เจาะลึกบิ๊ก“ททท.ภาคกลาง”นำทัพท่องเที่ยว17จังหวัดปั๊มยอดโตเพิ่มปลายปี5% ชูทัวร์หน้าหนาวราชบุรี-สุพรรณ-กาญจน์/บูมเคาน์ดาวน์“ไฟสวย-สวดมนต์ข้ามคืน”
เจาะลึกบิ๊ก“ททท.ภาคกลาง”นำทั
ชูทัวร์หน้าหนาวราชบุรี-สุพรรณ-
คิงเพาเวอร์จัดช้อปให้สุดวันหยุ
คิงเพาเวอร์ที่เดียวจัดให้
ททท.ดึงไมเนอร์ฟู้ดร้
ททท.ยันรายได้เที่ยวไทยวันหยุ
TCEBมอบแชมป์“Thailand’
เที่ยว “สวนสามพราน”นครปฐมอาณาจักรอิ
รีบเลย!! “อาหาร5อย่าง”แนะให้รั
ททท.กอดคอไอคอนสยามสร้างแลนด์
NaRaYaงัดสินค้าโรงงานกระหน่ำ
ดิสนีย์ผลิตยูทูบช่องมิกกี้
สนามบินสุวรรณภูมิเปิดลานจอดฟรี
ภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่
ฟัง Live สดทางลิงค์ https://m.facebook.com/story.
ช่วงที่ 1 เปิดมุมมอง “นางสาวจุฑาทิพย์ เจริญลาภ
ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ผู้บริหารใหม่เร่งเครื่องกระตุ้นรายได้เที่ยวไทยในประเทศปลายปีเพิ่มยอดอีกไม่ต่ำกว่า
5 % กระจายสู่พื้นที่
17 จังหวัด
พร้อมลุยประชาสัมพันธ์สิทธิประโยชน์ใหม่โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน”
เสนอรัฐเพิ่มสิทธิ์ให้ 1 คน
จองห้องพักได้ยาวถึง 15 คืน
ควบคู่กลยุทธ์ไฮไลต์แนะนำเที่ยวรับลมหนาวแหล่งใหม่ใกล้กรุงปลายปี 3 จังหวัด “ราชบุรี-สุพรรณบุรี-กาญจนบุรี”
สวยเทียบชั้นภาคเหนือ ส่วนเคาน์ดาวน์ ชวนปักหมุดชมความอลังการเทรนด์ประดับไฟ ILLUMINATION
ในกรุงเทพฯ ที่
“ไอคอนสยาม” และใกล้กรุงที่ “ณ สัทธา ราชบุรี” ส่วนวัดทั่วภาคกลางจัดเต็ม
“เคาน์ดาวน์สวดมนต์ข้ามคืน” เพื่อทำให้การท่องเที่ยวเป็นอาวุธหลักฟื้นเศรษฐกิจไทย
นางสาวจุฑาทิพย์ เจริญลาภ ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคกลาง
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
หลังเข้ารับตำแหน่งต้องดูแลพื้นที่รับผิดชอบเพิ่มในส่วนเมืองรอง 9 สำนักงาน 17 จังหวัด เพิ่มชัยนาทและภาคใต้ประจวบคีรีขันธ์
โดยภาพรวมจะกระตุ้นการท่องเที่ยวฤดูหนาวปลายปีนี้ ซึ่งมีหลายแห่งอากาศเย็น ๆ
ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ สามารถขับรถท่องเที่ยวได้ ตามเป้าหมายจะกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มในฤดูท่องเที่ยวปลายปีนี้เพิ่มเฉลี่ยอีกไม่ต่ำกว่า
5 % ส่วนพื้นที่แนะนำการท่องเที่ยวหน้าหนาวของภูมิภาคภาคกลางอยู่ใน
3 จังหวัดเมืองรอง
ได้แก่
“ราชบุรี” เป็นเมืองรองมีสำนักงาน ททท.น้องใหม่
นำเสนออำเภอสวนผึ้ง บางครั้งอุณหภูมิลดลงไปถึง 10 องศา อย่าง “เขากระโจม” เดินทางแบบผจญภัยรถโฟวิล
มีกลุ่มคนรักเขากระโจมคอยให้บริการ อีกทั้งยังมี “ห้วยคอกหมู”
เป็นจุดชมวิวทะเลหมอก หากต้องการไปแคมปิ้งเก๋ ๆ
มีบูติกแคมป์นอนชมวิวดูพระอาทิตย์ขึ้นกับทะเลหมอก
“สุพรรณบุรี” มีกิจกรรมชมพระอาทิตย์ขึ้น
สามารถท่องเที่ยวในลักษณะ กางเต็นท์ ชมดาว ที่บริเวณลานตะเพลิน“อุทยานแห่งชาติพุเตย”
บนยอดเขาเทวดา อำเภอด่านช้าง
เป็นจุดสูงสุดวิว ทิวทัศน์สวยงาม
“กาญจนบุรี”
แนะนำการท่องเที่ยว “หมู่บ้านอีต่อง” อำเภอทองผาภูมิ หรือจะไปชมดอกไม้ ดูภูสูง
แถวเหมืองเก่าปิล็อก กับจุดชมวิวเนินกูดดอย เนินช้างเผือก
สถานที่ดังกล่าวจะได้บรรยากาศช่วงหน้าหนาวใกล้กรุง
ส่วนการเชิญชวนท่องเที่ยวช่วงเคาน์ดาวน์
โดยไม่ต้องไปไหนไกลก็ปักหลักอยู่กรุงเทพฯ ส่วนใหญ่จะจัดตรงศูนย์รวม ไอคอน สยาม,
สยาม พารากอน จัดงาน สยาม พารากอน เดอะ กลอเรียส 2021, ศูนย์การค้าราชประสงค์ เซ็นทรัลเวิลด์
ต่อเนื่องไปทางถนนสุขุมวิท ย่านห้างสรรพสินค้า เอ็ม ควอเทียร์ ก็จะมีงาน Winter
Wonderland 2021
เชื่อมโยงกับเอ็ม โพรเรียม ด้วย จะเป็นแม่เหล็กดึงดูดคนกรุงเทพฯ ปริมณฑล
และคนต่างจังหวัด เข้ามาร่วมเคาน์ดาวน์ในกรุงเทพฯ ด้วยกันได้
สำหรับคนที่วางแผนจะเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ไปเคาน์ดาวน์ตามแหล่งท่องเที่ยวภาคกลางก็มี
กิจกรรมแรก “ชมการประดับตกแต่งไฟ แสง สี เสียง
ตระการตา ตามรูปแบบ ILLUMINATION ”
ในสถานที่ท่องเที่ยวสร้างขึ้นคือ “ณ สัทธา อุทยาไทย” จังหวัดราชบุรี ททท.ให้การสนับสนุนโดยเน้นการกระตุ้นคนเที่ยววันธรรมดา
โดยจำหน่ายบัตรเข้าชมงาน ภายในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ช่วงกลางวัน
สามารถเข้าเยี่ยม หุ่นขี้ผึ้ง จำลองสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์
ส่วนการแสดงไฟช่วงกลางคืน จะจัดสัปดาห์แรก 19-20, 24-25-26-27-28-29-30 ธันวาคม 2563 ส่วนคืน 31 ธันวาคม จะเป็นคืนเคาน์ดาวน์ ต่อเนื่อง วันที่ 1-2
มกราคม 2564
หากนักท่องเที่ยวซื้อบัตรล่วงหน้าก่อนเพื่อเตรียมไว้เข้าชมงานตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ผู้ใหญ่จ่ายเพียงคนละ 150 บาทเท่านั้น
เด็กก็ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ติดต่อซื้อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ททท.สำนักงานราชบุรี
กิจกรรมที่ 2 “เคาน์ดาวน์สวดมนต์ข้ามคืน” ททท.ภาคกลางเดินหน้าประชาสัมพันธ์ต่อเนื่อง โดยมี “วัด” ในกรุงเทพฯ ปทุมธานี นนทบุรี ชวนไปไหว้พระสวดมนต์ เพื่อทำจิตให้สงบข้ามสู่เช้าวันใหม่อย่างมีความสุข ของชาวพุทธและผู้มีศรัทธา ที่ต้องเผชิญสภาพปัญหาเศรษฐกิจกันอย่างหนักค่อนข้างมาก เมื่อมีโอกาสก็ไปสวดมนต์ร่วมกันเพื่อรับสิ่งดี ๆ เป็นพลังดำเนินชีวิตปี 2564
นางสาวจุฑาทิพย์
กล่าวว่า ททท.ภูมิภาคภาคกลาง
วางกลยุทธ์กระตุ้นตลาดท่องเที่ยวในประเทศไปยังจังหวัดใกล้ปริมณฑล
เพิ่มอัตราการเข้าพัก Occupacy Rate :OR อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า
5 % ตัวอย่าง
“หัวหิน” เคยร่วงลงไปเหลือ 30 %
ระยะหลังพอสถานการณ์เริ่มคลี่คลายส่งผลให้การพักค้างคืนช่วงวันหยุดมียอดจองห้องพักโรงแรมขยับขึ้นช่วงเสาร์-อาทิตย์
70-80 %
ตอนนี้
ททท.ภาคกลาง ได้นำตามนโยบายของรัฐบาลในโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เฟสแรก
มีนักท่องเที่ยวจำนวนหลายล้านคนลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ใช้สิทธิ์ไปบ้างแล้ว
รวมทั้งที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติขยายเวลาไปจนถึงเดือนมกราคม 2564 เร็ว ๆ นี้
ก็จะประกาศขยายสิทธิให้นักท่องเที่ยวแต่ละคนจองห้องพักจากเดิม 5 คืน เพิ่มเป็น 10 คืน และต่อไปจะเป็น 15 คืนพัก พร้อมกับรับสิทธิ์เงินใช้จ่ายค่าอาหาร
ช้อปปิ้งสินค้าท้องถิ่น ถ้าเป็นการท่องเที่ยว “วันธรรมดา”
รับเพิ่มเข้าไปยังแอพลิเคชั่นกระเป๋าตังค์อีกคนละ 900 บาท/วัน ท่องเที่ยว “วันเสาร์-อาทิตย์” คนละ 600
บาท/วัน
โครงการ
“เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 2 ทำขั้นตอนตามคำแนะนำในเว็บไซต์ได้ไม่ยาก
ความสำคัญอย่างแรก ต้องเข้าไปจองห้องพักโรงแรมให้ได้ก่อน ชำระค่าที่พัก
เมื่อเสร็จสมบูรณ์ พอใช้บริการเดินทางท่องเที่ยวเข้าพักจริง
ระบบจะเตือนให้แต่ละคนเช็คอินในแอพลิเคชั่น
เพื่อรับกิฟท์โวเชอร์เป็นเงินมูลค่าตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ วันธรรมดาได้ 900
บาท/คน/วัน วันเสาร์-อาทิตย์ 600
บาท/คน/วัน และเร็ว ๆ นี้ 1 สิทธิ์ จะสามารถใช้สิทธิ์จองห้องพักได้ถึง 15
คืน ต่อไป เพื่อประโยชน์อย่างเต็มที่
ด้านการสร้างกระแสให้คนออกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศได้เป็นอย่างดี
นางสาวจุฑาทิพย์กล่าวว่า การท่องเที่ยวภาคกลางส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวนิยมขับรถเที่ยว
จึงขอให้ทุกคนคำนึงถึงความปลอดภัย มีน้ำใจให้แก่กันบนท้องถิ่น
แต่ถ้าจะให้แนะนำให้ท่องเที่ยววันธรรมดา
จะได้ท่องเที่ยวอย่างสะดวกสบายไม่แออัดหรือเบียดเสียดยัดเยียด
โดยเฉพาะการคมนาคมขนส่งก็คล่องตัวด้วย จึงขอรณรงค์ให้ออกไปเที่ยวเมืองไทย
ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศไปด้วยกัน
เป็นเรื่องที่ดีสำหรับคนไทยที่ออกมาท่องเที่ยวกันมาก ๆ
ใช้จ่ายเงินกระจายอย่างทั่วถึงท้องถิ่นทั่วไทย
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์จัดช้อปให้สุดวันหยุดยาว
แบรนด์เนมลดสูงสุด 80%วันนี้-22 พ.ย.63
“กลุ่มคิง
เพาเวอร์” ชวนสมาชิกและลูกค้าคนไทยสนุกกับแคมเปญ”ช้อปกันให้สุด
วันหยุดยาว” ระหว่าง 19-22 พฤศจิกายน 2563 มีโปรโมชั่นจัดหนักที่คิง เพาเวอร์ พัทยา
และภูเก็ต ชวนกันมาช้อปขั้นสุดกับพาเหรดสินค้าแบรนด์เนมหลากหลายแบรนด์ดังมาลดสูงสุดถึง
80%
เพียงเข้าไปลงทะเบียนก่อนช้อปทางเว็บไซต์ www.kingpower.com สาขาพัทยา และ สาขาภูเก็ตรับฟรีทันที! คูปองส่วนลด จำนวน 3 ใบ 1.คูปองส่วนลด 2,000 บาท เมื่อช้อปครบ 6,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ 2.คูปองส่วนลด 11,000 บาท เมื่อช้อปครบ 30,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ 3.คูปองส่วนลด 1,500 บาท เมื่อช้อปครบ 3,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ สำหรับช้อปที่แผนกสินค้าไทย คูปองส่วนลด สามารถใช้ได้ภายในวันที่แลกรับเท่านั้น
ด้วยวิธีง่ายมาก 1.คนละ 1 สิทธิ์ / วัน 2.เลือกช้อปเฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ โดยตรวจสอบเพิ่มเติม ณ จุดขาย 3.ใบเสร็จรับเงินที่ร่วมรายการส่งเสริมการขายดังกล่าว ไม่สามารถนำมาใช้กับรายการส่งเสริมการขายอื่นๆ ได้ 4.คูปองส่วนลด ไม่สามารถเปลี่ยนมือให้ลูกค้าท่านอื่นนำมาใช้แทนได้ คูปองส่วนลด ไม่สามารถใช้ร่วมกับส่วนลดสมาชิกคิง เพาเวอร์ และส่วนลดสินค้า Home Delivery 5.คูปองส่วนลด สามารถใช้ซื้อสินค้าดิวตี้ ฟรี สินค้าป้ายฟ้า และสินค้า Home Delivery 6.บัตรเครดิตร่วม คิง เพาเวอร์ กับ ธนาคารไทยพาณิชย์ และกสิกรไทย สามารถใช้ร่วมรายการได้ ดูรายละเอียดเพิ่มที่ https://bit.ly/32TX3Ir
ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์ที่เดียวจัดให้กระเป๋าKIPLINGTHAI BOXINGรุ่นลิมิเต็ดเท่ลงตัว8สไตล์
กลุ่มคิง
เพาเวอร์ ออกคอลเลคชั่นพิเศษ รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น “King
Power Exclusive Thai Boxing” กระเป๋าไนลอนที่ยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ
มาพร้อมพวงกุญแจเจ้าลิงจอมซนขนฟูอันเป็นเอกลักษณ์ ครั้งนี้มาในมาดนักมวย ชื่อ
“ขนมต้ม”
แรงบันดาลใจจากเรื่องราวของผู้มีชื่อเสียงในเชิงมวยอันเป็นที่เลื่องลือสมัยกรุงศรีอยุธยา
มี 8 สไตล์ให้เลือกช้อปอย่างเต็มที่ ได้แก่
1.KIPLING CLAS SEOUL -กระเป๋าสะพายหลังขนาดใหญ่
ด้วยคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมจึงเป็นหนึ่งในกระเป๋าที่ทุกคนต้องมี
มาพร้อมช่องกันกระแทกสำหรับใส่แล็ปท็อป และช่องจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบ
สายสะพายไหล่บุนวมให้ความสบาย เป็นคู่หูที่ทนทานและมีสไตล์
2.KIPLING CITY PACK S - กระเป๋าสะพายหลังขนาดเล็ก ผสมผสานความสนุกและการใช้งานจริงไว้ในที่เดียว ช่องกระเป๋าด้านบนฝาปิดแบบกระดุมแม่เหล็ก มาพร้อมช่องแบ่งจัดเก็บหยิบใช้งานสะดวก
3.KIPLING GABBIE -กระเป๋าสะพายแบบครอสบอดี้ ออกแบบให้มีช่องซิปแยกจัดเก็บสัมภาระได้อย่างเป็นระเบียบ เดินทางคล่องตัว เข้ากับหลากหลายโอกาส
4.KIPLING SYRO - กระเป๋าสะพายไหล่ขนาดกะทัดรัด
แต่มั่นใจได้ว่ามีพื้นที่กว้างขวางเพียงพอสำหรับจัดเก็บสัมภาระระหว่างวัน
ช่องกระเป๋าด้านหน้าฝาเปิด-ปิดแบบ Velcro
5.KIPLING ART MINI -กระเป๋าถือใบเล็กที่ให้คุณปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ถึง
2 สไตล์
มีทั้งแบบหูหิ้วสั้นในตัวและสายคล้องแบบยาวถอดเปลี่ยนสายได้
ก็เป็นตัวเลือกให้สไตล์ความรู้สึกที่แตกต่างกัน
6.KIPLING AMIEL -กระเป๋าถือขนาดกลางที่ช่วยเติมเต็มชีวิตประจำวันของคุณให้ง่ายกว่าที่เคย ด้วยภายในกว้างจุสัมภาระได้เยอะ สายสะพายไหล่ถอดเก็บได้ สะดวกสบายขนาดเดินทาง
7.KIPLING CANDY -กระเป๋าถือ
Candy 3-in-1 ออกแบบให้คุณใช้งานได้หลากหลาย
จะปรับเปลี่ยนเป็นกระเป๋าสะพายหลัง หรือกระเป๋าสะพายไหล่ก็ทำได้อย่างง่ายดาย
ด้านในและด้านนอกมีช่องแบ่งจัดเก็บได้อย่างสะดวก ดีไซน์สุดน่ารักที่ใครเห็นก็อยากเป็นเจ้าของ
8.KIPLING CREATIVITY L -กระเป๋าถืออเนกประสงค์
มีช่องกระเป๋าแยกจัดเก็บภายใน 3 ช่อง
สามารถใช้เป็นกระเป๋าเครื่องสำอาง กระเป๋าใส่ดินสอ หรือจะเลือกเก็บหนังสือเดินทาง
เงินและกุญแจ ก็สะดวกครบครัน
ข่าวที่ 3 ททท.ดึงไมเนอร์ฟู้ดร้านอาหาร7แบรนด์ดัง890สาขาบูมSHAหนุนเที่ยวไทย
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า นำทีมผู้บริหาร ททท. พร้อมกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และผู้ประกอบการเอกชน ร่วมมอบตราสัญลักษณ์มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Amazing Thailand Safety & Health Administration : SHA ให้แก่ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจมีเครือข่ายแบรนด์ร้านอาหารยอดนิยมทั่วประเทศซึ่งผ่านการตรวจประเมินพร้อมรับตรามาตรฐาน SHA แล้วกว่า 890 สาขา จากทั้งหมด 958 สาขา ช่วยตอกย้ำสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยว รวมถึงยกระดับสินค้าและบริการท่องเที่ยวของประเทศอย่างเข้มแข็ง เพื่อต้อนรับตลาดไทยเที่ยวไทยและต่างชาติเที่ยวไทยเมื่อรัฐบาลมีนโยบายเปิดประเทศเต็มรูปแบบ
โดย ททท.ได้ใช้เกณฑ์มาตรฐาน SHA ประเภทภัตตาคาร/ร้านอาหาร ตรวจประเมินมาตรฐานการให้บริการของแบรนด์ร้านอาหารในเครือบริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ส่วนใหญ่เป็นร้านแบรนด์มีชื่อเสียงที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคทั้งชาวไทยและต่างชาติ 7 แบรนด์หลัก ๆ คือ 1.เดอะพิซซ่าคอมปะนี 2.ซิซซ์เล่อร์ 3.เบอร์เกอร์คิง 4.สเวนเซ่นส์ 5.บอนชอน 6.เดอะคอฟฟี่คลับ และ 7.เบซิล กระจายบริการอยู่ทั่วประเทศล่าสุดสนใจลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 958 สาขา ขณะนี้ผ่านมาตรฐาน SHA แล้วกว่า 890 สาขา ส่วนที่เหลือกำลังทยอยเข้าสู่กระบวนการตามมาตรฐานที่จะรับมอบตราสัญลักษณ์ SHA เพื่อร่วมมือกันตอกย้ำให้เห็นถึงความพร้อมของธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร ทั่วประเทศ มุ่งมั่นยกระดับบริการตามรูปแบบวิถีปกติใหม่ (New Normal) เน้นความสะอาด ถูกหลักอนามัย ปลอดภัย และราคาเป็นธรรม เป็นแม่เหล็กดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคทั้งประชาชนทั่วไป และนักท่องเที่ยว ซึ่งหันมาให้ความสำคัญเลือกใช้บริการเครือข่ายธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร ที่ถูกสุขอนามัย
ดร.ยุทธศักดิ์
กล่าวว่าปัจจุบันธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ
ตื่นตัวนำลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมรับมาตรฐานตราสัญลักษณ์ SHA กระทั่งผ่านการพิจารณาเรียบร้อยแล้วกว่า
6,800 ราย รวมถึง บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป
จำกัด (มหาชน) ที่ยกระดับเครือข่ายธุรกิจ ภัตตาคาร ร้านอาหาร
เข้าร่วมรับตราสัญลักษณ์ดังกล่าว จากนี้เป็นต้นไปทุกฝ่ายจะได้ช่วยกันประชาสัมพันธ์
สร้างการรับรู้
สร้างความมั่นใจแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวเลือกใช้บริการอย่างสบายใจ
เรื่อยไปจนถึงช่วยกันบอกปากต่อปากเพื่อให้มาอุดหนุนร้านที่ได้รับตราสัญลักษณ์ SHA
ทำให้ไทยเป็นประเทศที่ได้รับความเชื่อถือด้านสุขอนามัยระดับสากลอันดับต้น
ๆ ของโลก
ข่าวที่ 4 ททท.ยันรายได้เที่ยวไทย19-22พ.ย.เมืองหลัก/รองสะพัด1.26หมื่นล้าน
ดร.ยุทธศักดิ์
สุภสร
ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ได้ประเมินสถานการณ์ท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาวเนื่อง
ระหว่างวันที่ 19-22 พฤศจิกายน 2563 จะเกิดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศสร้างรายได้หมุนเวียนกว่า 1.26 หมื่นล้านบาท จากนักท่องเที่ยว3.02 ล้านคน-ครั้ง
เข้าพักเฉลี่ย 37%
โดยมีแม่เหล็กดึงดูดคนออกมาท่องเที่ยวปีนี้ 3 ปัจจัยหลัก คือ 1.เข้าสู่ฤดูหนาวเร็ว ทั้งภาคเหนือ ภาคใต้ฝั่งอันดามัน ภาคอีสานตอนบน 2.ตรงกับนักเรียนปิดเทอม กลุ่มครอบครัวมีโอกาสเดินทางด้วยกัน 3.โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” และ “กำลังใจ” รัฐบาลประกาศขยายเวลาใช้สิทธิ์ไปอีกจนถึง 31 มกราคม 2564
ส่วนแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงวันหยุดยาว
“เมืองหลัก” ยังคงเป็น กรุงเทพฯ ชลบุรี กรุงเทพฯ กาญจนบุรีนครราชสีมา ระยอง ประจวบคีรีขันธ์
ขอนแก่น เชียงใหม่ และพระนครศรีอยุธยา “เมืองรอง” ต้องยกให้ นครศรีธรรมราช
คนส่วนใหญ่กำลังนิยมท่องเที่ยวเชิงความศรัทธา ไอ้ไข่วัดเจดีย์ ตอนนี้ทางไทยสมายล์ เปิดบิน เชียงใหม่-นครศรีธรรมราช
อุดรธานี-นครศรีธรรมราช
สำหรับสถิติรายได้การท่องเที่ยวในประเทศ ททท.ระบุมูลค่าใกล้เคียงช่วงวันหยุดชดเชยเนื่องสงกรานต์เมื่อ 4-7 กันยายน 2563 สร้างรายได้หมุนเวียน 1.24 หมื่นล้านบาท จากนักท่องเที่ยว 3.10 ล้านคน-ครั้ง มีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 41%
ข่าวที่ 5 TCEBมอบแชมป์“Thailand’sMICEStartup”ลุยนำไมซ์ไทยผงาดในอาเซียน
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา
ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ
เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 ทีเส็บได้ประกาศผลการตัดสินโครงการ “Thailand’s MICE Startup” ทีมชนะเลิศคือ NewMediaX ซึ่งกับผู้จัดงาน Thailand Toy Expo สามารถรวมพลังกันครองแชมป์คว้าเงินรางวัล
400,000 บาท
ด้วยการสร้างสรรผลงานที่คิดค้นนวัตกรรม “Hybridsolution” เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้เข้าร่วมงานทั้งออฟไลน์และออนไลน์
สามารถนำไปใช้ปฏิบัติจริงได้มากขึ้น (Engagement) ส่วนทีมรองชนะเลิศ อันดับ 1 Loops จับคู่กับผู้ประกอบการ MICE Communication คว้าเงินรางวัล 200,000 บาท ด้วยผลงาน Vanpooling for Mega Sport Events เพื่อแก้ปัญหาที่จอดรถและระบบจราจรให้กับผู้เข้าร่วมงานในการจัดงานเมกะอีเวนต์ด้านกีฬา
และรองชนะเลิศอันดับ 2 Alto Tech จับคู่กับผู้ประกอบการ SYN Hotel คว้าเงินรางวัล 100,000 บาท
ด้วยผลงานด้านการประหยัดพลังงานโดยการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วย
ในปี 2563 ทีเส็บได้จัดประกวดผลงานโครงการ “Thailand’s MICE Startup” โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมมากถึง 23 ทีม ทางคณะกรรมการได้สร้างเกณฑ์การตัดสินให้เกิดมาตรฐานของงานสูงขึ้น
ประกอบด้วย 7 หัวข้อ ได้แก่ 1. สามารถอธิบายกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
และปัญหาที่ต้องการได้รับการแก้ไขได้อย่างชัดเจน 2. พิสูจน์ได้ว่าแก้ปัญหาได้ตอบโจทย์
ผลลัพธ์ชัดเจนตรงประเด็นและนำมาปรับปรุงได้
3. ได้ทดลองนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหากับลูกค้าเป้าหมายและได้รับการตอบสนองที่ดี
4. นำเสนอโซลูชั่น แพ็กเกจ (Solution Package) ที่เข้าใจง่าย ชัดเจน 5. มีแผนการนำเงินรางวัลไปใช้อย่างชัดเจน 6. มีขอบเขตแผนงานชัดเจนและเหมาะสมในการขยายไปลูกค้าอื่นๆ
7. ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไมซ์
ตอบโจทย์อุตสาหกรรมไมซ์ในวงกว้าง สามารถอธิบายและแจกแจงเป็นมูลค่าของผลกระทบได้
ส่วนการแข่งขันใช้เวลาห้ำหั่นกันนานถึง 5 เดือน
เพื่อคัดสุดยอดฝีมือเข้ารอบสุดท้าย 5 ทีมที่เข้ารอบ ได้แก่ 1. Loops กับผู้ประกอบการ MICE Communication 2. SSP Platform กับผู้ประกอบการ Green World Media 3. Potioneer กับผู้ประกอบการ BITEC 4. Alto Tech กับผู้ประกอบการ SYN Hotel และ 5. NewMediaX กับ ผู้จัดงาน Thailand Toy Expo
ขณะเดียวกันทีเส็บก็มีองค์กรพันธมิตรเข้าร่วมสนับสนุนในโครงการ
‘Thailand’s MICE
Startup’ ต่อเนื่องตั้งแต่ปีแรกถึงปีที่
3 ประกอบด้วย
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช)
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) และ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
(สนช.)
ช่วงที่ 2 วางแผนออกเที่ยวปลายปีนี้ ต้องที่ “สวนสามพราน” นครปฐม อาณาจักรท่องเที่ยวอินทรีย์เมืองธรรมชาติ เตรียมจัดกิจกรรมความสุข “ปฐม ออร์แกนิก ลิฟวิ่ง” ชวนทุกครอบครัวไปเติมพลังสีเขียวกับความสนุกหลากหลาย 27-28 พ.ย.นี้ จากนั้นก็จะชวนไปร่วมงาน “สังคมสุขใจ” ประจำปี 2563 พบกับ 5 กิจกรรมชีวิตยืนยาว ต้องไปจะได้รู้ว่า “โลกเปลี่ยน...เราปรับ” ทุกอย่างก็สมดุล แล้วห้ามพลาดฟัง “อาหาร5อย่างกินคลายเครียดยามบ่าย” และข่าวรู้แล้วต้องรีบขยาย ข่าวแรก “ททท.ยึดแลนด์มาร์กไอคอนสยาม” จัดเคาน์ดาวน์บรรลือโลก จัดครั้งแรกพลุข้าวเหนียว 2,000 ดอก จุดสว่างไสวทั่วคุ้งน้ำเจ้าพระยา “NaRaYa” เจ้าของกระเป๋าผ้าแบรนด์ดังจัดมหกรรมเซลสินค้าโรงงานแบบไม่เกรงใจใครลดแรง 80 % วันที่ 27-29 พ.ย.นี้เท่านั้น “ดิสนีย์ผลิตยูทูปการ์ตูนตลาดน้ำ” เขย่าความสุขนักท่องเที่ยวเยาวชนทั่วโลก และ “สนามบินสุวรรณภูมิให้จอดรถฟรี” ลานจอดระยะยาวโซน C ได้ถึง 22 พ.ย.นี้
เที่ยว “สวนสามพราน”อาณาจักรอินทรีย์วิถีสุข27-28พ.ย.&11-13ธ.ค.นี้
การพักผ่อนแบบสบาย
ๆ ใกล้กรุง จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว “สวนสามพราน”
จังหวัดนครปฐมการท่องเที่ยวซึ่งแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติกว้างใหญ่
ชวนกันไปเติมความสุขกับเรื่องราวสนุก ๆ แคมเปญ “ปฐม ออร์แกนิก ลิฟวิ่ง”
ช่วงเสาร์-อาทิตย์ 27-28 พฤศจิกายน 2563 มาเติมพลังกิจกรรมสีเขียวเต็มอิ่มทั้งสองวันได้ตั้งแต่
10 โมงเช้า วันเสาร์อยู่ได้จนถึง 8
ทุ่ม ส่วนวันอาทิตย์ปิดงานตอน 5 โมงเย็น
ชวนคนที่ชอบ
และครอบครัว พาลูก ๆ และปู่ย่าตายาย มาพักผ่อนไปพร้อม ๆ กับให้เด็ก ๆ
ได้สนุกกับกิจกรรมทำ D.I.Y.งานฝีมือ
เรื่อยไปจนถึงเดินช้อปสินค้าภูมิปัญญาไทย แฟชั่น ดนตรี ของขวัญ งานหัตถกรรม
เครื่องประดับ ส่วนไฮไลต์หลักคืออาหารและวัตถุดิบอาหารออร์แกนิกที่มีชื่อเสียงจากเครือข่ายสามพรานโมเดล
และมีความสนุกอื่น ๆ อีกหลากหลาย
สิ่งที่ต้องห้ามพลาด
ในการมาร่วมกิจกรรมพลังสีเขียวในงาน “ปฐม ออร์แกนิก ลิฟวิ่ง” นั่นก็คือ
นำถุงช้อปปิ้ง กระบอกน้ำ กล่องใส่อาหาร ติดตัวมาด้วย
เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมโลก
จากนั้นทางสวนสามพราน
ยังมีงานใหญ่ชวนไปท่องเที่ยวส่งท้ายปี “งานสังคมสุขใจ ครั้งที่ 7” ภายใต้ธีม “เราปรับ...โลกเปลี่ยน - ชีวิตวิถีใหม่
ขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์” ระหว่างวันที่ 11-13 ธันวาคม 2563
ไปปักหมุดช้อปกันตรงตลาดสุขใจได้ตั้งแต่ 9 โมงเช้า
ไปจนถึง 5 โมงเย็น
ความสนุกสนานต้องห้ามพลาดตลอด
3 วัน
บอกได้เลยว่า ตื่นตาอย่างแน่นอน กับ 5 กิจกรรม
กิจกรรมแรก “ทัวร์หมู่บ้านปฐมออร์แกนิกวิลเลจ” เดินศึกษาเรียนรู้คุณค่าแห่งวิถีชีวิตอินทรีย์ครบวงจร ทั้งการปลูก
แปรรูป การกำจัดขยะ โดยใช้หลัก เศรษฐกิจหมุนเวียน การพึ่งพาตนเอง เพิ่มรายได้
ลดรายจ่าย สุขภาพดี มีชีวิตสมดุล
กิจกรรมที่สอง “ช้อปสุขภาพดี ครบ จบในงานเดียว”
แฟนคลับตลาดสุขใจจะได้พบกับชาวเกษตรอินทรีย์จากทั่วประเทศนำผลิตภัณฑ์คุณภาพมาร่วมเปิดบูธให้ช้อปกันแบบไม่จำกัดถึง
150 บูธ
กิจกรรมที่ 3 “ไปให้สุด!!...กับ 20
เส้นทางท่องเที่ยววิถีอินทรีย์
เกษตรกรในเครือข่ายพร้อมใจกันเปิดฟาร์ม ให้นักท่องเที่ยวมา ฟิน เฟี้ยว แบบชิลล์
เลือกแพกเกจท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปีทุกปี
กิจกรรมที่ 4 “เปิดตัว...สมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย” จะเป็นครั้งแรกในเมืองไทย
ในการเชื่อมห่วงโซ่ของผู้มีส่วนร่วมสู่การเป็น ผู้บริโภคที่ตื่นตัวอยู่ตลอด
พลังของเครือข่ายจะถ่ายทอดทั้ง ความรู้เรื่องอาหาร สุขภาพ สังคม สิ่งแวดล้อม
กิจกรรมที่ 5 “พูดคุยกับองค์กรและคนต้นแบบสังคมอินทรีย์” ทุกคนพร้อมจะหอบความรู้ในเชิงปฏิบัติมาถ่ายทอดประสบการณ์ตรง
ในการปรับตัวฝ่าวิกฤตโควิด ด้วยการพึ่งพาตนเอง การสร้างภูมิคุ้มกัน
การปรับมุมคิดสู่ความร่วมมือด้วย “โมเดลธุรกิจเกื้อกูลสังคม”
“สวนสามพราน” นครปฐม พร้อมเปิดอาณาจักรวิถีอินทรีย์ต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคน
รีบเลย!! “อาหาร5อย่าง”รับประทานคลายเครียดยามบ่ายดีต่อสุขภาพมาก
ช่วงบ่ายสำหรับคนทำงานคงเป็นช่วงที่เพื่อนๆ
หลายคนมักจะเริ่มเครียดกันใช่มั้ยครับ ซึ่งบางคนยิ่งเครียดก็ยิ่งหิว
ยิ่งหิวก็ยิ่งกิน ถ้ากินมากไปก็อาจจะทำให้อ้วนได้ด้วย วันนี้น้องจริงใจมีอาหาร 5
อย่างที่สามารถช่วยลดความเครียด แถมยังดีต่อสุขภาพ ไม่ต้องกลัวอ้วนมาฝากเพื่อนๆ
กันคร้าบ
1. แซลมอน
- ปลามีกรดไขมันที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย จึงกลายเป็นเมนูยอดนิยมในการกินเพื่อลดน้ำหนัก
ซึ่งปลาแซลมอนมีความพิเศษคือช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคซึมเศร้า ลดความเครียด
และลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคความจำเสื่อมได้อีกด้วย
2. กล้วย - เป็นผลไม้ที่หาทานได้ง่าย
ราคาไม่แพง แต่มีประโยชน์ อุดมไปด้วยสารอาหาร และวิตามินต่างๆ
มากมายที่จำเป็นต่อการทำงานในระบบต่างๆ ของร่างกาย และนิยมนำมาทานเป็นอาหารรองท้อง
ไม่ว่าจะกินเปล่าๆ ปั่นทำเป็นน้ำผลไม้ หรือนำไปทานคู่กับขนมหวานก็อร่อยไม่แพ้กัน
3. อัลมอนด์
- เป็นอาหารสุขภาพที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน
โดยเฉพาะกับคนรักสุขภาพ เพราะมีทั้งไขมันชนิดดีที่สามารถช่วยลดคอเลสเตอรอล
และยังมีวิตามินที่มีประโยชน์หลายชนิด กินเพลินๆ ได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวอ้วน
ช่วยผ่อนคลายความเครียด ดีต่อสุขภาพอีกด้วย
4. ดาร์กช็อกโกแลต
- ในดาร์กช็อกโกแลตมีประโยชน์ในแง่ที่ช่วยคลายเครียด เมื่อกินแล้วจะอารมณ์ดี
รู้สึกมีความสุข และช่วยทำให้สมองปลอดโปร่งอีกด้วย
5. ดื่มชาเขียว การดื่มชาเขียวอุ่นๆ ในยามบ่าย
นอกจากจะช่วยผ่อนคลายความรู้สึกให้รู้สึกสบายมากขึ้นแล้ว
ยังช่วยบรรเทาอาการปวดหัวเนื่องจากความเครียดในการทำงานได้อีกด้วย
และที่อินทนิลมีทั้งชาเขียวร้อน และชาเขียวเย็นแสนอร่อยให้เพื่อนๆ
เอาไว้ดื่มให้รู้สึกผ่อนคลายด้วย
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ดร.ยุทธศักดิ์
สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
เปิดเผยว่า ททท.สนับสนุนการจัดงาน “Amazing Thailand Countdown 2021”
จัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในพื้นที่ท่องเที่ยวเมืองรอง 5 พื้นที่
ได้แก่ กระบี่ สุโขทัย ร้อยเอ็ด ราชบุรี เพชรบูรณ์ ส่วนพื้นที่หลักใน “กรุงเทพมหานคร” มีไฮไลต์
การจัดงานร่วมกับ ไอคอนสยาม วันที่ 31 ธันวาคมนี้ ณ ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม
แลนด์มาร์คที่จะสร้างงานเคาท์ดาวน์สุดยิ่งใหญ่ตระการตาของประเทศไทย ทำให้เป็น Global
Countdown Destination การเฉลิมฉลองค่ำคืนเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่โด่งดังไปทั่วโลก
เป็นอีกช่องทางในการโฆษณาประชาสัมเมืองไทยประเทศที่มีวัฒนธรรมประเพณีทรงคุณค่า
ธรรมชาติงดงาม และอาหารที่หลากหลาย ทำให้กรุงเทพมหานคร
ยังเป็นจุดหมายปลายทางแห่งการท่องเที่ยวอันดับ 1
จากการค้นหาข้อมูลของนักท่องเที่ยวนานาชาติ
นายสุพจน์
ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทไอคอนสยาม จำกัด
กล่าวว่า การจัดงาน “Amazing Thailand Countdown 2021”
คืนวันที่ 31 ธันวาคม นี้
จะตกแต่งสถานที่สวยงามด้วยไฟประดับประดาสว่างไสวอลังการริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
ควบคู่ไฮไลท์การแสดงพลุดอกไม้ไฟที่ทำจากข้าวเหนียวไทย
นวัตกรรมการสร้างสรรค์พลุแบบรักษ์โลกจากญี่ปุ่นซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
จำนวนกว่า 20,000 ดอก บนโค้งน้ำเจ้าพระยาระยะทาง 1,400 เมตร
คาดว่ามีผู้ร่วมรับชมในรัศมี 5 กิโลเมตรมากกว่า 3 ล้านคน
รวมทั้งจะจัดกิจกรรมประกวดภาพถ่าย “Amazing
Thailand Countdown 2021” ในหัวข้อ Magic Upon The River สะท้อนภาพความงดงามของการแสดงพลุดอกไม้ไฟในค่ำคืนส่งท้ายปี
แบ่งการประกวดเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ภาพนิ่ง และภาพวิดีโอ
ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 500,000 บาท
ส่วนการแสดงพลุรักษ์โลกที่จะส่องแสงเปล่งประกายในยามค่ำคืนครั้งนี้ ประกอบด้วยพลุ 7 องก์ ภายใต้แนวคิด‘มหัศจรรย์ความสุขเหนือสายน้ำ’ สื่อความหมายถึงความหวัง ความศรัทธา ความรุ่งเรือง และความสุข เพื่อเป็นการส่งต่อความหวังและกำลังใจจากประเทศไทยยังผู้คนทั่วโลก ให้ก้าวข้ามผ่านวิกฤตการณ์และเริ่มต้นศักราชใหม่ด้วยพลังใจที่เข้มแข็ง ซึ่งพลุทั้ง 7 องก์ ล้วนมีความหมายเป็นมงคล อาทิ
องก์ที่
1 - Big Hope : ความหวังอันยิ่งใหญ่ สว่างไสว โชติช่วง องก์ที่
2 - Believe : ความเชื่อมั่น ความศรัทธา และมุ่งมั่น องก์ที่ 3 - Brilliant Life : สุขภาพดีทั้งกายใจ
ไร้โรคา องก์ที่ 4 - Beautiful World : การจรรโลงโลก
ให้งดงามน่าอยู่ องก์ที่ 5 - Blooming Wealth presented by ธนาคารกสิกรไทย
องก์ที่
6 - Be Together presented by ทรู
คอร์ปอเรชั่น พลุโทนสีแดง เต็มท้องฟ้าเปรียบได้กับความสามัคคี และการรวมพลังใจ
พลังกาย เพื่อสร้างสรรค์โลก และเพื่ออนาคตข้างหน้าที่สว่างสดใส องก์ที่ 7 -
Best Begin : จุดเริ่มต้นแห่งความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่
ความตระการตาของพลุที่ถูกยิงขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างต่อเนื่อง จนสว่างไสวไปทั้งผืนฟ้า
ผืนดิน และผืนน้ำ เป็นสัญลักษณ์การเริ่มต้นสิ่งที่ดีงามในการก้าวเข้าสู่ปีใหม่ เป็นแสงสว่างแห่งการเริ่มต้นความสัมพันธ์อันดีกับนานาประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกอีกครั้ง
จะเป็นปีที่ประเทศไทยและทั่วโลกกลับมาพบกับความสุขและความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในทุกมิตินั่นเอง
ข่าวที่สอง NaRaYaงัดสินค้าโรงงานกระหน่ำเซล3วันเท่านั้น27-29พ.ย.ลดสูงสุด80%
บริษัท นารายณ์อินเตอร์เทรด จำกัด
เตรียมจัดยิ่งใหญ่มหกรรมสินค้าโรงงานแบรนด์ยอดนิยม “นารายา” NaRaYa Factory Sale 2020
งานเซลล์ สินค้า นารายา ลดสูงสุด 80% ระหว่างวันที่
27 - 29 พฤศจิกายน 2563 เริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 -21.00
น.ที่ 2
สาขาหลัก คือ นารายา สำนักงานใหญ่ ถนนแจ้งวัฒนะ กับร้านนารายา สาขาพัฒน์พงษ์
เท่านั้น
ห้ามพลาดเด็ดขาด !! งานเซลครั้งยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี 2563 ครั้งนี้ ทางนารายาได้ยกทัพสินค้าที่เป็นไอเท็มยอดนิยมมาตอบสนองความต้องการของเหล่าแฟนคลับที่จะต้องมีไว้
นั่นคือ must have item เป็นสินค้าที่ถามหากันมาก มีบางส่วนเป็นสินค้าหลุด
QCวัตถุดิบในการผลิต เช่น ผ้า ด้าย
และอุปกรณ์การทำกระเป๋าอื่น ๆ มาให้ช้อปราคาสบาย ๆ
ข่าวที่สาม ดิสนีย์ผลิตยูทูบช่องมิกกี้เมาส์ปลุกกระแสแหล่งท่องเที่ยวตลาดน้ำไทยดังทั่วโลก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ
นี้ทางผู้ผลิตภาพยนต์การ์ตูนระดับโลก “ วอลล์ ดิสนีย์” จัดทำ Youtube ช่อง Mickey Mouse ได้เผยแพร่การ์ตูนสั้นความยาว 3.46 นาที เรื่อง
ความฝันลอยน้ำของเรา (Our Floating Dreams) อันเป็นเรื่องราวโรแมนติกระหว่างสองตัวการ์ตูนดังของดิสนีย์นั่นคือ
มิคกี้ เมาส์ และ มินนี่ เมาส์ ที่ได้ใช้ฉากหลังเป็น "ตลาดน้ำ"
สถานที่ท่องเที่ยวอันเลื่องชื่อของประเทศไทย
เนื้อหาของการ์ตูนชุดนี้เป็นเรื่องราวระหว่าง
“มิคกี้ เมาส์” พ่อค้าสับปะรด กับ “มินนี่ เมาส์” แม่ค้าข้าวผัดทำการสู้รบแย่งที่จอดเรือหมายเลข
999 เพื่อขายสินค้าของตัวเอง พร้อมกับมีตัวประกอบของเรื่องเป็นการ์ตูนดิสนีย์ชื่อดังอย่าง
กระรอกน้อยชิปแอนด์เดล แล้วในที่สุดความขัดแย้งก็กลายเป็นเรื่องราวโรแมนติก
จบลงที่ "ข้าวผัดสับปะรด" เป็นเมนูอาหารขึ้นชื่อของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ทันทีที่การ์ตูนสั้นดังกล่าวเผยแพร่ทางยูทูปเพียง 17 ชั่วโมง ก็มีผู้เข้าชมแล้วกว่า 400,000 ครั้ง และมีผู้เข้ามาแสดงความเห็นมากกว่า 1,000 ครั้ง
ข่าวที่สี่ สุวรรณภูมิเปิดลานจอดฟรีโซนCช่วยท่องเที่ยววันหยุดยาว18-23พ.ย.63
นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์
สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด
(มหาชน) "ทอท." เปิดเผยว่า
ตามที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้มีวันหยุดเพิ่ม ส่งผลให้มีวันหยุดยาว 4
วัน ตั้งแต่ 18-22 พฤศจิกายน 2563 ทางสนามบินสุวรรณภูมิจึงประกาศยกเว้นอัตราค่าบริการจอดรถยนต์ระยะยาว โซน C
ซึ่งสามารถจอดรถยนต์ได้จำนวน 718 คัน
โดยจะยกเว้นค่าบริการจอดรถตั้งแต่เวลา
08.00 น. ของวันพุธที่ 18 พฤศจิกายน 2563 จนถึง วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2563 เวลา 17.00 น.
ช่วงดังกล่าวทางสนามบินจะจัดรถบริการฟรีเป็น
Shuttle Bus สาย A วิ่งให้บริการรับ - ส่งผู้โดยสารทุกๆ 15
นาที ตลอด 24 ชั่วโมง โดยรถ Shuttle
Bus สาย A จะวิ่งให้บริการรับ -
ส่งผู้โดยสารจากศูนย์ขนส่งสาธารณะ (Bus Terminal) ไปยังลานจอดรถยนต์ระยะยาว
โซน C เพื่อรับผู้โดยสารไปส่งยังอาคารผู้โดยสาร ชั้น 1
ประตู 3 และประตู 8 และวนขึ้นไปที่ชั้น
2 ประตู 5
ทาง ทอท. ขอให้ผู้โดยสารเดินทางเที่ยวบินในประเทศเผื่อเวลาการเดินทางมาถึงสนามบินล่วงหน้า 2 ชั่วโมง สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ AOT Contact Center โทร. 1722
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น