วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ เปิดแผนท่องเที่ยวปี'61ใช้ATF2018ชวน9รมว.อาเซียนทำ3เรื่องใหญ่-เที่ยวนครศรี4Open to the New Shades
“รมว.วีระศักดิ์”เปิดแผนBigChangeท่องเที่ยวปี’61
ใช้เวทีATF2018ผนึก10รัฐมนตรีพลิก3เรื่องใหญ่
ช้อปคิงเพาเวอร์โปรแรงใช้กะรัตเพิ่มส่วนลดไม่อั้น
ททท.งัดมิวสิกมาร์เก็ตติ้งสร้างฮือฮา55เมืองรอง
บางจากแจกต่อปีใหม่สมาชิกเก่าใหม่รับแต้มเพียบ
ทัวร์เมืองคอนล่องทะเล/พักชุมชน/หรอยอาหารถิ่น
นวดเพื่อสุขภาพสุขกายสบายใจคลายโรครับปีใหม่
ดุสิตธานีกรุงเทพเลื่อนปิด1ปีทำโปรต่อถึง5มค.62
อะเมซิ่งเคาน์ดาวน์เมืองรองสำเร็จเกินเป้าทุกพื้นที่
รัฐบาลลั่นดันท่องเที่ยวอุ้มเศรษฐกิจรากหญ้าปีจอ
สวัสดีวันเสาร์ที่ 6 มกราคม 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza
ช่วงที่ 1 “วีระศักดิ์ โควสุรัตน์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดนโยบายเชิงรุกต้อนรับศักราชใหม่ปีจอ 2561 แบบ Big Change พลิกจุดแข็งเมืองรอง ชุมชน นำ “ระบบโมเดล” ยักษ์ใหญ่ของโลกทั้ง google, youtube มาสร้าง “เครื่องมือกลาง” เป็นสะพานเชื่อมความสำเร็จระหว่างผู้ให้กับผู้รับผ่านคลินิก @tourism 1 ทำให้ทุกคนกลายเป็นเครือข่ายฮีโร่ช่วยกันซ่อมสร้างแหล่งท่องเที่ยว
พร้อม ๆ กับพลิกแนวการค้า “สินค้าประชารัฐ-โอท็อป” ยกเครื่องใหม่ 3 เรื่อง “ฐานรากผลิตภัณฑ์-วิธีผลิต-บรรจุภัณฑ์” อย่างง่าย ๆ แค่เปิดช่องให้นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วม ต่อไปคนจะซื้อสินค้าโดยไม่เสียดายเงิน จากนั้นจะโชว์ศักยภาพการเป็นเจ้าภาพจัด ASEAN TOURISM FORUM 2018 ระหว่าง 24-27 มกราคม 2561 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ปลุกกระแสรัฐมนตรีอาเซียน 10 ประเทศ กับอาเซียนบวก 3 ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน กอดคอกันปูพรม 3 นโยบายใหญ่ “ท่องเที่ยวเชื่อมโยง-ยั่งยืน-ปลอดภัย” ยกระดับอาเซียนผงาดเป็นดาวเด่นแห่งเอเชีย
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนนโยบายต้อนรับปี 2561 การเร่งผลักดันรายได้ท่องเที่ยวกระจายสู่ 55 เมืองรองและชุมชนท่องเที่ยว สามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักลดหย่อนภาษีและใช้เงินซื้อสินค้าท้องถิ่นจะเป็นส่วนหลักช่วยลดความเหลื่อมล้ำอุดหนุนผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นสร้างคุณค่าทางจิตใจ รวมถึงความสุขที่ได้ช่วยเติมเต็มโดยได้ความรู้สึกของการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมบ้านเมือง
ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมักจะเน้นความสะดวกสบาย ส่งผลให้การลงทุนพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกไปกระจุกตัวอยู่ตามเมืองหลัก นับจากปีนี้เป็นต้นไปการส่งเสริมท่องเที่ยวเมืองรองจะเป็นอีกทางเลือกใหม่ โดยนักท่องเที่ยวจะต้องศึกษาข้อมูลก่อนเดินทางในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับธรรมชาติ ซึ่งมีเสน่ห์อยู่มากมาย เช่นเดียวกันปี 2560 ต่างชาติมาท่องเที่ยวเมืองไทยมากถึง 35 ล้านคน ในจำนวนนี้มาซ้ำถึง 60 % พร้อมที่จะแสวงหาสถานที่ใหม่ในเมืองรอง ส่วนคนไทยเองก็มีพฤติกรรมแชะแชร์ ซึ่งทางกระทรวงจะขยายผลให้คนไทยช่วยกันแชร์สถานที่เพื่อเชิญชวนคนเที่ยวเพิ่มขึ้น
หรือแม้แต่กิจกรรมปัจจุบันไม่ว่าจะเป็น การปั่นจักรยานไปทำซ่อมและทำความสะอาดห้องน้ำตามแหล่งท่องเที่ยว ได้ประโยชน์ทั้งกับชุมชน สิ่งแวดล้อม หรือกลุ่มบิ๊กไบค์ก็สามารถเพิ่มการนำอุปกรณ์ห้องน้ำไปติดตั้งตามสถานที่ต่างๆ นักวิ่งก็ทำกิจกรรมวิ่งไปซ่อมแนวกันไฟป่า โบกปูนสร้างทางลาดเรียบ ๆ ให้เกิดวิ่ง ปีน ป่าย เพื่อคนพิการ ผู้สูงวัย เด็ก ได้ใช้อย่างสะดวกปลอดภัย
หน้าที่ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะต้องเพิ่มภารกิจใหม่ “ร่วมมือกับภาคประชาชน” เพราะปัจจุบันกรมพัฒนาการท่องเที่ยวมีเจ้าหน้าที่เพียง 120 คน ดูแลแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศมากถึง 6,000 แหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย แล้วส่วนใหญ่นั่งอยู่ในกรุงเทพฯ ไม่มีโอกาสไปเฝ้าทะเล น้ำตก ภูเขา
ดังนั้นผมจะนำแนวคิดของ google, youtube มาใช้คือ “สร้างระบบ” มีเรื่องเล่านำคนอยากรู้กับคนอยากเล่ามาเจอกัน สร้างเครื่องมือกลางขึ้นมาเพื่อให้คนอยากรู้ อยากทำความดี อยากรักษา อยากพาเที่ยวมาเจอกัน เป็นนโยบายที่เรียกว่า “คลินิกท่องเที่ยว” เปิดเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ต้นปีจอ ด้วยวิธีใช้อุปกรณ์มือถือทางไลน์เพิ่มเพื่อน “@tourism 1” เป็นศูนย์แจ้งซ่อมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ แล้วเห็นแหล่งใดทรุดโทรมมีปัญหา เกิดความไม่สะดวกให้กดถ่ายรูป บอกโลเกชั่น ส่งมายังไลน์ ซึ่งเป็นวิธีแจ้งตรงถึงเจ้าหน้าที่ เพื่อรวมฐานข้อมูลคาดจะได้นับแสนรูปเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวมีปัญหา แล้วจากนั้นจะมาแบ่งกลุ่มตามลักษณะของอาการปัญหาพร้อมกับใส่เลขประจำตัว 13 หลัก เพื่อให้องค์กรหรือคนกลุ่มต่าง ๆ จองที่จะเข้าไปช่วยฟื้นฟูพัฒนาร่วมกัน ทั้งบริษัท องค์กรปกครองท้องถิ่น และอื่น ๆ รวมทั้งจากองค์กรข้ามชาติเข้ามาร่วมด้วย
เป็นกลยุทธ์แนวใหม่โดยไม่เน้นจำนวนนักท่องเที่ยว หรือการใช้จ่าย แต่จะทำให้เกิด “การมีส่วนร่วมรักษาแหล่งท่องเที่ยว” อย่างเป็นระบบ
นายวีระศักดิ์กล่าวว่า การนำสินค้าประชารัฐ โอท็อป ชุมชน มาวางจำหน่ายนั้น ต้องหันมาทำให้เป็นสินค้าทางวัฒนธรรม อย่าทำให้ชุมชนกลายเป็นโรงงานอุตสาหกรรมแข่งกับเจ้าใหญ่ เพราะตามธรรมชาติแล้วผู้ซื้อจะตัดสินใจซื้อจากราคา ความคุ้นเคยกับแบรนด์ แต่ปัจจุบันสินค้าชุมชนขายผ่านคนกลางโดยไม่รู้ว่าขายได้หรือไม่หรือรู้จักแบรนด์เหล่านี้อย่างไร
ต่อไปจะกลับมาทบทวนวิธี เรื่องแรก “จำหน่ายใหม่” โดยมีเรื่องเล่าและทำการตลาดให้เกิดความน่าสนใจ สร้างแรงจูงใจให้คนซื้อโดยอัตโนมัติ ผนวกกับเรื่องที่ 2 การบ่งบอกถึง “วิธีผลิต” อย่างเหมาะสม เช่น การสาธิตปั้นและเผาเบญจรงค์ การเขียนลายชามคโลก สร้างประสบการณ์ให้คนเรียนรู้มีส่วนร่วมจึงเกิดความรู้สึกอยากซื้อโดยไม่เสียดายเงิน เนื่องจากเป็นฝีมือของนักท่องเที่ยวทำขึ้นเองมีชิ้นเดียวในโลก เรื่องที่ 3 “หีบห่อหรือแพกเกจบรรจุสินค้า” ควรนำวัสดุจากท้องถิ่นมาดัดแปลงด้วยภูมิปัญญาสร้างความเก๋ไก๋ขึ้นมาอย่าง ชะลอม สุ่มจับปลา แปลงโฉมเป็นตะกร้าเล็ก ๆ ใส่สินค้าแปรรูปการเกษตร โดยภาพรวมต้องยกกลิ่นอายของท้องถิ่นมาไว้ในสินค้าทุกชิ้นเพื่อสะท้อนถึงรากวัฒนธรรมของตนเอง แล้วสินค้าจะขายได้เอง
นายวีระศักดิกล่าวว่าการเตรียมสร้าง 3 อย่าง 1.ชวนอาเซียนทำการท่องเที่ยวเชื่อมโยงโดยไม่มองประเทศสมาชิกเป็นคู่แข่ง เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวนานาชาติระหว่างอาเซียนด้วยกันที่เข้ามาไทยก็มีปีละเกือบ 10 ล้านคน ตัวอย่างเขตรอยต่อไทย-เมียนมา มีคนขับรถข้ามมาจับจ่ายใช้สอย พักผ่อนแล้วซื้อสินค้ากลับไปเป็นจำนวนมาก แต่ปัจจุบันกฎหมายไทยยังมีข้อจำกัดจนทำให้ชาวเมียนมาแถบพื้นที่รอยต่อใช้จ่ายเงินซื้อของหรือพักอยู่ในไทยได้ไม่เต็มที่ ทั้ง ๆ ที่มีคนชั้นกลางพร้อมใช้เงินอยู่เป็นจำนวนมาก หรือ สปป.ลาวที่เข้ามาช้อปปิ้งที่หนองคาย หรือจีนตอนใต้เข้ามาทางด่านเชียงของ แต่เจอหลายอุปสรรคจนไม่สามารถเข้ามาได้ ทั้ง ๆ ที่ชอบเข้ามาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างข้าวที่นิยมเข้ามาเที่ยวพร้อมกับซื้อกลับบ้านไป
ดังนั้นจึงต้องทำให้ “การบูรณาการค้าตามแนวตะเข็บรอยต่อประเทศ” เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมลดอุปสรรคการใช้จ่ายเงินของเพื่อนบ้านที่ขับรถเข้ามาเที่ยวในเมืองเชื่อมโยงให้เข้มแข็ง เพราะแทนที่ไทยจะต้องไปทำส่งออกเสียค่าใช้จ่ายแต่ถ้าหันมาทำให้นักท่องเที่ยวซื้อสินค้าขนกลับบ้านเองได้จะช่วยเพิ่มเศรษฐกิจเมืองชายแดนได้มากกว่าทุกวันนี้
เรื่องที่ 2 จับมือกับสร้างการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ให้ตระหนักถึงเรื่องลดการเผาป่า อย่างกรณีเกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนต่อคนเมือง ถ้าแก้ไขได้จะดีต่อทั้งนักท่องเที่ยว และอาเซียนด้วยกัน โดยรณรงค์ให้ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโดยไม่สร้างผลกระทบต่อชุมชนหรือเมืองเพิ่มแล้วเข้าไปช่วยเหลือท้องถิ่นซึ่งเป็นเจ้าของทรัพยากรธรรมชาติ จากประสบการณ์ที่มีองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) เป็นที่ยอมรับในระดับสากลถึงการเป็นองค์กรคุณภาพทำชุมชนยั่งยืนได้จริง ๆ
เรื่องที่ 3 การคุ้มครองสื่อสารกันอย่างปลอดภัย เนื่องจากปัจจุบันมีกลุ่มมิจฉาชีพตั้งแก๊งคอล เซ็นเตอร์ หากินด้วยการข้ามแดนไปมา จะใช้เวที ATF 2018 ร่วมมือกันปราบแก๊งหลอกลวงให้สิ้นซาก
ส่วนเรื่องอื่น ๆ รัฐมนตรีอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ บวกกับอีก 3 ประเทศ คือ ญี่ปุ่น เกาหลี จีน จะหารือกันยกระดับอาเซียนเป็นศูนย์กลางของเอเชีย ในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของประเทศไทย จะเสนอนโยบายความร่วมมือทำให้อาเซียน สะดวก สะอาด ปลอดภัย ได้เอกลักษณ์ มีความยั่งยืน ส่วนประเทศสมาชิกและอาเซียนบวก 3 จะเสนอเรื่องใดเข้ามานั้นทางไทยจะฟังแล้วนำไปลงมือทำร่วมกัน เพราะรัฐมนตรีทั้งหมดที่มาร่วมในเวทีดังกล่าวไม่สำคัญจะต้องคล้องแขนแสดงสัญลักษณ์ จับมือถ่ายรูป ล้วนเป็นเรื่องเล็ก
ทว่าได้สั่งการให้ทางจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งจะเป็นสถานที่จัดงาน ATF 2018 ระหว่างวันที่ 24-27 มกราคม 2561 นั้นให้ทุกฝ่ายนำวัตถุดิบท้องถิ่นมาปรุงอาหาร โดยไม่ขัดต่อหลักวัฒนธรรมต่อเพื่อนสมาชิกต่างแดน แต่โชว์ให้เห็น สะอาดตามหลักสากล รายได้รายจ่ายระหว่างการประชุมส่งผ่านตรงไปถึงชุมชนแต่ละแห่ง รวมทั้งสื่อมวลชนที่ติดตามเข้ามาทำงานจะได้ช่วยเผยแพร่ความเป็นเอกลักษณ์ล้านนาด้วยการปรุงและเสิร์ฟแบบล้านนาอย่างแท้จริง โดยมีให้เลือกทั้งแบบโตกอาหารท้องถิ่นและโตกสากล
เป็นภารกิจรับการเปิดศักราชใหม่ 2561 ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่จะต้องลุยปฏิบัติภารกิจขับเคลื่อนนโยบายในประเทศ “กระจายรายได้ท่องเที่ยวเมืองรองและชุมชน” เรื่อยไปจนถึงโชว์ศักยภาพในฐานะเจ้าภาพจัดอีเวนต์สากลต้อนรับสมาชิกที่เข้าร่วมประชุม ASEAN TOURISM FORUM 2018 ในเชียงใหม่ตัวแทนแห่งอาณาจักรล้านนา ซึ่งสามารถใช้โอกาสนี้นำเสนอวัฒนธรรม อาหารถิ่น และวิถีชีวิต เผยแพร่สู่สายตาชาวโลกตอกย้ำความเป็นล้านนาหนึ่งเดียวในโลกที่ยังคงอยู่คู่ประเทศไทยมานับพันปี
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิง เพาเวอร์โหมแจกกะรัตช้อปไม่อั้นฉลองปีใหม่”
วรมาศ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า ได้มอบของขวัญต่อเนื่องให้นักช้อปด้วยแคมเปญ Explore Endlessly Celebration 2018 สามารถช้อปในร้านค้าดิวตี้ฟรี คิง เพาเวอร์ สาขาต่าง ๆ ระหว่างวันนี้ – 17 มกราคม 2561 สามารถรับส่วนลดได้สูงสุดถึง 20 % พร้อมส่วนลด On top จากคะแนนสะสมกะรัต คือ 1 กะรัต (Carat) มีมูลค่าเท่ากับ 1 บาท ซึ่งแลกเป็นส่วนลดได้ไม่จำกัด
รวมทั้งยังมีกิจกรรมแชร์ความสุขตลอดการเดินทาง สามารถร่วมแคมเปญ Samurai WiFi และ Global WiFi โดยนำคะแนนสะสมทุก ๆ 100 กะรัต หรือ Carat Rewards แลกเป็นพ็อกเก็ต WiFi มูลค่า 100 บาท ได้ที่แผนก เมมเบอร์ คลับ สาขา คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และศรีวารี
นอกจากนี้ยังมีแคมเปญ Wrap & Fly เป็นบริการห่อกระเป๋าเดินทางฟรี โดยสามารถใช้คะแนน 120 Carat Rewards แลกรับคูปอง 1 ใบ ได้ที่จุดบริการสมาชิก ชั้น 4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ดูรายละเอียดเพิ่มที่ www.kingpower.com หรอคอ
ข่าวที่ 2 “ททท.งัดMusic Marketingเมืองรองเที่ยวไทย21ม.ค.”
ททท.ไอเดียเจ๋งงัดกลยุทธ์ “Music Marketing” เปิดเกมรุกชิงตลาดใหญ่กลุ่มนักท่องเที่ยวไทย-เทศ เตรียมนำร่อง 12 เพลงเมืองท่องเที่ยวครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ลั่นพร้อมเปิดตัวสร้างความฮือฮาในงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2561” และยึดสวนลุมพินีจำลองศูนย์ข่าวเชิญดีเจดังจัดสด รายการวิทยุ โทรทัศน์ ตลอดงาน 17-21 ม.ค.นี้
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า วางกลยุทธ์เชิงรุกต้อนรับปีจอ 2561 โดยจะสร้างเทรนด์ใหม่ด้วย Music Marketing ใช้เสน่ห์ของกิจกรรมดนตรีกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวคนไทยและต่างประเทศ เตรียมจะเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2561” วันที่ 21 มกราคม 2561 ณ สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร ด้วยอัลบั้มเพลงแหล่งท่องเที่ยวไฮไลต์ อาทิ Mr.กระบี่ ล้านนา Soneta, พรหมเทพ Sunset และMoonlight in อยุธยา
ขณะนี้ได้จับมือกับศิลปินชั้นนำ “โก้ แซกแมน” แต่งเพลงประจำของเมืองท่องเที่ยวแต่ละแห่งที่เป็นไฮไลต์รวม 12 เพลง ผสมผสานกับดนตรีที่สอดคล้องกับอัตลักษณ์ของแต่ละจังหวัดหรือแต่ละเมืองท่องเที่ยว อีกทั้งเตรียมพิจารณาจะนำไปเผยแพร่และแข่งขันในงานดนตรีระดับนานาชาติรายการซึ่งเป็นที่นิยมจัดประกวดในเวทีโลก อย่างการแข่งขันแจ๊สในแถบยุโรป หรือรายการอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพื่อสร้างภาพจำของประเทศไทยในเวทีโลกผ่านการตลาดเชิงดนตรีซึ่งเป็นอีกมิติของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
นายธเนศวร์กล่าวย้ำว่า Music Marketing สามารถที่จะเป็นหนึ่งใน Amazing Thailand : Open to the New Shades ตามกลยุทธ์ตลาดการขายท่องเที่ยวเชิงรุกแนวใหม่ของ ททท.ที่จะเป็นสีสันช่วยกระตุ้นนักท่องเที่ยวคนไทยและทั่วโลกเพิ่มได้อีกช่องทางที่น่าสนใจอย่างมาก
ส่วนในงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2561” ระหว่างวันที่ 17-21 มกราคม นี้ จะเพิ่มสีสันใหม่โชว์เคสต์เรื่องสื่อสารการตลาด โดยใช้พื้นที่สวนลุมพินี สวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางกรุง เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาชม ช้อป ชิม แชร์ ช่วย อย่างสนุกสนาน ไปพร้อม ๆ กับการซึมซับประสบการณ์ตรงจาก “ศูนย์รวมห้องจำลองห้องจัดรายการข่าว” สด ๆ ด้วยการรายงานของทีมวิทยุ โทรทัศน์ พร้อมทั้งจะเชิญดีเจรายการท่องเที่ยวดัง ๆ สลับกันมาจัดรายการสดให้นักท่องเที่ยวที่เข้าชมงานได้สัมผัสของจริง เพื่อให้มีส่วนร่วมระหว่างกัน ซึ่งจะช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจในการถ่ายทอดข้อมูลการท่องเที่ยวให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นต่อไป เนื่องจากปัจจุบันในประเทศไทยมีสื่อแขนงต่าง ๆ หันมาจัดรายการท่องเที่ยวหลากหลายแนวด้วยกัน หากนำมาจำลองจัดแสดงภายในงานจะสื่อสารได้ดีมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
ข่าวที่ 3 “บางจากแจกไม่ยั้งสมาชิกเก่าใหม่รับไปเลย250แต้ม”
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานถึงข่าวดี!! สมาชิกใหม่สมัครบัตรออนไลน์ และ สมาชิกเดิมอัพเดทข้อมูล รับทันที 250 คะแนน (มูลค่า 50 บาท) ตั้งแต่วันนี้– 30 เม.ย. 2561
ด้วยวิธีง่าย ๆ ในการสมัครสมาชิกใหม่ จะได้รับคะแนนสะสม 250 คะแนน ระบบจะโอนข้อมูลเข้าบัตรสมาชิกอัตโนมัติ
ส่วนการ “อัพเดทข้อมูลสมาชิก ได้รับคะแนนสะสม 250 คะแนน โดยคะแนนจะถูกโอนเข้าบัตรสมาชิกอัตโนมัติในวันถัดไป สมาชิกที่เคยได้รับคะแนนพิเศษจากการอัพเดทฐานข้อมูลก่อนหน้า จะไม่ได้รับสิทธิ์นี้ซ้ำ
สอบถามเพิ่มเติม Bangchak Call center โทร.1651
ช่วงที่ 2 มองหาเมืองรองแดนใต้ได้ที่ “นครศรีธรรมราช” จัดเต็มกับคอร์สเที่ยวคลายเครียด เข้าวัด ชิลทะเล พักชุมชนกลางหุบเขา และกินดะอาหารถิ่นซี้ดซ้าด 10 เมนูบ้าน ๆ ที่ต้องชิม ส่วนการดูแลสุขภาพจะพาไปนวดสุขกายสบายอารมณ์ แก้เมื่อยคลายโรค และเสิร์ฟข่าวต้อนรับปีจอ ดุสิตธานี กรุงเทพฯ เลื่อนปิดโรงแรมลงทุนใหม่ไปอีก 1 ปี จากเมษายนปีนี้เป็น 5 มกราคม 2562 ส่วนอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ เคาน์ดาวน์ เมืองรอง 5 พื้นที่ เกินเป้าทั้งจำนวนคนและรายได้สู่ท้องถิ่น ขณะที่รัฐบาลลุงตู่ยังต้องพึ่งท่องเที่ยวอุ้มเศรษฐกิจรากหญ้าต่อไป
@ไปนครศรีล่องทะเล พักชุมชน กินดะทุกเมนูเด็ด
เข้าสู่ปีพุทธศักราช 2561 จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวไฮไลต์มีทั้งเมืองรองและชุมชน ทริปหลังปีใหม่ไปสัมผัสเมืองรอง “นครศรีธรรมราช” ได้กับโปรแกรมพิเศษ “เที่ยวนครศรี วันธรรมดา รักษาโรคเครียด” มีให้เลือก 4 คอร์ส 4 ความสุขด้วยกัน
เริ่มคอร์สแรกด้วย “ใจสงบ” ท่องเที่ยวทำบุญให้จิตใจสงบสบายที่ “วัดพระมหาธาตุ” พร้อมทั้งเดินชมอารยธรรมความงดงามของโบราณสถานยุคก่อนประวัติศาสตร์ สมัยทวารวดีเรื่อยมาถึงรัตนโกสินทร์ เป็นมรดกแห่งประวัติศาสตร์ที่จะช่วยเยียวยาจิตใจได้เป็นอย่างดี
คอร์สที่สอง “อะเมซิ่งขนอม” ท้องทะเลสีครามอันสงบเงียบที่มี “ฝูงโลมาสีชมพู” พร้อมส่งรอยยิ้มต้อนรับนักท่องเที่ยว แถมยังมหาดทรายยาว สลับกับเกาะน้อยใหญ่
คอร์สที่สาม “Must Go Kiriwong” เดินทางไปสูดโอโซนบริสุทธิ์ในชุมชนกลางหุบเขาที่ “หมู่บ้านคีรีวงศ์” แล้วลองไปใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติแบบสโลไลฟ์ ผ่อนคลายสมองและจิตใจเพื่อชาร์ตแบตเตอรี่เข้าสู่ร่างกาย ก่อนจะลุยทำงานหนักต่อตลอดปีจอ
คอร์สที่สี่ “Wow Sichon” ชวนกันไปปั่นสลายความเครียด นำจักรยานคันโปรปั่นไปตามเส้นทางทั่วอำเภอสิชล ซึ่งเต็มไปด้วยเนินแห่งความท้าทายได้ทดสอบกำลังขา พร้อมออกกำลังกายหลั่งสารคลายเครียดออกมาโดยไม่รู้ตัว
เสร็จจากภารกิจเข้าคอร์สคลายเครียดแล้ว ต้องห้ามพลาดชิมอาหารถิ่นรสชาติจัดจ้านในสไตล์แดนใต้ในคอนเซ็ปต์ “หรอยสลายเครียด” ด้วยแต่ละเมนูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แนะนำ เมนูแรก “แกงส้มลูกเขาคัน” เป็นแกงส้มปลาผสมผักพื้นบ้านรสเปรี้ยว ๆ กรุบ ๆ จากลูกเขาคันคล้ายมะเขือพวง ตามด้วย “ขนมจีนน้ำยาเส้นสด” เสิร์ฟพร้อมไข่ต้ม ไก่ทอด ข้าวยำ ข้าวแกงคั่วกลิง ผักสมุนไพรพื้นบ้าน
สำหรับเมนูทะเลรสเด็ด แนะนำให้สั่ง “ซีฟู้ดท่าศาลา” สดจากท่าเรือรับประทานคู่กับน้ำจิ้มรสจัด ในบรรยากาศนั่งชมวิวทะเล และ “กั้งกระเทียมขนอม” ก็เป็นเมนูไฮไลต์ประจำถิ่นที่ต้องสั่งมาชิมให้ได้ จากการปรุงเนื้อกั้งนุ่ม หวาน คลุกเคล้ากระเทียมกรุบกรอบ รสอร่อยคล้ายปูผสมกุ้งเลยทีเดียว
ของหวานประจำเมืองคอนขึ้นชื่อต้องยกให้ “จำปาดะทอด” หอมกลิ่นขนุน กรอบนอก นุ่มใน ละลายในปาก ตามด้วย “มังคุดคัดเสียบไม้” หนึ่งเดียวในโลกรสชาติหวานกรอบติดลิ้น และ “ส้มโอทับทิมสยาม” กลิ่นหอมรสหวานมีวิตามินซีสูง
ตลอดทริปการเที่ยวนครศรีธรรมราช ในวันธรรมดา บรรดาผู้ประกอบการท่องเที่ยว ร้านค้าต่าง ๆ ได้จัดเตรียมความพิเศษไว้ด้วย การนำคูปองรับสิทธิพิเศษฟรี อาทิ เข้าชมฟรีพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาตินครศรีธรรมราช ที่สุดในโลกแห่งการค้นพบศิวลึงค์ทองคำอายุกว่า 1,200 ปี เรียนฟรีการทำผ้าบาติกมัดย้อมที่หมู่บ้านคีรีวงศ์ที่โด่งดังไปทั่วยุโรป ไปเช็คอินที่สมาคมท่องเที่ยวขนอมฟรีแล้วนั่งเรือชมโลมาหรือแลกเป็น USB โลมาสีชมพูก็ได้ จะไปชิมกาแฟร้านโกปี๊ซื้อ 1 แถม 1 แล้วลองไปเล่นฟรี Paddle Board ที่สิชล คาบาน่าบีช รีสอร์ท
ทุก ๆ มุมใหม่เที่ยวเมืองรอง “นครศรีธรรมราช” ตลอดปีจอ 2561 เป็นอีกมิติในไสตล์ Open to The New Shades เสน่ห์เมืองรอง ธรรมชาติวิถีชุมชน คือความสุขที่มีอยู่ทั่วไทย
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานนครศรีธรรมราช และ เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย 1672
@การนวดเพื่อสุขภาพสบายทั้งกายและใจ
การนวดเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยคลายเครียดคลายปวดเมื่อยได้ดีซึ่งคนส่วนใหญ่มักนิยมเข้าร้านนวดแผนไทยหรือสปาแต่สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลามากนักการนวดบำบัดด้วยตัวเองก็ทำได้ สามารถทำได้ทุกเวลา
1.ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดอาการปวดเมื่อยต่างๆ
2.ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตภายในร่างกาย ทำให้มีเลือดไปหล่อเลี้ยงผิวหนัง ช่วยให้ผิวพรรณสดใสเต่งตึง
3.ช่วยในการทำงานของระบบทางเดินอาหาร อันได้แก่ กระเพาะอาหารและลำไส้ ทำให้เจริญอาหาร แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ อีกทั้งยังช่วยให้การขับถ่ายเป็นระบบ
4.ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด ทำให้รู้สึกสดชื่นแจ่มใส
นอกจากประโยชน์ที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว การนวดยังช่วยเรื่องการรักษาอาการเจ็บป่วยที่เกิดจากเส้นเอ็น เลือด ลม เช่น การบำบัดอาการป่วยเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ภาวะข้ออักเสบ ยึดตึงแข็ง หรือเคลื่อน แก้ไขการผิดปกติของกระดูกและกล้ามเนื้อ หลังโก่ง กระดูกคด ไหล่เอียง ฯลฯนวดนวด
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “ดุสิตธานีกรุงเทพฯเลื่อนปิดอีก1 ปีดีเดย์ใหม่ 5 ม.ค.62”
Mr.Lim Boon Kwee ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ได้จัดทำจดหมายส่งถึงยังเครือข่ายภาคีพันธมิตรธุรกิจและแฟนคลับของโรงแรมระบุว่า จะเลื่อนกำหนดการเปิดบริการไปจนถึงวันที่ 5 มกราคม 2562 จากก่อนหน้านี้ฝ่ายบริหารประกาศจะปิดในวันที่ 16 เมษายน 2561 เพื่อทุบอาคารแล้วลงทุนใหม่ทั้งหมดในสไตล์ Mix Use ทำเป็นไอคอนใหม่ของกรุงเทพมหานคร ภายในบริเวณพื้นที่จะมีบริการทั้งห้องพักโรงแรม ห้างสรรพสินค้า ไลฟ์สไตล์ห้องอาหารและเครื่องดื่ม ครบวงจร
ระหว่างที่เลื่อนปิดให้บริการไปอีก 1 ปีข้างหน้านั้น ระหว่างวันนี้ไปจนถึง 5 มกราคม 2562 ดุสิตธานี กรุงเทพฯ ยังคงจัดทำโปรโมชั่นคืนกำไรให้ลูกค้ากลุ่มนักธุรกิจ ผู้จัดงานอีเวนต์ และนักท่องเที่ยว ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ และยังคงสามารถเข้ามาเลือกใช้บริการโรงแรมที่มีเอกลักษณ์ความเป็นไทยมาอย่างยาวนานกันได้ต่อไป
จากนั้นในอีก 2 ปีข้างหน้าคอยพบกับดุสิตธานี กรุงเทพฯ โฉมใหม่ที่จะเนรมิตให้กลายเป็น ไอคอนการท่องเที่ยวหลักของกรุงเทพเมืองมหานครแห่งสีสันของประเทศไทย ที่จะดึงรายได้เข้าประเทศเพิ่มมากขึ้นได้
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DTC เปิดเผยว่า ตามที่ ดุสิตธานี อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ประกาศยุติการให้บริการโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ในช่วงเดือนเมษายน ปี 2561 เพื่อพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบผสม หรือมิกซ์-ยู (Mixed-Use Development) นั้น หลังจากได้พิจารณาปัจจัยแวดล้อม และพิจารณาถึงความสำคัญกับการลงรายละเอียดทั้งการออกแบบและพัฒนาโครงการแล้ว บริษัทฯ จึงตัดสินใจเลื่อนการปิดให้บริการโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ออกไปจากกำหนดเดิม เป็นให้บริการวันสุดท้ายในวันเสาร์ที่ 5 มกราคม 2562 เวลา 14.00 น. ดังนั้น ในปี 2561 นี้ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ จะยังคงเปิดให้บริการอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี
สำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบผสมโครงการนี้ เป็นการร่วมทุนระหว่าง บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) และบริษัท เซ็นทรัล พัฒนา จำกัด (มหาชน) มูลค่า 3.67 หมื่นล้านบาท ขนาดใหญ่ที่สุดของกลุ่มดุสิตธานี เพื่อจะพัฒนาและยกระดับพื้นที่ย่านธุรกิจสำคัญใจกลางกรุงเทพฯ ประกอบไปด้วย โรงแรม อาคารที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน และห้างสรรพสินค้า
ข่าวที่สอง “อะเมซิ่งเคาน์ดาวน์เมืองรองเกินเป้าทุกพื้นที่”
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.กล่าวว่า ตลอดค่ำคืนแห่งการเคาน์ดาวน์ ด้วยแคมเปญจัด Amazing Thailand Countdown 2018 แต่ละพื้นที่ได้รับความสนใจจากนักท่งเกินเป้าหมาย และสามารถสร้างรายได้กระจายทั่วประเทศรวมกว่าหลายพันล้านบาท ใน 5 พื้นที่ไฮไลต์ที่ททท. ชวนนักท่องเที่ยวร่วมนับถอยหลังระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2560 เข้าสู่เช้าวันปีใหม่ 1 มกราคม 2561 ได้แก่ 1.บริเวณข่วงนคร จ.ลำปาง 2.ลานมิ่งเมือง จ.สกลนครเมืองเก่า 3.กาญจนบุรี จัดกิจกรรมที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว 4. ท่าเทียบเรือบ้านเพ จังหวัดระยอง และ 5.บริเวณหอนาฬิกา อาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ถนนถลาง และสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา จังหวัดภูเก็ต
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้ไฮไลต์จัด Amazing Thailand Countdown 2018 เป็นเมืองท่องเที่ยวรองริมชายฝั่งทะเลตะวันออก จัดเป็นครั้งแรกในงาน “ท่องเที่ยวสุขใจรับปีใหม่เก๋ไก๋ที่ระยอง” บริเวณท่าเทียบเรือบ้านเพ อำเภอเมือง โดยได้ออกแบบนำเรือไดหมึกจำนวนกว่าร้อยลำใช้แสงไฟสีเขียวมรกตระยิบระยับของเรืออันสว่างไสวเต็มท้องทะเลเป็นวิถีชีวิตชาวประมงมาสร้างสีสันให้นักท่องเที่ยวตื่นตาตื่นใจการเที่ยวเมืองรอง อีกทั้ง ททท.สำนักงานระยอง ใช้โอกาสงานเคาน์ดาวน์เปิดตัว มาสคอตท่องเที่ยว "MAMAMOOD-มามะหมุด" เป็นผีเสื้อสมุทรสัญลักษณ์เมืองระยองที่จะช่วยประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น
สำหรับสถิติในค่ำคืนเคาน์ดาวน์มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติมาร่วมเคาน์ดาวน์ในระยองเกือบ 20,000 คน ตลอดงานนักท่องเที่ยวเดินชิมอาหารถิ่นที่มีความหลากหลายทั้งของคาวและหวาน รวมทั้งผลิตภัณฑ์โอท็อป เช่น เสื่อกระจูด สมุนไพรไทย ฯลฯ
ทั้งนี้การท่องเที่ยวระยองสามารถทำรายได้เข้าประเทศปีละกว่า 30,000 ล้านบาท ปี 2560 มีนักท่องเที่ยวคนไทย 80 % และต่างชาติ 20 % ในช่วงเทศกาลปีใหม่ มีรัสเซีย ยุโรป ญีปุ่น เข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก
นายธเนศวร์ กล่าวว่าทาง CCTV ได้ใช้งานเคาน์ดาวน์ระยองปีแรก เผยแพร่ประชาสัมพันธ์เชิญชวนนักท่องเที่ยวจีนขยายมาทางฝั่งระยอง ซึ่งมีจุดขายในสไตล์ใหม่ ๆ สอดคล้องตามคอนเซ็ปต์ Open to The News Shades ของ ททท.ปี 2561 อีกทั้งสื่อจีนยังใหความสนใจเกี่ยวกับการเชื่อมความสัมพันธ์ทางการท่องเที่ยวภายใต้นโยบาย One Belt One Road ของรัฐบาลจีน เป็นผลดีต่อเนื่องปี 2561 ททท.จะจัดกิจกรรมสื่อสารการตลาดและกลยุทธ์ต่าง ๆ เชิงรุกนำจีนมาไทยให้ถึงเป้าหมาย 12 ล้านคน จากสถิติ ณ วันที่ 25 ธันวาคม 2560 มีจีนมาเที่ยวเมืองไทยกว่า 9.3 ล้านคน
ข่าวที่สาม “รัฐพึ่งท่องเที่ยวอุ้มเศรษฐกิจฐานรากปี61”
พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าในปี 2561 จะยังคงใช้ทั้งภาคการท่องเที่ยวและการเกษตร เป็นกลไกสำคัญเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจ ตามที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจและแก้ไขปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ทำให้เศรษฐกิจเติบโตและพยายามให้เป็นปีแห่งการขจัดความยากจน ผลักดันเม็ดเงินลงฐานราก กระจายรายได้ลงชุมชน
โดยได้เร่งขยายการลงทุนภาครัฐโครงการใหญ่ ๆ เช่น โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) คาดจะเห็นผลชัดเจนขึ้น เมื่อเริ่มลงทุนภายในไตรมาสที่ 2 ปีนี้
ใช้เวทีATF2018ผนึก10รัฐมนตรีพลิก3เรื่องใหญ่
ช้อปคิงเพาเวอร์โปรแรงใช้กะรัตเพิ่มส่วนลดไม่อั้น
ททท.งัดมิวสิกมาร์เก็ตติ้งสร้างฮือฮา55เมืองรอง
บางจากแจกต่อปีใหม่สมาชิกเก่าใหม่รับแต้มเพียบ
ทัวร์เมืองคอนล่องทะเล/พักชุมชน/หรอยอาหารถิ่น
นวดเพื่อสุขภาพสุขกายสบายใจคลายโรครับปีใหม่
ดุสิตธานีกรุงเทพเลื่อนปิด1ปีทำโปรต่อถึง5มค.62
อะเมซิ่งเคาน์ดาวน์เมืองรองสำเร็จเกินเป้าทุกพื้นที่
รัฐบาลลั่นดันท่องเที่ยวอุ้มเศรษฐกิจรากหญ้าปีจอ
สวัสดีวันเสาร์ที่ 6 มกราคม 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza
ช่วงที่ 1 “วีระศักดิ์ โควสุรัตน์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดนโยบายเชิงรุกต้อนรับศักราชใหม่ปีจอ 2561 แบบ Big Change พลิกจุดแข็งเมืองรอง ชุมชน นำ “ระบบโมเดล” ยักษ์ใหญ่ของโลกทั้ง google, youtube มาสร้าง “เครื่องมือกลาง” เป็นสะพานเชื่อมความสำเร็จระหว่างผู้ให้กับผู้รับผ่านคลินิก @tourism 1 ทำให้ทุกคนกลายเป็นเครือข่ายฮีโร่ช่วยกันซ่อมสร้างแหล่งท่องเที่ยว
พร้อม ๆ กับพลิกแนวการค้า “สินค้าประชารัฐ-โอท็อป” ยกเครื่องใหม่ 3 เรื่อง “ฐานรากผลิตภัณฑ์-วิธีผลิต-บรรจุภัณฑ์” อย่างง่าย ๆ แค่เปิดช่องให้นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วม ต่อไปคนจะซื้อสินค้าโดยไม่เสียดายเงิน จากนั้นจะโชว์ศักยภาพการเป็นเจ้าภาพจัด ASEAN TOURISM FORUM 2018 ระหว่าง 24-27 มกราคม 2561 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ปลุกกระแสรัฐมนตรีอาเซียน 10 ประเทศ กับอาเซียนบวก 3 ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน กอดคอกันปูพรม 3 นโยบายใหญ่ “ท่องเที่ยวเชื่อมโยง-ยั่งยืน-ปลอดภัย” ยกระดับอาเซียนผงาดเป็นดาวเด่นแห่งเอเชีย
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนนโยบายต้อนรับปี 2561 การเร่งผลักดันรายได้ท่องเที่ยวกระจายสู่ 55 เมืองรองและชุมชนท่องเที่ยว สามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักลดหย่อนภาษีและใช้เงินซื้อสินค้าท้องถิ่นจะเป็นส่วนหลักช่วยลดความเหลื่อมล้ำอุดหนุนผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นสร้างคุณค่าทางจิตใจ รวมถึงความสุขที่ได้ช่วยเติมเต็มโดยได้ความรู้สึกของการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมบ้านเมือง
ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมักจะเน้นความสะดวกสบาย ส่งผลให้การลงทุนพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกไปกระจุกตัวอยู่ตามเมืองหลัก นับจากปีนี้เป็นต้นไปการส่งเสริมท่องเที่ยวเมืองรองจะเป็นอีกทางเลือกใหม่ โดยนักท่องเที่ยวจะต้องศึกษาข้อมูลก่อนเดินทางในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับธรรมชาติ ซึ่งมีเสน่ห์อยู่มากมาย เช่นเดียวกันปี 2560 ต่างชาติมาท่องเที่ยวเมืองไทยมากถึง 35 ล้านคน ในจำนวนนี้มาซ้ำถึง 60 % พร้อมที่จะแสวงหาสถานที่ใหม่ในเมืองรอง ส่วนคนไทยเองก็มีพฤติกรรมแชะแชร์ ซึ่งทางกระทรวงจะขยายผลให้คนไทยช่วยกันแชร์สถานที่เพื่อเชิญชวนคนเที่ยวเพิ่มขึ้น
หรือแม้แต่กิจกรรมปัจจุบันไม่ว่าจะเป็น การปั่นจักรยานไปทำซ่อมและทำความสะอาดห้องน้ำตามแหล่งท่องเที่ยว ได้ประโยชน์ทั้งกับชุมชน สิ่งแวดล้อม หรือกลุ่มบิ๊กไบค์ก็สามารถเพิ่มการนำอุปกรณ์ห้องน้ำไปติดตั้งตามสถานที่ต่างๆ นักวิ่งก็ทำกิจกรรมวิ่งไปซ่อมแนวกันไฟป่า โบกปูนสร้างทางลาดเรียบ ๆ ให้เกิดวิ่ง ปีน ป่าย เพื่อคนพิการ ผู้สูงวัย เด็ก ได้ใช้อย่างสะดวกปลอดภัย
หน้าที่ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะต้องเพิ่มภารกิจใหม่ “ร่วมมือกับภาคประชาชน” เพราะปัจจุบันกรมพัฒนาการท่องเที่ยวมีเจ้าหน้าที่เพียง 120 คน ดูแลแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศมากถึง 6,000 แหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย แล้วส่วนใหญ่นั่งอยู่ในกรุงเทพฯ ไม่มีโอกาสไปเฝ้าทะเล น้ำตก ภูเขา
ดังนั้นผมจะนำแนวคิดของ google, youtube มาใช้คือ “สร้างระบบ” มีเรื่องเล่านำคนอยากรู้กับคนอยากเล่ามาเจอกัน สร้างเครื่องมือกลางขึ้นมาเพื่อให้คนอยากรู้ อยากทำความดี อยากรักษา อยากพาเที่ยวมาเจอกัน เป็นนโยบายที่เรียกว่า “คลินิกท่องเที่ยว” เปิดเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ต้นปีจอ ด้วยวิธีใช้อุปกรณ์มือถือทางไลน์เพิ่มเพื่อน “@tourism 1” เป็นศูนย์แจ้งซ่อมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ แล้วเห็นแหล่งใดทรุดโทรมมีปัญหา เกิดความไม่สะดวกให้กดถ่ายรูป บอกโลเกชั่น ส่งมายังไลน์ ซึ่งเป็นวิธีแจ้งตรงถึงเจ้าหน้าที่ เพื่อรวมฐานข้อมูลคาดจะได้นับแสนรูปเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวมีปัญหา แล้วจากนั้นจะมาแบ่งกลุ่มตามลักษณะของอาการปัญหาพร้อมกับใส่เลขประจำตัว 13 หลัก เพื่อให้องค์กรหรือคนกลุ่มต่าง ๆ จองที่จะเข้าไปช่วยฟื้นฟูพัฒนาร่วมกัน ทั้งบริษัท องค์กรปกครองท้องถิ่น และอื่น ๆ รวมทั้งจากองค์กรข้ามชาติเข้ามาร่วมด้วย
เป็นกลยุทธ์แนวใหม่โดยไม่เน้นจำนวนนักท่องเที่ยว หรือการใช้จ่าย แต่จะทำให้เกิด “การมีส่วนร่วมรักษาแหล่งท่องเที่ยว” อย่างเป็นระบบ
นายวีระศักดิ์กล่าวว่า การนำสินค้าประชารัฐ โอท็อป ชุมชน มาวางจำหน่ายนั้น ต้องหันมาทำให้เป็นสินค้าทางวัฒนธรรม อย่าทำให้ชุมชนกลายเป็นโรงงานอุตสาหกรรมแข่งกับเจ้าใหญ่ เพราะตามธรรมชาติแล้วผู้ซื้อจะตัดสินใจซื้อจากราคา ความคุ้นเคยกับแบรนด์ แต่ปัจจุบันสินค้าชุมชนขายผ่านคนกลางโดยไม่รู้ว่าขายได้หรือไม่หรือรู้จักแบรนด์เหล่านี้อย่างไร
ต่อไปจะกลับมาทบทวนวิธี เรื่องแรก “จำหน่ายใหม่” โดยมีเรื่องเล่าและทำการตลาดให้เกิดความน่าสนใจ สร้างแรงจูงใจให้คนซื้อโดยอัตโนมัติ ผนวกกับเรื่องที่ 2 การบ่งบอกถึง “วิธีผลิต” อย่างเหมาะสม เช่น การสาธิตปั้นและเผาเบญจรงค์ การเขียนลายชามคโลก สร้างประสบการณ์ให้คนเรียนรู้มีส่วนร่วมจึงเกิดความรู้สึกอยากซื้อโดยไม่เสียดายเงิน เนื่องจากเป็นฝีมือของนักท่องเที่ยวทำขึ้นเองมีชิ้นเดียวในโลก เรื่องที่ 3 “หีบห่อหรือแพกเกจบรรจุสินค้า” ควรนำวัสดุจากท้องถิ่นมาดัดแปลงด้วยภูมิปัญญาสร้างความเก๋ไก๋ขึ้นมาอย่าง ชะลอม สุ่มจับปลา แปลงโฉมเป็นตะกร้าเล็ก ๆ ใส่สินค้าแปรรูปการเกษตร โดยภาพรวมต้องยกกลิ่นอายของท้องถิ่นมาไว้ในสินค้าทุกชิ้นเพื่อสะท้อนถึงรากวัฒนธรรมของตนเอง แล้วสินค้าจะขายได้เอง
นายวีระศักดิกล่าวว่าการเตรียมสร้าง 3 อย่าง 1.ชวนอาเซียนทำการท่องเที่ยวเชื่อมโยงโดยไม่มองประเทศสมาชิกเป็นคู่แข่ง เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวนานาชาติระหว่างอาเซียนด้วยกันที่เข้ามาไทยก็มีปีละเกือบ 10 ล้านคน ตัวอย่างเขตรอยต่อไทย-เมียนมา มีคนขับรถข้ามมาจับจ่ายใช้สอย พักผ่อนแล้วซื้อสินค้ากลับไปเป็นจำนวนมาก แต่ปัจจุบันกฎหมายไทยยังมีข้อจำกัดจนทำให้ชาวเมียนมาแถบพื้นที่รอยต่อใช้จ่ายเงินซื้อของหรือพักอยู่ในไทยได้ไม่เต็มที่ ทั้ง ๆ ที่มีคนชั้นกลางพร้อมใช้เงินอยู่เป็นจำนวนมาก หรือ สปป.ลาวที่เข้ามาช้อปปิ้งที่หนองคาย หรือจีนตอนใต้เข้ามาทางด่านเชียงของ แต่เจอหลายอุปสรรคจนไม่สามารถเข้ามาได้ ทั้ง ๆ ที่ชอบเข้ามาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างข้าวที่นิยมเข้ามาเที่ยวพร้อมกับซื้อกลับบ้านไป
ดังนั้นจึงต้องทำให้ “การบูรณาการค้าตามแนวตะเข็บรอยต่อประเทศ” เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมลดอุปสรรคการใช้จ่ายเงินของเพื่อนบ้านที่ขับรถเข้ามาเที่ยวในเมืองเชื่อมโยงให้เข้มแข็ง เพราะแทนที่ไทยจะต้องไปทำส่งออกเสียค่าใช้จ่ายแต่ถ้าหันมาทำให้นักท่องเที่ยวซื้อสินค้าขนกลับบ้านเองได้จะช่วยเพิ่มเศรษฐกิจเมืองชายแดนได้มากกว่าทุกวันนี้
เรื่องที่ 2 จับมือกับสร้างการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ให้ตระหนักถึงเรื่องลดการเผาป่า อย่างกรณีเกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนต่อคนเมือง ถ้าแก้ไขได้จะดีต่อทั้งนักท่องเที่ยว และอาเซียนด้วยกัน โดยรณรงค์ให้ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโดยไม่สร้างผลกระทบต่อชุมชนหรือเมืองเพิ่มแล้วเข้าไปช่วยเหลือท้องถิ่นซึ่งเป็นเจ้าของทรัพยากรธรรมชาติ จากประสบการณ์ที่มีองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) เป็นที่ยอมรับในระดับสากลถึงการเป็นองค์กรคุณภาพทำชุมชนยั่งยืนได้จริง ๆ
เรื่องที่ 3 การคุ้มครองสื่อสารกันอย่างปลอดภัย เนื่องจากปัจจุบันมีกลุ่มมิจฉาชีพตั้งแก๊งคอล เซ็นเตอร์ หากินด้วยการข้ามแดนไปมา จะใช้เวที ATF 2018 ร่วมมือกันปราบแก๊งหลอกลวงให้สิ้นซาก
ส่วนเรื่องอื่น ๆ รัฐมนตรีอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ บวกกับอีก 3 ประเทศ คือ ญี่ปุ่น เกาหลี จีน จะหารือกันยกระดับอาเซียนเป็นศูนย์กลางของเอเชีย ในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของประเทศไทย จะเสนอนโยบายความร่วมมือทำให้อาเซียน สะดวก สะอาด ปลอดภัย ได้เอกลักษณ์ มีความยั่งยืน ส่วนประเทศสมาชิกและอาเซียนบวก 3 จะเสนอเรื่องใดเข้ามานั้นทางไทยจะฟังแล้วนำไปลงมือทำร่วมกัน เพราะรัฐมนตรีทั้งหมดที่มาร่วมในเวทีดังกล่าวไม่สำคัญจะต้องคล้องแขนแสดงสัญลักษณ์ จับมือถ่ายรูป ล้วนเป็นเรื่องเล็ก
ทว่าได้สั่งการให้ทางจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งจะเป็นสถานที่จัดงาน ATF 2018 ระหว่างวันที่ 24-27 มกราคม 2561 นั้นให้ทุกฝ่ายนำวัตถุดิบท้องถิ่นมาปรุงอาหาร โดยไม่ขัดต่อหลักวัฒนธรรมต่อเพื่อนสมาชิกต่างแดน แต่โชว์ให้เห็น สะอาดตามหลักสากล รายได้รายจ่ายระหว่างการประชุมส่งผ่านตรงไปถึงชุมชนแต่ละแห่ง รวมทั้งสื่อมวลชนที่ติดตามเข้ามาทำงานจะได้ช่วยเผยแพร่ความเป็นเอกลักษณ์ล้านนาด้วยการปรุงและเสิร์ฟแบบล้านนาอย่างแท้จริง โดยมีให้เลือกทั้งแบบโตกอาหารท้องถิ่นและโตกสากล
เป็นภารกิจรับการเปิดศักราชใหม่ 2561 ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่จะต้องลุยปฏิบัติภารกิจขับเคลื่อนนโยบายในประเทศ “กระจายรายได้ท่องเที่ยวเมืองรองและชุมชน” เรื่อยไปจนถึงโชว์ศักยภาพในฐานะเจ้าภาพจัดอีเวนต์สากลต้อนรับสมาชิกที่เข้าร่วมประชุม ASEAN TOURISM FORUM 2018 ในเชียงใหม่ตัวแทนแห่งอาณาจักรล้านนา ซึ่งสามารถใช้โอกาสนี้นำเสนอวัฒนธรรม อาหารถิ่น และวิถีชีวิต เผยแพร่สู่สายตาชาวโลกตอกย้ำความเป็นล้านนาหนึ่งเดียวในโลกที่ยังคงอยู่คู่ประเทศไทยมานับพันปี
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิง เพาเวอร์โหมแจกกะรัตช้อปไม่อั้นฉลองปีใหม่”
วรมาศ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า ได้มอบของขวัญต่อเนื่องให้นักช้อปด้วยแคมเปญ Explore Endlessly Celebration 2018 สามารถช้อปในร้านค้าดิวตี้ฟรี คิง เพาเวอร์ สาขาต่าง ๆ ระหว่างวันนี้ – 17 มกราคม 2561 สามารถรับส่วนลดได้สูงสุดถึง 20 % พร้อมส่วนลด On top จากคะแนนสะสมกะรัต คือ 1 กะรัต (Carat) มีมูลค่าเท่ากับ 1 บาท ซึ่งแลกเป็นส่วนลดได้ไม่จำกัด
รวมทั้งยังมีกิจกรรมแชร์ความสุขตลอดการเดินทาง สามารถร่วมแคมเปญ Samurai WiFi และ Global WiFi โดยนำคะแนนสะสมทุก ๆ 100 กะรัต หรือ Carat Rewards แลกเป็นพ็อกเก็ต WiFi มูลค่า 100 บาท ได้ที่แผนก เมมเบอร์ คลับ สาขา คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และศรีวารี
นอกจากนี้ยังมีแคมเปญ Wrap & Fly เป็นบริการห่อกระเป๋าเดินทางฟรี โดยสามารถใช้คะแนน 120 Carat Rewards แลกรับคูปอง 1 ใบ ได้ที่จุดบริการสมาชิก ชั้น 4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ดูรายละเอียดเพิ่มที่ www.kingpower.com หรอคอ
ข่าวที่ 2 “ททท.งัดMusic Marketingเมืองรองเที่ยวไทย21ม.ค.”
ททท.ไอเดียเจ๋งงัดกลยุทธ์ “Music Marketing” เปิดเกมรุกชิงตลาดใหญ่กลุ่มนักท่องเที่ยวไทย-เทศ เตรียมนำร่อง 12 เพลงเมืองท่องเที่ยวครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ลั่นพร้อมเปิดตัวสร้างความฮือฮาในงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2561” และยึดสวนลุมพินีจำลองศูนย์ข่าวเชิญดีเจดังจัดสด รายการวิทยุ โทรทัศน์ ตลอดงาน 17-21 ม.ค.นี้
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า วางกลยุทธ์เชิงรุกต้อนรับปีจอ 2561 โดยจะสร้างเทรนด์ใหม่ด้วย Music Marketing ใช้เสน่ห์ของกิจกรรมดนตรีกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวคนไทยและต่างประเทศ เตรียมจะเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2561” วันที่ 21 มกราคม 2561 ณ สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร ด้วยอัลบั้มเพลงแหล่งท่องเที่ยวไฮไลต์ อาทิ Mr.กระบี่ ล้านนา Soneta, พรหมเทพ Sunset และMoonlight in อยุธยา
ขณะนี้ได้จับมือกับศิลปินชั้นนำ “โก้ แซกแมน” แต่งเพลงประจำของเมืองท่องเที่ยวแต่ละแห่งที่เป็นไฮไลต์รวม 12 เพลง ผสมผสานกับดนตรีที่สอดคล้องกับอัตลักษณ์ของแต่ละจังหวัดหรือแต่ละเมืองท่องเที่ยว อีกทั้งเตรียมพิจารณาจะนำไปเผยแพร่และแข่งขันในงานดนตรีระดับนานาชาติรายการซึ่งเป็นที่นิยมจัดประกวดในเวทีโลก อย่างการแข่งขันแจ๊สในแถบยุโรป หรือรายการอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพื่อสร้างภาพจำของประเทศไทยในเวทีโลกผ่านการตลาดเชิงดนตรีซึ่งเป็นอีกมิติของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
นายธเนศวร์กล่าวย้ำว่า Music Marketing สามารถที่จะเป็นหนึ่งใน Amazing Thailand : Open to the New Shades ตามกลยุทธ์ตลาดการขายท่องเที่ยวเชิงรุกแนวใหม่ของ ททท.ที่จะเป็นสีสันช่วยกระตุ้นนักท่องเที่ยวคนไทยและทั่วโลกเพิ่มได้อีกช่องทางที่น่าสนใจอย่างมาก
ส่วนในงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2561” ระหว่างวันที่ 17-21 มกราคม นี้ จะเพิ่มสีสันใหม่โชว์เคสต์เรื่องสื่อสารการตลาด โดยใช้พื้นที่สวนลุมพินี สวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางกรุง เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาชม ช้อป ชิม แชร์ ช่วย อย่างสนุกสนาน ไปพร้อม ๆ กับการซึมซับประสบการณ์ตรงจาก “ศูนย์รวมห้องจำลองห้องจัดรายการข่าว” สด ๆ ด้วยการรายงานของทีมวิทยุ โทรทัศน์ พร้อมทั้งจะเชิญดีเจรายการท่องเที่ยวดัง ๆ สลับกันมาจัดรายการสดให้นักท่องเที่ยวที่เข้าชมงานได้สัมผัสของจริง เพื่อให้มีส่วนร่วมระหว่างกัน ซึ่งจะช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจในการถ่ายทอดข้อมูลการท่องเที่ยวให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นต่อไป เนื่องจากปัจจุบันในประเทศไทยมีสื่อแขนงต่าง ๆ หันมาจัดรายการท่องเที่ยวหลากหลายแนวด้วยกัน หากนำมาจำลองจัดแสดงภายในงานจะสื่อสารได้ดีมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
ข่าวที่ 3 “บางจากแจกไม่ยั้งสมาชิกเก่าใหม่รับไปเลย250แต้ม”
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานถึงข่าวดี!! สมาชิกใหม่สมัครบัตรออนไลน์ และ สมาชิกเดิมอัพเดทข้อมูล รับทันที 250 คะแนน (มูลค่า 50 บาท) ตั้งแต่วันนี้– 30 เม.ย. 2561
ด้วยวิธีง่าย ๆ ในการสมัครสมาชิกใหม่ จะได้รับคะแนนสะสม 250 คะแนน ระบบจะโอนข้อมูลเข้าบัตรสมาชิกอัตโนมัติ
ส่วนการ “อัพเดทข้อมูลสมาชิก ได้รับคะแนนสะสม 250 คะแนน โดยคะแนนจะถูกโอนเข้าบัตรสมาชิกอัตโนมัติในวันถัดไป สมาชิกที่เคยได้รับคะแนนพิเศษจากการอัพเดทฐานข้อมูลก่อนหน้า จะไม่ได้รับสิทธิ์นี้ซ้ำ
สอบถามเพิ่มเติม Bangchak Call center โทร.1651
ช่วงที่ 2 มองหาเมืองรองแดนใต้ได้ที่ “นครศรีธรรมราช” จัดเต็มกับคอร์สเที่ยวคลายเครียด เข้าวัด ชิลทะเล พักชุมชนกลางหุบเขา และกินดะอาหารถิ่นซี้ดซ้าด 10 เมนูบ้าน ๆ ที่ต้องชิม ส่วนการดูแลสุขภาพจะพาไปนวดสุขกายสบายอารมณ์ แก้เมื่อยคลายโรค และเสิร์ฟข่าวต้อนรับปีจอ ดุสิตธานี กรุงเทพฯ เลื่อนปิดโรงแรมลงทุนใหม่ไปอีก 1 ปี จากเมษายนปีนี้เป็น 5 มกราคม 2562 ส่วนอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ เคาน์ดาวน์ เมืองรอง 5 พื้นที่ เกินเป้าทั้งจำนวนคนและรายได้สู่ท้องถิ่น ขณะที่รัฐบาลลุงตู่ยังต้องพึ่งท่องเที่ยวอุ้มเศรษฐกิจรากหญ้าต่อไป
@ไปนครศรีล่องทะเล พักชุมชน กินดะทุกเมนูเด็ด
เข้าสู่ปีพุทธศักราช 2561 จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวไฮไลต์มีทั้งเมืองรองและชุมชน ทริปหลังปีใหม่ไปสัมผัสเมืองรอง “นครศรีธรรมราช” ได้กับโปรแกรมพิเศษ “เที่ยวนครศรี วันธรรมดา รักษาโรคเครียด” มีให้เลือก 4 คอร์ส 4 ความสุขด้วยกัน
เริ่มคอร์สแรกด้วย “ใจสงบ” ท่องเที่ยวทำบุญให้จิตใจสงบสบายที่ “วัดพระมหาธาตุ” พร้อมทั้งเดินชมอารยธรรมความงดงามของโบราณสถานยุคก่อนประวัติศาสตร์ สมัยทวารวดีเรื่อยมาถึงรัตนโกสินทร์ เป็นมรดกแห่งประวัติศาสตร์ที่จะช่วยเยียวยาจิตใจได้เป็นอย่างดี
คอร์สที่สอง “อะเมซิ่งขนอม” ท้องทะเลสีครามอันสงบเงียบที่มี “ฝูงโลมาสีชมพู” พร้อมส่งรอยยิ้มต้อนรับนักท่องเที่ยว แถมยังมหาดทรายยาว สลับกับเกาะน้อยใหญ่
คอร์สที่สาม “Must Go Kiriwong” เดินทางไปสูดโอโซนบริสุทธิ์ในชุมชนกลางหุบเขาที่ “หมู่บ้านคีรีวงศ์” แล้วลองไปใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติแบบสโลไลฟ์ ผ่อนคลายสมองและจิตใจเพื่อชาร์ตแบตเตอรี่เข้าสู่ร่างกาย ก่อนจะลุยทำงานหนักต่อตลอดปีจอ
คอร์สที่สี่ “Wow Sichon” ชวนกันไปปั่นสลายความเครียด นำจักรยานคันโปรปั่นไปตามเส้นทางทั่วอำเภอสิชล ซึ่งเต็มไปด้วยเนินแห่งความท้าทายได้ทดสอบกำลังขา พร้อมออกกำลังกายหลั่งสารคลายเครียดออกมาโดยไม่รู้ตัว
เสร็จจากภารกิจเข้าคอร์สคลายเครียดแล้ว ต้องห้ามพลาดชิมอาหารถิ่นรสชาติจัดจ้านในสไตล์แดนใต้ในคอนเซ็ปต์ “หรอยสลายเครียด” ด้วยแต่ละเมนูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แนะนำ เมนูแรก “แกงส้มลูกเขาคัน” เป็นแกงส้มปลาผสมผักพื้นบ้านรสเปรี้ยว ๆ กรุบ ๆ จากลูกเขาคันคล้ายมะเขือพวง ตามด้วย “ขนมจีนน้ำยาเส้นสด” เสิร์ฟพร้อมไข่ต้ม ไก่ทอด ข้าวยำ ข้าวแกงคั่วกลิง ผักสมุนไพรพื้นบ้าน
สำหรับเมนูทะเลรสเด็ด แนะนำให้สั่ง “ซีฟู้ดท่าศาลา” สดจากท่าเรือรับประทานคู่กับน้ำจิ้มรสจัด ในบรรยากาศนั่งชมวิวทะเล และ “กั้งกระเทียมขนอม” ก็เป็นเมนูไฮไลต์ประจำถิ่นที่ต้องสั่งมาชิมให้ได้ จากการปรุงเนื้อกั้งนุ่ม หวาน คลุกเคล้ากระเทียมกรุบกรอบ รสอร่อยคล้ายปูผสมกุ้งเลยทีเดียว
ของหวานประจำเมืองคอนขึ้นชื่อต้องยกให้ “จำปาดะทอด” หอมกลิ่นขนุน กรอบนอก นุ่มใน ละลายในปาก ตามด้วย “มังคุดคัดเสียบไม้” หนึ่งเดียวในโลกรสชาติหวานกรอบติดลิ้น และ “ส้มโอทับทิมสยาม” กลิ่นหอมรสหวานมีวิตามินซีสูง
ตลอดทริปการเที่ยวนครศรีธรรมราช ในวันธรรมดา บรรดาผู้ประกอบการท่องเที่ยว ร้านค้าต่าง ๆ ได้จัดเตรียมความพิเศษไว้ด้วย การนำคูปองรับสิทธิพิเศษฟรี อาทิ เข้าชมฟรีพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาตินครศรีธรรมราช ที่สุดในโลกแห่งการค้นพบศิวลึงค์ทองคำอายุกว่า 1,200 ปี เรียนฟรีการทำผ้าบาติกมัดย้อมที่หมู่บ้านคีรีวงศ์ที่โด่งดังไปทั่วยุโรป ไปเช็คอินที่สมาคมท่องเที่ยวขนอมฟรีแล้วนั่งเรือชมโลมาหรือแลกเป็น USB โลมาสีชมพูก็ได้ จะไปชิมกาแฟร้านโกปี๊ซื้อ 1 แถม 1 แล้วลองไปเล่นฟรี Paddle Board ที่สิชล คาบาน่าบีช รีสอร์ท
ทุก ๆ มุมใหม่เที่ยวเมืองรอง “นครศรีธรรมราช” ตลอดปีจอ 2561 เป็นอีกมิติในไสตล์ Open to The New Shades เสน่ห์เมืองรอง ธรรมชาติวิถีชุมชน คือความสุขที่มีอยู่ทั่วไทย
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานนครศรีธรรมราช และ เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย 1672
@การนวดเพื่อสุขภาพสบายทั้งกายและใจ
การนวดเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยคลายเครียดคลายปวดเมื่อยได้ดีซึ่งคนส่วนใหญ่มักนิยมเข้าร้านนวดแผนไทยหรือสปาแต่สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลามากนักการนวดบำบัดด้วยตัวเองก็ทำได้ สามารถทำได้ทุกเวลา
1.ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดอาการปวดเมื่อยต่างๆ
2.ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตภายในร่างกาย ทำให้มีเลือดไปหล่อเลี้ยงผิวหนัง ช่วยให้ผิวพรรณสดใสเต่งตึง
3.ช่วยในการทำงานของระบบทางเดินอาหาร อันได้แก่ กระเพาะอาหารและลำไส้ ทำให้เจริญอาหาร แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ อีกทั้งยังช่วยให้การขับถ่ายเป็นระบบ
4.ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด ทำให้รู้สึกสดชื่นแจ่มใส
นอกจากประโยชน์ที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว การนวดยังช่วยเรื่องการรักษาอาการเจ็บป่วยที่เกิดจากเส้นเอ็น เลือด ลม เช่น การบำบัดอาการป่วยเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ภาวะข้ออักเสบ ยึดตึงแข็ง หรือเคลื่อน แก้ไขการผิดปกติของกระดูกและกล้ามเนื้อ หลังโก่ง กระดูกคด ไหล่เอียง ฯลฯนวดนวด
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “ดุสิตธานีกรุงเทพฯเลื่อนปิดอีก1 ปีดีเดย์ใหม่ 5 ม.ค.62”
Mr.Lim Boon Kwee ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ได้จัดทำจดหมายส่งถึงยังเครือข่ายภาคีพันธมิตรธุรกิจและแฟนคลับของโรงแรมระบุว่า จะเลื่อนกำหนดการเปิดบริการไปจนถึงวันที่ 5 มกราคม 2562 จากก่อนหน้านี้ฝ่ายบริหารประกาศจะปิดในวันที่ 16 เมษายน 2561 เพื่อทุบอาคารแล้วลงทุนใหม่ทั้งหมดในสไตล์ Mix Use ทำเป็นไอคอนใหม่ของกรุงเทพมหานคร ภายในบริเวณพื้นที่จะมีบริการทั้งห้องพักโรงแรม ห้างสรรพสินค้า ไลฟ์สไตล์ห้องอาหารและเครื่องดื่ม ครบวงจร
ระหว่างที่เลื่อนปิดให้บริการไปอีก 1 ปีข้างหน้านั้น ระหว่างวันนี้ไปจนถึง 5 มกราคม 2562 ดุสิตธานี กรุงเทพฯ ยังคงจัดทำโปรโมชั่นคืนกำไรให้ลูกค้ากลุ่มนักธุรกิจ ผู้จัดงานอีเวนต์ และนักท่องเที่ยว ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ และยังคงสามารถเข้ามาเลือกใช้บริการโรงแรมที่มีเอกลักษณ์ความเป็นไทยมาอย่างยาวนานกันได้ต่อไป
จากนั้นในอีก 2 ปีข้างหน้าคอยพบกับดุสิตธานี กรุงเทพฯ โฉมใหม่ที่จะเนรมิตให้กลายเป็น ไอคอนการท่องเที่ยวหลักของกรุงเทพเมืองมหานครแห่งสีสันของประเทศไทย ที่จะดึงรายได้เข้าประเทศเพิ่มมากขึ้นได้
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DTC เปิดเผยว่า ตามที่ ดุสิตธานี อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ประกาศยุติการให้บริการโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ในช่วงเดือนเมษายน ปี 2561 เพื่อพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบผสม หรือมิกซ์-ยู (Mixed-Use Development) นั้น หลังจากได้พิจารณาปัจจัยแวดล้อม และพิจารณาถึงความสำคัญกับการลงรายละเอียดทั้งการออกแบบและพัฒนาโครงการแล้ว บริษัทฯ จึงตัดสินใจเลื่อนการปิดให้บริการโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ออกไปจากกำหนดเดิม เป็นให้บริการวันสุดท้ายในวันเสาร์ที่ 5 มกราคม 2562 เวลา 14.00 น. ดังนั้น ในปี 2561 นี้ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ จะยังคงเปิดให้บริการอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี
สำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบผสมโครงการนี้ เป็นการร่วมทุนระหว่าง บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) และบริษัท เซ็นทรัล พัฒนา จำกัด (มหาชน) มูลค่า 3.67 หมื่นล้านบาท ขนาดใหญ่ที่สุดของกลุ่มดุสิตธานี เพื่อจะพัฒนาและยกระดับพื้นที่ย่านธุรกิจสำคัญใจกลางกรุงเทพฯ ประกอบไปด้วย โรงแรม อาคารที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน และห้างสรรพสินค้า
ข่าวที่สอง “อะเมซิ่งเคาน์ดาวน์เมืองรองเกินเป้าทุกพื้นที่”
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.กล่าวว่า ตลอดค่ำคืนแห่งการเคาน์ดาวน์ ด้วยแคมเปญจัด Amazing Thailand Countdown 2018 แต่ละพื้นที่ได้รับความสนใจจากนักท่งเกินเป้าหมาย และสามารถสร้างรายได้กระจายทั่วประเทศรวมกว่าหลายพันล้านบาท ใน 5 พื้นที่ไฮไลต์ที่ททท. ชวนนักท่องเที่ยวร่วมนับถอยหลังระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2560 เข้าสู่เช้าวันปีใหม่ 1 มกราคม 2561 ได้แก่ 1.บริเวณข่วงนคร จ.ลำปาง 2.ลานมิ่งเมือง จ.สกลนครเมืองเก่า 3.กาญจนบุรี จัดกิจกรรมที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว 4. ท่าเทียบเรือบ้านเพ จังหวัดระยอง และ 5.บริเวณหอนาฬิกา อาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ถนนถลาง และสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา จังหวัดภูเก็ต
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้ไฮไลต์จัด Amazing Thailand Countdown 2018 เป็นเมืองท่องเที่ยวรองริมชายฝั่งทะเลตะวันออก จัดเป็นครั้งแรกในงาน “ท่องเที่ยวสุขใจรับปีใหม่เก๋ไก๋ที่ระยอง” บริเวณท่าเทียบเรือบ้านเพ อำเภอเมือง โดยได้ออกแบบนำเรือไดหมึกจำนวนกว่าร้อยลำใช้แสงไฟสีเขียวมรกตระยิบระยับของเรืออันสว่างไสวเต็มท้องทะเลเป็นวิถีชีวิตชาวประมงมาสร้างสีสันให้นักท่องเที่ยวตื่นตาตื่นใจการเที่ยวเมืองรอง อีกทั้ง ททท.สำนักงานระยอง ใช้โอกาสงานเคาน์ดาวน์เปิดตัว มาสคอตท่องเที่ยว "MAMAMOOD-มามะหมุด" เป็นผีเสื้อสมุทรสัญลักษณ์เมืองระยองที่จะช่วยประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น
สำหรับสถิติในค่ำคืนเคาน์ดาวน์มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติมาร่วมเคาน์ดาวน์ในระยองเกือบ 20,000 คน ตลอดงานนักท่องเที่ยวเดินชิมอาหารถิ่นที่มีความหลากหลายทั้งของคาวและหวาน รวมทั้งผลิตภัณฑ์โอท็อป เช่น เสื่อกระจูด สมุนไพรไทย ฯลฯ
ทั้งนี้การท่องเที่ยวระยองสามารถทำรายได้เข้าประเทศปีละกว่า 30,000 ล้านบาท ปี 2560 มีนักท่องเที่ยวคนไทย 80 % และต่างชาติ 20 % ในช่วงเทศกาลปีใหม่ มีรัสเซีย ยุโรป ญีปุ่น เข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก
นายธเนศวร์ กล่าวว่าทาง CCTV ได้ใช้งานเคาน์ดาวน์ระยองปีแรก เผยแพร่ประชาสัมพันธ์เชิญชวนนักท่องเที่ยวจีนขยายมาทางฝั่งระยอง ซึ่งมีจุดขายในสไตล์ใหม่ ๆ สอดคล้องตามคอนเซ็ปต์ Open to The News Shades ของ ททท.ปี 2561 อีกทั้งสื่อจีนยังใหความสนใจเกี่ยวกับการเชื่อมความสัมพันธ์ทางการท่องเที่ยวภายใต้นโยบาย One Belt One Road ของรัฐบาลจีน เป็นผลดีต่อเนื่องปี 2561 ททท.จะจัดกิจกรรมสื่อสารการตลาดและกลยุทธ์ต่าง ๆ เชิงรุกนำจีนมาไทยให้ถึงเป้าหมาย 12 ล้านคน จากสถิติ ณ วันที่ 25 ธันวาคม 2560 มีจีนมาเที่ยวเมืองไทยกว่า 9.3 ล้านคน
ข่าวที่สาม “รัฐพึ่งท่องเที่ยวอุ้มเศรษฐกิจฐานรากปี61”
พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าในปี 2561 จะยังคงใช้ทั้งภาคการท่องเที่ยวและการเกษตร เป็นกลไกสำคัญเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจ ตามที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจและแก้ไขปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ทำให้เศรษฐกิจเติบโตและพยายามให้เป็นปีแห่งการขจัดความยากจน ผลักดันเม็ดเงินลงฐานราก กระจายรายได้ลงชุมชน
โดยได้เร่งขยายการลงทุนภาครัฐโครงการใหญ่ ๆ เช่น โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) คาดจะเห็นผลชัดเจนขึ้น เมื่อเริ่มลงทุนภายในไตรมาสที่ 2 ปีนี้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น