ตะลึง!เศรษฐี“กัมพูชา-อีสานใต้”แห่ทัวร์ไทยข้ามภาค
เทใช้เงินทะลุคนละเกิน2หมื่น/ทริปตลุยกินเที่ยวช้อป
คิงเพาเวอร์จัดช้อปดาวน์ทาวน์คืน2หมื่นตลอดก.ย.นี้
ททท.ยุโรปรุกปัม6 ทรนด์ทัวร์สุขภาพตลาดโลกปี62
15-16ก.ย.เปิดสิงห์ปาร์คปั้นเชียงรายเมืองชากาแฟ
บางจากกอดคอ10องค์กรชูผลิตภัณฑ์นวตกรรมกรีน
ทอท.ชี้อย่าซื้อที่เก็งกำไรสนามบิน2ภูเก็ต/เชียงใหม่
TCEBตีปีกไมซ์ไต้หวันเอ็กซโปกวาด110 ล้านดอลล์
ไปเที่ยวขึ้นเขาลงห้วยทัวร์ป่าปีนภูสวยเมืองรอง"เลย"
แนะ9วิธีป้องกันควบคุมมลภาวะฝุ่นละอองในอากาศ
“สุเมธ ดำรงชัยธรรม”ดีดีใหม่มือปลดหนี้การบินไทย
ททท.-ไทยแอร์-เอกชนดึงเอเย่นต์จึนฟื้นตลาดภูเก็ต
ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97
ช่วงที่ 1 ฮือฮากับ “ขวัญทวี ไทยยิ่ง” หญิงแกร่งแห่งวงการทัวร์ ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัท สะเร็น แทรเวล แอนด์ ทัวร์ จำกัด ผู้กว้างขวางในการจัดท่องเที่ยวแนวตะเข็บชายแดน สุรินทร์-กัมพูชา ได้เปิดคลังข้อมูล เรื่อง “เทรนด์ตลาดเศรษฐีกัมพูชา” แห่มาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในไทย ช้อปแหลกทั้งของกินของใช้ เรื่อยไปจนถึงการปลุกกระแส “ชาวอีสานใต้” ครู ข้าราชการ กลุ่มวัยเก๋า หันมาสนุกกับการใช้เงินเดินทางท่องเที่ยวไทยข้ามภาคกระจายรายได้สู่ชุมชน เบาะ ๆ คนละ 20,000 บาทต่อทริป ดีกว่าหอบเงินไปเที่ยวเมืองนอก ตอนนี้บูมเที่ยวภาคเหนือ ถ้ำหลวง เชียงราย ปี 2562 เล็งขยายพื้นที่ท่องเที่ยวข้ามสู่ภาคตะวันออก EEC และ 3 จังหวัดชายแดนใต้
“ขวัญทวี ไทยยิ่ง” กรรมการผู้จัดการ บริษัท สะเร็น แทรเวล แอนด์ ทัวร์ จำกัด เปิดเผยว่า ในฐานะผู้นำการพัฒนาตลาดการท่องเที่ยวเชื่อมโยงบริเวณรอยต่อไทย-กัมพูชา หลังการเลือกการเลือกตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้นตั้งแต่เดือนกันยายน 2561 เป็นต้นไป กำลังซื้อเริ่มของนักท่องเที่ยวกัมพูชาจะหลั่งไหลเข้าไทยโดยมีการสอบถามเพื่อซื้อแพกเกจทัวร์มายังแถบอีสานใต้ สุรินทร์ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี ส่วนใหญ่เลือกมาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ รักษาพยาบาลตามโรงพยาบาลเอกชนในพื้นที่อีสานใต้ได้แก่ โรงพยาบาลรวมแพทย์สุรินทร์ อุบลราชธานี เรื่อยมาจนถึงโรงพยาบาลกรุงเทพนครราชสีมา เพราะได้รับการดูแลใส่ใจเป็นอย่างดี ตอนนี้เริ่มขยายเข้าไปยังโรงพยาบาลรัฐบ้างแล้ว จะใช้บริการตรวจสุขภาพขั้นพื้นฐาน ตรวจเลือด ระดับน้ำตาล ไขมัน ความดัน และอื่น ๆ
ขณะนี้มีโรงพยาบาลในแถบจังหวัดสุรินทร์ อุบลราชธานี นครราชสีมา ทำแพกเกจรักษาสุขภาพบุกไปนำเสนอขายในกัมพูชา แพกเกจราคาเริ่มตั้งแต่ 100 เหรียญสหรัฐขึ้นไป
สะท้อนถึงนักท่องเที่ยวกัมพูชามีความพร้อมใช้จ่ายเงินเฉพาะเชิงสุขภาพ เฉลี่ยคนละ 7,000-8,000 บาทต่อคน ซึ่งมีกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลงัดกลยุทธ์ทางการแพทย์ไปเปิดบูธให้ความรู้คำแนะนำถึงเรื่องระบบสาธารณูปโภคซึ่งต้นเหตุมาจากน้ำบริโภคที่มีการปนเปื้อนก็จะมีผลต่อระบบเลือดของคนจนกระทบต่อสุขภาพได้ เป็นผลทำให้ชาวกัมพูชาตื่นตัวเดินทางเข้ามาป้องกันรักษาเพิ่มขึ้นทุกวัน
ส่วนการใช้เงินช็อปปิ้ง เมื่อเข้ามาไทยแล้วชาวกัมพูชานิยมซื้อสินค้าอันดับ 1 คือประเภทอุปโภคบริโภค น้ำมันพืช น้ำตาล ของกิน ซึ่งที่ผ่านมาหากเป็นสินค้าวางจำหน่ายตามร้านในแถบชายแดนนักท่องเที่ยวมักจะเจอของปลอมเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็ชอบซื้อของใช้ในไทยที่มีระดับอย่างกางเกงยีนส์ เสื้อผ้า แหล่งช็อปหลักคือห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ซึ่งมีการลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ชาวกัมพูชาจะซื้อแล้วตัดคูปองส่วนลดมาใช้กันอย่างคึกคัก เพราะจะได้ทั้งส่วนลดและของแถมจากร้านค้า เป็นภาพการเตรียมพร้อมมาช็อปอย่างเต็มที่
สำหรับ “อาหาร” ก็จะนิยมเลือกรับประทานชาบู บาบีคิว เพราะมีวัตถุดิบผัก เนื้อ ชัดเจน โดยเปรียบเทียบราคาจ่ายเงินมื้อละประมาณ 100 เหรียญสหรัฐ หรือ 3,000 บาทขึ้นไป สามารถกินได้เกือบ 10 คน
สถานการณ์ตลาดนักท่องเที่ยวกัมพูชาเดินทางเข้ามาไทยเริ่มคึกคักมาต่อเนื่อง ในการเริ่มฤดูกาลงานช้างสุรินทร์ ที่ชุมชนและจังหวัดได้นำช้างจำนวนหลายร้อยเชือกมาจัดแสดง และสนใจไปชมโบราณสถานในบุรีรัมย์ เป็นการเปิดเทรนด์การท่องเที่ยวเชื่อมโยงตามรอยปราสาทหินสถาปัตยกรรมขอม เช่น เรื่องราวเมืองพิมายซึ่งเคยเป็นแผ่นดินของแม่สมเด็จพระเจ้าชัยวรมัน เส้นทางเมืองแม่สู่เมืองลูกในนครวัด นครธม ทำให้กัมพูชาเกิดความภูมิใจ รวมถึงชื่นชมคนไทยในการวางระบบดูแลรักษาอย่างปราสาทพนมรุ้ง ซึ่งมีระบบจัดการเป็นอย่างดี
จุดขายไฮไลต์เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวกัมพูชาคือ “เขาใหญ่” นครราชสีมา ซึ่งมีทั้งความงามทางธรรมชาติ และสถานที่ท่องเที่ยวแมนเมดมนุษย์สร้างขึ้นเป็นเครื่องเล่นเชิงผจญภัยทันสมัยแบบต่าง ๆ เช่น สวนสนุกหรือธีมปาร์คในกรีนเนอรี่ รีสอร์ต หรือที่พักสไตล์คาวบอย ถูกใจนักท่องเที่ยวกัมพูชา
นางสาวขวัญทวี กล่าวว่า การขายเชิงรุกตลาดในประเทศกลุ่มนักท่องเที่ยวภูมิภาคอีสานเดินทางข้ามภาคไปยังพื้นที่อื่น ๆ ตอนนี้ก็เติบโตอย่างรวดเร็วเช่นกัน เนื่องจากชาวอีสานชอบภาคเหนือมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ภูเขา ดอกไม้สวยงามช่วงหน้าหนาว การออกแบบโปรแกรมท่องเที่ยวจึงต้องเน้นให้เห็นถึงการเดินทางเข้าถึงแต่ละแหล่งท่องเที่ยวอย่างสะดวก เช่น การบินท่องเที่ยวข้ามภาคจากอีสานไปยังภาคเหนือ ภาคใต้ ใช้เวลาเดินทางน้อยและมีเวลาท่องเที่ยวเต็มที่ ดีกว่าการเดินทางโดยรถบัสซึ่งเหลือเวลาเที่ยวน้อย
ตอนนี้มีโปรแกรมรถบัสซึ่งได้รับการออกแบบพิเศษมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทางบริษัทก็ได้ทดลองนำมาผลิตแพกเกจเที่ยวทางรถวางขายเริ่มกลับมาได้ความนิยมอีกครั้ง โดยให้ออกเดินทางจากจังหวัดในอีสานช่วงเย็นแล้วไปถึงภาคเหนือตอนเช้า มีทีมรถขนาดเล็กพาเที่ยวตามดอยต่าง ๆ ด้วยความรักและศรัทธาโครงการพระราชดำริ หรือการพักโฮมสเตย์ที่รวมอยู่ในแพกเกจก็มีกระแสตอบรับดีมาก เช่น โฮมสเตย์แม่ฮ่องสอน หรือ ถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย พอเปิดขายคนก็แห่กันมาซื้อ ซึ่งต้องการไปเยือนสถานที่ แต่งตัวตามแบบชาวดอยถ่ายภาพแชร์ให้เพื่อน ๆ ชม
ขณะเดียวกันชาวอีสานส่วนใหญ่มีกำลังซื้อสูงจากกลุ่มตลาดวัยเก๋า ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มข้าราชการเกษียณอายุ และเลือกไปจุดซึ่งสามารถเข้าถึงได้ในการเข้าไปเลือกชิมอาหารถิ่นตามที่มีข้อมูลมาก่อนจากการชมรายการทีวีหรือโซเชียล เช่น ไปชุมชนบ้านนาต้นจั่น จังหวัดสุโขทัย นักท่องเที่ยวทุกคนก็ขอให้จัดเมนูข้าวเปิ๊บ น้ำพริกข่า มาเสิร์ฟในชุดด้วย ขึ้นอยู่กับหัวหน้าทัวร์ไกด์ให้ข้อมูลนำเสนอก่อนการตัดสินใจซื้อโปรแกรมท่องเที่ยว โดยแต่ละคนใช้จ่ายเงินเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 20,000 บาทต่อทริป แบ่งเป็นราคาแพกเกจไม่สูง 7,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 70 % จะกระจายรายได้ในเรื่องการช็อปปิ้งผลิตภัณฑ์พื้นเมืองคือซื้ออาหารถิ่นของภาคนั้น ๆ เช่น แคบหมู ของกินของฝาก ผลไม้ท้องถิ่น และเสื้อผ้าชุดประจำถิ่นชาวเหนือ ชาวใต้
ตลาดนักท่องเที่ยวอีสานปัจจุบันที่หันมาแห่เดินทางท่องเที่ยวข้ามภาคนั้นมีกำลังซื้อสูงมาก เพราะเป็นกลุ่มเกษียนจากอาชีพครู ข้าราชการ ที่มีเงินบำนาญใช้จ่ายตลอด และกลุ่มเกษตรกรที่เป็นเจ้าของธุรกิจของตนเอง มีเงินใช้จ่ายจากการเก็บสะสมไว้นำมาใช้ท่องเที่ยว และส่วนใหญ่จะชอบซื้อของกินของฝากมาให้ลูกหลานเกือบทุกคน
สำหรับปี 2562 เตรียมทำแพกเกจเข้าไปถึง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจะใช้บริการรถไฟและเครื่องบิน เร็ว ๆ นี้จะบุกไปยังภาคตะวันออกและพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจชายฝั่งทะเลตะวันออกด้วย ซึ่งมีกลุ่มโฮมสเตย์ จันทบุรี ตราด ได้รับความนิยมสูงมาก เพราะได้รับประทานอาหารทะเลอย่างจุใจ มีทั้งกิจกรรม ความบันเทิง อาหารทะเลสด ๆ เสิร์ฟถึงที่พัก
ดังนั้นบริษัทนำเที่ยวจึงต้องออกแบบโดยเน้นความคุ้มค่าทั้งเรื่องกิน ที่พัก ความเป็นอยู่ งานเลี้ยง ปาร์ตี้ เต็มรูปแบบหรือ Full service เช่น มื้ออาหาร อย่างนำเที่ยวภาคอีสานเหนือต้องมีการเสิร์ฟเนื้อโพนยางคำสินค้าคุณภาพขึ้นชื่อประจำถิ่น หรือเที่ยวภาคกลางต้องมีปลาแม่น้ำเป็นเมนูหลัก เช่น อุทัยธานี ล่องแม่น้ำสะแกกรัง เสิร์ฟเมนูสารพัดปลา ส่วนภาคเหนือ ก็เน้นอาหารพื้นเมือง ขันโตก แหนมเนือง แคบหมู รสชาติจัดจ้านใกล้เคียงภาคอีสาน มีชุดข้าวซอยเข้ามาเสริมด้วย
บริษัท สะเร็น แทรเวล แอนด์ ทัวร์ จำกัด ทำการตลาดตอบโจทก์นโยบายรัฐบาลครอบคลุมทุก ๆ เรื่อง ทั้งการท่องเที่ยวข้ามภาค เที่ยววันธรรมดา อาหารถิ่น วัฒนธรรม การกระจายรายได้สู่ชุมชน ซึ่งชาวอีสานสนใจอยากเข้าไปสัมผัสความดีเพื่อเป็นพลังใจให้เกิดในตัวนักท่องเที่ยวที่ชาวอีสานใต้ต้องการจากประสบการณ์แลกเปลี่ยนเดินทางข้ามภูมิภาคทุกวันนี้และอนาคตข้างหน้าในวันต่อ ๆ ไป
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ชูช้อปดาวน์ทาวน์รับกิฟโวเชอร์2หมื่นบาท”
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ต้อนรับตลอดเดือนกันยายน 2561 กับแพกเกจ“ช้อปดาวน์ทาวน์ ยิ่งช้อปยิ่งได้” โดยสมนาคุณให้รับคืน Gift Voucher สูงสุด 20,000 บาท ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา ภูเก็ต ตั้งแต่วันนี้– 30 กันยายน 2561 เมื่อสมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์ ซื้อสินค้าครบตามเงื่อนไข รับคืนทันที Gift Voucher สูงสุด 20,000 บาท
เริ่มจากซื้อสินค้าครบทุก 15,000 บาท (สุทธิ) รับคืน Gift Voucher 1,000 บาท จำกัดยอดคืน Gift Voucher สูงสุด 20,000 บาท/วัน หรือ ยอดซื้อสินค้าสูงสุด 300,000 บาท/วัน
ระหว่างวันนี้ – 19 กันยายน 2561 รับคูปองรับประทานอาหาร และคูปองส่วนลดมูลค่า 800 บาท
ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ สำหรับสมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์ ที่ซื้อสินค้าครบ 1,500 บาทขึ้นไป (สุทธิ) รับทันที สิทธิพิเศษ 2 ต่อ (1 สิทธิ์/วัน) ดังนี้ ต่อที่ 1 : รับคูปองรับประทานอาหารในโซน และนอกโซน Thai Taste Hub มูลค่า 200 บาท ต่อที่ 2 : รับคูปองส่วนลด 800 บาท สำหรับการซื้อสินค้า 3,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จรับเงิน
หรือเพียงลงทะเบียนรับทันทีคูปองส่วนลดมูลค่า 800 บาท ในการซื้อสินค้า 3,500 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จรับเงิน (1สิทธิ์ / ท่าน / วัน)
ดูเงื่อนไขต่าง ๆ เพิ่มเติมที่ www.kingpower.com หรือ คอลเซ็นเตอร์ 1632
ข่าวที่ 2 “ททท.เจาะ6เทรนด์ทัวร์สุขภาพตลาดโลกปี’62”
นางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่แห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า หลังเสร็จสิ้นการจัดงาน Amazing Thailand Health and Wellness Trade Meet 2018 ที่ได้ผู้ซื้อจากทั่วโลก 73 ราย อาทิ ออสเตรเลีย อินเดีย การ์ต้า สหรัฐอาหรับเอมิเรต มาเจรจาธุรกิจกับกลุ่มผู้ขายซึ่งเป็นผู้ประกอบการไทยด้านสุขภาพและความงาม 30 ราย อาทิ Bangkok Anti-Aging Center, Bangkok smile dental group, FITFAC Muaythai Academy, Amatara Wellness Resort และจัดให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าและบริการด้านสุขภาพและความงาม เพื่อเป็นเวทีให้ผู้ประกอบการไทย กลุ่มโรงพยาบาล สถานประกอบการ Wellness & Spa นำเสนอสินค้าและการบริการให้กับผู้ซื้อ เพื่อเป็นข้อมูลต่อยอดการขยายตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในปีต่อไป
ตามที่ ททท.ได้ศึกษาแนวโน้มของตลาดโลก นักท่องเที่ยวกลุ่ม Health and Wellness ปี 2562 ( Global Trend 2019) อ้างอิงข้อมูลจาก Global Wellness Institute กำลังมาแรง ซึ่งไทยจะรุกเข้าทำตลาดด้วย 6 เทรนด์ ได้แก่
1.การสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวผสมผสานการดูและสุขภาพครบวงจร ซึ่งไทยมีที่พัก4 ดาวขึ้นไป สามารถเพิ่มบริการ health & wellness ดึงนักท่องเที่ยวเข้าพักมากขึ้น เช่น บันยันทรี, ซิกซ์เซนส์
2. การใส่ใจสุขภาพ 1,000 วันของเด็กแรกเกิด ส่งเสริมให้มีพัฒนาการทั้งสุขภาพที่ดีตั้งแต่วันที่ลืมตาดูโลกและปลูกฝังสุขนิสัยสุขภาพที่ดีให้กับเด็ก โดยพ่อแม่เป็นตัวแปรสำคัญ
3. อาหารเป็นยาหรืออาหารเพื่อสุขภาพ อาหารปลอดสารเคมี (organic food) หรือ การปรุงอาหารแบบ farm to table ซึ่งคนยุคปัจจุบันให้ความสำคัญกับอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้นเรื่อยๆ
4. การใส่ใจสุขภาพองค์รวมของร่างกายทั้งด้านร่างกายและจิตใจ (Body, Mind and Spirit)
5. ลดการใช้เทคโนโลยีและมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างให้มากขึ้น
6. แนวโน้มผู้หญิงดูแลสุขภาพมากขึ้น (self care) จึงหันมาเดินทางเพื่อฟื้นฟูตัวเอง กระตุ้นพลังในตัวเอง
โดย ททท.จะรุกตลาดเป้าหมาย 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มตลาดระยะใกล้ คือ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม และจีน 2.กลุ่มตลาดระยะไกล ได้แก่ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง สหพันธรัฐรัสเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา โดยมุ่งไปที่ประชากรกลุ่ม Millennials และ กลุ่มผู้หญิงวัยทำงาน ซึ่งมีความสามารถในการตัดสินใจเดินทาง การใช้จ่าย และเป็นกลุ่มที่รักสุขภาพ
ข่าวที่ 3 “ททท.จัดเชียงรายเมืองชากาแฟ15-16ก.ย.ที่สิงห์ปาร์ค”
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้เร่งเดินหน้าสนอง
นโยบายรัฐบาลจัดกิจกรรมกระตุ้นรายได้ท่องเที่ยว 55 เมืองรอง เตรียมจัดงาน “Best of Coffee and Tea @ Chiangrai2018”ระหว่าง 15-16 กันยายน 2561 ณ ไร่สิงห์ปาร์ค จังหวัดเชียงราย ตอกย้ำความเป็นเมืองแห่งชากาแฟ มุ่งสร้างกระแสความนิยมกลุ่มคนชอบดื่มชากาแฟ ชื่นชอบวิถี Café Culture รักการถ่ายภาพ และกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจ ส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการกระจายรายได้สู่ชุมชน ตลอดงานนี้คาดจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 10,000 คน
เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าฟรีทุกวันตั้งแต่ 10.00 – 20.00 น. พบกับ 5 โซนกิจกรรมหลัก ประกอบด้วย
1.โซนชากาแฟ คัดสรรที่สุดแห่งกาแฟภาคเหนือ และภาคใต้ พร้อมร้านชากาแฟชื่อดังมาบริการและจำหน่ายสินค้าให้คุณได้ลิ้มลองตลอดงาน อาทิ กาแฟแม่จันใต้ จ.เชียงราย Hommecaffe จ.น่าน กาแฟจ่านรินทร์ จ.เพชรบูรณ์กาแฟก้องวัลเล่ย์ จ.ระนอง กาแฟข้าวสังข์หยด จ.พัทลุง Deeva Cup จ.ตรัง ชาอู่หลงอินทรีย์ จากวิสาหกิจชุมชนกลุ่มสวนชาดอยตุง ชาอินทรีย์ 5 สี จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านห้วยน้ำกลืน และอีกมากมายรวมกว่า 40 ร้าน
2.โซน SME & Workshop กับบาริสต้าและกูรูชื่อดัง ที่จะมาให้ความรู้และสาธิตเทคนิคการชงชากาแฟสูตรต่าง ๆ อาทิ สาธิตการชงชาจาก Maruzen เทคนิคการทำ Cold Brew Coffee นั่งรถรางชมไร่สิงห์ พร้อมเก็บ ใบชาสดจากไร่มาชง สามารถลงทะเบียนในงานเข้าร่วมกิจกรรมฟรี
3. โซนนิทรรศการเส้นทางจิบชาดื่มกาแฟ รวบรวม 10 เส้นทางท่องเที่ยวจิบชาดื่มกาแฟ มาเติมเต็มนักท่องเที่ยว เช่น บ้านปางอุ๋ง จ.แม่ฮ่องสอน สวนสดชื่น กระบุรี จ.ระนอง บ้านดอยช้าง แม่สรวย จ.เชียงราย
4.โซน FOOD MARKET & STREET ART รวบรวมอาหารจากร้านเด็ดดังภาคเหนือ อาทิ อาหารพื้นเมืองภาคเหนือจากครัวมัฌชิมา พายมะพร้าวอ่อนจากสวนจริญรีสอร์ท ปิ้งย่างหม่าล่า ไส้อั่วป้าน้อง ก๋วยเตี๋ยวปิ่นโต เป็นต้น และในโซนนี้ยังเปิดให้เป็นพื้นที่สำหรับเหล่าศิลปิน นักศึกษา ที่มาร่วมวาดภาพ จำหน่ายสินค้างานศิลปะ และดนตรีเปิดหมวก
และเวทีหลัก MAIN STAGE มีศิลปินอารมณ์ดีมาสร้างความบันเทิงตลอดงาน เช่น ป๊อป ปองกูล, สิงโต นำโชค และอีกมากมาย ภายใต้บรรยากาศท้องทุ่งและขุนเขา
ข่าวที่ 4 “บางจากผนึก10องค์กรลุยผลิตภัณฑ์นวัตกรรมกรีน”
นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) กล่าวว่า ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการยกระดับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมไทย ด้วยการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรมสีเขียวสู่ตลาดสากล ซึ่งเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญของ 10 องค์กรพันธมิตร ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) สถาบันอาหาร (NFI) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (NIA) สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ธนาคารกสิกรไทย และกลุ่มบริษัทบางจากฯ โดยสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจบางจาก (BiiC) และบริษัท บางจาก รีเทล จำกัด (BCR) ผู้ดำเนินธุรกิจกลุ่ม Non-Oil
ทั้ง 10 องค์กรจะจับมือกับบางจากฯ เดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมสีเขียว ที่ผ่านมาบางจากทำไว้หลายโครงการ ทั้งด้านพลังงานหรือกิจกรรมเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะเรื่องกิจการเพื่อสังคม เช่น การจัดตั้ง บริษัท ออมสุข วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ร่วมกับ มูลนิธิพุทธเศรษฐศาสตร์ โดยพระมหาวุฒิชัย (ท่าน ว.วชิรเมธี) ประกอบธุรกิจด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนให้มีมูลค่าเพิ่มด้วยนวัตกรรม ให้ความรู้ด้านการบริหารต้นทุนและส่งเสริมด้านการตลาด และการจัดตั้งสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ เป็นต้น
นายสุวัฒน์ มีมุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ ของ BCP กล่าวว่า ในส่วนของสถาบัน BiiC เป็นสถาบันที่จัดตั้งขึ้นเพื่อต่อยอดการขยายธุรกิจ ผลักดันนวัตกรรมต่าง ๆ ที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ใส่ใจปัญหาสิ่งแวดล้อม สนับสนุนพลังงานสีเขียวและผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ตามนโยบายขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 รวมไปถึงการให้ทุนวิจัยแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ การลงทุนในธุรกิจ Start Up เพื่อติดตามและนำเทคโนโลยีมาต่อยอดกับธุรกิจในกลุ่มบริษัทบางจากฯ
นายวิบูลย์ วงสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด ในนาม SPAR Thailand ผู้ดำเนินธุรกิจร้านสพาร์ในประเทศไทย ภายใต้ SPAR International ซึ่งเป็นเครือข่ายค้าปลีกระดับโลก เปิดเผยว่า มุ่งมั่นพัฒนาสินค้าคุณภาพสูง ปลอดภัย และดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค มีเป้าหมายตรงกับแนวทางการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันที่หันมาให้ความสำคัญกับแหล่งที่มาของสินค้า ซึ่งจุดนี้ถือเป็นเทรนด์สินค้าของ SPAR ทั่วโลก
สำหรับ SPAR Thailand ไม่เพียงมองหาสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด แต่มองไปถึงสินค้าต้นแบบที่เป็นนวัตกรรมสร้างสรรค์ ไม่ใช่แค่ยกระดับผู้ประกอบการ แต่เป็นการยกระดับสินค้าของประเทศไทย ให้มีความโดดเด่น แตกต่างและน่าสนใจ เพื่อวางจำหน่ายที่ SPAR Thailand รวมถึงโอกาสในการวางจำหน่าย ในเครือข่าย SPAR International และโอกาสในการจำหน่ายที่ร้านอินทนิล ปัจจุบันเปิดบริการกว่า 500 สาขา และในอีก 2-3 ปีหน้าจะมีกว่า 1,000 สาขา
ข่าวที่ 5 “ทอท.เตือนอย่าตื่นกว้านซื้อเก็งกำไรภูเก็ต/เชียงใหม่แห่ง2”
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” เปิดเผยว่า ตามแผนการบริหารจัดการสนามบินตั้งแต่ปลายปี 2561 เป็นต้นไป จะแบ่งตามสูตร 4 บวก 2 คือ 1.สนามบินที่จะต้องรับโอนการบริหารจากกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ในต่างจังหวัด 4 สนามบิน และ 2.การก่อสร้างสนามบินแห่งที่ 2 ในภาคใต้และภาคเหนือ อีก 2 สนามบิน ได้แก่ ภูเก็ตแห่งที่ 2 กับ เชียงใหม่แห่งที่ 2 ซึ่งจะขอแนะนำทั้งกลุ่มนักลงทุนอย่าเพิ่งตื่นกว้านซื้อที่ดินเพื่อเก็งกำไรรวมถึงเจ้าของที่ดินเองก็ด้วย เพราะอาจจะเกิดความเสียหายขึ้นได้ เนื่องจากปัจจุบันยังไม่ได้ข้อสรุปแนวเขตพื้นที่เฉพาะเจาะจงอย่างชัดเจนในการเข้าไปพัฒนาที่ดินเป็นสนามบิน
สำหรับวิธีการบริหารจัดการบริหารสนามบินนั้น ทอท. ได้จัดทำดังนี้ กลุ่มแรก สนามบินปัจจุบัน 6 แห่ง ได้แก่ ภาคเหนือ 2 แห่ง คือ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เป็นฮับ กับท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย เป็นเกตเวย์ ภาคใต้มี 2 แห่ง คือ ท่าอากาศยานภูเก็ต เป็นฮับ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ เป็นเกตเวย์ ตรงกลางมี 2 ฮับ คือ สุวรรณภูมิกับดอนเมือง ทอท.จึงต้องการสนามบินเพิ่มทางซ้ายขวา เริ่มจากในอีสาน คือ อุดรธานีเป็นฮับ สกลนครเป็นเกตเวย์ กับทางตะวันตก คือ ท่าอากาศยานตาก และรัฐบาลให้ ทอท.โชว์ฝีมือรับบริหารทางภาคใต้ตอนบนอีกแห่งคือ ท่าอากาศยานชุมพร รองรับการพัฒนาเมกะโปรเจ็กต์พื้นที่เศรษฐกิจเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ Thailand Riviera
จึงเป็นสูตรการบริหารสนามบินกลุ่มใหม่ในภูมิภาคต่างจังหวัด 4 สนามบินตามมติคณะรัฐมนตรี ได้แก่ อุดรธานี สกลนคร ตาก ชุมพร โดย ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กำกับดูแลหน่วยงานการบินได้เรียกทุกหน่วยงานเกี่ยวข้องประชุมหารือไปเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2561 โดยขอให้เร่งการจัดทำเอกสารการเข้าบริหารสนามบินภูมิภาคให้เร็วขึ้น ทอท.ได้นำส่งกระทรวงคมนาคมเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2561 ทำให้มีฮับการบินทางฝั่งซ้ายและขวาของประเทศเพิ่มขึ้นต่อไป
และทันทีที่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการทั้ง 4 สนามบินภูมิภาค ภายในเดือนกันยายน 2561 ทอท.ก็จะดำเนินงาน ขั้นที่ 1 ทางด้าน “สิทธิการเข้าบริหารสนามบินภูมิภาค” ด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการปรับใช้กฎหมาย ซึ่งเดิมให้สิทธิการท่าอากาศยานซึ่งไม่ใช่ ทอท.การแต่งตัวทั้งหมดจะต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปี ขั้นที่ 2 ช่วงเดือนสิงหาคมหรือกันยายน 2562 ทอท.ก็จะเข้าไปบริหารจัดการสนามบินภูมิภาค ขั้นที่ 3 เข้าไปดูมาตรฐานสนามบินภูมิให้เป็นไปตามเกณฑ์สากลขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศและอื่น ๆ ตาม Categoly
ซึ่งจะเป็นคนละส่วนกับการก่อสร้างลงทุนใหม่อีก 2 สนามบิน คือ ภูเก็ตแห่งที่ 2 อำเภอโคกกลอย จังหวัดพังงา และบ้านธิ จังหวัดลำพูน ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจน เพื่อป้องกันความสับสน โดยเฉพาะเชียงใหม่สนามบินถูกเมืองล้อมไว้หมดแล้ว ขณะที่ภูเก็ตเป็นเกาะลักษณะน้ำล้อมภูเขาที่ราบจะใช้ทำสนามบินได้เต็มพิกัดแล้ว ขยายมากกว่านี้ต้องถมทะเลหรือระเบิดภูเขาซึ่งก็ไม่สามารถขยายได้มากไปกว่านี้
ผลการศึกษาตามกรอบ Size Selection จะดูเหตุผลประกอบหลายเรื่อง ได้แก่ 1.ทิศทางลม หากไปทำสนามบินตัดกับรันเวย์เก่า ก็จะทำให้เกิดผลกระทบเรื่องทิศทางลม จึงต้องหาแนวร่องลมแบบคู่ขนาน
สำหรับเชียงใหม่ Size Selection อยู่ในรัศมี 11,000 ไร่ ทั้งที่ความต้องการใช้พื้นที่จัดทำสนามบินแห่งที่ 2 มีเพียง 4,000-5,000 ไร่เท่านั้น จึงเป็นห่วงชาวบ้านที่พากันไปเก็งกำไรที่ดิน ไม่ควรทำเพราะหากไปซื้อล่วงหน้าไว้แต่ไม่ได้ใช้ทำสนามบินไม่ได้เป็นพื้นที่แนวร่อนดังกล่าว ผู้ซื้อก็จะเสียโอกาสได้ อีกทั้งยังไม่สามารถทำธุรกิจได้เพราะตามกฎหมายกำหนดไว้
กระบวนการลงทุนสนามบินใหม่ 2 แห่ง เมื่อ ครม.อนุมัติแล้ว ขั้นตอนที่ 1 ทอท.นำหลักการไปเอ็กซเรย์ พบว่าในลำพูนมี 5,000 โฉนด ก็ต้องมานั่งคุยกับเจ้าของที่ดิน แต่สิ่งเหล่านี้ยังทำอะไรไม่ได้ เพราะ ครม.ยังไม่ได้มอบหมายภารกิจให้ ทอท. หรือในภูเก็ต มีโฉนดเท่าไร มีพุน้ำจืดหรือไม่
ขั้นตอนที่ 2 Land of decision การได้มาซึ่งที่ดิน ต้องรู้กายภาพของพื้นที่ให้เป็นไปตามมติ ครม.เพื่อทำให้รู้ถึงการเข้าไปจัดการกับที่ดินทั้งหมด ดังนั้นต้องรอช่วงพฤศจิกายน-ธันวาคม 2561 จะต้องมาคุยกันหลัง ครม.ตามกำหนดจะต้องก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายใน 4 ปีข้างหน้า
ข่าวที่ 6 “TCEBตีปีกไมซ์ไต้วันเอ็กซโปเข้าเป้า110ล้านดอลล์”
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ล่าสุดได้มีผลสรุปรายงาน Taiwan Expo 2018 ที่ทีเส็บเข้าร่วมสนับสนุนโดยมีสภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกไต้หวัน (TAITRA) เป็นเจ้าภาพหลัก จัดที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (BITEC) เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม – 1 กันยายน 2561 สร้างมูลค่าการค้าทะลุเป้าในกการนำร่องตลาดไมซ์ไต้หวันเข้ามาจัดในไทยครั้งนี้ สามารถส่งเสริมให้ไทยและไต้หวันมีความสัมพันธ์ทางการค้า ท่องเที่ยว ศิลปะ และวัฒนธรรมแน่นแฟ้นมากขึ้น แต่ยังได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และเทคโนโลยีระดับโลกของกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกด้วย
ตลอดงานมีผู้เข้าชมงานกว่า 30,000 ราย ได้รับผลตอบรับทางธุรกิจมูลค่าสูงถึง 110 ล้านเหรียญสหรัฐ สามารถกระตุ้นให้ผู้เข้างานสัมผัสถึงความเป็นไต้หวันในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะการเปิดตัว Taiwan Excellence สินค้า Halal และเทคโนโลยีที่ช่วยให้ชีวิตประจำวันสะดวก ทันสมัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมาย
Mr. James C.F. ประธานสภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกไต้หวัน (TAITRA) กล่าวว่า ปี 2562 จะนำงานเข้ามาจัดในไทยต่อเนื่อง ในฐานะที่เป็นหนึ่งในประเทศควรค่าต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้ากับไต้หวันอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องการต่อยอดธุรกิจและผลตอบรับจากผู้บริโภคไทยโดยประเมินผลได้จากการจัดงาน ไต้หวัน เอ็กซ์โป 2018 ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
ช่วงที่ 2 ได้เวลาออกไปตะลอนทัวร์เมืองรอง “ขึ้นเขาลงห้วยเดินป่าปลายฝนต้นหนาว” จังหวัดเลย ดื่มด่ำกับนางพญาเสือโคร่งสีชมพูที่ภูลมโล เที่ยวเชิงเกษตรไร่กะหล่ำปลีขั้นบันไดภูทับเบิก ปีนป่ายภูกระดึงชมลานหินสวย และห้ามพลาดเยือนวิถีเชียงคานริมฝั่งโขง เรื่องสุขภาพต้องมาดู “9 วิธีป้องกันฝุ่นละอองในอากาศ” ปิดท้ายด้วยข่าวเปิดใจ “สุเมธ ดำรงชัยธรรม” ดีดีผู้นำข้าวนอกนาการบินไทยคนที่ 3 มือปลดหนี้หมื่นล้านสายการบินแห่งชาติที่รัฐบาลไว้วางใจ กับข่าวความพยายามของ ททท. แอร์เอเชีย และธุรกิจท่องเที่ยว นำเอเย่นต์ทัวร์จีนเข้ามาพูดคุยกอดคอกันฟื้นตลาดกลับมาเฟื่องฟูในภูเก็ตอีกครั้ง
@ขึ้นเขาลงห้วยเที่ยวป่าปลายฝนต้นหนาวเมืองเลย
เสน่ห์การท่องเที่ยวหน้าฝนกับการขึ้นเขาลงห้วยไปสัมผัสความสดชื่นความเขียวขจีของป่าแต่ละผืนที่มีระบบความปลอดภัยที่ดีอย่างเมืองรอง “จังหวัดเลย” ซึ่งใกล้เข้าสู่ปลายฝนต้นหนาวแล้ว
ชวนให้นึกถึงดอกซากุระสีชมพูบานปกคลุมทั่วทั้งหุบเขา ที่ “ภูลมโล” อำเภอด่านซ้าย ตอนนี้นางพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยในผืนแผ่นดินกว้างใหญ่นับพันไร่ ที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดีตามหุบเขาสูงต่ำไล่ระดับกำลังรอเบ่งบานต้อนรับนักท่องเที่ยว
เมื่อไปถึงภูลมโลแล้วมองลงมายังผืนป่าด้านล่างก็จะได้อีกบรรยากาศ เมื่อปักฐานตั้งเต็นท์อยู่กลางลานกว้าง ในช่วงกลางวัน จะได้เห็นหมู่บ้านและการเพาะปลูกท่องเที่ยวเชิงเกษตร “ไร่กะหล่ำปลี” ปลูกแบบขั้นบันได ยามค่ำคืนก็สามารถนอนชมดาวระยับสุกใสเต็มท้องฟ้า
ต่อด้วย “ภูเรือ” แหล่งพักผ่อนอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี มีดอกไม้ ลานหิน ป่าสน ดอกไม้ป่า ให้ชื่นชมอย่างต่อเนื่อง ผู้ชื่นชอบการผจญภัยสามารถเข้าไปชมถ้ำไทร หรือจะไปเดินเล่นแถวลานหินที่เรียกว่าหินพาลี ก็ได้เช่นกัน
ภูไฮไลต์เมืองเลยคือ “ภูกระดึง” อุทยานแห่งชาติ ซึ่งมีความท้าทายเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวต้องมีสักครั้งในชีวิตไปพิชิตภูกระดึง จุดหมายปลายทางการเดินไต่ระดับไปเติมเต็มความสุข ในระยะทางราว 9 กิโลเมตร ลัดเลาะไปตามลาดภู เพื่อไปยังลานกว้างด้านบนภู อากาศเย็นสบาย ฟังเสียงพลิ้วไหวของป่าสน ต้นเมเปิ้ลทอดใบ และเลือกวิวหน้าผาหลากหลายในการชมวิว ซึ่งมีทั้งผานกแอ่น ผาเหยียบเมฆ ผาหมากดูก ผาแดง ผาจำศีล ชอบผาไหนจูงมือกันไปได้เลย
รอบพื้นที่เมืองรองจังหวัดเลย ยังมีแหล่งท่องเที่ยวในอำเภอต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมอย่าง “เชียงคาน” ติดริมแม่น้ำโขง ซึ่งอบอวนไปด้วยกลิ่นอายวิถีชีวิตชาวบ้าน ได้เก็บรักษาบ้านเรือนเก่าสร้างด้วยไม้ ประเพณีวัฒนธรรมปูเสื่อกับพื้นตักบาตรข้าวเหนียวยามเช้าตลอดแนวยาวบนถนนหน้าบ้าน ไหว้พระ 9 วัด และปั่นจักรยานแวะไปตามจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ ตลอดทั้งวัน
หรือจะไป “วัดป่าห้วยลาด” อยู่ในอำเภอภูเรือ ขอบอกว่าเมื่อไปถึงจะต้องตะลึงกับสถาปัตยกรรม ประติมากรรม อันวิจิตรงดงามของ องค์พญานาค สัญลักษณ์ความยิ่งใหญ่แห่งดินแดนลุ่มน้ำโขง
ปิดท้ายกับการไปชม “ห้วยกระทิง” บริเวณอ่างเก็บน้ำสันเขื่อน เหมาะกับการล่องแพชมวิวธรรมชาติ
ไปเที่ยวเลย...ได้ตั้งแต่วันนี้ มีมุมใหม่ ๆ มุมดี ๆ ตลอดการขึ้นเขาลงห้วย อบอุ่นด้วยอ้อมกอดของผืนป่าเขียวขจีตลอดทั้งปี
@9 วิธีเอาตัวรอดจากฝุ่นหมอกควันในชีวิตประจำวัน
รอบตัวเราทุกวันนี้ ไม่เว้นแม้แต่ในบ้านอาจแฝงมลภาวะอากาศที่มองแทบไม่เห็น เช่น ฝุ่นละอองหรือไรฝุ่น รวมถึงการใช้ชีวิตนอกบ้านที่ต้องคลุกคลีในย่านถิ่นซึ่งเผชิญกับควันท่อไอเสีย ยานพาหนะ หรือหมอกควันที่เกิดจากการเผาไหม้ขยะ การเผาไหม้เชื้อเพลิงในโรงงานอุตสาหกรรม
ซึ่งเจ้าฝุ่นเล็กๆ โดยเฉพาะฝุ่นในหมอกควันสามารถสร้างโรคภัยทางเดินหายใจขั้นร้ายแรงได้ เราจึงไม่ควรมองข้ามการดูแลสุขภาพและร่วมด้วยช่วยกันลดมลภาวะทางอากาศเหล่านี้ควรปฏิบัติตามคําแนะนําดังนี้
1.หากจําเป็นต้องอยู่ในละแวกที่มีปัญหามลภาวะอากาศต้องใส่อุปกรณ์ป้องกัน 2.ปิดประตูหน้าต่างไม่ให้ฝุ่นเข้ามาในตัวอาคาร 3.ดื่มน้ำมาก ๆ 4.ใช้น้ำเกลือหรือน้ำสะอาดกลั้วคอบ้วนทิ้งวันละ 3-4 ครั้ง ห้ามกลืน 5.หลีกเลี่ยงการทํากิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องออกแรงมากๆ โดยเฉพาะการออกกําลังกายในที่แจ้งหากต้องออกจากบ้าน
6.ควรสวมหน้ากากอนามัยชนิดกรอง 3 ชั้น ซึ่งจะช่วยป้องกันฝุ่นละอองที่มีขนาดใหญ่กว่า 5 ไมครอนได้ และต้องหมั่นเปลี่ยนหน้ากากอนามัยทุกวัน หรือใช้ผ้าชุบน้ำปิดปากและจมูก 345 SALINESOLOTION 7.ผู้ที่มีโรคประจําตัวเช่น โรคหอบหืด โรคหัวใจโรคปอด ควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จําเป็นติดตัวงดสูบบุหรี่ 8.ปลูกต้นไม้สูงรอบบ้านสามารถช่วยกรองอากาศและผลิตออกซิเจน 9.หากมีอาการผิดปกติหลังสูดดมฝุ่นหมอกควัน เช่น หายใจไม่ออกหรือระคายเคืองแสบตา ควรรีบไปพบแพทย์
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “เจาะใจสุเมธดีดีใหม่บินไทยลุยปลดหนี้3แอร์ไลน์”
นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (DD) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดใจให้สัมภาษณ์หลังเข้ารับตำแหน่ง "DD การบินไทย" ผู้นำสายการบินแห่งชาติได้เพียง 48 ชั่วโมง โดยรับปากจะเข้ามาพลิกสถานการณ์ธุรกิจการบินแถวหน้าของประเทศให้กลับมามีกำไรได้ภายใต้แผนฟื้นฟูการบินไทย ระยะ 5 ปีหน้า ล่าสุดคณะกรรมการ (บอร์ด) การบินไทยอนุมัติให้ลงทุนใหม่ได้กว่า 100,000 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อฝูงบินใหม่ 23 ลำ เข้ามาทดแทนฝูงเก่า ควบคู่กับแผนจะมาตรวจตัวเลขทางการเงินในบัญชีที่ติดลบหรือขาดทุนต่อเนื่องมานานถึง 6 ปี ปีละหลักหมื่นล้านบาท ให้กลับมาอู้ฟู่มีกำไรอีกครั้ง ในช่วงที่เข้ามาดำรงตำแหน่งผู้นำองค์กร
นายสุเมธกล่าวว่าสิ่งแรกที่จะทำ คือ ดึงศักยภาพของคนการบินไทยที่มีกว่า 25,000 คน รวมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน ร่วมมือกันเปลี่ยนองค์กรให้ขับเคลื่อนออกไปจากถ้ำที่ติดอยู่ขณะนี้ คู่ขนานกับการปรับโครงสร้างค่าใช้จ่ายที่เป็นต้นเหตุปัญหาการขาดทุนต่อเนื่องมีอยู่ 2 ตัวแปรหลัก คือ
1.ค่าใช้จ่ายเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิงการบิน ซึ่งแต่ละปีการบินไทยมีค่าใช้จ่ายอยู่ประมาณ 30% ของรายได้ทั้งหมด ถึงแม้ใกล้เคียงกับสายการบินนานาชาติทั่วไป แต่ความแตกต่างคือการทำกำไรต่อหน่วย (yield) โดยรวมยังทำได้ต่ำกว่าคู่แข่งในตลาดเล็กน้อย
2.อัตราแลกเปลี่ยนทางการเงิน เพราะการบินไทยค้าขายโดยใช้สกุลเงินหลายสกุลเกินไป ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2561 ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กำกับดูแลการบินไทย เดินทางมามอบนโยบายโดยให้ฝ่ายบริหารการบินไทยทั้งหมดร่วมมือกันหันมาใช้ระบบจัดตั้งศูนย์บริหารความเสี่ยงการเงิน จำกัด แบบเดียวกับ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)
ส่วนเรื่องอื่น ๆ จะต้องเร่งเข้าแก้ไขควบคู่กันไปก็มี การบริหารทรัพย์สินเรื่องการใช้ฝูงบินอย่างคุ้มค่า เรื่อยไปจนถึงการวางกลยุทธ์ทำตลาดเชิงรุกในทุกรูปแบบ ถึงแม้ปัจจุบันการบินไทยจะสามารถทำอัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยเข้าเป้าเกินกว่า 80% ขึ้นไปแล้วก็ตาม ยังมีอีกหลายส่วนจะต้องทำให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้
นายสุเมธกล่าวว่า มีภารกิจเร่งด่วนที่จะต้องทำให้แล้วเสร็จคือ เตรียมเข้าหารือกับผู้บริหาร บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) "ทอท." เรื่องการเคลียร์พื้นที่ให้บริการเคาน์เตอร์เช็คอินผู้โดยสาร Row A , B ในอาคารผู้โดยสารสุวรรณภูมิหลังที่ 1 ซึ่ง ทอท.จะต้องทุบเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่เข้ากับการก่อสร้าง อาคารผู้โดยสารสุวรรณภูมิหลังที่ 2 จะต้องเดินหน้ก่อสร้างช่วงต้นปี 2562
โดยการบินไทยจะขอเจรจากับ ทอท.บนเงื่อนไขทำให้การบินไทยและ ทอทได้รับผลประโยชน์สูงสุดร่วมกัน แต่จะเป็นแนวทางใดนั้น จะต้องขอเวลาอีกสักระยะภายในกันยายนนี้ เนื่องจากตอนนี้เพิ่งเจ้ารับตำแหน่งดีดีการบินไทยได้เพียง 2 วันเท่านั้น
รวมทั้งมีแนวทางการบริหารตลอด 4 ปีข้างหน้า จะเน้นการให้ข้อมูลเรื่องอนาคตของการบินไทยเป็นหลัก จะไม่นำเรื่องในอดีตที่ผ่านมาของการบินไทยมาเป็นประเด็น เพราะตนเองมีเป้าหมายต้องการให้สายการบินแห่งชาติของไทยผงาดกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งในเวทีโลก
นายสุเมธย้ำว่า ชื่นชอบนโยบายของ ดร.ไพรินทร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ที่เปรียบเทียบการบินไทยขณะนี้มีชะตากรรมเสมือน "ทีม 13 หมูป่า" ในเหตุการณ์ติดอยู่ในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ซึ่งมีเวลาจำกัด มีเงื่อนไขอีกหลายปัจจัยกดทับอยู่
ดังนั้นจึงต้องปลุกให้คนการบินไทย 25,000 คนลุกขึ้นมาช่วยเหลือตนเองก่อน ขณะเดียวกันก็ต้องขอความช่วยเหลือจากทั้งประเทศระดมสรรพกำลังเข้ามาสนับสนุนแผนฟื้นฟูกิจการ เพราะวันนี้คงไม่มีคนไทยคนไหนอยากเห็นการบินไทยล่มสลาย หรือหากเอาแต่ทับถมการบินไทยให้จมดินมากไปกว่านี้ ก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรเลย
แต่ถ้าหันมาช่วยกันคนละไม้ละมือ ดันการบินไทยออกมาจากหลุมดำในถ้ำสำเร็จอีกครั้งจะเป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองและคนไทยมากกว่านั้นเอง
ส่วนเรื่องการจัดการกับปัญหาคาราคาซังในฐานะผู้ถือหุ้นในสายการบินนกแอร์ และการแก้ไขไทยสไมล์ซึ่งแยกไปตั้งเป็นสายการบินลูกทำหน้าที่ให้บริการบินภายในประเทศและประเทศในแถบอาเซียน ที่ยังเป็นภาระเพราะผลประกอบการของทั้ง 2 สายการบิน ขาดทุนต่อเนื่องนั้น
นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กล่าวสั้น ๆ ว่าขอดูรายละเอียดและจะพยายามใช้ความสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
ข่าวที่สอง “ททท.-แอร์เอเชียนำเอเย่นต์จีนฟื้นทัวร์ภูเก็ต”
นางสาวรัญจวน ทองรุต ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ Mr .Rayner Teo Kheng Hock , Head of Sales & Distribution สายการบินไทยแอร์เอเซีย นายภูมิกิตติ์ รักแต่งงาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ จัดงาน "TAT&AirAsia Fam Trip from China 2018” นำเอเย่นต์ทัวร์จีนกว่า 40 ราย พบปะผู้ประกอบการท่องเที่ยวภูเก็ตกว่า 80 ราย กระตุ้นและจัดโปรแกรมท่องเที่ยวพร้อมจัดเลี้ยงดินเนอร์ขอบคุณเอเย่นต์ทัวร์จีนและมอบโชคให้ผู้ร่วมงาน
จากนั้นก็ได้นำเอเย่นต์ทัวร์จีน จากอู๋ฮั้น คุณหมิง เซินเจิ้น หางโจว ฉงชิ่ง เฉิงตู ซีอาน ฉานโถว และเซียงไฮ้ ชมการแสดงที่ดีที่สุดในเอเซีย "โชว์โลมาภูเก็ต" ซอยป่าหล่าย สร้างความประทับใจ เร่งช่วยกันฟื้นฟูนักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวภูเก็ตตามปกติโดยเร็ว
ติดตามฟังรายการได้เป็นประจำทุกวันเสาร์และอาทิตย์ 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
เทใช้เงินทะลุคนละเกิน2หมื่น/ทริปตลุยกินเที่ยวช้อป
คิงเพาเวอร์จัดช้อปดาวน์ทาวน์คืน2หมื่นตลอดก.ย.นี้
ททท.ยุโรปรุกปัม6 ทรนด์ทัวร์สุขภาพตลาดโลกปี62
15-16ก.ย.เปิดสิงห์ปาร์คปั้นเชียงรายเมืองชากาแฟ
บางจากกอดคอ10องค์กรชูผลิตภัณฑ์นวตกรรมกรีน
ทอท.ชี้อย่าซื้อที่เก็งกำไรสนามบิน2ภูเก็ต/เชียงใหม่
TCEBตีปีกไมซ์ไต้หวันเอ็กซโปกวาด110 ล้านดอลล์
ไปเที่ยวขึ้นเขาลงห้วยทัวร์ป่าปีนภูสวยเมืองรอง"เลย"
แนะ9วิธีป้องกันควบคุมมลภาวะฝุ่นละอองในอากาศ
“สุเมธ ดำรงชัยธรรม”ดีดีใหม่มือปลดหนี้การบินไทย
ททท.-ไทยแอร์-เอกชนดึงเอเย่นต์จึนฟื้นตลาดภูเก็ต
ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97
ช่วงที่ 1 ฮือฮากับ “ขวัญทวี ไทยยิ่ง” หญิงแกร่งแห่งวงการทัวร์ ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัท สะเร็น แทรเวล แอนด์ ทัวร์ จำกัด ผู้กว้างขวางในการจัดท่องเที่ยวแนวตะเข็บชายแดน สุรินทร์-กัมพูชา ได้เปิดคลังข้อมูล เรื่อง “เทรนด์ตลาดเศรษฐีกัมพูชา” แห่มาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในไทย ช้อปแหลกทั้งของกินของใช้ เรื่อยไปจนถึงการปลุกกระแส “ชาวอีสานใต้” ครู ข้าราชการ กลุ่มวัยเก๋า หันมาสนุกกับการใช้เงินเดินทางท่องเที่ยวไทยข้ามภาคกระจายรายได้สู่ชุมชน เบาะ ๆ คนละ 20,000 บาทต่อทริป ดีกว่าหอบเงินไปเที่ยวเมืองนอก ตอนนี้บูมเที่ยวภาคเหนือ ถ้ำหลวง เชียงราย ปี 2562 เล็งขยายพื้นที่ท่องเที่ยวข้ามสู่ภาคตะวันออก EEC และ 3 จังหวัดชายแดนใต้
 |
| ขวัญทวี ไทยยิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สะเร็น แทรเวล แอนด์ ทัวร์ จำกัด |
“ขวัญทวี ไทยยิ่ง” กรรมการผู้จัดการ บริษัท สะเร็น แทรเวล แอนด์ ทัวร์ จำกัด เปิดเผยว่า ในฐานะผู้นำการพัฒนาตลาดการท่องเที่ยวเชื่อมโยงบริเวณรอยต่อไทย-กัมพูชา หลังการเลือกการเลือกตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้นตั้งแต่เดือนกันยายน 2561 เป็นต้นไป กำลังซื้อเริ่มของนักท่องเที่ยวกัมพูชาจะหลั่งไหลเข้าไทยโดยมีการสอบถามเพื่อซื้อแพกเกจทัวร์มายังแถบอีสานใต้ สุรินทร์ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี ส่วนใหญ่เลือกมาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ รักษาพยาบาลตามโรงพยาบาลเอกชนในพื้นที่อีสานใต้ได้แก่ โรงพยาบาลรวมแพทย์สุรินทร์ อุบลราชธานี เรื่อยมาจนถึงโรงพยาบาลกรุงเทพนครราชสีมา เพราะได้รับการดูแลใส่ใจเป็นอย่างดี ตอนนี้เริ่มขยายเข้าไปยังโรงพยาบาลรัฐบ้างแล้ว จะใช้บริการตรวจสุขภาพขั้นพื้นฐาน ตรวจเลือด ระดับน้ำตาล ไขมัน ความดัน และอื่น ๆ
ขณะนี้มีโรงพยาบาลในแถบจังหวัดสุรินทร์ อุบลราชธานี นครราชสีมา ทำแพกเกจรักษาสุขภาพบุกไปนำเสนอขายในกัมพูชา แพกเกจราคาเริ่มตั้งแต่ 100 เหรียญสหรัฐขึ้นไป
สะท้อนถึงนักท่องเที่ยวกัมพูชามีความพร้อมใช้จ่ายเงินเฉพาะเชิงสุขภาพ เฉลี่ยคนละ 7,000-8,000 บาทต่อคน ซึ่งมีกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลงัดกลยุทธ์ทางการแพทย์ไปเปิดบูธให้ความรู้คำแนะนำถึงเรื่องระบบสาธารณูปโภคซึ่งต้นเหตุมาจากน้ำบริโภคที่มีการปนเปื้อนก็จะมีผลต่อระบบเลือดของคนจนกระทบต่อสุขภาพได้ เป็นผลทำให้ชาวกัมพูชาตื่นตัวเดินทางเข้ามาป้องกันรักษาเพิ่มขึ้นทุกวัน
ส่วนการใช้เงินช็อปปิ้ง เมื่อเข้ามาไทยแล้วชาวกัมพูชานิยมซื้อสินค้าอันดับ 1 คือประเภทอุปโภคบริโภค น้ำมันพืช น้ำตาล ของกิน ซึ่งที่ผ่านมาหากเป็นสินค้าวางจำหน่ายตามร้านในแถบชายแดนนักท่องเที่ยวมักจะเจอของปลอมเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็ชอบซื้อของใช้ในไทยที่มีระดับอย่างกางเกงยีนส์ เสื้อผ้า แหล่งช็อปหลักคือห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ซึ่งมีการลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ชาวกัมพูชาจะซื้อแล้วตัดคูปองส่วนลดมาใช้กันอย่างคึกคัก เพราะจะได้ทั้งส่วนลดและของแถมจากร้านค้า เป็นภาพการเตรียมพร้อมมาช็อปอย่างเต็มที่
สำหรับ “อาหาร” ก็จะนิยมเลือกรับประทานชาบู บาบีคิว เพราะมีวัตถุดิบผัก เนื้อ ชัดเจน โดยเปรียบเทียบราคาจ่ายเงินมื้อละประมาณ 100 เหรียญสหรัฐ หรือ 3,000 บาทขึ้นไป สามารถกินได้เกือบ 10 คน
สถานการณ์ตลาดนักท่องเที่ยวกัมพูชาเดินทางเข้ามาไทยเริ่มคึกคักมาต่อเนื่อง ในการเริ่มฤดูกาลงานช้างสุรินทร์ ที่ชุมชนและจังหวัดได้นำช้างจำนวนหลายร้อยเชือกมาจัดแสดง และสนใจไปชมโบราณสถานในบุรีรัมย์ เป็นการเปิดเทรนด์การท่องเที่ยวเชื่อมโยงตามรอยปราสาทหินสถาปัตยกรรมขอม เช่น เรื่องราวเมืองพิมายซึ่งเคยเป็นแผ่นดินของแม่สมเด็จพระเจ้าชัยวรมัน เส้นทางเมืองแม่สู่เมืองลูกในนครวัด นครธม ทำให้กัมพูชาเกิดความภูมิใจ รวมถึงชื่นชมคนไทยในการวางระบบดูแลรักษาอย่างปราสาทพนมรุ้ง ซึ่งมีระบบจัดการเป็นอย่างดี
จุดขายไฮไลต์เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวกัมพูชาคือ “เขาใหญ่” นครราชสีมา ซึ่งมีทั้งความงามทางธรรมชาติ และสถานที่ท่องเที่ยวแมนเมดมนุษย์สร้างขึ้นเป็นเครื่องเล่นเชิงผจญภัยทันสมัยแบบต่าง ๆ เช่น สวนสนุกหรือธีมปาร์คในกรีนเนอรี่ รีสอร์ต หรือที่พักสไตล์คาวบอย ถูกใจนักท่องเที่ยวกัมพูชา
นางสาวขวัญทวี กล่าวว่า การขายเชิงรุกตลาดในประเทศกลุ่มนักท่องเที่ยวภูมิภาคอีสานเดินทางข้ามภาคไปยังพื้นที่อื่น ๆ ตอนนี้ก็เติบโตอย่างรวดเร็วเช่นกัน เนื่องจากชาวอีสานชอบภาคเหนือมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ภูเขา ดอกไม้สวยงามช่วงหน้าหนาว การออกแบบโปรแกรมท่องเที่ยวจึงต้องเน้นให้เห็นถึงการเดินทางเข้าถึงแต่ละแหล่งท่องเที่ยวอย่างสะดวก เช่น การบินท่องเที่ยวข้ามภาคจากอีสานไปยังภาคเหนือ ภาคใต้ ใช้เวลาเดินทางน้อยและมีเวลาท่องเที่ยวเต็มที่ ดีกว่าการเดินทางโดยรถบัสซึ่งเหลือเวลาเที่ยวน้อย
ตอนนี้มีโปรแกรมรถบัสซึ่งได้รับการออกแบบพิเศษมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทางบริษัทก็ได้ทดลองนำมาผลิตแพกเกจเที่ยวทางรถวางขายเริ่มกลับมาได้ความนิยมอีกครั้ง โดยให้ออกเดินทางจากจังหวัดในอีสานช่วงเย็นแล้วไปถึงภาคเหนือตอนเช้า มีทีมรถขนาดเล็กพาเที่ยวตามดอยต่าง ๆ ด้วยความรักและศรัทธาโครงการพระราชดำริ หรือการพักโฮมสเตย์ที่รวมอยู่ในแพกเกจก็มีกระแสตอบรับดีมาก เช่น โฮมสเตย์แม่ฮ่องสอน หรือ ถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย พอเปิดขายคนก็แห่กันมาซื้อ ซึ่งต้องการไปเยือนสถานที่ แต่งตัวตามแบบชาวดอยถ่ายภาพแชร์ให้เพื่อน ๆ ชม
ขณะเดียวกันชาวอีสานส่วนใหญ่มีกำลังซื้อสูงจากกลุ่มตลาดวัยเก๋า ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มข้าราชการเกษียณอายุ และเลือกไปจุดซึ่งสามารถเข้าถึงได้ในการเข้าไปเลือกชิมอาหารถิ่นตามที่มีข้อมูลมาก่อนจากการชมรายการทีวีหรือโซเชียล เช่น ไปชุมชนบ้านนาต้นจั่น จังหวัดสุโขทัย นักท่องเที่ยวทุกคนก็ขอให้จัดเมนูข้าวเปิ๊บ น้ำพริกข่า มาเสิร์ฟในชุดด้วย ขึ้นอยู่กับหัวหน้าทัวร์ไกด์ให้ข้อมูลนำเสนอก่อนการตัดสินใจซื้อโปรแกรมท่องเที่ยว โดยแต่ละคนใช้จ่ายเงินเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 20,000 บาทต่อทริป แบ่งเป็นราคาแพกเกจไม่สูง 7,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 70 % จะกระจายรายได้ในเรื่องการช็อปปิ้งผลิตภัณฑ์พื้นเมืองคือซื้ออาหารถิ่นของภาคนั้น ๆ เช่น แคบหมู ของกินของฝาก ผลไม้ท้องถิ่น และเสื้อผ้าชุดประจำถิ่นชาวเหนือ ชาวใต้
ตลาดนักท่องเที่ยวอีสานปัจจุบันที่หันมาแห่เดินทางท่องเที่ยวข้ามภาคนั้นมีกำลังซื้อสูงมาก เพราะเป็นกลุ่มเกษียนจากอาชีพครู ข้าราชการ ที่มีเงินบำนาญใช้จ่ายตลอด และกลุ่มเกษตรกรที่เป็นเจ้าของธุรกิจของตนเอง มีเงินใช้จ่ายจากการเก็บสะสมไว้นำมาใช้ท่องเที่ยว และส่วนใหญ่จะชอบซื้อของกินของฝากมาให้ลูกหลานเกือบทุกคน
สำหรับปี 2562 เตรียมทำแพกเกจเข้าไปถึง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจะใช้บริการรถไฟและเครื่องบิน เร็ว ๆ นี้จะบุกไปยังภาคตะวันออกและพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจชายฝั่งทะเลตะวันออกด้วย ซึ่งมีกลุ่มโฮมสเตย์ จันทบุรี ตราด ได้รับความนิยมสูงมาก เพราะได้รับประทานอาหารทะเลอย่างจุใจ มีทั้งกิจกรรม ความบันเทิง อาหารทะเลสด ๆ เสิร์ฟถึงที่พัก
ดังนั้นบริษัทนำเที่ยวจึงต้องออกแบบโดยเน้นความคุ้มค่าทั้งเรื่องกิน ที่พัก ความเป็นอยู่ งานเลี้ยง ปาร์ตี้ เต็มรูปแบบหรือ Full service เช่น มื้ออาหาร อย่างนำเที่ยวภาคอีสานเหนือต้องมีการเสิร์ฟเนื้อโพนยางคำสินค้าคุณภาพขึ้นชื่อประจำถิ่น หรือเที่ยวภาคกลางต้องมีปลาแม่น้ำเป็นเมนูหลัก เช่น อุทัยธานี ล่องแม่น้ำสะแกกรัง เสิร์ฟเมนูสารพัดปลา ส่วนภาคเหนือ ก็เน้นอาหารพื้นเมือง ขันโตก แหนมเนือง แคบหมู รสชาติจัดจ้านใกล้เคียงภาคอีสาน มีชุดข้าวซอยเข้ามาเสริมด้วย
บริษัท สะเร็น แทรเวล แอนด์ ทัวร์ จำกัด ทำการตลาดตอบโจทก์นโยบายรัฐบาลครอบคลุมทุก ๆ เรื่อง ทั้งการท่องเที่ยวข้ามภาค เที่ยววันธรรมดา อาหารถิ่น วัฒนธรรม การกระจายรายได้สู่ชุมชน ซึ่งชาวอีสานสนใจอยากเข้าไปสัมผัสความดีเพื่อเป็นพลังใจให้เกิดในตัวนักท่องเที่ยวที่ชาวอีสานใต้ต้องการจากประสบการณ์แลกเปลี่ยนเดินทางข้ามภูมิภาคทุกวันนี้และอนาคตข้างหน้าในวันต่อ ๆ ไป
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ชูช้อปดาวน์ทาวน์รับกิฟโวเชอร์2หมื่นบาท”
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ต้อนรับตลอดเดือนกันยายน 2561 กับแพกเกจ“ช้อปดาวน์ทาวน์ ยิ่งช้อปยิ่งได้” โดยสมนาคุณให้รับคืน Gift Voucher สูงสุด 20,000 บาท ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา ภูเก็ต ตั้งแต่วันนี้– 30 กันยายน 2561 เมื่อสมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์ ซื้อสินค้าครบตามเงื่อนไข รับคืนทันที Gift Voucher สูงสุด 20,000 บาท
เริ่มจากซื้อสินค้าครบทุก 15,000 บาท (สุทธิ) รับคืน Gift Voucher 1,000 บาท จำกัดยอดคืน Gift Voucher สูงสุด 20,000 บาท/วัน หรือ ยอดซื้อสินค้าสูงสุด 300,000 บาท/วัน
ระหว่างวันนี้ – 19 กันยายน 2561 รับคูปองรับประทานอาหาร และคูปองส่วนลดมูลค่า 800 บาท
ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ สำหรับสมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์ ที่ซื้อสินค้าครบ 1,500 บาทขึ้นไป (สุทธิ) รับทันที สิทธิพิเศษ 2 ต่อ (1 สิทธิ์/วัน) ดังนี้ ต่อที่ 1 : รับคูปองรับประทานอาหารในโซน และนอกโซน Thai Taste Hub มูลค่า 200 บาท ต่อที่ 2 : รับคูปองส่วนลด 800 บาท สำหรับการซื้อสินค้า 3,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จรับเงิน
หรือเพียงลงทะเบียนรับทันทีคูปองส่วนลดมูลค่า 800 บาท ในการซื้อสินค้า 3,500 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จรับเงิน (1สิทธิ์ / ท่าน / วัน)
ดูเงื่อนไขต่าง ๆ เพิ่มเติมที่ www.kingpower.com หรือ คอลเซ็นเตอร์ 1632
ข่าวที่ 2 “ททท.เจาะ6เทรนด์ทัวร์สุขภาพตลาดโลกปี’62”
นางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่แห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า หลังเสร็จสิ้นการจัดงาน Amazing Thailand Health and Wellness Trade Meet 2018 ที่ได้ผู้ซื้อจากทั่วโลก 73 ราย อาทิ ออสเตรเลีย อินเดีย การ์ต้า สหรัฐอาหรับเอมิเรต มาเจรจาธุรกิจกับกลุ่มผู้ขายซึ่งเป็นผู้ประกอบการไทยด้านสุขภาพและความงาม 30 ราย อาทิ Bangkok Anti-Aging Center, Bangkok smile dental group, FITFAC Muaythai Academy, Amatara Wellness Resort และจัดให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าและบริการด้านสุขภาพและความงาม เพื่อเป็นเวทีให้ผู้ประกอบการไทย กลุ่มโรงพยาบาล สถานประกอบการ Wellness & Spa นำเสนอสินค้าและการบริการให้กับผู้ซื้อ เพื่อเป็นข้อมูลต่อยอดการขยายตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในปีต่อไป
ตามที่ ททท.ได้ศึกษาแนวโน้มของตลาดโลก นักท่องเที่ยวกลุ่ม Health and Wellness ปี 2562 ( Global Trend 2019) อ้างอิงข้อมูลจาก Global Wellness Institute กำลังมาแรง ซึ่งไทยจะรุกเข้าทำตลาดด้วย 6 เทรนด์ ได้แก่
1.การสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวผสมผสานการดูและสุขภาพครบวงจร ซึ่งไทยมีที่พัก4 ดาวขึ้นไป สามารถเพิ่มบริการ health & wellness ดึงนักท่องเที่ยวเข้าพักมากขึ้น เช่น บันยันทรี, ซิกซ์เซนส์
2. การใส่ใจสุขภาพ 1,000 วันของเด็กแรกเกิด ส่งเสริมให้มีพัฒนาการทั้งสุขภาพที่ดีตั้งแต่วันที่ลืมตาดูโลกและปลูกฝังสุขนิสัยสุขภาพที่ดีให้กับเด็ก โดยพ่อแม่เป็นตัวแปรสำคัญ
3. อาหารเป็นยาหรืออาหารเพื่อสุขภาพ อาหารปลอดสารเคมี (organic food) หรือ การปรุงอาหารแบบ farm to table ซึ่งคนยุคปัจจุบันให้ความสำคัญกับอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้นเรื่อยๆ
4. การใส่ใจสุขภาพองค์รวมของร่างกายทั้งด้านร่างกายและจิตใจ (Body, Mind and Spirit)
5. ลดการใช้เทคโนโลยีและมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างให้มากขึ้น
6. แนวโน้มผู้หญิงดูแลสุขภาพมากขึ้น (self care) จึงหันมาเดินทางเพื่อฟื้นฟูตัวเอง กระตุ้นพลังในตัวเอง
โดย ททท.จะรุกตลาดเป้าหมาย 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มตลาดระยะใกล้ คือ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม และจีน 2.กลุ่มตลาดระยะไกล ได้แก่ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง สหพันธรัฐรัสเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา โดยมุ่งไปที่ประชากรกลุ่ม Millennials และ กลุ่มผู้หญิงวัยทำงาน ซึ่งมีความสามารถในการตัดสินใจเดินทาง การใช้จ่าย และเป็นกลุ่มที่รักสุขภาพ
ข่าวที่ 3 “ททท.จัดเชียงรายเมืองชากาแฟ15-16ก.ย.ที่สิงห์ปาร์ค”
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้เร่งเดินหน้าสนอง
นโยบายรัฐบาลจัดกิจกรรมกระตุ้นรายได้ท่องเที่ยว 55 เมืองรอง เตรียมจัดงาน “Best of Coffee and Tea @ Chiangrai2018”ระหว่าง 15-16 กันยายน 2561 ณ ไร่สิงห์ปาร์ค จังหวัดเชียงราย ตอกย้ำความเป็นเมืองแห่งชากาแฟ มุ่งสร้างกระแสความนิยมกลุ่มคนชอบดื่มชากาแฟ ชื่นชอบวิถี Café Culture รักการถ่ายภาพ และกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจ ส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการกระจายรายได้สู่ชุมชน ตลอดงานนี้คาดจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 10,000 คน
เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าฟรีทุกวันตั้งแต่ 10.00 – 20.00 น. พบกับ 5 โซนกิจกรรมหลัก ประกอบด้วย
1.โซนชากาแฟ คัดสรรที่สุดแห่งกาแฟภาคเหนือ และภาคใต้ พร้อมร้านชากาแฟชื่อดังมาบริการและจำหน่ายสินค้าให้คุณได้ลิ้มลองตลอดงาน อาทิ กาแฟแม่จันใต้ จ.เชียงราย Hommecaffe จ.น่าน กาแฟจ่านรินทร์ จ.เพชรบูรณ์กาแฟก้องวัลเล่ย์ จ.ระนอง กาแฟข้าวสังข์หยด จ.พัทลุง Deeva Cup จ.ตรัง ชาอู่หลงอินทรีย์ จากวิสาหกิจชุมชนกลุ่มสวนชาดอยตุง ชาอินทรีย์ 5 สี จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านห้วยน้ำกลืน และอีกมากมายรวมกว่า 40 ร้าน
2.โซน SME & Workshop กับบาริสต้าและกูรูชื่อดัง ที่จะมาให้ความรู้และสาธิตเทคนิคการชงชากาแฟสูตรต่าง ๆ อาทิ สาธิตการชงชาจาก Maruzen เทคนิคการทำ Cold Brew Coffee นั่งรถรางชมไร่สิงห์ พร้อมเก็บ ใบชาสดจากไร่มาชง สามารถลงทะเบียนในงานเข้าร่วมกิจกรรมฟรี
3. โซนนิทรรศการเส้นทางจิบชาดื่มกาแฟ รวบรวม 10 เส้นทางท่องเที่ยวจิบชาดื่มกาแฟ มาเติมเต็มนักท่องเที่ยว เช่น บ้านปางอุ๋ง จ.แม่ฮ่องสอน สวนสดชื่น กระบุรี จ.ระนอง บ้านดอยช้าง แม่สรวย จ.เชียงราย
4.โซน FOOD MARKET & STREET ART รวบรวมอาหารจากร้านเด็ดดังภาคเหนือ อาทิ อาหารพื้นเมืองภาคเหนือจากครัวมัฌชิมา พายมะพร้าวอ่อนจากสวนจริญรีสอร์ท ปิ้งย่างหม่าล่า ไส้อั่วป้าน้อง ก๋วยเตี๋ยวปิ่นโต เป็นต้น และในโซนนี้ยังเปิดให้เป็นพื้นที่สำหรับเหล่าศิลปิน นักศึกษา ที่มาร่วมวาดภาพ จำหน่ายสินค้างานศิลปะ และดนตรีเปิดหมวก
และเวทีหลัก MAIN STAGE มีศิลปินอารมณ์ดีมาสร้างความบันเทิงตลอดงาน เช่น ป๊อป ปองกูล, สิงโต นำโชค และอีกมากมาย ภายใต้บรรยากาศท้องทุ่งและขุนเขา
ข่าวที่ 4 “บางจากผนึก10องค์กรลุยผลิตภัณฑ์นวัตกรรมกรีน”
นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) กล่าวว่า ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการยกระดับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมไทย ด้วยการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรมสีเขียวสู่ตลาดสากล ซึ่งเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญของ 10 องค์กรพันธมิตร ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) สถาบันอาหาร (NFI) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (NIA) สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ธนาคารกสิกรไทย และกลุ่มบริษัทบางจากฯ โดยสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจบางจาก (BiiC) และบริษัท บางจาก รีเทล จำกัด (BCR) ผู้ดำเนินธุรกิจกลุ่ม Non-Oil
ทั้ง 10 องค์กรจะจับมือกับบางจากฯ เดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมสีเขียว ที่ผ่านมาบางจากทำไว้หลายโครงการ ทั้งด้านพลังงานหรือกิจกรรมเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะเรื่องกิจการเพื่อสังคม เช่น การจัดตั้ง บริษัท ออมสุข วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ร่วมกับ มูลนิธิพุทธเศรษฐศาสตร์ โดยพระมหาวุฒิชัย (ท่าน ว.วชิรเมธี) ประกอบธุรกิจด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนให้มีมูลค่าเพิ่มด้วยนวัตกรรม ให้ความรู้ด้านการบริหารต้นทุนและส่งเสริมด้านการตลาด และการจัดตั้งสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ เป็นต้น
นายสุวัฒน์ มีมุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ ของ BCP กล่าวว่า ในส่วนของสถาบัน BiiC เป็นสถาบันที่จัดตั้งขึ้นเพื่อต่อยอดการขยายธุรกิจ ผลักดันนวัตกรรมต่าง ๆ ที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ใส่ใจปัญหาสิ่งแวดล้อม สนับสนุนพลังงานสีเขียวและผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ตามนโยบายขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 รวมไปถึงการให้ทุนวิจัยแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ การลงทุนในธุรกิจ Start Up เพื่อติดตามและนำเทคโนโลยีมาต่อยอดกับธุรกิจในกลุ่มบริษัทบางจากฯ
นายวิบูลย์ วงสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด ในนาม SPAR Thailand ผู้ดำเนินธุรกิจร้านสพาร์ในประเทศไทย ภายใต้ SPAR International ซึ่งเป็นเครือข่ายค้าปลีกระดับโลก เปิดเผยว่า มุ่งมั่นพัฒนาสินค้าคุณภาพสูง ปลอดภัย และดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค มีเป้าหมายตรงกับแนวทางการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันที่หันมาให้ความสำคัญกับแหล่งที่มาของสินค้า ซึ่งจุดนี้ถือเป็นเทรนด์สินค้าของ SPAR ทั่วโลก
สำหรับ SPAR Thailand ไม่เพียงมองหาสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด แต่มองไปถึงสินค้าต้นแบบที่เป็นนวัตกรรมสร้างสรรค์ ไม่ใช่แค่ยกระดับผู้ประกอบการ แต่เป็นการยกระดับสินค้าของประเทศไทย ให้มีความโดดเด่น แตกต่างและน่าสนใจ เพื่อวางจำหน่ายที่ SPAR Thailand รวมถึงโอกาสในการวางจำหน่าย ในเครือข่าย SPAR International และโอกาสในการจำหน่ายที่ร้านอินทนิล ปัจจุบันเปิดบริการกว่า 500 สาขา และในอีก 2-3 ปีหน้าจะมีกว่า 1,000 สาขา
ข่าวที่ 5 “ทอท.เตือนอย่าตื่นกว้านซื้อเก็งกำไรภูเก็ต/เชียงใหม่แห่ง2”
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” เปิดเผยว่า ตามแผนการบริหารจัดการสนามบินตั้งแต่ปลายปี 2561 เป็นต้นไป จะแบ่งตามสูตร 4 บวก 2 คือ 1.สนามบินที่จะต้องรับโอนการบริหารจากกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ในต่างจังหวัด 4 สนามบิน และ 2.การก่อสร้างสนามบินแห่งที่ 2 ในภาคใต้และภาคเหนือ อีก 2 สนามบิน ได้แก่ ภูเก็ตแห่งที่ 2 กับ เชียงใหม่แห่งที่ 2 ซึ่งจะขอแนะนำทั้งกลุ่มนักลงทุนอย่าเพิ่งตื่นกว้านซื้อที่ดินเพื่อเก็งกำไรรวมถึงเจ้าของที่ดินเองก็ด้วย เพราะอาจจะเกิดความเสียหายขึ้นได้ เนื่องจากปัจจุบันยังไม่ได้ข้อสรุปแนวเขตพื้นที่เฉพาะเจาะจงอย่างชัดเจนในการเข้าไปพัฒนาที่ดินเป็นสนามบิน
สำหรับวิธีการบริหารจัดการบริหารสนามบินนั้น ทอท. ได้จัดทำดังนี้ กลุ่มแรก สนามบินปัจจุบัน 6 แห่ง ได้แก่ ภาคเหนือ 2 แห่ง คือ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เป็นฮับ กับท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย เป็นเกตเวย์ ภาคใต้มี 2 แห่ง คือ ท่าอากาศยานภูเก็ต เป็นฮับ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ เป็นเกตเวย์ ตรงกลางมี 2 ฮับ คือ สุวรรณภูมิกับดอนเมือง ทอท.จึงต้องการสนามบินเพิ่มทางซ้ายขวา เริ่มจากในอีสาน คือ อุดรธานีเป็นฮับ สกลนครเป็นเกตเวย์ กับทางตะวันตก คือ ท่าอากาศยานตาก และรัฐบาลให้ ทอท.โชว์ฝีมือรับบริหารทางภาคใต้ตอนบนอีกแห่งคือ ท่าอากาศยานชุมพร รองรับการพัฒนาเมกะโปรเจ็กต์พื้นที่เศรษฐกิจเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ Thailand Riviera
จึงเป็นสูตรการบริหารสนามบินกลุ่มใหม่ในภูมิภาคต่างจังหวัด 4 สนามบินตามมติคณะรัฐมนตรี ได้แก่ อุดรธานี สกลนคร ตาก ชุมพร โดย ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กำกับดูแลหน่วยงานการบินได้เรียกทุกหน่วยงานเกี่ยวข้องประชุมหารือไปเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2561 โดยขอให้เร่งการจัดทำเอกสารการเข้าบริหารสนามบินภูมิภาคให้เร็วขึ้น ทอท.ได้นำส่งกระทรวงคมนาคมเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2561 ทำให้มีฮับการบินทางฝั่งซ้ายและขวาของประเทศเพิ่มขึ้นต่อไป
และทันทีที่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการทั้ง 4 สนามบินภูมิภาค ภายในเดือนกันยายน 2561 ทอท.ก็จะดำเนินงาน ขั้นที่ 1 ทางด้าน “สิทธิการเข้าบริหารสนามบินภูมิภาค” ด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการปรับใช้กฎหมาย ซึ่งเดิมให้สิทธิการท่าอากาศยานซึ่งไม่ใช่ ทอท.การแต่งตัวทั้งหมดจะต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปี ขั้นที่ 2 ช่วงเดือนสิงหาคมหรือกันยายน 2562 ทอท.ก็จะเข้าไปบริหารจัดการสนามบินภูมิภาค ขั้นที่ 3 เข้าไปดูมาตรฐานสนามบินภูมิให้เป็นไปตามเกณฑ์สากลขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศและอื่น ๆ ตาม Categoly
ซึ่งจะเป็นคนละส่วนกับการก่อสร้างลงทุนใหม่อีก 2 สนามบิน คือ ภูเก็ตแห่งที่ 2 อำเภอโคกกลอย จังหวัดพังงา และบ้านธิ จังหวัดลำพูน ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจน เพื่อป้องกันความสับสน โดยเฉพาะเชียงใหม่สนามบินถูกเมืองล้อมไว้หมดแล้ว ขณะที่ภูเก็ตเป็นเกาะลักษณะน้ำล้อมภูเขาที่ราบจะใช้ทำสนามบินได้เต็มพิกัดแล้ว ขยายมากกว่านี้ต้องถมทะเลหรือระเบิดภูเขาซึ่งก็ไม่สามารถขยายได้มากไปกว่านี้
ผลการศึกษาตามกรอบ Size Selection จะดูเหตุผลประกอบหลายเรื่อง ได้แก่ 1.ทิศทางลม หากไปทำสนามบินตัดกับรันเวย์เก่า ก็จะทำให้เกิดผลกระทบเรื่องทิศทางลม จึงต้องหาแนวร่องลมแบบคู่ขนาน
สำหรับเชียงใหม่ Size Selection อยู่ในรัศมี 11,000 ไร่ ทั้งที่ความต้องการใช้พื้นที่จัดทำสนามบินแห่งที่ 2 มีเพียง 4,000-5,000 ไร่เท่านั้น จึงเป็นห่วงชาวบ้านที่พากันไปเก็งกำไรที่ดิน ไม่ควรทำเพราะหากไปซื้อล่วงหน้าไว้แต่ไม่ได้ใช้ทำสนามบินไม่ได้เป็นพื้นที่แนวร่อนดังกล่าว ผู้ซื้อก็จะเสียโอกาสได้ อีกทั้งยังไม่สามารถทำธุรกิจได้เพราะตามกฎหมายกำหนดไว้
กระบวนการลงทุนสนามบินใหม่ 2 แห่ง เมื่อ ครม.อนุมัติแล้ว ขั้นตอนที่ 1 ทอท.นำหลักการไปเอ็กซเรย์ พบว่าในลำพูนมี 5,000 โฉนด ก็ต้องมานั่งคุยกับเจ้าของที่ดิน แต่สิ่งเหล่านี้ยังทำอะไรไม่ได้ เพราะ ครม.ยังไม่ได้มอบหมายภารกิจให้ ทอท. หรือในภูเก็ต มีโฉนดเท่าไร มีพุน้ำจืดหรือไม่
ขั้นตอนที่ 2 Land of decision การได้มาซึ่งที่ดิน ต้องรู้กายภาพของพื้นที่ให้เป็นไปตามมติ ครม.เพื่อทำให้รู้ถึงการเข้าไปจัดการกับที่ดินทั้งหมด ดังนั้นต้องรอช่วงพฤศจิกายน-ธันวาคม 2561 จะต้องมาคุยกันหลัง ครม.ตามกำหนดจะต้องก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายใน 4 ปีข้างหน้า
ข่าวที่ 6 “TCEBตีปีกไมซ์ไต้วันเอ็กซโปเข้าเป้า110ล้านดอลล์”
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ล่าสุดได้มีผลสรุปรายงาน Taiwan Expo 2018 ที่ทีเส็บเข้าร่วมสนับสนุนโดยมีสภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกไต้หวัน (TAITRA) เป็นเจ้าภาพหลัก จัดที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (BITEC) เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม – 1 กันยายน 2561 สร้างมูลค่าการค้าทะลุเป้าในกการนำร่องตลาดไมซ์ไต้หวันเข้ามาจัดในไทยครั้งนี้ สามารถส่งเสริมให้ไทยและไต้หวันมีความสัมพันธ์ทางการค้า ท่องเที่ยว ศิลปะ และวัฒนธรรมแน่นแฟ้นมากขึ้น แต่ยังได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และเทคโนโลยีระดับโลกของกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกด้วย
ตลอดงานมีผู้เข้าชมงานกว่า 30,000 ราย ได้รับผลตอบรับทางธุรกิจมูลค่าสูงถึง 110 ล้านเหรียญสหรัฐ สามารถกระตุ้นให้ผู้เข้างานสัมผัสถึงความเป็นไต้หวันในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะการเปิดตัว Taiwan Excellence สินค้า Halal และเทคโนโลยีที่ช่วยให้ชีวิตประจำวันสะดวก ทันสมัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมาย
Mr. James C.F. ประธานสภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกไต้หวัน (TAITRA) กล่าวว่า ปี 2562 จะนำงานเข้ามาจัดในไทยต่อเนื่อง ในฐานะที่เป็นหนึ่งในประเทศควรค่าต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้ากับไต้หวันอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องการต่อยอดธุรกิจและผลตอบรับจากผู้บริโภคไทยโดยประเมินผลได้จากการจัดงาน ไต้หวัน เอ็กซ์โป 2018 ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
ช่วงที่ 2 ได้เวลาออกไปตะลอนทัวร์เมืองรอง “ขึ้นเขาลงห้วยเดินป่าปลายฝนต้นหนาว” จังหวัดเลย ดื่มด่ำกับนางพญาเสือโคร่งสีชมพูที่ภูลมโล เที่ยวเชิงเกษตรไร่กะหล่ำปลีขั้นบันไดภูทับเบิก ปีนป่ายภูกระดึงชมลานหินสวย และห้ามพลาดเยือนวิถีเชียงคานริมฝั่งโขง เรื่องสุขภาพต้องมาดู “9 วิธีป้องกันฝุ่นละอองในอากาศ” ปิดท้ายด้วยข่าวเปิดใจ “สุเมธ ดำรงชัยธรรม” ดีดีผู้นำข้าวนอกนาการบินไทยคนที่ 3 มือปลดหนี้หมื่นล้านสายการบินแห่งชาติที่รัฐบาลไว้วางใจ กับข่าวความพยายามของ ททท. แอร์เอเชีย และธุรกิจท่องเที่ยว นำเอเย่นต์ทัวร์จีนเข้ามาพูดคุยกอดคอกันฟื้นตลาดกลับมาเฟื่องฟูในภูเก็ตอีกครั้ง
@ขึ้นเขาลงห้วยเที่ยวป่าปลายฝนต้นหนาวเมืองเลย
เสน่ห์การท่องเที่ยวหน้าฝนกับการขึ้นเขาลงห้วยไปสัมผัสความสดชื่นความเขียวขจีของป่าแต่ละผืนที่มีระบบความปลอดภัยที่ดีอย่างเมืองรอง “จังหวัดเลย” ซึ่งใกล้เข้าสู่ปลายฝนต้นหนาวแล้ว
ชวนให้นึกถึงดอกซากุระสีชมพูบานปกคลุมทั่วทั้งหุบเขา ที่ “ภูลมโล” อำเภอด่านซ้าย ตอนนี้นางพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยในผืนแผ่นดินกว้างใหญ่นับพันไร่ ที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดีตามหุบเขาสูงต่ำไล่ระดับกำลังรอเบ่งบานต้อนรับนักท่องเที่ยว
เมื่อไปถึงภูลมโลแล้วมองลงมายังผืนป่าด้านล่างก็จะได้อีกบรรยากาศ เมื่อปักฐานตั้งเต็นท์อยู่กลางลานกว้าง ในช่วงกลางวัน จะได้เห็นหมู่บ้านและการเพาะปลูกท่องเที่ยวเชิงเกษตร “ไร่กะหล่ำปลี” ปลูกแบบขั้นบันได ยามค่ำคืนก็สามารถนอนชมดาวระยับสุกใสเต็มท้องฟ้า
ต่อด้วย “ภูเรือ” แหล่งพักผ่อนอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี มีดอกไม้ ลานหิน ป่าสน ดอกไม้ป่า ให้ชื่นชมอย่างต่อเนื่อง ผู้ชื่นชอบการผจญภัยสามารถเข้าไปชมถ้ำไทร หรือจะไปเดินเล่นแถวลานหินที่เรียกว่าหินพาลี ก็ได้เช่นกัน
ภูไฮไลต์เมืองเลยคือ “ภูกระดึง” อุทยานแห่งชาติ ซึ่งมีความท้าทายเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวต้องมีสักครั้งในชีวิตไปพิชิตภูกระดึง จุดหมายปลายทางการเดินไต่ระดับไปเติมเต็มความสุข ในระยะทางราว 9 กิโลเมตร ลัดเลาะไปตามลาดภู เพื่อไปยังลานกว้างด้านบนภู อากาศเย็นสบาย ฟังเสียงพลิ้วไหวของป่าสน ต้นเมเปิ้ลทอดใบ และเลือกวิวหน้าผาหลากหลายในการชมวิว ซึ่งมีทั้งผานกแอ่น ผาเหยียบเมฆ ผาหมากดูก ผาแดง ผาจำศีล ชอบผาไหนจูงมือกันไปได้เลย
รอบพื้นที่เมืองรองจังหวัดเลย ยังมีแหล่งท่องเที่ยวในอำเภอต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมอย่าง “เชียงคาน” ติดริมแม่น้ำโขง ซึ่งอบอวนไปด้วยกลิ่นอายวิถีชีวิตชาวบ้าน ได้เก็บรักษาบ้านเรือนเก่าสร้างด้วยไม้ ประเพณีวัฒนธรรมปูเสื่อกับพื้นตักบาตรข้าวเหนียวยามเช้าตลอดแนวยาวบนถนนหน้าบ้าน ไหว้พระ 9 วัด และปั่นจักรยานแวะไปตามจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ ตลอดทั้งวัน
หรือจะไป “วัดป่าห้วยลาด” อยู่ในอำเภอภูเรือ ขอบอกว่าเมื่อไปถึงจะต้องตะลึงกับสถาปัตยกรรม ประติมากรรม อันวิจิตรงดงามของ องค์พญานาค สัญลักษณ์ความยิ่งใหญ่แห่งดินแดนลุ่มน้ำโขง
ปิดท้ายกับการไปชม “ห้วยกระทิง” บริเวณอ่างเก็บน้ำสันเขื่อน เหมาะกับการล่องแพชมวิวธรรมชาติ
ไปเที่ยวเลย...ได้ตั้งแต่วันนี้ มีมุมใหม่ ๆ มุมดี ๆ ตลอดการขึ้นเขาลงห้วย อบอุ่นด้วยอ้อมกอดของผืนป่าเขียวขจีตลอดทั้งปี
@9 วิธีเอาตัวรอดจากฝุ่นหมอกควันในชีวิตประจำวัน
รอบตัวเราทุกวันนี้ ไม่เว้นแม้แต่ในบ้านอาจแฝงมลภาวะอากาศที่มองแทบไม่เห็น เช่น ฝุ่นละอองหรือไรฝุ่น รวมถึงการใช้ชีวิตนอกบ้านที่ต้องคลุกคลีในย่านถิ่นซึ่งเผชิญกับควันท่อไอเสีย ยานพาหนะ หรือหมอกควันที่เกิดจากการเผาไหม้ขยะ การเผาไหม้เชื้อเพลิงในโรงงานอุตสาหกรรม
ซึ่งเจ้าฝุ่นเล็กๆ โดยเฉพาะฝุ่นในหมอกควันสามารถสร้างโรคภัยทางเดินหายใจขั้นร้ายแรงได้ เราจึงไม่ควรมองข้ามการดูแลสุขภาพและร่วมด้วยช่วยกันลดมลภาวะทางอากาศเหล่านี้ควรปฏิบัติตามคําแนะนําดังนี้
1.หากจําเป็นต้องอยู่ในละแวกที่มีปัญหามลภาวะอากาศต้องใส่อุปกรณ์ป้องกัน 2.ปิดประตูหน้าต่างไม่ให้ฝุ่นเข้ามาในตัวอาคาร 3.ดื่มน้ำมาก ๆ 4.ใช้น้ำเกลือหรือน้ำสะอาดกลั้วคอบ้วนทิ้งวันละ 3-4 ครั้ง ห้ามกลืน 5.หลีกเลี่ยงการทํากิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องออกแรงมากๆ โดยเฉพาะการออกกําลังกายในที่แจ้งหากต้องออกจากบ้าน
6.ควรสวมหน้ากากอนามัยชนิดกรอง 3 ชั้น ซึ่งจะช่วยป้องกันฝุ่นละอองที่มีขนาดใหญ่กว่า 5 ไมครอนได้ และต้องหมั่นเปลี่ยนหน้ากากอนามัยทุกวัน หรือใช้ผ้าชุบน้ำปิดปากและจมูก 345 SALINESOLOTION 7.ผู้ที่มีโรคประจําตัวเช่น โรคหอบหืด โรคหัวใจโรคปอด ควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จําเป็นติดตัวงดสูบบุหรี่ 8.ปลูกต้นไม้สูงรอบบ้านสามารถช่วยกรองอากาศและผลิตออกซิเจน 9.หากมีอาการผิดปกติหลังสูดดมฝุ่นหมอกควัน เช่น หายใจไม่ออกหรือระคายเคืองแสบตา ควรรีบไปพบแพทย์
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “เจาะใจสุเมธดีดีใหม่บินไทยลุยปลดหนี้3แอร์ไลน์”
นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (DD) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดใจให้สัมภาษณ์หลังเข้ารับตำแหน่ง "DD การบินไทย" ผู้นำสายการบินแห่งชาติได้เพียง 48 ชั่วโมง โดยรับปากจะเข้ามาพลิกสถานการณ์ธุรกิจการบินแถวหน้าของประเทศให้กลับมามีกำไรได้ภายใต้แผนฟื้นฟูการบินไทย ระยะ 5 ปีหน้า ล่าสุดคณะกรรมการ (บอร์ด) การบินไทยอนุมัติให้ลงทุนใหม่ได้กว่า 100,000 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อฝูงบินใหม่ 23 ลำ เข้ามาทดแทนฝูงเก่า ควบคู่กับแผนจะมาตรวจตัวเลขทางการเงินในบัญชีที่ติดลบหรือขาดทุนต่อเนื่องมานานถึง 6 ปี ปีละหลักหมื่นล้านบาท ให้กลับมาอู้ฟู่มีกำไรอีกครั้ง ในช่วงที่เข้ามาดำรงตำแหน่งผู้นำองค์กร
นายสุเมธกล่าวว่าสิ่งแรกที่จะทำ คือ ดึงศักยภาพของคนการบินไทยที่มีกว่า 25,000 คน รวมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน ร่วมมือกันเปลี่ยนองค์กรให้ขับเคลื่อนออกไปจากถ้ำที่ติดอยู่ขณะนี้ คู่ขนานกับการปรับโครงสร้างค่าใช้จ่ายที่เป็นต้นเหตุปัญหาการขาดทุนต่อเนื่องมีอยู่ 2 ตัวแปรหลัก คือ
1.ค่าใช้จ่ายเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิงการบิน ซึ่งแต่ละปีการบินไทยมีค่าใช้จ่ายอยู่ประมาณ 30% ของรายได้ทั้งหมด ถึงแม้ใกล้เคียงกับสายการบินนานาชาติทั่วไป แต่ความแตกต่างคือการทำกำไรต่อหน่วย (yield) โดยรวมยังทำได้ต่ำกว่าคู่แข่งในตลาดเล็กน้อย
2.อัตราแลกเปลี่ยนทางการเงิน เพราะการบินไทยค้าขายโดยใช้สกุลเงินหลายสกุลเกินไป ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2561 ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กำกับดูแลการบินไทย เดินทางมามอบนโยบายโดยให้ฝ่ายบริหารการบินไทยทั้งหมดร่วมมือกันหันมาใช้ระบบจัดตั้งศูนย์บริหารความเสี่ยงการเงิน จำกัด แบบเดียวกับ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)
ส่วนเรื่องอื่น ๆ จะต้องเร่งเข้าแก้ไขควบคู่กันไปก็มี การบริหารทรัพย์สินเรื่องการใช้ฝูงบินอย่างคุ้มค่า เรื่อยไปจนถึงการวางกลยุทธ์ทำตลาดเชิงรุกในทุกรูปแบบ ถึงแม้ปัจจุบันการบินไทยจะสามารถทำอัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยเข้าเป้าเกินกว่า 80% ขึ้นไปแล้วก็ตาม ยังมีอีกหลายส่วนจะต้องทำให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้
นายสุเมธกล่าวว่า มีภารกิจเร่งด่วนที่จะต้องทำให้แล้วเสร็จคือ เตรียมเข้าหารือกับผู้บริหาร บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) "ทอท." เรื่องการเคลียร์พื้นที่ให้บริการเคาน์เตอร์เช็คอินผู้โดยสาร Row A , B ในอาคารผู้โดยสารสุวรรณภูมิหลังที่ 1 ซึ่ง ทอท.จะต้องทุบเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่เข้ากับการก่อสร้าง อาคารผู้โดยสารสุวรรณภูมิหลังที่ 2 จะต้องเดินหน้ก่อสร้างช่วงต้นปี 2562
โดยการบินไทยจะขอเจรจากับ ทอท.บนเงื่อนไขทำให้การบินไทยและ ทอทได้รับผลประโยชน์สูงสุดร่วมกัน แต่จะเป็นแนวทางใดนั้น จะต้องขอเวลาอีกสักระยะภายในกันยายนนี้ เนื่องจากตอนนี้เพิ่งเจ้ารับตำแหน่งดีดีการบินไทยได้เพียง 2 วันเท่านั้น
รวมทั้งมีแนวทางการบริหารตลอด 4 ปีข้างหน้า จะเน้นการให้ข้อมูลเรื่องอนาคตของการบินไทยเป็นหลัก จะไม่นำเรื่องในอดีตที่ผ่านมาของการบินไทยมาเป็นประเด็น เพราะตนเองมีเป้าหมายต้องการให้สายการบินแห่งชาติของไทยผงาดกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งในเวทีโลก
นายสุเมธย้ำว่า ชื่นชอบนโยบายของ ดร.ไพรินทร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ที่เปรียบเทียบการบินไทยขณะนี้มีชะตากรรมเสมือน "ทีม 13 หมูป่า" ในเหตุการณ์ติดอยู่ในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ซึ่งมีเวลาจำกัด มีเงื่อนไขอีกหลายปัจจัยกดทับอยู่
ดังนั้นจึงต้องปลุกให้คนการบินไทย 25,000 คนลุกขึ้นมาช่วยเหลือตนเองก่อน ขณะเดียวกันก็ต้องขอความช่วยเหลือจากทั้งประเทศระดมสรรพกำลังเข้ามาสนับสนุนแผนฟื้นฟูกิจการ เพราะวันนี้คงไม่มีคนไทยคนไหนอยากเห็นการบินไทยล่มสลาย หรือหากเอาแต่ทับถมการบินไทยให้จมดินมากไปกว่านี้ ก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรเลย
แต่ถ้าหันมาช่วยกันคนละไม้ละมือ ดันการบินไทยออกมาจากหลุมดำในถ้ำสำเร็จอีกครั้งจะเป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองและคนไทยมากกว่านั้นเอง
ส่วนเรื่องการจัดการกับปัญหาคาราคาซังในฐานะผู้ถือหุ้นในสายการบินนกแอร์ และการแก้ไขไทยสไมล์ซึ่งแยกไปตั้งเป็นสายการบินลูกทำหน้าที่ให้บริการบินภายในประเทศและประเทศในแถบอาเซียน ที่ยังเป็นภาระเพราะผลประกอบการของทั้ง 2 สายการบิน ขาดทุนต่อเนื่องนั้น
นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กล่าวสั้น ๆ ว่าขอดูรายละเอียดและจะพยายามใช้ความสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
ข่าวที่สอง “ททท.-แอร์เอเชียนำเอเย่นต์จีนฟื้นทัวร์ภูเก็ต”
นางสาวรัญจวน ทองรุต ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ Mr .Rayner Teo Kheng Hock , Head of Sales & Distribution สายการบินไทยแอร์เอเซีย นายภูมิกิตติ์ รักแต่งงาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ จัดงาน "TAT&AirAsia Fam Trip from China 2018” นำเอเย่นต์ทัวร์จีนกว่า 40 ราย พบปะผู้ประกอบการท่องเที่ยวภูเก็ตกว่า 80 ราย กระตุ้นและจัดโปรแกรมท่องเที่ยวพร้อมจัดเลี้ยงดินเนอร์ขอบคุณเอเย่นต์ทัวร์จีนและมอบโชคให้ผู้ร่วมงาน
จากนั้นก็ได้นำเอเย่นต์ทัวร์จีน จากอู๋ฮั้น คุณหมิง เซินเจิ้น หางโจว ฉงชิ่ง เฉิงตู ซีอาน ฉานโถว และเซียงไฮ้ ชมการแสดงที่ดีที่สุดในเอเซีย "โชว์โลมาภูเก็ต" ซอยป่าหล่าย สร้างความประทับใจ เร่งช่วยกันฟื้นฟูนักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวภูเก็ตตามปกติโดยเร็ว
ติดตามฟังรายการได้เป็นประจำทุกวันเสาร์และอาทิตย์ 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
 |
| เพ้ญรุ่ง ใยสามเสน คอลัมนิสต์การบิน-ท่องเที่ยว และผู้ดำเนินรายการ |
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น