ททท.เปิดบิ๊กเซอร์ไพรส์ปลายปีต่างชาติเฮ!!เที่ยวไทย
ชูกลยุทธ์2ชั้นโกยเงินปี’63ผุดเทรนด์Work&Travel
มหานครแบ็งคอกจัดเต็มฉลองคริสต์มาส24-25ธ.ค.
คิงเพาเวอร์ชวนเคาน์ดาวน์บนสกายวอล์ครับปีใหม่
ททท.เล็งเจาะตลาดสูงวัย-ผู้พิการจ่ายทริปละ2แสน
ชวนบริจาคขวดPETทำประติมากรรมรีไซเคิลพัทยา
บางจากจัดแคมเปญยิ่งเติมมากยิ่งคุ้ม - 31มค.63
TCEB ชี้เป้าเมืองรองชิงไมซ์อินเซ็นทีฟแทรเวลปี63
ทัวร์ทุ่งคอสมอสแม่แตง-ดอยเสมอดาว-แก่งคุ้ดคู้
หมอชี้เป้าเทรนด์กินอาหารฟังก์ชั่นช่วยให้อายุยืน
บอร์ดทอท.ชมสุวรรณภูมิเฟส2ประติมากรรมช้าง
บางกอกแอร์แลกไมล์ใช้ฟรีลีมูซีนตราด/เกาะช้าง
รร.อินดิโก้จัดแพกเกจวันเกิดราคาดีอาหารอร่อย
คิงเพาเวอร์ชวนเคาน์ดาวน์บนสกายวอล์ครับปีใหม่
ทัวร์ทุ่งคอสมอสแม่แตง-ดอยเสมอดาว-แก่งคุ้ดคู้
เข้าสู่รายการ
“รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม 2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางมือถือ
และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza # #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เที่ยวกับกู๋
# # #
#
ช่วงที่
1 เตรียมเซอร์ไพรส์กับข้อมูลลึก
ๆ ของ “ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ” รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ประกาศฉลองคริสต์มาสด้วยสถิติใหม่นำเข้าต่างชาติเที่ยวเมืองไทยคนที่ 39 ล้าน
จ่อใช้สื่อสารเทรนด์ใหม่ 2 ชั้น “Thematic-Tactic” ชูเนื้อหาสำคัญกับยุทธวิธีบุกทะลวงสร้างสีสันตลาดเชิงรุกปี’63
นำร่องสร้างจุดขาย work
& travel นั่งรถไฟทำงานกับท่องเที่ยวไปพร้อม ๆ
กัน และจ่อเปิด Thai
House บูมอาหารกับนวดไทย โดยใช้อีเวนต์ โตเกียว
โอลิมปิก สื่อถึงตลาดทั่วโลก ส่วนในประเทศงัดแผนใหม่ปลุกแต่ละวัยดีไซน์ทัวร์ด้วยตัวเอง
“เที่ยวอย่างมีสไตล์” เฉพาะตัว
นายธเนศวร์
เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
วางกลยุทธ์นำเทรนด์การท่องเที่ยวแนวใหม่เข้ามากระตุ้นการเดินทางในประเทศท่องเที่ยวสไตล์
ไwork travel หรือ business for leisure นั่งรถไฟท่องเที่ยวไปพร้อม
ๆ กับการจัดประชุมหน่วยงาน
โดยล่าสุดทดลองนำฝ่ายสื่อสารการตลาดนั่งรถไฟลงพื้นที่ไปจังหวัดกาญจนบุรี
โดยมีวัตถุประสงค์หลายเรื่องซึ่งตอนนี้ต่างประเทศนิยมมาก
อีกทั้งยังเหมาะกับองค์กรเอกชนหลากหลายกลุ่ม ซึ่งทางการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)
ก็ให้ข้อมูลว่ามีบริษัทเอกชนเข้ามาใช้บริการมากขึ้น และหากได้
ททท.ช่วยประชาสัมพันธ์อีกทางก็จะช่วยขยายฐานการตลาดได้อย่างรวดเร็ว
เนื่องจากตู้รถไฟของ
รฟท.ที่นำมาบริการมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้นั่งประชุม
ครัวสะเบียงอาหารทำได้ครัวเย็นและร้อน
สามารถเข้าไปนั่งตู้สะเบียงเพื่อนั่งจิบกาแฟพร้อมกับชมวิวระหว่างการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทาง
ช่วงปลายปี 2562 กำลังลุ้นข่าวดีจะมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้าเมืองไทยคนที่
39 ล้าน
พยายามติดตามว่าเที่ยวบินประมาณคริสต์มาส สถิติ ณ วันที่ 30
พฤศจิกายน 2562 ทำได้ 36 ล้านคนเศษ
ตามปกติช่วงเดือนธันวาคมของทุกปีจะมีต่างชาติเข้ามาประมาณเดือนละกว่า 100,000 คน
จึงต้องจับตาอย่างใกล้ชิดถึงจำนวนต่างชาติได้แน่ 39 ล้านคน
และอาจจะถึง 40 ล้านคนด้วย
รายได้แตะ 3.3 ล้านล้านบาท
จากปี 2561 ทำได้ 38.2 ล้านคน
การส่งสัญญาณนักท่องเที่ยวต่างชาติมาท่องเที่ยวเมืองไทย
39-40 ล้านคน
จะมีผลดีต่อเนื่องไปถึงการเตรียมฉลอง ททท.ก่อตั้งครบรอบ 60 ปี
อัตราการเติบโตของตลาดทั่วโลกดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็นผลมาจากปัจจัยบวกจาก
ความสงบเรียบร้อยทางการเมือง
กิจกรรมการท่องเที่ยวของไทยสร้างสีสันทำประชาสัมพันธ์ต่อเนื่อง
แล้วยังได้มาตรการเสริมจากนโยบายรัฐบาลทำโครงการ “ชิม ช้อป ใช้” ต่อด้วย 100 เดียวเที่ยวทั่วไทย
กับ วันธรรมดาราคา ช็อกโลก ลักษณะการทำตลาดซึ่งออกแบบโดย ททท.5
ภูมิภาค ทำงานร่วมกับเอกชน ท่ามกลาง เศรษฐกิจโลกชะลอตัว
สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนยังตกลงกันไม่ได้
ปัจจัยสำคัญสุดมาจากค่าเงินบาทแข็งขึ้นมาก จึงต้องบริหารจัดการปัจจัยเหล่านี้ไว้
ถึงแม้การเติบโตของรายได้และจำนวนคนจะไม่ได้ตามเป้า
7-8 % แต่ก็สามารถทำได้ทั้งจำนวนและรายได้เพิ่มขึ้นถึง
3-4 %
แรงดึงดูดสำคัญสุดช่วงงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่
10 ภาพความงดงามทางด้านประเพณี วัฒนธรรม
สถาบันอันเป็นที่เคารพยิ่งของไทยได้รับการถ่ายทอดนำเสนอสู่สายตาคนไทยในประเทศและทั่วโลกอย่างดียิ่ง
อีกทั้งในวันที่ 12 ธันวาคม
2562 จะมีขบวนพยุหยาตราทางชลมารค
ภาพพิธีดังกล่าวจะได้รับการนำเสนอผ่านสื่อออฟไลน์-ออนไลน์ ไปทั่วโลกเช่นกัน
ทั้งหมดล้วนเป็นปัจจัยสนับสนุนให้การท่องเที่ยวของไทยสามารถฝ่าฟันปัจจัยความท้าทายมากมาย
จนก้าวมาสู่ความสำเร็จนำเม็ดเงินเข้าประเทศได้ตามเป้าหมาย
นายธเนศวร์กล่าวว่า
ปี 2562 ได้ทำแคมเปญสื่อสารการตลาดท่องเที่ยวแบบ
2 ชั้น
คือ ชั้นแรก ในรูปแบบ Thematic
หรือการสร้างใจความสำคัญของเนื้อหาการท่องเที่ยว โดยใช้ดาราดัง “ญาญ่า-อรุษยา
สเปอร์บัน” มาเป็นพรีเซนเตอร์ เดินเรื่องภายใต้แนวคิด “เมืองไทยสวยทุกที่
เท่ทุกเวลา” พอโค้งสุดท้ายก่อนเข้าสู่ไตรมาสที่ 4 ได้ใช้รูปแบบที่
2 การทำ Tacticalหรือยุทธวิธี
ด้วยการออกแคมเปญใหม่ในคอนเซ็ปต์ “เมืองไทยอย่าเดี๋ยว ออกเที่ยวเลย”
เพื่อกระตุ้นคนออกมาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
ปี 2563 จะใช้แนวหลักกระตุ้นการท่องเที่ยว
2 ชั้นเช่นเดิม
ชั้นแรก Thematic ได้ออกแบบโครงสร้างไว้แล้วตั้งแต่แถลงแผนแม่บทการท่องเที่ยวประจำปี
2563 : TATAP 2020
เมื่อเดือนสิงหาคม 2562 นำร่องเปิดธีม
“เมืองไทยสวยทุกที่ เท่ทุกเวลา” ชวนคนไทยทุกกลุ่มออกเดินทางท่องเที่ยว
ปีหน้าก็จะเปิดกว้างให้คนไทยออกแบบทริปท่องเที่ยวตามสไตล์ของตัวเอง
สามารถไปเสิร์ซหาข้อมูลแล้วพบว่า การไปชี้นำแบบชัดเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว เช่น
กลุ่มวัยเกษียน จะชี้ให้ไปทำกิจกรรมทำบุญเข้าวัด คงไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว
ตอนนี้มีสไตล์ใหม่นักท่องเที่ยวสูงวัยอาจจะต้องการไปผจญภัยบ้างก็ได้
หรือเด็กเจนวายยุคนี้คงไม่ใช่กลุ่มแบกเป้ขึ้นรถไฟเพื่อไปปีนป่ายภูเขาเหมือนแต่ก่อน
รูปแบบการเดินทางอาจจะไปชื่นชมศิลปะวัฒนธรรม วาดรูป หรือทำกิจกรรมแตกต่างไปจากเดิม
เทรนด์ดังกล่าวของนักท่องเที่ยวแต่ละวัยเหล่านี้
ทำให้ ททท.ต้องปรับกลยุทธ์ปี 2563 “เที่ยวอย่างมีสไตล์”
โดยทางด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยวจึงต้องคัดกรองแหล่งท่องเที่ยวที่มีสไตล์
ส่วนด้านสื่อสารการตลาดต้องนำเสนอมุมและเนื้อหา (content) อย่างหลากหลาย
เช่น การท่องเที่ยวรถไฟทำงานไปเที่ยวไปสไตล์ work & travel ซึ่งจะเป็นแนวทางการทำงานของฝ่ายสื่อสารการตลาด
ททท.ปีหน้า 2563
รวมถึงช่วงปลายปีหน้าจะมีแคมเปญ
tactical
ยุทธวิธีมีสไตล์ “เมืองไทยอย่าเดี๋ยว ออกเที่ยวเลย” โดยมีความเป็นการขายเชิงรุกแบบ
hard Sale เล็กน้อย
ทำโปรโมชั่นเชิงราคา ลดแลกแจกแถม
ซึ่งเป็นกลยุทธ์ปกติทางการตลาดไหลออกมาควบคู่กันทั้ง thematic และ tactical
นายธเนศวร์กล่าวว่าช่วงไตรมาสที่
1 ปี 2563 การกระตุ้นนักท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศเข้าเมืองไทย
หัวใจสำคัญจะอยู่ที่การจัดงาน MOTO GP 2020 เดือนมีนาคม 2563 จัดเป็นปีที่
3 ไทยขยับเป็นสนามที่
2 จากเดิมจัดแข่งเป็นสนามที่
15 จัดช่วงกันยายนหรือตุลาคม
ดังนั้นจึงต้องเร่งวางแผนตั้งแต่หลังปีใหม่เป็นต้นไป เล็งเจาะพื้นที่เป้าหมาย
ตลาดแรก ญี่ปุ่น ซึ่งมีคนเดินทางเข้ามาชมการแข่งขันจำนวนมาก รวมถึงนักแข่งแต่ละค่ายก็จะมีผลิตภัณฑ์รถยี่ห้อต่าง
ๆ ของญี่ปุ่น เช่น ยามาฮ่า คาวาซากิ เพราะฉนั้นจึงจะไปแถลงข่าวที่กรุงโตเกียว
ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2563
ตอนนำทีมนักแกะสลักหิมะไปป้องกันแชมป์ที่เมืองฮ็อกไกโด
โดยจะใช้เวทีดังกล่าวจัดกิจกรรมแล้วเชิญสื่อต่าง ๆ เข้ามาร่วมฟังให้มากที่สุด
สาระสำคัญจะเน้นจุดขายการท่องเที่ยวเชิงกีฬา
-Sport Tourism ซึ่งชาวญี่ปุ่นนิยมมากทั้งการแข่งขันโมโตจีพี
วิ่ง และอื่น ๆ ขณะเดียวกัน ททท.ก็จะใช้งานมหกรรมการจัดแข่งขัน “โตเกียว โอลิมปิก 2020”
โดยจะเปิด THAI HOUSE นำเสนออาหารไทย
นวดแผนไทย ช่วงเดือนมิถุนายน ปีหน้าจะเป็นช่วงที่ผู้ชมทั่วโลกจะไปรวมตัวกันอยู่ในงานโอลิมปิก
จึงเป็นโอกาสของไทยโดยใช้ทัพนักกีฬาไทยเป็นฐานสำคัญ ด้วยการนำเสนอการกินอาหารไทย
นักกายภาพบำบัดสาธิตหรือให้บริการได้ทั้งนักกีฬาไทยและนักกีฬาชาติต่าง ๆ
ขณะนี้กำลังหารือกันถึงรายละเอียดการดำเนินงาน
ส่วนสีสันการตลาดของ
ททท.จะนำเสนอ THAI HOUSE ผ่านมุมประเทศไทย
นำเสนอความเป็นไทยผ่านอีเวนต์โอลิมปิก
แล้วนำไปสู่นักท่องเที่ยวที่เข้าชมกีฬาระดับโลกอย่างเต็มที่
ข่าวต้นชั่วโมง
กลุ่มบริษัท
คิง เพาเวอร์ ชวนไปฉลองคริสต์มาส ใน คิง เพาเวอร์ มหานคร
แลนด์มาร์คกรุงเทพฯ ใจกลางสาทร มอบความสุขเชิญชวนมาร่วมเฉลิมฉลองที่ห้องมหานคร
แบงค็อก สกายบาร์ ด้วยมื้อค่ำ 24-25
ธันวาคม นี้ เริ่มตั้งแต่คืนวัน
Christmas Eve 24 ธันวาคม 2562
พบกับมื้ออาหารสุดพิเศษ “Christmas Eve Dinner” ที่ห้องอาหาร
มหานคร แบงค็อก สกายบาร์ จัดเต็มถึง 5 คอร์ส ในราคาเพียงคนละเพียง 3,200++
บาท ด้วยสุดยอดเมนูจานโปรดอย่าง เทอร์รีนฟัวกราส์สไตล์ฝรั่งเศส
ล็อบสเตอร์อบเนย พาสต้าสอดไส้สันคอหมู เนื้อซี่โครงตุ๋น 48
ชั่วโมง เติมเต็มความหวานด้วย ช็อกโกแลตมูส โดยให้บริการทั้งสิ้น 2
รอบ รอบเย็น-Sunset Dinner เวลา 17:00-20:00
และรอบค่ำ 21:00-01:30 น.
จากนั้นเช้าวันคริสต์มาส 25
ธันวาคม 2562 อิ่มเอมกับ “Christmas Brunch” เมนูอาหารมื้อสาย
5 คอร์ส ราคาเพียงคนละ 2,900++ บาท
เริ่มได้ตั้งแต่ 11:00-15:30 น. น.
ฟรีโฟลว์รับเครื่องดื่มได้แบบไม่จำกัด เมื่อจ่ายเพิ่มอีกคนละ 1,900++ บาท
จองล่วงหน้ามื้อค่ำและคริสต์มาสบรั๊นท์
วันที่ 24-25 ธันวาคม นี้ ที่ มหานคร แบ็งคอก สกายบาร์
ได้ทางhttp://go.eventpop.me/ChristmasEve
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์
กระหน่ำมอบความสุขต่อเนื่องกับมหกรรรม “เคาน์ดาวน์ ปาร์ตี้” สูงที่สุดในกรุงเทพฯ
และเมืองไทย บนชั้น 78 ของอาคารลายพิกเซลส์อันเป็นเอกลักษณ์
ชวนมาร่วมเติมเต็มความสนุกนับถอยหลังสู่ปี 2020
โดย “บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์” และ “วงซีซันไฟฟ์” ในโอกาสพิเศษปี 2562
เตรียมพื้นที่ไว้ต้อนรับรวม 3 ปาร์ตี้ด้วยกัน ส่วนบนสุดในอาคารคิง
เพาเวอร์ มหานคร 3 จุด ได้แก่
จุดที่ 1
ปาร์ตี้นับถอยหลังบนจุดชมวิวภายในอาคารสูงที่สุดบน ชั้น 74
ไปพร้อม ๆ กับเหล่าศิลปินแถวหน้าของเมืองไทยพาเหรดกันมาคับคั่ง มีทั้ง คริส-สิงโต
แม็กซ์ เจนมานะ ดาบอยเวย์ และดีเจบุดด้า บัตรราคาคนละ 5,500++ บาท
จุดที่ 2
ร่วมรับประทานอาหารค่ำมื้อพิเศษธีมละครบอรดเวย์ 7
คอร์ส ที่ มหานคร แบงค็อก สกายบาร์ ชั้น 76 ห้องอาหารและบาร์ที่สูงที่สุดในเมืองไทย ราคาเริ่มต้นคนละ 15,000++ บาท
รับไปเลยความสนุกร้องเล่นเต้นตลอดงานกับ บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ และวงซีซันไฟฟ์
จุดที่ 3
ร่วมปาร์ตี้นับถอยหลังที่สูงที่สุดในกรุงเทพฯ ชั้น 78
บัตรราคาเริ่มต้นคนละ 25,000++ บาท
สามารถดื่มแชมเปญปาร์ตี้ ได้ในช่วง 21:00 – 01:30 น.
พร้อมฟรีโฟลว์แชมเปญ หอยนางรมแบบไม่จำกัด
ส่วนนักท่องเที่ยวที่ต้องการเก็บความประทับใจกับพระอาติทย์ตกสุดท้ายของปีบนรูฟท็อปบาร์ที่สูงที่สุดในเมืองไทย
ระหว่าง 17:00-19:30 น. ก็สามารถซื้อบัตรเข้าชมได้ในราคาคนละ 4,500++
บาท รับแชมเปญ 1 แก้ว จองบัตรได้ที่ http://bit.ly/Rooftop-Champagne-Countdown
ข่าวที่ 3 “ททท.รุกเจาะตลาดท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวลจ่ายแพง
นายคมกริช ด้วงเงิน
ผู้อำนวยการกองสร้างสรรค์สินค้าการท่องเที่ยว ฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยว
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ให้ความสนใจตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวสูงวัยและผู้พิการซึ่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี
แต่ละครั้งเมื่อเดินทางจะใช้จ่ายเงิน โดยขณะนี้เมืองไทยและทั่วโลกเข้าสู่สังคมสูงอายุเต็มรูปแบบ
ตามสถิตินักท่องเที่ยวผู้พิการโดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้วีลแชร์จากอเมริกา-ยุโรป
ใช้เงินระหว่างท่องเที่ยวสูงกว่าคนทั่วไปถึง 3
เท่า หรือยุโรปนักท่องเที่ยวผู้พิการใช้จ่ายเฉลี่ย
210,000 บาท/คน/ทริป
สูงกว่านักท่องเที่ยวยุโปรทั่วไปใช้จ่ายเฉลี่ย 70,000-80,000
บาท/คน/ทริป
ในช่วงที่ผ่านมาไทยไม่ได้จัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานตามสถานที่ท่องเที่ยวไว้รองรับมากนัก
ต่างจากตอนนี้เริ่มทำเพิ่มขึ้น
ปี 2563 จึงเป็นโอกาสขยายฐานท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล
หรือ tourism for all โดยเร่งพัฒนาอารยสถาปัตย์ ในรูปแบบ friendly
design เพื่อให้เด็ก
ผู้สูงวัย ผู้พิการ ทุกวัยท่องเที่ยวได้อย่างเท่าเทียมกับคนปกติทั่วไป
ตลอดปีนี้ ททท.จึงออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวลทั่วประเทศใน 5 ภูมิภาค เพิ่มอีก 5 เส้นทาง ได้แก่ เชียงราย ราชบุรี พังงา ชลบุรี และเลย จากเดิมมีอยู่แล้ว 9 เส้นทาง ควบคู่การสนับสนุนงานมหกรรมอารยสถาปัตย์และนวัตกรรมสุขภาพเพื่อคนทั้งมวล ครั้งที่ 4 ที่เพิ่งจะเสร็จสิ้นไปเมื่อเร็ว ๆ นี้
ข่าวที่ 4 “ททท.ชวนบริจาคขวดPETทำเต่ามะเฟืองรักษ์โลกพัทยา
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชวนร่วมบริจาคขวด PET เปลี่ยนขยะเป็นงานศิลปะรักษ์โลกริมหาดพัทยา เปลี่ยนขยะเป็นงานศิลปะ นำไปสร้างประติมากรรม 'เต่ามะเฟืองแม่ลูก' ริมชายหาดพัทยา ดีเดย์วันที่ 18 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสัตว์สงวนที่ได้รับผลกระทบจากขยะพลาสติกทางทะเล ขนาด 6 X 8 เมตร สัญลักษณ์การท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และการรีไซเคิลเส้นใยพลาสติก แล้วให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปคู่พร้อมติดแฮชแท็ก #ลดโลกเลอะXรักษ์ปันสุข กระตุ้นคนไทยตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม พร้อมลงมือแก้ไข
สามารถบริจาคได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ตามสถานีบริการน้ำมันบางจาก ในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล ชลบุรี ระยอง จันทบุรี 262
จุด จากนั้นวันพุธที่ 18 ธันวาคม 2562
ร่วมถ่ายภาพกับ “เต่ามะเฟืองแม่ลูก” พร้อมติดแฮชแท็ก #ลดโลกเลอะXรักษ์ปันสุข
ส่งต่อเรื่องดี ๆ ต่อไปยังลูกหลานในอนาคต
สำหรับประติมากรรมรูปเต่ามะเฟืองแม่ลูกนี้
จะจัดแสดงไว้ 6 เดือน ระหว่างธันวาคม 2562 - มิถุนายน
2563 บริเวณโค้งดงตาล หาดจอมเทียน เมืองพัทยา เมืองท่องเที่ยวระดับโลกในการดึงดูดความสนใจและเพื่อสื่อสารไปยังนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติ
บริษัท
บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เชิญชวนสมาชิกผู้ถือบัตรเครดิต SCB เข้าร่วมแคมเปญ “ยิ่งเติมมาก ยิ่งคุ้มมากทุกเส้นทาง” แลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% ระหว่างวันนี้ – 31 มกราคม 2563
ซึ่งทางบัตรเครดิตไทยพาณิชย์ร่วมให้สิทธิพิเศษ เมื่อลูกค้าเติมน้ำมันตามปั๊มบางจากทั่วประเทศ
ตั้งแต่ 800
บาทขึ้นไป/เซลล์สลิป ในวันเสาร์ หรือวันอาทิตย์ สามารถใช้คะแนนสะสม SCB
REWARDS 800 คะแนน แลกรับเครดิตเงิน คืน 15% และ
12% ตามประเภทบัตร และบัตรทุกประเภทแลกรับเครดิตเงินคืน 10%
ในวันจันทร์ถึงวันศุกร์
ทั้งนี้บัตรเครดิตที่สามารถใช้สิทธิพิเศษ ตามแคมเปญข้างต้นได้
จะต้องเป็นเฉพาะผู้ถือบัตรเครดิต SCB ยกเว้น
บัตรเครดิต SCB FAMILYPLUS, บัตรเครดิต SCB M ทุกประเภท และบัตรนิติบุคคล
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) ได้ประมวลผลจากงาน SITE’s Global Conference คืองานประชุมระดับโลกของผู้ประกอบการ
Incentive Travel
จัดเมื่อช่วงต้นปีนี้ในกรุงเทพ ซึ่งก่อให้เกิดการแสดงเจตจำนงเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไปพร้อม
ๆ กันในชื่อ “The Bangkok manifesto” ตัวอย่างเจตจำนงเหล่านี้คือทิศทางและเป้าหมายของอินเซนทีฟแทรเวล
ซึ่งทั่วโลกกำลังพุ่งความสนใจไปยังไมซ์ตามเมืองหลัก โดยเฉพาะ “เมืองรอง” สร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร
Bangkok manifesto มีเป้าหมายยกระดับอินเซ็นทีฟ
แทรเวล เมืองรองตั้งแต่ Tier 1-เมืองที่พร้อมรองรับงานไมซ์
ท่องเที่ยวได้ พักแรมได้ กับTier 2-ท่องเที่ยวได้
พักแรมได้ โดยไม่ต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างมหาศาลอีกต่อไป แต่เน้นสร้างประสบการณ์พิเศษให้ไมซ์ทั่วโลกกำลังสนใจ
ในอนาคต อย่างไมซ์จีนหรือสิงคโปร์ต่างเริ่มมองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ
จากเมืองรองของไทยมากขึ้นแล้ว จึงเป็นโอกาสสำคัญที่ผู้ประกอบการไมซ์เมืองรองจะเพิ่มมูลค่าและตอบโจทย์ความต้องการอินเซ็นทีฟ
แทรเวล ให้ได้มากที่สุด
ตามที่
Bangkok manifesto ประกาศว่า
"นิยามของความหรูหราได้เปลี่ยนไปแล้ว" เพราะนักท่องเที่ยวอินเซ็นทีฟ
แทรเวลา ไม่ได้สนใจแบรนด์อีกต่อไปแล้ว แต่ได้หันมามองหาจุดหมายปลายทางที่มีเรื่องราว
แตกต่าง และสร้างประสบการณ์ส่วนตัวให้พวกเขาได้ (Authentic, Unique and
Personal experiences) มูลค่าของจุดหมายปลายทางอยู่ตรงเรื่องเล่าและกับการนำเสนอประสบการณ์อย่างมีสไตล์ของตัวเอง เพื่อทำให้การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลดื่มด่ำวิถีชีวิตชุมชน
กินดื่ม และรับบริการด้วยใจจากชุมชน แบบที่ไม่มีในโรงแรม 5
ดาว
อีกทั้งยังได้ยกให้
“ความรับผิดชอบต่อสังคม” เป็นหัวใจสำคัญของทั้งอุตสาหกรรมไมซ์ การพัฒนาแบบยั่งยืน
เน้นย้ำการเลือกจุดหมายปลายทางไมซ์ที่มีรายละเอียดเล็ก ๆ ให้ลูกค้าสัมผัสเข้าถึงการรักษ์โลกมากขึ้น
เช่น สร้างจุดหมายปลายทางปราศจากพลาสติก 100 % หรือห่วงใยเรื่องอาหารเหลือทิ้ง
(Food Waste) มากขึ้น สร้างภาคภูมิใจให้อินเซ็นทีฟ แทรเวล
ภาคภูมิใจในทุกทริปเมื่อมาแล้วไม่รบกวนโลก
เทรนด์ดังกล่าวจะทำให้ไมซ์เมืองรองของไทยเป็นทางเลือกยอดนิยมในกลุ่มตลาด
อินเซนทีฟ แทรเวล
ภายใต้การแสดงเจตจำนงที่จะขับเคลื่อนการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมของประเทศควบคู่กันไป
ช่วงที่ 2 เตรียมพร้อมตลุยเที่ยววันหยุดปีใหม่ เลือกได้จะไป
“ชมทุ่งคอสมอสล้านต้นแม่แตง” เชียงใหม่
หรือจะไปปีนดอยดื่มด่ำวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตกบน “ดอยเสมอดาว” จ.น่าน
และตามเรื่องเล่าของนายพรานกับชาวบ้านและเณรแห่งตำนาน “แก่งคุดคู้” เชียงคาน
ด้านสุขภาพ “เลือกกินอาหารฟังก์ชั่น” เทรนด์เสริมสุขภาพอายุยืน ส่วนข่าวเกาะติด
“บอร์ด ทอท.” ลงพื้นที่ดูก่อสร้างสุวรรณภูมิเฟส 2 กับประติมาคชสาร “บางกอกแอร์”
ผนึกพันธมิตรใหม่ กรุงเทพ ลีมูซีน ให้ใช้ไมล์แลกบริการลีมูซีนฟรี ตราดและเกาะช้าง
“โรงแรมอินดิโก้ กรุงเทพฯ” จัดแพกเกจวันเกิดราคาดี อาหารอร่อย
ได้เวลาเปิดปฏิทินมองหาสถานที่พักผ่อนวันหยุดปลายเดือนธันวาคมปีนี้
เตรียมตัวไปเชลฟี่เที่ยวแบบเต็มอิ่มตลอด 10
วัน กับทุ่งดอก “ทุ่งคำแผ้แหล้” หรือทุ่งคอสมอสนับล้านต้นในงาน
“หนาวนี้ที่เมืองแกน ครั้งที่ 10” อำเภอแม่แตง
จังหวัดเชียงใหม่ 25 ธันวาคม 62 - 3 มกราคม 63 ละลานตากับแสดงการสืบสานประเพณีและวัฒนธรรม
ชมของดีเมืองแกนอีกหลากหลายอย่าง ทั้งการทำอาหารพื้นบ้านของคนเมืองแกนบนกระทะยักษ์
ช้อปผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกล้วยหอม ท่ามกลางอากาศเย็นสบายฉลองปีใหม่ไปด้วยกัน
หรือจะเลือกไปปีนดอยสัมผัสทะเลหมอกบน
“ดอยเสมอดาว อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน ทางศูนย์บริการ นักท่องเที่ยวดอยเสมอดาว
ยินดีบริการและดูแลนักท่องเที่ยวสายที่ชื่นชอบการนอนเต็นท์
นั่งชิลรอพระอาทิตย์โผล่จากเส้นขอบฟ้าและลับลงสู่พื้นดินบริเวณจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตกสวยงามมาก
แนะนำไฮไลต์อีกแห่ง “แก่งคุดคู้" อ. เชียงคาน จ. เลย ที่นี่มีเรื่องเล่าและตำนานสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งนี้ กล่าวขานกันว่ามีพรานป่าชื่อ “จึ่งขึ่งดั้งแดง” รูปร่างสูงใหญ่ล่ำสัน มีฝีมือในการล่าสัตว์ วันหนึ่งพรานผู้นี้ตามล่าควายเงินมาจากหลวงพระบาง (ที่เรียกควายเงินเพราะมูลของควายตัวนี้เป็นเงิน) พอมาถึงริมน้ำโขงเห็นควายเงินพักกินน้ำจึงดักซุ่มยิง พอดีชาวบ้านแล่นเรือผ่านมา ควายเงินตกใจตื่นเตลิดขึ้นไปบนเขาซึ่งต่อมาตั้งชื่อว่า"ภูควายเงิน" พรานยิงไปถูกเขาอีกลูกพังทลายลงซีกหนึ่ง กลายเป็นหน้าผาสูงชัน ชาวบ้านเรียกกันว่า“ภูผาแบ่น” ด้วยความโกรธที่ชาวบ้านทำให้ควายเงินหนีไป จึงขนหินมาขวางกั้นลำโขงไม่ให้เดินเรือได้ ทำเกือบจะสำเร็จพอดีมีสามเณรรูปหนึ่งมาเห็นเข้าจึงออกอุบายหลอกให้พรานใช้ไม้เฮียะซึ่งเป็นไม้ไผ่ชนิดหนึ่งผ่าซีกมีสันคมกริบไปหาบหิน จนบาดคอนอนตายคุดคู้อยู่ที่ริมโขงบริเวณที่เรียกกว่า “แก่งคุดคู้” ในปัจจุบันนี้
แหล่งท่องเที่ยว “แก่งคุดคู้” อยู่ห่างจากเชียงคานราว 3 กิโลเมตร เป็นแก่งกลางแม่น้ำโขง มีหินก้อนใหญ่ ๆ เป็นจำนวนมาก ช่วงที่นิยมท่องเที่ยวคือเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม ของทุกปี เป็นช่วงน้ำโขงเหือดแห้ง จะมองเห็นเกาะแก่งต่าง ๆ ชัดเจน รอบพื้นที่มีร้านอาหาร ร้านจำหน่ายเสื้อผ้า สินค้าพื้นเมือง ให้ช้อปเพเ
ออกมาเที่ยวเมืองไทย
แล้วจะรู้ว่า ทั้งเท่และมีสไตล์ ใครก็เที่ยวได้อย่างมีความสุขทุกที่ทุกวัน
@เทรนด์ใหม่อาหารและสมุนไพรเสริมสุขภาพให้อายุยืน
ภก.รศ.ดร.สุรพจน์ วงศ์ใหญ่
ผู้เชี่ยวชาญสมุนไพรของสหประชาชาติ คณบดีผู้ก่อตั้งวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
มหาวิทยาลัยรังสิต แนะนำการดูแลสุขภาพด้วยอาหารและสมุนไพรทำให้อายุยืน ที่ระบบสุขภาพของโลกหันมาส่งเสริมสุขภาพและป้องกันมากกว่ารักษาโรค
ด้วยวิธีเริ่มจากการรับประทานอาหารที่เหมาะสม ช่วยชะลอความเสื่อมของสมอง
และร่างกาย ด้วยอาหารฟังก์ชั่นและสมุนไพร เช่น สารสกัดจากใบแป๊ะก๊วย ขมิ้นชัน และ
น้ำมันจมูกข้าว เป็นต้น ก็เป็นอีกทางเลือกที่คนทั่วโลกให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
หนึ่งในอาหารฟังก์ชันที่ชาวเอเชียกินมาอย่างยาวนานคือ
ซุปไก่สกัด ซึ่งพร้อมให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้เร็ว เนื่องจากเป็นโปรตีนที่ผ่านการย่อยให้ได้กรดอะมิโน
และไดเปปไทด์ที่จำเพาะ ได้แก่ คาร์โนซีน และแอนเซอรีน
ที่มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์ประสาท โดยผลการวิจัยทางคลินิกของ
ศ.นพ.โคกะ โยชิฮิโกะ จากภาควิชาประสาทวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเคียวริน
ญี่ปุ่นเกี่ยวกับเปปไทด์ในซุปไก่สกัด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง
ซึ่งศึกษาในกลุ่มคนที่ดื่มซุปไก่สกัดทุกวันติดต่อกันเป็นระยะเวลา 7 วัน และตรวจวัดผลด้วยเทคโนโลยี Near-Infrared Spectroscopy (NIRS) พบว่า
ซุปไก่สกัดช่วยให้เลือดนำออกซิเจนไปเลี้ยงสมองส่วนหน้า ซึ่งเกี่ยวข้องกับความจำ
การคิด ตัดสินใจได้ดีขึ้น จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของสมอง
นอกจากอาหารฟังก์ชั่นแล้ว
ยังมีสมุนไพรที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพสมอง อาทิเช่น ขมิ้นชันที่มีสารเคอร์คิวมินอยส์
สารสำคัญที่เป็นแอนตี้ออกซิแดนซ์ ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ช่วยชะลอความเสื่อม
ป้องกันตับ น้ำมันจมูกข้าวที่มี โทโคไทรอีนอล, เบต้าแคโรทีน,
และไวตามินอี เป็นต้น
ที่ช่วยปกป้องเซลประสาทโดยมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระซึ่งอนุมูลอิสระเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดความเสื่อมของเซลล์
นอกจากนี้ยังประกอบด้วยสารแกมมาโอไรซานอลที่ช่วยลดระดับคลอเลสเตอรอลในเส้นเลือด
ทำให้อวัยวะต่างๆ มีเลือดไปเลี้ยงมากขึ้น และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “บอร์ดทอท.บุกดูสุวรรณภูมิเฟส2ประติกรรมคชสาร
นายเอนก ธีระวิวัฒน์ชัย รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. (สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง)บริษัท
ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” กล่าวว่า ได้ต้อนรับและรายงานคณะกรรมการ
(บอร์ด) ทอท. มีนายมนัส แจ่มเวหา
นายธานินทร์ ผะเอม นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์
คณะกรรมการกำกับบริหารโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ที่เข้ามาเยี่ยมชมโครงการพัฒนาสุวรรณภูมิระยะที่
2 พร้อมร่วมพิธีติดตั้งงานประติมากรรมช้างหิมพานต์ (คชสาร) ขนาด 7 เมตร และ 5 เมตร
ติดตั้งชิ้นส่วนงาช้าง ณ บริเวณโถงกลาง ชั้น 3 อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite
1 : SAT-1) โดยได้ฉายวิดีโอเปิดตัวอาคาร SAT-1
และวิดีโอแนะนำประติมากรรม คชสารพญาช้างเผือกเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2562
โดยได้พาชมเส้นทางเสมือนของผู้โดยสารขาออกขึ้นเครื่องบินที่อาคาร
SAT-1 เริ่มจากอาคารผู้โดยสารปัจจุบัน มายัง Concourse
D สถานีขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติและช่องทางเดินรถไฟฟ้าขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ
(Automated People Mover : APM) เข้าสู่อุโมงค์ที่ติดตั้งระบบ ICS
(Individual Carrier System) ระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระขาออก
เดินทางต่อมาที่ ชั้น 2 ผู้โดยสารขาเข้า บริเวณห้องน้ำที่มีการตกแต่ง
โดยสร้างจุดเด่นที่นำประเพณีลอยกระทงของไทยมาผสมผสาน และแนวเส้นทางผู้โดยสารเปลี่ยนเครื่อง
จากนั้นเดินทางขึ้นไปชั้น 3 จุดผู้โดยสารขาออก ต่อไปที่ชั้น 4
บริเวณร้านค้าร้านอาหาร และลงมาเยี่ยมชมบริเวณระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าชั้น G
ผู้ที่สนใจสามารถติดตามชมวิดีโอเปิดตัวอาคาร
SAT-1 และประติมากรรม คชสารพญาช้างเผือก ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=6WCMJ7TKKkc
ข่าวที่สอง “บางกอกแอร์งัดหมัดเด็ดใช้ไมล์แลกลีมูซีนตราด&เกาะช้าง
สายการบินบางกอก แอร์เวย์ส รายงานว่า ได้จับมือกับกรุงเทพ ลีมูซีน จัดมหกรรมนำคะแนนฟลายเออร์โบนัสของบางกอกแอร์เวย์ส
มาให้สมาชิกได้แลกใช้สิทธิ์รถลีมูซีนรับส่งในสนามบินตราด ไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ
ในจังหวัดตราดหรือบนเกาะช้าง ด้วยรถตู้ขนาด
10 ที่นั่ง โดยใช้ 3,000 คะแนนสะสมมาแลกหรือเลือกแลกรางวัลบริการรถรับ-ส่ง (รถยนต์หรือรถตู้แบบส่วนตัว) เดินทางไปยังตราดใช้คะแนนเริ่มต้น 8,500 คะแนน และไปยังบนเกาะช้าง ใช้คะแนนเริ่มต้น 11,000
คะแนน
ดูรายละเอียดการแลกรางวัลบริการรถรับ-ส่งได้ที่ https://flyerbonus.bangkokair.com หรือคอล เซนเตอร์ โทร. 1771 กด 2 ทุกวัน เวลา 08.00น. – 20.00น.
ข่าวที่สาม “โรงแรมอินดิโก้จัดแพกเกจฟินวันเกิดหรูราคาดี
ห้องอาหารชาร์ ที่โรงแรมโฮเต็ล
อินดิโก้ กรุงเทพ ถนนวิทยุ จัดว่าเป็นสถานที่ลงตัวสำหรับทุกโอกาสพิเศษ
ด้วยอาหารชั้นเลิศและบรรยากาศในใจกลางเมืองกรุง ทางห้องอาหาร ชาร์
พร้อมมอบความสุขในทุกเมนูและการเฉลิมฉลองอย่างหรูหรา และในตอนนี้ ห้องอาหารชาร์
ได้จัดแพ็คเกจสุดพิเศษสำหรับงานเลี้ยงวันเกิดให้กับทุกท่านได้เฉลิมฉลองแบบสุดคุ้ม
ด้วยแพ็คเกจที่เริ่มต้นตั้งแต่
10,000++ บาท สำหรับสองท่านขึ้นไป และ
ชาร์จะมอบความสนุกสุดขั้วเพื่อให้เป็นค่ำคืนที่น่าจดจำด้วยบรรยากาศที่ตกแต่งด้วย
ดอกไม้ ลูกโป่ง และการตกแต่งเพื่อสื่อถึงวันเกิด มากไปกว่านั้นคุณสามารถเลือกของตกแต่งเพื่อทำให้การถ่ายรูปน่าสนุกมากยิ่งขึ้น
อาหาร 5
คอร์สเมนูสุดพิเศษจะถูกเสิร์ฟให้กับท่านด้วยการรังสรรค์จากเชฟของทางห้องอาหารชาร์
สุดเซอร์ไพร์สด้วยเค้กอันหอมหวานอีกด้วย ทับทิมชาร์ดอนเนย์
เค้กช็อกโกแลตกลิ่นมิ้นต์ และวานิลลาคาราเมลชีสเค้ก เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่จะทำให้คุณน้ำลายสอ
ทางเรามีตัวเลือกอีกมากมายที่พร้อมจะเสิร์ฟให้คุณ และสปาร์คกลิ้งไวน์
ที่จะทำให้เป็นค่ำคืนอันแสนพิเศษมากขึ้น
สำหรับของขวัญอันสุดพิเศษ ลูกค้าจะได้รับส่วนลด
10% เมื่อสั่งอาหารจานเดียวระหว่างงานปาร์ตี้ และทุกคนที่จ่ายมากกว่า 60,000++ บาท
จะได้รับห้องพักฟรี 1 คืน ที่โรงแรม โฮเต็ล อินดิโก้ กรุงเทพ ถนนวิทยุ เป็นไปตามข้อกำหนดเงื่อนไขของทางโรงแรม
โทร.02 207 4999
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น