TCEBบุกจัดไทยแลนด์โชว์เคสวันเดียวโกยไมซ์อินเดีย2หมื่นแพก ลุยกวาดMIจีน27-30พ.ย.62-More Funทำคอนโดปูป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ ระยอง

TCEBลุยเจัดโชว์เคสวันเดียวโกยไมซ์อินเดีย2หมื่นแพ็ก

27-30พ.ย.บุกกวางโจวกวาดMIหนุนเศรษฐกิจไทยปัง

คิงเพาเวอร์โหมดิสนีย์เนรมิต6โซนโดนใจตลาดปลายปี

มหานครฉลอง1ปีชวนชมฟรีสกายวอล์คพร้อมโปรแรงๆ

ททท.-บินไทย60ปีปั๊มท่องเที่ยวการบินเข้าไทยปี’63พุ่ง

เปิดย่านไทยเท่ในงานกาชาดโชว์จุดขายเสน่ห์วิถีไทย

บางจากผนึกรัฐ-เอกชนชูเครือข่ายนปร.บริหารยุคใหม่

TCEBชูแอพBizConnectปลุกกระแสใช้โกยตลาดปี63

MoreFunคอนปูป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำระยอง

อยากทำจิตอาสาต้องเตรียมกาย-ใจให้พร้อมก่อนลุย

ทอท.แจงยิบเทอร์มินัล2สุวรรณต้องเริ่มที่ฝั่งทิศเหนือ

สวนสามพรานบูมขาย”ปฐมวิลเลจ-แอพตลาดสุขใจ”

ไทยสไมล์เทโปรตั๋วรับไฮซีซันบินในประเทศแค่950บ.

ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางมือถือ อ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen   บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เที่ยวกับกู๋  #วันธรรมดาราคาช็อกโลก #TCEBบุกไมซ์อินเดีย #คิงเพาเวอร์ดิสนีย์  #  #  #

ช่วงที่ 1 ฮือฮากับภารกิจใหญ่ไมซ์ ไทยแลนด์ที่ “จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” งัดกลยุทธ์ควิกวินบุกอินเดียเป็นครั้งแรกเจาะ MI เป็นลูกค้าไมซ์คุณภาพที่แห่เลือกมาไทยจนยอดโตทะลุ 42 % ผลจากการไปทำ THAILAND SHOWCASE 2019 เพียงวันเดียวโดยปักธงเชิญเอเย่นต์ขาใหญ่จากทุกเมืองมารวมตัวกันที่มุมไบ ได้ผลเกินคาดภายใน 24 ชั่วโมงเอกชนไทยกวาดลูกค้าได้ถึง 20,000 แพ็ก เดินหน้ารุกต่อตลาดจีน 27-30 พ.ย.นี้ ที่กวางโจว ส่วนไมซ์ในประเทศ ครม.ติดอาวุธให้เรียบร้อยให้ทีเส็บใช้ 4 มาตรการผ่านแคมเปญ “ประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ” เริ่มกลางเดือน ธ.ค.นี้

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ได้นำทัพเอกชนอุตสาหกรรมไมซ์ของไทยเดินทางไปทำโร้ดโชว์ตลาดอินเดียเป็นครั้งแรก  เพราะตามตัวเลขที่ปรากฎปี 2562 ตลาด Meeting & Incentive :MI จากคอร์ปอเรตเติบโตเพิ่มจากปีที่ผ่านสูงมากถึง 42 % เป็นจำนวนเหนือความคาดหมายเดินทางเข้ามาไทย 2.2 แสนคน จึงปรับแผนเปิดกลยุทธ์ Quick Win ลงทุนทำ THAILAND MICE SHOWCASE 2019 ตลาดอินเดีย นำผู้ประกอบการไปด้วย 31 ราย ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกสมาคมส่งเสริมการจัดประชุมนานาชาติ(ไทย) หรือ TICA เป็นผู้ประกอบการโรงแรม ผู้จัดงาน โชว์สยามนิรมิต ใช้วิธีเชิญเอเย่นต์อินเดียรายใหญ่โดยคัดเลือกระดับท็อปเท็นจากเมืองต่าง ๆ มาร่วมงานสถานที่จัดเมืองมุมไบ การเจรจาธุรกิจระหว่างเอกชนไทยกับเอเย่นต์อินเดียภายในงานวันเดียวได้สัญญาซื้อขายมาทั้งหมดกว่า 20,000 แพ็ก แต่ยังมีดีลต่อเนื่องทยอยเข้ามาด้วย เพราะ TCEB จัดงานครั้งเพื่อขอบคุณ สร้างสัมพันธภาพที่ดี เพราะตอนนี้ตลาดอินเดียกลุ่มคุณภาพสนใจเลือกมาจัดงานในไทยเป็นจำนวนมากทั้งจากบังกาลอ กลุ่มธุรกิจยารักษาโรค การแพทย์ ดาหน้ากันเข้ามา

กลยุทธ์การจัดงาน THAILAND SHOWCASE 2019 ตลาดอินเดียครั้งนี้ ได้มีเอเย่นต์อินเดียระดับท็อป 5 รายเข้ามาเทรนหรือสอนเทคนิคการเจาะตลาดให้แก่ผู้ประกอบการไทย โดยแนะนำข้อมูลสำคัญคือ 1.ต้องคุยกันอย่างจริงใจกับคู่ค้า โดยไม่ไปคิดราคาแบบ Over Charge เช่น เมื่อตกลงราคาห้องพักโรงแรมเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ควรจะรวมอาหารเข้าไปด้วย ไม่ควรคิดราคาแยกเพื่อไปเก็บเงินเพิ่มอีก เพราะคู่ค้าอินเดียจะไม่ชอบการขายแบบนี้ หรืออย่าเพิ่งปฎิเสธการทำธุรกิจกัน แต่ต้องพยายามหาช่องที่จะทำกิจกรรมการขายส่วนใดร่วมกันได้บ้าง แล้วเมื่อจบงานทาง TCEB ยังได้จัดเลี้ยงขอบคุณ จึงได้เห็นโรงแรมอินเดียมีบริการที่ได้มาตรฐานไม่แพ้เมืองไทย

สำหรับการบุกทำตลาดอินเดียแบบเร่งด่วนครั้งนี้ TCEB กับผู้ประกอบการไมซ์ไทยพุ่งเป้าไปเจาะกำลังซื้อ 2 กลุ่มหลักคือกลุ่มประชุมและเดินทางท่องเที่ยวฟรีเพื่อเป็นรางวัล (Meeting & Incentive) เนื่องจากเศรษฐกิจไทยต้องการให้ลงพื้นที่มากขึ้น การเดินทางไปครั้งนี้ผมได้ไปแนะนำสถานที่จัดงาน 170 ธีม ในเมืองไทยที่พร้อมรองรับการจัดงานประชุมกับอินเซ็นทีฟตลาดอินเตอร์ เพื่อกระจายการจัดงานไปตามต่างจังหวัดในไทยอย่างทั่วถึง ผนวกกับมีแพกเกจสนับสนุนหากเลือกจัดงานนอกกรุงเทพฯ จะมีงบประมาณพิเศษเสริมให้แต่ละกรุ๊ป เช่น การแสดง หรือ อาหารงานเลี้ยง อีกทั้งทีเส็บยังนำเสนอธีมคอนเซ็ปต์ให้เลือกอย่างหลากหลาย ซึ่งทางเอเย่นต์อินเดียให้ความสนใจมาก ไม่ว่าจะเป็นการประชุมสไตล์ Team Building, Luxury, Sea Sand Sun และประชุมควบคู่การทำ CSR กระแสตอบรับดีมาก เลือกไปเชียงใหม่ ภูเก็ต

ในการนำเสนอ 170 ธีม โดยเฉพาะซีเอสอาร์เจาะไปยังการทำกิจกรรมร่วมกับชุมชน โรงเรียน หรือให้คนตาบอดมาสอนผู้เข้าร่วมงานไมซ์ สถานที่ต่าง ๆ จะกระจายอยู่ตามเมืองใหญ่และเมืองรองเพื่อโปรโมตให้ต่างชาติได้รู้จักมากขึ้น เช่น ชุมชนตะเคียนเตี้ย นาเกลือ พัทยา จ.ชลบุรี ตอนนี้มีไมซ์จากตลาดออสเตรเลียเข้าไปทำกิจกรรมกับชุมชนเพิ่มมากขึ้น ชาวบ้านเองก็สามารถนำผลิตภัณฑ์มาขายได้ด้วย

นายจิรุตถ์กล่าวว่าตลาดไมซ์อินเดียที่เดินทางเข้ามาไทย จากผลการวิจัยพบว่า “พฤติกรรมการใช้จ่ายเงิน” เฉลี่ยคนละประมาณ 1,000 เหรียญสหรัฐ/คน/ทริป หรือราว 25,000 บาท/คน/ทริป ปัจจุบันมีสายการบินให้บริการระหว่างเมืองต่าง ๆ ในอินเดียเข้าประเทศไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะสายการบินของไทย ทั้งไทยสไมล์ บางกอกแอร์เอเวย์ส ตอนนี้มีเที่ยวบินจากอินเดีย 11 เมือง ตรงเข้ากรุงเทพฯ และภูเก็ต สัปดาห์ละ 94 เที่ยว เป็นประโยชน์ต่อตลาดไมซ์ที่จะเข้าไปช่วยโปรโมต เพราะอินเซ็นทีฟเป็นกลุ่มตลาดคุณภาพสูง

ขณะนี้ตลาดไมซ์อินเดียความต้องการเพิ่มเติมเมื่อเดินทางมาถึงเมืองไทยตามที่ TCEB เสนอไปก็มีบริการ MICE LANE ผ่านช่องทางพิเศษการเข้าเมืองให้แก่ V.I.P.แต่ละกรุ๊ปได้ครั้งละไม่เกิน 15 คน สามารถช่วยได้มาก แต่สิ่งที่ร้องขอคือ VISA ON ARRIVAL : VOA หรือเรื่องกฎกระทรวงของไทยระบุจะต้องมีเงินสดติดตัวไม่ต่ำกว่า 20,000 บาทจึงจะเข้ามาได้ไม่เช่นนั้นจะต้องถูกส่งกลับนั้น ทางทีเส็บก็ต้องช่วยอำนวยความสะดวกให้ตลาดอินเดีย

โดยเมื่อช่วงเช้าวันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี ได้เชิญเอกชนไมซ์และท่องเที่ยวเข้าไปพูดคุยเรื่องต่าง ๆ เพื่อปลดล็อกปัญหาอุปสรรคที่จะดึงตลาดไมซ์และนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาใช้จ่ายเงินในไทย ทั้งการขยายฟรีวีซ่า VOA ให้แต่ละประเทศ การปลดล็อกกรณีต้องมีเงินสดติดตัว 20,000 บาท และการทำ E-VISA ต่าง ๆ ขณะนี้มีความชัดเจนเพิ่มขึ้นแล้ว ทำให้หน่วยงานขับเคลื่อนการตลาดอย่างทีเส็บทำงานได้ง่ายขึ้น

ช่องทางการเพิ่มรายได้จากตลาดอินเดีย มี 2 ทาง ได้แก่ 1.เพิ่มวันพัก ซึ่งตอนนี้ทางทีเส็บทำโครงการปิดจุดอ่อนโดยสร้างแคมเปญพักตั้งแต่ 3 คืนขึ้นไป จะได้รับเงินสนับสนุนพิเศษในการจัดงาน (ซึ่งจัดโดยบริษัทคนไทย) เพื่อให้พักค้างนานวันมากสุด แต่ถ้าพักน้อยกว่า 3 คืนก็จะไม่ได้สิทธิ์เป็นเงินสนับสนุน ได้เพียงแค่การอำนวยความสะดวกเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น แต่ตอนนี้เมื่อมีเที่ยวบินมากก็เป็นจุดอ่อนเช่นกัน เพราะพอมีทางเลือกเพิ่มคนก็ตัดสินใจพักค้างคืนในไทยลดลง 2.เพิ่มการใช้จ่าย โดยใช้มาตรการภาษีเข้ามาจูงใจ เพื่อกระตุ้นให้ไมซ์อินเดียใช้เงินเพิ่มทางด้านอื่น ๆ เพิ่มขึ้น

แนวโน้มตลาดอินเดียปี 2562 จำนวน 220,000 คน ปี 2563 จะขยับเป็น 260,000  คน เมื่อคนและวันพักเพิ่มรายได้ก็น่าจะเติบโตดีด้วยเช่นกัน ส่วนความต้องการเพิ่มของไมซ์อินเดียคือการอำนวยความสะดวกอย่าง ขอตำรวจนำขบวนให้ V.I.P.หรือช่องทางการผ่านเข้าออกอย่างรวดเร็ว

นายจิรุตถ์กล่าวว่า จีนก็เป็นอีกตลาดมาแรงตลอดปีนี้กลุ่มไมซ์ทั้ง อินเซ็นทีฟ กลุ่มการแพทย์ ก็ยังมาจัดประชุมในไทย กรุ๊ปละ 8,000-10,000 คน สิ่งสำคัญต้องหาทางเพิ่มไมซ์ตลาดจีน ประกอบด้วย 1.ทำการตลาดแบบรวดเร็ว (Quick Win) ตามแผนระหว่างวันที่ 27-30 พฤศจิกายน 2562 ผมจะนำทีมงานของทีเส็บเดินทางไปจีนเพื่อเชิญคอร์ปอเรตรายใหญ่จากทั่วประเทศ เช่น กลุ่มขายตรง ฟาร์มาซี และอื่นๆ มาปักกิ่งแล้วพูดคุยระหว่างกันแล้วจัดทำกิจกรรมสร้างการรับรู้ในแบบ Educational trip เพื่อให้ทุกมณฑลได้เข้าใจ 2.ลงทุนตั้งตัวแทนการตลาดไมซ์ Marketing Representation เพิ่มอีก 1 รายเพื่อดูแลตลาดในมณฑลกวางโจว ซึ่งเข้าใจคนท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี เพราะกลุ่มไมซ์ขายตรงกว่า 70 % มาจากกวางโจว จึงต้องเพิ่มโอกาสการเข้าถึงและโปรโมตMeeting & Incentive แบบควิกวินได้ตรงเป้าหมายที่สุด โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไทยอนุมัติงบประมาณให้เดินหน้าเต็มที่

นายจิรุตถ์กล่าวว่า การบุกตลาดไมซ์ในประเทศด้วยแคมเปญ “ประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ” มติคณะรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มีมติเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 ให้ทีเส็บเดินหน้าเชิงรุกภายใต้ 4 มาตรการ ประกอบด้วย

1.การแจกโวเชอร์มูลค่า 20,000 บาท ให้เอกชนที่สามารถใช้บริการโรงแรม เอเย่นต์ ที่พาไปดูงานและจัดประชุมนอกสถานที่ กำลังรองบประมาณจากสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง จะเริ่มได้ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม 2562 เป็นต้นไป

2.กระตุ้นภาครัฐเลือกจัดประชุมในเมืองไทย ขอให้รัฐบาลแจ้งหน่วยงานภาครัฐอย่าง องค์การบริหารส่วนตำบล องค์การบริหารส่วนจังหวัด เลือกจัดงานในไทยแทนการเดินทางไปต่างประเทศ หรือจัดประชุมข้ามเขต

3.ลดภาษี 200 % ให้แก่บริษัทที่นำพนักงานไปจัดประชุมตามพื้นที่ต่าง ๆ สามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักภาษีได้ถึง 200  %

4.การจัดเมกะอีเวนต์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนเชิงนโยบายจากนายอนุทิน ชาญวีระกุล รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลทีเส็บ ให้เร่งดึงงานเมกะอีเวนต์รายการระดับโลกมาจัดในไทยให้ได้มากที่สุด

นายจิรุตถ์กล่าวว่า ส่วนการจัดเมกะอีเวนต์ในการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสมาชิก UFI CONGRESS 2019 ในกรุงเทพฯ เมื่อ 6-9 พฤศจิกายน 2562 ของกลุ่มผู้นำการจัดงานเอ็กซิบิชั่นโลก ปรากฎผลสำเร็จด้านต่าง ๆ โดยทำลายสถิติมีจำนวนเจ้าของธุรกิจระดับโลกเข้าร่วมงานมากสุดถึง 600 คน มากกว่าที่เคยจัดในจีนเมื่อปีที่ผ่านมา ควบคู่กับได้งานใหม่เพิ่มเข้ามาจัดในไทยอีก 2 งาน กับจะทยอยเข้ามาจัดเพิ่มปีต่อไปอีก 10 งาน

แล้วทีเส็บยังได้เชิญผู้ประกอบการไทยกลุ่มสมาชิกสมาคมจัดแสดงนิทรรศการ (TEA) 80 ราย เข้ามาร่วมด้วย พร้อมทั้งจัดงานเลี้ยงแสดงความพร้อมของประเทศไทย เลือกใช้สถานที่จัดงานเลี้ยงคือมิวเซียมสยาม พร้อมกับแนะนำสถานที่ใหม่อย่างไอคอน สยาม และเชิญ 5 ไมซ์ ซิตี้ มานำเสนอในงาน การจัดกิจกรรมที่สวนสามพราน ทำให้เกิดความชัดเจนมาก

ปี 2562 ทีเส็บได้แสดงศักยภาพผู้นำการขับเคลื่อนตลาดไมซ์ โดยสามารถทำภารกิจเชิงรุกทั้งในตลาดคุณภาพมาแรงอย่างอินเดีย จีน และงานเมกะอีเวนต์ ส่วนในประเทศก็พร้อมติดอาวุธแคมเปญ “ประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ” ด้วย 4 มาตรการ เพื่อกระจายรายได้ไปยังเมืองรองและชุมชนทั่วประเทศต่อเนื่องปี 2563 ที่จะเป็นยุคทองไมซ์อีกปี

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “คิง เพาเวอร์-วอลล์ดิสนีย์โฟรเซ่น2เที่ยวสนุก 6 โซน”

                นายนิพนธ์ รักศรีอักษร รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด  กลุ่มบริษัท  คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า ได้จับมือกับ บริษัท เดอะ วอลท์ ดิสนีย์ (ประเทศไทย) จำกัด  จัดแคมเปญ “คิง เพาเวอร์ แอนด์ ดิสนีย์ โฟรเซ่น 2 แมจิคัล เจอร์นีย์ :King Power and Disney’s Frozen 2 Magical Jouney” เชิญชวนแฟนคลับเข้ามาเติมความสุขชมความยิ่งใหญ่กิจกรรมนี้ได้ตั้งแต่วันนี้ – 12 มกราคม 2563 ตั้งแต่เวลา 11:00 - 21:00 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ เปิดเร็วขึ้นเริ่ม 10:00 น.รวมถึงกิจกรรมทั้งหมดได้แรงบันดาลใจจากการนำเรื่องราวในภาพยนต์ ‘โฟรเซ่น 2: ผจญภัยปริศนาราชินีหิมะ (Disney’s Frozen 2) มาเนรมิตพื้นที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ให้กลายเป็นฉากอลังการเสมือนในภาพยนตร์ โดยจำลองให้แฟนคลับเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโลกแห่งจินตนาการ ซึ่งเต็มไปด้วยการผจญภัยอันน่าตื่นเต้นก่อนรับชมภาพยนตร์ที่จะเริ่มฉายรอบปฐมฤกษ์วันที่ 21 พฤศจิกายน 2562

                อีกทั้งแคมเปญนี้จัดขึ้นเพื่อต้อนรับการกลับมาอีกครั้งของภาคต่อภาพยนตร์แอนิเมชั่น ‘โฟรเซ่น: ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ (Disney’s Frozen)’ โดยเมื่อปี 2556 กระแสแฟนคลับตอบรับอย่างถล่มทลาย โดยเฉพาะตัวเอกของเรื่องคือราชินีเอลซ่า และเจ้าหญิงอันนาน้องสาว เป็นขวัญใจคนไทยทั้งประเทศทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เมื่อนักท่องเที่ยวและแฟนคลับแวะเข้ามาเยี่ยมชมตลอดงานที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ จะได้พบกับจำลองโซนต่าง ๆ เสมือนกำลังอยู่ในอาณาจักร Arendelle ในฉากภาพยนตร์โฟรเซ่น ผ่านมหกรรมสร้างตื่นตาตื่นใจ “คิง เพาเวอร์ แอนด์ ดิสนีย์ โฟรเซ่น 2 แมจิคัล เจอร์นีย์” นั้น สามารถแวะช้อปสินค้า ถ่ายรูปมุมเก๋ ๆ  ได้ใน 6 โซน ดังต่อไปนี้

โซนที่ 1  - เวลคั่ม ทู เอเรนเดลล์ : Welcome to Arendelle  ต้อนรับผู้มาเยือนสู่อาณาจักรเอเรนเดลล์ ที่ทุกคนจะเพลิดเพลินกับกิจกรรมสนุกๆ ได้ตั้งแต่ด้านหน้าปราสาท ก่อนจะลัดเลาะไปตามโถงทางเดินเพื่อชมแกลเลอรี่ด้านในปราสาท และชมการแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมสร้างสีสันให้การผจญภัยมีชีวิตชีวาทุกวันหยุดสุดสัปดาห์

โซนที่ 2  เอนแชนเท็ด ฟอเรสท์ : Enchanted Forest  ร่วมสำรวจเส้นทางพิศวงนอกเขตอาณาจักรเอเรนเดลล์ ในป่ามหัศจรรย์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง “โฟรเซ่น 2: ผจญภัยปริศนาราชินีหิมะ”

โซนที่ 3 “เดอะ เมาเท่นส์ : The Mountains  ออกผจญภัยไปผองเพื่อนในเขาวงกต ที่แปลกตาไม่เหมือนใครพร้อมมุมห้ามพลาดถ่ายภาพ

โซนที่ 4  สปิริตส์ ออฟ เนเจอร์ : Spirits of Nature ห้องลับสุดมหัศจรรย์ ที่สามารถทำให้รู้สึกเหมือนได้สัมผัสพลังวิเศษจากธรรมชาติในรูปแบบของจออินเตอร์แอคทีฟ โซนนี้อดใจรอเปิดวันที่ 1 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไป

โซนที่ 5 ดิ เอเลเม้นท์ : The Elements  แฟนคลับที่ชื่นชอบการเซลฟี่พลาดไม่ได้กับความตระการตาของห้องกระจกที่สะท้อนให้เห็นผลึกธรรมชาติที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการผจญภัยเพื่อค้นหาตัวตนที่แท้จริงของเอลซ่า

โซนที่ 6 เมมโมรี่ เลน :Memory Lane  เลือกช้อปปิ้งซื้อสินค้าที่ระลึกได้อย่างเต็มที่ จากภาพยนตร์ แอนิเมชั่นเรื่อง “โฟรเซ่น 2: ผจญภัยปริศนาราชินีหิมะ” เพื่อเก็บความประทับใจนี้ไว้อีกนานเท่านาน

                 

ภายในงานยังสามารถเลือกซื้อสินค้าลิขสิทธิ์แท้จากดิสนีย์ภายใต้แฟรนไชส์ “โฟรเซ่น 2” ที่มีให้เลือกสรรตั้งแต่เสื้อผ้าเครื่องประดับ ของสะสม ของเล่น ของตกแต่งบ้าน เครื่องครัว ไปจนถึงของใช้เดินทางแบบครบวงจร

วันที่ 1 ธันวาคม 2562  ภายในงานจะได้ประทับใจกับบทเพลงประกอบภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง “โฟรเซ่น 2 : ผจญภัยปริศนาราชินีหิมะ” ผ่านเสียงร้องของผู้ให้เสียงภาษาไทยของตัวละครในภาพยนตร์ นำโดย แก้ม - วิชญาณี เปียกลิ่น หนูนา - หนึ่งธิดา โสภณ และอาร์ม - กรกันต์ สุทธิโกเศศ สำหรับในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์

สำหรับแฟนคลับจะได้ร่วมสนุกกับกิจกรรมและรับชมการแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมาย และห้ามพลาดโอกาสสุดเอ็กซ์คลูซีฟ 12 - 15 ธันวาคม 2562 จะได้พบกับเพื่อนคนพิเศษที่แฟน ๆ ชื่นชอบจากภาพยนตร์เรื่อง “โฟรเซ่น 2: ผจญภัยปริศนาราชินีหิมะ” ด้วย

ข่าวที่ 2 “ฉลองครบปีชมฟรีมหานครสกายวอล์ค16พ.ย.นี้”

                กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เตรียมจัดฉลอง “คิง เพาเวอร์ มหานคร” เปิดบริการครบ 1 ปี ในวันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2562 นี้  จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการชมวิวบนดาดฟ้าของตึกซึ่งเป็นแลนด์มาร์กของกรุงเทพมหานครมหานคร รับสิทธิในโอกาสพิเศษเพื่อขึ้นไปชมฟรีโดยไม่ต้องเสียค่าบัตรที่ “มหานคร สกายวอล์ค” จุดชมวิวชั้นดาดฟ้าและรูฟท๊อปบาร์สูงที่สุดในประเทศ ณ ชั้น 78 ความสูง 314 เมตร เพื่อร่วมภูมิใจไปกับหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกของไทย

สำหรับ “มหานคร สกายวอล์ค” ถือเป็นจุดชมวิวชั้นดาดฟ้าแบบ 360 องศา และรูฟท๊อปบาร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่บนชั้น 74, 75 และ 78 ของคิง เพาเวอร์ มหานคร ประกอบไปด้วย จุดชมวิวภายในอาคาร พื้นกระจกลอยฟ้า และรูฟท๊อปบาร์ โดยบริเวณชั้นดาดฟ้าซึ่งเป็นจุดที่มีความสูงที่สุดที่สามารถยืนได้ในกรุงเทพฯ มีความสูงอยู่ที่ 314 เมตรเหนือพื้นดิน เปิดให้บริการเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2561 ภายในระยะ 1 ปีที่ผ่านมานักท่องเที่ยวตอบรับดีขึ้นตามลำดับ ทั้งชาวไทยและช่างต่างชาติเข้าชมเป็นจำนวนมาก

ส่วนนักท่องเที่ยวนอกเหนือจากที่ได้รับสิทธิ์ชมฟรี 314 คน ก็สามารถขึ้นไปร่วมฉลองครบรอบปีพร้อมกับชมทิวทัศน์ได้เช่นกัน เพียงซื้อบัตรเข้าชมมหานคร สกายวอล์ค ราคา 880 บาท/คน พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ “Beyond Sunset” ตั้งแต่วันนี้-31 มีนาคม 2563 ให้เลือกเมื่อซื้อบัตรสกายวอล์ค 1 ใบ รับฟรีเครื่องดื่ม 1 แก้ว ตั้งแต่ 20:00 น. เป็นต้นไป  

การเดินทางไปยังคิง เพาเวอร์ มหานคร  สะดวกสบายสามารถใช้บริการสาธารณะ รถไฟฟ้าบีทีเอส เชื่อมต่อสถานีช่องนนทรี ทางออกหมายเลข 3 เพื่อเดินเข้าสู่อาคารได้ทันที สอบถามเพิ่มที่ โทร. 02-677-8721 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/KingPowerMahanakhon 

ข่าวที่ 3 “ททท.-บินไทยแจกแคมเปญเพียบปี63ฉลอง60ปี”

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ททท. ได้จับมือทำงานร่วมกันในโอกาสครบ 60 ปี ปี 2563 นำนักท่องเที่ยวทั่วโลกเข้ามาเที่ยว รวมทั้งส่งเสริมคนไทยเดินทางในประเทศเกิดรายได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกิจกรรมที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความสนใจ อาทิ  Amazing Thailand Marathon Bangkok (2 กุมภาพันธ์ 2563) ไหว้ครูมวยไทยโลก (17 มีนาคม ของทุกปี) The Great Mekong Bike Ride การชมการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ อาทิ LPGA MotoGP  เพื่อให้การบินไทยขายแพ็กเกจ และสร้างมูลค่าร่วมกัน เช่น เชื่อมโครงการ Amazing Thailand Grand Sale กับ THAI Pass Plus เพิ่มกำลังซื้อช่วงหน้าฝน

รวมทั้งจะร่วมสร้างการท่องเที่ยวยั่งยืน (Responsible Tourism)  เช่นโครงการ “ลดโลกเลอะ” ที่สร้างแนวทางการท่องเที่ยวในแบบลดการสร้างขยะ ลดการใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง และชวนการบินไทยทำCSR ร่วมกัน

ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ปี 2563 ททท. ตั้งเป้าทางการตลาดจะรักษาตำแหน่งประเทศสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวติด 1 ใน 6 ของโลก มูลค่ารวมเพิ่มขึ้น 10% คิดเป็น 3.71 ล้านล้านบาท จากต่างชาติ 2.431 ล้านล้านบาท และชาวไทย 1.287 ล้านล้านบาท

                นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าการบินไทยในฐานะสายการบินแห่งชาติให้บริการขนส่งผู้โดยสารเฉลี่ยปีละ 18 – 20 ล้านคน ปี 2563 ครบ 60 ปี จะร่วมมือกับ ททท.จัดแคมเปญต่างๆ ให้สอดคล้องกับนโยบาย “การส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างยั่งยืน” (Preferred Destination) โดยได้เตรียมของขวัญพิเศษมอบแก่ผู้โดยสารการบินไทยและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาไทย ผ่าน รอยัล ออร์คิด ฮอล์ลิเดย์ (ROH) ได้แก่ 1. แพกเกจ 60 Days Countdown Hot Offer ขายราคาพิเศษ ระหว่าง 1 มีนาคม – 1 พฤษภาคม 2563 2.Explore the Unexplore Thailand ร่วมกับไทยสมายล์ จัดนำท่องเที่ยวแบบไร้รอยต่อ เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ 3.Customize Tour Experience ออกแบบทริปให้ตามความชอบของแต่ละ 5.แพ็กเกจท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และวัฒนธรรม ภายใต้แคมเปญ “สานไทย” เพื่อสืบสานความรู้ และวัฒนธรรมไทย ด้านศิลปะ อาหาร เครื่องหอม และผ้าไทย

ส่วนรอยัล ออร์คิด พลัส (ROP) ได้มอบของขวัญพิเศษแก่สมาชิก ได้แก่ 1.ใช้ไมล์สะสมน้อยลงเพื่อแลกตั๋วเครื่องบิน 2.รับสิทธิพิเศษจากพันธมิตร ROP ทั้งในไทยและต่างประเทศ 3.ใช้ไมล์สะสมแลกซื้อสินค้าบนแพลทฟอร์มออนไลน์การบินไทย 4.กระตุ้นการขายช่วงโลว์ซีซัน ครอบคลุมทุกเส้นทางของการบินไทยตลอดปี 2563

ตลอดปี 2563 มีโครงการทำร่วมกับ ททท.โดยตรง ได้แก่ 1.โครงการ THAI Pass Plus ให้ผู้โดยสารนำ Boarding Pass การบินไทยหรือไทยสมายล์ทุกเส้นทางใช้เป็นส่วนลดหรือแลกรับของที่ระลึกตามร้านค้าในไทยที่ร่วมรายการ Amazing Thailand Grand Sales 2.สำนักงาน ททท.และการบินไทยต่างประเทศจับมือกันมอบสิทธิพิเศษและตั๋วราคาพิเศษให้ผู้โดยสารเดินทางมาไทย 3.จัดแคมเปญพิเศษ “60th Still Flying” แก่ผู้โดยสารวัยเก๋า

ข่าวที่ 4 “ททท.จัดตลาดย่านไทยเท่ในงานกาชาดถึง24พ.ย.”

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ได้จัดประกวดขบวนรถเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ภายใต้แนวคิด " เย็นศิระเพราะพระบริบาล เกิดสายธารการให้ที่งดงาม" ในงานกาชาด ประจำปี 2562 ชิงเงินรางวัล 200,000 บาท  เพื่อประชาชนได้รับชมระหว่าง15-17 พ.ย. 2562  พร้อมกับจัดกิจกรรมตลาดท่องเที่ยวชุมชน  "ย่านไทยเท่" ตั้งแต่วันนี้ -24  พย. 2562 บริเวณลานกิจกรรม สวนลุมพินี โดยจำลองบรรยากาศตลาดวิถีชุมชนเพื่อให้ได้สัมผัสประสบการณ์ชม ช็อป ชิม สินค้า และอาหาร กว่า 30 รายการ ทั้งการจำหน่ายผ้าลายไทย หัตถกรรม ของใช้เครื่องประดับ เครื่องหนัง และอื่น ๆ โดยมีการแสดงร่วมสมัยมากมาย สนุกกับการรับของที่ระลึกติดมือกลับบ้าน

ข่าวที่ 5 บางจากร่วมรัฐ - เอกชนส่งเสริมศักยภาพ นปร.”

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ และผู้บริหาร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้ร่วมกับอีก 4  พันธมิตร ผู้บริหารระดับสูงจากเครือข่ายครูผู้ฝึกสอนงานนักบริหารการเปลี่ยนแปลงยุคใหม่ (นปร.) ร่วมแสดงเจตนารมณ์การสร้างเครือข่ายภาคเอกชน เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเป็นครูสอนงานร่วมกัน และการสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนผ่าน นปร. ในงาน “Public Private Get to know Grow together เครือข่ายกว้างไกล เติบใหญ่ไปพร้อมกัน” (P2G)

โดยมีทั้งนายประกอบเกียรติ นินนาท กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ดร.พลรัตน์ เอกโยคยะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ดร.ศรายุธ แสงจันทร์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด นายสุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และนางพจนารถ ปริญภัทร์ภากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทานตะวันอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน)   ซึ่งเป็น

ข่าวที่ 6 “TCEBชวนใช้แอพBizConnectโกยตลาดงานไมซ์ปี’63”

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เชิญชวนผู้ประกอบการหันมาใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์มสร้างโอกาสของอุตสาหกรรมไมซ์ที่จะใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมดิจิทัลมาสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ เดินหน้างานไมซ์ปี 2563 โดยใช้แอพลิเคชั่น “BizConnect” ต่อยอดความสำเร็จของทั้ง 2 กลุ่ม คือ “ผู้เข้าร่วม” และ “ผู้จัดงาน”

เนื่องจาก “BizConnect” เป็นแอปพลิเคชั่นจัดงานอีเวนต์และงานแสดงสินค้าที่ TCEB ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์งานไมซ์ของไทยในยุคดิจิทัล  อำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในทุกขั้นตอนของงานไมซ์ ตั้งแต่การลงทะเบียนเข้าร่วมงาน จ่ายเงินค่าบัตร จัดการปฏิทินอีเวนต์ จับคู่ทางธุรกิจ (Business matching) ทำโพลสำรวจ รวมไปถึงเก็บข้อมูลทั้งหมดที่เกิดขึ้นในการจัดงาน แอปนี้แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.ผู้เข้าร่วมงาน (attendee) 2.ผู้จัดงาน (organizer) จะเชื่อมต่อข้อมูลกันเป็นแพลตฟอร์มสื่อกลางานไมซ์ในประเทศไทย ที่ทำให้คนวงการไมซ์ต่อยอดความสำเร็จได้ไม่รู้จบ

โดยสามารถตอบโจทย์ความหลากหลายขั้นตอนของงานไมซ์ รวมอยู่ในแอปเดียว ซึ่งผู้เข้าร่วมงานไมซ์ต้องการข้อมูลที่จำเป็นหลายอย่างเพื่อช่วยในการตัดสินใจ ตั้งแต่สถานที่จัดงาน ตารางเวลา รวมถึงข้อมูลของนักพูด (Speaker) “BizConnect”   จะช่วยรวบรวมข้อมูลทุกอย่างไว้ในแอปเดียว เราสามารถซื้อตั๋วเข้างานลงทะเบียนล่วงหน้าตลอดจนตรวจเช็คกำหนดการทั้งหมด เมื่อถึงวันงาน BizConnect จะช่วยเหลือตั้งแต่เรื่องแผนที่การเดินทาง เราสามารถเช็คอินเข้างานผ่านแอพลิเคชั่น และรับเอกสารต่าง ๆ เป็นไฟล์ดิจิทัล ช่วยลดการใช้กระดาษได้อีกด้วย  

อีกทั้งผู้ร่วมงานยังมีส่วนร่วมกับงานผ่านการทำโพลสำรวจแบบสด ๆ (live polling) อีกช่องทางการสื่อสารกับนักพูดในงานแบบเรียลไทม์ และ BizConnect ยังช่วยจัดตารางเวลาให้คุณสร้างเครือข่ายทางธุรกิจกับผู้ร่วมงานท่านอื่น ผ่านเครื่องมือ business matching ต่อยอดธุรกิจได้ง่าย ๆ ผ่านมือถือของแต่ละคน

สำหรับผู้จัดงานไมซ์ BizConnect จะช่วยคุณบริหารจัดการตั้งแต่ระบบลงทะเบียนออนไลน์ที่เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน สามารถใช้แอปนี้สแกนลงทะเบียนเข้างานให้กับผู้ร่วมงาน อัพเดตและแก้ไขข้อมูลการจัดงานได้ตลอดเวลา  รองรับและตรวจสอบผู้เข้าร่วมงานได้จำนวนมาก  สามารถเปรียบเทียบข้อมูลคนลงทะเบียนกับข้อมูลผู้เข้าร่วมงานจริง พร้อมระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่สามารถรายงานผลแบบเรียลไทม์ให้คุณนำข้อมูลมาปรับรูปแบบงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์เฉพาะหน้า และยังช่วยให้ผู้จัดงานกับผู้ร่วมงานได้มีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้นผ่านคอมเมนต์หรือแบบประเมินที่ได้รับฟีดแบ็กผ่านแอปนี้อย่างทันทีได้

เพราะ TCEB เชื่อว่าทั้ง 2 แอปนี้จะช่วยสร้างงานไมซ์ยุคดิจิทัลที่เหมาะสำหรับทุกคน ใช้นวัตกรรมที่อยู่ในมือของเราให้เกิดประโยชน์สูงสุด  ลดต้นทุนการในการจัดงานอย่างน้อยได้ 10% จากค่าเอกสารและค่าประชาสัมพันธ์ ช่วยให้ผู้เข้าร่วมงานสะดวกสบายมากขึ้นผ่านข้อมูลที่ครบถ้วน เป็นแอปจากทีมส่งเสริมการจัดงานไมซ์เพื่อคนจัดงานไมซ์โดยเฉพาะ

ดูรายละเอียดเพิ่มที่ https://www.businesseventsthailand.com/microsite/bizconnect

                ช่วงที่ 2 เมืองไทยมีเซอร์ไพรส์การท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวคืนประโยชน์สู่สังคม มุมใหม่จะชวนไป “More Fun CSR สร้างคอนปูป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ” จ.ระยอง สนุกและดีสุด ๆ อย่างไรต้องลองไป ส่วนคนที่อยากเป็นจิตอาสาต้อง “เตรียมร่างกายและใจ”ให้แข็งแรงพร้อมลงสนาม และข่าวท้ายชั่วโมง “ทอท.แจงยิบเทอร์มินัล 2 ฝั่งทิศเหนือ” ICAO รับรองทำได้ “สวนสามพราน Open House” โปรเจ็กต์ใหม่ ปฐม วิลเลจ กับ แอพลิเคชั่นตลาดสุขใจ 13-15 ธ.ค.นี้ ชวนไปสัมผัสวิถีท่องเที่ยวเกษตรอินทรีย์ และ “ไทยสไมล์” ใจปล้ำจัดโปรโมชั่นตั๋วบินในประเทศรับไฮซีซันเริ่มที่ 950 บาท

@ More Funซีเอสอาร์คอนปูป่าชายเลนระยอง

ทริปนี้ชวนท่องเที่ยวไปกับการคืนประโยชน์สู่สังคมและธรรมชาติ ในผืนป่ากว่า 300 ไร่ “ป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ ป่าในเมืองของคนระยอง” บนถนนสมุทรคงคา ตำบลปากน้ำ อำเภอมือง จังหวัดระยอง  ซึ่งมีเอกลักษณ์ หอชมวิวเฉลิมพระเกียรติ กับศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศน์ป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ อยู่ด้วยกัน  เป็นมหานครแห่ง “คอนโดปูและสัตว์น้ำทางทะเล” เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวได้เข้าไปมีส่วนร่วมทำกิจกรรมดูแลรักษาธรรมชาติคืนประโยชน์สู่สังคม (CSR)

แหล่งท่องเที่ยวติดแม่น้ำระยองกับรอยต่อทะเลอ่าวไทยในบริเวณผืนป่าชายเลนกว่า 300 ไร่ มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวที่เข้าไปเยี่ยมชมสามารถเลือกทำกิจกรรมเด่น ๆ ได้ถึง 9 อย่าง กิจกรรมไฮไลต์เป็นการสร้าง “คอนโดปู” ทำจากไม้ยูคาลิปตัส เพื่อให้ปูนับร้อยถึงพันชีวิตได้พักพิงในแต่ละช่วงฤดู

“พระประเมิน สุขวารี” ผู้นำกลุ่มอนุรักษ์ฟื้นฟูแม่น้ำระยองและป่าชายเลน เล่าว่าด้วยธรรมชาติของปูแสมและปูเค็มจะตาบอดแสงมักจะออกหากินในเวลากลางคืน เมื่อนักท่องเที่ยวมาถึงแล้วร่วมกันสร้างคอนโดให้ปูในช่วงเวลาที่เหมาะสมคือ 9.00-12.00 น. ก็จะได้ประโยชน์เกิดขึ้น 3 อย่าง คือ 1.อาหารไทยคือส้มตำเมนูยอดนิยมของคนไทยและต่างชาติ 2.ได้ร่วมอนุรักษ์ฟื้นฟูปูแสมที่นำมาอยู่ในห่วงโซ่อาหารของนักท่องเที่ยว 3.สร้างอาชีพให้ชาวบ้าน เพราะปู 1 ตัวสามารถออกไข่ได้มากถึง 25,000 ฟอง แล้วก็จะดีดไข่ช่วงตรุษจีนปลายมกราคม-ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ของทุกปี เมื่อนักท่องเที่ยวได้มาร่วมกันสร้างคอนโดปูก็จะมีส่วนช่วยให้ไข่ปูอยู่เป็นที่เป็นทางไม่กระจายออกไป พอไข่เติบโตเป็นลูกปูก็จะปีนป่ายอยู่ในคอนโดเหล่านี้

ขณะนี้มีภาครัฐและเอกชนมากกว่า 28 องค์กร เข้ามาท่องเที่ยวแล้วร่วมกันทำกิจกรรมซีเอสอาร์สร้างคอนโดปูทำจากไม้ยูคาลิปตัสสามารถย่อยสลายได้ ราคาหลังละ 25,000 บาท อยู่ได้ 2 ปี พอหมดอายุก็รื้อทิ้งแล้วสร้างใหม่ สามารถสร้างได้ตลอดทั้งปี ช่วงที่เหมาะคือตุลาคม-มกราคม ของทุกปี

ปี 2563 จะมีโครงการใหม่เป็นกิจกรรม “บ้านของพ่อใต้สะพาน” ทางกลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ เตรียมนำเสนอการทำบ้านให้ปูอยู่ใต้สะพานทางเดินชมป่าชายเลนเสริมเพิ่มเข้าไป รวมทั้งกำลังของบประมาณมาสร้างสะพานไม้ต่ออีกราว 400 เมตร เพื่อให้ครบลูปการเดินครบวงจร 5 กิโลเมตร

นอกจากการทำกิจกรรมซีเอสอาร์สร้างคอนโดและบ้านปูแล้ว ป่าชายเลนแห่งนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวให้เดินขึ้นไปชมหอชมวิวสูงสุดในระยองประมาณ 22 เมตร เมื่อขึ้นไปยืนบริเวณด้านบนสุดมองลงมาจะเห็นป่าชายเลนทั้งผืน กับชายหาดแหลมเจริญ อีกทั้งยังบริเวณนี้เป็นปากน้ำระยองที่เหลืออยู่เพียงแห่งเดียวมี “บ้านหอยพอก” สร้างด้วยคอกไม้ไผ่ล้อมไว้บนดิน เป็นแหล่งพักพิงขยายพันธุ์ธรรมชาติของเหล่า ปูแสม ปูหนุมาน ปูทะเล ปลาชนิดต่างๆ เป็นวงจรระบบนิเวศน์ที่สมบูรณ์หาชมได้ยาก

           

องค์กรต่าง ๆ ที่สนใจจะทำกิจกรรมซีเอสอาร์สร้างคอนโดปูในป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ นอกจากจะได้คืนมีส่วนร่วมขยายพันธุ์ปูเพื่อนำกลับมาเป็นอาหารแล้ว ยังจะได้ช่วยชาวบ้านด้วย เพราะแต่ละครั้งในการทำกิจกรรมยังจะได้ชิมเมนูอาหารพื้นบ้านอย่าง แกงหอยพอกกะทิใบชะพลู แกงไก่กะวาน หมูต้มระกำ แกงส้มผักรวมมิตรมะรุม และเมนูสมุนไพรต่าง ๆ พร้อมรองรับได้ครั้งละราว 200 คน

           

อีกทั้งชุมชนประมงแถบนี้ยังมีบริการท่องเที่ยว ล่องแพทะเลไปนั่งตกหมึก รับได้กรุ๊ปละ 20 คน คิดค่าบริการ 200 บาท/คน แนะนำให้มาวันธรรมดาจะได้รับความสะดวกอย่างมาก

ป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำแห่งนี้มีบริการครบวงจรในการท่องเที่ยวซีเอสอาร์ แต่ถ้าต้องการทำกิจกรรมสร้างคอนโดปูต้องแจ้งล่วงหน้าก่อนสัก 1-2 วัน เพื่อให้ชาวบ้านได้จัดเตรียมอุปกรณ์ อีกทั้งนักท่องเที่ยวเองก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมลงมือทำสิ่งแรกคือการร่วมกันเก็บขยะด้วยกัน เพราะผืนป่าแห่งนี้เป็นพื้นที่เขตป้องกันขยะใต้ทะเล จึงต้องรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนช่วยกันคนละไม้ละมือทำความสะอาดทุกวัน

สนใจทำกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงซีเอสอาร์ในพื้นที่ป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ ติดต่อคุณประเมิน สุขวารี หัวหน้ากลุ่มอนุรักษ์ฟื้นฟูแม่น้ำระยองและป่าชายเลน ได้ที่ โทร.087-143-7868 หรือคุณกนกพร จำปาทอง โทร.087-149-5588 และศูนย์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมศึกษา พระเจดีย์กลางน้ำ โทร.038-940-108, 080-386-5231

@อยากทำจิตอาสาต้องเตรียมร่างกาย-จิตใจให้พร้อม

งานจิตอาสานั้น เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีจิตใจต้องการช่วยเหลือสังคม ให้ได้ใช้เวลาช่วงสั้นๆ มาทำกิจกรรมอาสาสมัครที่หลากหลายรูปแบบ เช่น กิจกรรมช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส กิจกรรมพัฒนาชุมชน หรือ กิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นต้นอย่างไรก็ตามการที่จะออกไปทำงานจิตอาสานั้น ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง ลองไปดูกันเลย

ร่ายกายที่สมบูรณ์

                    หากคิดดูแล้วว่า งานอาสาที่จะออกไปทำ ต้องอาศัยร่างกายที่แข็งแรงพร้อมทำกิจกรรมทั้งวัน เราเองก็ควรเตรียมพร้อม ฟิตร่างกายให้เต็มที่กับกิจกรรมนั้นๆ

พกจิตใจที่พร้อมจะให้ติดไปเสมอ

                    หมายความว่า เราต้องให้โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน และให้เท่าที่ให้ได้ไม่เดือดร้อนตัวเอง ให้ในสิ่งที่เหมาะสมกับสถานะของตัวเองด้วย

ใช้ใจสัมผัสกับงานอาสานั้นให้กว้าง

                    เมื่อต้องทำงานจิตอาสา แน่นอนว่าเราต้องเจอความลำบาก บางครั้งอาจมากกว่าที่คิดไว้ ดังนั้นควรคิดว่าการลงมือทำ สิ่งนี้จะช่วยเปิดประสบการณ์ใหม่ให้ตัวเอง สังคมใหม่ๆ คนใหม่ๆ ที่จะทำให้เราเรียนรู้โลกได้อย่างแท้จริง

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก ““ทอท.แจงยิบปมสร้างเทอร์มินัล2ฝั่งทิศเหนือ”

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” ได้จัดทำข้อมูลสร้างความเข้าใจในแผนพัฒนาการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 “Terminal 2” สนามบินสุวรรณภูมิ ทางฝั่งทิศเหนือก่อน แทนที่จะสร้างทางฝั่งทิศใต้ตามที่มีข้อถกเถียงกันอยู่ในขณะนี้นั้น อย่างแรก ทอท.ได้ดำเนินตามมาตรฐานของสถาบันการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ประกอบด้วย

1. ระหว่างก่อสร้างจะส่งผลกระทบต่อการใช้งานอาคารเดิม ทั้งเรื่องเสียง การขนส่งอุปกรณ์ก่อสร้างในพื้นที่จำกัด และจากการที่มีผู้โดยสารใช้งานอาคารเดิมหนาแน่นเกินขีดความสามารถรองรับ การปิดพื้นที่บางส่วนเพื่อใช้ก่อสร้างจะยิ่งสร้างความแออัด กระทบการใช้งานสนามบิน จึงได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของ ICAO ทุกขั้นตอน

2. เพิ่มพื้นที่ ตม. ได้จำกัด เพราะการใช้งานสนามบินปัจจุบัน เทอร์มินัลฝั่งตะวันออกใช้บริการเที่ยวบินในประเทศไม่ต้องมีเคาน์เตอร์ ตม.

3. ไม่สามารถแก้ไขปัญหาสุวรรณภูมิที่มีปัจจุบันได้ เพราะยังต้องอิงการออกแบบเดิม เช่นจุดรับกระเป๋า รถขนกระเป๋าจากเครื่องบินเข้ามายังอาคารเพื่อส่งเข้าสายพานรับกระเป๋า รวมถึงปัญหาความแออัดการใช้ถนนในพื้นที่ airside เพราะยังมีการใช้ bus gate จำนวนมาก

ส่วนเหตุที่ไม่สร้างทางฝั่งทิศใต้เพราะ 1. ยังติดปัญหาที่ดินส่วนใต้นอกเขตสนามบินเป็นของเอกชน ยังเวนคืนไม่ได้ท่จะต้องเผื่อไว้ทำทางยกระดับตามแผนแม่บทจะต้องสร้างเชื่อมเข้ามายังสนามบิน 2. ผู้โดยสารที่เดินทางมายังสนามบินโดยรถไฟฟ้าแอร์พอร์ดเรลลิงค์ ยังไม่สามารถเดินทางไปถึงเทอร์มินัลฝั่งใต้ได้โดยตรงเพราะไม่สามารถเจาะอุโมงรถไฟทะลุลอดใต้สนามบินไปยังฝั่งใต้ได้เนื่องจากติดโครงสร้างอาคารเดิมและ APM ที่ไม่ได้เผื่อไว้ให้รถไฟฟ้าแอร์พอร์ทลิงค์ลอดใต้อีกชั้น (ระบบรถไฟ APM เดิมตามแผนแม่บทมีไว้เฉพาะสำหรับผู้โดยสารที่เช็คอินแล้วเท่านั้น) 3. ใช้เงินลงทุนสูง อาจจะพอ ๆกับสร้างสนามบินใหม่ เพราะพื้นที่ฝั่งใต้เป็นที่ดินว่างเปล่า ไม่มีอาคารสนับสนุนการบิน โรงซ่อมเครื่องบิน ทางยกระดับเข้าสนามบิน ทุกอย่างต้องสร้างใหม่ ต่างจากฝั่งเหนือที่สร้างไว้มีใช้งานอยู่แล้วในปัจจุบัน

.

ข่าวที่สอง “สวนสามพรานเปิดปฐมวิลเลจ16 พ.ย.62-จัดสังคมสุขใจ13-15ธ.ค.”

นายอรุษ นวราช เลขานุการมูลนิธิสังคมสุขใจ เปิดเผยว่า ในวันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน นี้ ได้จัดงาน Open House หมู่บ้าน ปฐม ออร์แกนิก วิลเลจ สวนสามพราน โดยได้จัดทำฐานสาธิตสู่การปฏิบัติ เศรษฐกิจหมุนเวียน Circular Economy เพื่อให้ประชาชนที่มาได้เรียนรู้สู่การวางแผนจัดการขยะในครัวเรือนอย่างเป็นระบบได้ง่ายๆ  และเริ่มได้ทันที  โดยจะมีทำตัวอย่างสถานีปุ๋ยหมัก ที่สามารถทำใช้ในครัวเรือน รวมถึงมีการสอนวิธีทำ ให้คำแนะนำส่วนผสม อัตราส่วน ที่สามารถนำไปใช้ได้จริง เพื่อเปลี่ยนขยะเศษอาหารในครัวให้เกิดประโยชน์  ดีต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและนำมาใช้เป็นปัจจัยการผลิตอาหารได้อย่างดีด้วย

รวมถึงการจัดงาน สังคมสุขใจส่งท้ายปี 2562 ในสามพราน โมเดล พร้อมเปิดตัวแอพพลิเคชั่น Thai Organic Platform เชื่อมโยงห่วงโซ่อาหารอินทรีย์ทั้งระบบ ตั้งแต่ต้นน้ำคือเกษตรกรอินทรีย์ กลางน้ำ คือผู้ประกอบการ และปลายน้ำคือผู้บริโภค โดยได้รับทุนสนับสนุนจาก สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ จะเริ่มเปิดใช้เป็นครั้งแรกในงานสังคมสุขใจ ครั้งที่ 6 ขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์สู่ชีวิตที่สมดุล “ช้อปเปลี่ยนโลก” เปิดฟรีระหว่าง 13-15  ธันวาคม 2562 ณ สวนสามพราน จ.นครปฐม  ช่วง 09.00-17.00 น. พร้อมเพิ่มจุดจอดรถบริเวณโรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ ช่วง14-15 ธ.ค. ห่างจากสวนสามพราน 2 กม. โดยมีรถรับส่งฟรีเข้ามางาน สอบถามได้ที่โทร 034 322 588-93 หรือติดตามกิจกรรมของงานที่ Facebook/งานสังคมสุขใจ ครั้งที่ 6

ข่าวที่สาม “ไทยสไมล์เทขายตั๋วโปรไฮซีซันบินในไทยเริ่ม950บาท”

สายการบินไทย สมายล์ จัดโปรโมชั่น Smile Weekday วันธรรมดา ราคาสบาย บินได้ทั่วไทยเส้นทางในประเทศ ราคาเริ่มต้นเพียง 950 บาท/คน /เที่ยว (รวมค่าใช้จ่ายทุกอย่าง) สำรองตั๋วล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน เดินทางได้ตั้งแต่วันอังคาร – พฤหัสบดี จองซื้อตั๋วตั้งแต่วันนี้- 14 ธันวาคม 2562 เดินทางได้ตั้งแต่วันนี้ - 15 ธันวาคม นี้ ที่ www.thaismileair.com, Call Center 02-1188888 หรือ 1181

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.