จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 58 ของ “สวนสามพราน” แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติพร้อมที่พักติดแม่น้ำท่าจีน จังหวัดนครปฐม ครอบคลุมพื้นที่ 130 ไร่ จากรุ่นคุณยาย “คุณหญิงวลี ยุวบูรณ์” ผู้ก่อตั้ง สู่รุ่นคุณแม่ “สุชาดา ยุวบูรณ์” ผู้บุกเบิกพัฒนาสินค้าและทำตลาดการขาย กระทั่งวันนี้มาถึงยุคลูกกับหลาน “อรุษ นวราช” (ลูกชายคนโต) กรรมการผู้จัดการ “อนัฆ นวราช” (ลูกชายคนเล็ก) ผู้จัดการทั่วไป และ “อรรจ ยุวบูรณ์” (หลาน) รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้รวมพลังกันพลิกโฉมจนกลายเป็น “สามพราน โมเดล” ขานรับกระแสและเทรนด์ความต้องการของนักท่องเที่ยวคนไทยและทั่วโลก
วันนี้ “สวนสามพราน” กลายเป็น “ศูนย์รวมการท่องเที่ยวธรรมชาติเครือข่ายวิถีชีวิตชุมชนเกษตรอินทรีย์ครบวงจร” สามารถเชื่อมโยงตอบโจทย์การพัฒนาในทุกมิติทั้งทางด้าน “เศรษฐกิจ-สังคม-สิ่งแวดล้อม” อย่างยั่งยืน
|
อนัฆ-อรุษ-อรรจ 3ทายาทสานต่อธุรกิจสวนสามพราน |
“อรุษ นวราช” กรรมการผู้จัดการ สวนสามพราน อธิบายว่าเข้ามารับไม้ต่อจากคุณแม่สุชาดา ยุวบูรณ์ กว่า 1 ทศวรรษ จากนั้นได้ปรับโฉมโครงสร้างของสวนใหม่แบ่งเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนที่ 1 โครงการบุกเบิก “ห่วงโซ่อาหารสู่ความยั่งยืน ด้วย “สามพรานโมเดล-ธุรกิจเกื้อกูลสังคม” โดยการรณรงค์ เชิญชวนชาวบ้านรอบพื้นที่อำเภอสามพรานซึ่งมีอาชีพทำสวนเข้ามามีส่วนได้ส่วนเสียในเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ หันมาปลูกพืช ผัก ผลไม้ ปลอดสารเคมี ทยอยเข้าสู่มาตรฐานสากล IFOMของสหพันธ์เกษตรอินทรีย์นานาชาติ ควบคู่การทำให้เกิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) กระทั่งปัจจุบันมีเกษตรกรจากทั่วประเทศเข้าร่วมมากถึง 16 กลุ่ม โดยเฉพาะในแถบภาคกลางต่อเนื่องภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่ นครปฐม กาญจนบุรี เพชรบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับประโยชน์กว่า 180 ครอบครัว
จุดเริ่มจาก “ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ” นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สามพราน โมเดล กลายเป็นศูนย์กลางการผลิตสินค้าคุณภาพทางด้านวัตถุดิบอาหารอินทรีย์ทั้งพืชและสัตว์ สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ในปัจจุบัน
โดยสวนสามพราน มีแปลงเกษตรอินทรีย์นำร่องเรียกว่า “ปฐม ออร์แกนิก ฟาร์ม” อันเกิดจากการนำพื้นที่ส่วนเก่าริมแม่น้ำท่าจีน 30 ไร่ เป็นสถานที่ให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาเรียนรู้ ทดลองลงมือทำเวิร์คช้อป พืชผักผลไม้ตามฤดูกาล เมนูอาหารถิ่น เรื่อยไปจนถึงนำพืชมาแปรรูปเป็น ชาสมุนไพร ออร์แกนิก และอื่น ๆ
ไฮไลต์สำคัญทางสวนสามพราน ก็ได้นำวัตถุดิบเดือนละราว 15 ตัน จากเครือข่ายเข้ามาให้บริการตามห้องอาหารบริการนักท่องเที่ยวภายในรีสอร์ต 3 ห้อง คือ 1.ห้องอาหารริมน้ำ 2.ห้องอาหารอินจัน และ 3.ห้องอาหารแวนด้า ขณะเดียวกันก็ได้จัดนำขยะอาหารไปเข้ากระบวนการผลิตเป็นปุ๋ยธรรมชาติ หรือ Food Waste Manangement นำกลับมาใช้ในวงจรการเพาะปลูกเกษตรอินทรีย์ และการทำชีวภัณฑ์ดูแลต้นไม้ ผลิตน้ำมันไบโอดีเซล ทำไบโอแก๊ส ในโครงการฐานสาธิต การย้อมผ้า สถานีปุ๋ยหมักหมู่บ้านปฐม ถ่ายทอดองค์ความรู้แก่ผู้เข้าเยี่ยมชมทุกวัน ได้นำกลับไปใช้ที่บ้านได้ด้วย
ส่วนที่ 2 โครงการลงทุนเปิด “ตลาดสุขใจ” โดยใช้พื้นที่ด้านหน้าสวนสามพรานติดถนนเพชรเกษม ก่อสร้างตลาดเปิดโล่งเน้นใช้วัสดุธรรมชาติ เปิดให้เครือข่ายเกษตรอินทรีย์นำผลิตภัณฑ์มาจำหน่ายแบบครบวงจรทั้งวัตถุดิบอาหาร ปศุสัตว์ อาหาร ของใช้สำเร็จรูปบางชนิด เปิดบริการทุกวันเสาร์-อาทิตย์ โดยได้รับรูปแบบใหม่ มีผู้ค้าเข้ามาร่วมขายราว 60 คูหา เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 เป็นต้นไป กำลังทดลองเปิดขายเพิ่มช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ ส่วนผลสำเร็จภายในเวลาเพียง 9 ปี ตลาดสุขใจสามารถทำรายได้กระจายถึงมือเกษตรกรแล้วกว่า 214 ล้านบาท จากผู้คนที่แวะเวียนเข้ามาอุดหนุนรวมกว่า 833,000 คน
วันที่ 13-15 ธันวาคม 2562 สวนสามพราน เตรียมจัดงาน “สังคมสุขใจ” ครั้งที่ 6 บริเวณ ตลาดสุขใจ จ.นครปฐม เปิดตั้งแต่ 9.00-17.00 น.ภายใต้ธีม “ช้อปเปลี่ยนโลก” เปิดฟรีให้ผู้ที่สนใจเข้ามาสัมผัสประสบการณ์ “ขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์สู่ชีวิตที่สมดุล” โดยได้เตรียมลานจอดรถไว้รองรับในบริเวณโรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ช่วงวันที่ 14-15 ธันวาคม นี้ พร้อมกับมีบริการรถรับส่งเข้างาน สอบถามเพิ่มโทร 034 322 588-93 หรือทาง facebook/สังคมสุขใจครั้งที่ 6
ส่วนที่ 3 โครงการ “ปฐม ออร์แกนิก วิลเลจ” ซึ่งได้เปิด Open House ต้อนรับแฟนคลับทุกวัยทั้งชาวไทยและนานาชาติไปเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2562 โดยแปลงโฉมศูนย์แสดงวัฒนธรรมไทยหรือหมู่บ้านไทย ให้กลายเป็น “ปฐม ออร์แกนิก วิลเลจ” จัดทำฐานโชว์การผลิตสินค้าอินทรีย์แปรรูป ตามแบบวิถีไทย โดยดีไซน์กิจกรรมเพื่อให้นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมลงมือทำได้ด้วย ยึดปัจจัยสี่ซึ่งเป็นเส้นทางวัตถุดิบระบบห่วงโซ่อาหาร เริ่มจาก 1.ปัจจัยการผลิต 2.กรรมวิธีการแปรรูป 3.จัดทำเป็นผลิตภัณฑ์ 4.วางตลาดพร้อมขาย ควบคู่กับการเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเรียนรู้ 3 เส้นทาง ได้แก่ 1.เส้นทางข้าว 2.เส้นทางกล้วยอินทรีย์ 3.เส้นทางสมุนไพรอินทรีย์
มาถึงแล้วสามารถร่วมสนุกกับกิจกรรมยอดฮิตได้ โดยเฉพาะเด็ก ๆ สามารถเข้ามาวาดศิลป์ เล่นสี กับ Eco Printing ทำขยะมหาสนุก จากมหาวิทยาลัยราชภัฎนครปฐม การทำอาหารออร์แกนิก การดำนา เลี้ยงไส้เดือนดิน สีข้าวแปรรูปผลิตภัณฑ์ อย่าง น้ำส้มสายชูกล้วย สครับข้าว สบู่ข้าว ย้อมสีธรรมชาติ ร้อยดอกไม้ แกะสลักผลไม้ และอื่น ๆ พร้อมชมฐานสาธิตการปฎิบัติเศรษฐกิจหมุนเวียนควบคู่กันไป
ภายในบริเวณปฐม ออร์แกนิก วิลเลจ มีส่วนเชื่อมต่อไปยัง 2 โซน ประกอบด้วย โซนแรก “จำลองบ้านเรือนไทยภาคกลาง 2 ชั้น” ใต้ถุนสูงเปิดโล่ง โดยได้นำอุปกรณ์การทำอาหาร ขนมไทย มาสาธิตพร้อมเสิร์ฟหรือชิมได้ และให้ทดลองทำกิจกรรมอย่างสนุกสนาน นักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวให้ความสนใจเข้ามาร่วมเป็นจำนวนมากทุกสัปดาห์ ส่วนชั้น 2 ของบ้าน จัดทำเป็นพื้นที่ใช้สอยเอนกประสงค์ได้ เช่น จัดแสดงดนตรีไทย หรืออื่น ๆ โซนที่สอง “ปฐม ออร์แกนิก คาเฟ่” เปิดบริการร้าน ชา กาแฟ ของว่าง ขนมไทย เลือทำเลบนเนินสูงปูด้วยหญ้าเขียวขจี ล้อมรอบด้วยกระจกใส เพื่อให้ได้มองเห็นวิวสวนผ่านคลองขนาดเล็กลัดเลาะอยู่ทั่วบริเวณ เป็นอีกมุมที่นักท่องเที่ยวกลุ่มคนรุ่นใหม่ทั้งคนไทยและต่างชาตินิยมมานั่งชีล ๆ เพื่อถ่ายรูปเครื่องดื่ม อาหารและวิวสวย ๆ
สำหรับผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ของสวนสามพรานและเครือข่ายนั้น ได้ถูกนำมาสร้างเป็นแบรนด์ PATOM เช่น Patom Organic Farm, Patom Organic Village, Patom Organic Cafe, Patom Spa , Patom Shop ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ ภายใต้มาตรฐาน GMP และแนวคิด Organic Living รวมทั้งยังได้ใช้พื้นที่ติดกับตลาดสุขใจก่อตั้ง “สามพราน โมเดล อะคาเดมี่” เพื่อให้ผู้ประกอบการ หรือองค์กร ได้เข้ามาเรียนรู้แล้วนำไปขยายผลในพื้นที่ของตนเองได้ เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสังคมเกษตรอินทรีย์เพื่อชีวิตสมดุล ก่อให้เกิดความยั่งยืนจากรุ่นสู่รุ่นต่อไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น