TCEBลุยต่อยอด4นโยบายรัฐดันไมซ์ไทย 4.0
ทางด้านนายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บมจ.การบินไทย กล่าวว่า ภายในปี 2563 จะทำให้การบินไทยพ้นจากวงจรบ่วงหนี้หรือภาระขาดทุนให้ได้ เนื่องจากได้เข้าไปศึกษาข้อมูลทางธุรกิจของการบินไทย ปี 2546 มีส่วนแบ่งตลาดผู้โดยสาร 37 % แต่ผ่านมาเพียง 10 ปี ลดลงเหลือแค่ 27.3 % เท่านั้น ส่วนแบ่งตลาดที่หายไปนั้นจะต้องดึงกลับคืนมาเป็นของการบินไทยให้เร็วที่สุด พร้อม ๆ กับปรับโครงสร้างการทำงาน และจัดระบบการพัฒนาธุรกิจทั้ในส่วนของการขยายฝูงบิน การวางกลยุทธ์ทำตลาด จะต้องมุ่งทำไม่เฉพาะการเพิ่มอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (cabin factor) กำไรต่อหน่วย (yield) หรือลดต้นทุน เหมือนวงจรเดิม ๆ อีกต่อไป
สนช.ผ่าน พรบ.เอกสิทธิ์อินเตอร์ดูดตลาดโลกโต
คิงเพาเวอร์ยกอาคิกุจิชิมาไทยเที่ยวได้ถึง30กย.
ททท.ชูนายกพรีเซ็นเตอร์ทัวรเมืองรองปลาย’61
ไทยชวนอาเซียนทำปีSustainability Tourism
บางจากกวาดISOด้านมั่นคงสารสนเทศ/ไซเบอร์
ทอท.เปิดแอพบิ๊กดาต้าเริ่มเม.ย.62หนุนเที่ยวรุ่ง
เที่ยวตากอันซีนเมืองสารพัดน้ำตกสวย-เขื่อนงาม
เคล็บลับการนอนหลับสบายทุกคืนอย่างสุขใจ
“สมคิด”ขีดเส้นทางตายบินไทย3เดือนปรับใหญ่
เอกนิติเผยทบทวนซื้อฝูงบินส่อเค้าเกินแสนล้าน
ROPจัดดุสารพัดแคมเปญคืนกำไรฉลองโต25ปี
8เดือนท่องเที่ยวโกยเป๋าตุงกว่า 1.35 ล้านล้าน
บางกอกแอร์เสิร์ฟทุกไฟลต์ขนมไหว้พระจันทร์
ภูเก็ตเท140ล้านปรับปรุง-จัดระเบียบท่าเรือทัวร์
คิงเพาเวอร์ยกอาคิกุจิชิมาไทยเที่ยวได้ถึง30กย.
ททท.ชูนายกพรีเซ็นเตอร์ทัวรเมืองรองปลาย’61
ไทยชวนอาเซียนทำปีSustainability Tourism
บางจากกวาดISOด้านมั่นคงสารสนเทศ/ไซเบอร์
ทอท.เปิดแอพบิ๊กดาต้าเริ่มเม.ย.62หนุนเที่ยวรุ่ง
เที่ยวตากอันซีนเมืองสารพัดน้ำตกสวย-เขื่อนงาม
เคล็บลับการนอนหลับสบายทุกคืนอย่างสุขใจ
“สมคิด”ขีดเส้นทางตายบินไทย3เดือนปรับใหญ่
เอกนิติเผยทบทวนซื้อฝูงบินส่อเค้าเกินแสนล้าน
ROPจัดดุสารพัดแคมเปญคืนกำไรฉลองโต25ปี
8เดือนท่องเที่ยวโกยเป๋าตุงกว่า 1.35 ล้านล้าน
บางกอกแอร์เสิร์ฟทุกไฟลต์ขนมไหว้พระจันทร์
ภูเก็ตเท140ล้านปรับปรุง-จัดระเบียบท่าเรือทัวร์
ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 22 กันยายน 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97
ช่วงที่ 1 อัพเดทปรากฎการณ์ใหม่ของอุตสาหกรรมไมซ์กับ “จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา” ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “สสปน/TCEB ใน 4 พลังขับเคลื่อนประเทศไทย โดย สนช.คลอดพระราชบัญญัติคุ้มครองเอกสิทธิ์ สำหรับผู้เข้ามาจัดประชุม หน่วยงานของรัฐ องค์กรจัดงานระหว่างประเทศ ได้เท่าสิทธิฑูต เท่ากับปลดล็อกแรกให้ไมซ์อินเตอร์หลั่งไหลมาจัดในไทยสะดวก รวดเร็ว เปิดทางให้ดึงเมกะอีเวนต์เบ่งบานได้ทั่ว 55 เมืองรอง
จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) |
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “สสปน/TCEB” เปิดเผยว่า ในการเร่งต่อยอดนโยบายรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตามที่ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีได้ใช้เวทีงาน Thailand MICE Forum 2018 ให้ทีเส็บลุยเดินหน้าอุตสาหกรรมไมซ์จึงได้ปรับแผนการตลาดใหม่ขานรับ 4 เรื่องหลัก เพื่อให้ก้าวขึ้นไปสู่ไมซ์ไฮเทค 4.0
เรื่องแรก เศรษฐกิจไทยเข้มแข็งทั้งการส่งออก การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ทางทีเส็บจึงได้ต่อยอดแผนโดยใช้กลยุทธ์กระจายการจัดงานไมซ์ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ทำแฟล็กชิพในเมืองซิตี้ไมซ์ 5 เมกะอีเวนต์ ประกอบด้วย ขอนแก่น มีศูนย์ประชุมแห่งใหม่ จึงเน้นให้เกิดการทำเทรดโชว์จับคู่เจรจาธุรกิจ หรือ business to business จึงมุ่งร่วมกันกับรัฐและเอกชนในพื้นที่จัดงานผ้าไหม และโหมจัดอีเวนต์งานขนาดใหญ่ เช่น งานกาแฟและเบเกอรี่ จัดเมื่อสิงหาคมที่ผ่านมามีผู้เข้าร่วมกว่าพันคน
อีกทั้งยังได้ประมูลงานจัดในอีเวนต์ไมซ์ในประเทศมาได้แล้วขณะนี้ประมาณ 20 งาน จำนวนผู้เข้าร่วมกว่า 76,000 ราย
รวมทั้งยังได้ลงนามความร่วมมือระหว่างทีเส็บกับ 11 องค์กร ผนึกกำลังกันใน MTEX : M Power Thailand Exibition เพื่อเป็นศูนย์กลางขับเคลื่อนการจัดงานแสดงสินค้า-เอ็กซิบิชั่นระดับจังหวัดทั่วประเทศ ขณะนี้กำลังเตรียมจัดงาน “ข้าวโลก” ที่จังหวัดร้อยเอ็ด
เรื่องที่ 2 ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนของภูมิภาคเอเชีย ทางทีเส็บมีภารกิจต้องประสานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับบริการ ยกระดับการจัดงานเอ็กซิบิชั่นนานาชาติในไทย ปัจจุบันมีจัดเป็นประจำอยู่แล้วคือ IMEX, CLMV โดยอย่าตีกรอบจัดเฉพาะในไทยเพียงแห่งเดียวควรขยายไปยังกลุ่มประเทศ CLMV-กัมพูชา/สปป.ลาว/เมียนมา/เวียดนาม และกระตุ้นบริษัทคอร์ปอเรตต่างชาติที่อยู่ในไทยให้จัดประชุมมากขึ้น
เรื่องที่ 3 การปฎิรูปประเทศโดยใช้ศูนย์กลางระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor :EEC) ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการผลิต การส่งออก ทีเส็บต้องเข้าไปทำให้บริษัทต่าง ๆ ที่เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมต่าง ๆ จัดงานมากขึ้น ล่าสุดได้เข้าไปร่วมสนับสนุนงาน “ไต้หวัน เอ็กซ์โป 2018” ซึ่งเป็นงานใหญ่ระดับนานาชาติของกลุ่มบริษัทไต้หวันซึ่งเป็นผู้นำทางอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่เข้ามาลงทุนใน EEC เป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับบริษัทจากจีน และอีกหลายประเทศ ทำให้พื้นที่ EEC กลายเป็นศูนย์รวมอุตสาหกรรมนวัตกรรมใหม่ ๆ ทางทีเส็บเองจึงได้ทำโครงการ EEC MICE ขึ้นมารองรับ ตามปกติในภาคตะวันออกมีศูนย์ประชุมนานาชาติ PEACE อยู่ในโรงแรมรอยัล คลิฟฟ์ ปี 2561 มีศูนย์ประชุม NICE เปิดใหม่ของสวนนงนุช เชื่อมโครงข่ายกับเข้าสนามบินอู่ตะเภาที่รัฐบาลวางนโยบายให้เป็น HUB ภาคตะวันออก
ขณะนี้ทีเส็บจึงไปเจรจาเพื่อดึงงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการบินระดับโลกเทียบเท่า Air Show มาจัดในภาคตะวันออก ภายในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
เรื่องที่ 4 รัฐบาลไทยได้สร้างความเป็นมิตรกับนานาประเทศ ส่งผลดีที่ต่อทีเส็บในการทำงานปี 2562 จะเน้นไปประมูลแล้วดึงงานขนาดใหญ่เป็นเมกะอีเวนต์มาจัดในประเทศไทยเติบโตเพิ่มขึ้น ด้วยการร่วมมือกับ 4 กระทรวงหลัก ๆ ได้แก่ การท่องเที่ยวและกีฬา อุตสาหกรรม ต่างประเทศ และพาณิชย์ ซึ่งจะศึกษาความเป็นไปได้ก่อนลงมือจัดแต่ละงาน ปัจจุบันใน EEC มีกลุ่มอุตสาหกรรมดาวรุ่งหลั่งไหลเข้ามาลงทุนอย่างค่ายรถยนต์ ซึ่งจะทำให้เกิดงานประชุมจำนวนมาก
ตลอดปีงบประมาณ 2562 ทีเส็บตั้งเป้าจะนำงานขนาดใหญ่เมกะอีเวนต์ในอุตสาหกรรมทางเทคโนโลยีสมัยใหม่ และ 4.0 เข้ามาจัดในไทยให้มากสุด เดือนกันยายนนี้จะไปร่วมงาน Net World ที่เบลเยี่ยม เพื่อดูลู่ทางดึงมาไทย งานแข่งขันเกมส์ซึ่งมีคนเล่นทั่วโลกกำลังยื่นประมูลมาจัดในไทยซึ่งจะมีจำนวนผู้เข้าครั้งละกว่า 10,000 คน
นายจิรุตถ์กล่าวว่าในปี 2562 ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นประธานอาเซียน ซึ่งจัดมานับร้อยครั้งแล้ว ในยุคนี้ทาง ดร.อรรชกา สีบุญเรือง ประธานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการคณะกรรมการจัดงานอาเซียน ส่วนผมเป็นอนุกรรมการพิธีการจัดงาน ได้เข้าหารือกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อกำหนดพื้นที่จัดงาน และจะต้องทำเรื่อง Visitor ASEAN Promotion ที่จะทำเป็น พริวิเลจหรือสิทธิประโยชน์พิเศษให้แก่สมาชิก
ข่าวดีตอนนี้กระทรวงการต่างประเทศและสภานิติบัญญัติได้อนุมัติให้ผ่านร่าง พระราชบัญญัติคุ้มครองเอกสิทธิ์ สำหรับผู้เข้ามาจัดประชุม หน่วยงานของรัฐ องค์กรจัดงานระหว่างประเทศ โดยนายกิตติ วะสีนนท์ ประธานกรรมาธิการ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้เสนอร่างดังกล่าวเข้าสภาฯ จนผ่านเรียบร้อยแล้ว
ผลคือองค์กรระหว่างประเทศจะได้ใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่จะเข้ามาจัดประชุม ซึ่งจะตอบโจทก์การจัดงานในฐานะประเทศที่เป็นประธานอาเซียน
ทางด้านของทีเส็บซึ่งเป็นองค์กรเอกชน จะได้รับในการอำนวยความสะดวกให้คู่ค้า อาทิ วีซ่า อุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ที่นำจากต่างประเทศเข้ามาจัดแสดงในไทย เช่น ถ้วยรางวัล ของชำร่วย แตกต่างจากเมื่อก่อนกฎหมายไทยกำหนดให้เก็บภาษีเหมือนกับการนำเข้ามาขายในไทย ซึ่งเป็นจำนวนเงินสูงพอสมควร
ดังนั้นพระราชบัญญัติฉบับนี้จะสร้างผลดีต่อนโยบายของรัฐบาล และทีเส็บ ทำงานการตลาดไมซ์จากทั่วโลกหลั่งไหลเข้ามาจัดในเมืองไทยได้สะดวกคล่องตัว
แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นปลดล็อกปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ให้อุตสาหกรรมไมซ์ได้ทั้งหมด แต่เป็นการส่งสัญญาณถึงการให้ความสำคัญกับผู้ที่จะมาจัดงานประชุมในประเทศไทยมากขึ้น และเป็นการปลดล็อกแรกให้หน่วยงานและองค์กรระหว่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งจะได้รับสิทธิไม่เกินฑูต ทางนายกิติ วสีนนท์ ให้ชื่อ พระราชบัญญัติฉบับนี้ “เจนิวาแห่งเอเชีย” ยกระดับไทยให้เป็นศูนย์กลางเอเชีย เพราะพอประกาศใช้จะดึงความสนใจหน่วยงานสำคัญ ๆ ของทั่วโลกเลือกตั้งสำนักงานในไทยเพิ่มขึ้น ปัจจุบันองค์กรระหว่างประเทศแถบยุโรปจะอยู่ในเบลเยี่ยม ส่วนเอเชียก็อยู่ในสิงคโปร์เกือบทั้งหมด ตอนนี้จะเป็นโอกาสของไทยบ้างแล้ว
สำหรับขั้นตอนการเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในการปลดล็อกกรอบการทำงานเปลี่ยนบทบาทการทำงานให้เป็น “ผู้ประมูลงานหรือ Bidder เต็มรูปแบบ” ตอบรับกับการขยายไมซ์สู่ 55 เมืองรอง ได้มากขึ้น เพราะทุกวันนี้มีงานขนาดใหญ่รออยู่จำนวนมาก เช่นงาน L’E Tape Thailand by Le Tour de France เลือกจัดที่เมืองรองจังหวัดพังงา ระหว่าง 19-21 ตุลาคม 2561
ทางผมและทีมทีเส็บจะเข้าไปเจรจากับเจ้าของลิขสิทธิ์จัดงาน L’E Tape Thailand by Le Tour de France เพื่อให้นักแข่งสมัครเล่นสามารถแข่งจักรยานในพื้นที่และสถานที่ที่ทางทัวร์ เดอ ฟรองซ์ เป็นผู้ออกแบบ ทุกอย่างจะทำเหมือนทัวร์ เดอ ฟรองซ์ กลยุทธ์นี้จะเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในไทยซึ่งเป็นประเทศที่ 5 ของจัดงาน และจะพยายามดึงงานไว้จัดต่อเนื่องไปอีก 2-3 ครั้ง เพราะตามปกติในเอเชียมีจัดที่ญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน เกาหลี
เป้าหมายต้องการสร้างความยั่งยืนการจัดงานท่องเที่ยวเชิงกีฬาระดับโลก รวมทั้งพังงายังได้ปรับสถานที่เป็นมาตรฐานสากลตามเกณฑ์ของเดอ ฟรองซ์ ระหว่างงานจะมีผู้เข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 1,000 คน กระจายรายได้ค่าห้องพักให้โรงแรมและท้องถิ่นโดยตรง
เป็นตัวอย่างการจัดงานที่ทีเส็บมีหน้าที่ต้องไปหางานขนาดใหญ่เป็นงานสำคัญระดับโลกในลักษณะดังกล่าวเข้ามาเติมเต็มในเมืองรองทั่วประเทศ
นายจิรุตถ์ย้ำถึงผลการประชุมกับสมาชิกอาเซียนเพื่อเสนอร่างการจัดทำ ASEAN MICE VENUE STANDARD :AMVS ผ่านอย่างราบรื่นในเรื่องที่อาเซียนจะร่วมกันทำมาตรฐานสถานที่จัดนิทรรศการแสดงสินค้า เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ ตามข้อเสนอของไทยเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ปี 2562 จะเริ่มเดินหน้าวัดประเมินมาตรฐานเอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ ของสมาชิกทั้ง 10 ประเทศ ซึ่งการทำมาตรฐานการรับรองสถานที่จัดไมซ์เป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก
เนื่องจากมาตรฐานจะเป็นการันตีให้เกิดความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการ อีกทั้งสถานที่ผ่านเกณฑ์และได้ใบรับรองมาตรฐานแล้ว ตอนนี้ไทยได้ 13 แห่ง สามารถสร้างยอดรายได้เติบโตอย่างเห็นได้ชัดถึงปีละ 2 หลักด้วยกัน
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
นายอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับทางสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และ มูลนิธิญี่ปุ่น จัดเป็นครั้งแรกงาน “AKI-GUCHI” (อาคิ-กุจิ) ระหว่างวันที่ 20 – 30 กันยายน 2561 เปิดให้นักเดินทางได้มาร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษในแบบฉบับญี่ปุ่นดั้งเดิม ตลอด 11 วัน ตั้งแต่ 16.00 – 22.00 น. ที่ ฟาวเท่น สแควร์ คิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ รางน้ำ กรุงเทพฯ
ภายในงานได้รวบรวมศิลปะวัฒนธรรมดั้งเดิม และวิถีชีวิตแบบชาวญี่ปุ่นหลากหลายรูปแบบมาจัดแสดงให้ชม พร้อมทั้งมีร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังมารวมตัวกันกว่า 40 ร้าน และร้านขายผลิตภัณฑ์สินค้าแฟชั่น ของที่ระลึก อีกกว่า 10 ร้าน เสมือนยกดินแดนปลาดิบมาไว้ใจกลางเมือง
ส่วนพิธีเปิดงาน AKI-GUCHI เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2561 ได้สร้างความฮือฮาด้วยไฮไลต์โชว์จาก มาริโอ้ เมาเร่อ โชว์การแสดงสไตล์ Contemporary Dance นำเสนอเรื่องวิถีดาบญี่ปุ่น ในชื่อชุด Samurai No Tabi นำเสนอเรื่องราวการเดินทางของซามูไรและนินจาในฤดูใบไม้ร่วง แต่ละวันได้จัดให้มีศิลปินดาราและเซเลบริตี้ผลัดเปลี่ยนกันมาขึ้นเวที สร้างความคึกคักแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เพื่อตอกย้ำถึงการท่องเที่ยวมุมใหม่ ๆ ในกรุงเทพฯ
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เตรียมพร้อมเดินหน้าเพิ่มรายได้ท่องเที่ยวปี 2562 ที่ตั้งเป้าทำรายได้ 3.41 ล้านล้านบาท โดยจะบูมจุดขาย EAT THAI LOCAL THAI และเน้นเพิ่มการเติบโตใน 55 เมืองรอง พุ่งเป้าทำ MORE LOCAL ต่อยอดเที่ยวตามรอยเมืองรอง ผนวกเรื่องอาหารถิ่น แต่ละภาค แต่ละเมือง แต่ละชุมชน มีโครงการจะโหมทำอาหารเด็ด 7 ดาว เพราะรายได้จากอาหารทำเงินได้ถึงปีละ 1 ใน 4 ของรายได้รวมท่องเที่ยว จะทำร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มน้ำหนักและความเข้มข้น โดยเฉพาะการผนึกกัน 4 พลังพันธมิตร มี ททท.การบินไทย ท่าอากาศยานไทย และธนาคารกรุงไทย
อีกทั้งในช่วง 3 เดือนส่งท้ายปี 2561 จะกระตุ้นเรื่องที่กระทรวงการคลังมีมาตรฐานให้นำค่าใช้จ่ายเที่ยว 55 เมืองรองมาลดหย่อนภาษีได้
ไฮไลต์อีกโครงการคือการเตรียมจัดทำ “ไทยเที่ยวไทย ไทยยั่งยืน” ร่วมการบินไทย ทอท. แบงก์กรุงไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะเป็นพรีเซ็นเตอร์นำท่องเที่ยวตัวอย่างเมืองรอง ซึ่งจะทำในช่วง 3 เดือนสุดท้ายปีนี้
ส่วนโครงการ More Local ก็จะผลักดันเต็มที้ทั้ง 5 ภูมิภาค โดยทำเป็นธีมขายชัดเจน ได้แก่ ภาคใต้-More Inspire ปลุกการท่องเที่ยวที่มีจิตวิญญาณรักการเดินทาง ภาคอีสาน-More food เน้นอาหารการกินแซบนัว ภาคเหนือ -เดินหน้าเรื่องผ้าไทย ภาคกลาง-ขยายผลกระแสออเจ้า แต่ละภาคจะถูกนำอัตลักษณ์มาทำใหม่ ทำให้เกิดการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล สร้างรายได้กระจายลงไปยังชุมชนฐานราก มุ่งหวังจะปลุกกระแสคนไทยเที่ยวในประเทศ ด้วยการร้อยเรื่องราวที่มีอยู่มากมายมานำเสนอ ควบคู่กับการพยายามเปลี่ยนวันธรรมดาให้เป็นวันสุขทุกเวลา
ดร.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า สำหรับปี 2562 ไทยได้รับมอบหมายให้เป็นประธานอาเซียน ซึ่งอาเซียนเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเที่ยวเมืองไทยใกล้เคียงกับจีนคือ 9.8 ล้านคน ก็จะทำเป็นปีท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ Responsibility Tourism นำเสนอสมาชิกอาเซียนให้หันมาร่วมมือกันทำแคมเปญ Asean tourism Forum 2019 Visit Asean Responsibility Tourism
ข่าวที่ 3 บางจากกวาดISOด้านมั่นคงสารสนเทศ/ไซเบอร์”
นายยอดพจน์ วงศ์รักมิตร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบริหารและพัฒนาศักยภาพองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บางจากรับมอบใบรับรองมาตรฐาน ISO27001: 2013 ระบบบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (Information Security Management System) และเป็นรายแรกในประเทศไทยที่ได้รับ Letter of compliance ISO27032: 2012 แนวทางสำหรับความมั่นคงปลอดภัยด้านไซเบอร์ (Guidelines for Cybersecurity)
นายยอดพจน์ วงศ์รักมิตร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบริหารและพัฒนาศักยภาพองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บางจากรับมอบใบรับรองมาตรฐาน ISO27001: 2013 ระบบบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (Information Security Management System) และเป็นรายแรกในประเทศไทยที่ได้รับ Letter of compliance ISO27032: 2012 แนวทางสำหรับความมั่นคงปลอดภัยด้านไซเบอร์ (Guidelines for Cybersecurity)
ภายใต้การรับรองของบริษัท บูโร เวอริทัส เซอทิฟิเคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด
ในโอกาสได้รับระบบ ISO 27001:2013 ระบบการจัดการบริหารจัดการรักษาความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (Information Security Management System) และ Letter of compliance ISO 27032:2012 แนวทางสำหรับความมั่นคงปลอดภัยด้านไซเบอร์ Guidelines for Cybersecurity เป็นรายแรกๆ ของประเทศไทย ก็มีหน่วยงานต่าง ๆ มาร่วมแสดงความยินดีกับบางจาก ซึ่งเป็นผู้นำพลังงานทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ในโอกาสได้รับระบบ ISO 27001:2013 ระบบการจัดการบริหารจัดการรักษาความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (Information Security Management System) และ Letter of compliance ISO 27032:2012 แนวทางสำหรับความมั่นคงปลอดภัยด้านไซเบอร์ Guidelines for Cybersecurity เป็นรายแรกๆ ของประเทศไทย ก็มีหน่วยงานต่าง ๆ มาร่วมแสดงความยินดีกับบางจาก ซึ่งเป็นผู้นำพลังงานทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” เปิดเผยว่า ได้เข้าร่วมโครงการ “สานพลังพันธมิตร” ประกาศทำภารกิจเคียงข้าง 3 รัฐวิสาหกิจแถวหน้าของเมืองไทย ทั้งการบินไทย ททท.และธนาคารกรุงไทย โดย ทอท.มีโครงการไฮไลต์ให้บริการแนวใหม่ในแบบดิจิตอล แพลตฟอร์ม กำลังเร่งเดินหน้าพัฒนาแอพลิเคชั่นไฮเทครุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งจะเปิดตัวเพื่อเป็นของขวัญให้นักเดินทางช่วงเดือนเมษายน 2562 ซึ่งเร็วกว่าแผนเดิมกำหนดไว้ในเดือนกรกฎาคมปีหน้า
สำหรับแอพลิเคชั่นดังกล่าว ทอท.จะนำบิ๊กดาต้าทั้งหมดมารวมศูนย์ไว้ในแอพเดียว เพื่อให้ผู้โดยสาร ลูกค้า ติดตามใช้สนามบินของ ทอท. เที่ยวบิน และบริการทุกชนิด ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางผ่านเข้าออกสนามบินที่อยู่ในความดูแลของ ทอท.อย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุนค่าใช้จ่าย และยัง
รวมถึงมี ทอท.ยังโครงการประกาศให้สนามบินสุวรรณภูมิเป็น Cirtifly Cargo Hub เพื่อส่งสินค้าผัก ผลไม้ ของสด จากไทยและประเทศเพื่อนบ้านออกไปได้โดยให้สุวรรณภูมิเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ตรวจสอบมาตรฐานและรับรองสินค้าดังกล่าว โดยไม่ต้องตรวจซ้ำ เพื่อส่งออกไปยังตลาดสหภาพยุโรปได้ทันที ลดความเสียหายการขนส่งของสด ผัก ผลไม้ และยังช่วยเพื่อนบ้านในกลุ่ม CLMV กระจายและขายสินค้าเพิ่มได้ด้วย ส่วนสุวรรณภูมิก็มีรายได้และพัฒนาการรองรับสินค้าคาร์โก้ได้เพิ่มอีกปีละหลายตัน
ช่วงที่ 2 ไปเที่ยวเมืองรองริมชายแดนเมียนมาที่ “เมืองตาก” ดินแดนแห่งไอเย็นของสารพัดน้ำตก พบกับอันซีน “ทีลอซู” อันดับ 6 ในเอเชีย สามารถปีนถ่ายรูปแชะแชร์ชวนเพื่อนเที่ยวกันเยอะ ๆ หรือจะล่องเรือชมความงามเขื่อนภูมิพล สักการะพระธาตุตาก แวะดอยหลวงตาก ชอบแบบไหนเลือกได้ทุกมุม ส่วนการดูแลสุขภาพต้องรู้เคล็ดลับว่าทำอย่างไรถึงนอนหลับให้สบายทุกคืน และข่าวร้อนแรงของรัฐบาลสั่ง “การบินไทย” ทบทวนแผนซื้อเครื่องบินแสนล้านดีดีคนใหม่หวังท้วงแชมป์ตลาดคืนภายในปี 2565 ด้าน ROP จัดหนักแคมเปญคืนกำไรสมาชิก ขณะที่ “8 เดือนท่องเที่ยว” โกยแล้ว 1.35 ล้านล้าน “บางกอกแอร์” ชีลประกาศเสิร์ฟทุกเที่ยวบินขนมไหว้พระจันทร์ วันที่ 24 กันยายนนี้ ภูเก็ตเท 140 ล้านบาท จัดระเบียบเรือท่องเที่ยว
ความสุขที่ได้ท่องเที่ยวอันซีนเมืองรอง “จังหวัดตาก” ประตูเชื่อมโยงการเดินทางสู่ธรรมชาติสูงของไอเย็นจากน้ำตกที่สักครั้งหนึ่งในชีวิตควรไปชม “ทีลอซู” มีขนาดใหญ่ติดอันดับ 6 ของเอเชีย
บริเวณรอบ ๆ ทีลอซู ยังห้อมล้อมด้วยน้ำตกต่าง ๆ อีกหลากหลายอารมณ์ มีทั้งน้ำตกทีลอแล ทีลอจ่อ แม่นิลคี ธารารักษ์
ส่วนที่โดนใจเหล่านักเดินทางที่ชื่นชอบการผจญภัยทางธรรมชาติ คือการได้ปีนขึ้นไปยัง “ปิตุ๊โกร” หรือ “เปรโต๊ะลอซู” ขนาดมหึมาซึ่งมีต้นทางของสายน้ำอยู่บนยอดดอยมะม่วงสามหมื่นไหลผ่านขุนเขาเขียวขจี มาบรรจบกันเป็น “รูปหัวใจ” กลายเป็นความโรแมนติกชวนให้หลงไหลจริง ๆ
“พาเจริญ” เป็นน้ำตกอีกแห่งที่มีเสน่ห์จากการออกแบบสร้างเป็นบันได 97 ขั้น ที่มีดอกกระเจียวสีชมพู สลับกับสีต่าง ๆ เบ่งบานรับการท่องเที่ยวช่วงฤดูฝนระหว่างสิงหาคม-ตุลาคม ของทุกปี
จะไปเที่ยวจังหวัดตากทั้งที ก็ต้องมีสถานที่แนะนำมากกว่าน้ำตกแน่นอน เพราะที่นี่ยังมี “เขื่อนภูมิพล” ได้ชื่อว่าเป็นเขื่อนคอนกรีตแห่งเดียวที่มีขนาดใหญ่สุดในประเทศไทย เหมาะจะไปล่องแพในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือจะไปเดินเส้นทางเที่ยวธรรมชาติก็ได้
หรือจะขึ้น “ดอยหลวงตาก” ดื่มด่ำกับผืนป่าธรรมชาติสมบูรณ์แบบ สามารถตั้งแคมป์เพื่อสัมผัสไอเย็นของสายหมอกยามย่ำรุ่ง ที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากโหยหากัน
ปิดท้ายต้องไปสักการะ “พระบรมธาตุตาก” ได้จำลองเจดีย์ชเวดากองของเมียนมามาไว้ที่นี่ ทุกเดือนเก้าของปีจะมีประเพณีขึ้นธาตุ ต้องห้ามพลาด
ปิดท้ายต้องไปสักการะ “พระบรมธาตุตาก” ได้จำลองเจดีย์ชเวดากองของเมียนมามาไว้ที่นี่ ทุกเดือนเก้าของปีจะมีประเพณีขึ้นธาตุ ต้องห้ามพลาด
@เคล็บลับการนอนอย่างให้หลับสบาย
นอนหลับเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยให้ความสำคัญเพราะคิดว่าเป็นแค่กิจกรรมอย่างหนึ่งในชีวิตประจำวันจึงทุ่มเวลาให้กับการทำงานหรือกิจกรรมอย่างอื่น จนลืมการพักผ่อนให้เพียงพอต่อวัน ซึ่งความจริงแล้วสุขภาพการนอนเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง และเป็นตัวกำหนดสุขภาพของเรา
1.จัดตารางเวลาการนอนให้เหมาะสมและนอนเวลาเดิมให้ได้ทุกคืน เวลาที่แนะนำให้ควรเข้านอนไม่ควรจะเกิน 4 ทุ่ม ของแต่ละคืน
2.สร้างบรรยากาศให้ชวนหลับด้วยความเงียบและกลิ่น เช่น กลิ่นน้ำมันหอมระเหย หรือเทียนหอม อย่างกลิ่นลาเวนเดอร์ จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและช่วยให้การนอนหลับสบายยิ่งขึ้น
3.สร้างกิจกรรมผ่อนคลายร่างกายก่อนนอน เช่น การอาบน้ำอุ่น ฟังเพลงจังหวะสบายๆ หรือการนั่งสมาธิ ซึ่งช่วยให้การหลั่งสารเอนโดรฟิน ออกมา จะช่วยให้นอนหลับได้สบายยิ่งขึ้น
4.งดดื่มคาเฟอีนก่อนนอน เปลี่ยนเป็นนมอุ่นๆ หากรู้สึกหิวให้ทานของว่างยามดึก ที่ช่วยให้นอนหลับสบาย ได้แก่ กล้วย มันเทศ เผือก แครกเกอร์ ขนมปังโฮลวีตและโฮลเกรนต่างๆ ซึ่งช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตสารเซโรโทนิน ที่ช่วยควบคุมการนอนหลับให้พักผ่อนสบาย
5.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เช่น การวิ่งจะช่วยคลายความเครียดในร่างกายได้ดี เวลาที่ดีที่สุดในการออกกำลังกายคือช่วงบ่าย หรือก่อนการเข้านอน 4 ชั่วโมง หากออกกำลังกายได้เป็นประจำจะทำให้นอนหลับได้ดีไม่จำเป็นต้องพึ่งยาใด ๆ
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยในระหว่างเป็นประธานการเสวนา “สานพลังพันธมิตร” ว่า มีนโยบายชัดเจนให้ผู้นำทั้ง 4 รัฐวิสาหกิจ ได้แก่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” และธนาคารกรุงไทย วางแผนการทำงานร่วมกันเพื่อใช้พลังทั้งหมดดันเศรษฐกิจประเทศไทยให้ก้าวขึ้นไปยืนเป็นผู้นำอาเซียนและเอเชีย และหากภายใน 3 เดือนข้างหน้า ไม่สามารถทำให้เป็นรูปธรรมสู่ความสำเร็จได้ก็คงจะต้องให้ผู้นำโยกย้ายไปอยู่ที่อื่น
โดยเฉพาะการบินไทย มีนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ นั่งเป็นประธานกรรมการ (บอร์ด) และทำหน้าที่อยู่ในหลายบอร์ดด้วยกัน กับนายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) การบินไทย ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่ง ทุกคนจะต้องช่วยกันปลุกพลัง ส่วนที่ 1 “พลังภายในองค์กร” จะต้องทำให้พนักงานการบินไทยทั้งหมดเข้ามามีส่วนร่วมรับผิดชอบ ทั้งเรื่องการวางแผนยุทธศาสตร์ การลงทุนฝูงบินเพื่อให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ การสร้างผลผลิตสร้างรายได้ พลิกฟื้นกิจการสายการบินแห่งชาติให้กลับมามีกำไรอีกครั้ง ส่วนที่ 2 พลังจากพันธมิตร ซึ่งล้วนแล้วแต่มีศักยภาพทั้ง ททท.ผู้รับผิดชอบปลุกตลาดท่องเที่ยวกระจายรายได้สู่ 55 เมืองรอง และ 22 เมืองหลัก ทอท.กำลังทำแผนลงทุนขยายสนามบินนานาชาติทั้ง 6 แห่ง สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ แม่ฟ้าหลวงเชียงราย และธนาคารกรุงไทย ซึ่งพร้อมจะเป็นกระเป๋าเงินสนับสนุนการลงทุนทุกรูปแบบ
ดร.สมคิดย้ำว่าได้ขีดเส้นตายภายใน 3 เดือน หรือไม่เกินธันวาคม 2561 นี้ ต้องส่งการบ้านมาตอบรัฐบาลให้เป็นรูปธรรม ทั้งนายเอกนิติและนายสุเมธจะต้องทำแผนฟื้นฟูฉบับใหม่ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ให้ทบทวนการลงทุนกว่า 100,000 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อฝูงบินใหม่ที่เสนอไปครั้งแรก 23 ลำ กลับมาทำใหม่ให้สอดคล้องกับ 1.ยุทธศาสตร์ 2.เครือข่ายการบิน 3.เที่ยวบินที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนอย่างคุ้มค่า โดยมองไปข้างหน้าถึงศักยภาพของไทย ซึ่งมีความได้เปรียบทุกประเทศในอาเซียน คือ การเป็นศูนย์กลางการบินภูมิภาคเอเชีย ซึ่งกำลังลงทุนสร้างศูนย์ซ่อมอากาศยานแห่งใหม่ (MOR) บริเวณสนามบินอู่ตะเภาให้เป็นศูนย์กลางการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC)
รวมถึงขอให้ดูต้นแบบของ Japan Airline : JAL ซึ่งใช้เวลา 8 ปีพลิกสถานการณ์จากล้มละลายกลับมามีกำไรได้ โดยอาศัยพลังการร่วมมือของพนักงานการบินทั้งองค์กร การบินไทยเองก็ทำเช่นนั้นให้ได้ ในการนำพนักงานทุกคนเข้ามาร่วมขับเคลื่อนความสำเร็จให้ได้
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานบอร์ด บมจ.การบินไทย กล่าวว่า หลังจากได้รับนโยบายจาก ดร.สมคิด รองนายกรัฐมนตรี วางแผนทำสิ่งแรกคือ จะเดินหน้าทบทวนการแผนการลงทุนฟื้นฟูการบินไทยฉบับใหม่ ซึ่งอาจจะลงทุนมากกว่า 100,000 ล้านบาท หรือมากกว่า 23 ลำ ก็เป็นได้ โดยจะต้องนำมาปรับแก้ไขรายละเอียดตามจริงที่จะเกิดขึ้น เพื่อยกระดับให้การบินไทยกลับมาผงาดเป็น 1 ใน 5 ของสายการบินระดับโลก หรือ Premium Airlines ตามที่ได้รับมอบหมายให้ได้ภายในปี 2565
ทางด้านนายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บมจ.การบินไทย กล่าวว่า ภายในปี 2563 จะทำให้การบินไทยพ้นจากวงจรบ่วงหนี้หรือภาระขาดทุนให้ได้ เนื่องจากได้เข้าไปศึกษาข้อมูลทางธุรกิจของการบินไทย ปี 2546 มีส่วนแบ่งตลาดผู้โดยสาร 37 % แต่ผ่านมาเพียง 10 ปี ลดลงเหลือแค่ 27.3 % เท่านั้น ส่วนแบ่งตลาดที่หายไปนั้นจะต้องดึงกลับคืนมาเป็นของการบินไทยให้เร็วที่สุด พร้อม ๆ กับปรับโครงสร้างการทำงาน และจัดระบบการพัฒนาธุรกิจทั้ในส่วนของการขยายฝูงบิน การวางกลยุทธ์ทำตลาด จะต้องมุ่งทำไม่เฉพาะการเพิ่มอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (cabin factor) กำไรต่อหน่วย (yield) หรือลดต้นทุน เหมือนวงจรเดิม ๆ อีกต่อไป
แต่จะต้องสร้างความแตกต่างโดยนำเครื่องมือใหม่ ๆ เข้ามาใช้ มีทั้งเรื่อง Digital marketing การใช้ข้อมูลบิ๊กดาต้าของการบินไทยผนวกรวมเข้ากับ ทอท. ททท.และอื่น ๆ แล้วนำไปเชื่อมโยงเข้ากับแผนการลงทุนจัดหาฝูงบินใหม่ ที่รัฐบาลมีนโยบายให้ดำเนินการทบทวนแผนเร่งด่วนภายใน 3 เดือนหน้านี้
ขณะเดียวกันก็จะขยายหน่วยธุรกิจโดยเฉพาะ Catering หรืออาหารขึ้นเครื่องที่สามารถให้บริการผู้โดยสารที่เดินทางเข้าออกสนามบินของ ทอท.ซึ่งมีรวมกันปีละกว่า 100 ล้านคน เรื่อยไปจนถึงการทุ่มทำเรื่องรายได้ของการขนส่งสินค้าทางอากาศ ศูนย์ซ่อมอากาศยาน และอื่น ๆ
สำหรับวิสัยทัศน์ที่นายสุเมธ เตรียมนำมาใช้ผ่าตัดการบินไทย เรียกกว่า แท็กติก A-B-C-D-E ถอดรหัสได้ดังนี้ A-aggressive การทำงานเชิงรุกเร็ว B – Business ทำให้เกิดการพัฒนาธุรกิจอย่างมีคุณภาพทั้งมูลค่าและคุณค่า C-Customer ให้น้ำหนักความสำคัญกับลูกค้าต้องมาเป็นอันดับแรก D : Digital marketing นำการตลาดดิจิตอลเข้ามาพลิกฟื้นกิจการให้กลับสู่ปกติโดยเร็วและก้าวขึ้นเป็นพรีเมี่ยม แอร์ไลน์ส ภายในปี 2565 และ E -Efficiency เพิ่มประสิทธิภาพในทุกทาง เพื่อความสำเร็จของสายการบินแห่งชาติและการบินไทย 4.0 นำเศรษฐกิจชาติก้าวสู่ผู้นำอาเซียนและเอเชียได้อย่างแท้จริง
นางสาวจิตติมา อุทัยเฉลิม ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจรอยัล ออร์คิด พลัส บริษัท การบินไทยฯ เปิดเผยว่า ได้จัดแคมเปญ Royal Orchid Plus Unique Experiences ฉลอง 25 ปี เพื่อเพิ่มช่องทางการปฏิสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกและโปรแกรมสะสมไมล์ของการบินไทยซึ่งมีกิจกรรมเกมต่าง ๆ ให้เล่นทางออนไลน์ และโซเชียลมีเดีย การบินไทย และการมอบสิทธิพิเศษอย่างต่อเนื่องให้สมาชิก อาทิ ROP Privilege เป็นส่วนลด ของแถม หรือบริการพิเศษ เพียงโชว์บัตรสมาชิก รอยัล ออร์คิด พลัส แก่ร้านค้าและบริการที่ร่วมกิจกรรม ROP Monthly Activity
แต่ละเดือนจะจัดกิจกรรมพิเศษที่สมาชิกสามารถร่วมได้ตลอดทั้งปี เช่น การแชร์รูปภาพเพื่อแข่งขันชิงรางวัลต่างๆ เวิร์คช็อป ร่วมสนุกตอบคำถามผ่านทาง THAI Social Media (Facebook หรือ Line) และพิเศษสุดกับ ROP Big Bonus เมื่อสิ้นสุดกิจกรรมจะมีการประกาศผู้โชคดีเพื่อรับโบนัสไมล์สะสม รอยัล ออร์คิด พลัส กว่า 500,000 ไมล์ เพื่อแลกเป็นตั๋วโดยสารบินในเส้นทางใดก็ได้
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รายงานสถิติการท่องเที่ยว 8 เดือนแรก ระหว่างมกราคม – สิงหาคม 2561 สามารถสร้างรายได้รวม 1,350,317.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น12.85% โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 25,886,325 คน เพิ่มขึ้น 9.94%
สถานการณ์ท่องเที่ยวเฉพาะสิงหาคม 2561 เพียงเดือนเดียว มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 3,228,595 คน เอเชียตะวันออกครองแชมป์มามากสุด 2,206,577 คน อันดับรองลงมาได้แก่ ยุโรป เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง อเมริกา โอเชียเนีย และแอฟริกา
โดยรายได้ 168,045.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.79% นักท่องเที่ยวที่ใช้เงินสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ จีน มาเลเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี สหราชอาณาจักร ฮ่องกง อินเดีย สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และลาว ตามลำดับ
สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส รายงานว่า ในวันที่ 24 กันยายน 2561 ได้นำทุกเที่ยวบินร่วมฉลองเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ปี 2561 โดยจะเสิร์ฟขนมไหว้พระจันทร์ (ไส้เมล็ดบัวไข่แดง) เพื่อความเป็นความเป็นสิริมงคล
เตรียมเสิร์ฟทุกเที่ยวบินทั้งเส้นทางในประเทศ และระหว่างประเทศที่ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินสมุย และสนามบินภูเก็ต
เตรียมเสิร์ฟทุกเที่ยวบินทั้งเส้นทางในประเทศ และระหว่างประเทศที่ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินสมุย และสนามบินภูเก็ต
นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ภูเก็ตตั้งงบประมาณเพื่อปรับปรุงพัฒนาท่าเทียบเรืออ่าวฉลองกว่า 140 ล้านบาท ดำเนินการ 9 โครงการ เพิ่มมาตรการ ศักยภาพในการรักษาความปลอดภัยพร้อมรองรับการให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยวเพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว
หลังจากเกิดอุบัติเหตุทางน้ำส่งผลคนเสียชีวิตกระทบการท่องเที่ยวจึงต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นและจัดระเบียบท่าเรือใหม่ทั้งหมด โดยออกประกาศ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดภูเก็ต เรื่อง กำหนดแนวทางการจัดทำแผน และจัดระเบียบธุรกิจนำเที่ยว เพื่อการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ตโดยเคร่งครัด เน้นการติดตามตรวจสอบการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่ท่าเทียบเรือทุกแห่ง กำหนดให้ท่าเรือทั้ง 24 แห่ง ต้องมีผู้จัดการท่าเรือ เพื่อจัดระเบียบการดำเนินงานยกระดับให้มีความเป็นมาตรฐาน โดยเน้นการตรวจเรือ อุปกรณ์ภายในเรือ และอุปกรณ์บนเรือต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบถ้วนพร้อมใช้งาน, สั่งการให้ทุกท่าเทียบเรือ ติดตั้งกล้อง CCTV ติดป้ายประชาสัมพันธ์เพื่อเตือนให้นักท่องเที่ยวได้ทราบถึงแนวทางต่างๆ ในการรักษาความปลอดภัยทางน้ำ
กำหนดให้ทุกท่าเรือมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประจำอยู่ทุกท่าเพื่อตรวจสอบและคุมเข้มก่อนที่จะมีการปล่อยเรือให้ออกจากท่าเรือ กำหนดจัดตั้งกลุ่ม LINE จัดเก็บข้อมูลระบบพื้นฐานจำนวนเรือที่มีการเข้า-ออก ในแต่ละวัน สำหรับผู้โดยสาร หรือนักท่องเที่ยวที่จะลงเรือจะต้องมีจุดเช็คพ้อยส์ มีช่องทางลงเรือที่เป็นระเบียบ มีบันทึกใบหน้าผู้ที่ลงเรือทุกคน ระบุข้อมูล ชื่อ สัญชาติ เลขที่พาสปอร์ต ที่พักแรม เป้าหมายการเดินทางว่าจะไปที่ไหน และตรวจสอบไกด์ ไดมาสเตอร์ ที่จะควบคุมดูแลลูกเรือต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น
ติดตามฟังรายการได้ทุกเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.97.0
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น