ททท.ใต้เปิดแผนกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวแรง14จังหวัด
พลิกขายคนไทยเจาะ3กลุ่ม”ใต้เที่ยวใต้-ข้ามภาค-สัมมนา”
คิงเพาเวอร์หนุนอะเมซิ่งแกรนด์เซลช้อป5พันรับ1,140บาท
พูลแมนคิงเพาเวอร์เสิร์ฟ50เมนูซันเดย์บรันซ์ที่ควิซีนอันปลั๊ก
ททท.เปิดโผใหม่2รองผู้ว่า-หมุน1รองฯ-คงเดิมไว้
5 ตำแหน่ง
ททท.ร่วมภูเก็ตขายท่องเที่ยวซีรีย์เด็ด3งานใหญ่ส.ค.-ก.ย.63
ททท.พัทยารุกชูเช็คอินเกาะล้าน17จุด-ปลุกเที่ยว2แคมเปญ
บางจากแจกสิทธิ์บัตรสมาชิกใช้199แต้มแลกลดGrabFood
บอร์ดTCEBนำร่องประชุมสัญจรโคราชกระตุ้นศก.ไมซ์ไทย
เที่ยวธรรมชาติ“เขาจอมทอง-ฟูจิครบุรี”โคราชสวยโดนใจ
เตือน!!กินอาหารแปรรูปมีโซเดียมสูงอันตรายต่อร่างกาย
นกแอร์ยื่นฟื้นฟูกิจการกลับมาช่วยท่องเที่ยวโตหลังปี’64
ก.ท่องเที่ยวดึงบริษัททัวร์ลงทะเบียนกำลังใจเพิ่มถึง5ส.ค.
ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทางบล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เที่ยวกับกู๋
นิธี สีแพร ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ช่วงที่ 1 เปิดแผนปฏิบัติการตลาดกับ “นิธี สีแพร”
ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
งัดอาวุธเด็ดบูมขายท่องเที่ยวใต้ 14
จังหวัด
พลิกแนวคิดภาคธุรกิจเมืองหลัก “ภูเก็ต-สมุย-กระบี่-พังงา”
หันพึ่งรายได้เที่ยวไทยโหมจัดคอนซูเมอร์ แฟร์ อัดโปรแรงห้องพักเหลือคืนละไม่ถึงพันบาท
ส่วนเมืองรอง “ชุมพร-ระนอง-ตรัง-พัทลุง” มาแรง และ “นครศรีธรรมราช”
เปิดจุดขายใหม่กระตุ้นในภาคเดียวกันแห่ไปเที่ยว
ครึ่งปีหลังเดินหน้าแผนการขายแรงสุดๆ ปั๊มรายได้ 3 ตลาดหลัก
“เที่ยวข้ามภาค-คนใต้เที่ยวใต้-ประชุมสัมมนา”
นายนิธี สีแพร ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า การวางกลยุทธ์ตลาดเชิงรุกฟื้นฟูรายได้ท่องเที่ยวหลังสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 โดยภาพรวมแต่ละพื้นที่ฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับเริ่มจากเมืองรองซึ่งสามารถพึ่งพาตลาดในประเทศเป็นหลัก เช่น ชุมพร นครศรีธรรมราช ระนอง ตรัง พัทลุง ช่วงวันหยุดรายได้จากอัตราการเข้าพักโรงแรม (Occupacy Rate : OR) ค่อนข้างสูง 80-90 % ตัวอย่างในอำเภอสิชล ขนอม นครศรีธรรมราช คนในภาคใต้นิยมท่องเที่ยวภายในภาคเดียวกันเอง
ขณะเดียวกันเริ่มเห็นเมืองหลัก ภูเก็ต สมุย ตามปกติช่วงสถานการณ์ก่อนเกิดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 จะพึ่งพานักท่องเที่ยวต่างประเทศ หลังช่วงวันหยุดปลายเดือนกรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา ตลาดคนไทยเริ่มดีขึ้นตามลำดับ ดูได้จากสมุยมาจัดงานคอนซูเมอร์ แฟร์ กำลังซื้อเริ่มตอบสนองโดยมีบางกอกแอร์เวย์ส ไทยแอร์เอเชีย บินขึ้นลงสุราษฎร์ธานี มีอัตราบรรทุกผู้โดยสารมากขึ้น 30-40 รวมทั้งอัตรเข้าพัก (OR) ก็เช่นเดียวกัน
โดยเฉพาะภูเก็ตภาคเอกชนรวมตัวกันนำร่องจัดกิจกรรมเสนอโปรโมชั่นต่าง
ๆ ของโรงแรม แพกเกจท่องเที่ยว เที่ยววันเดียว และจัดทำโปรโมชั่น
“ภูเก็ตเด็ดทั้งเกาะ” จัดระหว่าง 30 กรกฎาคม -2 สิงหาคม 2563
ณ
ลานพาร์คพารากอน สยามพารากอน กรุงเทพฯ มีผู้ประกอบการท่องเที่ยว 30 ราย มีโรงแรม สปา บริษัทนำเที่ยว
จัดทริปไปท่องเที่ยวเกาะเฮ ดินเนอร์เป็นเรือยอร์ชหรู ล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกดิน
สนนราคาแพกเกจมีส่วนลดมากกว่า 60 % ขึ้นไป เช่น
ทริปเกาะเฮลดกว่า 50 % พร้อมอาหารเครื่องดื่มหลายอย่าง
หรือล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกดินเหลือคนละเพียง 990
เท่านั้น
ขณะเดียวกันก็มีการรวมตัวกันแล้วรวบรวมกิจกรรมเด็ด ๆ ของภูเก็ต
ภายในงาน
“ภูเก็ตเด็ดทั้งเกาะ” ยังเตรียมเปิดตัวเชิญชวนไปเที่ยวต่อในงานเทศกาล
“หร็อยริมทะเล เฟสติวัล” เรื่อยไปจนถึงจัดดนตรี “เพลินริมทะเล” จัดโดยเฉลียง 3 ฝ่าย พร้อมศิลปินภูเก็ต
เชื่อมโยงไปจนถึงเดือนตุลาคมนี้ จัดเทศกาลกินเจ งานใหญ่ประจำปีของภูเก็ต
นายนิธีกล่าวว่า ตั้งเป้ากระตุ้นตลาดในประเทศหรือคนไทยหันมาเที่ยวภูเก็ต กระบี่ พังงา สมุย(สุราษฎร์ธานี) ทาง ททท.กำลังทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการในพื้นที่ให้หันมาสนใจทำตลาดคนไทยซึ่งอาจแตกต่างจากการขายตลาดต่างประเทศ ซึ่งจะทำเป็นแพกเกจมาเป็นกลุ่ม (G.I.T.) เสนอราคาขายผ่านตัวแทนบริษัทนำเที่ยวระหว่างประเทศ ขณะที่ตลาดในประเทศเป็นกลุ่มเดินทางอิสระด้วยตนเอง (F.I.T.) จึงต้องทำกลยุทธ์แตกต่างกันไป พอผู้ประกอบการเริ่มเข้าใจก็จะผลิตแคมเปญออกวางขายในตลาด เช่น สมุย บูม “มาเที่ยวกันเต๊อะ” ภูเก็ต ก็ทำ “ภูเก็ตเด็ดทั้งเกาะ” เป็นเรื่องที่ตอบโจทย์คนไทยจริง ๆ ต้องปรับชื่อให้เหมาะสมเข้าใจในการสื่อสาร สร้างการรับรู้ โดยมีกลไกราคาเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้คนหันมาสนใจ บวกกับความคุ้มค่าเงิน เพราะภาคใต้ของไทยที่ผ่านมานักท่องเที่ยวอาจจะมีมุมมองเชิงลบ คือ 1.สถานที่ไกล 2.ราคาแพง 3.เดินทางยากลำบาก
แต่ตอนนี้มีสายการบินต่าง ๆ
เริ่มกลับมาบินอีกครั้งแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ไทยแอร์เอเชีย นกแอร์ ไทยไลออนแอร์
ทำโปรโมชั่นราคากระตุ้นคนเดินทางมากขึ้น
ต้องย้ำว่าผู้ประกอบการเข้าใจคนไทยปรับราคาอย่างเหมาะสมกับกำลังซื้อคนไทย
เพราะกลุ่มในประเทศที่เคยเที่ยวต่างประเทศ (outbound) น่าจะได้หันมาท่องเที่ยวเมืองไทย
เนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวเทียบชั้นต่างประเทศ อย่าง กุ้ยหลินเมืองไทย
สุราษฎร์ธานี จิ่วไจ้โกว สระน้ำใสอย่างสระมรกต จ.กระบี่ นาขั้นบันได สุขิรินทร์
สามารถที่จะไปแวะชมบรรยากาศได้
นอกจากนี้เรื่องบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกทั้ง
ห้องพักโรงแรมรีสอร์ตสไตล์ “พูล วิลล่า” ร้านอาหาร ดาวมิชลิน
กระจายอยู่ทั่วภาคใต้จำนวนมาก ซึ่งจะช่วยกันกิมมิกออกมานำเสนอคนไทย
ส่วนช่วงเดือนสิงหาคม 2563 จะทำให้เป็นเดือนแห่ง “การพากันเที่ยว” ได้ทุกกลุ่ม ทั้ง สิงหา...พาแม่เที่ยว สิงหา...พากันเที่ยว สิงหา...พาเพื่อนเที่ยว เพื่อให้ทุกคนสามารถท่องเที่ยวได้ทั้งหมด เพื่อขานรับกับช่วงวันหยุดยาว สร้างอารมณ์ความรู้สึกให้คนอยากเที่ยว จึงได้จัดคอนซูเมอร์ ท่องเที่ยว แฟร์ เลือกไปหาความสงบไกลออกไปจากกรุงเทพฯ และหลีกหนีความวุ่นวายไปในเมืองทะเล ปลอดภัยจากโควิด-19 แถมยังมีที่พักดี ๆ อาหารการกินอร่อย ๆ แล้วยังมีแหล่งท่องเที่ยวระดับมาตรฐานโลก
ผอ.นิธี ย้ำถึงเตรียมความพร้อมของภาคใต้ในการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะเลือกจองแพกเกจ “เราเที่ยวด้วยกัน” ตามนโยบายของรัฐบาลสนับสนุนผู้ประกอบการ 40 % จึงขอแนะนำเลือกไปเที่ยว ภูเก็ต กระบี่ พังงา สมุย ซึ่งมีโรงแรมเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และยังมีโรงแรมที่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยสาธารณสุขด้านความปลอดภัย (Safty and Health Administration : SHA) ที่สมัรรเข้าร่วมรับตราสัญลักษณ์ SHA กว่า 1,000 แห่ง สามารถสร้างความเชื่อมั่นลดการแพร่กระจายไวรัสโควิด-19 ได้
สำหรับราคาห้องพักอาจจะสูงบ้าง ต่ำบ้าง ก็เป็นทางเลือกของนักท่องเที่ยว ทว่าตอนนี้ธรรมชาติในแหล่งท่องเที่ยวภาคใต้กลับมาสวยงามกว่าเดิม มีสัตว์ทะเล ปลาชนิดต่าง ๆ เต่าทะเลขึ้นมาวางไข่ ดังนั้นภาคใต้จึงมีความพร้อมอย่างมากรองรับนักท่องเที่ยว ทั้งบริเวณป่าตอง กะตะ กะรน หาดยอดนิยมตอนนี้เงียบสงบ หรือจะเป็นแถวหาดราไว หาดไร่เร จ.กระบี่ ส่วนหาดเฉวง เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ตอนนี้สวยงามสงบเงียบมาก อีกทั้งยังขอแนะนำแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ ใน อำเภอขนอม อำเภอสิชล หาดทรายขาวทอดยาวเป็นกิโลเมตร ใน จ.นครศรีธรรมราช หากไม่ต้องการขับรถไกลมาก ก็ลองแวะไปหาดทุ่งวัวแล่น หาดภารดรภาพ หาดทรายรี จ.ชุมพร แต่ละหาดอาจจะได้พบกับฉลามวาฬมาทักทายนักท่องเที่ยวด้วย
ผอ.นิธี กล่าวถึงเป้าหมายการกระตุ้นรายได้ท่องเที่ยวช่วงครึ่งปีหลัง 2563 กระจายเข้าสู่ภาคใต้ จะวัดจากอัตราการเข้าพักโรงแรมรีสอร์ตซึ่งตอนนี้ฟื้นตัวกลับมาได้ประมาณ 30 % โจทย์ที่จะต้องทำให้สำเร็จคือผลักดันให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเข้าพักเมืองหลักด้วยค่าเฉลี่ย 30-40 % ขึ้นไป หรือถ้าเป็นไปได้จะทำให้ถึง 50 % เพราะเป็นงานหนักพอสมควรเนื่องจากภาคใต้มีจำนวนห้องพักมากกว่า 1 แสนห้อง ตอนเจอวิกฤตก็มีหลายโรงแรมปิดกิจการไปบ้าง บทบาทและหน้าที่ของ ททท.จะต้องช่วยพยุงให้ผู้ประกอบการอยู่ได้
ททท.ภูมิภาคภาคใต้ จึงต้องเพิ่มการตลาดเชิงรุกขยายฐานการกระตุ้นอีก 3 กลุ่มตลาด ได้แก่ กลุ่มที่ 1 “ท่องเที่ยวข้ามภาค” จากเหนือ อีสาน จะเริ่มประมาณต้นเดือนตุลาคม 2563 เป็นต้นไป ตามแผนจะใช้ช่วงกันยายนพาเข้าพื้นที่ สำรวจโปรดักต์ นำเสนอแพกเกจตัวอย่าง จัดทำแคมเปญวางขาย กำลังซื้อหลัก ๆ ก็มีกลุ่มหอการค้า ไลออน มีกำลังซื้อซึ่งปกติจะเดินทางไปต่างประเทศให้หันมาเลือกเที่ยวภาคใต้ โดยหารือกับสายการบินเปิดบินตรงข้ามภาค เพราะเดิมมีสายการบินจากทั้ง 2 ภูมิภาค เข้ามายัง ภูเก็ต กระบี่ หาดใหญ่ ก็จะเป็นอีกกลุ่มที่จะเพิ่มรายได้เข้าสู่ภาคใต้ กลุ่มที่ 2 คนภาคใต้เที่ยวข้ามจังหวัดไกลออกไป กลุ่มที่ 3 ประชุมสัมมนา เจาะหน่วยราชการ บริษัทห้างร้าน (Corporate) เข้ามาจัดกิจกรรมในเมืองขนาดใหญ่ภาคใต้ ต้องเร่งผลักดันและสร้างกระแสให้เกิดโดยเร็วที่สุด
ผอ.นิธี ย้ำว่าการเดินทางท่องเที่ยวภาคใต้ตามวิถีใหม่ New Normal เมื่อสถานการณ์คลี่คลายลดความกังวลได้แล้วถึงเรื่องความปลอดภัย แต่นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องปฏิบัติตามมาตรการของสาธารณสุขไม่ว่าจะเป็นการสวมหน้ากากอนามัย ใช้เจลล้างมือ รักษาระยะห่างทางสังคม เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ยังมีความกังวลอยู่บ้าง จะเดินทางกับกลุ่มญาติพี่น้อง แต่ตอนนี้การเดินทางโดยเครื่องบินก็มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสามารถใช้บริการ แล้วหลักการเลือกห้องพักให้ดูจากโรงแรมที่มีมาตรฐาน SHA ก็จะเพิ่มมั่นใจในทุกการเดินทางได้เป็นอย่างดี
ข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์หนุนอะเมซิ่งแกรนด์เซลช้อป5พันรับของขวัญ1,140บาท
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ร่วมมหกรรม
“อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์
เซล 2563”
เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวในประเทศเข้ามาเลือกซื้อสินค้าแบรนด์ดังในราคาดิวตี้ฟรี ที่
คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และมหานคร ระหว่างวันนี้-15 กันยายน
2563 เมื่อมียอดช้อปตั้งแต่
5,000 บาทขึ้นไป
รับของขวัญมูลค่า 1,140 บาท สามารถรวมใบเสร็จในวันเดียวกันได้
และ จำกัด 1 สิทธิ์/คน/วัน โดยจะต้องทำตามกติกา เพียงแค่ลงทะเบียนรับสิทธิ์ก่อนช้อปได้ทางLine
Official @Thailandgrandsale
กติการ่วมรายการส่งเสริมการขาย 1.ช้อปเฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ ตรวจสอบเพิ่มเติม ณ จุดขาย 2.มีสินค้าบางแผนกไม่เข้าร่วมรายการคือเหล้าและบุหรี่ 3.สามารถใช้ร่วมกับส่วนลดอื่นๆได้ 4.ไม่สามารถแลกคืนหรือทอนเป็นเงินสด 5.บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ข่าวที่
2 พูลแมนคิงเพาเวอร์เสิร์ฟ50เมนูบุฟเฟต์ซันเดย์บรันซ์ที่ควิซีนอันปลั๊ก
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ รายงานว่า ทางโรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ ได้นำกลับมาอีกครั้งกับ Sunday Brunch Buffet บุฟเฟต์อาหารนานาชาติ ทุกมื้อสายวันอาทิตย์ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ ณ ห้องอาหารควิซีน อันปลั๊ก โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ เริ่มเมื่ออาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม ไปทุกวันอาทิตย์จนถึงอาทิตย์ที่ 27 กันยายน 2563 ระหว่าง 12.00 น. – 15.00 น.
ทุกคนที่เข้ามาใช้บริการจะอิ่มอร่อยอย่างอลังการกับอาหารทะเลชั้นเลิศและอาหารนานาชาติกว่า 50 เมนู พร้อมเครื่องดื่มเติมไม่อั้น เลือกรับประทานได้ตามชอบมีทั้ง กุ้งแม่น้ำ ปูอลาสก้า กั้งทะเล หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ หอยนางรม 3 ชนิด ได้แก่ หอยนางรมฟิน เดอ แคลร์ หอยนางรมนอร์มังดี หอยนางรมแปซิฟิก และเมนูเนื้อเทนเดอร์ลอยน์ อาร์เจนตินา ตับเป็ดย่าง เนื้อโทมาฮอว์กจากออสเตรเลีย และไก่ย่างสไตล์เกียวโต
พิเศษ!! ลดทันที 30 % เมื่vจองออนไลน์,kล่วงหน้า เหลือเพียงคนละ 1,680 บาทสุทธิ จากปกติ 2,400 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าใช้บริการฟรี (เด็ก 1 คน ต่อ ผู้ใหญ่ 1 คน) พร้อมรับสิทธิเข้าใช้สระว่ายน้ำได้ด้วย
โทร. 0 2680 9999 จองออน์ไลน์
คลิก https://bit.ly/39oTI6n
ข่าวที่
3 ททท.เปิดโผใหม่2รองผู้ว่า-หมุน1รองฯ-คงเดิม5ตำแหน่ง
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) เปิดเผยถึงการปรับโครงสร้างหมุนเวียนตำแหน่งรองผู้ว่าการ 8 คน ภายใต้การนำของ
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในวันที่ 30 กันยายน
2563 จะมีรองผู้ว่าการเกษียณ
2 คน
ได้แก่ นายนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ และนางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์
รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา
ล่าสุด ททท.กำลังประกาศแต่งตั้งรองผู้ว่าการคนใหม่ 2 ตำแหน่ง และหมุนรองผู้ว่าการ1ตำแหน่ง ดังนี้
1.นายกฤษณะ แก้วธำรงค์
ขึ้นเป็นรองผู้ว่าการคนใหม่ ด้านตลาดในประเทศ แทนนายนพดล ภาคพรต ที่จะเกษียณวันที่
30 กันยายน
2563
2.นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ
ขึ้นเป็นรองผู้ว่าการคนใหม่ ด้านดิจิทัล วิจัยและพัฒนา
แทนนายศิริปกรณ์ที่ย้ายมาเป็นรองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง
และอเมริกา
3.นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร
ย้ายมาเป็นรองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา แทนนางศรีสุดา
วนภิญโญศักดิ์ รองผู้ว่าที่จะเกษียณ วันที่ 30 กันยายน 2563
ส่วนรองผู้ว่าการที่ขณะนี้ยังคงนั่งเก้าอี้เดิมตามปกติ
5 ตำแหน่ง
ได้แก่
1.นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์
รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว
2.นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ
รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด
3.นายฉัตรทันต์ กุญชร ณ อยุธยา
รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิก
4.นางสาวสมฤดี จิตรจง
รองผู้ว่าการด้านบริหาร
5.นางน้ำฝน บุณยะรัตน์
รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน ททท.
ข่าวที่ 4 ททท.หนุนภูเก็ตขายท่องเที่ยวซีรีย์เด็ด3งานใหญ่ส.ค.-ก.ย.63
นายนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้สนับสนุนภาครัฐและเอกชนในจังหวัดภูเก็ตจัดงานคอนซูเมอร์ แฟร์ “ภูเก็ต...เด็ดทั้งเกาะ” นำผู้ประกอบการท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร มาเปิดบูธกว่า 34 บูธ ระหว่างวันที่ 30 กรกฎาคม -2 สิงหาคม 2563 เพื่อทำโปรโมชั่นขายห้องพัก แพกเกจ บัตรกำนัลท่องเที่ยว ณ พาร์ค พารากอน สยามพารากอน กรุงเทพฯ เพื่อตอกย้ำถึงยุทธศาสตร์การทำตลาดท่องเที่ยวในประเทศ รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นไปยังเวทีโลกถึงศักยภาพของไทยเป็นประเทศติดอันดับต้น ๆ ด้านสาธารณสุข
ช่วงครึ่งปีแรก ททท.ยังได้ใช้ศักยภาพดูแลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ประกอบด้วย 1.เยียวยานักท่องเที่ยวต่างชาติที่ตกค้างแล้วกลับบ้านไม่ได้ 2.ฟื้นฟูกิจการและผู้ประกอบการท่องเที่ยว พร้อมทั้งจัดกิจกรรมให้พนักงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวร่วมกันความเชื่อมั่นว่าภูเก็ตยังคงเป็นไข่มุกแห่งอันดามันที่สามารถท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย
ททท.จึงขอชวนคนไทยไปสัมผัสทรัพยากรธรรมชาติสร้างการเรียนรู้วิถีชีวิต ผนวกกับจุดแข็งทางวัฒนธรรมบะบ๋ายะหยาและวิถีชีวิตชาวภูเก็ต นอกเหนือจากชุดดแต่งกายแล้วยังมีชื่อเสียงทางอาหารถิ่น ที่เทศกาลเมืองแต่ละตำบลที่ดูแลหาดต่าง ๆ ได้จัด นำเชฟท้องถิ่นมาปรุงเมนูเด็ด Amazing Thai Taste Festival บริการถนนเมืองเก่าภูเก็ต ระหว่าง 12-13 กันยายน 2563
นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม
นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้ภาคเอกชนท่องเที่ยวภูเก็ตได้จัดทำ
Phuket Model เพื่อฟื้นฟูเสริมสร้างเศรษฐกิจกลับมาเข้มแข็งอีกครั้งผ่านโครงการ
“ภูเก็ต...เด็ด” ในแต่ละเรื่องที่จะทยอยปล่อยออกสู่ตลาดเป็นระยะ ๆ
เนื่องจากก่อนสถานการณ์ไวรัสโควิด-19
ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปเยือนปีละ 14.4 ล้านคน สร้างรายได้กว่า
4.8 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวคนไทยสูงถึง 4 ล้านคน ตอนนี้มี 5
สายการบิน เปิดบริการบินเส้นทางในประเทศเข้า-ออก ภูเก็ต วันละ 12 เที่ยว
จากกรุงเทพฯ เกาะสมุย เชียงราย อู่ตะเภา แนวโน้มจะบินข้ามภาคจาก อุดรธานี
เชียงใหม่ เข้ามาเพิ่มในเวลาอันใกล้นี้
สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ตจึงได้วางกลยุทธ์จัดกิจกรรมกระตุ้นท่องเที่ยวเข้าสู่ภูเก็ตได้จัดทำเป็น "ซีรีย์เด็ดทั้งเกาะ" เริ่มจากการเปิดขายผ่านช่องทาง phuketgreattime.com อาหารเด็ด กีฬาเด็ด ทำเทศกาลแข่งขันเซิร์ฟบอร์ด เรื่อยไปจนถึงจัดมหกรรมดนตรีเด็ด จึงขอเชิญชวนคนไทยเข้ามาท่องเที่ยวภูเก็ตได้หลากหลายมุมใหม่ ๆ ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
สำหรับการจัดงานต่อเนื่องจาก
“ภูเก็ต...เด็ดทั้งเกาะ” หลังจากนี้จะจัดเทศกาล "อาหารอร่อย หร็อยริมเล :Phuket
Tastival Seafood & Gastronomy" เวียนจัดไปตามหาดต่าง ๆ ทั่วเกาะภูเก้ตรวม 6
สัปดาห์ เริ่มสัปดาห์แรกจัด บริเวณเทศบาลเมือง ระหว่าง 15-16 สิงหาคม 2563 สัปดาห์ที่ 2 หาดราไว จัดวันที่ 22-23 สิงหาคมนี้ มีไฮไลต์แข่งขันตกปลา
สัปดาห์ที่ 3 “หาดป่าตอง”
วันที่ 29-30 สิงหาคมนี้
จากนั้นจัดแข่งเซิร์ฟ 12-15 กันยายน 2563
ซึ่งทางป่าตองยืนยันมีห้องพักจำนวนมาก เลือกราคาห้องพักได้ตั้งแต่คืนละ
250 บาท/ห้อง ไปจนถึงราคาหลักหมื่นบาท
ซีรีย์ภูเก็ตเด็ดยังมีไฮไลต์ดนตรีเด็ด“เพลิน ริมเล” จัดการแสดงดนตรีกลางแจ้งริมทะเลแบบวิถีใหม่ New Normal ของศิลปินสามฝ่าย และศิลปินชาวภูเก็ตที่มีชื่อเสียงมาสร้างความสุขให้นักท่องเที่ยว มีทั้ง แก้ม-เดอะสตาร์ นนท์-เดอวอยซ์ วันที่ 12 กันยายน 2563 บริเวณปลายแหลมสะพานหิน จังหวัดภูเก็ต
ข่าวที่
5 ททท.พัทยาชูเช็คอินเกาะล้าน17จุด-ปลุกท่องเที่ยว2แคมเปญ
นางปิ่นนาถ เจริญผล ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพัทยา เชิญชวนคนไทยขับรถท่องเที่ยวตามเส้นทางท่องเที่ยวสะดวก เดินทางง่ายๆ ได้ชมทะเลสวย ๆ สามารถไปเช้าเย็น-กลับ ต้องห้ามพลาดเลือก “เกาะล้าน” การท่องเที่ยวที่ใช้งบเดินทางแบบประหยัด สบายกระเป๋า กับ จุดเช็คอินถึง 17 หาด เริ่มจาก 1.บ้านริมน้ำ 2.บ้านริมทะเลเกาะล้าน 3.ท่าหน้าบ้าน 4.หาดนวล 5.หาดแสม 6.หาดเทียน 7.หาดตาแหวน 8.จุดชมวิวหาดตาแหวน 9.หาดสังวาลย์ 10.หาดทองหลาง11.หาดตายาย 12.จุดชมวิวกังหันลม 13.มาหารักคาเฟ่ 14.พักร้อนคาเฟ่ 15.Sea Space 16.Love on Sea และ 17.INDIGO CAFE
อีกทั้งการท่องเที่ยวในพัทยา และเมืองชลบุรียังเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวในประเทศเลือกพักผ่อนแบบสุดคุ้มกับ 2 แคมเปญ ได้แก่ แคมเปญแรก “Chonburi Super Hot deal” ผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ต 42 แห่ง ร้านอาหาร 29 แห่ง พร้อมใจกันนำโวเชอร์ห้องพัก บัตรรับประทานอาหาร มาวางขายโดยให้ส่วนลดมากกว่า 50 % ระหว่างวันนี้-15 กันยายน 2563 เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเลือกช้อปห้องพัก แพกเกจ สปา ได้ทางเว็บไซต์ Shopee.com ซื้อแล้วสามารถเก็บไว้ใช้บริการได้ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 24 ธันวาคม 2563
แคมเปญที่สอง “เราเที่ยวด้วยกัน” ระหว่างวันนี้ -31 ตุลาคม นี้ เลือกท่องเที่ยวพัทยา และชลบุรี รับทันที 3สิทธิ์ สิทธิ 1 จองโรงแรมลด 40% ได้ถึง 5 คืน สิทธิ 2 รับคูปองส่วนลดร้านอาหาร/ท่องเที่ยวผ่านแอพลิเคชั่นเป๋าตังค์ลด 40% สูงสุด 600 บาท ใช้ได้เต็มที่ตามสิทธิ์วันพัก 5 คืน สิทธิ 3 นักท่องเที่ยวที่บินข้ามมาจากภาคอื่น จองตั๋วเครื่องบินรับคืนเงิน 40% สูงสุด 1,000 บาท ได้มากสุดถึง 10 ที่นั่ง
ข่าวที่ 6 บางจากแจกสิทธิ์บัตรสมาชิกใช้199แต้มแลกส่วนลดGrabFood
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด
(มหาชน) มอบสิทธิพิเศษให้สมาชิกบัตรบางจาก ใช้ 199 คะแนน แลกรับส่วนลด GrabFood
มูลค่า 50 บาท เมื่อมียอดสั่งอาหารผ่าน Grab ขั้นต่ำ
300 บาท กดรับสิทธิ์ต่อเนื่อง 3
เดือน ได้ตั้งแต่สิงหาคม - 31 ตุลาคม 2563
ขั้นตอนการแลก -กดแลกรับสิทธิ์ผ่าน Bangchak และนำโค้ดส่วนลดที่ได้รับไปใส่ใน
Promo Code บน Grab Application เพื่อรับส่วนลดมูลค่า
50 บาท
ส่วนลดสามารถใช้ได้กับร้านอาหารที่มีสัญลักษณ์ "Partner" เท่านั้น(สังเกตคำว่า Partner ที่อยู่ใต้ชื่อร้านค้า) *กรุณาใช้สิทธิ์ภายใน 60 นาที หลังจากยืนยันสิทธิ์
1. กด รับสิทธิ์ ผ่าน Bangchak REWARDS ทาง Mobile Application หรือ เว็บไซต์2. จำกัด 200 สิทธิ์ / แคมเปญ 3. แลกรางวัลผ่าน Bangchak และนำโค้ดส่วนลดที่ได้รับไปใส่ใน Promo code ใน Grab Application เท่านั้น ใช้ได้กับ GrabFood เท่านั้น 4. ส่วนลดสามารถใช้ได้กับร้านอาหารที่มีสัญลักษณ์ "Partner" เท่านั้น5. ในกรณีที่กดแลกคะแนนรับสิทธิ์แล้ว ต้องนำมาใช้ก่อนรหัสหมดอายุเท่านั้น6. หากสมาชิกทำ Code สูญหาย หรือ ปิดหน้าจอ ไม่สามารถขอ Code ทดแทน หรือขอคืนคะแนนภายหลังได้
ข่าวที่ 7 บอร์ดทีเส็บนำร่องประชุมสัญจรโคราชกระตุ้นไมซ์ในประเทศ
ดร.อรรชกา สีบุญเรือง ประธานกรรมการ
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB”
เปิดเผยว่า ได้นำทีมคณะกรรมการ (บอร์ด) TCEB สัญจรไปจัดประชุมที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อเร็ว
ๆ นี้ เพื่อสนองนโยบายรัฐบาลกระจายการจัดไมซ์ในประเทศเดินทางไปกระตุ้นเศรษฐกิจตามภูมิภาค
โดยมีวาระการประชุมร่วมกับนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และผู้เกี่ยวข้อง
วางนโยบายขับเคลื่อนนครราชสีประกาศเป็นไมซ์ ซิตี้ ลำดับที่ 6 ของประเทศ
ระหว่างการจัดประชุมบอร์ด TCEB สัญจร
ทางจังหวัดนครราชสีมาได้ให้ชุมชนนำผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นขึ้นชื่อมาจัดแสดงเพื่อนำเสนอความหลากหลายพร้อมจะสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ต้อนรับผู้มาประชุม
รวมทั้งบอร์ดยังได้เดินทางไปเยี่ยมชมชุมชนท้องถิ่นและสถานที่จัดงานประชุมใหม่ของจังหวัดนครราชสีมา
ทั้งนี้ทีเส็บได้เสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
(ครม.) พิจารณาให้นครราชสีมาเป็นเมืองไมซ์ ซิตี้ อันดับที่ 6 ของประเทศ
โดยศักยภาพเป็น “ประตูสู่แดนอีสาน”
มีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติและทางประวัติศาสตร์มากมาย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับการจัดกิจกรรมก่อน
ระหว่าง และหลังการประชุม
รวมทั้งมีสถานที่จัดงานประชุมและนิทรรศการมากมายที่สะดวกต่อการเข้าถึงและสามารถรองรับงานขนาดตั้งแต่
100 – 5,000 คน อาทิ เช่น “MCC HALL” เดอะมอลล์นครราชสีมาขนาด
5,000
ตารางเมตร สามารถจัดการประชุมขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ “KORAT HALL” เซ็นทรัลนครราชสีมา
ขนาดพื้นที่รวมกว่า 355,000
ตารางเมตร โดยมีคอนเว็นชั่น ฮอลล์ ขนาดประมาณ 10,000 ตารางเมตร “โคราช ชาติชาย ฮอลล์” สนามกีฬาในร่มตั้งอยู่ภายในสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ
80 พรรษา บรรจุเก้าอี้นั่งได้มากถึง 5,000 ที่นั่ง “Terminal Hall เทอร์มินอล 21 โคราช” พื้นที่ 3,000-5,000
ตารางเมตร พร้อมรองรับการจัดงานขนาดต่าง ๆ และการจัดประชุมได้เป็นอย่างดี
สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกในนครราชสีพร้อมรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ มีอย่างหลากหลายมากมายไม่ว่าจะเป็น สถานที่ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารสไตล์ต่าง ๆ ตอบโจทย์ทั้งสายชิคไฮโซและสายจิ๊กโก๋ท้องถิ่น พร้อมแหล่งซื้อของที่ระลึก ถนนคนเดิน แหล่งนันทนาการ
ช่วงที่ 2 ออกเที่ยวกันดีกว่า
วันนี้แนะนำเทรนด์ธรรมชาติเชิงผจญภัยในเมืองโคราช กับ 3 จุดเช็คอินใหม่มาแรง
“เขาจอมทองช่องเขารูปหัวใจ-ฟูจิครบุรี-ผาสามเกลอ” แล้วก็ระวังอันตราย
“กินอาหารแปรรูปมีโซเดียมสูงเกิน” อันตรายต่อสุขภาพ ส่วนข่าวเนื้อหาแน่น ๆ
“เปิดเบื้องลึกนกแอร์” ยื่นฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางแล้ว “บอร์ดการบินไทย”
นำทีมประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2562 เสร็จเมื่อ 31 ก.ค.63 เปิดหนี้
ผลขาดทุน รอฟื้นฟูกิจการหลัง 17 ส.ค.63 “กระทรวงการท่องเที่ยว”
ขยายเวลาให้บริษัทนำเที่ยวเข้ามาลงทะเบียนต่อไปจนถึง 5 ส.ค.นี้
เพื่อรับผลิตโปรแกรมทัวร์“กำลังใจ” หัวละ 2,000 บาท/แพกเกจ แจกให้ อสม. อสส.
รพ.สต.ได้เที่ยวฟรี
ทริปนี้แนะนำการออกเดินทางเที่ยวในประตูอีสาน จังหวัดนครราชสีมา เทรนด์มาแรงตอนนี้ต้องยกให้ “การท่องเที่ยวผญภัยเชิงนิเวศน์ ” ตามแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติตามแบบวิถีใหม่ บริเวณ “เขาจอมทอง” อำเภอครบุรี เทือกเขาที่มีเสน่ห์ความหลากหลาย บางคนอาจจะตามหา “ช่องเขารูปหัวใจ” หรือบางคนไล่ล่าหาความจริงกับ “ฟูจิครบุรี” และบางคนก็อาจจะอยากไปปีนป่ายบันไดกว่า 600 ขั้น เพื่อไปบันทึกภาพแฟชั่นเคลื่อนไหวสวย ๆ เก็บไว้ในความทรงจำพร้อม ๆ กับแชร์ความรู้สึกให้เพื่อน ๆ ได้มาท่องเที่ยวกัน
เช็คอินท่องเที่ยวจุดที่ 1 “เขาจอมทอง” สามารถไปยืนบนทุกจุด เพื่อสัมผัสสายลมแห่งขุนเขา ตรงบริเวณช่องเขามีลักษณะรูปหัวใจ ช่วงตอนเช้าจะเห็นพระอาทิตย์รอดมาทางรูปหัวใจ ส่วนตอนเย็นเป็นอีกบรรยากาศให้อารมณ์ความรู้สึกแปลกแตกต่างกันไป
เช็คอินท่องเที่ยวจุดที่ 2 “ท่าน้ำวัดตลิ่งชัน” เป็นชุมชนที่อยู่ตรงด้านหน้าตีนเขาจอมทอง ในตำบลจระเข้หิน เป็นจุดเช็คอินยอดนิยม เป็นวิถี “สายน้ำแห่งชีวิตฟูจิครบุรี” ยามได้เงยหน้ามองไปยังยอดเขาจะละม้ายคล้าย “ฟูจิครบุรี” ช่วงยามเย็นลมพัดเอื่อย ๆ นักท่องเที่ยวมักจะมาเฝ้ารอพระอาทิตย์ตกดิน ด้านหน้ามีคลองได้เห็นวิถีชีวิตคนพายเรือ เปิดมุมมองโค้งน้ำ สายน้ำหล่อเลี้ยงชีวิต ฉากหลังเป็นภาพขุนเขาอันสวยงาม
เช็คอินท่องเที่ยวจุดที่ 3 “ผาสามเกลอ” (หรือชื่อเดิมผาแม่ปลอด) ในตำบลบ้านใหม่ อำเภอครบุรี เป็นจุดค้นพบจุดชมวิวแห่งใหม่บนยอดเขามะค่า สามารถมองเห็นวิวสองผืนป่า คือ อุทยานแห่งชาติป่าครบุรี และมุมยื่นที่ไปยังเขื่อนลำแซะ ของอุทยานแห่งชาติทับลาน มีทิวทัศน์แม่น้ำสวยงามเกินบรรยาย
เมืองไทยต้องออกมาเที่ยวให้หายคิดถึง 3 สถานที่เทรนด์ธรรมชาติวิถีใหม่ในนครราชสีมา กำลังรอต้อนรับทุกคน
เตือน!!กินอาหารแปรรูปมีโซเดียมสูงอันตรายต่อร่างกาย
การบริโภคโซเดียมมากเกินไป มีผลเสียต่อสุขภาพ การบริโภคโซเดียมสูงเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงสำคัญ ของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ได้แก่ โรคไต โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และอัมพาต ตัวอย่างปริมาณโซเดียม ก่อน – หลัง แปรรูป ไข่ต้ม ก่อนแปรรูป จะมีโซเดียมเฉลี่ย 80 มิลลิกรัม แต่หลังแปรรูปเป็นไข่เค็ม จะมีโซเดียมเฉลี่ย 380 มิลลิกรัม
ปริมาณโซเดียมในอาหารแปรรูป น้ำหนัก 100 กรัมหรือ 1 ขีด มีดังนี้ 1.แหนม โซเดียม 990 มิลลิกรัม 2.เนื้อแดดเดียวโซเดียม 1,514 มิลลิกรัม 3.ปลาสลิดทอด โซเดียม 1,694 มิลลิกรัม 3.หมูแผ่น โซเดียม 1,592 มิลลิกรัม กุนเชียง โซเดียม 1,303 มิลลิกรัม ไส้กรอก โซเดียม 680 มิลลิกรัม ผักกาดดอง โซเดียม 1,498 มิลลิกรัม และมะม่วงแช่อิ่ม โซเดียม 504 มิลลิกรัม
ส่วนโซเดียมแฝงก็คือโซเดียมที่อยู่ในส่วนประกอบของสารต่างๆ ที่ไม่ใช่เกลือ เช่น ผงฟู = โซเดียมไบคาร์บอเนต ที่ใช้ในการทำเบเกอรี่ต่างๆ สารกันบูด = โซเดียมเบนโซเอตโซเดียมแฝงเหล่านี้ ก็คือโซเดียมที่ส่งอันตรายต่อสุขภาพเช่นเดียวกันนั่นเอง ดังนั้นการรับประทานขนมปัง เค้ก พาย เบเกอรี่ต่างๆ ก็ทำให้ร่างกายได้รับโซเดียมเช่นกัน
อย่าลืมว่าเราควรบริโภคโซเดียมเพียงวันละ 2,000-2,400 มิลลิกรัมเท่านั้น ใครรู้ตัวว่าทานเกินเป็นประจำ ควรลดลงได้แล้ว จะได้มีสุขภาพที่ดีในระยะยาว
ข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก นกแอร์ยื่นฟื้นฟูกิจการหวังกลับมาช่วยท่องเที่ยวโตหลังปี’64
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานคณะกรรมการบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ วาระพิเศษครั้งที่ 8/2563 เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2563 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ในฐานะลูกหนี้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการฯ และให้เสนอผู้จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการฯ ต่อศาลล้มละลายกลางภายใต้พระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 โดยบริษัทฯ ได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ ต่อศาลล้มละลายกลางในวันที่ 30 กรกฎาคม 2563 เมื่อเวลา 11.00 น. และศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการฯ ไว้พิจารณาแล้วในวันเดียวกัน เป็นคดีดำ ฟฟ 21/2563 และนัดไต่สวนคำร้องฯ ในวันที่ 27 ตุลาคม 2563 เวลา 09.00 น.
การยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ มีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
บริษัทฯ ในฐานะลูกหนี้เป็นผู้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลฯ ทั้งนี้เพราะบริษัทฯ เห็นว่าการฟื้นฟูกิจการนั้นเป็นแนวทางที่เหมาะสมและดีที่สุดสำหรับการแก้ปัญหาสภาพคล่องทางการเงินชั่วคราวของบริษัทฯ ภายใต้การกำกับดูแลของศาลฯ เพื่อให้กิจการของบริษัทฯ สามารถดำเนินการต่อไปได้ตามปกติ
การเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการในครั้งนี้
บริษัทฯ ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายในการที่จะเลิกหรือชำระบัญชีบริษัทฯ หรือไม่ได้
มุ่งหมายให้บริษัทฯ ต้องตกเป็นบุคคลล้มละลายแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้ามบริษัทฯ
กลับมีความมุ่งมั่นและแน่วแน่เป็นอย่างยิ่งในการที่จะดำเนินกิจการต่อไปให้มีความก้าวหน้าเจริญรุ่งเรือง
เพราะปัญหาในปัจจุบันของบริษัทฯ
ไม่ได้เกิดจากปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจแต่เกิดจากปัจจัยหลายประการรวมถึงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19
ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ทำให้บริษัทฯ
เกิดข้อติดขัดและอุปสรรคในการดำเนินกิจการ
หากมีการปรับโครงสร้างภายใต้กระบวนการฟื้นฟูอย่างเหมาะสม บริษัทฯ
จะสามารถดำเนินธุรกิจให้เติบโตก้าวหน้าต่อไปได้อย่างแน่นอน
การเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการฯ
ในครั้งนี้ จะช่วยให้บริษัทฯ
สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของแผนฟื้นฟูธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพตามขั้นตอนต่างๆ
ซึ่งมีกฎหมายรองรับและให้ความคุ้มครองแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นธรรม
ทั้งบริษัทฯ ยังสามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้ตามปกติในระหว่างที่อยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการฯ
ไม่ว่าจะเป็นการให้การบริการขนส่งผู้โดยสารและการขนส่งสินค้าและไปรษณียภัณฑ์ทางอากาศ
แนวทางเบื้องต้นของการฟื้นฟูกิจการบริษัทฯ คือ
การปรับโครงสร้างหนี้
เพื่อแก้ไขหนี้สินที่มีอยู่ให้สร็จสิ้นโดยคำนึงถึงประโยชน์ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
อย่างเป็นธรรมและสอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทฯ
การบริหารจัดการกิจการของลูกหนี้
เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและสามารถชำระหนี้ได้ตามแผนฟื้นฟูกิจการฯ เช่น
ปรับปรุงเครือข่ายเส้นทางบินและปรับฝูงบิน การปรับปรุงกลยุทธ์ด้านการพาณิชย์และความสามารถในการหารายได้
การปรับปรุงโครงสร้างองค์กร เพิ่มประสิทธิภาพในการทางานของพนักงาน
ปรับลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น พัฒนาและปรับปรุงระบบการบริหารงานบุคคล
บริษัทฯ ได้เสนอให้ บริษัท แกรนท์
ธอนตัน สเปเชียลิสท์ แอ็ดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด ร่วมกับนายปริญญา ไววัฒนา
นายไต้ ชอง อี นายเกษมสันต์ วีระกุล นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร และนายชวลิต อัตถศาสตร์
กรรมการของบริษัทฯ เป็นผู้ทำแผน
นายประเสริฐ
เปิดเผยต่ออีกว่าการยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการฯ ในครั้งนี้
ถือเป็นก้าวสำคัญในการที่จะเปลี่ยนแปลงบริษัทฯไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้โดยสาร ลูกค้า คู่ค้า
พันธมิตรทางการค้า ลูกหนี้ เจ้าหนี้ พนักงานบริษัทฯ ผู้ลงทุน
ประชาชนรวมถึงระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย โดยบริษัทฯ
ได้เล็งเห็นแล้วว่าในขณะนี้ประชาชนและนักท่องเที่ยวยังมีการเดินทางกันไม่มากนักเพราะการระบาดของโควิด-19
ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ
สามารถฟื้นฟูกิจการได้อย่างคล่องตัวและรวดเร็วมากกว่าในภาวะปกติ
ทั้งนี้นกแอร์ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะต้องฟื้นฟูกิจการให้สำเร็จก่อนการระบาดโควิด-19
จะยุติลง สร้างความพร้อมอย่างเต็มที่เพื่อกลับมาให้บริการอย่างดีเยี่ยมตอบสนองความต้องการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ
รวมถึงประชาชนทั่วไปได้เป็นอย่างดี
ข่าวที่สอง ก.ท่องเที่ยวดึงบริษัททัวร์ลงทะเบียน“กำลังใจ”เพิ่มได้ถึง5ส.ค.
นายพิพัฒน์
รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า
ได้ขยายเวลาให้บริษัทธุรกิจนำเที่ยวเข้ามาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ “กำลังใจ”
ไปจนถึงวันที่ 5 สิงหาคม 2563 หลังจากรัฐบาลอนุมัติให้ใช้เงินกู้ 2,400 ล้านบาท
นำมาทำโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภาคการท่องเที่ยวผ่านแพ็กเกจ “กำลังใจ”
เพื่อช่วยผู้ประกอบการท่องเที่ยวในประเทศจัดโปรแกรมนำเที่ยวฟรีให้ 3 กลุ่มหลัก
ได้แก่ 1.อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) 2.อาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) และ
3.เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) รวมตลอดโครงการ 1.2
ล้านคน
โดยให้บริษัทนำเที่ยวผลิตโปรแกรมขาย 2 วัน 1 คืน ไม่เกิน 2,000
บาทต่อคน กำหนดให้เริ่มเดินทางตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม – 31 ตุลาคม 2563
ผลปรากฎว่าเมื่อเปิดให้บริษัทนำเที่ยวเข้ามาลงทะเบียนตั้งแต่ 25 กรกฎาคม 2563 ผ่าน
www.เที่ยวปันสุข.ไทย มีเพียง 986 รายเท่านั้น
จากที่จดทะเบียนไว้กว่า 13,000 ราย
อีกทั้งยังให้เพิ่มรายละเอียดรายการนำเที่ยว พี่พัก แหล่งท่องเที่ยว
ให้ชัดเจน จึงต้องขยายเวลาเพิ่มให้อีก 1 สัปดาห์
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น