บิ๊กทอท.ไขปมคาใจเทอร์มินอล2สุวรรณภูมิ
เคลียร์ทางทุกงานประมูล10ปีหน้า2แสนล้าน
คิงเพาเวอร์ชวนดูหนังตูน7แสนที่นั่ง 6ก.ย.นี้
ททท.บุกญี่ปุ่นปลุกMOTOGPบุรีรัมย์ต.ค.นี้
เที่ยวดนตรีฤดูฝนบางแสน-ศาสตร์พระราชา
บางจากร่วมวงบัตรฟลีทการ์ดใช้แทนเงินสด
นายกฯลุงตู่สั่งทอท.เร่งรับทำ4สนามบินตจว.
ทัวร์วิถีสุข5อ.แชมป์เมืองรองในแม่ฮ่องสอน
เลือกกินตามรสชาติอาหารตรงจริตร่างกาย
ไทยสไมล์อัดโปรตั๋วแรงเริ่มพันบาท1-2 ก.ย.
แอร์ไลน์ไทยเฮรับกม.ใหม่ขึ้นค่าตั๋วเพิ่มได้อีก
รัฐเท6พันล้านปั้นฮับสนามบินกระบี่-ขอนแก่น
เปิดเบื้องลึก“นก-ปิยะ”พ้นเก้าอี้ซีอีโอนกแอร์
ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 1 กันยายน 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97
ช่วงที่ 1 ไขข้อข้องใจทุกปมสงสัยกับการสัมภาษณ์พิเศษ “ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) บนเส้นทางการประมูลทุกโครงการมีกฎ กติกา แจ่มชัด เอกชนทั้งหลายอย่าประเมินใบเสนอราคาของรัฐเป็นแค่กระดาษใบเดียว จนผู้ชนะอาจถูกจับแพ้ฟาล์วได้ จากกรณีตัวอย่างเขย่าวงการ งานสำรวจออกแบบสุวรรณภูมิหลังที่ 2 รวมถึงคำกล่าวหาลอกเลียนแบบ ทอท.ยุคนี้รัดกุมพอที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ เพราะยังมีเมกะโปรเจ็กต์อนาคตอีก 5-10 ปี มูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท ต้องประมูลต่อเนื่องในทั้ง 6 สนามบิน และการรับโอนใหม่จากกรมท่าอากาศยานอีกถึง 4 สนามบิน
ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท./AOT” เปิดเผยว่า ในการจัดทำทีโออาร์คัดเลือกเอกชนเข้ามาทำโครงการสำรวจออกแบบก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยได้ผู้ชนะคือ กลุ่มบริษัท ดีบีเอแอลพี-นิเคนเซกเก้ ซึ่งถูกกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์จนกลายเป็นดรามา 2 ประเด็น คือ ประเด็นแรก ผู้ได้คะแนนอันดับ 1 แพ้ฟาล์ว ประเด็นที่สอง สถาปนิกผู้ออกแบบลอกแบบมานำเสนองาน
จึงขอทำความเข้าใจถึงความถูกต้องตามขั้นตอนของ ทอท. ประเด็นแรก กรณีผู้ชนะรายแรกถูกจับแพ้ฟาล์ว ความจริงแล้วบริษัทเอส เอ ที่ชนะคะแนนเทคนิคไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการจัดทำใบเสนอราคาซึ่งเป็นแบบฟอร์มอย่างเป็นทางการของ ทอท.รวมถึงหลายกลุ่มสอบถามถึงความจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องยื่นเสนอราคาโดยใช้แบบฟอร์มทางการของ ทอท.ซึ่งใบดังกล่าวไม่ใช่เพียงแค่กระดาษเปล่า แต่มีสาระสำคัญเกี่ยวเนื่องกำหนดกติกาเป็นลูกโซ่ 1.ต้องเสนอราคาโดยยืนยันราคาดังกล่าวภายใน 90 วัน 2.ต้องดำเนินการสำรวจออกแบบงานที่ได้รับมอบหมายให้แล้วเสร็จภายใน 300 วัน 3.ต้องนำหลักทรัพย์ค้ำประกัน อัตราส่วนตามเปอร์เซ็นต์ที่ระบุ พร้อมลงลายมือชื่อกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม และตราประทับบริษัทมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบการตรวจให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน
แบบฟอร์มที่กำหนดให้เอกชนใช้ยื่นเสนอซองราคามีสาระสำคัญตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานการประมูลงานของหน่วยงานราชการปกติ เพราะหากไม่ใช้แบบฟอร์มตามกำหนด แต่ใช้วิธีเขียนใส่กระดาษรายที่ 1, 2,3…เสนอราคาแตกต่างกัน ซึ่งตามเงื่อนไขผู้จ้างหรือ ทอท.ก็ต้องการได้ราคาต่ำสุด แต่พอเปิดซองแล้วไปเห็นราคารายอื่นแล้วเปรียบเทียบกันถึงส่วนต่างกำไร ก็สามารถกลับคำโดยระบุว่าราคาที่เสนอมาในกระดาษของตนเองครั้งแรกขอยืนราคาแค่ 1 วันเท่านั้น เท่ากับเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องเพราะเท่ากับเป็นการขอดูราคาของคนอื่น ถึงจะเป็นผู้ชนะก็อาจจะไม่เข้ามาทำสัญญาก็ได้ โดย ทอท.ไม่สามารถเอาผิดได้ด้วย จึงเป็นแนวทางที่จะสร้างความโกลาหลได้ จึงจำเป็นที่จะต้องใช้แบบฟอร์มใบเสนอราคาของ ทอท.เป็นมาตรฐานในการพิจารณาตัดสิน
แล้วกรณีดังกล่าวบริษัทผู้ชนะทางเทคนิค ไม่ได้ใช้แบบฟอร์มใบเสนอราคาของ ทอท.ยื่นเข้ามาให้พิจารณา จึงเข้าข่ายแพ้ฟาล์วนั่นเอง เพราะในทีโออาร์เขียนระบุไว้ชัดเจนหากขาดเอกสารอย่างใดอย่างหนึ่งจะไม่รับพิจารณา รวมทั้งวันซื้อซองทางเจ้าหน้าที่ ทอท.ก็ชี้แจงขั้นตอนอย่างละเอียด อีกทั้งในการมาซื้อซองเทคนิคส่วนใหญ่ก็ซื้อไปบริษัทละ 2 ซอง เพื่อไปจับมือกันทำข้อเสนอยื่นชิงงานโครงการนี้
เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนคณะกรรมการที่ทำหน้าที่คัดเลือกผู้ชนะทำตามกติกาการเปิดซองต้องพบใบเสนอราคาตามแบบฟอร์มของ ทอท.ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จาก 1.แบบฟอร์มใบเสนอราคาจะการเขียนเลขที่เรียงลำดับกำกับไว้ตั้งแต่ตอนซื้อขาย 2.มีเจ้าหน้าที่อธิบายรายละเอียดแก่ผู้ซื้อ 3.วิธีการซื้อขั้นต่ำจะซื้อ 2 ซองขึ้นไป เพราะต้องซื้อไปเผื่อกรณีจับมือกันทำคอนซอร์เตี้ยมมาเสนองาน ดังนั้นหากพลาดซองแรกก็มีซองที่สอง 4.ตามปกติผู้สนใจจะยื่นประมูลรู้อยู่แล้วว่ามีเอกสารสำคัญจะต้องใช้งานโดยมีเวลาถึง 100 วันก่อนจะมายื่นต้องรีบเสนอทักท้วงเข้ามายัง ทอท. แต่ตลอดระยะเวลาดังกล่าวกลับไม่มีผู้ทักท้วงใด ๆ มาทำภายหลังเปิดซองราคาเสร็จเรียบร้อยแล้ว
สำหรับคณะกรรมการตัดสิน ก็มีทั้งกรรมการอิสระจากสมาคมสถาปนิก และผู้เชี่ยวต่าง ๆ เข้ามาเป็นสักขีพยาน หรือกรรมการบ้าง ในการประกวดออกแบบ มีคนกลางเป็นพยาน พร้อมทั้งมีการจัดทำ VDO ทุกขั้นตอน
นายนิตินัยย้ำว่าแบบฟอร์มใบเสนอราคาของ ทอท.ครั้งนี้ ได้ใช้กับการเปิดประมูลโครงการต่าง ๆ ที่ผ่านมาก็ใช้แบบฟอร์มดังกล่าวโดยไม่ได้เกิดปัญหาแต่อย่างใด รวมทั้งกระทรวงคมนาคมเองก็ใช้แบบฟอร์มระบบราชการในลักษณะคล้ายคลึงกัน จึงขอยืนยันถึงความโปร่งใสที่ประกาศให้ กลุ่มบริษัท ดีบีเอแอลพี-นิเคนเซกเก้ ชนะในการเป็นดำเนินโครงการสำรวจออกแบบอาคารผู้โดยสารสุวรรณภูมิหลังที่ 2 ที่จะต้องเดินหน้าออกแบบ เริ่มการก่อสร้างภายในปี 2562
สำหรับประเด็นการลอกแบบมาเสนองานนั้นจะทำอย่างไร ยกเลิกหรือเซ็นต์สัญญา ซึ่งเป็นจรรยาบรรณของสถาสถาปนิกในทีโออาร์ได้เขียนป้องกันไว้เช่นกันคือ ในพระราชบัญญัติจัดซื้อจัดจ้าง พ.ศ.2560 มาตรา 66 วรรคสอง ระบุชัดว่าการทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างจะกระทำได้ก็ต่อเมื่อพ้นระยะเวลาอุธรณ์และไม่มีผู้ใดอุธรณ์ตามมาตรา 117 ให้เวลาภายใน 7 วันทำการ นับจากวันที่ลงประกาศในเครือข่ายกรมบัญชีกลาง หากไม่มีผู้ทักท้วงสามารถลงนามสัญญาได้ และ/หรือหากมีผู้ทักท้วงให้ ทอท.พิจารณาใน 7 วันถัดไป แล้วจะต้องแจ้งกลับภายใน 3 วัน ขณะนี้ยังอยู่ในระยะเวลาที่อุธรณ์ได้ตามเงื่อนไขกฎหมาย เป็นกลไก
นายนิตินัยกล่าวว่า ทอท.มีโครงการลงทุนที่จะต้องเปิดประมูลตามแผนยุทธศาสตร์ 2559-2569 ช่วง 10 ปี จะต้องลงทุนประมาณ 2 แสนล้านบาท ผนวกกับกรณีที่ ทอท.ต้องรับโอนบริหารสนามบินภูมิภาคในประเทศอีก 4 แห่ง วงเงินการลงทุนราว 3,000 ล้านบาท และสร้าง 2 สนามบินใหม่ ภูเก็ตและเชียงใหม่แห่งที่ 2
ปัจจุบันเงินลงทุนจำนวน 200,000 ล้านบาท ตามแผนพัฒนาสนามบิน ทอท.ทั้ง 6 แห่ง กระจุกอยู่ในสุวรรณภูมิเกินกว่าครึ่งหนึ่งหรือ 50 % ของทั้งหมด ประมาณ 13,000-140,000 ล้านบาท โดยแบ่งการลงทุนออกเป็น 3 กลุ่มงานใหญ่
กลุ่มงานที่ 1 โครงการเฟส 2 กำลังก่อสร้างแซตเทิลไลท์ เทอร์มินอล ที่จะต้องนั่งไฟโมโนเรลรางเบาไร้คนขับระยะทาง 1 กม.ไปโผล่กลางแอร์ไซด์ เทอร์มินอล ใช้เงินราว 62,000 ล้านบาท
กลุ่ม 2 การก่อสร้างรันเวย์ที่ 3 วงเงินกว่า 20,000 ล้านบาท
กลุ่มงาน 3 เทอร์มินอลที่ 2 วงเงินกว่า 40,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่เพิ่งประกาศผู้ชนะสำรวจออกแบบจนกลายเป็นประเด็นถกเถียงกันในช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
สำหรับ เฟส 2 สุวรรณภูมิ จะเป็นต้นแบบในการนำร่องของคำว่า CoST -Construction Sector Transparency Intiative หรือโครงการเพิ่มความใสก่อสร้างภาครัฐ” ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง ซึ่ง ทอท.เป็นหน่วยงานบุกเบิกรายแรกที่เข้าระบบดังกล่าว เริ่มจาก จัดทำประกวดออกแบบ ปรับราคากลาง เบ็ดเสร็จเงินงบประมาณรัฐลงได้ราว 12,000 ล้านบาท จากราคาเต็ม 62,000 เหลือ 50,000 ล้านบาท
ดังนั้น ทอท.จึงต้องวางระบบความโปร่งใส พร้อมกำหนดกฎเกณฑ์ตามข้อมูลข้างต้น เพื่อป้องกันการร้องเรียนแบบแปลก ๆ ที่จะเข้ามาเหมือนกับการประมูลโครงการสำรวจออกแบบอาคารผู้โดยสารสุวรรณภูมิหลังที่ 2
ตอนนี้การประมูลงานเฟส 2 สุวรรณภูมิ เหลือโครงการย่อย ๆ เพียง 2 โครงการ ได้แก่ โครงการที่ 1 บริเวณ Landside ตรงถนนยกระดับปัจจุบันโค้งทางเข้าสู่อาคารผู้โดยสารสุวรรณภูมิก่อนถึงประตูทางเข้า 1-2 จะมีพื้นที่ว่างอยู่ทางด้านซ้ายมือ จะทำเป็นอาคารผู้โดยสารสุวรรณภูมิหลังที่ 2 ซึ่งจะต้องมีสายพานลำเลียงกระเป๋า กับระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (Automated People Move : APM) ส่วนภายในอาคารผู้โดยสารปัจจุบันเป็นที่ตั้งเคาน์เตอร์แถว A, B ของการบินไทย ซึ่งเดิมเรียก East Wing แต่พอมีเทอร์มินอล หลังที่ 2 เข้ามาจึงต้องรอแบบก่อนจึงประมูลงานส่วนอื่นได้ เพื่อเชื่อมพื้นที่เข้าไปยังแถว A, B การบินไทย จะต้องใช้เทคนิคอะไรบ้างเข้ามาเชื่อมต่อพื้นที่อาคารเก่าและใหม่เข้าด้วยกัน
จึงเป็นสาเหตุอีกประเด็นต้องชะลอการเปิดประมูลงานบางโครงการของเทอร์มินอล สุวรรณภูมิ หลังที่ 2 ไว้ ตอนนี้คือการก่อสร้างปรับปรุงในฝั่ง West Wing ไปก่อนพลาง ๆ ช่วงปลายอาคารผู้โดยสารสุวรรณภูมิหลังปัจจุบัน เมื่อการออกแบบแล้วเสร็จจนเริ่มเข้าสู่การเริ่มก่อสร้างอาคารใหม่หลังที่ 2 จึงจะกลับมาทำทางฝั่ง East Wing ทั้งหมดให้แล้วเสร็จ ซึ่งตามขั้นตอนได้ใช้แบบที่มีอยู่แล้ว โดยเสนอไปยังสำนักงานคณะกรรมการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติอีกครั้ง เพื่อรับทราบการเปลี่ยนกรอบเวลาก่อสร้างให้เป็นตามกำหนด
ตอนนี้การขออนุมัติต่าง ๆ ในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำได้ค่อนข้างรวดเร็ว ทอท.สามารถเดินหน้าได้อย่างเต็มที่
โครงการที่ 2 ระบบสายพานของเดิมจากอาคารผู้โดยสารหลักหลังเดิมไปยัง Settlelight Teminal หลังใหม่ มีเฉพาะสายพานลำเลียงกระเป๋าผู้โดยสารขาออก ส่วนขาเข้ากำหนดใช้รถวิ่งบริการแทนโดยได้คำนึงถึงความปลอดภัยปริมาณจราจรจึงได้เพิ่มสายพานลำเลียงขาเข้าแทน
ทั้ง 2 โครงการดังกล่าว จะเปิดประมูลให้แล้วเสร็จภายในปีปฏิทินงบประมาณเดือนธันวาคม 2561 สามารถใช้ 4 เดือนนี้ทำภารกิจได้
นายนิตินัยกล่าวว่า ท่าอากาศยานอื่น ๆ ที่จะใช้วงเงินอีกประมาณ 100,000 ล้านบาท ได้ปรับโดยการนำโครงการศักยภาพไปรวมอยู่กับโครงการบริการ (level service) ล่าสุด ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้มาตรวจงานกระทรวงคมนาคม รับทราบถึงแผนความคืบหน้าการพัฒนาท่าอากาศยานของ ทอท.ได้เห็นถึงความแออัดของพื้นที่รองรับผู้โดยสารตอนนี้เดินหน้าได้ช้ามาก จึงมีนโยบายให้หาแนวทางทำให้เร็วขึ้นกว่าปัจจุบัน
ทอท.พบว่ามีงานบางส่วนสามารถทำได้โดยไม่ต้องรอ เช่น ลานจอดรถ เป็นการพัฒนาบริการทางสภาพัฒน์อนุมัติให้ ทอท.ทำไปก่อนได้ ต่อไปจึงจะนำโครงการที่ไม่เกี่ยวข้องกับขีดความสามารถการรองรับ (capacity) หรือต้องผ่านขั้นตอนประเมินผลสิ่งแวดล้อม (EIA) ก็จะทำไปก่อน
ดังนั้นช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2561 จะเห็นตึกใหม่ขึ้นอยู่ตรงรอยต่ออาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานดอนเมือง เป็นอาคารใหม่จัดทำขึ้นเพื่อให้บริการการเช็คอินเป็นกลุ่มหรือหมู่คณะ จะเปิดประมูลหาผู้รับเหมางานการลงทุนราว 200 ล้านบาท ภายในกันยายน นี้ จากนั้นจะใช้เวลาก่อสร้าง 3 เดือน เตรียมเปิดเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้ผู้โดยสารในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้
สำหรับการประมูลในท่าอากาศยานอื่น ๆ จะเริ่มขับเคลื่อนในอีก 2 เดือนข้างหน้า ต่อเนื่องไปอีก 2 ปี วงเงินลงทุนจำนวนหลายพันล้านบาท ทำการพัฒนาปรับปรุงแนวทางเดียวกันคือเร่งให้เร็วกว่าแผนระยะยาว เพราะทางคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.อนุมัติให้เปิดแผนกใหม่ระดมวิศวกร ทอท.จำนวนที่มีอยู่กว่า 100 คน ซึ่งจะเข้ามาทำหน้าที่ออกแบบ โดยเลิกจ้างเอกชนเข้ามาทำ ซึ่งการประมูลจ้างรายการสุดท้ายคืองานสำรวจออกแบบอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 นั่นเอง
วิศวกร ทอท.เหล่านี้เมื่ออกแบบเสร็จ ก็ไปคุมงานก่อสร้างด้วยทีมของตนเองตลอดการก่อสร้างทุกวันในอีก 10 ปีข้างหน้า เป็นการปรับโครงสร้างองค์กรทำให้การทำงานรวดเร็วตามเป้าหมาย
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ชวนดูหนังบริจาคเงินก้าวคนละก้าวเริ่ม6ก.ย.”
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ชวนไปชมภาพยนตร์ “ก้าวคนละก้าว - 2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว” เริ่มฉายตั้งแต่ 6 กันยายน 2561 เป็นต้นไป ในโรงภาพยนตร์2 เครือใหญ่ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ และเครือ เอส เอฟ ที่พร้อมเปิดต้อนรับคนไทยได้ชมฟรีมากถึง 720,000 ที่นั่ง ช่วงวันจันทร์-ศุกร์ ฉายให้ชม 1 รอบ และเสาร์-อาทิตย์ ฉายให้ชม 2 รอบ
โครงการนี้กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ร่วมกับ จีดีเอช และ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย เชิญชวนคนไทยร่วมชมภาพยนตร์ “2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว” ภาพยนตร์คลุกวงในตลอด 55 วัน เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจในการทำความดี ก้าวนี้..เพื่อศิริราช ด้วยการบริจาคเงินเพื่อหารายได้ซื้ออุปกรณ์การแพทย์ อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล อาคารหลังสุดท้ายที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานนามให้ เพื่อผู้ป่วยด้อยโอกาส โรงพยาบาลศิริราช และผลิตบุคลากรทางการแพทย์รุ่นใหม่ต่อไป
ผู้ชมและผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบริจาคได้ที่ กล่องรับบริจาคตรงเคาน์เตอร์โรงภาพยนตร์ และสามารถโอนเงินผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา ศิริราช เลขบัญชี 016-3-04556-7 กระแสรายวัน ชื่อบัญชี เพื่อการรักษาพยาบาลผู้ป่วย อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา โรงพยาบาลศิริราช หรือผ่านทาง คิว อาร์ โคด ผ่าน Mobile Banking และ SMS บริจาคครั้งละ 10 บาท โดยพิมพ์ T แล้วกด 4545099 โดย เริ่มบริจาคทาง SMS ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2561 เป็นต้นไป
ข่าวที่ 2 “ททท.ลุยโปรโมตทัวร์โมโตจีพีเข้าไทย5-7ต.ค.61”
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วยเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และทีมจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ร่วมกันจัดงาน “บุรีรัมย์ ไนต์” ขึ้นในกรุงโตเกียว เมื่อค่ำคืนวันที่ 28 สิงหาคม 2561 เพื่อเดินหน้าโปรโมตการท่องเที่ยวในระหว่างจัดแข่งขันรายการ “พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2018” ระหว่าง 5 - 7 ตุลาคม 2561 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต บุรีรัมย์
นายธเนศวร์ กล่าวว่า ททท.พร้อมขานรับนโยบายรัฐบาลส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬายกระดับไทยเป็น Sport Tourism Destination และศูนย์กลางอาเซียน โดยจะจัดแข่งขันกีฬาเมกะอีเวนต์กับ เวิลด์ อินเตอร์เนชั่นแนลเกม และอีเวนต์ท้องถิ่นขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับแนวโน้มเทรนด์โลกเรื่องการท่องเที่ยวเชิงกีฬาเติบโตสูง มีศักยภาพใช้จ่ายระหว่างการเดินทางสูง และมีวันพักเฉลี่ยยาวกว่าทั่วไป
ในช่วงปี 2561 - 2563 ที่ไทยได้รับสิทธิจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกโมโตจีพี จะเป็นรายการนำภาพจำของประเทศให้เป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้นผ่านช่องทางการถ่ายทอดสดทางสื่อออนไลน์ และออฟไลน์ ครอบคลุมกว่า 200 ประเทศ ผู้ชมนานาชาติกว่า 600 ล้านคน ซึ่งเดือนตุลาคมนี้คาดจะมีชาวต่างชาติเข้ามาชมกว่า150,000 คน
ผู้สนใจชมการแข่งขันซื้อบัตรได้ที่ www.allticket.com หรืvwww.motogp.com/en/event/Thailand และ Facebook : Chang International Circuit
ข่าวที่ 3 “เที่ยวดนตรีบางแสน-ทัวร์ศาสตร์พระราชา5ภาค”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชวนไปท่องเที่ยว "เทศกาลดนตรีฤดูฝน" Bangsaen Music in the Rain 2018" วันเสาร์ที่ 1 กันยายน นี้ ที่แหลมแท่น จังหวัดชลบุรี ชมศิลปินแถวหน้าของเมืองไทยได้ตั้งแต่ 17.00 น. เป็นต้นไป เป็นการจับมือกับทางเทศบาลเมืองแสนสุข และจังหวัดชลบุรี จัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงดนตรีที่กำลังมาแรง
พบกับศิลปินชื่อดังที่จะมาขึ้นเวทีมีทั้ง Phrima’s Band , นนท์ The Voice , ไมค์ ภิรมย์พร , กวาง AB normal , Boy peacemaker , PARADOX, 25 Hours , แก้ม วิชญาณี , กัน นภัทร , NUVO และ BIGASS โดยมีการฟิชเชอริ่งรอบพิเศษระหว่างศิลปินลูกทุ่งขวัญใจคนจน ไมค์ ภิรมย์พร กับ นนท์ The Voice ภายในงานได้คัดร้านอาหารชื่อดังทั่วชลบุรีมาบริการ และร้านค้าสตรีทอาร์ท แทททู เพ้นท์ ให้นักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรมอย่างสบายใจ
ส่วนกิจกรรม ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.เป็นประธานเพิ่งจัดเสร็จสิ้นไปเป็นงาน “นิทรรศการตามรอยศาสตร์พระราชา สู่การเชื่อมโยงแอ่งท่องเที่ยว” ททท. ร่วมกับ สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) และคณะทูตานุทูตจากหลากหลายประเทศ จัดขึ้น ณ ศูนย์การค้า Central World ชั้น 6 โซน Central Court เพื่อสร้างการเรียนรู้เกี่ยวกับโครงการพระราชดำริ ที่ทรงประทานแก่ปวงชงชาวไทย และชุมชนใน 5 ภูมิภาคของประเทศ ไฮไลต์ 6 แห่ง ถึงนิทรรศการจะเสร็จแล้ว ก็ยังสามารถดินทางไปท่องเที่ยวได้ต่อเนื่องตลอดทุกวัน ได้แก่
1. โครงการเกษตรวิชญา – ชุมชนบ้านไร่กองขิงจ.เชียงใหม่ 2. โครงการปรับปรุงอ่างเก็บน้ำต้นลำปะเทีย ชุมชนบ้านโคกเมือง จ.บุรีรัมย์ 3. โครงการ 1 ไร่แก้จน ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชน มณฑลทหารบกที่ 16 4. จ.ราชบุรี – ชุมชนบ้านศาลาดิน จ.นครปฐม 5. โครงการศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ - ชุมชนปากน้ำประแส จ.ระยอง 6. โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ - ชุมชนบ้านแหลม จ.นครศรีธรรมราช ติดตามได้ทาง www.tourismthailand.org/kingwisdom
ข่าวที่ 3 “บางจากร่วมวงบัตรฟลีทการ์ดแทนเงินสด”
นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ร่วมมือกับทีเอ็มบี เปิดตัวบัตรเครดิตน้ำมันร่วม เชลล์ – บางจาก (Fleet Card) เป็นการช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าธุรกิจใช้บัตรเครดิตน้ำมันชำระเงินแทนเงินสด สำหรับค่าใช้จ่ายจากการเติมน้ำมันหรือค่าบริการอื่น ๆ ได้ที่ปั๊มเชลล์ และบางจากทั่วประเทศรวมกว่า 1,600 แห่ง
โดยบางจากได้จัดทำระบบบัตรเครดิตน้ำมันฟลีทการ์ด เพื่ออำนวยความสะดวกในการชำระค่าน้ำมันแทนเงินสด และยังได้เครดิตสูงสุดถึง 55 วัน รวมทั้งมีระบบรายงานที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบการขนส่ง หน่วยราชการ และนิติบุคคล ในการบริหารจัดการการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งสามารถใช้บริการได้ที่ปั๊มน้ำมันบางจากขณะนี้มีกว่า 1,100 แห่ง ทั้งบนเส้นทางสายหลักและสายรอง ครอบคลุมทุกภูมิภาค ปี 2566 มีแผนเพิ่มรวมกว่า 1,500 แห่ง
และตามคาดการณ์ปี 2561 จะมีธุรกิจขนส่งสินค้าทางบกขยายตัวเพิ่มขึ้น 5 – 7 % สอดคล้องกับสถานการณ์การใช้น้ำมันจะเพิ่มสูงขึ้นด้วย ตามที่กรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน ระบุช่วงครึ่งปีแรกพบการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินและดีเซลรวมเฉลี่ยวันละ 98 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 2.5 % จึงเป็นแรงกระตุ้นให้บางจากฯ เร่งพัฒนาสถานีบริการน้ำมันอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มจำนวนสถานีบริการน้ำมันขนาดใหญ่บนเส้นทางถนนสายหลัก ควบคู่กับออกแบบพื้นที่ให้มีขนาดกว้างขวางพร้อมกับเปิดธุรกิจเสริม เช่น ร้านสะดวกซื้อ ร้านกาแฟอินทนิล และบริการเสริมครบ รวมถึงเป็นจุดพักรถ – พักคนได้เป็นอย่างดี
ข่าวที่ 4 “นายกฯสั่งทอท.ลุยรับ4สนามบินผุดด่วนภูเก็ต/เชียงใหม่”
กระทรวงคมนาคม รายงานว่า ได้รับนโยบายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” รับโอนท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของกรมท่าอากาศยานทั้ง 4 แห่ง คือ อุดรธานี สกลนคร ตาก และชุมพร ไปบริหารจัดการ เร่งโอนให้ถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
อีกทั้งนายกรัฐมนตรียังเร่งหาข้อสรุปผลการศึกษาความเหมาะสมและเป็นไปได้ในการลงทุนก่อสร้างสนามบินใหม่แห่งที่ 2 ของ ทอท.อีก 2 แห่ง ภูเก็ตแห่งที่ 2 กับเชียงใหม่แห่งที่ 2 ให้มีขีดความสามารถรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในอนาคตอย่างเพียงพอ ลดความแออัดของนักเดินทางแก้ปัญหาการกระจุกตัวในสุวรรณภูมิและดอนเมือง
โดยให้ศึกษาความเหมาะสมและเป็นไปได้ด้วยการหาข้อมูลอย่างให้ชัดเจนครบถ้วนทั้งเรื่อง รูปแบบการลงทุน ผู้ลงทุน บทบาทของ ทอท. บทบาทของภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง แล้วให้รายงานนายกรัฐมนตรีทราบโดยเร็ว
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.เปิดเผยว่า ได้นำเสนอผลการศึกษาการรับโอนสนามบินภูมิภาคให้กระทรวงคมนาคมเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2561 คาดภายในกันยายนนี้จะเสนอ ครม.และนายกรัฐมนตรีพิจารณา จากนั้นจะเร่งดำเนินการโดยด่วนภายในปี 2562 ก็จะเข้าไปลงทุนปรับปรุง พัฒนา บริหารเต็มรูปแบบได้อย่างแน่นอน
ช่วงที่ 2 ออกไปลั้ลลาเที่ยวเมืองรอง กับวิถีความสุข 5 อ.ได้ใน “แม่ฮ่องสอน” ช่วงครึ่งปีแรกแรงจัดจากโกยรายได้โตนำโด่งแซงจังหวัดอื่น ด้วยความงามยิ่งทุกสิ่งดึงดูดใจ เที่ยวเสร็จก็หันมาระวังสุขภาพกับข้อแนะนำ “การเลือกรสชาติอาหารให้ตรงจริตร่างกาย” และข่าวโดนใจทุกประเด็น ตั้งแต่ “โปรแรงไทยสไมล์ในงาน เที่ยวทั่วไทย” ขายตั๋วบินเหลือแค่ เที่ยวละพันบาท 1-2 กันยายน นี้ ที่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ “แอร์ไลน์เฮรับกฎหมายใหม่ กทพ.ให้ขึ้นค่าตั๋วเพิ่มได้” ตั้งแต่กันยายนี้เป็นต้นไป “รัฐเท6พันล้านปั้นสนามบินกระบี่-ขอนแก่น” ฮับการบินใหม่ และไขปริศนา “นก-ปิยะลาออกจากซีอีโอนกแอร์” ลึก ๆ แล้วโดนคว่ำงบฟื้นฟูหรือเพราะธุรกิจนี้มีความไม่แน่นอน
@เที่ยวเมืองรองวิถีสุข5อ.ในแม่ฮ่องสอน
เตรียมตัวกันแต่เนิ่น ๆ ที่จะไปขึ้นเหนือไปสูดโอโซนช่วงฤดูหนาวที่ “แม่ฮ่องสอน” จังหวัดเมืองรองที่สามารถทุบสถิติการท่องเที่ยวช่วงครึ่งปีแรกครองแชมป์อัตราการเติบโตสูงสุด
เมืองรองที่ผู้คนจดจำว่า “แม่ฮ่องสอน” เป็นดินแดนแห่ง 1,864 โค้ง ผู้คนชนเผ่าต่างใช้ชีวิตอยู่กลางหุบเขาด้วยวิถีวัฒนธรรมความสุขสงบ ผ่อนคลาย กับสิ่งดี ๆ ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยยกให้เป็นเมือง 5 อ. คือ อากาศ อาหาร อาราม อารมณ์ อายุยืน
เมื่อเอ่ยถึงแม่ฮ่องสอนนักท่องเที่ยวล้วนต้องการไปพิชิต “ปางอุ๋ง-โครงการพระราชดำริปางตอง 2” เป็นสุดยอดของแหล่งอากาศบริสุทธิ์ ดั่งทะเลสาบกลางหุบเขาที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงก่อตั้งขึ้นเพื่อแก้ปัญหาแหล่งเสื่อมโทรม ยาเสพติด การพัฒฯอาชีพ นักท่องเที่ยวสามารถใช้เป็นแหล่งพักผ่อนล่องเรือชมหงส์สวย ๆ ได้
จากนั้นก็ต้องไปชมวิถี “ชุมชนบ้านผาบ่อง” เพื่อชวนนักท่องเที่ยวไปสร้างอารมณ์ความสุข กับการเดินข้าม “สะพานข้าว ก้าวเพื่อสุขภาพ” กลางทุ่งในบรรยากาศท้องทุ่งนาเขียวขจีสวยสุดบรรยายของชาวไทยใหญ่ ชาวปะกากะญอ ที่ตั้งถิ่นฐานสืบสานวัฒนธรรมอยู่กันมานับร้อยปี รอบบริเวณชุมชนแห่งนี้มีน้ำพุร้อนกับตลาดชุมชน ให้เยี่ยมชมด้วย
ต่อด้วยการท่องเที่ยว “อาราม” มีวัดมากมายที่ชาวไทยใหญ่สร้างไว้เป็นศูนย์กลางการทำกิจกรรมต่าง ๆ ตัวอย่าง “พระอารามหลวงวัดจองคำ” สถาปัตยกรรมการสร้างด้วยศิลปะไทย ความโดดเด่นคือหลังคาเป็นทางปราสาท 9 ชั้น ภายในมีวิหารหลวงพ่อโตองค์ใหญ่สุดในแม่ฮ่องสอน ส่วน “วัดจองกลาง” มีพระอุปคุตประดิษฐานอยู่ตรงบริเวณด้านหน้าทางเข้า แต่ละแห่งล้วนเป็นอารามที่น่าแวะสักการะกราบไหว้ทั้งสิ้น
มาถึง “อายุยืน” ต้องชวนกันไปแช่น้ำพุร้อนไทรงาม ในเขตอนุรักษ์ป่าไทรงาม มีแอ่งน้ำขนาดเล็กลดหลั่นเป็นชั้น ๆ คล้ายน้ำตก อยู่ท่ามกลางความเขียวน้ำใสมองทะลุไปถึงพื้นด้านล่าง ก็ทำให้วัยอย่างเรา ๆ มีความสุขได้
ส่วน “อาหารถิ่น” แนะนำให้ชิมพืชพักพื้นเมืองอย่าง “ถั่วลายเสือ” เนื้อนุ่มรสชาติหวานต่างจากถั่วลิสงทั่ว ๆ ไป แถมยังสามารถกินได้ทั้งเปลือก
เป็นเสน่ห์วิถีถิ่นของเมืองรอง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ครบถ้วนทั้ง 5 อ.
ทว่าแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมดึงดูดนักท่องเที่ยวก็ยังมีไฮไลต์อีกหลายแห่ง อย่าง “พระธาตุดอยกองมู” อยู่กับชาวพื้นเมืองมาอย่างยาวนาน ตั้งตระหง่านอยู่บนดอยสูงมองเห็นวิวทิวทัศน์แบบพาโนรามา 360 องศา ภายในยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต นั่นคือภายในพระเจดีย์ใหญ่ได้บรรจุพระธาตุของพระโมคคัลลานะไว้
“ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ” ช่วงเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนธันวาคม ของทุกปี ดอกบัวตองจะบานเหลืองสะพรั่งปกคลุมทั่วทั้งหุบเขาสวยเกินคำบรรยายใด ๆ ต้องไปให้เห็นกับตา จึงจะสัมผัสได้ถึงความงดงามของธรรมชาติแต่ละปีมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ไปแม่ฮ่องสอนกันดีกว่า ถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่ม ถามเบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย 1672
@การเลือกรสชาติอาหารและข้อควรระวัง
กินอาหารที่มีรสชาติเดียวกันซ้ำซากทุกสถานการณ์ ย่อมก่อให้เกิดความเสียสมดุลของธาตุในร่างกาย การเลือกรสชาติของอาหารแต่ละประเภทมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังนี้
รสเปรี้ยว วิ่งเส้นตับ (ธาตุไม้) รสเปรี้ยวมีสรรพคุณ พยุง เหนี่ยวรั้ง ทำให้หยุด ระงับการหลั่งเหงื่อ ระงับการปล่อยสารคัดหลั่งต่างๆ การหยุดเลือด คนที่มีภาวะของตับเลือดพร่องให้กินของเปรี้ยวได้เพิ่มขึ้น แต่ถ้าเป็นโรคตับ (ภาวะของตับพร่องมากแล้ว) ห้ามกินของเปรี้ยวโดยเด็ดขาด นอกจากนี้การกินอาหารที่มีรสเปรี้ยวมากเกินไปจะกระทบกระเทือนธาตุดิน (กระเพาะ ม้าม)
รสเผ็ด วิ่งเส้นปอด (ธาตุทอง) รสเผ็ดมีสรรพคุณ กระจาย แผ่ซ่าน ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด คนที่ภาวะปอดอ่อนแอควรกินอาหารรสเผ็ดให้มากหน่อย แต่ถ้าเป็นโรคปอด (ภาระปอดพร่องมากแล้ว) ห้ามกินของเผ็ดโดยเด็ดขาด นอกจากนี้การกินอาหารที่มีรสเผ็ดมากเกินไปจะกระทบกระเทือนธาตุไม้ (ตับ)
รสหวาน วิ่งเส้นม้าม (ธาตุดิน) รสหวานมีสรรพคุณ บำรุงเสริมสร้าง ลดการปวดเกร็งของกล้ามเนื้อ ลดอาการปวด คนที่ระบบการย่อยอ่อนแอ พลังม้ามบกพร่องให้กินอาหารรสหวานมากหน่อย แต่ถ้าเป็นโรคที่เกี่ยวกับการย่อยอาหารอ่อนแอมากๆ โรคเกี่ยวกับเอ็น ไม่ควรกินของหวานจัด นอกจากนี้การกินอาหารที่มีรสหวานมากเกินไปจะกระทบกระเทือนธาตุน้ำ (ไต)
รสเค็ม วิ่งเส้นไต (ธาตุน้ำ) รสเค็มมีสรรพคุณ ช่วยการสลายทำให้นิ่ม (สลายก้อนแข็ง) ช่วยระบาย แก้ท้องผูก คนที่มีไตพร่อง (ร้อนใน คอแห้ง ท้องผูก เหงื่อออกตามมือ, เท้า ปอด เมื่อยเอว สมรรถภาพทางเพศลดลง) ให้กินอาหารรสเค็มมากหน่อย แต่ถ้าเป็นโรคที่เกี่ยวกับไต (ไตอ่อนแอมากแล้ว) หรือโรคเลือด ห้ามกินของเค็ม นอกจากนี้การกินอาหารที่มีรสเค็มมากเกินไป จะกระทบกระเทือนธาตุไฟ (หัวใจ รวมทั้งระบบประสาท)
รสขม วิ่งเส้นหัวใจ (ธาตุไฟ) รสขมมีสรรพคุณขจัดร้อน สลายไฟ (ความร้อนในตัว) คนที่เลือดหัวใจพร่อง(นอนไม่หลับ ฝันบ่อย ความรู้สึกร้อนในตัว ร้อนฝ่ามือฝ่าเท้า มีแผลร้อนในปาก กินอาหารรสขมมากหน่อย แต่ถ้าเป็นโรคพลังหัวใจพร่องมาก หรือโรคปวดกระดูก คอแห้ง ลิ้นแดง ไม่ควรกินอาหารรสขม นอกจากนี้การกินอาหารที่มีรสขมมากเกินไปจะกระทบกระเทือนธาตุทอง (ปอด)
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “ไทยสไมล์อัดโปรแรงตั๋วบินเริ่มแค่พันบาท1-2ก.ย.นี้”
สายการบินไทยสมายล์ รายงานว่า ได้จัดทำโปรโมชั่นตั๋วโดยสารขายราคาพิเศษ ในงานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 48 ช่วงเสาร์ที่ 1-อาทิตย์ที่ 2 กันยายน นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีโปรแรง ๆ Smile Price เป็นตั๋วบินรวมทุกอย่างแต่ละเที่ยว ได้แก่ เส้นทางในประเทศ รวมทุกอย่าง เริ่มต้นเที่ยวละ 1,090 บาท เส้นทางข้ามภาค เริ่มเที่ยวละ 1,700 บาท เส้นทางต่างประเทศ เริ่มต้น 2,000 บาท ซื้อภายในงานแล้วนำไปใช้เดินทาง 5 ก.ย.2561 – 29 มี.ค. 2562
ตลอดการเข้าร่วมงานทางบูธไทยสมายล์ หมายเลข M32, M33 มีบริการขายสินค้าที่ระลึก Smile Gift ราคาพิเศษ อาทิ ตุ๊กตาหมอนผ้าห่มฮักยิ้ม เซ็ทตุ๊กตาหมีหนูส้ม หมอนรองคอ พวงกุญแจ เนคไท ปากกา ผ้าพันคอ สอบถามเพิ่มที่ 1181 หรือ 0 2118 8888
ข่าวที่สอง “แอร์ไลน์เฮกม.ใหม่ก.ย.นี้ขึ้นค่าตั๋วเพิ่มได้”
นายจุฬา สุขมานพ กล่าวว่า ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยหรือกพท. กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) เห็นชอบร่างประกาศ กบร. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณค่าโดยสารและค่าระวางสำหรับอากาศยานขนส่งภายในประเทศ พ.ศ. .... โดยกำหนดให้เส้นทางบินภายในประเทศที่มีระยะทางบินเกิน 300 กิโลเมตร ให้ผู้ประกอบการอากาศยานขนส่งกำหนดค่าโดยสาร ดังนี้
1. เส้นทางบินที่ผู้ประกอบการอากาศยานขนส่งให้บริการเต็มรูปแบบ (Full Service) จะต้องมีบริการพื้นฐานขั้นต่ำอย่างน้อย 3 รายการ ที่ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ได้แก่ น้ำหนักสัมภาระลงทะเบียนอย่างน้อย 20 กิโลกรัม บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง และบริการให้เลือกที่นั่ง สามารถเรียกเก็บค่าโดยสารไม่เกิน 13 บาทต่อกิโลเมตร
2. เส้นทางบินที่ผู้ประกอบการอากาศยานขนส่งให้บริการต้นทุนต่ำ ให้กำหนดค่าโดยสารได้ไม่เกิน 9.40 บาทต่อกิโลเมตร
ส่วนการกำหนดค่าโดยสารชั้นที่สูงกว่าชั้นประหยัด ให้ตั้งราคาเพิ่มสูงกว่าชั้นประหยัดได้ไม่เกิน 30% กฎหมายที่จะออกประกาศใหม่มีผลบังคับใช้ในเดือนกันยายน 2561 เป็นต้นไป
ข่าวที่สาม “รัฐเท6พันล้านปั้นสนามบินกระบี่/ขอนแก่นฮับใหม่”
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เป็นประธานการลงนามสัญญาโครงการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารท่าอากาศยานกระบี่และท่าอากาศยานขอนแก่นไปเรียบร้อยแล้วเมื่อปลายเดือนสิงหาคม 2561 ระหว่างกรมท่าอากาศยาน(ทย.)และ บริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน) เพื่อเดินหน้าพัฒนาเฟสแรก ท่าอากาศยานกระบี่และขอนแก่นวงเงินลงทุนรวมกว่า 6,000 ล้านบาท ตามแผนยุทธศาสตร์กรมท่าอากาศยาน ปี 2560 – 2564 ตั้งเป้าผลักดันสู่การเป็นศูนย์กลางการบินภูมิภาค
รวมทั้งเป็นไปตามยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทยในระยะ 8 ปี (2558-2565) เน้นสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ด้วยการมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี เชื่อมต่อโครงข่ายในประเทศกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างมีประสิทธิภาพ
ข่าวที่สี่ “เบื้องลึก"นก-ปิยะ"ไขก๊อกลาออกจากซีอีโอนกแอร์"
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานกรรมการ บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บอร์ดนกแอร์ได้มีอนุมัติตามหนังสือลาออกของนายปิยะ ยอดมณี จากการเป็นกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารมีผล 22 กันยายน 2561 จากนั้นก็ให้แต่งตั้งนายประเวช องอาจสิทธิกุล ประธานกรรมการบริหาร รักษาการแทน ระหว่างสรรหาซีอีโอคนใหม่
ทั้งนี้มีกระแสดราม่าถึงสาเหตุการยื่นใบลาออกครั้งนี้ของนายปิยะที่ออกจากการบินไทยมาช่วยนายพาที สารสินบุกเบิกนกแอร์ตั้งแต่ยุคแรกถึงปัจจุบันรวมกว่า 14 ปี ซึ่งมีแรงกดดันลึก ๆ จากการเสนอที่ประชุมบอร์ดเมื่อเดือนสิงหาคมพิจารณาขอกู้เงินจากกลุ่มถือหุ้นราว 500 ล้านบาท มาจัดทำแผนฟื้นฟูนกแอร์ แต่ไม่ได้รับเสียงสนับสนุน จนเป็นชนวนมาสู่การยื่นใบลาออกดังกล่าว
ติดตามฟังรายการได้เป็นประจำทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0
เคลียร์ทางทุกงานประมูล10ปีหน้า2แสนล้าน
คิงเพาเวอร์ชวนดูหนังตูน7แสนที่นั่ง 6ก.ย.นี้
ททท.บุกญี่ปุ่นปลุกMOTOGPบุรีรัมย์ต.ค.นี้
เที่ยวดนตรีฤดูฝนบางแสน-ศาสตร์พระราชา
บางจากร่วมวงบัตรฟลีทการ์ดใช้แทนเงินสด
นายกฯลุงตู่สั่งทอท.เร่งรับทำ4สนามบินตจว.
ทัวร์วิถีสุข5อ.แชมป์เมืองรองในแม่ฮ่องสอน
เลือกกินตามรสชาติอาหารตรงจริตร่างกาย
ไทยสไมล์อัดโปรตั๋วแรงเริ่มพันบาท1-2 ก.ย.
แอร์ไลน์ไทยเฮรับกม.ใหม่ขึ้นค่าตั๋วเพิ่มได้อีก
รัฐเท6พันล้านปั้นฮับสนามบินกระบี่-ขอนแก่น
เปิดเบื้องลึก“นก-ปิยะ”พ้นเก้าอี้ซีอีโอนกแอร์
ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 1 กันยายน 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97
ช่วงที่ 1 ไขข้อข้องใจทุกปมสงสัยกับการสัมภาษณ์พิเศษ “ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) บนเส้นทางการประมูลทุกโครงการมีกฎ กติกา แจ่มชัด เอกชนทั้งหลายอย่าประเมินใบเสนอราคาของรัฐเป็นแค่กระดาษใบเดียว จนผู้ชนะอาจถูกจับแพ้ฟาล์วได้ จากกรณีตัวอย่างเขย่าวงการ งานสำรวจออกแบบสุวรรณภูมิหลังที่ 2 รวมถึงคำกล่าวหาลอกเลียนแบบ ทอท.ยุคนี้รัดกุมพอที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ เพราะยังมีเมกะโปรเจ็กต์อนาคตอีก 5-10 ปี มูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท ต้องประมูลต่อเนื่องในทั้ง 6 สนามบิน และการรับโอนใหม่จากกรมท่าอากาศยานอีกถึง 4 สนามบิน
นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย |
ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท./AOT” เปิดเผยว่า ในการจัดทำทีโออาร์คัดเลือกเอกชนเข้ามาทำโครงการสำรวจออกแบบก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยได้ผู้ชนะคือ กลุ่มบริษัท ดีบีเอแอลพี-นิเคนเซกเก้ ซึ่งถูกกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์จนกลายเป็นดรามา 2 ประเด็น คือ ประเด็นแรก ผู้ได้คะแนนอันดับ 1 แพ้ฟาล์ว ประเด็นที่สอง สถาปนิกผู้ออกแบบลอกแบบมานำเสนองาน
จึงขอทำความเข้าใจถึงความถูกต้องตามขั้นตอนของ ทอท. ประเด็นแรก กรณีผู้ชนะรายแรกถูกจับแพ้ฟาล์ว ความจริงแล้วบริษัทเอส เอ ที่ชนะคะแนนเทคนิคไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการจัดทำใบเสนอราคาซึ่งเป็นแบบฟอร์มอย่างเป็นทางการของ ทอท.รวมถึงหลายกลุ่มสอบถามถึงความจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องยื่นเสนอราคาโดยใช้แบบฟอร์มทางการของ ทอท.ซึ่งใบดังกล่าวไม่ใช่เพียงแค่กระดาษเปล่า แต่มีสาระสำคัญเกี่ยวเนื่องกำหนดกติกาเป็นลูกโซ่ 1.ต้องเสนอราคาโดยยืนยันราคาดังกล่าวภายใน 90 วัน 2.ต้องดำเนินการสำรวจออกแบบงานที่ได้รับมอบหมายให้แล้วเสร็จภายใน 300 วัน 3.ต้องนำหลักทรัพย์ค้ำประกัน อัตราส่วนตามเปอร์เซ็นต์ที่ระบุ พร้อมลงลายมือชื่อกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม และตราประทับบริษัทมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบการตรวจให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน
แบบฟอร์มที่กำหนดให้เอกชนใช้ยื่นเสนอซองราคามีสาระสำคัญตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานการประมูลงานของหน่วยงานราชการปกติ เพราะหากไม่ใช้แบบฟอร์มตามกำหนด แต่ใช้วิธีเขียนใส่กระดาษรายที่ 1, 2,3…เสนอราคาแตกต่างกัน ซึ่งตามเงื่อนไขผู้จ้างหรือ ทอท.ก็ต้องการได้ราคาต่ำสุด แต่พอเปิดซองแล้วไปเห็นราคารายอื่นแล้วเปรียบเทียบกันถึงส่วนต่างกำไร ก็สามารถกลับคำโดยระบุว่าราคาที่เสนอมาในกระดาษของตนเองครั้งแรกขอยืนราคาแค่ 1 วันเท่านั้น เท่ากับเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องเพราะเท่ากับเป็นการขอดูราคาของคนอื่น ถึงจะเป็นผู้ชนะก็อาจจะไม่เข้ามาทำสัญญาก็ได้ โดย ทอท.ไม่สามารถเอาผิดได้ด้วย จึงเป็นแนวทางที่จะสร้างความโกลาหลได้ จึงจำเป็นที่จะต้องใช้แบบฟอร์มใบเสนอราคาของ ทอท.เป็นมาตรฐานในการพิจารณาตัดสิน
แล้วกรณีดังกล่าวบริษัทผู้ชนะทางเทคนิค ไม่ได้ใช้แบบฟอร์มใบเสนอราคาของ ทอท.ยื่นเข้ามาให้พิจารณา จึงเข้าข่ายแพ้ฟาล์วนั่นเอง เพราะในทีโออาร์เขียนระบุไว้ชัดเจนหากขาดเอกสารอย่างใดอย่างหนึ่งจะไม่รับพิจารณา รวมทั้งวันซื้อซองทางเจ้าหน้าที่ ทอท.ก็ชี้แจงขั้นตอนอย่างละเอียด อีกทั้งในการมาซื้อซองเทคนิคส่วนใหญ่ก็ซื้อไปบริษัทละ 2 ซอง เพื่อไปจับมือกันทำข้อเสนอยื่นชิงงานโครงการนี้
เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนคณะกรรมการที่ทำหน้าที่คัดเลือกผู้ชนะทำตามกติกาการเปิดซองต้องพบใบเสนอราคาตามแบบฟอร์มของ ทอท.ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จาก 1.แบบฟอร์มใบเสนอราคาจะการเขียนเลขที่เรียงลำดับกำกับไว้ตั้งแต่ตอนซื้อขาย 2.มีเจ้าหน้าที่อธิบายรายละเอียดแก่ผู้ซื้อ 3.วิธีการซื้อขั้นต่ำจะซื้อ 2 ซองขึ้นไป เพราะต้องซื้อไปเผื่อกรณีจับมือกันทำคอนซอร์เตี้ยมมาเสนองาน ดังนั้นหากพลาดซองแรกก็มีซองที่สอง 4.ตามปกติผู้สนใจจะยื่นประมูลรู้อยู่แล้วว่ามีเอกสารสำคัญจะต้องใช้งานโดยมีเวลาถึง 100 วันก่อนจะมายื่นต้องรีบเสนอทักท้วงเข้ามายัง ทอท. แต่ตลอดระยะเวลาดังกล่าวกลับไม่มีผู้ทักท้วงใด ๆ มาทำภายหลังเปิดซองราคาเสร็จเรียบร้อยแล้ว
สำหรับคณะกรรมการตัดสิน ก็มีทั้งกรรมการอิสระจากสมาคมสถาปนิก และผู้เชี่ยวต่าง ๆ เข้ามาเป็นสักขีพยาน หรือกรรมการบ้าง ในการประกวดออกแบบ มีคนกลางเป็นพยาน พร้อมทั้งมีการจัดทำ VDO ทุกขั้นตอน
นายนิตินัยย้ำว่าแบบฟอร์มใบเสนอราคาของ ทอท.ครั้งนี้ ได้ใช้กับการเปิดประมูลโครงการต่าง ๆ ที่ผ่านมาก็ใช้แบบฟอร์มดังกล่าวโดยไม่ได้เกิดปัญหาแต่อย่างใด รวมทั้งกระทรวงคมนาคมเองก็ใช้แบบฟอร์มระบบราชการในลักษณะคล้ายคลึงกัน จึงขอยืนยันถึงความโปร่งใสที่ประกาศให้ กลุ่มบริษัท ดีบีเอแอลพี-นิเคนเซกเก้ ชนะในการเป็นดำเนินโครงการสำรวจออกแบบอาคารผู้โดยสารสุวรรณภูมิหลังที่ 2 ที่จะต้องเดินหน้าออกแบบ เริ่มการก่อสร้างภายในปี 2562
สำหรับประเด็นการลอกแบบมาเสนองานนั้นจะทำอย่างไร ยกเลิกหรือเซ็นต์สัญญา ซึ่งเป็นจรรยาบรรณของสถาสถาปนิกในทีโออาร์ได้เขียนป้องกันไว้เช่นกันคือ ในพระราชบัญญัติจัดซื้อจัดจ้าง พ.ศ.2560 มาตรา 66 วรรคสอง ระบุชัดว่าการทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างจะกระทำได้ก็ต่อเมื่อพ้นระยะเวลาอุธรณ์และไม่มีผู้ใดอุธรณ์ตามมาตรา 117 ให้เวลาภายใน 7 วันทำการ นับจากวันที่ลงประกาศในเครือข่ายกรมบัญชีกลาง หากไม่มีผู้ทักท้วงสามารถลงนามสัญญาได้ และ/หรือหากมีผู้ทักท้วงให้ ทอท.พิจารณาใน 7 วันถัดไป แล้วจะต้องแจ้งกลับภายใน 3 วัน ขณะนี้ยังอยู่ในระยะเวลาที่อุธรณ์ได้ตามเงื่อนไขกฎหมาย เป็นกลไก
นายนิตินัยกล่าวว่า ทอท.มีโครงการลงทุนที่จะต้องเปิดประมูลตามแผนยุทธศาสตร์ 2559-2569 ช่วง 10 ปี จะต้องลงทุนประมาณ 2 แสนล้านบาท ผนวกกับกรณีที่ ทอท.ต้องรับโอนบริหารสนามบินภูมิภาคในประเทศอีก 4 แห่ง วงเงินการลงทุนราว 3,000 ล้านบาท และสร้าง 2 สนามบินใหม่ ภูเก็ตและเชียงใหม่แห่งที่ 2
ปัจจุบันเงินลงทุนจำนวน 200,000 ล้านบาท ตามแผนพัฒนาสนามบิน ทอท.ทั้ง 6 แห่ง กระจุกอยู่ในสุวรรณภูมิเกินกว่าครึ่งหนึ่งหรือ 50 % ของทั้งหมด ประมาณ 13,000-140,000 ล้านบาท โดยแบ่งการลงทุนออกเป็น 3 กลุ่มงานใหญ่
กลุ่มงานที่ 1 โครงการเฟส 2 กำลังก่อสร้างแซตเทิลไลท์ เทอร์มินอล ที่จะต้องนั่งไฟโมโนเรลรางเบาไร้คนขับระยะทาง 1 กม.ไปโผล่กลางแอร์ไซด์ เทอร์มินอล ใช้เงินราว 62,000 ล้านบาท
กลุ่ม 2 การก่อสร้างรันเวย์ที่ 3 วงเงินกว่า 20,000 ล้านบาท
กลุ่มงาน 3 เทอร์มินอลที่ 2 วงเงินกว่า 40,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่เพิ่งประกาศผู้ชนะสำรวจออกแบบจนกลายเป็นประเด็นถกเถียงกันในช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
สำหรับ เฟส 2 สุวรรณภูมิ จะเป็นต้นแบบในการนำร่องของคำว่า CoST -Construction Sector Transparency Intiative หรือโครงการเพิ่มความใสก่อสร้างภาครัฐ” ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง ซึ่ง ทอท.เป็นหน่วยงานบุกเบิกรายแรกที่เข้าระบบดังกล่าว เริ่มจาก จัดทำประกวดออกแบบ ปรับราคากลาง เบ็ดเสร็จเงินงบประมาณรัฐลงได้ราว 12,000 ล้านบาท จากราคาเต็ม 62,000 เหลือ 50,000 ล้านบาท
ดังนั้น ทอท.จึงต้องวางระบบความโปร่งใส พร้อมกำหนดกฎเกณฑ์ตามข้อมูลข้างต้น เพื่อป้องกันการร้องเรียนแบบแปลก ๆ ที่จะเข้ามาเหมือนกับการประมูลโครงการสำรวจออกแบบอาคารผู้โดยสารสุวรรณภูมิหลังที่ 2
ตอนนี้การประมูลงานเฟส 2 สุวรรณภูมิ เหลือโครงการย่อย ๆ เพียง 2 โครงการ ได้แก่ โครงการที่ 1 บริเวณ Landside ตรงถนนยกระดับปัจจุบันโค้งทางเข้าสู่อาคารผู้โดยสารสุวรรณภูมิก่อนถึงประตูทางเข้า 1-2 จะมีพื้นที่ว่างอยู่ทางด้านซ้ายมือ จะทำเป็นอาคารผู้โดยสารสุวรรณภูมิหลังที่ 2 ซึ่งจะต้องมีสายพานลำเลียงกระเป๋า กับระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (Automated People Move : APM) ส่วนภายในอาคารผู้โดยสารปัจจุบันเป็นที่ตั้งเคาน์เตอร์แถว A, B ของการบินไทย ซึ่งเดิมเรียก East Wing แต่พอมีเทอร์มินอล หลังที่ 2 เข้ามาจึงต้องรอแบบก่อนจึงประมูลงานส่วนอื่นได้ เพื่อเชื่อมพื้นที่เข้าไปยังแถว A, B การบินไทย จะต้องใช้เทคนิคอะไรบ้างเข้ามาเชื่อมต่อพื้นที่อาคารเก่าและใหม่เข้าด้วยกัน
จึงเป็นสาเหตุอีกประเด็นต้องชะลอการเปิดประมูลงานบางโครงการของเทอร์มินอล สุวรรณภูมิ หลังที่ 2 ไว้ ตอนนี้คือการก่อสร้างปรับปรุงในฝั่ง West Wing ไปก่อนพลาง ๆ ช่วงปลายอาคารผู้โดยสารสุวรรณภูมิหลังปัจจุบัน เมื่อการออกแบบแล้วเสร็จจนเริ่มเข้าสู่การเริ่มก่อสร้างอาคารใหม่หลังที่ 2 จึงจะกลับมาทำทางฝั่ง East Wing ทั้งหมดให้แล้วเสร็จ ซึ่งตามขั้นตอนได้ใช้แบบที่มีอยู่แล้ว โดยเสนอไปยังสำนักงานคณะกรรมการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติอีกครั้ง เพื่อรับทราบการเปลี่ยนกรอบเวลาก่อสร้างให้เป็นตามกำหนด
ตอนนี้การขออนุมัติต่าง ๆ ในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำได้ค่อนข้างรวดเร็ว ทอท.สามารถเดินหน้าได้อย่างเต็มที่
โครงการที่ 2 ระบบสายพานของเดิมจากอาคารผู้โดยสารหลักหลังเดิมไปยัง Settlelight Teminal หลังใหม่ มีเฉพาะสายพานลำเลียงกระเป๋าผู้โดยสารขาออก ส่วนขาเข้ากำหนดใช้รถวิ่งบริการแทนโดยได้คำนึงถึงความปลอดภัยปริมาณจราจรจึงได้เพิ่มสายพานลำเลียงขาเข้าแทน
ทั้ง 2 โครงการดังกล่าว จะเปิดประมูลให้แล้วเสร็จภายในปีปฏิทินงบประมาณเดือนธันวาคม 2561 สามารถใช้ 4 เดือนนี้ทำภารกิจได้
นายนิตินัยกล่าวว่า ท่าอากาศยานอื่น ๆ ที่จะใช้วงเงินอีกประมาณ 100,000 ล้านบาท ได้ปรับโดยการนำโครงการศักยภาพไปรวมอยู่กับโครงการบริการ (level service) ล่าสุด ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้มาตรวจงานกระทรวงคมนาคม รับทราบถึงแผนความคืบหน้าการพัฒนาท่าอากาศยานของ ทอท.ได้เห็นถึงความแออัดของพื้นที่รองรับผู้โดยสารตอนนี้เดินหน้าได้ช้ามาก จึงมีนโยบายให้หาแนวทางทำให้เร็วขึ้นกว่าปัจจุบัน
ทอท.พบว่ามีงานบางส่วนสามารถทำได้โดยไม่ต้องรอ เช่น ลานจอดรถ เป็นการพัฒนาบริการทางสภาพัฒน์อนุมัติให้ ทอท.ทำไปก่อนได้ ต่อไปจึงจะนำโครงการที่ไม่เกี่ยวข้องกับขีดความสามารถการรองรับ (capacity) หรือต้องผ่านขั้นตอนประเมินผลสิ่งแวดล้อม (EIA) ก็จะทำไปก่อน
ดังนั้นช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2561 จะเห็นตึกใหม่ขึ้นอยู่ตรงรอยต่ออาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานดอนเมือง เป็นอาคารใหม่จัดทำขึ้นเพื่อให้บริการการเช็คอินเป็นกลุ่มหรือหมู่คณะ จะเปิดประมูลหาผู้รับเหมางานการลงทุนราว 200 ล้านบาท ภายในกันยายน นี้ จากนั้นจะใช้เวลาก่อสร้าง 3 เดือน เตรียมเปิดเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้ผู้โดยสารในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้
สำหรับการประมูลในท่าอากาศยานอื่น ๆ จะเริ่มขับเคลื่อนในอีก 2 เดือนข้างหน้า ต่อเนื่องไปอีก 2 ปี วงเงินลงทุนจำนวนหลายพันล้านบาท ทำการพัฒนาปรับปรุงแนวทางเดียวกันคือเร่งให้เร็วกว่าแผนระยะยาว เพราะทางคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.อนุมัติให้เปิดแผนกใหม่ระดมวิศวกร ทอท.จำนวนที่มีอยู่กว่า 100 คน ซึ่งจะเข้ามาทำหน้าที่ออกแบบ โดยเลิกจ้างเอกชนเข้ามาทำ ซึ่งการประมูลจ้างรายการสุดท้ายคืองานสำรวจออกแบบอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 นั่นเอง
วิศวกร ทอท.เหล่านี้เมื่ออกแบบเสร็จ ก็ไปคุมงานก่อสร้างด้วยทีมของตนเองตลอดการก่อสร้างทุกวันในอีก 10 ปีข้างหน้า เป็นการปรับโครงสร้างองค์กรทำให้การทำงานรวดเร็วตามเป้าหมาย
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ชวนดูหนังบริจาคเงินก้าวคนละก้าวเริ่ม6ก.ย.”
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ชวนไปชมภาพยนตร์ “ก้าวคนละก้าว - 2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว” เริ่มฉายตั้งแต่ 6 กันยายน 2561 เป็นต้นไป ในโรงภาพยนตร์2 เครือใหญ่ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ และเครือ เอส เอฟ ที่พร้อมเปิดต้อนรับคนไทยได้ชมฟรีมากถึง 720,000 ที่นั่ง ช่วงวันจันทร์-ศุกร์ ฉายให้ชม 1 รอบ และเสาร์-อาทิตย์ ฉายให้ชม 2 รอบ
โครงการนี้กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ร่วมกับ จีดีเอช และ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย เชิญชวนคนไทยร่วมชมภาพยนตร์ “2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว” ภาพยนตร์คลุกวงในตลอด 55 วัน เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจในการทำความดี ก้าวนี้..เพื่อศิริราช ด้วยการบริจาคเงินเพื่อหารายได้ซื้ออุปกรณ์การแพทย์ อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล อาคารหลังสุดท้ายที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานนามให้ เพื่อผู้ป่วยด้อยโอกาส โรงพยาบาลศิริราช และผลิตบุคลากรทางการแพทย์รุ่นใหม่ต่อไป
ผู้ชมและผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบริจาคได้ที่ กล่องรับบริจาคตรงเคาน์เตอร์โรงภาพยนตร์ และสามารถโอนเงินผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา ศิริราช เลขบัญชี 016-3-04556-7 กระแสรายวัน ชื่อบัญชี เพื่อการรักษาพยาบาลผู้ป่วย อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา โรงพยาบาลศิริราช หรือผ่านทาง คิว อาร์ โคด ผ่าน Mobile Banking และ SMS บริจาคครั้งละ 10 บาท โดยพิมพ์ T แล้วกด 4545099 โดย เริ่มบริจาคทาง SMS ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2561 เป็นต้นไป
ข่าวที่ 2 “ททท.ลุยโปรโมตทัวร์โมโตจีพีเข้าไทย5-7ต.ค.61”
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วยเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และทีมจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ร่วมกันจัดงาน “บุรีรัมย์ ไนต์” ขึ้นในกรุงโตเกียว เมื่อค่ำคืนวันที่ 28 สิงหาคม 2561 เพื่อเดินหน้าโปรโมตการท่องเที่ยวในระหว่างจัดแข่งขันรายการ “พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2018” ระหว่าง 5 - 7 ตุลาคม 2561 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต บุรีรัมย์
นายธเนศวร์ กล่าวว่า ททท.พร้อมขานรับนโยบายรัฐบาลส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬายกระดับไทยเป็น Sport Tourism Destination และศูนย์กลางอาเซียน โดยจะจัดแข่งขันกีฬาเมกะอีเวนต์กับ เวิลด์ อินเตอร์เนชั่นแนลเกม และอีเวนต์ท้องถิ่นขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับแนวโน้มเทรนด์โลกเรื่องการท่องเที่ยวเชิงกีฬาเติบโตสูง มีศักยภาพใช้จ่ายระหว่างการเดินทางสูง และมีวันพักเฉลี่ยยาวกว่าทั่วไป
ในช่วงปี 2561 - 2563 ที่ไทยได้รับสิทธิจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกโมโตจีพี จะเป็นรายการนำภาพจำของประเทศให้เป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้นผ่านช่องทางการถ่ายทอดสดทางสื่อออนไลน์ และออฟไลน์ ครอบคลุมกว่า 200 ประเทศ ผู้ชมนานาชาติกว่า 600 ล้านคน ซึ่งเดือนตุลาคมนี้คาดจะมีชาวต่างชาติเข้ามาชมกว่า150,000 คน
ผู้สนใจชมการแข่งขันซื้อบัตรได้ที่ www.allticket.com หรืvwww.motogp.com/en/event/Thailand และ Facebook : Chang International Circuit
ข่าวที่ 3 “เที่ยวดนตรีบางแสน-ทัวร์ศาสตร์พระราชา5ภาค”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชวนไปท่องเที่ยว "เทศกาลดนตรีฤดูฝน" Bangsaen Music in the Rain 2018" วันเสาร์ที่ 1 กันยายน นี้ ที่แหลมแท่น จังหวัดชลบุรี ชมศิลปินแถวหน้าของเมืองไทยได้ตั้งแต่ 17.00 น. เป็นต้นไป เป็นการจับมือกับทางเทศบาลเมืองแสนสุข และจังหวัดชลบุรี จัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงดนตรีที่กำลังมาแรง
พบกับศิลปินชื่อดังที่จะมาขึ้นเวทีมีทั้ง Phrima’s Band , นนท์ The Voice , ไมค์ ภิรมย์พร , กวาง AB normal , Boy peacemaker , PARADOX, 25 Hours , แก้ม วิชญาณี , กัน นภัทร , NUVO และ BIGASS โดยมีการฟิชเชอริ่งรอบพิเศษระหว่างศิลปินลูกทุ่งขวัญใจคนจน ไมค์ ภิรมย์พร กับ นนท์ The Voice ภายในงานได้คัดร้านอาหารชื่อดังทั่วชลบุรีมาบริการ และร้านค้าสตรีทอาร์ท แทททู เพ้นท์ ให้นักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรมอย่างสบายใจ
ส่วนกิจกรรม ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.เป็นประธานเพิ่งจัดเสร็จสิ้นไปเป็นงาน “นิทรรศการตามรอยศาสตร์พระราชา สู่การเชื่อมโยงแอ่งท่องเที่ยว” ททท. ร่วมกับ สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) และคณะทูตานุทูตจากหลากหลายประเทศ จัดขึ้น ณ ศูนย์การค้า Central World ชั้น 6 โซน Central Court เพื่อสร้างการเรียนรู้เกี่ยวกับโครงการพระราชดำริ ที่ทรงประทานแก่ปวงชงชาวไทย และชุมชนใน 5 ภูมิภาคของประเทศ ไฮไลต์ 6 แห่ง ถึงนิทรรศการจะเสร็จแล้ว ก็ยังสามารถดินทางไปท่องเที่ยวได้ต่อเนื่องตลอดทุกวัน ได้แก่
1. โครงการเกษตรวิชญา – ชุมชนบ้านไร่กองขิงจ.เชียงใหม่ 2. โครงการปรับปรุงอ่างเก็บน้ำต้นลำปะเทีย ชุมชนบ้านโคกเมือง จ.บุรีรัมย์ 3. โครงการ 1 ไร่แก้จน ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชน มณฑลทหารบกที่ 16 4. จ.ราชบุรี – ชุมชนบ้านศาลาดิน จ.นครปฐม 5. โครงการศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ - ชุมชนปากน้ำประแส จ.ระยอง 6. โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ - ชุมชนบ้านแหลม จ.นครศรีธรรมราช ติดตามได้ทาง www.tourismthailand.org/kingwisdom
ข่าวที่ 3 “บางจากร่วมวงบัตรฟลีทการ์ดแทนเงินสด”
นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ร่วมมือกับทีเอ็มบี เปิดตัวบัตรเครดิตน้ำมันร่วม เชลล์ – บางจาก (Fleet Card) เป็นการช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าธุรกิจใช้บัตรเครดิตน้ำมันชำระเงินแทนเงินสด สำหรับค่าใช้จ่ายจากการเติมน้ำมันหรือค่าบริการอื่น ๆ ได้ที่ปั๊มเชลล์ และบางจากทั่วประเทศรวมกว่า 1,600 แห่ง
โดยบางจากได้จัดทำระบบบัตรเครดิตน้ำมันฟลีทการ์ด เพื่ออำนวยความสะดวกในการชำระค่าน้ำมันแทนเงินสด และยังได้เครดิตสูงสุดถึง 55 วัน รวมทั้งมีระบบรายงานที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบการขนส่ง หน่วยราชการ และนิติบุคคล ในการบริหารจัดการการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งสามารถใช้บริการได้ที่ปั๊มน้ำมันบางจากขณะนี้มีกว่า 1,100 แห่ง ทั้งบนเส้นทางสายหลักและสายรอง ครอบคลุมทุกภูมิภาค ปี 2566 มีแผนเพิ่มรวมกว่า 1,500 แห่ง
และตามคาดการณ์ปี 2561 จะมีธุรกิจขนส่งสินค้าทางบกขยายตัวเพิ่มขึ้น 5 – 7 % สอดคล้องกับสถานการณ์การใช้น้ำมันจะเพิ่มสูงขึ้นด้วย ตามที่กรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน ระบุช่วงครึ่งปีแรกพบการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินและดีเซลรวมเฉลี่ยวันละ 98 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 2.5 % จึงเป็นแรงกระตุ้นให้บางจากฯ เร่งพัฒนาสถานีบริการน้ำมันอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มจำนวนสถานีบริการน้ำมันขนาดใหญ่บนเส้นทางถนนสายหลัก ควบคู่กับออกแบบพื้นที่ให้มีขนาดกว้างขวางพร้อมกับเปิดธุรกิจเสริม เช่น ร้านสะดวกซื้อ ร้านกาแฟอินทนิล และบริการเสริมครบ รวมถึงเป็นจุดพักรถ – พักคนได้เป็นอย่างดี
ข่าวที่ 4 “นายกฯสั่งทอท.ลุยรับ4สนามบินผุดด่วนภูเก็ต/เชียงใหม่”
กระทรวงคมนาคม รายงานว่า ได้รับนโยบายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” รับโอนท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของกรมท่าอากาศยานทั้ง 4 แห่ง คือ อุดรธานี สกลนคร ตาก และชุมพร ไปบริหารจัดการ เร่งโอนให้ถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
อีกทั้งนายกรัฐมนตรียังเร่งหาข้อสรุปผลการศึกษาความเหมาะสมและเป็นไปได้ในการลงทุนก่อสร้างสนามบินใหม่แห่งที่ 2 ของ ทอท.อีก 2 แห่ง ภูเก็ตแห่งที่ 2 กับเชียงใหม่แห่งที่ 2 ให้มีขีดความสามารถรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในอนาคตอย่างเพียงพอ ลดความแออัดของนักเดินทางแก้ปัญหาการกระจุกตัวในสุวรรณภูมิและดอนเมือง
โดยให้ศึกษาความเหมาะสมและเป็นไปได้ด้วยการหาข้อมูลอย่างให้ชัดเจนครบถ้วนทั้งเรื่อง รูปแบบการลงทุน ผู้ลงทุน บทบาทของ ทอท. บทบาทของภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง แล้วให้รายงานนายกรัฐมนตรีทราบโดยเร็ว
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.เปิดเผยว่า ได้นำเสนอผลการศึกษาการรับโอนสนามบินภูมิภาคให้กระทรวงคมนาคมเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2561 คาดภายในกันยายนนี้จะเสนอ ครม.และนายกรัฐมนตรีพิจารณา จากนั้นจะเร่งดำเนินการโดยด่วนภายในปี 2562 ก็จะเข้าไปลงทุนปรับปรุง พัฒนา บริหารเต็มรูปแบบได้อย่างแน่นอน
ช่วงที่ 2 ออกไปลั้ลลาเที่ยวเมืองรอง กับวิถีความสุข 5 อ.ได้ใน “แม่ฮ่องสอน” ช่วงครึ่งปีแรกแรงจัดจากโกยรายได้โตนำโด่งแซงจังหวัดอื่น ด้วยความงามยิ่งทุกสิ่งดึงดูดใจ เที่ยวเสร็จก็หันมาระวังสุขภาพกับข้อแนะนำ “การเลือกรสชาติอาหารให้ตรงจริตร่างกาย” และข่าวโดนใจทุกประเด็น ตั้งแต่ “โปรแรงไทยสไมล์ในงาน เที่ยวทั่วไทย” ขายตั๋วบินเหลือแค่ เที่ยวละพันบาท 1-2 กันยายน นี้ ที่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ “แอร์ไลน์เฮรับกฎหมายใหม่ กทพ.ให้ขึ้นค่าตั๋วเพิ่มได้” ตั้งแต่กันยายนี้เป็นต้นไป “รัฐเท6พันล้านปั้นสนามบินกระบี่-ขอนแก่น” ฮับการบินใหม่ และไขปริศนา “นก-ปิยะลาออกจากซีอีโอนกแอร์” ลึก ๆ แล้วโดนคว่ำงบฟื้นฟูหรือเพราะธุรกิจนี้มีความไม่แน่นอน
@เที่ยวเมืองรองวิถีสุข5อ.ในแม่ฮ่องสอน
เตรียมตัวกันแต่เนิ่น ๆ ที่จะไปขึ้นเหนือไปสูดโอโซนช่วงฤดูหนาวที่ “แม่ฮ่องสอน” จังหวัดเมืองรองที่สามารถทุบสถิติการท่องเที่ยวช่วงครึ่งปีแรกครองแชมป์อัตราการเติบโตสูงสุด
เมืองรองที่ผู้คนจดจำว่า “แม่ฮ่องสอน” เป็นดินแดนแห่ง 1,864 โค้ง ผู้คนชนเผ่าต่างใช้ชีวิตอยู่กลางหุบเขาด้วยวิถีวัฒนธรรมความสุขสงบ ผ่อนคลาย กับสิ่งดี ๆ ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยยกให้เป็นเมือง 5 อ. คือ อากาศ อาหาร อาราม อารมณ์ อายุยืน
เมื่อเอ่ยถึงแม่ฮ่องสอนนักท่องเที่ยวล้วนต้องการไปพิชิต “ปางอุ๋ง-โครงการพระราชดำริปางตอง 2” เป็นสุดยอดของแหล่งอากาศบริสุทธิ์ ดั่งทะเลสาบกลางหุบเขาที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงก่อตั้งขึ้นเพื่อแก้ปัญหาแหล่งเสื่อมโทรม ยาเสพติด การพัฒฯอาชีพ นักท่องเที่ยวสามารถใช้เป็นแหล่งพักผ่อนล่องเรือชมหงส์สวย ๆ ได้
จากนั้นก็ต้องไปชมวิถี “ชุมชนบ้านผาบ่อง” เพื่อชวนนักท่องเที่ยวไปสร้างอารมณ์ความสุข กับการเดินข้าม “สะพานข้าว ก้าวเพื่อสุขภาพ” กลางทุ่งในบรรยากาศท้องทุ่งนาเขียวขจีสวยสุดบรรยายของชาวไทยใหญ่ ชาวปะกากะญอ ที่ตั้งถิ่นฐานสืบสานวัฒนธรรมอยู่กันมานับร้อยปี รอบบริเวณชุมชนแห่งนี้มีน้ำพุร้อนกับตลาดชุมชน ให้เยี่ยมชมด้วย
ต่อด้วยการท่องเที่ยว “อาราม” มีวัดมากมายที่ชาวไทยใหญ่สร้างไว้เป็นศูนย์กลางการทำกิจกรรมต่าง ๆ ตัวอย่าง “พระอารามหลวงวัดจองคำ” สถาปัตยกรรมการสร้างด้วยศิลปะไทย ความโดดเด่นคือหลังคาเป็นทางปราสาท 9 ชั้น ภายในมีวิหารหลวงพ่อโตองค์ใหญ่สุดในแม่ฮ่องสอน ส่วน “วัดจองกลาง” มีพระอุปคุตประดิษฐานอยู่ตรงบริเวณด้านหน้าทางเข้า แต่ละแห่งล้วนเป็นอารามที่น่าแวะสักการะกราบไหว้ทั้งสิ้น
มาถึง “อายุยืน” ต้องชวนกันไปแช่น้ำพุร้อนไทรงาม ในเขตอนุรักษ์ป่าไทรงาม มีแอ่งน้ำขนาดเล็กลดหลั่นเป็นชั้น ๆ คล้ายน้ำตก อยู่ท่ามกลางความเขียวน้ำใสมองทะลุไปถึงพื้นด้านล่าง ก็ทำให้วัยอย่างเรา ๆ มีความสุขได้
ส่วน “อาหารถิ่น” แนะนำให้ชิมพืชพักพื้นเมืองอย่าง “ถั่วลายเสือ” เนื้อนุ่มรสชาติหวานต่างจากถั่วลิสงทั่ว ๆ ไป แถมยังสามารถกินได้ทั้งเปลือก
เป็นเสน่ห์วิถีถิ่นของเมืองรอง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ครบถ้วนทั้ง 5 อ.
ทว่าแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมดึงดูดนักท่องเที่ยวก็ยังมีไฮไลต์อีกหลายแห่ง อย่าง “พระธาตุดอยกองมู” อยู่กับชาวพื้นเมืองมาอย่างยาวนาน ตั้งตระหง่านอยู่บนดอยสูงมองเห็นวิวทิวทัศน์แบบพาโนรามา 360 องศา ภายในยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต นั่นคือภายในพระเจดีย์ใหญ่ได้บรรจุพระธาตุของพระโมคคัลลานะไว้
“ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ” ช่วงเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนธันวาคม ของทุกปี ดอกบัวตองจะบานเหลืองสะพรั่งปกคลุมทั่วทั้งหุบเขาสวยเกินคำบรรยายใด ๆ ต้องไปให้เห็นกับตา จึงจะสัมผัสได้ถึงความงดงามของธรรมชาติแต่ละปีมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ไปแม่ฮ่องสอนกันดีกว่า ถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่ม ถามเบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย 1672
@การเลือกรสชาติอาหารและข้อควรระวัง
กินอาหารที่มีรสชาติเดียวกันซ้ำซากทุกสถานการณ์ ย่อมก่อให้เกิดความเสียสมดุลของธาตุในร่างกาย การเลือกรสชาติของอาหารแต่ละประเภทมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังนี้
รสเปรี้ยว วิ่งเส้นตับ (ธาตุไม้) รสเปรี้ยวมีสรรพคุณ พยุง เหนี่ยวรั้ง ทำให้หยุด ระงับการหลั่งเหงื่อ ระงับการปล่อยสารคัดหลั่งต่างๆ การหยุดเลือด คนที่มีภาวะของตับเลือดพร่องให้กินของเปรี้ยวได้เพิ่มขึ้น แต่ถ้าเป็นโรคตับ (ภาวะของตับพร่องมากแล้ว) ห้ามกินของเปรี้ยวโดยเด็ดขาด นอกจากนี้การกินอาหารที่มีรสเปรี้ยวมากเกินไปจะกระทบกระเทือนธาตุดิน (กระเพาะ ม้าม)
รสเผ็ด วิ่งเส้นปอด (ธาตุทอง) รสเผ็ดมีสรรพคุณ กระจาย แผ่ซ่าน ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด คนที่ภาวะปอดอ่อนแอควรกินอาหารรสเผ็ดให้มากหน่อย แต่ถ้าเป็นโรคปอด (ภาระปอดพร่องมากแล้ว) ห้ามกินของเผ็ดโดยเด็ดขาด นอกจากนี้การกินอาหารที่มีรสเผ็ดมากเกินไปจะกระทบกระเทือนธาตุไม้ (ตับ)
รสหวาน วิ่งเส้นม้าม (ธาตุดิน) รสหวานมีสรรพคุณ บำรุงเสริมสร้าง ลดการปวดเกร็งของกล้ามเนื้อ ลดอาการปวด คนที่ระบบการย่อยอ่อนแอ พลังม้ามบกพร่องให้กินอาหารรสหวานมากหน่อย แต่ถ้าเป็นโรคที่เกี่ยวกับการย่อยอาหารอ่อนแอมากๆ โรคเกี่ยวกับเอ็น ไม่ควรกินของหวานจัด นอกจากนี้การกินอาหารที่มีรสหวานมากเกินไปจะกระทบกระเทือนธาตุน้ำ (ไต)
รสเค็ม วิ่งเส้นไต (ธาตุน้ำ) รสเค็มมีสรรพคุณ ช่วยการสลายทำให้นิ่ม (สลายก้อนแข็ง) ช่วยระบาย แก้ท้องผูก คนที่มีไตพร่อง (ร้อนใน คอแห้ง ท้องผูก เหงื่อออกตามมือ, เท้า ปอด เมื่อยเอว สมรรถภาพทางเพศลดลง) ให้กินอาหารรสเค็มมากหน่อย แต่ถ้าเป็นโรคที่เกี่ยวกับไต (ไตอ่อนแอมากแล้ว) หรือโรคเลือด ห้ามกินของเค็ม นอกจากนี้การกินอาหารที่มีรสเค็มมากเกินไป จะกระทบกระเทือนธาตุไฟ (หัวใจ รวมทั้งระบบประสาท)
รสขม วิ่งเส้นหัวใจ (ธาตุไฟ) รสขมมีสรรพคุณขจัดร้อน สลายไฟ (ความร้อนในตัว) คนที่เลือดหัวใจพร่อง(นอนไม่หลับ ฝันบ่อย ความรู้สึกร้อนในตัว ร้อนฝ่ามือฝ่าเท้า มีแผลร้อนในปาก กินอาหารรสขมมากหน่อย แต่ถ้าเป็นโรคพลังหัวใจพร่องมาก หรือโรคปวดกระดูก คอแห้ง ลิ้นแดง ไม่ควรกินอาหารรสขม นอกจากนี้การกินอาหารที่มีรสขมมากเกินไปจะกระทบกระเทือนธาตุทอง (ปอด)
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “ไทยสไมล์อัดโปรแรงตั๋วบินเริ่มแค่พันบาท1-2ก.ย.นี้”
สายการบินไทยสมายล์ รายงานว่า ได้จัดทำโปรโมชั่นตั๋วโดยสารขายราคาพิเศษ ในงานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 48 ช่วงเสาร์ที่ 1-อาทิตย์ที่ 2 กันยายน นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีโปรแรง ๆ Smile Price เป็นตั๋วบินรวมทุกอย่างแต่ละเที่ยว ได้แก่ เส้นทางในประเทศ รวมทุกอย่าง เริ่มต้นเที่ยวละ 1,090 บาท เส้นทางข้ามภาค เริ่มเที่ยวละ 1,700 บาท เส้นทางต่างประเทศ เริ่มต้น 2,000 บาท ซื้อภายในงานแล้วนำไปใช้เดินทาง 5 ก.ย.2561 – 29 มี.ค. 2562
ตลอดการเข้าร่วมงานทางบูธไทยสมายล์ หมายเลข M32, M33 มีบริการขายสินค้าที่ระลึก Smile Gift ราคาพิเศษ อาทิ ตุ๊กตาหมอนผ้าห่มฮักยิ้ม เซ็ทตุ๊กตาหมีหนูส้ม หมอนรองคอ พวงกุญแจ เนคไท ปากกา ผ้าพันคอ สอบถามเพิ่มที่ 1181 หรือ 0 2118 8888
ข่าวที่สอง “แอร์ไลน์เฮกม.ใหม่ก.ย.นี้ขึ้นค่าตั๋วเพิ่มได้”
นายจุฬา สุขมานพ กล่าวว่า ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยหรือกพท. กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) เห็นชอบร่างประกาศ กบร. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณค่าโดยสารและค่าระวางสำหรับอากาศยานขนส่งภายในประเทศ พ.ศ. .... โดยกำหนดให้เส้นทางบินภายในประเทศที่มีระยะทางบินเกิน 300 กิโลเมตร ให้ผู้ประกอบการอากาศยานขนส่งกำหนดค่าโดยสาร ดังนี้
1. เส้นทางบินที่ผู้ประกอบการอากาศยานขนส่งให้บริการเต็มรูปแบบ (Full Service) จะต้องมีบริการพื้นฐานขั้นต่ำอย่างน้อย 3 รายการ ที่ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ได้แก่ น้ำหนักสัมภาระลงทะเบียนอย่างน้อย 20 กิโลกรัม บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง และบริการให้เลือกที่นั่ง สามารถเรียกเก็บค่าโดยสารไม่เกิน 13 บาทต่อกิโลเมตร
2. เส้นทางบินที่ผู้ประกอบการอากาศยานขนส่งให้บริการต้นทุนต่ำ ให้กำหนดค่าโดยสารได้ไม่เกิน 9.40 บาทต่อกิโลเมตร
ส่วนการกำหนดค่าโดยสารชั้นที่สูงกว่าชั้นประหยัด ให้ตั้งราคาเพิ่มสูงกว่าชั้นประหยัดได้ไม่เกิน 30% กฎหมายที่จะออกประกาศใหม่มีผลบังคับใช้ในเดือนกันยายน 2561 เป็นต้นไป
ข่าวที่สาม “รัฐเท6พันล้านปั้นสนามบินกระบี่/ขอนแก่นฮับใหม่”
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เป็นประธานการลงนามสัญญาโครงการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารท่าอากาศยานกระบี่และท่าอากาศยานขอนแก่นไปเรียบร้อยแล้วเมื่อปลายเดือนสิงหาคม 2561 ระหว่างกรมท่าอากาศยาน(ทย.)และ บริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน) เพื่อเดินหน้าพัฒนาเฟสแรก ท่าอากาศยานกระบี่และขอนแก่นวงเงินลงทุนรวมกว่า 6,000 ล้านบาท ตามแผนยุทธศาสตร์กรมท่าอากาศยาน ปี 2560 – 2564 ตั้งเป้าผลักดันสู่การเป็นศูนย์กลางการบินภูมิภาค
รวมทั้งเป็นไปตามยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทยในระยะ 8 ปี (2558-2565) เน้นสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ด้วยการมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี เชื่อมต่อโครงข่ายในประเทศกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างมีประสิทธิภาพ
ข่าวที่สี่ “เบื้องลึก"นก-ปิยะ"ไขก๊อกลาออกจากซีอีโอนกแอร์"
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานกรรมการ บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บอร์ดนกแอร์ได้มีอนุมัติตามหนังสือลาออกของนายปิยะ ยอดมณี จากการเป็นกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารมีผล 22 กันยายน 2561 จากนั้นก็ให้แต่งตั้งนายประเวช องอาจสิทธิกุล ประธานกรรมการบริหาร รักษาการแทน ระหว่างสรรหาซีอีโอคนใหม่
ทั้งนี้มีกระแสดราม่าถึงสาเหตุการยื่นใบลาออกครั้งนี้ของนายปิยะที่ออกจากการบินไทยมาช่วยนายพาที สารสินบุกเบิกนกแอร์ตั้งแต่ยุคแรกถึงปัจจุบันรวมกว่า 14 ปี ซึ่งมีแรงกดดันลึก ๆ จากการเสนอที่ประชุมบอร์ดเมื่อเดือนสิงหาคมพิจารณาขอกู้เงินจากกลุ่มถือหุ้นราว 500 ล้านบาท มาจัดทำแผนฟื้นฟูนกแอร์ แต่ไม่ได้รับเสียงสนับสนุน จนเป็นชนวนมาสู่การยื่นใบลาออกดังกล่าว
ติดตามฟังรายการได้เป็นประจำทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0
เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน คอลัมนิสต์ท่องเที่ยว-การบิน และผู้ดำเนินรายการ |
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น