านดัง มากมาย
ตลอดงานจะให้ทุกคนได้ร่วมฉลองเคาน์ดาวน์ไปกับนักแสดงชื่อดัง เช่น ณเดชน์ / เจมส์ มาร์ พร้อมกับมันส์สุดเหวี่ยงกับศิลปินมากมายเช่น ดา เอ็นโดรฟิน / Live house bands (ไลฟ์เฮ้าส์ แบนด์) และดีเจชื่อดังอีกมากมาย
พบกันได้ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ (กรุงเทพฯ) ได้ตามวันและเวลาดังกล่าว เพื่อร่วมกันสนับสนุนธุรกิจของคนไทยในฐานะผู้บุกเบิกร้านค้าดิวตี้ฟรีของเมืองไทย ทำให้ทั่วโลกรู้จักชื่อเสียงของประเทศไทยเป็นอย่างดี
ข่าวที่ 2 “วีระศักดิ์นำททท.บูมชุมชนผุดTourism 1แก้เสื่อมโทรม”
ททท.หนุนเอกชนจัดงานเพียบ “ท่องเที่ยวไทย เก๋ไก๋ถึงชุมชน” 14-17 ธันวาคม 2560 ดึง 400 บูธ นำเมืองต้องห้ามพลาด...พลัส 5 ภูมิภาค ลดกระหน่ำกว่า 50 % ที่ศูนย์สิริกิติ์ “วีระศักดิ์ โควสุรัตน์” ผุดโปรเจ็กต์ Tourism 1 เปิดไลน์แช็ตดึงทุกภาคส่วนร้องทุกข์ปัญหาท่องเที่ยวเข้าศูนย์ Big Data จ่อตั้งคลีนิกท่องเที่ยวแก้ทุกปม และดันเครือข่ายชุมชนอาหารเกษตรอินทรีย์ทั่วประเทศจัด “อาหารปลอดภัย พาชุมชนไทยยั่งยืน” 15-17 ธ.ค.นี้ ที่ สามพราน ริเวอร์ไซด์ นครปฐม
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้ขับเคลื่อนนโยบายเชิงรุกการท่องเที่ยวโดยชุมชน ที่มีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เข้าไปสนับสนุนสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมขึ้นครั้งแรกงาน “ท่องเที่ยวไทย เก๋ไก๋ถึงชุมชน” ระหว่างวันที่ 14-17 ธันวาคม 2560 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวและสินค้าชุมชนรวม 400 บูธ กว่า 600 ราย รวมถึงองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. คัดชุมชนท่องเที่ยวทั่วประเทศกว่า 30 ชุมชนเข้าร่วมประสบการณ์ขายตรงกับกลุ่มนักท่องเที่ยวและเจรจาการค้ากับผู้ประกอบการของสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (แอตต้า)
ภายในงานชุมชนและธุรกิจท่องเที่ยวทุกสาขาต่างนำสินค้ามาจำหน่ายในราคาพิเศษมีทั้งห้องพัก แพกเกจท่องเที่ยว ตั๋วโดยสารเครื่องบิน อาหารถิ่น ของฝาก ของที่ระลึก เข้ามาร่วมอย่างคับคั่ง ขานรับแนวโน้มตลาดต่างประเทศล่าสุดมีรายงานจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยทะลุ 35 ล้านคนแล้ว ผนวกกับรายได้ปี 2560 จะทำให้เข้าเป้าหมาย 2.87 ล้านล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมาถึง 10 % แนวโน้มปี 2561 รายได้ท่องเที่ยวให้ถึง 3.1 ล้านล้านบาท ขยายตัวเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 8 %
ในเชิงนโยบายจึงได้นำร่องเปิดกลยุทธ์ใหม่จัดทำโครงการใหญ่ TOURISM 1 เป็น Line Chat เปิดช่องทางให้ทุกภาคส่วนสามารถส่งข้อมูลที่เป็นอุปสรรคปัญหาของการท่องเที่ยวชุมชนเข้ามาโดยลงทะเบียนเป็นเครือข่ายสมาชิก ส่งภาพ กดแชร์โลเกชั่น กระตุ้นให้ทุกคนเข้ามาร่วมช่วยกันปรับปรุง เสนอแนะ ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อสร้างเป็น Big Data จากนั้นจะตั้งคลินิกท่องเที่ยวเข้ามาคัดแยกข้อมุล บูรณาการแก้ไขอย่างทันเหตุการณ์ เพื่อสร้างมูลค่าและคุณค่าสินค้าท่องเที่ยวพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากปัจจุบันขีดความสามารถของแหล่งท่องเที่ยวซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติในชุมชนทั่วประเทศ และแหล่งท่องเที่ยวมนุษย์สร้างขึ้น ที่มีจำนวนคนเข้าไปใช้จำนวนมากมหาศาลย่อมทรุดและเสื่อมโทรม
เบื้องต้นตอนนี้ต้องการปลุกกระแสคนไทยหันมาร่วมกันดูแล 3 เรื่อง ได้แก่ 1.อัตลักษณ์ของวิถีชีวิตชุมชนต้องคงอยู่อย่างเข้มแข็ง 2.สร้างสังคมการท่องเที่ยวด้วยจิตอาสา ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมด้วยกันได้ 3.เจ้าของแหล่งท่องเที่ยวและภาคธุรกิจควรจะลดช่องว่างและลดความเหลื่อมล้ำที่เคยมีอยู่ลงให้มากที่สุด จึงต้องทำโครงการดังกล่าวขึ้นรองรับการแก้ปัญหาและพัฒนาควบคู่กันไปแบบครบวงจร
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.กล่าวว่า ช่วงโค้งสุดท้ายปีตลอดเดือนธันวาคมนี้ ททท.เดินหน้ากระตุ้นการท่องเที่ยวสู่ชุมชนหลายโครงการ พร้อมจะกระจายเม็ดเงินจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวตรงถึงท้องถิ่นทั่วประเทศ ในงาน “อาหารปลอดภัย พาชุมชนไทยยั่งยืน” ที่สามพราน ริเวอร์ไซด์ จังหวัดนครปฐม เป็นหนึ่งในโครงการนำชุมชนที่มีความพร้อมเป็นจุดเด่นทางด้าน Gastronomy Community ต้นแบบอาหารถิ่นเข้ามาเผยแพร่ประชาสัมพันธ์แก่นักท่องเที่ยว เนื่องจากกลยุทธ์การตลาดต่อไปจะต้องเน้นเพิ่มมูลค่าและคุณค่าแทนปริมาณ และอาหารเป็นแม่เหล็กขั้วใหญ่ที่จะเพิ่มการใช้จ่ายเงินจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เดินทางเข้าเมืองไทยได้มากเป็นอันดับต้น ๆ จากปัจจุบันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทำส่วนแบ่งรายได้รวมปีละกว่า 550,000 ล้านบาท ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากด้วยความร่วมมือของทุกฝ่าย
ขณะเดียวกัน ททท.ได้ขับเคลื่อนโครงการ Tourism Village , Village to the World ล่าสุดเข้าไปสนับสนุนโครงการนำร่อง Organic Tourism ของมูลนิธิสังคมสุขใจจับมือกับองค์กรภาครัฐ เอกชน และหน่วยงานระหว่างประเทศอย่าง Mekhong Tourism ดูแลการพัฒนาชุมชนท่องเที่ยวลุ่มน้ำโขง 6 ประเทศ สร้างการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน
ทางด้าน นายอรุษ นวราช กรรมการผู้จัดการ สามพราน ริเวอร์ไซด์ และเลขานุการมูลนิธิสังคมสุขใจ ระดมชุมชนนำผลิตภัณฑ์อาหารเกษตรอินทรีย์มาจัดมหกรรม “อาหารปลอดภัย พาชุมชนไทยยั่งยืน” ขึ้นระหว่างวันที่ 15-17 ธันวาคม 2560 ณ สามพราน ริเวอร์ไซด์ จ.นครปฐม โดยได้รับเกียรติจาก หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน โดยมีเครือข่ายชุมชนเกษตรอินทรีย์ทั่วประเทศนำสินค้าทั้งสดและแปรรูปมาจำหน่ายอย่างคึกคัก มีเชฟชั้นนำมาร่วมปลุกกระแสผู้บริโภครุ่นใหม่ โรงแรม ร้านอาหาร ให้หันมาเลือกบริโภคและซื้อวัตถุดิบอาหารปลอดสารพิษ ซึ่งสามารถช่วยกระจายรายได้สู่เกษตรกรโดยตรง ขจัดความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความยั่งยืนในระยะยาว
ตลอดการจัดงาน 15-17 ธันวาคม 2560 ผู้เข้าร่วมงานจะได้พบกับมหกรรมสินค้าเกษตร อาหารอินทรีย์ กิจกรรม นิทรรศการ 10 ชุมชนดัง และการแนะนำโปรแกรมในเส้นทางท่องเที่ยวชุมชน เนื่องจากปีนี้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยได้ต่อยอดจากโครงการสามพราน โมเดล และ Farm to Function ที่นำร่องสร้างเครือข่ายชุมชนผลิตข้าวอินทรีย์จำหน่ายให้โรงแรมและร้านอาหารทั่วประเทศ สร้างรายได้ให้เกษตรกรเป็นกอบกำเพิ่มขึ้น 1-2 เท่า ลดต้นทุนการใช้เงินซื้อสารเคมีลงมหาศาลเรื่อยไปจนถึงทำให้ครอบครัวเกษตรกรใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในการผลิตอาหารปลอดภัยให้คนไทยและนักท่องเที่ยวนานาชาติบริโภคเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของคนทั้งโลก
ข่าวที่ 3 “บางจากฯ คว้ารางวัลยอดเยี่ยมความยั่งยืน”
นายยอดพจน์ วงศ์รักมิตร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบริหารและพัฒนาความยั่งยืนองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้เป็นตัวแทนบริษัทขึ้นรับรางวัลรายงานความยั่งยืน ประจำปี 2560 ประเภทยอดเยี่ยม (Excellence) จากนายรพี สุจริตกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งบริษัท บางจากฯ เป็นองค์กรเดียวที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม
รางวัลดังกล่าวจัดขึ้นในงาน CSR Club Conference 2017 พร้อมทั้งมีพิธีมอบรางวัลรายงานความยั่งยืน ประจำปี 2560 (Sustainability Report Award 2017) จัดโดย CSR Club สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย สำนักงาน ก.ล.ต. และสถาบันไทยพัฒน์ ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ช่วงที่ 2 ชวนกันไปเติมความสุขในภาคเหนือตอนล่างกับทริป “สัมผัสลมหนาวดูดาวบนภู 3 เมือง” สุโขทัย กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ แล้วมาฟังเรื่องการดูแลตัวเองช่วงอากาศเย็นได้ด้วย 15 วิธี และห้ามพลาดอัพเดทข่าว “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรี เดินสายมอบนโยบายเข็นทุกองค์กรกระจายรายได้ลงสู่ชุมชนและปั้นเมืองรองขายให้เต็มที่ ททท.ขานรับนำเอเย่นต์ 4 ทวีปจับเข่าคุยธุรกิจกับ 105 ชุมชน ส่วนแอร์เอเชีย เบอร์ฮัด สบช่องใช้ กรุงเทพฯ และภูเก็ตเป็นสปริงบอร์ดเชื่อมต่อจุดบินเข้าคุนหมิง เมืองหลวงมหานครยูนาน ของจีน ขณะที่ IHG ปักธงเปิดโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซเพรส แห่งที่สี่ในกรุงเทพฯ และภูเก็ตจัดเคาน์ดาวน์สุดเก๋
@ “สัมผัสลมหนาว ดูดาวบนภู สุโขทัย-กำแพงเพชร-อุตรดิตถ์”
ฤดูหนาวเดือนธันวาคมนี้ มีแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนสบาย ๆ มาแนะนำ ในภาคเหนือตอนล่าง 3 จังหวัด สุโขทัย กำแพงเพชร และอุตรดิตถ์ ชวนกันไป “สัมผัสลมหนาว ดูดาวบนภู” ชม ชีล ชิม ช่วยแชร์ ความงดงามทางธรรมชาติ ภูเขา ทะเลหมอก ดอกไม้ สายลมหนาว และดาวเดือน เดินทางสะดวกสบายรถเข้าถึงง่าย หรือ จะเป็นสายบุก สายลุย ผจญภัยเดินเท้าเข้าป่า
เส้นทางที่ 1 สัมผัสหนาว ดูดาวที่ช่องเย็น อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จ.กาแพงเพชร ชมวิวดาวบนยอดภูสวรรค์แบบ 360 องศา บนภูเขาที่มีความหนาวเย็นตลอดทั้งปี
เส้นทาง ที่ 2 สัมผัสหนาว ดูดาวที่ป่าคา อุทยานแห่งชาติศรีสัชนาลัย นักท่องเที่ยวสามารถมา แค้มป์ปิ้ง กางเต็นท์ เดินเล่นน้ำตก หากไม่มีเต็นท์ ก็สามารถมาเช่าเต็นท์ของอุทยาน ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกบริการครบครัน
เส้นทาง ที่ 3 สัมผัสหนาว ดูดาวบนสันเขื่อน จ.อุตรดิตถ์ ท่านสามารถขับรถเที่ยว แบบครอบครัว ชมไร่องุ่นคานาอัน เขื่อนสิริกิติ์ และฟาร์มม้า ที่ขุนฝางสวนม้าโฮมสเตย์
หรือจะไปผจญภัยพิชิตยอดเขา5 เส้นทางสนุกสุดมัน ที่ต้องลองสักครั้งหนึ่งในชีวิต
เส้นทางที่ 1 : สัมผัสหนาว-ดูดาวบนภูสอยดาว ณ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์ กับ การเดินเท้าท้าทายความสูง ถึง 2,102 เมตร จากระดับน้ำทะเล ภูเขาที่สูงเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศไทย เส้นทางเดินเท้าระยะทาง 6.5 กิโลเมตร ผ่านเนินสุดโหดทั้ง 5 ได้แก่ เนินส่งญาติ เนินปราบเซียน เนินป่าก่อ เนินเสือโคร่ง เนินมรณะ ซึ่งเป็นเนินสุดท้ายลาดขันที่สุด ก่อนจะถึงลานกางเต็นท์ ณ บริเวณลานสน และหากนักท่องเที่ยวสนใจขึ้นไปจุดชมวิวยอดภูสอยดาว ต้องเดินเท้าต่อไป อีก 5 กิโลเมตร ทางลาดชันที่ต้องใช้กำลังแขนและขาเผื่อไต่ขึ้นไป ระหว่างทางท่านจะได้สัมผัสความงามของต้นเมเปิ้ลแดง และดอกไม้ป่า
เส้นทาง ที่ 2 : สัมผัสหนาว ดูดาวบนเขาหลวง ณ อุทยานแห่งชาติรามคำแหง จ.สุโขทัย เส้นทางเดินเท้าท้าทายความสูง 1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเล กับทางเดินขึ้นที่มีความลาดชัน 45 องศา ตลอดเส้นทาง บนยอดเขาท่านจะได้เห็นวิวเมืองสุโขทัย และท่านสามารถ ชมวิวดาวได้จากยอดเขา และจุดชมพระอาทิตย์ตก ณ บริเวณจุดชมวิวเขาพระแม่ย่า และจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น ณ ผานารายณ์
เส้นทาง ที่ 3 : สัมผัสหนาว ดูดาวบนยอดเขาโมโกจู ณ อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จ.กำแพงเพชร ระยะเวลาเดินป่า 5 วัน 4 คืน กับการท้าทายความสูง 1,964 เมตร จากระดับน้ำทะเล เพื่อตามหาหินเรือใบและจุดชมวิว 360 องศา ที่สามารถมองเห็น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง, อุทยานแห่งชาติคลองลาน, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ทุ่งใหญ่นเรศวร, และ อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ได้ในจุดๆเดียว
เส้นทาง ที่ 4 : สัมผัสหนาว ดูดาวบนยอดเขาเย็น เส้นทางท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า จ.กำแพงเพชร 3 วัน 2 คืน สัมผัสวิถีชีวิตการทำเกษตรกรรมในหมู่บ้านโละโคะ ชมน้ำตกเต่าดำ น้ำตกที่ไปแล้วจะสาวขึ้น ชิมสตรอว์เบอรี่ ในโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงในพระราชดำริบ้านป่าคา และพิชิตยอดเขาเย็น ดูดาวบนฟ้า ส่องดาวบนดิน เอาหน้าไปปะทะหมอกในดงเฟิร์น บนความสูง 1,805 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง
ชวนกันออกมาเที่ยวเมืองไทยในภาคเหนือตอนล่าง สุโขทัย กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ มีวิถีชีวิตดีดีให้สัมผัสมากมาย
@หนาวแล้วดูแลสุขภาพด้วย15วิธีปลอดไข้ไร้โรค”
มาเติมเต็มข้อมูลที่จะช่วยดูแลตัวเองช่วงเข้าสู่ฤดูหนาวกัน เพื่อลดอาการเจ็บไข้ได้ป่วย หรือผิวแห้งแตกลอกได้ง่าย ๆ จึงมี 15 เคล็ดลับมาฝากดังนี้
1.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้เพียงพอและครบหมู่ ดื่มน้ำมาก ๆ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ และไม่ตรากตรำทำงานหนักจนเกินไป
2.หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา และยาเสพติดต่าง ๆ เนื่องจากจะทำให้สุขภาพร่างกายเสื่อมโทรม เท่ากับเพิ่มโอกาสที่จะติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
3.อยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงสถานที่ชุมชนที่แออัดยัดเยียด โดยเฉพาะหากมีการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่
4.ล้างมือบ่อย ๆ เพราะอาจไปสัมผัสเชื้อโรคที่ติดอยู่ตามสิ่งของต่าง ๆ เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได ปุ่มลิฟต์ โทรศัพท์สาธารณะ เป็นต้น
5.หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้ป่วย และไม่ควรใช้ของร่วมกัน เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ จานชาม ช้อนส้อม
6.หากป่วยแล้วมีอาการไอหรือจาม ควรมีผ้าปิดปากและจมูก หรือสวมหน้ากากอนามัย
7.ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด อาการจะกำเริบได้ง่ายในฤดูนี้ นอกจากอากาศเย็นที่เป็นสาเหตุโดยตรงแล้ว ก็อาจเนื่องมาจากฤดูหนาวจะมีฝุ่นมาก หรืออากาศหนาวทำให้เราต้องนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาอยู่ร่วมกันในบ้าน หากแพ้ขนสัตว์ก็จะทำให้อาการกำเริบมากขึ้น หรือการนอนนาน ๆ ในฤดูหนาวซึ่งมืดเร็วและสว่างช้า ก็เพิ่มโอกาสที่จะทำให้แพ้ตัวไรฝุ่นตามที่นอน หมอน ผ้าห่มได้มากขึ้น ดังนั้นควรระมัดระวังสิ่งกระตุ้นเหล่านี้ และรักษาร่างกายให้แข็งแรงเข้าไว้
8. พยายามรักษาร่างกายให้อบอุ่นในช่วงฤดูหนาว หรือช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง ใส่เสื้อผ้าที่อบอุ่นเหมาะกับฤดูกาล หากอยู่ในที่ที่หนาวมากควรสวมหมวก เพื่อลดการถ่ายเทความร้อนออกจากร่างกาย
9.การอาบน้ำหลังจากตื่นนอน อาจไม่จำเป็นต้องฟอกสบู่ หรือฟอกเพียงบางจุด หรือหากอยู่ในที่ที่อากาศหนาวมาก ๆ อาจไม่จำเป็นต้องอาบน้ำวันละสองครั้งตามปกติ และไม่ควรอาบน้ำนาน ๆ
10.ไม่ควรอาบน้ำอุ่นจัดจนเกินไป โดยเฉพาะการล้างหน้า เพราะน้ำอุ่นจะทำให้ความชุ่มชื้นของผิวหายไป
นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่มีฟองมาก ๆ เพราะจะดึงความชุ่มชื้นไปจากผิว และไม่ควรเช็ดถูผิวแรง ๆ เพราะจะยิ่งทำให้ผิวลอกมากขึ้น
11.ทาโลชั่นบำรุงผิวหลังอาบน้ำ ขณะที่ตัวยังหมาด ๆ จะช่วยป้องกันผิวแห้ง แตก ลอก ในฤดูหนาวได้ และควรทาให้ทั่วร่างกาย ไม่ใช่เฉพาะแขนกับขาเท่านั้น รวมทั้งส่วนที่เรามักไม่ใส่ใจ เช่น เท้า การทาโลชั่นและสวมถุงเท้านอน
จะช่วยให้เท้าเนียนนุ่มชุ่มชื้น ลดปัญหาส้นเท้าแตกได้อีกด้วย
12.ริมฝีปากที่แห้งแตกก็ควรได้รับการบำรุงและปกป้องเช่นกันสมัยนี้มีลิปมัน ลิปบาล์ม ให้เลือกใช้มากมาย รวมทั้งชนิด For Men ของคุณผู้ชายด้วย สำหรับผู้ชายที่รู้สึกเขินเวลาใช้ลิปแท่ง อาจเลือกซื้อชนิดตลับไว้พกติดตัวก็ได้
ที่สำคัญ ไม่ควรเลียริมฝีปากบ่อย ๆ เพราะจะยิ่งทำให้ปากแห้งแตกมากขึ้น
13.ในช่วงหน้าหนาวไม่จำเป็นต้องสระผมบ่อย ๆ เช่นกัน และใช้แชมพูในปริมาณน้อย ๆ ก็เพียงพอแล้ว เพราะจะทำให้เส้นผมแห้งแตกปลายได้ง่าย และยังทำให้หนังศีรษะแห้งเกินไปจนเกิดรังแคได้อีกด้วย สำหรับผมที่แห้งมาก การเลือกใช้แชมพูและครีมนวดผมที่เหมาะสำหรับผมแห้งจะช่วยได้ หลังการสระผมอาจใช้น้ำมันบำรุงเส้นผมทาเคลือบที่ปลายผมบาง ๆ เพื่อลดไฟฟ้าสถิต ช่วยให้ผมไม่ฟู
14.บำรุงร่างกายภายนอกกันแล้ว ก็อย่าลืมบำรุงร่างกายให้ชุ่มชื้นจากภายในด้วย โดยการดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน โดยเฉพาะน้ำอุ่นซึ่งจะช่วยให้ร่างกายของคุณอุ่นขึ้น นอกจากนี้ควรรับประทานผักผลไม้สดให้มากด้วย เพื่อให้ร่างกายชุ่มชื้นจากภายใน
15.การเลือกซื้อเสื้อกันหนาวก็สำคัญ บางคนเลือกซื้อเสื้อกันหนาวมือสอง เนื่องจากมีราคาถูก แต่ก็อาจนำเชื้อโรคต่าง ๆ ติดมาด้วย ควรเลือกให้ดี อย่าให้มีรอยด่างดำและรอยคราบสารคัดหลั่งต่าง ๆ หรือกลิ่นอับชื้นติดอยู่ เพราะอาจทำให้ติดเชื้อโรคได้ เช่น โรคผิวหนัง โรคติดเชื้อ เชื้อรา หรือโรคทางเดินหายใจต่าง ๆ ก่อนนำไปสวมใส่ควรต้มในน้ำเดือด และซักให้สะอาด แล้วนำไปผึ่งแดดให้แห้งสนิท
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “สมคิดสั่งท่องเที่ยวขายชุมชน-เมืองรองเปรี้ยงปี’61”
นายสมคิด จตุศรีพิทักษ์ รองนายรัฐมนตรี เปิดเผยระหว่างได้มอบนโยบายการท่องเที่ยวปี 2561 ให้ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และเปิดให้เอกชนเข้าฟังด้วย เพื่อให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันสร้างเศรษฐกิจ โดยเรื่องการกระจายรายได้ตรงสู่ชุมชนฐานรากและเมืองท่องเที่ยวอันดับรองโดยเร็ว โดยให้เวลาภายใน 2 เดือนเร่งสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่เพิ่มเพื่อรองการเติบโตของนักท่องเที่ยวคนไทยซึ่งตั้งเป้าไว้กว่า 160 ล้านคน และต่างชาติ อีก 35 ล้านคน
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ปี 2561 วางกลยุทธ์กระจายรายได้ท่องเที่ยวเข้าสู่เมืองรองเพิ่มขั้นต่ำ 10 ล้านคน เพื่อให้ใช้จ่ายเฉลี่ย 1,000 บาท/คน จะมีเงินสะพัดได้กว่า 1 หมื่นล้านบาท อีกทั้งยังเตรียมความพร้อมสร้างชุมชนท่องเที่ยวเข้มแข็งตามแผนงานวันที่ 22 ธ.ค.นี้ จำนวน 105 ชุมชน มาประชุมเชิงปฏิบัติการร่วมกับบริษัทตัวแทนขายท่องเที่ยวในตลาดต่างประเทศมาหารือและจัดทำทำผลิตแพ็คเกจขาย จำลองการตั้งโต๊ะเจรจาธุรกิจระหว่างกัน โดยมีเอเยนต์ 4 ตลาด คือ ยุโรป อเมริกา เอเชีย อาเซียน เป็นผู้ซื้อจับคู่กับชุมชนผู้ขายเลือกใหสอดคล้องกับความต้องการของแต่ละตลาด แล้วจะติดตามวัดประเมินผลสัมฤทธิ์ด้วย
ข่าวที่สอง “แอร์เอเชียใช้กรุงเทพฯ/ภูเก็ตบินต่อเข้าคุนหมิง”
นายสเปนเซอร์ ลี หัวหน้าฝ่ายการพาณิชย์กลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย เบอร์ฮัด รายงานว่า เตรียมเพิ่มเที่ยวบิน ไป-กลับ กัวลาลัมเปอร์-กรุงเทพฯ เข้าสู่คุนหมิงซึ่งเป็นเมืองหลวงใหญ่สุดในมณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน กัวลาลัมเปอร์- กรุงเทพฯ จะเริ่มเพิ่ม19 ธันวาคม 2560 สัปดาห์ละ 14 เที่ยว จากนั้นจะบิน กรุงเทพฯ-คุนหมิง สัปดาห์ละ 14 เที่ยว เริ่ม 16 มกราคม 2561
ปัจจุบันแอร์เอเชียบินสัปดาห์ละ 14 เที่ยว และต่อไปยังสนามบินนานาชาติคุนหมิง ฉางชา นอกจากเที่ยวบินจากกัวลาลัมเปอร์และกรุงเทพแล้วแอร์เอเชีย ยังได้เปิดตัวเที่ยวบินตรง ไป-กลับ ภูเก็ต-คุนหมิง วันละ 1 เที่ยว เริ่มวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 เป็นต้นไป
ข่าวที่สาม “IHGเปิดฮอลิเดย์อินน์เอ็กซเพรสแห่ง4ชิงเค้กกทม.”
แคลเรนซ์ ทัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านปฏิบัติการ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาหลีใต้ อินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ล กรุ๊ป (IHG®) กล่าวว่า ได้เปิดตัวโรงแรมแห่งใหม่โดยนำแบรนด์ ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส แบงค็อก มาปักหลักสู้ตรงบริเวณ ซอยศูนย์วิจัย เป็นแห่งที่ 4 ในกรุงเทพฯ จำนวนทั้งหมด 206 ห้อง ให้พักผ่อนอย่างสบายทำเลรายล้อมไปด้วยบริการทางการแพทย์ ธุรกิจ และแหล่งไลฟ์สไตล์ที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯ
ทำเลของโรงแรมอยู่ห่างจากโรงพยาบาลกรุงเทพโดยใช้เวลาเดินเพียง 2 นาที และใกล้กับโรงพยาบาลปิยะเวทโรงพยาบาลพระรามเก้า และมีพื้นที่ที่เชื่อมต่อกับถนนสายสำคัญต่างๆ เหมากับผู้ที่จะเดินทางมาเรื่องธุรกิจ ส่วนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักร้อนก็สามารถออกมาพักผ่อนที่ศูนย์การค้า แหล่งรวมความบันเทิง และร้านอาหารที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ภายรอบโรงแรมได้ เช่น โชว์ดีซี เซ็นทรัลพระรามเก้า เทอร์มินอล 21 และเอ็มควอเทียร์
สำหรับมาตรฐานบริการที่น่าสนใจของฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซเพรส เช่น “ฟรีไวไฟความเร็วสูง” ที่ครอบคลุมพื้นที่ทั่วบริเวณโรงแรม “ฟรีอาหารเช้า เอ็กซ์เพรส สตาร์ท” (Express Start™) หรือ บริการอาหารเช้าแบบ แกร็บ แอนด์ โก (Grab & Go) สำหรับการเริ่มต้นวันใหม่อย่างสมาร์ท “เตียงคุณภาพสูง” พร้อมหมอนที่มีให้เลือกทั้งแบบแข็งและแบบนิ่ม สำหรับการนอนหลับที่แสนสบาย “บริการน้ำอุ่นและน้ำเย็น” พร้อมหัวฝักบัวชนิดนวดที่มีสามฟังค์ชัน และผ้าขนหนูผืนนุ่มที่จะทำให้คุณรู้สึกสดชื่นหลังการอาบน้ำ
ข่าวที่สี่ “
นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ร่วมกับ ททท.และหน่วยงานในพื้นที่ จัดงาน “เทศกาลของดีภูเก็ต’61” Phuket Brand Phuket Best Festival 2018 ระหว่าง 29 ธันวาคม 2560-8 มกราคม 2561 รวม 11 วันต้อนรับนักท่องเที่ยวส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ จัดกิจกรรมเต็มร้อยทั้งการแสดง อาหารพื้นถิ่นในคอนเซปต์ “กินเที่ยวเฟี้ยวยกเกาะ” รวบรวมร้านอาหารที่มีชื่อเสียง สไตล์ Street Food และโรงแรม มาให้รับประทาน ตอกย้ำความเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหารจากยูเนสโกของจังหวัดภูเก็ต (Phuket City Gastronomy) ตลอดงานจะมีร้านค้าชั้นนำกว่า 100 ร้านค้า รวมตัวกันนำอาหารที่มีชื่อเสียงตามสูตรกินเที่ยวเฟี้ยวยกเกาะ อาทิ
อาหารพื้นเมืองภูเก็ต – โลบะ เกี๊ยนทอด ปอเปี๊ยะสด อาโป้ง จีโจ้ โอะเอ๋ว ส้มตำเคย โกปี๊ช๊าม หมี่หุ้นกระดูกหมู(บะกูดเต๋) ตูโบ้ เกี๋ยวโก้ยอาหารเพื่อสุขภาพ - สาหร่ายพวงองุ่น ยำผักกูด ผัดผักเหมียง สลัดผักปลอดสารพิษ สัปปะรดภูเก็ต
อาหารทะเลซีฟู้ด - หมี่หุ้นแกงปู กุ้งมังกร หอยชักตีน ปูดำผัดมะนาว หอยแมลงภู่ หอยเชลล์ท๊อปหน้าต่างๆ เผา ลูกชิ้นปลาภูเก็ต
อาหารสร้างสรรค์ – สปาเก๊ตตี้ผัดกะปิ หมูฮ้องหมั่นโถว
พิธีเปิดงานจะจัดขึ้นวันเสาร์ที่ 30 ธันวาคม 2560 เวลา 17.30-21.00 น. ณ เวทีกลางสะพานหิน ชมการแสดงจากศิลปินเด็กภูเก็ต แฟชั่นโชว์ยิ่งใหญ่อลังการนำผ้าพื้นเมืองภูเก็ตมาให้ยลความงามในชุด “สีสันอันดามัน อลังเว่อร์” โดยนางแบบนายแบบตัวน้อยกว่า 50 ชีวิต ร่วมด้วย Miss Grand Phuket 2017 น้องลูกนัทจะมาสร้างความเซอไพรท์ในช่วงพิธีเปิดยิ่งใหญ่อลังการร่วมกับพ่อเมืองภูเก็ตอีกด้วย
ส่วนคืนวันอาทิตย์ที่ 31 ธันวาคม 2560 ชมศิลปินเคลลี่ พระเอกสุดหล่อจากโทรทัศน์ช่อง 7 จะมาสร้างความสนุกสนานจนข้ามปี ร่วมนับเคาท์ดาวพร้อมกับพ่อเมืองภูเก็ต
ตลอด 11 วัน ตั้งแต่เวลา 16.00-24.00 น. จะมีการประกวดของดีเมืองภูเก็ต อาทิ นกกรงหัวจุก สัปปะรดภูเก็ต ไก่แจ้ ผักเหมียง ผักกูด สาธิต และการแสดงเกี่ยวกับนวัตกรรมการสร้างสรรค์ด้านอาหาร ลานเด็กเล่นขนาดยักษ์ การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นเมืองภูเก็ตจากชุมชนต่างๆ และความบันเทิงจากศิลปินอย่างจุใจ สอบถาม โทร. 076 224822 และ 076 216118
ข่าวที่ห้า “17-25 ธ.ค.นี้ช้อปกระจายOTOP City 2017”
ระหว่างวันที่ 17-25 ธันวาคม 2560 พบกับงาน OTOP City 2017 ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี อลังการงานธีม "ของขวัญจากภูมิปัญญา ประชารัฐ สร้างโอกาส สร้างอาชีพ สร้างรายได้" ภายในงานมี ของขวัญของฝากมาให้เลือกช้อปกว่า 20,000 รายการ 2,500 ร้านค้า พร้อมอาหารจากทั่วไทยมาเติมความหิวให้อิ่มกันได้ตลอดทุกวัน
เอกชน-รัฐต่อยอดสามพรานโมเดลนำชุมชนยั่งยืนของจริง
คิงเพาเวอร์รางน้ำดึงณเดชเคาน์ดาวช้อปปิ้ง29-31ธ.ค.นี้
ททท.โหมชุมชน2งานใหญ่”เที่ยวเก๋ไก๋-อาหารปลอดภัย”
บางจากหนึ่งเดียวคว้ารางวัลยอดเยี่ยมด้านความยั่งยืน
รับลมหนาวดูดาวบนดอยสุโขทัย-อุตรดิตถ์-กำแพงเพชร
สมคิดสั่งเข้มท่องเที่ยวกระจายเงินลงชุมชน-เมืองรอง
แอร์เอเชียใข้กรุงเทพ/ภูเก็ตต่อจุดบินขายตรงไปคุนหมิง
ภูเก็ตจัดเคาน์ดาวน์11วันดันยอดเที่ยวเฟี้ยวยกเกาะ
ช้อปส่งท้ายแบบไม่ยั้งโอท็อปซิตี้ที่อิมแพ็ค2,500ร้าน
สวัสดีวันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม 2560 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen
ช่วงที่ 1 ทายาทธุรกิจคนรุ่นใหม่ “อรุษ นวราช” กรรมการผู้จัดการ สามพราน ริเวอร์ไซด์ และเลขานุการมูลนิธิสังคมสุขใจ ผู้บุกเบิกโครงการ สามพราน โมเดล และริเริ่ม Organic Tourism -อาหารเกษตรอินทรีย์เพื่อการท่องเที่ยว พร้อมให้สัมภาษณ์ในรายการถึงการการผนึกเครือข่ายความร่วมมือทุกภาคส่วนทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะแม่โขง ทัวริสซึ่ม ทำเวิลด์โปรเจ็กต์เป็นประเทศแรกของโลกเรื่อง “อาหารเกษตรอินทรีย์เพื่อการท่องเที่ยว” ก้าวใหม่ที่ยิ่งใหญ่ของไทยในเวทีส่งออกทั่วโลกในอนาคต
อรุษ นวราช กรรมการผู้จัดการ สามพราน ริเวอร์ไซด์ และเลขานุการมูลนิธิสังคมสุขใจ เ |
อรุษ นวราช กรรมการผู้จัดการ สามพราน ริเวอร์ไซด์ และเลขานุการมูลนิธิสังคมสุขใจ เปิดเผยว่า ในฐานะหนึ่งในทีมผู้บุกเบิก สามพราน โมเดล และกำลังริเริ่มโครงการ Organic Tourism พร้อมจะทำให้ไทยเป็นประเทศแรกของโลกเดินหน้าโครงการนี้ ตามเป้าหมายต้องการกระตุ้นผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งประเทศขับเคลื่อนอาหารอย่างยั่งยืน ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร และผู้ประกอบการ ที่ใช้วัตถุดิบอาหาร มาเชื่อมโยงตรงกับเกษตรกรผู้ผลิต ด้วยการให้ความรู้แลกเปลี่ยนแก่ผู้บริโภคในตลาด การกินอาหารอินทรีย์จะดีต่อสุขภาพ สิ่งแวดล้อมและสังคม ด้วย จึงได้ขอความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐอย่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สมาคมโรงแรมไทย สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย องค์กรระหว่างประเทศ Mekhong Tourism ดูแล 6 ประเทศ ไทย กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม และจีนตอนใต้ เข้ามาร่วมโครงการอย่างเข้มแข็ง
เบื้องต้นผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการทั้งกลุ่มผู้ผลิตฝั่ง Supply และกลุ่มผู้ใช้วัตถุดิบ (demand) โรงแรม ร้านอาหาร ที่สนใจ รวมทั้งกลุ่มผู้ปลูก อย่างน้อยจะต้องทำมาตรฐานตามเกณฑ์เกษตรอินทรีย์คือ PGS ปัจจุบันในประเทศไทยมีการขับเคลื่อนกันอยู่บ้างแล้ว ดังนั้นหากทั้งกลุ่มผู้ผลิตสนใจก็สามารถติดต่อทางมูลนิธิสังคมสุขใจ เข้ามาปรึกษาและขอคำแนะนำได้ทางเว็บไซต์ออนไลน์ www.sampranmodel.com โทร.034-225-203
การขับเคลื่อนโครงการ Organic Tourism ขณะนี้ในนครปฐมเป็นพื้นที่นำร่องต่อเนื่องจาก สามพรานโมเดล และ Farm to Function มีเกษตรกรรวม 12 กลุ่ม กว่า 176 ครัวเรือน พร้อมทั้งขยายไปเชียงใหม่ ขอนแก่น น่าน ดังนั้นผู้ประกอบการและเกษตรกรที่สนใจ สอบถามเข้ามาได้เลยพร้อมจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ เพราะเน้นการช่วยเหลือกันในบริเวณใกล้เคียง
โครงการ Organic Tourism ไทยจะเป็นผู้นำประเทศแรกของโลกที่ทำเรื่องอาหารเกษตรอินทรีย์เพื่อการท่องเที่ยว ต่อเนื่องจากเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ทำเรื่อง Farm to Function ไฮไลต์เรื่องข้าวอินทรีย์ของชุมชนต่าง ๆ นำมาจำหน่ายโดยตรงให้ผู้ประกอบการโรงแรมทั่วประเทศ ส่วน Organic Tourism จะต่อยอดสินค้า ผัก ผลไม้ อินทรีย์ ทำให้อาหารไทยที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว เพิ่มมูลค่าเรื่องคุณค่าของอาหารสุขภาพ
การขายวัตถุดิบอาหารอินทรีย์เพื่อการท่องเที่ยวจะก่อให้เกิด “มูลค่าต่อผลผลิตของชุมชน” ถ้าเป็นวัตถุดิบสดจะได้เพิ่มกว่า 1 เท่า หากแปรรูปจะได้มูลค่าเพิ่มเป็นเงินอีกหลายเท่า ประการสำคัญมากกว่า “เกษตรกรจะลดต้นทุนการใช้สารเคมี” และ “ได้ตลาดใหญ่ระยะยาว” กลุ่มนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยสรุปมูลค่าเพิ่มจะได้มากกว่าปกติและยังช่วยโฆษณาประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในวงกว้างสู่นานาชาติด้วย
การต่อยอดความสำเร็จจาก สานพรานโมเดล สู่ Farm to Function เรื่อยมาจนถึง Organic Tourism กลยุทธ์เชื่อมต่อเครือข่ายแบบครบวงจรอย่างนี้สามารถสร้างชุมชนสู่ความสำเร็จคือ เกษตรกรปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตไม่ต้องพึ่งเคมี ไม่ต้องพึ่งคนกลาง และหันมาร่วมมือกัน ได้รู้จักตลาดกว้างขวางมากขึ้น ทำให้มีชีวิตที่ดีขึ้นในหลายมิติ โดยเฉพาะเกษตรกรสามารถ “ปลดหนี้ได้” รายจ่ายลดลง รายได้ดีขึ้น มีชีวิตที่มั่นคง ที่มากกว่านั้นได้สังคมใหม่ระหว่างเกษตรกรเครือข่ายและลูกค้าในตลาด จึงช่วยลดความเหลื่อมล้ำ มารู้จักและทำธุรกิจร่วมกัน เป็นเส้นทางนำไปสู่ “การพัฒนาอย่างยั่งยืน” แท้จริง
ในฐานะที่เป็นเจ้าของโรงแรมรีสอร์ต ซึ่งเป็นเสมือนกระบวนการอยู่ตรงกลางระหว่างผู้ผลิตกับผู้บริโภค แต่จะได้ “วัตถุดิบคุณภาพดี-ราคาเท่าเดิม” สามารถนำมาเป็นจุดขายโฆษณาไปยังลูกค้าได้ แถมยังเป็นโปรดักซ์ใหม่ให้แก่โรงแรมได้โดยการพานักท่องเที่ยวย้อนไปดูแหล่งเพาะปลูกเกษตรอินทรีย์จัดทำ “ฟาร์มทัวร์” สามารถเพิ่มช่องทางการทำธุรกิจและซีเอสอาร์ไปในตัวด้วย
กลยุทธ์ในเชิงกิจกรรมการค้าขายของเวทีอาหารเกษตรอินทรีย์เพื่อการท่องเที่ยว เตรียมนำร่องจัด Organic Tourism Symphosium 2018 ระหว่างวันที่ 27-29 พฤษภาคม 2561 ที่สามพราน ริเวอร์ไซด์ จะวางช่วงเวลาไว้ใกล้กับการจัดงานใหญ่ “สหประชาชาติเพื่อการท่องเที่ยว- Unite Nation World Torism Organization :UNWTO” ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดงานนี้ด้วยช่วงปลายเดือนพฤษภาคมปีหน้า ทางมูลนิธิสังคมสุขใจได้หารือกับทาง Mekhong Tourism หน่วยงานขับเคลื่อนเรื่องการท่องเที่ยว เห็นพ้องกันที่จะให้ “ประเทศไทย” ขับเคลื่อนการจัดงาน Organic Tourism Symphosium 2018 ซึ่งจะต้องขอการสนับสนุนจาก ททท.และหน่วยงานอีกช่องทางเพื่อร่วมมือกันดึงผู้ประกอบการเข้ามาเพิ่มให้ได้มากที่สุด
เวทีการจัด Organic Tourism Symphosium 2018 ครั้งแรก จะพุ่งเป้าประกาศตัวอย่างเป็นทางการ แล้วนำภาครัฐ มหาวิทยาลัย และการระดมสมองของทุกภาคส่วนวางแผนขับเคลื่อนต่อเนื่อง เพื่อแชร์กันโดยลองผิดลองถูกซึ่งเป็นโปรเจ็กต์ที่ไม่ได้อยู่ในตำรา พร้อมทั้งมีองค์กรในประเทศและต่างประเทศเข้ามาร่วมด้วย ทำให้ภาคการเกษตรผู้ผลิตเป็นแกนหลักของภารกิจทั้งหมด เนื่องจากเป็นต้นทางของวัตถุดิบอาหารอินทรีย์
สำหรับเกษตรอินทรีย์มีหลายภาคส่วนขับเคลื่อน ทว่าโครงการ Organic Tourism สามารถช่วยเพิ่มสินค้า “ส่งออก” และช่วยโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าคุณภาพกลุ่มน้องใหม่เกษตรอินทรีย์เติบโตไปได้อย่างรวดเร็วในระยะยาว
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ดึง ณเดชจัดเต็มช็อปเคาน์ดาวน์29-31 ธ.ค.”
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ รายงานว่า ตลอดสามวัน 29-31 ธันวาคม 2560 ตั้งแต่ 18.00 น. เตรียมจัดกิจกรรมร่วมฉลองปีใหม่สุดสนุกอย่างไม่มีที่สิ้นสุดครั้งแรกที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และร่วมเคาท์ดาวน์ต้อนรับปี 2561มีกิจกรรมช็อป ชิม ชิล เป็นต้นไป ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พบกับกองทัพสินค้าไทยและแบรนด์เนม อาหารสตรีทฟู้ด และร้านดัง มากมาย
ตลอดงานจะให้ทุกคนได้ร่วมฉลองเคาน์ดาวน์ไปกับนักแสดงชื่อดัง เช่น ณเดชน์ / เจมส์ มาร์ พร้อมกับมันส์สุดเหวี่ยงกับศิลปินมากมายเช่น ดา เอ็นโดรฟิน / Live house bands (ไลฟ์เฮ้าส์ แบนด์) และดีเจชื่อดังอีกมากมาย
พบกันได้ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ (กรุงเทพฯ) ได้ตามวันและเวลาดังกล่าว เพื่อร่วมกันสนับสนุนธุรกิจของคนไทยในฐานะผู้บุกเบิกร้านค้าดิวตี้ฟรีของเมืองไทย ทำให้ทั่วโลกรู้จักชื่อเสียงของประเทศไทยเป็นอย่างดี
ข่าวที่ 2 “วีระศักดิ์นำททท.บูมชุมชนผุดTourism 1แก้เสื่อมโทรม”
ททท.หนุนเอกชนจัดงานเพียบ “ท่องเที่ยวไทย เก๋ไก๋ถึงชุมชน” 14-17 ธันวาคม 2560 ดึง 400 บูธ นำเมืองต้องห้ามพลาด...พลัส 5 ภูมิภาค ลดกระหน่ำกว่า 50 % ที่ศูนย์สิริกิติ์ “วีระศักดิ์ โควสุรัตน์” ผุดโปรเจ็กต์ Tourism 1 เปิดไลน์แช็ตดึงทุกภาคส่วนร้องทุกข์ปัญหาท่องเที่ยวเข้าศูนย์ Big Data จ่อตั้งคลีนิกท่องเที่ยวแก้ทุกปม และดันเครือข่ายชุมชนอาหารเกษตรอินทรีย์ทั่วประเทศจัด “อาหารปลอดภัย พาชุมชนไทยยั่งยืน” 15-17 ธ.ค.นี้ ที่ สามพราน ริเวอร์ไซด์ นครปฐม
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้ขับเคลื่อนนโยบายเชิงรุกการท่องเที่ยวโดยชุมชน ที่มีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เข้าไปสนับสนุนสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมขึ้นครั้งแรกงาน “ท่องเที่ยวไทย เก๋ไก๋ถึงชุมชน” ระหว่างวันที่ 14-17 ธันวาคม 2560 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวและสินค้าชุมชนรวม 400 บูธ กว่า 600 ราย รวมถึงองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. คัดชุมชนท่องเที่ยวทั่วประเทศกว่า 30 ชุมชนเข้าร่วมประสบการณ์ขายตรงกับกลุ่มนักท่องเที่ยวและเจรจาการค้ากับผู้ประกอบการของสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (แอตต้า)
ภายในงานชุมชนและธุรกิจท่องเที่ยวทุกสาขาต่างนำสินค้ามาจำหน่ายในราคาพิเศษมีทั้งห้องพัก แพกเกจท่องเที่ยว ตั๋วโดยสารเครื่องบิน อาหารถิ่น ของฝาก ของที่ระลึก เข้ามาร่วมอย่างคับคั่ง ขานรับแนวโน้มตลาดต่างประเทศล่าสุดมีรายงานจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยทะลุ 35 ล้านคนแล้ว ผนวกกับรายได้ปี 2560 จะทำให้เข้าเป้าหมาย 2.87 ล้านล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมาถึง 10 % แนวโน้มปี 2561 รายได้ท่องเที่ยวให้ถึง 3.1 ล้านล้านบาท ขยายตัวเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 8 %
ในเชิงนโยบายจึงได้นำร่องเปิดกลยุทธ์ใหม่จัดทำโครงการใหญ่ TOURISM 1 เป็น Line Chat เปิดช่องทางให้ทุกภาคส่วนสามารถส่งข้อมูลที่เป็นอุปสรรคปัญหาของการท่องเที่ยวชุมชนเข้ามาโดยลงทะเบียนเป็นเครือข่ายสมาชิก ส่งภาพ กดแชร์โลเกชั่น กระตุ้นให้ทุกคนเข้ามาร่วมช่วยกันปรับปรุง เสนอแนะ ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อสร้างเป็น Big Data จากนั้นจะตั้งคลินิกท่องเที่ยวเข้ามาคัดแยกข้อมุล บูรณาการแก้ไขอย่างทันเหตุการณ์ เพื่อสร้างมูลค่าและคุณค่าสินค้าท่องเที่ยวพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากปัจจุบันขีดความสามารถของแหล่งท่องเที่ยวซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติในชุมชนทั่วประเทศ และแหล่งท่องเที่ยวมนุษย์สร้างขึ้น ที่มีจำนวนคนเข้าไปใช้จำนวนมากมหาศาลย่อมทรุดและเสื่อมโทรม
เบื้องต้นตอนนี้ต้องการปลุกกระแสคนไทยหันมาร่วมกันดูแล 3 เรื่อง ได้แก่ 1.อัตลักษณ์ของวิถีชีวิตชุมชนต้องคงอยู่อย่างเข้มแข็ง 2.สร้างสังคมการท่องเที่ยวด้วยจิตอาสา ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมด้วยกันได้ 3.เจ้าของแหล่งท่องเที่ยวและภาคธุรกิจควรจะลดช่องว่างและลดความเหลื่อมล้ำที่เคยมีอยู่ลงให้มากที่สุด จึงต้องทำโครงการดังกล่าวขึ้นรองรับการแก้ปัญหาและพัฒนาควบคู่กันไปแบบครบวงจร
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.กล่าวว่า ช่วงโค้งสุดท้ายปีตลอดเดือนธันวาคมนี้ ททท.เดินหน้ากระตุ้นการท่องเที่ยวสู่ชุมชนหลายโครงการ พร้อมจะกระจายเม็ดเงินจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวตรงถึงท้องถิ่นทั่วประเทศ ในงาน “อาหารปลอดภัย พาชุมชนไทยยั่งยืน” ที่สามพราน ริเวอร์ไซด์ จังหวัดนครปฐม เป็นหนึ่งในโครงการนำชุมชนที่มีความพร้อมเป็นจุดเด่นทางด้าน Gastronomy Community ต้นแบบอาหารถิ่นเข้ามาเผยแพร่ประชาสัมพันธ์แก่นักท่องเที่ยว เนื่องจากกลยุทธ์การตลาดต่อไปจะต้องเน้นเพิ่มมูลค่าและคุณค่าแทนปริมาณ และอาหารเป็นแม่เหล็กขั้วใหญ่ที่จะเพิ่มการใช้จ่ายเงินจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เดินทางเข้าเมืองไทยได้มากเป็นอันดับต้น ๆ จากปัจจุบันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทำส่วนแบ่งรายได้รวมปีละกว่า 550,000 ล้านบาท ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากด้วยความร่วมมือของทุกฝ่าย
ขณะเดียวกัน ททท.ได้ขับเคลื่อนโครงการ Tourism Village , Village to the World ล่าสุดเข้าไปสนับสนุนโครงการนำร่อง Organic Tourism ของมูลนิธิสังคมสุขใจจับมือกับองค์กรภาครัฐ เอกชน และหน่วยงานระหว่างประเทศอย่าง Mekhong Tourism ดูแลการพัฒนาชุมชนท่องเที่ยวลุ่มน้ำโขง 6 ประเทศ สร้างการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน
ทางด้าน นายอรุษ นวราช กรรมการผู้จัดการ สามพราน ริเวอร์ไซด์ และเลขานุการมูลนิธิสังคมสุขใจ ระดมชุมชนนำผลิตภัณฑ์อาหารเกษตรอินทรีย์มาจัดมหกรรม “อาหารปลอดภัย พาชุมชนไทยยั่งยืน” ขึ้นระหว่างวันที่ 15-17 ธันวาคม 2560 ณ สามพราน ริเวอร์ไซด์ จ.นครปฐม โดยได้รับเกียรติจาก หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน โดยมีเครือข่ายชุมชนเกษตรอินทรีย์ทั่วประเทศนำสินค้าทั้งสดและแปรรูปมาจำหน่ายอย่างคึกคัก มีเชฟชั้นนำมาร่วมปลุกกระแสผู้บริโภครุ่นใหม่ โรงแรม ร้านอาหาร ให้หันมาเลือกบริโภคและซื้อวัตถุดิบอาหารปลอดสารพิษ ซึ่งสามารถช่วยกระจายรายได้สู่เกษตรกรโดยตรง ขจัดความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความยั่งยืนในระยะยาว
ตลอดการจัดงาน 15-17 ธันวาคม 2560 ผู้เข้าร่วมงานจะได้พบกับมหกรรมสินค้าเกษตร อาหารอินทรีย์ กิจกรรม นิทรรศการ 10 ชุมชนดัง และการแนะนำโปรแกรมในเส้นทางท่องเที่ยวชุมชน เนื่องจากปีนี้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยได้ต่อยอดจากโครงการสามพราน โมเดล และ Farm to Function ที่นำร่องสร้างเครือข่ายชุมชนผลิตข้าวอินทรีย์จำหน่ายให้โรงแรมและร้านอาหารทั่วประเทศ สร้างรายได้ให้เกษตรกรเป็นกอบกำเพิ่มขึ้น 1-2 เท่า ลดต้นทุนการใช้เงินซื้อสารเคมีลงมหาศาลเรื่อยไปจนถึงทำให้ครอบครัวเกษตรกรใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในการผลิตอาหารปลอดภัยให้คนไทยและนักท่องเที่ยวนานาชาติบริโภคเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของคนทั้งโลก
ข่าวที่ 3 “บางจากฯ คว้ารางวัลยอดเยี่ยมความยั่งยืน”
นายยอดพจน์ วงศ์รักมิตร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบริหารและพัฒนาความยั่งยืนองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้เป็นตัวแทนบริษัทขึ้นรับรางวัลรายงานความยั่งยืน ประจำปี 2560 ประเภทยอดเยี่ยม (Excellence) จากนายรพี สุจริตกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งบริษัท บางจากฯ เป็นองค์กรเดียวที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม
รางวัลดังกล่าวจัดขึ้นในงาน CSR Club Conference 2017 พร้อมทั้งมีพิธีมอบรางวัลรายงานความยั่งยืน ประจำปี 2560 (Sustainability Report Award 2017) จัดโดย CSR Club สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย สำนักงาน ก.ล.ต. และสถาบันไทยพัฒน์ ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ช่วงที่ 2 ชวนกันไปเติมความสุขในภาคเหนือตอนล่างกับทริป “สัมผัสลมหนาวดูดาวบนภู 3 เมือง” สุโขทัย กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ แล้วมาฟังเรื่องการดูแลตัวเองช่วงอากาศเย็นได้ด้วย 15 วิธี และห้ามพลาดอัพเดทข่าว “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรี เดินสายมอบนโยบายเข็นทุกองค์กรกระจายรายได้ลงสู่ชุมชนและปั้นเมืองรองขายให้เต็มที่ ททท.ขานรับนำเอเย่นต์ 4 ทวีปจับเข่าคุยธุรกิจกับ 105 ชุมชน ส่วนแอร์เอเชีย เบอร์ฮัด สบช่องใช้ กรุงเทพฯ และภูเก็ตเป็นสปริงบอร์ดเชื่อมต่อจุดบินเข้าคุนหมิง เมืองหลวงมหานครยูนาน ของจีน ขณะที่ IHG ปักธงเปิดโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซเพรส แห่งที่สี่ในกรุงเทพฯ และภูเก็ตจัดเคาน์ดาวน์สุดเก๋
@ “สัมผัสลมหนาว ดูดาวบนภู สุโขทัย-กำแพงเพชร-อุตรดิตถ์”
ฤดูหนาวเดือนธันวาคมนี้ มีแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนสบาย ๆ มาแนะนำ ในภาคเหนือตอนล่าง 3 จังหวัด สุโขทัย กำแพงเพชร และอุตรดิตถ์ ชวนกันไป “สัมผัสลมหนาว ดูดาวบนภู” ชม ชีล ชิม ช่วยแชร์ ความงดงามทางธรรมชาติ ภูเขา ทะเลหมอก ดอกไม้ สายลมหนาว และดาวเดือน เดินทางสะดวกสบายรถเข้าถึงง่าย หรือ จะเป็นสายบุก สายลุย ผจญภัยเดินเท้าเข้าป่า
เส้นทางที่ 1 สัมผัสหนาว ดูดาวที่ช่องเย็น อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จ.กาแพงเพชร ชมวิวดาวบนยอดภูสวรรค์แบบ 360 องศา บนภูเขาที่มีความหนาวเย็นตลอดทั้งปี
เส้นทาง ที่ 2 สัมผัสหนาว ดูดาวที่ป่าคา อุทยานแห่งชาติศรีสัชนาลัย นักท่องเที่ยวสามารถมา แค้มป์ปิ้ง กางเต็นท์ เดินเล่นน้ำตก หากไม่มีเต็นท์ ก็สามารถมาเช่าเต็นท์ของอุทยาน ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกบริการครบครัน
เส้นทาง ที่ 3 สัมผัสหนาว ดูดาวบนสันเขื่อน จ.อุตรดิตถ์ ท่านสามารถขับรถเที่ยว แบบครอบครัว ชมไร่องุ่นคานาอัน เขื่อนสิริกิติ์ และฟาร์มม้า ที่ขุนฝางสวนม้าโฮมสเตย์
หรือจะไปผจญภัยพิชิตยอดเขา5 เส้นทางสนุกสุดมัน ที่ต้องลองสักครั้งหนึ่งในชีวิต
เส้นทางที่ 1 : สัมผัสหนาว-ดูดาวบนภูสอยดาว ณ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์ กับ การเดินเท้าท้าทายความสูง ถึง 2,102 เมตร จากระดับน้ำทะเล ภูเขาที่สูงเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศไทย เส้นทางเดินเท้าระยะทาง 6.5 กิโลเมตร ผ่านเนินสุดโหดทั้ง 5 ได้แก่ เนินส่งญาติ เนินปราบเซียน เนินป่าก่อ เนินเสือโคร่ง เนินมรณะ ซึ่งเป็นเนินสุดท้ายลาดขันที่สุด ก่อนจะถึงลานกางเต็นท์ ณ บริเวณลานสน และหากนักท่องเที่ยวสนใจขึ้นไปจุดชมวิวยอดภูสอยดาว ต้องเดินเท้าต่อไป อีก 5 กิโลเมตร ทางลาดชันที่ต้องใช้กำลังแขนและขาเผื่อไต่ขึ้นไป ระหว่างทางท่านจะได้สัมผัสความงามของต้นเมเปิ้ลแดง และดอกไม้ป่า
เส้นทาง ที่ 2 : สัมผัสหนาว ดูดาวบนเขาหลวง ณ อุทยานแห่งชาติรามคำแหง จ.สุโขทัย เส้นทางเดินเท้าท้าทายความสูง 1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเล กับทางเดินขึ้นที่มีความลาดชัน 45 องศา ตลอดเส้นทาง บนยอดเขาท่านจะได้เห็นวิวเมืองสุโขทัย และท่านสามารถ ชมวิวดาวได้จากยอดเขา และจุดชมพระอาทิตย์ตก ณ บริเวณจุดชมวิวเขาพระแม่ย่า และจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น ณ ผานารายณ์
เส้นทาง ที่ 3 : สัมผัสหนาว ดูดาวบนยอดเขาโมโกจู ณ อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จ.กำแพงเพชร ระยะเวลาเดินป่า 5 วัน 4 คืน กับการท้าทายความสูง 1,964 เมตร จากระดับน้ำทะเล เพื่อตามหาหินเรือใบและจุดชมวิว 360 องศา ที่สามารถมองเห็น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง, อุทยานแห่งชาติคลองลาน, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ทุ่งใหญ่นเรศวร, และ อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ได้ในจุดๆเดียว
เส้นทาง ที่ 4 : สัมผัสหนาว ดูดาวบนยอดเขาเย็น เส้นทางท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า จ.กำแพงเพชร 3 วัน 2 คืน สัมผัสวิถีชีวิตการทำเกษตรกรรมในหมู่บ้านโละโคะ ชมน้ำตกเต่าดำ น้ำตกที่ไปแล้วจะสาวขึ้น ชิมสตรอว์เบอรี่ ในโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงในพระราชดำริบ้านป่าคา และพิชิตยอดเขาเย็น ดูดาวบนฟ้า ส่องดาวบนดิน เอาหน้าไปปะทะหมอกในดงเฟิร์น บนความสูง 1,805 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง
ชวนกันออกมาเที่ยวเมืองไทยในภาคเหนือตอนล่าง สุโขทัย กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ มีวิถีชีวิตดีดีให้สัมผัสมากมาย
@หนาวแล้วดูแลสุขภาพด้วย15วิธีปลอดไข้ไร้โรค”
มาเติมเต็มข้อมูลที่จะช่วยดูแลตัวเองช่วงเข้าสู่ฤดูหนาวกัน เพื่อลดอาการเจ็บไข้ได้ป่วย หรือผิวแห้งแตกลอกได้ง่าย ๆ จึงมี 15 เคล็ดลับมาฝากดังนี้
1.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้เพียงพอและครบหมู่ ดื่มน้ำมาก ๆ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ และไม่ตรากตรำทำงานหนักจนเกินไป
2.หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา และยาเสพติดต่าง ๆ เนื่องจากจะทำให้สุขภาพร่างกายเสื่อมโทรม เท่ากับเพิ่มโอกาสที่จะติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
3.อยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงสถานที่ชุมชนที่แออัดยัดเยียด โดยเฉพาะหากมีการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่
4.ล้างมือบ่อย ๆ เพราะอาจไปสัมผัสเชื้อโรคที่ติดอยู่ตามสิ่งของต่าง ๆ เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได ปุ่มลิฟต์ โทรศัพท์สาธารณะ เป็นต้น
5.หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้ป่วย และไม่ควรใช้ของร่วมกัน เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ จานชาม ช้อนส้อม
6.หากป่วยแล้วมีอาการไอหรือจาม ควรมีผ้าปิดปากและจมูก หรือสวมหน้ากากอนามัย
7.ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด อาการจะกำเริบได้ง่ายในฤดูนี้ นอกจากอากาศเย็นที่เป็นสาเหตุโดยตรงแล้ว ก็อาจเนื่องมาจากฤดูหนาวจะมีฝุ่นมาก หรืออากาศหนาวทำให้เราต้องนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาอยู่ร่วมกันในบ้าน หากแพ้ขนสัตว์ก็จะทำให้อาการกำเริบมากขึ้น หรือการนอนนาน ๆ ในฤดูหนาวซึ่งมืดเร็วและสว่างช้า ก็เพิ่มโอกาสที่จะทำให้แพ้ตัวไรฝุ่นตามที่นอน หมอน ผ้าห่มได้มากขึ้น ดังนั้นควรระมัดระวังสิ่งกระตุ้นเหล่านี้ และรักษาร่างกายให้แข็งแรงเข้าไว้
8. พยายามรักษาร่างกายให้อบอุ่นในช่วงฤดูหนาว หรือช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง ใส่เสื้อผ้าที่อบอุ่นเหมาะกับฤดูกาล หากอยู่ในที่ที่หนาวมากควรสวมหมวก เพื่อลดการถ่ายเทความร้อนออกจากร่างกาย
9.การอาบน้ำหลังจากตื่นนอน อาจไม่จำเป็นต้องฟอกสบู่ หรือฟอกเพียงบางจุด หรือหากอยู่ในที่ที่อากาศหนาวมาก ๆ อาจไม่จำเป็นต้องอาบน้ำวันละสองครั้งตามปกติ และไม่ควรอาบน้ำนาน ๆ
10.ไม่ควรอาบน้ำอุ่นจัดจนเกินไป โดยเฉพาะการล้างหน้า เพราะน้ำอุ่นจะทำให้ความชุ่มชื้นของผิวหายไป
นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่มีฟองมาก ๆ เพราะจะดึงความชุ่มชื้นไปจากผิว และไม่ควรเช็ดถูผิวแรง ๆ เพราะจะยิ่งทำให้ผิวลอกมากขึ้น
11.ทาโลชั่นบำรุงผิวหลังอาบน้ำ ขณะที่ตัวยังหมาด ๆ จะช่วยป้องกันผิวแห้ง แตก ลอก ในฤดูหนาวได้ และควรทาให้ทั่วร่างกาย ไม่ใช่เฉพาะแขนกับขาเท่านั้น รวมทั้งส่วนที่เรามักไม่ใส่ใจ เช่น เท้า การทาโลชั่นและสวมถุงเท้านอน
จะช่วยให้เท้าเนียนนุ่มชุ่มชื้น ลดปัญหาส้นเท้าแตกได้อีกด้วย
12.ริมฝีปากที่แห้งแตกก็ควรได้รับการบำรุงและปกป้องเช่นกันสมัยนี้มีลิปมัน ลิปบาล์ม ให้เลือกใช้มากมาย รวมทั้งชนิด For Men ของคุณผู้ชายด้วย สำหรับผู้ชายที่รู้สึกเขินเวลาใช้ลิปแท่ง อาจเลือกซื้อชนิดตลับไว้พกติดตัวก็ได้
ที่สำคัญ ไม่ควรเลียริมฝีปากบ่อย ๆ เพราะจะยิ่งทำให้ปากแห้งแตกมากขึ้น
13.ในช่วงหน้าหนาวไม่จำเป็นต้องสระผมบ่อย ๆ เช่นกัน และใช้แชมพูในปริมาณน้อย ๆ ก็เพียงพอแล้ว เพราะจะทำให้เส้นผมแห้งแตกปลายได้ง่าย และยังทำให้หนังศีรษะแห้งเกินไปจนเกิดรังแคได้อีกด้วย สำหรับผมที่แห้งมาก การเลือกใช้แชมพูและครีมนวดผมที่เหมาะสำหรับผมแห้งจะช่วยได้ หลังการสระผมอาจใช้น้ำมันบำรุงเส้นผมทาเคลือบที่ปลายผมบาง ๆ เพื่อลดไฟฟ้าสถิต ช่วยให้ผมไม่ฟู
14.บำรุงร่างกายภายนอกกันแล้ว ก็อย่าลืมบำรุงร่างกายให้ชุ่มชื้นจากภายในด้วย โดยการดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน โดยเฉพาะน้ำอุ่นซึ่งจะช่วยให้ร่างกายของคุณอุ่นขึ้น นอกจากนี้ควรรับประทานผักผลไม้สดให้มากด้วย เพื่อให้ร่างกายชุ่มชื้นจากภายใน
15.การเลือกซื้อเสื้อกันหนาวก็สำคัญ บางคนเลือกซื้อเสื้อกันหนาวมือสอง เนื่องจากมีราคาถูก แต่ก็อาจนำเชื้อโรคต่าง ๆ ติดมาด้วย ควรเลือกให้ดี อย่าให้มีรอยด่างดำและรอยคราบสารคัดหลั่งต่าง ๆ หรือกลิ่นอับชื้นติดอยู่ เพราะอาจทำให้ติดเชื้อโรคได้ เช่น โรคผิวหนัง โรคติดเชื้อ เชื้อรา หรือโรคทางเดินหายใจต่าง ๆ ก่อนนำไปสวมใส่ควรต้มในน้ำเดือด และซักให้สะอาด แล้วนำไปผึ่งแดดให้แห้งสนิท
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “สมคิดสั่งท่องเที่ยวขายชุมชน-เมืองรองเปรี้ยงปี’61”
นายสมคิด จตุศรีพิทักษ์ รองนายรัฐมนตรี เปิดเผยระหว่างได้มอบนโยบายการท่องเที่ยวปี 2561 ให้ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และเปิดให้เอกชนเข้าฟังด้วย เพื่อให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันสร้างเศรษฐกิจ โดยเรื่องการกระจายรายได้ตรงสู่ชุมชนฐานรากและเมืองท่องเที่ยวอันดับรองโดยเร็ว โดยให้เวลาภายใน 2 เดือนเร่งสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่เพิ่มเพื่อรองการเติบโตของนักท่องเที่ยวคนไทยซึ่งตั้งเป้าไว้กว่า 160 ล้านคน และต่างชาติ อีก 35 ล้านคน
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ปี 2561 วางกลยุทธ์กระจายรายได้ท่องเที่ยวเข้าสู่เมืองรองเพิ่มขั้นต่ำ 10 ล้านคน เพื่อให้ใช้จ่ายเฉลี่ย 1,000 บาท/คน จะมีเงินสะพัดได้กว่า 1 หมื่นล้านบาท อีกทั้งยังเตรียมความพร้อมสร้างชุมชนท่องเที่ยวเข้มแข็งตามแผนงานวันที่ 22 ธ.ค.นี้ จำนวน 105 ชุมชน มาประชุมเชิงปฏิบัติการร่วมกับบริษัทตัวแทนขายท่องเที่ยวในตลาดต่างประเทศมาหารือและจัดทำทำผลิตแพ็คเกจขาย จำลองการตั้งโต๊ะเจรจาธุรกิจระหว่างกัน โดยมีเอเยนต์ 4 ตลาด คือ ยุโรป อเมริกา เอเชีย อาเซียน เป็นผู้ซื้อจับคู่กับชุมชนผู้ขายเลือกใหสอดคล้องกับความต้องการของแต่ละตลาด แล้วจะติดตามวัดประเมินผลสัมฤทธิ์ด้วย
ข่าวที่สอง “แอร์เอเชียใช้กรุงเทพฯ/ภูเก็ตบินต่อเข้าคุนหมิง”
นายสเปนเซอร์ ลี หัวหน้าฝ่ายการพาณิชย์กลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย เบอร์ฮัด รายงานว่า เตรียมเพิ่มเที่ยวบิน ไป-กลับ กัวลาลัมเปอร์-กรุงเทพฯ เข้าสู่คุนหมิงซึ่งเป็นเมืองหลวงใหญ่สุดในมณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน กัวลาลัมเปอร์- กรุงเทพฯ จะเริ่มเพิ่ม19 ธันวาคม 2560 สัปดาห์ละ 14 เที่ยว จากนั้นจะบิน กรุงเทพฯ-คุนหมิง สัปดาห์ละ 14 เที่ยว เริ่ม 16 มกราคม 2561
ปัจจุบันแอร์เอเชียบินสัปดาห์ละ 14 เที่ยว และต่อไปยังสนามบินนานาชาติคุนหมิง ฉางชา นอกจากเที่ยวบินจากกัวลาลัมเปอร์และกรุงเทพแล้วแอร์เอเชีย ยังได้เปิดตัวเที่ยวบินตรง ไป-กลับ ภูเก็ต-คุนหมิง วันละ 1 เที่ยว เริ่มวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 เป็นต้นไป
ข่าวที่สาม “IHGเปิดฮอลิเดย์อินน์เอ็กซเพรสแห่ง4ชิงเค้กกทม.”
แคลเรนซ์ ทัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านปฏิบัติการ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาหลีใต้ อินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ล กรุ๊ป (IHG®) กล่าวว่า ได้เปิดตัวโรงแรมแห่งใหม่โดยนำแบรนด์ ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส แบงค็อก มาปักหลักสู้ตรงบริเวณ ซอยศูนย์วิจัย เป็นแห่งที่ 4 ในกรุงเทพฯ จำนวนทั้งหมด 206 ห้อง ให้พักผ่อนอย่างสบายทำเลรายล้อมไปด้วยบริการทางการแพทย์ ธุรกิจ และแหล่งไลฟ์สไตล์ที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯ
ทำเลของโรงแรมอยู่ห่างจากโรงพยาบาลกรุงเทพโดยใช้เวลาเดินเพียง 2 นาที และใกล้กับโรงพยาบาลปิยะเวทโรงพยาบาลพระรามเก้า และมีพื้นที่ที่เชื่อมต่อกับถนนสายสำคัญต่างๆ เหมากับผู้ที่จะเดินทางมาเรื่องธุรกิจ ส่วนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักร้อนก็สามารถออกมาพักผ่อนที่ศูนย์การค้า แหล่งรวมความบันเทิง และร้านอาหารที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ภายรอบโรงแรมได้ เช่น โชว์ดีซี เซ็นทรัลพระรามเก้า เทอร์มินอล 21 และเอ็มควอเทียร์
สำหรับมาตรฐานบริการที่น่าสนใจของฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซเพรส เช่น “ฟรีไวไฟความเร็วสูง” ที่ครอบคลุมพื้นที่ทั่วบริเวณโรงแรม “ฟรีอาหารเช้า เอ็กซ์เพรส สตาร์ท” (Express Start™) หรือ บริการอาหารเช้าแบบ แกร็บ แอนด์ โก (Grab & Go) สำหรับการเริ่มต้นวันใหม่อย่างสมาร์ท “เตียงคุณภาพสูง” พร้อมหมอนที่มีให้เลือกทั้งแบบแข็งและแบบนิ่ม สำหรับการนอนหลับที่แสนสบาย “บริการน้ำอุ่นและน้ำเย็น” พร้อมหัวฝักบัวชนิดนวดที่มีสามฟังค์ชัน และผ้าขนหนูผืนนุ่มที่จะทำให้คุณรู้สึกสดชื่นหลังการอาบน้ำ
ข่าวที่สี่ “
นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ร่วมกับ ททท.และหน่วยงานในพื้นที่ จัดงาน “เทศกาลของดีภูเก็ต’61” Phuket Brand Phuket Best Festival 2018 ระหว่าง 29 ธันวาคม 2560-8 มกราคม 2561 รวม 11 วันต้อนรับนักท่องเที่ยวส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ จัดกิจกรรมเต็มร้อยทั้งการแสดง อาหารพื้นถิ่นในคอนเซปต์ “กินเที่ยวเฟี้ยวยกเกาะ” รวบรวมร้านอาหารที่มีชื่อเสียง สไตล์ Street Food และโรงแรม มาให้รับประทาน ตอกย้ำความเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหารจากยูเนสโกของจังหวัดภูเก็ต (Phuket City Gastronomy) ตลอดงานจะมีร้านค้าชั้นนำกว่า 100 ร้านค้า รวมตัวกันนำอาหารที่มีชื่อเสียงตามสูตรกินเที่ยวเฟี้ยวยกเกาะ อาทิ
อาหารพื้นเมืองภูเก็ต – โลบะ เกี๊ยนทอด ปอเปี๊ยะสด อาโป้ง จีโจ้ โอะเอ๋ว ส้มตำเคย โกปี๊ช๊าม หมี่หุ้นกระดูกหมู(บะกูดเต๋) ตูโบ้ เกี๋ยวโก้ยอาหารเพื่อสุขภาพ - สาหร่ายพวงองุ่น ยำผักกูด ผัดผักเหมียง สลัดผักปลอดสารพิษ สัปปะรดภูเก็ต
อาหารทะเลซีฟู้ด - หมี่หุ้นแกงปู กุ้งมังกร หอยชักตีน ปูดำผัดมะนาว หอยแมลงภู่ หอยเชลล์ท๊อปหน้าต่างๆ เผา ลูกชิ้นปลาภูเก็ต
อาหารสร้างสรรค์ – สปาเก๊ตตี้ผัดกะปิ หมูฮ้องหมั่นโถว
พิธีเปิดงานจะจัดขึ้นวันเสาร์ที่ 30 ธันวาคม 2560 เวลา 17.30-21.00 น. ณ เวทีกลางสะพานหิน ชมการแสดงจากศิลปินเด็กภูเก็ต แฟชั่นโชว์ยิ่งใหญ่อลังการนำผ้าพื้นเมืองภูเก็ตมาให้ยลความงามในชุด “สีสันอันดามัน อลังเว่อร์” โดยนางแบบนายแบบตัวน้อยกว่า 50 ชีวิต ร่วมด้วย Miss Grand Phuket 2017 น้องลูกนัทจะมาสร้างความเซอไพรท์ในช่วงพิธีเปิดยิ่งใหญ่อลังการร่วมกับพ่อเมืองภูเก็ตอีกด้วย
ส่วนคืนวันอาทิตย์ที่ 31 ธันวาคม 2560 ชมศิลปินเคลลี่ พระเอกสุดหล่อจากโทรทัศน์ช่อง 7 จะมาสร้างความสนุกสนานจนข้ามปี ร่วมนับเคาท์ดาวพร้อมกับพ่อเมืองภูเก็ต
ตลอด 11 วัน ตั้งแต่เวลา 16.00-24.00 น. จะมีการประกวดของดีเมืองภูเก็ต อาทิ นกกรงหัวจุก สัปปะรดภูเก็ต ไก่แจ้ ผักเหมียง ผักกูด สาธิต และการแสดงเกี่ยวกับนวัตกรรมการสร้างสรรค์ด้านอาหาร ลานเด็กเล่นขนาดยักษ์ การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นเมืองภูเก็ตจากชุมชนต่างๆ และความบันเทิงจากศิลปินอย่างจุใจ สอบถาม โทร. 076 224822 และ 076 216118
ข่าวที่ห้า “17-25 ธ.ค.นี้ช้อปกระจายOTOP City 2017”
ระหว่างวันที่ 17-25 ธันวาคม 2560 พบกับงาน OTOP City 2017 ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี อลังการงานธีม "ของขวัญจากภูมิปัญญา ประชารัฐ สร้างโอกาส สร้างอาชีพ สร้างรายได้" ภายในงานมี ของขวัญของฝากมาให้เลือกช้อปกว่า 20,000 รายการ 2,500 ร้านค้า พร้อมอาหารจากทั่วไทยมาเติมความหิวให้อิ่มกันได้ตลอดทุกวัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น