เปิดใจ สุเมธ ดำรงชัยธรรม ดีดีใหม่การบินไทย ลุยปลดหนี้ปี'61 สายการบินแห่งชาติ รุกซื้อฝูงบินใหม่แสนล้าน
เปิดใจ สุเมธ ดำรงชัยธรรม 48ชั่วโมงดีดีใหม่ใหม่การบินไทย
รับลูกรัฐบาลลุยแผนปลดหนี้สายการบินแห่งชาติโลกยุค 4.0
รับลูกรัฐบาลลุยแผนปลดหนี้สายการบินแห่งชาติโลกยุค 4.0
เรื่องและภาพโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza #thaiairways #facebook.com/penroongyaisamsaen
นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่(DD) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) คนใหม่ล่าสุด เปิดใจให้สัมภาษณ์ อย่างเป็นทางการ หลังเข้ารับตำแหน่ง "DD การบินไทย" ผู้นำสายการบินแห่งชาติได้เพียง 48 ชั่วโมง หรือ 2 วัน เริ่มทำงานวันแรกเมื่อ 5 กันยานน 2561 ตามสรรจ้าง 4 ปี
นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม เปิดใจประโยคแรกด้วยการ รับปากจะเข้ามาพลิกสถานการณ์ธุรกิจการบินแถวหน้าของประเทศให้กลับมามีกไรได้ภายใต้ แผนฟื้นฟูการบินไทย ระยะ 5 ปีหน้า ที่คณะกรรมการ(บอร์ด) การบินไทย เห็นชอบจะให้มีการลงทุนกว่า 100,000 ล้านบาท จัดซื้อฝูงบินใหม่ 23 ลำ แล้วจะมาแกะตัวเลขทางการเงินในบัญชีที่ติดลบหรือขาดทุนต่อเนื่องมานานถึง 6 ปี แต่ละปีหลักหมื่นล้านบาท ให้กลับมาอู้ฟู่มีกำไรอีกครั้ง ในช่วงที่เข้ามาดำรงตำแหน่งผู้นำองค์กร
สิ่งแรกที่นายสุเมธจะทำ คือ ดึงศักยภาพของคนการบินไทยที่มีกว่า 25,000 คน รวมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน ร่วมมือกันเปลี่ยนองค์กรให้ขับเคลื่อนออกไปจากถ้ำหรือกับดักการขาดทุนที่ติดอยู่ขณะนี้ คู่ขนานกับการปรับโครงสร้างค่าใช้จ่ายที่เป็นต้นเหตุของปัญหาการขาดทุนต่อเนื่องมีอยู่ 2 ตัวแปรหลัก คือ
1.ค่าใช้จ่ายเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิงการบิน ซึ่งการบินไทยมีค่าใช้จ่ายอยู่ประมาณ 30% ของรายได้ทั้งหมดในแต่ละปี ซึ่งใกล้เคียงกับสายการบินนานาชาติทั่วไป แต่การทำกำไรต่อหน่วย (yield) โดยรวมยังต่ำกว่าคู่แข่งในตลาดเล็กน้อย
2.อัตราแลกเปลี่ยนทางการเงิน เพราะการบินไทยค้าขายโดยใช้สกุลเงินหลายสกุลเกินไป ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2561 ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กำกับดูแลการบินไทย เดินทางมามอบนโยบายโดยให้ฝ่ายบริหารร่วมมือกันหันมาใช้ระบบจัดตั้งศูนย์บริหารความเสี่ยงการเงิน จำกัด แบบเดียวกับ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)
ส่วนเรื่องอื่น ๆ ที่จะต้องเร่งเข้าแก้ไขควบคู่กันไปก็มี การบริหารทรัพย์สินเรื่องการใช้ฝูงบินอย่างคุ้มค่า เรื่อยไปจนถึงการวางกลยุทธ์ทำตลาดเชิงรุกในทุกรูปแบบ ถึงแม้ปัจจุบันการบินไทยจะสามารถทำอัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยเข้าเป้าเกินกว่า 80% ขึ้นไปแล้วก็ตาม ยังมีอีกหลายส่วนจะต้องทำให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้
นายสุเมธกล่าวว่า เตรียมเข้าหารือกับผู้บริหาร บริศัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) "ทอท." เรื่องการเคลียร์พื้นที่ให้บริการเคาน์เตอร์เช็คอินผู้โดยสาร Row A , B ในอาคารผู้โดยสารสุวรรณภูมิหลังที่ 1 ซึ่ง ทอท.จะต้องทุบเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่เข้ากับการก่อสร้าง อาคารผู้โดยสารสุวรรณภูมิหลังที่ 2 ที่จะต้องลงมือทำในช่วงปี 2562
ทั้งนี้ การบินไทยจะขอเจรจากับ ทอท.บนเงื่อนไขที่การบินไทยและ ทอท.ต้องได้รับผลประโยชน์สูงสุดร่วมกัน แต่จะเป็นแนวทางใดนั้น จะต้องขอเวลาอีกสักระยะภายในกันยายนนี้ เนื่องจากตอนนี้เพิ่งเจ้ารับตำแหน่งดีดีการบินไทยได้เพียง 2 วันเท่านั้น
รวมทั้งมีแนวทางการบริหารตลอด 4 ปีข้างหน้า จะเน้นการให้ข้อมูลเรื่องอนาคตของการบินไทย เป็นหลัก จะไม่ย้อนไปฟื้นอดีตที่ผ่านมาของการบินไทย เพราะตนเองมีเป้าหมายต้องการให้สายการบินแห่งชาติของไทยผงาดกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งในเวทีโลก
นายสุเมธย้ำว่าชอบนโยบายที่ รมช.ไพรินทร์ มอบหมายโดยเปรียบเทียบการบินไทย มีชะตากรรมเดียวกันกับเป็นเสมือน "ทีม 13 หมูป่า" ที่ติดอยู่ในถ้าหลวง ขุนน้ำนางนอน ซึ่งมีเวลาจำกัด มีเงื่อนไขอีกหลายปัจจัยกดทับอยู่
ดังนั้จึงต้องปลุกให้คนการบินไทย 25,000 คนลุกขึ้นมาช่วยเหลือตนเองก่อน ขณะเดียสกันก็ต้องขอความช่วยเหลือจากทั้งประเทศระดมสรรพกำลังเข้ามาสนับสนุนการฟื้นฟูกิจการ เพราะวันนี้คงไม่มีคนไทยคนไหนอยากเห็นการบินไทยล่มสลาย หรือหากจะมัวแต่ทับถมกานบินไทยให้จมดินมากไปกว่านี้ ก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรเลย
แต่ถ้าหันมาช่วยกันคนละไม้ละมือ ดันการบินไทยออกมาจากหลุมดำในถ้ำสำเร็จอีกครั้งจะเป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองและคนไทยมากกว่านั้นเอง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น