ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

สันธิญารีสอร์ตดันธุรกิจห้องพักหรูทุกเกาะผงาดหลังโควิด-Liveสดแจกโปรห้องพักทุกสัปดาห์ราคาหมื่นเหลือหลักพันบาท

“สันธิญารีสอร์ต”ดันธุรกิจรีสอร์ตหรูทุกเกาะผงาดหลังโควิด19

กระหน่ำ“ไลฟ์สด”แจกโปรยาวลดห้องหลักหมื่นเหลือหลักพัน

คิงเพาเวอร์ให้บุคลากรแพทย์ชมสกายวอล์คลด50%อาหาร15%

คิงเพาเวอร์ชวนเพื่อนสมัครสมาชิกแจกทันทีCarat Promotion

ททท.แนะวิธีใช้สิทธิ์จอง2แพกเกจ“เราเที่ยวด้วยกัน-กำลังใจ”

ททท.เปิดรับแทรเวลเทคสตาร์ตอัพลุ้นชิงรางวัล1ล้านบาท

ททท.ใต้ดึงเซเล็บดาราระดมคนร่วมแคมเปญคิดถึงจึงไปกอด

บางจากแนะสมาชิกเปลี่ยนรหัสบัตร4ตัวแลกสิทธิ์เพียบ1ส.ค.

มูลนิธิปิดทองชูความสำเร็จกาฬสินธุ์โมเดลจ้างงานหลังโควิด

MoreFun!!ชุมชนท่าระแนะแวะไหว้ศาลหลักเมืองจ.ตราด

แนะผู้สูงวัยชะลอไม่อยากแก่เลิกกินไขมันเลว-น้ำตาล-โซเดียม

โรงแรมAWCทั่วไทย16แห่งเทโปรห้องพักโกยเราเที่ยวด้วยกัน

สวนน้ำรามายณะฉลองSHAเปิดให้ผู้สูงวัยเข้าฟรีถึง30ก.ย.นี้

 

ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เที่ยวกับกู๋  


                             กลชัย (แดนนี่) สุโกมล รองกรรมการผู้จัดการ เครือสันธิญารีสอร์ต

ช่วงที่ 1 เปิดใจ “กลชัย-แดนนี่ สุโกมล” รองกรรมการผู้จัดการ เครือสันธิญารีสอร์ต ผ่ากลยุทธ์พลิกฟื้นรีสอร์ตหรู 4 เกาะใหญ่ในเมืองไทย หลังโควิด-19 งัดหมัดเด็ดเปิดช่องทางขาย “ไลฟ์สด” ทุกสัปดาห์เทโปรโมชั่นราคาห้อง “หลักหมื่นเหลือแค่หลักพัน” จุดกระแสตลาดติด คนไทยแห่จองพัก “เกาะช้าง” แน่นเอี้ยดทุกวันหยุด ทางด้าน “พะงัน-เกาะยาวใหญ่-หาดนาใต้” สัญญาณเริ่มดี หวังอานิสงแพกเกจ “ไปเที่ยวด้วยกัน” สร้างความฮือฮาให้คนตัดสินใจเที่ยวเร็วง่ายและถี่ขึ้น พร้อมตั้งการ์ดระวังความไม่แน่นอนต้องประคองธุรกิจรอเวลาฟื้นปลายปี’64

 

นายกลชัย-แดนนี่ สุโกมล รองกรรมการผู้จัดการ เครือสันธิญารีสอร์ต เปิดเผยว่า การเคลื่อนทัพธุรกิจห้องพักระดับหรูหลังสถานการณ์โควิด-19 ต้องหันมารุกตลาดในประเทศกลุ่มต่างชาติทำงานในไทย หรือสถานฑูตเข้ามาใช้เครือสันธิยารีสอร์ตแอนด์สปา ที่มีอยู่ตามเกาะต่างๆ  4 แห่ง คือ พะงัน เกาะช้าง เกาะยาวใหญ่ เกาะนาใต้ ช่วงสถานการณ์ไวรัสโควิดนั้นต้องเปิดบริการอยู่ตลอด 2 แห่ง สันธิญาเกาะช้าง (ตราด) กับสันธิญา เกาะพะงัน (สุราษฎร์ธานี) เพราะมีลูกค้าเป็นลองสเตย์อยู่ 10-15 ห้อง จึงไม่สามารถปิดได้ เนื่องจากต่างชาติกลุ่มดังกล่าวพักมาก่อนเกิดโควิดแล้วไม่ต้องการเดินทางกลับต่างประเทศแต่ขออยู่ต่อไปเรื่อย ๆ นาน 2-3 เดือนแต่ทางรีสอร์ตก็ต้องวางแนวทางบริหาร ให้สอดคล้องกับสถานการณ์โดยเปิดบางส่วนและปิดบางส่วนเพื่อใช้งานอย่างเหมาะสม สลับกับการวางระบบดูแลพนักงานทำงาน พอรัฐบาลประกาศคลายล็อกดาวน์เริ่มมีลูกค้าคนไทยเข้ามาจองใช้บริการบ้างแล้ว ส่วนในภูเก็ตอีก 2 แห่ง ที่เกาะยาวใหญ่ และหาดนาใต้ เริ่มกลับเปิดใหม่อีกครั้งตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2563

 

พอรัฐบาลปลดล็อกดาวน์ก็ทำให้ สันธิญา รีสอร์ต เกาะช้าง ได้อานิสงอย่างรวดเร็วด้วย เพราะเดินทางเข้าถึงง่ายจึงมียอดจองพักเต็มช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ แต่พักเฉลี่ยจะไม่ยาวมากประมาณ 2-4 คืน/ทริป ส่วนใหญ่ขับรถไปเที่ยวกันเอง เช่นเดียวกันสันธิญาเกาะพะงัน นักท่องเที่ยวก็ขับรถเข้าทางสมุย สุราษฎร์ธานี หรือบางส่วนก็นั่งเครื่องไป

แนวโน้มการจองห้องพักหลังสถานการณ์โควิด-19 ที่สันธิญา รีสอร์ต เกาะช้าง กระแสตอบรับสูงดีมาก เพราะทุกสุดสัปดาห์อัตราเข้าพักเฉลี่ยจะเต็มเกือบ 100 % ขณะที่ราคาขายห้องพักลดไปมากถึง 60% ทำให้รายได้เริ่มเข้ามาสู่ธุรกิจประมาณ 50 % ส่วน “สันธิยา เกาะยาวใหญ่” เมื่อผ่อนคลายเปิดสนามบินทำให้ลูกค้าเดินทางโดยเครื่องบินง่ายสะดวกขึ้น สามารถผ่านเข้าออกสนามบินแล้วนั่งเรือเฟอรี่ของรีสอร์ตหรือท่าเรือเอกชนต่อไปยังเกาะยาวได้ แต่การเข้าพักยังน้อยอยู่ เพราะราคาค่าใช้จ่ายยังคงสูงสำหรับคนไทย

การวางกลยุทธ์การตลาดหันมาใช้ช่องทางเข้าถึงลูกค้าโดยตรงคือหันมา “โซเชียล มีเดีย” ทำ “Facebook Live” เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563 จนถึงขณะนี้ทุกสัปดาห์จะไลฟ์สดของแต่ละรีสอร์ต ได้ผลลัพธ์กลับมาเป็นลูกค้าคนไทยและต่างชาติที่พำนักในไทยเข้ามาจองซื้อ โดยเน้นทำโปรโมชั่นแรง ๆ ที่มีความยืดหยุ่นสูง เช่น ซื้อภายในช่วงสัปดาห์ที่มีไลฟ์สดแล้วเก็บโวเชอร์ไว้ใช้พักข้ามไปถึงปีหน้า 2564 ได้ และสร้างความมั่นใจด้วยวิธีให้ลูกค้าสามารถเปลี่ยนวันจองได้ถึง 2 ครั้ง

ดังนั้นพอปล่อยไลฟ์สดแต่ละสัปดาห์ทุกวันพฤหัสบดี เช่น สัปดาห์นี้ไลฟ์ สันธิญา เกาะพะงัน ผู้ชมเข้ามาจองห้องพักค่อนข้างดี ตอนนี้ยังเปิดให้เข้าไปจองราคาโปรโมชั่นได้ถึงวันที่ 9 กรกฎาคม นี้ ราคา1,800-1,900 บาท/ห้อง/คืน ถือว่าพิเศษมาก ๆ และหากเป็นพูล วิลล่า ก็เหลือประมาณ 4,000 บาท/ห้อง/คืน โดยลูกค้าที่จองห้องทุกแบบจะได้รับสิทธิ์ห้องพัก รวมอาหารเช้า ด้วย

สำหรับเกาะช้างขณะนี้ต้องปิดไลฟ์สดตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไปเช่นกัน เพราะยอดจองสุดสัปดาห์เต็มเรียบร้อยแล้ว


ตามขั้นตอนพอไลฟ์สดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางสันธิญาแต่ละแห่งจะให้เวลาเข้าไปจอง 7 วัน เพื่อเข้ามาจองราคาห้องพักโปรโมชั่น ผ่านช่องทางครบวงจร คือ 1.ระหว่างไลฟ์สดสามารถ inbox จองได้ หรือทาง 2.เพจเฟซบุ๊ค 3.เว็บไซต์ www.santhiya.com หรือ 4.ข้อมูลเพิ่มเติมโทรศัพท์คุยกับพนักงานขายโดยตรงก็ได้เช่นกัน โทร.02-443-0585 ส่วนใหญ่ลูกค้าจะอินบ็อกถามข้อมูลพร้อมจองออนไลน์ทันที เป็นพฤติกรรมแนวใหม่ ๆ ของลูกค้าที่น่าสนใจ

 

สำหรับการจัดโปรโมชั่นห้องพักในลักษณะดังกล่าว ทางรีสอร์ตเครือสันธิญาจะทำไปเรื่อย ๆ เพราะตอนนี้สถานการณ์โดยรวมของโควิด-19 ยังไม่มีความแน่นอน ดังนั้นจึงต้องวางกลยุทธ์ไลฟ์สดด้วยการปรับรูปแบบวิธีการให้ดึงดูดความสนใจ วางพ็อตเรื่องคล้ายละครเล่าเรื่องสลับการถ่ายภาพจริงจากสถานที่ตั้งของรีสอร์ตซึ่งห้อมล้อมด้วยแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติสวยงาม

 

ตัวอย่าง สันธิญา เกาะยาวใหญ่ นำเสนอเป็นคลิปแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวไปพักผ่อนแล้วจะได้ประสบการณ์พบเจออะไรบ้าง ส่วน “สันธิญา เกาะพะงัน” ก็นำแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ เสริมเข้ามาให้เห็นความแตกต่างจากเดิม ๆ เพื่อให้ลูกค้าที่ติดตามชมได้เห็นภาพแปลกใหม่อยู่ตลอดเวลา

 

“แดนนี่”กล่าวว่าทางรีสอร์ตได้รับอานิสงจากแพกเกจใหญ่ของรัฐบาลสนับสนุนที่พักโรงแรมผ่าน “ไปเที่ยวด้วยกัน” หากทำการประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึงลูกค้าจะตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เพราะจะได้รับส่วนลดโดยรัฐบาลสนับสนุนเงินค่าที่พักและตั๋วเครื่องบิน 40 % นักท่องเที่ยวจ่ายเองแค่ 60 % ตอนนี้ก็มีลูกค้าถามเข้ามาเป็นจำนวนมากว่าทางรีสอร์ตได้เข้าไปลงทะเบียนเข้าร่วมแล้วหรือไม่ เพื่อลูกค้าจะได้จองใช้บริการ ทางผู้ประกอบการเองก็ศึกษาวัตถุประสงค์ของโครงการชัด ๆ แล้วก็พร้อมจะร่วมมือกับโครงการของรัฐบาล

ทั้งนี้มองว่าโครงการ “ไปเที่ยวด้วยกัน” มีผลดีต่อผู้ประกอบการ เพราะจะเป็นแรงกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจซื้อห้องพักหรือแพกเกจท่องเที่ยวได้เร็วขึ้น ยิ่งทางรีสอร์ตเครือสันธิญาก็มีห้องพักราคาโปรโมชั่นรองรับไว้อยู่แล้ว ทั้ง 4 เกาะ ก็จะยิ่งเป็ฯแม่เหล็กที่ดี ส่วนอื่นของแพกเกจรัฐบาล เอกชนจะต้องดูเรื่องเงินจากรัฐบาลสนับสนุน 40 % จะถึงมือโรงแรมช้าลงหรือไม่ ต้องติดตามอีกครั้งหลังจากเริ่มโครงการไปแล้ว

แดนนี่กล่าว หากประเมินแนวโน้มการฟื้นตัวของ “ตลาดห้องพัก” โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ ล่าสุดเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมเพิ่งจะอีเมลมาแจ้งยกเลิกห้องพักที่จองล่วงหน้าไว้ เพราะรัฐบาลไทยยังมีมาตรการกักตัว 14 วัน เมื่อมีต่างชาติเดินทางเข้าออกประเทศ เพราะช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ทางต่างประเทศเตรียมโปรโมตท่องเที่ยวมาไทย แต่ด้วยกติกาดังกล่าวจึงต้องชะลอออกไปก่อน ดังนั้นไตรมาส 3-4 ยังคงจะฟื้นตัวลำบาก ส่วนไตรมาส 1-2 ปี 2564 อยู่ปลายฤดูเดินทางท่องเที่ยวของต่างประเทศ ธุรกิจก็ยังพอมีความหวังจะกลับเริ่มดีขึ้นได้บ้างบางส่วน และมีบางกลุ่มประเมินจะต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าปีครึ่ง หรือประมาณไตรมาส 4 ปี 2564 เป็นต้นไป

 

ขณะนี้รีสอร์ตเครือสันธิญาต้องวางแผนประคองกิจการในช่วงรอเวลาฟื้นตัว ด้วยวิธีบริหารจัดการดังนี้คือ

 

ส่วนที่ 1 ปรับใช้ประโยชน์จากห้องอาหารเพื่อยังคงจ้างงานอยู่ ซึ่งทางสันธิญามีเชฟฝีมือดี ตั้งแต่เมษายน 2563 ร่วมกันเปิดบริการอาหารดิลิเวอรี่ ผลตอบรับดีมาก ๆ ทำให้พฤษภาคมหันมาเริ่มเปิดห้องอาหารที่สำนักงานใหญ่ นำเชฟจากหลายแห่งกับพนักงานมาช่วยกันทำเพื่อแบ่งเบาให้ทุกคนยังอยู่ในอาชีพได้

 

ส่วนที่ 2 พนักงานบางส่วนเมื่อหยุดชั่วคราวก็ให้รับเงินประกันสังคม ม.33 พร้อมกับให้อาหารวันละ 3 มื้อ พร้อมที่พัก แต่ในอนาคตหากรายได้ยังไม่ดีขึ้นก็ต้องเพิ่ม ส่วนที่ 3 เพิ่มมาตรการลดค่าใช้จ่าย เพราะสันธิญามีพนักงานเก่าแก่อยู่ด้วยกันมานานหลายคน

 

เนื่องจากตอนนี้เริ่มมีสัญญาณ “ตลาดคนไทย” เข้ามาพักบ้างแล้วทำให้รีสอร์ตในเครือแต่ละแห่ง พอมีรายได้หมุนเวียนเข้ามาหล่อเลี้ยงธุรกิจและพนักงาน 20-30 % ประคองอยู่ต่อไปได้

 

สำหรับอนาคตอันใกล้นี้การสร้างความยั่งยืนให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทย ในฐานะเอกชนก็ต้องการเห็นรัฐบาลเข้ามาช่วยดูแลเรื่องหลัก ๆ คือ 1.สร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวในและต่างประเทศมั่นใจที่จะเข้ามาเที่ยว ตัวอย่างมาตรการสาธารณสุขด้านสุขอนามัย เป็นตัวหลักที่ประกาศให้ทั่วโลกรู้ 2.รัฐบาลควรจะเชิญชวนให้การเจรจาธุรกิจท่องเที่ยวเปลี่ยนรูปแบบจากเดิมต้องเดินทางข้ามประเทศไปพบเจอกันตาม Trade Show ต่อไปก็น่าจะหันมาใช้ช่องทางอื่นแลกเปลี่ยนการค้าท่องเที่ยวได้โดยไม่ใช้พึ่งพาเทรดโชว์เหมือนที่ผ่านมา เช่น จัด webinar หรือประชุมย่อยออนไลน์ต่าง ๆ

 

ส่วนเอกชนพยายามใช้ “ช่องทาง” เสนอข้อคิดเห็นผ่านสมาคมโรงแรมไทย เป็นเส้นทางนำไปสู่ผู้บริหารระดับประเทศ เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศให้ฟื้นกลับคืนมาโดยเร็ว หลังสถานการณ์ทุกอย่างดีขึ้นแล้ว ทุกฝ่ายต้องกลับมาประเมินแนวโน้มกลุ่มธุรกิจโรงแรม ทั้งเรื่องใบอนุญาตประกอบกิจการ และการทำการค้ากับต่างชาติไม่ให้ธุรกิจของคนไทยเสียเปรียบต่างชาติมากเกินไป โดยเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ในวงการท่องเที่ยวต่างชติที่เข้ามาค้าขายด้วยพอเกิดปัญหาวิกฤตแล้วหยุดจ่ายเงินที่ค้างหนี้ที่เกิดจากการส่งลูกค้ามาใช้บริการไปเรียบร้อยแล้ว นับจากนี้เป็นต้นไปรัฐบาลไทยเองควรสร้างบรรทัดฐานป้องกันคุ้มครองธุรกิจคนไทย ไม่ว่าจะเป็นการประสานงานระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาลด้วยกัน

 

ข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์ลดให้บุคลากรแพทย์บัตรสกายวอล์ค50%อาหาร15%


กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดทำโครงการ แทนคำขอบคุณ ให้กับบุคลากร ทางการแพทย์  ด้วยการเปิด คิง เพาเวอร์ มหานคร มอบส่วนลดค่าบัตร 50% เพื่อขึ้นไปชม มหานคร สกายวอล์ค หรือมหานคร เเบงค็อก สกายบาร์ ค่าบัตรเข้าชม (ผู้ใหญ่) ที่ มหานคร สกายวอล์ค และส่วนลดค่าอาหาร 15% ที่ มหานคร แบงค็อก สกายบาร์

                สามารถใช้ได้ถึง วันที่ 31 ตุลาคม 2563  สำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่ https://bit.ly/MHK-Reservation-Details หรือโทร 02-677-8722

ผู้ที่ต้องการใช้บริการแคมเปญนี้ เพียงแสดงบัตรที่แสดงความเป็นบุคลากรทางการแพทย์ ก็สามารถรับสิทธิ์ได้ทันที ส่วนเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทคิง เพาเวอร์ กำหนดไว้

 

ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์จัดชวนเพื่อนสมัครสมาชิกแจกCarat Promotion


คิง เพาเวอร์ จัดโครงการ “MEMBERS GET MEMBERS : เพื่อนได้ คุณก็ได้” ระหว่างวันนี้– 31กรกฎาคม 2563 ที่หน้าร้าน คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา ยกเว้น ออนไลน์ เปิดให้ชวนเพื่อน ๆ มาสมัครสมาชิกกับแคมเปญนี้ เฉพาะลูกค้าคนไทยสมัครสมาชิกใหม่หรือหมดสถานะแล้วเท่านั้น บัตรจะมีอายุ 1 ปี นับจากวันที่สมัคร

 

เป็นกิจกรรมส่งเสริมการขาย MEMBERS GET MEMBERS ผู้แนะนำและสมาชิกใหม่จะได้รับ Carat จากรายการส่งเสริมการขายนี้ โดยจะต้องระบุรหัสสมาชิกผ่านช่องทางการสมัครเข้ามาทาง member.kingpower.com เท่านั้น กรณีลูกค้าไม่ระบุรหัสผู้แนะนำทาง คิง เพาเวอร์ ขอสงวนสิทธิ์การให้ carat promotion ในภายหลังทุกกรณี

ผู้แนะนำสามารถแนะนำสมาชิกได้ไม่จำกัดจำนวน Carat Promotion จะได้รับภายใน 7 วันทำการ หลังจากจบรายการ (ภายในวันที่ 10 สิงหาคม 2563) และ Carat Promotion จะหมดอายุภายในวันที่ 30 กันยายน 2563

 

สำหรับการสมัครสมาชิกแต่ละประเภทในโครงการนี้คือ

1.ประเภท SCARLET ใช้เงินในบัญชีสมาชิกครั้งแรก 6,000 บาท (สุทธิ) ขึ้นไป ภายใน 7 วัน ผู้แนะนำ และสมาชิกใหม่รับกะรัตคนละ 100 กะรัต

 

2.ประเภท ONYX ใช้เงินในบัญชีสมาชิกครั้งแรก 60,000 บาท (สุทธิ) ขึ้นไป  ภายใน 7 วัน ผู้แนะนำ และสมาชิกใหม่รับกะรัตคนละ 1,000 กะรัต

ทั้งนี้ยอดซื้อนับจากการซื้อสินค้าที่ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา เท่านั้น ไม่รวมยอดซื้อจาก kingpower.comพนักงานสามารถร่วมรายการในการแนะนำเพื่อนสมัครสมาชิกได้ และเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

 

ข่าวที่ 3 ททท.แนะวิธีใช้สิทธิ์2แพกเกจ“เราเที่ยวด้วยกัน-กำลังใจ”

 

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า มอบนโยบายการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับกระทรวงการคลัง และธนาคารกรุงไทย เดินหน้ามาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภาคการท่องเที่ยว เที่ยวปันสุข ระหว่างกรกฎาคม -31 ตุลาคม 2563 กระตุ้นการท่องเที่ยวผ่าน 2 แพ็กเกจ ซึ่งสามารถเข้าไปลงทะเบียนได้ทาง www.เที่ยวปันสุข.ไทย และ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com  ได้แก่

 

แพกเกจที่ 1 “เราเที่ยวด้วยกัน” เปิดให้คนสนใจลงทะเบียนวันที่ 15 กรกฎาคม 2563 โดยรัฐบาลสนับสนุน 20,000 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายค่าที่พักโรงแรมให้นักท่องเที่ยว 40 % รวม 5 ล้านคืน (1คน จองพักได้สูงสุด 5 คืน) และ E-Voucher อีกคืนละ 600 บาท (เป็นค่าอาหารและค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวในลักษณะร่วมจ่าย) ส่วนสายการบินเมื่อจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินแล้ว รัฐบาลคืนเงินกลับไปให้ 40 % ไม่เกิน 1,000 บาท/ที่นั่ง

 

แพ็กเกจที่ 2 “กำลังใจ” รัฐบาลสนับสนุนเงิน 2,400 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายค่าท่องเที่ยวในประเทศ 2 วัน 1 คืน คนละไม่เกิน 2,000 บาท ให้แก่กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) จะเปิดให้ลงทะเบียนวันที่ 25 กรกฎาคม 2563 

 

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า www.เราเที่ยวด้วยกัน.com  จะเปิดให้ผู้ประกอบการโรงแรม ที่พัก ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่บัดนี้ ส่วนประชาชนทั่วไปจะสนใจเดินทางกับแพกเกจนี้เปิดให้ลงทะเบียน 15  กรกฎาคม 2563 ขณะที่แพ็กเกจกำลังใจ จะเปิดให้ผู้ประกอบการนำเที่ยวลงทะเบียนผ่าน www.เที่ยวปันสุข.ไทย วันที่ 10 กรกฎาคม 2563

 

สำหรับ อสม.,อสส., และ รพ.สต.เข้าไปลงทะเบียนได้วันที่ 25 กรกฎาคม 2563 แล้วเดินทางท่องเที่ยวได้ในวันที่ 30 กรกฎาคม2563 ช่วยกระตุ้นการบริโภคเติบโต และทำให้เกิดการจ้างงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ได้แก่ ธุรกิจนำเที่ยว ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจร้านอาหาร และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องต่อไป

 

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารพร้อมสนับสนุนมาตรการรัฐบาลเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ช่วยเหลือเพิ่มสภาพคล่องแก่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งเป็นภาคธุรกิจที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้เกิดรายได้หมุนเวียนลงไปในระดับฐานราก     ผ่าน 2 แพกเกจคือ “เราเที่ยวด้วยกัน” และ “กำลังใจ” ขณะนี้ธนาคารได้พัฒนาแพลตฟอร์มการลงทะเบียนและการชำระเงินแบบดิจิทัลผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างประชาชนกับผู้ประกอบการเข้าด้วยกันซึ่งไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อน

 

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กำหนดคุณสมบัติประชาชนที่จะลงทะเบียนรับสิทธิ ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทยอายุ 20 ปี บริบูรณ์ขึ้นไปในวันลงทะเบียน มีบัตรประชาชน และโทรศัพท์มือถือ สามารถลงทะเบียนรับสิทธิท่องเที่ยว ที่พัก และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ

 

และขอย้ำจะต้องใช้สิทธิในจังหวัดที่ไม่ใช่ทะเบียนบ้านของตนเอง พร้อมทั้งขอแนะนำให้ประชาชนดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” มาเตรียมไว้ก่อนถึงวันใช้งานจริงได้

 

ข่าวที่ 4 ททท.เปิดรับแทรเวลเทคสตาร์ตอัพชิงรางวัล1ล้านบาท

 

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ขอเชิญชวน นิสิต นักศึกษา และบุคคลทั่วไป ที่มีความฝันอยากมีธุรกิจ startup เป็นของตัวเอง มีไอเดีย มีความสามารถในการพัฒนา นวัตกรรมทางสารสนเทศเพื่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เข้าร่วมแข่งขันการประกวด TAT Travel Tech Startup Season 2 ประจำปี 2563 ชิงเงินรางวัล รวม มูลค่ากว่า 1,000,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตรและของที่ระลึก รายละเอียดเพิ่มเติมhttps://tatstartup.tech รับสมัครวันนี้- 30 กรกฎาคม 2563

 

 

คุณสมบัติผู้เข้าร่วมสมัคร ดังนี้- นิสิต นักศึกษา และบุคคลทั่วไป- อายุ 18 ปีขึ้นไป- ทีมละ 3-5 คน- ผู้สมัครต้องอยู่ในประเทศไทย ไม่จำกัดสัญชาติ ทีมสามารถมีสมาชิกสัญชาติอื่นนอกจากสัญชาติไทยได้ไม่เกิน 2 คนต่อทีม ผู้สมัครควรมีการศึกษา อาชีพ หรือความชำนาญหลากหลายแตกต่างกัน

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่Inbox : http://m.me/TATStartupThailandอีเมล์ : support@tatstartup.tech

 

ข่าวที่ 5 ททท.ใต้ดึงเซเล็บระดมคนร่วมแคมเปญคิดถึงจึงไปกอด

 

นายนิธี สีแพร ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  จัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวหลังไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลง โดยจับมือพันธมิตร ชวนคนไทย ออกเดินทางอย่างรับผิดชอบกับโครงการ “คิดถึง อ้อมกอดธรรมชาติ” ชวนออกมาเดินท่องเที่ยวในประเทศ ในรูปแบบ new norm  ด้วยการจูงมือเหล่าเซเลบชื่อดัง ได้แก่ อเล็กซ์ เรนเดลล์ เกรซ วรินทร-ก้อง ห้วยไร่-เก้า สุภัสสรา-อิ้งค์ วรันธร ร่วมกิจกรรม “เพราะคิดถึง จึงไปกอด” โดยจะลงพื้นที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ ช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อม พร้อม อัปเดตความพร้อมพื้นที่ต่าง ๆ  5 ภูมิภาค

 

ททท.จึงเชิญชวนคนไทย ร่วมแชร์ภาพสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยที่ "คิดถึง" แล้วอยากกลับไป "กอด" สมัคร ตั้งแต่วันนี้ถึง 6 กรกฏาคม 2563 เวลา 12.00 น.เพื่อรับโอกาสเข้าร่วมเป็น 1 ใน 250 คนพิเศษในกิจกรรม Virtual Talk "เที่ยวไม่ช้ำ จะได้ซ้ำบ่อยๆ" powered by True 5G กับ เหล่าเซเลบที่จะมาแบ่งปัน ความคิดถึง ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2563 เวลา 14.00 - 16.00 น.

 

ข่าวที่ 6 บางจากแนะสมาชิกเปลี่ยนรหัสบัตร4ตัวแลกรับสิทธิ์เพียบ

 

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ประกาศให้สมาชิกบัตรบางจากเปลี่ยนการใช้บัตรเพื่อรับบริการต่าง ๆ ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 63 การแลกคะแนนของท่านสมาชิก ต้องใช้ PIN 4 หลัก ในรูปแบบวันเกิดและเดือนเกิด DDMM ที่ตรงกับฐานข้อมูลในระบบสมาชิกบางจาก เช่น ท่านที่เกิดในวันที่ 7 มิถุนายน 2530 รหัส PIN ในการแลกคะแนน คือ 0706 เพื่อใช้เป็นส่วนลดในการชำระค่าน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมันบางจากหรือ ร้านอินทนิล ร้านสพาร์ ร้านใบจาก  ร้านเลมอนกรีน ธุรกิจ FURiO CARE และ กรีนเซิร์ฟ

 

ดังนี้เพื่อสิทธิประโยชน์ของสมาชิก กรุณาตรวจสอบและอัพเดทข้อมูลวันเดือนเกิดของท่าน  ผ่านช่องทางดังนี้
   

1.แอปพลิเคชั่น Bangchak Mobile Application
    2.เว็ปไซต์ 
https://member.bangchak.co.th/th/
    3.Bangchak Call Center

 

ข่าวที่ 7 มูลนิธิปิดทองทำกาฬสินธุ์โมเดลจ้างงาน/อาชีพหลังโควิด

 

มูลนิธิปิดทองหลังพระ เล็งเห็นถึงปัญหาที่ประเทศไทยกำลังประสบ คนตกงานเพราะวิกฤติ COVID-19 เกษตรกรมีหนี้ครัวเรือน และปัญหาภัยแล้งและแหล่งน้ำทรุดโทรม จึงริเริ่มทำ “โครงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฐานรากเพื่อบรรเทาผลกระทบจากภาวะว่างงานของ COVID-19 ในพื้นที่ต้นแบบภาคอีสาน 3 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี ขอนแก่น และกาฬสินธุ์ จนเกิดความสำเร็จเป็นรูปแบบการทำงานที่เรียกว่า “4 ประสาน 3 ประโยชน์”

 

การทำงานแบบ 4 ประสานงาน ประกอบด้วย “ประชาชน” คือชาวบ้าน เกษตรกร ผู้เข้าร่วมโครงการ เน้นให้เกิดการมีส่วนร่วมเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน โดยมี “ภาครัฐ” อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หน่วยงานระดับจังหวัด ตั้งแต่ผู้ว่าราชการฯ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  เกษตรจังหวัด เกษตรอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้การสนับสนุนเต็มที่เพื่อแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชน “ภาคเอกชน” ช่วยเรื่ององค์ความรู้ เทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่ช่องทางการจำหน่ายและการตลาด สุดท้ายคือ “ปิดทองหลังพระฯ”  เป็นผู้ประสานงาน วางแนวทางการปฏิบัติงานในพื้นที่ วางเกณฑ์การคัดเลือกคนว่างงานที่ตรงกับเป้าหมาย คัดเลือกโครงการที่จำเป็นและเกิดประโยชน์ รวมถึงสนับสนุนเงินทุน วัสดุอุปกรณ์ สร้างความเข้าใจกับชาวบ้าน จนเกิดแรงสนับสนุนในชุมชน

 

3 ประโยชน์” ที่ช่วยบรรเทาปัญหาสำคัญ ประโยชน์ที่ 1 แหล่งน้ำ มีการฟื้นฟูและพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็ก พัฒนาระบบกระจายน้ำจากแหล่งน้ำสู่พื้นที่การเกษตร จนถึงการกระจายน้ำสู่แต่ละแปลงเกษตรกร ประโยชน์ที่ 2 คือ การสร้างอาชีพ การทำเกษตรแบบประณีต ทันสมัยสอดคล้องกับความต้องการของตลาด ช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร เกิดการสร้างกลุ่ม/ กองทุนเพื่อบริหารจัดการภายในชุมชน และมีการพัฒนาตลาดที่ยั่งยืนโดยภาคเอกชนเข้ามาแนะแนวทางการผลิตให้ได้ตรงตามความต้องการของตลาด

ประโยชน์ที่ 3  องค์ความรู้ สร้างองค์ความรู้ใหม่ในชุมชนเพื่อการประกอบอาชีพเป็นทางเลือกบรรเทาปัญหาการว่างงาน มีการพัฒนาระบบบริหารจัดการร่วมกันกับหน่วยงานท้องถิ่นและชุมชน จนสามารถนำความรู้ที่เกิดขึ้นมาประเมินเพื่อใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนของชุมชน

 

ตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 ความสำเร็จของ 3 จังหวัด อุดรธานี ขอนแก่น และกาฬสินธุ์ สามารถจ้างคนตกงาน สรุปวันที่ 28 มิถุนายน 2563 รวม 358 ราย แบ่งเป็น อุดรธานี 83 ราย ขอนแก่น 145 ราย และกาฬสินธุ์ 130 ราย เกิดโครงการ ทั้งด้านการพัฒนาแหล่งน้ำและสร้างอาชีพรวม 107 โครงการ ใน 43 อำเภอ ครัวเรือนรับประโยชน์ 5,320 ครัวเรือน พื้นที่รับประโยชน์ 30,990 ไร่ ปริมาณน้ำเพื่อการเกษตรเพิ่มขึ้น 23.7 ล้านลูกบาศก์เมตร

 

ทั้งนี้ได้งบประมาณลงทุน 48.8 ล้านบาท คาดการณ์รายได้เกษตรกร 217 ล้านบาท เฉลี่ยรายได้เพิ่มขึ้น 7,000 บาท/ไร่ หรือ 3,400 บาท/เดือน คิดเป็นรายได้ต่อปีเทียบเงินลงทุนเท่ากับ 4.45 เท่า

 

            ช่วงที่ 2 ได้เวลาออกเที่ยวอีกทริป ชวนกันมา More Fun “ชุมชนท่าระแนะ-ไหว้ศาลหลักเมือง-ชมศูนย์เรียนรู้ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเรือนจำชั่วคราวเขาระกำ” จังหวัดตราด ส่วนผู้สูงวัย บอกไว้ก่อนไม่อยากแก่เร็วต้องเลิกกิน “ไขมันเลว-น้ำตาล-โซเดียม” มากเกินความจำเป็น และข่าวโปรแรง ๆ เพียบ จากโรงแรม สายการบิน เปิดต้อนรับแพกเกจเราเที่ยวด้วยกัน “AWC” โรงแรมเครือเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ลดราคาห้องพักทั่วไทย 16 โรงแรม 50 % “บางกอกแอร์เวย์ส” กระหน่ำขาย E-gift Card ลดเกือบ 30 % พร้อมร่วมมหกรรมขาย โปรปลดล็อกสมุย ตั๋วเครื่องบินลดกว่า 50 % และ “สวนน้ำรามายณะ” ฉลองได้รับมาตรฐาน SHA เปิดให้ผู้สูงอายุเที่ยวฟรีวันนี้-30 กันยายน 2563

 

More Fun ชุมชนท่าระแนะแวะไหว้ศาลหลักเมือง จ.ตราด

วางแผนการออกเดินทางให้พร้อมจะไปเที่ยวด้วยกันที่ “จังหวัดตราด” แหล่งท่องเที่ยว “ชุมชนท่าระแนะ” ดินแดนมหัศจรรย์ลานตะบูนรอต้อนรับทุกคน ความสวยเหนือจินตนาการเมื่อชาวบ้านจัดเรือบริการพานักท่องเที่ยวลัดเลาะชมรากไม้ไขว้กันไปมา ลอดซุ้มตะบูนเขียว ร่มรื่น อากาศสดชื่น ระหว่างล่องเรือก็มีกิจกรรมให้ทำเพลิน ๆ กับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เพราะรากตะบูนขนาดมหึมาสามารถขึ้นไปเดินได้โดยไม่ต้องกลัวตกลงไปในน้ำ เป็นประสบการณ์วิถีถิ่น ไปครั้งใดก็ได้รับสิ่งดี ๆ กลับมา

 

แล้วก็วกเข้าเมืองกราบสักการะ “ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองตราด” ซึ่งมีสถาปัตยกรรมดึงดูดสายตา ได้รับอิทธิพลมาจากจีน ศาลแห่งนี้สร้างขึ้นตามดำริของสมเด็จเพราะเจ้าตากสินมหาราช นักท่องเที่ยวที่มากราบไหว้ ขอพร จะได้สมปรารถนา เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต

 

อีกแห่งที่ขอนแนะนำคือ “ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเรือนจำชั่วคราวเขาระกำ” สถานที่ซึ่งเปิดโอกาสให้คนทำผิดหรือนักโทษชั้นดีได้มาเรียนรู้ ฝึกอาชีพ กับ “วิถีชีวิตพอเพียงตามรอยพ่อ” มีทั้งการปลูกผัก ผลไม้ แปรรูปผลผลิต เลี้ยงสัตว์ นำวิชาต่าง ๆ ไปประกอบอาชีพหลังพ้นโทษได้อย่างมีความสุข

 

สำหรับตราดเป็นเมืองทะเล มีเกาะช้าง เป็นไฮไลต์ โดยทั่วไปในแต่ละสถานที่สามารถท่องเที่ยวแบบ More Food &Fun ได้ตลอดทั้งปี

 

แนะผู้สูงวัยเลี่ยงกินไขมันเลว-น้ำตาล-โซเดียมตัวเร่งให้แก่เร็ว

 

อาหารเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เรามีชีวิตอยู่ได้ เพราะร่างกายจะได้รับพลังงานและสารอาหารต่างๆ จากอาหารที่ได้รับเข้าสู่ร่างกาย สำหรับวัย ผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นช่วงวัยที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มีความต้องการพลังงานลดลงจากวัยผู้ใหญ่ เนื่องจากปริมาณมวลกล้ามเนื้อน้อยลง มีอัตราการเผาผลาญอาหารต่ำกว่าเดิม แต่ความต้องการสารอาหารอื่นๆ รวมทั้งวิตามินและเกลือแร่ยังไม่ลดลง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคำนึงถึงคุณภาพของอาหาร โดยเน้นทานอาหารที่พลังงานต่ำแต่มีสารอาหารครบถ้วน

 

จึงขอแนะนำผู้สูงอายุเลือกและหลีกเลี่ยงการกิน “ไขมันเลว -น้ำตาล-โซเดียม” เกินปริมาณ เพราะ

 

ไขมันเลว -ทำให้เกิดไขมันสะสมในกระแสเลือด เกิดภาวะคอเลสเตอรอลในเลือดสูง นำไปสู่การเกิดโรคเกี่ยวกับระบบหลอดเลือดและหัวใจได้ หากทานสะสมไปมาก ๆ นอกจากนี้ยังทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นง่าย รวมถึงเกิดภาวะท้องอืดท้องเฟ้อได้อีกด้วย ชาวสูงวัยควรหลีกเลี่ยงอาหารที่เต็มไปด้วยไขมันอิ่มตัวสูง เช่น ไขมันจากเนื้อสัตว์ กะทิ แล้วหันมาเลือกทานอาหารที่มีไขมันที่ดีแทน ที่พบได้มากในอาหารประเภท  ปลาทะเล ถั่วและธัญพืชต่างๆ อะโวคาโด น้ำมันพืชบางชนิด เช่น น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันผสมตามสัดส่วนเหมาะสม ซึ่งผู้สูงอายุควรได้รับในแต่ละวัน 30 %ของพลังงานที่ได้รับต่อวันหรือน้ำมัน 3 ช้อนโต๊ะ 

 

น้ำตาล -เป็นอาหารที่ให้พลังงานสูงไม่แพ้ไขมัน และเมื่อร่างกายได้รับในปริมาณมากเกินไป จะทำให้ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญได้หมด แล้วน้ำตาลจะเปลี่ยนเป็นไขมันและเกิดการสะสมในร่างกายต่อไป และที่สำคัญอาหารปริมาณน้ำตาลที่มากเกินไปนำไปสู่การเกิดโรคอย่างเบาหวาน โรคอ้วน ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดหัวใจตีบ ไขมันในเส้นเลือดสูง และโรคหัวใจได้ ดังนั้นในแต่ละวัน ผู้สูงอายุ ไม่ควรบริโภคน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชา หลีกเลี่ยงการกิน ไอศกรีม กาแฟ ชานมไข่มุก  น้ำอัดลม และผลไม้ที่มีรสหวาน เช่น มะม่วงสุก ทุเรียน ลิ้นจี่ ลำไย เป็นต้น ควรจำกัดปริมาณกินไม่เกินวันละหนึ่งกำมือ 

 

โซเดียม -ได้รับโซเดียมมากไป จะเร่งให้เกิดภาวะการเสื่อมของไตเร็วขึ้น ทำให้เกิดไต รวมไปถึงโรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจและหลอดเลือด ดังนั้นผู้สูงอายุควรเลือกทานอาหารที่ปรุงสดใหม่ ไม่ผ่านการแปรรูป เช่น แฮม เบคอน อาหารกระป๋อง ไส้กรอก ขนมขบเคี้ยว อาหารหมักดอง เป็นเต้น เพราะในขั้นตอนการแปรรูปอาหารจะมีการเติมโซมเดียมเข้ามาในปริมาณมาก จึงควรจำกัดปริมาณซอสปรุงรสชนิดต่างๆ และน้ำปลา หรือเปลี่ยนมาใช้ซอสปรุงรสและน้ำปลาประเภทโซเดียมต่ำ เพื่อควบคุมไม่ให้ปริมาณโซเดียมสูงสุดที่ได้รับในแต่ละวันเกิน 2,300 มิลลิกรัม หรือคิดเป็นเกลือป่นประมาณ 6 กรัม (1 ช้อนชา) 

 

ข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก โรงแรมAWCดัน16แห่งทั่วไทยเทโปรห้องโกยเราเที่ยวด้วยกัน

โรงแรมในเครือของไทยเบฟของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ภายใต้แบรนด์ Asset World Corporation : AWC ทั่วเมืองไทย 16 แห่ง ประกาศจัดแคมเปญต้อนรับแพกเกจ “เราเที่ยวด้วยกัน” ด้วย 2 แคมเปญใหญ่ ลดสูงสุด 50 % ข้อเสนอสุดพิเศษ กับ “THAI HOLIDAYS LIFESTYLE” ห้องพักราคาเริ่มต้นเพียง 4,999++ บาท ตั้งแต่ 2 คืนขึ้นไป กับราคา 9,999++ บาท พักตั้งแต่ 4 คืนขึ้นไป หรือ 2 คืนในการจองพักห้องลักซ์ชูรี รีสอร์ท

 

โดยได้จัดทำข้อเสนอพิเศษเพื่อส่งเสริมโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เมื่อจองพักโรงแรมในเครือจาก AWC ที่ร่วมสนับสนุนโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ให้ส่วนลดห้องพักสูงสุด 50% จากราคาห้องพักปกติ พร้อมด้วยส่วนลดเมื่อใช้บริการห้องอาหาร สปา ในโรงเรียน ลด 20% เปิดให้จองได้ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2563 - 31 ตุลาคม 2563 เพื่อรับสิทธิประโยชน์ตรงจากโรงแรมและสิทธิ์ร่วมกับแพกเกจรัฐบาลเราเที่ยวด้วยกัน

1.ส่วนลดราคาห้องพัก 50% เมื่อเข้าพักในช่วงเดือนกรกฎาคม ถึง สิงหาคม 2563

2.รับส่วนลดราคาห้องพัก 30% เมื่อเข้าพักในช่วงเดือนกันยายน ถึง ตุลาคม 2563

 

ข่าวที่สอง สวนน้ำรามายณะฉลองตราSHAให้ผู้สูงวัยเที่ยวฟรีถึง30ก.ย.63

สวนน้ำรามายณะ พัทยา รายงานว่า เป็นสวนน้ำแห่งแรกของไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย  ในโครงการ Amazing Thailand Safety And Health Administration : SHA จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงได้จัดโปรโมชั่นฉลอง ด้วยการเปิดให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เข้าฟรีเพื่อไปใช้บริการท่องเที่ยวได้ทุกวันศุกร์   วันเสาร์ และ วันอาทิตย์ เวลา 11:00 - 18:00 น. ตั้งแต่วันนี้- 30 กันยายน 2563

สอบถามรายละเอียดเพิ่มที่ www.facebook.com/RamayanaWaterParkThailand

 

ข่าวที่สาม บางกอกแอร์อัดโปรแรงอี-กิฟท์การ์ดบินในไทย-ต่างประเทศ

บางกอกแอร์เวย์สจับมือช้อปปี้ จัดโปรโมชั่นต้อนรับปลดล๊อคดาวน์  เสนอบัตรของขวัญ (E-Gift Card) ราคาพิเศษมูลค่า 1,000 บาท ในราคาเพียง 799 บาท ระหว่างวันที่ 5-7 กรกฏาคม 2563 เพื่อนำไปใช้แทนเงินสดในการซื้อตั๋วเครื่องบินขบางกอกแอร์เวย์สได้ทุกเส้นทางทั้งในและต่างประเทศ ซื้อบัตรของขวัญอิเล็กทรอนิกส์และอ่านรายละเอียดเพิ่มได้ทางเว็บไซต์ https://shopee.co.th/bangkokair

 

รวมทั้งยังได้ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสมาคมท่องเที่ยวเกาะสมุย จัดงาน “โปรปลดล็อค เที่ยวสมุยกันต่ะ” เพื่อโปรโมทการท่องเที่ยวเกาะสมุยและเกาะใกล้เคียง ขายตั๋วและแพกเกจท่องเที่ยวราคาพิเศษ ระหว่างวันที่ 3-5 กรกฎาคม 2563 ณ ลานเอเดน (Eden) ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

 

ภายในงานวันนี้รีบไปซื้อได้เลย มีโปรโมชั่นตั๋วราคาพิเศษไป-กลับ สมุย ได้แก่ กรุงเทพฯ – สมุย เริ่มต้นเที่ยวละ 1,990 บาท ภูเก็ต –  สมุย เริ่มต้นเที่ยวละ 1,990 บาท (สามารถใช้เดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2563 – 27 มีนาคม 2564) และเชียงใหม่- สมุย ราคาเริ่มต้นเที่ยวละ 2,900 บาท (ใช้เดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 – 27 มีนาคม 2564)

 

ราคาดังกล่าวไม่รวมภาษีสนามบินและค่าธรรมเนียมอื่นๆ อีกทั้งบางกอกแอร์ได้มอบสิทธิประโยชน์พิเศษแก่ผู้โดยสาร (เด็กที่มีอายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไปและผู้ใหญ่) โดยเพิ่มน้ำหนักสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องให้ผู้โดยสารที่เดินทางภายใน 31 ตุลาคม 2563 จากปกติ 20  เป็น 40 กิโลกรัม

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai