ททท.จัดเคาน์ดาวน์2แผ่นดินที่สระแก้ว31ธ.ค.62-ททท.ระยองชวนสาวกโซเชียลร่วมเช็ค&แชร์ลุ้นรับรางวัลเพียบ

ททท.ตะวันออกบูมเมืองท่องเที่ยวดาวรุ่งรับศักราชใหม่’63

“สระแก้ว”มาแรงเคาน์ดาวน์ทัวร์2แผ่นดิน-ชุมชนเกิดเพียบ

คิงเพาเวอร์ยื่นรายเดียวดิวตี้ฟรีดอนเมืองบอร์ดทอท.ชี้23ธ.ค.

บัตรคิงเพาเวอร์ลด20%คริสต์มาสปีใหม่ที่เท็นชิโนะพูลแมน

บิ๊กททท.ยันหยุดปีใหม่5วันทำเงินสะพัดทั่วไทย2.3หมื่นล้าน

ททท.ระยองชูแคมเปญ”เช็ค&แชร์”ปลุกกระแสเที่ยวปีใหม่

บางจากทำดีเซลมาตรฐานยูโร5ทุกชนิดขายราคาเท่าเดิม

ซื้อหัวเชื้อดีเซลบางจากทุกปั๊มรับไปเลยโปรแรงซื้อ1แถม1

บางจากแนะใช้ยาสีฟันขัดโคมไฟหน้ารถช่วยลดอุบัติเหตุ

TCEBลั่นพร้อมหนุนผู้ประกอบการเพิ่มยอด5เมกะอีเวนต์

ลองเที่ยวแล้วจะรู้”เกาะยาวใหญ่”พังงาชุมชนน่ารักจริงๆ

เคล็ดลับการดูแลผิวหน้าหนาวอย่างไรไม่ให้แห้งแตกร้าว

คลังติดใจยืดชิมช้อปใช้ถึง31ม.ค.63แจกล่อใจ 12 ล้าน

ทอท.แจงยังไม่ขึ้นPSCสนามบินเพื่อหาเงินสมทบกองทุน

แอพแรงแห่งปีLet’s Go Thailandดูดท่องเที่ยววัยรุ่นจีน

เข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม 2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza # #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เที่ยวกับกู๋  #TATตะวันออก  #เคาน์ดาวน์สระแก้ว #  #  

                ช่วงที่ 1 เปิดเมืองท่องเที่ยวดาวรุ่ง ภาคตะวันออก กับ “วิบูลย์ นิมิตรวานิช” ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ขยายจุดขายรับปีใหม่ More Food & Fun ภาคแห่งอาหารอร่อยและสนุกกับการกินทุกรูปแบบ พาบุก  “สระแก้ว” ร่วมมหกรรม “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ เคาน์ดาวน์ 2020 แอท สระแก้ว” เหล่าศิลปินนักร้อง 2 ชาติ ไทย กัมพูชา เฮละโลกันมาปลุกกระความสนุกรอยต่อชายแดน ซึ่งมีชุมชนท่องเที่ยวเกิดใหม่เพียบ อย่าง “ทับทิมสยามศูนย์บริการ 05” ดินแดนทุ่งดอกเก็กฮวย “เขาฉกรรจ์” ร้านกาแฟชิค ๆ ในดองดอกไม้นานาชนิดและแหล่งดูค้างคาวนับล้านตัว หรือชุมชนผ้าขาวม้าของฝากปีใหม่ ส่วน ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด โหมจุดขายต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ

นายวิบูลย์ นิมิตรวานิช ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวภาคตะวันออก ตลอดปี 2562 ทางฝั่งทะเลก็จะมี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ด้านภูเขาก็มี นครนายกปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา สมุทปราการ ช่วงส่งท้ายปีมีกิจกรรมสนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองรองสระแก้ว เป็นเมืองดาวรุ่งของภาคตะวันออก จะนำเสนอไฮไลต์มาเที่ยวด้วยแคมเปญ Amazing Thailand Countdown 2020 @ Srakeaw จะจัดบริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าอินโดจีน ซึ่งเป็นพื้นที่ตะเข็บชายแดนไทย-กัมพูชา ระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2562 และคืนนับถอยหลัง 31 ธันวาคม 2562 เพื่อให้นักท่องเที่ยวจากเพื่อนบ้านเข้ามาชมเทศกาลอาหารและดนตรี กับศิลปินชั้นนำอย่าง ทีมเดอะสตาร์ ทั้ง อาร์ สิงห์โต KPN AF มีลาล่า-ลูลู่ วงอื่น ๆ อีกมากมาย กับ ซกปิกเซ ศิลปินกัมพูชา เชื่อมวัฒนธรรมสองแผ่นดิน สร้างความสุขให้กับคนกัมพูชาได้ร่วมสนุก ชมการแสดงพลุ กิจกรรมความหลากหลาย รวมถึง ชิม ช้อป ชีล เรื่อยไปจนถึงการท่องเที่ยวเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม

อีกทั้งยังมุ่งเน้นเพิ่มจุดขายแหล่งท่องเที่ยวบริเวณเขาฉกรรจ์ มีร้านกาแฟเก๋ ทุ่งดอกไม้นานาชนิดตามฤดูกาล ค่ำ ๆ จะได้ชมฝูงค้างคาวนับล้านตัว ท่ามกลางแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้า เป็นไฮไลต์ให้นักท่องเที่ยวมาร่วมบรรยากาศการท่องเที่ยวมุมใหม่ในสระแก้ว

ขณะนี้มีแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม “คลองหาด” จะมีชุมชนปลูกหม่อนทำเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูป ที่กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ในช่วงหน้าหนาวปีนี้ยังสามารถท่องเที่ยวถ้ำโพธิ์ทอง ทรายแก้ว ขุนเขา เป็นการท่องเที่ยวเชิงผจญภัยในหาดทรายแก้วสามารถโรยตัวจากหน้าผาสูง 13 เมตร เพื่อวัดกำลังความแข็งแรงของนักท่องเที่ยววัยรุ่น และยังมีโอท็อป “ชุมชนบ้านพรสวรรค์” นำผ้าขาวม้ามาทำเป็นรูปต่าง ๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวซื้อไปเป็นของฝากช่วงเทศกาลปีใหม่ เป็นผลิตภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์ทอผ้าขาวม้า อันเกิดจากการลื่นไหลของวัฒนธรรมชุมชนอีสานเชื่อมโยงเข้ามาถึงภาคตะวันออก จ.สระแก้ว

ส่วนแหล่งท่องเที่ยวเมืองดอกไม้ก็มีด้วยเช่นกันที่ “บ้านทับทิมสยาม ศูนย์การเรียนรู้ 05” ของศูนย์วิจัยสถาบันจุฬาภรณ์ เต็มไปด้วยทุ่งดอกเก็กฮวย (ปกติจะมีมากในหล่อโย เชียงราย) สามารถนั่งรถอีแต็กชมดอกเก็กฮวย แปลงสมุนไพร แหล่งวัตถุดิบ เรื่อยไปจนถึงแปลงกล้วยไข่ และจุดกึ่งกลางดึงดูดนักท่องเที่ยวไปถ่ายรูปโค้ง 360 องศา เป็นแหล่งท่องเที่ยวดาวเด่นของสระแก้ว และมีพื้นที่รอยต่อสหกรณ์วังน้ำเย็น ระหว่างสระแก้วกับจันทบุรี

ในสระแก้ว มีทุ่งดอกไม้อย่างคุณนายตื่นสาย ดอกส้ม ซึ่งจะท่องเที่ยวได้ช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ของแต่ละปี

ผอ.วิบูลย์กล่าวว่า กิจกรรมเคาน์ดาวน์ในภาคตะวันออก ก็จะมี พัทยา งานCountdown Pattaya 2020 ระยองมีงานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและงานกาชาด ส่วนจันทบุรีมีเทศกาลคริสต์มาส วันที่ 21-25 ธันวาคม นี้ ร่วมเฉลิมฉลองแบบคริสต์ พร้อมอาหารถิ่น การกินอุดมสมบูรณ์ ไฮไลต์จะตรงกับวันที่ 24 ธันวาคม นี้ ส่วนตราดมีกิจกรรมเล็ก ๆ จัดปีใหม่กาชาด ศาลเจ้าแม่ทับทิม ทางด้านนครนายก ที่ปากพลีมีเหยี่ยวดำหนีหนาวมาพักอาศัย ส่วนปราจีนบุรีมีเวโลน่า เคาน์ดาวน์

ปี 2562 เป้าหมายรายได้ภาพรวมภาคตะวันออก มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มได้ถึง 10 % มาจากเมืองหลัก ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ส่วนเมืองรองก็ไล่ตามมาติด ๆ ทั้ง นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ใกล้ปริมณฑล ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ แม้จะเป็นการเดินทางท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับก็สามารถสร้างรายได้พอสมควร ดังนั้นจึงทำให้ตลอดปีนี้ภาคตะวันออกสามารถทำรายได้จากการท่องเที่ยวให้อยู่แดนบวกเหมือนทุกปี

ส่วนการรณรงค์แรง ๆ ด้านการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ Responsible Tourism ก็จะสอดแซกไว้ในทุกกิจกรรมของการท่องเที่ยวแต่ละจังหวัด เช่น สระแก้ว ช่วงเคาน์ดาวน์จะ แจกถุงผ้า รณรงค์จัดเก็บขยะ และกิจกรรมให้ปลุปลุกจิตสำนึกนักท่องเที่ยวตระหนักด้านการดูแลสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้จังหวัดอื่นอย่าง ระยอง จัดทำโครงการปลูกหญ้าทะเลให้พะยูน ดูแลแหล่งพักอาศัยของเต่าทะเล เกาะมันใน มันนอก การสร้างซัพพลายเชน ปล่อยปูม้าเกาะสีชัง เพิ่มปริมาณปูสู่ทะเลมากขึ้น เช่นเดียวกับจันทบุรีก็มีกิจกรรมปล่อยปูด้วยเช่นกัน เป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

ททท.ภาคตะวันออก พยายามนำเสนอเรื่องข้อมูลการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยการทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อบำเพ็ญประโยชน์สู่สังคม ไฮไลต์สำคัญคือการกระตุ้นท่องเที่ยวภายใต้ธีม MORE FOOD & FUN :มหานครอาหารอร่อยและกินอย่างสนุกสนาน แต่ละจังหวัดใช้เวลาเดินทางเข้าถึงสะดวกรวดเร็ว เพียง 1 -4 ชั่วโมงเท่านั้น ก็ถึงจุดหมายปลายทางแล้ว ตอนนี้เป็นโอกาสดีอากาศเย็นสบาย นักท่องเที่ยวสามารถไปสูดไอหนาวในภาคตะวันออก พร้อมกิจกรรม MORE FOOD & FUN ได้

ปี 2563 MORE FOOD & FUN การท่องเที่ยวภาคตะวันออก ยังมีมุมใหม่ ๆ ให้ค้นหาความสุขอย่างสนุกสนานได้ต่อเนื่องตลอดปีหนูทอง

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ชิงดิวตี้ฟรีดอนเมืองรายเดียวรอบอร์ดทอท.ชี้23ธ.ค.”

นายวิชัย  บุญยู้ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายการตลาดและเชิงพาณิชย์  บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) "ทอท." เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่  11 ธันวาคม 2562 ทอท. ได้เปิดรายชื่อเอกชนที่สนใจยื่นเสนอดำเนินโครงการร้านค้าปลอดอากร(ดิวตี้ฟรี) สนามบินดอนเมือง อาคารระหว่างประเทศหลังที่ 1  (terminal 1) พื้นที่รวม 1,884 ตรม. โดยพบว่ามีผู้สนใจยื่นเพียงรายเดียวเท่านั้น คือ บริษัท คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด ส่งผลให้ทางคณะกรรมการคัดเลือก ต้องประชุมกันจนได้ข้อสรุปในกรณีดังกล่าวให้ ทอท.เดินหน้าพิจารณาการดำเนินโครงการดังกล่าวต่อได้ โดยไม่ต้องยกเลิกถึงแม้จะมีเอกชนผู้สนใจยื่นรายละเอียดตามทีโออาร์เพียง 1 รายก็ตาม

จากนั้นในวันที่ 13 ธันวาคม 2562 คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกจะประชุม พร้อมทั้งนำระเบียบข้อบังคับเปิดโอกาสให้ทีม บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด นำเสนอแผนการตลาดการดำเนินธุรกิจ

               วันที่ 16 ธันวาคม 2562 จะเปิดซองราคาตามระเบียบการประมูล เพื่อพิจารณาผลตอบแทนราคา ขั้นตอนหลังจากได้ราคาชัดเจนแล้ว คณะกรรมการคัดเลือกฯ จะเสนอที่ประชุม คณะกรรมการพิจารณารายได้ ที่มี นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. เป็นประธาน

วันที่ 23 ธันวาคม 2562 จะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.โดย คณะกรรมการรายได้ ทอท.จะเป็นผู้สรุปข้อเสนอผลตอบแทน และรายได้จากการดำเนินการร้านค้าปลอดอากรในสนามบินดอนเมือง อย่างละเอียด

สำหรับสิทธิการเข้าดำเนินโครงการดิวตี้ฟรีดอนเมืองครั้งนี้จะมีผลต่อเนื่องกับสัญญาฉบับใหม่ในอนาคตอีก 10 ปี 6 เดือน ระหว่าง 1 ตุลาคม 2565-31 มีนาคม 2576 ซึ่งปัจจุบัน กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ยังคงเป็นเจ้าของสิทธิในฐานะผู้ชนะการประมูลรอบที่ผ่านมาและจะดำเนินธุรกิจดังกล่าวในดอนเมืองไปจนกว่าจะหมดสัญญาเดือนกันยายน 2565

นายวิชัย ยืนยันว่า ทอท.ยังมีพื้นที่ในอาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 ดอนเมือง ซึ่งขณะนี้เดินหน้าทำเฟส 3 โดยอยู่ระหว่างรื้ออาคารภายในประเทศปัจจุบันทำเป็นอาคารระหว่างประเทศหลังใหม่ เมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้ว ก็จะต้องเปิดให้เอกชนเข้าร่วมประมูลพื้นที่ร้านค้าดิวตี้ฟรีอีกครั้งในอาคารสนามบินดอนเมืองหลังดังกล่าว โดยมีพื้นที่ดิวตี้ฟรีรวมกันทั้งหมด 3,000 ตารางเมตร

ขณะที่การเปิดประมูลโครงการพื้นที่เคาน์เตอร์รับส่งมอบสินค้าดิวตี้ฟรีในสนามบินดอนเมือง  (pick up counter) ทอท.กำหนดจะดำเนินการช่วงเดือนมกราคม 2563 ต่อไป

อย่างไรก็ตามมีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตุว่า เอกชนสนใจยื่นประมูลโครงการดิวตี้ฟรีดอนเมือง จำนวน้อยลง เพราะแต่ละค่ายรอที่จะชิงพื้นที่การประมูล pick up counter ดอนเมือง ต้อนรับศักราชปี 2563 เนื่องจากขณะนี้ผู้ประกอบการหลายรายหันไปเปิดร้านค้าดิวตี้ฟรีในเมือง จึงต้องการมีพื้นที่ส่งมอบสินค้าในสนามบินบริเวณอาคารระหว่างประเทศ ไว้รองรับบริการนักท่องเที่ยวที่ซื้อสินค้าแล้วเดินทางเข้าออกประเทศแต่ละปี

ทั้งนี้กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ถือเป็นผู้บุกเบิกการดำเนินธุรกิจร้านค้าดิวตี้ฟรี แล้วยังให้บริการจุดส่งมอบสินค้าหรือ pick up counter ตามสนามบินของ ทอท.โดยมีประสบการณ์ความชำนาญระดับแถวหน้าของเมืองไทยเช่นกัน

ข่าวที่ 2 “คิงเพาเวอร์ลดสมาชิก20%ที่ห้องเท็นชิโนพูลแมนคริสต์มาส/ปีใหม่

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ให้สมาชิกรับส่วนลดสูงสุด 20% ต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่กลิ่นอายญี่ปุ่นที่ “เท็นชิโนะ” ห้องอาหารชั้น 2 โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ กับเมนูที่นำเสนอวัตถุดิบชั้นเลิศส่งตรงญี่ปุ่น ผสมผสานศาสตร์การปรุงอาหารที่ใช้ทั้งเทคนิคของฝรั่งเศส และแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นเน้นรสชาติจากธรรมชาติ ภายใต้บรรยากาศสไตล์เฟรนช์บิสโทรและโบฮีเมียนชิค  เซ็ตเมนูคริสต์มาส ระหว่างวันที่ 24-30 ธันวาคม 2562 เซ็ตละ 2,400 บาท กับเมนูส่งท้ายปี Osechi Ryori Set Menu วันที่ 31 ธันวาคม เซ็ตละ 2,600 บาท

โดยทางเชฟแพน–ขวัญชนก ศรีธาวัชร ได้แรงบันดาลใจมาจากประเพณีของญี่ปุ่น ทำเมนูเบนโตะเซ็ต ที่เมื่อเปิดกล่องขึ้นมาจะพบกับความสุขมากมายให้ได้ลิ้มรสชาติ เริ่มจากเมนูสตาร์ตเตอร์ “Sashimi” เชฟคัดสรรซาชิมิที่มีปลาฮามาจิ ปลามาได และอากามิ ที่เป็นส่วนเนื้อแดงของบลูฟินทูน่า เนื้อปลาสดจากชายฝั่งทะเลรสหวานนุ่ม รับประทานกับ “Chawamuchi in Egg Shell with Uni” ไข่ตุ๋นสไตล์ญี่ปุ่นเนื้อเนียนนุ่ม ท็อปด้วยไข่หอยเม่นจากเกาะฮอกไกโด ตัดด้วยเนื้อสัมผัสกรอบของ “Fried Ebi” กุ้งลายเสือชุบเกล็ดขนมปังโฮมเมดนำไปทอดในน้ำมันจนได้สีเหลืองทอง เสิร์ฟพร้อมกับทาร์ทาร์ซอส

ตามด้วยจานหลัก “Foie Gras and Fuji Apple with Red Wine Sauce” ฟัวกราส์ที่ใช้วิธีเซียร์ให้สุกกำลังพอดี รับประทานคู่กับแอ็ปเปิ้ลฟูจิจากเมืองอาโอโมริที่นำไปย่างให้มีกลิ่นหอม และซอสไวน์แดง ต่อด้วย​ “Snow Fish Miso Yaki accompanied with Japanese Rice” ปลาหิมะหมักกับชิโระมิโสะแล้วย่างบนไฟอ่อน เพิ่มรสสัมผัสด้วยข้าวบาร์เลย์ผสมกับซอสมิโสะ เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยญี่ปุ่นร้อนๆ ที่มีความนุ่มหอมเป็นเอกลักษณ์ และยังมี “Matcha Soufflé” มัตฉะซูเฟล ของหวานสัญชาติฝรั่งเศส เชฟเลือกใช้ชาเขียว วัตถุดิบซึ่งเป็นตัวแทนวัฒนธรรมของญี่ปุ่น และสีเขียวของเทศกาลคริสต์มาส

ส่วนวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่ห้องเท็นชิโนะ นำเสนอ Osechi Ryori ตามธรรมเนียมนิยมชาวญี่ปุ่น เชฟบรรจงจัดอย่างสวยงามลงใน Jubako กล่องสีแดงเปี่ยมด้วยความหมายSWEET AND TENDER ขนมหวานอุ่นๆ สีเขียวของมัตฉะซูเฟลเหมือนต้นคริสต์มาสเล็กๆ ที่มีหิมะโปรยปราย รังสรรค์การทำอย่างประณีตในกล่องแห่งความสุขห่อด้วยผ้าลายปลาคาร์พที่ว่ายอยู่ในสายน้ำสีทอง เป็นของขวัญจากห้องอาหารเท็นชิโนะในเทศกาลพิเศษนี้

สำรองที่นั่ง โทร. 0 2680 9999 หรืออีเมล H6323-FB5@ACCOR.COM ห้องอาหารเท็นชิโนะ เปิดบริการทุกวัน 18.00-23.00 น.

ข่าวที่ 3 บิ๊กททท.ชี้เที่ยว5วันรับศักราชใหม่ทำเศรษฐกิจคึก2.3หมื่นล้าน

30

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศ ไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้ประเมินสถานการณ์ช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะเริ่มวันที่ 28 ธันวาคม 2562 - 1 มกราคม 2563 ตลอด 5 วัน คาดการณ์รายได้หมุนเวียน 23,800 ล้านบาท มาจากต่างชาติเดินทางมาเที่ยวไทย 6.90 แสนคน เพิ่ม 7% สร้างรายได้รวม 12,000 ล้านบาท เติบโต 7 % เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 45,135 คน ใช้จ่ายเฉลี่ยใกล้เคียงกับปีก่อน 5,300 บาท/คน/วัน  ส่วนคนไทยเที่ยวในประเทศกว่า 3.16 ล้านคน-ครั้ง ใช้จ่ายกว่า 11,800 ล้านบาท คนไทยส่วนใหญ่เน้นฉลองปีใหม่ภายในภาค รวมทั้งเที่ยวระยะใกล้มากขึ้น ในรอบกรุงเทพฯ ชลบุรี นครราชสีมา กาญจนบุรี ระยอง ซึ่งนิยมพาครอบครัวไปทานอาหารและท่องเที่ยวพักผ่อน กับบางกลุ่มไปเมืองรองพื้นที่เชื่อมโยงระยะไกลบ้างตามแหล่งท่องเที่ยวหน้าหนาว จังหวัดเลย  เชียงราย

ขณะเดียวกันคนไทยก็นิยมเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศช่วงปีใหม่ ปกติจะใช้เงินเฉลี่ย 40,000-60,000 บาท/คน/ทริป ในยุคสังคมออนไลน์ทำให้เห็นชัดปี 2563 จะพุ่งเป้าไปเที่ยวในประเทศที่มีหิมะ อากาศหนาวเย็น และแถบเพื่อนบ้านอย่างญี่ปุ่น เวียดนาม มาเลเซีย

สำหรับการท่องเที่ยวส่งท้ายปีนี้มีปัจจัยดึงดูดต่างชาติเพิ่มขึ้นเพราะตลอดธันวาคมนี้ จะมีเที่ยวบินประจำและเที่ยวบินเช่าเหมาลำ บริการรวม 382 เที่ยว โดยมีการเปิดเส้นทางใหม่ 195 เที่ยว/สัปดาห์ จากจีน 18 เที่ยว ญี่ปุ่น 13 เที่ยว อินเดีย 1 เที่ยว เมียนมา 2 เที่ยว เวียดนาม 6 เที่ยว รัสเซีย 2 เที่ยว เยอรมนี 1 เที่ยว และเที่ยวบินเช่าเหมาลำเข้ามาเดือนธันวาคม 2562 รวม 187 เที่ยว จากตลาดจีน เข้ากรุงเทพฯ พัทยา เชียงใหม่ กระบี่ สุราษฎร์ธานี สมุย ภูเก็ต รวม 51 เส้นทาง 75,351 ที่นั่ง  ส่วนตลาดยุโรป จะเข้าอู่ตะเภา สุราษฎร์ธานี กระบี่ ภูเก็ต อาทิ รัสเซีย 130 เที่ยว สวีเดน 5 เที่ยว ฟินแลนด์ 1 เที่ยว

ข่าวที่ 4 “ททท.ระยองชูโซเชียลทำเช็ค&แชร์ปลุกท่องเที่ยวส่งท้ายปี

นายอัครวิช เทพาสิทธิ์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานระยอง เปิดเผยว่า ได้จัดมหกรรมความสนุกส่งท้ายปี ด้วยกิจกรรม “เช็ค & แชร์ ระยองเกมส์” เชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมสร้างประสบการณ์ความสุขสนุกได้ตลอดระหว่างวันนี้ – 31 ธันวาคม 2562 โดยเข้ามาในทางเพจ facebook ททท.สำนักงานระยอง แล้วทำตามเพียง 3 ขั้นตอนง่าย ๆ ก็ลุ้นรับรางวัลไปได้เลย 5 รางวัลท่องเที่ยวทะเลตะวันออก ซึ่งจะประกาศผลวันที่ 6 มกราคม 2563 ทางเพจ FaceBook ททท.สำนักงานระยอง ประกอบด้วย

รางวัลที่ 1  - ห้องพัก 3 วัน 2 คืน  พร้อมกิจกรรมดำน้ำเกาะเสม็ด และของที่ระลึกจาก ททท.กับของฝากคู่ครัวระยอง

รางวัลที่ 2  - ห้องพัก 2 วัน 1 คืน พร้อมกิจกรรมดำน้ำเกาะเสม็ด และของที่ระลึกจาก ททท.กับของฝากคู่ครัวระยอง

รางวัลที่ 3 -แพกเกจดำน้ำตื่นหมู่เกาะเสม็ด พร้อมที่ระลึกและของฝากคู่ครัวระยอง รางวัลที่ 4 ของที่ระลึกคู่ครัวระยอง รางวัลชมเชย ของที่ระลึกกระเป๋าใส่อุปกรณ์การเดินทางและของฝากคู่ครัวระยอง

นักท่องเที่ยวเข้าร่วมง่าย ๆ เช็ค&แชร์ ระยองเกมส์ 3 ขั้นตอนดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 กดไลค์เพจ ททท.สำนักงาน ขั้นตอนที่ 2 เช็คอินสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือร้านของฝากในระยอง ขั้นตอนที่ 3 ถ่ายภาพและแชร์ลง Facebook ส่วนตัว ตั้งค่าเป็นสาธารณะ พร้อมติดแฮชแทค #Amazingไทยเท่ และ #มาระยองรับรองsurprise

ข่าวที่ 5 บางจากแจกของขวัญทำดีเซลยูโร5ทุกตัวขายราคาเดิม

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้มอบของขวัญชิ้นแรกและเพื่อร่วมดูแลคุณภาพชีวิตให้กับคนกรุงเทพฯ จึงได้ปรับคุณภาพน้ำมันดีเซลทุกชนิดที่จำหน่ายในทุกสถานีบริการน้ำมันบางจาก เขตกรุงเทพมหานคร ให้เป็นมาตรฐานยูโร 5 ที่มีค่าซัลเฟอร์ต่ำกว่า 10 ส่วนในล้านส่วน และค่ากำมะถันลดลงกว่า 5 เท่า เมื่อเทียบกับยูโร 4 โดยจะขายน้ำมันดีเซลมาตรฐานยูโร 5 ทุกลิตร ราคาเท่าเดิม ในพื้นที่ กทม. ระหว่าง 15 ธันวาคม 2562 - 16 มกราคม 2563 เนื่องจากช่วงปลายปี ต่อเนื่องปีใหม่มีการเดินทางกันมาก เพื่อสวัสดีปีใหม่ญาติมิตรหรือพักผ่อนหย่อนใจ แรงกดอากาศสูงจากจีน ทำให้อากาศไม่เคลื่อนไหว แต่น้ำมันมาตรฐานยูโร 5 จะช่วยลดปัญหา PM 2.5 ซึ่งอันเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจต่อคนไทย

ข่าวที่ 6 ซื้อ1แถม1หัวเชื้อนำมันดีเซลบางจากถึง31ธ.ค.นี้

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จัดแคมเปญเป็นของขวัญส่งท้ายปี กับแคมเปญ “แรงส์!! หัวเชื้อน้ำมันดีเซล ซื้อ 1 แถม 1” ระหว่างวันนี้- 31 ธ.ค. 62 หรือจนกว่าของจะหมด โดยเฉพาะสมาชิกบัตรบางจาก เมื่อเติมน้ำมันบางจาก ไฮดีเซล S B10 หรือ ไฮดีเซล B20 S ครบทุก 700 บาทรับ 1 สิทธิ์ ซื้อหัวเชื้อน้ำมันดีเซล ขนาด 200 มล. ราคา 50 บาท ซื้อ 1 ขวด แถม 1 ขวด และไม่จำกัดสิทธิ์ต่อเดือน ที่สถานีบริการน้ำมันบางจากทุกสาขาที่เข้าร่วมรายการ

ข่าวที่ 7 บางจากแนะใช้ยาสีฟันขัดโคมไฟหน้ารถลดอุบัติเหตุ

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มีข้อมูลมาแนะนำ เจ้าของรถยนต์ กับเคล็ดลับขัดโคมไฟหน้ารถให้ใสปิ๊ง แค่ใช้ "ยาสีฟัน"  ด้วยขั้นตอนง่าย ๆ เพียงแค่ล้างโคมไฟหน้ารถ ด้วยน้ำสะอาด ก่อนจะนำยาสีฟัน มาบีบและทาให้ทั่ว จากนั้น นำผ้าแห้ง มาเช็ดวนให้ทั่ว ทิ้งไว้สัก 1-2 นาที แลัวนำผ้าชุบน้ำมาเช็ดออก เพียงเท่านี้ โคมไฟก็จะกลับมาใสปิ๊งเหมือนใหม่แล้ว

เนื่องจากโคมไฟหน้ารถ ถือเป็นอีกสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเกี่ยวข้องกับเรื่องทัศนวิสัยในการมองเห็นถนนหรือเส้นทางการขับขี่อย่างชัดเจน การทำสะอาดให้กระจกใสอยู่ตลอดเวลา ก็จะทำให้ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุน้อยลง

เพราะโคมไฟหน้ารถเหลือง หรือมี คราบ สกปรก เป็นอีกจุดหนึ่ง ที่ทำความสะอาดได้ยากพอสมควร แถมขัดถูเท่าไรก็ไม่ยอมออกสักที บางคนทนไม่ไหวต้องนำไปล้างหรือ ทำความสะอาด ที่ศูนย์บริการเฉพาะจุด บางคนก็ซื้อน้ำยาที่ไว้ ทำความสะอาด โคมไฟโดยเฉพาะมาขัดเอง แต่ราคาของพวกนี้ถ้าเป็นยี่ห้อดี ๆ ก็อาจจะมีราคาที่สูงเอาการอยู่ และสำหรับใครที่ไม่อยากเสียเงินในจุดนี้ เรามีวิธีการทำความสะอาดโคมไฟแบบประหยัดด้วยยาสีฟัน ซึ่งเป็นของใช้ประจำบ้านของทุกครัวเรือน

ข่าวที่ 8 TCEBหนุนเต็มที่ 5 เมกะอีเวนต์สร้างเงินสร้างงานกระจายทั่วไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB”  เปิดเผยว่า ทีเส็บมีความพร้อมให้การสนับสนุนการจัด 5 เมกะอีเวนต์ที่แต่ละฝ่ายนำมาจัดในประเทศไทย เพื่อสร้างรายได้กระจายสู่ภาคส่วนต่าง ๆ ตั้งแต่ปลายปีนี้ ต่อเนื่องถึงปี 2563 ประกอบด้วย

1.อีเวนต์เกี่ยวกับศิลปะและวัฒนธรรม เป็นการแข่งขัน เกมพิธีมอบรางวัล หรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ วัฒนธรรมและชีวิตทางสังคม เช่น ภาพยนตร์เพื่อการศึกษา เทศกาล ศิลปะการทำอาหารและทัศนศิลป์ซึ่งรวมถึงจิตรกรรมประติมากรรมภาพถ่ายและสื่อโสตทัศน์อื่น ๆ

2.อีเวนต์เกี่ยวกับความบันเทิง เป็นกิจกรรมการแข่งขันที่ใช้การแสดงออกในระดับสูง และการนำเสนอหรือการแสดงที่หรูหราที่มุ่งสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชม โดยใช้กับทุกแง่มุมของความบันเทิง รวมไปถึงความบันเทิงด้านกีฬา (เช่นการแข่งกีฬา ) ละครเพลงละครตลกละครสัตว์ภาพยนตร์เวทมนตร์และดนตรี

3.อีเวนต์เกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์และไลฟ์สไตล์ เป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์แฟชั่นการออกแบบผลิตภัณฑ์ คอมพิวเตอร์กราฟิก การนำเสนอรายการ ไลฟ์สไตล์ที่ผลิตในรูปแบบของการแสดง การประชุมเชิงปฏิบัติการ การนำเสนอเทคโนโลยีขั้นสูง สื่อภาพหรือแม้กระทั่งการใช้จุดหมายปลายทางเป็นพื้นหลังของการแสดง

4.อีเวนต์กีฬา ถูกกำหนดให้เป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศหรือระดับภูมิภาค ระหว่างทีมสมาคมและบุคคลที่เป็นตัวแทนอย่างน้อย 3 ประเทศ

5.อีเวนต์การท่องเที่ยว รวมถึงเทศกาลรื่นเริง และการแสดง ด้วยการตกแต่งจุดหมายทางหรือภูมิทัศน์เมืองเป็นพื้นหลังหรือสถานที่สำคัญสำหรับเหตุการณ์

              

  ช่วงที่ 2 เมืองไทยต้องออกเที่ยว จะได้รู้ว่า “เกาะยาวใหญ่” มีชุมชนน่ารัก บริหารจัดการทรัพยากร สร้างรายได้อย่างสมดุล ไปสัมผัสกับหมู่บ้านมุสลิมที่มีความน่ารักรอต้อนรับอยู่ทั้งเรื่อง วิถีชีวิต อาหาร การนอนโฮมสเตย์ ต้องลองไปให้รู้ว่าเมืองไทยมีดี ส่วน “หน้าหนาวดูแลอย่างไรไม่ให้ผิวแห้ง” มีเคล็ดลับแนว ๆ มาบอก ด้านข่าวร้อน ๆ “คลังติดใจชิมช้อปใช้” ยืดเวลาไปอีกจนถึง 31 มกราคม 2563 งัดของแจก 12 ล้านบาท มาล่อใจประชาชนและร้านค้า ทางด้าน “ทอท.แจงยิบยังไม่ขึ้นค่าธรรมเนียมสนามบิน PSC” หากต้องส่งเงินสมทบเข้ากองทุนกรมอากาศยาน  “แอพปลุกทัวร์จีน น้องใหม่มาแรง -Let’s go Thailand”

@เที่ยวชุมชนน่ารักวิถีสุดชีลที่เกาะยาวใหญ่ พังงา

ปลายปีนี้ใครที่ยังไม่ได้วางแผนไปเที่ยวที่ไหน ขอแนะนำให้ไปลองใช้ชีวิตกับชุมชนน่ารัก ๆ “เกาะยาวใหญ่” มียอดเขายาวไปถึงชายหาด ของจังหวัดพังงา ถือได้ว่าเป็นมุกอันดามันสุดงดงาม ในรอยต่อของพื้นที่ทะเลพังงา กระบี่ ภูเก็ต เมื่อเข้าไปถึงจะมีชุมชนอาศัยอยู่ด้วยกัน 4 หมู่บ้าน จากช่องหลาด คลองบอน ย่าหมี และคลองเหีย ที่มีทรัพยากรธรรมชาติกับวิถีท้องถิ่นอันลงตัว มีทั้งอ่าวสวยงาม ทุ่งนาริมทะเลหาดทราย ป่าต้นน้ำชุมชน ประมงพื้นบ้าน กระชังปลา  แถมมีบริการโฮมสเตย์ของชาวมุสลิม

“ชุมชนเกาะยาวใหญ่” ที่ได้รับการพัฒนาชุมชนแบบมีส่วนร่วม มีรูปแบบบริหารจัดการการท่องเที่ยวในแต่ละชุมชนด้วยตนเอง แล้วก็รวมตัวกันตั้งเป็นกลุ่มขึ้นมารองรับนักท่องเที่ยวแยกความรับผิดชอบกันชัดเจน อย่างกลุ่มโฮมสเตย์ กลุ่มอาหาร กลุ่มผลิตสินค้าท้องถิ่น เกิดการจัดการทรัพยากรแบบแบ่งปันแล้วใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ ก่อเกิดการกระจายรายได้อย่างสมดุลในแต่ละกลุ่มอย่างเท่าเทียม

เมื่อเข้าไปเที่ยวในชุมชนก็ได้มีประสบการณ์ร่วม 6 เรื่อง เริ่มจาก เรื่องแรก ได้ชมป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ล้อมรอบเกาะไว้ เรื่องที่ 2 จะได้พบกับต้นไม้ใหญ่ในป่าชุมชนซึ่งชาวบ้านอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี เรื่องที่ 3 ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้กับปราชญ์ชาวบ้านที่จะมาสอนการสานสื่อจากเตยปาหนัน   ที่ 4 ได้ร่วมประสบการณ์นั่งเรือไปซักไซปลาเก๋าตัวขนาดเบ้ง ๆ เรื่องที่ 5 ยามเย็นสามารถไปร่วมนั่งตกปลาหม้อหลอด (ปลาทราย) ริมชายฝั่ง ซึ่งเป็นกิจกรรมประจำวันของคนในชุมชน เรื่องที่ 6 จะได้ชิมอาหารถิ่นต้นตำรับของพี่น้องชาวมุสลิม

เสน่ห์ของชาวเกาะยาวใหญ่นอกจากธรรมชาติ กับ วิถีชีวิตแล้ว เรื่องอาหารทะเลสดรสเด็ด ก็ไม่แพ้ที่ใด ๆ เช่นกัน เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา และไฮไลต์กุ้งมังกร 7 สี ที่เลี้ยงไว้ในกระชังเพื่อขายตามร้านอาหาร อร่อจนเกินบรรยายจริง ๆ

อยากรู้ว่าอร่อยขนาดไหน ต้องลองไปเที่ยวพักค้างคืนสักครั้ง แล้วจะรู้ว่าเมืองไทยมีดีทุกที่ เที่ยวได้ทุกเวลา

@ช่วงหน้าหนาวดูแลอย่างไรไม่ให้ผิวแห้งได้ ???                                                                                                                               

ช่วงฤดูหนาวเช่นนี้ นับเป็นเทศกาลท่องเที่ยวเพราะท้องฟ้าแจ่มใสและอากาศเย็นสบาย แต่ก็มีโอกาสพบโรคผิวหนังบางอย่างที่สามารถเกิดขึ้นได้ เรามาทำความรู้จักกับโรคเหล่านี้กัน และจะมีวิธีการดูแลผิวอย่างไรบ้าง เพราะปัญหาผิวหนังที่มักพบได้บ่อย คือ ผิวแห้ง แตก คัน และไม่เปล่งปลั่งสดใส ซึ่งเกิดจากความชื้นที่อยู่ในอากาศมีน้อยลง ทำให้ผิวหนังเสียน้ำและความชื้นในผิวได้ง่าย บางรายอาจถึงขั้นผิวแห้งจนอักเสบหรือแสบคันจนมีเลือดออกซิป ๆ กันเลยทีเดียว ดังนั้นหากสาว ๆ คนไหนที่ไม่อยากให้ผิวต้องเผชิญกับปัญหาเหล่านี้

ดูแลไม่ให้ผิวแห้งได้อย่างไร                                                                                                                                       

1. ในหน้าหนาวอาจใช้เพียงสบู่อ่อนฟอกบริเวณที่อับชื้น เช่น รักแร้ ซอกขา ก็เพียงพอ ถ้ามีผิวแห้งมากควรใช้ครีมบำรุงผิวที่ไม่เหนียวเหนอะหนะ เพราะปัญหาผิวหนังในหน้าหนาวที่พบบ่อยที่สุด และมักเกิดกับคนไทยที่รักความสะอาดเป็นทุนอยู่แล้วคือ ปัญหาผิวแห้งทำให้เกิดอาการคัน บางท่านใช้สบู่ยาฟอกผิวหนัง เพราะเข้าใจผิดว่าผิวแห้งคันเกิดจากการติดเชื้อโรค การใช้สบู่ยายิ่งทำให้ผิวแห้งจัดจนแตกลายและเป็นแผลได้ การอาบน้ำร้อนจัดหรือนอนแช่อ่างอาบน้ำอุ่นก็ทำให้ผิวยิ่งแห้ง 

2. ผู้ที่มีผิวแห้งต้องงดยาทาแก้คันที่มีลักษณะเป็นแป้งน้ำเพราะจะทำให้ผิวหนังแห้งมากขึ้น และต้องไม่ใช้ยาฆ่าเชื้อราทา เพราะไม่สามารถแก้ปัญหาผิวแห้งและยังทำให้ผิวแห้งกำเริบขึ้น ต้องระวัง เพราะทำให้ผิวแห้งระคายเคืองได้ง่าย ถ้าจำเป็นต้องทายาให้น้อยลงหรืองดเป็นช่วงๆ   เพราะครีมบางตัวมีกรดผลไม้ กรดวิตามินเอ ครีมรักษาสิว เช่น เบนซอยล์เพอร์ออกไซด์ โลชั่นทาสิว (เช่น กำมะถัน)  ส่งผลต่อผิวด้วยเช่นกัน

3. ถ้าหน้าแห้งมากหรือผิวกายแห้งควรลดหรืองดการฟอกสบู่ และใช้ครีมให้ความชุ่มชื้นทาใบหน้า ทาตามตัว ควรงดการใช้สบู่ที่มีเม็ดขัดถูใบหน้าด้วย ควรสวมใส่เสื้อผ้าให้มิดชิดในหน้าหนาว

นอกจากทำผิวให้สะอาดโดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ดีแล้ว ต้องดื่มน้ำให้มากๆ โดยเฉพาะการดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำที่อุณหภูมิห้องช่วยให้ผิวเราชุ่มชื้นไม่แห้งกร้าาน หากปฏิบัติตนตามวิธีข้างต้นนี้ก็สามารถช่วยลดโอกาศการเกิดอาการผิวแห้งได้

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “คลังติดใจยืดเวลาชิมช้อปใช้ถึง31ม.ค.63กระหน่ำแจก12ล้าน

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าหลังจากรัฐบาลออกมาตรการชิมช้อปใช้จนประสบความสำเร็จทั้ง3 เฟส ล่าสุดธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เตรียมต่อยอดโครงการสนับสนุนชิมช้อปใช้เพิ่มเติม เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนที่ใช้จ่ายผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ช่อง 2 (g-Wallet) รอรับของแจกสมนาคุณพิเศษให้ผู้เข้าร่วมมาตรการชิมช้อปใช้ทั้งประชาชนและร้านค้า มูลค่ารวมกว่า 12 ล้านบาท ระหว่างนี้ -31 มกราคม 2563

“ภาคประชาชน” ที่ใช้จ่ายผ่านกระเป๋าเงินช่อง 2 ยอดสะสมทุก ๆ 1,000 บาท จะได้รับ 1 สิทธิ์ ลุ้นรับของสมนาคุณกว่า 500 รายการ ส่วนยอดสะสมผ่านกระเป๋าเงินช่อง 2 ตลอดมาตรการ อีกทั้งประชาชนที่เข้าร่วมมาตรการจะมีสิทธิ์ลุ้นรับของสมนาคุณชิ้นใหญ่เพิ่มเติม ได้แก่ รถยนต์ และรถกระบะ

            ประชาชนผู้ได้รับสิทธิ์ทั้ง 3 เฟส สามารถใช้สิทธิ์ได้ต่อเนื่องไปจนถึง 31 ม.ค. 2563 ด้วยการใช้จ่ายผ่านกระเป๋าเงินช่อง 2 จะมีสิทธิได้รับเงินคืนสูงสุดถึง 20% แล้วยังมีสิทธิ์ลุ้นรับของสมนาคุณมากมายด้วย

รางวัลทั้งหมดมีมูลค่ารวม 12 ล้านบาท ประกอบด้วย รางวัลใหญ่ รถยนต์โตโยต้า อัลติส มูลค่า 8 แสนบาท จำนวน 1 คัน รถยนต์กระบะโตโยต้า ไฮลักซ์  3 คัน รถจักรยานยนต์ 16 คัน และทองคำมูลค่า 1 บาท 80 เส้น ทองคำ มูลค่า 50 สตางค์ กว่า 549 เส้น ทีวี ขนาด 55 นิ้ว 32 เครื่อง

กำหนดจับรางวัล 6 ครั้ง แบ่งเป็น  3 ครั้งแรก จะจับรางวัลที่กระทรวงการคลัง อีก 3 ครั้งหลัง จับรางวัลที่ธนาคารกรุงไทย ส่วนรางวัลรถยนต์จะให้ผู้ใช้จ่ายผ่านกระเป๋าเงินช่อง 2 ทุกคนที่เข้าร่วมตั้งแต่เริ่มมาตรการชิมช้อปใช้มีโอกาสชิงโชคด้วย

“ผู้ประกอบการร้านค้า” ที่เข้าร่วมมาตรการ ทุก  1 ใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่มีมูลค่าการชำระเงิน 100 บาทขึ้นไป รับ 1 สิทธิ์ เพื่อลุ้นรับทองคำกว่า 100 รายการ โดยของสมนาคุณรวม 6 ครั้ง กำหนดวันที่ 20 ธ.ค. 2562, วันที่ 3,10, 17, 24 ม.ค. 2563 และวันที่ 14 ก.พ. 2563

ข่าวที่สอง “แอพใหม่มาแรงLet’s go Thailand ดึงจีนเที่ยวไทย

แพลตฟอร์มท่องเที่ยวออนไลน์ ตลาดจีน รายงานว่า การเปิดตัวแอพลิเคชั่น Let's go Thailand เพื่อดึงดูดตลาดจีนเข้ามาท่องเที่ยวไทย ตอบสนองไลฟ์สไตล์นักท่องเที่ยวจีน ผ่านแพลตฟอร์มท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของจีน ต้อนรับตรุษจีนปี 2563 พร้อมทั้งจ้างพรีเซ็นเตอร์คนดัง ใบเฟิร์น - พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ เพื่อโปรโมทแพคเกจท่องเที่ยวไทย

สำหรับแอพลิเคชั่นดังกล่าว กลุ่มคนไทย ก่อตั้งพร้อมนำร่องสร้าง Let's go Thailand ขึ้นเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของนักท่องเที่ยวจีน  สามารถเลือกวางแผนการเดินทางด้วยตนเอง ตั้งแต่หาข้อมูลการเดินทาง ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ การจองตั๋วเครื่องบิน การจองที่พัก การจองตั๋วรถไฟ การเลือกใช้บริการรถเช่า ซื้อแพจเกจทัวร์ ด้วยตนเองอย่างสะดวกและง่าย พร้อมกับเปิดซื้อขายแพคเกจการท่องเที่ยวไทย กดรับคูปองส่วนลดควบคู่กันไปได้ด้วย

เนื่องจากแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาท่องเที่ยวไทยเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยเฉพาะกลุ่มคนวัยหนุ่มสาวอายุตั้งแต่ 25 - 45 ปี ใช้เงินท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ตามที่ Chinainternetwatch ระบุว่า เฉพาะช่วงครึ่งปี 2563 จีนวางแผนใช้จ่ายเงินท่องเที่ยวเฉลี่ยสูงถึง 6,706 เหรียญสหรัฐ/คน/ทริป เติบโตขึ้น 15 % ดังนั้น แอพลิเคชั่น Let's go Thailand เพื่อการท่องเที่ยวไทย จะเป็นสื่อกลางอีกช่องทางช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นในปีต่อ ๆ ไป

อีกทั้งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกวางแผนการท่องเที่ยวด้วยตนเอง ตั้งแต่หาข้อมูล วางแผนการท่องเที่ยว การจองตั๋วเครื่องบิน การจองห้องพัก การจองแพกเกจทัวร์ ฯลฯ โดยใช้บริการผ่านแพลตฟอร์มท่องเที่ยวออนไลน์ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวชื่อดังในประเทศจีน ซึ่งจากการวิเคราะห์พฤติกรรมการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไปของนักท่องเที่ยวจีน แสดงให้เห็นถึงโอกาสที่ผู้ขายคนไทยจะขยายช่องทางธุรกิจการขายสินค้าไทยที่น่าดึงดูดไปสู่ ลูกค้าชาวจีนผ่านแพลตฟอร์ม จากสถิติมีนักท่องเที่ยวจีนหรือผู้ใช้บริการผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าวเดินทางไปยัง 192 ประเทศ

ข่าวที่สาม “ทอท.แจงไม่ขึ้นPSCโยนภาระผู้โดยสารเพื่อหาเงินเข้ากองทุน

ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” กล่าวว่า  ทอท. จะไม่ปรับค่าบริการผู้โดยสารขาออก (Passenger Service Charge : PSC) หากต้องนำรายได้ของ ทอท. สมทบให้กับกองทุนเพื่อการพัฒนาท่าอากาศยานภูมิภาคของกรมท่าอากาศยาน ขณะนี้ทางคณะกรรมการ ทอท. ยังไม่ได้พิจารณาเรื่องนี้ และไม่มีนโยบายจะเพิ่มภาระให้ประชาชน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ที่ได้สั่งการให้ ทอท. หาแนวทางลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน

รวมทั้ง ทอท.พร้อมจะสนับสนุนทุกๆ ด้าน รวมไปถึงด้านการบริหารจัดการสนามบินภูมิภาคบางแห่งที่มีศักยภาพสูง เช่น กระบี่ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่หนาแน่นมาจากการใช้บริการท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตได้ ตลอดจนบางแห่งที่มีโอกาสเพิ่มรายได้ พัฒนาให้เป็นสนามบิน เช่น อุดรธานี และบุรีรัมย์

อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนการจัดทำการศึกษาข้อมูล เพื่อเสนอคณะกรรมการกฤษฎีกา โดย ทอท. พร้อมจะให้การสนับสนุนข้อมูลทุกด้านให้คณะทำงานศึกษา เพื่อที่จะสามารถเดินไปด้วยกันได้ตั้งแต่ต้น และหากคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ความเห็นชอบแนวทางการดำเนินการมาอย่างไรแล้ว ทอท.จะได้ปรับแนวทางการดำเนินงานของ ทอท. ให้สอดรับไปในทิศทางเดียวกัน

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.