“รมว.วีระศักดิ์”ชงเข้ม ททท.เร่งรุกทำ5นโยบาย
จัดแถวใหม่ปริมาณ-รายได้-โลจิสติกส์-คลัสเตอร์
“วีระศักดิ์ โควสุรัตน์” รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลุยมอบภารกิจ ททท.ทำเชิงรุก 5 นโยบาย “คุมปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มรายได้-ตั้งคณะกรรมการร่วมครั้งแรกโลจิสติกส์เดินทางท่องเที่ยว-ผุด Clinic Tourism-หนุนคลัสเตอร์รัฐ 6 ภาค-เปิดหลักสูตรช็อตคอร์สผลิตคนทำงานได้จริง”
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าได้เดินทางไปมอบนโยบายการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2560 โดยขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในเชิงคุณภาพซึ่งสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศตลอดปีนี้กว่า 2.78 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนต่อผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) สูงถึง 20 % จึงต้องหันมาให้ความสำคัญการทำงานร่วมกับทุกองค์กรเชิงบูรณาการเพื่อดูแลทรัพยากรธรรมชาติทางการท่องเที่ยวอยู่อย่างยั่งยืนให้ได้มากที่สุด
ดังนั้นจึงได้ให้ร่วมกันเดินหน้า 5 นโยบายหลัก ประกอบด้วย นโยบายที่ 1 ขอให้ควบคุมดูแลปริมาณนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าพื้นที่แต่ละแห่ง (Carrying Capicity) โดยได้ขอให้คณะกรรมการ (บอร์ด) ททท.กำหนดการถ่วงดุลดัชนีชี้วัดเรื่องการเพิ่มรายได้กับปริมาณนักท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับลักษณะการเติบโต ควรจะเร่งสร้างการรับรู้และดึงความสนใจคนเข้าสู่พื้นที่ท่องเที่ยวเมืองรองและชุมชนท่องเที่ยว โดยมียุทธศาสตร์แบบค่อยเป็นค่อยไปเพื่อให้พื้นที่จัดเตรียมความพร้อมรองรับ ควรเน้นเรื่องความสุขของชุมชนด้วย
นโยบายที่ 2 ขอให้ทำงานเชิงบูรณาการด้านซัพพลาย ไซซ์ ขานรับกับรัฐบาลซึ่งล่าสุดรัฐมนตรีว่าการทั้ง 2 กระทรวง คือกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากับกระทรวงคมนาคมได้หารือกันแล้วตกลงจะตั้ง “คณะกรรมการโลจิสติกส์ด้านคมนาคมและการท่องเที่ยว” เพื่อรับรู้ข้อจำกัดของโลจิสติกส์การเดินทางบก น้ำ อากาศ แล้วหาวิธีแก้ไขให้ทันต่อสถานการณ์อนาคต
นโยบายที่ 3 ขอให้สนับสนุนการเปิด Clinic Tourism หรือหน่วยฉุกเฉินเพื่อการแก้ไขปัญหาท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ กระชับการทำงานร่วมกันของสำนักงานททท.ภายในประเทศทั้งหมด 40 แห่ง กับสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดซึ่งมีอยู่เกือบครบทุกจังหวัด ที่ผ่านมาต่างฝ่ายต่างทำงาน จากนี้ไปจะต้องร่วมมือกันให้มากขึ้น
นโยบายที่ 4 ขอให้เตรียมสนองนโยบายรัฐบาลส่งเสริมการพัฒนาประเทศใน 6 ภาค โดยใช้คลัสเตอร์เป็นหลักซึ่งแต่ละภาคจะมี 4-8 คลัสเตอร์ ในส่วนของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะให้นำเสนอผ่านช่องทางคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีมอบหมายรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ตัวอย่างเช่น คลัสเตอร์ในพื้นที่ที่มีการขนส่งทาอากาศเชื่อมโยงเข้าหากันได้ในลักษณะข้ามภาคหรือข้ามจังหวัด และพื้นที่ทางทะเลอ่าวไทย หิวหินเชื่อมกับจังหวัดภาคตะวันออก เป็นต้น
นโยบายที่ 5 ขอให้สนับสนุนการผลิตบุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในรูปแบบ Short Couse ล่าสุดนำทีมกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาหารือกับรัฐมนตรีช่วยกระทรวงศึกษาธิการเรียบร้อยแล้ว เพิ่มทางเลือกที่สามขึ้นมาให้ทุกคนสามารถเลือกได้โดยให้ใช้ความต้องการของผู้ใช้บริการเป็นตัวตั้งในการผลิตคนเข้าสู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยว แตกต่างระบบจากเดิมสถาบันการศึกษาส่วนใหญ่จะเปิดการเรียนการสอนอยู่ในกรอบ 2 ทางเท่านั้น คือ เรียนเพื่อรับปริญญาและเรียนประกาศนียบัตรวิชาชีพ ต่อไปจะเรียนเพื่อให้ได้รับรองทำงานได้จริงและทำให้มีบุคลากรเข้าสู่อาชีพอย่างสมดุลลดความเหลื่อมล้ำลงจากทุกวันนี้
จัดแถวใหม่ปริมาณ-รายได้-โลจิสติกส์-คลัสเตอร์
“วีระศักดิ์ โควสุรัตน์” รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลุยมอบภารกิจ ททท.ทำเชิงรุก 5 นโยบาย “คุมปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มรายได้-ตั้งคณะกรรมการร่วมครั้งแรกโลจิสติกส์เดินทางท่องเที่ยว-ผุด Clinic Tourism-หนุนคลัสเตอร์รัฐ 6 ภาค-เปิดหลักสูตรช็อตคอร์สผลิตคนทำงานได้จริง”
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าได้เดินทางไปมอบนโยบายการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2560 โดยขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในเชิงคุณภาพซึ่งสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศตลอดปีนี้กว่า 2.78 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนต่อผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) สูงถึง 20 % จึงต้องหันมาให้ความสำคัญการทำงานร่วมกับทุกองค์กรเชิงบูรณาการเพื่อดูแลทรัพยากรธรรมชาติทางการท่องเที่ยวอยู่อย่างยั่งยืนให้ได้มากที่สุด
ดังนั้นจึงได้ให้ร่วมกันเดินหน้า 5 นโยบายหลัก ประกอบด้วย นโยบายที่ 1 ขอให้ควบคุมดูแลปริมาณนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าพื้นที่แต่ละแห่ง (Carrying Capicity) โดยได้ขอให้คณะกรรมการ (บอร์ด) ททท.กำหนดการถ่วงดุลดัชนีชี้วัดเรื่องการเพิ่มรายได้กับปริมาณนักท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับลักษณะการเติบโต ควรจะเร่งสร้างการรับรู้และดึงความสนใจคนเข้าสู่พื้นที่ท่องเที่ยวเมืองรองและชุมชนท่องเที่ยว โดยมียุทธศาสตร์แบบค่อยเป็นค่อยไปเพื่อให้พื้นที่จัดเตรียมความพร้อมรองรับ ควรเน้นเรื่องความสุขของชุมชนด้วย
นโยบายที่ 2 ขอให้ทำงานเชิงบูรณาการด้านซัพพลาย ไซซ์ ขานรับกับรัฐบาลซึ่งล่าสุดรัฐมนตรีว่าการทั้ง 2 กระทรวง คือกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากับกระทรวงคมนาคมได้หารือกันแล้วตกลงจะตั้ง “คณะกรรมการโลจิสติกส์ด้านคมนาคมและการท่องเที่ยว” เพื่อรับรู้ข้อจำกัดของโลจิสติกส์การเดินทางบก น้ำ อากาศ แล้วหาวิธีแก้ไขให้ทันต่อสถานการณ์อนาคต
นโยบายที่ 3 ขอให้สนับสนุนการเปิด Clinic Tourism หรือหน่วยฉุกเฉินเพื่อการแก้ไขปัญหาท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ กระชับการทำงานร่วมกันของสำนักงานททท.ภายในประเทศทั้งหมด 40 แห่ง กับสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดซึ่งมีอยู่เกือบครบทุกจังหวัด ที่ผ่านมาต่างฝ่ายต่างทำงาน จากนี้ไปจะต้องร่วมมือกันให้มากขึ้น
นโยบายที่ 4 ขอให้เตรียมสนองนโยบายรัฐบาลส่งเสริมการพัฒนาประเทศใน 6 ภาค โดยใช้คลัสเตอร์เป็นหลักซึ่งแต่ละภาคจะมี 4-8 คลัสเตอร์ ในส่วนของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะให้นำเสนอผ่านช่องทางคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีมอบหมายรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ตัวอย่างเช่น คลัสเตอร์ในพื้นที่ที่มีการขนส่งทาอากาศเชื่อมโยงเข้าหากันได้ในลักษณะข้ามภาคหรือข้ามจังหวัด และพื้นที่ทางทะเลอ่าวไทย หิวหินเชื่อมกับจังหวัดภาคตะวันออก เป็นต้น
นโยบายที่ 5 ขอให้สนับสนุนการผลิตบุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในรูปแบบ Short Couse ล่าสุดนำทีมกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาหารือกับรัฐมนตรีช่วยกระทรวงศึกษาธิการเรียบร้อยแล้ว เพิ่มทางเลือกที่สามขึ้นมาให้ทุกคนสามารถเลือกได้โดยให้ใช้ความต้องการของผู้ใช้บริการเป็นตัวตั้งในการผลิตคนเข้าสู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยว แตกต่างระบบจากเดิมสถาบันการศึกษาส่วนใหญ่จะเปิดการเรียนการสอนอยู่ในกรอบ 2 ทางเท่านั้น คือ เรียนเพื่อรับปริญญาและเรียนประกาศนียบัตรวิชาชีพ ต่อไปจะเรียนเพื่อให้ได้รับรองทำงานได้จริงและทำให้มีบุคลากรเข้าสู่อาชีพอย่างสมดุลลดความเหลื่อมล้ำลงจากทุกวันนี้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น