ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.ถอดรหัสโกยตลาดปีชวด63-More Fun วันหยุดยาวเที่ยวคลองหาด เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว

ผู้นำททท.ถอดรหัสมหกรรมโกยตลาดท่องเที่ยวปีชวด

ขานรับรมว.พิพัฒน์2บิ๊กโปรเจ็กต์ทัวร์356-โฮมลอดจ์

“คิง เพาเวอร์”เทพลังสร้างอนาคตดิวตี้ฟรีสนามบินไทย
คิงเพาเวอร์ลงทุนโปรเจ็กต์ใหม่“มหานครกีฬาเลสเตอร์
ททท.จัดกระหึ่มอะเมซิ่งเคาน์ดาวหลากสีสัน6เมืองรอง
ททท.น่านชวนร่วมลงถนนคนเดินกินชิมเที่ยว22ธ.ค.62
บางจากเปิดผลงานพลังงานทางเลือกรับรมว.พลังงาน
ปิดทองหลังพระเปิดผลงาน10ปีฟื้นเศรษฐกิจชุมชนน่าน
MoreFunทุ่งดอกไม้คลองหาด-เขาฉกรรจ์เมืองสระแก้ว
ผลไม้อบแห้งต้องรู้จักวิธีกินจึงให้ปลอดภัยดีต่อสุขภาพ
กรุงไทยฯชี้เป้าทัวร์จีนเข้าไทยทศวรรษหน้า20ล้านคน/ปี
เขาใหญ่ผุดโปรเจ็กต์พาสปอร์ตหุบเขาเที่ยวมีความสุข


เข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม  2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza # #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เที่ยวกับกู๋  #ทททถอดรหัสตลาดปี63  #ขานรับไทยแลนด์365HomeLodge #MoreFunคลองหาดสระแก้ว  #ปิดทองหลังพระทำผลงาน10ปีฟื้นเศรษฐกิจชุมชนน่าน  

ช่วงที่ 1 ถอดรหัสท่องเที่ยวปลายปีกับ “ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปลุกมหกรรมเคานด์ดาวน์ 6 เมืองรอง และทำเลสุดฮ็อตเก่าใหม่ในกรุงเทพฯ รวมพลังอาเซียน ชูธงทำรายได้อุ้มเศรษฐกิจเบ่งบานรับปีชวด เดินหน้าขานรับนโยบายใหม่ พิพัฒน์ รัชกิจประการ แจ้งเกิด 2 บิ๊กโปรเจ็กต์ “Thailand 365-ปั้น HomeLodge 1,500 แห่ง สู่ตลาดโลก” พร้อมยืนยันกระหน่ำใช้กลยุทธ์  5More สร้างเงินสะพัด 5 ภาค และ กระทุ้ง 5G ชิงส่วนแบ่งรายได้ก้อนโตในเวทีโลกปี 2563
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร
ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
 

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เตรียมแผนงานกระตุ้นการท่องเที่ยววันหยุดปลายปีร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาตั้งใจมอบความสุขให้นักท่องเที่ยวจัดกิจกรรมมหกรรมเคาน์ดาวน์อย่างคึกคักสมกับที่เมืองไทยเป็น 1 ในอันดับต้น ๆ ของโลกที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาร่วมงาน สำหรับกิจกรรมจะแยกวิธีจัดเป็นหลายส่วน ประกอบด้วย 1.ททท.ดำเนินเองและสนับสนุนตามเมืองท่องเที่ยวหลักและรอง เช่น สุโขทัย กาฬสินธุ์ ลพบุรี ราชบุรี สระแก้ว พัทลุง กรุงเทพมหานคร จะขอยกตัวอย่างการจัดเคาน์ดาวน์เฉดใหม่ดังต่อไปนี้

  สุโขทัยใช้ชื่อธีม “มหัศจรรย์แสงสุดท้ายแห่งปี รับอรุณสวัสดี ที่ สุโขทัย หนึ่งเดียวไม่เหมือนใครเฉลิมฉลองวันปีใหม่ในเมืองมรดกโลก จัดงานระหว่าง 29 - 31 ธันวาคม 2562 วัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อำเภอเมือง  นักท่องเที่ยวจะได้ชมการประดับตกแต่งโคมไฟ Light Up Night ประกอบการแสดงดนตรีร่วมสมัย ชมการแสดงนาฏศิลป์ไทย งาน Art & Craft การสาธิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน ลานสอยดาว ลุ้นรับของที่ระลึกกลับบ้าน และ Do it by yourself (DIY) สร้างสรรค์ของขวัญปีใหม่ชิ้นเดียวในโลกกับผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของชาวสุโขทัย ชิมอาหารถิ่นหลากหลายเมนูเฉลิมฉลอง จากนั้นในช่วงข้ามคืนเข้าสู่ปีใหม่ 1 มกราคม 2563 ชมพลุสุโขทัยสุดตระการตา ต่อด้วยการทำบุญเสริมบารมีวันปีใหม่ใส่บาตรสะพานบุญ รับอรุณสุโขทัย ที่วัดตระพังทอง 

พัทลุง - จัดบริเวณสี่แยกหน้าโคลีเซี่ยม แยกห้างโคลีเซี่ยม อำเภอเมือง  ภายใต้ธีม “พัทลุง ทุ่งไม่ปรุงแต่ง” เริ่ม 30 ธันวาคม 2562  ชมขบวนพาเหรด ขบวนมโนราห์ ขบวนหนังตะลุง ตำนานเขาทะลุ เรือสำเภา ขบวนคานิวัลต่าง ๆ นำความทันสมัยผสมผสานประเพณีท้องถิ่นอย่างกลมกลืน ต้นคริสต์มาสยักษ์ที่ทำจากผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น (ยอยักษ์และลูกปัดมโนราห์ ชมการประดับตกแต่งไฟเข้างานโดยใช้  ไซ สุ่ม สวิง ฯลฯ ตลอดวันที่ 30-31 ธันวาคม นี้ ศิลปินจะขึ้นเวทีสร้างความสุขด้วยเสียงเพลง  เช่น วงพัทลุง อู๋พันทาง เอกชัย ศรีวิชัย Gun& Rapper ต๋องวัฒนา วง Slow และวง Zoom ร่วมสนุกกับรำวงเวียนครก  เล่นเกม ชิงรางวัล  Voucher ร้านอาหาร ที่พัก ผลิตภัณฑ์ชุมชน การสาธิตทำอาหารท้องถิ่น อาทิ ไข่ปลาทอด กุ้งสามน้ำ สาคูต้น การออกร้านขายอาหาร/ผลิตภัณฑ์ชุมชนชื่อดัง อาทิ สานกระจูด ลูกปัดมโนราห์ 30 ร้านค้า

นักท่องเที่ยวที่เข้าชมงานเคาน์ดาวน์พัทลุง 300 คนแรกสามารถแสดงใบเสร็จค่าที่พักเพื่อแลกรับของที่ระลึกได้ภายในงาน  โดยเฉพาะวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ร่วมนับถอยหลังสู่ปีใหม่ ชมเลเซอร์ ภาพท้องถิ่น มีทั้งบัวแดง ฝูงควายน้ำ การแสดงรำมโนราห์  ตีโพน   การแสดงพลุ อุโมงค์ไฟ พร้อมทำกิจกรรม ตักบาตรปีใหม่กับชุมชนและกิจกรรมCSR มอบอุปกรณ์ทำความสะอาดแก่เทศบาลเมืองพัทลุง

สำหรับกิจกรรมเคาน์ดาวน์ที่ ททท.สนับสนุนก็มี 1.สวัสดีปีใหม่ อาเซียน เคาน์ดาวน์ 3 แผ่นดิน 2563 จัดบริเวIsหน้าด่านพรมแดน สะพานไทย-เมียนมาร์ แห่งที่ 1 อ.แม่สาย จ.เชียงราย 2.งาน Street Fest Siam Square 3.อะเมซิ่ง เคาน์ดาวน์ 2020 ไอคอนสยาม 4.ราชประสงค์ ไลท์ติ้ง เคาน์ดาวน์ 2020 และ 5.อะเมซิ่ง แบงค็อก เคาน์ดาวน์ เมจิก เวิลด์ เซเลเบรชั่น ที่สยามพารากอน ทุกงานทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดจะสร้างความสนุกสนานมีความสุขอย่างแน่นอน

ส่วนการกระตุ้นคนไทยท่องเที่ยวในประเทศ ได้เริ่มมาตั้งแต่สิงหาคม-ธันวาคม 2562 โครงการหลักชิม ช้อป ใช้ ของรัฐบาล ทาง ททท.ก็ต่อยอดทำแคมเปญ “ถึงเวลาทัวร์ให้ทั่วไทย” ด้วย 2 แคมเปญ ร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทยกับวันธรรมดาราคา shock โลก จะต้องเที่ยวให้เสร็จภายใน 31 ธันวาคม นี้ ซึ่งเศรษฐกิจจะคึกคักตามไปด้วย

ช่วงวันหยุดยาวปลายปีส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ รัฐบาลอนุมัติให้หยุดต่อเนื่องรวมกัน 5 วัน ดังนั้นระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2562 - 1 มกราคม 2563 ททท.คาดการณ์จะมีนักท่องเที่ยว “คนไทย” เดินทางมากกว่า 3 ล้านคน-ครั้ง  ใช้จ่ายเงินกว่า 11,800 ล้านบาท ทำให้อัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั่วประเทศได้มากกว่า 75 % ขณะเดียวกันด้วยสถานการณ์ค่าเงินบาทก็มีคนไทยเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศด้วยเช่นกัน แต่มาตรการสำคัญสุดคือกระตุ้นชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวเมืองไทยด้วย ตลอด 5 วัน จะมีต่างชาติรวมกว่า 6.9 แสนคน เพิ่มขึ้น 7 % สร้างรายได้ 12,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับไทยเที่ยวในประเทศ เพิ่มขึ้น 7 % ประเมินแล้วจะเห็นการเติบโตของนักท่องเที่ยวยุโรป อเมริกา ขยายตัวต่อเนื่องปีหน้าด้วย โดยประเมินจากเที่ยวบินเข้าเมืองไทยตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป

ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ปี 2563 ททท.ตระหนักถึงมาตรการกระจายนักท่องเที่ยวต่างชาติไปยังแหล่งท่องเที่ยวพอสมควร โดยเฉพาะเมืองรองได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ด้วยการบินตรงเข้าเมืองหลัก ตัวอย่าง เชียงใหม่ เมื่อลงเครื่องแล้วนักท่องเที่ยวจะเดินทางต่อไปยังลำพูน ลำปาง แนวโน้มเมืองรองจะได้รับความสนใจมากขึ้น เช่นเดียวกับทางภาคใต้ ทั้ง พัทลุง ระนอง ชุมพร มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นนอกจากเมืองหลักก็จะกระจายสู่เมืองรอง ซึ่งจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจภาพรวมของทุกพื้นที่

เรื่อยไปจนถึงการเดินหน้าการท่องเที่ยวตามนโยบาย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประกาศให้ทุกภาคส่วนร่วมกันกระตุ้นโครงการแรก “Thailand 365” ตามนโยบาย “เมืองไทยเที่ยวได้ทั้งปี ดีทุกจังหวัด” ซึ่งตัวเลขแต่ละมีความหมาย ประกอบด้วย 3 หมายถึงจะต้องรักษาสัดส่วนรายได้ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ทั้งหมดจากการท่องเที่ยว 6 หมายถึงรักษาอันดับให้ไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมติดอยู่ 1 ใน 6 ของโลก และ 5 การเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวเมืองไทยต้องเพิ่มปีละไม่น้อยกว่า 5 % เช่น ปี 2562 ตั้งเป้าไว้ 39.8 ล้านคน ปี 2563 จะเพิ่ม 5 % ก็ต้องทำให้ได้ตามนโยบายรัฐบาลไม่ต่ำกว่า 41.8 ล้านคน โดย ททท.จะทำตามที่ได้แถลงแผนการตลาดไปเรียบร้อยแล้ว พุ่งเป้าเน้นสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่มีความแตกต่าง

“ตลาดในประเทศ” จะเน้นสร้างมูลค่าสินค้าท่องเที่ยวท้องถิ่นภายใต้คอนเซ็ปต์ More ประกอบด้วย ภาคเหนือ-More Authentic ภาคตะวันออก-More Fun ภาคใต้-More Inspire ภาคอีสาน-More Gastronomy ภาคกลาง-More Lagacy ปีหน้าจะทำต่ออย่างเข้มข้น ทุ่มเทรณรงค์การท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ (Responsible Tourism) ในเมืองหลัก ททท.พยายามทำเป็น Green Destination สอดรับกับพฤติกรรมการท่องเที่ยวของคนทั่วโลกที่จะเดินทางเข้ามาในปีต่อไป




“ตลาดต่างประเทศ” ยังยึดนโยบายการตลาดภายใต้ 5 Go ประกอบด้วย 1.Go New-มองหาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ 2.Go Low-ชวนคนมาท่องเที่ยวนอกฤดูกาลมากขึ้น 3.Go High-มองหาตลาดคุณภาพเข้ามาเพิ่มให้มากที่สุด 4.Go Local-กระจายนักท่องเที่ยวไปยังพื้นที่ที่ยังมีจำนวนนักท่องเที่ยวไม่มาก เพื่อลดความแออัดและภาพลักษณ์การเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่เน้นปริมาณจนมากเกินไป (mass tourism) และ 5.Go  Digital-ทำการตลาดให้สอดรับกับเทรนด์โลกยุคใหม่ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ททท.จะดำเนินการเพื่อตอบโจทย์นโยบายของ รมว.พิพัฒน์ โครงการ ไทยแลนด์ 365

สำหรับโครงการ “การท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ” ททท.ริเริ่มทำโปรเจ็กต์นี้อย่างจริงจังโดยการนำนโยบายของ รมว.พิพัฒน์ มาปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเรื่องของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยเตรียมต่อยอดโครงการเดิมของ ททท.คือ “ลด โลก เลอะ” ด้วยร่วมกับพันธมิตรหน่วยงานอื่นเข้ามาสนับสนุน เพื่อให้ชุมชนท้องถิ่นสามารถรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยตนเองได้ มีโครงการตัวอย่าง การจัดงาน “Thailand Travel Mart Plus : TTM Plus ” จาก ททท.จัดทุกปีจะขยายผลทำเป็น Green Destination และ Green Meeting นำผู้ประกอบการท่องเที่ยว สื่อมวลชน เข้าร่วมงานต่อไปทุกทริปจะต้องมี 1 กิจกรรมในการลงมือทำกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม

ประการสำคัญปี 2563 การก่อตั้งททท.และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะครบ 60 ปี จึงจะแสดงบทบาทการเป็น “ผู้นำการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ” โดยจะมีโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทยอยออกมาอีกเป็นจำนวนมาก ทุกกิจกรรมตลอดทั้งปีจะสอดแทรกให้เกิดการตระหนักรู้การมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

การขานรับนโยบายที่ 2 โครงการ “Home Lodge” ทั่วประเทศปี 2563 ให้ได้ 1,500 แห่ง ซึ่งเป็นความตั้งใจของ รมว.พิพัฒน์ที่ตั้งใจ “กระจายรายได้-ลดความเลื่อมล้ำ” ทำให้พี่น้องประชาชนแต่ละภูมิภาคมีความอยู่ดีกินดี ในชนบทที่มีขีดความสามารถทำโฮมลอดจ์เข้ามามีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งโฮมลอดจ์จะแตกต่างจากโฮมสเตย์ตรงจะมีระเบียบมาตรฐานหลัก ๆ ต้องเป็นกลุ่มวิสาหกิจ แต่โฮมลอดจ์จะผ่อนปรนให้ชาวบ้านมากขึ้น ด้วยการทำงานร่วมกันตั้งแต่ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ ด้วยวิธีปฏิบัติคือ “ต้นทาง” องค์การพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) จะเข้าไปพัฒนาพื้นที่โฮมลอดจ์ในแหล่งท่องเที่ยวเป้าหมาย ร่วมกับ ททท.ส่งเสริมผู้ประกอบการให้มีความรู้การเป็นเจ้าบ้านที่ดี “กลางทาง” กรมการท่องเที่ยวจะต้องเข้าไปช่วยยกระดับพัฒนามาตรฐาน รับประกันความพึงพอใจ และดูแลความปลอดภัย “ปลายทาง” ททท.จะนำโฮมลอดจ์ไปประชาสัมพันธ์เข้าถึงกระตุ้นนักท่องเที่ยวตลาดทั่วโลก สนใจมาสร้างประสบการณ์พักค้างโฮมลอดจ์ดังกล่าว

เบื้องต้นตลาดท่องเที่ยวต่างประเทศที่ชื่นชอบการพักโฮมลอดจ์ จะเป็นกลุ่มการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ เชิงผจญภัย เชิงวัฒนธรรม สัมผัสชาวบ้านจริง ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นภูมิภาคยุโรป ซึ่งต้องการเรียนรู้วิถีวัฒนธรรม ซึ่งทำให้เกิดการย้อนถึงวัฒนธรรมดี ๆ และ “ตลาดญี่ปุ่น” มีบินจูกุแหล่งที่พักโดยชาวบ้านเป็นผู้ให้บริการ ดังนั้นจะให้คนไทยเข้าไปเรียนรู้วัฒนธรรมการทำบินจูกุก่อนแล้วหลังจากนั้นก็จะทำตลาดญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี

เพราะความจริงแล้วการเปิดโครงการโฮมลอดจ์ถือเป็นนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวมุมใหม่ ๆ เมื่อคนอยากมาประเทศไทยจึงต้องการสร้างประสบการณ์ในแหล่งท่องเที่ยวโฮมลอดจ์ใหม่ ๆ ด้วยเช่นกันทั้งจากตลาดยุโรปและญี่ปุ่น

ดร.ยุทธศักดิ์ ย้ำว่าตลอดการเดินทางท่องเที่ยวต่อเนื่องวันหยุดยาวปีใหม่ทุกหน่วยงานและ รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาอยากให้ทุกคนท่องเที่ยวอย่างมีความสุขตลอดเทศกาล ดังนั้นจึงขอให้ทุกคนดูแลด้านความปลอดภัยโดยเฉพาะอุบัติเหตุ อย่าได้ประมาท รวมถึงท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมดูแลรับผิดชอบสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไปด้วย
              
ฟังข่าวต้นชั่วโมง



ตลอดปีแห่งความท้าทาย ภายใต้การนำของ “อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์  ได้พิสูจน์ศักยภาพการพัฒนาธุรกิจในฐานะครอบครัวคนไทยผู้บุกเบิกร้านค้าปลอดอากร (duty free) เมืองไทย ร้านค้าปลีกการท่องเที่ยวสนับสนุนส่งเสริมการเดินทางอย่างไม่มีวันสิ้นสุด โดยปลุกพลังเราเชื่อว่าคนไทยทำได้ไม่แพ้ชาติใดในโลก

ความท้าทายครั้งแรก ในรอบปี 2562 ของ “กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์” ล้วนต้องเผชิญความกดดันอันดุเดือดมากที่สุดรอบด้าน โดยเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมาระหว่างพฤษภาคม-มิถุนายน 2562 คือ การลงสนามแข่งขันประมูล “โครงการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรและพื้นที่เชิงพาณิชย์” ของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” เพื่อชิงสัญญาฉบับใหม่ 10 ปี 6 เดือน จะเริ่มระหว่าง 28 กันยายน 2563 -31 มีนาคม 2574 ต้องเสนอชื่อเข้าประมูลโครงการในเวลาไล่เลี่ยกันรวมถึง 4 สนามบิน ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นธุรกิจเรือธงหลัก และสนามบินภูมิภาค 3 แห่ง คือ สนามบินภูเก็ต สนามบินเชียงใหม่ และสนามบินหาดใหญ่ 

กระทั่งวันที่ 19 มิถุนายน 2562 ผู้บริหารกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ทุกคนต่างก็โล่งใจไปตาม ๆ กัน เมื่อคณะกรรมการ (บอร์ด)  ทอท. มีมติประกาศผลการแข่งขัน โดยให้ บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด ชนะคู่แข่งแบบขาดลอยทุกสัมปทาน ทั้งโครงการกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเสนอจ่ายผลตอบแทนมูลค่าสูงสุดปีละ 15,419 ล้านบาท และพื้นที่เชิงพาณิชย์จ่ายผลตอบแทนขั้นต่ำมูลค่ามากสุดปีละ 5,798 ล้านบาท สูงกว่าเดิมเกินกว่า 1 เท่า

ขณะที่ “โครงการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรภูมิภาค 3 สนามบิน” ได้แก่ ภูเก็ต หาดใหญ่ เชียงใหม่ บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด ก็ชนะขาดเช่นกัน โดยเสนอจ่ายผลตอบแทนมูลค่ารวมขั้นต่ำปีละ 2,331 ล้านบาท สูงกว่าเดิมปี 2562 จ่าย ทอท.ประมาณ 1,000 ล้านบาท และสูงกว่าคู่แข่งเกิน 1,000 ล้านบาท

นอกจากกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จะพิสูจน์ความเป็นมืออาชีพในฐานะผู้นำการทำธุรกิจดิวตี้ฟรีให้คนไทยทั้งประเทศเห็นฝีมือแล้ว ยังถือเป็นผู้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้ ทอท.ในเรื่อง “จุดเปลี่ยนรายได้” นับจากปี 2564 เป็นต้นไป ทอท.จะพลิกโฉมรายได้ใหม่สู่เชิงพาณิชย์ (Non Aero) แบบครบวงจร แทนของเดิมได้จากการบิน (Aero) เป็นหลักมาตลอดกว่า 40 ปี

ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.ออกมายืนยันทันทีว่า เมื่อ ทอท.รับรู้รายได้ใหม่ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป เฉพาะรายได้จากสัมปทานของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ทั้ง 4 สนามบิน มีมูลค่ารวมประมาณปีละ 23,548 ล้านบาท จะเป็นแรงผลักดันให้ ทอท.สามารถทำกำไรทะยานได้ถึงปีละเกือบ 50,000 ล้านบาท
เป็นการตอกย้ำพลังที่ว่า “เราเชื่อ” คนไทยทำได้ไม่แพ้ชาติใดในโลก


ความท้าทายครั้งที่ 2 เป็นของขวัญส่งท้ายปี ในวันที่ 23 ธันวาคม 2562 “บอร์ด ทอท.” เตรียมชี้ขาดตัวเลขการเสนอจ่ายผลตอบแทนรายได้ โครงการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรสนามบินดอนเมือง ในอาคารระหว่างประเทศหลังที่ 1 พื้นที่รวม 1,884 ตรม.” ซึ่งคณะกรรมการคัดเลือกของ ทอท.เปิดซองรายชื่อไปเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2562 พบมีผู้สนใจยื่นเพียงรายเดียวเท่านั้นคือ บริษัท คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด ที่จะได้รับสัญญาฉบับใหม่ในอนาคตอีก 10 ปี 6 เดือน ระหว่าง 1 ตุลาคม 2565 - 31 มีนาคม 2576

ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์ลงทุนโปรเจ็กต์ใหม่“มหานครกีฬาเลสเตอร์”





“อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ซึ่งสวมหมวกอีกใบในฐานะประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ อังกฤษ เปิดเผยถึงเดินหน้าขับเคลื่อนกีฬาฟุตบอล ว่า ได้ทุ่มเททำอย่างเข้มข้น โดยการสร้างผลงานรักษาอันดับของทีมในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2019-2020 ให้คงอยู่แถวหน้า 1 ใน 6 ของการแข่งขัน คู่ขนานไฮไลต์การลงทุนโปรเจ็กต์ใหญ่ “ศูนย์ฝึกซ้อมเลสเตอร์ ซิตี้ แห่งใหม่” มูลค่ากว่า 100 ล้านปอนด์ ตั้งอยู่ย่านซานวูด ทางตอนเหนือของแคว้น เลสเตอร์เชียร์  โดยการพลิกฟื้นสนามฮิลล์ กอล์ฟคลับ แปลงโฉมใหม่ให้กลายเป็นสนามฝึกซ้อมฟุตบอล ขนาดพื้นที่ประมาณ 185 เอเคอร์ (7.5 แสนตารางเมตร) กำลังลุยก่อสร้างกำหนดจะให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2563 ทันเปิดการแข่งขันฤดูกาลหน้า 2020-2021
“อัยยวัฒน์” มุ่งมั่นทุ่มเทต่อการลงทุนศูนย์ฝึกซ้อมเลสเตอร์ ซิตี้ แห่งใหม่ โดยจะทำให้กลายเป็นโอกาสสำคัญอีกครั้งของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ นอกจากจะนำทีมก้าวขึ้นมายืนอยู่แถวหน้าของพรีเมียร์ลีกแล้ว ยังมองข้ามช็อตไปถึงอนาคตจะต้องสร้างสิ่งใหม่เพื่อเพิ่มโอกาสทะยานสู่ความสำเร็จให้ได้ 
ประการสำคัญโครงการนี้อัยยวัฒน์และผู้บริหารสโมสรตั้งใจจะสานต่อวิสัยทัศน์ของพ่อ (วิชัย ศรีวัฒนประภา) อดีตประธานสโมสร ซึ่งเคยกอดคอวางเป้าหมายร่วมกันมาตลอดที่จะพาทีมนักเตะเลสเตอร์ ซิตี้ ผงาดเทียบชั้นทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรป ซึ่งวันนี้ทุกฝ่ายร่วมใจกันสานเจตนารมย์จนสามารถเดินเข้าใกล้จุดหมายมากขึ้นทุกที

“อัยยวัฒน์” ยืนยันว่าศูนย์ฝึกซ้อมเลสเตอร์ ซิตี้ แห่งใหม่ ได้ร่วมงานกับบริษัทรับเหมามืออาชีพรายใหญ่ที่สุดในอังกฤษอย่าง “แม็คลาเรน กรุ๊ป” เพื่อทำให้อนาคตของสโมสรแปรเปลี่ยนความฝันให้กลายเป็นความจริงในเวลาอันใกล้นี้ให้จงได้
ศูนย์ฝึกซ้อมเลสเตอร์ ซิตี้แห่งใหม่ย่านซานวูด ทางตอนเหนือของแคว้นเลสเตอร์เชียร์
ขอบคุณภาพจาก Photo  www.leicestermercury.co.uk
ส่วนความโดดเด่นของศูนย์ฯ แห่งใหม่ ได้ให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมเน้นธรรมชาติที่เขียวขจีด้วยการส่งทีมงานเข้าไปปลูกต้นไม้เพิ่มอีกราว 38,000 ต้น ขยายจากบริเวณเดิมซึ่งมีพื้นที่ป่าไม้อยู่แล้ว 4.5 เอเคอร์ พร้อมกับดีไซน์ที่ดินเป็นแปลงดอกไม้ป่าหลากสีสันอีก 4.6 เอเคอร์ แต่ระหว่างการก่อสร้างจะต้องตัดต้นไม้บางส่วน จึงวางแผนนำมาทำเป็นเชื้อเพลิงชีวมวลพลังงานทางเลือกเพื่อใช้หมุนเวียนในสโมสร เรื่อยไปถึงเรื่องการต้องถมบึงน้ำขนาดใหญ่จึงต้องเคลื่อนย้ายสัตว์น้ำไปอยู่ในสถานที่เหมาะสมชั่วคราวรวมกว่า 400 ตัว เมื่อแล้วเสร็จจะนำกลับมายังถิ่นอาศัยเดิม พร้อมกับจะขยายสัตว์น้ำพันธุ์ใหม่เพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ สร้างบรรยากาศภายในศูนย์ให้กลายเป็นเมืองแห่งความสุข ประกอบด้วย

1.สนามฟุตบอลกลางแจ้งขนาดมาตรฐาน 11 สนาม 2.สนามฟุตบอลขนาดเล็กให้นักเตะเยาวชนฝึกซ้อม 8 สนาม 3.สนามฟุตบอลในร่ม 1 สนาม 4.สนามสำหรับฝึกซ้อมของผู้รักษาประตูโดยเฉพาะ 2 สนาม 5.สนามฝึกซ้อมของผู้เล่น 1 สนาม 6.สนามวอร์มร่างกายและฝึกซ้อมด้านเทคนิค 5 สนาม

บริเวณใกล้ ๆ โซนสนามฝึกซ้อม ได้ออกแบบสร้างเป็นโซนที่พัก 35 ห้อง แต่ละห้องจะมีสระว่ายน้ำขนาดเล็กอยู่ภายในโดยติดตั้งระบบวารีบำบัดเพื่อช่วยให้ผู้เล่นทุกคนเข้าได้ใช้บริการได้ทุกเวลา เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บทำให้ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว


นายนพดล  ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ททท. กล่าวว่า การจัดงาน “Amazing Thailand Countdown 2020” ปีนี้กระจายไปยังตามเมืองรอง 6 จังหวัด
            1. งาน Amazing Night Sukhothai Countdown 2020 มหัศจรรย์แสงสุดท้ายแห่งปี รับอรุณสวัสดี ที่ สุโขทัย หนึ่งเดียวไม่เหมือนใคร เฉลิมฉลองวันปีใหม่ในเมืองมรดกโลก 29 - 31 ธันวาคม 2562 ณ วัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อำเภอเมือง  นักท่องเที่ยวจะได้ชมการประดับตกแต่งโคมไฟ Light Up Night ประกอบการแสดงดนตรีร่วมสมัย ชมการแสดงนาฏศิลป์ไทย งาน Art & Craft การสาธิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน ลานสอยดาว ลุ้นรับของที่ระลึกกลับบ้าน สนุกกับกิจกรรม Do it by yourself (DIY) สร้างสรรค์ของขวัญปีใหม่ชิ้นเดียวในโลกกับผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของชาวสุโขทัย ชิมอาหารถิ่นหลากหลายเมนูเฉลิมฉลอง 

และต้อนรับปีใหม่ด้วยการจุดพลุสุโขทัยสุดตระการตา และร่วมเสริมบุญบารมีวันปีใหม่กับกิจกรรม “ใส่บาตรสะพานบุญ รับอรุณสุโขทัย” ณ วัดตระพังทอง  1 มกราคม 2563
                
              2.Amazing Thailand Countdown 2020 @Kalasin 30 - 31 ธันวาคม 2562 สวนสาธารณะริมแก่งดอนกลาง อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2563 ตื่นตากับเหล่าไดโนเสาร์เจ้าบ้านสุดน่ารักในบรรยากาศแห่งความสุขที่จังหวัดกาฬสินธุ์  พบกับแลนด์มาร์ก ให้นักท่องเที่ยวแชะ แอนด์ แชร์ ไม่ว่าจะเป็น อุโมงค์โคมกระดาษประดับสีสัน หรือ ธุงขนาดใหญ่สูงกว่า 2 เมตร เพื่อลุ้นรับของที่ระลึก ชิมอาหารถิ่น พบกับศิลปินมากมาย อาทิ เปาวลี พรพิมล  วงแจ๊ส สปุ๊กนิค ปาปิยอง กุ๊กกุ๊ก หลิว อาจารียา ไข่มุก รุ่งรัตน์ น้องทิวเทน ภูไทเร็คคอร์ด รากแก่นแฟมิลี่ วงฮันแนว วง The Dust   และร่วมนับถอยหลังเข้าสู่ปี 2563 พร้อมชมพลุที่ตระการตา
               
 3. Amazing Thailand Countdown 2020 @ Lopburi  30  ธันวาคม  2562  –  1 มกราคม 2563ที่โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี  ภายใต้แนวคิด“เมืองครบรสใกล้กรุง”และเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วม“แต่งไทยไปเคาท์ดาวน์” สนุกกับโซนต่าง ๆ ได้แก่  Lopburi Story บอกเล่าเรื่องราวแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดลพบุรีผ่านนิทรรศการภาพถ่าย โซน Lopburi Gastronomy กับสารพัดเมนูเลื่องชื่อของลพบุรีด้วยฝีมือปลายจวักคนลพบุรี และโซน Lopburi Local Craft ตื่นตากับงานฝีมือทรงคุณค่าของชาวลพบุรี ชมการแสดงของ โต๋ ศักดิ์สิทธิ์, ปู่จ๋าน ลองไมค์,เคนน้อย ร้อยลีลาVARINZxZ TRIPxKANOMxNONNY9, FRIDAY, BLUE SHADE, ซานิ & ZN BAND, แกรนด์  กรณ์ภัสสร และ SOMKIAT แล้วร่วมกันนับถอยหลังท่ามกลางการแสดงพลุสุดตระการตาชุด“เบิกฟ้าแดนพระนารายณ์”สาดแสงส่องประกาย  เถลิงศกใหม่    ปรางค์สามยอด”

                4. Amazing Thailand Countdown 2020 @ Ratchaburi 24 - 31 ธันวาคม 2562
บริเวณริมเขื่อนรัฐประชาพัฒนา (ริมแม่น้ำแม่กลอง) อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี ละลานตากับการประดับไฟและอุโมงค์ไฟสวยงาม พบกับแลนด์มาร์กกล่องของขวัญประดับไฟ และจุดถ่ายภาพ การออกร้านขายอาหารและจำหน่ายสินค้าต่าง ๆ การแสดงของวงดนตรี House Band การแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินที่มีชื่อเสียง อาทิ Sunny Paradise  The Richman toy  Instinct No One Else ลำไย ไหทองคำ และ Clash พร้อมร่วมนับถอยหลังส่งท้ายปี 2562 และชมการจุดพลุเฉลิมฉลอง แสง สี เสียง ทั้งนี้ภายในงานมุ่งเน้นการใช้วัสดุรักษ์สิ่งแวดล้อมในการบรรจุอาหารและเครื่องดื่ม
               
  5. Amazing Thailand Countdown 2020 @ Sakaeo 30 ธันวาคม 2562 – 1 มกราคม 2563
ณ ลานด้านหน้าศูนย์การค้าอินโดจีน  อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ดูเต็ม ๆ ศิลปวัฒนธรรมสานสัมพันธ์ 2 แผ่นดิน (ไทย-กัมพูชา) คอนเสิร์ตจากศิลปินนักร้องชื่อดัง ทั้งไทยและกัมพูชา อาทิ อาร์ The Star สิงโต The Star ไต้ฝุ่น KPN มิ้นท์ AF  ลาล่า-ลูลู่ อาร์สยาม วงต๊กโต ปิ๋ม ซีโฟร์ วงฟรุตตี้ และ Sok Pisey (ศิลปินสาวสุดฮอตชาวกัมพูชา) ช้อป ชิม ชิล เลือกซื้ออาหารอร่อยและของขวัญของฝากขึ้นชื่อของจังหวัดสระแก้ว  ร่วมสนุกกับกิจกรรมขยะแลกทองและร่วมลุ้นของขวัญของรางวัลต่างๆ มากมาย กิจกรรมไฮไลท์พิเศษ ร่วมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เคาท์ดาวน์ 2 แผ่นดิน (ไทย-กัมพูชา) ครั้งประวัติศาสตร์ พร้อมชมการแสดงพลุและการแสดงเคาท์ดาวน์ที่ตระการตา ชุด ต้อนรับศักราชใหม่ สานสายใยสองแผ่นดิน
               
6. Amazing Thailand Countdown 2020 @ Patthalung  30 ธันวาคม 2562 - 1 มกราคม 2563
ตรงสี่แยกห้างโคลีเซี่ยม อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง  ร่วมกิจกรรมในแนวคิด “พัทลุง บ้านทุ่งไม่ปรุงแต่ง” วันที่ 30 ธันวาคม 2562 ชมขบวนพาเหรด พิธีเปิดอันยิ่งใหญ่ให้ชม ขบวนมโนราห์ ขบวนหนังตะลุง ตำนานเขาทะลุ เรือสำเภา ขบวนคานิวัลต่าง ๆ นำความทันสมัยผสมผสานประเพณีท้องถิ่นอย่างกลมกลืน ต้นคริสต์มาสยักษ์ที่ทำจากผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น (ยอยักษ์และลูกปัดมโนราห์ หลังจากเสร็จงานจะนำยอยักษ์มอบให้กับเรือในทะเลน้อย และนำลูกปัดมโนราห์มอบให้มโนราห์โรงครูทำชุดให้นักเรียนมโนราห์ต่อไป) และชมการประดับตกแต่งไฟเข้างานโดยใช้  ไซ สุ่ม สวิง ฯลฯ มาตกแต่งประดับ ในวันที่ 30-31 ธันวาคม

การสาธิตทำอาหารท้องถิ่น อาทิ ไข่ปลาทอด กุ้งสามน้ำ สาคูต้น การออกร้านขายอาหาร/ผลิตภัณฑ์ชุมชนชื่อดัง อาทิ สานกระจูด ลูกปัดมโนราห์ ประมาณ  30 ร้านค้า นักท่องเที่ยวแสดงใบเสร็จค่าที่พักเพื่อแลกรับของที่ระลึก  300 คนแรก วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ร่วมกิจกรรมนับถอยหลังสู่ปีใหม่ ชมเลเซอร์ ภาพท้องถิ่น อาทิ       บัวแดง ฝูงควายน้ำ การแสดงรำมโนราห์  ตีโพน   การแสดงพลุ อุโมงค์ไฟ พร้อมทำกิจกรรม ตักบาตรปีใหม่กับชุมชนและกิจกรรมCSR มอบอุปกรณ์ทำความสะอาดแก่เทศบาลเมืองพัทลุง 

ข่าวที่ 4 “ททท.น่านชวนลงถนนคนเดินกินชิมเที่ยว22ธ.ค.62


การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จังหวัดน่าน เชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรม "เดิน กิน ชิม เที่ยว" ณ ถนนคนเดินข่วงเมืองน่าน อ.เมือง จ.น่าน วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2562 เวลา 19.00 น.พร้อมกับทั่วประเทศได้เปิดการจัดกิจกรรมถนนคนพร้อม ๆ กัน ตามนโยบายรัฐบาล มุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวสร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากและส่งเสริมกิจกรรมการมีส่วนร่วมของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน 

ภายในงาน "เดิน กิน ชิม เที่ยว" นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสประบการณ์ดี ๆ ของชาวเมือง เช่น การแสดงทางวัฒนธรรม เลือกซื้อสินค้าในพื้นที่ผลิตภัณฑ์ OTOP โครงการหลวง ของดีเมืองน่าน สินค้าต่าง ๆ ทั้งเกษตรและเกษตรแปรรูป วัฒนธรรม พื้นเมือง อาหารประจำถิ่น

ข่าวที่ 5 บางจากเปิดผลงานพลังงานทางเลือกต้อนรับรมว.พลังงาน



นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้รับเกียรติให้การต้อนรับ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน และคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพลังงาน ร่วมเยี่ยมชมการดำเนินงานและรับฟังการบรรยายสรุปการทำงานของบางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัทในกลุ่ม ณ สำนักงานใหญ่ อาคารเอ็ม ทาวเวอร์ ถนนสุขุมวิท

โดยบางจากให้ความสำคัญกับการนำนวัตกรรมมาพัฒนาธุรกิจ ร่วมไปกับสิ่งแวดล้อมและสังคมเพื่อความยั่งยืนในทุกๆ กลุ่มธุรกิจของบริษัท ได้แก่ธุรกิจโรงกลั่นและค้าน้ำมัน ธุรกิจการตลาด ธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ธุรกิจพลังงานชีวภาพ และธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ จึงได้ได้เดินทางไปเยี่ยมชมโครงการแลกเปลี่ยนซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยบล็อกเชน (P2P Energy Trading) ที่โครงการ T77 ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) การไฟฟ้านครหลวง และพาวเวอร์ เลดเจอร์ ประเทศออสเตรเลีย โดยมีนายอภิชัย ฤทธิบุตร ผู้อำนวยการ Center of Digital Energy (CODE) บีซีพีจี อธิบายความคืบหน้าของโครงการ ทั้งหมด

สำหรับโครงการ P2P Energy Trading ของบีซีพีจีที่ T77 ซึ่งเริ่มดำเนินการเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2561 ได้มีการแลกเปลี่ยนไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาที่เกิดขึ้นจริงระหว่างอาคารที่ร่วมโครง การจากรูปแบบความต้องการใช้ไฟฟ้าที่ต่างกันของแต่ละอาคาร แต่ยังไม่มีการซื้อขายไฟฟ้า เป็นโครงการที่เข้าร่วม Sandbox ของ กกพ. เพื่อทดสอบข้อจำกัดของกฎเกณฑ์ในการซื้อขายไฟฟ้าระ           หว่างภาคประชาชน และช่วยหาทางออกเพื่อเป็นแนวนโยบายในการกำหนดใช้ต่อไปอนาคต ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้เยี่ยมชมการดำเนินงานและรับฟังการบรรยายด้วยความสนใจอย่างยิ่ง

ข่าวที่ 6 “ปิดทองหลังพระเปิดความสำเร็จ10ปีฟื้นเศรษฐกิจชุมชนจ.น่าน”

นายธนากร รัชตานนท์   ผู้จัดการโครงการปิดทองหลังพระ ฯจังหวัดน่าน

นายธนากร รัชตานนท์   ผู้จัดการโครงการปิดทองหลังพระ ฯจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ดำเนินงานพัฒนาพื้นที่ต้นแบบจังหวัดน่าน 10 ปี โดยน้อมนำแนวพระราชดำริทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงไปถ่ายทอดให้ชาวบ้านเกษตรกรประยุกต์ใช้ทำให้รายได้เฉลี่ยทางการเกษตรของประชากรในพื้นที่ต้นแบบเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว พื้นที่ป่าเพิ่มขึ้นสองแสนไร่ มีความก้าวหน้าทั้งทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม เตรียมมุ่งสร้างความยั่งยืนแก่ชุมชนและร่วมมือกับภาคีเพื่อขยายผลต่อไป

มูลนิธิปิดทองหลังพระ จังหวัดน่านเป็นแห่งแรกในปี 2552 โดยดำเนินการ ใน 20 หมู่บ้านของอำเภอสองแคว อำเภอท่าวังผา และอำเภอเฉลิมพระเกียรติ มีประชาชนเข้ามาร่วมงานกับโครงการจำนวน 1,945 ครัวเรือน จำนวน 8,190 คน
เนื่องจากจังหวัดน่านมีพื้นที่ราบที่เหมาะสมกับการทำเกษตรเพียง 1.09 ล้านไร่ หรือ ร้อยละ 15 ทำให้เกิดการขยายพื้นที่เพาะปลูกไปในป่าเขา ดังนั้นโครงการปิดทองหลังพระ ฯจึงมุ่งพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อให้ประชาชนสามารถทำเกษตรที่เพิ่มรายได้ และลดการใช้พื้นที่ป่าไปในตัว
โครงการ ฯได้ร่วมกับจังหวัดและชุมชนพัฒนาโครงการแหล่งน้ำ 1,058 โครงการ และจัดสร้างฝายอนุรักษ์รวม 8,259 ตัวเพื่อส่งเสริมการเกษตรและเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ดิน


ผลจากการดำเนินงานตลอดระยะเวลาสิบปี ทำให้พบว่า การใช้แนวพระราชมาพัฒนาชีวิตเกษตรกร ได้ผลน่าพอใจ กล่าวคือ รายได้ทางการเกษตรของประชาชนเพิ่มจาก 41,359 บาทต่อครัวเรือนในปี 2554 เป็น 91,681 บาทในปี 2561 คือเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากการพัฒนาเกษตรทางเลือกทดแทนเกษตรเชิงเดี่ยว นอกจากนี้ยังใช้ที่ดินเพื่อการเกษตรลดลงทำให้มีพื้นที่ป่าและป่าเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นสองแสนไร่ในพื้นที่ต้นแบบ

พื้นที่ดำเนินงาน     อำเภอสองแคว 3 หมู่บ้าน อำเภอท่าวังผา 3 หมู่บ้าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ 14 หมู่บ้านรวมประชากร 1,945 ครัวเรือน จำนวน 8,190 คน

ผลการดำเนินงานตลอด 10 ปีของมูลนิธิปิดทองหลังพระ ในจังหวัดน่าน แต่ละด้านมีดังนี้
ด้านน้ำ 1.ร่วมกับจังหวัด และชุมชนจัดทำฝายอนุรักษ์ 6,258 ตัว 2.ร่วมกับชุมชนพัฒนาโครงการกักเก็บและกระจายน้ำ 1,056 โครงการ
ด้านอาชีพ 1.การพัฒนาแหล่งน้ำทำให้พื้นทำเกษตรในพื้นที่ต้นแบบเพิ่ม 14,378 ไร่ 2.   พัฒนาอาชีพทางเลือกอื่น ๆเช่น พริก กล้วย ปศุสัตว์ เพื่อเพิ่มรายได้
ด้านป่า 1.ร่วมกับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงส่งเสริมการปลูกป่าเศรษฐกิจ จากการส่งเสริมอาชีพทางเลือกที่มีรายได้มากกว่า ทำให้ได้ป่าคืนมา 209,970  ไร่  2.การปลูกข้าวโพดเชิงเดี่ยวในพื้นที่ต้นแบบลดลง 28,904 ไร่ หรือ 43%
ด้านรายได้  1.การดำเนินงานที่ผ่านมาทำให้รายได้เฉลี่ยของประชากรในพื้นที่ต้นแบบเพิ่มจาก 41,259  บาทต่อครัวเรือนต่อปี (2554) เพิ่มเป็น 91,691 บาทในปัจจุบัน
ด้านความยั่งยืน 1.เกิดโครงการขยายผลปิดทองหลังพระ ฯไปยังอีก 50 หมู่บ้าน ใน 15 อำเภอ ดำเนินการร่วมกันโดยชุมชนและราชการในท้องถิ่น 2.ประชาชนในพื้นที่ต้นแบบเริ่มมีการรวมกลุ่มผลิตและบริหาร จนปัจจุบันมี 15 กองทุน และมี 4 วิสาหกิจที่พัฒนาการผลิตจนได้รับการรับรอง GAP กลุ่มต่าง ๆ มีสินทรัพย์และทุน 5.285 ล้านบาท รายได้เฉลี่ย 1.22 ล้านบาทต่อปี

                ช่วงที่ 2 วางแผนเที่ยวแบบมัน ๆ ในพื้นที่รอยต่อไทย-กัมพูชา ที่ “คลองหาด-เขาฉกรรจ์” จ.สระแก้ว ทั้ง More Food & Fun ไม่เหมือนใคร เที่ยวได้เลยวันหยุดยาวปีใหม่นี้ ส่วนการกิน “ผลไม้อบแห้งให้ปลอดภัย” ต้องฟังกันดี ๆ เสิร์ฟข่าวท้ายชั่วโมง “กรุงไทยคอมพาสส์ชี้เป้า10ปีหน้า” จีนเฮเที่ยวไทยปีละ 20 ล้านคน ส่วน “เขาใหญ่ผุดโปรเจ็กต์พาสปอร์ต” กางข้อมูล 21 สถานที่ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องมาเที่ยวให้ได้

@เซอร์ไพรส์เที่ยวมุมใหม่More Food&Fun สระแก้ว

มาได้เลย...วันหยุดยาวปีใหม่ 2563 มาเที่ยวทุ่งดอกไม้เก็กฮวย
บ้านทับทิมสยาม 05 ต.คลองไก่เถื่อน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว
เซอร์ไพรส์ !!  More Food & Fun เมืองไทยในจังหวัดสระแก้ว ตอนนี้ละลานตาไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวน้องใหม่มาแรง สวยเปี่ยมด้วยคุณภาพ ในโซน “ตำบลคลองไก่เถื่อน อำเภอคลองหาด” ตะลึงพรึงเพริดกับ สวนกำนันเทพ แจ่มหอม ปลูกหม่อน-มัลเบอรรี่ สวยงามเทียบชั้นได้กับไร่องุ่นเมืองหนาว ในอาณาบริเวณที่ดินกว่า 100 ไร่ เป็นที่ สปก.ให้ทำเกษตรกรรม ปลูกมัลเบอรี่หรือลูกหม่อนพันธุ์เชียงใหม่ 60  นำร่องทำแปลงหลักกว่า 7 ไร่ ชวนคนมาท่องเที่ยวถ่ายรูปแชะแชร์กับลูกหม่อนดกแดงเต็มกิ่งช่วงเดือนธันวาคมนี้ - กุมภาพันธ์ หน้า กำนันเทพเชิญมาเก็บมัลเบอรี่กินฟรี ถ้าจะอุดหนุนก็มีบรรจุกล่องขาย กล่องใหญ่ 50 บาท กล่องเล็ก 30 บาท และมีแยมมัลเบอรี่อร่อยแบบวางไม่ลง กระปุกละเพียง 20 บาทเท่านั้น

สวนมัลเบอรี่หรือ "สวนหม่อนกำนันเทพ" ขนาด 7 ไร่
กำลังดอกผลพรึบพรับ มาเที่ยวสวนเด็ดหม่อนรสหวานกินฟรีได้ตั้งแต่วันนี้-มกราคม 2563

ตอนนี้ไร่มัลเบอรี่ของกำนันสร้างเครือข่ายชาวบ้านอีก 5 ราย นำพื้นที่ขนาด 2 งาน  - 1 ไร่/ราย รวมตัวกันปลูกสวนหม่อนทำมาประมาณ 8 เดือน สามารถเก็บผลผลิตได้ปีละ 3 รอบ แต่ละรอบจะเก็บได้วันละ 20 กก. ขายราคา 100 บาท  มีหม่อนสด แยม น้ำเบอรี่

กำนันต้องการที่จะสร้างความสุขให้กับนักท่องเที่ยวได้มาชมสวน ถ่ายรูป นั่งร้านกาแฟ ขนม สลัดโรล ตอนนี้กำลังสร้างร้านอาหาร เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบบรรยากาศชีล ๆ ของไร่มัลเบอรี่ติดเขา วิวสวย อากาศดี
บริเวณใกล้กันมีแหล่งท่องเที่ยวชุมชน “บ้านทับทิมสยาม 05” มีพื้นที่ปลูกพืชเกษตรกว่า 9,600 ไร่ ตั้งอยู่ในอ้อมกอดของภูเขาโอบล้อมอยู่รอบทิศทาง อยู่ในความดูแลของสถาบันจุฬาภรณ์ เป็นแหล่งเรียนรู้สมุนไพรและตอนนี้ริเริ่มปลูกแปลงทุ่งดอกเก็กฮวยขนาดไร่เศษ ออกดอกเหลืองสะพรั่งตรึงตานักท่องเที่ยวแห่แหนกันไปลงไปถ่ายรูปกันทั้งวัน และเป็นหนึ่งในสมุนไพรยอดนิยมที่นำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย 

จ่ายคนละ 250 บาท นั่งรถอีแต็กชมหมู่บ้าน ทับทิมสยาม 05 อ.คลองหาด จ.สระแก้ว
 แหล่งชมทุ่งดอกเก็กฮวยและพื้นที่ปลูกพืชสมุนไพร พืชเศรษฐกิจ สวิสเซอร์แลนด์ชายแดน ในบริเวณ 9,600 ไร่


เมื่อไปถึงจะมีกลุ่มผู้นำชุมชนจัดบริการ “นั่งรถอีแต็ก” ขับพาชมตามจุดต่าง ๆ รอบพื้นที่ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง มีทั้งแปลงสมุนไพร สวิสเซอร์แลนด์สระแก้ว สวนกล้วยไข่ มะละกอ สารพัดพืชกินได้ โดยมีไฮไลต์คือ “โค้งมหัศจรรย์ 360 องศา” กับเนินเขตแดน 2 แผ่นดิน ระหว่างไทยกับกัมพูชา มองจากสุดเขตแดนฝั่งไทยเห็นหลังคาบ้านของชาวกัมพูชาอยู่ลิบ ๆ มีช่องผ่านแดนชั่วคราวอยู่บริเวณนี้ด้วย

ทับทิมสยาม 05 เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงนิเวศ” ด้วยมีความ โดดเด่น ในด้านทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตเกษตรกรที่ดำรงอยู่คู่ธรรมชาติ ไม่ทำลาย สิ่งแวดล้อม โดยได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต ท แบบพออยู่พอกิน โดยคนใน ท้องถิ่นมีรายได้หลัก จากการเลี้ยงโคนม การปลูกพืชไร่พืชสวน พืชผักสวนครัว เช่น แตงกวา มะเขือ พริก ลำไย กล้วยไข่ กล้วยหอมคาเวนดีช พืช เศรษฐกิจตัวใหม่ที่ตลาดกำลังต้องการทั้ง อ้อย ข้าวโพด มันส าปะหลัง หน่อไม้ฝรั่ง และ ที่โด่งดังจนสร้าง ชื่อเสียงให้กับบ้านทับทิมสยาม 05 คือ “สมุนไพรไทย” ที่สร้างทั้งอาชีพและรายได้ให้กับคนในชุมชน จาก การรวมกลุ่มกันเพียงไม่กี่คน จนกลายเป็นวิสาหกิจชุมชน “กลุ่มผู้ปลูกสมุนไพรบ้านทับทิมสยาม 05”

บรรยากาศสุดชีลที่ "สถานีเขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว
 ดื่มน้ำทับทิมสมุนไพรเพื่อสุขภาพ นั่งชมค้างคาวนับแสนตัวบินออกจากปล่องเขาฉกรรจ์

            “สระแก้ว” ยังมีแหล่งท่องเที่ยวสวย สนุก แนวใหม่ อีกเพียบ อีกโซนตรงเขาฉจรรย์ “ทุ่งดอกไม้ วูดแลนด์” สถานีเขาฉกรรจ์ สวนน้ำ กิจกรรมโรยตัวจากหน้าผาหน้าถ้ำเพชรโพธิ์ทอง ถ้ำหาดทรายแก้ว และชุมชน”พรสวรรค์” แหล่งผลิตผ้าขาวม้าขึ้นชื่อ และวิถีชีวิตการสาวไหมมาทอเป็นผืนผ้าขายไปทั่วประเทศและส่งออกต่างประเทศได้ด้วย

มาเที่ยวกันนะ!! ที่วูดเฮาส์ เขาฉกรรจ์
ตอนนี้ทุ่งดอกไม้คอสมอส-ดาวกระจาย เหลืองอร่ามไปทั้งหุบเขาในจะบานไปจนถึงมกราคมปีหน้า 2563


@ผลไม้อบแห้งกินอย่างไรต้องระวัง !!!
ผลไม้ประเภทอบแห้ง ถือว่าเป็นของว่างที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะมีกากใยอาหารสูง ช่วยในเรื่องการขับถ่ายได้ดี แต่ต้องระวังปริมาณน้ำตาลและแคลอรี่ที่ได้รับ

ผลไม้อบแห้ง เช่น ลูกเกด ลูกพลับ พุทราจีนแห้ง อินทผลัม ฯลฯ นั้น แม้ว่าเป็นชนิดที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการเติมน้ำตาล เช่น การนำไปแช่อิ่ม กวน หรือคลุกพริกกับเกลือ ก็ต้องกินอย่างพอดี เนื่องจากส่วนที่เป็นน้ำได้ระเหยออกไปมาก จึงทำให้น้ำหนักเบาลง ซึ่งอาจทำให้กินได้มากกว่าขณะเป็นผลไม้สด เพราะอิ่มช้ากว่า ในขณะที่ปริมาณน้ำตาลมีเท่า ๆ กัน เช่น พุทธาจีนแห้ง 100 กรัม มีน้ำตาลอยู่ถึง 13 ช้อนชา อินทผลัมน้ำหนักเท่ากัน มีน้ำตาล 14 ช้อนชา

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “กรุงไทยฯชี้เป้าทัวร์จีนไหลเข้าไทยทศวรรษหน้าปีละ20ล้านคน”


 
ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ศูนย์วิจัยกรุงไทย คอมพาส (Krungthai COMPASS) ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า จากการคาดการณ์ตัวเลขรายได้โดยรวม (GDP) ของประเทศไทยสำหรับปีนี้ว่าจะมีอัตราการเติบโตอยู่ในระดับ 2.5% ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตได้ที่ราว 2.8% โดยมีโดยพบว่าภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยยังมีศักยภาพเติบโตต่อเนื่องเป็นตัวหลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพรวมปี 2562
ตามรายงานของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สถิติ 10 เดือนแรก มกราคม-ตุลาคม 2562  มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยรวม 32.50 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4.29% สร้างรายได้ 1.57 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.97%  ตลอดปีนี้เชื่อมั่นจำนวนนักท่องเที่ยวจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ส่งผลไปถึงภาพรวมปี 2563 จะสามารถเติบโตเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 5%
ทางด้าน นางสาวพิมฉัตร เอกฉันท์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทยกล่าวว่า จากงานวิจัยทิศทางนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเที่ยวต่างประเทศปี 2562 มากถึง 160 ล้านคน เมื่อศึกษาทิศทางนักท่องเที่ยวจีนอีก 10 ปีหน้า มีแนวโน้มการเดินทางมาเที่ยวทั่วโลกปีละราว 334เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละประมาณ 6.9% ปี 2562 มาไทย 11.1 ล้านคน ปี 2563 จะเพิ่มขึ้นเป็น 11.6-12 ล้านคน หากไทยสามารถรักษาการเติบโตไว้ได้ในระดับ 7% อีก 10ปีหน้าจะนักท่องเที่ยวจีนมาไทยกว่า 23 ล้านคน หรือหากการแข่งขันรุนแรงขึ้นอาจทำให้นักท่องเที่ยวจีนมาไทยขยายตัวเฉลี่ย 5.5% หรือปีละ 20 ล้านคน
รวมทั้งอีก 10 ปีหน้า จีนเดินหน้าแผนเพิ่มสนามบินใหม่อีกกว่า 200 แห่ง ทำให้มีสนามบินในประเทศมากถึง 450 แห่ง ผนวการเพิ่มนโยบายผ่อนปรนด้านวีซ่าของประเทศต่าง ๆ ที่ทำให้คนจีนเดินทางท่องเที่ยวได้ง่ายขึ้นด้วย
จีนจึงเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือกลุ่มมิลเลนเนียลที่เข้าถึงเทคโนโลยีและโลกออนไลน์สามารถเข้าถึงสินค้าและบริการท่องเที่ยวด้วยตัวเอง และปัจจัยเรื่องการอำนวยความสะดวกด้านการเดินทาง
ข่าวที่สอง “เขาใหญ่ผุดโปรเจ็กต์พาสปอร์ตปลุกเที่ยวหุบเขาแห่งความสุข”



นายปรเมศวร์ สิทธิวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเขาใหญ่ พาโนราม่า ฟาร์ม ได้เปิดเผยว่า ได้ร่วมทำโครงการ Passport "เขาใหญ่หุบเขาแห่งความสุข Khao Yai The Valley of Happiness" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการวิจัยการประเมินและพัฒนาศักยภาพในการสร้างนวัตกรรมบริการ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของธุรกิจบริการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง (นครชัยบุรินทร์) จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี โดยได้รับความร่วมมือจา กสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ ตามรายชื่อทั้ง 21 สถานที่ ไฮไลต์ 5 แห่ง ได้แก่

              1. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (Khao Yai National Park) จุดเด่น เขาใหญ่ถูกยกให้เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ อีกทั้งเป็นแหล่งโอโซน 1ใน 7ของโลก โดยมีชื่อเรียกคือป่าดงพญาเย็น ซึ่งมีความหลากหลายทางชีวภาพที่อุดมสมบูรณ์ และเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารรวมถึงมีพืชพันธุ์และ สัตว์ป่ามากกว่า 2,500 ชนิด

              2. เขาใหญ่ พาโนราม่า ฟาร์ม (Khao Yai Panorama Farm) จุดเด่น เป็นฟาร์มเห็ดเชิงท่องเที่ยวที่มีพื้นที่ให้เรียนรู้กสิกรรมธรรมชาติ มีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเห็ดที่ได้รับรางวัลการประกวดสุดยอดนวัตกรรมอันดับ 1 ของโลก จากงาน International Invention & Trade Expo London 2019 ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีร้านอาหารเมนูเห็ด ที่ได้รับการรับรองความอร่อยจาก เปิบพิสดาร, ถนัดศรีชวนชิม, และสื่อรายการโทรทัศน์มากกว่า 110 รายการ และยังมีรีสอร์ททรงเห็ดที่มีสระน้ำแร่ออนเซ็นแห่งแรกของไทย

              3. โรงแรมเรนทรี เรซิเดนซ์ เขาใหญ่ (Rain Tree Residence Hotel) จุดเด่น ที่พักสไตล์บูติก มีห้องพักที่ตกแต่งด้วยธีมจากผลงานนักเขียนทั่วโลก แนบชิดธรรมชาติท่ามกลางเทือกเขาดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ซึ่งเป็นสถานที่เหมาะสมสำหรับเด็กๆ และครอบครัวในการทำกิจกรรมร่วมกันในวันหยุด

              4. ไร่จรัสแสง (Rai Jarus Saeng) จุดเด่น ไร่จรัสแสงได้ค้นคิดและผสมสายพันธุ์ทับทิมขึ้นมาใหม่เป็นสายพันธุ์ที่มีเมล็ดนิ่มสีแดงสดใส รสชาติถูกปากคนไทย และมีผลดกออกตลอดทั้งปี ที่สำคัญปลูกทับทิมในบริเวณเขาใหญ่ซึ่งอากาศดีส่งผลให้ทับทิมที่ปลูกจึงมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีน้ำทับทิมเป็นสินค้าสุดยอดของฝากจากทางไร่

              5. สวนซ่อนศิลป์ (Secret Art Garden) จุดเด่น เป็นพื้นที่ที่ผสมผสานระหว่างศิลปะและป่าธรรมชาติกว่า 100 ปี มีห้องพักเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบงานศิลป์และธรรมชาติ สามารถสร้างรอยยิ้มและแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่มาเยือน

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

  รุ่งทิพย์ บุกขุนทด  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่  2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ

TCEBนำไมซ์ปี67โร้ดโชว์เทรดโชว์ทั่วโลก-จัดยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" บิ๊ก TCEB ปี 67 ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้   3-7 มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี !! ไทยเจ้าภาพ Korat Expo2029 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO” ช้อป 3 อย่างลด 25% ททท.นำร่องจัด AIR-MAZING ไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม & บางจากมอบ2โปรดี สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด AWC ปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ Trip.com- ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล. วันอาทิตย์ที่   3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ FM97  # เพ็ญรุ่งใยสามเสน # เท

เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก

  เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก คิงเพาเวอร์ชวนช้อปออนไลน์แบรนด์เนมลด 70%26-31 ต.ค.นี้ สนุกกับ SUPER SURPRISE ดีลพิเศษราคาดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ ก.ท่องเที่ยวตีปีกรับทัวร์ต่างชาติ 3 เฟส-ไฟเขียวแล้ว 10 แอร์ไลน์ ไทยจ่อดึงลองสเตย์ต่างชาติซื้ออสังหาฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด “ TCEB” ชูไทยแลนด์ไมซ์สตาร์ตอัพปั้นนวัตกรรมใหม่5โปรเจ็กต์ หนาวนี้เที่ยว“นครพนม”ปลอดภัยมั่นใจเส้นทางสาย SHA ริมโขง วิธีเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนควบคู่การลดโรคมากมาย ไทยสมายล์ขายตั๋วชุดเที่ยวไทยเหมาจ่าย4ใบเริ่มที่3.8พันบาท ไทยเวียตเจ็ทขายตั๋ว5บาท/เที่ยวโปร2เส้นทางใหม่ในประเทศ กรมเจ้าท่าฟุ้งแผนทำ10ท่าเรือรองรับวันสต็อปเที่ยวเจ้าพระยา   นายพศิน ลาทูรัส ซีอีโอฝ่ายพัฒนาธุรกิจ  บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง