ททท.ผุดTAGTHAIเขย่าวงการค้าbook.com-เทคนิคจองเที่ยว100เดียวให้ได้-คิงเพาเวอร์สร้างแลนด์มาร์กวินเทอร์วิลเลจเที่ยวปีใหม่
ททท.งัดTAGTHAIผุดบุ๊กกิ้งด็อตคอมเทรนด์ทางเลือกใหม่
ชี้เป้าเทคนิคจองทัวร์100เดียว2หมื่นสิทธิ์โค้งสุดท้ายธ.ค.นี้
คิงเพาเวอร์บูมแลนด์มาร์ควินเทอร์วิลเลจเติมสุขเที่ยวปีใหม่
มหานครฯสกายบาร์ดึงเชฟมิชลิน3ดาวเสิร์ฟดินเนอร์11ธ.ค.
ททท.อัดโปรใหม่“วันธรรมดาราคาช็อกโลก”เหลือหลัก100
ไทยจัดกระหึ่มเคาน์ดาวน์พลุสวยริมเจ้าพระยา-6เมืองรอง
บางจากนำศรีธารารักษ์8อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในเจ้าพระยา
TCEBครองไมซ์สุขภาพโลกดึงICFP2021จัดพัทยา
เที่ยว“สวนสามพราน”3โซนต้องห้ามพลาดสู่วิถีสุขสมดุล
ตามมาลดพุงลดอ้วนด้วยวิธีง่าย ๆ ก่อนจะสายเกินแก้!!
บอร์ดสั่งลุยสุวรรณภูมิทิศเหนือ-ลดแลนดิ้งฟรีเช่า
เหมานกแอร์รื้อใหม่แก้ขาดทุน-บินอินเตอร์เพียบปี’63
เข้าสู่รายการ
“รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางมือถือ
และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza # #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #ศิริปกรณ์เชี่ยวสมุทร
#เที่ยวกับกู๋ # # #
#
ช่วงที่
1 เปิดโลกการตลาดท่องเที่ยวยุคใหม่กับ
“ศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร” รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัยและพัฒนา
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กับเทคนิคการจองออนไลน์ “100เดียวเที่ยวทั่วไทย”
ให้ได้สิทธิ์ที่เหลืออีก 20,000 รายการ ช่วง 11,12 ธันวาคม
นี้ ลุยสร้างฮือฮาด้วยแอพลิเคชั่น “TAGTHAI” ที่กอดคอ 10
กระทรวง 50 สมาคม
สร้างอาวุธดิจิตัลพันธ์ใหม่สัญชาติไทยเขย่าวงการ booking.com ถูกดีมีสินค้าครบทั้งห้องพัก
ตั๋วเครื่องบิน ราคาเลือกได้ถูกใจทั้งไทยและต่างชาติ
แถมเปิดช่องให้ติชมได้เต็มเหนี่ยว
นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัยและพัฒนา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) |
นายศิริปกรณ์
เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัยและพัฒนา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) เปิดเผยว่า
เตรียมแผนเร่งเครื่องที่จะใช้ดิจิทัลทำการตลาดขานรับฤดูกาลท่องเที่ยว
ในการเดินหน้าถึงเวลาทัวร์ให้ทั่วไทย ภายใต้ 2 แคมเปญ ทยอยเปิดตัวแคมเปญแรก
“วันธรรมดา ราคาช็อกโลก” มีความพิเศษมอบเป็นของขวัญเป็นโปรโมชั่นทำร่วมกับเอกชนท่องเที่ยวทั่วประเทศ
ซึ่งมีข้อเสนอพิเศษมากมาย ทั้งที่พัก สปา เรือยอร์ช และอื่น ๆ
เข้าไปจับจองซื้อได้ในราคาลดสุดไปจนถึง 31 ธันวาคม 2562
ทางเว็บไซต์ www.tourismthailand.org แล้วคลิกต่อไปยังซึ่งเป็นช่องทางตรงที่ www.วันธรรมดาราคาช็อกโลก.com จะเห็นข้อเสนอการท่องเที่ยวใหม่
ๆ หมุนเวียนเข้ามาตลอด
เมื่อได้นำเครื่องมือดิจิทัลมาใช้บริการนักท่องเที่ยว
ทำให้เห็นถึงภาพรวมพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว
ซึ่งสามารถนำข้อมูลส่งต่อไปยังผู้ประกอบการหรือกลุ่มพันธมิตรเพื่อให้เข้าใจความต้องการอย่างแท้จริงของนักท่องเที่ยวแต่ละกลุ่ม
ช่วยส่งเสริมการตลาด มอบของขวัญพิเศษ ควบคู่กับการรับรู้ถึงพฤติกรรมความต้องการ
เพื่อนำมาจัดการสร้างแพลตฟอร์มตอบสนองได้อย่างตรงเป้าหมาย
ขณะนี้นักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลในแคมเปญ
“วันธรรมดา ราคาช็อกโลก” แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1.กลุ่มห้องพัก
2.กลุ่มตั๋วโดยสารของสายการบินต่าง
ๆ
เมื่อมีจำนวนการจองยิ่งมากก็ตอบโจทย์เรื่องการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวจากระยะใกล้ไปเที่ยวในจังหวัดไกล
ๆ เพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันทางด้านห้องพักก็จะมองเห็นการเติบโตด้านอัตราเข้าพักเฉลี่ยของแต่ละจังหวัดด้วยเช่น
หรืออีกรูปแบบการต้อนรับนักท่องเที่ยว
“เส้นทางอาหาร” หรือ Gastronomy
เป็นอันดับที่นักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการจองผ่านออนไลน์อย่างมีนัยสำคัญต่อการขยายฐานรายได้หมวดอาหารมากขึ้น
แคมเปญที่ 2 “100 เดียวเที่ยวทั่วไทย”
ของขวัญจาก ททท. นำมามอบให้ในช่วง 4 วันพิเศษ 40,000 รายการ
ในวันที่ 11เดือน11 , 12เดือน11 ตอนนี้ยังเหลืออีก
2 รอบ
คือ 11 เดือน12 และ 12เดือน12
อีกถึง 20,000 รายการ
มีแพกเกจ ตั๋วเครื่องบิน ห้องพัก สปา และอื่น ๆ รวมทั้งมี Ontop ลดเพิ่มด้วย
โดยเข้าไปรีบจองได้เลยทาง www.100เดียวเที่ยวทั่วไทย.com สถิติในช่วงพิเศษ
2 รอบแรกเดือนพฤศจิกายน
ของขวัญ 20,000 รายการ
ถูกจองหมดเกลี้ยงภายในเวลา 3 นาที และไม่เกิน 5 นาที
ส่วนการเข้าไปใช้สิทธิ์
100 เดียวเที่ยวทั่วไทย
ให้เกิดความเท่าเทียมช่วงการจองทาง www.tourism.org/100เดียวเที่ยวทั่วไทย
หรือ www.100เดียวเที่ยวทั่วไทย.com จากนั้นก็ใส่หมายเลขบัตรประชาชนอย่างรวดเร็ว
แต่ประเด็นคือจะต้องอาศัยความเร็วพอเปิดให้จองแต่ละรอบตั้งแต่เวลา 6
โมงเช้า นั้น ต้องย้ำว่าเมื่อเข้าไปนักท่องเที่ยวจะได้เห็นตัวเลขคิวโดยเฉลี่ย 5,000 คน/วินาที
ในระบบจะเรียงลำดับของผู้เข้ามาจองตามคิวโดยมีตัวเลขโชว์ให้เห็นบริเวณหน้าจอตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึง
40,000 คน
ดังนั้นผู้จองจะเห็นสิทธิ์ของตัวเองว่าอยู่ในลำดับเท่าไร
แต่ต้องยอมรับถึงระบบจัดการข้อมูลทุกอย่างโดยอัตโนมัติ
ทั้งเรื่องการตรวจสอบคุณสมบัติและการให้สิทธิ์ตามคิว
เมื่อสินค้าถูกจองครบจนหมดโปรแกรมดิจิทัลก็จะทำการตัดคิวที่เหลือทันที
นายศิริปกรณ์กล่าวว่า
ปี 2563 ททท.จะใช้จิติทัลเข้าไปมีส่วนร่วมขยายอุตสาหกรรมท่องเที่ยวขนาดใหญ่ของประเทศ
โดยพัฒนา Booking
Platform ในรูปแบบ Application อาจจะเรียกว่าแอพลิเคชั่นกลางของประเทศ
ซึ่งเกิดจากความร่วมมือกัน 10 กระทรวง และเอกชนอีกกว่า 30 สมาคม
เมื่อช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน
2562 ได้เปิดตัวแอพลิเคชั่นดังกล่าวเรียบร้อยแล้วในชื่อ
“TAGTHAI”
ภาษาไทยอ่านทักทาย แต่สกาลเรียกว่าแท็กไทย ซึ่งมาจาก แฮชแท็กแทนด้วยสัญลักษณ์ #
จองผ่านระบบ booking
online ต่าง ๆทั้งไทยและต่างชาติมีราคาต่างกัน
ทว่า “TAGTHAI”
แอพลิเคชั่นใหม่จะเป็นสัญชาติไทย 100 % ทั้งผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม เขียนโปรแกรม
และบริษัทเกี่ยวข้อง ธนาคารกสิกรไทย สภาหอการค้าไทย
หรือแม้แต่ผู้ดูแลระบบอย่างล็อกเลซ์ หรือกระทรวงดิจิทัล
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มุ่งมั่นร่วมกันสร้างวิสาหกิจเพื่อสังคม ทำให้เกิดการซื้อขายผ่านแอพลิเคชั่นดังกล่าวใน
“ราคาย่อมเยาว์” แน่นอน เสียคอมมิชชั่นน้อยลง
ประโยชน์จะเกิดขึ้นโดยตรงกับคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ
แอพลิเคชั่น TAGTHAI เฟสแรก
นำร่องด้วย โรงแรม ที่พัก ตั๋วโดยสารเครื่องบิน คุณสมบัติจะถูกกว่าแพลตฟอร์มของ Booking.com อื่น
ๆ รวมทั้งจะมีฟีเจอร์ต่าง ๆ อย่าง มาตรฐานความปลอดภัย หรือสามารถร้องเรียนได้
ถูกหลอกลวง ถูกทำร้าย ก็สามารถติดต่อผ่านแอพตรงไปยังตำรวจท่องเที่ยวได้ทันที
หรือแนะนำข้อมูลก็ทำได้ด้วยเช่นกัน
สำหรับสินค้าท่องเที่ยวที่มีให้จองในแอพลิเคชั่น
TAGTHAI นั้น
มีความครบถ้วนกระจายทั่วประเทศ
โดยเฉพาะห้องพักเพราะแอพนี้ทำงานร่วมกับสมาคมโรงแรมไทย
ส่วนสายการบินเริ่มจากแอร์ไลน์ในประเทศ
อนาคตจะมีสายการบินนานาชาติจากทั่วโลกเข้ามาด้วย เพราะตั้งใจทำให้ครบถ้วน
ด้วยความร่วมมือกันมากถึง 50
สมาคม
ก่อให้เกิดผล 1.จะช่วยการันตีนักท่องเที่ยวให้เกิดความมั่นใจ
เชื่อถือได้ และ 2.มีสินค้าครบถ้วนตามความต้องการของผู้บริโภค
นายศิริปกรณ์ย้ำว่า
ความตั้งใจส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยเครื่องมือที่นำมาใช้ในระบบดิจิทัลท่องเที่ยวเน้นความเป็นมิตรหรือ
Friendly ดังนั้นเฟสแรกจึงใส่แอพลิเคชั่น
เว็บไซต์ ที่ใช้อย่างสะดวกในการใช้งานบนมือถือ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ส่วนเฟส 2 ต้องการเพิ่มฟีเจอร์ช่องทางรับฟังเสียงจากนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ
ซึ่งมีความสนใจเรื่องใด และไม่พึงพอใจส่วนไหน ก็สามารถเสนอเข้ามาได้
ระหว่างนี้กำลังขับเคลื่อนเพื่อรวบรวมข้อมูลบูรณาการให้เกิดประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มอย่างมีประสิทธิภาพ
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ทั่วบริเวณงานมีทั้งอาหารการกินหลากหลาย
กิจกรรมสนุก ๆ สำหรับพ่อแม่พาลูกหญิงและชายเล่นอย่างสร้างสรรค์
มุมครอบครัวสุขสันต์กับการทำ DIY
ในสไตล์ที่ชอบตามแบบที่ใช่
รวมถึงเลือกช้อปปิ้งอย่างคุ้มค่าเงินกับขบวนพาเหรดสินค้าลิขสิทธิ์ดิสนีย์ในแคมเปญ Disney
Exclusive Sale จัดทัพสินค้าเข้าร่วมรายการลดกระหน่ำ
50 %
และความพิเศษมากมาย
“นิพนธ์ รักศรีอักษร”
รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานการตลาด กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์
เปิดเผยว่า คิง เพาเวอร์ ได้วางกลยุทธ์สร้างแลนด์มาร์คท่องเที่ยวส่งท้ายปี
2562 ต้อนรับปีใหม่ 2563
พร้อมตอกย้ำความเป็นจุดหมายปลายทางการช้อปปิ้งย่านในเมือง
(Downtown Shopping Destination)
ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจแถวหน้าของเมืองไทย 8 กลุ่ม คือ ธนาคารกสิกรไทย ไทยเบฟเวอเรจ
ฟาร์มโชคชัย เอสเอฟ ฟูจิ บิ๊กวัน ทรู
และเดอะ วอลท์ ดิสนีย์ (ประเทศไทย)
จัดมหกรรมมอบของขวัญส่งความสุขให้ครอบครัวนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติเลือกมาพักผ่อนในแลนด์มาร์คการท่องเที่ยวส่งท้ายปี
2562ต้อนรับปี 2563
โดยได้เนรมิตพื้นที่
“คิง เพาเวอร์ รางน้ำ กรุงเทพฯ”
เปิดประตูต้อนรับทุกครอบครัวทั้งชาวไทยและนานาชาติให้ชวนกันมาสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่
2 งานใหญ่
ในหมู่บ้านฤดูหนาว “คิง เพาเวอร์ วินเทอร์ วิลเลจ พรีเซนเต็ด บาย เคแบงค์ :
King Power Winter Village Presented
by KBank”
และดินแดนมหัศจรรย์ “คิง เพาเวอร์ แอนด์ ดิสนีย์ โฟรเซ่น 2 แมจิคัล เจอร์นีย์ : King Power and
Disney’s Frozen 2 Magical Jouney” เพื่อให้มาเยี่ยมเยือนได้ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 12
มกราคม 2563 บรรยากาศสบาย ๆ ได้ทุกวันตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 3 ทุ่ม โดยมี 2 ไฮไลต์เชิญชวนให้มาร่วมสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ด้วยกัน
ไฮไลต์แรก เปิด “ลานไอซ์สเก็ตกลางแจ้ง”
แห่งแรกในเมืองไทย โดย คิง
เพาเวอร์ จับมือธนาคารกสิกรไทย จำลองธีมความสนุกหน้าหมู่บ้านฤดูหนาว เพื่อให้เด็ก
ๆ ทั้งชายและหญิงได้เล่นอย่างอิสระปลอดภัย รวมทั้งยังจัดโซน “วิลเลจสแควร์”
มุมเกมท้าทายความสามารถของเด็กแต่ละวัย
รอบ ๆ
พื้นที่ มีบริการอาหารนานาชนิด อย่าง “ฟู้ดดี้ แคมป์ : Foodie Camp” ของ บิ๊ก วัน กรุ๊ป ร้านฟูจิเสิร์ฟเมนูญี่ปุ่น ฟาร์มโชคชัยนำผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อ
นมอืมม!...มิลค์ มาให้ชิม
ส่วน บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอสเอฟ คอร์ปอรั่น จำกัด (มหาชน)
บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ก็ร่วมด้วยอย่างเต็มที่
สิ่งที่ห้ามพลาดตลอดการเข้ามาท่องเที่ยวในหมู่บ้านฤดูหนาว
“คิง เพาเวอร์ วินเทอร์ วิลเลจ พรีเซนเต็ด บาย เคแบงค์ : King Power Winter
Village Presented
by KBank”
ที่ทางพันธมิตร เคแบงค์ กับ ทรู
มีสิทธิพิเศษมากมายจัดเตรียมไว้มอบให้นักท่องเที่ยวได้นำไปใช้ในกิจกรรมพิเศษภายในงาน
เช่น ซื้อคูปองโดยสแกนผ่านระบบ “คิวอาร์โค้ด ของแอพลิเคชั่น เคแบงค์” ครบ 500
บาท รับคูปองกิจกรรมเพิ่มทันทีอีก 50
บาท ส่วน “ทรู”
เปิดให้สมาชิกผู้ถือบัตร True Black Card กับ True
Red Card
รับฟรีคูปองร่วมกิจกรรมภายในโซน วินเทอร์ วิลเลจ ที่บูธ True You ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าอาคาร
ส่วนแฟนคลับ
ดิสนีย์ ช้อปสินค้าลิขสิทธิ์ที่นำเข้าร่วมรายการกับแคมเปญ Disney Exclusive
Sale พร้อมให้ส่วนลดทั้งร้านถึง 50
% ได้ตั้งแต่วันนี้ -12 มกราคม 2563 ที่คิง เพาเวอร์ ครอบคลุม 5 สาขา ได้แก่ รางน้ำ มหานคร ศรีวารี พัทยา
และภูเก็ต
ไฮไลต์ที่สอง พบกับ “คิง เพาเวอร์ แอนด์ ดิสนีย์
โฟรเซ่น 2 แมจิคัล
เจอร์นีย์ : King Power and Disney’s Frozen 2 Magical Jouney” โดย คิง เพาเวอร์
จับมือกับผู้นำเอนเตอร์เทนเมนต์ระดับโลก เดอะ วอลท์ ดิสนีย์ (ประเทศไทย)
ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2
จำลองอาณาจักรสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวได้ชม 6 โซน
ด้วยการนำเสนอความอลังการของฉากเหตุการณ์สำคัญในภาพยนต์ทั้งก่อนและหลังการเข้าฉาย
มุ่งต่อยอดทำกิจกรรมเชื่อมโยงการตลาดกับแฟนคลับดิสนีย์ครอบคลุมทั้งเด็กและผู้ใหญ่
เข้ามาเยี่ยมชมคาแรคเตอร์การ์ตูนที่ชื่นชอบ เพื่อสร้างความประทับใจตลอดการจัดงานข้ามปี
โดยเฉพาะในวันที่
1 ธันวาคม 2562
นักท่องเที่ยวห้ามพลาดชมการเปิดโซนใหม่ล่าสุด “สปิริตส์ ออฟ เนเจอร์ : Spirits of Nature” รวมทั้งจะเป็นวันที่
3 ศิลปินนักพากษ์ภาพยนต์
โฟรเซ่น 2 รวมตัวกันขึ้นเวทีโชว์การแสดง
“มินิคอนเสิร์ต” ช่วงเวลา 1 ทุ่มตรง
นำโดย“แก้ม-วิชญาณี เปียกลิ่น/หนูหนา-หนึ่งธิดา โสภณ/อาร์ม-กรกันต์ สุทธิโกเศศ
จะมามอบความสุขให้ทุกคนอย่างเต็มอิ่ม
มหานคร แบงค็อก สกายบาร์ ภูมิใจนำเสนอ
อลัน พาสสาร์ด เชฟชื่อดังระดับโลก เจ้าของรางวัลมิชลินสตาร์ระดับ 3
ดาว จากห้องอาหาร Arpège กรุงปารีส
ที่พร้อมบินตรงสู่ไทยเพื่อมอบประสบการณ์สุดพิเศษด้วยเมนูอาหารรสเลิศที่ได้รับการรังสรรขึ้นอย่างพิถีพิถัน
พร้อมวิวทิวทัศน์อันงดงามบนห้องอาหารและบาร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย
กับเมนูอาหารค่ำ 11 คอร์ส พร้อมไวน์ ในราคาเพียง 14,000++ บาท/ท่าน*
ระหว่างวันที่ 11-12 ธันวาคม 2562
นี้ ณ ห้องอาหารมหานคร แบงค็อก สกายบาร์
เมนูอาหารค่ำ 11
คอร์ส ของเชฟอลัน พาสสาร์ด ประกอบไปด้วยเมนู อาทิ ทาร์ตตาแตงคาราเมลหอมแขก (Tarte
Tatin of Caramelized Longor Shallots) ทาร์ทาร์ราดมัสตาร์ดสไตล์ออร์เลอ็อง (Hand
Cut Purple Tartare with Orleans Mustard) และบริตทานีล็อบสเตอร์น้ำเงินไวน์ซอส (Brittany
Blue Lobster Aiguillette with Cotes du Jura Wine) รวมทั้งของหวานปิดท้ายชื่อดังจากเชฟ
ได้แก่ พายแอปเปิ้ลช่อกุหลาบ (Rose Bouquet Apple Pie) ทั้งนี้ งานดังกล่าวจะเริ่มตั้งแต่เวลา
18:00 น. และให้บริการอาหารค่ำในเวลา 19:00 น.
อาหารค่ำมื้อพิเศษโดยเชฟมิชลินสตาร์ระดับ
3 ดาว ในครั้งนี้ จัดขึ้นที่มหานคร แบงค็อก
สกายบาร์ ห้องอาหารและบาร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย ที่ตั้งอยู่บนชั้น 76
ของคิง เพาเวอร์ มหานคร มหานคร แลนด์มาร์คของกรุงเทพฯ ใจกลางสาทร
ได้รับการออกแบบโดยทีมนักตกแต่งภายในระดับโลก Tristan Auer แห่ง
Wilson Associates’ Paris Atelier ที่มีความโดดเด่นและเป็นไฮไลต์เเห่งใหม่ของกรุงเทพฯ
อย่างแท้จริง
สำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่ โทร. 02-677-8722
หรืออีเมล์ mahanakhonskybar@kingpower.com พร้อมติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นต่างๆ
มหานคร แบงค็อก สกายบาร์ทาง www.facebook.com/MahanakhonBangkokSkyBar หรือ
www.MahanakhonBangkokSkyBar.com
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.)
ชวนคนไทยออกไปท่องเที่ยวสุดฟินได้ในราคาสุดช็อกตลอดช่วงเวลาแห่งการนับถอยหลังส่งท้ายปี
2562 กับมหกรรม “วันธรรมดา
ราคาช็อกโลก” ในแต่ละวันมีสินค้าท่องเที่ยวใหม่ ๆ หมุนเวียนมาให้คนไทยที่หลงรักการท่องเที่ยวได้เข้าไปช้อปอย่างเต็มที่ทางเว็บไซต์
www.วันธรรมดาราคาช็อกโลก.com คลิกจองได้ที่
http://bit.ly/2KizQGD
ตั้งแต่
21 พฤศจิกายน 2562
เป็นต้นไป
นักท่องเที่ยวชาวไทยเข้ามาส่องเว็บไซต์แล้วเลือกช้อปสารพัดสินค้าราคาช็อกโลก พร้อมลุ้นโชครับรางวัล
ครั้งที่ 3 ในวันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2562 มูลค่ารวมหลายแสนบาท ประกอบด้วย
รางวัลที่
1 ศรีพันวา 3 วัน 2 คืน รวมมูลค่า 79,350 บาท รวมห้องพัก Pool Suite Ocean
View พร้อมอาหารเช้า 2 คน มูลค่า 59,350 บาท และตั๋วเครื่องบิน
ไป-กลับ มูลค่า 20,000 บาท รางวัลที่
2-4 รับที่พักหรูฟรีจาก
เทวมันตร์ รีสอร์ท แอนด์ สปา 3 วัน 2 คืน มูลค่ารางวัลละ 16,000 บาท ด้วยห้องพัก Deluxe Room พร้อมอาหารเช้า
2 คน รางวัลที่
5-8 ร้าน ก๋วยเตี๋ยวกั้งบ้านเพ มอบบัตรกำนัลรับประทานอาหาร มูลค่ารางวัลละ
1,000 บาท โดยขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวที่ได้รับรางวัลสำรองก่อนล่วงหน้าก่อนเข้าใช้บริการ
ได้เวลา
“ช้อปวันธรรมดา ราคาช็อกโลก” ได้เที่ยวควบลุ้นรับโชคกันแล้ว
ตั้งหลักตรงบริเวณใจย่านช้อปปิ้งสุดฮ็อตใจกลางเมือง “กรุงเทพมหานคร”
ปักหมุดแรกใน
“สยาม ดิสคัพเวอรี่” เปิดโซน Ecotopia & Discover Thai กระหน่ำช้อปทุก 1,000 บาท จ่ายเพียงแค่ 700 บาทเท่านั้น
ต่อด้วย
“ศูนย์การค้าหรูเอ็มโพเรียมและเอ็มคอวเทียร์”
ยกร้านอาหารให้อิ่มอร่อยได้ทุกมื้อ เมื่อเลือกรับประทานอาหารตามร้านต่าง ๆ
ภายในศูนย์การค้า ครบ 500 บาท/ใบเสร็จ
รับบัตรกำนัลเก็บไว้รับประทานอาหารมื้อต่อไปในช่วงวันธรรมดา จันทร์-ศุกร์ ได้อีก 200
บาท
สำหรับ
“SIAM HOP”
รถบัสนำเที่ยวกินลมชมวิวความงดงามรอบกรุงเทพมหานคร เทราคาบริการชนิดหมดหน้าตักเหลือเพียงคนละ
199 บาท
จากราคาเต็ม 799 บาท
จากนั้นลองไปส่องใน
“จังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยม” ทั้งเมืองหลักและเมืองรอง
ประชันกันกระหน่ำทำราคาช็อกโลกตอบสนองความต้องการนักท่องเที่ยวเต็มเหนี่ยว
เข้าไปช็อปได้เลย
แห่งแรก
“เลเจนด์ สยาม จังหวัดชลบุรี” ดัมพ์ราคาแบบถล่มทลายมากว่า 70% เหลือเพียงแค่คนละ 490 บาท จากราคาเต็ม 1,430 บาท
เพื่อให้เข้าไปชมความอลังการของเลเจนด์สยามซึ่งมีถึง 8 รายการ
แห่งที่
2 “สวนน้ำรามายณะ
จังหวัดชลบุรี”
ไม่ยอมน้อยหน้าลดค่าบัตรเข้าสวนน้ำสุดทันสมัยเหลือคนละ 599 บาท จากราคาเต็ม 1,190 บาท
มาสนุกกันได้แบบสบายกระเป๋าตั้งแต่วันนี้ไปจนกว่าตั๋วราคาพิเศษจะหมด
แห่งที่ 3 “ไตรภูมิ มหัศจรรย์สามโลก จังหวัดภูเก็ต” รอช้าไม่ได้แล้ว ลดรัว ๆ ค่าบัตรเข้าชมเหลือเพียงคนละ 699 บาท เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สร้างประสบการณ์ร่วมสุดประทับใจกับการท่องเที่ยวเชิงผจญภัยในธีมปาร์คแบบ 3D วอล์คทรู ในดินแดนเหนือจินตนาการ
แห่งที่ 3 “ไตรภูมิ มหัศจรรย์สามโลก จังหวัดภูเก็ต” รอช้าไม่ได้แล้ว ลดรัว ๆ ค่าบัตรเข้าชมเหลือเพียงคนละ 699 บาท เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สร้างประสบการณ์ร่วมสุดประทับใจกับการท่องเที่ยวเชิงผจญภัยในธีมปาร์คแบบ 3D วอล์คทรู ในดินแดนเหนือจินตนาการ
แห่งที่
4 “ทริปชุมชน
บ้านดินแดง จังหวัดพังงา” ชีพจรลงเซาท์ช่วงปลายฝนต้นหนาวกันได้แบบสบายจ่ายแค่คนละ
300 บาท
จากราคาปกติ 1,000 บาท มาเที่ยวแล้วจะต้องทึ่งกับป่าชุมชนริมน้ำในแบบป่าอเมซอนแดนใต้อายุกว่าร้อยปี
ตลอดเส้นทางการนั่งเรือจะได้สูดโอโซนบริสุทธิ์ ไปพร้อม ๆ
กับได้เห็นวิถีชีวิตหลากหลายในป่าแห่งนี้...มาด่วนแล้วจะรู้ว่าคุ้มค่าจริง ๆ
ปิดท้ายด้วย
“บลู โวยาจ ไทยแลนด์” ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ใคร ๆ
ก็สามารถล่องเรือยอร์ชแบบชีลกับทริปการท่องเที่ยวซูปเปอร์ลักชัวรี่
เช่าเหมาลำเรือยอร์ชส่วนตัว ได้ในราคาเพียง 19,999 บาทเท่านั้น ตลอดช่วงวันธรรมดา จันทร์-พฤหัสบดี
จองด่วน ๆ ตั้งแต่วันนี้ -30 พฤศจิกายน
2562
ดร.ยุทธศักดิ์
สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
ททท.ร่วมกับพันธมิตรกลุ่มต่าง ๆ รวมทั้งผู้ประกอบการริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
เตรียมจัด จัดส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ : Amazing Thailand Countdown 2020 อย่างยิ่งใหญ่ตระการตาภายใต้แนวคิด
‘มหัศจรรย์พร 7 ประการ’ ในค่ำคืนวันที่ 31
ธันวาคม พ.ศ. 2562 ที่กรุงเทพมหานคร เลือกจัดบริเวณ ริเวอร์พาร์ค
ไอคอนสยาม ตอกย้ำถึงสายน้ำแห่งประวัติศาสตร์แม่น้ำเจ้าพระยาจุดหมายปลายของคนทั่วโลกอันเป็นแลนด์มาร์คของการเฉลิมฉลองค่ำคืนส่งความสุขที่มีชื่อเสียงระดับโลก
ซึ่งจะสร้างความคึกคักนำรายได้เข้าประเทศในช่วงข้ามคืนไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท
สำหรับพันมิตรร่วมจัดเคาน์ดาวน์กับ
ททท. หลัก ๆ ก็มี ดิ ไอคอนสยาม เรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท ดิ ไอคอนสยาม ซูเปอร์ลักซ์ เรสซิเดนซ์
คอร์ปอเรชั่น จำกัด และผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ ได้แก่ บริษัท ทรู
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)ธนาคารกสิกรไทย ตลอดค่ำคืนนับถอยหลังเข้าสู่วันใหม่ พันธมิตรทุกภาคส่วนริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
ได้ร่วมกันประดับประดาไฟสว่างไสวพร้อมจัดกิจกรรมแสงสีเสียงอย่างเต็มที่ ส่วนใน 5 ภูมิภาค ได้กระจายจัดตามแหล่งท่องเที่ยวเมืองรอง 6 จังหวัด
ได้แก่ เชียงราย พัทลุง ลพบุรี กาฬสินธุ์ สระแก้ว ราชบุรี
นายสุพจน์
ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด เตรียมตกแต่งสถานที่สวยงามด้วยไฟประดับประดาสว่างไสวอลังการริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
ส่งมอบความสุขให้นักท่องเที่ยวคนไทยและชาวต่างชาติ
ด้วยมหกรรมความบันเทิงสุดยิ่งใหญ่ตลอดค่ำคืน
การแสดงทางศิลปวัฒนธรรมอันวิจิตรงดงามที่ถ่ายทอดมรดกวัฒนธรรมไทยอันทรงคุณค่า
พร้อมจัดเตรียมไฮไลท์การแสดงพลุทำจากข้าวเหนียวไทย นวัตกรรมพลุแบบรักษ์โลกจากญี่ปุ่นซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมบนโค้งน้ำเจ้าพระยาระยะทาง
1,400 เมตร ในรัศมี 2
กิโลเมตร สามารถชมได้มากกว่า 1 ล้าน พร้อมกับเพิ่มพื้นนที่จุดชมพลุ
บนชั้น 7 ไอคอนสยาม สามารถชมพลุไปพร้อมกันได้ทั่วบริเวณตั้งแต่
1.สวนเฉลิมพระเกียรติ
2.ท่าเรือสาทร 3.ท่าเรือวัดสุวรรณ 4.สถานีตำรวจน้ำ
2 5.CAT บางรัก
6.ท่าเรือคลองสาน 7.โบสถ์กาลหว่าร์ (Holy Rosary
Church) 7.ลานจอดรถสำเพ็ง
และสถานที่อื่น ๆ เช่น ย่านสร้างสรรค์เจริญกรุง กับ ล้ง
1919 เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ กับโรงแรมริมน้ำชื่อดัง
ทั้ง แมนดาริน โอเรียนเต็ล เพนนินซูล่า รอยัล ออคิด เชอราตัน มิลเลนเนียม ฮิลตัน
แชงกรี-ลา
นายชัยวัฒน์
โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่คณะผู้บริหาร บริษัท
บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้นำผู้บริหารพร้อมพนักงานบางจาก จัดทำโครงการร่วมดูแลแม่น้ำเจ้าพระยา
ซึ่งสามารถออกดำเนินการโดยไม่ต้องรอเรือลำอื่น เริ่มตั้งแต่เมื่อ19 พฤศจิกายน 2562 เป็นต้นมา
โดยมีนายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า ให้เกียรติเป็นประธานพิธีเปิดใช้งานเรือขจัดคราบน้ำมัน
"ศรีธารารักษ์ 8" ของบางจาก โดยมีเจ้าหน้าที่จากสมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน
หรือ IESG ร่วมด้วย โดยใช้สถานที่บริเวณท่าเรือโรงกลั่นน้ำมันบางจาก
ถนนทางรถไฟสายเก่า กรุงเทพมหานคร
ศรีธารารักษ์
8 เป็นเรือขจัดคราบน้ำมันได้ถึง 10,000 ลิตร โดยติดตั้งระบบจัดกักคราบน้ำมันข้างเรือพร้อมใช้งาน (Side
Collecting Boom) พร้อมชุดจัดเก็บคราบน้ำมัน (Belt Skimmer) สามารถกักเก็บคราบน้ำมันได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องรอปฏิบัติการร่วมกับเรือลำอื่น
ๆ (ตามปกติต้องใช้เรือร่วมกัน 3 ลำ
จึงจะดำเนินการขจัดคราบน้ำมันได้) และมีระบบดับเพลิงประจำบนเรือ
เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในสถานการณ์ฉุกเฉิน
รวมทั้งมีห้องประชุมภายในเรือสะดวกต่อการวางแผนตามภารกิจของเจ้าหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ
เดิมเป็นเรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต ก่อสร้างเมื่อปี 2560 ใช้สนับสนุนกิจการนอกชายฝั่ง
ยาว 25 เมตร กว้าง 6 เมตร
ใช้จำนวนคนประจำเรือ 3 คน รองรับผู้โดยสารได้ 25 คน
นายชัยวัฒน์
กล่าวว่า บางจากดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยเป็นอย่างมาก
จากที่การปฏิบัติงานของเรามีการรับ-จ่ายน้ำมันทางเรือบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา
จึงจัดให้มีเรือ “ศรีธารารักษ์ 8” ประจำที่ท่าเรือโรงกลั่นบางจากฯ
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยและการดูแลสิ่งแวดล้อมให้กับชุมชนในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาจนถึงปากร่องน้ำ
กรณีเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน จำเป็นต้องมีการดูแลจัดการ ก็พร้อมช่วยเหลือสนับสนุนการจัดเก็บคราบน้ำมันของภาครัฐและกลุ่มสมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน
หรือ Oil Industry Environmental
Safety Group Association (IESG) โดยบางจากเป็นสมาชิกอยู่
รวมถึงการสนับสนุนเหตุอุทกภัยหรือเหตุอื่นๆ เมื่อได้รับการร้องขอก็จะเข้าไปช่วยทำงานได้ทันที
ข่าวที่ 6 “TCEBผนึก4องค์กรจัดICFP2021ยึดไมซ์สุขภาพโลก”
นางนิชาภา ยศวีร์ รองผู้อำนวยการอาวุโส สายงานธุรกิจ
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า TCEB ให้การสนับสนุน 4 องค์กร ประกอบด้วย
1.สถาบันบิลและเมลินดาเกตส์เพื่อประชากรและสุขภาพอนามัยเจริญพันธุ์ 2.กระทรวงสาธารณสุข 3.ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย
และ 4.สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน ผนึกความร่วมมือกันเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมนานาชาติด้านการวางแผนครอบครัวปี
2564 : International Conference on Family Planning : ICFP 2021
ระหว่างวันที่ 1-4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 ณ ศูนย์ประชุมพีช (Pattaya
Exhibition and Convention Hall - PEACH) เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี
โดยตั้งเป้าหมายผลักดันประเทศไทยเป็น "เมดิคัลฮับของภูมิภาคเอเชีย” นำผู้ประชุมจากทั่วโลกเข้ามาร่วมกว่า
5,000 คน หวังจะสร้างเศรษฐกิจทำรายได้เข้าประเทศจากงานนี้มูลค่ากว่า 400
ล้านบาท
สำหรับคู่แข่งที่เข้าร่วมประมูลสิทธ์ชิงงาน
ICFP2021 แล้วไทยสามารถเอาชนะมาได้มี 8 ประเทศ ได้แก่
แคนาดา สหราชอาณาจักรอินเดีย เคนย่า เม็กซิโก เนเธอแลนด์ ฟิลิปปินส์
โดยทีเส็บสามารถตอบโจทย์นโยบายรัฐบาลเรื่องไทยแลนด์
4.0 ของรัฐบาล ประการสำคัญยังสามารถดึงงานสำคัญ และขนาดงานใหญ่ระดับโลก
สร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจกระจายท้องถิ่น
แล้วยังสามารถสร้างประโยชน์ด้านการแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดองค์ความรู้ความก้าวหน้าทางวิชาการแพทย์ของไทย
สร้างเครือข่ายวิชาชีพในเวทีนานาชาติ
เปิดโอกาสให้บุคลากรวิชาชีพทางการแพทย์ในประเทศได้เข้าถึงความรู้ในระดับสากล
อันจะเป็นประโยชน์มหาศาลต่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมด้านการแพทย์ผ่านเวทีการจัดงานไมซ์ในอนาคต
นางนิชาภากล่าวว่า
ขณะนี้ทีเส็บร่วมกับองค์กรเครือข่ายพันธมิตรในประเทศไปชิงงานไมซ์ที่เกี่ยวข้องทางด้านการแพทย์
สาธารณสุข สุขภาพ ในแต่ละปีสามารถดึงมาจัดในเมืองไทยโดยมีส่วนแบ่งตลาดมากถึง 31 %
ของตลาดไมซ์ทั้งหมด ปี 2562 ทำสถิติจัดมากถึง 130 งาน ขนาด ตั้งแต่ 5,000 คนขึ้นไป
สร้างรายได้เข้าประเทศหลายหมื่นล้านบาท
สร้างผลงานความสำเร็จกระทั่งสมาคมการประชุมนานาชาติ (International Congress and Convention Association – ICCA) จัดให้ไทยครองการจัดงานคอนเวนชั่น
อันดับ 4 ของเอเชีย นับจากนี้ไปอีก 3 ปีข้างหน้า
ทีเส็บจะพยายามดึงงานมาจัดให้เกินกว่า100 งาน เพื่อขยับขึ้นไปอยู่อันดับ 3
ของเอเชีย
ขณะที่ปีงบประมาณ
2562
นอกจากการประมูลสิทธิ์งานประชุมนานาชาติการวางแผนครอบครัวปี 2564 แล้ว
ทีเส็บร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งสมาคม องค์กร และสถาบันการศึกษา
ชนะการประมูลสิทธิ์การจัดงานประชุมนานาชาติเข้ามาจัดในเมืองไทย ระหว่างปี 2563-2569
รวม 18 งาน คาดจะมีผู้เดินทางมาร่วมประชุมจากต่างประเทศรวมทั้งสิ้น 30,100 คน
สร้างรายได้กว่า 2,540 ล้านบาท แบ่งเป็น งานปี 2563 จำนวน 6 งาน ปี 2564 รวม 7 งาน ปี 2565 รวม 4 งาน และปี 2569 รวม 1 งาน
มร.
โฮเซ่ ออยยิ่ง ริมอน เดอะเซ็กเคิ่ล" ผู้อำนวยการสถาบันบิลและเมลินดาเกตส์เพื่อประชากรและสุขภาพอนามัยเจริญพันธุ์
และประธานคณะกรรมการจัดงาน ICFP 2021 ฝ่ายต่างประเทศ กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้จัดทำภายใต้ธีม "Universal
Health Care " ขานรับกับการพัฒนาคุณภาพประชากรมนุษย์อย่างมีคุณภาพตามแนวทางขององค์การสหประชาชาติ
UN) โดยการจัดงานในปี 2564
รัฐบาลไทยให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี
พร้อมหน่วยงานสถาบันการศึกษาและองค์กรสาธารณประโยชน์ที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลกด้านความเป็นเลิศในการพัฒนาประชากรและอนามัยเจริญพันธุ์ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญระดับประเทศ
จึงจะใช้เวทีงาน ICFP 2021 สื่อสารโมเดลต้นแบบให้นานาชาติสามารถเรียนรู้ความสำเร็จของไทยด้านการวาแผนนโยบายประชากรและการปันผลทางประชากร
(Demographic Dividend) ตลอดจนผลักดันให้การอนามัยเจริญพันธุ์ในโมเดล
“หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า”เป็นผลสำเร็จ
ซึ่งในการประชุมจะนำเสนอให้ทั่วโลกรับรู้ถึงโมเดลดังกล่าวเพื่อนำไปใช้ได้ด้วย
ช่วงที่
2 ตลุยท่องเที่ยว “สวนสามพราน” 3 โซนแห่งวิถีชีวิตสมดุลรอต้อนรับแล้วทั้งที่ “ปฐม ออร์แกนิก วิลเลจ-ปฐม
ออร์แกนิก ฟาร์ม -ตลาดสุขใจ” ส่วนใครที่มองหาเทคนิค “ลดพุงลดอ้วน” ฟังได้เลย
และข่าวฮ็อต ๆ “บอร์ด ทอท.” อนุมัติให้ลุยสร้างสุวรรณภูมิ เทอร์มินัล 2 ได้แล้ว พร้อมไฟเขียวลดค่าแลนดิ้ง 50 %ให้เที่ยวบินเช่าเหมา จีน รัสเซีย
อินเดีย แห่นำนักท่องเที่ยวมาเพิ่มปีหน้า ทางด้าน “ซีอีโอหน้าใสนกแอร์”
โลกสวยพลิกจุดขายสู่พรีเมี่ยมบัดเจ็ตควบเปิดจุดบินอินเตอร์เพียบปี’63
จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในโอกาสก้าวสู่ปีที่
58 ของ
“สวนสามพราน” แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติพร้อมที่พักติดแม่น้ำท่าจีน จังหวัดนครปฐม
ครอบคลุมพื้นที่ 130 ไร่
จากรุ่นคุณยาย “คุณหญิงวลี ยุวบูรณ์” ผู้ก่อตั้ง สู่รุ่นคุณแม่ “สุชาดา
ยุวบูรณ์” ผู้บุกเบิกพัฒนาสินค้าและทำตลาดการขาย
กระทั่งวันนี้มาถึงยุคลูกกับหลาน “อรุษ นวราช” (ลูกชายคนโต)
กรรมการผู้จัดการ “อนัฆ นวราช” (ลูกชายคนเล็ก) ผู้จัดการทั่วไป และ “อรรจ
ยุวบูรณ์” (หลาน) รองกรรมการผู้จัดการ
กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้รวมพลังกันพลิกโฉมจนกลายเป็น “สามพราน โมเดล”
ขานรับกระแสและเทรนด์ความต้องการของนักท่องเที่ยวคนไทยและทั่วโลก
วันนี้ “สวนสามพราน”
กลายเป็น “ศูนย์รวมการท่องเที่ยวธรรมชาติเครือข่ายวิถีชีวิตชุมชนเกษตรอินทรีย์ครบวงจร”
สามารถเชื่อมโยงตอบโจทย์การพัฒนาในทุกมิติทั้งทางด้าน “เศรษฐกิจ-สังคม-สิ่งแวดล้อม”
อย่างยั่งยืน มีจุดท่องเที่ยวแนะนำ 3 โซน
โซนที่
1 ส่วนที่
3
โครงการ “ปฐม ออร์แกนิก วิลเลจ” ซึ่งได้เปิด Open House ต้อนรับแฟนคลับทุกวัยทั้งชาวไทยและนานาชาติไปเมื่อวันที่
16 พฤศจิกายน
2562 โดยแปลงโฉมศูนย์แสดงวัฒนธรรมไทยหรือหมู่บ้านไทย
ให้กลายเป็น “ปฐม ออร์แกนิก วิลเลจ” จัดทำฐานโชว์การผลิตสินค้าอินทรีย์แปรรูป
ตามแบบวิถีไทย โดยดีไซน์กิจกรรมเพื่อให้นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมลงมือทำได้ด้วย
ยึดปัจจัยสี่ซึ่งเป็นเส้นทางวัตถุดิบระบบห่วงโซ่อาหาร เริ่มจาก 1.ปัจจัยการผลิต
2.กรรมวิธีการแปรรูป
3.จัดทำเป็นผลิตภัณฑ์
4.วางตลาดพร้อมขาย
ควบคู่กับการเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเรียนรู้ 3 เส้นทาง
ได้แก่ 1.เส้นทางข้าว
2.เส้นทางกล้วยอินทรีย์
3.เส้นทางสมุนไพรอินทรีย์
มาถึงแล้วสามารถร่วมสนุกกับกิจกรรมยอดฮิตได้
โดยเฉพาะเด็ก ๆ สามารถเข้ามาวาดศิลป์ เล่นสี กับ Eco Printing ทำขยะมหาสนุก
จากมหาวิทยาลัยราชภัฎนครปฐม การทำอาหารออร์แกนิก การดำนา เลี้ยงไส้เดือนดิน
สีข้าวแปรรูปผลิตภัณฑ์ อย่าง น้ำส้มสายชูกล้วย สครับข้าว สบู่ข้าว ย้อมสีธรรมชาติ
ร้อยดอกไม้ แกะสลักผลไม้ และอื่น ๆ พร้อมชมฐานสาธิตการปฎิบัติเศรษฐกิจหมุนเวียนควบคู่กันไป
ภายในบริเวณปฐม
ออร์แกนิก วิลเลจ มีส่วนเชื่อมต่อไปยัง 2 โซน ประกอบด้วย โซนแรก
“จำลองบ้านเรือนไทยภาคกลาง 2 ชั้น”
ใต้ถุนสูงเปิดโล่ง โดยได้นำอุปกรณ์การทำอาหาร ขนมไทย มาสาธิตพร้อมเสิร์ฟหรือชิมได้
และให้ทดลองทำกิจกรรมอย่างสนุกสนาน
นักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวให้ความสนใจเข้ามาร่วมเป็นจำนวนมากทุกสัปดาห์ ส่วนชั้น 2 ของบ้าน
จัดทำเป็นพื้นที่ใช้สอยเอนกประสงค์ได้ เช่น จัดแสดงดนตรีไทย หรืออื่น ๆ โซนที่สอง
“ปฐม ออร์แกนิก คาเฟ่” เปิดบริการร้าน ชา กาแฟ ของว่าง ขนมไทย เลือทำเลบนเนินสูงปูด้วยหญ้าเขียวขจี
ล้อมรอบด้วยกระจกใส
เพื่อให้ได้มองเห็นวิวสวนผ่านคลองขนาดเล็กลัดเลาะอยู่ทั่วบริเวณ
เป็นอีกมุมที่นักท่องเที่ยวกลุ่มคนรุ่นใหม่ทั้งคนไทยและต่างชาตินิยมมานั่งชีล ๆ
เพื่อถ่ายรูปเครื่องดื่ม อาหารและวิวสวย ๆ
โซนที่
2 “ตลาดสุขใจ”
โดยใช้พื้นที่ด้านหน้าสวนสามพรานติดถนนเพชรเกษม
ก่อสร้างตลาดเปิดโล่งเน้นใช้วัสดุธรรมชาติ
เปิดให้เครือข่ายเกษตรอินทรีย์นำผลิตภัณฑ์มาจำหน่ายแบบครบวงจรทั้งวัตถุดิบอาหาร
ปศุสัตว์ อาหาร ของใช้สำเร็จรูปบางชนิด เปิดบริการทุกวันเสาร์-อาทิตย์
โดยได้รับรูปแบบใหม่ มีผู้ค้าเข้ามาร่วมขายราว 60 คูหา
เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 เป็นต้นไป
กำลังทดลองเปิดขายเพิ่มช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์
วันที่
13-15 ธันวาคม
2562 สวนสามพราน
เตรียมจัดงาน “สังคมสุขใจ” ครั้งที่ 6 บริเวณ
ตลาดสุขใจ จ.นครปฐม เปิดตั้งแต่ 9.00-17.00 น.ภายใต้ธีม
“ช้อปเปลี่ยนโลก”
เปิดฟรีให้ผู้ที่สนใจเข้ามาสัมผัสประสบการณ์
“ขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์สู่ชีวิตที่สมดุล”
โดยได้เตรียมลานจอดรถไว้รองรับในบริเวณโรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ช่วงวันที่ 14-15 ธันวาคม
นี้ พร้อมกับมีบริการรถรับส่งเข้างาน สอบถามเพิ่มโทร 034 322 588-93 หรือทาง
facebook/สังคมสุขใจครั้งที่ 6
โซนที่
3 “ปฐม
ออร์แกนิก ฟาร์ม”
อันเกิดจากการนำพื้นที่สวนเก่าริมแม่น้ำท่าจีน 30 ไร่
เป็นสถานที่ให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาเรียนรู้ ทดลองลงมือทำเวิร์คช้อป
พืชผักผลไม้ตามฤดูกาล เมนูอาหารถิ่น เรื่อยไปจนถึงนำพืชมาแปรรูปเป็น ชาสมุนไพร
ออร์แกนิก และอื่น ๆ
สำหรับผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ของสวนสามพรานและเครือข่ายนั้น
ได้ถูกนำมาสร้างเป็นแบรนด์ PATOM เช่น Patom Organic Farm, Patom Organic Village, Patom Organic
Cafe, Patom Spa , Patom Shop ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ
ภายใต้มาตรฐาน GMP
และแนวคิด Organic Living
รวมทั้งยังได้ใช้พื้นที่ติดกับตลาดสุขใจก่อตั้ง “สามพราน โมเดล อะคาเดมี่”
เพื่อให้ผู้ประกอบการ หรือองค์กร
ได้เข้ามาเรียนรู้แล้วนำไปขยายผลในพื้นที่ของตนเองได้
เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสังคมเกษตรอินทรีย์เพื่อชีวิตสมดุล
ก่อให้เกิดความยั่งยืนจากรุ่นสู่รุ่นต่อไป
โรคอ้วนเป็นสาเหตุของหลาย
ๆ โรคเรื้อรัง ทั้งเบาหวานโรคหัวใจ ฯลฯ หลายๆ คนอยากลดความอ้วน
แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง เรามีคำแนะนำดี ๆ มาฝาก ดังต่อไป
1.บอกลาน้ำอัดลม น้ำผลไม้ แล้วหันมาดื่มน้ำเปล่าแทน 2.เลี่ยงของทอดของมัน
3.เลี่ยงการกินของหวาน มัน เค็ม 4.กินผลไม้สดหวานน้อยหลังอาหารกลางวันและเย็น
เพื่อลดความอยากกินของหวาน เช่น สาลี่ มะละกอ ชมพู่ (กินปริมาณกำปั้นตัวเอง)
5. เลี่ยงการกินของหวาน มัน เค็ม 6.กินข้าวแถวบ้านแทนการกินข้าวในห้างสรรพสินค้า
ทั้งประหยัดและควบคุมง่ายกว่า
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “ทอท.ลุยสร้างสุวรรณภูมิทิศเหนือ-ลดแลนดิ้งฟรีเช่าเหมาลำ”
นายประสงค์ พูนธเนศ ประธานกรรมการ
(บอร์ด) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” กล่าวว่ามติที่ประชุมเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2562
เห็นชอบ 2 เรื่องหลัก
ๆ ดังนี้ 1.เดินหน้าแผนแม่บทสนามสุวรรณภูมิและโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ (North Expansion) ต่อเนื่องตามแผน เฟส 3 ปี 2559-2565 ก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3
และส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 90 ล้านคน/ปี
และเที่ยวบินได้ 94 เที่ยว/ชั่วโมง โดยฝ่ายบริหาร
ทอท.จะต้องนำเสนอกระทรวงคมนาคมและ สศช.เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
จากนั้นก็เดินหน้าขยายเฟส 4 ปี 2564-2569
ก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 2 รองรับผู้โดยสารได้ 105 ล้านคน/ปี
และเที่ยวบินได้ 94 เที่ยว/ชั่วโมง เฟส 5 ปี 2568-2573 ก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้
และการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 4 เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 150 ล้านคน/ปี
และเที่ยวบินได้ 120 เที่ยว/ชั่วโมง และการพัฒนาเพิ่มเติม โดยก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตกในอาคารผู้โดยสารระยะท้ายสุดของแผนพัฒนาสุวรรณภูมิ
2.
โครงการกระตุ้นตลาดด้านการบินและการท่องเที่ยวไทยระยะสั้น โดยให้ 6 สนามบิน
ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ แม่ฟ้าหลวงเชียงราย ภูเก็ต หาดใหญ่ ลดค่าบริการขึ้นลงอากาศยาน
(Landing Fee) แก่เที่ยวบินเช่าเหมาลำระหว่างประเทศ
(International Chartered Flight) เพื่อการขนส่งผู้โดยสาร รวม 5 เดือน
เริ่ม 1 ธันวาคม 2562 – 30 เมษายน 2563 เพื่อกระตุ้นตลาดใหญ่จาก
อินเดีย รัสเซีย โดยเป็นไปตามนโยบายของคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจที่ให้กระทรวงคมนาคม
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดมาตรการเพื่ออำนวยความสะดวกหรือสร้างแรงจูงใจในการเดินทางมายังประเทศไทยเพิ่มเติม
นอกเหนือจากการอำนวยความสะดวกเรื่องวีซ่า
ข่าวที่สอง “กนกแอร์ฝันพลิกสู่พรีเมี่ยมปี63บินอินเตอร์เพียบ
นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นกแอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า วางแผนให้บริการพร้อมเปลี่ยนเป็น Premium Budget Airline สร้างรายได้ต่อที่นั่งและบริการเสริมเพิ่มขึ้น โดยเคยประสบความสำเร็จในขายที่นั่งNok super seat ขายแบบที่นั่งเว้นที่นั่ง ตั้งเป้าเพิ่มกลุ่มชั้นพรีเมี่ยมและชั้นธุรกิจในแต่ละเที่ยวบินอีก 20% ของทั้งหมด จากปัจจุบัน 12 % ซึ่งจะเห็นผลไตรมาส 2 ปี 2563
อีกทั้งยังได้ตัดสินใจเพิ่มทุนเมื่อต้นปีโดยวิธีกู้ยืมจากผู้ถือหุ้น
3,000 ล้านบาท ทำให้สามารถนำใช้แก้วิกฤตด้านต่าง ๆ ได้มากขึ้น วันที่ 18 ธันวาคม 2562 จะเปิดบินตรง ไป-กลับ ฮิโรชิมา (ญี่ปุ่น)
ส่วนเส้นทางบินจีน อินเดีย ใช้วิธีขายเหมาให้เอเย่นต์ ปี 2563 ตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนเส้นทางระหว่างประเทศจาก
20% เป็น 30%ขยายเส้นทางบินสู่ญี่ปุ่นเพิ่มด้วย เช่น โอกินาวา ทากาชิมา และวิสาขปัตนัม อินเดีย ส่วนจีน
จะเพิ่มหนานหลิงเข้าเชียงใหม่และภูเก็ต และกำลังศึกษาเพื่อเพิ่มจุดบินใหม่อีกกว่า
20 เมือง
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM
97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น