TCEBบุกจีน3วันโกยเงินก้อนโต2พันล้านเข้าไทย
ปี’63นำไมซ์ผงาดสู่ยุคทองยึดเจ้าตลาดใหญ่เอเชีย
คิงเพาเวอร์จัด5นิทรรศการวันพ่อท้องสนามหลวง
คิงเพาเวอร์ทำหนัง“เราเชื่อ”ปลุกพลังคนไทยแกร่ง
วันธรรมดาราคาช็อกแล้วช็อกอีกเหลือต่ำกว่า1พัน
ททท.เปิดจองทัวร์100เดียว2หมื่นสิทธิ์11-12ธ.ค.
บางจากลุยโปรเจ็กต์ดูแลสิ่งแวดล้อมชุดใหญ่ข้ามปี
TCEBผนึกบินไทยขายAPACMaxiMICEปี63
เที่ยวเชียงรายมุมใหม่สิงห์ปาร์ค-หนองหม้อ-ดอยฯ
แพทย์แนะหน้าหนาวกินอาหารเปรี้ยว-ขมสกัดโรค
บินไทยร่วมวันพ่อนำตั๋วทั่วไทยขายถูกสุด-14ธ.ค.
นายกฯเปิดอู่ตะเภาอาคาร2ปี’70รับได้5ล้านคน
ไทยเวียดเจ็ทชิงเปิดบินพัทยา-โฮจิมินห์23ธ.ค.นี้
เข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวัน 2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางมือถือ และอ่านได้ทาง Penroong Yaisamsaen และบล็อกเกอร์ gurutourza
#gurutourza #เที่ยวกับกู๋ #รวยด้วยข่าวเสารือาทิตย์FM97 #TCEBโกยรายได้จีนก้อนโต3วัน2พันล้าน #ดอกคอสมอส20ล้านต้นไร่สิงห์ปาร์ค #ชุมชนหนองหม้อSundayMarketCraftเชียงราย #วันธรรมดาราคาช็อกแล้วช็อกอีกเหลือไม่ถึงพัน #จองเลย100เดียวเที่ยวทั่วไทย11ธค62
ปี’63นำไมซ์ผงาดสู่ยุคทองยึดเจ้าตลาดใหญ่เอเชีย
คิงเพาเวอร์จัด5นิทรรศการวันพ่อท้องสนามหลวง
คิงเพาเวอร์ทำหนัง“เราเชื่อ”ปลุกพลังคนไทยแกร่ง
วันธรรมดาราคาช็อกแล้วช็อกอีกเหลือต่ำกว่า1พัน
ททท.เปิดจองทัวร์100เดียว2หมื่นสิทธิ์11-12ธ.ค.
บางจากลุยโปรเจ็กต์ดูแลสิ่งแวดล้อมชุดใหญ่ข้ามปี
TCEBผนึกบินไทยขายAPACMaxiMICEปี63
เที่ยวเชียงรายมุมใหม่สิงห์ปาร์ค-หนองหม้อ-ดอยฯ
แพทย์แนะหน้าหนาวกินอาหารเปรี้ยว-ขมสกัดโรค
บินไทยร่วมวันพ่อนำตั๋วทั่วไทยขายถูกสุด-14ธ.ค.
นายกฯเปิดอู่ตะเภาอาคาร2ปี’70รับได้5ล้านคน
ไทยเวียดเจ็ทชิงเปิดบินพัทยา-โฮจิมินห์23ธ.ค.นี้
เข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวัน 2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางมือถือ และอ่านได้ทาง Penroong Yaisamsaen และบล็อกเกอร์ gurutourza
#gurutourza #เที่ยวกับกู๋ #รวยด้วยข่าวเสารือาทิตย์FM97 #TCEBโกยรายได้จีนก้อนโต3วัน2พันล้าน #ดอกคอสมอส20ล้านต้นไร่สิงห์ปาร์ค #ชุมชนหนองหม้อSundayMarketCraftเชียงราย #วันธรรมดาราคาช็อกแล้วช็อกอีกเหลือไม่ถึงพัน #จองเลย100เดียวเที่ยวทั่วไทย11ธค62
ช่วงที่ 1 พบกับการเหยียบคันเร่งของ “จิรุตถิ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” ทำให้อุตสาหกรรมไมซ์เมืองไทยปี 2563 ก้าวสู่ยุคทองเล็งเป้าใหญ่ไมซ์จีน ทำโร้ดโชว์ 72 ชั่วโมงส่งท้ายปี ได้ลูกค้าพรีเมี่ยมขายตรงก้อนโต 2,000 ล้านบาท จ่อเพิ่มส่วนแบ่งลูกค้าพรีเมี่ยมกลุ่มประธานและซีอีโอ ล่าสุดตั้งทีเส็บครบ 4 ภูมิภาค หวังใช้เป็นหัวหอกขยายโปรดักซ์ ไมซ์ ซิตี้ เข้าไปคลุกวงในกับหน่วยงานราชการ อบต. อบจ.โดยมีฝ่ายนวัตกรรมวิจัยและพัฒนาเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันอบรมพัฒนาคนพันธุ์ไมซ์ สร้างมาตรฐานสถานที่จัดประชุม โตไปพร้อมกันทั้งตลาดในและต่างประเทศ และให้น้ำหนักทำ 2 โปรเจ็กต์ไมซ์ยั่งยืน ปี’63 ลดพลาสติก 10 ล้านขวด ผนึกผู้บริหารโรงแรมผนำร่องโครงการใหม่ Re Use ครบวงจร
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ได้จัดทำโร้ดโชว์เจาะตลาดไมซ์สาธารณรัฐประชาชนจีน 3 วัน โดยนำกลยุทธ์ตามแนวทางใหม่โดยได้ระดับซีอีโอกับประธานกลุ่มธุรกิจขายตรงเข้ามาร่วมเจรจาการค้าไมซ์มากถึง 22 บริษัท ที่มีลักษณะพิเศษจะเดินทางแบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ กลุ่มแรกเป็นซีอีโอบริษัทเดินทางขนาดกรุ๊ปละ 500 คน กลุ่มสอง จะเป็นนักขายตรงที่ได้รับการเดินทางท่องเที่ยว (incentive) กรุ๊ปละตั้งแต่ 2,000-10,000 คน/ครั้งขึ้นไป
การทำโร้ดโชว์ตลาดจีนครั้งนี้ได้เลือกใช้ APAC ซึ่งเป็นสถานที่ของรัฐบาลเคยจัดเอเชียนเกมส์ หลังการเจรจาเสร็จสิ้นภายใน 72 ชั่วโมง ได้ลูกค้ากลุ่มประชุมสัมมนาและได้รางวัลเดินทางท่องเที่ยวฟรี (Meeting & Incentive : MI) จากกงานนี้มาทั้งสิ้น 30,000-40,000 คน ตามปกติจะใช้จ่ายเฉลี่ย 70,000 บาทขึ้นไป/คน/ทริป ก็จะทำให้ปี 2563 ประเทศไทยจะมีรายได้จากไมซ์จีนเฉพาะกลุ่มนี้รวมกว่า 2,000 ล้านบาท เป็นความคุ้มค่าอย่างมาก และยังจะมีกลุ่มที่สนใจจะเดินทางมาเพิ่มขึ้นอีก ตัวอย่างเช่น กลุ่ม ไฟฟ์ ฮันเดรด จะมาช่วงสงกรานต์เมษายน 2563 ที่เชียงใหม่ โดยจองปิดโรงแรมโอเรียนเต็ล ดาราเทวี (เดิม) ในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้ลูกค้าทั้งหมดเข้าพัก
รวมทั้ง TCEB เร่งเดินหน้าแต่งตั้งตัวแทนไมซ์เพิ่มขึ้นที่กวางโจว ซึ่งเป็นตลาดใหญ่เป็นนโยบายจะลุยเจาะไมซ์จีนกลุ่มพรีเมี่ยม นอกเหนือจาก MI แล้ว ยังจะขยายฐานคอนเว็นชั่น (C-Convention) เป็นสมาคมจีนโพ้นทะเลซึ่งกระจายอยู่ทั่วโลกทั้งในอเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย สนใจจะมาประชุมกันในแถบประเทศอาเซียน ซึ่งไทยจะต้องขับเคี่ยวกับเวียดนามสนใจดึงงานนี้ไปด้วยเช่นกัน แต่ไทยก็มีโอกาสด้วยการร่วมมือกันทำอย่างเต็มที่
หากเปรียบเทียบตลาดไมซ์จากสาธารณรัฐประชาชนจีนสนใจเลือกมาไทย ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มอินเซ็นทีฟ โดยยังเหนียวแน่นกับเมืองไทย ด้วยเสน่ห์ความสวยงามทางวัฒนธรรม อาหารอร่อย ขณะนี้ที่สวนนงนุชมีไมซ์จีนเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ผนวกกับทางพัทยามีการลงทุนเปิดโชว์ใหม่ ๆ เป็นแม่เหล็กดึงดูดไมซ์จีนได้เป็นอย่างดี
แต่อุปสรรคตอนนี้จีนมีสายการบินโลว์คอสต์เปิดเที่ยวบิน ไป-กลับ เข้าไทยเป็นจำนวนมาก เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลต่อการวันพักเฉลี่ยอยู่ในไทยลดลง เพราะมีทางเลือกเที่ยวบินได้มากขึ้นในแต่ละสัปดาห์ ดังนั้นทีเส็บจึงต้องหากลยุทธ์เพิ่มฐานตลาดพรีเมี่ยมไมซ์จีนอย่างกลุ่มซีอีโอเดินทางเข้ามาพร้อมกันกรุ๊ปละ 500 คน ก็จะได้ใช้จ่ายเงินมากขึ้น
ผอ.จิรุตถ์กล่าวว่า ปีงบประมาณ 2563 มีแผนหลัก ๆ ในตลาดต่างประเทศจะเน้นการแต่งตั้งตัวแทนการตลาดเพิ่มขึ้นทั้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ไต้หวัน ตัวเลขไมซ์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่วน “ในประเทศ” มีฝ่ายพัฒนาโปรดักซ์ชัดเจนครบ 4 ภาค ทั้ง ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ ภาคตะวันออก จากนี้ไปจะต้องทำการตลาดอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะการบุกเจาะต่างประเทศยังมุ่งครบทั้ง M-I-C-E
สำหรับตลาดเอ็กซิบิชั่นจะเพิ่มรายได้จากการให้งบประมาณสนับสนุนกลุ่มผู้นำคณะเข้ามาจัดงานในไทย ส่วนการประชาสัมพันธ์จะลงลึกเรื่องภาษาสื่อสารมากขึ้น แตกต่างจากเมื่อก่อนจะใช้เฉพาะภาษาอังกฤษ จากนี้ไปจะเพิ่มภาษาของประเทศนั้น ๆ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้สะดวกมากขึ้น ผนวกกับการสนับสนุนงบประมาณจัดงานและมีแพกเกจพิเศษ ตัวอย่างกลุ่ม MI หากจัดทำโปรเจ็กต์ไมซ์ด้วยกิจกรรมสู่ความยั่งยืน (Sustainable MICE) ก็จะให้เงินสนับสนุนเพิ่ม นอกจากกลยุทธ์นี้การบุกตลาดในประเทศ เมื่อทีเส็บมีสำนักงาน 4 ภูมิภาคแล้วต้องช่วยกันบุกหนักมากขึ้น โดยทำงานเป็นทีมเวิร์คกับฝ่ายฝึกอบรมซึ่งจะเน้นการเพิ่มภาษาสื่อสารช่วยกันทำงานร่วมกับผู้ประกอบการไมซ์คนไทยมากขึ้น
ขณะที่การเดินหน้าเชิงรุกโครงการไมซ์สู่ความยั่งยืน ตอนนี้ได้ทำงานร่วมกับ “กลุ่มผู้บริหารโรงแรม” ส่วนใหญ่จะมีตำแหน่งเป็นผู้จัดการทั่วไป (general manager :GM) ของโรงแรมต่าง ๆ ล่าสุดจัดการประชุมกันที่สถานฑูตเนเธอร์แลนด์ นำร่องทำโครงการ Re-Use พลาสติก มีกลุ่มผู้ประกอบการผลิตพลาสติกแผ่นป้อนโรงงานขนาดใหญ่ เบื้องต้นจะทดลองริเริ่มก่อนในพื้นที่ราชประสงค์ ซึ่งมีโรงแรมเชนวางแผนบริหารจัดการหารถไปจัดเก็บขยะพลาสติกนำกลับมาเข้าสู่กระบวนการแปรรูปกลับไปใช้ประโยชน์ใหม่ แล้วจะคอยติดตามประเมินผลทุกระยะ ขณะนี้เริ่มโปรโมตให้โรงแรมจัดประชุมหันมาใช้ขวดแก้วแล้วเลิกใช้ขวดพลาสติกจะต้องดูเป้าตั้งไว้จะต้องลดขวดพลาสติกลงตลอดปีหน้า 10 ล้านขวด โดยมีบริษัทวิจัยติดตามผลอย่างใกล้ชิด ส่วน Re-Use เป็นอีกโครงการที่ทำร่วมกับผู้บริหารโรงแรมในไทย เพิ่งจะเริ่มต้นต้องติดตามระยะต่อไปด้วย
ตามแผนการขับเคลื่อนไมซ์สู่ความยั่งยืนด้วยโครงการ Re-Use จะเริ่มประชุมพันธมิตรที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอีกประมาณ 1-2 สัปดาห์หน้า เพื่อประเมินการใช้งบประมาณและเครื่องมือต่าง ๆ รวมทั้งลงรายละเอียด เพื่อดำเนินการตามแผนได้ทันที เพราะทุกโรงแรมพร้อมร่วมมืออย่างเต็มที่ นำไปสู่ความสำเร็จได้ปี 2563
ผอ.จิรุตถ์กล่าวว่า ภารกิจอีกด้านเกี่ยวกับการขยายฐานไมซ์ชุมชนในประเทศ ก็ยังคงจับมืออย่างเหนียวแน่นกับสหกรณ์ชุมชนและนวัตวิถี (กระทรวงมหาดไทย) ผนวกสำนักงานทีเส็บ 4 ภาค จะสามารถทำให้เกิดการพัฒนาโปรดักซ์ และการเข้าไปช่วยไมซ์ชุมชนจะโดดเด่นขึ้นมา เพราะได้ใส่กำลังคนไปมากพอสมควร ต้องทำการขยาย MICE CITY ด้วย ซึ่งได้ส่งฝ่ายนวัตกรรมวิจัยและพัฒนาลงพื้นที่อบรมลงไปถึงอำเภอเบตง จังหวัดยะลา เรียบร้อยแล้ว พยายามพัฒนาบุคลากรไมซ์ จัดหาสถานที่ใหม่ รวมทั้งยะลาเองก็มีโรงแรมใหม่ ๆ เกิดขึ้น
ขณะเดียวกันก็จะขอรณรงค์ให้คนไทยเข้ามามีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมไมซ์อย่างใกล้ชิดกับภาคประชาชนมากขึ้น นั่นคือทีมบริหารของทีเส็บจะต้องลงพื้นที่ถี่มากขึ้น เพราะการทำให้ไมซ์เข้าถึงภาคประชาชนถือเป็นหนึ่งในภารกิจหลักของทีเส็บ เพื่อการกระจายรายได้สู่ชุมชน จึงต้องทำงานร่วมกับองค์กรต่าง ๆ อีกมาก ปลายปี 2562 นี้ต้องเปิดแนวรุกความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข เพิ่มความเข้มข้นด้านไมซ์เพื่อสุขภาพ คงจะต้องมีภาคส่วนประชาชน องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) คัดเลือกสถานที่ในท้องถิ่นของทั้ง 2 องค์กร ที่มีความพร้อมรองรับการจัดประชุมได้เข้ามามีส่วนได้ส่วนเสียจากอุตสาหกรรมไมซ์ โดยทีเส็บจะเข้าไปช่วยสร้างมาตรฐานในแต่ละพื้นที่ให้มีศักยภาพและเติบโตได้ตามเป้าหมายของประเทศ
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์จัด5นิทรรศการวันพ่อท้องสนามหลวง”
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ร่วมกิจกรรมวันพ่อแห่งชาติ ประจำปี 2562 ตามนโยบายของรัฐบาลกำหนดจัดระหว่าง 5-14 ธันวาคม 2562 ณ ท้องสนามหลวง โดยเปิดบูธให้ประชาชนเข้าชม 5 นิทรรศการ โครงการสำคัญ การรวมพลัง รวมหัวใจ คนไทย ถวายความจงรักภักดีในหลวง ร.๙ ภายใต้แนวคิด “ปณิธานความดี... มีแล้วแบ่งปัน” พร้อมแจกลูกฟุตบอลเด็ก เยาวชนไทย
ในโอกาสวันที่ 5 ธันวาคม วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ตลอดจนเป็นวันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ รัฐบาลได้จัดงาน “วันพ่อแห่งชาติ ประจำปี 2562 ” ขึ้น เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความจงรักภักดีอย่างไม่รู้คลาย
ทางกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และมูลนิธิวิชัย ศรีวัฒนประภา ได้ยึดแนวทางตามรอยพระราชปณิธาน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ ด้านการช่วยเหลือและพัฒนาสังคมไทยให้ก้าวหน้ามั่นคง ยั่งยืน โดยนำโครงการสำคัญครั้งประวัติศาสตร์ ช่วงการเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ ๙ ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มาให้ประชาชนได้ชมภายในนิทรรศการ ประกอบด้วย
โครงการที่ 1 สายข้อมือ “เรา พระเจ้าอยู่หัว” จัดขึ้นเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ ๙ ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อปี 2549 จัดทำสายข้อมือสลักข้อความภาษาไทย “เรา พระเจ้าอยู่หัว” และข้อความภาษาอังกฤษ “ Long Live The King” จำนวน 1,000,000 เส้น
ในโอกาสวันที่ 5 ธันวาคม วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ตลอดจนเป็นวันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ รัฐบาลได้จัดงาน “วันพ่อแห่งชาติ ประจำปี 2562 ” ขึ้น เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความจงรักภักดีอย่างไม่รู้คลาย
ทางกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และมูลนิธิวิชัย ศรีวัฒนประภา ได้ยึดแนวทางตามรอยพระราชปณิธาน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ ด้านการช่วยเหลือและพัฒนาสังคมไทยให้ก้าวหน้ามั่นคง ยั่งยืน โดยนำโครงการสำคัญครั้งประวัติศาสตร์ ช่วงการเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ ๙ ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มาให้ประชาชนได้ชมภายในนิทรรศการ ประกอบด้วย
โครงการที่ 1 สายข้อมือ “เรา พระเจ้าอยู่หัว” จัดขึ้นเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ ๙ ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อปี 2549 จัดทำสายข้อมือสลักข้อความภาษาไทย “เรา พระเจ้าอยู่หัว” และข้อความภาษาอังกฤษ “ Long Live The King” จำนวน 1,000,000 เส้น
โครงการ 2 “ไทยทั้งชาติถวายพระพร ร้อยอักษรถวายพระเจ้าอยู่หัว” สายข้อมือ “เรา พระเจ้าอยู่หัว” รุ่นที่ 2
โครงการ 3 จัดทำนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติฯ คิง เพาเวอร์ ร่วมกับ ผู้ผลิตนาฬิกาแบรนด์ดังระดับโลก ผ ลิ ต น า ฬิ ก า ยี่ ห้ อ PARMIGIANI FLEURIER จำนวน 60 เรือน โดยได้รับพระบรมราชานุญาตเชิญอักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. ประดิษฐานบนหน้าปัดนาฬิกาและเชิญตราสัญลักษณ์ การจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60ปี ประดับที่ด้านหลังตัวเรือน
โครงการที่ 4 มวลสารมงคล “เรา พระเจ้าอยู่หัว” นำมาจากบัตรถวายพระพรชัยมงคลที่ประชาชนเขียนด้วยความตั้งใจ ด้วยสมาธิจากความรัก และความจงรักภักดีที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ ๙ ร้อยเรียงเป็นตัวอักษรทำให้บัตรถวายพระพรชัยมงคลเป็นที่รวมพลังจิตที่มีคุณค่ายิ่ง
โครงการที่ 5 จัดการสร้างพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “ทรงงาน” (จำลอง) เพื่อเฉลิมพระเกียรติและเผยแพร่พระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 86 พรรษา 5 ธันวาคม 2556 โดยจัดทำรูปหล่อพระเจ้าอย่หัว “ทรงงาน” (จำลอง) ขนาดความสูง 60 เซนติเมตร เพื่อเผยแผ่พระบารมีเรื่องการทรงงาน ให้ประชาชนมีไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และเป็นแบบอย่างในการทำงาน
ทั้งนี้ทางกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ นำรายได้ทุกโครงการ ขึ้นทูลเกล้าฯถวายเป็นพระราชกุศล เพื่อดำเนินงานในโครงการพระราชดำริ ตามพระราชปณิธานที่ต้องการช่วยเหลือและพัฒนาสังคมไทย เป็น “เครื่องเตือนใจ” ให้รำลึกถึง พระมหากรุณาธิคุณของในหลวง ร.๙ ที่ทรงเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติ ตราบนานเท่านาน
อีกทั้งกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ยังได้นำโครงการคิง เพาเวอร์ ไทยเพาเวอร์ ซึ่งมุ่งเน้นพัฒนาชุมชน สังคม รวมถึงการสร้างโอกาสให้เด็ก เยาวชนไทยด้านต่างๆ ตลอดงานที่บูธ คิง เพาเวอร์ ท้องสนามหลวง จึงได้นำลูกฟุตบอลมาแจกฟรีแก่เด็กและเยาวชนที่เข้าชมงานทุกวันรวม 5,000 ลูก เพียงนำบัตรประชาชนมาลงทะเบียน 1 สิทธิ ต่อ 1 ลูก ช่วงวันธรรมดา รับได้เวลา 17.30 น.เป็นต้นไป วันหยุดและวันนักขัตฤกษ์รับได้ในเวลา 11.30 - 17.30 น.
ข่าวที่ 2 “คิงเพาเวอร์สร้างหนัง “เราเชื่อ”ปลุกพลังคนไทย”
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ บริษัทชั้นนำด้านธุรกิจท่องเที่ยวค้าปลีกระดับโลก เผยโฉมภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ‘คิง เพาเวอร์..เราเชื่อ’ ปลุกพลัง สร้างกำลังใจ ให้คนไทยไปให้ถึงฝัน ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด เพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จ ดั่งปรัชญา และ Brand Belief ของกลุ่มบริษัทฯ ที่ว่า ‘Life Beyond Boundaries’ หรือ ‘ทุกการเดินทางจะทำให้เราไม่อยู่ที่เดิม’ กระตุ้นการรับรู้ และส่งต่อความเชื่อของแบรนด์ให้ดังกึกก้องในใจของคนไทยทุกคน
ในภาพยนตร์โฆษณาชุด ‘คิง เพาเวอร์..เราเชื่อ’ ได้ผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณาชื่อดังระดับโลก ต่อ - ธนญชัย ศรศรีวิชัย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้กำกับที่ได้รับรางวัลจากคานส์ไลออนส์มากที่สุดในโลก มาสร้างหนังโฆษณาแบบไม่โฆษณา เพื่อมอบพลังบวกให้กับคนไทย และสังคมไทย ที่ผู้ชมสามารถอินไปกับมันได้ ผ่านสตอรี่ที่สะกิดหัวใจจนหลายคนดูได้จนจบเลยทีเดียว
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ บริษัทชั้นนำด้านธุรกิจท่องเที่ยวค้าปลีกระดับโลก เผยโฉมภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ‘คิง เพาเวอร์..เราเชื่อ’ ปลุกพลัง สร้างกำลังใจ ให้คนไทยไปให้ถึงฝัน ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด เพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จ ดั่งปรัชญา และ Brand Belief ของกลุ่มบริษัทฯ ที่ว่า ‘Life Beyond Boundaries’ หรือ ‘ทุกการเดินทางจะทำให้เราไม่อยู่ที่เดิม’ กระตุ้นการรับรู้ และส่งต่อความเชื่อของแบรนด์ให้ดังกึกก้องในใจของคนไทยทุกคน
ในภาพยนตร์โฆษณาชุด ‘คิง เพาเวอร์..เราเชื่อ’ ได้ผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณาชื่อดังระดับโลก ต่อ - ธนญชัย ศรศรีวิชัย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้กำกับที่ได้รับรางวัลจากคานส์ไลออนส์มากที่สุดในโลก มาสร้างหนังโฆษณาแบบไม่โฆษณา เพื่อมอบพลังบวกให้กับคนไทย และสังคมไทย ที่ผู้ชมสามารถอินไปกับมันได้ ผ่านสตอรี่ที่สะกิดหัวใจจนหลายคนดูได้จนจบเลยทีเดียว
เป็นภาพยนตร์ที่สร้างความรู้สึกและอารมณ์ให้ผู้คนเข้าถึงได้ภายในความยาว 3.06 นาที เดินเรื่องโดยมีคนไทยหลากหลายวัย ในสาขาอาชีพต่างๆ ทั้งเด็กที่มีความฝันอยากเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพ นักเรียนที่ฝันจะเป็นนักดนตรีแถวหน้าระดับโลก, ผู้พิการทุพพลภาพที่หวังว่าสักหนึ่งจะเดินได้อีกครั้ง และภูมิปัญญาชุมชนที่ได้ไปเฉิดฉายในเวทีโลก
บุคคลเหล่านี้มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวการก้าวข้ามช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก และทุกขีดจำกัดของตัวเอง เพื่อตามล่าฝัน ดั่งความเชื่อของ คิง เพาเวอร์ที่ว่า ‘ทุกการเดินทางจะทำให้เราไม่อยู่ที่เดิม’ ซึ่งการเดินทางในที่นี้ไม่ได้หมายถึง การเดินทางท่องเที่ยวเท่านั้น แต่หมายรวมถึงความยิ่งใหญ่กว่า นั่นคือ การเปิดโลก การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ การพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง และพาตัวเองไปสู่จุดหมายปลายทางที่ฝันไว้
บนเส้นทางเดียวกันกับกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ตลอด 30 ปี ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ที่สนับสนุนคนไทยที่มีความฝัน มีความหวัง มีความสามารถให้ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด เพื่อมุ่งไปสู่ความสำเร็จ ผ่านการสนับสนุนในด้านต่างๆ ของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ประหนึ่ง ‘ลมใต้ปีก’ ที่ช่วยสนับสนุนคนไทยด้วยกันให้ไปถึงเส้นทางความฝันที่ต้องการ จึงเปรียบเสมือน กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ที่อยู่เคียงข้างคอยสนับสนุนให้คนๆ หนึ่งประสบความสำเร็จในชีวิตได้
ภาพยนตร์โฆษณาชุด คิง เพาเวอร์..เราเชื่อ ได้เผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ ทั้งออฟไลน์ ออนไลน์ และโซเชียลมีเดีย เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ชม โดยเป็นแรงผลักดัน และกระตุ้นให้คนไทย โดยเฉพาะคนที่มีความฝัน ให้เชื่อ และมุ่งหน้า ก้าวข้ามผ่านขีดจำกัด ด้วยการพัฒนาตัวเอง เพื่อเดินตามความฝันต่อไป อย่างไม่หยุดยั้ง
ข่าวที่ 3 “วันธรรมดาราคาช็อกแล้วช็อกอีกเหลือไม่1พันบาท”
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ช่วงโค้งสุดท้ายของแคมเปญ “วันธรรมดา ราคาช็อกโลก” อีก 3 สัปดาห์จะต้องปิดการจองแล้วในวันที่ 30 ธันวาคม 2562 นั้น ล่าสุดผู้ประกอบการท่องเที่ยวเทโปรโมชั่นร้อนแรง “ช็อกแล้วช็อกอีก” โดยเฉพาะดีลจองห้องพักราคาพิเศษ โรงแรมพื้นที่ตามภาคต่าง ๆ พากันตัดใจมอบความคุ้มค่าดึงดูดความสนใจให้เดินทางไปท่องเที่ยวฤดูหนาว เหลือคืนละ 500 บาท ไม่เกิน 1,000 บาท/ห้อง/คืน ไฮไลต์ในกลุ่มโรงแรมดังต่อไปนี้
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ช่วงโค้งสุดท้ายของแคมเปญ “วันธรรมดา ราคาช็อกโลก” อีก 3 สัปดาห์จะต้องปิดการจองแล้วในวันที่ 30 ธันวาคม 2562 นั้น ล่าสุดผู้ประกอบการท่องเที่ยวเทโปรโมชั่นร้อนแรง “ช็อกแล้วช็อกอีก” โดยเฉพาะดีลจองห้องพักราคาพิเศษ โรงแรมพื้นที่ตามภาคต่าง ๆ พากันตัดใจมอบความคุ้มค่าดึงดูดความสนใจให้เดินทางไปท่องเที่ยวฤดูหนาว เหลือคืนละ 500 บาท ไม่เกิน 1,000 บาท/ห้อง/คืน ไฮไลต์ในกลุ่มโรงแรมดังต่อไปนี้
กลุ่มที่ 1 ลดเหลือเพียง 500 บาท/ห้อง/คืน ได้แก่ โรงแรมบุรีเทล จ.บุรีรัมย์ จากราคาปกติ 1,400 บาท
กลุ่ม 2 ลดเหลือเพียง 599 บาท/ห้อง/คืน ได้แก่ “โรงแรมโคซี่ สมุย เฉวง บีช” เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี จากราคาปกติ 2,400 บาท/ห้อง/คืน โรงแรมโคซี่ พัทยา นาเกลือ บีช จ.ชลบุรี จากราคาปกติ 999 บาท/ห้อง/คืน โรงแรมพนมรุ้งปุรี จ.บุรีรัมย์ จากราคาปกติ 1,400 บาท/ห้อง/คืน
กลุ่มที่ 3 ลดเหลือเพียง 799 บาท/ห้อง/คืน ได้แก่ โรงแรมเคพี ซีวิว จอมเทียน ชลบุรี จากราคาปกติ 1,500 บาท/ห้อง/คืน
กลุ่ม 2 ลดเหลือเพียง 599 บาท/ห้อง/คืน ได้แก่ “โรงแรมโคซี่ สมุย เฉวง บีช” เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี จากราคาปกติ 2,400 บาท/ห้อง/คืน โรงแรมโคซี่ พัทยา นาเกลือ บีช จ.ชลบุรี จากราคาปกติ 999 บาท/ห้อง/คืน โรงแรมพนมรุ้งปุรี จ.บุรีรัมย์ จากราคาปกติ 1,400 บาท/ห้อง/คืน
กลุ่มที่ 3 ลดเหลือเพียง 799 บาท/ห้อง/คืน ได้แก่ โรงแรมเคพี ซีวิว จอมเทียน ชลบุรี จากราคาปกติ 1,500 บาท/ห้อง/คืน
กลุ่มที่ 4 ลดเหลือ 849 บาท/ห้อง/คืน ได้แก่ โรงแรมไอบิส หัวหิน จากราคาปกติ 1,800 บาท/ห้อง/คืน
กลุ่มที่ 5 ลดเหลือ 899 บาท/ห้อง/คืน ได้แก่ “โรงแรมไม้ขาว โฮเทล บาย เซ็นทารา ภูเก็ต” จากราคาปกติ 2,100 บาท/ห้อ/คืน
กลุ่มที่ 5 ลดเหลือ 950 บาท/ห้อง/คืน ได้แก่ โรงแรมลันตานา พัทยา จากราคาปกติ 1,850 บาท/ห้อง/คืน
กลุ่มที่ 6 เทราคาจากปกติคืนละครึ่งหมื่นบาท ลดเหลือเพียงคืนละ 999 บาท/ห้อง/คืน นำโดย “โรงแรมเซ็นทราบายเซ็นทารา อเวนิว พัทยา”จากราคาปกติ 6,500 บาท/ห้อง/คืน “โรงแรมบ้านทะเลดาว” ประจวบคีรีขันธ์ จากราคาปกติ 6,000 บาท/ห้อง/คืน “โรงแรมเซนศาลา ริเวอร์พาร์ค รีสอร์ท เชียงใหม่” จากราคาปกติ 3,000 บาท
กลุ่มที่ 5 ลดเหลือ 899 บาท/ห้อง/คืน ได้แก่ “โรงแรมไม้ขาว โฮเทล บาย เซ็นทารา ภูเก็ต” จากราคาปกติ 2,100 บาท/ห้อ/คืน
กลุ่มที่ 5 ลดเหลือ 950 บาท/ห้อง/คืน ได้แก่ โรงแรมลันตานา พัทยา จากราคาปกติ 1,850 บาท/ห้อง/คืน
กลุ่มที่ 6 เทราคาจากปกติคืนละครึ่งหมื่นบาท ลดเหลือเพียงคืนละ 999 บาท/ห้อง/คืน นำโดย “โรงแรมเซ็นทราบายเซ็นทารา อเวนิว พัทยา”จากราคาปกติ 6,500 บาท/ห้อง/คืน “โรงแรมบ้านทะเลดาว” ประจวบคีรีขันธ์ จากราคาปกติ 6,000 บาท/ห้อง/คืน “โรงแรมเซนศาลา ริเวอร์พาร์ค รีสอร์ท เชียงใหม่” จากราคาปกติ 3,000 บาท
ทางด้าน นายจิรศักดิ์ เยาว์วัชสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวว่าเข้าร่วมมหกรรมขายตั๋วโดยสารลดครึ่งราคาด้วยเช่นกันในโครงการ “เที่ยววันธรรมดา ราคา SHOCK โลก ลด 50% ทุกที่นั่ง กับ บขส.” ระหว่างวันนี้ – 15 ธันวาคม 2562 โดยเน้นขายเฉพาะวันธรรมดา วันจันทร์-วันศุกร์ ของแต่ละสัปดาห์ จำนวนรวม 2,500 สิทธิ์ เพื่อสนับสนุน ททท.กระตุ้นการท่องเที่ยวปลายปีนี้ให้เป็นไปตามเป้าหมาย
ซึ่งทาง บขส. จับมือกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และบริษัท อาร์เอ็ม เอส พับลิชชิ่ง จำกัด จัดทำโครงการดังกล่าวขึ้น เพื่อลดราคาตั๋วโดยสารให้ประชาชนที่เดินทางกับรถโดยสาร บขส. ตลอดแคมเปญ โดยผู้ใช้บริการโปรโมชั่น “เที่ยววันธรรมดา ราคา SHOCK โลก ลด 50% ทุกที่นั่ง กับ บขส.” จะต้องปฏิบัตตามกติกาหลัก ๆ คือ 11 ข้อดังนี้
1. ผู้โดยสารต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิ์จากเว็บไซต์ www.วันธรรมดาราคาช็http://xn--12cf3h4a3h.com/
2.แสดงสิทธิ์ส่วนลดต่อพนักงานจำหน่ายตั๋ว ก่อนซื้อตั๋วโดยสาร และต้องชำระเงินตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด
3.ให้สิทธิ์เฉพาะลูกค้าที่แสดงรหัสส่วนลดจาก “โครงการเที่ยววันธรรมดาราคา Shock โลก” เท่านั้น
4.ใช้สิทธิ์ซื้อตั๋วโดยสารราคาลด 50 % ได้เฉพาะเดินทางวันธรรมดา ระหว่างวันนี้ – 15 ธันวาคม 2562
5.สามารถใช้ได้ 1 รหัสต่อสิทธิ์/คน/เที่ยว เท่านั้น
6.ไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์ส่วนลดอื่นของบริษัทฯ ได้
7.ใช้สิทธิ์ ณ จุดให้บริการจำหน่ายตั๋วสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) ช่องจำหน่ายตั๋วที่ 24 – 28 ชั้น 1 และช่องจำหน่ายตั๋วที่ 95 -101 ชั้น 3 เท่านั้น
8.ไม่สามารถเลื่อนวันเดินทางหรือคืนตั๋วโดยสารได้ในทุกกรณี
9.ใช้เดินทางกับรถโดยสารภายในประเทศทุกเส้นทาง ยกเว้น เส้นทาง กรุงเทพฯ-สตูล, กรุงเทพฯ-หาดใหญ่- ด่านนอก, กรุงเทพฯ-สงขลา, กรุงเทพฯ-ยะลา, กรุงเทพฯ-เบตง, กรุงเทพฯ-ปัตตานี และ กรุงเทพฯ – สุไหงโกลก (สาย 9917 และ 986)
10.ลดเฉพาะค่าโดยสารเท่านั้น (ไม่รวมค่าธรรมเนียม)
11.บขส.ขอสงวนสิทธิ์การยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข โดยมิต้องแจ้งให้ผู้ใช้แคมเปญนี้ทราบล่วงหน้า
4.ใช้สิทธิ์ซื้อตั๋วโดยสารราคาลด 50 % ได้เฉพาะเดินทางวันธรรมดา ระหว่างวันนี้ – 15 ธันวาคม 2562
5.สามารถใช้ได้ 1 รหัสต่อสิทธิ์/คน/เที่ยว เท่านั้น
6.ไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์ส่วนลดอื่นของบริษัทฯ ได้
7.ใช้สิทธิ์ ณ จุดให้บริการจำหน่ายตั๋วสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) ช่องจำหน่ายตั๋วที่ 24 – 28 ชั้น 1 และช่องจำหน่ายตั๋วที่ 95 -101 ชั้น 3 เท่านั้น
8.ไม่สามารถเลื่อนวันเดินทางหรือคืนตั๋วโดยสารได้ในทุกกรณี
9.ใช้เดินทางกับรถโดยสารภายในประเทศทุกเส้นทาง ยกเว้น เส้นทาง กรุงเทพฯ-สตูล, กรุงเทพฯ-หาดใหญ่- ด่านนอก, กรุงเทพฯ-สงขลา, กรุงเทพฯ-ยะลา, กรุงเทพฯ-เบตง, กรุงเทพฯ-ปัตตานี และ กรุงเทพฯ – สุไหงโกลก (สาย 9917 และ 986)
10.ลดเฉพาะค่าโดยสารเท่านั้น (ไม่รวมค่าธรรมเนียม)
11.บขส.ขอสงวนสิทธิ์การยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข โดยมิต้องแจ้งให้ผู้ใช้แคมเปญนี้ทราบล่วงหน้า
ข่าวที่ 4 “ททท.อัดโค้งสุดท้ายทัวร์100เดียว2หมื่นสิทธิ์11-12ธ.ค.นี้
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. เตรียมมอบของขวัญ “100 เดียวเที่ยวทั่วไทย” รอบสุดท้าย 20,000 สิทธิ์ เตรียมตัวให้พร้อมที่จะเข้าไปจองซื้อวันที่ 11-12 ธันวาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 24.00 น. ของทุกวัน รอบนี้มีตั๋วเครื่องบิน ไทยแอร์เอเชีย ไป-กลับ 100 บาท โรงแรมหรู 5 ดาวทั่วประเทศ อย่าง ภาคใต้ในภูเก็ตมี ศรีพันวา เดอะ นาคา, วิลล่า บาบา บีชคลับ,อวิสต้า ไฮด์อเวย์ ภูเก็ต เดอะ ทับแขก กระบี่ บูทิก รีสอร์ต บาบา บีช คลับ หัวหิน ภาคเหนือก็มี ออนเซ็น ม่อนแจ่ม ส่วนพัทยาก็มี อาณา อานันท์ รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า, เรเนซองส์ พัทยา รีสอร์ท แอนด์ สปา ลักชัวรี่ พูลวิลล่า โฮเทล
ส่วนทั่วประเทศมีโรงแรม 3-4 ดาว เข้าร่วมกว่า 80 แห่ง 6,000 ห้อง กับสปาชั้นนำ เช่น โอเอซิส สปาLet’s Relax Spa และสวนสนุกอย่าง ดรีมเวิล์ดกรุงเทพ, วานา นาวา หัวหิน, ลานแสดงช้างและฟาร์มจระเข้สามพราน, ไลน์ วิลเลจ แบงค็อก, เลเจนด์ สยาม, สยามอะเมซิ่งพาร์ค
ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ททท. ยังได้จัด Surprise Gift ชุดใหญ่ให้ผู้ลงทะเบียนแต่ละวันในลำดับที่ 6,000-7,000-8,000-9,000 และ 10,000 ได้สิทธิ์ซื้อ Voucher โรงแรมสุดหรูเพียง 100 เดียวเท่านั้นจากราคาเต็มหลักหมื่นบาท ที่ระบุวันเข้าพักช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายในเดือนธันวาคม เช่น บาบา บีชคลับ ภูเก็ต ลักชัวรี่ พูลวิลล่า โฮเทล,โรงแรมบาบา บีช คลับ หัวหิน ลักชัวรี่ พูลวิลล่า โฮเทล และโรงแรมธัญ เวลเนส เดสทิเนชั่น รอซื้อได้เลย 11-12 ธันวาคม นี้ที่ www.100เดียวเที่ยวทั่http://xn--o3cwn0j.com/
ข่าวที่ 5 “บางจากรุกทำโปรเจ็กต์รักษาสิ่งแวดล้อมเข้มข้นทั่วไทย
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มีกิจกรรมมากมายเพื่อสร้างความยั่งยืนส่งท้ายปี เริ่มตั้งแต่วันสิ่งแวดล้อมไทย 4 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่กำหนดขึ้นในปี 2533 หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มีพระราชดำรัสห่วงใยสิ่งแวดล้อมไทย พระราชทานแก่คณะบุคคลผู้เข้าเฝ้าเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ปี 2532 ทางร้านกาแฟอินทนิลแบรนด์กาแฟรักษ์โลก จึงต่อยอดโครงการแก้วเพาะกล้าด้วยการแจกเมล็ดพันธุ์พืชมีค่าซึ่งได้รับการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์จากกรมป่าไม้ ให้กับลูกค้าที่มาซื้อเครื่องดื่มอินทนิล นำไปปลูก ช่วยกันเพิ่มพื้นที่สีเขียวและอากาศบริสุทธิ์ และยังมีกิจกรรมอื่นๆ เช่นร้านสะดวกซื้อสพาร์ เลิกแจกถุงพลาสติกตั้งแต่ 4 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป ก่อนรัฐบาลกำหนดให้งดแจกถุงพลาสติกตั้งแต่1 มกราคม 2563 แต่ระหว่างวันนี้-15 ธันวาคม เมื่อลูกค้าซื้อสินค้ากว่า 80 บาทขึ้นไปต่อ 1 ใบเสร็จ จะได้รับถุงผ้าสปันบอนด์จากร้านสพาร์ด้วย
ส่วนวันดินโลก 5 ธันวาคม ปีนี้บางจากก็จัดกิจกรรมภายใต้หัวข้อ “ปกป้องอนาคต ลดการชะล้างดิน: Stop Soil Erosion, Save our Future” น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 บางจากฯ ก็ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม “สืบสาน รักษาและต่อยอด ศาสตร์พระราชา @แก่นมะกรูด” อีกทั้งยังได้ร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตและที่ดินของเกษตรกร 4 ครอบครัว พื้นที่กว่า 20 ไร่ ในลักษณะ “โครงการวิจัย” เพื่อติดตามวัดผลทั้งมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมต่อเนื่อง 3 ปี (2562-2565)
สำหรับกิจกรรมดูแลสิ่งแวดล้อมทางบางจากจะทำต่อเนื่องจากเข้มข้นต่อเนื่องในปี 2563 ด้วย
สำหรับกิจกรรมดูแลสิ่งแวดล้อมทางบางจากจะทำต่อเนื่องจากเข้มข้นต่อเนื่องในปี 2563 ด้วย
ข่าวที่ 6 “TCEBผนึกบินไทยรุกขายAPACMaxiMICEปี63
นางสาววิชญา สุนทรศารทูล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานบริหาร สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับ 2 สายการบินชั้นนำของประเทศ คือ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไทยสมายล์ แอร์เวย์ จำกัด เปิดแคมเปญ APAC MaxiMICE ส่งเสริมการขายและการตลาด กระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงนักเดินทางไมซ์เข้าไทยแถบเอเชียและแปซิฟิกหรือ APAC เพิ่มขึ้น โดยเล็งไปยังกลุ่มจัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (Meeting & Incentive) โดยจะใช้กลยุทธ์สนับสนุนลูกค้าองค์กรหรือ Corporate ดึงงานคุณภาพให้เข้ามาจัดในประเทศไทย ตอบสนองนโยบายรัฐบาล สร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ควบคู่การประชาสัมพันธ์ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในระยะยาว
ตั้งความหวังใช้แคมเปญฮ็อตเพิ่มฐานลูกค้า MI ประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลเข้าไทยกว่า10,000 คน จาก 15 ประเทศ 46 เมือง แจกสิทธิพิเศษยาวข้ามปีไปจนถึง ส.ค.63
ตั้งความหวังใช้แคมเปญฮ็อตเพิ่มฐานลูกค้า MI ประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลเข้าไทยกว่า10,000 คน จาก 15 ประเทศ 46 เมือง แจกสิทธิพิเศษยาวข้ามปีไปจนถึง ส.ค.63
ตามสถิติตลาดไมซ์จากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก-APAC ปีงบประมาณ 2562 ระหว่างตุลาคม 2561-กันยายน 2562 ไทยสามารถนำเข้ามาได้ 1,162,170 คน คิดเป็น 91.22% ของตลาดไมซ์ทั้งหมด 1,273,981 คน แบ่งสัดส่วนเป็น 1.นักเดินทางกลุ่มประชุมและ 2.การเดินทางเพื่อเป็นรางวัล รวมกันสูงถึง 56.23% ประมาณ 653,459 คน
โดยก่อนหน้านี้เมื่อปี 2562 TCEB ทำแคมเปญ ASEAN MaxiMICE ร่วมกับการบินไทยฯ เลือกทำกับอาเซียน 4 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี เพิ่มยอดได้จากแคมเปญดังกล่าวอีกกว่า 1,000 คน ทำรายได้เพิ่มขึ้น 73 ล้านบาท
สำหรับปีงบประมาณ 2563 ระหว่างตุลาคม 2562 - กันยายน 2563 จะรุกใช้แคมเปญ APAC MaxiMICE ขยาย จากอาเซียนครอบคลุมไปทั่วเอเชียแปซิฟิก 15 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน ฮ่องกง และ อินเดีย
สำหรับแคมเปญ APAC MaxiMICE จะมอบสิทธิประโยชน์ให้กลุ่มลูกค้าองค์กรในประเทศแถบเอเชียแปซิฟิกที่ต้องการนำงานประชุมองค์กร หรือการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลเข้ามาจัดในไทย แบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ Silver, Gold และ Platinum ตามกติกา 1.จะต้องมาเป็นกลุ่มตั้งแต่ 40 คนขึ้นไป 2.ต้องพำนักอยู่ในไทยอย่างน้อย 2 คืน จึงจะได้รับสิทธิพิเศษ อาทิ ตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด การบริการช่องทางพิเศษตรวจคนเข้าเมือง (VIP Fast Track) หรือ MICE Lane ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ของที่ระลึก การแสดงทางวัฒนธรรม และอื่น ๆ สามารถติดต่อเพื่อขอสนับสนุนจาก TCEBได้ยาวข้ามปี ตั้งแต่ 4 ธันวาคม 2562 - 31 สิงหาคม 2563 พร้อมกับเข้ามาจัดงานได้ตั้งแต่ 1 มกราคม - 30 กันยายน 2563
สำหรับแคมเปญ APAC MaxiMICE จะมอบสิทธิประโยชน์ให้กลุ่มลูกค้าองค์กรในประเทศแถบเอเชียแปซิฟิกที่ต้องการนำงานประชุมองค์กร หรือการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลเข้ามาจัดในไทย แบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ Silver, Gold และ Platinum ตามกติกา 1.จะต้องมาเป็นกลุ่มตั้งแต่ 40 คนขึ้นไป 2.ต้องพำนักอยู่ในไทยอย่างน้อย 2 คืน จึงจะได้รับสิทธิพิเศษ อาทิ ตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด การบริการช่องทางพิเศษตรวจคนเข้าเมือง (VIP Fast Track) หรือ MICE Lane ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ของที่ระลึก การแสดงทางวัฒนธรรม และอื่น ๆ สามารถติดต่อเพื่อขอสนับสนุนจาก TCEBได้ยาวข้ามปี ตั้งแต่ 4 ธันวาคม 2562 - 31 สิงหาคม 2563 พร้อมกับเข้ามาจัดงานได้ตั้งแต่ 1 มกราคม - 30 กันยายน 2563
ทั้งนี้ TCEB เตรียมกิจกรรมส่งเสริมการตลาดแคมเปญนี้ โดยจัดกิจกรรมหลัก ๆ ได้แก่ 1.ไทยแลนด์ไมซ์ โรดโชว์ ช่วงกุมภาพันธ์และมีนาคม 2563 เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมตลาดเป้าหมายกลุ่มลูกค้าองค์กรในออสเตรเลียและจีนการจัด 2.กิจกรรมแฟมทริปตามเส้นทางบินของการบินไทย และไทยสมายล์ 3.จัดงาน Thailand Incentive and Meeting Exchange 2020 หรือ TIME 2020 เชื่อมโยงธุรกิจตลาดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลโดยเฉพาะ
นายศิริพงษ์ มังคะลี ผู้อำนวยการฝ่ายขายกลุ่มประเทศอาเซียน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทั้งสองสายการบินพร้อมผนึกกลยุทธ์ส่งเสริมการขายและการตลาดเชิงรุกในแคมเปญ APAC MaxiMICE โดยจะอำนวยความสะดวกการเดินทางของลูกค้ากลุ่มไมซ์เอเชียแปซิฟิก เข้ามาจัดการประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล เพิ่มรายได้จากการใช้จ่าย ต่อยอดสู่การท่องเที่ยวไทย และสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจของประเทศ จากตลาดดังกล่าวทั้ง 15 ประเทศ 46 เมือง โดยการบินไทยมีบริการระหว่างประเทศ 21 จุดบิน มาส่งต่อให้ไทยสมายล์บินในประเทศอีก 10 เส้นทาง ขณะนี้ได้เตรียมสิทธิประโยชน์มากมายไว้มอบให้ เช่น ตั๋วเครื่องบินเป็นหมู่คณะราคาพิเศษ ตั๋วอภินันทนาการ น้ำหนักสัมภาระเพิ่มเติมคนละ 5 กิโลกรัม ได้สิทธิขึ้นเครื่องบินก่อนและการจองที่นั่งหมู่คณะ การเช็คอินล่วงหน้า ได้รับการกล่าวต้อนรับสำหรับหมู่คณะบนเครื่อง ดีไซน์ที่คลุมพนักเบาะที่นั่งบนเครื่องบินติดตราสัญลักษณ์องค์กรที่เดินทางมาเป็นหมู่คณะ
ช่วงที่ 2 ออกเที่ยวกันเลย ตลุยเที่ยว “เชียงรายมุมใหม่” ไร่สิงห์ปาร์ค-ชุมชนหนองหม้อ Sunday Market Craft-ดอยเจ้าแม่กวนอิม-ไฟล์เฟสต์วัดร่องขุ่น” สนุกทุกที่ ส่วนสุขภาพ “หนาวแล้วต้องกินอาหารปรับธาตุ” เลือกของเปรี้ยว ขม ดีต่อร่างกาย และอ่านด่วน “การบินไทย” ร่วมวันพ่อ นำตั๋วทั่วไทยขายราคาถูกสุด ๆ ในงานที่ท้องสนามหลวงจนถึง 14 ธ.ค.นี้ “นายกฯ ลุงตู่” นำทีมเปิดสนามบินอู่ตะเภาอาคาร 2 ลั่นปี 2570 จะรับผู้โดยสารได้ถึงปีละ 5 ล้านคน ส่วน “ไทยเวียดเจ็ท” เสือปืนไวลุยเปิดบิน พัทยา-โฮจิมินห์(เวียดนาม) 23 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป
@เที่ยวเชียงรายมุมใหม่ไร่สิงห์ปาร์ค-ชุมชนคราฟท์-ดอยแม่กวนอิม
ปักหมุดท่องอาณาจักรเที่ยวเชิงการเกษตรกว้างใหญ่ “ไร่ สิงห์ ปาร์ค” มีพื้นที่เขียวขจีกว่า 8,700 ไร่ ในช่วงหน้าหนาวมี “ทุ่งดอกไม้คอสมอส 20 ล้านต้น” หลากสีปลูกสลับอยู่ตามหุบเนินกระจายอยู่ทั่วบริเวณชูช่อรอรับนักท่องเที่ยว ควงแขนกันไปตลุยเช็คอินถ่ายรูปกับดอกไม้เมืองหนาวสวยอลังการ ตอนนี้ทางสิงห์กำลังตกแต่งลานขนาดใหญ่อยู่ใกล้ทะเลสาบสร้าง“หนู” สัญลักษณ์ปีฉลู เตรียมลงแปลงดอกไม้งาม ๆ ดึงคนไปเที่ยวงานเคาน์ดาวน์ ส่งท้ายปี 31 ธันวาคม นี้ ร่วมนับถอยหลังรับตะวันใหม่ 1 มกราคม 2563
ภายในไร่ สิงห์ ปาร์ค สามารถซื้อตั๋วรถราง 100 บาท นั่งวนชมสถานที่ต่าง ๆ ได้ตลอดทั้งวัน ตอนนี้เปิดมุมให้นักท่องเที่ยวลงมือทำกิจกรรม D.I.Y.เบรนชา ซึ่งนำพืชสมุนไพรสวนครัว อย่าง ตะไคร้ ดอกอัญชัน ตากแห้ง และพืชชนิดต่าง ๆ จากไร่มาเป็นส่วนผสมของชาบรรจุซอง ทำเสร็จก็นำกลับบ้านมาชิมฝีมือตนเองได้
ส่วนที่ “ร้านอาหารภูภิรมย์” ก็มีเมนูอาหารไทยรสชาติเข้มข้น กับของหวานเสิร์ฟ ทั้งมื้อกลางวันและเย็น ในบรรยากาศบนเนินมองเห็นวิวไร่ในช่วงตะวันลับขอบฟ้าจะสวยมากด้วยสีทอง แดงเรื่อ ฉาบกับแปลงหญ้าและต้นไม้สีเขียว
ยามเย็นทุกวันอาทิตย์แวะไปยัง “หมู่บ้านหนองหม้อ” เป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนเปิดใหม่ออกในสไตล์ที่ชื่อ “Sunday Craft Market” ทางเข้าอยู่ตรงหน้าวัดหนองหม้อ ตำบลป่าดอนชัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เป็นหมู่บ้านที่มีเอกลักษณ์พิเศษชาวบ้านส่วนใหญ่จะมีฝีมือการทำหัตถกรรมท้องถิ่นอย่างมีดีไซน์ส่งขายตามออร์เดอร์ให้ชาวต่างชาติ ตอนนี้ได้รวมตัวกันนำผลิตภัณฑ์มาตั้งเรียงรายเชิญชวนนักท่องเที่ยวแวะไปเดินช้อป
ไฮไลต์คือ เหล่าเซเรบนักธุรกิจหญิงแถวหน้าของเมืองเชียงรายมารวมตัวกันนำผ้าพื้นเมืองออกแบบเสื้อผ้าสวมใส่แบบขั้นเทพ ชวนให้นักช้อปกระเป๋าหนักแห่แหนกันไปซื้อ ภายในบริเวณสนามหญ้าก็ดีไซน์เป็นร้านจำหน่าย มีทั้งเครื่องประดับ งานแฮนเมดผ้าเก๋ ๆ ทำเป็นข้าวของเครื่องใช้ หลากหลายชนิด แบบทันสมัยเรียบหรูดูดีทุกร้าน
ต้องลองไปแล้วจะรู้ว่าชุมชนหนองหม้อ มีมุมใหม่ ๆ เท่ ๆ ให้เที่ยวได้แบบเข้าถึงดินแดนล้านนาอย่างแท้จริง
สำหรับแหล่งท่องเที่ยว ๆ รอบอำเภอเมือง ก็มี “วัดห้วยปลากั้ง” ตอนนี้หลวงพ่อนำโชคได้ขยายใหญ่โต สร้าง “ดอยเจ้าแม่กวนอิม” องค์ขนาดใหญ่สีขาวสูงเทียบเท่าตึกหลายชั้น ตั้งอยู่บนเนินเขาตระหง่านโดดเด่นเห็นแต่ไกล ภายในสามารถเข้าไปชมแดนสวรรค์จำลองที่มีเรื่องราวคติธรรมสอนใจ ด้านข้างลานตรงฐานเจ้าแม่กวนอิม ยังได้สร้าง “กำแพงเมืองไทย” คล้ายคลึงกับกำแพงเมืองจีน ต่างกันก็ตรงความสูงชั้นและจำนวนขั้นบันไดที่น้อยกว่า แต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวหมุนเวียนเข้าไปเยี่ยมชมจำนวนนับหมื่นคน
ส่วนที่วัดร่องขุ่นของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ระหว่างวันนี้ไปจนถึง 22 ธันวาคม 2562 สามารถแวะไปชมมหกรรมการแสดงมัลติมีเดียโชว์ “วัดร่องขุ่น ไลท์ เฟสต์ : The ILLUMINATION OF WHITE TEMPLE” ตื่นตากับโชว์แสง สี เสียง สุดตระการตาเริ่มตั้งแต่ 1 ทุ่มตรง เดินชมได้รอบบริเวณวัด 6 โซน ห้ามพลาด โซนที่ 6 บริเวณพระพิฆเนศกลางน้ำ ซึ่งใช้เป็นฉากสำคัญการแสดงเรื่องราวชีวิตของอาจารย์เฉลิมชัยจากวัยเด็กจนถึงปัจจุบัน กว่าจะมาเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียง สร้างคุณูปการสู่เชียงราย และประเทศไทย นั้นต้องฟันฝ่าอุปสรรคมาอย่างโชกโชน เป็นการเล่าเรื่องด้วยแสง สี สวยสดงดงามท่ามกลางม่านน้ำแปลกตา
ส่วนที่วัดร่องขุ่นของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ระหว่างวันนี้ไปจนถึง 22 ธันวาคม 2562 สามารถแวะไปชมมหกรรมการแสดงมัลติมีเดียโชว์ “วัดร่องขุ่น ไลท์ เฟสต์ : The ILLUMINATION OF WHITE TEMPLE” ตื่นตากับโชว์แสง สี เสียง สุดตระการตาเริ่มตั้งแต่ 1 ทุ่มตรง เดินชมได้รอบบริเวณวัด 6 โซน ห้ามพลาด โซนที่ 6 บริเวณพระพิฆเนศกลางน้ำ ซึ่งใช้เป็นฉากสำคัญการแสดงเรื่องราวชีวิตของอาจารย์เฉลิมชัยจากวัยเด็กจนถึงปัจจุบัน กว่าจะมาเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียง สร้างคุณูปการสู่เชียงราย และประเทศไทย นั้นต้องฟันฝ่าอุปสรรคมาอย่างโชกโชน เป็นการเล่าเรื่องด้วยแสง สี สวยสดงดงามท่ามกลางม่านน้ำแปลกตา
ตอนนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จับมือกับไปรษณีย์ไทย จัดทำ “ศิลปะตู้ไปรษณีย์เที่ยวเชียงราย” นำไปจัดตั้งไว้ตามสถานที่ต่าง ๆ อันเกิดจากการรวมตัวของศิลปินในพื้นที่วาดลวดลายลงไปพร้อมกับติดตั้ง QR CODE เพื่อให้นักท่องเที่ยวสแกนหาข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่
เมื่อนักท่องเที่ยวถ่ายรูปตู้ศิลปะไปรษณีย์ 5 ตู้ ที่ตั้งอยู่ต่างสถานที่กันใน 2 อำเภอ เผยแพร่ลงโซเชียลมีเดีย ทำกิจกรรมครบตามกติกา ระหว่างวัน ที่ 15 ธันวาคม 2562 -31 มกราคม 2563 ไปรอรับรางวัลจาก ททท.ได้เลย
“เชียงราย” มากี่ครั้งก็หลงรักทุกที่ มีมุมใหม่สวย ๆ ชวนให้ท่องเที่ยวได้ตลอด 365 วัน
@เมนูสุขภาพช่วยได้ในช่วงเข้าสู่ฤดูหนาว
ฤดูหนาวมาเยือนแล้ว พวกเราควรเน้นการบริโภคอาหารที่มีส่วนประกอบของสมุนไพรรสเปรี้ยว เผ็ดร้อน อาทิ ขิง ข่า ตะไคร้ มะกรูด มะนาว หอม กระเทียม เป็นต้น เนื่องจากมีสรรพคุณในการต้านหวัด ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และปรับสมดุลในร่างกาย
นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ช่วงนี้เข้าสู่ฤดูหนาวหลายพื้นที่ของประเทศไทย มีสภาพภูมิอากาศค่อนข้างเย็นลง ส่งผลกระทบต่อความสมดุลภายในร่างกาย ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคระบบทางเดินหายใจ เมื่อสภาพภูมิอากาศลดต่ำลง มักจะส่งผลให้ธาตุน้ำในร่างกายเกิดความแปรปรวนหรือเสียสมดุลได้
การสร้างเกราะป้องกันความเจ็บป่วยที่อาจเกิดขึ้นช่วงฤดูหนาว ควรเน้นการบริโภคอาหารที่มีส่วนประกอบของสมุนไพรรสเปรี้ยว รสขม และรสเผ็ดร้อน เนื่องจาก 1.สมุนไพรรสเปรี้ยว จะช่วยขับเสมหะ บรรเทาอาการไอ ทำให้ชุ่มคอ ได้แก่ มะเขือเทศ มะนาว มะขาม ผักติ้ว ใบชะมวง 2.สมุนไพรรสขมช่วยแก้ไข้ ต้านการอักเสบ ได้แก่ มะแว้งต้น มะแว้งเครือ มะเขือพวง ขี้เหล็ก และ 3.สมุนไพรรสเผ็ดร้อนจะช่วยเพิ่มความอบอุ่นของร่างกาย บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้สะดวก และบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ได้แก่ ขิง ข่า ขมิ้น ตะไคร้ แมงลัก กระเทียม
ด้วยเหตุนี้เอง สมุนไพรรสเปรี้ยว รสขม และรสเผ็ดร้อน จึงช่วยเสริมเกราะป้องกันป่วยช่วงฤดูหนาวได้ เมนูอาหารที่แนะนำ ได้แก่ แกงส้ม ต้มยำ ยำผักสมุนไพร น้ำพริกผักลวก ไก่ผัดขิง ฯลฯ ส่วนน้ำสมุนไพร ได้แก่ น้ำขิง น้ำตะไคร้ น้ำกระเจี๊ยบ และน้ำอัญชันมะนาว
ข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “บินไทยร่วมวันพ่อเฮขายตั๋วโปรทั่วไทยถูกสุดๆถึง14ธ.ค."
นายกรกฏ ชาตะสิงห์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย-ประเทศไทย บมจ. การบินไทย เปิดเผยว่า ร่วมออกร้านประชาสัมพันธ์บัตรโดยสารราคาพิเศษเพื่อให้บริการประชาชนงานวันพ่อแห่งชาติ ระหว่าง5-14 ธันวาคม 2562 ณ ท้องสนามหลวง โดยจัดพนักงานแนะนำตั๋วบินราคาพิเศษ เส้นทางภายในประเทศ ช่องทางสำรองที่นั่ง ให้แก่ผู้เข้าชมงาน พร้อมมอบรหัสส่วนลดพิเศษมูลค่า 500 บาท (จำนวนจำกัด) โดยลูกค้าสามารถนำ QR Code ไปจองที่นั่งออกตั๋วบินในประเทศเฉพาะโปรโมชั่น “Weekday Vacation” (เดินทางจันทร์-พฤหัสบดี) ตั้งแต่วันนี้ – 14 ธันวาคม 2562 ผ่านทาง www.thaiairways.com แล้วนำไปใช้เดินทางได้ตั้งแต่วันนี้-27 กุมภาพันธ์ 2563
ข่าวที่สอง “นายกฯเปิดอู่ตะเภาอาคาร2ลั่นปี’70รับผู้โดยสารพุ่ง5ล้านคน
ข่าวที่สอง “นายกฯเปิดอู่ตะเภาอาคาร2ลั่นปี’70รับผู้โดยสารพุ่ง5ล้านคน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารพักผู้โดยสารหลังที่ 2 สนามบินอู่ตะเภา-พัทยา โดยกล่าวว่า ได้มีนโยบายทำให้ระบบการคมนาคมเกิดความเท่าเทียมด้านโอกาสการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างเหมาะสม คุ้มค่า และมีมูลค่าเพิ่ม และขอให้เอกชน ประชาชน ร่วมมือกัน ก็จะแก้ปัญหาระยะยาวได้มากยิ่งขึ้น เพราะตอนนี้สนามบินอู่ตะเภา ระยอง-พัทยา มีแผนรองรับยาวปี 2570 ซึ่งจะรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ทางด้านพล.ร.อ. ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า ขณะนี้สนามบินอู่ตะเภา มีผู้โดยใช้บริการกว่า 2 ล้านคน/ปี จำนวน 15,000 เที่ยว/ปี ทำให้อาคารพักผู้โดยสารหลังเดิมแออัด ไม่เพียงพอ จึงได้ก่อสร้างอาคารพักผู้โดยสารแห่งที่ 2 เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารปี 2570 ให้ได้ปีละ 5ล้านคนขึ้นไป และสายการบินพาณิชย์ทั้งในและต่างประเทศ ให้สอดคล้องกับการเจริญเติบโตของธุรกิจการบินในประเทศ เชื่อมโยงการเดินทางสู่พื้นที่ตะวันออก ให้เป็นเขตเศรษฐกิจชั้นนำของภูมิภาคตามโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
ทางด้านพล.ร.อ. ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า ขณะนี้สนามบินอู่ตะเภา มีผู้โดยใช้บริการกว่า 2 ล้านคน/ปี จำนวน 15,000 เที่ยว/ปี ทำให้อาคารพักผู้โดยสารหลังเดิมแออัด ไม่เพียงพอ จึงได้ก่อสร้างอาคารพักผู้โดยสารแห่งที่ 2 เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารปี 2570 ให้ได้ปีละ 5ล้านคนขึ้นไป และสายการบินพาณิชย์ทั้งในและต่างประเทศ ให้สอดคล้องกับการเจริญเติบโตของธุรกิจการบินในประเทศ เชื่อมโยงการเดินทางสู่พื้นที่ตะวันออก ให้เป็นเขตเศรษฐกิจชั้นนำของภูมิภาคตามโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
ข่าวที่สาม “เวียดเจ็ทลุยเปิดบินพัทยา-โฮจิมินห์23ธ.ค.นี้
สายการบินไทยเวียตเจ็ท รายงานว่า วางแผนเปิดบริการพัทยา-เวียดนาม โดยใช้สนามบินอู่ตะเภาเปิดเส้นทางบิน พัทยา-โฮจิมินห์ ทุกวัน เริ่มวันที่ 23 ธันวาคม 2562 ด้วยเที่ยวบินไป-กลับทุกวัน ตามตารางบิน ขาไปจะอออกเดินทางจากอู่ตะเภา 11.25 น. ถึงโฮจิมินห์ 12.55 น. และขากลับจากโฮจิมินห์ 13.25 น. ถึงอู่ตะเภา14.40 น.
โดยตั้งเป้าจะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเวียดนามเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเชื่อมโยงจาก พัทยา สู่ระยอง มากขึ้นในปีต่อ ๆ ไป
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น