ททท.จัดทัพใหญ่ปั้นตลาด55เมืองรอง เพิ่มยอดคนเที่ยวจังหวัดละ4เป็น10ล้านคน-เที่ยวเขาค้อ ภูทับเบิก สวยสุดๆ
ททท.จัดทัพใหญ่รุกตลาด55เมืองรองปี’62
เพิ่มยอดจังหวัดละ4เป็น10ล้านคนใน5ปีหน้า
คิงเพาเวอร์ชวนช้อปน้ำหอมใหม่8แบรนด์โลก
ททท.ประชันจัด4งานปลุกเที่ยวไทยคึกก.ย.นี้
สมาชิกบางจากเฮใช้12 แต้มแลกทำประกันฯ
ทอท.ปลื้มACIแนะเพิ่มไฮเทคขยายสนามบิน
TCEBเปิดเวทีจัดไทยแลนด์ไมซ์ฟอรัม11ก.ย.
ทัวร์เพชรบูรณ์ชมคลังอาหารเขาค้อ-ภูทับเบิก
เคล็บลับดูแลฟันดีไม่มีฟันผุตั้งแต่เด็กจนแก่
การบินไทยชี้ตลาดญี่ปุ่น6เมืองโตแรงปี’62
มิวเซียมพาสชูโปรพิเศษดูคอนเสิร์ต3วงดัง
คามิโอเฮ้าส์ชวนชิมอาหารเซี่ยงไฮ้ต้นตำรับ
ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97
ช่วงที่ 1 เกาะติดการขับเคลื่อนทัพใหญ่เที่ยวเมืองรองกับ “สมฤดี จิตรจง” ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผู้รับผิดชอบโครงการยกระดับการท่องเที่ยว 55 เมืองรอง ปี 2562 จุดเริ่มแผนปฏิบัติการเพิ่มฐานนักท่องเที่ยวจากจังหวัดละ 4 เป็น 10 ล้านคน-ครั้ง ให้สำเร็จภายใน 5 ปีข้างหน้า ปีนี้จะทยอยชิมลางคัดกรองมาเข้าร่วมโครงการก่อน 90 ชุมชน
สมฤดี จิตรจง ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผู้รับผิดชอบโครงการ 55 เมืองรอง เปิดเผยว่า จะเริ่มขับเคลื่อนการตลาดโดยใช้งบประมาณปี 2562 จะแปลงโฉมต่อยอดจากโครงการ 12 เมืองต้องห้ามพลาด โดยจะเพิ่มการเติบโตทางด้านโลจิสติกส์กระตุ้นการลงทุน โดยมีที่มาจากนโยบายรัฐบาลมอบหมายให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันลดความเหลื่อมล้ำตามเมืองขนาดเล็กในจังหวัดต่าง ๆ แต่เนื่องจากคนส่วนใหญ่ยังมุ่งหน้าเที่ยวเมืองหลัก ดังนั้นจึงตั้งเป้ายกระดับด้วยฐานจำนวนนักท่องเที่ยวกำหนดนิยมเมืองรองคือพื้นที่ซึ่งมีคนเที่ยวปีละต่ำกว่า 4 ล้านคน ยอดสรุปทั่วประเทศมีทั้งหมด 55 จังหวัด
ตามแผนงบประมาณการตลาด ททท.ปี 2562 จัดทำแผนพัฒนาตามรูปแบบใหม่ ทั้งเรื่องมาตรฐานห้องพัก ระบบโครงข่ายคมนาคม ททท.จึงได้ทำเป็น 3 แบบ 1.เมืองหลักเชื่อมโยงสู่เมืองรอง เช่น นั่งเครื่องบินไปลงเชียงใหม่แล้วเดินทางต่อไปยังแม่ฮ่องสอน 2.เมืองรองที่มีศักยภาพสามาถขายตัวเองได้ เช่น เชียงราย 3.เมืองรองเชื่อมเมืองรอง ทำให้ท่องเที่ยวมีสีสันมากขึ้น เช่น สุโขทัย-กำแพงเพชร สุโขทัย-อุตรดิตถ์ แพร่-น่าน หรือ เชียงราย-พะเยา ทำให้จังหวัดรองเล็ก ๆ สามารถสร้างความสนใจแก่นักท่องเที่ยวได้
เมื่อกำหนดเส้นทางท่องเที่ยวเป็น 3 กลุ่มเรียบร้อยแล้ว จากนั้น ททท.ก็วิเคราะห์ถึงความพร้อมทางด้านคมนาคมการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว แต่แหล่งที่พักโดยรวมยังไม่ถึงเกณฑ์มาตรฐานมากนัก ขณะเดียวกันก็จะต้องส่งเสริมการท่องเที่ยว จึงต้องใช้วิธีเพิ่มรายได้เข้าท้องถิ่นด้วยการชูจุดขายจูงใจนักท่องเที่ยวให้ควักเงินซื้อสินค้าชุมชน ซึ่งเป็นชุมชนได้รับการคัดเลือกส่งผ่านมาจากระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงมหาดไทย มายัง ททท. โดยปี 2562 มีจำนวน 90 ชุมชนท่องเที่ยว
ขณะนี้ชุมชนทั้ง 90 แห่ง ได้ผ่านการกลั่นกรองวิเคราะห์จนตกผลึกว่ามีความพร้อมสามารถขายในเชิงการท่องเที่ยวชุมชนแบบเปิดกว้างได้แล้ว ททท.จึงวางแนวทางการขายโดยปูพรมทำ “การตลาดแบบเล่าเรื่องวิถีถิ่น” หรือ Content marketing เสน่ห์เมืองรองมาเล่าผ่านสไตล์ความโดดเด่นของแต่ละภาค ประกอบด้วย
ภาคเหนือ จะเล่าเรื่องเมืองเหนือผ่านผ้าพื้นเมือง เช่น ผ้าลายน้ำไหลจังหวัดน่าน อธิบายได้ถึงน้ำไหลบนผืนผ้าคือสัญลักษณ์ของแม่น้ำน่านซึ่งมีชุมชนเผ่าต่าง ๆ ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม อย่างไทลื้อซึ่งมีความเข้มแข็งเรื่องกิจกรรมประเพณีดั้งเดิม มีร้านอาหารถิ่น สิ่งเหล่านี้จะอยู่ในภาคเหนือ
ภาคอีสาน จะเล่าเรื่องเส้นทางสายอาหาร Gastronomy ตลอดแนวที่ตั้งของจังหวัดต่าง ๆ ตามเส้นทางลุ่มแม่น้ำโขง ช่วงน้ำขึ้นน้ำลงมีระบบนิเวศน์ในการเพาะปลูกพืชเกษตรปลอดสารเคมีที่นำมาปรุงอาหารปลอดภัยหรือ Green
ร้อยเรียงอยู่ในแต่ละเมนูจานเด่น
ภาคกลาง จะเล่าเรื่องผสมผสานนวัตกรรมสมัยใหม่กับนานาชาติที่หลั่งไหลเข้ามา ก็จะนำจุดเด่นเหล่านี้มาหลอมรวมเป็นเรื่องราวการท่องเที่ยว
สำหรับภาคอื่น ๆ อย่างภาคใต้ ภาคตะวันออก หรือแนวตะวันตก ก็จะใช้วิธีการเล่าเรื่องด้วยเนื้อหาความเป็นมาของท้องถิ่นนั้น ๆ
ผอ.สมฤดี กล่าวว่า ขณะนี้กำหนดแนวทางชัดเจนครบทุกส่วน คือ 1.เส้นทาง 55 เมืองรอง 2.วางกลยุทธ์การตลาดไปในทิศทางเดียวกันด้วยเรื่องเล่าท้องถิ่น-content marketing 3.กลุ่มเป้าหมาย ผสมผสานทุกวัย บางพื้นที่ในบางภูมิภาค อาจจะเหมาะกับกลุ่มนักท่องเที่ยวมิลเลนเนียลหรือเจนวายที่มากับกระแสโซเชียล แต่บางภูมิภาคก็ต้องการกลุ่มวัยเก๋า เกษียณอายุ ดังนั้นการเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวในประเทศเดินทางเข้าไปแต่ละพื้นที่ต้องศึกษาตามลักษณะความแตกต่างแล้วนำมาโปรโมต ตามอัตลักษณ์ความหลากหลายต่างกัน วิธีการขายท่องเที่ยวจึงต้องเจาะให้ตรงเป้าแล้วนำมาโฆษณา ประชาสัมพันธ์
เช่น เชียงราย มีโครงการเชียงรายยั่งยืน เน้นครบทั้ง 3 ด้าน เศรษฐกิจ-สังคม-สิ่งแวดล้อม ต้องการกลุ่มครอบครัวเพราะศักยภาพรองรับได้ซึ่งเที่ยวได้พร้อม ๆ กัน 3 เจเนอเรชั่น คือ ปู่ย่าตายาย-พ่อแม่-ลูก ๆ ใช้งบการเดินทางท่องเที่ยวแต่ละครั้งค่อนข้างสูง ส่วนพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้คือแม่ ดังนั้นการทำตลาดครอบครัวต้องสร้างแรงจูงใจเจาะตรงไปยังผู้หญิงกับเด็ก โดยให้ ททท.แต่ละสำนักงานต้องรับลูกเจาะตลาดด้วย
ปี 2562 จะเป็นปีแรกที่ประกาศการท่องเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด จึงยังไม่ได้กำหนดเป้าหมายการเติบโต แต่จะใช้โมเดลของ 12 เมืองต้องห้ามพลาด ได้แบ่ง เมืองรองเกรด A ภายใน 5 ปีหน้า จะต้องเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่จากปัจจุบันปีละ 4 ล้านคน-ครั้ง เป็นไม่ต่ำกว่าปีละ 10 ล้านคน-ครั้งต่อจังหวัด สร้างรายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10 % สาเหตุที่ตั้งเป้าสูงเพราะไม่สามารถนำนักท่องเที่ยวไปยังเมืองขนาดเล็กซึ่งขาดความพร้อมเรื่องที่พักหรือขีดความสามารถทางการรองรับปริมาณมาก ๆ ซึ่งจะมีผลกระทบตามมาทั้งเรื่องที่พักไม่เพียงพอ ตามด้วยปัญหาสิ่งแวดล้อม จึงต้องจัดกลุ่มเมืองรองเกรด B และ C แล้วค่อย ๆ สร้างการเติบโตให้อสดคล้องกับความสามารถในการรองรับตามความเหมาะสมโดยจะต้องระวังป้องกันไม่ให้ไปกระทบหรือทำลายวิถีชีวิตของชุมชนนั้น ๆ
ผอ.สมฤดีย้ำว่า ได้วางกลยุทธ์เชื่อมโยงการตลาดท่องเที่ยว 55 เมือง กับการเพิ่มรายได้ท่องเที่ยววันธรรมดาเข้าด้วยกัน ซึ่งทำมาหลายปีมี 2 กลุ่มหลัก เดินทางเที่ยววันธรรมดาได้ที่ไม่ติดกับดักเวลา ได้แก่ 1.กลุ่มวัยเก๋าวัยเกษียน 2.กลุ่มประชุมสัมมนา สามารถไปตามเมืองหลักเมืองรองได้สบาย ๆ แต่จะต้องนำโปรดักซ์มานำเสนอให้สอดคล้องกับความสนใจ เช่น วัยเก๋านิยมเส้นทางทัวร์ไหว้พระทำบุญ ส่วนกลุ่มประชุมสัมมนาจะต้องรวบรวมพื้นที่มีห้องประชุมเพียงพอ แต่ ททท.ได้ศึกษาแผนบูรณาการกับทางสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” ก็พร้อมสนับสนุนผู้จัดประชุมกลุ่มขนาดเล็ก ๆ ด้วย เพื่อแก้ปัญหาห้องประชุมไม่เพียงพอ ทำให้เมืองรองสามารถรองรับได้และเลือกไปในวันธรรมดาได้
สำหรับปลายปี 2561 การท่องเที่ยวไฮไลต์ในภาคเหนือเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป แนะนำแม่ฮ่องสอน มีความเขียวขจีของขุนเขาและทุ่งนาขั้นบันได เดือนตุลาคมเป็นฤดูท่องเที่ยวภาคเหนือกับอีสาน ปีนี้แนวโน้มอากาศจะเย็นสบายกว่าทุกปีเพราะน้ำมาก ททท.จึงเตรียมโปรโมตการท่องเที่ยวผ่านโซเชียล มีเดีย ไปสัมผัสท่องเที่ยวชุมชน อีกทั้งการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรแต่ละครั้งมีส่วนสำคัญอย่างมากในการเผยแพร่ข้อมูลไปยังนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม และเป็นโอกาสของเมืองรองทั่วประเทศด้วย
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์จัดเต็มน้ำหอมเทรนด์ใหม่8แบรนด์โลก”
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้คัดสรรน้ำหอม กลิ่นใหม่ล่าสุดจาก 8 แบรนด์ชั้นนำ มเติมเต็มเทรนด์ระดับโลกมาแรงเริ่มกันยายนนี้ไปตลอดฤดูกาล
แบรนด์แรก PRADALUNA ROSSA BLACK EDP น้ำหอมแนวสปอร์ตที่พัฒนามาจาก Luna Rossa โดยเวอร์ชั่นนี้เป็นความหอมสดชื่นจากมะกรูด แอนเจลิกา แพทชูลี อำพัน มัสก์ และคูมาริน (50ml 2,300 Baht / 100ml 3,100 Baht)
แบรนด์ 2 ELIE SAAB LE PARFUM IN WHITE EDP ความหอมหวานสุดตรึงใจจากดอกไม้สีขาวนานาชนิด ที่ผสานเข้าไว้ด้วยกลิ่นหอมแนวฟรุตตี้ ฟลอรัล จากดอกส้ม เรดฟรุต มะลิ แพทชูลี ไวท์มัสก์ และอำพัน (50ml 2,790 Baht / 90ml 3,570 Baht)
แบรนด์ 3 CALVIN KLEIN - CK ONE SUMMER 2018 EDT LIMITED EDITION ความหอมในแนวฟรุตตี้ ซิตรัสที่โดดเด่นด้วยกลิ่นอันสดชื่นจากโมฮิโตมะนาว เคล้ากับเลมอน ฝรั่ง และไม้สนซีดาร์ วางจำหน่ายตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป (100ml 1,920 Baht)
แบรนด์ 4 JEAN PAUL GAULTIER - LE MÂLE EAU FRAÎCHE GAULTIER AIRLINES EDT AND CLASSIQUE EAU FRAÎCHE GAULTIER AIRLINES EDTเอดิชั่นใหม่ของความหอมสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่วางจำหน่ายเฉพาะในดิวตี้ ฟรีเท่านั้น (75ml 1,800 Baht / 50ml 2,300 Baht)
แบรนด์ 5 NINA RICCI - NINA MONSTERS EDT / LUNA MONSTERS EDT / LUNA BLOSSOM MONSTERS EDT LIMITED EDTION กลิ่นหอมใหม่ล่าสุด 3 แบบ 3 สไตล์ ที่มาในขวดรูปทรงสวยงามพร้อมลวดลายที่ดูสนุกสนานและขี้เล่น (50ml 2,200 Baht)
แบรนด์ 6 VERSACE -DYLAN BLUE POUR FEMME EDP ภายในขวดรูปทรงสวยงามที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน คือเอกลักษณ์แห่งความมีพลัง เย้ายวน และสง่างาม ส่วนผสมอันโดดเด่นของความหอม ที่บ่งบอกถึงความมีชีวิตชีวาและดึงดูด (50ml 2,875 Baht / 100ml 3,910 Baht)
แบรนด์ 7 BVLGARI - OMNIA PINK SAPPHIRE EDT ความหอมแนวเฟสทีฟ ฟลอรัลที่จับใจด้วยความอ่อนหวานของดอกลีลาวดี กระปรี้กระเปร่าด้วยพิงค์โพเมโล เบสโน้ตเป็นวานิลลา และมัสก์ (40ml 2,205 Baht / 65ml 2,775 Baht)
แบรนด์ 8 SALVATORE FERRAGAMO - AMO FERRAGAMO EDP กลิ่นหอมใหม่ล่าสุดสำหรับสุภาพสตรี ที่นำความสดใส จากมวลดอกไม้นานาพันธุ์ ผสานเข้ากับความหอมแนวอะโรมาติกและแนวฟรุตตี้ได้อย่างลงตัว (50ml 3,500 Baht / 100ml 4,680 Baht)
ข่าวที่ 2 “ททท.ลุยจัดเที่ยวทั่วไทย4งานใหญ่ช่วงก.ย.นี้”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงาน การจัดกิจกรรมกระตุ้นท่องเที่ยวของสำนักงานทั่วประเทศ ประชันจัดคึกคักถึง 4 งาน ระหว่างวันนี้ – 31 กันยายน นี้ เริ่มจากงานส้มโอชัยนาท การจัดโครงการประกวด “คลิปออนไลน์ เที่ยวเมืองรอง” ด้วยแคมเปญ TrueYou Happiness Challenge Thailand ใครสุขที่สุด...ชนะ” ชิงรางวัล 1.52 ล้านบาท “ตามรอยไดโนเสาร์ กาฬสินธุ์” และ “กินหอย ดูนก ตกหมึก ชะอำ”
นายอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานลพบุรี กล่าวว่า ได้สนับสนุนการจัดงาน “วันส้มโอขาวแตงกวาชัยนาท” ครั้งที่ 35 ระหว่างวันนี้ – 16 กันยายน 2561 ณ บริเวณเขื่อนเรียงหิน หน้าศาลากลางจังหวัดชัยนาท ซึ่งส้มโอขาวแตงกวาเป็นผลไม้ท้องถิ่นที่สำคัญทางด้านเศรษฐกิจของชัยนาท ปลูกสืบต่อกันมานานกว่า 100 ปี โด่งดังขึ้นชื่ออันดับต้น ๆ ของประเทศ สร้างรายได้ให้เกษตรกมีรายได้ดีคุณภาพชีวิตมั่นคง
นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร ที่ปรึกษา 10 ททท. กล่าวว่า ททท.ร่วมกับ บมจ. ทรู คอร์ปปอเรชั่น หน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดโครงการส่งเสริมเมืองรอง ชวนคนไทยท่องเที่ยวไทย ผ่านแคมเปญ “TrueYou Happiness Challenge Thailand ใครสุขที่สุด...ชนะ” ด้วยการชวนให้ออกมาค้นหาสุดยอดทีม Creative Travelers ที่โชว์ความคิดสร้างสรรค์ผลิตคลิปรายการออนไลน์นำเสนอเสน่ห์การเดินทางไปท่องเที่ยวทั่วไทย 5 ภาคใน 16 จังหวัดเมืองรอง พิชิตเงินรางวัล พร้อมแพ็กเกจทรูมูฟ เอช ฟรี 1 ปี มูลค่ารวม 1.52 ล้านบาท เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ – 30 กันยายน 2561 ทาง www.trueyou-happiness.com
อีกกิจกรรม ททท.ได้จัดส่งเสริมการท่องเที่ยวกาฬสินธุ์ ทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ "ตามรอยไดโนเสาร์...ตะลุยแดนอีสาน" ณ พิพิธภัณฑ์สิรินธร อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ระหว่าง 14 กันยายน - 14 ตุลาคม 2561 เพื่อปลุกกระแสนักท่องเที่ยวได้เข้าไปสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่นที่มีอัตลักษณ์น่าสนใจ
ทางด้าน ททท. สำนักงานเพชรบุรี ร่วมกับรัฐและเอกชนท่องเที่ยว จัดงาน “เทศกาลกินหอย ดูนก ตกหมึก ชะอำ ครั้งที่ 19” ระหว่าง 8-15 กันยายน 2561 ณ บริเวณจุดชมวิวชายหาดชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เนื่องจากตามแนวชายฝั่งชะอำ ช่วงกันยายน-ตุลาคม ของทุกปีเป็นฤดูที่ชาวประมงออกเรือไปจับหมึกกลางทะเลซึ่งมีเป็นจำนวนมาก ภายในงานจัดกิจกรรมออกร้านจำหน่ายอาหารทะเลสดเลิศรสปรุง โดยมีโรงแรมและร้านอาหารดังในอชะอำและเพชรบุรีกว่า 50 ร้าน มาจำหน่ายในราคายุติธรรม พร้อมกับจัดนิทรรศการเกี่ยวกับนกนานาชนิด การออกร้านจำหน่ายสินค้าท้องถิ่นบนถนนคนเดิน
ข่าวที่ 3 “สมาชิกบางจากใช้แค่12แต้มทำไมโครอินชัวรันส์”
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ได้ร่วมกับ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ในโครงการ “กรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มด้วยรักและห่วงใย (ประกันภัย 10 บาท)” หรือ ไมโครอินชัวรันส์
โดยบางจากได้เปิดให้สมาชิกผู้ถือบัตรแก๊สโซฮอล์คลับและดีเซลคลับ ใช้เพียง 12 คะแนน เพื่อแลกรับสิทธิ์การทำประกันฟรีกับโครงการของเมืองไทยประกันชีวิต ลูกค้าสามารถเข้าไปลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่านเว็บไซต์ http://www.bcpgreenclub.com หรือ https://goo.gl/kF9XQn โดยกรอกข้อมูลส่วนตัว (เช่น ชื่อ-นามสกุล/เลขที่บัตรประชาชน/เบอร์โทรศัพท์มือถือ) และเลขที่สมาชิกตามหน้าบัตรของบางจากเพื่อลงทะเบียนขอรับสิทธิ์
หลังจากการลงทะเบียนทางลูกค้าจะได้รับ SMS ยืนยันการได้รับสิทธิ์ตามรอบที่ทางบางจากกำหนด (ทุกวันจันทร์, พุธ, ศุกร์) ภายในเวลา 16.00น. จะได้รับความคุ้มครองเริ่มต้นในวันถัดไปหลังจากที่ได้รับ SMS ยืนยันสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว เช่น ได้รับ SMS ในวันจันทร์ จะได้รับความคุ้มครองตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันอังคาร
ส่วนรอบการลงทะเบียนลงทะเบียน วันศุกร์ เวลา 12.01น. - วันจันทร์ เวลา 12.00น. จะได้รับ SMS วันจันทร์ พร้อมตัด 12 คะแนน ลงทะเบียน วันจันทร์ เวลา 12.01น. - วันพุธ เวลา 12.00น. จะได้รับ SMS วันพุธ พร้อมตัด 12 คะแนนลงทะเบียน วันพุธ เวลา 12.01น. - วันศุกร์ เวลา 12.00น. จะได้รับ SMS วันศุกร์ พร้อมตัด 12 คะแนน และ กรณีรอบการส่ง SMS ตรงกับวันหยุดราชการ จะเลื่อนออกไปยังวันทำการถัดไป
ข่าวที่ 4 “ทอท.ปลื้มACIแนะวิธีใช้ไฮเทคพัฒนาสนามบินไทย”
นางสาวศศิศุภา สุคนธทรัพย์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานยุทธศาสตร์) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” เปิดเผยว่า ได้นำทีมผู้บริหารและพนักงาน ทอท.ต้อนรับคณะเจ้าหน้าที่ ACI Asia-Pacific และผู้แทน ACI World Business Partners (WBP) 19 คน จากโครงการ ACI World WBP Airport Tour ประจำปี 2561 ที่มาเยี่ยมชมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และรับฟังการบรรยายสรุปโครงการพัฒนาระยะที่ 2 และ 3
โดย ทอท.ได้รับข้อมูลที่เป็นจากผู้แทน WBP ได้แนะนำเสนอรายละเอียดเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์และบริการ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อโครงการพัฒนาท่าอากาศยานภายใต้การดำเนินงานของ ทอท.ในอนาคตด้วย
สำหรับโครงการ ACI World WBP Airport Tour จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อให้สมาชิกผู้ประกอบการ WBP และท่าอากาศยานสมาชิกของ ACI Asia-Pacific ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ระหว่างกัน ปี 2561 จัดขึ้นที่ท่าอากาศยาน Kuala Lumpur International Airport ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ Siem Reap International Airport
ข่าวที่ 5 “TCEBจัดใหญ่ Thailand MICE Forum2018”
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ได้รับเกียรติจาก ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานปาฐกถางานใหญ่ Thailand MICE Forum 2018, Redefining Our Industry ในวันที่ 11 กันยายน 2561 ณ ห้องบางกอก คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งกำหนดจัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีแถลงผลงานทีเส็บประจำปี 2561 และการนำเสนอแผนกลยุทธ์ส่งเสริมธุรกิจไมซ์ตามปีงบประมาณ 2562
โดย รองนายกรัฐมนตรี จะปาฐกถาในหัวข้อ หัวข้อ “ประเทศไทยแรงขับเคลื่อนใหม่แห่งเศรษฐกิจเอเชีย – Thailand the New Driving Force of Asian Economy จากนั้น ดร.อรรชกา สีบุญเรือง ประธานกรรมการส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ จะแถลงถึงผลการดำเนินงานตลอดทั้งปีของทีเส็บ
ทั้งนี้ภายในงาน Thailand MICE Forum 2018, Redefining Our Industry ทีเส็บได้เชิญวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิระดับนานาชาติ มาถ่ายทอดความรู้ในเวทีสัมมนา พร้อมทั้งเปิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ให้แก่ผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมไมซ์ ทั้งทางด้านนวัตกรรม การสรางเครือข่ายทางธุรกิจและการลงทุน การเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจไทย เพื่อเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันในเวทีสากลระดับโลกในอนาคตต่อไป
ช่วงที่ 2 เมืองไทยต้องไปให้รู้ ทริปนี้ชวนขึ้นเหนือ ปักหมุดที่ “เขาค้อ-ภูทับเบิก” ตามไปดูให้เห็นกับตาว่า แหล่งผลิตผักสด ๆ ซูเปอร์มาร์เก็ตบนเขาในถิ่นสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย มีเรื่องราวน่าค้นหาตำนาน “ข้าวลืมผัว” กับการได้สัมผัสทะเลหมอกแสนงาม ส่วนสุขภาพต้อง
@“เขาค้อ-ภูทับเบิก”เพชรบูรณ์ครัวโลกของจริง
ภาพจำของเมืองทะเลหมอกดอกไม้ “เพชรบูรณ์” หรือสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย เป็นอีกเมืองรองน่าท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป
ปักหมุดการเดินทางจุดแรกบริเวณที่ “เขาค้อ” เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและการเกษตรปลูกพืชบนเนินเขาเล่นระดับเขียวสดใสสวยงาม คล้าย ๆ เป็นครัววัตถุดิบอาหารของคนไทยและชาวโลก พื้นที่เกิน 40 % ใช้ปลูกพืชผักต่างๆ ที่ส่งให้คนทั้งประเทศได้กินอิ่มนอนหลับ ผลิตภัณฑ์เลื่องชื่อยุคนี้ต้องยกให้ “ข้าวลืมผัว” ชาวบ้านปลูกแบบธรรมชาติมีธาตุเหล็กสูง
ส่วนการชมทะเลหมอกบนภูพบได้ในช่วงเช้ามืดของแต่ละวัน ช่วงปลายฝนต้นหนาวจะได้สัมผัสทะเลหมอกแบบใกล้ชิดไหลเป็นสายสวยงามจริง ๆ
ที่โด่งดังมากอีกแห่งคือ “ภูทับเบิก” ตอนนี้ทางจังหวัดเพชรบูรณ์เข้าไปจัดระเบียบบริหารจัดการท่องเที่ยวแล้ว เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีถิ่นหรือ Local Experience จริง ๆ กับแปลงนาขั้นบันได ไร่กระหล่ำปลีอวบอ้วน เผือกหอมรสชาติดี พืชผักสดกรอบ คล้ายซูเปอร์มาร์เก็ตธรรมชาติขนาดใหญ่บนภูเขาซึ่งเน้นทำการเกษตรแบบยั่งยืน
สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปสักครั้งในพื้นที่ใกล้เคียงรอบเมืองเพชรบูรณ์ ก็มี “วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว” เป็นอันซีน ไทยแลนด์ ที่ได้รับการเผยแพร่ภาพเจดีย์พระธาตุที่มีพระพุทธรูปซ้อน ๆ กันจากใหญ่ไปหาเล็ก เป็นศิลปะกล่าวขานกันปากต่อปาก ภายในวัดมีสถานปฏิบัติธรรม แหล่งพักใจของคนวัยต่าง ๆ
อีกแห่งคือ “อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ” โบราณสถานเก่าแก่อายุกว่าพันปี ศูนย์รวมศิลปะยุคทวารวีดี ที่ได้นำศิลาแลงมาเป็นวัสดุหลักทำการก่อสร้าง เชื่อกันว่าเป็นสมบัติอันเป็นที่มาของเขาคลัง ซึ่งเป็นหนึ่งในโบราณสถานของอุทยานแห่งนี้คือ อุทยานเขาคลังใน
เที่ยวเมืองไทยทั้งเท่ เก๋ไก๋ ได้คุณค่า ในทุก ๆ มุมใหม่ เมืองรองเพชรบูรณ์
@เคล็ดลับป้องกันฟันผุ ป้องกันฟันดี
การกินอาหารไม่จำเป็นต้องงดอาหารแป้งและน้ำตาลเลยเสียทีเดียว แต่ควรกินอาหารให้ได้สัดส่วนและควรลดการส่งเสริมการเกิดภาวะฟันผุ
เริ่มต้นจาก ลดอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง รวมทั้งท็อฟฟี่ ของหวานที่รสหวานจัด หันมากินผลไม้และผักสดที่มีเนื้อและเส้นใยแข็งบ้าง เพื่อช่วยขจัดคราบเศษอาหารแทนการกินขนมหวานต่าง ๆ เลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มีความสมดุลของอาหารที่พอเหมาะไม่ว่าจะเป็นแป้ง ข้าว เนื้อสัตว์ ไขมัน ผัก ผลไม้
โดยกินอาหารให้เป็นเวลา ไม่ควรกินจุบกินจิก เพราะโอกาสเกิดกรดในช่องปากมีมากขึ้น และเสริมความแข็งแรงของฟันโดยการให้ฟลูออไรด์ในเด็ก รวมถึงต้องแปรงฟันให้ถูกวิธีและปฏิบัติจนเป็นกิจวัตรอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
สำคัญมาก ๆ คือ ควรตรวจสุขภาพฟันทุก 6 เดือน
ส่วนการรักษาสุขอนามัยของช่องปากนับว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดในทุกเพศทุกวัย เพราะถ้าสุขภาพภายในช่องปากดีจะทำให้การเกิดฟันผุได้น้อยลง ซึ่งสุขภาพภายในช่องปากจะรวมทั้งการป้องกันการเกิดเหงือก และเนื้อเยื่อในช่องปากอักเสบเรื้อรัง กระดูกที่เป็นเบ้าฟันต้องแข็งแรงและ การแปรงฟันที่ถูกวิธี
เพราะความสัมพันธ์ของอาหารมีอิทธิพลต่อการเกิดฟันผุ ตามที่วงการแพทย์พบว่าเรื่องนี้มีผลโดยอ้อม เพราะเมื่อร่างกาย ขาดสารอาหารเกิดภาวะทุพโภชนาการจะมีผลต่อภาวะภูมิคุ้มกันของโรคต่ำลง การอักเสบของเนื้อเยื่อจะเกิดได้ง่ายกว่าปกติ ในเด็กทารกที่ยังไม่สามารถแปรงฟันได้ ควรทำความสะอาดฟันทุกครั้งหลังจากการกินนม อาจให้ดูดน้ำมาก ๆ หลังจากดูดนมแล้วและควรใช้ผ้านิ่ม ๆ เช็ดฟันให้สะอาด การให้เด็กดูดนมจนหลับไปจะทำให้เกิดฟันผุมาก เมื่อเด็กโตขึ้นสามารถที่จะเคี้ยวอาหารได้ การให้เด็กได้กัดเคี้ยวผัก ผลไม้ที่มีเส้นใยและรสไม่หวานจะมีประโยชน์ในแง่ที่ช่วยขจัดคราบและทำให้ฟันสะอาดและช่วยบริหารเหงือกด้วย แต่มิได้หมายความว่าจะเป็นวิธีที่ใช้แทนการแปรงฟันได้
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “การบินไทยชี้ตลาดญี่ปุ่น6เมืองโตแรงรายได้ดี”
ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กำกับดูแล บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์ประเทศญี่ปุ่นเผชิญภัยพิบัติทางธรรมชาติต่อเนื่อง มีผลทำให้การบินไทยซึ่งมีเที่ยวบินประจำ ไป-กลับ ตามเมืองต่าง ๆ ของญี่ปุ่นมากสุดในเอเชีย อาจจะได้รับกระทบต่อเรื่องรายได้บ้าง เนื่องจากต้องหยุดบริการเที่ยวบินตามสภาพภูมิอากาศ แต่ก็มีนโยบายให้การบินไทยดูแลทั้งผู้โดยสารและทางฝ่ายต่าง ๆ ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ดีของไทย แล้วจากนั้นเมื่อกลับสู่สถานการณ์ปกติก็ต้องเร่งฟื้นฟูตลาดให้กลับมาโดยเร็ว
นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้ร่วมกับฝ่ายบริหารที่เกี่ยวข้องตั้งรับสถานการณ์ตลาดญี่ปุ่นตามนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง ซึ่งจะต้องดูแลเป็นอย่างดี และในช่วงไตรมาสแรกปี 2562 จะเห็นการขยายตัวดีขึ้นตามลำดับ
อย่างไรก็ตามมีรายงานจากการบินไทย ว่าปัจจุบันมีส่วนแบ่งรายได้ตลาดการบรรทุกผู้โดยสารเข้าออกญี่ปุ่นประมาณ 20 % ของรายได้รวมทั้งหมดในแต่ละปี ต่อเนื่องมา 5 ปี และเติบโตเพิ่มเฉลี่ยปีละ 10 % จากตลาดผู้โดยสารไป-กลับ กรุงเทพฯ-ญี่ปุ่น ซึ่งมีเที่ยวบินบริการหลัก ๆ 6 จุดบิน วันละเกิน 11 เที่ยว ได้แก่ กรุงเทพฯ ไป-กลับ เมืองโตเกียว วันละ 5 เที่ยว โดยทำการบินขึ้น-ลง สนามบินนาริตะ วันละ 3 เที่ยว สนามบินฮาเนดะวันละ 2 เที่ยว เมืองโอซากา วันละ 2 เที่ยว เมืองนาโกยา วันละ 2 เที่ยว เมืองฟูกูโอกะ วันละ 1 เที่ยว และเมืองซับโปโร วันละ 1 เที่ยว
การบินไทยรายงานว่า ผู้โดยสารในตลาดเดินทาง ไป-กลับ ญี่ปุ่น เติบโตอย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการประกาศยกเลิกวีซ่าคนไทยทำให้เพิ่มการเดินทางไปท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นปีละเกือบล้านคน เช่นเดียวกันกับญี่ปุ่นมาท่องเที่ยวเมืองไทยปีละเกิน 1 ล้านคนเช่นกัน ส่งผลให้ขณะนี้การบินไทยสามารถครองส่วนแบ่งที่นั่งผู้โดยสารใช้บริการโดยรวมได้ถึง 38% แบ่งเป็น กรุงเทพฯ-โตเกียว 31% โอซากา 39% นาโกยา 75% ฟูกูโอกะ 100% ซัปโปโร 44%
ข่าวที่สอง “บัตรมิวพาสอัดโปรแรงดูคอนเสิร์ต 3 วงดัง”
มิวเซียมสยาม รายงานว่า ระหว่างวันนี้- 22 กันยายน 2561 ได้จัดโปรโมชัน “บัตรมิวพาส” ให้เข้าไปซื้อบัตรมิวพาส 2 ใบได้ในราคา 600 บาท เพื่อนำเที่ยวพิพิธภัณฑ์ฟรีทั่วประเทศกว่า 63 แห่ง โดยเดือนกันยายนนี้ให้สิทธิพิเศษ ซื้อบัตรพร้อมรับสิทธ์ชมฟรีมินิคอนเสิร์ตสุดมันส์ใกล้ชิดติดขอบเวทีกับ 3 ศิลปินดัง BNK48 ซีซันไฟว์ และนน เดอะว๊อยซ์ วันเสาร์ที่ 22 กันยายน 2561 ณ ลานกิจกรรมบรรยากาศสุดชิลของมิวเซียมสยาม ท่าเตียน กรุงเทพฯ
ซื้อบัตรได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทาง www.ticketmelon.com โทร.02-225-2777 หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ www.facebook.com/museumsiamfan
ข่าวที่สาม “คามิโอเฮ้าส์ชวนฟินกินอาหารเซี่ยงไฮ้ตลอดก.ย.”
โรงแรมคามิโอ เฮ้าส์, ศรีราชา จัดเทศกาลอาหารเซี่ยงไฮ้ วันที่ 1-30 กันยายน นี้ 11.00-24.00 น. ที่ห้องอาหาร แทพเพสทรี ชวนนักท่องเที่ยวไปอิ่มอร่อยฟินกินเที่ยวกับอาหารเซี่ยงไฮ้แบบต้นตำรับ ที่เชฟมืออาชีพคัดสรรเมนูขึ้นชื่อมาปรุงให้ได้รับประทานอย่างจุใจ เช่น ไก่ทอดเซี่ยงไฮ้ และอีกหลากหลายเมนู ที่รอให้มาลิ้มลองความอร่อย โทร 038-314-100 หรือ www.kameocollection.com
ติดตามฟังรายการได้เป็นประจำทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
เพิ่มยอดจังหวัดละ4เป็น10ล้านคนใน5ปีหน้า
คิงเพาเวอร์ชวนช้อปน้ำหอมใหม่8แบรนด์โลก
ททท.ประชันจัด4งานปลุกเที่ยวไทยคึกก.ย.นี้
สมาชิกบางจากเฮใช้12 แต้มแลกทำประกันฯ
ทอท.ปลื้มACIแนะเพิ่มไฮเทคขยายสนามบิน
TCEBเปิดเวทีจัดไทยแลนด์ไมซ์ฟอรัม11ก.ย.
ทัวร์เพชรบูรณ์ชมคลังอาหารเขาค้อ-ภูทับเบิก
เคล็บลับดูแลฟันดีไม่มีฟันผุตั้งแต่เด็กจนแก่
การบินไทยชี้ตลาดญี่ปุ่น6เมืองโตแรงปี’62
มิวเซียมพาสชูโปรพิเศษดูคอนเสิร์ต3วงดัง
คามิโอเฮ้าส์ชวนชิมอาหารเซี่ยงไฮ้ต้นตำรับ
ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97
ช่วงที่ 1 เกาะติดการขับเคลื่อนทัพใหญ่เที่ยวเมืองรองกับ “สมฤดี จิตรจง” ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผู้รับผิดชอบโครงการยกระดับการท่องเที่ยว 55 เมืองรอง ปี 2562 จุดเริ่มแผนปฏิบัติการเพิ่มฐานนักท่องเที่ยวจากจังหวัดละ 4 เป็น 10 ล้านคน-ครั้ง ให้สำเร็จภายใน 5 ปีข้างหน้า ปีนี้จะทยอยชิมลางคัดกรองมาเข้าร่วมโครงการก่อน 90 ชุมชน
 |
| สมฤดี จิตรจง ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) |
สมฤดี จิตรจง ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผู้รับผิดชอบโครงการ 55 เมืองรอง เปิดเผยว่า จะเริ่มขับเคลื่อนการตลาดโดยใช้งบประมาณปี 2562 จะแปลงโฉมต่อยอดจากโครงการ 12 เมืองต้องห้ามพลาด โดยจะเพิ่มการเติบโตทางด้านโลจิสติกส์กระตุ้นการลงทุน โดยมีที่มาจากนโยบายรัฐบาลมอบหมายให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันลดความเหลื่อมล้ำตามเมืองขนาดเล็กในจังหวัดต่าง ๆ แต่เนื่องจากคนส่วนใหญ่ยังมุ่งหน้าเที่ยวเมืองหลัก ดังนั้นจึงตั้งเป้ายกระดับด้วยฐานจำนวนนักท่องเที่ยวกำหนดนิยมเมืองรองคือพื้นที่ซึ่งมีคนเที่ยวปีละต่ำกว่า 4 ล้านคน ยอดสรุปทั่วประเทศมีทั้งหมด 55 จังหวัด
ตามแผนงบประมาณการตลาด ททท.ปี 2562 จัดทำแผนพัฒนาตามรูปแบบใหม่ ทั้งเรื่องมาตรฐานห้องพัก ระบบโครงข่ายคมนาคม ททท.จึงได้ทำเป็น 3 แบบ 1.เมืองหลักเชื่อมโยงสู่เมืองรอง เช่น นั่งเครื่องบินไปลงเชียงใหม่แล้วเดินทางต่อไปยังแม่ฮ่องสอน 2.เมืองรองที่มีศักยภาพสามาถขายตัวเองได้ เช่น เชียงราย 3.เมืองรองเชื่อมเมืองรอง ทำให้ท่องเที่ยวมีสีสันมากขึ้น เช่น สุโขทัย-กำแพงเพชร สุโขทัย-อุตรดิตถ์ แพร่-น่าน หรือ เชียงราย-พะเยา ทำให้จังหวัดรองเล็ก ๆ สามารถสร้างความสนใจแก่นักท่องเที่ยวได้
เมื่อกำหนดเส้นทางท่องเที่ยวเป็น 3 กลุ่มเรียบร้อยแล้ว จากนั้น ททท.ก็วิเคราะห์ถึงความพร้อมทางด้านคมนาคมการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว แต่แหล่งที่พักโดยรวมยังไม่ถึงเกณฑ์มาตรฐานมากนัก ขณะเดียวกันก็จะต้องส่งเสริมการท่องเที่ยว จึงต้องใช้วิธีเพิ่มรายได้เข้าท้องถิ่นด้วยการชูจุดขายจูงใจนักท่องเที่ยวให้ควักเงินซื้อสินค้าชุมชน ซึ่งเป็นชุมชนได้รับการคัดเลือกส่งผ่านมาจากระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงมหาดไทย มายัง ททท. โดยปี 2562 มีจำนวน 90 ชุมชนท่องเที่ยว
ขณะนี้ชุมชนทั้ง 90 แห่ง ได้ผ่านการกลั่นกรองวิเคราะห์จนตกผลึกว่ามีความพร้อมสามารถขายในเชิงการท่องเที่ยวชุมชนแบบเปิดกว้างได้แล้ว ททท.จึงวางแนวทางการขายโดยปูพรมทำ “การตลาดแบบเล่าเรื่องวิถีถิ่น” หรือ Content marketing เสน่ห์เมืองรองมาเล่าผ่านสไตล์ความโดดเด่นของแต่ละภาค ประกอบด้วย
ภาคเหนือ จะเล่าเรื่องเมืองเหนือผ่านผ้าพื้นเมือง เช่น ผ้าลายน้ำไหลจังหวัดน่าน อธิบายได้ถึงน้ำไหลบนผืนผ้าคือสัญลักษณ์ของแม่น้ำน่านซึ่งมีชุมชนเผ่าต่าง ๆ ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม อย่างไทลื้อซึ่งมีความเข้มแข็งเรื่องกิจกรรมประเพณีดั้งเดิม มีร้านอาหารถิ่น สิ่งเหล่านี้จะอยู่ในภาคเหนือ
ภาคอีสาน จะเล่าเรื่องเส้นทางสายอาหาร Gastronomy ตลอดแนวที่ตั้งของจังหวัดต่าง ๆ ตามเส้นทางลุ่มแม่น้ำโขง ช่วงน้ำขึ้นน้ำลงมีระบบนิเวศน์ในการเพาะปลูกพืชเกษตรปลอดสารเคมีที่นำมาปรุงอาหารปลอดภัยหรือ Green
ร้อยเรียงอยู่ในแต่ละเมนูจานเด่น
ภาคกลาง จะเล่าเรื่องผสมผสานนวัตกรรมสมัยใหม่กับนานาชาติที่หลั่งไหลเข้ามา ก็จะนำจุดเด่นเหล่านี้มาหลอมรวมเป็นเรื่องราวการท่องเที่ยว
สำหรับภาคอื่น ๆ อย่างภาคใต้ ภาคตะวันออก หรือแนวตะวันตก ก็จะใช้วิธีการเล่าเรื่องด้วยเนื้อหาความเป็นมาของท้องถิ่นนั้น ๆ
ผอ.สมฤดี กล่าวว่า ขณะนี้กำหนดแนวทางชัดเจนครบทุกส่วน คือ 1.เส้นทาง 55 เมืองรอง 2.วางกลยุทธ์การตลาดไปในทิศทางเดียวกันด้วยเรื่องเล่าท้องถิ่น-content marketing 3.กลุ่มเป้าหมาย ผสมผสานทุกวัย บางพื้นที่ในบางภูมิภาค อาจจะเหมาะกับกลุ่มนักท่องเที่ยวมิลเลนเนียลหรือเจนวายที่มากับกระแสโซเชียล แต่บางภูมิภาคก็ต้องการกลุ่มวัยเก๋า เกษียณอายุ ดังนั้นการเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวในประเทศเดินทางเข้าไปแต่ละพื้นที่ต้องศึกษาตามลักษณะความแตกต่างแล้วนำมาโปรโมต ตามอัตลักษณ์ความหลากหลายต่างกัน วิธีการขายท่องเที่ยวจึงต้องเจาะให้ตรงเป้าแล้วนำมาโฆษณา ประชาสัมพันธ์
เช่น เชียงราย มีโครงการเชียงรายยั่งยืน เน้นครบทั้ง 3 ด้าน เศรษฐกิจ-สังคม-สิ่งแวดล้อม ต้องการกลุ่มครอบครัวเพราะศักยภาพรองรับได้ซึ่งเที่ยวได้พร้อม ๆ กัน 3 เจเนอเรชั่น คือ ปู่ย่าตายาย-พ่อแม่-ลูก ๆ ใช้งบการเดินทางท่องเที่ยวแต่ละครั้งค่อนข้างสูง ส่วนพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้คือแม่ ดังนั้นการทำตลาดครอบครัวต้องสร้างแรงจูงใจเจาะตรงไปยังผู้หญิงกับเด็ก โดยให้ ททท.แต่ละสำนักงานต้องรับลูกเจาะตลาดด้วย
ปี 2562 จะเป็นปีแรกที่ประกาศการท่องเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด จึงยังไม่ได้กำหนดเป้าหมายการเติบโต แต่จะใช้โมเดลของ 12 เมืองต้องห้ามพลาด ได้แบ่ง เมืองรองเกรด A ภายใน 5 ปีหน้า จะต้องเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่จากปัจจุบันปีละ 4 ล้านคน-ครั้ง เป็นไม่ต่ำกว่าปีละ 10 ล้านคน-ครั้งต่อจังหวัด สร้างรายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10 % สาเหตุที่ตั้งเป้าสูงเพราะไม่สามารถนำนักท่องเที่ยวไปยังเมืองขนาดเล็กซึ่งขาดความพร้อมเรื่องที่พักหรือขีดความสามารถทางการรองรับปริมาณมาก ๆ ซึ่งจะมีผลกระทบตามมาทั้งเรื่องที่พักไม่เพียงพอ ตามด้วยปัญหาสิ่งแวดล้อม จึงต้องจัดกลุ่มเมืองรองเกรด B และ C แล้วค่อย ๆ สร้างการเติบโตให้อสดคล้องกับความสามารถในการรองรับตามความเหมาะสมโดยจะต้องระวังป้องกันไม่ให้ไปกระทบหรือทำลายวิถีชีวิตของชุมชนนั้น ๆ
ผอ.สมฤดีย้ำว่า ได้วางกลยุทธ์เชื่อมโยงการตลาดท่องเที่ยว 55 เมือง กับการเพิ่มรายได้ท่องเที่ยววันธรรมดาเข้าด้วยกัน ซึ่งทำมาหลายปีมี 2 กลุ่มหลัก เดินทางเที่ยววันธรรมดาได้ที่ไม่ติดกับดักเวลา ได้แก่ 1.กลุ่มวัยเก๋าวัยเกษียน 2.กลุ่มประชุมสัมมนา สามารถไปตามเมืองหลักเมืองรองได้สบาย ๆ แต่จะต้องนำโปรดักซ์มานำเสนอให้สอดคล้องกับความสนใจ เช่น วัยเก๋านิยมเส้นทางทัวร์ไหว้พระทำบุญ ส่วนกลุ่มประชุมสัมมนาจะต้องรวบรวมพื้นที่มีห้องประชุมเพียงพอ แต่ ททท.ได้ศึกษาแผนบูรณาการกับทางสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” ก็พร้อมสนับสนุนผู้จัดประชุมกลุ่มขนาดเล็ก ๆ ด้วย เพื่อแก้ปัญหาห้องประชุมไม่เพียงพอ ทำให้เมืองรองสามารถรองรับได้และเลือกไปในวันธรรมดาได้
สำหรับปลายปี 2561 การท่องเที่ยวไฮไลต์ในภาคเหนือเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป แนะนำแม่ฮ่องสอน มีความเขียวขจีของขุนเขาและทุ่งนาขั้นบันได เดือนตุลาคมเป็นฤดูท่องเที่ยวภาคเหนือกับอีสาน ปีนี้แนวโน้มอากาศจะเย็นสบายกว่าทุกปีเพราะน้ำมาก ททท.จึงเตรียมโปรโมตการท่องเที่ยวผ่านโซเชียล มีเดีย ไปสัมผัสท่องเที่ยวชุมชน อีกทั้งการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรแต่ละครั้งมีส่วนสำคัญอย่างมากในการเผยแพร่ข้อมูลไปยังนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม และเป็นโอกาสของเมืองรองทั่วประเทศด้วย
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์จัดเต็มน้ำหอมเทรนด์ใหม่8แบรนด์โลก”
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้คัดสรรน้ำหอม กลิ่นใหม่ล่าสุดจาก 8 แบรนด์ชั้นนำ มเติมเต็มเทรนด์ระดับโลกมาแรงเริ่มกันยายนนี้ไปตลอดฤดูกาล
แบรนด์แรก PRADALUNA ROSSA BLACK EDP น้ำหอมแนวสปอร์ตที่พัฒนามาจาก Luna Rossa โดยเวอร์ชั่นนี้เป็นความหอมสดชื่นจากมะกรูด แอนเจลิกา แพทชูลี อำพัน มัสก์ และคูมาริน (50ml 2,300 Baht / 100ml 3,100 Baht)
แบรนด์ 2 ELIE SAAB LE PARFUM IN WHITE EDP ความหอมหวานสุดตรึงใจจากดอกไม้สีขาวนานาชนิด ที่ผสานเข้าไว้ด้วยกลิ่นหอมแนวฟรุตตี้ ฟลอรัล จากดอกส้ม เรดฟรุต มะลิ แพทชูลี ไวท์มัสก์ และอำพัน (50ml 2,790 Baht / 90ml 3,570 Baht)
แบรนด์ 3 CALVIN KLEIN - CK ONE SUMMER 2018 EDT LIMITED EDITION ความหอมในแนวฟรุตตี้ ซิตรัสที่โดดเด่นด้วยกลิ่นอันสดชื่นจากโมฮิโตมะนาว เคล้ากับเลมอน ฝรั่ง และไม้สนซีดาร์ วางจำหน่ายตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป (100ml 1,920 Baht)
แบรนด์ 4 JEAN PAUL GAULTIER - LE MÂLE EAU FRAÎCHE GAULTIER AIRLINES EDT AND CLASSIQUE EAU FRAÎCHE GAULTIER AIRLINES EDTเอดิชั่นใหม่ของความหอมสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่วางจำหน่ายเฉพาะในดิวตี้ ฟรีเท่านั้น (75ml 1,800 Baht / 50ml 2,300 Baht)
แบรนด์ 5 NINA RICCI - NINA MONSTERS EDT / LUNA MONSTERS EDT / LUNA BLOSSOM MONSTERS EDT LIMITED EDTION กลิ่นหอมใหม่ล่าสุด 3 แบบ 3 สไตล์ ที่มาในขวดรูปทรงสวยงามพร้อมลวดลายที่ดูสนุกสนานและขี้เล่น (50ml 2,200 Baht)
แบรนด์ 6 VERSACE -DYLAN BLUE POUR FEMME EDP ภายในขวดรูปทรงสวยงามที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน คือเอกลักษณ์แห่งความมีพลัง เย้ายวน และสง่างาม ส่วนผสมอันโดดเด่นของความหอม ที่บ่งบอกถึงความมีชีวิตชีวาและดึงดูด (50ml 2,875 Baht / 100ml 3,910 Baht)
แบรนด์ 7 BVLGARI - OMNIA PINK SAPPHIRE EDT ความหอมแนวเฟสทีฟ ฟลอรัลที่จับใจด้วยความอ่อนหวานของดอกลีลาวดี กระปรี้กระเปร่าด้วยพิงค์โพเมโล เบสโน้ตเป็นวานิลลา และมัสก์ (40ml 2,205 Baht / 65ml 2,775 Baht)
แบรนด์ 8 SALVATORE FERRAGAMO - AMO FERRAGAMO EDP กลิ่นหอมใหม่ล่าสุดสำหรับสุภาพสตรี ที่นำความสดใส จากมวลดอกไม้นานาพันธุ์ ผสานเข้ากับความหอมแนวอะโรมาติกและแนวฟรุตตี้ได้อย่างลงตัว (50ml 3,500 Baht / 100ml 4,680 Baht)
ข่าวที่ 2 “ททท.ลุยจัดเที่ยวทั่วไทย4งานใหญ่ช่วงก.ย.นี้”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงาน การจัดกิจกรรมกระตุ้นท่องเที่ยวของสำนักงานทั่วประเทศ ประชันจัดคึกคักถึง 4 งาน ระหว่างวันนี้ – 31 กันยายน นี้ เริ่มจากงานส้มโอชัยนาท การจัดโครงการประกวด “คลิปออนไลน์ เที่ยวเมืองรอง” ด้วยแคมเปญ TrueYou Happiness Challenge Thailand ใครสุขที่สุด...ชนะ” ชิงรางวัล 1.52 ล้านบาท “ตามรอยไดโนเสาร์ กาฬสินธุ์” และ “กินหอย ดูนก ตกหมึก ชะอำ”
นายอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานลพบุรี กล่าวว่า ได้สนับสนุนการจัดงาน “วันส้มโอขาวแตงกวาชัยนาท” ครั้งที่ 35 ระหว่างวันนี้ – 16 กันยายน 2561 ณ บริเวณเขื่อนเรียงหิน หน้าศาลากลางจังหวัดชัยนาท ซึ่งส้มโอขาวแตงกวาเป็นผลไม้ท้องถิ่นที่สำคัญทางด้านเศรษฐกิจของชัยนาท ปลูกสืบต่อกันมานานกว่า 100 ปี โด่งดังขึ้นชื่ออันดับต้น ๆ ของประเทศ สร้างรายได้ให้เกษตรกมีรายได้ดีคุณภาพชีวิตมั่นคง
นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร ที่ปรึกษา 10 ททท. กล่าวว่า ททท.ร่วมกับ บมจ. ทรู คอร์ปปอเรชั่น หน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดโครงการส่งเสริมเมืองรอง ชวนคนไทยท่องเที่ยวไทย ผ่านแคมเปญ “TrueYou Happiness Challenge Thailand ใครสุขที่สุด...ชนะ” ด้วยการชวนให้ออกมาค้นหาสุดยอดทีม Creative Travelers ที่โชว์ความคิดสร้างสรรค์ผลิตคลิปรายการออนไลน์นำเสนอเสน่ห์การเดินทางไปท่องเที่ยวทั่วไทย 5 ภาคใน 16 จังหวัดเมืองรอง พิชิตเงินรางวัล พร้อมแพ็กเกจทรูมูฟ เอช ฟรี 1 ปี มูลค่ารวม 1.52 ล้านบาท เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ – 30 กันยายน 2561 ทาง www.trueyou-happiness.com
อีกกิจกรรม ททท.ได้จัดส่งเสริมการท่องเที่ยวกาฬสินธุ์ ทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ "ตามรอยไดโนเสาร์...ตะลุยแดนอีสาน" ณ พิพิธภัณฑ์สิรินธร อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ระหว่าง 14 กันยายน - 14 ตุลาคม 2561 เพื่อปลุกกระแสนักท่องเที่ยวได้เข้าไปสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่นที่มีอัตลักษณ์น่าสนใจ
ทางด้าน ททท. สำนักงานเพชรบุรี ร่วมกับรัฐและเอกชนท่องเที่ยว จัดงาน “เทศกาลกินหอย ดูนก ตกหมึก ชะอำ ครั้งที่ 19” ระหว่าง 8-15 กันยายน 2561 ณ บริเวณจุดชมวิวชายหาดชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เนื่องจากตามแนวชายฝั่งชะอำ ช่วงกันยายน-ตุลาคม ของทุกปีเป็นฤดูที่ชาวประมงออกเรือไปจับหมึกกลางทะเลซึ่งมีเป็นจำนวนมาก ภายในงานจัดกิจกรรมออกร้านจำหน่ายอาหารทะเลสดเลิศรสปรุง โดยมีโรงแรมและร้านอาหารดังในอชะอำและเพชรบุรีกว่า 50 ร้าน มาจำหน่ายในราคายุติธรรม พร้อมกับจัดนิทรรศการเกี่ยวกับนกนานาชนิด การออกร้านจำหน่ายสินค้าท้องถิ่นบนถนนคนเดิน
ข่าวที่ 3 “สมาชิกบางจากใช้แค่12แต้มทำไมโครอินชัวรันส์”
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ได้ร่วมกับ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ในโครงการ “กรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มด้วยรักและห่วงใย (ประกันภัย 10 บาท)” หรือ ไมโครอินชัวรันส์
โดยบางจากได้เปิดให้สมาชิกผู้ถือบัตรแก๊สโซฮอล์คลับและดีเซลคลับ ใช้เพียง 12 คะแนน เพื่อแลกรับสิทธิ์การทำประกันฟรีกับโครงการของเมืองไทยประกันชีวิต ลูกค้าสามารถเข้าไปลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่านเว็บไซต์ http://www.bcpgreenclub.com หรือ https://goo.gl/kF9XQn โดยกรอกข้อมูลส่วนตัว (เช่น ชื่อ-นามสกุล/เลขที่บัตรประชาชน/เบอร์โทรศัพท์มือถือ) และเลขที่สมาชิกตามหน้าบัตรของบางจากเพื่อลงทะเบียนขอรับสิทธิ์
หลังจากการลงทะเบียนทางลูกค้าจะได้รับ SMS ยืนยันการได้รับสิทธิ์ตามรอบที่ทางบางจากกำหนด (ทุกวันจันทร์, พุธ, ศุกร์) ภายในเวลา 16.00น. จะได้รับความคุ้มครองเริ่มต้นในวันถัดไปหลังจากที่ได้รับ SMS ยืนยันสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว เช่น ได้รับ SMS ในวันจันทร์ จะได้รับความคุ้มครองตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันอังคาร
ส่วนรอบการลงทะเบียนลงทะเบียน วันศุกร์ เวลา 12.01น. - วันจันทร์ เวลา 12.00น. จะได้รับ SMS วันจันทร์ พร้อมตัด 12 คะแนน ลงทะเบียน วันจันทร์ เวลา 12.01น. - วันพุธ เวลา 12.00น. จะได้รับ SMS วันพุธ พร้อมตัด 12 คะแนนลงทะเบียน วันพุธ เวลา 12.01น. - วันศุกร์ เวลา 12.00น. จะได้รับ SMS วันศุกร์ พร้อมตัด 12 คะแนน และ กรณีรอบการส่ง SMS ตรงกับวันหยุดราชการ จะเลื่อนออกไปยังวันทำการถัดไป
ข่าวที่ 4 “ทอท.ปลื้มACIแนะวิธีใช้ไฮเทคพัฒนาสนามบินไทย”
นางสาวศศิศุภา สุคนธทรัพย์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานยุทธศาสตร์) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” เปิดเผยว่า ได้นำทีมผู้บริหารและพนักงาน ทอท.ต้อนรับคณะเจ้าหน้าที่ ACI Asia-Pacific และผู้แทน ACI World Business Partners (WBP) 19 คน จากโครงการ ACI World WBP Airport Tour ประจำปี 2561 ที่มาเยี่ยมชมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และรับฟังการบรรยายสรุปโครงการพัฒนาระยะที่ 2 และ 3
โดย ทอท.ได้รับข้อมูลที่เป็นจากผู้แทน WBP ได้แนะนำเสนอรายละเอียดเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์และบริการ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อโครงการพัฒนาท่าอากาศยานภายใต้การดำเนินงานของ ทอท.ในอนาคตด้วย
สำหรับโครงการ ACI World WBP Airport Tour จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อให้สมาชิกผู้ประกอบการ WBP และท่าอากาศยานสมาชิกของ ACI Asia-Pacific ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ระหว่างกัน ปี 2561 จัดขึ้นที่ท่าอากาศยาน Kuala Lumpur International Airport ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ Siem Reap International Airport
ข่าวที่ 5 “TCEBจัดใหญ่ Thailand MICE Forum2018”
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ได้รับเกียรติจาก ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานปาฐกถางานใหญ่ Thailand MICE Forum 2018, Redefining Our Industry ในวันที่ 11 กันยายน 2561 ณ ห้องบางกอก คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งกำหนดจัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีแถลงผลงานทีเส็บประจำปี 2561 และการนำเสนอแผนกลยุทธ์ส่งเสริมธุรกิจไมซ์ตามปีงบประมาณ 2562
โดย รองนายกรัฐมนตรี จะปาฐกถาในหัวข้อ หัวข้อ “ประเทศไทยแรงขับเคลื่อนใหม่แห่งเศรษฐกิจเอเชีย – Thailand the New Driving Force of Asian Economy จากนั้น ดร.อรรชกา สีบุญเรือง ประธานกรรมการส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ จะแถลงถึงผลการดำเนินงานตลอดทั้งปีของทีเส็บ
ทั้งนี้ภายในงาน Thailand MICE Forum 2018, Redefining Our Industry ทีเส็บได้เชิญวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิระดับนานาชาติ มาถ่ายทอดความรู้ในเวทีสัมมนา พร้อมทั้งเปิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ให้แก่ผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมไมซ์ ทั้งทางด้านนวัตกรรม การสรางเครือข่ายทางธุรกิจและการลงทุน การเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจไทย เพื่อเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันในเวทีสากลระดับโลกในอนาคตต่อไป
ช่วงที่ 2 เมืองไทยต้องไปให้รู้ ทริปนี้ชวนขึ้นเหนือ ปักหมุดที่ “เขาค้อ-ภูทับเบิก” ตามไปดูให้เห็นกับตาว่า แหล่งผลิตผักสด ๆ ซูเปอร์มาร์เก็ตบนเขาในถิ่นสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย มีเรื่องราวน่าค้นหาตำนาน “ข้าวลืมผัว” กับการได้สัมผัสทะเลหมอกแสนงาม ส่วนสุขภาพต้อง
@“เขาค้อ-ภูทับเบิก”เพชรบูรณ์ครัวโลกของจริง
ภาพจำของเมืองทะเลหมอกดอกไม้ “เพชรบูรณ์” หรือสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย เป็นอีกเมืองรองน่าท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป
ปักหมุดการเดินทางจุดแรกบริเวณที่ “เขาค้อ” เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและการเกษตรปลูกพืชบนเนินเขาเล่นระดับเขียวสดใสสวยงาม คล้าย ๆ เป็นครัววัตถุดิบอาหารของคนไทยและชาวโลก พื้นที่เกิน 40 % ใช้ปลูกพืชผักต่างๆ ที่ส่งให้คนทั้งประเทศได้กินอิ่มนอนหลับ ผลิตภัณฑ์เลื่องชื่อยุคนี้ต้องยกให้ “ข้าวลืมผัว” ชาวบ้านปลูกแบบธรรมชาติมีธาตุเหล็กสูง
ส่วนการชมทะเลหมอกบนภูพบได้ในช่วงเช้ามืดของแต่ละวัน ช่วงปลายฝนต้นหนาวจะได้สัมผัสทะเลหมอกแบบใกล้ชิดไหลเป็นสายสวยงามจริง ๆ
ที่โด่งดังมากอีกแห่งคือ “ภูทับเบิก” ตอนนี้ทางจังหวัดเพชรบูรณ์เข้าไปจัดระเบียบบริหารจัดการท่องเที่ยวแล้ว เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีถิ่นหรือ Local Experience จริง ๆ กับแปลงนาขั้นบันได ไร่กระหล่ำปลีอวบอ้วน เผือกหอมรสชาติดี พืชผักสดกรอบ คล้ายซูเปอร์มาร์เก็ตธรรมชาติขนาดใหญ่บนภูเขาซึ่งเน้นทำการเกษตรแบบยั่งยืน
สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปสักครั้งในพื้นที่ใกล้เคียงรอบเมืองเพชรบูรณ์ ก็มี “วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว” เป็นอันซีน ไทยแลนด์ ที่ได้รับการเผยแพร่ภาพเจดีย์พระธาตุที่มีพระพุทธรูปซ้อน ๆ กันจากใหญ่ไปหาเล็ก เป็นศิลปะกล่าวขานกันปากต่อปาก ภายในวัดมีสถานปฏิบัติธรรม แหล่งพักใจของคนวัยต่าง ๆ
อีกแห่งคือ “อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ” โบราณสถานเก่าแก่อายุกว่าพันปี ศูนย์รวมศิลปะยุคทวารวีดี ที่ได้นำศิลาแลงมาเป็นวัสดุหลักทำการก่อสร้าง เชื่อกันว่าเป็นสมบัติอันเป็นที่มาของเขาคลัง ซึ่งเป็นหนึ่งในโบราณสถานของอุทยานแห่งนี้คือ อุทยานเขาคลังใน
เที่ยวเมืองไทยทั้งเท่ เก๋ไก๋ ได้คุณค่า ในทุก ๆ มุมใหม่ เมืองรองเพชรบูรณ์
@เคล็ดลับป้องกันฟันผุ ป้องกันฟันดี
การกินอาหารไม่จำเป็นต้องงดอาหารแป้งและน้ำตาลเลยเสียทีเดียว แต่ควรกินอาหารให้ได้สัดส่วนและควรลดการส่งเสริมการเกิดภาวะฟันผุ
เริ่มต้นจาก ลดอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง รวมทั้งท็อฟฟี่ ของหวานที่รสหวานจัด หันมากินผลไม้และผักสดที่มีเนื้อและเส้นใยแข็งบ้าง เพื่อช่วยขจัดคราบเศษอาหารแทนการกินขนมหวานต่าง ๆ เลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มีความสมดุลของอาหารที่พอเหมาะไม่ว่าจะเป็นแป้ง ข้าว เนื้อสัตว์ ไขมัน ผัก ผลไม้
โดยกินอาหารให้เป็นเวลา ไม่ควรกินจุบกินจิก เพราะโอกาสเกิดกรดในช่องปากมีมากขึ้น และเสริมความแข็งแรงของฟันโดยการให้ฟลูออไรด์ในเด็ก รวมถึงต้องแปรงฟันให้ถูกวิธีและปฏิบัติจนเป็นกิจวัตรอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
สำคัญมาก ๆ คือ ควรตรวจสุขภาพฟันทุก 6 เดือน
ส่วนการรักษาสุขอนามัยของช่องปากนับว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดในทุกเพศทุกวัย เพราะถ้าสุขภาพภายในช่องปากดีจะทำให้การเกิดฟันผุได้น้อยลง ซึ่งสุขภาพภายในช่องปากจะรวมทั้งการป้องกันการเกิดเหงือก และเนื้อเยื่อในช่องปากอักเสบเรื้อรัง กระดูกที่เป็นเบ้าฟันต้องแข็งแรงและ การแปรงฟันที่ถูกวิธี
เพราะความสัมพันธ์ของอาหารมีอิทธิพลต่อการเกิดฟันผุ ตามที่วงการแพทย์พบว่าเรื่องนี้มีผลโดยอ้อม เพราะเมื่อร่างกาย ขาดสารอาหารเกิดภาวะทุพโภชนาการจะมีผลต่อภาวะภูมิคุ้มกันของโรคต่ำลง การอักเสบของเนื้อเยื่อจะเกิดได้ง่ายกว่าปกติ ในเด็กทารกที่ยังไม่สามารถแปรงฟันได้ ควรทำความสะอาดฟันทุกครั้งหลังจากการกินนม อาจให้ดูดน้ำมาก ๆ หลังจากดูดนมแล้วและควรใช้ผ้านิ่ม ๆ เช็ดฟันให้สะอาด การให้เด็กดูดนมจนหลับไปจะทำให้เกิดฟันผุมาก เมื่อเด็กโตขึ้นสามารถที่จะเคี้ยวอาหารได้ การให้เด็กได้กัดเคี้ยวผัก ผลไม้ที่มีเส้นใยและรสไม่หวานจะมีประโยชน์ในแง่ที่ช่วยขจัดคราบและทำให้ฟันสะอาดและช่วยบริหารเหงือกด้วย แต่มิได้หมายความว่าจะเป็นวิธีที่ใช้แทนการแปรงฟันได้
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “การบินไทยชี้ตลาดญี่ปุ่น6เมืองโตแรงรายได้ดี”
ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กำกับดูแล บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์ประเทศญี่ปุ่นเผชิญภัยพิบัติทางธรรมชาติต่อเนื่อง มีผลทำให้การบินไทยซึ่งมีเที่ยวบินประจำ ไป-กลับ ตามเมืองต่าง ๆ ของญี่ปุ่นมากสุดในเอเชีย อาจจะได้รับกระทบต่อเรื่องรายได้บ้าง เนื่องจากต้องหยุดบริการเที่ยวบินตามสภาพภูมิอากาศ แต่ก็มีนโยบายให้การบินไทยดูแลทั้งผู้โดยสารและทางฝ่ายต่าง ๆ ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ดีของไทย แล้วจากนั้นเมื่อกลับสู่สถานการณ์ปกติก็ต้องเร่งฟื้นฟูตลาดให้กลับมาโดยเร็ว
นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้ร่วมกับฝ่ายบริหารที่เกี่ยวข้องตั้งรับสถานการณ์ตลาดญี่ปุ่นตามนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง ซึ่งจะต้องดูแลเป็นอย่างดี และในช่วงไตรมาสแรกปี 2562 จะเห็นการขยายตัวดีขึ้นตามลำดับ
อย่างไรก็ตามมีรายงานจากการบินไทย ว่าปัจจุบันมีส่วนแบ่งรายได้ตลาดการบรรทุกผู้โดยสารเข้าออกญี่ปุ่นประมาณ 20 % ของรายได้รวมทั้งหมดในแต่ละปี ต่อเนื่องมา 5 ปี และเติบโตเพิ่มเฉลี่ยปีละ 10 % จากตลาดผู้โดยสารไป-กลับ กรุงเทพฯ-ญี่ปุ่น ซึ่งมีเที่ยวบินบริการหลัก ๆ 6 จุดบิน วันละเกิน 11 เที่ยว ได้แก่ กรุงเทพฯ ไป-กลับ เมืองโตเกียว วันละ 5 เที่ยว โดยทำการบินขึ้น-ลง สนามบินนาริตะ วันละ 3 เที่ยว สนามบินฮาเนดะวันละ 2 เที่ยว เมืองโอซากา วันละ 2 เที่ยว เมืองนาโกยา วันละ 2 เที่ยว เมืองฟูกูโอกะ วันละ 1 เที่ยว และเมืองซับโปโร วันละ 1 เที่ยว
การบินไทยรายงานว่า ผู้โดยสารในตลาดเดินทาง ไป-กลับ ญี่ปุ่น เติบโตอย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการประกาศยกเลิกวีซ่าคนไทยทำให้เพิ่มการเดินทางไปท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นปีละเกือบล้านคน เช่นเดียวกันกับญี่ปุ่นมาท่องเที่ยวเมืองไทยปีละเกิน 1 ล้านคนเช่นกัน ส่งผลให้ขณะนี้การบินไทยสามารถครองส่วนแบ่งที่นั่งผู้โดยสารใช้บริการโดยรวมได้ถึง 38% แบ่งเป็น กรุงเทพฯ-โตเกียว 31% โอซากา 39% นาโกยา 75% ฟูกูโอกะ 100% ซัปโปโร 44%
ข่าวที่สอง “บัตรมิวพาสอัดโปรแรงดูคอนเสิร์ต 3 วงดัง”
มิวเซียมสยาม รายงานว่า ระหว่างวันนี้- 22 กันยายน 2561 ได้จัดโปรโมชัน “บัตรมิวพาส” ให้เข้าไปซื้อบัตรมิวพาส 2 ใบได้ในราคา 600 บาท เพื่อนำเที่ยวพิพิธภัณฑ์ฟรีทั่วประเทศกว่า 63 แห่ง โดยเดือนกันยายนนี้ให้สิทธิพิเศษ ซื้อบัตรพร้อมรับสิทธ์ชมฟรีมินิคอนเสิร์ตสุดมันส์ใกล้ชิดติดขอบเวทีกับ 3 ศิลปินดัง BNK48 ซีซันไฟว์ และนน เดอะว๊อยซ์ วันเสาร์ที่ 22 กันยายน 2561 ณ ลานกิจกรรมบรรยากาศสุดชิลของมิวเซียมสยาม ท่าเตียน กรุงเทพฯ
ซื้อบัตรได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทาง www.ticketmelon.com โทร.02-225-2777 หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ www.facebook.com/museumsiamfan
ข่าวที่สาม “คามิโอเฮ้าส์ชวนฟินกินอาหารเซี่ยงไฮ้ตลอดก.ย.”
โรงแรมคามิโอ เฮ้าส์, ศรีราชา จัดเทศกาลอาหารเซี่ยงไฮ้ วันที่ 1-30 กันยายน นี้ 11.00-24.00 น. ที่ห้องอาหาร แทพเพสทรี ชวนนักท่องเที่ยวไปอิ่มอร่อยฟินกินเที่ยวกับอาหารเซี่ยงไฮ้แบบต้นตำรับ ที่เชฟมืออาชีพคัดสรรเมนูขึ้นชื่อมาปรุงให้ได้รับประทานอย่างจุใจ เช่น ไก่ทอดเซี่ยงไฮ้ และอีกหลากหลายเมนู ที่รอให้มาลิ้มลองความอร่อย โทร 038-314-100 หรือ www.kameocollection.com
ติดตามฟังรายการได้เป็นประจำทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
 |
| เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน คอลัมนิสต์การบิน-ท่องเที่ยว และผู้ดำเนินรายการ |
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น