ททท.ปฏิวัติใหญ่โร้ดโชว์ท่องเที่ยวยุคใหม่ปลาย’61
WTM2018ลุยEAT THAI VISIT THAIวิถีกินวิถีถิ่น
พูลแมนคิงเพาเวอร์ชวนไปห้องอาหารใหม่”เท็นชิโน”
เทศกาลเที่ยวเมืองรองเทแจกเกินล้าน 22-26 ส.ค.
บางจากจัดบิ๊กคลีนต้นแบบลดขยะทำสวยลอยฟ้า
ทอท.ดันบอร์ดอนุมัติ2หมื่นล้านเร่งปรับ3สนามบิน
ชวนกันไปท่องเที่ยวน่านเมืองสะอาดแห่งอาเซียน
ผู้สูงวัยต้องรู้วิธีหลีกเลี่ยงการเข้าสู่โรคกระดูกพรุน
บางกอกแอร์ไตรมาส2ปี61รายได้พุ่ง 1.4หมื่นล้าน
มิวเซียมสยามชวนแม่เที่ยวตลอดสิงหาฟรีทั้งเดือน
รมว.วีระศักดิ์ลุยสร้างเชื่อมั่นท่องเที่ยว3แผนใหญ่
แคนทารีชวนชิมอาหารเม็กซิกันเมืองรองระยอง
ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97
ช่วงที่ 1 ฟังการถอดรหัสตลาดยุคใหม่ได้จาก “ศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์” รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประกาศปฏิวัติการทำโร้ดโชว์ท่องเที่ยวแนวใหม่เต็มรูป เลือกเซกเมนท์ เพิ่มเมืองใหม่ บอกเงื่อนไขและคุณสมบัติกันชัด ๆ เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการไทยต้องเสียเวลา พลิกวิธีขายในตลาดคนรวยกลุ่มเฮลท์ แอนด์ เวลเนส ลักชัวรี่ และตลุยบุกไปขยายฐานเมืองแปลกในรัสเซีย แถบใหม่ในสหราชอาณาจักร ส่วนอเมริกา แคนาดา นอนมา และคอยพบกับโฉมใหม่ของการเข้าร่วม World Travel Mart 2018 พฤศจิกายนนี้ จะนำ EAT THAI VISIT THAI : วิถีกิน วิถีถิ่น ให้กระหึ่มโลก หลังจากที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการนี้ไปเมื่อช่วงกลางปีนี้
นางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าได้ปฏิวัติการจัดทำกลยุทธ์ตลาดครั้งใหญ่ในการรุกขายการท่องเที่ยวไทยใน 4 ทวีป ยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา ขณะนี้ได้ลุยปรับรูปแบบและคอนเซ็ปต์โดยหันไปเน้นพุ่งเป้าเลือกเจาะกลุ่มเซกเมนต์และเลือกบุกเมืองใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น เพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มทั้งกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ผู้ประกอบธุรกิจ
เริ่มจากทำโรดโชว์ท่องเที่ยวในตลาดต่างประเทศ ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2561 นี้เป็นไป ททท.มีโร้ดโชว์จำนวนมากซึ่งจะต้องได้เพิ่มความแตกต่างจากอดีตที่ผ่านมา นั่นคือปัจจุบันต้องคัดเลือกผู้ประกอบการซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มโรงแรมที่มีโปรดักซ์สอดคล้องกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในแต่ละโรดโชว์ที่ลงทุนเดินทางไปทำตลาด จะต้องมุ่งเจาะให้ตรงตามเซกเมนท์ ตัวอย่างเช่น การทำโร้ดโชว์ทางด้าน Health & Wellness ซึ่งมีกลุ่มโรงพยาบาลจากไทยสนใจเข้าร่วมจำนวนมาก แต่เดิมตลาดใหญ่คือตลาดกลุ่มประเทศตะวันออกลาง แต่สภาพปัจจุบันเปลี่ยนไปเนื่องจากกลุ่มประเทศเหล่านี้หันมาลงทุนสร้างโรงพยาบาลและนำเข้าแพทย์จากทั่วโลกเข้าไปอยู่ในประเทศของตน ทำให้ข้าราชการและพนักงานที่เคยเดินทางมารักษาในไทยก็น้อยลง
ดังนั้น ททท.จึงกระตุ้นให้ผู้ประกอบการไทยพลิกรูปแบบการทำตลาด ส่วนที่ 1 ปลุกให้หันมาเน้นการขายโปรดักซ์ทางด้านป้องกันและดูแลสุขภาพแทนการรักษาพยาบาล โดยเพิ่มโปรแกรมการขายทางด้านความงาม การทำโร้ดโชว์จึงต้องเน้นเชิญชวน ผู้ประกอบการคลินิก สถานเสริมความงาม ห้องแล็บ ซึ่งเป็นเรื่องเฉพาะด้าน ม่ใช่กลุ่มผู้ประกอบการที่เน้นการผ่าตัดใหญ่หรือเมดิคัล ร่วมเดินทางไปโร้ดโชว์กับ ททท.ในตลาดกลุ่มตะวันออกกลาง ส่วนที่ 2 การบุกทำโร้ดโชว์ตลาดกลุ่มหรูหราหรือลักชัวรี่ ก็จะคัดเลือกกลุ่มผู้ประกอบการไฮเอนด์จริงไปจับคู่กับตัวแทนผู้ซื้อแต่ละโรดโชว์ ส่วนที่ 3 กลุ่มใหม่เจาะทหารอเมริกัน ซึ่งมีวันหยุด ททท.จะเดินสายไปขายตลาดเหล่านี้
สำหรับการวางรูปแบบเจรจาธุรกิจในแต่ละโร้ดโชว์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ได้ปรับกลยุทธ์วิธีการอย่างชัดเจน คือ
1.จัดทำเป็นสล็อตโดยให้จับคู่เจรจากันได้ครั้งละกี่นาทีก็ว่าไป หรือทำแบบ Free Flow ส่วนที่เพิ่มขึ้นคือเปิดให้มีการทำ Workshop เข้ามาผสมอยู่ในโร้ดโชว์แต่ละครั้ง ซึ่งจะมีผู้ซื้อกับผู้ขาย และ ททท.มานั่งคุยกัน ถึงความต้องการของตลาด วิเคราะห์กลุ่มลูกค้าเฉพาะ กับเทรนด์ใหม่ที่จะเกิดขึ้นมีทิศทางเป็นอย่างไร ทำการวิเคราะห์ข้อมูลจนตกผลึก ซึ่งเป็นวิธีการดีที่สุดกว่าการทำสำรวจหรือวิจัยด้วยซ้ำ เพราะแต่ละเมืองจะได้จับเข่าคุยกันโดยตรง
2.โร้ดโชวเจาะกลุ่มใหม่ ๆ เช่น รัสเซีย เข้าไปยังทางฟาร์อีส เมืองเยกาตาลินเบอร์ก โนโวซีเวียส คาสโวยาส ททท.เริ่มเห็นความต้องการของตลาดนักท่องเที่ยวจากเมืองเหล่านี้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีเที่ยวบินตรงมายังไทย ก็สามารถเพิ่มเที่ยวบินเช่าเหมาลำมาได้ง่ายมากหากเราบูมตลาดสำเร็จ หรือตลาดสหราชอาณาจักร (Unite Kingdom : UK) ก็หันไปบุกเจาะตลาดในเมืองทางด้านใต้มากขึ้น เป็นหมู่เกาะที่คนส่วนใหญ่มีฐานะดีแต่อากาศเย็นเกินไป อย่างเมือง เจอร์นี่ เคอร์นี่ จะไปเสนอขายโปรดักซ์ Sea Sand Sun หรือเมืองทางตอนเหนือของอังกฤษ อย่าง เชสเตอร์ อะเดนเบอระ
ต่อไป ททท.จะเน้นทำโร้ดโชว์จำนวนมาก แต่พุ่งเป้าไปยังพื้นที่เมืองใหม่ๆ และแปลก ๆ ที่จะดึงเข้ามาเพิ่มตามเป้าหมายเชิงนโยบายที่ต้องการ เพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มเดินทางเข้ามาไทยเป็นครั้งแรก (first visit) ส่วนเอเย่นต์ลูกค้าเก่า ๆ ก็จะนำเสนอขายสินค้าใหม่ ๆ Open to the New Shades ซึ่งยังมีอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้ขาย ตัวอย่างกรุงเทพฯ หรือ การจับเข่าหารือ (discussion) กับเอเย่นต์ก็จะทำให้รู้ถึงความต้องการของกลุ่มลูกค้าในเชิงลึกมากขึ้น ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการขายท่องเที่ยว ชุมชน เมืองรอง เมืองหลัก อย่าง ไนท์ทัวร์ ปั่นจักรยานเที่ยวกลางคืน หรือตลาดท้องถิ่น
นางศรีสุดากล่าวว่าการวางแผนทำโร้ดโชว์ ที่เริ่มในเดือนสิงหาคม 2561 เป็นต้นไป เจาะ 3 เมืองรัสเซีย แคนคูน แม็กซิโก อาร์เจนติน่า เดือนตุลาคม ก็มีอิตาลี และพฤศจิกายนนี้ ก็เป็นงาน World Travel Mart 2018
โดย ททท.มีข้อแนะนำเอกชนที่จะเข้าร่วมโร้ดโชว์ต่างประเทศ ซึ่งเปลี่ยนวิธีใหม่ทำให้รับจำนวนจำกัด เพราะเปิดรับสมัครภายในไม่ถึงชั่วโมงก็มีเอกชนสมัครเต็มจำนวนแล้วนั้น ก็ขอให้เอกชนที่สนใจอย่างได้กังวล เพราะยังมีแฟมทริปที่ ททท.จะนำเอเย่นต์ทั่วโลกทยอยเข้ามาสำรวจโปรดักซ์ และทำ Trade meet ด้วย ซึ่งเพิ่มการทำ Mini Talk, Mini Mart โดยให้ผู้ประกอบการระบุคุณสมบัติที่ต้องการจะรับนักท่องเที่ยวเฉพาะเจาะจง เช่น โรงแรมที่รับเฉพาะกลุ่มโรมานซ์ หรือไม่ต้องการรับกลุ่มครอบครัว หรือพร้อมจะรับเด็กเล็กโดยมีพี่เลี้ยงบริการให้ด้วย หรือยินดีต้อนรับกลุ่มนักท่องเที่ยวเกย์ ซึ่งทำเป็น Gay Friendly Hotel ก็ต้องบอกเงื่อนไขและคุณสมบัติเฉพาะเจาะจงให้ชัดเจน เพื่อทำให้การขายง่ายขึ้น
นางศรีสุดา กล่าวถึงว่า ในการเดินหน้าเตรียมนำผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงาน World Travel Mart : WTM 2018 ตอนนี้ลักษณะของตลาดผู้ซื้อใน WTM เปลี่ยนไปแล้ว เพราะส่วนใหญ่จะมีแต่กลุ่มตัวแทนขายตลาดสหราชอาณาจักรเท่านั้น ไม่ได้เวิลด์ไวด์หรือสามารถขายตลาดยุโรปได้ทั้งภูมิภาคเหมือนเดิมอีกแล้ว ดังนั้นหากผู้ประกอบการที่มีลูกค้าหลักเป็นสหราชอาณาจักรก็ควรจะไป ปี 2561 ททท.จึงคัดเอกชนไปร่วมงานเพียง 40 ราย ส่วนผู้ที่จะขายตลาดทั่วโลกแนะนำให้ไปงาน International Travel Berlin : ITB กรุงเบอร์ลิน เยอรมัน เพราะต้องเลือกโปรดักซ์ที่ชัดเจนเจาะได้แบบคมลึก
สิ่งที่ ททท.จะนำเสนอชัดเจนคือ วิถีกิน วิถีถิ่น – Eat Thai Visit Thai โดยได้รับเกียรติจาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดตัวโครงการดังกล่าวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ เพราะในสหราชอาณาจักรมีร้านอาหารไทยกระจายอยู่ทั่วกว่า 1,000 ร้าน จะทำให้อาหารไทยเป็นสะพานเชื่อมมาสู่เรื่องการท่องเที่ยว ปลุกกระแสการกินอาหารถิ่น
โดย ททท.เตรียมเนรมิต ไทยแลนด์ พาวิลเลี่ยน เพื่อการจัดงาน World Travel Mart 2018 ณ กรุงลอนดอน ด้วยการนำคอนเซ็ปต์ วิถีกิน วิถีถิ่น – Eat Thai Visit Thai มาตกแต่งทุกอย่าง เพื่อเดินหน้าเต็มที่ดึงดูดเรื่องการกินอาหารไทย สอดคล้องกับการโปรโมตวิถีไทย เมืองรอง ชุมชนท้องถิ่น เพื่อใช้อาหารการกินเชื่อมโยงการท่องเที่ยวได้สบาย ๆ ทำให้จุดขายโดดเด่นชัดเจน แล้วยังได้ออนท็อป คัดเลือก 3 เซกเมนต์หลัก ประกอบด้วย
1.LGBT เลสเบี้ยน เกย์ ไบเซ็กชวล ทรานฟอร์เมชั่น ซึ่งเป็นเทรนด์มาแรงทั่วโลก ตอนนี้เกย์มีเอเย่นต์ในยุโรปอยู่จำนวนมาก จึงพร้อมจะใช้เวที WTM ปีนี้บอกทั่วโลกไปเลยถึงประเทศไทยยินดีต้อนรับลูกค้ากลุ่มดังกล่าว อีกทั้งไทยยังเคารพเรื่องสิทธิเสรีภาพ โดยจะได้เชิญชวนให้มาพบกับผู้ประกอบการและโปรดักซ์ไทยที่พร้อมรับด้วย
2.กลุ่มมิลเลนเนียล กับเจนวาย นักท่องเที่ยวกลุ่มคนรุ่นใหม่ จะเน้นขายโปรดักซ์เจาะตลาดเกี่ยวกับ ทัศนศึกษา- Educational trip หรือพรีเซนต์เรื่อง Cool Trip ให้กับกลุ่มนักเรียน เยาวชน จะนำผู้ประกอบการมาพบกัน
3.การท่องเที่ยวชุมชนอย่างยั่งยืน ในการนำเสนอขายท่องเที่ยวท้องถิ่น
เป็นกลยุทธ์การสร้างโอกาสทางการตลาดใหม่ ๆ ให้แก่ผู้ประกอบการทั้งฝั่งตัวแทนผู้ขายจากเมืองไทยและการคัดสรรเอเย่นต์คู่ค้าท่องเที่ยวกลุ่มผู้ซื้อจากตลาดสหราชอาณาจักรเข้ามาเจอกันอย่างตรงเป้าหมายชัดเจน
การชูขายเมืองรองจะใช้กลยุทธ์ HUB & HOOK โดยแนะนำการท่องเที่ยวเมืองหลัก เป็น Exite Point เชื่อมโยงการเดินทางไปยังเมืองรอง เช่น เชียงใหม่ Hook ไปยัง เชียงราย แม่ฮ่องสอน ซึ่งมีวิถีชีวิต วัฒนธรรม เป็นของตนเอง ซึ่งโดนใจตลาดอังกฤษ และยุโรป หรือ ททท.สำนักงานสต็อกโฮม ก็ขาย ชุมชนขนอม ผนวก เขาสก จ.นครศรีธรรมราช หรือขายลำปาง บวกสุโขทัย แล้วก็ต้องมีเขียงใหม่รวมอยู่ด้วย หรือทางฝั่งภาคใต้ ระนอง ต้องบวกพังงา เป็นต้น
นางศรีสุดา กล่าวว่าโดยภาพรวมในการดูแลพื้นที่ครอบคลุม 4 ทวีป ก็ยังคงไปได้แบบเรื่อย ๆ ยกเว้นตะวันออกกลาง ประเทศอิหร่านซึ่งถูกแทรกแซงอย่างหนัก และหลายตลาดประสบปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ ต้องพลิกกลยุทธ์หันไปเจาะตลาดศักยภาพคนรวยเป็นหลัก
แต่ในพื้นที่ทวีปอื่น อเมริกา รัสเซีย แคนาดา เติบโตสวยงามแบบหวือหวา ขณะที่ทางยุโรป สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมัน อาจจะเติบโตตามปกติเฉลี่ย 2-3 % ดังนั้นแต่ละสำนักงาน ททท.อาจจะต้องเหนื่อยกันบ้าง เพราะต้องหาตลาดอื่นเข้ามาทดแทนรายได้ส่วนที่ลดลงไป
ทางด้านตลาดตุรกีที่หลายฝ่ายเป็นห่วงสถานการณ์ภายในประเทศจะกระทบเศรษฐกิจทั่วโลกนั้น ปัจจุบันเดินทางมาท่องเที่ยวไทยจำนวนพอสมควรแต่ขนาดไม่ใหญ่มาก แล้วก็ยังคงเติบโตตามปกติ อีกทั้งมีหลายประเทศไปดึงดูดกำลังซื้อเข้าประเทศตนเองอย่างรัสเซีย อย่างไรก็ตามในชั่วโมงนี้ตัวเลขตุรกีเข้าไทยยังคงทรงตัวอยู่ได้โดยไม่ติดลบแต่อย่างใด
ข่าวที่ 1 “พูลแมนคิงเพาเวอร์ชวนชิมอาหารห้องใหม่เท็นชิโนะ”
โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ ในเครือของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ขอแนะนำห้องอาหาร “เท็นชิโนะ” แห่งใหม่ล่าสุดบนชั้น 2 ของโรงแรม ที่ปรุงรสชาติอาหารผ่านแนวคิดเชิงสร้างสรรค์และการตกแต่งที่เปี่ยมเสน่ห์ของเท็นชิโนะ คือจุดแข็งใหม่ของโรงแรมฮิปกลางกรุงอย่างแท้จริง ด้วยดีไซน์ที่เรียบเท่ของโรงแรม สู่บรรยากาศภายในห้องอาหาร ที่ตื่นตาตั้งแต่บาร์เครื่องดื่มขนาดยาว รายล้อมโต๊ะรับประทานอาหารที่มีกลิ่นอายเก๋ๆ ของความเป็นโบฮีเมียน
แนะนำให้ลองเลือกสั่งอาหารจานเด่น หรือ signature dish ซิกเนเจอร์ล้วนโดดเด่นทุกจาน อย่างการนำล็อบสเตอร์สดใหม่มาเสิร์ฟแบบเรียบง่าย แค่ปรุงด้วยซีวีดบัตเตอร์ หรืออย่างเฟตตูชินี เข้มข้นด้วยครีมกำลังดี เสิร์ฟพร้อมอูนิจากฮอกไกโด ส่วนเมนูทางเลือกที่น่าสนใจต้องห้ามพลาดสั่งมาทดลองรับประทาน ก็มี ซาชิมิกับซูชิ ในแต่ละวัน ส่วนขนมก็ต้องยกให้ทีรามิสุส้มยูซุ หรือโมจิถั่วแดงอะซูกิ เสิร์ฟพร้อมชาเขียว ถ้าชอบไอศกรีมต้องชิมคินาโกะและชาเขียว
ข่าวที่ 2 “ททท.เทจัดเที่ยวเมืองรองแจก1ล้านบาท22-26ส.ค.นี้”
นางสุจิตรา จงชาณสิทโธ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เตรียมจัดงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองรอง” ขึ้นเป็นครั้งแรกปลุกกระแสการท่องเที่ยวภายใต้แนวคิด “กล้าให้ลอง...มหัศจรรย์ 55 เมืองรอง ลองไปแล้วจะรู้” ระหว่าง 22 - 26 สิงหาคม 2561 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นำเสนอแพคเก็จท่องเที่ยวเมืองรองในมุมมองใหม่ที่ท้าทายและสัมผัสความเป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่แต่ละภูมิภาค ทั้งด้านวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต ภูมิปัญญาท้องถิ่นและเส้นทางท่องเที่ยวชุมชน
โดยได้ระดมโปรดักซ์การท่องเที่ยวสร้างความตื่นตาด้วยประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบเสมือนจริงในรูปแบบ Immersive Storytelling อีกทั้งยังได้เปิดให้ช้อปปิ้งแพ็กเกจท่องเที่ยวเมืองรองทุกใบเสร็จที่จ่ายครบ 2,000 บาท มีสิทิ์ลุ้นแพ็กเกจท่องเที่ยวสุดหรู ตั๋วเครื่องบิน ที่พักฟรี มูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท และโปรโมชั่นสุดพิเศษในนาทีทองตั๋วเครื่องบิน-ที่พักราคาเพียง 100 บาท
ภายในงานจัดให้มีกิจกรรมภายในงานนักท่องเที่ยวจะได้ทดลองใช้ Immersive Storytelling ด้วยเทคโนโลยี AR เหมือนเข้าไปอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวนั้นจริง กับแหล่งท่องเที่ยว 5 ภาค ได้แก่ ป่าฮาลาบาลา จังหวัดนราธิวาส, น้ำตกทีลอซู จังหวัดตาก, ไดโนเสาร์สยาม โมไทรันนัส อีสานเอนซิส จังหวัดกาฬสินธุ์, สวนกล้วยไม้ The Bloom จังหวัดราชบุรี และโลมาโชว์ จังหวัดจันทบุรี พบกับเส้นทางท่องเที่ยว 55 เมืองรอง ที่นำเสนอผ่านจอ Multitouch Screen ขนาดใหญ่
สามารถดาวน์โหลดข้อมูลทั้งหมด ด้วยการสแกน QR Code เพื่อใช้วางแผนเส้นทางท่องเที่ยวต่อไป พร้อมรับ E-Book มหัศจรรย์ 55 เมืองรอง นอกจากนั้นยังสามารถออกแบบเส้นทางการท่องเที่ยวตามสไตส์คุณในโซน Create Your Trip, Be Your Style
ส่วนการลุ้นรับรางวัลในแต่ละวันเมื่อช็อปภายในงานครบ 2,000 บาท รับโชค 2 ชั้น ชั้นที่ 1 นาทีทอง รับสิทธิ์ซื้อตั๋วเครื่องบินที่พักราคา 100 บาท ทุกวันเวลา 15.00/19.00 น. จำนวน 20 รางวัล/วัน โชคชั้นที่ 2 ชิงโชคลุ้นรางวัลใหญ่ อาทิ โซเนวาคีรี รีสอร์ท เกาะกูด ตั๋วเครื่องบิน ที่พักและอื่นๆอีกมากมายมูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท และยังสามารถนำไปหย่อนภาษีได้มูลค่าสูงสุด 15,000 บาท
ข่าวที่ 3 “บางจากจัดบิ๊กคลีนลดขยะปลูกสวนครัวลอยฟ้า”
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมคณะผู้บริหารและพนักงานบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัทในกลุ่ม ร่วมกิจกรรม Big Cleaning Day 2018 : 5S Plus Sustainability ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ณ สำนักงานใหญ่บริษัท บางจากฯ อาคารเอ็ม ทาวเวอร์ และโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ส่งเสริมให้เพื่อนพนักงานมีส่วนร่วมทำความสะอาดสถานที่ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงาน ทำให้ทุกพื้นที่ในองค์กรมีความน่าอยู่ ด้วยการนำเครื่องมือ 5ส คือ สะสาง สะดวก สะอาด สุขลักษณะ สร้างนิสัย มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ พัฒนาและยกระดับการดำเนินงานให้ได้ตามมาตรฐาน ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีแก่องค์กร
พร้อมกันนี้ผู้บริหารและตัวแทนเพื่อนพนักงานยังได้ร่วมพิธีเปิดสวนลอยฟ้าและปลูกข้าวที่บริเวณชั้น 8 ของอาคารเอ็ม ทาวเวอร์ และเยี่ยมชมพื้นที่อาคารสำนักงาน พร้อมร่วมกิจกรรมทาสีบริเวณกำแพงในพื้นที่ภายในและพื้นที่โดยรอบ เก็บขยะบริเวณสวนสุขภาพและบ้านพักทหาร ณ อาคารวิศวกรรมโรงกลั่น โรงกลั่นน้ำมันบางจาก
สำหรับแนวคิดการจัดงาน 5S Plus Sustainability ได้เพิ่มเติมการรณรงค์ใน 5 ด้านสู่ความยั่งยืน ประกอบด้วย การรณรงค์งดใช้โฟม ถุงพลาสติกและหลอด การลดขยะด้านเศษอาหาร การใช้เครื่องกำจัดขยะเพื่อนำเศษอาหารไปทำปุ๋ย การเพิ่มพื้นที่สีเขียวโดยปลูกผักสวนครัวที่สวนลอยฟ้า ชั้น 8 และการลดขยะเอกสารผ่านโครงการ InfoZafe
ข่าวที่ 4 “ทอท.รอชงบอร์ดอนุมัติ2หมื่นล้านปรับใหญ่3สนามบิน”
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” รายงานว่าในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.เดือนกันยายน 2561 ทางฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะนำเสนอขออนุมัติแผนการลงทุน 20,000 ล้านบาท เพื่อการปรับปรุงเร่งด่วนท่าอากาศยาน 3 แห่ง ได้แก่ ภูเก็ต หาดใหญ่ แม่ฟ้าหลวงเชียงราย ซึ่งเป็นโครงการที่มีความจำเป็นจะต้องทำ เนื่องจากปริมาณผู้โดยสารแต่ละสนามบินในช่วงปลายปีนี้มีแนวโน้มจะคับคั่ง เนื่องจากเป็นฤดูกาลเดินทาง ผนวกกับปัจจุบันทุกท่าอากาศมีผู้โดยสารใช้บริการเกินขีดความสามารถในการรองรับไปมากแล้ว
เนื่องจากต้องใช้เวลาในแต่ละขั้นตอนหลังบอร์ดออนุมัติเรียบร้อยแล้ว กว่าจะเปิดประมูลหาผู้ก่อสร้างตามแผนการพัฒนาสนามบินทั้ง 3 แห่งได้ ก็จะต้องเริ่มได้ช่วงต้นปี 2562 แล้วต้องตั้งกรรมการคัดเลือก จัดทำราคา กว่าจะประกาศรายชื่อได้ก็ประมาณกลางปี 2562 ต่อจากนั้นในขั้นตอนการปรับปรุงและก่อสร้างต้องใช้เวลากว่าจะแล้วเสร็จเปิดบริการเต็มรูปแบบได้ก็อีกประมาณ 3-4 ปี
ช่วงที่ 2 ออกมาเที่ยวเมืองไทยในเมืองรองน่ารักสะอาดตาอย่าง “จังหวัดน่าน” ที่ได้รับการประกาศให้เป็นเมืองสะอาดแห่งอาเซียน ประจำปี 2561 อย่าง “ชุมชนวัดหนองบัว” ถิ่นไทลื้อ และลัดเลาะไปตามวัดต่าง ๆ มากมาย แถมอาหารถิ่นที่ยังมีมนต์ขลังรสชาติถูกปากนักท่องเที่ยวทุกวัยก็มีให้เลือกหลากหลายทั้งคาวหวาน แล้วต้องฟัง “วิธีหลีกเลี่ยงการนำไปสู่การเป็นโรคกระดูกพรุน”
@น่านเมืองสะอาดน่าเที่ยวแห่งอาเซียน
ชาวน่านทุกวัยพร้อมใจกันเป็นจิตอสา ไม่เห็นเศษขยะหรือพลาสติก ทำให้ในการประชุมอาเซียน ประจำปี 2561 ASEAN Tourist City Standard ยกให้ “น่านเมืองสะอาดอันดับ 1 แห่งอาเซียน “ จากการนำสายไฟลงดิน 4 กม. และพนักงานเทศกาลกับนักท่องเที่ยวช่วยกันเก็บขยะทุกคืน บริเวณถนนคนเดินข่วงเมืองน่าน ทำให้เทศบาลเมืองน่านเป็น “ห้องรับแขก” สะอาดรั้วเตี้ยเห็นวัด ต้นไม้เขียวขจี
พื้นที่ตัวอย่างซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวแนะนำ ต้องที่ “ชุมชนวัดหนองบัว” ตำบลป่าคา อำเภอวังผา เป็นชุมชนตัวอย่างไม่มีถังขยะ ทุกบ้านได้จัดการตัวเอง จนกระทั่งได้รับรางวัลท่องเที่ยว เศรษฐกิจพอเพียง หมู่บ้านปลอดภัย ปลอดขยะดีเด่นของประเทศ ทุกอย่างฝังอยู่ในดีเอ็นเอมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ สืบทอดความสะอาดจนกลายเป็นวัฒนธรรมวิถีชีวิต เมืองน่าน สะอาด ปลอดภัย
เมื่อไปถึงชุมชนวัดหนองบัว ความตื่นตาตื่นใจที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสคือกลิ่นอายของชาวไทยลื้อ แสนสงบร่มเย็น บริเวณวัดหนองบัว สร้างขึ้นสมัยรัชกาลที่ 4 เลื่องชื่อเป็นถสานที่มีสถาปัตยกรรม จิตรกรรม พื้นบ้านอันงดงามเป็นอัตลักษณ์เฉพาะ สะท้อนถึงคุณค่าทางศิลปะอย่างสมบูรณ์ งดงามไม่แพ้ “วัดภูมินทร์” ด้วยเพราะภาพเขียนของวัดหนองบัวเขียนด้วยฝีมือช่าง “สกุลเดียวกันกับวัดภูมินทร์” นั่นเอง
สำหรับจิตรกรรมฝาผนังภายในโบสถ์ สันนิษฐานว่าเขียนโดยศิลปินช่างเขียนชาวลาวพวนนามว่า “ทิดบัวผัน” เป็นการเล่าเรื่องตอนหนึ่งในปัญญาชาดก ซึ่งเป็นตอนหนึ่งของพระพุทธเจ้า อีกทั้งยังมีภาพประกอบของเรือกลไฟ ดาบปลายปืน สะท้อนถึงอาวุธเหล่าเริ่มเข้ามายังแผ่นดินไทยตรงกับสมัยรัชกาลที่ 4 -5
ศูนย์รวมความสำคัญที่นักท่องเที่ยวประทับใจอีกมุมคือ “พระประธาน” ซึ่งใต้ฐานมีพุทธรูปล้านนาองค์เล็ก ๆ บรรจุอยู่จำนวนมาก พร้อมกับมีบุษบุกล้ำค่าสมัยล้านนาครอบอยู่ด้านบนด้วย
ในบริเวณวัดหนองบัว ได้ออกแบบให้ทำ “ศูนย์บริการวัฒนธรรมสายใยชุมชน” นำเรื่องราวของการผลิตภัณฑ์พื้นบ้านอย่าง ผ้าซิ่น ผ้าทอมือ ของชาวเมืองน่าน มาจำหน่าย พร้อมของใช้ในครัวเรือนของชุมชน แฝงไว้ด้วยเสน่ห์ความงดงามทางจิตใจอย่างมาก
การเดินทาง Go North Thailand ไปท่องเที่ยวเมืองน่าน ตลอดทั้งวันสามารถไปเยี่ยมชมแลนด์มาร์กของจังหวัดคือ “วัดภูมินทร์” ตำนานแห่งการกระซิบรักของชายหญิงชาวไทลื้อที่โด่งดังก้องโลก “วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร” ที่มีช้างรูปปูนปั้นครึ่งตัวล้อมองค์เจดีย์ และเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ “วัดชหัวช่าง” มีหอไตรเก่าแก่ คล้ายวิหารขนาดเล็ก ออกแบบทรงสูงหน้าบัน ฝาชั้นบนประดับลายแกะสลักงดงาม นับเป็นอัตลักษณ์เฉพาะแห่งเดียวในเมืองน่าน
“วัดศรีพันเต้น” โดดเด่นด้วยสีทองระยับ ล้อมด้วยปูนปั้นพญานาคเฝ้าหน้าวิหารเหลืองอร่าม ภายในก็มีภาพเขียนลายเส้นเล่าประวัติพระพุทธเจ้าและกำเนิดเมืองน่าน “วัดมิ่งเมือง” ช่างสกุลเชียงแสนได้บรรจงทำลายปูนปั้นที่ผนังด้านนอกโบสถ์ “พระบรมธาตุแช่แห้ง” เป็นโบราณสถานงดงาม อายุกว่า 600 ปี พญาการเมืองโปรดเกล้าให้สร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระบรมสาริกธาตุที่ได้มาจากสุโขทัย
ส่วนร้านอาหารอร่อยขึ้นชื่อมีให้เลือกหลายแห่ง อาทิ “ร้านเฮือนฮอม” ใกล้วัดมิ่งเมือง มีขนมจีนชุดใหญ่พร้อมน้ำยา น้ำเงี้ยว น้ำกะทิ น้ำพริก และผักเพียบพร้อม “ร้านขนมป้านิ่ม” ก็เป็นอีกแห่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชิมไม่ขาดสาย ด้วยรสชาติไทย ๆ อย่าง ข้าวฝากเปียก ลอดช่อง ข้าวเหนียวเปียก ที่จะต้องลองชิมคือ ไอศรีมไข่แข็ง ผสมกับซ่าหริ่ม ฟักทองเชื่อม ราคาสมรสชาติความอร่อย ชุดละ 25-40 บาท
ท่องเที่ยวจังหวัดน่าน เมืองสะอาดอันดับ 1 แห่งอาเซ๊ยน กันได้ตลอดทุกวัน สอบถามเพิ่มที่ เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย 1672
@หลีกเลี่ยงพฤติกรรมนำไปสู่โรคกระดูกพรุน
คำแนะนำการหลีกปัญหากระดูกพรุน ทุกคนสามารถปฏิบัติได้ทันที นั่นคือ ระมัดระวังพฤติกรรมต่างๆ ดังนี้
1. ระวังไม่กินอาหารประเภทโปรตีนหรือเนื้อสัตว์มากเกินไป เพราะการกินโปรตีนมากเกินไปจะกระตุ้นให้ไตขับแคลเซียมออกทางปัสสาวะมากผิดปกติ
2. ระวังไม่กินอาหารเค็มจัดหรือมีโซเดียมมาก เพราะเกลือโซเดียมที่มากเกินจะทำให้การดูดซึมของแคลเซียมจากลำไส้ลดลง ร่างกายจึงไม่สามารถนำแคลเซียมมาใช้ได้ และยังทำให้การสูญเสียแคลเซียมทางไตมากขึ้นด้วย
3. ไม่ควรดื่มน้ำอัดลมในปริมาณมาก เพราะในน้ำอัดลมมีส่วนผสมที่ชื่อ "กรดฟอสฟอริก" ที่ทำให้เกิดฟองฟู่ การดื่มน้ำอัดลมมากทำให้ความสมดุลของแคลเซียมและฟอสฟอรัสเสียไป (มีฟอสฟอรัสมากขึ้น) ร่างกายจึงจำเป็นต้องสลายแคลเซียมออกจากคลังกระดูก เพื่อป้องกันไม่ให้ฟอสฟอรัสในเลือดสูงเกินไปจนส่งผลอันตรายต่อชีวิต
4. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มจำพวกเหล้า เบียร์ ชา กาแฟ ช็อกโกแลต แอลกอฮอล์หรือกาเฟอีน ในเครื่องดื่มเหล่านี้จะไปขัดขวางการดูดซึมของแคลเซียม ทำให้ร่างกายขับแคลเซียมออกมามากขึ้น เพราะฉะนั้นไม่ควรดื่มชา กาแฟ เกินวันละ 3 ถ้วย
5. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ แคลเซียมมีบทบาทสำคัญในการรักษาความสมดุลระหว่างค่าความเป็นกรด-ด่างของเลือด การสูบบุหรี่ทำให้ร่างกายมีภาวะเป็นกรด แคลเซียมจะเข้ามามีบทบาทในการสะเทินฤทธิ์กรดจากบุหรี่ ดังนั้น บุหรี่ทุกๆ มวนจึงเป็นตัวที่ทำให้แคลเซียมละลายจากกระดูก นอกจากนี้ บุหรี่ยังทำให้ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในผู้หญิงต่ำกว่าปกติด้วย จึงยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกพรุน
6. ระวังการใช้ยาบางชนิด เช่น ยากล่อมประสาท ยาที่มีสารสตีรอยด์ ยาลดกรดที่มีอะลูมิเนียมเป็นส่วนประกอบ ยาเหล่านี้เร่งการขับแคลเซียมออกจากร่างกาย ดังนั้น หากจำเป็นต้องกินเป็นเวลานานควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “บางกอกแอร์Q2ปี61รายได้พุ่ง1.4หมื่นล้าน”
นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าตลอด 6 เดือนแรก ปี 2561 ทำรายได้รวม 14,061.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.5 % มีกำไรสุทธิ 637.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 592.9 ล้านบาทเป็นกำไรสุทธิในส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ 627.5 ล้านบาท มีกำไรต่อหุ้นงวด 6 เดือนแรกของปี 2561 เท่ากับ 0.30 บาทต่อหุ้น
ทั้งรายได้และกำไรครึ่งปีแรกมาจาก 3 ส่วนหลัก ได้แก่ ส่วนแรก ธุรกิจสายการบิน 2.3 % ส่วนที่ 2 ธุรกิจสนามบินและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ยกเว้นธุรกิจให้บริการคลังสินค้าเพิ่มขึ้น 7.3 % โดยมีจำนวนเที่ยวบินจากสนามบินสุวรรณภูมิเพิ่มมากขึ้น ส่วนที่ 3 เงินปันผลรับและกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เพิ่มมากขึ้น
สำหรับไตรมาส 2 ปี 2561 บางกอกแอร์ได้เพิ่มความถี่ในเส้นทางบิน ไป-กลับ กรุงเทพฯ--มัณฑะเลย์ (เมียนมาร์) เป็นสัปดาห์ละ 11 เที่ยว จากเดิม 7 เที่ยว และทำสัญญาความตกลงเที่ยวบินร่วม (Codeshare Agreement) เพิ่มกับ 2 สายการบิน คือ โอมานแอร์และสายการบินลาว สร้างผลดีในการเชื่อมต่อการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวในไทย อาทิ เชียงราย เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ ลำปาง สุโขทัย ตราด สมุย และยังเชื่อมต่อจากกรุงเทพฯ ไปยังเมืองสำคัญๆ ใน สสป.ลาว อาทิ เวียงจันทร์ หลวงพระบาง ปากเซ
ปัจจุบันจึงทำให้บางกอกแอร์เวย์สมีพันธมิตร 26 สายการบิน มีผลต่อการเพิ่มรายได้จากช่องทางการขายแบบCodeshare และ Interline ตลอดไตรมาส 2 ปีนี้เพิ่มขึ้น 23.0 %
สำหรับในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับรางวัลสายการบินแห่งภูมิภาคยอดเยี่ยมของโลกและรางวัลสายการบินแห่งภูมิภาคยอดเยี่ยมของเอเชีย จากการประกาศผลรางวัลสกายแทร็กซ์ เวิลด์ แอร์ไลน์ อวอร์ด ประจำปี 2561 (SKYTRAX World Airline Awards 2018)ซึ่งถือเป็นปีที่ 4 ที่บริษัทฯ ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ติดต่อกัน โดยรางวัลนี้เป็นผลจากการสำรวจความพึงพอใจของกลุ่มลูกค้าสายการบินต่างๆ ทั่วโลกเป็นประจำทุกปี นอกจากนี้ ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2561 บริษัทฯ ยังได้มีการพัฒนาเรื่องระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยเพิ่มช่องทางการชำระค่าบัตรโดยสารผ่าน 5 ช่องทางออนไลน์ใหม่ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้โดยสารของสายการบิน
ข่าวที่สอง “มิวเซียมสยามจัดสิงหาพาแม่เที่ยวฟรีทั้งเดือน”
มิวเซียมสยาม จัดกิจกรรม “สิงหาหรรษา พาแม่เที่ยว” ตั้งแต่วันนี้ – 31 สิงหาคม 2561 ณ มิวเซียมสยาม ท่าเตียน กรุงเทพฯ ขอชวนทุกคนเที่ยวฟรีทั้งครอบครัว เพียงแชร์ภาพถ่ายคุณแม่กับครอบครัวในมิวเซียมสยาม โดยผู้เข้าชมจะได้พบกับ นิทรรศการ “ถอดรหัสไทย” ที่จะพาคุณมาถอดรหัส และเรียนรู้พัฒนาการความเป็นไทย ในมิติต่าง ๆ อาทิ อาหาร การแต่งกาย วัฒนธรรมประเพณี และนิทรรศการหมุนเวียน ชุด “ชาย หญิง สิ่งสมมุติ” บอกเล่าเรื่องราวความหลากหลายทา งเพศ เรียนรู้ เข้าใจเพื่ออยู่ร่วมกันในสังคม พร้อมไฮไลท์วัตถุจัดแสดงสะท้อนเ รื่องราวจากประชาชนทั่วประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีบริการห้องสมุด -Knowledge Center ร้านอาหารมิวส์คิทเช่น บาย เอเลฟิน และ คาเฟ่เครื่องดื่ม มิวส์คาเฟ่ บาย ดิโอโร่ ซึ่งมีเมนูซิกเนเจอร์ แบบพิเศษให้รับประทานทุกวัน
ดูข้อมูลเข้าร่วมกิจกรรมเพิ่มที่ www.museumsiam.org หรือ www.facebook.com/museumsiamfan
ข่าวที่สาม “รมว.วีระศักดิ์เร่งสร้างเชื่อมั่นท่องเที่ยว3แผนใหญ่”
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับภาครัฐ เอกชน และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นเพื่อเร่งเครื่องสร้างเชื่อมั่นการท่องเที่ยวทั่วโลกด้วย 3 แผนใหญ่ คือ 1.แผนบริหารความเสี่ยง โดยได้สั่งการให้สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาของแต่ละจังหวัดเร่งรวบรวมรายงานว่าพื้นที่ไหนมีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน 2.แผนเผชิญเหตุ เพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจำนวนมากและหลากหลายเชื้อชาติภาษา และ 3.การถอดบทเรียนและทบทวนแผนเผชิญเหตุเพื่อปรับปรุงให้เข้ากับสถานการณ์และความเสี่ยงมากขึ้น
โดยเปิดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถดึงคู่มือการบริหารความเสี่ยงและความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวของ UNWTO รวมถึงมาตรฐาน ISO ต่าง ๆ มาตรฐานการท่องเที่ยวไทยซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 56 มาตรฐาน ไปทำการตลาดได้โดยต้องมาดูว่าสามารถนำมาตรฐานไหนมาบังคับใช้ได้บ้าง
ข่าวที่สี่ “แคนทารีเบย์ชวนชิมอาหารเม็กซิกันเมืองรองระยอง”
โรงแรมแคนทารี เบย์ ระยอง ชวนไปชิมเทศกาลอาหารเม็กซิกันในเมืองรอง ระหว่าง 21 - 23 สิงหาคม เวลา 18.00-22.00 น. ห้องอาหารนัมเบอร์ 43 อิ่มเอมกับบุฟเฟ่ต์มื้อค่ำรสชาติเข้มข้นแบบเม็กซิกันแท้ ๆ กับหลากหลายเมนูยอดนิยม อาทิ ทาโก้ เอ็นชิลลาดาส์ เบอริโตส์ ชิลิคอนคาร์เน่ ราคาสุทธิเพียงคนละ 650 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ลดครึ่งราคา
โทร. 038-804-844 หรือ 038-619-025 หรือที่ www.kantarycollection.com
ติดตามฟังรายการได้เป็นประจำทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0
WTM2018ลุยEAT THAI VISIT THAIวิถีกินวิถีถิ่น
พูลแมนคิงเพาเวอร์ชวนไปห้องอาหารใหม่”เท็นชิโน”
เทศกาลเที่ยวเมืองรองเทแจกเกินล้าน 22-26 ส.ค.
บางจากจัดบิ๊กคลีนต้นแบบลดขยะทำสวยลอยฟ้า
ทอท.ดันบอร์ดอนุมัติ2หมื่นล้านเร่งปรับ3สนามบิน
ชวนกันไปท่องเที่ยวน่านเมืองสะอาดแห่งอาเซียน
ผู้สูงวัยต้องรู้วิธีหลีกเลี่ยงการเข้าสู่โรคกระดูกพรุน
บางกอกแอร์ไตรมาส2ปี61รายได้พุ่ง 1.4หมื่นล้าน
มิวเซียมสยามชวนแม่เที่ยวตลอดสิงหาฟรีทั้งเดือน
รมว.วีระศักดิ์ลุยสร้างเชื่อมั่นท่องเที่ยว3แผนใหญ่
แคนทารีชวนชิมอาหารเม็กซิกันเมืองรองระยอง
ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97
ช่วงที่ 1 ฟังการถอดรหัสตลาดยุคใหม่ได้จาก “ศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์” รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประกาศปฏิวัติการทำโร้ดโชว์ท่องเที่ยวแนวใหม่เต็มรูป เลือกเซกเมนท์ เพิ่มเมืองใหม่ บอกเงื่อนไขและคุณสมบัติกันชัด ๆ เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการไทยต้องเสียเวลา พลิกวิธีขายในตลาดคนรวยกลุ่มเฮลท์ แอนด์ เวลเนส ลักชัวรี่ และตลุยบุกไปขยายฐานเมืองแปลกในรัสเซีย แถบใหม่ในสหราชอาณาจักร ส่วนอเมริกา แคนาดา นอนมา และคอยพบกับโฉมใหม่ของการเข้าร่วม World Travel Mart 2018 พฤศจิกายนนี้ จะนำ EAT THAI VISIT THAI : วิถีกิน วิถีถิ่น ให้กระหึ่มโลก หลังจากที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการนี้ไปเมื่อช่วงกลางปีนี้
นางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าได้ปฏิวัติการจัดทำกลยุทธ์ตลาดครั้งใหญ่ในการรุกขายการท่องเที่ยวไทยใน 4 ทวีป ยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา ขณะนี้ได้ลุยปรับรูปแบบและคอนเซ็ปต์โดยหันไปเน้นพุ่งเป้าเลือกเจาะกลุ่มเซกเมนต์และเลือกบุกเมืองใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น เพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มทั้งกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ผู้ประกอบธุรกิจ
เริ่มจากทำโรดโชว์ท่องเที่ยวในตลาดต่างประเทศ ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2561 นี้เป็นไป ททท.มีโร้ดโชว์จำนวนมากซึ่งจะต้องได้เพิ่มความแตกต่างจากอดีตที่ผ่านมา นั่นคือปัจจุบันต้องคัดเลือกผู้ประกอบการซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มโรงแรมที่มีโปรดักซ์สอดคล้องกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในแต่ละโรดโชว์ที่ลงทุนเดินทางไปทำตลาด จะต้องมุ่งเจาะให้ตรงตามเซกเมนท์ ตัวอย่างเช่น การทำโร้ดโชว์ทางด้าน Health & Wellness ซึ่งมีกลุ่มโรงพยาบาลจากไทยสนใจเข้าร่วมจำนวนมาก แต่เดิมตลาดใหญ่คือตลาดกลุ่มประเทศตะวันออกลาง แต่สภาพปัจจุบันเปลี่ยนไปเนื่องจากกลุ่มประเทศเหล่านี้หันมาลงทุนสร้างโรงพยาบาลและนำเข้าแพทย์จากทั่วโลกเข้าไปอยู่ในประเทศของตน ทำให้ข้าราชการและพนักงานที่เคยเดินทางมารักษาในไทยก็น้อยลง
ดังนั้น ททท.จึงกระตุ้นให้ผู้ประกอบการไทยพลิกรูปแบบการทำตลาด ส่วนที่ 1 ปลุกให้หันมาเน้นการขายโปรดักซ์ทางด้านป้องกันและดูแลสุขภาพแทนการรักษาพยาบาล โดยเพิ่มโปรแกรมการขายทางด้านความงาม การทำโร้ดโชว์จึงต้องเน้นเชิญชวน ผู้ประกอบการคลินิก สถานเสริมความงาม ห้องแล็บ ซึ่งเป็นเรื่องเฉพาะด้าน ม่ใช่กลุ่มผู้ประกอบการที่เน้นการผ่าตัดใหญ่หรือเมดิคัล ร่วมเดินทางไปโร้ดโชว์กับ ททท.ในตลาดกลุ่มตะวันออกกลาง ส่วนที่ 2 การบุกทำโร้ดโชว์ตลาดกลุ่มหรูหราหรือลักชัวรี่ ก็จะคัดเลือกกลุ่มผู้ประกอบการไฮเอนด์จริงไปจับคู่กับตัวแทนผู้ซื้อแต่ละโรดโชว์ ส่วนที่ 3 กลุ่มใหม่เจาะทหารอเมริกัน ซึ่งมีวันหยุด ททท.จะเดินสายไปขายตลาดเหล่านี้
สำหรับการวางรูปแบบเจรจาธุรกิจในแต่ละโร้ดโชว์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ได้ปรับกลยุทธ์วิธีการอย่างชัดเจน คือ
1.จัดทำเป็นสล็อตโดยให้จับคู่เจรจากันได้ครั้งละกี่นาทีก็ว่าไป หรือทำแบบ Free Flow ส่วนที่เพิ่มขึ้นคือเปิดให้มีการทำ Workshop เข้ามาผสมอยู่ในโร้ดโชว์แต่ละครั้ง ซึ่งจะมีผู้ซื้อกับผู้ขาย และ ททท.มานั่งคุยกัน ถึงความต้องการของตลาด วิเคราะห์กลุ่มลูกค้าเฉพาะ กับเทรนด์ใหม่ที่จะเกิดขึ้นมีทิศทางเป็นอย่างไร ทำการวิเคราะห์ข้อมูลจนตกผลึก ซึ่งเป็นวิธีการดีที่สุดกว่าการทำสำรวจหรือวิจัยด้วยซ้ำ เพราะแต่ละเมืองจะได้จับเข่าคุยกันโดยตรง
2.โร้ดโชวเจาะกลุ่มใหม่ ๆ เช่น รัสเซีย เข้าไปยังทางฟาร์อีส เมืองเยกาตาลินเบอร์ก โนโวซีเวียส คาสโวยาส ททท.เริ่มเห็นความต้องการของตลาดนักท่องเที่ยวจากเมืองเหล่านี้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีเที่ยวบินตรงมายังไทย ก็สามารถเพิ่มเที่ยวบินเช่าเหมาลำมาได้ง่ายมากหากเราบูมตลาดสำเร็จ หรือตลาดสหราชอาณาจักร (Unite Kingdom : UK) ก็หันไปบุกเจาะตลาดในเมืองทางด้านใต้มากขึ้น เป็นหมู่เกาะที่คนส่วนใหญ่มีฐานะดีแต่อากาศเย็นเกินไป อย่างเมือง เจอร์นี่ เคอร์นี่ จะไปเสนอขายโปรดักซ์ Sea Sand Sun หรือเมืองทางตอนเหนือของอังกฤษ อย่าง เชสเตอร์ อะเดนเบอระ
ต่อไป ททท.จะเน้นทำโร้ดโชว์จำนวนมาก แต่พุ่งเป้าไปยังพื้นที่เมืองใหม่ๆ และแปลก ๆ ที่จะดึงเข้ามาเพิ่มตามเป้าหมายเชิงนโยบายที่ต้องการ เพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มเดินทางเข้ามาไทยเป็นครั้งแรก (first visit) ส่วนเอเย่นต์ลูกค้าเก่า ๆ ก็จะนำเสนอขายสินค้าใหม่ ๆ Open to the New Shades ซึ่งยังมีอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้ขาย ตัวอย่างกรุงเทพฯ หรือ การจับเข่าหารือ (discussion) กับเอเย่นต์ก็จะทำให้รู้ถึงความต้องการของกลุ่มลูกค้าในเชิงลึกมากขึ้น ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการขายท่องเที่ยว ชุมชน เมืองรอง เมืองหลัก อย่าง ไนท์ทัวร์ ปั่นจักรยานเที่ยวกลางคืน หรือตลาดท้องถิ่น
นางศรีสุดากล่าวว่าการวางแผนทำโร้ดโชว์ ที่เริ่มในเดือนสิงหาคม 2561 เป็นต้นไป เจาะ 3 เมืองรัสเซีย แคนคูน แม็กซิโก อาร์เจนติน่า เดือนตุลาคม ก็มีอิตาลี และพฤศจิกายนนี้ ก็เป็นงาน World Travel Mart 2018
โดย ททท.มีข้อแนะนำเอกชนที่จะเข้าร่วมโร้ดโชว์ต่างประเทศ ซึ่งเปลี่ยนวิธีใหม่ทำให้รับจำนวนจำกัด เพราะเปิดรับสมัครภายในไม่ถึงชั่วโมงก็มีเอกชนสมัครเต็มจำนวนแล้วนั้น ก็ขอให้เอกชนที่สนใจอย่างได้กังวล เพราะยังมีแฟมทริปที่ ททท.จะนำเอเย่นต์ทั่วโลกทยอยเข้ามาสำรวจโปรดักซ์ และทำ Trade meet ด้วย ซึ่งเพิ่มการทำ Mini Talk, Mini Mart โดยให้ผู้ประกอบการระบุคุณสมบัติที่ต้องการจะรับนักท่องเที่ยวเฉพาะเจาะจง เช่น โรงแรมที่รับเฉพาะกลุ่มโรมานซ์ หรือไม่ต้องการรับกลุ่มครอบครัว หรือพร้อมจะรับเด็กเล็กโดยมีพี่เลี้ยงบริการให้ด้วย หรือยินดีต้อนรับกลุ่มนักท่องเที่ยวเกย์ ซึ่งทำเป็น Gay Friendly Hotel ก็ต้องบอกเงื่อนไขและคุณสมบัติเฉพาะเจาะจงให้ชัดเจน เพื่อทำให้การขายง่ายขึ้น
นางศรีสุดา กล่าวถึงว่า ในการเดินหน้าเตรียมนำผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงาน World Travel Mart : WTM 2018 ตอนนี้ลักษณะของตลาดผู้ซื้อใน WTM เปลี่ยนไปแล้ว เพราะส่วนใหญ่จะมีแต่กลุ่มตัวแทนขายตลาดสหราชอาณาจักรเท่านั้น ไม่ได้เวิลด์ไวด์หรือสามารถขายตลาดยุโรปได้ทั้งภูมิภาคเหมือนเดิมอีกแล้ว ดังนั้นหากผู้ประกอบการที่มีลูกค้าหลักเป็นสหราชอาณาจักรก็ควรจะไป ปี 2561 ททท.จึงคัดเอกชนไปร่วมงานเพียง 40 ราย ส่วนผู้ที่จะขายตลาดทั่วโลกแนะนำให้ไปงาน International Travel Berlin : ITB กรุงเบอร์ลิน เยอรมัน เพราะต้องเลือกโปรดักซ์ที่ชัดเจนเจาะได้แบบคมลึก
สิ่งที่ ททท.จะนำเสนอชัดเจนคือ วิถีกิน วิถีถิ่น – Eat Thai Visit Thai โดยได้รับเกียรติจาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดตัวโครงการดังกล่าวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ เพราะในสหราชอาณาจักรมีร้านอาหารไทยกระจายอยู่ทั่วกว่า 1,000 ร้าน จะทำให้อาหารไทยเป็นสะพานเชื่อมมาสู่เรื่องการท่องเที่ยว ปลุกกระแสการกินอาหารถิ่น
โดย ททท.เตรียมเนรมิต ไทยแลนด์ พาวิลเลี่ยน เพื่อการจัดงาน World Travel Mart 2018 ณ กรุงลอนดอน ด้วยการนำคอนเซ็ปต์ วิถีกิน วิถีถิ่น – Eat Thai Visit Thai มาตกแต่งทุกอย่าง เพื่อเดินหน้าเต็มที่ดึงดูดเรื่องการกินอาหารไทย สอดคล้องกับการโปรโมตวิถีไทย เมืองรอง ชุมชนท้องถิ่น เพื่อใช้อาหารการกินเชื่อมโยงการท่องเที่ยวได้สบาย ๆ ทำให้จุดขายโดดเด่นชัดเจน แล้วยังได้ออนท็อป คัดเลือก 3 เซกเมนต์หลัก ประกอบด้วย
1.LGBT เลสเบี้ยน เกย์ ไบเซ็กชวล ทรานฟอร์เมชั่น ซึ่งเป็นเทรนด์มาแรงทั่วโลก ตอนนี้เกย์มีเอเย่นต์ในยุโรปอยู่จำนวนมาก จึงพร้อมจะใช้เวที WTM ปีนี้บอกทั่วโลกไปเลยถึงประเทศไทยยินดีต้อนรับลูกค้ากลุ่มดังกล่าว อีกทั้งไทยยังเคารพเรื่องสิทธิเสรีภาพ โดยจะได้เชิญชวนให้มาพบกับผู้ประกอบการและโปรดักซ์ไทยที่พร้อมรับด้วย
2.กลุ่มมิลเลนเนียล กับเจนวาย นักท่องเที่ยวกลุ่มคนรุ่นใหม่ จะเน้นขายโปรดักซ์เจาะตลาดเกี่ยวกับ ทัศนศึกษา- Educational trip หรือพรีเซนต์เรื่อง Cool Trip ให้กับกลุ่มนักเรียน เยาวชน จะนำผู้ประกอบการมาพบกัน
3.การท่องเที่ยวชุมชนอย่างยั่งยืน ในการนำเสนอขายท่องเที่ยวท้องถิ่น
เป็นกลยุทธ์การสร้างโอกาสทางการตลาดใหม่ ๆ ให้แก่ผู้ประกอบการทั้งฝั่งตัวแทนผู้ขายจากเมืองไทยและการคัดสรรเอเย่นต์คู่ค้าท่องเที่ยวกลุ่มผู้ซื้อจากตลาดสหราชอาณาจักรเข้ามาเจอกันอย่างตรงเป้าหมายชัดเจน
การชูขายเมืองรองจะใช้กลยุทธ์ HUB & HOOK โดยแนะนำการท่องเที่ยวเมืองหลัก เป็น Exite Point เชื่อมโยงการเดินทางไปยังเมืองรอง เช่น เชียงใหม่ Hook ไปยัง เชียงราย แม่ฮ่องสอน ซึ่งมีวิถีชีวิต วัฒนธรรม เป็นของตนเอง ซึ่งโดนใจตลาดอังกฤษ และยุโรป หรือ ททท.สำนักงานสต็อกโฮม ก็ขาย ชุมชนขนอม ผนวก เขาสก จ.นครศรีธรรมราช หรือขายลำปาง บวกสุโขทัย แล้วก็ต้องมีเขียงใหม่รวมอยู่ด้วย หรือทางฝั่งภาคใต้ ระนอง ต้องบวกพังงา เป็นต้น
นางศรีสุดา กล่าวว่าโดยภาพรวมในการดูแลพื้นที่ครอบคลุม 4 ทวีป ก็ยังคงไปได้แบบเรื่อย ๆ ยกเว้นตะวันออกกลาง ประเทศอิหร่านซึ่งถูกแทรกแซงอย่างหนัก และหลายตลาดประสบปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ ต้องพลิกกลยุทธ์หันไปเจาะตลาดศักยภาพคนรวยเป็นหลัก
แต่ในพื้นที่ทวีปอื่น อเมริกา รัสเซีย แคนาดา เติบโตสวยงามแบบหวือหวา ขณะที่ทางยุโรป สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมัน อาจจะเติบโตตามปกติเฉลี่ย 2-3 % ดังนั้นแต่ละสำนักงาน ททท.อาจจะต้องเหนื่อยกันบ้าง เพราะต้องหาตลาดอื่นเข้ามาทดแทนรายได้ส่วนที่ลดลงไป
ทางด้านตลาดตุรกีที่หลายฝ่ายเป็นห่วงสถานการณ์ภายในประเทศจะกระทบเศรษฐกิจทั่วโลกนั้น ปัจจุบันเดินทางมาท่องเที่ยวไทยจำนวนพอสมควรแต่ขนาดไม่ใหญ่มาก แล้วก็ยังคงเติบโตตามปกติ อีกทั้งมีหลายประเทศไปดึงดูดกำลังซื้อเข้าประเทศตนเองอย่างรัสเซีย อย่างไรก็ตามในชั่วโมงนี้ตัวเลขตุรกีเข้าไทยยังคงทรงตัวอยู่ได้โดยไม่ติดลบแต่อย่างใด
ข่าวที่ 1 “พูลแมนคิงเพาเวอร์ชวนชิมอาหารห้องใหม่เท็นชิโนะ”
โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ ในเครือของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ขอแนะนำห้องอาหาร “เท็นชิโนะ” แห่งใหม่ล่าสุดบนชั้น 2 ของโรงแรม ที่ปรุงรสชาติอาหารผ่านแนวคิดเชิงสร้างสรรค์และการตกแต่งที่เปี่ยมเสน่ห์ของเท็นชิโนะ คือจุดแข็งใหม่ของโรงแรมฮิปกลางกรุงอย่างแท้จริง ด้วยดีไซน์ที่เรียบเท่ของโรงแรม สู่บรรยากาศภายในห้องอาหาร ที่ตื่นตาตั้งแต่บาร์เครื่องดื่มขนาดยาว รายล้อมโต๊ะรับประทานอาหารที่มีกลิ่นอายเก๋ๆ ของความเป็นโบฮีเมียน
แนะนำให้ลองเลือกสั่งอาหารจานเด่น หรือ signature dish ซิกเนเจอร์ล้วนโดดเด่นทุกจาน อย่างการนำล็อบสเตอร์สดใหม่มาเสิร์ฟแบบเรียบง่าย แค่ปรุงด้วยซีวีดบัตเตอร์ หรืออย่างเฟตตูชินี เข้มข้นด้วยครีมกำลังดี เสิร์ฟพร้อมอูนิจากฮอกไกโด ส่วนเมนูทางเลือกที่น่าสนใจต้องห้ามพลาดสั่งมาทดลองรับประทาน ก็มี ซาชิมิกับซูชิ ในแต่ละวัน ส่วนขนมก็ต้องยกให้ทีรามิสุส้มยูซุ หรือโมจิถั่วแดงอะซูกิ เสิร์ฟพร้อมชาเขียว ถ้าชอบไอศกรีมต้องชิมคินาโกะและชาเขียว
ข่าวที่ 2 “ททท.เทจัดเที่ยวเมืองรองแจก1ล้านบาท22-26ส.ค.นี้”
นางสุจิตรา จงชาณสิทโธ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เตรียมจัดงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองรอง” ขึ้นเป็นครั้งแรกปลุกกระแสการท่องเที่ยวภายใต้แนวคิด “กล้าให้ลอง...มหัศจรรย์ 55 เมืองรอง ลองไปแล้วจะรู้” ระหว่าง 22 - 26 สิงหาคม 2561 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นำเสนอแพคเก็จท่องเที่ยวเมืองรองในมุมมองใหม่ที่ท้าทายและสัมผัสความเป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่แต่ละภูมิภาค ทั้งด้านวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต ภูมิปัญญาท้องถิ่นและเส้นทางท่องเที่ยวชุมชน
โดยได้ระดมโปรดักซ์การท่องเที่ยวสร้างความตื่นตาด้วยประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบเสมือนจริงในรูปแบบ Immersive Storytelling อีกทั้งยังได้เปิดให้ช้อปปิ้งแพ็กเกจท่องเที่ยวเมืองรองทุกใบเสร็จที่จ่ายครบ 2,000 บาท มีสิทิ์ลุ้นแพ็กเกจท่องเที่ยวสุดหรู ตั๋วเครื่องบิน ที่พักฟรี มูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท และโปรโมชั่นสุดพิเศษในนาทีทองตั๋วเครื่องบิน-ที่พักราคาเพียง 100 บาท
ภายในงานจัดให้มีกิจกรรมภายในงานนักท่องเที่ยวจะได้ทดลองใช้ Immersive Storytelling ด้วยเทคโนโลยี AR เหมือนเข้าไปอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวนั้นจริง กับแหล่งท่องเที่ยว 5 ภาค ได้แก่ ป่าฮาลาบาลา จังหวัดนราธิวาส, น้ำตกทีลอซู จังหวัดตาก, ไดโนเสาร์สยาม โมไทรันนัส อีสานเอนซิส จังหวัดกาฬสินธุ์, สวนกล้วยไม้ The Bloom จังหวัดราชบุรี และโลมาโชว์ จังหวัดจันทบุรี พบกับเส้นทางท่องเที่ยว 55 เมืองรอง ที่นำเสนอผ่านจอ Multitouch Screen ขนาดใหญ่
สามารถดาวน์โหลดข้อมูลทั้งหมด ด้วยการสแกน QR Code เพื่อใช้วางแผนเส้นทางท่องเที่ยวต่อไป พร้อมรับ E-Book มหัศจรรย์ 55 เมืองรอง นอกจากนั้นยังสามารถออกแบบเส้นทางการท่องเที่ยวตามสไตส์คุณในโซน Create Your Trip, Be Your Style
ส่วนการลุ้นรับรางวัลในแต่ละวันเมื่อช็อปภายในงานครบ 2,000 บาท รับโชค 2 ชั้น ชั้นที่ 1 นาทีทอง รับสิทธิ์ซื้อตั๋วเครื่องบินที่พักราคา 100 บาท ทุกวันเวลา 15.00/19.00 น. จำนวน 20 รางวัล/วัน โชคชั้นที่ 2 ชิงโชคลุ้นรางวัลใหญ่ อาทิ โซเนวาคีรี รีสอร์ท เกาะกูด ตั๋วเครื่องบิน ที่พักและอื่นๆอีกมากมายมูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท และยังสามารถนำไปหย่อนภาษีได้มูลค่าสูงสุด 15,000 บาท
ข่าวที่ 3 “บางจากจัดบิ๊กคลีนลดขยะปลูกสวนครัวลอยฟ้า”
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมคณะผู้บริหารและพนักงานบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัทในกลุ่ม ร่วมกิจกรรม Big Cleaning Day 2018 : 5S Plus Sustainability ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ณ สำนักงานใหญ่บริษัท บางจากฯ อาคารเอ็ม ทาวเวอร์ และโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ส่งเสริมให้เพื่อนพนักงานมีส่วนร่วมทำความสะอาดสถานที่ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงาน ทำให้ทุกพื้นที่ในองค์กรมีความน่าอยู่ ด้วยการนำเครื่องมือ 5ส คือ สะสาง สะดวก สะอาด สุขลักษณะ สร้างนิสัย มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ พัฒนาและยกระดับการดำเนินงานให้ได้ตามมาตรฐาน ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีแก่องค์กร
พร้อมกันนี้ผู้บริหารและตัวแทนเพื่อนพนักงานยังได้ร่วมพิธีเปิดสวนลอยฟ้าและปลูกข้าวที่บริเวณชั้น 8 ของอาคารเอ็ม ทาวเวอร์ และเยี่ยมชมพื้นที่อาคารสำนักงาน พร้อมร่วมกิจกรรมทาสีบริเวณกำแพงในพื้นที่ภายในและพื้นที่โดยรอบ เก็บขยะบริเวณสวนสุขภาพและบ้านพักทหาร ณ อาคารวิศวกรรมโรงกลั่น โรงกลั่นน้ำมันบางจาก
สำหรับแนวคิดการจัดงาน 5S Plus Sustainability ได้เพิ่มเติมการรณรงค์ใน 5 ด้านสู่ความยั่งยืน ประกอบด้วย การรณรงค์งดใช้โฟม ถุงพลาสติกและหลอด การลดขยะด้านเศษอาหาร การใช้เครื่องกำจัดขยะเพื่อนำเศษอาหารไปทำปุ๋ย การเพิ่มพื้นที่สีเขียวโดยปลูกผักสวนครัวที่สวนลอยฟ้า ชั้น 8 และการลดขยะเอกสารผ่านโครงการ InfoZafe
ข่าวที่ 4 “ทอท.รอชงบอร์ดอนุมัติ2หมื่นล้านปรับใหญ่3สนามบิน”
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” รายงานว่าในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.เดือนกันยายน 2561 ทางฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะนำเสนอขออนุมัติแผนการลงทุน 20,000 ล้านบาท เพื่อการปรับปรุงเร่งด่วนท่าอากาศยาน 3 แห่ง ได้แก่ ภูเก็ต หาดใหญ่ แม่ฟ้าหลวงเชียงราย ซึ่งเป็นโครงการที่มีความจำเป็นจะต้องทำ เนื่องจากปริมาณผู้โดยสารแต่ละสนามบินในช่วงปลายปีนี้มีแนวโน้มจะคับคั่ง เนื่องจากเป็นฤดูกาลเดินทาง ผนวกกับปัจจุบันทุกท่าอากาศมีผู้โดยสารใช้บริการเกินขีดความสามารถในการรองรับไปมากแล้ว
เนื่องจากต้องใช้เวลาในแต่ละขั้นตอนหลังบอร์ดออนุมัติเรียบร้อยแล้ว กว่าจะเปิดประมูลหาผู้ก่อสร้างตามแผนการพัฒนาสนามบินทั้ง 3 แห่งได้ ก็จะต้องเริ่มได้ช่วงต้นปี 2562 แล้วต้องตั้งกรรมการคัดเลือก จัดทำราคา กว่าจะประกาศรายชื่อได้ก็ประมาณกลางปี 2562 ต่อจากนั้นในขั้นตอนการปรับปรุงและก่อสร้างต้องใช้เวลากว่าจะแล้วเสร็จเปิดบริการเต็มรูปแบบได้ก็อีกประมาณ 3-4 ปี
ช่วงที่ 2 ออกมาเที่ยวเมืองไทยในเมืองรองน่ารักสะอาดตาอย่าง “จังหวัดน่าน” ที่ได้รับการประกาศให้เป็นเมืองสะอาดแห่งอาเซียน ประจำปี 2561 อย่าง “ชุมชนวัดหนองบัว” ถิ่นไทลื้อ และลัดเลาะไปตามวัดต่าง ๆ มากมาย แถมอาหารถิ่นที่ยังมีมนต์ขลังรสชาติถูกปากนักท่องเที่ยวทุกวัยก็มีให้เลือกหลากหลายทั้งคาวหวาน แล้วต้องฟัง “วิธีหลีกเลี่ยงการนำไปสู่การเป็นโรคกระดูกพรุน”
@น่านเมืองสะอาดน่าเที่ยวแห่งอาเซียน
ชาวน่านทุกวัยพร้อมใจกันเป็นจิตอสา ไม่เห็นเศษขยะหรือพลาสติก ทำให้ในการประชุมอาเซียน ประจำปี 2561 ASEAN Tourist City Standard ยกให้ “น่านเมืองสะอาดอันดับ 1 แห่งอาเซียน “ จากการนำสายไฟลงดิน 4 กม. และพนักงานเทศกาลกับนักท่องเที่ยวช่วยกันเก็บขยะทุกคืน บริเวณถนนคนเดินข่วงเมืองน่าน ทำให้เทศบาลเมืองน่านเป็น “ห้องรับแขก” สะอาดรั้วเตี้ยเห็นวัด ต้นไม้เขียวขจี
พื้นที่ตัวอย่างซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวแนะนำ ต้องที่ “ชุมชนวัดหนองบัว” ตำบลป่าคา อำเภอวังผา เป็นชุมชนตัวอย่างไม่มีถังขยะ ทุกบ้านได้จัดการตัวเอง จนกระทั่งได้รับรางวัลท่องเที่ยว เศรษฐกิจพอเพียง หมู่บ้านปลอดภัย ปลอดขยะดีเด่นของประเทศ ทุกอย่างฝังอยู่ในดีเอ็นเอมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ สืบทอดความสะอาดจนกลายเป็นวัฒนธรรมวิถีชีวิต เมืองน่าน สะอาด ปลอดภัย
เมื่อไปถึงชุมชนวัดหนองบัว ความตื่นตาตื่นใจที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสคือกลิ่นอายของชาวไทยลื้อ แสนสงบร่มเย็น บริเวณวัดหนองบัว สร้างขึ้นสมัยรัชกาลที่ 4 เลื่องชื่อเป็นถสานที่มีสถาปัตยกรรม จิตรกรรม พื้นบ้านอันงดงามเป็นอัตลักษณ์เฉพาะ สะท้อนถึงคุณค่าทางศิลปะอย่างสมบูรณ์ งดงามไม่แพ้ “วัดภูมินทร์” ด้วยเพราะภาพเขียนของวัดหนองบัวเขียนด้วยฝีมือช่าง “สกุลเดียวกันกับวัดภูมินทร์” นั่นเอง
สำหรับจิตรกรรมฝาผนังภายในโบสถ์ สันนิษฐานว่าเขียนโดยศิลปินช่างเขียนชาวลาวพวนนามว่า “ทิดบัวผัน” เป็นการเล่าเรื่องตอนหนึ่งในปัญญาชาดก ซึ่งเป็นตอนหนึ่งของพระพุทธเจ้า อีกทั้งยังมีภาพประกอบของเรือกลไฟ ดาบปลายปืน สะท้อนถึงอาวุธเหล่าเริ่มเข้ามายังแผ่นดินไทยตรงกับสมัยรัชกาลที่ 4 -5
ศูนย์รวมความสำคัญที่นักท่องเที่ยวประทับใจอีกมุมคือ “พระประธาน” ซึ่งใต้ฐานมีพุทธรูปล้านนาองค์เล็ก ๆ บรรจุอยู่จำนวนมาก พร้อมกับมีบุษบุกล้ำค่าสมัยล้านนาครอบอยู่ด้านบนด้วย
ในบริเวณวัดหนองบัว ได้ออกแบบให้ทำ “ศูนย์บริการวัฒนธรรมสายใยชุมชน” นำเรื่องราวของการผลิตภัณฑ์พื้นบ้านอย่าง ผ้าซิ่น ผ้าทอมือ ของชาวเมืองน่าน มาจำหน่าย พร้อมของใช้ในครัวเรือนของชุมชน แฝงไว้ด้วยเสน่ห์ความงดงามทางจิตใจอย่างมาก
การเดินทาง Go North Thailand ไปท่องเที่ยวเมืองน่าน ตลอดทั้งวันสามารถไปเยี่ยมชมแลนด์มาร์กของจังหวัดคือ “วัดภูมินทร์” ตำนานแห่งการกระซิบรักของชายหญิงชาวไทลื้อที่โด่งดังก้องโลก “วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร” ที่มีช้างรูปปูนปั้นครึ่งตัวล้อมองค์เจดีย์ และเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ “วัดชหัวช่าง” มีหอไตรเก่าแก่ คล้ายวิหารขนาดเล็ก ออกแบบทรงสูงหน้าบัน ฝาชั้นบนประดับลายแกะสลักงดงาม นับเป็นอัตลักษณ์เฉพาะแห่งเดียวในเมืองน่าน
“วัดศรีพันเต้น” โดดเด่นด้วยสีทองระยับ ล้อมด้วยปูนปั้นพญานาคเฝ้าหน้าวิหารเหลืองอร่าม ภายในก็มีภาพเขียนลายเส้นเล่าประวัติพระพุทธเจ้าและกำเนิดเมืองน่าน “วัดมิ่งเมือง” ช่างสกุลเชียงแสนได้บรรจงทำลายปูนปั้นที่ผนังด้านนอกโบสถ์ “พระบรมธาตุแช่แห้ง” เป็นโบราณสถานงดงาม อายุกว่า 600 ปี พญาการเมืองโปรดเกล้าให้สร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระบรมสาริกธาตุที่ได้มาจากสุโขทัย
ส่วนร้านอาหารอร่อยขึ้นชื่อมีให้เลือกหลายแห่ง อาทิ “ร้านเฮือนฮอม” ใกล้วัดมิ่งเมือง มีขนมจีนชุดใหญ่พร้อมน้ำยา น้ำเงี้ยว น้ำกะทิ น้ำพริก และผักเพียบพร้อม “ร้านขนมป้านิ่ม” ก็เป็นอีกแห่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชิมไม่ขาดสาย ด้วยรสชาติไทย ๆ อย่าง ข้าวฝากเปียก ลอดช่อง ข้าวเหนียวเปียก ที่จะต้องลองชิมคือ ไอศรีมไข่แข็ง ผสมกับซ่าหริ่ม ฟักทองเชื่อม ราคาสมรสชาติความอร่อย ชุดละ 25-40 บาท
ท่องเที่ยวจังหวัดน่าน เมืองสะอาดอันดับ 1 แห่งอาเซ๊ยน กันได้ตลอดทุกวัน สอบถามเพิ่มที่ เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย 1672
@หลีกเลี่ยงพฤติกรรมนำไปสู่โรคกระดูกพรุน
คำแนะนำการหลีกปัญหากระดูกพรุน ทุกคนสามารถปฏิบัติได้ทันที นั่นคือ ระมัดระวังพฤติกรรมต่างๆ ดังนี้
1. ระวังไม่กินอาหารประเภทโปรตีนหรือเนื้อสัตว์มากเกินไป เพราะการกินโปรตีนมากเกินไปจะกระตุ้นให้ไตขับแคลเซียมออกทางปัสสาวะมากผิดปกติ
2. ระวังไม่กินอาหารเค็มจัดหรือมีโซเดียมมาก เพราะเกลือโซเดียมที่มากเกินจะทำให้การดูดซึมของแคลเซียมจากลำไส้ลดลง ร่างกายจึงไม่สามารถนำแคลเซียมมาใช้ได้ และยังทำให้การสูญเสียแคลเซียมทางไตมากขึ้นด้วย
3. ไม่ควรดื่มน้ำอัดลมในปริมาณมาก เพราะในน้ำอัดลมมีส่วนผสมที่ชื่อ "กรดฟอสฟอริก" ที่ทำให้เกิดฟองฟู่ การดื่มน้ำอัดลมมากทำให้ความสมดุลของแคลเซียมและฟอสฟอรัสเสียไป (มีฟอสฟอรัสมากขึ้น) ร่างกายจึงจำเป็นต้องสลายแคลเซียมออกจากคลังกระดูก เพื่อป้องกันไม่ให้ฟอสฟอรัสในเลือดสูงเกินไปจนส่งผลอันตรายต่อชีวิต
4. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มจำพวกเหล้า เบียร์ ชา กาแฟ ช็อกโกแลต แอลกอฮอล์หรือกาเฟอีน ในเครื่องดื่มเหล่านี้จะไปขัดขวางการดูดซึมของแคลเซียม ทำให้ร่างกายขับแคลเซียมออกมามากขึ้น เพราะฉะนั้นไม่ควรดื่มชา กาแฟ เกินวันละ 3 ถ้วย
5. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ แคลเซียมมีบทบาทสำคัญในการรักษาความสมดุลระหว่างค่าความเป็นกรด-ด่างของเลือด การสูบบุหรี่ทำให้ร่างกายมีภาวะเป็นกรด แคลเซียมจะเข้ามามีบทบาทในการสะเทินฤทธิ์กรดจากบุหรี่ ดังนั้น บุหรี่ทุกๆ มวนจึงเป็นตัวที่ทำให้แคลเซียมละลายจากกระดูก นอกจากนี้ บุหรี่ยังทำให้ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในผู้หญิงต่ำกว่าปกติด้วย จึงยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกพรุน
6. ระวังการใช้ยาบางชนิด เช่น ยากล่อมประสาท ยาที่มีสารสตีรอยด์ ยาลดกรดที่มีอะลูมิเนียมเป็นส่วนประกอบ ยาเหล่านี้เร่งการขับแคลเซียมออกจากร่างกาย ดังนั้น หากจำเป็นต้องกินเป็นเวลานานควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “บางกอกแอร์Q2ปี61รายได้พุ่ง1.4หมื่นล้าน”
นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าตลอด 6 เดือนแรก ปี 2561 ทำรายได้รวม 14,061.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.5 % มีกำไรสุทธิ 637.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 592.9 ล้านบาทเป็นกำไรสุทธิในส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ 627.5 ล้านบาท มีกำไรต่อหุ้นงวด 6 เดือนแรกของปี 2561 เท่ากับ 0.30 บาทต่อหุ้น
ทั้งรายได้และกำไรครึ่งปีแรกมาจาก 3 ส่วนหลัก ได้แก่ ส่วนแรก ธุรกิจสายการบิน 2.3 % ส่วนที่ 2 ธุรกิจสนามบินและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ยกเว้นธุรกิจให้บริการคลังสินค้าเพิ่มขึ้น 7.3 % โดยมีจำนวนเที่ยวบินจากสนามบินสุวรรณภูมิเพิ่มมากขึ้น ส่วนที่ 3 เงินปันผลรับและกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เพิ่มมากขึ้น
สำหรับไตรมาส 2 ปี 2561 บางกอกแอร์ได้เพิ่มความถี่ในเส้นทางบิน ไป-กลับ กรุงเทพฯ--มัณฑะเลย์ (เมียนมาร์) เป็นสัปดาห์ละ 11 เที่ยว จากเดิม 7 เที่ยว และทำสัญญาความตกลงเที่ยวบินร่วม (Codeshare Agreement) เพิ่มกับ 2 สายการบิน คือ โอมานแอร์และสายการบินลาว สร้างผลดีในการเชื่อมต่อการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวในไทย อาทิ เชียงราย เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ ลำปาง สุโขทัย ตราด สมุย และยังเชื่อมต่อจากกรุงเทพฯ ไปยังเมืองสำคัญๆ ใน สสป.ลาว อาทิ เวียงจันทร์ หลวงพระบาง ปากเซ
ปัจจุบันจึงทำให้บางกอกแอร์เวย์สมีพันธมิตร 26 สายการบิน มีผลต่อการเพิ่มรายได้จากช่องทางการขายแบบCodeshare และ Interline ตลอดไตรมาส 2 ปีนี้เพิ่มขึ้น 23.0 %
สำหรับในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับรางวัลสายการบินแห่งภูมิภาคยอดเยี่ยมของโลกและรางวัลสายการบินแห่งภูมิภาคยอดเยี่ยมของเอเชีย จากการประกาศผลรางวัลสกายแทร็กซ์ เวิลด์ แอร์ไลน์ อวอร์ด ประจำปี 2561 (SKYTRAX World Airline Awards 2018)ซึ่งถือเป็นปีที่ 4 ที่บริษัทฯ ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ติดต่อกัน โดยรางวัลนี้เป็นผลจากการสำรวจความพึงพอใจของกลุ่มลูกค้าสายการบินต่างๆ ทั่วโลกเป็นประจำทุกปี นอกจากนี้ ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2561 บริษัทฯ ยังได้มีการพัฒนาเรื่องระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยเพิ่มช่องทางการชำระค่าบัตรโดยสารผ่าน 5 ช่องทางออนไลน์ใหม่ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้โดยสารของสายการบิน
ข่าวที่สอง “มิวเซียมสยามจัดสิงหาพาแม่เที่ยวฟรีทั้งเดือน”
มิวเซียมสยาม จัดกิจกรรม “สิงหาหรรษา พาแม่เที่ยว” ตั้งแต่วันนี้ – 31 สิงหาคม 2561 ณ มิวเซียมสยาม ท่าเตียน กรุงเทพฯ ขอชวนทุกคนเที่ยวฟรีทั้งครอบครัว เพียงแชร์ภาพถ่ายคุณแม่กับครอบครัวในมิวเซียมสยาม โดยผู้เข้าชมจะได้พบกับ นิทรรศการ “ถอดรหัสไทย” ที่จะพาคุณมาถอดรหัส และเรียนรู้พัฒนาการความเป็นไทย ในมิติต่าง ๆ อาทิ อาหาร การแต่งกาย วัฒนธรรมประเพณี และนิทรรศการหมุนเวียน ชุด “ชาย หญิง สิ่งสมมุติ” บอกเล่าเรื่องราวความหลากหลายทา งเพศ เรียนรู้ เข้าใจเพื่ออยู่ร่วมกันในสังคม พร้อมไฮไลท์วัตถุจัดแสดงสะท้อนเ รื่องราวจากประชาชนทั่วประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีบริการห้องสมุด -Knowledge Center ร้านอาหารมิวส์คิทเช่น บาย เอเลฟิน และ คาเฟ่เครื่องดื่ม มิวส์คาเฟ่ บาย ดิโอโร่ ซึ่งมีเมนูซิกเนเจอร์ แบบพิเศษให้รับประทานทุกวัน
ดูข้อมูลเข้าร่วมกิจกรรมเพิ่มที่ www.museumsiam.org หรือ www.facebook.com/museumsiamfan
ข่าวที่สาม “รมว.วีระศักดิ์เร่งสร้างเชื่อมั่นท่องเที่ยว3แผนใหญ่”
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับภาครัฐ เอกชน และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นเพื่อเร่งเครื่องสร้างเชื่อมั่นการท่องเที่ยวทั่วโลกด้วย 3 แผนใหญ่ คือ 1.แผนบริหารความเสี่ยง โดยได้สั่งการให้สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาของแต่ละจังหวัดเร่งรวบรวมรายงานว่าพื้นที่ไหนมีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน 2.แผนเผชิญเหตุ เพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจำนวนมากและหลากหลายเชื้อชาติภาษา และ 3.การถอดบทเรียนและทบทวนแผนเผชิญเหตุเพื่อปรับปรุงให้เข้ากับสถานการณ์และความเสี่ยงมากขึ้น
โดยเปิดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถดึงคู่มือการบริหารความเสี่ยงและความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวของ UNWTO รวมถึงมาตรฐาน ISO ต่าง ๆ มาตรฐานการท่องเที่ยวไทยซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 56 มาตรฐาน ไปทำการตลาดได้โดยต้องมาดูว่าสามารถนำมาตรฐานไหนมาบังคับใช้ได้บ้าง
ข่าวที่สี่ “แคนทารีเบย์ชวนชิมอาหารเม็กซิกันเมืองรองระยอง”
โรงแรมแคนทารี เบย์ ระยอง ชวนไปชิมเทศกาลอาหารเม็กซิกันในเมืองรอง ระหว่าง 21 - 23 สิงหาคม เวลา 18.00-22.00 น. ห้องอาหารนัมเบอร์ 43 อิ่มเอมกับบุฟเฟ่ต์มื้อค่ำรสชาติเข้มข้นแบบเม็กซิกันแท้ ๆ กับหลากหลายเมนูยอดนิยม อาทิ ทาโก้ เอ็นชิลลาดาส์ เบอริโตส์ ชิลิคอนคาร์เน่ ราคาสุทธิเพียงคนละ 650 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ลดครึ่งราคา
โทร. 038-804-844 หรือ 038-619-025 หรือที่ www.kantarycollection.com
ติดตามฟังรายการได้เป็นประจำทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น