ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.ระยองฉีกตลาดแนวใหม่ปี63 โหมแคมเปญ"เปิดก้น(อ่าว)เที่ยว-คิงเพาเวอร์THAI TASTE HUB สตรีทฟู้ด20ร้านดัง-MoreFunปลายฝนต้นหนาวระยอง


ททท.ระยองฉีกแนวรุกใหม่ปั๊มตลาดท่องเที่ยวปี’63
โหมขายเปิดก้นเที่ยวงัด4โปรดักซ์มาแรงโกยรายได้
คิงเพาเวอร์ปลุกช้อปคุ้มค่าเงินใน“วินเทอร์วิลเลจ”
คิงเพาเวอร์จัดเต็มฟินกินอร่อยสตรีทฟู้ด20ร้านดัง
ททท.พัทย-พันธมิตร์โชว์พลุระดับโลก29-30 พ.ย.
รมว.พิพัฒน์จัดวิ่งผ่าเมืองเร่งไทยผู้นำเที่ยวเชิงกีฬา
BCPGเครือบางจากประกาศแจกปันผล Q3ปี’62
TCEBชูขอนแก่นโมเดลซีโร่พลาสติก 5 เมืองไมซ์
More Funปลายฝนต้นหนาวชีลสุดๆเมืองระยอง
โรคหลอดเลือดหัวใจภัยเงียบที่คนกำลังมองข้าม
ททท.ระดม200ร้านเทแกรนด์เซลดูดเงินต่างชาติ
แอร์เอเชีย18ปีพลิกธุรกิจสู่OTAชิงผู้นำตลาดโลก
สรรพสามิตจี้โลคอสต์อุ้มทัวร์ก่อนลดภาษีน้ำมัน

ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใ                ยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza # #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เที่ยวกับกู๋  #  # #  #  

ช่วงที่ 1 เปิดใจ “อัครวิชย์ เทพาสิต” ผู้อำนวยการใหม่แกะกล่อง ททท. สำนักงานระยอง งัดกลยุทธ์แปลกใหม่ต้อนรับปี’63 ด้วยแคมเปญ “เปิดก้น(อ่าว)เที่ยว” เชิญชวนให้คนไทยภาคอื่นเฮโลมาสัมผัสทะเล อาหารถิ่นคนริมอ่าว พร้อมเตรียมสร้างความฮือฮาจัดมหกรรมท่องเที่ยวซีเอสอาร์ 2 โปรเจ็กต์มาแรง “ปลูกหญ้าทะเลเลี้ยงพะยูนและเต่าทะเล-สร้างคอนโดในป่าชายเลนกลางเมืองระยอง” ตั้งเป้าตลอดปีหน้าจะลุยขายท่องเที่ยว 4 เรื่อง “เที่ยวเชิงซีเอสอาร์-เที่ยววันธรรมดา-เที่ยวเชิงกีฬากอล์ฟ-เที่ยวข้ามภาค”



นายอัครวิชย์ เทพาสิต ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานระยอง เปิดเผยว่า เพิ่งเข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการ ททท.ระยอง แล้วก็ทำโร้ดโชว์ส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวตามนโยบาย ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออก ในนครราชสีมาและอุดรธานี เตรียมนำเสนอนักท่องเที่ยวภาคอีสานด้วยธรรมชาติและอาหารทะเล ขณะนี้มีเที่ยวบินไปยังอู่ตะเภาแล้วท่องเที่ยวภาคตะวันออกในระยอง แม่เหล็กดึงดูดชาวอีสานเที่ยวข้ามภาคโดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวด้วยความสดใสของทะเล จะเปิดแคมเปญ “เปิดก้น(อ่าว)เที่ยว” เนื่องจากแหล่งท่องเที่ยวทุกหาดในระยองจะมีก้นอ่าว ที่ตั้งของชุมชนชาวประมง ผนวกกับมีอาหารถิ่นแตกต่างกัน พร้อมจะทยอยเปิดระหว่างธันวาคม 2562 - กุมภาพันธ์ 2563 เป็นจังหวะที่น้ำทะเลกำลังสวย

มุ่งเจาะกลุ่มครอบครัว ผู้สูงวัย เจนวาย มาพักผ่อนชายทะเล สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ส่วนการโร้ดโชว์ครั้งนี้ในนครราชสีมา อุดรธานี จะเน้นกลุ่มครอบครัวกับเจนวาย ส่วนราคาแพกเกจหรือค่าใช้จ่ายในระยองมีหาดทราย และเกาะต่าง ๆ ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก กับคนไทยพอสมควร ผู้ประกอบการได้สร้างมาตรฐานอย่างสมเหตุผล ทางด้านที่พักราคาตั้งแต่หลัก 100 บาทขึ้นไป ส่วนแพกเกจไฮไลต์ก็มีการดำน้ำตื้น ทริปดำน้ำ 3-5 เกาะ รอบหมู่เกาะเสม็ด จึงเชิญชวนชาวอีสานไปดำน้ำกันได้ในบริเวณใกล้ ๆ ทั่วภาคตะวันออก


เกาะยอดนิยมที่นิยมไปตั้งแต่ในวัยเรียนคือ “เกาะเสม็ด” จนถึงปัจจุบันหาดทรายก็ยังสวยทะเลใส ดึงดูดให้คนกลับมาเที่ยวซ้ำ ๆ ปี 2563 เตรียมเพิ่มกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงบำเพ็ญประโยชน์หรือ CSR Tourism ซึ่งทุกภาคมาท่องเที่ยวและทำกิจกรรมดูแลสิ่งแวดล้อม รับประทานอาหารทะเลสด ในช่วงฤดูหนาวสัตว์ทะเลขยายพันธุ์เป็นห่วงโซ่อาหารมีปริมาณมาก เพราะทางกรมประมง เจ้าท่า จัดระเบียบการทำประมงเข้มงวด จึงทำให้มีปลาขนาดต่าง ๆ อย่างสมดุลให้บริโภคอยู่ตลอด
ส่วนกิจกรรมที่จะเชิญชวนมี 2 กิจกรรม ประกอบด้วย กิจกรรมที่ 1 โครงการปลูกหญ้าทะเลเป็นอาหารพะยูนและเต่าทะเล นำร่องปลูกบริเวณเกาะมันใน เพราะจากผลการสำรวจมีพะยูนในทะเล ระยอง จันทบุรี ตราด กว่า 20 ตัว วนเวียนอยู่แถบนี้หากินหญ้ากินแต่ละตัวกินวันละ 30 กิโลกรัม พอปริมาณหญ้าทะเลลดน้อยลงพะยูนก็จะย้ายถิ่นฐานลงไปทางใต้ หรือตามเกาะต่าง ๆ ระหว่างทางก็ไปเจอเรืออวนลาก หรือขยะทะเล บาดเจ็บ จนพะยูนสูญหายลดลง
                
               โครงการท่องเที่ยวเพื่อบำเพ็ญประโยชน์ด้วยการรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวมาร่วมกันปลูกหญ้าทะเลจะมีส่วนสำคัญอย่างต่อระบบนิเวศน์ของพะยูน อีกทั้งเกาะมันในยังเป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุ์ทะเลของสมเด็จพระพันปีหลวง จึงจะทำกิจกรรมเต็มรูปแบบตลอดปีหน้า


                จะเริ่มนำร่องตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไป ในโอกาส “วันพ่อแห่งชาติ” โดยมีสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย “อ๊อด-มหิต ทองดี” นำทีมศิลปิน ดารา นางแบบ นายแบบ ไปร่วมกันปลูกหญ้าทะเล จากนั้นก็จะชวนคนไทยมาปลูกร่วมกันได้ หรือภาคอื่น ๆ ที่บินมาลงอู่ตะเภาก็แวะมาได้ สามารถประสานมายัง ททท.ระยอง หรือศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าก็ได้เช่นกัน
                กิจกรรมที่ 2 สร้างคอนโดปูแสม บริเวณพื้นที่หอชมวิวเฉลิมพระเกียรติ ป่าในเมืองระยอง เป็นผืนป่าขนาดใหญ่ เหมาะกับองค์กรต่าง ๆ สามารถทำเป็นโลโก้สัญลักษณ์ของแต่ละบริษัทได้ ปัจจุบันมีโลโก้การบินไทย 7-11 เป็นโครงการร่วมกันสร้างที่วางไข่ให้สัตว์ในพื้นที่ป่าชายเลน ซึ่งมั่นใจว่านักท่องเที่ยวเกินกว่า 70 % ยังไม่เคยได้ชมป่าในเมืองซึ่งมีสะพานไม้เดินลัดเลาะระบบนิเวศน์ และสามารถออกแบบเป็นสถานที่จัดประชุมกลางแจ้งก็ได้



                นายอัครวิชย์กล่าวว่า การท่องเที่ยวมุมใหม่ในระยองช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ คือ จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกสไตล์ SUN SET & SUN RISE ตามปากน้ำ สะพาน เกาะ อย่าง เกาะเสม็ด เกาะมันไน เกาะทะลุ บรรยากาศคล้ายคลึงภูเก็ตอย่างแหลมพรหมเทพที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยจะทำควบคู่กับแคมเปญ “เปิดก้น(อ่าว)เที่ยว” ล้อไปด้วยกัน

                ปี 2562 โดยภาพรวมตลาดในประเทศตามนโยบายตั้งเป้าเติบโต 10 % ส่วนทางระยองยังคงยึดจุดแข็งการเจาะตลาด “เที่ยวข้ามภาค” ด้วยแคมเปญเล่นกอล์ฟ ผนวกกับการกระตุ้นให้ใช้จ่ายเงินมากขึ้น ตอนนี้ประสานพื้นที่อู่ตะเภา สายการบิน รถเช่า และอื่น ๆ นับเป็นความโชคดีทางสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว หอการค้า ระยอง ตื่นตัวเข้าร่วมกับ ททท.โปรโมตและสร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อชวนนักท่องเที่ยวจากภาคต่าง ๆ มาระยองแล้วเกิดความประทับใจ โดยเน้นหนักไฮไลต์กิจกรรมการท่องเที่ยวเพื่อดึงดูด 4 ประเภท ได้แก่ ท่องเที่ยวเชิงซีเอสอาร์ ท่องเที่ยววันธรรมดา ท่องเที่ยวเชิงกีฬากอล์ฟ ท่องเที่ยวข้ามภาค
                               
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ชวนช้อปคุ้มค่าเงินในวินเทอร์วิลเลจรางน้ำ”


นิพนธ์ รักศรีอักษร” รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานการตลาด กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์  เปิดเผยว่า คิง เพาเวอร์ ได้วางกลยุทธ์สร้างแลนด์มาร์คท่องเที่ยวส่งท้ายปี 2562 ต้อนรับปีใหม่ 2563 พร้อมตอกย้ำความเป็นจุดหมายปลายทางการช้อปปิ้งย่านในเมือง (Downtown Shopping Destination) ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจแถวหน้าของเมืองไทย 8 กลุ่ม เปิดหมู่บ้านฤดูหนาว “คิง เพาเวอร์ วินเทอร์ วิลเลจ พรีเซนเต็ด บาย เคแบงค์ : King Power Winter Village Presented by KBank” และดินแดนมหัศจรรย์ “คิง เพาเวอร์ แอนด์ ดิสนีย์ โฟรเซ่น 2 แมจิคัล เจอร์นีย์ : King Power and Disney’s Frozen 2 Magical Jouney เพื่อให้มาเยี่ยมเยือนได้ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 12 มกราคม 2563 แวะมาพักผ่อนสบาย ๆ ได้ทุกวันตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 3 ทุ่ม
ชวนลูก ๆ มาลอง “ลานไอซ์สเก็ตกลางแจ้ง” แห่งแรกในเมืองไทย และมีโซน “วิลเลจสแควร์” มุมเกมท้าทายความสามารถของเด็กแต่ละวัย รอบ ๆ พื้นที่ มีบริการอาหารนานาชนิด อย่าง “ฟู้ดดี้ แคมป์ : Foodie Camp” ของ บิ๊ก วัน กรุ๊ป ร้านฟูจิเสิร์ฟเมนูญี่ปุ่น ฟาร์มโชคชัยนำผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อ นมอืมม!...มิลค์ มาให้ชิม ส่วน บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอสเอฟ คอร์ปอรั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ก็ร่วมด้วยอย่างเต็มที่
ส่วนแฟนคลับ ดิสนีย์ ช้อปสินค้าลิขสิทธิ์ที่นำเข้าร่วมรายการกับแคมเปญ Disney Exclusive Sale พร้อมให้ส่วนลดทั้งร้านถึง 50 % ได้ตั้งแต่วันนี้ -12 มกราคม 2563 ที่คิง เพาเวอร์ ครอบคลุม 5 สาขา ได้แก่ รางน้ำ มหานคร ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต



ส่วนในอาณาจักรความสุข “คิง เพาเวอร์ แอนด์ ดิสนีย์ โฟรเซ่น 2 แมจิคัล เจอร์นีย์ ชม 6 โซน อันอลังการของฉากเหตุการณ์สำคัญในภาพยนต์ทั้งก่อนและหลังการเข้าฉาย มุ่งต่อยอดทำกิจกรรมเชื่อมโยงการตลาดกับแฟนคลับดิสนีย์ครอบคลุมทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เข้ามาเยี่ยมชมคาแรคเตอร์การ์ตูนที่ชื่นชอบ เพื่อสร้างความประทับใจตลอดการจัดงานข้ามปี
โดยเฉพาะในวันที่ 1 ธันวาคม 2562  นักท่องเที่ยวห้ามพลาดชมการเปิดโซนใหม่ล่าสุด “สปิริตส์ ออฟ เนเจอร์ : Spirits of Natureรวมทั้งจะเป็นวันที่ 3 ศิลปินนักพากษ์ภาพยนต์ โฟรเซ่น 2 รวมตัวกันขึ้นเวทีโชว์การแสดง “มินิคอนเสิร์ต” ช่วงเวลา 1 ทุ่มตรง นำโดย“แก้ม-วิชญาณี เปียกลิ่น/หนูหนา-หนึ่งธิดา โสภณ/อาร์ม-กรกันต์ สุทธิโกเศศ จะมามอบความสุขให้ทุกคนอย่างเต็มอิ่ม
สำหรับ “นักช้อป” เมื่อเข้ามาท่องเที่ยวชมกิจกรรมงาน “คิง เพาเวอร์ วินเทอร์ วิลเลจ พรีเซนเต็ด บาย เคแบงค์” และ “คิง เพาเวอร์ แอนด์ ดิสนีย์ โฟรเซ่น 2 แมจิคัล เจอร์นีย์” แล้ว ระหว่างวันนี้ – 30 พฤศจิกายน 2562 ยังสามารถรับสิทธิพิเศษจากแคมเปญการตลาด Magical Winter Sale ที่พร้อมมอบความคุ้มค่าให้สมาชิก คิง เพาเวอร์ ได้เลือกซื้อสินค้าอย่างจุใจตามสาขาหลัก ๆ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ มหานคร ศรีวารี พัทยา ภูเก็ต 2 สิทธิประโยชน์ดังนี้
สิทธิประโยชน์แรก - เมื่อซื้อสินค้าครบ 10,000 บาทขึ้นไป(สุทธิ)/ใบเสร็จรับเงิน รับคูปองส่วนลด 1,000 บาท เพื่อนำไปใช้ในการซื้อสินค้ามูลค่า 4,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จรับเงิน
สิทธิประโยชน์ที่สอง - เมื่อซื้อสินค้าครบ 25,000 บาทขึ้นไป(สุทธิ)/ใบเสร็จรับเงิน รับคูปองส่วนลด 3,000 บาท เพื่อนำไปซื้อสินค้ามูลค่า 5,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จรับเงิน

ข่าวที่ 2 “คิงเพาเวอร์จัดเต็มสตรีทฟู้ดTHAI TASTE HUB20ร้านดัง”


                กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ พร้อมมอบความสุขด้วย “THAI TASTE HUB” ศูนย์รวมอาหารสตรีทฟู้ดจาก 20 ร้านดัง นำมาไว้บริเวณชั้น 3 อาคารคิง เพาเวอร์ รางน้ำ มีให้เหลืออย่างหลากหลายครบทุกมุม และขอแนะนำแต่ละร้านมีเมนูห้ามพลาดดังต่อไป
                ขอแนะนำร้านแรก “ห่านท่าดินแดง” ชิมเลย ห่านพะโล้ ขาห่านอบบะหมี่ เปิดย่าง “กุ้งเผาอยุธยา” ฟินกับกุ้งเผา ต้มยำกุ้ง กุ้งอบวุ้นเส้น “ข้าวขาหมูจุฬา สามย่าน” มีข้าคากิ ข้าวขาหมู รสเลิศ “การิม โรตี มะตะบะ” ต้องประเภทแกงกะหรี่ แกงมัสมั่นไก่ สลัดแขก “เซียงกรีลา” มีขนมจีบหมู เผือกทองคำ กระเพาะปลาน้ำแดง สาหร่ายห่อกุ้ง ฮะเก๋า ขึ้นชื่อทุกจาน
                               
                ส่วนประเภทเส้น “ร้านนายอ้วนเย็นตาโฟ” อร่อยแบบดีต่อสุขภาพกับเมนู ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟบะเต็ง ซีฟู้ด เย็นตาโฟดั้งเดิม “ก๋วยจั๊บฮ่องเต้” อย่าได้รอช้าสั่งเลย ก๋วยจั๊บน้ำข้น น้ำใส เกาเหลา อร่อยทุกจาน “รองเมืองเกาเหลา” เป็นอีกร้านที่ปรุงก๋วยเตี๋ยวเนื้อกับเกาเหลาได้เด็ดสุด ๆ
“ทิพย์สมัย ผัดไทยประตูผี” เป็นที่รู้กันว่าต้องสั่ง ผัดไทยเส้นจันท์มันกุ้ง ทะเลสด ผัดไทยห่อไข่ ผัดไทยทรงเครื่อง และอีกสารพัดผัดไทย “สว่างบะหมี่ก้ามปู” ละลานตาไปด้วย ก้ามปูหมูแดงเนื้อปู เกี๊ยวก้ามปูหมูแดงเนื้อปู บะหมี่หมูกรอบ เกี๊ยวปูล้วน

ถ้าชอบรสจัดจ้านแวะเลยร้าน “Siam Wisdom” สั่งต้มยำปลาโบราณ พะแนงเนื้อวากิวแก้มวัว คอหมูย่างหมักน้ำผึ้งป่า ตบท้ายหมี่กระทิ เรื่อยไปจนถึงร้าน “Thai Street Food by Asian Corner” มีหลากหลายทั้ง ข้าวกระเพาหมูดำ ไข่กรอบ แกงเขียวหวานเนื้อวากิว ข้าวหน้าปลาดิบรวม ราเมนเนื้อน่องลาย

ส่วนมุมเมนูไก่มี 2 ร้าน ร้านแรก “เจ๊กเม้งข้าวมันไก่สองสี” เมื่อไปถึงแล้วต้องสั่ง ข้าวมันไก่ต้ม ไก่ทอด ข้าวมันไก่ 2 สี 3 สี ไก่ต้มสับ ส่วนร้านที่ 2 มีทั้งไก่และส้มตำเด็ดในร้าน “ธีรชัยไก่ย่าง” ทั้งน่องติดสะโพก ส้มตำไทย ลาบหมู ต้มแซ่บกระดูกหมู
จบด้วยร้านเพื่อสุขภาพ “La moon) เป็นร้านสลัดบาร์ แบบครบเครื่อง ดีต่อกายและใจจริง ๆ

ข่าวที่ 3 “พัทยาผนึก6ชาติโชว์พลุแสงสีเสียงระดับโลก29-30พ.ย.นี้”

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานว่า  ร่วมกับ เมืองพัทยา จัดยิ่งการแสดงพลุระดับโลก "เทศกาลพลุนานาชาติ เมืองพัทยา ประจำปี 2562 : Pattaya International Fireworks Festival 2019 เชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวไทยและนานาชาติร่วมฉลองสองโอกาสสำคัญ คือเป็นวันสถาปนาก่อตั้งเมืองอย่างเป็นทางครบ 40 ปี กับ60 ปี เมืองพัทยาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลในเวทีโลก สามารถไปชมพลุสวย ๆ ได้ระหว่าง29-30 พฤศจิกายน 2562 บริเวณชายหาดพัทยา เวลา 17.00 . เริ่มพลุจะเริ่มจุด 20.00 . เป็นต้นไป  

นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสประสบการณ์ตระการตาของพลุไฟ ประกอบ แสง เสียง จาก 6 ประเทศ  คือ ไทอาร์เจนตินาแคนาดา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เยอรมนี และฟิลิปปินส์ และสนุกกับกิจกรรมความบันเทิงตลอดแนวชายหาดพัทยา กับมุมถ่ายภาพสวยๆ


ข่าวที่ 4 “พิพัฒน์ลุยจัดวิ่งผ่าเมืองดันไทยผู้นำSportTourism



นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้เป็นประธานเปิดโครงการจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับโลกรายการ “อะเมซิ่งไทยแลนด์มาราธอนแบงค็อก 2020 พรีเซ็นต์บายโตโยต้า” เพื่อกระตุ้นรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport tourism) ร่วมกับ 5 องค์กร มีทั้ง การการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กรุงเทพมหานคร กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ไทยแลนด์ไตรลีก ผู้แทนภาคเอกชน ผู้แทนชมรมวิ่ง ซึ่งจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2563 ตั้งเป้าดึงรายได้ต้อนรับปีใหม่ 2563 ไม่ต่ำกว่า 900ล้านบาท พร้อมทั้งขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันสร้างแบรนด์เป็น WORLD EVENT ทำให้ไทยเป็นประเทศศูนย์กลางการวิ่งมาราธอนแห่งเอเชีย

โดยได้มีนโยบายให้ต้องจัดอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ทำให้รายการแข่งขันมาราธอนรายการนี้ติดอันดับ 1 ใน 10 ของมาราธอนที่คนทั่วโลกอยากเดินทางมาร่วมแข่งขันมากที่สุด  อีกทั้งยังมอบหมายให้ ททท.เสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อจัดเป็นซีรี่ย์มาราธอนของประเทศต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2563 ขั้นต้นเลือกนำร่อง 5 จังหวัด ได้แก่ 1.กรุงเทพมหานคร (อะเมซิ่งไทยแลนด์มาราธอน) 2.บุรีรัมย์ 3.ชลบุรี 4.ภูเก็ต และ 5.ราชบุรี ตั้งเป้ามีผู้ร่วมแข่งขันทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเกิน 100,000 คน เป็นคนต่างชาติ มากกว่า 15,000 คน

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการ ททท.กล่าวว่า ในฐานะประธานอำนวยการคณะกรรมการจัดการแข่งขัน  ตามที่ รมว.พิพัฒน์ มอบหมายให้เป็นเจ้าภาพหลักจัดแข่งขันมาราธอนรายการนี้ร่วมกับไทยแลนด์ไตรลีกจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 มุ่งยกระดับให้ไทยเป็นจุดหมายปลายด้านการท่องเที่ยวและการกีฬา (SPORT TOURISM DESTINATION) อย่างยั่งยืน จึงพร้อมจะใช้กระแสการวิ่งสร้างรายได้จากคนไทยและต่างชาติเข้าประเทศไตรมาสแรกปี 2563 ตามคาดการณ์จะมีผู้เข้าร่วมแข่งขันมากถึง 30,0000 คน เป็นต่างชาติกว่า 5,000 คน สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนกว่า 900 ล้านบาท อีกทั้งยังตั้งเป้าภายใน 3 ปี อะเมซิ่งไทยแลนด์ มาราธอน จะขึ้นเป็น 1 ในรายการที่ต่างชาติเข้าร่วมมากที่สุดในเอเชีย

ข่าวที่ 5 บีซีพีจีเครือบางจากแจกปันผลกลางปีQ3 ปี62



                    บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ในเครือ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ในอัตราหุ้นละ 0.16 บาท โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD (Exclude Dividend) ในวันที่ 3 ธันวาคม 2562 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 17 ธันวาคม 2562

                 อันเป็นผลมาจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทบีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2562  มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตราหุ้นละ 0.16 บาท รวมเป็นเงินประมาณ 320 ล้านบาท

                 ทั้งนี้ กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 4  ธันวาคม 2562  และกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 17 ธันวาคม 2562 โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะขึ้นเครื่องหมาย XD (Exclude Dividend) ในวันที่ 3 ธันวาคม 2562



ข่าวที่ 6 เส็บนำร่องขอนแก่นโมเดลลุยโปรเจ็กต์ซีโร่พลาสติก”



นางสาววิชญา สุนทรศารทูล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานบริหาร สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ทีเส็บร่วมกับโครงการ แยก แลก ยิ้ม จาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สนับสนุนโครงการประกวดจัดงานอย่างไร ลดการใช้พลาสติก “Say No To Plastic” โดยเลือกเปิดตัวที่ขอนแก่น เพราะเล็งเห็นความสำคัญของการส่งเสริมการจัดงานไมซ์ หรือ ธุรกิจการจัดประชุมสัมมนา การเดินทางเพื่อเป็นรางวัล และงานแสดงสินค้า ให้เกิดความยั่งยืนในทุกมิติ และกระจายการจัดงานออกไปยังเมืองหลักทั่วทุกภูมิภาค ส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของระบบนิเวศไมซ์ (MICE Ecosystem) ลดความเหลื่อมล้ำ และนำประเทศสู่ความมั่งคั่ง มั่นคง ยั่งยืน ตามนโยบายรัฐบาล

โครงการจัดงานอย่างไร ลดการใช้พลาสติก “Say No To Plastic” ที่นำร่องจัดในขอนแก่น เพื่อนำร่องรณรงค์แคมเปญใน 5 เมืองไมซ์ ซิตี้ ซึ่งตั้งเป้าทำ  Zero Plastic Events” กำหนดเป้าหมายร่วมกัน 5 จังหวัด คือ ขอนแก่น ภูเก็ต เชียงใหม่ กรุงเทพฯ พัทยา เพื่อลดปริมาณขวดพลาสติกที่เคยใช้งานระชุมสูงถึง 17,345,674 ขวด ภายในปี 2563 ต้องลดลง 50% เหลือ 8,672,837 ขวด

ปี 2562 ขอนแก่นมีจำนวนนักเดินทางธุรกิจไมซ์ในประเทศ 2,045,693 คน จึงร่วมกันรณรงค์ลดการใช้พลาสติกในพื้นที่และสถานที่จัดงาน ทั้งในห้องประชุม การจัดเลี้ยง อุปกรณ์และบรรจุภัณฑ์ สนับสนุนการจัดอาหารและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น คาดปี 2563 จะลดการใช้พลาสติกได้กว่า 50 %


นายสมศักดิ์ จังตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การจัดประกวด “Say No to Plastic” นับเป็นโครงการแรกภายใต้การประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันซึ่งจะเป็นประโยชน์และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล รวมถึงนโยบายการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของจังหวัด ควบคู่ไปกับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ซึ่งมีคณะทำงานด้านการขับเคลื่อนสิ่งแวดล้อมสู่ความเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart Environment) โดยมีบทบาทหน้าที่ เช่น ส่งเสริมให้ครัวเรือนมีการคัดแยกขยะ การกำจัดขยะต้นทาง และการจัดการมลภาวะ โดยใช้เทคโนโลยีระบบ IOT หรือ Internet of Things ในการบริหารจัดการ พร้อมทั้งส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในทุกมิติ ตลอดจนการพัฒนาพื้นที่สีเขียวทั้งจังหวัดด้วย

                ช่วงที่ 2 เมืองไทยเที่ยวได้ตลอดเวลา สัปดาห์นี้ชวนกันไป “More Fun ปลายฝนต้นหนาว” ในระยองอีกสักรอบ เพื่อสูดโอโซนยังจุดชมวิวเขาวัดโบสถ์ เยี่ยมชมตลาดโบราณยมจินดา และทำกิจกรรมซีเอสอาร์ป่าในเมืองระยอง จากนั้นก็หันกลับมาระวัง “โรคลหลอดเลือดภัยเงียบที่คนมองข้าม” จะป้องกันอย่างไร และข่าวเด็ด “ททท.ระดม200ร้านดัง” ร่วม Amazing Thailand Grand Sale กระหน่ำลดราคาโกยเงินต่างชาติข้ามปีหน้า พร้อมจับตา“แอร์เอเชียปรับใหญ่18ปีลุยธุรกิจ OTA” ส่วน “โลว์คอสต์แอร์ไลน์” อีก 2 สัปดาห์หน้าเตรียมข้อมูลแจงสรรพสามิตให้ได้ว่าจะอุ้มท่องเที่ยวอย่างไร ก่อนจะให้ลดภาษีน้ำมัน

@More Fun เที่ยวระยองปลายฝนต้นหนาว



                สัปดาห์นี้ชวนไป “More Fun ระยอง” อีกสักครั้งต้อนรับปลายฝนต้นหนาว ไปสูดโอโซนเขียวขจีตามสถานที่ต่าง ๆ ปักหมุดกันตรง “จุดชมวิวเมืองระยองที่เขาวัดโบสถ์” ตำบลทับมา อำเภอเมือง ทางชุมชนได้สร้างสะพานสีเขียวความยาว 75 เมตร ต้อนรับนักท่องเที่ยวขึ้นไปยืนชมวิวพาโนมาราเขียวขจีแบบ 360 องศา ที่มีทั้งทะเล ภูเขา มองไปทางไหนก็สดชื่น หากมีเวลาก็สามารถปั่นจักรยานขึ้นลงเขาพอได้เหงื่อก็ได้

                จากนั้นก็แวะไป “ถนนยมจินดา” ถ้าได้ไปช่วงเดือนธันวาคมชาวระยองจะจัดงานย้อนยุค ชวนนักท่องเที่ยวไปสัมผัสชุมชนค้าขายย่านเก่าแก่บนถนนสายแรกของจังหวัด มีสถาปัตยกรรมเรือนโบราณ พิพิธภัณฑ์ แกลอรี่ ร้านค้า ร้านกาแฟ ศูนย์ณวมของสะสมโบราณ ร้านเก่าแก่ขายเครื่องใช้จำพวก เสื้อผ้า จาน ชาม ขนม อาหาร ละลานตา กันเลยทีเดียว

ต่อด้วยการไปทำกิจกรรมคืนประโยชน์สู่สังคมและธรรมชาติ “ป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ ป่าในเมืองของคนระยอง” บนถนนสมุทรคงคา ตำบลปากน้ำ อำเภอมือง จังหวัดระยอง  ในผืนป่ากว่า 300 ไร่ ซึ่งมีเอกลักษณ์ หอชมวิวเฉลิมพระเกียรติ กับศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศน์ป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ อยู่ด้วยกัน  เป็นมหานครแห่ง “คอนโดปูและสัตว์น้ำทางทะเล” เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวได้เข้าไปมีส่วนร่วมทำกิจกรรมดูแลรักษาธรรมชาติคืนประโยชน์สู่สังคม (CSR)

แหล่งท่องเที่ยวติดแม่น้ำระยองกับรอยต่อทะเลอ่าวไทยในบริเวณผืนป่าชายเลนกว่า 300 ไร่ มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวที่เข้าไปเยี่ยมชมสามารถเลือกทำกิจกรรมเด่น ๆ ได้ถึง 9 อย่าง กิจกรรมไฮไลต์เป็นการสร้าง “คอนโดปู” ทำจากไม้ยูคาลิปตัส เพื่อให้ปูนับร้อยถึงพันชีวิตได้พักพิงในแต่ละช่วงฤดู



“พระประเมิน สุขวารี” ผู้นำกลุ่มอนุรักษ์ฟื้นฟูแม่น้ำระยองและป่าชายเลน เล่าว่าด้วยธรรมชาติของปูแสมและปูเค็มจะตาบอดแสงมักจะออกหากินในเวลากลางคืน เมื่อนักท่องเที่ยวมาถึงแล้วร่วมกันสร้างคอนโดให้ปูในช่วงเวลาที่เหมาะสมคือ 9.00-12.00 น. ก็จะได้ประโยชน์เกิดขึ้น 3 อย่าง คือ 1.อาหารไทยคือส้มตำเมนูยอดนิยมของคนไทยและต่างชาติ 2.ได้ร่วมอนุรักษ์ฟื้นฟูปูแสมที่นำมาอยู่ในห่วงโซ่อาหารของนักท่องเที่ยว 3.สร้างอาชีพให้ชาวบ้าน เพราะปู 1 ตัวสามารถออกไข่ได้มากถึง 25,000 ฟอง แล้วก็จะดีดไข่ช่วงตรุษจีนปลายมกราคม-ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ของทุกปี เมื่อนักท่องเที่ยวได้มาร่วมกันสร้างคอนโดปูก็จะมีส่วนช่วยให้ไข่ปูอยู่เป็นที่เป็นทางไม่กระจายออกไป พอไข่เติบโตเป็นลูกปูก็จะปีนป่ายอยู่ในคอนโดเหล่านี้

ขณะนี้มีภาครัฐและเอกชนมากกว่า 28 องค์กร เข้ามาท่องเที่ยวแล้วร่วมกันทำกิจกรรมซีเอสอาร์สร้างคอนโดปูทำจากไม้ยูคาลิปตัสสามารถย่อยสลายได้ ราคาหลังละ 25,000 บาท อยู่ได้ 2 ปี พอหมดอายุก็รื้อทิ้งแล้วสร้างใหม่ สามารถสร้างได้ตลอดทั้งปี ช่วงที่เหมาะคือตุลาคม-มกราคม ของทุกปี

@โรคหลอดเลือดหัวใจตีบภัยซ่อนเร้นที่หลายคนมองข้าม



การขาดการออกกำลังกาย หรือการใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่มีการเคลื่อนไหวร่างกายเป็นปัจจัยเสี่ยงหนึ่งที่ทำให้เกิด "โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ"

องค์การอนามัยโรคระบุเมื่อปี ค.ศ. 2008 มีผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดประมาณ 17.3 ล้านคนทั่วโลก และในจำนวนนั้น เสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบราว 7.3 ล้านคน และช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ยังพบว่าคนไทยเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มสูงขึ้น 20 เท่า แถมยังเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของคนไทย ที่ไม่ใช่อุบัติเหตุ สูงเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็ง30% ของผู้ป่วยมักไม่ปรากฏอาการ มารู้ตัวอีกทีก็เมื่อถึงขั้นรุนแรง

ออกกำลังกายช่วยได้จริงไหม ? คำตอบคือ “จริง” เพราะการออกกำลังกายช่วยเพิ่มสมรรถภาพการใช้ออกซิเจนสูงสุดให้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 20 จากค่าเริ่มต้นก่อนออกกำลังกาย และช่วยลดโอกาสการเสียชีวิตลงถึงร้อยละ 25 แถมอาการแน่นอกก็ลดลงเช่นกัน

สำหรับความหนักในการออกกำลังกายที่ปลอดภัยสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบน้ัน ควรออกกำลังกายโดยมีอัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น 20-30 ครั้ง/นาที จากขณะพัก หรือต่ำกว่า 120 ครั้ง/นาที

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “อะเมซิ่งแกรนด์เซลระดม200ร้านโกยนักช้อปต่างชาติ”

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ร่วมกับพันธมิตร Amazing Thailand Grand Sale “Passport Privileges” ระหว่าง 1 พ.ย. 2562-31 ม.ค.2563 ตามที่คณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.ศก.) มีมติเห็นชอบในหลักการจัดแคมเปญกระตุ้นการใช้จ่ายเงินด้วยการให้สิทธิพิเศษและส่วนลดชาวต่างชาติ (Non-residence Tourist) ทั้งตลาดระยะใกล้และระยะกลางที่เดินทางมาเที่ยวในไทยช้อปปิ้งอย่างเต็มที่กับร้านค้าที่เข้าร่วม 200 ร้าน ลดกว่า 50 %

แบ่งเป็น 7 หมวด ได้แก่ สายการบิน บริษัทขนส่งสินค้า ผู้ผลิตสินค้า เจ้าของแบรนด์สินค้าชั้นนำยอดนิยม ศูนย์การค้า สปาและเครื่องหอม โรงพยาบาล ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ท ร้านจิวเวลรี่ และศูนย์การค้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เช่น  ไอคอนสยาม สยามพารากอน เอ็มบีเคเซ็นเตอร์ จังซีลอน เรอเรสซองค์ กรุงเทพฯ ซี วิว เกาะช้าง ม้าไม้สน เลดี้แอลการ์เดนบิสโทร เดอะ คี รีสอร์ทแอนด์สปา อัลค่าซา

                ส่วนการบินไทยให้สิทธิ์นักท่องเที่ยว ที่ใช้บริการบินตรง 5 เส้นทาง ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย และกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) ซึ่งมีวันพักค้างในไทย รับน้ำหนักสัมภาระเพิ่ม5 กิโลกรัม ในเที่ยวขาออกจากไทยแก่ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วเดินทางช่วง 15 พ.ย. 2562 – 31 ม.ค. 2563 ในทุกรหัส

โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติแสดงหนังสือเดินทางตามร้านเข้าร่วมโครงการก็รับส่วนลดได้ทันที แคมเปญนี้เน้นเจาะนักท่องเที่ยวกลุ่มใช้ภาษาจีน รัสเซีย และอังกฤษ และเปิดเว็บไซต์ www.passportprivileges.com ให้ค้นห้าข้อมูลสิทธิประโยชน์ ส่วนลด และรายชื่อห้างสรรพสินค้า ร้านค้า และบริการต่างๆ ที่ร่วมโครงการ รวมถึงติดตั้งไว้ใน Google Translate มากกว่า 30 ภาษา อำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงข้อมูลครอบคลุมทุกกลุ่ม

ข่าวที่สอง “แอร์เอเชียปรับโฉม18ปีเพิ่มแนวรุกธุรกิจOTAเต็มรูปแบบ

นายโทนี่ เฟอร์นานเดส ซีอีโอกลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า วางยุทธศาสตร์ก้าวสู่ปีที่ 18 โดยจะพลิกโฉมการบินเข้าสู่โหมดบริการท่องเที่ยวออนไลน์ครบวงจรหรือ Online Travel Agents : OTA โดยเปิดไลน์ธุรกิจใหม่โดยใช้ www.airasia.com ผนึกทำแพลตฟอร์มร่วมกับพันธมิตรอย่าง www.kiwi.com  ซึ่งมีสินค้า โรงแรม ที่พัก รถเช่า รถบัส กิจกรรมทางด้านการท่องเที่ยวอื่น ๆ ซึ่งแอร์เอเชียพร้อมสร้างแพลตฟอร์มใหม่ขายผลิตภัณฑ์ครบวงจรทั้ง ท่องเที่ยว ไลฟ์สไตล์แล้วแยกส่วนแอร์เอเชียออกไปโดยไม่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์แต่จะทำหน้าที่ให้บริการการบินเป็นหลัก ทำให้เกิดเป็น 2 บริษัท 2 โปรดักซ์ขึ้นในปี 2563

                โดยจะรักษาจุดแข็งของแอร์เอเชียที่สามารถทำ “ราคาขายถูกที่สุด” ด้วยการพัฒนาฐานข้อมูล www.airasia.com ให้แข็งแกร่งเพื่อขายตั๋วเครื่องบินจากสายการบินอื่น ๆ สู่งจุดหมายปลายทางยอดนิยมนอกเอเชียในยุโรป ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ตะวันออกกลาง และอเมริกา ตามเมืองหลักอย่าง ลอนดอน ดูไบ มาดริด อ็อกแลนด์ และอื่น ๆ ผนวกเข้ากับแพเกจท่องเที่ยว ไลฟ์สไตล์

ทั้งนี้ แอร์เอเชีย ได้ปรับโครงสร้างภายในเมื่อสิงหาคม 2562 แยกเว็บไซต์ออกจากสายการบิน พร้อมกับมีแผนเปิดสำนักงานใหญ่ airasia.com เต็มรูปแบบใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์

ข่าวที่สาม “สรรพสามิตสั่งโลว์คอสต์อุ้มท่องเที่ยวก่อนลดภาษีน้ำมัน
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ได้เชิญผู้บริหารสายการบินโลว์คอสต์ 7 แห่ง กับผู้ประกอบการน้ำมัน 5 แห่ง มาหารือเรื่องผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน (เจ็ตเอ 1) ซึ่งเมื่อปี 2560ปรับราคาขึ้นจาก 0.20 เป็น 4.70 บาทต่อลิตร ส่งผลให้สายการบินรวมตัวกันมายื่นสรรพสามิตขอลดภาษี เพราะทำให้มีต้นทุนภาษีเพิ่มขึ้น 20 เท่า  ยกเว้น การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ ไทยสไมล์ ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย เพราะยืนยันเรื่องต้นทุนภาษีสรรพสามิตน้ำมันมีแค่ 5% เท่านั้น ไม่ได้มีผลกระทบมากนัก

ขณะนี้ได้สั่งการให้สายการบินไปทำแผนมาเสนออีกครั้งภายใน 2 สัปดาห์ พร้อมทั้งจะเชิญทางเชิญกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มาหารือด้วย ซึ่งทางกลุ่มโลว์คอสต์แอร์ไลน์ส จะต้องทำการวิเคราะห์ข้อมูล ตัวเลข ให้ชัดเจนว่าจะสามารถช่วยการท่องเที่ยว และเป็นประโยชน์ในเชิงสาธารณอย่างเป็นรูปธรรมอย่างไรได้บ้าง

ปัจจุบันกรมสรรพสามิตรเก็บภาษีน้ำมันเครื่องบินได้ปีละประมาณ 3,000 ล้านบาท  จากต้นทุนเชื้อเพลิง 30% เริ่มมีผลกระทบต้องลดเที่ยวบินในเมืองหลัก เช่น เชียงใหม่ จากวันละ 15 เหลือ10 เที่ยวบินก็ตาม แต่ในทางปฎิบัติจะต้องตอบคำถามสาธารณะได้ด้วยถึงประโยชน์ที่ทุกฝ่ายจะได้รับร่วมกัน

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai