ททท.“ภูเก็ต-ระยอง”ปลุกท่องเที่ยว2ทะเลปี’63
ประชันขายแคมเปญเมืองเก่า-เปิดก้นเที่ยว-CSR
ประชันขายแคมเปญเมืองเก่า-เปิดก้นเที่ยว-CSR
เรื่องโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97
#จตุรัสทั่วไทย #เที่ยวกับกู๋
#จตุรัสทั่วไทย #เที่ยวกับกู๋
อ่านได้ในX-CITEไทยโพสต์ ฉบับวันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม 2562
การกระตุ้นเศรษฐกิจจากรายได้การท่องเที่ยวของ 2 พื้นที่แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลช่วงเปิดศักราชต้อนรับปีงบประมาณใหม่ 2563 ระหว่างเมืองหลัก “ภูเก็ต-ไข่มุกอันดามัน” จังหวัดที่มีขีดความสามารถทำรายได้ปีละเกินกว่า 400,000 ล้านบาท กับ “ระยอง” เมืองรองน้องใหม่มาแรงแห่งทะเลอ่าวไทย ที่พร้อมยกระดับเป็นเมืองหลัก ตั้งเป้าเร่งทำรายได้กระจายสู่ชุมชนให้ได้กว่า 40,000 ล้านบาท
กนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการ ททท.ภูเก็ต |
“กนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร” ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนแรก ระหว่างมกราคม-กันยายน 2562 โดยภาพรวมภูเก็ตมีรายได้ท่องเที่ยวตุนไว้แล้วประมาณ 3.33 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.94 % ใช้จ่ายเงินเฉลี่ย 31,286 บาท/คน/ทริป เพิ่มขึ้น 5.41 % อัตราการเข้าพักเฉลี่ย 76.23 % เพิ่มขึ้น 0.03 % มาจากนักท่องเที่ยวรวม 10.66 ล้านคนแบ่งเป็น คนไทย 2.83 ล้านคน-ครั้ง รายได้ 38,502 ล้านบาท ใช้จ่ายเฉลี่ย 13,565 บาท/คน/ทริป และต่างชาติ 7.82 ล้านคน รายได้ 2.95 แสนล้านบาท ใช้จ่ายเฉลี่ย 37,713 บาท/คน/ทริป
ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2562 เป็นต้นมา ได้วางกลยุทธ์ต้อนรับปีงบประมาณใหม่ 2563 ด้วยการชูจุดขายภูเก็ตที่ดีมากกว่าทะเลไฮไลต์ที่กำลังได้รับความนิยมคือ ชุมชนเมืองเก่า แหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น (ManMade) อย่างบลูทรี-เมืองคริสตัลทะเลเทียม หรือกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงผจญภัยเทรนด์ใหม่ๆ อย่าง “หนุมาน เวิลด์” หรือ “ฟลายอิ้ง หนุมาน” ได้รับรางวัลกินรีการันตีคุณภาพมาตรฐาน รวมทั้งมีแหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืนทั้ง สยามนิรมิต ภูเก็ตแฟนตาซี เรื่อยไปจนถึงการท่องเที่ยวกับประสบการณ์แปลกใหม่หรูหรากับการล่องเรือครุยส์ชมพระอาทิตย์ตก ณ แหลมพรหมเทพ ด้วยเรือคาตามารัน บริการดินเนอร์ครุยส์รองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวอิสระ (F.I.T.) และหมู่คณะ (G.I.T.) ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยคนละประมาณ 2,000 บาท/คน/ครั้ง
รวมทั้งภูเก็ตเป็นเมืองที่ได้รับการประกาศให้เป็นเมืองแห่งอาหาร (gastronomy) นอกจากอาหารถิ่นขึ้นชื่อแล้ว ปัจจุบันยังมีร้านติดดาวมิชลิน ร้านระดับมิคุมองต์หรือเพลทให้เลือกอย่างหลากหลายตั้งเรียงรายอยู่ในย่านชุมชนเมืองเก่า ถนนถลาง ถนนดีบุก และกระจายอยู่ตามชายหาดต่าง ๆ ซึ่ง “คนไทย” ก็สามารถมาท่องเที่ยวได้ซึ่งค่าใช้จ่ายไม่แพงอย่างที่คิด โดยเฉพาะการท่องเที่ยวตามเกาะสวย ๆ อย่าง พีพี สิมิลัน หรือเกาะใกล้ เช่น เกาะเฮ เกาะไข่ พร้อมต้อนรับตลอดทั้งปี
ผอ.กนกกิตติกา กล่าวว่า ปัจจุบันสนามบินภูเก็ตสามารถเที่ยวบินเข้าออกมากถึงวันละ 400 เที่ยว ขณะนี้บินอยู่วันละ 200-300 เที่ยว บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” ยังมีสล็อตเหลือเพื่อรับเที่ยวบินเพิ่มได้ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสบายกว่าอดีตมาก ในช่วงตารางบินฤดูหนาวตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม 2562 -มีนาคม 2563 มีสายการบินเปิดบริการเพิ่ม ได้แก่ เวียดนามแอร์ไลน์ส บริการบินตรงเข้าภูเก็ต สัปดาห์ละ 3 เที่ยว กับเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Charter flight) จากยุโรป อินเดีย
ตั้งแต่วันนี้ต่อเนื่องปี 2563 ททท.สำนักงานภูเก็ต ได้นำทีมผู้ประกอบการโรงแรมกลุ่ม Green Hotels ร้านค้า ร้านอาหาร ๆ ร่วมกันรณรงค์ลดการใช้พลาสติกทุกรูปแบบ ทั้งขวด หลอด ควบคู่การบริหารจัดการขยะให้เป็นศูนย์-Zero Waste ทุกภาคส่วนที่ทำกิจกรรมท่องเที่ยวจะลดละเลิกสร้างขยะ ผนวกกับรณรงค์เก็บขยะชายหาดโดยมีบูธแคมป์ทุกสัปดาห์ และจะปลุกกระแสการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบฉลอง ททท.ครบ 60 ปี เตรียมคิกออฟแคมเปญใหญ่วันที่ 12 เดือน 12 (ธันวาคม) 2562 ในภูเก็ตจะร่วมกับ British International School : BIS จัดทำคู่มือ 2 ภาษา ให้นักเรียนเยาวชนได้รู้จักวิธีแยกขยะอย่างถูกต้อง รวมทั้งทำกิจกรรมร่วมกับโรงเรียนเทศบาลและโรงเรียนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบล เพื่อป้องกันตั้งแต่ต้นทาง จากนั้นก็จะทำต่อไปในระยะยาว
อัครวิชย์ เทพาสิต ผู้อำนวยการ ททท.ระยอง |
ทางด้าน “นายอัครวิชย์ เทพาสิต” ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานระยอง กล่าวว่า วางแผนทำตลาดการท่องเที่ยวเชิงรุกในพื้นที่รับผิดชอบ โดยใช้ศักยภาพของสนามบินอู่ตะเภา (พัทยา) เชื่อมโยงขายการท่องเที่ยวข้ามภาคจากอีสานและเหนือไหลเข้าสู่ระยอง เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ร่วมคณะกับ นายวิบูลย์ นิมิตรวานิช ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคตะวันออก ททท.ไปทำโรดโชว์ในเมืองหลักภาคอีสาน 2 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา อุดรธานี เพื่อเจาะกำลังซื้อที่ชื่นชอบเที่ยวทะเลอ่าวไทย กินอาหารซีฟู้ดรสชาติดี พักโรงแรมมีมาตรฐาน ได้ทำกิจกรรมเที่ยวเกาะดำน้ำตื้น น้ำลึกได้ 3-5 แห่ง เช่น เกาะเสม็ด
ไฮไลต์ของ ททท.ระยอง เตรียมเปิดตัว 2 แคมเปญใหม่ ประกอบด้วย แคมเปญแรก “เปิดก้น (อ่าว) เที่ยว” จะสร้างความฮือฮาด้วยชื่อดังกล่าว กำหนดจัดธันวาคม 2562-กุมภาพันธ์ 2563 เป็นช่วงที่น้ำทะเลอ่าวไทยกำลังสวย จึงต้องการให้นักท่องเที่ยวมีประสบการณ์แปลกใหม่ที่ดี ๆ รวมถึงจะได้สัมผัสวิถีชีวิตชุมชนคนก้นอ่าว พร้อมกับการลองชิมอาหารถิ่นที่มีความแตกต่างจากภาคอีสานและภาคเหนือ โดยเฉพาะในฤดูหนาวสัตว์ทะเลจะขยายพันธุ์มีปริมาณมาก ซึ่งต้องชมทางกรมประมง และเจ้าท่า ที่เข้ามาจัดระเบียบการทำประมงอย่างเข้มงวด จึงทำให้มีปลาขนาดต่าง ๆ อย่างสมดุลให้นักท่องเที่ยวได้บริโภคตลอดทั้งปี
แคมเปญที่สอง “ท่องเที่ยวบำเพ็ญประโยชน์-CSR Tourism” รณรงค์ให้นักท่องเที่ยวหันมาทำกิจกรรมด้านซัพพลายเชนเพิ่มห่วงโซ่อาหาร ด้วยการชวนมาร่วมทำ 2 กิจกรรมหลัก ได้แก่ กิจกรรมแรก “โครงการปลูกหญ้าทะเลเป็นอาหารพะยูนและเต่า” นำร่องที่เกาะมันใน เพราะผลการสำรวจพบพะยูนแถบทะเลระยอง จันทบุรี ตราด กว่า 20 ตัว วนเวียนหากินอยู่บริเวณนี้แต่ละตัวจะกินวันละประมาณ 30 กิโลกรัม เพื่อป้องกันการย้ายถิ่นลงไปทางใต้และระหว่างทางอาจบาดเจ็บ สูญหาย เสียชีวิตได้ จากอวนหรือขยะทะเล จึงจะเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาทำโครงการสร้างระบบนิเวศน์ให้พะยูนกับเต่าทะเล
เตรียมนำร่องทำวันที่ 4 ธันวาคม 2562 ทางสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย “อ๊อด-บรรฑิต ทองดี” จะนำทีมศิลปิน ดารา นางแบบ ไปร่วมกันปลูกหญ้าทะเล กิจกรรมที่สอง “สร้างคอนโดปูแสม” บริเวณหอชมวิวเฉลิมพระเกียรติ ป่าชายเลนในเมืองระยอง ขณะนี้มีองค์กรขนาดใหญ่มาร่วมกันสร้างที่อยู่โดยให้ผู้รับผิดชอบสร้างคอนโดเป็นสัญลักษณ์โลโก้องค์กรให้ปูแสมมาวางไข่ขยายพันธุ์ ทำให้ห่วงโซ่อาหารของนักท่องเที่ยวเติบโตอย่างสมดุลไปด้วยกัน
การท่องเที่ยวซีเอสอาร์ทำคอนโดปูในบริเวณป่าชายเลนในชุมชนกลางเมืองระยอง |
เตรียมนำร่องทำวันที่ 4 ธันวาคม 2562 ทางสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย “อ๊อด-บรรฑิต ทองดี” จะนำทีมศิลปิน ดารา นางแบบ ไปร่วมกันปลูกหญ้าทะเล กิจกรรมที่สอง “สร้างคอนโดปูแสม” บริเวณหอชมวิวเฉลิมพระเกียรติ ป่าชายเลนในเมืองระยอง ขณะนี้มีองค์กรขนาดใหญ่มาร่วมกันสร้างที่อยู่โดยให้ผู้รับผิดชอบสร้างคอนโดเป็นสัญลักษณ์โลโก้องค์กรให้ปูแสมมาวางไข่ขยายพันธุ์ ทำให้ห่วงโซ่อาหารของนักท่องเที่ยวเติบโตอย่างสมดุลไปด้วยกัน
ผอ.อัครวิชย์ย้ำว่า ททท.ระยอง เชิญชวนร่วมท่องเที่ยวส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ไปตามจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกสไตล์ sunset-sun rise ตามปากน้ำ สะพาน เช่น เกาะเสม็ด เกาะมันใน เกาะทะลุ ซึ่งมีความงดงามไม่แพ้ แหลมพรหมเทพ ภูเก็ต
ส่วนเป้าหมายการท่องเที่ยวโดยภาพรวมปี 2563 จะต้องกระตุ้นตลาดในประเทศท่องเที่ยวระยองเติบโตตามนโยบาย 10 % โดยจะชูขายสินค้า 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.ท่องเที่ยวเชิงซีเอสอาร์ 2.ท่องเที่ยววันธรรมดา 3.ท่องเที่ยวเชิงกีฬากอล์ฟ และ 4.ท่องเที่ยวข้ามภาค ขณะนี้ได้ประสานกับทางพื้นที่อู่ตะเภา และได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากเอกชนทั้งสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว หอการค้า ระยอง ช่วยกันโปรโมตแบบครบวงจร
ปี 2563 ททท.ที่รับผิดชอบสองฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย “ภูเก็ต” กับ “ระยอง” พร้อมจะทุ่มเททำการตลาดเชิงรุกเพื่อดึงรายได้เข้าสู่จังหวัดกระจายถึงมือชุมชนอย่างทั่วถึง ตอกย้ำว่าท่องเที่ยวยังคงเป็นเสาหลักเศรษฐกิจที่เข้มแข็งสร้างความยั่งยืนให้ประเทศได้ต่อไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น