วีระศักดิ์ โควสุรัตน์นำทีมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียนเดินหน้า6แผนใหม่-เที่ยวเชียงใหม่มุมสูง ขุนวาง-ผาตั้งขุนช่างเคี่ยน
วีระศักดิ์นำไทยกอดคอรมว.อาเซียนรุก6แผนใหม่
ผนึกกระทรวงศึกษาปฏิวัติอาชีพท่องเที่ยวทุกวัย
คิงเพาเวอร์ให้โชว์บัตรคนไทยลดทั้งปี3สนามบิน
ททท.ใช้ATF2018ขาย4ธีมใหม่ทัวร์ไทย-อาเซียน
บางจากจัดแคมเปญยิ่งสะสมยิ่งแลกฟรีตลอดปี
เที่ยวเชียงใหม่มุมสูงขุนวาง-ผาตั้ง-ขุนช่างเคี่ยน
ระวังภัยสุขภาพโรคกระดูกเสื่อมเป็นได้ทุกวัย
การบินไทยงัดทุกแผนปลดหนี้บินเพิ่มไทย-เทศ
ไทยสไมล์จัดมหกรรมแชร์เพจลุ้นรับตั๋วบินฟรี
เจ้าท่าทุบโต๊ะขึ้นค่าเรือคลองแสนแสบ27มค.
สวัสดีวันเสาร์ที่ 27 มกราคม 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen
ช่วงที่ 1 ติดตามฟัง “ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำประเทศไทยยึดเวที ASEAN TOURISM FORUM 2018 กอดคอกับรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน 10 ประเทศ ผลักดันความร่วมมือด้วย 6 แผนที่จะไปสู่ภาคปฏิบัติ เพื่อร่วมกันพลิกโฉมอาเซียนสร้าง “ความยั่งยืน-เชื่อมโยง-เสน่ห์ใหม่-ปลอดภัย-เรือสำราญ-ปลุกเทรนด์ทัวร์เยาวชนไร้พรมแดน” ใช้ท่องเที่ยวเป็นอาวุธและยาขนานใหญ่แก้ทุกปมเศรษฐกิจ และในไทยเตรียมจับมือกระทรวงศึกษาธิการสร้างมิติอาชีพท่องเที่ยวผุดหลักสูตรลัดดึงคนทุกกลุ่มทุกวัยเข้ามาเรียนให้ท้องถิ่นและเอกชนช้อปไปทำงาน
ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า การพูดคุยในเวทีการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนระหว่าง ASEAN TOURISM FORUM 2018 พุ่งเป้าหมายหลักไปสู่การทำให้เกิดภาคปฏิบัติได้ภายในปี 2561 ใน 6 เรื่อง ประกอบด้วย เรื่องที่ 1 สร้างความยั่งยืนทางการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับสมาชิกอาเซียนไปในทิศทางเดียวกัน ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคตที่อาเซียนเที่ยวกันเองภายในภูมิภาคกว่า 30 % ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก หรือคิดเป็นประมาณปีละ 120 ล้านคน
เรื่องที่ 2 หารือเพื่อกำหนดความร่วมมือพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง สอดคล้องกับทุกวันนี้อาเซียนควรก้าวเข้าสู่การเดินทางแบบไร้พรมแดนและกลายเป็นภูมิภาคเดียวกันที่จะเพิ่มแม่เหล็กขั้วใหญ่ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมเดินทาง
เรื่องที่ 3 นำเสนอเสน่ห์ใหม่อาเซียน โดยไฮไลต์เรื่องอาหารทั้งในแบบ Gastronomy & Cuisine เพราะอาหารของประเทศในกลุ่มอาเซียนได้รับความสนใจจากทั่วโลกเนื่องจากมีรากของวัฒนธรรมและศาสนา พุทธ มุสลิม ผสมผสานอยู่ในแต่ละเมนู แต่ละประเทศก็ต่างกันอย่างกัน แตกต่างจากอาหารทางฝั่งตะวันตก จะเป็นรูปแบบคือเริ่มจากซุปต่างๆ ตามด้วยจานหลักเป็นเนื้อสัตว์และของหวาน ไม่เหมือนของอาเซียนมีทั้ง ญี่ปุ่น จีน ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย และอื่น ๆ นำมาซึ่งกระแสใหม่ในเรื่องการกินตามเรื่องราวที่มีอยู่ในอาหารแต่ละจานคือ Gastronomy Tourism
นอกจากนี้ยังสามารถผนวกวัตถุดิบอาหารไทยและอาเซียนเพิ่มช่องทางการส่งออกสู่ตลาดทั่วโลกได้อีกทาง ในการเผยแพร่อาหารถิ่น ทำให้กลายเป็น “เมนูแห่งชาติ” และความถนัดของชาวอาเซียนนั่นคือส่งออกทั้งวัตถุดิบอาหารและผลิตเป็นแพกเกจสำเร็จรูปพร้อมรับประเทศ โดยเฉพาะคนไทยเก่งในเรื่องเหล่าอยู่แล้ว
เรื่องที่ 4 ความร่วมมือกันดูแลมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางอย่างสบายใจในการท่องเที่ยวต่อเนื่องไปยังแต่ละประเทศ
เรื่องที่ 5 เจรจาเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเรือสำราญในลักษณะเรือ Cruise ขนาดใหญ่แต่ละลำเทียบเท่ากับตึกเกินกว่า 20 ชั้นขึ้นไป เทรนด์ใหม่มีนักเดินทางทุกกลุ่มวัยภาพลักษณ์นักท่องเที่ยวเรือสำราญต่างจากสมัยก่อนมากที่มีแต่ผู้สูงวัยหรือคนเกษียณแล้ว ดังนั้นอาเซียนต้องหันมาสนใจในเรื่องการดูแลนักท่องเที่ยวเรือสำราญ จะต้องร่วมมือกันทำอย่างไรเพิ่มรายได้จากกำลังซื้อกลุ่มนี้ให้ได้มากที่สุด ถือเป็นกลุ่มคุณภาพอย่างแท้จริง
เรื่องที่ 6 ผลักดันการท่องเที่ยวเยาวชน แนวโน้มคนกลุ่มนี้ในอาเซียนเป็นความหวังกำลังสำคัญของประชากรอาเซียนโดยแท้ เนื่องจากพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่จะไม่มีเส้นแบ่งทางด้านเชื้อชาติและภษา แต่จะออกเดินทางท่องเที่ยวโดยพุ่งเป้าไปยังเรื่องความสนใจทางความคิด โอกาส และแผนการเรียนรู้ โดยเด็กแต่ละชาติสามารถปรับตัวเข้าหากันได้ง่ายด้วยการใช้ภาษาอังกฤษพูดคุยกันอย่างคล่องแคล่ว จึงถึงเวลาที่ระดับรัฐมนตรีท่องเที่ยวควรต้องจับมือกันพัฒนาการท่องเที่ยวเยาวชนของอาเซียนให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้นเพื่ออนาคตที่แข็งแรงของภูมิภาคนี้
จากเวทีการหารือร่วมกันเพื่อเดินหน้าอาเซียนในปัจจุบันและอนาคตจะเป็นอีกเวทีการเปิดมิติใหม่ของประเทศไทยเพื่อทำการ “พลิกโมเดล” หารายได้ทำให้การท่องเที่ยวกระจายรายได้เข้าถึงท้องถิ่นโดยตรงได้อย่างแท้จริง
ดร.วีระศักดิ์กล่าวว่าหลังเสร็จสิ้นภารกิจจากงาน ASEAN TOURISM FORUM : ATF 2018 แล้ว จะรีบทำนโยบายเชิงรุกด้านความร่วมมือกับกระทรวงอื่น ๆ ในประเทศ ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้จะทำข้อตกลงความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ สร้างมิติใหม่นำสถาบันองค์กรการศึกษาภาครัฐและเอกชนเข้ามาหารือกัน เพื่อจัดทำโร้ดแมฟหลักสูตรแนวใหม่เปิดการเรียนการสอนอาชีพท่องเที่ยวแต่ละสาขาเรียนลัดจบเร็วทำงานได้ทันทีตามการเติบโตของอุตสาหกรรม หัวใจสำคัญคือจะเปิดโอกาสให้คนทุกกลุ่มวัย ทุกอาชีพ เข้ามาเรียนหลักสูตรลัดแล้วสามารถทำงานได้ โดยสามารถเปลี่ยนจากอาชีพเดิมเข้าสู่อาชีพในวงการท่องเที่ยวได้ วิธีการเมื่อผลิตเรียบร้อยแล้วจะจัดเวทีให้องค์กรท้องถิ่น และเอกชนทุกสาขาเข้ามาช้อปหรือเลือกคนเหล่านี้ไปทำงานด้วยได้ทันที
การลงนามความร่วมมือดังกล่าวจะทำต่อจากการลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับกระทรวงคมนาคมเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ตอนนี้สามารถบูรณาการท่องเที่ยวกับเส้นทางคมนาคมขนส่ง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวให้แก่นักเดินทางทั้งชาวไทยและต่างชาติ เพราะไม่ว่าจะเป็นบริการขนส่งทางอากาศ ทางบก ทางน้ำ ตอนนี้เรียกผู้ใช้บริการว่าเป็นนักท่องเที่ยวหมดแล้ว
ดร.วีระศักดิ์กล่าวทิ้งทายว่า นับจากนี้เป็นต้นไปท่องเที่ยวไทยจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะปลดล็อกปัญหาประเทศได้ครอบคลุมทั้งทางด้านการลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้ การสร้างงาน สร้างอาชีพ และเกิดการพลิกโฉมตลาดในเชิงสร้างสรรค์ ทำให้เปลี่ยนมุมชีวิตใหม่ให้ไทยเข้มแข็งทั้งในเชิงสังคม เศรษฐกิจ และชีวิตความเป็นอยู่ต่อไป
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ให้โชว์บัตรคนไทย3สนามบินลดทั้งปี61
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า ตลอดปี 2561 จะให้ความสำคัญกับตลาดคนไทยในการเข้ามาใช้บริการรานสาขาของคิง เพาเวอร์ ซึ่งเป็นมากกว่าดิวตี้ฟรี มีไลฟ์สไตล์ให้เลือกแบบครบวงจร รวมทั้งจะเน้นเพิ่มการจำหน่ายสินค้าแบรนด์ไทยเพิ่มมากขึ้น เรื่อยไปจนถึงการจัดแคมเปญแต่ละเดือนให้สอดคล้องกับพฤติกรรมความต้องการของคนไทยรุ่นใหม่ ๆ ควบคู่กันไปด้วย
เนื่องจากเล็งเห็นถึงความสำคัญของการ Thailand First คือประเทศไทยต้องมาก่อนในการร่วมสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลยกระดับสินค้าชุมชนก้าวไกลไปสู่ตลาดโลก ด้วยการนำมาวางอยู่ตามร้านสาขาของดิวตี้ฟรี จากนั้นก็ช่วยกันสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในทุกช่องทาง รวมทั้งออนไลน์ของคิง เพาเวอร์ ซึ่งร่วมมือกับทางตลาดจีน อย่างความแข็งแกร่งต่อเนื่องมาจนถึงขณะนี้
สำหรับสิ่งที่จะช่วยคนไทยเดินทางอย่างสะดวกสบายแบบไม่สิ้นสุด ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง หมดเขต 31 ธันวาคม 2561 ทางคิง เพาเวอร์ จึงได้ทำแคมเปญมอบส่วนลด 10% ให้แก่นักเดินทางคนไทยทุกคน เพียงแสดงบัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทางไทยที่ร้านอาหารที่ร่วมรายการทั้ง 3 ท่าอากาศยาน คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง และยานภูเก็ต
ข่าวที่ 2 “ททท.ใช้ ATF2018บูมทัวร์4ธีมใหม่ไทย-อาเซียน”
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าได้ใช้เวที A SEAN Tourism Forum : ATF 2018 เปิดตัวตลาดแนวใหม่ Open to the New Shades ปลุกกระแสการท่องเที่ยวในเรื่องความหลากหลายของโปรดักซ์ประเทศไทย เป็นเวทีที่ 2 ต่อเนื่องจากครั้งแรกเปิดตัวในงาน World Travel Mart -WTM 2017 ณ กรุงลอนดอน อังกฤษ ครั้งที่ 3 จะไปเปิดนงานแกะสลักหิมะน้ำแข็งที่เมือง ซับโปโร ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 9 กุมภาพันธ์ นี้ เนื่องจากญี่เป็นตลาดที่มาท่องเที่ยวเมืองไทยเป็นอันดับต้น ๆ ปี 2560 เข้ามากว่า 1.6 ล้านคน อีกทั้งยังนิยมใช้ดิจิตัลเป็นช่องทางและเครื่องมือการสื่อสารระหว่างการท่องเที่ยวด้วย
ดังนั้น ททท.จึงใช้โอกาสการเป็นเจ้าภาพจัด ATF 2018 สื่อถึงท่าทีของตลาดที่ประเทศไทยจะทำร่วมกันกับสมาชิกอาเซียนภายใต้โครงการ Experience Thailand and More เชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวกับประเทศเพื่อนบ้านด้วยการกำหนดธีมให้สอดคล้องกับการท่องเที่ยว 4 เส้นทาง ดังนี้
1.ภาคเหนือ ชื่อเส้นทาง ASEAN Ancent เชื่อมเส้นทางระยะทาง 1,025 กิโลเมตร จากเชียงราย สู่ลำพูน และใช้เชียงใหม่เป็นศูนย์กลางต่อไปยังเมียนมาอีก 2 เมือง คือ ปะกัน มัณฑเลย์ ซึ่งมีอารยธรรมที่ดีงามทางด้านวัฒนธรรม
2.ภาคใต้ ASEAN Paranakan ดินแดนธรรมชาติระยะทาง 728 กิโลเมตร จะเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวฝั่งทะเลอันดามัน ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล เข้าสู่มาเลเซีย 2 เมือง คือ ปีนัง ลังกาวี
3.ภาคอีสาน ASEAN Mekong Active Adventure ระยะทาง 867 กิโลเมตร จะใช้บุรีรัมย์เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงกับสู่ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ไปยัง แขวงจำปาสัก (สปป.ลาว) และเข้ากัมพูชา 2 เมือง ได้แก่ สตุงเตร็ง (Stung Treng) และ เมืองKratie ในกรุงพนมเปญ ซึ่งเป็นเส้นทางมีความงดงามอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ป่าเขา อยู่อย่างหลากหลายมากมาย
4.ASEAN Worldclass ใช้ธีม Culinary& Heritage City เชื่อมท่องเที่ยว 3 ประเทศ ที่มีความโดดเด่นทางด้านวัฒนธรรม อาหารถิ่น มิชลิน ประเทศไทย ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา กรุงเทพ สมุทรสงคราม ผ่านเข้า กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย มะละกา สิงคโปร์ ซึ่งสมาชิกทั้งสองประเทศแข็งแรงและโดดเด่นเรื่องอาหารการกินเป็นอย่างดี
นายธเนศวร์กล่าวว่าประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะทำให้อาเซียนเป็นเวทีที่เปิดใจ Open your heard ไม่ใช่คู่แข่งเป็นสนามแห่งมิตรภาพความเป็นหุ้นส่วนระหว่างกัน เนื่องจากปี 2560 คนอาเซียนมาเที่ยวไทย 9.8 ล้านคน และนักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางมาเที่ยวอาเซียนมากถึง 120.1 ล้านคน
สำหรับภาพรวมทางด้าน "รายได้" จากนักท่องเที่ยวตลาดอาเซียนทั้งหมด 9 ประเทศ ปี 2560 เข้ามาใช้จ่ายเงินในไทยรวม 242,357.40 ล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยวรวม 9.8 ล้านคน
นักท่องเที่ยวอาเซียนตลาดดาวรุ่งมาแรงของไทยคือกลุ่มอาเซียนใหม่ CLMV สร้างมูลค่ารวม 102,361.74 ล้านบาท เท่ากับมีส่วนแบ่งการใช้เงินท่องเที่ยวในไทยเกือบ 50 % จากจำนวนนักท่องเที่ยวรวมกัน 3,419,426 ล้านคน ขณะที่กลุ่มประเทศอาเซียนเก่าอีก 5 ประเทศ ได้แก่ บรูไน สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ใช้เงินเที่ยวเมืองไทยรวมกัน 139,996 ล้านบาท จากนักท่องเที่ยวรวม 4,771,396 คน
ข่าวที่ 3 “บางจากกระตุ้นยิ่งสะสมยิ่งแลกฟรีตลอดปีจอ”
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ตั้งแต่วันนี้ 31 ธ.ค. 2561 สมาชิกบัตรบางจากยิ่งสะสมคะแนนมาก ยิ่งแลกได้มากสมาชิกบัตรบางจากด้วยการเริ่มต้นเพียง 400 คะแนน เท่านั้น
โดยการเติมแก๊สโซฮอล์ 1 ลิตร รับ 1 คะแนน เติมดีเซล 1 ลิตร รับ 1 คะแนน สามารถที่จะใช้คะแนนแลกเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า กระเป๋าเดินทาง อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย
วิธีแลกของมีค่าต่าง ๆ ที่จัดเตรียมไว้ก็ทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่คลิกแลกคะแนน ได้ที่ http://bcprewards.bangchakcrm.com/th/ โดยมีเงื่อนไขการแลกของรางวัลตามขั้นตอนดังนี้
1.ติดต่อสอบถามการตัดคะแนน โทร. Call Center 1651 กด 4
2.ของรางวัลไม่สามารถแลกหรือเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
3.การจัดส่งสินค้าให้ตามที่อยู่สมาชิกใช้เวลา 5-7 วันทำการ สำหรับ กรุงเทพฯ และปริมณฑล และ 7-10 วันทำการ สำหรับจังหวัดอื่นๆ(นับจากวันที่หักคะแนนสะสมของสมาชิก)
4.คะแนนในบัตรสมาชิกจะถูกตัด ในวันทำการถัดไป หลังจากที่มีการติดต่อแลกของรางวัล
5.สิทธิ์การแลกคะแนนสำหรับเจ้าของบัตรสมาชิก ที่มีชื่อตรงกับในระบบเท่านั้น
ช่วงที่ 2 ขึ้นดอยในแดนล้านนาไปสัมผัสการท่องเที่ยว “เชียงใหม่ในมุมสูงเสียดดอย” ตลอดหน้าหนาวปีนี้ดอยอินทนนท์ทุกตารางนิ้วมีเรื่องราวความสุขจาก “ขุนวางสู่ผาตั้ง” ไปจนถึง “ขุนช่างเคี่ยน” แต่ละสถานีเกษตรหลวงแดนเหนือ คือแหล่งบ่มเพาะความงามอันอลังการของทุ่งดอกนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระไทยบนดอย ช่วงมกราคม-กุมภาพันธ์ นี้ นักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติมุ่งหน้าขึ้นดอยไปเก็บภาพอุโมงค์ดอกไม้กันอย่างอุ่นหนาฝาคั่งท่ามกลางอากาศเย็นสบาย ส่วนเรื่องสุขภาพก็ต้องย้ำกันถึงการป้องกันโรคข้อเสื่อมที่เกิดได้ทุกเพศทุกวัย และเกาะติดข่าว “การบินไทย” ออกตัวแรงทุกเรื่องตั้งแต่ต้นปีเพื่อจะปลดหนี้หลายพันล้านด้วยการพลิกการตลาด เปิดจุดบินเพิ่มทั้งในประเทศและทั่วโลก 4 ทวีป ทางด้านไทยสไมล์เน้นทำโปรเจ็กต์เพื่อสังคม ร่วมแชร์กิจกรรมลุ้นรับตั๋วฟรีในประเทศ ส่วนกรมเจ้าท่าทุบโต๊ะไปเรียบร้อยขึ้นค่าเรือโดยสารคลองแสนแสบ
@เที่ยวเชียงใหม่ในมุมสูงขุนวาง-ดอยผาตั้ง เชียงใหม่
หลังจากประเทศไทยเลือก “เชียงใหม่” เป็นเมืองต้อนรับแขกเมืองจากทั่วโลกในงาน ASEAN TOURISM FORUM 2018 แล้ว ก็เลยถือโอกาสนำสถานที่ “เที่ยวมุมสูง” ตามดอยต่าง ๆ มาแนะนำชวนไปท่องเที่ยวกัน อากาศตอนนี้เย็นสบาย ๆ
ช่วงฤดูหนาวเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ เริ่มต้นที่ “ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง)” ต.แม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ ตั้งอยู่ในวงล้อมของแนวเทือกเขาอินทนนท์ ห่างจากถนนสายหลักลึกเข้าไปราว 16 กม.ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) นับได้ว่าเป็นแหล่งปลูกนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระดอยมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ตอนนี้สองข้างทางบนถนนลาดยาวให้เดินแวะชื่นชมและสัมผัสความงดงามแวะบันทึกภาพเป็นระยะ ๆ ตอนนี้พากันออกดอกสีชมพูสว่างไสวเต็มต้น ขับให้ดอยขุนวางกลายเป็นสีชมพูไปทั้งดอย
การเดินทางมาเที่ยวควรใช้พาหนะส่วนตัว หรือเหมารถจากปากทางของดอยอินทนนท์จะสะดวกและเที่ยวได้อย่างมีความสุข บริเวณที่ดอกนางพญาเสือโคร่งจะชูช่อบานสะพรั่งหนาแน่น แถมยังมีไฮไลต์ตรง “ลานผาแง่ม” ซึ่งกลายเป็นแลนด์มาร์กของนักท่องเที่ยวแฟนคลับละครดังรากนครา จะมีสถูปจำลองของเจ้าแม้นเมืองในละครไว้ให้ชมด้วย
ภายในบริเวณมีแปลงไม้ผลเมืองหนาวให้เดินชมแปลงทดลองการเกษตรทั้ง สาลี่ พลัม ท้อ แนคตารีน หรือสตรอว์เบอร์รี่ จุดที่น่าแวะดูก็มี แปลงไม้ผลเมืองหนาว แปลงกาแฟ โรงกะเทาะเปลือกกาแฟ และแปลงทดสอบพันธุ์แมคคาเดเมีย
ลงจากศูนย์วิจัยเกษตรหลวงขุนวาง สามารถแวะ “สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์” ซึ่งมีบริการ ร้านอาหารโครงการหลวงอินทนนท์ ไฮไลต์จะนำวัตถุดิบซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่คือปลาเรนโบว์เทราท์กับสเตอเจี้ยน และผักเมืองหนาวปลอดสาร มาปรุงเป็นเมนู อาทิ ต้มยำปลาเทร้า ปลาสเตอเจี้ยน หรือจะทอด ราดน้ำปลา รสชาติอร่อย ผักก็มีชาโยเต้หรือผักมะระหวานผัดน้ำมัน กระหล่ำผัดน้ำปลา เห็ดหอมทอดกรอบ หรือจะเป็นลาบเป็ดกินกับผักเมืองหนาว สำหรับเครื่องดื่มจะเน้นขายน้ำผลไม้ที่ปลูกบนดอยอินทนนท์ สนนราคาอาหารแต่ละเมนู ไม่แพงอย่างที่คิดเริ่มต่ำกว่าหลัก 100 บาท ไปจนถึงสูงสุดคือหม้อไฟต้มยำปลาเทร้าท์ ปลาสเตอเจี้ยน หม้อละ 350 บาท นอกจากนี้ยังมีของหวานทำจากผลไม้ อย่าง พุดดิ้งหน้ามะม่วง หรือหน้ากล้วยต่าง ๆ เป็นอาหารถิ่นบนดอยอร่อยไปอีกแบบ
ระหว่างทางผ่านเข้าระหว่างอำเภอแม่วางกับจอมทอง ลองแวะเข้า “หมู่บ้านแม่กลางหลวง” ขับรถขึ้นดอยสูงชมทิวทัศน์มุมสูงกลางหุบเขามีท้องนาขั้นบันไดตามไหล่เขาสบายตา จุดหมายปลายทางจะพาไปสำรวจ “โฮมสเตย์-Giant Bamboo Hut” บ้านไม้ไผ่ขนาดยักษ์ของชาวเขาหนุ่มชาวปะกากะยอ “ไกรสร เสาวคนธ์” ที่พลิกชีวิตหันมาเอาดีในการสร้างบ้านไม้ไผ่ออกแบบเป็นรูปลักษณะคล้ายเรือขนาด 4 ชั้น ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใกล้ธารน้ำตก ห้อมล้อมด้วยแปลงพืชผักเมืองหนาวและดอกไม้พืชเศรษฐกิจ เพิ่งจะเปิดบริการได้เพียง 4 เดือน แต่ก็มีครอบครัวคนรุ่นใหม่เข้าไปใช้บริการ ด้วยสนนราคาห้องพัก 1,500 บาทต่อคนต่อคืน รวมห้องพัก อาหารวันละ 2 มื้อ แต่ถ้าไปกลุ่มละเกิน 3 คนขึ้นไป แต่ไม่เกิน 8 คน ก็จะได้ส่วนลดเหลือเพียง 1,200 บาทต่อคนต่อคืน
ภายในบ้านพักชั้นใต้ดินจะเป็นห้องครัวสะอาดตา ชั้น 1 เป็นล็อบบี้นั่งเล่นแบบเปิดโล่ง ส่วนชั้น 3-4 เป็นห้องพัก พักได้ห้องละ 4 คน ไกรสรบอกว่าใครที่จะมาพักโฮมสเตย์แห่งนี้ต้องรักธรรมชาติ เพราะเมื่อเข้ามาพักแล้วจะได้อยู่อย่างเป็นส่วนตัว ตามกฎจะให้แบตเตอรี่นักท่องเที่ยวไว้ใช้ 1 ลูก แต่ต้องบริหารจัดการเองเพื่อให้มีไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอ ถ้าใช้ไม่เป็นแบตหมดก่อนก็จะไม่ให้เพิ่มอีก จากประสบการณ์ไกรสรบอกว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะบริหารจัดการใช้ไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี แตกต่างจากคนไทยที่ยังไม่ค่อยรู้จักประหยัดสักเท่าไร
ส่วนกลางคืนบนหุบเขาแห่งนี้เงียบสงบ มืดสนิท จึงสามารถนอนดูดาวระยับเต็มท้องฟ้า และไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในหุบเขาเป็นชาวเขาเผ่าม้ง ปะกากะยอ ส่วนใหญ่เป็นพี่น้องกัน ช่วยกันทำมาหากินและเข้าใจเรื่องการดูแลช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นรายได้เป็นอาชีพเสริมหล่อเลี้ยงชีวิตคนบนดอยสูง ซึ่งตามปกติจะมีอาชีพหลักทำนา ปลูกพืชเมืองหนาวไว้กินหรือบางส่วนเหลือก็นำไปขาย อยู่กันอย่างพอเพียงมีความสุข
จากนั้นสามารถลงจากดอยมาลองพักค้างคืนที่ “นอกชานมีนา” อำเภอจอมทอง เพิ่งเปิดได้ไม่ถึง 2 เดือน ที่คนในชุมชนแห่งนี้ได้นำท้องนามาออกแบบสร้างเป็นบ้านพัก เก๋ เรียบหรู มีสไตล์ พร้อมลานกางเต็นท์สัมผัสบรรยากาศท้องทุ่ง โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ใช้ได้เลยทีเดียว
เช้าวันที่สองก็มุ่งหน้าขึ้น “พระตำหนักดอยผาตั้ง” ตรงหน่วยพิทักษ์ดอยผาตั้ง ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มีพระตำหนักบ้านไม้หลังใหญ่ชั้นเดียวเป็นเอกลักษณ์สร้างในลักษณะทรงชาเลต์รายล้อมด้วยสวนจัดเรียบง่าย เป็นเรือนประทับแปรพระราชฐานและทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินมาทรงพัฒนางานบนดอยอินทนนท์และพื้นที่ใกล้เคียง
ปิดท้ายขอแนะนำให้ไปยัง “ขุนช่างเคี่ยน” หรือสถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้นทางเดียวกันกับที่จะพระธาตุดอยสุเทพ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ บ้านม้งดอยปุย เป็นแหล่งวิจัยเมล็ดพันธุ์กาแฟ ของคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และเป็นอีกแห่งที่มีดอกนางพญาเสือโคร่งงดงามมาก ช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ยังคงออกดอกสีชมพูสะพรั่ง
เป็นทริปเที่ยวเชียงใหม่ในมุมสูงอย่างมีความสุข และได้สัมผัสวิถีชุมชนซึ่งมีความกระตือรือร้นตื่นตัวให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี
สนใจไปท่องเที่ยวมุมสูงในเชียงใหม่ สอบถามได้ที่ เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย 1672
@‘กระดูกเสื่อม’ โรคที่เกิดได้กับทุกวัย
หลายคนคิดว่าโรคกระดูกเสื่อมมักจะเกิดกับผู้สูงอายุเท่านั้น แต่จากกรณีข่าวล่าสุดที่มีศิลปินหนุ่ม ป่วยด้วย “โรคกระดูกเสื่อม” ก็อาจทำให้หลายคนเข้าใจได้แล้วว่าโรคนี้สามารถเกิดได้กับคนทุกเพศและทุกวัย ไม่เว้นแม้วัยรุ่นหนุ่มสาว
นพ.ประสงค์ โอนพรัตน์พิบูลย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญกลุ่มงานออร์โธปิดิกส์ โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา แนะนำว่า หากพบว่าตนเองเป็นโรคกระดูกเสื่อม สิ่งแรกที่ต้องทำคือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เริ่มจากการเดิน นั่งที่ถูกต้อง คือนั่งตัวตรงและนั่งเก้าอี้ที่มีพนักพิง ไม่ยกของหนักมากเกินไป ไม่ก้มเงยบ่อย และควรยืดเส้นยืดสายเพื่อบริหารกล้ามเนื้อบ้าง
สำหรับสาวๆ ที่สะพายกระเป๋าหนัก หรือหิ้วของหนักข้างใดข้างหนึ่งต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้เกิดการกดทับเส้นประสาท บริเวณสะบัก ทำให้กล้ามเนื้อมีอาการอักเสบ หรืออาจมีการชาของเส้นประสาท บริเวณแผ่นหลังได้ จึงไม่ควรสะพายกระเป๋าข้างใดข้างหนึ่งเป็นเวลานาน หากมีอาการปวดต้นคอ หรือชาปลายนิ้วมือ ควรพบแพทย์โดยด่วน
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “บินไทยงัดทุกแผนปลดหนี้เพิ่มบินไทย-ทั่วโลก”
นายวิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าฝ่ายบริหารการบินไทยนำโดยนางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่และทีมงานฝ่ายการพาณิชย์ได้ร่วมใจกันออกตัวแรงตั้งแต่ต้นปี 2561 เดินหน้ากลยุทธ์ผู้นำสายการบินไทยแลนด์ 4.0 อย่างเข้มข้นในเชิงสื่อสารการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ผ่านสื่อทุกช่องทาง เพื่อโหมจุดขายในเส้นทางบินทั้งหมดทั่วโลกครอบคลุมกว่า 80 จุด โดยเฉพาะตลอดปี 2561 จะหันมาเน้นให้น้ำหนักกับการกลับมาเป็นผู้นำเส้นทางบินภายประเทศไทยด้วยยุทธศาสตร์ THAILAND FIRST ไฮไลต์ภายในช่วงครึ่งปีแรก 2561 การบินไทยจะพัฒนาช่องทางบริการสำรองตั๋วโดยสารแบบครบวงจรทางโทรศัพท์มือถือหรือ Mobile Smartphone Application เพื่อให้เกิดการเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ กระตุ้นกลุ่มผู้โดยสารชั้นธุรกิจซื้อตั๋วโดยสารผ่านออนไลน์มากขึ้น จากปัจจุบันกลุ่มหลักจะซื้อตั๋วชั้นประหยัด โดยภาพรวมการตลาดออนไลน์ทำเพื่อรองรับตลาดยุคใหม่ตามนโยบายรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มุ่งให้ทุกภาคส่วนพัฒนาองค์กรเข้าสู่ไทยแลนด์ 4.0 โดยเร็ว
การบินไทยได้ทำแคมเปญกระตุ้นการเดินทางต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2560 เพื่อช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชนและเมืองท่องเที่ยวรอง จากตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าสู่ประเทศไทยรวมกว่า 35 ล้านคน และคนไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศปีละเกือบ 150 ล้านคนครั้ง รวมทั้งเร่งออกตัวแรงตั้งแต่เริ่มเปิดศักราชเดือนมกราคม 2561 นำร่องทำ แคมเปญแรก “ไมล์ปันสุข” กระตุ้นสมาชิกรอยัล ออร์คิด พลัส (ROP) ร่วมบริจาคไมล์ที่อยู่ในบัตรสมาชิกที่จะถูกแปลงเป็นเงินเพื่อสมทบทุนใช้ในการจัดหาครุภัณฑ์ทางการแพทย์ อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา โรงพยาบาลศิริราช ร่วมบริจาคได้ทางเว็บไซต์ www.thaiairways.com/rop ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 กรกฎาคม 2561
แคมเปญที่ 2 ทุ่มทุนผลิตภาพยนตร์โฆษณา The New Explorer #สบายต่างกัน "บินกับนาย" โดยเลือก “นาย ณภัทร เสียงสมบุญ-น้องนาย” นักแสดงหนุ่มเป็นตัวแทนนักเดินทางของคนรุ่นใหม่ มาสร้างภาพลักษณ์ใหม่อธิบายถึงจุดเด่นและดีของการบินไทยที่ล้ำสมัย ควบคู่การสร้างกระแสทำให้แบรนด์การบินไทยอยู่ในใจกลุ่มผู้โดยสารวัยรุ่นยุคใหม่ ซึ่งมีความสะดวกสบายทั้งฝูงบิน สิ่งอำนวยความสะดวก อาหารและเครื่องดื่ม เสน่ห์วิถีไทย โดยมีรางวัลระดับโลกการันตีจากสกายแทร็กซ์ ประจำปี 2560 ได้แก่ รางวัลอันดับ 1 ถึง 3 รางวัลด้วยกัน ได้แก่ สายการบินที่ให้บริการชั้นประหยัดยอดเยี่ยมของโลก สายการบินที่ให้บริการสปาเลาจน์ยอดเยี่ยมของโลก ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 และสายการบินที่ให้บริการอาหารชั้นประหยัดยอดเยี่ยม
แคมเปญที่ 3 จัดกิจกรรม “รักคุณเท่าฟ้า” การขายตั๋วโดยสารโปรโมชั่นพิเศษช่วงปลายเดือนมีนาคม 2561 จะจัดทั้งในกรุงเทพฯ ที่เซ็นทรัล เวิลด์ และต่างจังหวัด ไฮไลต์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ขอนแก่นซึ่งเป็นจังหวัดศูนย์กลางการเดินทางสูงเป็นอันดับต้น ๆ
ส่วนกลยุทธ์เชิงรุกการขยายเส้นทางบินใหม่สนองนโยบายรัฐบาลกระจายรายได้สู่ชุมชนและเมืองท่องเที่ยวรอง การบินไทยเริ่มโปรโมตการขายในโปรแกรมทัวร์เอื้องหลวง เริ่มจากเชียงใหม่ทำเส้นทางเชื่อมโยงเข้าเมืองรอง จังหวัดลำพูน ลำปาง กระตุ้นชาวต่างชาติเข้าไปยังเมืองดังกล่าว รวมทั้งเส้นทางบินสู่ภาคใต้ ภาคอีสาน และช่วงตารางบินฤดูร้อน จะเริ่มกลับไปเปิดเส้นทางบิน ไป-กลับ กรุงเทพฯ-แม่ฮ่องสอน สัปดาห์ละ 3 เที่ยว โดยจะใช้วิธีสื่อสารตลาดการขายทั้งตั๋วโดยสารและแพกเกจท่องเที่ยวผ่านออนไลน์เอื้องหลวงและเว็บไซต์ www.thaiairways.com
สำหรับปี 2561 การบินไทยตั้งเป้าอัตราการเติบโตทางรายได้เพิ่มเป็น 2 หลัก โดยจะเน้นเพิ่มทั้งคุณภาพและอัตราบรรทุกเฉลี่ยผู้โดยสาร ทั้งการเปิดเส้นทางบินใหม่และเพิ่มความถี่เที่ยวบินในประเทศที่มีความเข้มแข็งในแถบ อาเซียน เอเชีย ยุโรป ทวีปไกลในอเมริกา และกำลังจะเปิดจุดบินตามคอนเซ็ปต์ใหม่เส้นทางระหว่างประเทศเข้าสู่เมืองรองคือ ไป-กลับ เชียงใหม่-เทเป (ไต้หวัน) ช่วงครึ่งหลังปีนี้โดยไทย สไมล์
นายวิวัฒน์กล่าวว่าวางกลยุทธ์เชิงรุกตลอดไตรมาสแรกปีนี้ มกราคม-มีนาคม จะเพิ่มเส้นทางบิน ไป-กลับ จากไทยและต่างประเทศทั่วโลก เริ่มเทศกาลตรุษจีนเดือนกุมภาพันธ์ 2561 เตรียมทำเที่ยวบิน Extra Flight ใช้ฝูงบินขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อนำนักท่องเที่ยวจากมณฑลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนเข้ามายังไทยรวมกว่า 14,000 คน ควบคู่เพิ่มเที่ยวบินในหลายจุด เช่น กรุงเทพฯ-โซล ช่วงวาเลนไทน์ จากวันละ 3 เป็น 5 เที่ยว กรุงเทพฯ-ปูซาน เพิ่ม 5 เป็น 7 เที่ยว
ส่วนไตรมาส 2 ต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ จะเพิ่มความถี่สนามบินนาริตะ ญี่ปุ่น อีก 1 เที่ยว เพราะการบินไทยเพิ่งได้รับสิทธิการบินเพิ่มเรียบร้อยแล้ว จะบินเพิ่มตั้งแต่ 25 มีนาคม นี้เป็นต้นไป ปัจจุบันการบินไทยมีบริการบินเข้าสนามบินหลัก ๆ ในญี่ปุ่น ได้แก่ นาริตะ วันละ 3 จะเพิ่มเป็น 4 เที่ยว ฮาเนดะจาก 2 เป็น 3 เที่ยว ทำให้ทุกวันนี้มีบินเข้าเมืองโตเกียววันละ 6 เที่ยว กำลังจะเพิ่มเป็นวันละ 7 เที่ยว เพราะนักเดินทางกลุ่มคุณภาพเลือกใช้การบินไทยมากขึ้น
รวมทั้งได้สิทธิการบินจากอินเดียให้ประเทศไทยเพิ่มเที่ยวบินประจำได้ 6,100 ที่นั่ง วันที่ 24 มกราคม นี้ ทางบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด จะประชุมสายการบินของไทยทั้งหมดเพื่อแบ่งโควต้าและช่วงเวลาบินเข้าอินเดีย ซึ่งการบินไทยตั้งเป้าจะขอบินเมืองใหญ่ เช่น เดลี บอมเบ บังกาลอ ไฮเดอราบัด เชนไน อย่างน้อยเมืองละ 2 เที่ยว/วัน โดยจะใช้ทั้งการบินไทยและไทยสไมล์ให้สอดคล้องกับต้นทุนและตลาดผู้โดยสาร อีกทั้งกำลังศึกษาจุดบินสู่อเมริกาทั้งฝั่งอีสต์และเวสต์โคสต์ มหานครนิวยอร์ก ซึ่งจะสรุปได้ภายในปีนี้
ทั้งนี้การบินไทยจะเร่งเพิ่มความถี่เที่ยวบินต่างประเทศแต่ละเส้นทางให้มีบริการวันละ 1 เที่ยว ตัวอย่าง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-สิงคโปร์ ขณะนี้มีถึงวันละ 7 เที่ยว ส่วนยุโรปจุดบินเพิ่งเปิดใหม่ กรุงเทพฯ-เวียนนา (ออสเตรีย) สัปดาห์ละ 4 เที่ยว จะเพิ่มเป็น 5-6-7 เที่ยว ซึ่งมีผู้โดยสารทั้งขาเข้าและออกดีมาก จากนั้นขยายไป แมดริด (สเปน) มอสโก รัสเซีย กำลังจะเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก
ข่าวที่สอง “แชร์ทุกจุดที่บินกับไทยสไมล์ลุ้นรับตั๋วฟรี”
สายการบินไทยสมายล์ ชวนแฟนเพจร่วมกันแชร์เรื่องราวดีๆ ในกิจกรรม ‘แชร์รอยยิ้ม เมื่ออวัยวะไปถึง’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “ไทยสมายล์ให้รอยยิ้มช่วยชีวิต Smile for Life” พร้อมลุ้นรับตั๋วเครื่องบินจากไทยสมายล์ฟรี
ด้วยวิธีง่ายๆ เพียงคลิกกดแชร์โพสต์กิจกรรมที่บรรยายความรู้สึกของผู้ที่ได้รับการผ่าตัดเพื่อปลูกถ่ายอวัยวะที่คุณประทับใจไปที่หน้า Wall ของคุณ พร้อมตั้งค่าเป็น Public (สาธารณะ) จากนั้น Capture หน้า Wall ของคุณที่แชร์กิจกรรมนี้ และโพสต์ใต้คอมเมนต์ บอกเหตุผลที่ประทับใจเรื่องราวพร้อมติด #Thaismileairways #Smileforlife #ส่งรอยยิ้มส่งตั๋วให้อวัยวะ ที่ใต้โพสต์ เพื่อลุ้นรับบัตรโดยสารชั้นที่นั่ง Smile Class ไป-กลับ ภายในประเทศเส้นทางใดก็ได้ รวม 4 รางวัล รางวัลละ 2 ที่นั่ง จะทยอยแจกสัปดาห์ละ 1 รางวัล
ข่าวที่สาม “กรมเจ้าท่าขึ้นค่าเรือในคลองแสนแสบเริ่ม 27ม.ค.นี้”
กรมเจ้าท่า อาศัยอำนาจตามความในข้อ 4 ของประกาศคณะกรรมการเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับเรือเดินประจำทาง ลงวันที่ 29 กันยายน 2559 ได้มีประกาศ เรื่องปรับปรุงอัตราค่าโดยสารเรือกลเดินประจำทางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ตามช่วงราคาน้ำมันดีเซล เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2561 เป็นต้นไป โดยขึ้นค่าเรือโดยสารในคลองแสนแสบตามระยะทางคือคนละ 10-12-14-16-18-20 บาทต่อครั้ง
สอบถามได้ที่ สำนักมาตรฐานทะเบียนเรือ กลุ่มพัฒนาระบบทะเบียนเรือ โทร.0 2233 1311-8 ต่อ 288 หรือ 0 2267 2367
ติดตามฟังรายการได้เป็นประจำทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ ทาง สวท.FM 97.0 เวลา 11.00-12.00 น.
ผนึกกระทรวงศึกษาปฏิวัติอาชีพท่องเที่ยวทุกวัย
คิงเพาเวอร์ให้โชว์บัตรคนไทยลดทั้งปี3สนามบิน
ททท.ใช้ATF2018ขาย4ธีมใหม่ทัวร์ไทย-อาเซียน
บางจากจัดแคมเปญยิ่งสะสมยิ่งแลกฟรีตลอดปี
เที่ยวเชียงใหม่มุมสูงขุนวาง-ผาตั้ง-ขุนช่างเคี่ยน
ระวังภัยสุขภาพโรคกระดูกเสื่อมเป็นได้ทุกวัย
การบินไทยงัดทุกแผนปลดหนี้บินเพิ่มไทย-เทศ
ไทยสไมล์จัดมหกรรมแชร์เพจลุ้นรับตั๋วบินฟรี
เจ้าท่าทุบโต๊ะขึ้นค่าเรือคลองแสนแสบ27มค.
สวัสดีวันเสาร์ที่ 27 มกราคม 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen
ช่วงที่ 1 ติดตามฟัง “ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำประเทศไทยยึดเวที ASEAN TOURISM FORUM 2018 กอดคอกับรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน 10 ประเทศ ผลักดันความร่วมมือด้วย 6 แผนที่จะไปสู่ภาคปฏิบัติ เพื่อร่วมกันพลิกโฉมอาเซียนสร้าง “ความยั่งยืน-เชื่อมโยง-เสน่ห์ใหม่-ปลอดภัย-เรือสำราญ-ปลุกเทรนด์ทัวร์เยาวชนไร้พรมแดน” ใช้ท่องเที่ยวเป็นอาวุธและยาขนานใหญ่แก้ทุกปมเศรษฐกิจ และในไทยเตรียมจับมือกระทรวงศึกษาธิการสร้างมิติอาชีพท่องเที่ยวผุดหลักสูตรลัดดึงคนทุกกลุ่มทุกวัยเข้ามาเรียนให้ท้องถิ่นและเอกชนช้อปไปทำงาน
วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา |
ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า การพูดคุยในเวทีการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนระหว่าง ASEAN TOURISM FORUM 2018 พุ่งเป้าหมายหลักไปสู่การทำให้เกิดภาคปฏิบัติได้ภายในปี 2561 ใน 6 เรื่อง ประกอบด้วย เรื่องที่ 1 สร้างความยั่งยืนทางการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับสมาชิกอาเซียนไปในทิศทางเดียวกัน ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคตที่อาเซียนเที่ยวกันเองภายในภูมิภาคกว่า 30 % ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก หรือคิดเป็นประมาณปีละ 120 ล้านคน
เรื่องที่ 2 หารือเพื่อกำหนดความร่วมมือพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง สอดคล้องกับทุกวันนี้อาเซียนควรก้าวเข้าสู่การเดินทางแบบไร้พรมแดนและกลายเป็นภูมิภาคเดียวกันที่จะเพิ่มแม่เหล็กขั้วใหญ่ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมเดินทาง
เรื่องที่ 3 นำเสนอเสน่ห์ใหม่อาเซียน โดยไฮไลต์เรื่องอาหารทั้งในแบบ Gastronomy & Cuisine เพราะอาหารของประเทศในกลุ่มอาเซียนได้รับความสนใจจากทั่วโลกเนื่องจากมีรากของวัฒนธรรมและศาสนา พุทธ มุสลิม ผสมผสานอยู่ในแต่ละเมนู แต่ละประเทศก็ต่างกันอย่างกัน แตกต่างจากอาหารทางฝั่งตะวันตก จะเป็นรูปแบบคือเริ่มจากซุปต่างๆ ตามด้วยจานหลักเป็นเนื้อสัตว์และของหวาน ไม่เหมือนของอาเซียนมีทั้ง ญี่ปุ่น จีน ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย และอื่น ๆ นำมาซึ่งกระแสใหม่ในเรื่องการกินตามเรื่องราวที่มีอยู่ในอาหารแต่ละจานคือ Gastronomy Tourism
นอกจากนี้ยังสามารถผนวกวัตถุดิบอาหารไทยและอาเซียนเพิ่มช่องทางการส่งออกสู่ตลาดทั่วโลกได้อีกทาง ในการเผยแพร่อาหารถิ่น ทำให้กลายเป็น “เมนูแห่งชาติ” และความถนัดของชาวอาเซียนนั่นคือส่งออกทั้งวัตถุดิบอาหารและผลิตเป็นแพกเกจสำเร็จรูปพร้อมรับประเทศ โดยเฉพาะคนไทยเก่งในเรื่องเหล่าอยู่แล้ว
เรื่องที่ 4 ความร่วมมือกันดูแลมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางอย่างสบายใจในการท่องเที่ยวต่อเนื่องไปยังแต่ละประเทศ
เรื่องที่ 5 เจรจาเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเรือสำราญในลักษณะเรือ Cruise ขนาดใหญ่แต่ละลำเทียบเท่ากับตึกเกินกว่า 20 ชั้นขึ้นไป เทรนด์ใหม่มีนักเดินทางทุกกลุ่มวัยภาพลักษณ์นักท่องเที่ยวเรือสำราญต่างจากสมัยก่อนมากที่มีแต่ผู้สูงวัยหรือคนเกษียณแล้ว ดังนั้นอาเซียนต้องหันมาสนใจในเรื่องการดูแลนักท่องเที่ยวเรือสำราญ จะต้องร่วมมือกันทำอย่างไรเพิ่มรายได้จากกำลังซื้อกลุ่มนี้ให้ได้มากที่สุด ถือเป็นกลุ่มคุณภาพอย่างแท้จริง
เรื่องที่ 6 ผลักดันการท่องเที่ยวเยาวชน แนวโน้มคนกลุ่มนี้ในอาเซียนเป็นความหวังกำลังสำคัญของประชากรอาเซียนโดยแท้ เนื่องจากพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่จะไม่มีเส้นแบ่งทางด้านเชื้อชาติและภษา แต่จะออกเดินทางท่องเที่ยวโดยพุ่งเป้าไปยังเรื่องความสนใจทางความคิด โอกาส และแผนการเรียนรู้ โดยเด็กแต่ละชาติสามารถปรับตัวเข้าหากันได้ง่ายด้วยการใช้ภาษาอังกฤษพูดคุยกันอย่างคล่องแคล่ว จึงถึงเวลาที่ระดับรัฐมนตรีท่องเที่ยวควรต้องจับมือกันพัฒนาการท่องเที่ยวเยาวชนของอาเซียนให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้นเพื่ออนาคตที่แข็งแรงของภูมิภาคนี้
จากเวทีการหารือร่วมกันเพื่อเดินหน้าอาเซียนในปัจจุบันและอนาคตจะเป็นอีกเวทีการเปิดมิติใหม่ของประเทศไทยเพื่อทำการ “พลิกโมเดล” หารายได้ทำให้การท่องเที่ยวกระจายรายได้เข้าถึงท้องถิ่นโดยตรงได้อย่างแท้จริง
ดร.วีระศักดิ์กล่าวว่าหลังเสร็จสิ้นภารกิจจากงาน ASEAN TOURISM FORUM : ATF 2018 แล้ว จะรีบทำนโยบายเชิงรุกด้านความร่วมมือกับกระทรวงอื่น ๆ ในประเทศ ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้จะทำข้อตกลงความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ สร้างมิติใหม่นำสถาบันองค์กรการศึกษาภาครัฐและเอกชนเข้ามาหารือกัน เพื่อจัดทำโร้ดแมฟหลักสูตรแนวใหม่เปิดการเรียนการสอนอาชีพท่องเที่ยวแต่ละสาขาเรียนลัดจบเร็วทำงานได้ทันทีตามการเติบโตของอุตสาหกรรม หัวใจสำคัญคือจะเปิดโอกาสให้คนทุกกลุ่มวัย ทุกอาชีพ เข้ามาเรียนหลักสูตรลัดแล้วสามารถทำงานได้ โดยสามารถเปลี่ยนจากอาชีพเดิมเข้าสู่อาชีพในวงการท่องเที่ยวได้ วิธีการเมื่อผลิตเรียบร้อยแล้วจะจัดเวทีให้องค์กรท้องถิ่น และเอกชนทุกสาขาเข้ามาช้อปหรือเลือกคนเหล่านี้ไปทำงานด้วยได้ทันที
การลงนามความร่วมมือดังกล่าวจะทำต่อจากการลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับกระทรวงคมนาคมเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ตอนนี้สามารถบูรณาการท่องเที่ยวกับเส้นทางคมนาคมขนส่ง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวให้แก่นักเดินทางทั้งชาวไทยและต่างชาติ เพราะไม่ว่าจะเป็นบริการขนส่งทางอากาศ ทางบก ทางน้ำ ตอนนี้เรียกผู้ใช้บริการว่าเป็นนักท่องเที่ยวหมดแล้ว
ดร.วีระศักดิ์กล่าวทิ้งทายว่า นับจากนี้เป็นต้นไปท่องเที่ยวไทยจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะปลดล็อกปัญหาประเทศได้ครอบคลุมทั้งทางด้านการลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้ การสร้างงาน สร้างอาชีพ และเกิดการพลิกโฉมตลาดในเชิงสร้างสรรค์ ทำให้เปลี่ยนมุมชีวิตใหม่ให้ไทยเข้มแข็งทั้งในเชิงสังคม เศรษฐกิจ และชีวิตความเป็นอยู่ต่อไป
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ให้โชว์บัตรคนไทย3สนามบินลดทั้งปี61
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า ตลอดปี 2561 จะให้ความสำคัญกับตลาดคนไทยในการเข้ามาใช้บริการรานสาขาของคิง เพาเวอร์ ซึ่งเป็นมากกว่าดิวตี้ฟรี มีไลฟ์สไตล์ให้เลือกแบบครบวงจร รวมทั้งจะเน้นเพิ่มการจำหน่ายสินค้าแบรนด์ไทยเพิ่มมากขึ้น เรื่อยไปจนถึงการจัดแคมเปญแต่ละเดือนให้สอดคล้องกับพฤติกรรมความต้องการของคนไทยรุ่นใหม่ ๆ ควบคู่กันไปด้วย
เนื่องจากเล็งเห็นถึงความสำคัญของการ Thailand First คือประเทศไทยต้องมาก่อนในการร่วมสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลยกระดับสินค้าชุมชนก้าวไกลไปสู่ตลาดโลก ด้วยการนำมาวางอยู่ตามร้านสาขาของดิวตี้ฟรี จากนั้นก็ช่วยกันสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในทุกช่องทาง รวมทั้งออนไลน์ของคิง เพาเวอร์ ซึ่งร่วมมือกับทางตลาดจีน อย่างความแข็งแกร่งต่อเนื่องมาจนถึงขณะนี้
สำหรับสิ่งที่จะช่วยคนไทยเดินทางอย่างสะดวกสบายแบบไม่สิ้นสุด ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง หมดเขต 31 ธันวาคม 2561 ทางคิง เพาเวอร์ จึงได้ทำแคมเปญมอบส่วนลด 10% ให้แก่นักเดินทางคนไทยทุกคน เพียงแสดงบัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทางไทยที่ร้านอาหารที่ร่วมรายการทั้ง 3 ท่าอากาศยาน คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง และยานภูเก็ต
ข่าวที่ 2 “ททท.ใช้ ATF2018บูมทัวร์4ธีมใหม่ไทย-อาเซียน”
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าได้ใช้เวที A SEAN Tourism Forum : ATF 2018 เปิดตัวตลาดแนวใหม่ Open to the New Shades ปลุกกระแสการท่องเที่ยวในเรื่องความหลากหลายของโปรดักซ์ประเทศไทย เป็นเวทีที่ 2 ต่อเนื่องจากครั้งแรกเปิดตัวในงาน World Travel Mart -WTM 2017 ณ กรุงลอนดอน อังกฤษ ครั้งที่ 3 จะไปเปิดนงานแกะสลักหิมะน้ำแข็งที่เมือง ซับโปโร ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 9 กุมภาพันธ์ นี้ เนื่องจากญี่เป็นตลาดที่มาท่องเที่ยวเมืองไทยเป็นอันดับต้น ๆ ปี 2560 เข้ามากว่า 1.6 ล้านคน อีกทั้งยังนิยมใช้ดิจิตัลเป็นช่องทางและเครื่องมือการสื่อสารระหว่างการท่องเที่ยวด้วย
ดังนั้น ททท.จึงใช้โอกาสการเป็นเจ้าภาพจัด ATF 2018 สื่อถึงท่าทีของตลาดที่ประเทศไทยจะทำร่วมกันกับสมาชิกอาเซียนภายใต้โครงการ Experience Thailand and More เชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวกับประเทศเพื่อนบ้านด้วยการกำหนดธีมให้สอดคล้องกับการท่องเที่ยว 4 เส้นทาง ดังนี้
1.ภาคเหนือ ชื่อเส้นทาง ASEAN Ancent เชื่อมเส้นทางระยะทาง 1,025 กิโลเมตร จากเชียงราย สู่ลำพูน และใช้เชียงใหม่เป็นศูนย์กลางต่อไปยังเมียนมาอีก 2 เมือง คือ ปะกัน มัณฑเลย์ ซึ่งมีอารยธรรมที่ดีงามทางด้านวัฒนธรรม
2.ภาคใต้ ASEAN Paranakan ดินแดนธรรมชาติระยะทาง 728 กิโลเมตร จะเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวฝั่งทะเลอันดามัน ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล เข้าสู่มาเลเซีย 2 เมือง คือ ปีนัง ลังกาวี
3.ภาคอีสาน ASEAN Mekong Active Adventure ระยะทาง 867 กิโลเมตร จะใช้บุรีรัมย์เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงกับสู่ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ไปยัง แขวงจำปาสัก (สปป.ลาว) และเข้ากัมพูชา 2 เมือง ได้แก่ สตุงเตร็ง (Stung Treng) และ เมืองKratie ในกรุงพนมเปญ ซึ่งเป็นเส้นทางมีความงดงามอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ป่าเขา อยู่อย่างหลากหลายมากมาย
4.ASEAN Worldclass ใช้ธีม Culinary& Heritage City เชื่อมท่องเที่ยว 3 ประเทศ ที่มีความโดดเด่นทางด้านวัฒนธรรม อาหารถิ่น มิชลิน ประเทศไทย ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา กรุงเทพ สมุทรสงคราม ผ่านเข้า กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย มะละกา สิงคโปร์ ซึ่งสมาชิกทั้งสองประเทศแข็งแรงและโดดเด่นเรื่องอาหารการกินเป็นอย่างดี
นายธเนศวร์กล่าวว่าประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะทำให้อาเซียนเป็นเวทีที่เปิดใจ Open your heard ไม่ใช่คู่แข่งเป็นสนามแห่งมิตรภาพความเป็นหุ้นส่วนระหว่างกัน เนื่องจากปี 2560 คนอาเซียนมาเที่ยวไทย 9.8 ล้านคน และนักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางมาเที่ยวอาเซียนมากถึง 120.1 ล้านคน
สำหรับภาพรวมทางด้าน "รายได้" จากนักท่องเที่ยวตลาดอาเซียนทั้งหมด 9 ประเทศ ปี 2560 เข้ามาใช้จ่ายเงินในไทยรวม 242,357.40 ล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยวรวม 9.8 ล้านคน
นักท่องเที่ยวอาเซียนตลาดดาวรุ่งมาแรงของไทยคือกลุ่มอาเซียนใหม่ CLMV สร้างมูลค่ารวม 102,361.74 ล้านบาท เท่ากับมีส่วนแบ่งการใช้เงินท่องเที่ยวในไทยเกือบ 50 % จากจำนวนนักท่องเที่ยวรวมกัน 3,419,426 ล้านคน ขณะที่กลุ่มประเทศอาเซียนเก่าอีก 5 ประเทศ ได้แก่ บรูไน สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ใช้เงินเที่ยวเมืองไทยรวมกัน 139,996 ล้านบาท จากนักท่องเที่ยวรวม 4,771,396 คน
ข่าวที่ 3 “บางจากกระตุ้นยิ่งสะสมยิ่งแลกฟรีตลอดปีจอ”
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ตั้งแต่วันนี้ 31 ธ.ค. 2561 สมาชิกบัตรบางจากยิ่งสะสมคะแนนมาก ยิ่งแลกได้มากสมาชิกบัตรบางจากด้วยการเริ่มต้นเพียง 400 คะแนน เท่านั้น
โดยการเติมแก๊สโซฮอล์ 1 ลิตร รับ 1 คะแนน เติมดีเซล 1 ลิตร รับ 1 คะแนน สามารถที่จะใช้คะแนนแลกเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า กระเป๋าเดินทาง อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย
วิธีแลกของมีค่าต่าง ๆ ที่จัดเตรียมไว้ก็ทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่คลิกแลกคะแนน ได้ที่ http://bcprewards.bangchakcrm.com/th/ โดยมีเงื่อนไขการแลกของรางวัลตามขั้นตอนดังนี้
1.ติดต่อสอบถามการตัดคะแนน โทร. Call Center 1651 กด 4
2.ของรางวัลไม่สามารถแลกหรือเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
3.การจัดส่งสินค้าให้ตามที่อยู่สมาชิกใช้เวลา 5-7 วันทำการ สำหรับ กรุงเทพฯ และปริมณฑล และ 7-10 วันทำการ สำหรับจังหวัดอื่นๆ(นับจากวันที่หักคะแนนสะสมของสมาชิก)
4.คะแนนในบัตรสมาชิกจะถูกตัด ในวันทำการถัดไป หลังจากที่มีการติดต่อแลกของรางวัล
5.สิทธิ์การแลกคะแนนสำหรับเจ้าของบัตรสมาชิก ที่มีชื่อตรงกับในระบบเท่านั้น
ช่วงที่ 2 ขึ้นดอยในแดนล้านนาไปสัมผัสการท่องเที่ยว “เชียงใหม่ในมุมสูงเสียดดอย” ตลอดหน้าหนาวปีนี้ดอยอินทนนท์ทุกตารางนิ้วมีเรื่องราวความสุขจาก “ขุนวางสู่ผาตั้ง” ไปจนถึง “ขุนช่างเคี่ยน” แต่ละสถานีเกษตรหลวงแดนเหนือ คือแหล่งบ่มเพาะความงามอันอลังการของทุ่งดอกนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระไทยบนดอย ช่วงมกราคม-กุมภาพันธ์ นี้ นักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติมุ่งหน้าขึ้นดอยไปเก็บภาพอุโมงค์ดอกไม้กันอย่างอุ่นหนาฝาคั่งท่ามกลางอากาศเย็นสบาย ส่วนเรื่องสุขภาพก็ต้องย้ำกันถึงการป้องกันโรคข้อเสื่อมที่เกิดได้ทุกเพศทุกวัย และเกาะติดข่าว “การบินไทย” ออกตัวแรงทุกเรื่องตั้งแต่ต้นปีเพื่อจะปลดหนี้หลายพันล้านด้วยการพลิกการตลาด เปิดจุดบินเพิ่มทั้งในประเทศและทั่วโลก 4 ทวีป ทางด้านไทยสไมล์เน้นทำโปรเจ็กต์เพื่อสังคม ร่วมแชร์กิจกรรมลุ้นรับตั๋วฟรีในประเทศ ส่วนกรมเจ้าท่าทุบโต๊ะไปเรียบร้อยขึ้นค่าเรือโดยสารคลองแสนแสบ
@เที่ยวเชียงใหม่ในมุมสูงขุนวาง-ดอยผาตั้ง เชียงใหม่
หลังจากประเทศไทยเลือก “เชียงใหม่” เป็นเมืองต้อนรับแขกเมืองจากทั่วโลกในงาน ASEAN TOURISM FORUM 2018 แล้ว ก็เลยถือโอกาสนำสถานที่ “เที่ยวมุมสูง” ตามดอยต่าง ๆ มาแนะนำชวนไปท่องเที่ยวกัน อากาศตอนนี้เย็นสบาย ๆ
ช่วงฤดูหนาวเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ เริ่มต้นที่ “ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง)” ต.แม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ ตั้งอยู่ในวงล้อมของแนวเทือกเขาอินทนนท์ ห่างจากถนนสายหลักลึกเข้าไปราว 16 กม.ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) นับได้ว่าเป็นแหล่งปลูกนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระดอยมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ตอนนี้สองข้างทางบนถนนลาดยาวให้เดินแวะชื่นชมและสัมผัสความงดงามแวะบันทึกภาพเป็นระยะ ๆ ตอนนี้พากันออกดอกสีชมพูสว่างไสวเต็มต้น ขับให้ดอยขุนวางกลายเป็นสีชมพูไปทั้งดอย
การเดินทางมาเที่ยวควรใช้พาหนะส่วนตัว หรือเหมารถจากปากทางของดอยอินทนนท์จะสะดวกและเที่ยวได้อย่างมีความสุข บริเวณที่ดอกนางพญาเสือโคร่งจะชูช่อบานสะพรั่งหนาแน่น แถมยังมีไฮไลต์ตรง “ลานผาแง่ม” ซึ่งกลายเป็นแลนด์มาร์กของนักท่องเที่ยวแฟนคลับละครดังรากนครา จะมีสถูปจำลองของเจ้าแม้นเมืองในละครไว้ให้ชมด้วย
ภายในบริเวณมีแปลงไม้ผลเมืองหนาวให้เดินชมแปลงทดลองการเกษตรทั้ง สาลี่ พลัม ท้อ แนคตารีน หรือสตรอว์เบอร์รี่ จุดที่น่าแวะดูก็มี แปลงไม้ผลเมืองหนาว แปลงกาแฟ โรงกะเทาะเปลือกกาแฟ และแปลงทดสอบพันธุ์แมคคาเดเมีย
ลงจากศูนย์วิจัยเกษตรหลวงขุนวาง สามารถแวะ “สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์” ซึ่งมีบริการ ร้านอาหารโครงการหลวงอินทนนท์ ไฮไลต์จะนำวัตถุดิบซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่คือปลาเรนโบว์เทราท์กับสเตอเจี้ยน และผักเมืองหนาวปลอดสาร มาปรุงเป็นเมนู อาทิ ต้มยำปลาเทร้า ปลาสเตอเจี้ยน หรือจะทอด ราดน้ำปลา รสชาติอร่อย ผักก็มีชาโยเต้หรือผักมะระหวานผัดน้ำมัน กระหล่ำผัดน้ำปลา เห็ดหอมทอดกรอบ หรือจะเป็นลาบเป็ดกินกับผักเมืองหนาว สำหรับเครื่องดื่มจะเน้นขายน้ำผลไม้ที่ปลูกบนดอยอินทนนท์ สนนราคาอาหารแต่ละเมนู ไม่แพงอย่างที่คิดเริ่มต่ำกว่าหลัก 100 บาท ไปจนถึงสูงสุดคือหม้อไฟต้มยำปลาเทร้าท์ ปลาสเตอเจี้ยน หม้อละ 350 บาท นอกจากนี้ยังมีของหวานทำจากผลไม้ อย่าง พุดดิ้งหน้ามะม่วง หรือหน้ากล้วยต่าง ๆ เป็นอาหารถิ่นบนดอยอร่อยไปอีกแบบ
ระหว่างทางผ่านเข้าระหว่างอำเภอแม่วางกับจอมทอง ลองแวะเข้า “หมู่บ้านแม่กลางหลวง” ขับรถขึ้นดอยสูงชมทิวทัศน์มุมสูงกลางหุบเขามีท้องนาขั้นบันไดตามไหล่เขาสบายตา จุดหมายปลายทางจะพาไปสำรวจ “โฮมสเตย์-Giant Bamboo Hut” บ้านไม้ไผ่ขนาดยักษ์ของชาวเขาหนุ่มชาวปะกากะยอ “ไกรสร เสาวคนธ์” ที่พลิกชีวิตหันมาเอาดีในการสร้างบ้านไม้ไผ่ออกแบบเป็นรูปลักษณะคล้ายเรือขนาด 4 ชั้น ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใกล้ธารน้ำตก ห้อมล้อมด้วยแปลงพืชผักเมืองหนาวและดอกไม้พืชเศรษฐกิจ เพิ่งจะเปิดบริการได้เพียง 4 เดือน แต่ก็มีครอบครัวคนรุ่นใหม่เข้าไปใช้บริการ ด้วยสนนราคาห้องพัก 1,500 บาทต่อคนต่อคืน รวมห้องพัก อาหารวันละ 2 มื้อ แต่ถ้าไปกลุ่มละเกิน 3 คนขึ้นไป แต่ไม่เกิน 8 คน ก็จะได้ส่วนลดเหลือเพียง 1,200 บาทต่อคนต่อคืน
ไกรสร เสาวคนธ์ เจ้าของโฮมสเตย์Giant Bamboo Hut บ้านแม่กลางหลวง อ.แม่วาง เชียงใหม่ |
ภายในบ้านพักชั้นใต้ดินจะเป็นห้องครัวสะอาดตา ชั้น 1 เป็นล็อบบี้นั่งเล่นแบบเปิดโล่ง ส่วนชั้น 3-4 เป็นห้องพัก พักได้ห้องละ 4 คน ไกรสรบอกว่าใครที่จะมาพักโฮมสเตย์แห่งนี้ต้องรักธรรมชาติ เพราะเมื่อเข้ามาพักแล้วจะได้อยู่อย่างเป็นส่วนตัว ตามกฎจะให้แบตเตอรี่นักท่องเที่ยวไว้ใช้ 1 ลูก แต่ต้องบริหารจัดการเองเพื่อให้มีไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอ ถ้าใช้ไม่เป็นแบตหมดก่อนก็จะไม่ให้เพิ่มอีก จากประสบการณ์ไกรสรบอกว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะบริหารจัดการใช้ไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี แตกต่างจากคนไทยที่ยังไม่ค่อยรู้จักประหยัดสักเท่าไร
ส่วนกลางคืนบนหุบเขาแห่งนี้เงียบสงบ มืดสนิท จึงสามารถนอนดูดาวระยับเต็มท้องฟ้า และไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในหุบเขาเป็นชาวเขาเผ่าม้ง ปะกากะยอ ส่วนใหญ่เป็นพี่น้องกัน ช่วยกันทำมาหากินและเข้าใจเรื่องการดูแลช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นรายได้เป็นอาชีพเสริมหล่อเลี้ยงชีวิตคนบนดอยสูง ซึ่งตามปกติจะมีอาชีพหลักทำนา ปลูกพืชเมืองหนาวไว้กินหรือบางส่วนเหลือก็นำไปขาย อยู่กันอย่างพอเพียงมีความสุข
จากนั้นสามารถลงจากดอยมาลองพักค้างคืนที่ “นอกชานมีนา” อำเภอจอมทอง เพิ่งเปิดได้ไม่ถึง 2 เดือน ที่คนในชุมชนแห่งนี้ได้นำท้องนามาออกแบบสร้างเป็นบ้านพัก เก๋ เรียบหรู มีสไตล์ พร้อมลานกางเต็นท์สัมผัสบรรยากาศท้องทุ่ง โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ใช้ได้เลยทีเดียว
เช้าวันที่สองก็มุ่งหน้าขึ้น “พระตำหนักดอยผาตั้ง” ตรงหน่วยพิทักษ์ดอยผาตั้ง ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มีพระตำหนักบ้านไม้หลังใหญ่ชั้นเดียวเป็นเอกลักษณ์สร้างในลักษณะทรงชาเลต์รายล้อมด้วยสวนจัดเรียบง่าย เป็นเรือนประทับแปรพระราชฐานและทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินมาทรงพัฒนางานบนดอยอินทนนท์และพื้นที่ใกล้เคียง
ปิดท้ายขอแนะนำให้ไปยัง “ขุนช่างเคี่ยน” หรือสถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้นทางเดียวกันกับที่จะพระธาตุดอยสุเทพ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ บ้านม้งดอยปุย เป็นแหล่งวิจัยเมล็ดพันธุ์กาแฟ ของคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และเป็นอีกแห่งที่มีดอกนางพญาเสือโคร่งงดงามมาก ช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ยังคงออกดอกสีชมพูสะพรั่ง
เป็นทริปเที่ยวเชียงใหม่ในมุมสูงอย่างมีความสุข และได้สัมผัสวิถีชุมชนซึ่งมีความกระตือรือร้นตื่นตัวให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี
สนใจไปท่องเที่ยวมุมสูงในเชียงใหม่ สอบถามได้ที่ เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย 1672
@‘กระดูกเสื่อม’ โรคที่เกิดได้กับทุกวัย
หลายคนคิดว่าโรคกระดูกเสื่อมมักจะเกิดกับผู้สูงอายุเท่านั้น แต่จากกรณีข่าวล่าสุดที่มีศิลปินหนุ่ม ป่วยด้วย “โรคกระดูกเสื่อม” ก็อาจทำให้หลายคนเข้าใจได้แล้วว่าโรคนี้สามารถเกิดได้กับคนทุกเพศและทุกวัย ไม่เว้นแม้วัยรุ่นหนุ่มสาว
นพ.ประสงค์ โอนพรัตน์พิบูลย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญกลุ่มงานออร์โธปิดิกส์ โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา แนะนำว่า หากพบว่าตนเองเป็นโรคกระดูกเสื่อม สิ่งแรกที่ต้องทำคือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เริ่มจากการเดิน นั่งที่ถูกต้อง คือนั่งตัวตรงและนั่งเก้าอี้ที่มีพนักพิง ไม่ยกของหนักมากเกินไป ไม่ก้มเงยบ่อย และควรยืดเส้นยืดสายเพื่อบริหารกล้ามเนื้อบ้าง
สำหรับสาวๆ ที่สะพายกระเป๋าหนัก หรือหิ้วของหนักข้างใดข้างหนึ่งต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้เกิดการกดทับเส้นประสาท บริเวณสะบัก ทำให้กล้ามเนื้อมีอาการอักเสบ หรืออาจมีการชาของเส้นประสาท บริเวณแผ่นหลังได้ จึงไม่ควรสะพายกระเป๋าข้างใดข้างหนึ่งเป็นเวลานาน หากมีอาการปวดต้นคอ หรือชาปลายนิ้วมือ ควรพบแพทย์โดยด่วน
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “บินไทยงัดทุกแผนปลดหนี้เพิ่มบินไทย-ทั่วโลก”
นายวิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าฝ่ายบริหารการบินไทยนำโดยนางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่และทีมงานฝ่ายการพาณิชย์ได้ร่วมใจกันออกตัวแรงตั้งแต่ต้นปี 2561 เดินหน้ากลยุทธ์ผู้นำสายการบินไทยแลนด์ 4.0 อย่างเข้มข้นในเชิงสื่อสารการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ผ่านสื่อทุกช่องทาง เพื่อโหมจุดขายในเส้นทางบินทั้งหมดทั่วโลกครอบคลุมกว่า 80 จุด โดยเฉพาะตลอดปี 2561 จะหันมาเน้นให้น้ำหนักกับการกลับมาเป็นผู้นำเส้นทางบินภายประเทศไทยด้วยยุทธศาสตร์ THAILAND FIRST ไฮไลต์ภายในช่วงครึ่งปีแรก 2561 การบินไทยจะพัฒนาช่องทางบริการสำรองตั๋วโดยสารแบบครบวงจรทางโทรศัพท์มือถือหรือ Mobile Smartphone Application เพื่อให้เกิดการเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ กระตุ้นกลุ่มผู้โดยสารชั้นธุรกิจซื้อตั๋วโดยสารผ่านออนไลน์มากขึ้น จากปัจจุบันกลุ่มหลักจะซื้อตั๋วชั้นประหยัด โดยภาพรวมการตลาดออนไลน์ทำเพื่อรองรับตลาดยุคใหม่ตามนโยบายรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มุ่งให้ทุกภาคส่วนพัฒนาองค์กรเข้าสู่ไทยแลนด์ 4.0 โดยเร็ว
การบินไทยได้ทำแคมเปญกระตุ้นการเดินทางต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2560 เพื่อช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชนและเมืองท่องเที่ยวรอง จากตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าสู่ประเทศไทยรวมกว่า 35 ล้านคน และคนไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศปีละเกือบ 150 ล้านคนครั้ง รวมทั้งเร่งออกตัวแรงตั้งแต่เริ่มเปิดศักราชเดือนมกราคม 2561 นำร่องทำ แคมเปญแรก “ไมล์ปันสุข” กระตุ้นสมาชิกรอยัล ออร์คิด พลัส (ROP) ร่วมบริจาคไมล์ที่อยู่ในบัตรสมาชิกที่จะถูกแปลงเป็นเงินเพื่อสมทบทุนใช้ในการจัดหาครุภัณฑ์ทางการแพทย์ อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา โรงพยาบาลศิริราช ร่วมบริจาคได้ทางเว็บไซต์ www.thaiairways.com/rop ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 กรกฎาคม 2561
แคมเปญที่ 2 ทุ่มทุนผลิตภาพยนตร์โฆษณา The New Explorer #สบายต่างกัน "บินกับนาย" โดยเลือก “นาย ณภัทร เสียงสมบุญ-น้องนาย” นักแสดงหนุ่มเป็นตัวแทนนักเดินทางของคนรุ่นใหม่ มาสร้างภาพลักษณ์ใหม่อธิบายถึงจุดเด่นและดีของการบินไทยที่ล้ำสมัย ควบคู่การสร้างกระแสทำให้แบรนด์การบินไทยอยู่ในใจกลุ่มผู้โดยสารวัยรุ่นยุคใหม่ ซึ่งมีความสะดวกสบายทั้งฝูงบิน สิ่งอำนวยความสะดวก อาหารและเครื่องดื่ม เสน่ห์วิถีไทย โดยมีรางวัลระดับโลกการันตีจากสกายแทร็กซ์ ประจำปี 2560 ได้แก่ รางวัลอันดับ 1 ถึง 3 รางวัลด้วยกัน ได้แก่ สายการบินที่ให้บริการชั้นประหยัดยอดเยี่ยมของโลก สายการบินที่ให้บริการสปาเลาจน์ยอดเยี่ยมของโลก ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 และสายการบินที่ให้บริการอาหารชั้นประหยัดยอดเยี่ยม
แคมเปญที่ 3 จัดกิจกรรม “รักคุณเท่าฟ้า” การขายตั๋วโดยสารโปรโมชั่นพิเศษช่วงปลายเดือนมีนาคม 2561 จะจัดทั้งในกรุงเทพฯ ที่เซ็นทรัล เวิลด์ และต่างจังหวัด ไฮไลต์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ขอนแก่นซึ่งเป็นจังหวัดศูนย์กลางการเดินทางสูงเป็นอันดับต้น ๆ
ส่วนกลยุทธ์เชิงรุกการขยายเส้นทางบินใหม่สนองนโยบายรัฐบาลกระจายรายได้สู่ชุมชนและเมืองท่องเที่ยวรอง การบินไทยเริ่มโปรโมตการขายในโปรแกรมทัวร์เอื้องหลวง เริ่มจากเชียงใหม่ทำเส้นทางเชื่อมโยงเข้าเมืองรอง จังหวัดลำพูน ลำปาง กระตุ้นชาวต่างชาติเข้าไปยังเมืองดังกล่าว รวมทั้งเส้นทางบินสู่ภาคใต้ ภาคอีสาน และช่วงตารางบินฤดูร้อน จะเริ่มกลับไปเปิดเส้นทางบิน ไป-กลับ กรุงเทพฯ-แม่ฮ่องสอน สัปดาห์ละ 3 เที่ยว โดยจะใช้วิธีสื่อสารตลาดการขายทั้งตั๋วโดยสารและแพกเกจท่องเที่ยวผ่านออนไลน์เอื้องหลวงและเว็บไซต์ www.thaiairways.com
สำหรับปี 2561 การบินไทยตั้งเป้าอัตราการเติบโตทางรายได้เพิ่มเป็น 2 หลัก โดยจะเน้นเพิ่มทั้งคุณภาพและอัตราบรรทุกเฉลี่ยผู้โดยสาร ทั้งการเปิดเส้นทางบินใหม่และเพิ่มความถี่เที่ยวบินในประเทศที่มีความเข้มแข็งในแถบ อาเซียน เอเชีย ยุโรป ทวีปไกลในอเมริกา และกำลังจะเปิดจุดบินตามคอนเซ็ปต์ใหม่เส้นทางระหว่างประเทศเข้าสู่เมืองรองคือ ไป-กลับ เชียงใหม่-เทเป (ไต้หวัน) ช่วงครึ่งหลังปีนี้โดยไทย สไมล์
นายวิวัฒน์กล่าวว่าวางกลยุทธ์เชิงรุกตลอดไตรมาสแรกปีนี้ มกราคม-มีนาคม จะเพิ่มเส้นทางบิน ไป-กลับ จากไทยและต่างประเทศทั่วโลก เริ่มเทศกาลตรุษจีนเดือนกุมภาพันธ์ 2561 เตรียมทำเที่ยวบิน Extra Flight ใช้ฝูงบินขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อนำนักท่องเที่ยวจากมณฑลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนเข้ามายังไทยรวมกว่า 14,000 คน ควบคู่เพิ่มเที่ยวบินในหลายจุด เช่น กรุงเทพฯ-โซล ช่วงวาเลนไทน์ จากวันละ 3 เป็น 5 เที่ยว กรุงเทพฯ-ปูซาน เพิ่ม 5 เป็น 7 เที่ยว
ส่วนไตรมาส 2 ต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ จะเพิ่มความถี่สนามบินนาริตะ ญี่ปุ่น อีก 1 เที่ยว เพราะการบินไทยเพิ่งได้รับสิทธิการบินเพิ่มเรียบร้อยแล้ว จะบินเพิ่มตั้งแต่ 25 มีนาคม นี้เป็นต้นไป ปัจจุบันการบินไทยมีบริการบินเข้าสนามบินหลัก ๆ ในญี่ปุ่น ได้แก่ นาริตะ วันละ 3 จะเพิ่มเป็น 4 เที่ยว ฮาเนดะจาก 2 เป็น 3 เที่ยว ทำให้ทุกวันนี้มีบินเข้าเมืองโตเกียววันละ 6 เที่ยว กำลังจะเพิ่มเป็นวันละ 7 เที่ยว เพราะนักเดินทางกลุ่มคุณภาพเลือกใช้การบินไทยมากขึ้น
รวมทั้งได้สิทธิการบินจากอินเดียให้ประเทศไทยเพิ่มเที่ยวบินประจำได้ 6,100 ที่นั่ง วันที่ 24 มกราคม นี้ ทางบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด จะประชุมสายการบินของไทยทั้งหมดเพื่อแบ่งโควต้าและช่วงเวลาบินเข้าอินเดีย ซึ่งการบินไทยตั้งเป้าจะขอบินเมืองใหญ่ เช่น เดลี บอมเบ บังกาลอ ไฮเดอราบัด เชนไน อย่างน้อยเมืองละ 2 เที่ยว/วัน โดยจะใช้ทั้งการบินไทยและไทยสไมล์ให้สอดคล้องกับต้นทุนและตลาดผู้โดยสาร อีกทั้งกำลังศึกษาจุดบินสู่อเมริกาทั้งฝั่งอีสต์และเวสต์โคสต์ มหานครนิวยอร์ก ซึ่งจะสรุปได้ภายในปีนี้
ทั้งนี้การบินไทยจะเร่งเพิ่มความถี่เที่ยวบินต่างประเทศแต่ละเส้นทางให้มีบริการวันละ 1 เที่ยว ตัวอย่าง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-สิงคโปร์ ขณะนี้มีถึงวันละ 7 เที่ยว ส่วนยุโรปจุดบินเพิ่งเปิดใหม่ กรุงเทพฯ-เวียนนา (ออสเตรีย) สัปดาห์ละ 4 เที่ยว จะเพิ่มเป็น 5-6-7 เที่ยว ซึ่งมีผู้โดยสารทั้งขาเข้าและออกดีมาก จากนั้นขยายไป แมดริด (สเปน) มอสโก รัสเซีย กำลังจะเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก
ข่าวที่สอง “แชร์ทุกจุดที่บินกับไทยสไมล์ลุ้นรับตั๋วฟรี”
สายการบินไทยสมายล์ ชวนแฟนเพจร่วมกันแชร์เรื่องราวดีๆ ในกิจกรรม ‘แชร์รอยยิ้ม เมื่ออวัยวะไปถึง’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “ไทยสมายล์ให้รอยยิ้มช่วยชีวิต Smile for Life” พร้อมลุ้นรับตั๋วเครื่องบินจากไทยสมายล์ฟรี
ด้วยวิธีง่ายๆ เพียงคลิกกดแชร์โพสต์กิจกรรมที่บรรยายความรู้สึกของผู้ที่ได้รับการผ่าตัดเพื่อปลูกถ่ายอวัยวะที่คุณประทับใจไปที่หน้า Wall ของคุณ พร้อมตั้งค่าเป็น Public (สาธารณะ) จากนั้น Capture หน้า Wall ของคุณที่แชร์กิจกรรมนี้ และโพสต์ใต้คอมเมนต์ บอกเหตุผลที่ประทับใจเรื่องราวพร้อมติด #Thaismileairways #Smileforlife #ส่งรอยยิ้มส่งตั๋วให้อวัยวะ ที่ใต้โพสต์ เพื่อลุ้นรับบัตรโดยสารชั้นที่นั่ง Smile Class ไป-กลับ ภายในประเทศเส้นทางใดก็ได้ รวม 4 รางวัล รางวัลละ 2 ที่นั่ง จะทยอยแจกสัปดาห์ละ 1 รางวัล
ข่าวที่สาม “กรมเจ้าท่าขึ้นค่าเรือในคลองแสนแสบเริ่ม 27ม.ค.นี้”
กรมเจ้าท่า อาศัยอำนาจตามความในข้อ 4 ของประกาศคณะกรรมการเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับเรือเดินประจำทาง ลงวันที่ 29 กันยายน 2559 ได้มีประกาศ เรื่องปรับปรุงอัตราค่าโดยสารเรือกลเดินประจำทางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ตามช่วงราคาน้ำมันดีเซล เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2561 เป็นต้นไป โดยขึ้นค่าเรือโดยสารในคลองแสนแสบตามระยะทางคือคนละ 10-12-14-16-18-20 บาทต่อครั้ง
สอบถามได้ที่ สำนักมาตรฐานทะเบียนเรือ กลุ่มพัฒนาระบบทะเบียนเรือ โทร.0 2233 1311-8 ต่อ 288 หรือ 0 2267 2367
ติดตามฟังรายการได้เป็นประจำทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ ทาง สวท.FM 97.0 เวลา 11.00-12.00 น.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น