มูลนิธิปิดทองหลังพระเสือปืนไวปั้น”กาฬสินธุ์โมเดล”ฟื้นเศรษฐกิจฐานราก โชว์ต้นแบบก่อนเงินกู้4แสนล้านพัฒนาอาชีพยกระดับชุมชนยั่งยืน
มูลนิธิปิดทองฯเสือปืนไวปั้น”กาฬสินธุ์โมเดล”ฟื้นเศรษฐกิจฐานราก
โชว์ต้นแบบก่อนเงินกู้4แสนล้านพัฒนาอาชีพยกระดับชุมชนยั่งยืน
คิงเพาเวอร์เปิดช่องทางใหม่ใช้แต้มบัตรกสิกรไทยสมัครสมาชิก 1 ปี
คิงเพาเวอร์จัดโปรไม่ยั้งอาหารญี่ปุ่น-ห้องพักมื้อเช้าฟรีราคาเซฟสุดๆ
ททท.ดัน“สัตหีบเมืองต้นแบบเที่ยววิถีใหม่”หลังได้รับมาตรฐานSHA
ททท.โตเกียวผนึกKALDIดึงเครือข่าย540รีเทลนำอาหารบูมเที่ยวไทย
ททท.กาญจน์โหมAmazing Billใช้ใบเสร็จแลกส่วนลดที่พัก20โรงแรม
บางจากให้ใช้999แต้มรับส่วนลดแลกซื้อแก้วทัมเบลอร์ที่ร้านอินทนิล
มูลนิธิปิดทองฯเร่งโปรเจ็กต์ปรับปรุงแหล่งน้ำปันสุขให้ชาวกาฬสินธุ์
เที่ยวดินแดน“หมื่นปีเมืองน่าน”วิถีใหม่สวยเลือกได้4สถานที่งาม4มิติ
กรมการแพทย์แนะให้ระวัง“โซเดียม”ภัยเงียบจากการกินของอร่อย
4โลว์คอสต์แอร์ไลน์สเทโปรโมชั่นชิงเค้กกำลังซื้อ”เราเที่ยวด้วยกัน”
สวนสามพรานเปิดที่พักเรือนไทยก.ค.นี้-ห้องพักริมน้ำเปิด1ส.ค.63
บินไทยตั้งผู้บริหารร่วมSurvival Teamเทสมองทำแผนธุรกิจเร่งด่วน
อินฟอร์มาโชว์เคสจัดไมซ์ไฮบริดนำบีเพลสลุยโพรแพ็คเอเชีย2020
ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เที่ยวกับกู๋
สุรจิต นามน้อย
หัวหน้าโครงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฐานรากเพื่อบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 มูลนิธิปิดทองหลังพระ
ช่วงที่ 1 เกาะติดมูลนิธิปิดทองเสือปืนไว “สุรจิต นามน้อย” หัวหน้าโครงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฐานรากเพื่อบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 มูลนิธิปิดทองหลังพระ ลงมือทำเร็ว
“กาฬสินธุ์โมเดล” ฟื้นอาชีพลุยจ้างงานชุมชนฐานรากหลังโควิด ชูโปรเจ็กต์ Area
Base
พัฒนาพื้นที่เชิงประยุกต์ตามแนวพระราชดำริสร้าง “แหล่งน้ำ” ต่อยอดอาชีพเกษตรให้คนว่างงานพึ่งพาตนเองได้
ตามสูตร “4 ประสาน 3
ประโยชน์”
ภายใน 90 วัน ทำได้ถึง 37
โครงการ
ปูพรมให้ชุมชนสานต่อขอแบ่งงบเงินกู้ 4
แสนล้านถึงมือชาวบ้านนำมาต่อยอดพัฒนาส่วนที่เหลือมุ่งเน้นสร้างความยั่งยืนอย่างแท้จริง
นายสุรจิต
นามน้อย หัวหน้าโครงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฐานรากเพื่อบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 จ.กาฬสินธุ์ มูลนิธิปิดทองหลังพระ เปิดเผยว่า
การดำเนินงานในภาพรวมของโครงการทางมูลนิธิปิดทองหลังพระ
ได้ตระหนักถึงปัญหาใหญ่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และปัญหาภัยแล้ง ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
กระทบต่อรายได้และอาชีพลูกหลานคนในจังหวัดต่าง ๆ
โดยเฉพาะเด็กจบใหม่การหางานหาอาชีพยากลำบากขึ้นกว่าเดิม
ทางมูลนิธิปิดทองหลังพระจึงเดินหน้าทำ
“โครงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฐานรากเพื่อบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19”
ขึ้นเพื่อดูแลผลกระทบภาวะการว่างงานและการจ้างงาน ซึ่งทางมูลนิธิฯ จัดทำอยู่แล้ว โดยเพิ่มโจทย์ใหม่เข้าไปทำในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
3 จังหวัด ได้แก่
ขอนแก่น กาฬสินธุ์ อุดรธานี น้อมนำแนวพระราชดำริความพอเพียง
ให้เกิดการขยายผลด้วยส่วนหนึ่ง
ตามเป้าหมายแผนงานคือ
1.ต้องการช่วยคนตกงานมีรายได้ช่วงที่มาทำงานกับโครงการ
2.การวางแผนดำเนินงานหลัก
ๆ นำพื้นที่ต้นแบบ 3 จังหวัดเป็นเป้าหมาย
ด้วยการจัดลักษณะการทำงานในชนบทพื้นที่เชิงประยุกต์ตามแนวพระราชดำริ หรือ AREA
BASE เริ่มจาก
แหล่งน้ำ ซ่อมเสริมประยุกต์ การต่อยอด การเกษตรหลังมีน้ำแล้ว การประกอบอาชีพ
เพื่อให้เกษตรกรมีอาชีพทำได้ตามหลักทฤษฎีใหม่ ซึ่งต้องการให้ชาวบ้านหรือคนรุ่นใหม่ซึ่งว่างงานพึ่งพาตนเอง
ได้นำโมเดล
4 ประสาน 3
ประโยชน์
เนื่องจากมูลนิธิปิดทองหลังพระไม่สามารถทำงานได้โดยลำพังจะต้องประสานกับหน่วยงานอื่น
คือ 1.หน่วยงานราชการ
จังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2.ภาคเอกชน
เข้ามาช่วยด้านเทคโนโลยีและการตลาด 3.ภาคประชาชน
4.มูลนิธิปิดทองหลังพระ
คอยทำหน้าที่ประสานกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและหสกรณ์ เป็นหลัก
เพราะเกี่ยวข้องโดยตรง
พอผู้ใหญ่เข้าใจแล้ววางแนวทางให้ระดับจังหวัดลงมาทำความเข้าใจกันถึงเป้าหมายและวัตถุประสงค์
จากนั้นผู้ว่าราชการทั้ง 3 จังหวัด
ก็ได้มาทำความเข้าใจกับหน่วยงานภายในจังหวัด ตั้งคณะกรรมการระดับท้อถิ่น
อำเภอและจังหวัดขึ้นมาติดตามรับผิดชอบในพื้นที่ที่จัดทำโครงการ
จากนั้นก็ดึงเอกชนกลุ่มหอการค้าเข้ามาร่วม
เพื่อให้รู้ถึงวัตถุประสงค์โครงการทำอะไรบ้างในระยะสั้น ๆ
3 ประโยชน์
ประกอบด้วย 1.การจ้างงาน
ซึ่งได้กำหนดเกณฑ์ เช่น คนตกงานกลับจากกรุงเทพฯ มาอยู่บ้าน
นำฐานข้อมูลของอำเภอมาคัดเลือกเป็นอาสาพัฒนาและให้ค่าตอบแทนที่เสียสละมาทำงานส่วนนี้
2.เยาวชนหรือคนในหมู่บ้านได้เรียนรู้
นำแนวพระราชดำริไปต่อยอด 3.ภาครัฐเมื่อเข้ามาทำงานร่วมกันก็จะมีแผนพัฒนาต่อยอดพร้อมรับมอบโครงการนี้ไปดำเนินการอย่างยั่งยืน
นายสุรจิตกล่าวว่า
พอครบ 3 เดือน
ระหว่างนี้ใช้โมเดล “แหล่งน้ำ” เป็นตัวตั้ง
แล้วใช้ข้อที่นำมาจากกรมชลประทานต่อยอดไปให้ยังท้องถิ่นตามเป้าหมายของโครงการ
เรียกว่า “โครงการชลประทานถ่ายโอน ในจังหวัดกาฬสินธุ์มีทั้งหมด 167 โครงการ ดังนั้นมีการลงพื้นที่ตั้งแต่เดือนมีนาคม
2563 เพื่อสำรวจโครงการ
พบว่าแบ่งออกเป็น 6 ประเภท
โดยมีที่เข้าเกณฑ์เป็น ส่วนที่ 1“ชำรุดทรุดโทรม”
ชาวบ้านสามารถมีส่วนร่วมได้ แต่ถ้าขุดลอกปกติจะไม่เข้าเกณฑ์ ส่วนที่ 2 มีแหล่งน้ำอยู่แล้ว โครงการถ่ายโอนสมบูรณ์อยู่แล้ว
แต่ขาดระบบการกระจายน้ำหรือดึงน้ำไปใช้ประโยชน์ มูลนิธิปิดทองจะเข้าไปเสริม
ประเภทนี้อยู่ในเป้าหมายของเราที่จะเข้าไปช่วยทำการถ่ายโอน มีเข้าเกณฑ์ 47 โครงการ ทางปิดทองหลังพระ ร่วมกับอำเภอ
และพัฒนาชุมชน ร่วมกันใช้เวลาสำรวจ 2 สัปดาห์
พาไปดูแล้วเสนอโครงการว่าต้องการทำอะไร
ใน 47 โครงการที่สำรวจพบ มีเสนอขอทำ 26 โครงการ เนื่องจากใช้เวลาสำรวจแล้วทางอำเภอกับชุมชนเสนอรายละเอียดเข้ามา ต้องประกอบด้วย 1.ปัญหาของแหล่งน้ำเหล่านั้น แบบแพลน ก่อสร้าง ซ่อมเสริม จากเทศบาลตำบล 2.การทำประชาคมให้ชาวบ้านเข้าใจพร้อมจะทำงานร่วมกัน 3.ข้อมูลผู้ว่างงาน โดยจัดทำเป็นข้อมูลตั้งต้นที่คัดกรองจาก 47 เหลือ 26 โครงการ นำเสนอทำเป็นเฟสที่ 1
ต่อมาเมื่อผ่านการคัดเลือกแล้วก็เสนอทางผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์อนุมัติโครงการ
เพื่อพิจารณาด้วยตัวเอง สำหรับที่เหลือตกหล่น 21 โครงการ เปิดโอกาสให้เสนอเข้ามาเป็นเฟส 2 อีก 11 โครงการ
สรุปแล้วจังหวัดกาฬสินธุ์จึงมีโครงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฐานรากเพื่อบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 รวมเฟส 1-2 จำนวน 37 โครงการ ตอนนี้อยู่ในช่วงพัฒนาโครงการ และลงมือทำแหล่งน้ำเสร็จแล้ว 20 โครงการ อีก 6 โครงการ กำลังเร่งให้แล้วเสร็จ
คาดการณ์กลางเดือนกรกฎาคม 2563 จะเสร็จทั้งหมดส่วนการจ้างงานจากโครงการนี้
สามารถจ้างเยาวชน 130 คน
แบ่งการจ้างเป็น 2 ลักษณะ คือ 1.พนักงานประสาน โครงการ จบปริญญาตรียังไม่มีงานทำ จ้าง 15,000 บาท/คน 2.อาสาสมัครไม่ได้จบปริญญาตรี หรือชาวบ้านทั่วไป
จ้างอัตรา 323 บาท/คน/วัน มูลค่าของโครงการของกาฬสินธุ์ รวม 21 ล้านบาท
นายสุรจิต
กล่าวว่าโมเดลสร้างงานหลังโควิด-19
ของกาฬสินธุ์ ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้ตั้ง ส่วนแรก คณะกรรมการพัฒนาแหล่งน้ำ 37
โครงการ ส่วนที่สอง
ตั้งคณะกรรมการเกษตรจังหวัดทำหน้าที่วางแผนต่อยอดทั้ง 37 โครงการ เพื่อส่งเสริมอาชีพ
ถ่ายทอดให้ชาวบ้านมีองค์ความรู้ใหม่ ๆ
เพื่อนำไปต่อยอดการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างไรต่อไป ปัจจัยการผลิต
ทางหน่วยงานเองมีแผนรองรับไว้แล้ว
ขณะนี้
ส่วนที่ 1 หน่วยงานราชการในพื้นที่มีแผนงานต่อยอดรองรับที่จะขับเคลื่อนเดินหน้าต่อไว้แล้ว
ส่วนที่ 2 การขยายผลในพื้นที่จังหวัดอื่น
ๆ จะเดินหน้า 1.ผลักดันเข้าโครงการเงินกู้
4 แสนล้านบาท 2.ปรับใช้ในกระบวนการกาฬสินธุ์โมเดลเพื่อแก้ภัยแล้งภายในแต่ละจังหวัด
เช่น อำเภอยางตละ มีโครงการในหลวงรัชกาลที่ 10 การแก้ปัญหาภัยแล้ว
ก็จะนำโมเดลของมูลนิธิปิดทองหลังพระที่ได้ทำในกาฬสินธุ์ไปปรับใช้กับโครงการที่มีอยู่แล้วในพื้นที่
3.ส่วนการขยายผลไปยังจังหวัดอื่น
ๆ ทางมูลนิธิปิดทองหลังพระจะถอดองค์ความรู้จากโมเดลระยะสั้นในกาฬสินธุ์
ทำออกมาก่อน จากนั้นจะหารือกับรัฐบาล หรือหน่วยงานเกี่ยวข้อง
เพื่อนำไปปรับใช้กับจังหวัดใดได้บ้าง
เนื่องจากความจริงแล้วทำโครงการระยะสั้น
ๆ เช่น กาฬสินธุ์ ใช้เวลา 3 เดือน
แต่ในทางปฏิบัติคงไม่ได้จบเพียงแค่ 3 เดือนอย่างแน่นอน
เพราะคนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อยอดให้เกิดความยั่งยืนได้
อาจจะต้องเติม องค์ความรู้ วิธีบริหารจัดการ เป็นระยะ ๆ ร่วมกัน
โดยมีคณะทำงานเป็นกลไกขับเคลื่อน
ขั้นต้นเราได้ทำ
“กระตุกต่อมคิด” แต่ความต่อเนื่องด้านการสนับสนุนที่จะทำให้ชุมชน ชาวบ้าน
มีที่ปรึกษา มีพี่เลี้ยง ในระยะยาว เป็นเรื่องสำคัญมาก
นายสุรจิตกล่าวทิ้งท้ายว่า
โดยสรุปแล้วการเสนอโครงการที่ยังคงค้างอยู่แล้วจะเสนอใช้เงินกู้ 4 แสนล้านบาท นั้น
ทางจังหวัดเสนอไปยังรัฐบาลก็จะต้องรอติดตามว่าจะได้รับการพิจารณาโครงการใดเพิ่มเติมบ้าง
แต่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ไม่ได้รอเงินแต่ให้คณะกรรมการด้านการเกษตรนำแนวทางไปปรับใช้ได้ทันที
โครงการใดงบประมาณฟังก์ชั่นของจังหวัดอยู่แล้วก็ให้นำโมเดลไปปรับเข้ากับส่วนอื่น ๆ
ลงมือทำทันทีเพื่อให้สอดคล้องทันสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นแล้ว
เพราะจะกระทบต่อท้องถิ่นไปอีกนานหลายปี
ข่าวที่ 1 คิงเพเวอร์เปิดช่องทางใหม่ใช้แต้มบัตรกสิกรไทยสมัครสมาชิกได้
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ รายงานว่า ร่วมกับบัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย เปิดให้ใช้วิธี “แลกคะแนนบัตรเครดิต” สมัครสมาชิกบัตร “คิง เพาเวอร์” ได้ ระหว่างวันนี้ – 31 ธันวาคม 2563 โดยใช้ทุก 1,000 คะแนน = 100 บาท สมัครได้ที่จุดบริการสมาชิก คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และมหานคร ซึ่งจะต้องเป็นลูกค้าคนไทยที่สมัครสมาชิกใหม่ หรือสิ้นสุดสถานะการเป็นสมาชิกแล้วเท่านั้น และบัตรนี้จะมีอายุ 1 ปี นับจากวันที่สมัคร
วิธีแลกคะแนนเป็นบัตรสมาชิกทำได้ดังนี้
1.ลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย สามารถแลกคะแนนแทนมูลค่าเงินในการสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ เฉพาะบัตรหลักเท่านั้น (จำกัดการสมัครสมาชิก 1 ท่าน / หมายเลขบัตรเครดิต / ตลอดรายการ) กรณีลูกค้าถือบัตรเครดิตมากว่า 1 ประเภท สามารถเลือกใช้คะแนนจากบัตรเครดิตได้ 1 ใบเท่านั้น
2.สงวนสิทธิ์ในการสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ สำหรับลูกค้าที่มีชื่อตรงกันกับบัตรเครดิตเท่านั้น 3.จำกัดการแลกคะแนนขั้นต่ำทุก 1,000 คะแนนมีมูลค่าเท่ากับ 100 บาท 4.คะแนนสะสมที่แลกแล้ว ไม่สามารถเรียกคืนได้ไม่ว่ากรณีใดทั้งสิ้น 5.คะแนนสะสมไม่สามารถยกเลิก / แลกคืน / แลกเปลี่ยน หรือทอนเป็นเงินสดได้
6.บริษัทฯ และธนาคารฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลง เงื่อนไข ข้อกำหนด และยกเลิกรายการส่งเสริมการขายนี้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า หากมีข้อพิพาท คำตัดสินของบริษัทฯ และธนาคารฯ ถือเป็นที่สิ้นสุด
การใช้คูปองส่วนลด On-Top
:
1.โปรโมชั่นนี้สำหรับการสมัครสมาชิกใหม่เท่านั้น 2.คูปองส่วนลดนี้หมดอายุภายในวันที่สมัครสมาชิกเท่านั้น
3.ส่วนลดสมาชิก คิง เพาเวอร์ และคูปอง On-Top สามารถใช้ได้ที่ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา
เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ (ไม่สามารถใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าออนไลน์)
โปรดตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม ณ จุดขาย และใช้ร่วมกับส่วนลดสมาชิก
4.คูปอง On-Top 1 ใบ สำหรับการซื้อสินค้าต่อ 1 ใบเสร็จรับเงิน เท่านั้น 5.คูปองนี้ไม่สามารถใช้ร่วมกับแผนกน้ำหอม เครื่องสำอาง สุรา และบุหรี่ แลกคืนหรือทอนเป็นเงินสดไม่ได้ ไม่สามารถใช้ร่วมกับรายการ Birthday Celebration, Gift Voucher, Cash Voucher, ยอดเงินในบัญชีสมาชิก, E Cash, Cash Card, Gift Card และคูปองส่วนลดทุกประเภท ยกเว้นยอดเงินในบัญชีสมาชิกที่ได้รับจากการสมัครสมาชิก และไม่สามารถใช้ร่วมกับคูปองส่วนลดอื่นๆ ของสมาชิก และใบเสร็จการรับส่วนลดจากคูปองนี้แล้วไม่สามารถนำไปรับสิทธิประโยชน์จากโปรโมชั่นอื่น ๆ ได้
ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์เสิร์ฟอาหารญี่ปุ่น-ห้องพักราคาสบายกระเป๋า
จองออนไลน์ลด 30% กับชุดอาหารญี่ปุ่น 4
คอร์สสำหรับมื้อค่ำที่ห้องอาหารเท็นชิโนะ ราคา 1,990 บาทสุทธิต่อชุด ณ ห้องอาหารเท็นชิโนะ
เราขอนำเสนอชุดอาหารญี่ปุ่นที่เป็นเอกลักษณ์อย่างแท้จริงสำหรับมื้อค่ำโดยใช้วัตถุดิบสดใหม่ที่นำเข้าโดยตรงจากประเทศญี่ปุ่นและฝรั่งเศส
ครั้งนี้เราได้สร้างเมนูชุด 4
คอร์สใหม่ในสไตล์อาหารญี่ปุ่นอย่างไม่น่าเชื่อที่รวมถึงอาหารเรียกน้ำย่อย ซุป
อาหารจานหลัก และของหวาน โดยรสชาติความรู้สึกแบบใหม่และน่าตื่นเต้น
มั่นใจได้ว่าถ้ารับประทานอาหารสุดพิเศษเหล่านี้จะเสมือนไปทานที่ประเทศญี่ปุ่น
สามารถสำรองที่นั่งออนไลน์ เปิดทุกวันอังคาร – วันเสาร์
ตั้งแต่เวลา 18.00 น. – 23.00 น.
อีกทั้งยังเปิดออนไลน์ให้จอง เพื่อมาลิ้มลองเมนู “อิ่มอร่อยกับชุด TAPAS/ทาปาส” ที่ห้องอาหารควิซีน อันปลั๊ก ราคาเริ่มต้นเพียง 550 บาทสุทธิ/ชุด 7 วัน 7 ชุด มื้อกลางวัน 12.00 น. – 14.00 น.ราคา 480 บาทสุทธิต่อชุด – 8 จาน มื้อค่ำ 18.00 น. – 20.00 น. ราคา 550 บาทสุทธิ/ชุด – 10 จาน สมาชิกคิง เพาเวอร์ และแอคคอร์ พลัส รับส่วนลด 10%
พร้อมทั้งมี“ห้องพักพร้อมอาหารเช้า” ราคา 1,499 สุทธิบาท/ห้อง/คืน จองออนไลน์ได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 31 สิงหาคม 2563 สามารถใช้พักได้วันนี้ – 30 กันยายน 2563 กับข้อเสนอที่พักพร้อมอาหารเช้าฟรีที่ห้องอาหารของโรงแรมพร้อมบริการฟรีอินเทอร์เน็ตไร้สาย (Wi-Fi) ทำให้วันหยุดของคุณอร่อยพิเศษกว่าทุกๆ วัน จองได้โดยตรงผ่านทางเว็บไซต์
ข่าวที่ 3 ททท.ดันสัตหีบเมืองต้นแบบเที่ยววิถีใหม่หลังรับSHA
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด และนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกันเปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ร่วมมือกับทาง พลเรือโท ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ และผู้อำนวยการศูนย์การท่องเที่ยวกองทัพเรือ นายผล ดำธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดตัวโครงการ “สัตหีบเมืองต้นแบบ ท่องเที่ยววิถีใหม่ New Normal” สนับสนุนเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และเป็นต้นแบบแหล่งท่องเที่ยว ที่มุ่งเน้นให้บริการตามแนววิถีใหม่ (New Normal) หลังได้รับตราสัญลักษณ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยและสุขอนามัย (Amazing Thailand Safety and Health Administration หรือ SHA) ซึ่งจะช่วยตอกย้ำสร้างความเชื่อมั่น ให้ประชาชนสนใจหันกลับมาออกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศอีกครั้ง หลังจากสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลายลงเริ่มเข้าสู่ช่วงปลอดภัยมากขึ้น
ภายในอำเภอสัตหีบ มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายให้นักท่องเที่ยวเลือกได้ตามความชอบ โดยเฉพาะศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล อยู่ภายใต้การดูแลของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและ รักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) และเกาะแสมสาร จะสามารถสร้างเป็นไฮไลต์ชูโรงการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ ททท.พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ ทุกการเดินทางต้องสร้างจิตสานึกดูแลรักษาธรรมชาติ ปัจจุบันได้การรับรองตราสัญลักษณ์มาตรฐาน SHA ประเภทนันทนาการและสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการแล้ว
ข่าวที่ 4 ททท.โตเกียวผนึกKALDIดึงรีเทล540แห่งชูอาหารบูมเที่ยวไทย
นายเสกสรร ศรีไพรวรรณ ผู้อำนวยการ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงาน โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ได้หารือกับผู้ประกอบการในญี่ปุ่น
วางกลยุทธ์การจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยวภายหลังจากเหตุการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย เพื่อช่วยกันรักษาภาพลักษณ์ไทยให้ยังคงเป็น
Top of Mind ครองใจตลาดญี่ปุ่น จึงร่วมกับ KALDI ซึ่งเป็น Grocery รายใหญ่ของญี่ปุ่น ซึ่งมีร้านรีเทลทั่วญี่ปุ่นกว่า
540 ร้าน นำผลิตภัณฑ์ประเภทอาหาร เมล็ดกาแฟ เครื่องปรุง
เครื่องเทศ ตลอดจนอาหารกึ่งสำเร็จรูปจากไทยและต่างประเทศมาวางจำหน่าย ภายใต้แนวคิด “Buy Thai products (of KALDI), visit Thai”
วางแผนจัดกิจกรรมเผยแพร่ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ออนไลน์และ
SNS ของ KALDI และคอนซูมเมอร์อีเวนท์ ตามปฏิทินกิจกรรมเบื้องต้นไว้ดังนี้
1.ผู้ที่ซื้อสินค้าหรือผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีสิทธิ์ส่งชื่อร่วมสนุกลุ้นชิงโชคแพ็กเกจทัวร์เที่ยวไทย
ในรูปแบบ Travel
flexibility
2.ผู้ที่ซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านเว็บไซต์มูลค่า 2,000 เยนขึ้นไป มีสิทธิ์ส่งชื่อร่วมสนุกลุ้นชิงโชคแพ็กเกจทัวร์เที่ยวไทย
(Gourmet tour)
3.พนักงานของทางร้านแนะนำสูตรอาหารไทยเลือกใช้วัตถุดิบซึ่งเป็นสินค้าของทางร้าน KALDI แล้ววางแผนโปรโมตผ่านออนไลน์และคอนซูมเมอร์อีเวนท์ ในรูปแบบ Thai Fair โดยมีไฮไลต์กิจกรรม ประกวดการทำอาหารไทยโดยใช้สินค้าไทยที่มีขายในร้าน KALDI ภายใต้ชื่อ Thai Cooking Experience with KALDI Products
ข่าวที่ 5 ททท.กาญจน์โหมอะเมซิ่งบิลใบเสร็จแลกส่วนลดห้องพัก20โรงแรม
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกาญจนบุรี รายงานว่า ได้ร่วมกับสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวกาญจนบุรี และโรงแรม-รีสอร์ทชั้นนำในจังหวัด 20 แห่ง ร่วมทำโครงการ "Amazing Bill : ใบเสร็จ = ส่วนลด เป็นครั้งแรกที่จะเปลี่ยนค่าใช้จ่ายเป็นส่วนลดเปิดให้นักท่องเที่ยวนำใบเสร็จรับเงินแลกรับส่วนลดค่าห้องพักได้ถึง 400 บาท / ห้อง / คืน จำนวน 1,000 ห้อง เริ่มแล้วตั้งแต่ 8 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นมา
สำหรับการใช้สิทธินำใบเสร็จรับเงินมาแลกเป็นส่วนลดค่าห้องพักได้ 400 บาท ตามเงื่อนไขดังนี้
1.นำใบเสร็จรับเงินค่าอาหาร-เครื่องดื่ม
จากร้านอาหาร ร้านกาแฟ คาเฟ่ ร้านของฝาก-ของที่ระลึก
รวมถึงค่าบัตรเข้าชมอุทยานแห่งชาติ และสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในจังหวัดกาญจนบุรี
ที่มีมูลค่าการใช้จ่ายรวมกันตั้งแต่ 400 บาทขึ้นไป มา
"แลกเป็นส่วนลด" ค่าห้องพักได้สูงสุด 400
บาท/ห้อง/คืน กับทางโรงแรม-รีสอร์ทที่เข้าร่วมโครงการ 20
แห่งเท่านั้น "ยกเว้น" การจองผ่าน OTA ต่าง
ๆ อาทิ Traveloka, Booking, Expedia และ Agoda และยกเว้นใบเสร็จของร้านแฟรนไชส์ขนาดใหญ่
ร้านแบรนด์เนมต่าง ๆ
2.นักท่องเที่ยวจะต้องแจ้งร้านค้าเขียนรายละเอียดในใบเสร็จรับเงินให้
"ครบถ้วนตามตัวอย่าง" ที่ปรากฏในภาพแบนเนอร์
จึงจะสามารถนำมาใช้สิทธิ์เป็นส่วนลดได้
3.หากยอดใช้จ่ายจากร้านค้าเดียวไม่ถึง 400
บาท สามารถรวมใบเสร็จจากต่างร้าน ต่างสถานที่กันไดh เช่น ใช้ใบเสร็จรับเงินค่าอาหาร 300
บาท + บัตรค่าเข้าชมอุทยานแห่งชาติ 100 บาท รวม 400
บาท
4.สามารถใช้ใบเสร็จย้อนหลังได้ไม่เกิน 3
วัน ก่อนถึงวันเข้าพัก เช่น หากเข้าพักคืนวันเสาร์
ใบเสร็จรับเงินที่นำมาใช้เป็นส่วนลดได้ คือใบเสร็จที่ออกในวันเสาร์, วันศุกร์
และวันพฤหัสบดี ก่อนเข้าเช็คอิน
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ททท.
สำนักงานกาญจนบุรี โทร. 034 511200 และ 034 512 500 ทุกวันจันทร์-ศุกร์
ระหว่างเวลา 08.30-16.30 น.
ข่าวที่ 6 บางจากให้ใช้999แต้มแลกซื้อแก้วทัมเบลอร์ที่ร้านอินทนิล
บริษัท
บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มอบสิทธิพิเศษสมาชิกบัตรบางจาก ใช้ 999
คะแนน แลกรับส่วนลด 250 บาท สำหรับซื้อ แก้วทัมเบลอร์
ที่ร้านอินทนิลที่ร่วมรายการ ยกเว้นสนามบินดอนเมือง
(สมาชิกชำระส่วนต่างเพิ่มตามราคาแก้วที่หน้าร้าน) กดรับสิทธิ์ตั้งแต่วันนี้- 31
ธันวาคม 2563 หรือจนกว่าสิทธิ์จะหมด
วิธีรับสิทธิ์
กด รับสิทธิ์ ผ่าน Bangchak REWARDS ทาง
Mobile Application หรือ เว็บไซต์
และแสดงรหัสบนหน้าจอมือถือกับพนักงานที่หน้าร้าน *แสดงรหัสเพื่อใช้สิทธิ์ ภายใน 30
นาที หลังจากกดรับสิทธิ์เท่านั้น
เงื่อนไข 1. กด รับสิทธิ์ ผ่าน Mobile Application หรือ เว็บไซต์ 2. จำกัด 2 สิทธิ์/หมายเลขสมาชิกและจำกัด 200 สิทธิ์ ตลอดแคมเปญ 3. แสดงรหัสเพื่อรับสิทธิ์ได้ที่ร้านอินทนิลที่ร่วมรายการ /จำกัดการใช้ 1 สิทธิ์ต่อ 1 ใบเสร็จ 4. ในกรณีที่กดแลกคะแนนรับสิทธิ์แล้ว ต้องนำมาใช้ก่อนรหัสหมดอายุเท่านั้น 5. หากสมาชิกทำ Code สูญหาย หรือ ลบข้อความ ไม่สามารถขอ Code ทดแทน หรือขอคืนคะแนนภายหลังได้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ Call Center 1651 (กด 4) เวลา 08.00-21.00 น.
ข่าวที่ 7 มูลนิธิปิดทองฯเร่งโปรเจ็กต์สร้างอาชีพรายวันปันสุขให้ชาวกาฬสินธุ์
นายสุรจิต นามน้อย หัวหน้าโครงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฐานรากเพื่อบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19
จ.กาฬสินธุ์ มูลนิธิปิดทองหลังพระ รายงานความคืบหน้า
การสร้างงานสร้างอาชีพในพื้นที่วันต่อวัน ตลอดสัปดาห์ที่ 1-12 กรกฎาคม
2563 มีรายงานผลการปฏิบัติงาน
ในพื้นที่โครงการ “ปลูกผักสวนครัวตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงด้วยระบบสูบน้ำพลังงานหมู่บ้าน.หนองแวงฮีหมู่
12.ตำบลคลองขาม อำเภอยางตลาด
เร่งลงมือใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำทำกิจกรรมสร้างงานสร้างอาชีพอย่างรวดเร็ว
ประกอบด้วย
วันที่ 7 กรกฎาคม ทางกลุ่มแปลงรวมเริ่มลงแปลงเพื่อปลูกผัก
พร้อมติดตั้งสปริงเกอร์ และทดสอบระบบน้ำ ระบบน้ำไม่พบปัญหา สามารถใช้งานได้ดี สามารถลงแปลงปลูกผัก ติดตั้งสปริงเกอร์
และทดสอบระบบน้ำ กิจกรรมเป็นไปตามเป้าหมาย
วันที่ 8 กรกฎาคม ทำกิจกรรม 1.ผู้รับผลประโยชน์นำไม้มาเพื่อปักหลักยึดท่อในแปลงเพาะปลูกของตัวเองและปลูกต้นไม้บริเวณแนวรั้วเพาะเมล็ดพันธุ์พืช ส่วนทางมูลนิธิปิดทองหลังพระเข้าไปให้คำปรึกษาหารือกับช่างเรื่องการสร้างโซล่าเซลล์ มีผู้ร่วมทำทั้งหมด24คน 2.โครงการ
ก่อสร้างระบบประปา หอถังสูงหมู่บ้าน คำมะโฮ หมู่ที่ 7 ตำบล คำเหมือดแก้ว อำเภอ
ห้วยเม็ก
วันที่ 11 กรกฎาคม ทำกิจกรรม 1.โครงการระบบส่งน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ที่
บ้านเหล่าใหญ่ หมู่ 6 อำเภอฆ้องชัย
2.ขุดดินวางท่อหลักและฝังกลบดินจนแล้วเสร็จสามารถใช้งานได้
3.ทำโครงการฝายห้วยปอ
(วังเฮือ) เทคอนกรีตผนังหูช้างและเข้าแบบผนัง ที่บ้านบัวสามัคคี หมู่ 12
ช่วงที่
2 ช่วยกันเที่ยวเมืองไทย ทำให้เศรษฐกิจกลับมาคึกคัก
ทริปดี ๆ ครั้งนี้แนะนำ “ดินแดนหมื่นปีเมืองน่าน” สวยเลือกได้จะไป
“แกรนด์แคนยอนเมืองปัว ที่วังศิลาแลง” หรือ “เสาดินนาน้อย”
พื้นที่ก้นทะเลอายุนับหมื่นปีที่วันนี้กลายมาเป็นประติมากรรมเสาหินบนยอดดอยสูง
หรือ “วัดนาวงศ์” และ “วัดหัวนา” เที่ยวตรงไหนก็งามแต๊แต๊
ขณะที่กรมการแพทย์แนะให้ระวังภัยเงียจาก “กินโซเดียมเพราะตามใจปาก”
พร้อมเกาะติดข่าว “4โลว์คอสต์”
ไทยแอร์เอเชีย-บางกอกแอร์-ไทยไลออนแอร์-ไทยเวียดเจ็ต”
อัดโปรโมชั่นต้อนรับแพกเกจรัฐบาลเราเที่ยวด้วยกัน “สวนสามพราน” เปิดแล้วจ้า
“ที่พักบ้านเรือนไทยริมทะเลสาบ” 7 หลัง
ตั้งแต่กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป
ส่วนห้องพักในตึกริมแม่น้ำรอจองได้ตั้งแต่ 1 สิงหาคม นี้ ปิดท้าย “ชาญศิลป์” รักษาการ DD ประกาศตั้ง Survival Team 2 ชุด
ช่วยกันทำแผนธุรกิจระยะเร่งด่วนก่อนถึงวันส่งการบ้านศาลล้มละลายกลาง 17 สิงหาคม 2563
เที่ยวดินแดนหมื่นปีเมืองน่านวิถีใหม่สวยเลือกได้4แห่ง4มิติ
ยิ่งออกเดินทางมากเท่าไร
ยิ่งได้เห็นโลกกว้างเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ในเมืองไทยมีอีกหลากหลายสถานที่หลายมุมต้องไปให้ถึงสักครั้ง ทริปนี้แนะนำ “4 สถานที่” ท่องเที่ยว “จังหวัดน่าน” เมืองในตำนานอายุนับพันปี
ดูร่องรอยความเก่าแก่ได้จากโครงสร้างของสถานที่ต่าง ๆ
แห่งแรก “วังศิลาแลง” อำเภอปัว
ได้ชื่อว่าเป็นอันซีน “แกรนด์แคนยอนเมืองปัว” ของเมืองไทยอีกแห่ง
เป็นช่องผาหินรูปทรงคล้ายกระบอก ซึ่งเกิดจากรอยเลื่อนของแผ่นดินขนาดใหญ่ที่สุด
เห็นโตรกหินเป็นริ้ว ๆ อันเกิดจากแรงหมุนและการกัดเซาะของน้ำนับพันปี
รวมทั้งมีธารน้ำไหลผ่านซอกหินผา
แสงยามเช้าที่สาดส่องผ่านช่องลึกลับสะท้อนผ่านสายน้ำสวยงามแปลกตา
ช่วงฤดูร้อนนักท่องเที่ยวสามารถไปถ่ายรูปหรือลงเล่นน้ำใส ๆ ได้ทุกวัน
แห่งที่สอง “เสาดินนาน้อย (ฮ่อมจ๊อม)” อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ตำบลเชียงของ อำเภอนาน้อย
อยู่ห่างจากตัวเมืองราว 60 กม.
เมื่อฟังเรื่องราวแล้วจะต้องทึ่ง เพราะสันนิษฐานว่าเสาบริเวณมีอายุ 3,000 - 10,000 ปี
เคยเป็นก้นทะเลก่อนจะกลายมาเป็นเสาหินรูปทรงต่าง ๆ
ตามจินตนาการลักษณะคล้ายซากฟอสซิลเสาหินหรือบางคนก็บอกว่าคล้ายแพะเมืองผี
จังหวัดแพร่
นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ที่ผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย
“นอนดูดาว” ยามค่ำคืน จะมาเฝ้ากางเต็นต์ นอนรอชมดาว ยิ่งคืนไหนฟ้าโปร่งจะเห็นดาวระยับเต็มท้องฟ้า
สงบ เงียบ สวยงาม
แห่งที่สาม “วัดนาวงศ์”
ตำบลเจดีย์ชัย อำเภอปัว มีวิหารไม้สักทอง
ทรงล้านนาที่โดดเด่น ตั้งอยู่ใจกลางชุมชนศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน ที่จะมาทำบุญ ไหว้พระ
สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งวันพระ วันสำคัญทางศาสนา สะท้อนถึงความผูกพันของวิถีวัด
ชุมชน โรงเรียน อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
เป็นวัดที่ได้รับรางวัลชุมชนต้นแบบวัฒนธรรมประจำปี 2563
แห่งที่สี่ “ชุมชนวัดหัวนา” อำเภอภูเพียง มีสะพานไม้ไผ่ที่ชุมชนร่วมแรงร่วมใจสร้าง
ทอดผ่านทุ่งนาเขียวขจี ทุกเช้าจะได้เห็นภาพวิถีชีวิตชาวพุทธ “พระเดินบิณฑบาตร”
โดยใช้สะพานไม้ไผ่ทอดยาวเดินไปยังหมู่บ้านให้คนได้ใส่อาหารคาวหวานทำบุญตักบาตรทุกวัน
เป็นชีวิตเรียบง่าย สบาย ๆ อบอุ่น เป็นสุข
เที่ยวดินแดนหมื่นปี “เมืองน่าน” อันซีนสวรรค์บนดินสุดแสนประทับใจ
กรมการแพทย์แนะให้ระวัง“โซเดียม”ภัยเงียบมากับการกินของอร่อย
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์
อธิบดีกรมการแพทย์ แนะนำการกินโซเดียมเป็นส่วนประกอบของเกลือต้องระวังถึงภัยเงียบ เพราะเกลือ 1
กรัม จะมีโซเดียมประมาณ 400 มิลลิกรัม
โดยร่างกายมีความต้องการโซเดียมประมาณ 2,400
มิลลิกรัม/วัน แต่ถ้าได้รับมากร่างกายจะขับออกทางไตจะทำให้ไตทำงานหนัก ดังนั้น
การที่ร่างกายได้รับโซเดียมในปริมาณที่พอเพียงไม่มากไม่น้อยจนเกินไปจะเกิดผลดีต่อการทำงานของไต
ส่วนเกลือโซเดียมหรือเกลือแกงเป็นตัวหลักของสารที่ให้ความเค็มในเครื่องปรุงรสที่นิยมใช้
คือ น้ำปลา ซอสถั่วเหลือง ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ เต้าเจี้ยว ฯลฯ
และยังใช้ในการถนอมอาหารประเภทหมักดอง เช่น ผักดอง ผลไม้ดอง ไข่เค็ม ปลาร้า
ปลาเค็ม เนื้อเค็ม เป็นต้น
แต่ก็ต้องระวังเกลือโซเดียมที่แฝงมากับอาหารอื่นๆ
เช่น ขนมอบกรอบ ผงชูรส หากรับประทานอาหารที่เค็มจัดที่มีเกลือโซเดียม หรือเกลือแกงมากกว่า
6 กรัม/วัน หรือมากกว่า 1
ช้อนชาขึ้นไป มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดความดันโลหิตสูง โดยเฉพาะคนที่ไม่ชอบบริโภค
ผัก ผลไม้
นายแพทย์เอนก กนกศิลป์
ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า
ในแต่ละวันไม่ควรบริโภคโซเดียมเกินความต้องการของร่างกาย
ซึ่งวิธีที่จะช่วยลดปริมาณการบริโภคโซเดียมมีหลายวิธี เช่น
หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารรสจัด และอาหารหมักดอง
ชิมอาหารทุกครั้งก่อนเติมเครื่องปรุง เลือกบริโภคอาหารสด
หรืออาหารที่ผ่านการแปรรูปน้อยที่สุด หลีกเลี่ยงอาหารสำเร็จรูป
และขนมขบเคี้ยวที่มีเครื่องปรุงรสปริมาณมาก
ลดความถี่ของการบริโภคอาหารที่ต้องมีเครื่องปรุงน้ำจิ้ม
และลดปริมาณน้ำจิ้มที่บริโภค ทดลองปรุงอาหารโดยใช้ปริมาณเกลือ น้ำปลา
ตลอดจนเครื่องปรุงรสอื่นๆ เพียงครึ่งหนึ่งที่กำหนดไว้ในสูตรปรุงอาหาร
ถ้ารสชาติไม่อร่อยจริงๆ จึงค่อยเพิ่มปริมาณของเครื่องปรุงรส
ควรปลูกฝังนิสัยให้บุตรหลานรับประทานอาหารรสจืด โดยไม่เติมเกลือ ซีอิ๊วขาว น้ำปลา
ตลอดจนซอสปรุงรสในอาหารเด็กและทารก และควรบริโภคอาหารที่มีปริมาณโปแตสเซียมสูง
เช่น ผักใบเขียวและผลไม้ จะสามารถช่วยลดความดันโลหิตได้
ข่าวแรก
4โลว์คอสต์แอร์ไลน์สอัดโปรโมชั่นแข่งชิงลูกค้าเราเที่ยวด้วยกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
ขณะนี้มี 4 สายการบินโลว์คอสต์แอร์ไลน์ส
จัดทำโปรโมชั่นบินในประเทศต้อนรับแคมเปญ “เราเที่ยวด้วยกัน” คือ
1.ไทยแอร์เอเชีย ทำโปรโมชั่น “เมืองไทย...สวยทุกที่ เท่ทุกสไตล์” ขายตั๋วเครื่องบิน ราคาเริ่มต้น 890 บาท/เที่ยว จองได้จนถึงวันสุดท้าย 12 กรกฎาคม 2563 แล้วนำเก็บไว้ใช้เดินทางข้ามปีได้ถึงฤดูท่องเที่ยวปีหน้า ในระหว่าง 1 สิงหาคม 2563 - 31 มีนาคม 2564
2.บางกอกแอร์เวย์ส ทำโปรโมชั่น ตั๋วโดยสารเครื่องบิน ราคาเริ่มต้น 2,300 บาท/เที่ยว ฟรีการโหลดน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระได้ถึง 40 กิโลกรัม เปิดให้ซื้อได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2563 แล้วนำไปใช้เดินทางได้ตั้งแต่วันนี้ -27 มีนาคม 2564
3.ไลออนแอร์
ทำโปรโมชั่น “เที่ยวทุกที่ เท่ทุกสไตล์”
ขายตั๋วโดยสารเครื่องบิน ราคาเริ่มต้น 1,200 บาท/เที่ยว รวมน้ำหนักสัมภาระกระเป๋าฟรี 20 กิโลกรัม/เที่ยว จำนวนสูงสุดไม่เกิน 3 ชิ้น ซื้อตั๋วได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 กันยายน 2563
4.ไทยเวียดเจ็ตแอร์ ทำโปรโมชั่น “ค่าสัมภาระกระเป๋าเดินทาง” เส้นทางบิน ไป-กลับ กรุงเทพฯ(สุวรรณภูมิ) สู่ ภูเก็ต , กระบี่ ลดการโหลดกระเป๋าลง 50 % และจ่ายค่าโหลด 15 กิโลกรัมแรก เพียง 180 บาทเท่านั้น/ครั้ง ได้ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 31 กรกฎาคม 2563
ข่าวที่สอง
สวนสามพรานเปิดที่พักบ้านไทยก.ค.นี้-ห้องพักริมน้ำเปิด1ส.ค.63
สวนสามพราน
รีสอร์ต จังหวัดนครปฐม เปิดแล้ว บริการห้องพัก ในโซน “บ้านเรือนไทยริมทะเลสาบ”
เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป
มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ แต่ละหลังมีรั้วกั้นแบบส่วนตัว
พร้อมจักรยานปั่นชมธรรมชาติภายในสวนและรอบทะเลสาบ ช่วงเสาร์-อาทิตย์ ก็สามารถมานั่งชีล
ๆ ใช้ชีวิตแบบสโลไลฟ์ในบรรยากาศไทย ๆ พร้อมพาครอบครัวมาทำกิจกรรม
เรียนรู้ที่ได้ที่ “ปฐมออร์แกนิกฟาร์ม และปฐมออร์แกนิก วิลเลจ” ได้
ส่วน
“ห้องพักในอาคารสูงริมแม่น้ำนครชัยศรี” จะเริ่มเปิดตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป จำนวน 60 ห้อง พร้อมห้องจัดประชุมสัมมนา
พื้นที่ลานกว้างสวนกลางแจ้งเขียวขจีนิยมใช้เป็นสถานที่จัดแต่งงาน ได้ด้วยเช่นกัน
โดยทางสวนสามพราน พร้อมบริการอาหาร เครื่องดื่ม
และมาตรฐานการดูแลรักษาความปลอดภัยด้านสุขอนามัยตามขั้นตอนของ SHA : Safty
and Health Administration
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร
รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (DD) บริษัท การบินไทย จำกัด
(มหาชน) ประกาศแต่งตั้ง “คณะทำงาน Survival Team” มีผลตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป ระบุแต่งตั้งขึ้นมาเพื่อจัดทำแผนธุรกิจตามที่บริษัทเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ
โดยศาลล้มละลายกลาง และจะต้องจัดทำแผนธุรกิจ (Business Plan) ระยะเร่งด่วนและระยะสั้น แบ่งเป็น
คณะทำงานที่ปรึกษา ประกอบด้วย รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ 4 ตำแหน่ง
ได้แก่ 1.สายการพาณิชย์ 2.สายกลยุทธ์องค์กรและพัฒนาอย่างยั่งยืน
3.สายปฏิบัติการ 4.ฝ่ายช่าง
คณะทำงาน Survival
Team ซึ่งเป็นตัวแทนจากฝ่ายต่าง ๆ
รวม 20 คน
มีภารกิจในการเข้ามาร่วมจัดทำแผนธุรกิจระยะเร่งด่วน และระยะสั้น ระหว่าง 9 กรกฎาคม -31 ตุลาคม 2563
ได้แก่ 1.นายชาย เอี่ยมศิริ หัวหน้าคณะทำงาน 2.นายสุวรรธนะ สีบุญเรื่อง รองหัวหน้าคณะทำงาน คนที่ 1 3.กัปตันชวาล รัตนวราหะ รองหัวหน้าคณะทำงาน คนที่ 2
ส่วนคณะทำงานร่วมอีก
17 คน ได้แก่ นางเฉิดโฉม เทอดสถีรศักดิ์ กัปตันเจตน์ เมืองครุฑ นายสมัชชา ศรีทองสุข นายทวิโรจน์ ทรงกำพล นายเจริญ ใช้คล่องกิจ นายตรัส พรหโมบล นายพรพจน์ วงศ์สวัสดิ์ นายณัฐกร
ชุณหชา นายอนุภาส ศิริเวช นายกนต์ธีร์ ภัทราปริญสวัสดิ์ นางศิราภรณ์ รัตนเศรษฐ
นางจันทริกา โชติกเสถียร นางวันทนีย์ แก้วมีแสง
โดยมี นางเมรยา
อุดหนุน นางกนิษฐา ศรีวรานันท์ เลขานุการ นายรัฐ รักสำหรวจ ผู้ช่วยเลขานุการ นายนนทชัย
ชีวินเฉลิมโชติ และนางสาวพลอยไพลิน ภมรมนตรี เป็นโฆษก
ทีม Survival
Team มีภารกิจต้องปฏิบัติ 4 เรื่อง คือ 1.จัดทำแผนธุรกิจระยะเร่งด่วนและระยะสั้น
รวมทั้งส่งเสริม สนับสนุน และปฏิบัติให้เกิดผล และรายงานต่อกรรมการผู้อำนวยการใหญ่
2.สามารถเรียกบุคคลต่างๆ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง
เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา 3.แต่งตั้ง หรือ จัดหา คณะทำงานชุดย่อยได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม
เพื่อให้สามารถลงมือทำตามแผนที่กำหนด (สำคัญ และ Quick Win) 4.ปฏิบัติงานอื่นๆ ตามที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่มอบหมาย
นางสาวรุ้งเพชร ชิตานุวัตร์ ผู้อำนวยการกลุ่มโครงการ-ภูมิภาคอาเซียน อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ผู้นำธุรกิจด้านจัดงานแสดงสินค้าอันดับหนึ่งของโลก เปิดเผยว่า หลังสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ได้พัฒนาการจัดงานสู่งานแสดงสินค้าแบบไฮบริด โดยใช้วิธีผสมผสาน เชื่อมต่อ การจัดแสดงงานผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์กับงานแสดงสินค้าแบบเดิม ล่าสุดนำบีเพลสแพลตฟอร์มออนไลน์ใหม่เข้ามาเสริมทัพงานโพรแพ็ค เอเชีย 2020 ซึ่งจะเปิดตัวครั้งแรกในไทยวันที่ 15-17 กรกฎาคม 2563 นี้ เพื่อสร้างการเรียนรู้ในเทคโนโลยีใหม่และเตรียมความพร้อมผู้ร่วมจัดแสดงงานและผู้เยี่ยมชมงานก่อนกำหนดจัดงานจริงวันที่ 20-23 ตุลาคม 2563
เนื่องจากกลุ่มงานแสดงสินค้านานาชาติมีความเกี่ยวข้องกับต่างประเทศ แต่ตอนนี้ยังมีอุปสรรคจากมาตรการควบคุมการเดินทางและการกักตัว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของแต่ละประเทศ ซึ่งยังต้องมีการเฝ้าระวังและมีความเข้มงวดอยู่ ทำให้ผู้ร่วมจัดแสดงงานและผู้เข้าเยี่ยมชมงานจากต่างประเทศไม่สามารถเดินทางเข้าร่วมงานได้ แต่การทำกิจกรรมทางธุรกิจและการลงทุนจำเป็นต้องเดินหน้าและพัฒนาต่อ ประกอบกับหลายธุรกิจ อาทิ กลุ่มอาหาร อาหารพร้อมทาน และอาหารแช่แข็ง กลุ่มยาและเวชภัณฑ์ กลุ่มบรรจุภัณฑ์ ได้กลายเป็นธุรกิจดาวรุ่งจากสถานการณ์โควิด-19 การดำเนินชีวิดวิถีใหม่ (New Normal) การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) และการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ทำให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนจำนวนมากสนใจที่จะเข้าร่วมชมและเจรจาธุรกิจในงานโพรแพ็ค เอเชีย 2020 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมด้านกระบวนการผลิต การแปรรูป และการบรรจุภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย ครอบคลุมอุตสาหกรรมหลักที่สำคัญ และมีบริษัทชั้นนำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีจากทั่วโลกเข้าร่วมจัดแสดงงาน
ซึ่งจากปัญหาวิกฤติโควิด-19
และความต้องการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าของทั้งบริษัทผู้ผลิต นักธุรกิจ
ผู้ประกอบการและผู้สนใจในการเข้าร่วมงานจากทั่วโลกที่เกิดขึ้นทำให้ อินฟอร์มา
มาร์เก็ตส์ มีการกำหนดนโยบายและทิศทางรการจัดงานแสดงสินค้าสำหรับปัจจุบันและอนาคตว่า
ต้องมีการพัฒนาปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานให้ผสมผสานทั้งเทคโนโลยีออนไลน์ดิจิตอล (Online Digital Technologies)
การจัดแสดงงานแบบเสมือนจริง (Virtual Exhibition) การเชื่อมต่อฐานข้อมูล
(Big Data) และรูปแบบการจัดงานแบบเดิมซึ่งยังมีความสำคัญอยู่เพื่อพัฒนาเป็นงานแสดงสินค้าแบบไฮบริด
(Hybrid Exhibition Tread Show) เพื่อก้าวข้ามข้อจำกัดที่เกิดขึ้น
ล่าสุดได้นำ บีเพลส (Business Exhibition Place : BEPlace) งานแสดงสินค้าเสมือนจริงบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ผลงานของทีมออกแบบและพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีของ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ซึ่งบีเพลส เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่สามารถแสดงข้อมูล ภาพ วีดีโอของการทำงานของเครื่องจักร การผลิตผลิตภัณฑ์และบริการ ทั้งยังสามารถจัดกิจกรรมการประชุม สัมมนา การประชุมเชิงปฏิบัติการ การเจจาธุรกิจและจับคู่ธุรกิจแบบเรียลไทม์ สามารถเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลผู้ประกอบการและผู้ร่วมจัดแสดงงานจากทั่วโลกได้
ผู้ประกอบการ ผู้สนใจ และผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานโพรแพ็ค
เอเชีย 2020 สามารถใช้งาน บีเพลส เพื่อค้นหาข้อมูลบริษัทผู้ผลิต
ผลิตภัณฑ์และบริการ
พร้อมเจรจาธุรกิจกับคู่ค้าได้จากทุกสถานที่ตลอดช่วงระยะเวลาของการจัดงาน โดย
บีเพลส จะเริ่มเปิดให้ทดลองใช้ครั้งแรกในระหว่าง 15-17 กรกฎาคม 2563 เพื่อเป็นการสร้างการเรียนรู้และความคุ้นเคยกับเทคโนโลยีใหม่และเตรียมความพร้อมให้แก่ทั้งผู้ร่วมจัดแสดงงานและผู้เยี่ยมชมงานก่อนถึงกำหนดการจัดงานโพรแพ็ค
เอเชีย 2020 ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่าง
20-23 ตุลาคม 2563 นี้
ลงทะเบียนเข้าชมงานและใช้บีเพลสได้ที่ https://beplace.thevista.co.th/visitpage/PPA20/preregister
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น